ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    4DQpjUtzLUwmJZZPGSlYRndFOFplkYSHXZmZQkMlpCzg.jpg
    ไซโคลน “อิดาอี” ถล่มโมซัมบิก-ซิมบับเว ดับ 87 ศพ สาบสูญอีกอื้อ โดย ไทยรัฐออนไลน์18 มี.ค. 2562 00:30 น.

    พายุไซโคลนพัดถล่มประเทศโมซัมบิกและซิมบับเว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 87 ราย รวมทั้งสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนจำนวนมาก...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานงานเมื่อ 17 มี.ค. 2562 ว่า พายุไซโคลนเขตร้อน ‘อิดาอี’ พัดถล่มในประเทศโมซัมบิกและซิมบับเว ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก ลมพัดแรง และน้ำท่วมฉับพลันทำลายสะพานและพัดพาบ้านเรือนไปตามกระแสน้ำ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในทั้ง 2 ประเทศแล้ว 87 ราย และมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคน

    ตามรายงานของ เจอร์นัล โดมิงโก สื่อท้องถิ่นของโมซัมบิก พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากไซโคลนอิดาอีมาที่สุดคือจังหวัดโซฟาลา โดยพบผู้เสียชีวิตแล้ว 48 ราย ขณะที่นาย นิค มังกวานา โฆษกรัฐบาลซิมบับเวเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศของพวกเขาอยู่ที่ 39 รายแล้ว

    นายมังกวานาระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองเอ็นกันกู ในหุบเขาแห่งหนึ่งของเขตชิมานิมานี มีบ้านเรือนซัดไปกับกระแสน้ำท่วมมากกว่า 100 หลัง เหยื่อ 2 รายเป็นนักเรียนขอโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง เสียชีวิตหลังจากดินถล่มทับหอพักของพวกเขา และทำให้กำแพงห้องทางอาหารถล่ม จนมีนักเรียนติดอยู่ภายในราว 50 คน ก่อนที่ทหารจะเข้ามาอพยพนักเรียนราว 200 คนไปยังที่ปลอดภัย

    ด้านสหประชาชาติระบุว่า มีผู้สูญหายในซิมบับเวมากกว่า 100 คน และมีผู้ได้รับผลกระทบจากไซโคลนราว 9,600 คน

    ทั้งนี้ โมซัมบิกได้รับผลกระทบจากไซโคลนอิดาอีตั้งแต่ก่อนที่มันจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณภาคกลางของประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว โดยฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงต้นสัปดาห์ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 66 ราย และทำให้ประชาชนราว 17,000 คนต้องอพยพออกจากบ้าน ขณะที่ประเทศมาลาวีก็ได้รับผลกระทบจากไซโคลนลูกนี้อเช่นกัน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต 56 รายแล้ว

    https://www.thairath.co.th/content/...cq-pYkCGYndayzFdinTHalw_FhTGazoNNGl72lI2rvxak
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics: ฮือฮา!! "นักเรียนทั่วโลก" ตั้งแต่แปซิฟิกใต้ยันเขตอาร์กติก รวม "ไทย" ลงถนนประท้วงต้านภาวะโลกร้อน ประกาศทำเพื่ออนาคตคนรุ่นใหม่ เผยแพร่: 17 มี.ค. 2562 13:47 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002742019.jpg

    เอพี - นักเรียนทั่วโลกตั้งแต่มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ไปจนถึงวงแหวนอาร์กติกขั้วโลกเหนือ ต่างออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในวันศุกร์(15 มี.ค) พบที่ยุโรปมีคนเข้าร่วมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไม่ต่ำกว่า 150,000 คน ส่วนในสหรัฐฯ หลายพันคนออกมาชุมนุมเรียกร้องที่นิวยอร์ก ที่อินเดีย เด็กๆแดนภารตะขอร่วมด้วย กดดันให้เจ้าหน้าที่้จัดการกับระดับมลพิษพุ่งสูง ด้านเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติตื้นตัน สั่งเรียกประชุมฉุกเฉินภาวะอากาศของสหประชาชาติในกันยาฯนี้

    เอพีรายงานเมื่อวานนี้(16 มี.ค)ว่า การประท้วงภาวะโลกร้อนของนักเรียนทั่วโลกในวันศุกร์(15) ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากนักเคลื่้อนไหววัย 16 ปีชาวสวีเดน เกรธา ทันเบิร์ก( Greta Thunberg) ซึ่งได้ก่อหวอดประท้วงบริเวณด้านนอกรัฐสภาสวีเดนเมื่อปีที่ผ่านมา ได้จุดประกายทำให้เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูแตร์เรส( Antonio Guterres) ถึงกับเอ่ยปากว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจจากคนรุ่นใหม่เหล่านี้จนทำให้ได้ออกคำสั่งเรียกการประชุมวาระพิเศษของสหประชาชาติในเดือนกันยายนที่จะถึง โดยตั้งชื่อว่าเป็น "การประชุมฉุกเฉินภาวะอากาศ"

    ในวันศุกร์(15)ตั้งแต่เขตมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ไปจนถึงวงแหวนอาร์กติกขั้วโลกเหนือ กลุ่มเครือข่ายนักเรียนทั่วโลกที่ไม่พอใจในการรับมือด้านสภาวะอากาศของบรรดาผู้นำทั่วโลกได้ตบเท้าลงถนนพร้อมกัน โดยคิดประมาณว่ามี นักเรียนไม่ต่ำกว่า 100 ชาติเข้าร่วมการเรียกร้อง รวมถึงประเทศไทย

    ส่วนของยุโรปผลจากการบอกแบบปากต่อปากและผ่านทางโซเชียลมีเดีย ตำรวจประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านโลกร้อนในยุโรปที่มีเข้าร่วมทั้งระดับนักเรียนและผู้ใหญ่ไม่ต่ำกว่า 150,000 คน แต่ทว่าตัวเลขของผู้เข้าร่วมการเดินขบวนในสหรัฐฯสำหรับวันศุกร์(15) ดูเหมือนต่ำ

    ฮาวานา แชปแมน-เอ็ดเวิร์ดส์ (Havana Chapman-Edwards) นักเรียนชาวอเมริกันวัย 8 ปีตะโกนคำขวัญระหว่างการประท้วงที่กรุงดีซี ที่มีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคนว่า "พรมแดน ภาษา และศาสนา ไม่ได้แบ่งแยกพวกเรา" และกล่าวต่อว่า "วันนี้พวกเรากำลังบอกความจริง และพวกเราจะไม่รับคำปฎิเสธ"

    ที่เมืองนิวยอร์ก ซิตี พบนักเรียนจำนวนหลายพันคนประท้วงตามจุดต่างๆ รวมไปถึงวงเวียนโคลัมบัส(Columbus Circle) ที่ว่าการเมือง พิพิธภัณฑ์สหรัฐฯประวัติศาสตร์ธรรมชาติ(American Museum of Natural History) รวมไปถึงสนามอเมริกันฟุตบอลที่โรงเรียนไฮสกูลด้านวิทยาศาสตร์บร็องซ์ (Bronx High School of Science) ซึ่งตำรวจสหรัฐฯได้จับกุมผู้ประท้วงจำนวน 16 ราย ข้อหาปิดกั้นการจราจรที่บริเวฯพิพิธภัณฑ์

    เอพีชี้ว่า ทันเบิร์กนักเคลื่อนไหวการประท้วงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพได้แสดงความเห็นในการเดินขบวนที่กรุงสตอกโฮล์มว่า โลกในเวลานี้กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตที่เกิดขึ้นจริง เป็นมหันตภัยที่ใหญ่หลวงนับตั้งแต่มนุษยชาติได้เคยประสบมา แต่ยังคงเพิกเฉยมาเป็นเวลาหลายสิบปี

    สำหรับภาพใหญ่ของการประท้วงทั่วโลก พบว่าบรรดาผู้ประท้วงได้เรียกร้องบรรดานักการเมืองให้เริ่มลงมือต่อภาวะโลกร้อน พร้อมกับแสดงปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่

    ซึ่งที่อินเดียที่รู้ดีว่าประสบปัญหาด้านมลภาวะทางอากาศ บรรดานักเรียนแดนภารตะประท้วงในกรุงนิวเดลีต่อการไม่ทำอะไรของบรรดานักการเมือง พร้อมกับเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่จัดการกับปัญหาระดับมลพิษเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มเกินกว่าระดับมาตรฐานความปลอดภัยขององค์การอนามัยโลกไปแล้ว

    ส่วนที่กรุงปารีส บรรดากลุ่มนักเรียนชาวฝรั่งเศสต่างเดินไปตามถนนเส้นต่างๆรอบมหาวิหารพ็องเธอง(Panthéon) ซึ่งมีบางส่วนได้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดี เอ็มมานุแอล มาครง โดยมาครงมองตัวเองว่าเป็นเสมือนเป็นผู้ให้หลักประกันต่อความตกลงทางสภาพอากาศกรุงปารีสปี 2015 แต่กลับถูกกลุ่มนักเคลื่อนไหวว่าเอื้อต่อบรรดาภาคธุรกิจมากจนเกินไป และทำไม่มากพอในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    ในแอฟริกาใต้ กลุ่มผู้ประท้วงออกเดินขบวนที่กรุงพริโตเรีย ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่า ทวีปแอฟริกา ที่มีประชากรมากกว่า 1 พันล้านคนจะได้รับผลกระทบมากที่สุดต่อปัญหาโลกร้อนมากกว่าส่วนใดๆของโลกถึงแม้ว่าทางภูมิภาคจะมีบทบาทน้อยที่สุดในการปล่อยก๊าซ

    และที่โปแลนด์ในกรุงวอร์ซอว์ และเมืองต่างๆบรรดาผู้ประท้วงออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกการเผาถ่านหินซึ่งเป็นต้นตอการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีบางส่วนถือป้ายประท้วงว่า "ทำรัก ไม่สร้าง CO2"

    การประท้วงในสเปนที่กรุงมาดริดและอีกร่วม 50 เมืองทั่วประเทศดึงดูดผู้เข้าร่วมการประท้วงได้หลายพันคน เอพีชี้ ซึ่งสเปนมีปัญหาต่อการเพิ่มระดับน้ำทะเลและการที่พื้นดินกลายเป็นทะเลทรายอย่างรวดเร็ว

    ส่วนที่เยอรมันพบว่ามีการรวมตัวถึง 20,000 ที่บริเวณจัตุรัสย่านดาวน์ทาวน์กลางกรุงเบอร์ลินก่อนที่เดินมาร์ชไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล



    562000002742001.jpg


    562000002742002.jpg


    562000002742003.jpg


    562000002742004.jpg


    562000002742005.jpg


    562000002742006.jpg


    562000002742007.jpg


    562000002742008.jpg


    562000002742009.jpg


    562000002742010.jpg


    562000002742011.jpg


    562000002742012.jpg


    562000002742013.jpg


    562000002742014.jpg


    562000002742015.jpg


    562000002742016.jpg


    562000002742017.jpg


    562000002742018.jpg

    https://mgronline.com/around/detail...4n665rMyXUCT0B8LK8dzrhFqNxHuYycpdgDgLe0l4g9vE
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮุนเซนเตือนประชาชนรับมือขาดแคลนไฟฟ้าช่วงหน้าแล้ง
    เผยแพร่: 17 มี.ค. 2562 14:06 ปรับปรุง: 17 มี.ค. 2562 14:41 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002743801.jpg

    ซินหวา - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา กล่าวว่า ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าราว 400 เมกะวัตต์ในช่วงฤดูร้อนนี้

    ในพิธีเปิดเทศกาลแม่น้ำครั้งที่ 5 ใน จ.กำปงชะนัง ผู้นำเขมรกล่าวว่า กัมพูชากำลังเผชิญกับภัยแล้งและขาดแคลนน้ำตั้งแต่เดือน ก.พ. และมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อเนื่องไปจนกระทั่งเดือน มิ.ย.

    “กระแสไฟฟ้าจำนวนมากผลิตจากเขื่อนไฟฟ้า แต่เวลานี้ประเทศกำลังเผชิญกับการขาดแคลนน้ำ ดังนั้น เขื่อนไฟฟ้าจะสามารถผลิตพลังงานได้จำนวนไม่มาก” ฮุนเซน กล่าว

    “เรากำลังขาดแคลนไฟฟ้าราว 400 เมกะวัตต์ และเรากำลังหาทางแก้ไขปัญหานี้” ผู้นำเขมร กล่าว

    นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังร้องขอให้ประชาชนเข้าใจเมื่อไฟฟ้าดับในช่วงเวลาดังกล่าว และเรียกร้องให้ผู้ที่มีเครื่องปั่นไฟ ใช้เครื่องปั่นไฟผลิตไฟฟ้าใช้ตามบ้าน โรงแรม หรือสถานที่ทำงานของตัวเองเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าด้วยกัน

    อย่างไรก็ตาม ฮุนเซนย้ำว่า ภาคการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงสีข้าว ไม่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนพลังงานครั้งนี้

    กระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน ระบุว่า ปริมาณการผลิตไฟฟ้าในกัมพูชาในปี 2561 อยู่ที่ 2,650 เมกะวัตต์ โดยราว 50% ของการผลิตทั้งหมด หรือราว 1,329 เมกะวัตต์ เป็นพลังงานที่ผลิตจากเขื่อนไฟฟ้า.

    https://mgronline.com/indochina/det...ammyJ5qqmgErUufFPvU0xpTiiS09vbaAoMc7P47gQYua8
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    4DQpjUtzLUwmJZZPGSlYVRVgDj4pTqmyN3IhrMwAByCI.jpg
    อินโดฯ อ่วม น้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม สังเวยแล้วครึ่งร้อย
    โดย ไทยรัฐออนไลน์17 มี.ค. 2562 19:15 น.

    ชาวอินโดนีเซียในจังหวัดปาปัว อ่วมอรทัย ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม หลังฝนตกหนัก ดับสลดแล้วอย่างน้อย 50 ราย จนต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

    เมื่อ 17 มี.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน ตามด้วยดินโคลนถล่มในพื้นที่หลายแห่ง ในจังหวัดปาปัว ทางตะวันออกไกลสุดของอินโดนีเซีย หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วถึงอย่างน้อย 50 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 60 คน โดยคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะสูงกว่านี้

    นายสุโปโต ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย แถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค.ว่า ถึงสถานการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มในพื้นที่เชิงเขา ที่เมืองชวาปูระ ในจังหวัดปาปัว ว่า ระดับน้ำท่วมและดินถล่มสูงถึงคอ สร้างความเสียหายแก่ถนน สะพาน ระบบสาธารณูปโภค ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยความยากลำบาก โดยขณะนี้สามารถนำร่างของผู้เคราะห์ร้ายออกมาจากใต้ซากโคลนและบ้านเรือนที่พังเสียหายแล้ว 50 ราย จนถึงวันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค.62

    4DQpjUtzLUwmJZZPGSlYVRVgDj4pTqmz0PcmpGLHf6V1.jpg
    4DQpjUtzLUwmJZZPGSlYVRVgDj4pTqm1Ne0WDDEsZfVc.jpg
    นอกจากนั้น ในจำนวนผู้เสียชีวิตคราวนี้ ยังรวมทั้งเด็ก 3 คนที่ประสบเหตุจมน้ำตาย หลังเริ่มเกิดน้ำท่วมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยอำเภอเซนตานี เป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายหนักสุดจากภัยพิบัติคราวนี้ หลังจากเกิดเหตุดินถล่มเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค. เพียงไม่กี่นาที หลังระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นฝั่งไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะที่มีซุงขนาดใหญ่ถูกพัดมากับกระแสน้ำและโคลนด้วย โดยขณะนี้สำนักงานจังหวัดปาปัวได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางแล้ว.

    4DQpjUtzLUwmJZZPGSlYVRVgDj4pTqmwW9fjiDnsZyXp.jpg
    4DQpjUtzLUwmJZZPGSlYVRVgDj4pTqm4v5S0InX6UxT5.jpg

    https://www.thairath.co.th/content/...K0Yaf6KyMWCcarUzCjfw0t8K3QLB-wLH_oQfglwK4iwWA
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝนตกถล่มเปรู ท้องถนนกลายเป็นแม่น้ำ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย
    หมวดข่าว:ต่างประเทศ

    วันที่ 16 มี.ค. 62 เวลา 16:36:19 น.

    upload_2019-3-18_9-56-18.png

    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในเปรู ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ ทางการต้องเพิ่มระดับการเตือนภัย

    ภาพน้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมท้องถนนและบ้านเรือนประชาชนในเมืองปิอูรา แม้ประชาชนจะช่วยกันเอากระสอบทรายไปวางกั้นไว้ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำที่เข้าท่วมท้องถนนอย่างรวดเร็วได้ เพียงในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถนนสายนี้แปรสภาพกลายเป็นแม่น้ำ

    ขณะที่เมืองทรูจิลโล ทางเหนือของประเทศต้องประกาศเตือนภัย หลังเกิดฝนตกหนักและหลายพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำ มีรายงานเกิดดินถล่มทำให้ถนนหลวงที่เชื่อมต่อเขตปูโร่และมาเดร เด ดิออส ถูกตัดขาด อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ขณะที่ทางการประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ประสบภัยให้อยู่ห่างถนนที่ถูกน้ำท่วมฉับพลัน


    http://news.ch3thailand.com/abroad/...TpysZZWd4egjGOqi5vnGX7PkIfzfQXGoVjpSzqC73pZp8
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวฮ่องกง

    รถไฟ MTR ฮ่องกงชนกันเช้ามืดวันนี้
    54435384_318600172182395_1216445041577295872_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    วันนี้ 18 มีนาคม 2019 ทาง MTR ฮ่องกงได้ประกาศหยุดให้บริการการให้บริการระหว่างสถานี Central และ Admiralty ทั้งวัน หลังจากรถไฟ 2 ขบวนเกิดชนกันระหว่างการทดสอบระบบสัญญาณใหม่เมื่อเวลาประมาณ 3.00 ที่ผ่านมา

    คนขับรถไฟทั้ง 2 ขบวนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Queen Mary ใน Pok Fu Lam คนขับรายแรกนาย Mok อายุ 31 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขา และอีกรายนาย Chung อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการสูดดมควัน

    ข้อมูลจาก MTR เผยว่า การให้บริการระหว่างสถานี Tsim Sha Tsui และ Tseun Wan ในสาย Tsuen Wan จะออกทุกๆ 3 นาทีครึ่ง

    ทั้งนี้ทาง MTR ยังได้แนะนำให้ผู้โดยสารที่จะมุ่งหน้าไป Central ให้เปลี่ยนรถไฟที่สถานี Admiralty เพื่อการเดินทางในสาย Island แทน หรือใช้พาหนะอื่นๆ

    Source : https://www.facebook.com/355665009819/posts/10157059499274820?sfns=mo, MTR

    54190700_318600185515727_7110443432270626816_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    54169369_318600208849058_7731254192966205440_n.jpg?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    54522795_318600215515724_1531136307512737792_n.jpg?_nc_cat=101&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    53923176_318600238849055_4105782387567230976_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    54204828_318600258849053_943520361205465088_n.jpg?_nc_cat=110&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    54433983_318600278849051_1358202515945947136_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    54424817_318600302182382_3125165942854647808_n.jpg?_nc_cat=100&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปาปัวน้ำท่วม-ดินถล่มตายอย่างต่ำ 58 คน อิเหนาชี้เหตุทำลายป่า-หวั่นยอดเหยื่อพุ่ง
    เผยแพร่: 17 มี.ค. 2562 20:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002760401.jpg
    เอเจนซีส์ – เกิดเหตุน้ำท่วมและดินถล่มจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในปาปัว จังวัดทางตะวันออกสุดของอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 คน และต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่กว่า 4,000 คน ทางการอิเหนายังคาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยอีกหลายจุด

    ซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย แถลงในวันอาทิตย์ (17 มี.ค.) ว่าเจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาผู้ประสบภัยในเมืองเซนทานีที่เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันเมื่อคืนวันเสาร์ (16 มี.ค.) และมีผู้เสียชีวิต 51 คน บาดเจ็บอีก 74 คน

    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้เกิดดินถล่มในจังหวัดจายาปุระที่อยู่ใกล้กัน และมีผู้เสียชีวิต 7 คน ขณะเดียวกัน มูฮัมหมัด ไอดี โฆษกกองทัพปาปัว เผยว่า ทหารช่วยทารกวัย 4 เดือนที่ติดอยู่ใต้ซากบ้านที่ได้รับความเสียหายและนำส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย

    นูโกรโฮเสริมว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากกระบวนการอพยพยังคงดำเนินการอยู่ และทางการยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด โดยขณะนี้มีประชาชนราว 4,150 คนหลบภัยอยู่ในศูนย์อพยพ 6 แห่ง

    รายงานยังระบุว่า บ้านเรือนหลายร้อยหลัง รวมถึงสะพาน 3 แห่ง และเครื่องบินทวิต ออตเตอร์ 1 ลำที่จอดอยู่ในสนามบินได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม อย่างไรก็ดี สนามบินเซนทานี ซึ่งเป็นฮับการขนส่งหลักของจังหวัด ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ภาพข่าวทางทีวีเผยให้เห็นถนนหลักหลายสายของเซนทานีจมโคลนและระเกะระกะไปด้วยซุงต้นใหญ่ภายหลังน้ำลด

    นูโกรโฮสำทับว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานภัยพิบัติได้แจ้งเตือนรัฐบาลจายาปุระมานานแล้วเกี่ยวกับความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลันเนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่าบริเวณเทือกเขาไซคลอปส์เพื่อทำฟืนและทำพื้นที่เพาะปลูก โดยเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลอินโดนีเซียได้จัดส่งเมล็ดพันธุ์เพื่อให้จังหวัดดังกล่าวนำไปปลูก

    ขณะเดียวกัน วิกเตอร์ ดีน แม็กบอน ผู้บัญชาการตำรวจจายาปุระ เผยว่า รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้ อุทกภัยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปกติในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนตุลาคมถึงเมษายน

    เดือนมกราคมที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วมและดินถล่มที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คนบนเกาะสุราเวสี ขณะที่ต้นเดือนนี้ประชาชนหลายร้อยคนในจังหวัดชวาตะวันตกต้องอพยพออกจากบ้านเรือนหลังฝนตกหนักและน้ำท่วมรุนแรง

    ประเทศที่ประกอบด้วยเกาะราว 17,000 เกาะแห่งนี้ ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดมากที่สุดของโลก เนื่องจากตั้งอยู่บนวงแหวนไฟแปซิฟิกที่มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ชนกันอยู่

    https://mgronline.com/around/detail/9620000026668
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘โบอิ้ง’ก้าวพลาดทางยุทธศาสตร์กรณี 737 แม็กซ์ ‘ทรัมป์’ควรต้องฉวยโอกาสทองจากเรื่องนี้
    เผยแพร่: 18 มี.ค. 2562 00:20 โดย: สเปงเกลอร์
    562000002764101.jpg

    เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 จำนวน 3 ลำของสายการบินเซี่ยงไฮ้แอร์ไลนส์ จอดอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหงเฉียวของเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. อันเป็นวันที่ทางการจีนสั่งสายการบินของแดนมังกรห้ามบินเครื่องบินโมเดลนี้
    โดย สเปงเกลอร์

    Boeing misstep a strategic opportunity for US
    By Spengler
    13/03/2019

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ควรใช้อำนาจในตำแหน่งของเขาอย่างเต็มที่เพื่อไล่เรียงให้โบอิ้งต้องแสดงความรับผิดสำหรับความมักง่ายและการเก็บงำไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ รวมทั้งยังเป็นประกาศย้ำจุดยืนของตัวทรัมป์เองในการต่อสู้กับการทุจริตฉ้อฉลในแวดวงอุตสาหกรรม

    ผมไม่ได้บอกว่าโบอิ้งเย่อหยิ่งโอหังหรอกนะ ผมบอกเพียงแค่ว่าพวกเขาเอาแต่ทำหน้าเชิดจมูกรั้นอยู่เรื่อย

    ไม่ต้องเล่นมุกอย่างนี้ก็ได้ พูดกันตรงไปตรงมาเลย “กรณีอื้อฉาว” ของโบอิ้งที่กำลังเกิดขึ้นมาเวลานี้ต้องถือเป็นจุดพลิกผันที่สำคัญ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น กำลังถูกบีบคั้นหนักจนต้องตั้งการ์ดจุกช่องล้อมวงวางมาตรการป้องกันรอบๆ บริษัทที่ถือเป็นหนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมระดับ “เรือธง” ของอเมริกา โดยหนี่งในบรรดาเหตุผลอันสำคัญๆ ก็คือ เนื่องจากจีนจะฉวยใช้ประโยชน์จากวิกฤตคราวนี้เพื่อโปรโมตส่งเสริมสนับสนุนเครื่องบินโดยสารรุ่นใหม่ของพวกเขาซึ่งกำลังนำเข้าสู่ตลาดเครื่องบินพลเรือน ทรัมป์นั้นควรที่จะเพิกเฉยเย็นชากับเหล่าโขยงนักล็อบบี้ของอุตสาหกรรมการบิน รวมทั้งพวกคอยประสานเสียงพลอยเฮละโลไปด้วยในกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และคว้าเอาโอกาสนี้มาสะสางระบายน้ำทำความสะอาดบ่อน้ำเน่าในอุตสาหกรรมด้านการทหารของอเมริกา

    มาถึงเวลานี้ทั่วทั้งโลกต่างได้ทราบถึงสิ่งซึ่งเหล่านักบินและวิศวกรช่างเครื่องอากาศยานต่างรู้กันมายาวนานแล้ว นั่นคือ โบอิ้งนำเอาเครื่องยนต์รุ่นทันสมัยขนาดใหญ่ยัดใส่เข้าไปในกรอบโครงดีไซน์อากาศยานของยุคทศวรรษ 1950 ซึ่งทำให้ 737 แม็กซ์ อยู่ในสภาพไม่เสถียรอย่างชนิดต้องถือเป็นคุณสมบัติประจำตัวประการหนึ่ง โดยมีความโน้มเอียงที่จมูกเครื่องบินจะคอยเชิดขึ้น และเครื่องบินจะคอยร่วงลง บริษัทหาทางแก้ไขปัญหาเช่นนี้อย่างลวกๆ เอาง่ายเข้าว่า ด้วยการอาศัยซอฟต์แวร์ควบคุม [1] ทว่ากลับไม่ได้จัดฝึกอบรมนักบินให้รู้จักมักคุ้นกับลักษณะพิเศษของเครื่องบินรุ่นใหม่นี้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถเร่งรัดการขายให้ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว

    บริษัทจะมีความผิดทางอาญาหรือไม่มากน้อยขนาดไหน นั่นเป็นสิ่งที่พวกนักกฎหมายจะต้องไปพิจารณาวินิจฉัยกัน แต่เราคงพูดได้ว่า นอร์วีเจียน แอร์ (Norwegian Air) สายการบินของนอร์เวย์ จะไม่ใช่เป็นสายการบินสุดท้ายหรอกซึ่งออกมาเรียกร้องต้องการค่าชดเชยจากโบอิ้ง สำหรับรายรับที่ต้องสูญเสียไปขณะที่ฝูงเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ถูกสั่งห้ามโผขึ้นฟ้า

    กรณีฉาวโฉ่ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ ต้องถือเป็นความหายนะประการหนึ่งสำหรับสหรัฐฯ แถมมันยังเกิดขึ้นมาในเวลาที่สุดแสนจะละเอียดอ่อนไหว บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของประเทศจีน คือ COMAC (บรรษัทอากาศยานทางการพาณิชย์แห่งประเทศจีน Commercial Aircraft Corporation of China, Ltd.) ได้รับใบสั่งซื้อเกือบๆ 1,000 ลำแล้วสำหรับเครื่องบินโดยสารไอพ่น 2 เครื่องยนต์รุ่น ซี 919 ของบริษัท ซึ่งออกมาแบบมาเพื่อแข่งขันกับ 737 แม็กซ์ ของโบอิ้ง ตลอดจน แอร์บัส 320 (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bizjournals.com/seattle...-rival-to-boeing-737-nowhas-nearly-1-000.html)

    ความอื้อฉาวที่ปรากฏขึ้นมาคราวนี้ ไม่เพียงสร้างรอยด่างให้แก่ชื่อเสียงเกียรติคุณของอุตสาหกรรมอเมริกันเท่านั้น แต่ยังทำความเสียหายมัวหมองให้แก่เครดิตความน่าเชื่อถือของพวกหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยของการคมนาคมทางอากาศของสหรัฐฯ ซึ่งก็คือ สำนักงานบริหารการบินสหรัฐฯ(Federal Aviation Administration ใช้อักษรย่อว่า FAA) และคณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมขนส่งแห่งชาติ (National Transportation Safety Board ใช้อักษรย่อว่า NTSB)

    ประธานาธิบดีทรัมป์ควรต้องระลึกถึงคำแนะนำของ วินสตัน เชอร์ชิลล์ (Winston Churchill เกิด 30 พ.ย. 1874 ตาย 24 ม.ค. 1965 เคยเป็นนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรอยู่ 2 สมัย โดยสมัยแรกซึ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังเป็นที่ยอมรับนับถือกันมากคือระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 -ผู้แปล) ที่ว่า อย่าทำให้วิกฤตการณ์กลายเป็นของเสียเปล่า และใช้อำนาจในตำแหน่งของเขาอย่างเต็มที่เพื่อไล่เรียงให้โบอิ้งต้องแสดงความรับผิดสำหรับความมักง่ายและการเก็บงำไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ นี่คือสิ่งถูกต้องซึ่งจะต้องกระทำในฐานะเป็นเรื่องที่จะสร้างความได้เปรียบทางการเมืองอย่างมโหฬาร –ชาวอเมริกันนั้นต้องการให้เหล่าผู้นำของพวกเขายืนหยัดต่อสู้กับการทุจริตไม่ชอบมาพากลในแวดวงอุตสาหกรรม— ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเป็นโอกาสอันงดงามในทางยุทธศาสตร์อีกด้วย

    เหตุผลสำคัญที่สุดในเรื่องที่ว่าทำไมฐานะทางการทหารของอเมริกาจึงได้เสื่อมโทรมลงเมื่อเปรียบเทียบกับพวกคู่แข่งขันทางยุทธศาสตร์ ก็คือเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบนี่แหละ ตรงๆ ง่ายๆ เลย การจับมือเป็นพันธมิตรในแบบผสมพันธุ์ถ่ายเทกันไปมาระหว่าง 2 บริษัทผูกขาดในอุตสาหกรรมกลาโหมอเมริกัน (นั่นคือ โบอิ้ง และ ล็อกฮีด-มาร์ติน) กับพวกนายใหญ่นายโตของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นการเอาบังเหียนแห่งทัศนะยุทธศาสตร์แบบถอยหลังเข้าคลองและค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองมหาศาลมาครอบใส่ฝ่ายทหาร

    พวกบริษัทผู้รับเหมารับจ้างด้านกลาโหมน่ะไม่ได้ทำเงินได้มากด้วยนวัตกรรมหรอก พวกเขาทำเงินได้มากด้วยการขายระบบอาวุธอย่างเดียวกันให้เพนตากอนปีแล้วปีเล่าต่างหาก ขณะที่เหล่านายพลทั้งหลายก็ไม่ใช่ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งด้วยการเสนออะไรใหม่ๆ และเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างแรงๆ หรอก พวกเขากำลังได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งจากการบังคับบัญชากองกำลังอาวุธประเภทเดิมๆ ที่เหล่าผู้บังคับบัญชาของเขาได้เคยบังคับบัญชามาแล้วต่างหากล่ะ

    ไม่เป็นไรหรอก ถึงแม้เครื่องบินรบซึ่งประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินนั้น แท้จริงแล้วคือระบบอาวุธเก่าๆที่มีอายุถึง 100 ปีแล้ว และขีปนาวุธสมัยใหม่ตลอดจนเรือดำน้ำสมัยใหม่สามารถเล่นงานเอาจนเรือบรรทุกเครื่องบินเดี้ยงไปเลย รวมทั้งพวกเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันยังต่างต้องออกปฏิบัติการในระยะห่างจากชายฝั่งของจีน 1,000 ไมล์เพื่อหลีกให้ห่างจากพิสัยทำการของขีปนาวุธจีน

    เวลานี้เพนตากอนยังคงต้องการเรือบรรทุกเครื่องบินเพิ่มขึ้น, เครื่องบินขับไล่เอฟ-35 เพิ่มขึ้น, และเครื่องบินขับไล่เอฟ-18 เพิ่มขึ้น ทำนองเดียวกับมีความต้องการกองทหารม้าในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือมีความต้องการเรือประจัญบานในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อาวุธเหล่านี้มันดูดีงามอยู่หรอกในเวลาวางแผน แต่จะช่วยอะไรไม่ได้มากนักในเวลาสู้รบกันจริงๆ

    ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเลยที่ว่าโทรศัพท์ครั้งแรกสุดที่ ซีอีโอของโบอิ้ง เดนนิส มุยเลนเบิร์ก (Dennis Muilenburg) กดไปหาก็คือประธานาธิบดีทรัมป์ กรณีอื้อฉาว 737 แม็กซ์ มีลักษณะที่เป็นกรณีทางการเมืองอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว กล่าวคือ จีนจะต้องฉวยใช้ประโยชน์จากความไม่เอาไหนของอเมริกันเพื่อผลักดันฐานะเชิงพาณิชย์ของพวกเขาเอง ไม่เพียงเท่านั้น โบอิ้งยังเป็นบริษัทผู้รับเหมารับจ้างด้านกลาโหมซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวดในทางยุทธศาสตร์รายหนึ่งอีกด้วย แล้วต้องไม่ลืมว่า แพทริก แชนาแฮน (Patrick Shanahan) รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมในเวลานี้ของทรัมป์ เป็นผู้ที่ทำงานอยู่กับโบอิ้งมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี

    เอธิโอเปียคัดค้านไม่เห็นด้วยที่จะอนุญาตให้พวกเจ้าหน้าที่กำกับตรวจสอบของสหรัฐฯได้เป็นผู้ดาวน์โหลดข้อมูลจากกล่องดำซึ่งกู้ออกมาจากเที่ยวบิน อีที 302 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลนส์ ที่ตกลงมา ดังที่วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานเอาไว้ในวันพุธ (13 มี.ค.) ดังนี้:

    “หลังจากพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของเอธิโอเปียแสดงท่าทีว่า พวกเขาต้องการส่งข้อมูลเที่ยวบินและบันทึกเสียงห้องนักบินไปต่างประเทศ และนิยมชมชอบที่จะให้ฝ่ายสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของสหราชอาณาจักร (UK’s Air Accidents Investigation Branch) เป็นผู้อยู่ในฐานะฝ่ายอยู่วงนอกที่เข้าทำการสอบสวนอย่างปราศจากอคติความลำเอียง พวกเจ้าหน้าที่เหล่านี้บอก ปรากฏว่าทางพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯก็ได้พยายามใช้การผลักดันเป็นการภายในเพื่อให้พวกเขาส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยังสถานที่ของคณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมขนส่งแห่งชาติ (NTSB) ของสหรัฐฯแทน และจวบจนกระทั่งถึงตอนดึกวันอังคาร (12 มี.ค.) พวกเขาระบุว่าสหรัฐฯก็ยังไม่ได้รับทราบการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย” (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wsj.com/articles/u-s-ethiopia-maneuver-over-crashed-planes-black-boxes-11552444534)

    จีนคือประเทศแรกที่สั่งห้ามบิน 737 แม็กซ์ ถึงแม้เอฟเอเอออกมายืนยันรับประกันว่าเครื่องบินรุ่นนี้ยังคงปลอดภัยที่จะทำการบิน ยกเว้นแต่แคนาดาเท่านั้น [2] ประเทศอื่นๆ ของโลก รวมทั้งพวกชาติพันธมิตรพูดภาษาอังกฤษของอเมริกาด้วย ต่างพากันเจริญรอยตามจีน [3] สำนักข่าวบลูมเบิร์กให้ความเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมานี้เอาไว้ ดังนี้:

    “การที่เครื่องบิน 737 แม็กซ์ของบริษัทโบอิ้งตกโดยที่มีผู้เสียชีวิตยกลำเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาไม่ถึง 5 เดือน กำลังก่อให้เกิดการจัดลำดับอาวุโสกันใหม่ในด้านความปลอดภัยทางการบิน ผู้ที่กำลังพุ่งพรวดขึ้นไปอยู่อันดับบนสุด คือ จีน ... ประเทศแล้วประเทศเล่าต่างเพิกเฉยมองเมินการประเมินซึ่งกระทำโดยสำนักงานบริหารการบินสหรัฐฯ ที่ระบุว่าเครื่องบินนี้มีความปลอดภัยที่จะทำการบิน แคนาดานั้นเห็นชอบด้วยอยู่หรอกว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะลงมือทำอะไรกัน ทว่าประเทศอื่นๆ จำนวนมากต่างพากันออกมาเข้าแถวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อหลังชาติสำคัญชาติแรกซึ่งสั่ง “กราวด์” ฝูงบิน 737 แม็กซ์ –นั่นก็คือ ประเทศจีน” (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloomberg.com/news/arti...lates-faa-with-china-leading-push-against-max)

    หน่วยงานของจีนที่ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบด้านความปลอดภัยของสายการบินนั้น ต้องการที่จะสถาปนาตนเองให้กลายเป็น “มาตรฐานทองคำ” ในระดับโลก อย่างที่ แชด โอห์ลันด์ต (Chad Ohlandt) แห่งบรรษัทแรนด์ (RAND Corporations) บอกกับบลูมเบิร์ก โดยในเวลาเดียวกันนั้นจีนก็เสนอขายเครื่องบินโดยสารไอพ่นระดับเวิลด์คลาสรุ่นแรกของตัวเองไปด้วย

    เครื่องบิน ซี 919 ของ COMAC ต้องพึ่งพาอาศัยหนักเทคโนโลยีของฝ่ายตะวันตกและการทดสอบของทางตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบริษัทบอมบาร์ดิเอร์ (Bombardier) แห่งแคนาดา แต่ถึงกระนั้น ลู่ทางความเป็นไปได้ที่จีนอาจจะกระโจนพรวดเข้ามีฐานะสำคัญระดับโลกในการจำหน่ายเครื่องบิน ย่อมเป็นสิ่งที่กล้ำกลืนยอมรับได้อย่างยากเย็นในวอชิงตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากพวกชาติพันธมิตรส่วนใหญ่ของอเมริกาต่างพากันบอกปัดความพยายามของคณะบริหารทรัมป์ ที่จะปิดกั้นไม่ให้บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยีส์ของจีน ได้เข้าร่วมในการนำเอาเครือข่ายสื่อสารไร้สาย 5จี ออกมาใช้งาน

    เครื่องบินยังเป็นรายการสินค้ารายการใหญ่ที่สุดซึ่งจีนนำเข้าจากสหรัฐฯ เมื่อปี 2017 จีนซื้อเครื่องบินอเมริกันคิดเป็นมูลค่า 16,300 ล้านดอลลาร์ เปรียบเทียบกับถั่วเหลืองซึ่งอยู่ที่ 12,300 ล้านดอลลาร์, รถยนต์นั่ง 10,500 ล้านดอลลาร์, และเซมิคอนดักเตอร์ 6,000 ล้านดอลลาร์ ความลำบากของโบอิ้งจึงอาจจะถูกหยิบยกเข้าไปในการเจรจาต่อรองเพื่อทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

    แต่ปัญหาใหญ่โตที่สุดของอเมริกานั้นคือการที่ความสามารถผลิตทางอุตสาหกรรมกำลังเสื่อมทรุดหดหาย ดูเหมือนว่าการที่โบอิ้งตัดสินใจทำอะไรแบบมักง่าย และหลบเลี่ยงการรีดีไซน์ผลิตภัณฑ์ตัวที่ทำกำไรมากที่สุดของบริษัท ทั้งๆ ที่จำเป็นจะต้องทำกันมานานแล้ว ก็เพราะว่าการใช้จ่ายเงินทุนเพิ่มมากขึ้นและการใช้เวลาในช่วงวางแผนก่อนการผลิตให้ยาวนานขึ้นนั้น จะไม่ถูกมองอย่างเมตตาปรานีเห็นอกเห็นใจจากตลาดหลักทรัพย์หรอก บริษัทกำลังพึ่งพาอาศัยนักล็อบบี้ของตนมากยิ่งกว่าวิศวกรของตน และบริษัทกลายเป็นตัวอย่างแบบฉบับของทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกระบุว่าเป็นความผิดพลาดที่กลายเป็น “บ่อน้ำเน่า” ซึ่งขัดแย้งตรงกันข้ามกับพวกนโยบายที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเอาไว้ในเวลารณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ตอนนี้ทรัมป์มีโอกาสทองแล้วที่จะระบายน้ำทำความสะอาดบ่อน้ำเน่านี้ และเขาควรจะได้รับคำแนะนำที่ดีให้ยึดคว้าเอาโอกาสนี้เอาไว้ให้มั่นคง

    สเปงเกลอร์ เป็นนามปากกาของคอลัมนิสต์ผู้โด่งดังของเอเชียไทมส์มายาวนาน ในปัจจุบันมีการเปิดเผยแล้วว่า ตัวจริงของ สเปงเกลอร์ คือ เดวิด พี. โกลด์แมน (David P. Goldman) ที่เวลานี้ทั้งเป็นผู้ถือหุ้นและทั้งมีข้อเขียนเผยแพร่ในเอเชียไทมส์เป็นประจำโดยใช้ชื่อจริง

    562000002764102.jpg

    โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ของอเมริกันแอร์ไลนส์ 2 ลำจอดอยู่ในท่าอากาศยานนานาชาติไมอามี รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ตามคำสั่งฉุกเฉินห้ามขึ้นบินของทางการสหรัฐฯที่ออกมาก่อนหน้านั้น 1 วัน

    หมายเหตุผู้แปล

    [1] เรื่องโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ใช้เครื่องยนต์ใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ทำให้จมูกเครื่องบินจะคอยเชิดขึ้น และเครื่องบินจะคอยร่วงลงนี้ ข้อเขียนอีกชิ้นหนึ่งของเอเชียไทมส์ คือ เรื่อง Trump says jets ‘too complex’ amid Boeing crisis เขียนโดยกองบรรณาธิการเอเชียไทมส์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2019 ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ โดยอ้างอิงข้อเขียนในเว็บไซต์ MIT Technology Review วันเดียวกัน ข้อเขียนของ MIT Technology Review ดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้:

    “ตามรายงานเบื้องต้นที่เผยแพร่โดยหน่วยงานสอบสวนความปลอดภัยทางอากาศของอินโดนีเซีย เที่ยวบิน 610 ของสายการบินไลอ้อนแอร์ตกเพราะอุปกรณ์เซนเซอร์ที่บกพร่องผิดพลาด โดยอุปกรณ์เซนเซอร์นี้ได้รายงานว่าเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ลำดังกล่าวกำลังสูญเสียแรงยกและกำลังร่วงลง แล้วรายงานที่ผิดพลาดเรื่องการร่วงลงนี้ก็ไปกระตุ้นให้ระบบอัตโนมัติระบบหนึ่งของเครื่องบินทำงาน ระบบอัตโนมัติดังกล่าวจะพยายามดึงให้ส่วนจมูกเครื่องบินลงต่ำเพื่อทำให้เครื่องบินสามารถทำความเร็วได้เพียงพอที่จะบินได้อย่างปลอดภัย ทางนักบินของเที่ยวบินนี้ได้ต่อสู้กับระบบอัตโนมัติดังกล่าว โดยพยายามรั้งส่วนจมูกเครื่องบินให้เงยกลับขึ้นมา แต่พวกเขาพ่ายแพ้

    “เครื่องบิน 737 แม็กซ์ มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า 737 ดั้งเดิม ซึ่งทำให้มันใช้เชื้อเพลิงได้อย่างทรงประสิทธิภาพมากขึ้น 14% เมื่อเทียบกับ 737 เจเนอเรชั่นก่อน ขณะที่ “แอร์ เคอร์เรนต์” (Air Current) สิ่งพิมพ์ในแวดวงสายการบินอธิบายว่า ตำแหน่งติดตั้งที่ปรับเปลี่ยนใหม่ ตลอดจนรูปร่างของเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการในการบังคับเครื่องบิน โดยทำให้ส่วนจมูกมีความโน้มเอียงที่จะเชิดขึ้นในบางสถานการณ์ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เครื่องบินสูญเสียแรงยกและร่วงลงมา ระบบอัตโนมัติใหม่ (ที่กล่าวไว้ข้างต้น) ซึ่งมีชื่อว่า maneuvering characteristics augmentation system ใช้อักษรย่อว่า MCAS จึงถูกออกแบบมาเพื่อต่อต้านความโน้มเอียงเช่นนี้”

    “เครื่องยนต์ที่ทรงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเหล่านี้ –และการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นในระบบอัตโนมัติต่างๆ ของเครื่องบินเพื่อให้สามารถใช้เครื่องยนต์ใหม่เช่นนี้ได้— กลับกลายเป็นภัยต่อความปลอดภัยของเครื่องบินโมเดลนี้เองใช่หรือไม่? ก็อย่างที่นักสังคมวิทยา ชาร์ลส์ เพอร์โรว์ (Charles Perrow) เขียนเอาไว้ในหนังสือเรื่อง Normal Accidents ของเขาที่ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี 1984 และกลายเป็นหนังสือระดับคลาสสิกไปเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ พวกเทคโนโลยีใหม่ๆ ในด้านความปลอดภัยทางอากาศ ไม่ใช่ว่าจะทำให้เครื่องบินมีความปลอดภัยมากขึ้นจริงๆ หรอก เทคโนโลยีเหล่านี้เพียงแค่เปิดทางให้สายการบินทั้งหลายสามารถที่จะ “เพิ่มความเสี่ยงขึ้นอีกมากมาย ในการเสาะแสวงหาผลประกอบการที่สูงขึ้น”

    (ข้อเขียนของ MIT Technology Review อ่านเพิ่มเติมได้ที่https://www.technologyreview.com/s/...h-raises-questions-about-airplane-automation/)

    [2] แคนาดาได้สั่งห้ามบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ที่สายการบินแคนาดาทั้งหลายใช้อยู่ รวมทั้งห้ามเครื่องบินโมเดลนี้บินเข้าออกน่านฟ้าของแคนาดาด้วยในวันที่ 13 มีนาคม ไม่นานนักก่อนที่สหรัฐฯจะออกคำสั่งห้ามบิน 737 แม็กซ์ในวันเดียวกัน (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cbc.ca/news/politics/garneau-boeing-ethiopia-crash-1.5054234)

    [3] ในที่สุดสหรัฐฯก็ต้องยอมออกคำสั่งห้ามบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ เช่นเดียวกัน ในวันที่ 13 มีนาคม ตามข้อเขียนชิ้นนี้ของเอเชียไทมส์:

    สหรัฐฯยอมเดินตามทั่วโลก สั่งห้ามบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์
    โดย กองบรรณาธิการเอเชียไทมส์

    (เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)

    US follows world grounding 737 Max jets
    By Asia Times staff
    14/03/2019

    ทรัมป์ประกาศคำสั่งฉุกเฉินในวันพุธ (13 มี.ค.) ห้ามบินเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 โมเดลแม็กซ์ 8 และโมเดลแม็กซ์ 9 โดยระบุว่าคำสั่งนี้ จะบังคับใช้ไป “จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง”

    สหรัฐฯในท้ายที่สุดก็เข้าร่วมกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกในการสั่ง “กราวด์” ห้ามบินเครื่องบินโบอิ้งพวกโมเดลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุบัติเหตุทางอากาศอันน่าเศร้าสลดต่อเนื่องกัน 2 ครั้งในระยะเวลาไม่ถึง 5 เดือน

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศออกคำสั่งฉุกเฉินในวันพุธ (13 มี.ค.) ที่ผ่านมา ห้ามบินเครื่องบินไอพ่นโมเดล 737 แม็กซ์ 8 และ 737 แม็กซ์ 9 ทั้งหมด ถึงแม้มีแรงต่อต้านจากทางส่วนของสำนักงานบริหารการบินสหรัฐฯ (Federal Aviation Administration ใช้อักษรย่อว่า FAA)

    ก่อนหน้านี้ สายการบินและประเทศจำนวนมาก ได้ทยอยสั่งห้ามนำเครื่องบินโดยสารโบอิ้งแม็กซ์ขึ้นทำการบิน และ/หรือห้ามอากาศยานโมเดลเหล่านี้บินเข้าออกน่านฟ้าของพวกตน ภายหลังโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลนส์ ตกหลังจากทะยานขึ้นฟ้าไม่นานเมื่อวันอาทิตย์ (10 มี.ค.) โดยที่ก่อนหน้านั้น 737 แม็กซ์ 8 อีกลำหนึ่งของสายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซีย ก็ตกลงทะเลหลังเหินขึ้นฟ้าจากกรุงจาการ์ตาไม่กี่นาทีเช่นกันเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2018

    ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันพุธ (13 มี.ค.) ว่า เครื่องบินโมเดลเหล่านี้ทุกๆ ลำ “จะถูกสั่งห้ามขึ้นบินเมื่อลงจอดยังจุดหมายปลายทางแล้ว ... มีการแจ้งให้พวกนักบินทราบแล้ว มีการแจ้งให้สายการบินทั้งหมดทราบแล้ว”

    ถึงแม้มีการกล่าวหากันว่า ความประพฤติมิชอบของโบอิ้งนั้นเป็นปัจจัยซึ่งมีส่วนทำให้เกิดเหตุเครื่องบินตก ทว่าทรัมป์ยังคงพูดยกย่องชมเชยบริษัทยักษ์ใหญ่รายนี้ในการแสดงความคิดเห็นของเขา

    “โบอิ้งเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมบริษัทหนึ่ง” เขากล่าว “พวกเขากำลังทำงานอย่างหนักมากๆ ในขณะนี้ และคาดหวังได้ว่าพวกเขาจะหาคำตอบออกมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ตราบจนกว่าพวกเขาจะหาคำตอบได้ เครื่องบินเหล่านี้ก็จะถูกห้ามบินไปก่อน”

    สหรัฐฯชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับการสั่งห้ามบิน 737 แม็กซ์ ถึงแม้มีหลักฐานเบื้องต้นชี้ถึงประเด็นปัญหาความปลอดภัยที่ยังมิได้รับการแก้ไขของเครื่องบินโดยสารโมเดลนี้ ดังนั้นจึงก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์ตำหนิพวกหน่วยงานกำกับตรวจสอบของอเมริกา

    กรณีร้ายแรงทั้ง 2 กรณีที่เกิดขึ้นในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ทำให้มีการกล่าวหากันว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปล่อยปละละเลยของโบอิ้ง โดยที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายกำลังหยิบยกไล่เรียงเรื่องที่บริษัทบกพร่องล้มเหลวไม่ได้จัดการฝึกอบรมพวกนักบินล่วงหน้าอย่างถูกต้องเหมาะสม เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ได้รับการอัปเกรดของเครื่องบินโมเดลเหล่านี้

    ในเวลาเดียวกัน การลังเลรีรอไม่สั่งห้ามบิน โบอิ้ง 737 แม็กซ์ ก็ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับบทบาทอิทธิพลของพวกนักล็อบบี้ของอุตสาหกรรมการบินที่มีต่อเอฟเอเอ รวมไปถึงที่มีต่อ แดเนียล เอลเวลล์ (Daniel Elwell) รักษาการผู้อำนวยการของหน่วยงานกำกับตรวจสอบด้านการบินของสหรัฐฯแห่งนี้ โดยที่ เอลเวลล์ เป็นอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สมาคมอุตสาหกรรมด้านการบินและอวกาศ (Aerospace Industries Association ใช้อักษรย่อว่า AIA) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพวกสายการบินสหรัฐฯ

    ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ราย ยังส่งเสียงแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างคณะบริหารทรัมป์กับบริษัทโบอิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แพทริก แชนาแฮน (Patrick Shanahan) รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมในเวลานี้ของคณะบริหารทรัมป์ เป็นผู้เคยทำงานอยู่ที่โบอิ้งมาเป็นเวลา 3 ทศวรรษ ก่อนจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วยกลาโหมในยุคของทรัมป์ และขึ้นรักษาการตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการของเพนตากอน ภายหลังนายพล เจมส์ แมตทิส ลาออกไปอย่างกะทันหันตอนต้นปีนี้ เมื่อวันพุธ (13 มี.ค.) กลุ่มเอ็นจีโอคอยเฝ้าระวังเรื่องจริยธรรมของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯกลุ่มหนึ่ง ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกล่าวหาแชนาแฮนว่ากำลังโปรโมตส่งเสริมผลประโยชน์ของโบอิ้งขณะนั่งเป็นผู้บริหารระดับท็อปของกระทรวงกลาโหม (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.military.com/daily-news...inst-shanahan-allegedly-promoting-boeing.html)

    แต่อันที่จริงแล้ว ความวิตกกังวลเกี่ยวกับพวกหน่วยงานผู้คุมกฎด้านความปลอดภัยทางการบินของสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่อะไรเลย มีพวกสมาชิกรัฐสภาพยายามผลักดันให้มีการยกเครื่องการกำกับตรวจสอบด้านนี้อย่างขนาดใหญ่มาเป็นแรมปีแล้ว รวมทั้งหลังจากที่มีรายงานข่าวชิ้นหนึ่งเมื่อปีที่แล้วซึ่งเปิดโปงให้เห็นความย่อหย่อนในด้านนี้ของเอฟเอเอ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cbsnews.com/news/allegi...-airlines-faa-after-60-minutes-investigation/)

    ขณะนี้มีสมาชิกรัฐสภาหลายรายแถลงว่า พวกเขาจะออกหมายเรียกให้ประดาผู้คุมกฎ รวมทั้ง เอลเวลล์ แห่งเอฟเอเอ ตลอดจนพวกผู้บริหารโบอิ้ง มาให้ปากคำต่อทางรัฐสภา

    https://mgronline.com/around/detail/9620000026700
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Catástrofes Globales



    ฝนตกหนักมากถูกบันทึกไว้ในสหรัฐอเมริกาอาหรับเอมิเรตส์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Catástrofes Globales

    ฝนตกหนักที่สนามบินดูไบ # สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
    17 มีนาคม 2562
    เครดิต worlds_weather
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Catástrofes Globales

    รวบรวมบางช่วงของแผ่นดินไหว 5.5Mw ในลอมบอก อินโดนีเซีย
    เครดิตข่าวโลก FCRTV
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Catástrofes Globales

    แผ่นดินไหวขนาด 5.5 ทำให้เกิดความเสียหายและบาดเจ็บในลอมบอก, อินโดนีเซีย
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อินโดนีเซีย



    การสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว 5.5 ในลอมบอก ที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ มีความเสียหายหนักในเมืองในเวลาท้องถิ่น ตอนเช้า 17 มีนาคม
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อินโดนีเซีย
    ภาพเพิ่มเติมจากการเกิดแผ่นดินไหวในวันนี้ที่ 17 มีนาคม ในลอมบอก ประเทศอินโดนีเซีย

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo

    เซาท์ดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกา
    ระเบิดพายุไซโคลนก่อตัวเป็นน้ำแข็งชิ้นใหญ่
    2019/03/17

    1ZkbTogWH-RqfInaSGSAuzttbLeIt-IOk7EHMm5qoqq2ab6j9tNqM-psgv_rUjBvFTIy0h5Q&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    hYm460hX_Rc6GRrOejN0WvGQwixdTxO7QZ37OHfWtqRqtJd2VV6hZ8J7Lq6LqVQHIXmbpMkA&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    NnrNqNV5HYODNptxBkXtcnyqAQfWaWaeYunFAN_ApntT_SVAvp9JS9kLahfMuKixa6A1zxzw&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez
    2CJuscAWacpRhxaZzdL7Z_fTYqBU-gCj9XsMhFzpS6m5kFXGdX3ioRGN42OwKDuYA26yl0cA&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    # ULTIMA # HORA
    เครื่องบินรบและลาดตระเวนจำนวนมากจากสหรัฐอเมริกา ถูกพบระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ
    นอกจากนี้บนชายฝั่งระหว่าง 2 ประเทศนี้

    nz4kSZSCxQ8JoiTVioVNC6rVHt-4g0skadmT-z3vcG_fuMIHz3H8ZTpXhAvILoyU_d8BKPUg&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    XXoaWZbpFOUtQOeH2W2tXIZE4JMKuvqNjoYaj38V6jRlqjyii-zOBYZhCi7GB45YnH5XJC4Q&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    #ÚLTIMA #HORA
    nV5XGn9fSmlUOhrwOp2YFvyOw_efhcSsu_GLhRcjwZjQYx5kd70MwLMxUFjbB2YjrSGjvRpw&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    ภูเขาไฟโบรโมแห่งอินโดนีเซีย ปะทุส่งเสียงดัง

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    # ด่วน
    วุฒิสมาชิกของสหรัฐอเมริกากล่าวว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะตึงเครียดมาก แต่สำคัญมากใน venzuela!
    อิสรภาพกำลังมาในเวเนซุเอลา!

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez



    แม่น้ำที่ยิ่งใหญ่ในอินโดนีเซียกำลังจะล้นเนื่องจากฝนที่ตกลงมาในชั่วโมงสุดท้าย ...
    18/03/2019



    z_vfilDCDBWLS4W9SMUK_X9ED2ARrgJcVgo0n_ZydUDzVjx6jgDAJR7rDx_ZO0Ga3q6iDnsg&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...