ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 13) ระบบ Gmail ล่มทั่วโลกวันนี้ กระทบผู้ใช้งานหลายประเทศ : ระบบ Gmail เกิดปัญหาในหลายประเทศทั่วโลกวันนี้ โดยมีการรายงานปัญหาเรื่องการส่งอีเมลผ่านทางโซเชียลมีเดียจากกลุ่มผู้ใช้งาน Gmail เป็นจำนวนมาก


ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบ Gmail นั้นส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ ทั้งในอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และเอเชีย

อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก GSuite Status Dashboard ชี้ว่า เวอร์ชั่นเอ็นเตอร์ไพรส์ของ Gmail ของกูเกิ้ลนั้น ยังคงสามารถใช้งานได้


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา


- https://www.cnet.com/news/gmail-is-down-outage-around-the-world-for-some-users/

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 13) แนวโน้มค่าเงินบาท(2) ผมมีความเห็นว่าเงินบาทนั้นจะถูกกำหนดค่าโดย 2 ปัจจัยหลักคือดุลบัญชีเดินสะพัดและอัตราเงินเฟ้อของไทยเทียบกับเงินเฟ้อในประเทศอื่นๆ ซึ่งครั้งที่แล้วได้เขียนถึงดุลบัญชีเดินสะพัดโดยละเอียดแล้วมีใจความว่า

การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างมากมายและต่อเนื่องนั้น ย่อมจะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างแน่นอน เพราะสะท้อนว่ามีความต้องการขายเงินดอลลาร์เพื่อซื้อเงินบาทมากกว่าขายเงินบาทเพื่อนำมาซื้อเงินดอลลาร์

การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมากบวกกับการมีทุนสำรองระหว่างประเทศจำนวนมหาศาลนั้น มองได้ว่าสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของประเทศ แต่ก็สามารถมองได้ว่าประเทศไทยมุ่งแต่จะเก็บเงิน ไม่ยอมใช้เงินทั้งๆ ที่คนไทยหลายกลุ่มยังขาดแคลนทรัพยากรอย่างมาก

ทางออกที่ดีคือการสร้างโอกาสเพื่อการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในประเทศไทยแต่หากทำไม่ได้ก็มีทางเลือกเหลืออีกเพียง 2 ทางคือ ยอมให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งส่งออกลดและนำเข้าเพิ่ม เพื่อลดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด หรือผลักดันให้เงินทุนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและเพียงพอที่จะกลบการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเกือบทั้งหมด

หากดูตัวเลขย้อนหลังจะเห็นได้ว่าดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไทยเกินดุลเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด กล่าวคือ


- ช่วง 2004-2008 เกินดุลบัญชีเดินสะพัดประมาณ 11,200 ล้านเหรียญ


- ช่วง 2009-2013 เกินดุลบัญชีเดินสะพัด 36,550 ล้านเหรียญ

- ช่วง 2014-2018 เกินดุลบัญชีเดินสะพัด 183,370 ล้านเหรียญ

การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการเกินดุลการค้า ซึ่งสูงถึง 138,320 ล้านเหรียญในช่วง 2014-2018 เพราะต่างชาติก็ยังต้องการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะในสินค้าประเภทปิโตรเคมี รถยนต์และอิเล็กทรอนิคส์ แต่ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคือการท่องเที่ยว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 5% ของจีดีพีในช่วงต้นศตวรรษมาเป็น 15% ของจีดีพีในปัจจุบัน และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ดุลบริการ ซึ่งเดิมทีเคยขาดดุลประมาณปีละ 10,000 ล้านเหรียญมาเกินดุลปีละประมาณ 12,000 ล้านเหรียญ การท่องเที่ยวนี้มีส่วนในการกดดันให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักที่ไทยค้า-ขายด้วย แข็งค่าขึ้นประมาณ 13% กล่าวคือดัชนี NEER (nominal exchange rate) เพิ่มขึ้นจาก 103.42 ในเดือนธันวาคม 2013 มาเป็น 117.17 ในเดือนธันวาคม 2018

ค่าเงินบาทกับอัตราเงินเฟ้อนอกจากดุลบัญชีเดินสะพัดแล้ว อัตราเงินเฟ้อของประเทศไทย เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศอื่นๆ ก็มีความสำคัญต่อค่าเงินบาทเช่นกัน กล่าวคืออัตราเงินเฟ้อคือการเสื่อมค่าของเงินในประเทศ เช่น เงินเฟ้อในสหรัฐ (วัดจากการเปลี่ยนแปลงของ CPI) เท่ากับ 2.4% ในปี 2018 แปลว่าเงินสหรัฐเสื่อมค่าลง (เพราะราคาสินค้าโดยรวมเพิ่มขึ้น) 2.4% ในปีดังกล่าว อัตราเงินเฟ้อในปี 2018 ของประเทศ 5 กลุ่ม ในปี 2018 ประกอบด้วย

-ประเทศพัฒนาแล้ว 2.0%


-ประเทศตลาดเกิดใหม่ 4.9%

-ประเทศตลาดเกิดใหม่เอเชีย 3.0%

-ประเทศญี่ปุ่น 1.2%

-ประเทศ 1.1%

จะเห็นได้ว่าเงินเฟ้อของไทยต่ำที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศสำคัญๆ ที่ไทยค้า-ขายด้วยในปีที่แล้ว ซึ่งในหลักการนั้น หากประเทศอื่นๆ มีเงินเฟ้อเฉลี่ย 3% ต่อปี แต่ไทยมีเงินเฟ้อเฉลี่ย 1% ต่อปี ก็จำเป็นที่เงินบาทจะต้องแข็งค่าขึ้นเฉลี่ย 2% ต่อปี เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ เพื่อให้เกิดความคงที่ของกำลังซื้อ (purchasing power parity) ทั้งนี้ธนาคารกลางสหรัฐยึดถือเป้าเงินเฟ้ออย่างค่อนข้างเคร่งครัด (ในทางปฏิบัติ) ที่ 2% ต่อปี แม้ว่าจะไม่ได้กำหนดเป้าหมายเอาไว้อย่างเป็นทางการ กรณีของไทยนั้นมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการเงินเฟ้อที่ 2.5% ต่อปี แต่ในทางปฏิบัติปรากฏว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น เงินเฟ้อรวมทั้งสิ้นเพียง 1% กล่าวคือ เกือบจะไม่มีเงินเฟ้อเลย (ดัชนี CPI ของไทยอยู่ที่ 100.2 ในปี 2016 และ 101.9 ในปี 2018) ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น เงินบาทแข็งค่า 8.4% เทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งส่วนสำคัญส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เงินเฟ้อไทยเกือบจะไม่มี แต่สหรัฐมีเงินเฟ้อรวมกันประมาณ 6% ในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับประเทศอื่นๆ ที่เงินเฟ้อสูงกว่าไทยนั้น ค่าเงินของเขาอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เช่น

- รูเปีย อินโดนีเซีย อ่อนค่า 7.2%

- เปโซ ฟิลิปปินส์ อ่อนค่า 11%

- ดอลลาร์ ฮ่องกง อ่อนค่า 1%

- ปอนด์ อังกฤษ อ่อนค่า 1.5%

- รูปี อินเดีย อ่อนค่า 1.8%

มีสกุลเงินที่แข็งค่าเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์ คือเงินหยวนของจีน 0.3% เหรียญออสเตรเลีย 0.4% เหรียญสิงคโปร์ 2.3% และริงกิตมาเลเซีย 2.5% แต่ก็ยังน้อยกว่าเงินบาทมาก ประเทศที่เงินแข็งค่าขึ้นใกล้เคียงกับไทยมีอัตราเงินเฟ้อต่ำ เช่น ไต้หวันและเกาหลีใต้ (เงินแข็งค่าขึ้น 6.2% และ 5% ตามลำดับ)

ดังนั้น หากประเทศไทยมีความต้องการที่จะควบคุมเงินบาทไม่ให้แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ควบคุมเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าเงินเฟ้อที่กำหนดเอาไว้ กล่าวคือผมเชื่อว่า หากเงินเฟ้อของไทยเท่ากับ 2.5% ต่อปีอย่างต่อเนื่องและสหรัฐก็ยังคงเป้าเงินเฟ้อเอาไว้ที่ 2% ต่อปี ก็ยากที่เงินบาทจะแข็งค่าเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าไทยจะต้องเผชิญกับ e-commerce หรือราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง ราคาอาหารสดที่ต่ำเกินคาด หรือสังคมสูงอายุ แต่ประเทศอื่นๆ รวมทั้งสหรัฐก็น่าจะกำลังเผชิญปัญหาเดียวกันกับไทยครับ

โดย ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ

คอลัมนิสต์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเศรษฐกิจ คอลัมน์ "เศรษฐศาสตร์จานร้อน"

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/646756

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 13) อังกฤษประกาศมาตรการด้านภาษีแบบใหม่ หวังกล่อมรัฐสภาเปลี่ยนใจหนุน Brexit : รัฐบาลอังกฤษประกาศแผนการรับมือในกรณีการออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง โดยรัฐบาลวางแผนที่จะไม่เรียกเก็บภาษีสินค้าจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป ที่เข้ามายังไอร์แลนด์เหนือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 391-242 เสียงคว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU)


การประกาศแผนการดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่รัฐสภาอังกฤษจะลงมติในวันนี้ว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบ ก็จะลงมติในวันพฤหัสบดีว่าจะเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาออกไป รัฐบาลอังกฤษก็จะต้องเจรจากับ EU ในเรื่องดังกล่าว แต่หากรัฐสภามีมติไม่เรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาออกไป อังกฤษก็จะแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการตามกำหนดเดิมในวันที่ 29 มี.ค.


หากรัฐสภาอังกฤษลงมติเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค. ก็อาจส่งผลให้กลุ่มนักการเมืองที่สนับสนุน Brexit บีบให้คณะทำงานของนางเมย์ลาออกจากตำแหน่ง และอาจส่งผลให้รัฐบาลของนางเมย์ล่มสลายในที่สุด


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา


- UK will cut most tariffs to zero in event of no-deal Brexit : https://www.theguardian.com/politic...imports-cut-to-zero-in-temporary-no-deal-plan

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 13) สภาบัญชียันไม่เลื่อนใช้IFRS9 ยอมผ่อนเฉพาะกลุ่มแบงก์รัฐ : นายกสภาวิชาชีพบัญชียันไม่เลื่อน IFRS9 อีก เว้นเฉพาะ SFIs ที่จะขอขยับอีก 5 ปี "ผยง" แจงเร่งตั้งสำรองตามโมเดล ธปท.ในปีนี้ แจงปีนี้ รักษาระดับตั้งสำรอง 125% บวกลบ กดเอ็นพีแอลต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ฝั่งแบงก์ไทยพาณิชย์ย้ำพร้อมรับมาตรฐานบัญชีใหม่



นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองปลัด กระทรวงการคลัง ในฐานะนายกสภาวิชาชีพบัญชี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS9) จะไม่มีการเลื่อนออกไปอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีก 1 ปีแล้ว ดังนั้น จะคงเริ่มใช้ IFRS9 ในปี 2563 เนื่องจากขณะนี้ได้มีการเตรียมปรับระบบต่าง ๆ ไว้รองรับหมดแล้ว อย่างไรก็ดี จะมีเฉพาะในส่วนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) ที่ยังไม่พร้อม และจะมีการขอขยายเวลาออกไปอีก 5 ปี



"การบังคับใช้ IFRS9 ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ บริษัทจดทะเบียน และบริษัทประกัน ทุกอย่างเดินไปตามแผน ซึ่งไม่มีการเลื่อนออกไปอีก จะมีแต่ SFIs (แบงก์รัฐ) ที่จะขอขยายเวลาออกไป ซึ่งคงต้องรอทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่เป็นผู้กำกับดูแล SFIs ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเลื่อนอย่างไร" นายจักรกฤศฏิ์กล่าว



นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคาร เตรียมพร้อมรับมือการบังคับใช้ IFRS9 ใน ปีหน้า ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ "เพิ่ม" มากขึ้นเรื่อย ๆ มาอยู่ที่ระดับ 125% ณ สิ้นปี 2561 และปีนี้ก็จะรักษาไว้ที่ระดับดังกล่าวไว้ หรืออาจจะบวกลบเล็กน้อย ขณะเดียวกันได้ตั้งเป้าหมาย ลดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ลดลง เหลือต่ำกว่าระดับ 1 แสนล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2561 ที่ยังอยู่สูงกว่า 1 แสนล้านบาทเล็กน้อย



"ช่วงที่ผ่านมา ตัวเลข NPL ยังมีการเขย่งขึ้นลง ตามคำนิยามของแต่ละธนาคาร โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังเร่งดำเนินการ เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันในเรื่อง IFRS9 โดยการตั้งสำรองตามมาตรฐาน IFRS9 นี้ เราอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามโมเดล ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบพิสูจน์ทราบ ปรับแก้ตามคำแนะนำของ ธปท. นี่เป็นจุดที่เรากำลังจะเร่งทำในปีนี้" นายผยงกล่าว



นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เรื่องการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ของธนาคารเอกชนจะมีการเลื่อนหรือไม่นั้น คงจะต้องถามทาง ธปท. แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะเลื่อนจากกำหนดการเดิม



นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 ของธนาคารเอกชนยังไม่มีข่าวว่าจะเลื่อนการใช้ไปจากกำหนดเดิม คือ ปี'63 อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารมีการเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรฐานบัญชี IFRS9 มาตลอดอยู่แล้ว


Source: ประชาชาติธุรกิจ

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง


กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย(SDF)ที่สหรัฐหนุนหลัง: เผยว่ากลุ่ม"ก่อการร้ายไอเอส"กำลังจะปิดฉากลงแล้ว หลังSDFใช้กำลังรุกโจมตีอย่างหนักในฐานที่มั่นสุดท้ายของ"ไอเอส"ในซีเรีย และบรรดานักรบไอเอสและครอบครัวกว่า3,000คนยอมมอบตัวแล้ว/....

 

ชาวเวเนซุเอลา" โยนเงินทิ้ง เกลื่อนถนนไม่มีค่า น้ำและอาหารขาดแคลน

วันนี้ (13/03/2562) ถือว่าเข้าสู่วิกฤตอย่างหนักแล้วสำหรับ "ชาวเวเนซุเอลา" โดยล่าสุดได้ปรากฏภาพ ประชาชนทั่วประเทศเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงอาหาร ไม่มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคจนถึงขั้นต้องรวมตัวไปออกหาน้ำจากแหล่งกักเก็บน้ำเสีย เพื่อนำมาประทังชีวิต

โดยทาง เพจดังอย่าง Forex Investor Trader Survivor ได้โพสต์ข้อความและภาพระบุว่า เงินเกลื่อนพื้นแต่ไม่มีค่าไม่มีคนเก็บ ที่กรุง Caracas ประเทศเวเนซูเอล่า วันนี้เป็นวันที่หกแล้วที่ไม่มีไฟฟ้า-น้ำปะปาใช้ เกิดการปล้นสะดมร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และธนาคาร

ประชาชนบุกเข้าไปหยิบฉวยสินค้า อาหาร ยารักษาโรค และอุปกรณ์สำนักงานต่างๆที่พอจะนำมาแลกกับอาหารได้ ยกเว้นแต่เพียงอย่างเดียวที่ประชาชนไม่แตะต้องนั่นคือเงิน ที่เห็นเป็นกระดาษสีขาวตกกระจายอยู่ตามพื้นถนนนั่นคือเงิน bolivar ของเวเนซุเอล่า

‘เวเนซุเอลา’ไฟดับใกล้ครบอาทิตย์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน สถานการณ์ไฟดับในเวเนซุเอลาล่วงเลยใกล้ครบ 1 สัปดาห์ แต่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย ขณะที่สมัชชาแห่งชาติซึ่งฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน”

ด้าน ประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร กล่าวโทษการโจมตีทางไซเบอร์โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าเป็นสาเหตุของวิกฤติไฟฟ้าดับครั้งเลวร้ายที่สุดนี้ แม้ผู้นำฝ่ายค้านอย่าง ฮวน ไกวโด จะมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลจากการบริการประเทศที่ล้มเหลวรวมถึงการคอรัปชั่นของรัฐบาล นิโกลัส มาดูโร เองก็ตาม

ล่าสุดบนโลกออนไลน์ก็ได้ปรากฏภาพท้องถนนในกรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา ที่ผู้คนได้นำเงินสดมาโปรยทิ้งไว้เกลื่อนถนน โดยไม่มีใครคิดจะเก็บ หลังสกุลเงินโบลิวาร์เวเนซุเอลาเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อหนัก และเงินตรากลายเป็นเพียงเศษกระดาษ

 

กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้


เอิ่บ!! เอาที่มาเลย์สบายใจ การก่อการร้ายในไทยจะรุนแรงขึ้นไหม?


มาเลเซียเปิดโอกาสให้นักรบกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ISIS กว่า 100 คน สามารถเดินทางกลับมาตุภูมิของตนได้ ทั้งนี้ แต่ละคนต้องได้รับการประเมินจากทั้งนักจิตวิทยาและครูสอนศาสนา ว่าคนๆนั้นมีความเสี่ยงที่จะก่อเหตุหรือเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆซ้ำเดิมหรือไม่ และจะต้องเข้าโปรแกรมบำบัดทางจิตอีก 1 เดือน ก่อนที่จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตสังคมได้ปกติอีกครั้งหนึ่ง

.

อายุบ ข่าน มายดิน พิทเช หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่อต้านก่อการร้ายของสำนักงานตำรวจมาเลเซีย ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า หลังจากที่(อดีต)ผู้เข้าร่วมกลุ่ม ISIS กลับมาที่ประเทศแล้ว พวกเขาจะได้รับการสอบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข่าวกรองที่เชื่อถือได้ในต่างประเทศว่าแต่ละคนมีประวัติเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในตะวันออกกลางหรือไม่


ถ้าสืบสวนแล้วพบว่าคนๆนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุของ ISIS ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดี ปัจจุบันมีชาวมาเลเซียจำนวน 8 คน(เป็นผู้ชายทั้งหมด) ที่กำลังถูกไต่สวนคดีก่อการร้ายในชั้นศาลหลังจากเดินทางกลับ ขณะที่ผู้หญิงและเด็กอีก 3 คนได้เข้ากระบวนการบำบัดจนเสร็๋จสิ้นและกลับสู่ภูมิลำเนาของตนเป็นที่เรียบร้อย


ปัจจุบันเชื่อว่ามีชาวมาเลเซียประมาณ 50 คนที่ยังหลงเหลืออยู่ในซีเรีย ขณะที่อีก 13 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ได้หนีไปอาศัยที่ค่ายอพยพอัลฮอล และได้ติดต่อแสดงความจำนงอยากกลับบ้านกับทางกาชาดสากล ลิเดียเป็นหนึ่งในหญิงชาวมาเลเซียที่ต้องการกลับบ้าน หลังจากเธอพร้อมกับลูกทั้งสองคนและสามีได้หนีออกจากบ้านเกิดที่ยะโฮร์มาที่ซีเรียตั้งแต่ปี 2014 ทิ้งอาชีพนักเทคนิคการแพพทย์ไว้เบื้องหลัง

.

ในช่วงเวลากว่า 4 ปี ลิเดียได้ติดต่อกับพ่อของเธอเป็นระยะๆ พ่อของเธอพยายามเกลี้ยกล่อมหลายครั้งแต่ไม่ได้ผล จนเมื่อ ISIS ใกล้ถูกทำลายอย่างเบ็ดเสร็จ ท่าทีของรัฐบาลล่าสุดทำให้พ่อของเธอมีความหวังว่าลูกสาวและหลานๆของเขาจะกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง "ให้การกระทำครั้งนี้เป็นบทเรียนให้กับเธอ ตอนนี้เธอคงรู้แล้วว่าชีวิตในมาเลเซียดีกว่าชีวิตในรัฐอิสลามหลายเท่า" พ่อของลิเดียกล่าวทิ้งท้าย

 

วอนหยุดเผา‼️ ไฟไหม้ป่าลุกไหม้คลอก แหล่งรังนกยูง ตายเกลื่อน

 

ชาวสวนปาล์มน้ำตาร่วง ราคาตกเหลือแค่โลละ 1.90 บาท หลังโรงไฟฟ้าเมินไม่ซื้อ

เผยแพร่ วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2562
ชาวสวนปาล์มน้ำตาร่วง ราคาตกเหลือแค่ 1.90 บาท/กิโล หลังโรงไฟฟ้าเมินไม่ซื้อ จำใจตัดขาย อย่างน้อยก็ยังได้เงินกลับคืนไปบ้าง หารกันคนละครึ่งกับคนตัดก็ยังดี
ชาวสวนปาล์มน้ำตาร่วง – นายประชิด แสงขวัญ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมัน จำกัด เปิดเผยว่า ราคาปาล์มดิบหน้าลานเท ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2562 สามารถรับซื้อได้ในราคา กิโลกรัมละ 2.10 – 2.20 บาท และคาดว่าวันที่ 13 มี.ค. จะปรับตัวลดลงเหลือเพียง 1.90 บาท ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่ กิโลกรัมละ 2.80 บาท เนื่องจากสต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศยังมีมากประมาณ 4-5 แสนตันยาวนานตั้งแต่ปีก่อนหน้า เกษตรกรได้เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาโดยกำหนดนโยบายให้นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า 1.6 แสนตัน ซึ่งจะส่งผลให้สต๊อกลดลง

แต่ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้า ใช้น้ำปาล์มไปแล้วเพียง 4,000 ตันเท่านั้น และหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ในขณะที่โรงกลั่น ไม่กระตือรือร้นที่จะซื้อน้ำมันปาล์ม เพราะเห็นว่าฤดูกาลปาล์มน้ำมันปีนี้จะออกสู่ตลาดมากที่สุดในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. ของทุกปี อีกทั้งราคาน้ำมันปาล์มในมาเลเซียก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยอยู่ที่ ลิตรละ 14-15 บาท ใกล้เคียงกับของไทยที่ลิตรละ 14 บาท ทั้งหมดจึงส่งผลให้ราคาปาล์มดิบที่เกษตรกรได้รับปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวคงต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไข เพราะช่วงนี้อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนรัฐบาล การทำงานเชิงปฏิบัติจะลำบาก และสามารถใช้นโยบายที่กำหนดไปแล้วมาเป็นข้ออ้าง แม้ว่าจะไม่ได้ผลทางปฏิบัติก็ตาม

“เกษตรกรตอนนี้ต้องทนไปก่อน ปาล์มที่สุกแล้วต้องตัด อย่างน้อยก็ยังได้เงินกลับคืนไปบ้าง หารกันคนละครึ่งกับคนตัดก็ยังดี กว่าปล่อยให้ร่วงคาต้น ในขณะที่ชุมนุมสหกรณ์ฯ ยังรับซื้ออยู่ตามราคาตลาด

https://www.sentangsedtee.com/today-news/article_107220

 

องค์การอนามัยโลก เตือนรับมือ “ไข้หวัดใหญ่” ระบาดทั่วโลก
มีนาคม 13, 2019

FILE - Workers disinfect passing vehicles in an area after the latest incident of African swine flu outbreak on the outskirts of Beijing, China, Nov. 23, 2018.

นครเจนีวา, สวิตเซอร์แลนด์ —

WHO Flu Epidemic
by VOA
The code has been copied to your clipboard.



องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกแผนกลยุทธ์ในระดับโลก เพื่อป้องกันวิกฤตการณ์ไข้หวัดใหญ่จากการเป็นโรคระบาดใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านชีวิตทั่วโลก

ทางองค์การอนามัยโลก เตือนว่าคำถามในตอนนี้ไม่ใช่ว่าไข้หวัดใหญ่จะกลายเป็นโรคระบาดครั้งใหญ่หรือไม่ แต่ต้องถามว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็ว และเข้าถึงทั่วทุกมุมโลก ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนเท่านั้น

โดยกลยุทธ์สกัดไข้หวัดใหญ่ในระดับโลกของ WHO คือการยกระดับระบบตรวจสอบติดตามการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องมือในการป้องกันและควบคุมไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก

แอน โมเอน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลก ที่ดูแลเรื่องไข้หวัดใหญ่ ย้ำกว่าการพัฒนาวัคซีนที่ให้ภูมิคุ้มกันที่ยาวนานกว่าเดิมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ เช่นเดียวกับการพัฒนายาต้านไวรัสและยกระดับการรักษาโรค

คุณโมเอน เตือนว่า การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งทุกประเทศสามารถเตรียมการได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นก่อน และไม่ควรประเมินความเสี่ยงดังกล่าวต่ำเกินไป

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ประเมินว่า ผู้คนอย่างน้อย 1 พันล้านคนทั่วโลกล้มป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ทุกๆปี คร่าชีวิตราว 290,000-650,000 คน

องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า แนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดยังคงเป็นการฉีดวัคซีน แต่อุปสรรคสำคัญก็คือการผลิตวัคซีนที่ป้องกันได้ตรงจุด จะต้องอาศัยการระบุสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่ถูกต้องแม่นยำมากพอ ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน


https://www.voathai.com/a/preparati...-off-the-next-influenza-pandemic/4826284.html

 

ปมชายแดนใต้

ครบรอบ 59 ปี BRN ทั้งที ทำอะไรให้มันสมศักดิ์ศรีนักรบของ BRN หน่อยสิ หรือว่ามันเป็นวิธีการของนักรบ BRN ลอบยิง ลอบวางระเบิดยังไม่เท่าไร แต่งหญิง คลุมฮิญาบแบบนี้มัน "ไร้ศักดิ์ศรี" ว่ะ
ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ คนร้ายได้แต่งกายคล้ายหญิง ใส่ชุดฮิญาบปิดใบหน้าเพื่อปิดบังอำพรางซ่อนเร้นกาย ลงมือทำการก่อเหตุ ขี่รถมอไซด์ ขว้างไบร์บอม ใส่จุดสกัด ตร.สภ.ยีงอ จ.นราธิวาส
ล่าสุด (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.10 น. สภ.ยี่งอ รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายจำนวน 2 คน แต่งกายใส่เสื้อครุมสีดำแบบผู้หญิง ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ขว้างระเบิดชนิดแบบขว้าง(ไบร์บอม) ใส่ ชป.ตร.สภ.ยี่งอ ขณะตั้งจุดสกัดอยู่บริเวณ หลัง สภ.ยี่งอ
จนท.ได้ยิงตอบโต้ไป 4-5 นัด ..ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณ แยกมณีชยางกูล อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส...มีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป..!!

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง
กระแสไฟฟ้าในเมือง"การากัส"เมืองหลวงของเวเนซูเอลากำลังกลับมาTASSรายงาน: ในความมืดจะเห็นระบบไฟฟ้าถนนส่วนมากใช้งานได้ และมีแสงสว่างจากบ้านบางหลังชาวบ้านเมืองการากัสเริ่มมีไฟฟ้าใช้ เมื่อวันพฤหัสบดีในช่วงเย็นเมืองการากัสเกือบทุกรัฐในเวเนซูเอลาไม่มีกระแสไฟฟ้าเป็นการขาดกระแสไฟฟ้าที่ยาวนานที่สุดเท่าที่ชาวเมืองจำได้ เหตุการณ์ดังกล่าวมีรายงานว่าเกิดขึ้นจาก"การก่อวินาศกรรม"ที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำSimon BolivarในรัฐBolivarซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรประณาม"ลัทธิจักวรรดินิยมอเมริกัน"ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้/เมื่อเย็นวันศุกร์การส่งกระแสไฟฟ้าดีขึ้น แต่ก็แย่ลงไปอีกในวันเสาร์ หลังจากมีรายงานโรงไฟฟ้าที่ชานเมืองCiudad Bolivar"ระเบิด"รัฐบาลเวเนซูเอลาประกาศให้วันจันทร์เป็นวันหยุด เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้/

 

แนะนำขนมอร่อย ๆ ในปัตตานี ปกติเราไม่ค่อยกินของทอด แต่ขนมคุณยายเป็นข้อยกเว้น โดนัททอดเสียบไม้ไส้ต่าง ๆ มีทั้งไส้กรอกไก่ เต้าหู้ปลา ไก่หยองน้ำพริกเผา ไม้ละ 5 บาทเองนะคะ ซื้อทีสองไม้ อิ่มเลย คุณยายทำเองค่ะ ทำขายมาหลายสิบปีแล้ว อร่อย แป้งกรอบ ไม่มีอมน้ำมัน ไม่หวานด้วย พิกัดหน้าเซเว่นแยกโรงเหล้า ช่วงห้าโมงเย็นค่ะ คุณยายจะเข็นรถเข็นมาไกลเลย จากหน้าโรงเรียนเดชะแน่ะ แกไปขายตรงนั้นก่อน


#ฝากอุดหนุนด้วยครับ


Cr : Anticha Sangchai

 

อดีตปลัดกห. เชื่อมั่นไทยไม่มีเอี่ยวรัฐวิสาหกิจยูเครนย้อมแมวขายอาวุธแพงเกินจริง 10 เท่า เขียนวันที่
วันพุธ ที่ 13 มีนาคม 2562 เวลา 10:34 น.
เขียนโดย isranews

อดีตปลัด กห. แจงปมไทยซื้อรถหุ้มเกราะBTR3E1 หลังรัฐวิสาหกิจยูเครนถูกสอบสวนปมทุจริตย้อมแมวขายราคาเกินจริง 10 เท่า เชื่อมั่นกองทัพไทยไม่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน แต่ถ้า ตปท.มีปัญหาแบบนั้นจริง ถือว่าเราโชคร้ายมากกว่า เพราะไม่เคยทราบข้อมูลเรื่องนี้มาก่อน แนะ 'อิศรา' ถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา' เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในช่วงเวลานั้นด้วย



สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดตามประเด็นการทุจริตที่เกิดขึ้นในประเทศยูเครนกรณีรัฐวิสาหกิจด้านการป้องกันประเทศยูเครน ที่ชื่อว่า Ukroboronprom อาจจะเข้าสู่ภาวะการชำระบัญชี เนื่องจากการสอบสวนการทุจริตพบว่ามีการจัดซื้อชิ้นส่วนอะไหล่อาวุธที่สูงเกินราคาจริงถึง 300 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงกรณีการนำเข้ารถหุ้มเกราะมายังยูเครนนับร้อยๆคันจากประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออกที่มีรถหุ้มเกราะจนล้นที่เก็บ โดยบริษัทผู้นำเข้าจะแจ้งว่าสินค้าที่นำเข้าเหล่าเป็นอะไหล่สำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ มีการถอดชิ้นส่วนทั้งหมดออก และเมื่อขนย้ายถึงประเทศยูเครน ก็นำมาประกอบเข้ากันใหม่อีกครั้งหนึ่ง และขายด้วยราคาที่สูงมากกว่าราคาเดิมถึงสิบเท่า

ขณะที่จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า กองทัพไทยเคยจัดซื้อรถถังรุ่น T84 Oplot และรถหุ้มเกราะBTR3E1 จากจากประเทศยูเครนด้วยเช่นกัน โดย พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสำนักข่าวอิศราว่ากรณีดังกล่าวจะไม่กระทบกับกองทัพไทยอย่างแน่นอน เพราะทางประเทศไทยทำสัญญาซื้อขายอาวุธกับประเทศยูเครนแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งประเทศยูเครนจะต้องรักษาสัญญาในทุกกรณี (อ่านประกอบ:ส่องคดีทุจริตโลก : เปิดโปงขบวนการทุจริตขายอาวุธยูเครน โยงข้อมูลธุรกิจบริษัทประธานาธิบดี?,ส่องคดีทุจริตโลก: เมื่อรัฐวิสาหกิจขายอาวุธยูเครนส่อโดนยุบจากข้อหาทุจริต 295ล.,โฆษกกลาโหม แจงปมยูเครนสอบทุจริตรัฐวิสาหกิจในปท.ขายอาวุธ- เชื่อไม่กระทบกองทัพไทย)

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า การจัดซื้อรถหุ้มเกราะรุ่น BTR3E1 ของประเทศไทย มีการสั่งซื้อลอตแรกในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งอดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงเวลาที่มีการสั่งซื้อลอตแรกเกิดขึ้น เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดซื้อรถหุ้มเกราะรุ่น BTR3E1 ดังกล่าว

พล.อ.อภิชาต ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า เท่าที่จำรายละเอียดได้ ในการสั่งซื้อรถหุ้มเกราะรุ่นดังกล่าวนั้น ส่วนตัวเคยเสนอแนะให้มีการจัดซื้อรุ่นที่มีประตูเปิดรถหุ้มเกราะจากทางด้านท้ายแทนด้านข้างเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล และเสนอให้ใช้รถหุ้มเกราะที่มีขีดความสามารถบรรจุกำลังพลได้ 11 นาย แต่อย่างไรก็ตาม เป็นความต้องการของทางกองทัพบกที่เป็นผู้ใช้เขาซึ่งต้องการรถแบบนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ยินยอมตามความต้องการของกองทัพบก

พล.อ.อภิชาตกล่าว ยังระบุด้วยว่า "ก็เคยได้ยินเหมือนกันว่าทางรัสเซียเขาก็เคยท้วงว่ายูเครนได้มีการเอารถหุ้มเกราะจากสมัยสหภาพโซเวียตมาดัดแปลง และรัสเซียก็พยายามจะยืนยันว่าเป็นต้นแบบของรถหุ้มเกราะรุ่นดังกล่าวนี้"

ส่วนประเด็นเรื่องข้อกล่าวหาการทุจริตในเรื่องกรณีการถอดชิ้นส่วนและประกอบใหม่ โดยขายแพงเกินราคาดั้งเดิมถึง 10 เท่า ของ รัฐวิสาหกิจด้านการป้องกันประเทศยูเครน ที่ชื่อว่า Ukroboronprom ซึ่งกำลังมีการสอบสวนสืบสวนอยู่ในขณะนี้นั้น

พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า "เชื่อมั่นว่ากองทัพไทยนั้นคงไม่ได้ไปมีส่วนทุจริตกับเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่มองว่าเราคงโชคร้ายมากกว่า เพราะต้องยอมรับว่าทางกองทัพไทยไม่ได้ทราบในประเด็นเหล่านี้เลยทั้งกรณีการทุจริตของยูเครน และคงไม่อาจจะทราบได้เลยว่ารถหุ้มเกราะที่ทางยูเครนนำมาขายให้กองทัพนั้น มันจะถูกแยกชิ้นส่วนแล้วประกอบขึ้นมาใหม่ โดยขายเกินราคาจริงไปถึง 10 เท่าหรือไม่ ซึ่งจากกรณีดังกล่าวนั้นก็คงต้องรอว่าการสอบสวนของทางยูเครนนั้นจะได้ผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง"

พล.อ.อภิชาต กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับประเด็นนี้นั้น สำนักข่าวอิศราน่าจะต้องไปสอบถามกับทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกในช่วงเวลานั้นด้วย เพราะน่าจะทราบข้อมูลกรณีนี้"

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ได้พยายามติดต่อไปยัง พล.ร.ท. ศังกร พงษ์ศิริ ผู้บัญชาการหน่วยนาวิกโยธิน เพื่อจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แต่ทางด้านของเจ้าหน้าที่ทหารเรือนายหนึ่งได้ขอให้ทางสำนักข่าวอิศราได้ฝากประเด็นที่ต้องการสอบถามเอาไว้ แล้วจากนั้นจะนำเรียนไปยัง พล.ร.ท.ศังกร ให้รับทราบ


https://www.isranews.org/isranews/74629-ukraine-74629.html

 

มารา กล้วยตานี

#เตือนแล้วน่ะ แขวนป้ายผ้า พ่นสีสเปรย์ “PATTANI 110” ผิดกฎหมายตามมาตรา 116 คุก 7 ปี
×**********×*********/****/×*********/****×
กรณีเหตุระเบิดที่ จ.สตูล และ จ.พัทลุงที่เกิดขึ้น เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์วันครบรอบ 110 ปี สนธิสัญญายกพื้นที่แหลมมาลายูให้อังกฤษปกครอง 9 มี.ค.1909 และเป็นที่มาของการพ่นสีข้อความ “PATTANI 110” ในหลายๆ พื้นที่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา
การแขวนป้ายผ้า พ่นสีสเปรย์มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ความผิดตามมาตรานี้คือ “ยุยงปลุกปั่น” ได้บัญญัติไว้ว่า
“ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต
(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย
(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(3) เพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี”

 

Chalee Na Roied

ก่อนหน้านั้นผมเคยพูดถึงประเด็น ความขัดแย้งระหว่างอินเดีย และปากีสถาน จนจวนเจียนจะเกิดสงคราม และผมก็เลยพูดถึงโครงการระเบียงเศรษฐกิจระหว่างจีนและปากีสถาน(CPEC)ซึ่งเชื่อมต่อกับท่าเรือ กวาดาร์ของปากีสถานและมณฑลซินเจียงของจีน ซึ่งอยู่ติดแคว้นแคชเมียร์ บริเวณพื้นที่ๆเกิดความขัดแย้ง ซึ่งแน่นอนว่านี่คือ เส้นทางขนส่งรวมถึงท่อส่งน้ำมัน จากปากีสถานไปยังจีนในอนาคต เพื่อลดความแออัด ของเรือขนส่งน้ำมัน ในช่องแคบมะละกา รวมถึงเป็นทางเลือกของจีน หากเกิดการเผชิญหน้ากันในอนาคต บริเวณช่องแคบดังกล่าว จากยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐ ในศตวรรษที่ 21 ที่กำลังแข่งกับเส้นทางสายไหมของจีนนั่นเอง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พลเอก โจเซฟ โวเทล ผู้บัญชาการ "US central command (CENTCOM)" ซึ่งกำกับดูแลฐานทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง ได้เข้าให้ข้อมูลและตอบคำถาม กับคณะกรรมาธิการด้านการทหารสหรัฐว่า เขาเริ่มกังวลกับโครงการเส้นทางสายไหมของจีน(Belt and road initiative) โดยเฉพาะโครงการความร่วมมือระหว่าง จีนและปากีสถานในท่าเรือ กวาดาร์ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นฐานทัพเรือของจีน จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในทะเลอาระเบีย ที่จะใช้เชื่อมต่อเส้นทางหลักที่ใช้ในการสัญจรทางทะเล กับทวีปแอฟริกาในอนาคต(Sea lines of communication "SLOC")นั่นเอง

เพราะท่าเรือดังกล่าว จะเชื่อมต่อกับเส้นทางบนบกไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ เส้นทางขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางมายังจีน แลกเปลี่ยนสินค้าจากจีน ไปยังตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกาในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าจีนจะใช้ กองทัพเรือประชาชนจีนจะปกป้องเส้นทาง สัญจรทางทะเล(SLOC)ดังกล่าวไปจนถึงทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ และเขตอิทธิพลของกองกำลังสหรัฐในแอฟริกา(US Africa command) นั่นเอง

นี่เป็นครั้งแรกที่นายทหารระดับสูงของอเมริกา ออกมาแสดงความวิตกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเท่ากับยอมรับว่า ตลอดระยะที่ผ่านมา สหรัฐและอินเดียได้พยายาม ต่อต้านโครงการความร่วมมือ(CPEC) ระหว่างจีนและปากีสถาน ในสงครามผสมผสาน(Hybrid war)มาโดยตลอด แต่ไม่ประสบผลสำเร็จนั่นเอง

https://dailytimes.com.pk/364236/centcom-is-taking-s-cpec-real-seriously/

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง



ปากีสถานย้ายฝูงบินรบF-16ทั้งหมดไปยังชายแดนที่ติดกับอินเดีย: ปากีสถานได้ออกคำเตือนไปยังอินเดียไม่ให้ดำเนินการอะไรก็ตามที่อาจมีผลกระทบที่เลวร้ายต่อการเลือกตั้งระดับชาติที่กำลังจะมีขึ้นในประเทศ:/โดยก่อนหน้านี้อินเดียได้ออกมาระบุว่าอินเดียจะยังคงรักษาระดับความพร้อมทางการทหารไว้อย่างเหมาะสมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น /และปากีสถานได้ย้ายกำลังฝูงบินF-16ทั้งหมดไปประจำการตามแนวชายแดนอินเดีย โดยเจ้าหน้าที่ของปากีสถานยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นในประเด็นนี้ ความจริงที่ว่ารัฐบาลปากีสถานยังไม่ได้เปิดน่านฟ้าตามแนวชายแดนอินเดียที่ถูกปิด หลังจากอินเดียดำเนินการโจมตีทางอากาศในเดือนก.พ.ซึ่งการปิดน่านฟ้านี้ถูกมองว่าเป็นตัวบ่งชี้ว่ากองทัพปากีสถาน(PAF)กำลังตื่นตัวและเตรียมพร้อมปฏิบัติการอย่างเต็มที่ นอกจากนี้หน่วยบัญชาการใหญ่Rawalpindi10หน่วย พร้อมกับหน่วยปฏิบัตการพิเศษจากSialkotของกองทัพปากีสถานได้ย้ายมาประจำการตามแนวชายแดนเส้นแบ่งเขตแดน(LOC)ในเขตจามูและแคชเมียร์ แหล่งข่าวกลาโหมระบุว่ากองทัพปากีสถานยังเริ่มเคลื่อนไหวกองทัพที่ประจำการอยู่Balochistanไปยังชายแดนติดกับอินเดียตั้งแต่ในวันที่28ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทางปากีสถานได้ออกมาปฏิเสธว่าPAPได้ใช้เครื่องบินF-16ต่อต้านอินเดียในระหว่างที่มีการปะทะกันทางอากาศครั้งล่าสุด และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศของปากีสถาน ได้ออกมาแถลงอีกครั้งหนึ่งว่าเจ้าหน้าที่อินเดียได้สร้างข่าวลือที่ใช้หลักฐานว่า"เครื่องบินของอินเดียได้ยิงเครื่องบินF-16ของปากีสถานตก"/กองทัพอากาศอินเดียได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศกับค่ายของกลุ่มก่อการร้ายมูฮัมหมัดในพื้นที่Balakotที่ตั้งอยู่ในปากีสถาน และระบุว่าเป็นการโจมตีที่ไม่ได้มุ่งเป้าที่พลเรือหรือทหาร และเป็นการโจมตีที่ไม่ได้ตั้งใจสร้างความเสียหายกับชีวิตหรือระบบโครงสร้างพื้นฐานตลอด15วันที่ผ่านมาทั้ง2ฝ่ายต่างก็ยิงระเบิดพร้อมกับอาวุธหนักและปืนใหญ่โต้ตอบกัน/

https://sputniknews.com/asia/201903121073149567-india-pakistan-f-16-kashmir-border/

 

ศาลมาเลย์ตัดสินจำคุก 7 เดือน หนุ่มโพสต์เฟสหมิ่นศาสนาอิสลาม-ศาสดา โดย กองบรรณาธิการ - 13 มีนาคม 2019

นายโมฮัมหมัด ยาซิด กงอับดุลเลาะห์ (ที่สองจากซ้าย) ที่ศาลกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (Bernama pic)
เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ศาลมาเลเซียพิพากษาให้จำคุกชายคนหนึ่งเป็นเวลา 7 เดือน และปรับเขา 10,000 ริงกิต (ประมาณ 9 หมื่นบาท) สำหรับการหมิ่นประมาทศาสดามูฮัมหมัดและศาสนาอิสลามบนสื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ข่าวฟรีมาเลเซียทูเดย์รายงาน

“ความผิดที่คุณกระทำนั้นร้ายแรง เพราะคุณกำลังท้าทายศาสนาอิสลาม ศาสนาตามรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐ” ผู้พิพากษา ฮัซบุลเลาะห์ อาดัมกล่าวในการพิพากษา นายโมฮัมหมัด ยาซิด กงอับดุลเลาะห์ ซึ่งทำผิดภายใต้มาตรา 233 (1) (a) แห่งพระราชบัญญัติการสื่อสารและมัลติมีเดีย (CMA)

ถ้ายาซิดไม่สามารถหาเงินมาชำระค่าปรับได้ เขาจะต้องรับโทษเพิ่มอีกสองเดือน ผู้พิพากษากล่าว

ยาซิด ถูกกล่าวหาว่าโพสต์เฟสบุ๊ค 3 ครั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ดูหมิ่นศาสนาอิสลามและศาสดา นายมูฮัมหมัด ซัยฟุดดีน มุสตาฟา ผู้ใช้โซเชียลที่ได้อ่านโพสต์ของเขาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

ยาซิดถูกจับที่บ้านของเขาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ตำรวจยึดโทรศัพท์มือถือและโมเด็ม WiFi

ทนายความของยาซิดอ้อนวอนขอความกรุณาจากศาล โดยกล่าวว่าลูกความของตนเป็นผู้กระทำความผิดครั้งแรก ทั้งมีภรรยาและลูกเล็กที่ต้องดูแล

“ เขาเปลี่ยนมานับถืออิสลามเมื่อเขาแต่งงาน แต่เขาไม่ได้คำแนะนำใดๆ จากฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องศาสนา” ทนายความกล่าว

เขาเสริมว่า ยาซิดจะขอโทษต่อสาธารณชนต่อการกระทำของเขา

อย่างไรก็ตามรองอัยการฝ่ายกิจการสาธารณะ มูอัมหมัด กามาล เรียกร้องให้ศาลกำหนดโทษจำคุก โดยอ้างเหตุผลว่าการดูหมิ่นศาสนาเป็นความผิดที่ร้ายแรง

“สเตตัสบนเฟสบุ๊คของเขาทำให้เกิดความโกรธแค้นต่อชุมชนมุสลิมที่นี่” เขากล่าว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วชายอีกคนในซาราวักก็ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี 10 เดือน โดยศาลในกูชิง (Kuching) สำหรับความผิดเดียวกัน เขารับสารภาพทั้ง 10 ข้อหาที่ถูกตั้งกับเขา

ส่วนชายอีกคนหนึ่งก็ถูกตั้งข้อหาที่ศาลเดียวกันนี้เมื่อเดือนที่แล้วกรณีดูหมิ่นศาสนาอิสลามและศาสดาผ่านทางภาพการ์ตูนบนหน้าเฟสบุ๊คของเขา

https://www.publicpostonline.net/24404

 

การหมิ่นศาสดามูฮัมหมัดส่วนใหญ่ก็มาจากเรื่อง ผู้หญิงทั้งนั้น และการที่ท่านมีเมียมากก็จริง เมียอายุน้อยก็จริง เอาเมียลูกบุญธรรมมาเป็นเมียก็จริง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่ไร้คุณธรรม ถึงจะนำเอาพระเจ้ามาอ้าง ก็ไม่ได้ทำสิ่งที่ไร้คุณธรรมให้มีคุณธรรมไปได้

 

Kike Hernandez

มีรายงานความเสียหายใน ฟอร์ตเวิร์ธ เท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยลมกรรโชกแรงในเช้าวันนี้