ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    สหรัฐอเมริกา



    พายุทอร์นาโดขนาดใหญ่ที่แตะพื้นใกล้กับ Hagerman, New Mexico เมื่อวันที่ 12 มีนาคม
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mundo Extremo



    ไซเรนเตือนดังขึ้นเมื่อคืนที่ดัลลัส เท็กซัส สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดที่ไม่มีพายุหรืออะไรในเวลานั้น
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    IMG_0611.JPG
    แบบฝึกหัดทางทะเลที่ยอดเยี่ยมของประเทศสหรัฐอเมริกา บนชายฝั่งของเวอร์จิเนีย


    ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียม ...


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    IMG_0612.JPG

    สังเกตขนาดของพายุไซโคลนที่น่ากลัวที่จะเกิดขึ้นในใจกลาง สหรัฐอเมริกา ในเวลาไม่ถึง 36 ชั่วโมง ....

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2019
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    # คำเตือน

    IMG_0613.JPG
    คำเตือนของลมแรงสำหรับชายแดนตาเมาลีปัส เม็กซิโกจากช่วงเวลานี้ ....


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    นี่คือวิธีที่ผู้คนอาศัยอยู่ในโมซัมบิก (แอฟริกา) ซึ่งพายุไซโคลนระดับ 4 จะส่งผลกระทบในเวลาน้อยกว่า 36 ชั่วโมงมีฝนตกมากถึง 800 มม.

    IMG_0614.JPG IMG_0615.JPG IMG_0616.JPG IMG_0617.JPG IMG_0618.JPG

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez


    พายุไซโคลนเข้าไอร์แลนด์ ใน 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา


    คลื่นที่น่าทึ่ง ....


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mundo Extremo



    ลมพัดฝุ่นที่น่ากลัวใน asutralia

    12.03.2019
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    ช่วงบ่ายวันนี้มีพายุทอร์นาโดหลายแห่งเกิดขึ้นใน นิวเม็กซิโกสหรัฐอเมริกา

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    #ด่วน # ชั่วโมงสุดท้าย

    สหรัฐอเมริกาได้ขอให้ประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ใน venzuela หรือผู้ที่เดินทางไป ให้ออกจากเวเนซูเอลาทันที

    เมื่อวานนี้นักการทูต วันนี้เป็นพลเมือง

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mundo Extremo


    น่ากลัว



    ผู้ชายรอดอย่างปาฏิหาริย์ เมื่อหลังคาตกลงมา เนื่องจากพายุรุนแรงในเซาเปาโล ประเทศบราซิล

    2019/03/10
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mundo Extremo



    waterspout ที่น่ากลัวใน Nebraska สหรัฐอเมริกา

    2019/03/11
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    #ULTIMA #HORA



    พวกเขาปล้นศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติใน venzuela
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    นี่คือเรื่องที่ควบคุมไม่ได้



    พวกเขาพบหัวของเสือจากัวร์ในถังขยะในเวเนซุเอลา มีข่าวลือว่าพวกเขากินเสือจากัวร์เพราะขาดอาหาร lack
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    E4B88855-1FDC-487F-B4C3-95622CCD113D.jpeg

    (Mar 12) ปฏิรูปภาษีฟิลิปปินส์ ต้นตอ'เอฟดีไอ'สะดุด : การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ในฟิลิปปินส์ ลดลง 4.4% เทียบกับปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 9,800 ล้านดอลลาร์ ผลจากนักลงทุนมีความวิตก มากขึ้นว่าแผนการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต อาจสร้าง ความเสียหายต่อบรรยากาศการลงทุนของประเทศ

    เอฟดีไอฟิลิปปินส์ร่วงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2558 โดยในช่วง 2 ปีแรกที่ดูเตอร์เตเข้ามาบริหาร ฟิลิปปินส์มีเงินลงทุนไหลเข้าประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าตัวเลขเอฟดีไอในปีที่แล้วถือว่ายังสูง แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างกังวลว่าประเทศอาจสูญเสีย เงินทุนจากต่างชาติ หากบรรยากาศการลงทุน ยังไม่มีความแน่นอน ธนาคารกลางฟิลิปปินส์เคยตั้งเป้าเอฟดีไอ ไว้ที่ 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับปี 2561 สูงกว่าสถิติเงินลงทุนไหลเข้าประเทศในปี 2560 เล็กน้อย ซึ่งอยู่ที่ 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์

    การลงทุนจากต่างประเทศเป็นตัวแปรสำคัญของการจ้างงานในฟิลิปปินส์ แต่การ ลงทุนภายในประเทศกลับยังตามหลังเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเวียดนาม ซึ่งมีเอฟดีไอ 3.55 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว

    บรรดานักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า การเติบโตของการลงทุนในฟิลิปปินส์ที่อยู่ในระดับ ปานกลาง เป็นผลจากการติดขัดของ โครงสร้างพื้นฐาน นโยบายรัฐบาลที่ไม่แน่นอน และการคุมเข้มการถือหุ้นของต่างชาติ

    กฎหมายท้องถิ่นอนุญาตให้บริษัท ต่างชาติในหลายอุตสาหกรรม ถือหุ้นได้สูงสุด 40% ขณะที่บางอุตสาหกรรม เช่น สื่อ ยังไม่เปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ

    นิโคลัส อันโตนิโอ มาปา นักเศรษฐศาสตร์ อาวุโสของไอเอ็นจี แบงก์ เอ็นวี มะนิลา กล่าวว่า ความไม่แน่นอนจากโครงการปฏิรูปภาษีอาจทำให้นักลงทุนบางส่วนเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ก่อน

    ปีที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์อนุมัติ ร่างกฎหมายยกเครื่องอัตราภาษีนิติบุคคลและมาตรการจูงใจทางการเงินของประเทศ

    มาตรการปฏิรูปภาษีของดูเตอร์เตมีจุดประสงค์เพื่อลดอัตราภาษีนิติบุคคลให้เหลือ 20% ใน 10 ปี จากอัตรา 30% ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นอัตราสูงที่สุดอันดับต้นๆ ใน 10 ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

    นอกจากนั้น รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังพิจารณามาตรการใหม่ที่มุ่งเพิ่มผลประโยชน์แก่นักลงทุน เช่น การยกเว้นภาษีสำหรับอุตสาหกรรมใหม่อย่างวิทยาการหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงนี้ รัฐบาล จึงเสนอร่างกฎหมายที่มีเป้าหมายเพื่อลดมาตรการจูงใจภาษีซึ่งบรรดาผู้ส่งออก ผู้ผลิต การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และอุตสาหกรรม การจ้างคนนอกดำเนินการธุรกิจบางส่วน (บีพีโอ) ได้รับประโยชน์อย่างมาก โดยปัจจุบัน บีพีโอ เป็นแหล่งเงินทุนสำรองต่างประเทศที่มีเสถียรภาพของฟิลิปปินส์และสร้างงานให้กับคนท้องถิ่นได้ราว 1 ล้านคน

    อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้นักลงทุนบางส่วนตื่นตระหนก เอฟดีไอ ของฟิลิปปินส์ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วง 7 เดือนแรกของปีที่แล้ว โดยเติบโตมากถึง 161% ในเดือนก.ค. ก่อนจะซบเซาลงเรื่อยๆ นับจากนั้นมา

    การเติบโตทางทางเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีเมื่อปี 2561 เนื่องจากเงินเฟ้อสูงและการ บริโภคต่ำฉุดการขยายตัวของประเทศลงมาอยู่ที่ 6.2% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลมาปาจากไอเอ็นจี ระบุว่า กระแสเอฟดีไอ อาจยังมีเสถียรภาพในปีนี้ เนื่องจากบรรดานักลงทุนในขณะนี้มีแนวโน้มจะลงทุน ในประเทศต่อเนื่อง ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจอันคึกคัก


    Source: กรุงเทพธุรกิจ


    - Philippines gets $9.8 billion FDI in 2018, posts first drop in three years : https://www.reuters.com/article/us-...posts-first-drop-in-three-years-idUSKBN1QS0Y9
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_0621.JPG
    (Mar 12) ตลาดหุ้นยุโรป,ปอนด์พลิกร่วงวันนี้ วิตกสภาอังกฤษคว่ำข้อตกลง Brexit : ตลาดหุ้นยุโรปและปอนด์ต่างก็ร่วงลงในวันนี้ แม้ดีดตัวขึ้นในช่วงแรก โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลต่อการที่รัฐสภาอังกฤษอาจคว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันนี้ หลังจากที่อัยการสูงสุดของอังกฤษออกมาเตือนว่า ข้อตกลงดังกล่าวยังคงมีความเสี่ยงทางกฎหมาย


    ในช่วงแรก ตลาดหุ้นยุโรปและปอนด์ได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้รับความเห็นชอบจากผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ให้ทำการเปลี่ยนแปลงข้อตกลง Brexit โดยมีผลผูกพันทางกฏหมาย ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า อังกฤษจะแยกตัวจาก EU โดยมีการบรรลุข้อตกลง


    อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นและค่าเงินปอนด์ได้พลิกปรับตัวลง หลังจากที่นายเจฟฟรีย์ ค็อกซ์ อัยการสูงสุดของอังกฤษ ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวยังคงมีความเสี่ยงทางกฎหมาย ส่งผลให้ดัชนี STOXX 600 ของตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลง 0.2% หลังจากดีดตัว 0.4% ในช่วงแรก ขณะที่ปอนด์ทรุดตัวลง 1.2% เทียบยูโร และร่วงลง 0.8% และ 0.7% เทียบดอลลาร์ และเยนตามลำดับ


    นักวิเคราะห์ระบุว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะประสบความพ่ายแพ้ในวันนี้ หากยังคงเดินหน้าให้รัฐสภาลงมติต่อข้อตกลง Brexit

    "หากนางเมย์เดินหน้าให้สภาโหวตข้อตกลง Brexit ในวันนี้ หลังจากที่มีการแสดงความเห็นจากอัยการสูงสุด นางเมย์ก็จะประสบกับความพ่ายแพ้ โดยอาจแพ้ด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 100 เสียง" นายคริส ไซคลูนา นักวิเคราะห์จากไดวา แคปิตัล มาร์เก็ตส์ กล่าว


    ทั้งนี้ นายเจฟฟรีย์ ค็อกซ์ อัยการสูงสุดของอังกฤษ เผยแพร่ความเห็นของเขาเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit ฉบับล่าสุดที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำ EU เมื่อวานนี้


    ความเห็นของนายค็อกซ์ถือว่ามีความสำคัญในการชี้นำการตัดสินใจของสมาชิกรัฐสภาอังกฤษที่มีกำหนดลงมติต่อข้อตกลงดังกล่าวในวันนี้เวลา 19.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือคืนนี้ 02.00 น.ตามเวลาไทย


    ทั้งนี้ นายค็อกซ์เตือนว่า ความเสี่ยงทางด้านกฎหมายต่อข้อตกลง Brexit ยังคงมีอยู่ แม้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลังจากที่นางเมย์ทำการเจรจากับผู้นำ EU เมื่อคืนนี้


    นายค็อกซ์ระบุว่า ข้อตกลง Brexit ดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้อังกฤษมีช่องทางตามกฎหมายในการยกเลิกนโยบาย backstop แต่เพียงฝ่ายเดียว

    การแสดงความเห็นในเชิงลบของนายค็อกซ์ต่อข้อตกลง Brexit ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกว่าจะทำให้รัฐสภาอังกฤษลงมติคว่ำข้อตกลง Brexit อีกครั้งในวันนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้อังกฤษแยกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง


    ทั้งนี้ นางเมย์ได้รับความเห็นชอบจากผู้นำ EU ให้ทำการเปลี่ยนแปลงข้อตกลง Brexit โดยมีผลผูกพันทางกฏหมาย ซึ่งรวมถึงนโยบาย backstop ซึ่งเป็นนโยบายในการรับประกันว่า จะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป


    ที่ผ่านมา กลุ่มผู้สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวจาก EU มีความกังวลว่า การใช้นโยบาย backstop จะเป็นการผูกมัดให้อังกฤษจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ EU อย่างไม่มีกำหนด


    ทางด้านนางเมย์กล่าวยืนยันว่า "การใช้ถ้อยคำใหม่ในข้อตกลง Brexit จะเป็นการค้ำประกันว่า EU จะไม่สามารถใช้นโยบาย backstop อย่างไม่มีกำหนด โดยข้อตกลงที่มีการปรับปรุงใหม่จะเป็นการให้การค้ำประกันซึ่งมีผลผูกพันทางกฎหมายว่า นโยบาย backstop จะมีการใช้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น และอังกฤษมีทางเลือกที่จะไม่ใช้นโยบายดังกล่าว หาก EU ไม่มีเจตนาดีในการเจรจากับอังกฤษ"


    นอกจากนี้ อังกฤษและ EU ยังได้ตกลงกันที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดความจำเป็นในการตั้งด่านตรวจระหว่างไอร์แลนด์เหนือ และสาธารณรัฐไอร์แลนด์


    ก่อนหน้านี้ รัฐสภาอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 432 ต่อ 202 เสียงในเดือนม.ค. คว่ำร่างข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ ส่งผลให้นางเมย์เป็นผู้นำรัฐบาลอังกฤษที่ประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในรัฐสภาในรอบ 95 ปี และหากรัฐสภามีมติคว่ำข้อตกลงดังกล่าวอีกครั้งในวันนี้ นางเมย์ก็จะเสนอให้รัฐสภาเลือกระหว่างการแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลง หรือจะเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.


    หากรัฐสภาอังกฤษคว่ำข้อตกลง Brexit อีกครั้งในวันนี้ รัฐสภาก็จะทำการลงมติในวันพรุ่งนี้ว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบ ก็จะทำการลงมติในวันพฤหัสบดีว่าจะเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาออกไป รัฐบาลก็จะต้องทำการเจรจากับ EU ในเรื่องดังกล่าว แต่หากรัฐสภามีมติไม่เรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาออกไป อังกฤษก็จะแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการตามกำหนดเดิมในวันที่ 29 มี.ค.


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    - Sterling plunges after Theresa May's Brexit deal suffers surprise legal setback : https://www.cnbc.com/2019/03/12/sterling-reacts-on-uk-brexit-deal-ahead-of-parliament-vote.html
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_0622.JPG IMG_0623.JPG
    (Mar 13) สภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักรลงคะแนนเสียง Meaningful vote ครั้งที่ 2 ไม่รับร่าง Brexit ด้วยคะแนนเสียง 391:242 : ร่าง Brexit แพ้ meaningful vote ครั้งที่ 2 ทั้งสิ้น 149 เสียง ที่ 391:242 (ถือเป็น large margin)


    เมื่อเทียบกับ Meaningful vote ครั้งที่ 1 ที่แพ้ไป 230 เสียง ที่ 432:202 พบว่า มีสมาชิกพรรค conservative ที่สนับสนุนเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 39 เสียง


    โดยมีประเด็นสำคัญที่ May ประกาศภายหลังการลงคะแนน คือ จะมีการอนุญาตให้ผู้แทนของพรรค free vote ในการลงคะแนนวันพรุ่งนี้ได้ อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่จะต้องจับตาดูต่อไป คือ จะมีการประกาศลาออกโดยคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งอาจสร้างความกดดันต่อการดำรงตำแหน่งของนายก May ได้ต่อไป


    จากการลงคะแนนที่แพ้โดย 149 เสียง (ถือเป็น large margin) คาดว่า UK ขอขยายระยะเวลา Article 50 แบบ long extension ในการประชุม EU Summit วันที่ 21 มี.ค. 62


    ความเป็นไปได้ในการลงคะแนนวันที่ 13 และ 14 มีนาคม:

    1. No deal: น่าจะไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ในการลงคะแนนวันที่ 13 มี.ค. 62


    2. Article 50 Extension: น่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ในการลงคะแนนวันที่ 14 มี.ค. 62

    o อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สภาพยายามถามทางฝ่ายรัฐบาลหลังการลงคะแนน คือ จะขอขยาย Article 50 ออกไปเป็นระยะเวลาเท่าไร ซึ่งฝ่ายรัฐบาลปฏิเสธที่จะให้คำตอบในขั้นนี้


    จะขอขยายไปนานเท่าไร: มองเป็น 2 กรณี


    1. กรณีแพ้แบบ small margin (น้อยกว่า 50 เสียง) -> น่าจะมีการขอขยาย Article 50 แบบ small extension (2 – 3 เดือน) ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นแล้ว


    2. กรณีแพ้แบบ large margin (มากกว่า 150 เสียง) -> น่าจะมีการขอขยาย Article 50 แบบ long extension เนื่องจาก large margin สะท้อนความเห็นที่ขัดแย้งกันมากที่ยากจะหาข้อสรุปได้ โดยในระยะเวลาอันใกล้นี้ ไม่น่าจะมีการ renegotiation deal เกิดขึ้นระหว่างนายก May กับสหภาพยุโรปได้อีก (ต้องเป็นนายกใหม่ หรือรัฐบาลใหม่ รวมทั้งเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งของทางสหภาพยุโรปด้วย) รวมทั้งสหภาพยุโรปไม่ต้องการ rolling cliff edge ต่อไปเรื่อยๆ อีก

    ทาง EU จึงน่าจะต้องการให้มีการขยายระยะเวลาออกไปเป็นระยะเวลานาน (EU อาจต้องการให้มีการขยายไปถึง ธ.ค. 2020 – อย่างไรก็ตาม UK และ EU ต้องตกลงร่วมกัน พร้อมแผนที่จะดำเนินการที่ชัดเจนจากทาง UK)


    ภายใต้กรณี Long extension 2 เหตุการณ์ที่เป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว คือ มีการเลือกตั้งทั่วไป General election หรือ มีการทำ referendum ครั้งใหม่ ซึ่งอาจมีทางเลือกทั้ง May Deal / No Brexit (Revoke Article 50) / Other proposals


    Source: BoTSS


    - Theresa May's Brexit deal is rejected again: Here's what happens next: https://www.cnbc.com/2019/03/12/brexit-deal-rejected-again-heres-what-happens-next.html
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Mar 13) ประกาศแล้ว! พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562 : ราชกิจจาฯ ประกาศแล้ว "พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562" แยก 4 ประเภท ใช้บังคับ 1 ม.ค.2563 เมื่อวันที่ 12 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ. 2562 ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่การจัดเก็บภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป มีทั้งสิ้น 98 มาตรา สาระสำคัญ


    มาตรา 37 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ให้จัดเก็บภาษีตามอัตรา ดังต่อไปนี้

    (1) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละศูนย์จุดหนึ่งห้าของฐานภาษี

    (2) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละศูนย์จุดสามของฐานภาษี

    (3) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจาก (1) หรือ (2) ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละหนึ่งจุดสองของฐานภาษี

    (4) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ให้มีอัตรา ภาษีไม่เกินร้อยละหนึ่งจุดสองของฐานภาษี

    การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมตาม (1 ) ต้องเป็นการทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกันประกาศกำหนด ทั้งนี้ ในการจัดทำประกาศดังกล่าวให้นำความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาประกอบการพิจารณาด้วยการใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยตาม (2) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกันประกาศกำหนดที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพตาม (4) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง

    อัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บตามวรรคหนึ่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยจะกาหนดเป็นอัตราเดียวหรือหลายอัตราแยกตามมูลค่าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างก็ได้ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินอัตราภาษีที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง และจะกำหนดแยกตามประเภทการใช้ประโยชน์หรือตามเงื่อนไขในแต่ละประเภทการใช้ประโยชน์ก็ได้

    ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมีความประสงค์ที่จะจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าอัตราภาษีที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาตามวรรคห้า ให้มีอานาจตราข้อบัญญัติท้องถิ่นกาหนดอัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นได้ แต่ต้องไม่เกินอัตราที่กาหนดในวรรคหนึ่งในการตราข้อบัญญัติท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามวรรคหก ยกเว้นกรุงเทพมหานครก่อนการลงนามใช้บังคับข้อบัญญัติท้องถิ่นตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ผู้บริหารท้องถิ่นเสนออัตราภาษีตามร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นให้คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจาจังหวัดให้ความเห็นชอบก่อน เมื่อคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประจำจังหวัดเห็นชอบกับอัตราภาษีตามร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นดังกล่าวแล้ว ให้ผู้บริหารท้องถิ่นลงนามใช้บังคับข้อบัญญัติท้องถิ่นต่อไปได้

    ในกรณีที่คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดไม่เห็นชอบกับอัตราภาษีตามร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นดังกล่าว ให้ส่งความเห็นเกี่ยวกับอัตราภาษีคืนผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อเสนอสภาท้องถิ่นดาเนินการแก้ไขอัตราภาษีตามความเห็นของคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัด หรือพิจารณายืนยันด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นเกี่ยวกับอัตราภาษีคืนจากคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดหากสภาท้องถิ่นดาเนินการแก้ไขไม่แล้วเสร็จหรือสภาท้องถิ่นพิจารณายืนยันด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ให้ร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นนั้นตกไป

    มาตรา 55 การลดภาษีสำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างบางประเภท เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม เหตุการณ์ กิจการ หรือสภาพแห่งท้องที่ ให้กระทำได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา แต่ต้องไม่เกินร้อยละเก้าสิบของจานวนภาษีที่จะต้องเสีย

    บทเฉพาะกาล

    มาตรา 94 ในสองปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้อัตราภาษีตามมูลค่าของฐานภาษี ดังต่อไปนี้

    (1) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม

    (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินเจ็ดสิบห้าล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์หนึ่ง

    (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินเจ็ดสิบห้าล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สาม

    (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินห้าร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า

    (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์เจ็ด

    (จ) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดหนึ่ง

    (2) ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร

    (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินยี่สิบห้าล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สาม

    (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินยี่สิบห้าล้านบาท แต่ไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษี ร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า

    (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดหนึ่ง

    (3) สิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร

    (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินสี่สิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สอง

    (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินสี่สิบล้านบาท แต่ไม่เกินหกสิบห้าล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สาม

    (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินหกสิบห้าล้านบาท แต่ไม่เกินเก้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า

    (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินเก้าสิบล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดหนึ่ง

    (4) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยกรณีอื่นนอกจากการใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยตาม (2) และ (3)

    (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สอง

    (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินเจ็ดสิบห้าล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สาม

    (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินเจ็ดสิบห้าล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า

    (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดหนึ่ง

    (5) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากการประกอบเกษตรกรรมและเป็นที่อยู่อาศัย

    (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดสาม

    (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินสองร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดสี่

    (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินสองร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดห้า

    (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งพันล้านบาท แต่ไม่เกินห้าพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดหก

    (จ) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าพันล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดเจ็ด

    (6) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ

    (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดสาม

    (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินสองร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดสี่

    (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินสองร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดห้า

    (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งพันล้านบาท แต่ไม่เกินห้าพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดหก

    (จ) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าพันล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดเจ็ด

    มาตรา 95 ในสองปีแรกของการคำนวณภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้ฐานภาษีของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งคำนวณได้ตามมาตรา 35 หักด้วยมูลค่าของฐานภาษีที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 40 หรือมาตรา 41 แล้วคูณด้วยอัตราภาษีตามมาตรา 94 ตามสัดส่วนที่กำหนดในมาตรา 38 ผลลัพธ์ที่ได้เป็นจานวนภาษีที่ต้องเสียเพื่อประโยชน์ในการคำนวณจำนวนภาษีตามวรรคหนึ่ง กรณีที่ดินหลายแปลงซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกันและเป็นของเจ้าของเดียวกัน ให้คำนวณมูลค่าที่ดินทั้งหมดรวมกันเป็นฐานภาษี

    มาตรา 96 เพื่อเป็นการบรรเทาการชำระภาษี ในสามปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีสำหรับเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม

    มาตรา 97 เพื่อเป็นการบรรเทาการชำระภาษี ในสามปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ผู้เสียภาษีได้รับการประเมินภาษีในจำนวนที่สูงกว่าจำนวนภาษีโรงเรือนและที่ดินหรือภาษีบารุงท้องที่ที่ต้องเสียหรือพึงชาระในปีก่อนที่การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ ให้ผู้เสียภาษีชาระภาษีตามจำนวนที่ต้องเสียหรือพึงชำระในปีก่อน เหลือจำนวนภาษีเท่าใด ให้ผู้เสียภาษีชำระภาษี ดังนี้

    (1) ปีที่หนึ่ง ร้อยละยี่สิบห้าของจำนวนภาษีที่เหลือ

    (2) ปีที่สอง ร้อยละห้าสิบของจานวนภาษีที่เหลือ

    (3) ปีที่สาม ร้อยละเจ็ดสิบห้าของจานวนภาษีที่เหลือ

    อ่านเพิ่มเติม http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/030/T_0021.PDF


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/829413
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0624.JPG
      IMG_0624.JPG
      ขนาดไฟล์:
      39.7 KB
      เปิดดู:
      52
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Mar 13) รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการลดเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการพิจารณาอนุมัติผู้อพยพและลี้ภัยที่เข้ามาในสหรัฐฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย: สำนักข่าว Reuters รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมปิดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (USCIS) หลายแห่งที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐฯ โดยแผนการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของรัฐบาล ที่ต้องการจำกัดจำนวนผู้อพยพที่เข้ามาในสหรัฐฯ ทั้งอย่างถูกต้องและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการลดจำนวนโครงการผู้อพยพต่างๆ และเพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติคำขอวีซ่า


    ทางด้านนาย Francis Cissna, Director of USCIS กล่าวว่า งานต่างๆ ของสำนักงานที่ถูกปิดตัวลง จะถูกโอนย้ายไปยังสำนักงานที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ รวมถึงสถานกงสุลและสถานทูตในต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความวิตกกังวล


    อย่างไรก็ดี USCIS จะพยายามดำเนินการให้เรียบร้อยที่สุดในช่วงเปลี่ยนผ่าน ขณะเดียวกัน นาย Mark Hetfield, President of the U.S. Refugee Assistance Organization เห็นว่า นโยบายดังกล่าวเป็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการลดเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการพิจารณาอนุมัติผู้อพยพและลี้ภัยที่ต้องการเข้ามาในสหรัฐฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสวนทางกับคำปราศรัยของประธานาธิบดี Trump ใน the State of the Union

    Source: BoTSS

    79C44836-9F80-457B-AE91-B87640F4E199.jpeg

    - U.S. immigration agency to close its overseas offices: https://www.reuters.com/article/us-...y-to-close-its-overseas-offices-idUSKBN1QT26C
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_0627.JPG
    (Mar 13) ธปท.รับโจทย์หิน'ขึ้นดอกเบี้ย' ทั่วโลกผ่อนนโยบายการเงิน : การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ หลายแห่งเริ่มปรับทิศทางของนโยบายการ เงินใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เลื่อนการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายออกไปก่อน และยังเปิดตัวโครงการ "ซอฟท์โลน" หรือ เงินกู้ครั้งใหม่เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารในการปล่อยสินเชื่อกลุ่มยูโรโซน ขณะที่ ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) และ ธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) มีแนวโน้มว่าอาจจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง



    "ดอน นาครทรรพ" ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวเสวนาในหัวข้อ "Asia 2019:The Global Growth Engine" จัดโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ ว่า การที่หลายธนาคารกลางหลัก ของโลก ส่งสัญญาณการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในระยะข้างหน้านั้น มองในแง่ดี ก็อาจส่ง ผลดีต่อเศรษฐกิจโลกเพราะการชะลอการ ขึ้นดอกเบี้ย เป็นการช่วยพยุงเศรษฐกิจโลก ในช่วงที่หลายคนมองว่ากำลังชะลอตัว



    อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งเหล่านี้ เป็นประเด็นที่ยากขึ้นต่อการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงินของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพราะหากตัดสินใจ ขึ้นดอกเบี้ย ก็อาจสวนกระแสกับทิศทางของ นโยบายการเงินโลก ดังนั้นหากดูปัจจัยจาก ต่างประเทศถือเป็นปัจจัยที่เริ่มไม่เอื้อ ต่อการขึ้นดอกเบี้ย หรือเอื้อในการขึ้นดอกเบี้ย น้อยลง



    แต่สุดท้าย เชื่อว่าการดำเนินนโยบาย การเงิน จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก เพราะไทยให้น้ำหนักปัจจัยในประเทศ มากกว่า โดยสิ่งที่ กนง. เป็นห่วงและติดตามดูมาตลอด คือ เสถียรภาพระบบการเงิน



    "ปีก่อนเฟดมุ่งมั่นในการขึ้นดอกเบี้ย และคาดว่าปีนี้จะขึ้นถึง 3 ครั้ง แต่ตอนนี้ ก็เปลี่ยนท่าที โดยเฟดยังเชื่อว่ายังสามารถอดทน ยังไม่รีบร้อนในการขึ้นดอกเบี้ย โดยดูสถานการณ์ไปก่อน ไม่ใช่เฉพาะเฟดที่เปลี่ยนท่าที แต่หลายธนาคารกลาง เช่น อีซีบี ก็มีการปรับเศรษฐกิจลงอย่างมีนัยสำคัญ และสื่อสารว่านโยบายการเงินจะต้อง ผ่อนคลายต่ออีกสักระยะ ขณะที่ในภูมิภาค หลายธนาคารกลาง อาจรอดูท่าที ว่าจะไม่ขึ้น ดอกเบี้ย และบางธนาคารมองว่าจะลดดอกเบี้ย ด้วยซ้ำปีนี้”



    ทั้งนี้ หากดูจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ยอมรับว่า ระยะนี้มีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง กว่าช่วงที่ผ่านๆ มา โดยเฉพาะช่วงเดือนมี.ค. ที่มีความผันผวน และความไม่แน่นอนสูง หลักๆ เป็นประเด็นต่างประเทศ ทั้งเรื่องสงครามการค้า การเจรจาระหว่างสหรัฐ และจีน รวมถึงประเด็น เบร็กซิท ที่ต้อง มีการติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่ปัจจัย ในประเทศคือการเลือกตั้ง แต่เชื่อว่า เมื่อผ่านช่วงเม.ย.ไปแล้วสถานการณ์ ความไม่แน่นอนต่างๆ จะคลายความกังวลลง



    ส่วนความเสี่ยงที่ต้องติดตามในช่วงนี้มี 3 ด้านหลัก คือ สงครามการค้า เสถียรภาพระบบการเงินที่เกิดจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และ ปัจจัยการเมือง



    ดอน บอกด้วยว่า ธปท. อยู่ระหว่าง ปรับมุมมองการเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้ใหม่ จากเดิมคาดว่าในปี 2562 จะขยายตัวระดับ 4% แต่การส่งออกในเดือนม.ค.ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของ ธปท. ทำให้ประเมินว่า ไตรมาสแรกปีนี้มีโอกาสที่ภาคการส่งออกจะติดลบ ทำให้ ธปท. ต้องปรับมุมมองทาง เศรษฐกิจในปีนี้ใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม การส่งออกที่หดตัวไม่ได้มีเฉพาะไทย ประเทศเดียว เพราะหลายประเทศทั่วโลก ก็ชะลอตัวลงเช่นเดียวกัน



    "หากดูเครื่องยนต์ในประเทศ ถือว่า ค่อนข้างแข็งแกร่งมากหากเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะการบริโภคเอกชน การลงทุนเอกชนที่ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้จะมองว่าการบริโภคเอกชนจะชะลอลงบ้างหากเทียบกับ ปีก่อน เพราะยอดขายรถยนต์ที่อาจแผ่วลง ในปีนี้ แต่ก็ยังคาดว่าการบริโภคก็น่าจะขยายตัวได้ดี แต่การบริโภคยังได้ส่วนหนุนจากสวัสดิการของภาครัฐ มาตรการอุดหนุนต่างๆ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลมาตรการเหล่านี้ ก็จะออกมาต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอีอีซี ที่คาดว่าจะถูกสนับสนุนต่อในรัฐบาลหน้า”



    ด้าน "สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์" ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้แม้ชะลอลงแต่เชื่อว่ายังไม่ถึงขั้นถดถอย เพียงแต่การเติบโตจะเป็นลักษณะ สองสปีด ชัดเจนขึ้น



    ขณะเดียวกัน จากความกังวลที่มากขึ้น ทั้งเศรษฐกิจโลก การเติบโตของจีน ขณะที่ ออสเตรเลีย ก็เริ่มมีความกังวลเรื่องการซื้อขาย เปลี่ยนมือของอสังหาฯ ดูไม่ดีเหมือนที่คาด รวมถึงเบร็กซิท ทั้งหมดนี้ทำให้ธนาคาร แต่ละประเทศ เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน ดังนั้นก็อาจเห็นการผ่อนคลายด้านนโยบายการเงิน เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจมีปัญหา



    "พจน์ หะริณสุต" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ ประเมินว่า การเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียปีนี้จะเกิน 4% ขณะที่ การเติบโตของไทยคาดว่าจะไม่น้อยกว่า 3.5%



    ส่วนความไม่แน่นอนหลายเรื่อง ทั้งสงครามทางการค้าระหว่าง สหรัฐ และ จีน รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางต่างๆ และเบร็กซิท ก็ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง ว่าการโหวตจะเป็นอย่างไร เพราะหากมีความรุนแรงเชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วจะมีผลกระทบทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนได้


    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...