ติดตามสถานะการณ์

SHIRU : Smoke Haze Integrated Research Unit

จากการคาดการของข้อมูล NASA ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2562 มันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ครับจนถึงวันศุกร์ เสา อาทิตย์ ดูจากกราฟ แล้ววันนี้ ....วันนี้จะตายยยยยแล้วอีกสามวันสูงขึ้นเรื่อยๆ ใครก็ได้ส่งข้อมูลนี้ให้ผู้ใหญ่ทีครับ...( ข้อมูลจากโมเดล เป็นการคาดการ นะครับ GEOS-5 AOD จาก NASA)

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

จนท.สหประชาชาติหวั่นเกิดวิกฤตครั้งใหม่ หากบังกลาเทศย้ายโรฮิงญาไปอยู่เกาะ
.
รอยเตอร์ 12 มี.ค.- ผู้สอบสวนสิทธิมนุษยชนในพม่าของสหประชาชาติ แสดงความวิตกกังวลอย่างลึกซึ้งในวานนี้ (11) เกี่ยวกับแผนของบังกลาเทศที่จะย้ายถิ่นฐานผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา 23,000 คน ไปยังเกาะห่างไกลในเดือน เม.ย. โดยระบุว่า เกาะดังกล่าวอาจไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และอาจก่อให้เกิด “วิกฤตครั้งใหม่”
.
บังกลาเทศ ระบุว่า การย้ายผู้ลี้ภัยไปยังเกาะบาซานชาร์ ที่ชื่อเกาะมีความหมายว่า “เกาะลอยน้ำ” จะช่วยบรรเทาความแออัดยัดเยียดในค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองคอกซ์บาซาร์ ที่มีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ราว 730,000 คน สหประชาชาติกล่าวว่า ชนกลุ่มน้อยมุสลิมหลบหนีการสังหารหมู่และการข่มขืนที่เกิดขึ้นระหว่างการปราบปรามของทหารในรัฐยะไข่ตั้งแต่เดือน ส.ค.2560
.
กลุ่มมนุษยธรรมบางกลุ่มได้วิพากษ์วิจารณ์แผนการย้ายถิ่นฐานว่า เกาะในอ่าวเบงกอลมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากไซโคลน
.
“มีหลายสิ่งที่ฉันยังไม่ทราบแม้หลังจากการเยือน การย้ายถิ่นฐานที่วางแผนไม่ดี และการย้ายถิ่นฐานโดยผู้ลี้ภัยไม่ได้เห็นชอบ สิ่งเหล่านี้มีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดวิกฤตครั้งใหม่” ยางฮี ลี ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติว่าด้วยพม่า ที่เยือนเกาะในเดือน ม.ค.กล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ
.
ชาห์ คามาล รัฐมนตรีกระทรวงการจัดการภัยพิบัติของบังกลาเทศ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังหารือกับหน่วยงานของสหประชาชาติเกี่ยวกับประเด็นปัญหานี้
.
“หน่วยงานต่างๆ ได้ตกลงเห็นชอบกันแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นสุดท้ายถึงวิธีที่จะย้ายผู้ลี้ภัยและปัจจัยต่างๆ ทั้งหมด ทุกอย่างพร้อมแล้ว ที่อยู่อาศัย ไฟฟ้า การดูแลสุขภาพ การสื่อสาร แนวกั้นคลื่นซัดฝั่ง ศูนย์หลบภัยไซโคลน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้งหมด” ชาห์ คามาล กล่าวกับรอยเตอร์ในกรุงธากา
.
“ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องวิตกเกี่ยวกับน้ำท่วมเพราะเราได้สร้างเขื่อนกั้น และไม่มีใครถูกย้ายไปที่นั่นโดยขัดกับความต้องการของพวกเขา” ชาห์ คามาล กล่าว
.
ลี ที่ถูกรัฐบาลพม่าห้ามเดินทางเยือนกล่าวในที่ประชุมว่า มีพลเรือนมากถึง 10,000 คน รายงานว่าหลบหนีออกจากบ้านตัวเองในรัฐยะไข่ของพม่าตั้งแต่เดือน พ.ย.เนื่องจากความรุนแรงและการขาดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
.
“เป็นเวลาหลายทศวรรษ เราเผชิญกับการล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบในพม่า พวกเขายึดสิทธิการเป็นพลเมืองของพวกเรา ที่ดินของเรา พวกเขาทำลายมัสยิดของเรา” โมฮิบ บุลเลาะห์ ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา กล่าวกับคณะมนตรี
.
“ชาวโรฮิงญากว่า 120,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในค่ายกักกันในพม่า คนอื่นๆ ที่อยู่ข้างนอกมีชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัว เราต้องการที่จะกลับบ้านในพม่า พร้อมสิทธิของเรา ความเป็นพลเมืองของเรา และความมั่นคงระหว่างประเทศ” บุลเลาะห์ กล่าว
.
ภารกิจค้นหาข้อเท็จจริงของสหประชาชาติกล่าวเมื่อปีก่อนว่า การปราบปรามของทหารในปี 2560 ที่ผลักดันชาวโรฮิงญาออกจากประเทศ ดำเนินการด้วยเจตนาล้างเผ่าพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ทางการพม่าได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการสังหารหมู่และข่มขืน และกล่าวว่า การปราบปรามนั้นเป็นการตอบโต้อย่างถูกกฎหมายต่อภัยคุกคามของผู้ก่อความไม่สงบ
.
ลี เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติยื่นเรื่องการกระทำโหดร้ายที่ถูกกล่าวหาในพม่าต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และสนับสนุนให้ย่างกุ้งยอมรับขอบเขตอำนาจของศาล
.
แต่เอกอัครราชทูตพม่าประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีอำนาจเหนือพม่า
.
“พม่ามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะรับรองความรับผิดชอบหากมีหลักฐานน่าเชื่อถือของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่” จ่อ โม ตุน กล่าว
.
ภารกิจรีบด่วนที่สุดคือการมุ่งเน้นไปที่การเริ่มต้นอย่างรวดเร็วในการส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศ เอกอัครราชทูตพม่ากล่าว โดยไม่ใช้คำว่าโรฮิงญา.

 

"เขมร" วิกฤติแล้งหนัก ตื่นแห่ซื้อน้ำดื่มจากฝั่งไทย ขนข้ามแดนไปกักตุนวันละกว่า 1 แสนลิตร ด้านเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มป้องกันสิ่งผิดกฎหมาย

 

TCIJ

ข่าวอาเซียน: UN ชี้การเจรจากับพม่ากรณีชาวโรฮิงญาแทบไร้ผล

นาง Yanghee Lee ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในพม่าของสหประชาชาติ แสดงความกังวลใจเกี่ยวกับเหตุความรุนแรงซึ่งปะทุขึ้นอีกครั้งที่รัฐยะไข่ พร้อทระบุว่าวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นนี้ควรส่งให้ศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ ICC พิจารณา เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปในด้านลบมากกว่าด้านบวก และการเจรจากับรัฐบาลพม่าที่ผ่านมานั้นแทบจะไร้ผล

https://www.tcijthai.com/news/2019/3/asean/8852



UN ชี้การเจรจากับพม่ากรณีชาวโรฮิงญาแทบไร้ผล กองบรรณาธิการ TCIJ: 12 มี.ค. 2562

นาง Yanghee Lee ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในพม่าของสหประชาชาติ แสดงความกังวลใจเกี่ยวกับเหตุความรุนแรงซึ่งปะทุขึ้นอีกครั้งที่รัฐยะไข่ พร้อทระบุว่าวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นนี้ควรส่งให้ศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ ICC พิจารณา เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปในด้านลบมากกว่าด้านบวก และการเจรจากับรัฐบาลพม่าที่ผ่านมานั้นแทบจะไร้ผล

"การปะทะกันระหว่างกองทัพชาวอาระกันซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกับกองทัพพม่า ทำให้ผู้คนกว่า 10,000 คน ต้องลี้ภัยจากรัฐยะไข่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังไม่เป็นที่ปรากฏว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในอนาคตอันใกล้" Yanghee Lee กล่าว

ที่ผ่านมา Yanghee Lee เคยถูกห้ามเดินทางเข้าพม่าเพราะแสดงเห็นด้านลบต่อการสอบสวนเหตุความรุนแรงโดยรัฐบาลพม่า แต่เธอยังยืนยันว่า Min Aung Hlaing และคนอื่นๆ ควรรับผิดชอบต่อการล้างเผ่าพันธุ์ในรัฐยะไข่และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรรมสงครามในพื้นที่อื่นๆ ของพม่า

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาผู้ลี้ภัยโรฮิงญามากกว่า 700,000 คน ข้ามแดนไปยังฝั่งบังกลาเทศจากภาคตะวันตกของพม่า ตามการระบุของ UN หลังกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาโจมตีกองกำลังความมั่นคงของพม่าเมื่อเดือน สิงหาคม 2560 และส่งผลให้ฝ่ายทหารดำเนินการปราบปรามอย่างรุนแรง

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: NHK, 12/03/2019

 

วันเดียว "เผาป่าวอด" 500 ไร่ ต้นตอฝุ่นพิษเหนือพุ่ง
อ่านต่อ : http://news.thaipbs.or.th/content/278353 #ThaiPBSnews #ThaiPBS #ฝุ่นPM25

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Mar 12) เศรษฐกิจตีบตัน ดันแบงก์ชาติโลกเปลี่ยนทิศ : หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สร้างเซอร์ไพรส์ประกาศปรับทิศทางนโยบายการเงินใหม่เมื่อเดือน ม.ค. ที่เพิ่งผ่านมา จากทิศทางการเงินขาขึ้น (Tightening) มาเป็นการเงินผ่อนคลาย (Easing) ก็ดูเหมือนจะเป็นการเซตบรรทัดฐานใหม่ของนโยบายการเงิน ทั่วโลกในปีนี้ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย เพราะล่าสุด แบงก์ชาติยักษ์ใหญ่อีกแห่งหนึ่งอย่าง "ธนาคารกลางยุโรป" (อีซีบี) ก็เป็นแบงก์ชาติรายล่าสุดที่ประกาศปรับทิศทางนโยบายตามรอยเดียวกับเฟดเช่นกัน

เมื่อปลายปีที่แล้ว อีซีบีภายใต้การนำของผู้ว่าการ มาริโอ ดรากี ได้ประกาศปิดฉากมาตรการผ่อนปรนทางการเงินเชิงปริมาณ (คิวอี) ที่ยาวนานมากกว่า 3 ปีลง พร้อมทั้งส่งสัญญาณเตรียมพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินเมื่อ 10 ปีก่อน โดยจะเริ่มหลัง ฤดูร้อนปีนี้สิ้นสุดลง หรือประมาณช่วงไตรมาส 3 แต่ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งล่าสุด อีซีบีได้ ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบันออกไปจนถึงช่วงสิ้นปี 2019 นี้เป็นอย่างน้อย พร้อมทั้งออกมาตรการกระตุ้นรอบใหม่ออกมา โดยงัดเอามาตรการปล่อยเงินกู้ให้แบงก์พาณิชย์แบบเฉพาะเจาะจง หรือ TLTRO ออกมาใช้เป็นครั้งที่ 3 เพื่อหนุนให้แบงก์พาณิชย์หันไปปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจกันมากขึ้น
แต่เดิมนั้น นโยบายดอกเบี้ยของ อีซีบีมีดอกเบี้ย 3 ประเภทหลัก คือ ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ 0% ดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% และดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินฝากไว้กับอีซีบี -0.4% โดยโครงการเงินกู้ TLTRO นั้นหมายความว่าแทนที่แบงก์จะต้องเสียดอกเบี้ยค่าฝากเงินไว้กับอีซีบี 0.4% แบงก์จะได้ค่าดอกเบี้ยส่วนนี้กลับมาเข้ากระเป๋า หากนำเงินไปปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจแทน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. 2019 สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2021

อีซีบีนั้นมีเหตุผลสนับสนุนดียิ่งกว่าเฟด เพราะตัวเลขเศรษฐกิจหลายด้านล้วนบ่งชี้ว่ายุโรปไม่ได้ถูกดดันจากแค่ภายนอกเหมือนสหรัฐ แต่กำลังย่ำแย่ภายในอย่างหนัก

จีดีพีในกลุ่มประเทศยูโรโซน เมื่อไตรมาส 4 ปี 2018 ที่ผ่านมา ขยายตัวได้ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่ "เยอรมนี" ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรป ก็รอดพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาได้อย่างหวุดหวิดเช่นเดียวกัน ยิ่งอนาคตอันใกล้นี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะยังติดวังวนความเสี่ยง "เบร็กซิต" และแม้กระทั่ง "สงครามการค้า" ที่นำโดยสหรัฐก็ยังไม่แน่ว่าจะจบลงแบบไหน แม้สหรัฐอาจตกลงกับจีนได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีปัญหาการค้าอื่นๆ พัวพันอยู่ เช่น ภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์

จึงไม่น่าแปลกใจที่แบงก์ชาติยุโรปจะประกาศลดประมาณการจีดีพีในปี 2019 นี้ลงอย่างฮวบฮาบ จากคาดการณ์เดิมปีที่แล้วที่ให้ไว้ว่าจะขยายตัวได้ 1.7% อีซีบีหั่นเรียบเหลือเพียง 1.1% และนำมาซึ่งมาตรการกระตุ้นพร้อมเลื่อนเวลาการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยออกไป

สิ่งที่น่าจับตาก็คือ การเปลี่ยนทิศของอีซีบีครั้งนี้หมายความว่า ธนาคารกลางที่ทรงอิทธิพลที่สุดอันดับ 1 และ 2 ของโลกต่างพร้อมใจกันกลายร่างจาก "เหยี่ยว" มาเป็นสาย "พิราบ" เรียบร้อยแล้ว และอาจยิ่งเป็นการเซตบรรทัดฐานใหม่ให้แบงก์ชาติรายอื่นๆ ทั่วโลก สามารถตามรอยเปลี่ยนมาตรการการเงินขาขึ้นมาเป็นผ่อนคลายลงได้อย่างไม่กระอักกระอ่วนอีกแล้ว

หากในช่วงแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีการประสานแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเนื้อเดียวกัน (Synchronized) เพื่อช่วยพยุงสถานการณ์และทำให้ทั่วโลกพ้นจากวิกฤต ในครั้งนี้ก็อาจจะเป็นการใช้มาตรการในเชิงสอดคล้องกับทั่วโลกอีกครั้ง เพื่อดิ้นหนีภาวะเศรษฐกิจซบเซา (Stagnation) ที่กระจายจากจีนไปยังยุโรป และครอบคลุมไปทั่วโลกในที่สุดเพราะฟากของ "จีน" ที่เป็นความเสี่ยงหลักเบอร์ 1 ในขณะนี้ แม้จะเริ่มมีสัญญาณบวกดีขึ้นว่าอาจจะจบสงครามการค้ากับสหรัฐได้ ระหว่างการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำจีนกับสหรัฐ ที่ฟลอริดา วันที่ 27 มี.ค.นี้ แต่ก็ยังไม่มีอะไรยืนยันความสำเร็จนี้ได้ 100% และต้องไม่ลืมว่าสหรัฐนั้นเปิดแนวรบยิบย่อยรอบด้านเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นแนวรบไอทีกับจีน หรือการขู่ขึ้นภาษีรถยนต์กับประเทศส่งออกรายอื่นๆ โดยจีนเองได้เตรียมพร้อมด้วยการประกาศลดกรอบเป้าหมายจีดีพีปีนี้ ลงมาอยู่ที่ระดับ 6-6.5% เรียบร้อยแล้ว จากกรอบเดิม 6.5% เมื่อปีที่แล้ว

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากธนาคารกลางรายอื่นๆ ที่พอจะมีความยืดหยุ่นให้ใช้มาตรการทางการเงินได้อยู่ หันมาเปลี่ยนทิศเป็นสายพิราบตามๆ กันในปีนี้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ของฟิลิปปินส์ ก็ส่งสัญญาณใหม่เช่นกันว่า มีแนวโน้มจะใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายเช่นกัน เช่นเดียวกับแบงก์ชาติรายอื่นๆ ใน แคนาดา ออสเตรเลีย และอังกฤษ ที่ลดโทนเสียงความจำเป็นต่อการขึ้นดอกเบี้ยลง

ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คือแบงก์ชาติใหญ่ของโลกอีกรายที่เริ่มส่งสัญญาณเตรียมพร้อมหามาตรการกระตุ้นใหม่ หากเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกหนักกว่าที่คาดไว้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เริ่มมีเสียงกระตุ้นจากกรรมการบีโอเจให้เริ่มเตรียมการเรื่องนี้เอาไว้ โดยบีโอเจจะมีการประชุมในสุดสัปดาห์นี้

แม้ตัวเลขเศรษฐกิจโลกในขณะนี้จะยังไม่บ่งชี้ถึงวิกฤตรอบใหม่ แต่อย่างน้อยก็เริ่มมีสัญญาณลบจากหลายด้านเข้ามาพร้อมกัน จนอาจกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ล่าสุด ที่ทำให้แบงก์ชาติโลกต้องพร้อมใจกันเปลี่ยนทิศทางโดยมิได้นัดหมายอีกครั้งในปี 2019 นี้

โดย นันทิยา วรเพชรายุทธ
Source: Posttoday

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Mar 12) ตีแผ่ข้อตกลง 'เบร็กซิท' ชี้ชะตา: สมาชิกรัฐสภาอังกฤษ มีกำหนดลงมติร่างข้อตกลงเบร็กซิทในวันนี้ (12 มี.ค.) เพื่อสร้างหลักประกันว่า เมื่อพ้นช่วง เปลี่ยนผ่านในปี 2565 ไปแล้ว การออกจาก สหภาพยุโรป (อียู) จะเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากเมื่อเดือน ม.ค. สภาอังกฤษลงมติ คว่ำข้อตกลงเบร็กซิทที่นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ไปทำไว้กับอียู แต่รัฐบาลก็หวังว่า เส้นตาย 29 มี.ค.ที่กำลังไล่เข้ามาจะกดดันให้ ส.ส. เปลี่ยนใจ

กลุ่มหัวหอกเบร็กซิทคัดค้านประเด็น แผนกั้นหลัง (แบ็กสต็อป) เรื่องพรมแดนไอร์แลนด์ ที่พวกเขาเกรงว่า จะกักอังกฤษ ให้อยู่ในสหภาพศุลกากรกับอียูอย่างไม่มี กำหนด รัฐบาลลอนดอนได้ปรึกษาหารือ เพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่อียู เพื่อหาทาง ประนีประนอมเรื่องแบ็กสต็อป

ส่วนประเด็นสำคัญอื่นๆ ในข้อตกลงมีทั้ง การปกป้องสิทธิพลเมือง และการชำระเงิน ครั้งสุดท้ายของอังกฤษต่ออียู สรุปได้ดังนี้
1. ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน
ช่วงเวลานี้จะมีไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2565 เพื่อคงสถานภาพเดิมไว้ระยะหนึ่ง เปิดโอกาส ให้ทั้งอังกฤษและอียูได้เจรจากันถึงความสัมพันธ์ ในอนาคต รวมถึงเปิดให้รัฐบาลอื่นๆ ภาคธุรกิจ และพลเมืองได้ปรับตัวหลังเบร็กซิท
ความแตกต่างใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านนี้คือ สถาบันของอียู ไม่ได้เป็นตัวแทนของอังกฤษอีกต่อไป แต่อังกฤษยังอยู่ร่วมในสหภาพศุลกากรอียู และตลาดเดียว โดยต้องเคารพกฎอียูว่าด้วย การเคลื่อนย้ายสินค้า ทุน บริการ และแรงงาน ได้อย่างเสรี
ช่วงเปลี่ยนผ่านสามารถยืดออกไปได้ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 หรือ 2 ปี เท่ากับว่าอาจดำรงอยู่ ไปจนถึง 31 ธ.ค.2567

2. แบ็กสต็อปไอร์แลนด์
ข้อตกลงกำหนดกรอบการจัดการ แบ็กสต็อปเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้อง ตรวจตราพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ของอังกฤษกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ หากอังกฤษและอียูไม่สามารถทำข้อตกลง การค้าเสรีกันได้หลังช่วงเปลี่ยนผ่าน
ภายใต้ข้อตกลงนี้ อังกฤษและอียูจะตั้ง เขตศุลกากรเดียวขึ้นมา และไอร์แลนด์เหนือ จะต้องใช้กฎตลาดเดียวของอียูในการเคลื่อนย้าย สินค้า เพื่อให้พรมแดนนี้ยังคงเปิดเสรี
ภาคธุรกิจไอร์แลนด์เหนือสามารถนำสินค้า เข้าตลาดเดียวได้โดยปราศจากข้อจำกัด เมื่อพ้นช่วงเปลี่ยนผ่านไปแล้ว อียูหรืออังกฤษ อาจตัดสินใจร่วมกันว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ ข้อตกลงนี้อีกต่อไป
เรื่องแบ็กสต็อปนี่เองที่ ส.ส. บางคนเกรงว่า อังกฤษจะติดอยู่กับข้อตกลงตลอดไป ทำลาย ความฝันที่จะพัฒนานโยบายการค้าได้อย่างอิสระ

3. สิทธิพลเมือง
ร่างข้อตกลงสงวนสิทธิ์พลเมืองอียู ในอังกฤษกว่า 3 ล้านคน และพลเมืองอังกฤษ ในอียู 1 ล้านคนเอาไว้ พลเมืองทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งครอบครัวสามารถใช้ชีวิต ทำงาน หรือเรียนหนังสือโดยได้รับการปฏิบัติตาม กฎหมายเท่าเทียมกับพลเมืองเจ้าของประเทศ
หลักการนี้ยังครอบคลุมถึงพลเมือง ที่เข้ามาอยู่ก่อนสิ้นสุดช่วงเปลี่ยนผ่าน พวกเขายังคงมีสิทธิด้านการรักษาพยาบาล บำนาญ และผลประโยชน์ทางสังคมอื่นๆ
พลเมืองอียูที่เข้ามาอยู่ในอังกฤษ หลัง สิ้นสุดช่วงเปลี่ยนผ่าน ไม่ว่าจะเป็นเมื่อใดก็ตาม จะต้องอยู่ภายใต้ระเบียบเข้าเมืองที่เข้มงวด มากขึ้น ที่ตอนนี้ ส.ส.กำลังอภิปรายกันอยู่ในสภา

4. ค่าใช้จ่ายเบร็กซิท
ครอบคลุมถึงพันธกรณีทางการเงิน ที่อังกฤษมีกับอียู เรียกร้องการชำระหนี้ ที่เป็นธรรมสำหรับผู้จ่ายภาษีชาวอังกฤษ ที่รัฐบาลลอนดอนประเมินว่า มากถึง 3.9 หมื่นล้านปอนด์

5. ยิบรอลตาร์
สเปนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดน ยิบรอลตาร์มานาน ทุกฝ่ายจึงพยายาม ถอดชนวนความตึงเครียดที่อาจเกิดขึ้นได้ ในอนาคต
ข้อตกลงเปิดทางให้สเปนและอังกฤษ ร่วมมือกันในด้านสิทธิพลเมือง ยาสูบและ สินค้าอื่นๆ สิ่งแวดล้อม ตำรวจ และศุลกากร โดยกำหนดหลักการความร่วมมือทางปกครอง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเต็มที่ในเรื่องของ ภาษี ต่อสู้การฉ้อโกง ลักลอบขนสินค้า และ ฟอกเงิน
ชาวอังกฤษในไซปรัส
ข้อตกลงต้องการสร้างหลักประกันว่า พลเรือนไซปรัส 11,000 คน ที่อาศัยหรือ ทำงานในพื้นที่ค่ายทหารภายใต้เขตอธิปไตย ของอังกฤษไม่สูญเสียสิทธิหรือได้รับ ผลกระทบกฎหมายของอียู รวมถึงระเบียบ ว่าด้วยภาษี สินค้า การเกษตร ประมงและ สัตวแพทย์ และสุขอนามัยพืช ยังบังคับใช้ ในพื้นที่เหล่านี้ต่อไป

5. ประเด็นอื่นๆ
ข้อตกลงกล่าวถึงการถอนตัวออกจาก ยูราทอม สนธิสัญญาอียูว่าด้วยพลังงาน นิวเคลียร์และการคุ้มครองทรัพย์สิน ทางปัญญา รวมถึงเครื่องหมายการค้า และข้อบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของอียู กว่า 3,000 รายการ ครอบคลุมถึงสินค้าดัง ในภูมิภาค เช่น เนื้อลูกแกะเวลส์ แฮมพาร์มา แชมเปญ เบียร์บาวาเรีย เฟตาชีส ไวน์โตคอย น้ำส้มสายชูเจเรซ
ส่องเศรษฐกิจอังกฤษ ก่อนลา 'อียู'

อีกไม่กี่สัปดาห์อังกฤษก็ต้องออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจประเทศยังไร้ทิศทางเศรษฐกิจ ชะลอตัวแต่อัตราว่างงานต่ำ ผสานกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกขาลง เศรษฐกิจจีนและยูโรโซนซบเซา สงครามการค้าตึงเครียด เบร็กซิทจึงเป็น ปัจจัยสั่นสะเทือนเศรษฐกิจทั้งของอังกฤษและโลก ความแตกต่างใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านนี้คือ สถาบันของอียู ไม่ได้เป็นตัวแทนของอังกฤษอีกต่อไป

Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 12) คลังเพิ่มทุนทีเอ็มบี'ไม่ทัน'รัฐบาลนี้ : "รัฐมนตรีคลัง" ยอมรับการเพิ่มทุน "ทีเอ็มบี" อาจทำไม่ทันใน รัฐบาลชุดนี้ เหตุกระบวนการทำดิวดิลิเจนซ์ ใช้เวลา มองไม่เป็นปัญหา เพราะการตัดสินใจ เพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนถือหุ้น แจง หากปล่อยให้หุ้นไดรูท คลังจะกลายเป็น ผู้ทำความเสียหายให้รัฐ

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง การควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี และธนาคาร ธนชาต จำกัด (มหาชน) ว่า การควบรวมกิจการ ของทั้ง 2 ธนาคารอยู่ระหว่างการทำ ดิวดิลิเจนซ์ (สำรวจสถานะกิจการ) ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาพอสมควร ซึ่งอาจจะดำเนินการ ไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ อย่างไรก็ตามมองว่า หากรัฐบาลใหม่เข้ามา ก็จะไม่มีปัญหา อะไร เพราะเป็นเรื่องตรงไปตรงมา แต่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลชุดใหม่ถ้าจะไม่เพิ่มทุน ก็ต้องพร้อมให้สัดส่วน การถือหุ้นลดลง หรือหุ้นจะถูกไดรูท ซึ่งต้องอธิบายให้ได้ว่า ทำไมถึงปล่อยให้หุ้นไดรูท

"ถ้าเพิ่มทุนทีเอ็มบีไม่ทันในรัฐบาลนี้ ก็ไม่เห็นมีปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่ตรงไป ตรงมา เขาก็ตัดสินใจเอา เรื่องของเขา ถ้าเขาพร้อมให้หุ้นถูกไดรูท เขาก็ต้อง อธิบายให้ได้ว่า ทำไมปล่อยให้ถูกไดรูท อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่รู้ว่าทั้ง 2 แบงก์ เขาจะตกลงกันได้เรื่องหรือเปล่า ต้องรอ ดิวดิลิเจนซ์เสร็จก่อน หลังจากนั้นถึงจะ รู้ราคา และรู้ว่าต้องเพิ่มทุนเท่าไร นี่เป็นเพียงแค่กรอบเบื้องต้นว่า คลังจะเอาไหม เราก็ต้องเอา ไม่งั้นถ้าหุ้นถูกไดรูท "

เขากล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าการลงทุน ในธนาคารทหารไทย จะไม่ใช่การลงทุนในหุ้นยุทธศาสตร์เหมือนในอดีต แต่หาก กระทรวงการคลังไม่รักษาสัดส่วนการ ถือหุ้น จะทำให้หุ้นที่กระทรวงการคลัง ถืออยู่นั้น ไดรูทลง ฉะนั้น ถ้ากระทรวง การคลังไม่รักษาสิทธิจะกลายเป็นว่า เราเป็นผู้ทำความเสียหาย แต่หากเพิ่มทุนแล้วราคาดีขึ้น เราก็พร้อมจะขายเพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นลง หากมีต่างชาติหรือนักลงทุนกลุ่มใหญ่สนใจที่จะลงทุน

"อย่างที่เรียน เราบอกหลายครั้ง การลงทุนในทหารไทย ไม่ใช่ยุทธศาสตร์รัฐบาลที่จำเป็นต้องลง ครั้งที่แล้วลงไป เพื่อรักษาความมั่นคงของสถาบันการเงิน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวาย แต่ครั้งนี้ ถ้าเราไม่รักษาสิทธิ หุ้นจะไดรูทลง เราก็ จะกลายเป็นผู้ทำความเสียหาย"

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดหวังว่า การใส่เงินเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วน การถือหุ้นในแบงก์ใหม่ที่เกิดจากการ ควบรวมกิจการทหารไทย กับ ธนาคาร ธนชาต จะทำให้แบงก์ใหม่มีศักยภาพ เพราะต้นทุนในการดำเนินงานจะลดลง ขณะเดียวกันราคาหุ้นในตลาดก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้กระทรวงการคลังได้ประโยชน์จาก การลงทุน ทั้งนี้ การใส่เงินเพิ่มทุนใน ครั้งนี้ จะทำให้ต้นทุนการลงทุนเฉลี่ย ของกระทรวงการคลังที่ลงในธนาคารทหารไทยอยู่ที่ประมาณ 3 บาทต้นๆ ต่อหุ้น จากต้นทุนเดิมที่ลงทุนไปประมาณ 3.80 บาทต่อหุ้น

เขากล่าวด้วยว่า การลงทุนเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในระบบสถาบันการเงิน ถ้าไม่ลงทุน จะเกิดความเสี่ยง โดยเฉพาะในแบงก์ ขนาดเล็ก ถ้าไม่ลงทุนจะทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ ขณะเดียวกัน ต้นทุนการลงทุน ในจำนวนที่เท่ากันระหว่างแบงก์เล็กกับ แบงก์ใหญ่ จะทำให้แบงก์เล็กมีต้นทุนที่มากกว่า

"ถ้าเป็นแบงก์เล็ก การลงทุนในไอทีด้วย รายได้และสินทรัพย์ของเขา การลงทุน เยอะขนาดนี้ เทียบต่อสัดส่วนต่อรายได้ ทำให้เขาไม่สามารถแข่งขันได้ ฉะนั้น แบงก์ยิ่งใหญ่ยิ่งมีโอกาส เพราะเงินที่ลง ในไอทีจำนวนเท่ากัน ทุนต้องใหญ่ ถ้าห่วงเรื่องดิสรัปชั่น ก็ต้องลงทุน ถ้าไม่ลงทุน ก็จะมีความเสี่ยง โดยหลังควบรวมกิจการแล้ว จะทำให้แบงก์มีขนาดใหญ่ขึ้นเท่าตัว หรือ มีขนาดราว 1.9 ล้านล้านบาท แต่ยังอยู่ ในอันดับ 6 เท่าเดิม ฉะนั้น ก็อยู่ที่ฝีมือว่า จะทำได้ดีแค่ไหน"

Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 12) จีนอาจให้เยาวชนต้องสแกนใบหน้าก่อนจะไลฟ์เล่นเกม : ในการประชุมรัฐสภาประจำปีของมีการยื่นข้อเสนอจาก All-China Youth Federation (ACYF) หรือองค์กรพรรคคอมมิวนิสต์ที่ส่งเสริมการศึกษาของแนวคิดเหมา เจ๋อตุง และเติ้งเสี่ยวผิง ให้เยาวชนสแกนใบหน้าก่อนจะเล่นเกมและไลฟ์สตรีมเกม

Tencent เองก็เคยเปิดใช้งานการจดจำใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนของผู้เล่น Honor of Kings ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนใช้เวลากับเกมมากเกินไป สื่อของรัฐบาลจีนยังมีมุมมองต่อเกมว่าไม่ปลอดภัยต่อเยาวชนอีกด้วย

ข้อมูลตัวเลขที่รวบรวมโดยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ระบุว่า การไลฟ์สตรีมเป็นกิจกรรมที่เยาวชนจีนชื่นชอบ โดยมีสัดส่วนเยาวชน 45% ที่ชอบไลฟ์ และในข้อเสนอของ ACYF ยังบอกด้วยว่า วัยรุ่นโดยเฉพาะผู้เยาว์กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตของการพัฒนานิสัยทางศีลธรรม พวกเขายังไม่สามารถแยกแยะได้ และพวกเขาอาจเข้าใจผิดได้ว่าการไลฟ์นั้นจะทำให้พวกเขามีชื่อเสียง และมีเงิน ซึ่งจะมีผลกระทบด้านลบอย่างมากต่อการสร้างคุณค่าของพวกเขา

บริษัทโซเชียลของโลกในระยะนี้ออกมาตรการป้องกันเด็กออกมามาก เช่น YouTube ก็ปิดคอมเม้นท์ใต้วิดีโอเด็กเพราะไม่อยากให้เด็กเจอคอมเม้นท์คุกคามจากผู้ไม่หวังดีต่อเด็ก Tik Tok แบนไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 โพสต์คลิป และถึงแม้ว่าเจตนาของพรรค ACYF คือการปกป้องเด็ก แต่รัฐบาลจีนก็แบนเนื้อหาประเภทอื่นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย เช่น การล้อเลียนประวัติศาสตร์

Source: Blognone
https://www.techinasia.com/china-facial-recognition-stop-kids-live-streaming

 

Kike Hernandez

#History เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 1989 สหรัฐอเมริกาได้อพยพพนักงานทั้งหมดออกจากสถานทูตอเมริกันในปานามา 4 วันต่อมาปานามา ถูกแทรกแซงโดยทหารในอเมริกาเหนือ และปล่อยตัวจากเผด็จการแห่ง มานูเอล โนริก้า

 

Clima Extremo 24
บราซิล

วิดีโอที่น่ากลัวของโครงสร้างที่ไม่ได้ต้านทานต่อพลังน้ำจากน้ำท่วมฉับพลันในSão Caetano do Sul ในเซาเปาโลเช้าวันที่ 11 มีนาคม

 

Clima Extremo 24

บราซิล

ทันใดนั้นเหตุการณ์น้ำท่วมได้เข้ามาในบ้านและอาคาร และเอาทุกสิ่งที่น้ำเหล่านี้สามารถทำได้ จากเฟอร์นิเจอร์ในเช้าวันนี้ที่São Bernardo do Campo ประเทศบราซิล

 

Clima Extremo 24
บราซิล

น้ำเข้าสู่สถานี Mauá ทำให้เกิดน้ำท่วม น้ำท่วมได้รับการบันทึกในหลายเมืองของเซาเปาโล ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม

 

Clima Extremo 24

มหาสมุทรอินเดีย

พายุไซโคลนเขตร้อน Idai ที่ปัจจุบันอยู่ใกล้กับเกาะ Juan de Nova ในช่องแคบโมซัมบิก พร้อมกับลมกระโชกที่ 250 กม. / ชม. ควรมาถึงประเทศในวันศุกร์

 

Clima Extremo 24
ออสเตรเลีย

เซลล์ที่ทรงพลังที่สุดในควีนส์แลนด์ออสเตรเลียวันนี้ 11 มีนาคม

 

Clima Extremo 24

ออสเตรเลีย

พายุฝนรุนแรง และลมแรง ที่พัดถล่ม Redcliffe รัฐควีนส์แลนด์ วันนี้ 11 มีนาคม

 

Clima Extremo 24
อิตาลี

ฉากบนชั้นเมฆ บนท้องฟ้าจากพายุที่เข้าสู่เมืองเปสการา ของอิตาลี 11 มีนาคม

 

Peerapong Amornpich


#เงินเกลื่อนพื้นแต่ไม่มีค่าไม่มีคนเก็บ

ที่กรุง Caracas ประเทศเวเนซูเอล่า วันนี้เป็นวันที่หกแล้วที่ไม่มีไฟฟ้า-น้ำปะปาใช้ เกิดการปล้นสะดมร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และธนาคาร ประชาชนบุกเข้าไปหยิบฉวยสินค้า อาหาร ยารักษาโรค และอุปกรณ์สำนักงานต่างๆที่พอจะนำมาแลกกับอาหารได้ ยกเว้นแต่เพียงอย่างเดียวที่ประชาชนไม่แตะต้องนั่นคือเงิน ที่เห็นเป็นกระดาษสีขาวตกกระจายอยู่ตามพื้นถนนนั่นคือเงิน bolivar ของเวเนซุเอล่า

 

Clima Extremo 24


บราซิล



กระแสน้ำที่พัดพาทุกอย่างไป เพราะฝนตกที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ใน San Bernardo do Campo ประเทศบราซิล

 

Clima Extremo 24


MEXICO



ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ใน Las Vigas, Veracruz ที่เริ่มต้นตอนเที่ยงใน Toxtacloaya


รูปภาพของไฟป่าใน Las Vigas ทำให้ต้องอพยพผู้คนมากกว่า 2 พันคนรอบ 2 เขตเทศบาล