ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 10) ยื้อลมหายใจวิกฤติ Brexit? ในช่วงตลอดเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นที่เกิดขึ้นมากมายในสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษ เรื่องที่สร้างความสนใจไม่น้อยเห็นจะเป็นกรณีที่สมาชิกของทั้งพรรคแรงงานจำนวน 7 คนและพรรคอนุรักษนิยมจำนวน 3 คน ได้ลาออกจากสถานะความเป็นสมาชิกพรรคของตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าพรรคที่ตนเองสังกัดอยู่นั้นใส่ใจเรื่องทางการเมืองมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศ จึงยอมที่จะลาออกมาเป็นผู้แทนราษฎรอิสระในสภา แบบไม่สังกัดพรรคการเมือง (Independent Group)

ซึ่งแน่นอนย่อมเกิดเสียงทั้งสนับสนุนและคัดค้าน โดยเสียงที่คัดค้านเห็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเหล่านี้สามารถเข้ามาเป็นผู้แทนของประชาชนได้ ก็เพราะประชาชนในพื้นที่นั้นๆ เชื่อมั่นในพรรคการเมืองที่เขาเหล่านั้นสังกัด จึงทำให้ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ในสภา ดังนั้นการที่ลาออกจากพรรคจึงเป็นเสมือนการทรยศพรรคของตัวเอง

ในขณะที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มสนใจปรากฏการณ์นี้ โดยเรียกร้องให้นักการเมืองทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาวิกฤติ Brexit โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก มากกว่าประโยชน์ของพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัดอยู่ และตลอดช่วงที่ผ่านมาประชาชนรอลุ้นว่ารัฐบาลของนายกฯเทเรซา เมย์จะดำเนินการอย่างไรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เนื่องจากรัฐบาลได้เคยแถลงไว้ว่าในวันที่ 26 หากรัฐบาลพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเสนอที่รัฐบาลไปทำความตกลงกับ EU มีแนวโน้มว่าจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภา เหมือนครั้งที่ผ่านมาในวันที่ 27 มกราคม จะเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากสภา เกี่ยวกับแนวทางแก้ไข

แต่ผลปรากฏว่าในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายกฯเมย์ กลับออกมาแถลงว่า ระหว่างนี้รัฐบาลมีความพยายามในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงกับทาง EU จึงขอเลื่อนระยะเวลาการลงมติเกี่ยวกับการแยกตัว (meaningful vote) ออกไปเป็นอย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 12 มีนาคม

นอกจากนี้ยังได้ยืนยันด้วยว่า หากผลออกมาปรากฏว่า ข้อเสนอของรัฐบาลถูกคว่ำเหมือนครั้งที่แล้วอีก จะมีการเปิดให้สภา ลงมติว่าจะยอมรับการแยกตัวจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง (with no deal) หรือไม่ในวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งจุดนี้รัฐบาลโดนสมาชิกสภาจำนวนมากโจมตี เพราะประเด็นนี้เคยเปิดให้มีการลงมติไปแล้ว

โดยสภาเคยยืนยันว่าจะไม่ยอม รับ Brexit with no deal และนอกจากช่องทางที่กล่าวแล้ว นายกฯเมย์ยังได้ยอมเสนอทางเลือกใหม่เป็นครั้งแรก โดยยืนยันต่อสภาว่า หากสภาลงมติยืนยันว่าไม่รับการแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลง ในวันที่ 14 จะเปิดให้มีการลงมติเพื่อขอขยายระยะเวลาการแยกตัวออกไปแบบจำกัดเวลาในช่วงสั้นๆ (short time- limited extension) ซึ่งในจุดนี้นายกฯเมย์แถลงว่าหากจะมีการขอขยายระยะเวลาออกไปก็จะเป็นการขอขยายระยะเวลาการแยกตัวออกไปถึงแค่สิ้นเดือนมิถุนายน 2019 เท่านั้น

จากสิ่งที่รัฐบาลได้แถลงในสภา ดูเหมือนว่านายกฯเมย์ ก็ยังคงใช้แผนการซื้อเวลาต่อไป เพราะหากพิจารณาดีๆ จะเห็นว่า จริงๆ แล้วการลงคะแนนเรื่องการแยกตัวที่ต้องจัดให้มีการลงคะแนนตั้งแต่ธันวาคม 2018 ก็เลื่อนมาลงคะแนนเดือนมกราคม 2019 และเมื่อเปิดให้ลงคะแนนผลก็ออกมาว่าข้อเสนอจากรัฐบาลไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภา ด้วยคะแนนเสียง 432 ต่อ 202 ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ควรจะหาทางออกอย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามที่รัฐบาลได้เคยแถลงไว้ต่อสภา

แต่กลับกลายเป็นว่าระยะเวลาได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงเกือบกลางเดือนมีนาคม ซึ่งใกล้กับช่วงครบกำหนดที่ UK ต้องแยกตัวจาก EU ในวันที่ 29 มีนาคมนี้แล้ว

การที่รัฐบาล UK เดินเกมแบบนี้มีประเด็นที่น่าเป็นห่วงหลายประการ อย่างแรกข้อเสนอที่รัฐบาลแจ้งกับสภา ว่ามีความคืบหน้า ซึ่งก็คงต้องรอดูว่ารัฐบาลได้รับข้อเสนออะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยตกลงกับ EU ในครั้งก่อน ที่สภา ได้ลงมติคว่ำข้อเสนอนั้นของรัฐบาลไปเมื่อครั้งที่แล้ว จนพอจะทำให้สภา หันมาเห็นชอบกับรัฐบาล

ซึ่งเมื่อ EU ออกมาย้ำหลายครั้งแล้วว่าจะไม่กลับสู่โต๊ะเจรจาอีก แล้วรัฐบาลจะเอาความเปลี่ยนแปลงของข้อตกลงมาจากไหน ซึ่งถ้าสุดท้ายสภายังคงโหวตคว่ำข้อเสนอของรัฐบาลอีก นั่นหมายความว่า การแยกตัวของ UK จาก EU จะกลายเป็นการแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลงไปเลย

ดังนั้นถึงแม้วันที่ 13 มีนาคม สภาจะเปิดให้มีการลงมติว่าจะรับการแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าสภาย่อมโหวตที่จะไม่เอา Brexit with no deal อยู่แล้ว ก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด เมื่อสภาได้คว่ำ deal ของรัฐบาลไปแล้ว ดังนั้นเมื่อเวลาการแยกตัวมาถึง UK ก็จำต้องยอมแยกตัวออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลงอยู่ดี

นอกจากนี้คำยืนยันของรัฐบาลที่แถลงว่า ถ้าการโหวตเป็นไปไม่ได้ทั้ง2 ทาง ไม่ว่าจะเป็นการคว่ำข้อตกลงที่รัฐบาลเสนอ หรือการไม่ยอมแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลง จะยอมให้มีการลงมติเพื่อขยายระยะเวลาการแยกตัวออกไป จุดนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะความยินยอมในการเลื่อนกำหนดระยะเวลาออกไปไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้เมื่อสภาของ UK ลงมติยอมรับเท่านั้น หากแต่ต้องได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ของสมาชิกทั้ง 27 ประเทศของ EU ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหากประเทศใดเพียงประเทศหนึ่งคัดค้าน (Vito) การเลื่อนกำหนดระยะเวลาแยกตัวออกไป UK ก็จำต้องแยกตัวออกจาก EU โดยทันทีในวันที่ 29 มีนาคมที่จะถึงนี้ และจะเป็นการแยกแบบไม่มีข้อตกลงอีกด้วย

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่ารัฐบาลของ UK ไม่ได้มีการเสนอแผนสำรองไว้เลยว่า หากไม่ได้รับมติอย่างเป็นเอกฉันท์ในการเลื่อนกำหนดระยะเวลาการแยกตัวออกไปแล้ว รัฐบาลจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร ดังนั้นดูเหมือนว่าข้อเสนอเพิ่มเติมที่นายกฯเมย์ให้กับสภา ดูจะยังไม่พอที่จะยื้อเวลาวิกฤติ Brexit ออกไปทำให้พออนุมานได้ว่า หรือนี่จะเป็นเพียงแผนที่รัฐบาลจะบีบคอสมาชิกสภา เพื่อให้ลงมติเห็นด้วยกับข้อเสนอของรัฐบาล ซึ่งตรงกับที่นายกฯเมย์ยืนยันมาโดยตลอดว่าตนและรัฐบาลประสงค์จะให้มีการแยกตัวภายในกำหนดวันที่ 29 มีนาคมนี้

และหากสภายังคงเลือกที่จะคว่ำข้อเสนอของรัฐบาลอีก การแยกตัวออกมาจาก EU ก็จะต้องเป็นแบบไม่มีข้อตกลงจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่ามติดังกล่าวของสภา จะนำพาให้ประเทศและประชาชนต้องผจญกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสุดท้ายก็จะขยายวงไปเป็นวิกฤติเศรษฐกิจโลกในที่สุด

หากสภายังคงเลือกที่จะคว่ำข้อเสนอของรัฐบาลอีกการแยกตัวออกมาจาก EU ก็จะต้องเป็นแบบไม่มีข้อตกลง

คอลัมน์ รู้เท่าทันสารพันกฎหมาย: มาร์ค เจริญวงศ์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
ปัจจุบัน ศึกษาปริญญาเอกอยู่ที่ University of Kent (United Kingdom) สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาระหว่างประเทศ

Source: ฐานเศรษฐกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 10) หัวเว่ย'ลุกขึ้นสู้ รุกโต้กลับ'สหรัฐ' : นับตั้งแต่ถูกรัฐบาลสหรัฐไล่บี้อย่างหนักอยู่ฝ่ายเดียว"หัวเว่ย" ยักษ์สมาร์ทโฟนแดนมังกรก็ลุกขึ้นมาโต้กลับ พลิกจากท่าทีตั้งรับมาโดยตลอด ด้วยการประกาศว่ากำลังยื่นฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐ

หัวเว่ย ระบุว่า มาตรา 889 ภายใต้ กฎหมายว่าด้วยความมั่นคงของสหรัฐ (NDAA) ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามบังคับใช้เมื่อเดือน ส.ค. 2018 ทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐและบริษัทคู่สัญญาไม่สามารถจัดซื้ออุปกรณ์และบริการของหัวเว่ย ซึ่งเป็นการกีดกันทางธุรกิจ เพราะบั่นทอนการแข่งขันเอกชนรายอื่นได้อย่างเท่าเทียม ขณะที่สภาคองเกรสเองก็ไม่สามารถชี้แจงหลักฐานสนับสนุนการแบนอุปกรณ์ของหัวเว่ย

ไม่เพียงเท่านั้น กฎหมายดังกล่าวยังขัดต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ เนื่องจากเป็นกฎหมายลงโทษบุคคลหรือกลุ่มบุคคลโดยไม่ผ่านกระบวนการพิจารณาคดีจากศาล (Bill of Attainder)

ขณะเดียวกัน หัวเว่ย ระบุว่า จะยังไม่ยื่นฟ้องออสเตรเลียที่ตัดสินใจแบนการใช้อุปกรณ์หัวเว่ยในเครือข่าย 5จี ก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าต้องการเจรจาหาทางร่วมมือกับออสเตรเลียก่อน โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ส.ค. ออสเตรเลียออกแนวทางสร้างเครือข่าย 5จี ที่แบนทั้งหัวเว่ยและซีทีอี (ZTE) โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคง

ชัยชนะอันยากเข็ญ

แม้การลุกขึ้นมาฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐถือเป็นการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวที่สุด แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายรายมองว่า หัวเว่ยยากชนะศึกทางกฎหมายในครั้งนี้ โดยอย่างมากที่สุดก็แค่ช่วยชะลอรัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกีดกันรอบใหม่เท่านั้น

ตัวอย่างความพ่ายแพ้ปรากฏให้เห็นมาแล้วในกรณีของ แคสเปอร์สกี บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์สัญชาติรัสเซีย ซึ่งจำหน่ายซอฟต์แวร์แอนตี้ ไวรัสมาให้รัฐบาลสหรัฐมาอย่างยาวนาน แต่ก็เผชิญการแบนในปี 2017 หลังกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ (DHS) สั่งให้หน่วยงานรัฐบาลเลิกใช้ผลิตภัณฑ์และสภาคองเกรสได้ออกมาตรการแบนออกมาภายใต้กฎหมาย NDAA

แคสเปอร์สกี ยื่นฟ้อง 2 กรณี 1.ฟ้อง DHS ที่สร้างความเสียหาย ต่อยอดขายและชื่อเสียงบริษัท 2.ฟ้อง Bill of Attainder Clause ภายใต้กฎหมาย NDAA

อย่างไรก็ดี ผู้พิพากษาส่วนกลางยกฟ้องกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า มาตรการแบนอยู่ในขอบเขตอำนาจของรัฐบาล ด้านศาลอุทธรณ์สรุปว่า คองเกรสมีสิทธิสั่งบล็อกการซื้อซอฟต์แวร์จาก ผู้ขายรายใดรายหนึ่ง โดยเฉพาะหากมีความกังวลด้านความมั่นคง

ด้วยเหตุนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่กรณีของหัวเว่ยจะจบลงแบบเดียวกับแคสเปอร์สกี ขณะที่รัฐบาลสหรัฐเองวิตกเรื่องการใช้อุปกรณ์หัวเว่ยจากเหตุผลเรื่องความมั่นคงมานานแล้ว นับตั้งแต่เมื่อปี 2012 ที่คณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาผู้แทนราษฎร กระตุ้นให้ธุรกิจสหรัฐเลี่ยงการใช้สินค้าจากหัวเว่ย รวมถึงเรียกร้องให้ขัดขวางการเข้าซื้อและควบรวมกิจการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริษัท

ปักกิ่งโต้อย่าหวังเชือดเงียบ

แม้การต่อสู้ทางกฎหมายคงไม่ง่ายสำหรับหัวเว่ย แต่บริษัทก็ได้แรงหนุนเต็มที่จากรัฐบาลจีน

หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่า รัฐบาลจะสนับสนุนหัวเว่ยทั้งเรื่องการต่อสู้ทางกฎหมาย และการทำแคมเปญประชาสัมพันธ์ เพื่อต่อสู้กับคำกล่าวหาของสหรัฐ โดยวอชิงตันระบุว่า เครือข่ายและอุปกรณ์หัวเว่ยเปรียบได้กับ "ม้าไม้เมืองทรอย" ที่เป็นอุบายหวังล้วงข่าวกรองสหรัฐ

"เราจะ ใช้มาตรการจำเป็นทั้งหมด เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของเอกชนและพลเมืองจีน" หวังอี้ กล่าว แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมาตรการเพิ่ม พร้อมเสริมว่า จีนจะไม่ปล่อยให้เอกชนแดนมังกรกลายเป็นลูกแกะที่รอถูกเชือดอย่างเงียบๆ

นานาชาติแบ่งรับแบ่งสู้

ในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐพยายามหว่านล้อมให้ชาติพันธมิตรทั่วโลกระงับหรือหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์หัวเว่ยสำหรับเครือข่าย 5จี แต่บางชาติก็ยังไม่เอาด้วย

"เยอรมนี" คือชาติที่ประกาศล่าสุดว่าไม่ต้องการแบนหัวเว่ยเข้าร่วม 5จี หลังบริษัทโทรคมนาคมจำนวนมาก เช่น ดอยช์ เทเลคอม คัดค้านการแบนหัวเว่ย เพราะจะเตะถ่วงการเดินหน้าเปิดบริการ 5จี

ขณะเดียวกัน เยอรมนีได้ปรับหลักเกณฑ์การจัดซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยระบุให้ใช้อุปกรณ์เครือข่ายที่ได้รับการตรวจสอบและได้รับใบรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลทางไซเบอร์ของรัฐบาลกลางเท่านั้น

ด้าน "อินเดีย" มีท่าทีแบ่งรับ แบ่งสู้ โดยนิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลอินเดียกำลังหาทางจำกัดหัวเว่ยเข้าร่วมการประมูลเครือข่าย 5จี ภายในปีนี้ โดยอินเดียอาจใช้แนวทางสายกลาง ที่อนุญาตให้หัวเว่ยประมูลสัญญาได้แค่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งไม่ใช่พื้นที่สำคัญของประเทศ

ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์
Source: Posttoday

ไทม์ไลน์ศึกหัวเว่ยปะทะสหรัฐ
2018
22 ส.ค. : ศาลแขวงนิวยอร์กออกหมายจับ "เมิ่งหว่านโจว" ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (ซีเอฟโอ) ของหัวเว่ย และลูกสาวของ เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง บริษัท หัวเว่ย
1 ธ.ค. : แคนาดาจับตัวเมิ่งที่สนามบินแวนคูเวอร์ ตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐ
6 ธ.ค. : รัฐบาลจีนเรียกร้องให้ปล่อยตัวเมิ่งทันที พร้อมย้ำเมิ่งไม่ได้ละเมิดกฎหมายสหรัฐหรือแคนาดา
2019
16 ม.ค. : เหรินเจิ้งเฟย กล่าวออกสื่อว่าหัวเว่ยปฏิบัติตามกฎหมาย
22 ม.ค. : จีนเรียกร้องให้สหรัฐถอนหมายจับเมิ่ง
28 ม.ค. : กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ยื่นฟ้องหัวเว่ยรวม 23 ข้อหา
29 ม.ค. : จีนแถลงว่าจะปกป้องเอกชนจีน พร้อมจี้สหรัฐหยุดไล่บี้เอกชนจีนอย่างไร้เหตุผล
7 มี.ค. : หัวเว่ยฟ้องรัฐบาลสหรัฐ กรณีออกกฎหมายกีดกันธุรกิจ

 

Visudhi Punya

เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ขึ้น
ในทะเลสาปแห่งหนึ่งที่แคลิฟอร์เนีย
ดูดกลืนน้ำจากทะเลสาปหายลงไปในหลุม
แลดูน่าตระหนกยิ่งนัก

 

Visudhi Punya

ขณะนี้พายุหิมะ
กำลังเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต
ของพี่ๆน้องๆที่ #เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ประเทศรัสเซีย อย่างยิ่ง

 

Kike Hernandez


วิดีโออื่นๆ ที่แสดงการระเบิดของสถานีไฟฟ้าย่อยใน concresa, caracas ประเทศ venezuela, หม้อแปลงหลายตัวของภาค ก็ระเบิด

 

Kike Hernandez

รูปภาพและวิดีโอเพิ่มเติม แสดงการระเบิดของสถานีไฟฟ้าย่อยใน caracas venezuela






ข้อมูลในการพัฒนา....

 

Kike Hernandez
2 ชม.

#นาทีสุดท้าย
รายงานการระเบิดของหม้อแปลงสองตัว ไปยัง Tahona เสียงดังก้องดังขึ้นในทุกพื้นที่ โดยรอบทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Caracas venzuela มันจะเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนเห็นท้องฟ้าเปล่งประกาย

 

Mundo extremo

สภาพอากาศกำลังกลับหัวกลับหาง
หิมะที่ผิดปกติในปากีสถาน ทำให้สถานที่ที่เต็มไปด้วยหิมะ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยภาพพาโนรามานี้
2019/03/11

 

Mundo extremo

วิดีโอที่กรองแล้วของเครื่องบินที่ชนใน etopia มีผู้โดยสาร 157 คนเสียชีวิต
วิดีโอนี้ถ่ายก่อนพบความโชคร้าย

 

Mundo maravilloso

เครื่องบินจับภาพพระอาทิตย์ตกที่น่าประทับใจในฮาวายว้าว ธรรมชาติเจ๋งมาก.

 

Amazing World



พายุที่เลวร้ายในอาร์เจนตินา

 

Clima Extremo 24

ฮังการี
พายุฝุ่นถล่มวันนี้ในเขต zala

 

Clima Extremo 24

ยุโรป
ลมกระโชกแรงพัดผ่าน Berck sur Mer ประเทศฝรั่งเศสวันนี้ 10 มีนาคม

 

Clima Extremo 24

ยุโรป
ลมพัดอย่างรุนแรงถึง 100 ถึง 120 กม / ชม. ใน Bonn ประเทศเยอรมนี วันนี้ 10 มีนาคม

 

Clima Extremo 24

PANAMA
เรารายงานไฟไหม้ ที่ JoséAgustín Arango Avenue

 

Clima Extremo 24


ช่วงเวลาที่รถบัส (รถบรรทุก) ระเบิดในใจกลางเมืองสตอกโฮล์ม วันนี้ 10 มีนาคม
รถบัสก๊าซธรรมชาติ ที่ไม่มีผู้โดยสาร ติดไฟจากการระเบิด ในเมืองหลวงของสวีเดน สตอกโฮล์ม ไม่มีผู้โดยสารบนรถบัส มีเพียงคนขับ

ไม่มีสัญญาณว่ามันเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ตำรวจสตอกโฮล์มกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ กรมตำรวจของเมืองทวีต ว่า คนขับรถบัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการไหม้รุนแรง แต่เป็นที่รู้กันว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอีก

 

Clima Extremo 24

เบลเยียม
ลมแรงมากถึง 110 กม. / ชม. ทำให้เกิดในบางพื้นที่ของประเทศเบลเยียม ในเมเคอเลิน ได้รับความเสียหายบนหลังคา

 

Clima Extremo 24

อัฟริกา
มาลาวีประสบกับภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ที่เกิดจากฝนตกหนัก ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรายงานมีผู้เสียชีวิต 23 ราย และสูญหายจำนวนมาก

 

Clima Extremo 24

รัสเซีย
การปะทุของภูเขาไฟ Shiveluch ใน Kamchatka ประเทศรัสเซียวันนี้ 10 มีนาคม

 

Clima Extremo 24

อินโดนีเซีย
อุบัติเหตุรถไฟในเมือง Kebon Pedes เมืองโบกอร์ มุ่งหน้าสู่กรุงจาการ์ตา ...มีบาดเจ็บ 3 คน