ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_0534.JPG
    (Mar 11) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าว “ยังไม่รีบร้อนที่จะต้องเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน” : ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาได้ออกมากล่าวถึงนโยบายการเงินว่า ยังไม่รีบร้อนที่จะต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน ซึ่งส่งสัญญาณกับตลาดในแง่ดีว่าเราอาจเห็น Fed ไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย

    เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัย Stanfordว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินทันทีทันใด และนอกจากนี้จะดูแลไม่ทำให้ภาคการเงินเกิดเหตุการช็อกเนื่องจากผลของนโยบายทางการเงิน เหมือนในช่วงที่ผ่านมา

    เขายังได้กล่าวถึงว่าปัจจุบันเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่มีตัวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีสัญญาณถึงขั้นวิกฤติ จนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องรีบเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน โดย Fed กำลังจับตามองและเฝ้าระวังเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดอีกด้วย


    สำหรับการออกมากล่าวสุนทรพจน์ในเรื่องนี้ของประธาน Fed เนื่องจากในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก นอกจากนี้ตัวเลขดังกล่าวยังส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ อาจกำลังเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอีกรอบ สำหรับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งต่อไปคือวันที่ 19-20 มีนาคม ที่จะถึงนี้


    มุมมองของประธาน Fed ทำให้มีการคาดเดาว่านโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ ในปีนี้อาจไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยเลย ด้วยซ้ำ และยังรวมไปถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ถ้าหากตัวเลขทางเศรษฐกิจย่ำแย่กว่าที่คาด เพื่อที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบ โดยก่อนหน้านี้ตลาดคาดการณ์ว่า Fed อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 2 ครั้งด้วยซ้ำ


    นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐยังกำลังอยู่ในช่วงการลดงบดุลจากจุดสูงสุดเดิมที่ 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หรือ QE โดยปัจจุบันงบดุลของ Fed อยู่ที่ 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแผนการลดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐคือลดงบดุลให้ได้เดือนละ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประธาน Fed ได้กล่าวว่าเรื่องของแผนการลดงบดุลนี้เขาจะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบถึงแผนการนี้อย่างแน่นอน


    โดย Wattanapong Jaiwat

    Source: Brandinside.asia


    https://brandinside.asia/fed-wait-and-see-us-economics-and-care-the-market/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Sayan Rujiramora


    ฮังการีเผาทำลายไร่ข้าวโพด GMO ของ Monsanto ทั้งหมดประมาณ 1,000 เอเคอร์ ...หลังจากพบว่าใช้เมล็ดพันธ์ข้าวโพดที่มีการตัดต่อพันธุกรรม...


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวเกาหลีเหนือแห่เลือกตั้งคึกคัก แม้รู้อยู่แล้วว่า 'คิม จองอึน' ยังไงก็ชนะ #เรื่องเล่าเช้านี้ #ต่างประเทศ

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ย้อนไปเดือน ต.ค.61 หรือ 5 เดือนก่อน โบอิ้ง 737 แม็กซ์ ของไลออน แอร์ อินโดนีเซีย ก็ตกหลังขึ้นบินแค่ไม่กี่นาที ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 189 คนดับ ล่าสุด ของเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ตก ตาย 157 คน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_0535.JPG
    (Mar 10) สหรัฐ'ตัด GSP'อินเดีย-ตุรกี'ไทย-อินโดนีเซีย ลุ้นระทึก : การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ ทั่วโลกต่างคาดหวังว่าข้อพิพาทระหว่างสองมหาอำนาจจะคลี่คลายลง แต่การทบทวนโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ของแต่ละประเทศอีกครั้งหลังสหรัฐยกเลิกสิทธิดังกล่าวกับ "อินเดีย" และ "ตุรกี" เมื่อสัปดาห์ก่อนกำลังถูกจับตามองด้วยความเป็นห่วง



    นิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) แถลงเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้า GSP สำหรับประเทศอินเดีย และตุรกี ซึ่งจะมีผลการพิจารณาภายใน 60 วัน โดยระบุว่าทั้งสองชาติไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับสิทธิอีกต่อไป เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียและตุรกีที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง



    อีกหนึ่งปัจจัยเป็นผลจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า อินเดียไม่ยอมให้ธุรกิจสหรัฐเข้าถึงตลาดตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งยังกีดกันทางการค้าต่อธุรกิจอเมริกา โดยเฉพาะกับ ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ จนทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้น



    "อินเดีย" ที่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก GSP สูงสุดในเอเชียมีมูลค่าสินค้าที่ส่งไปยังสหรัฐอย่างปลอดภาษีที่ 5,600 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ "ตุรกี" มีมูลค่าสินค้าภายใต้สิทธิ GSP ที่ 1,700 ล้านดอลลาร์



    ที่น่าสนใจคือ "ไทย" และ "อินโดนีเซีย"จะเข้าข่ายติดอยู่ในลิสต์รายชื่อประเทศที่สหรัฐจะยกเลิกให้สิทธิพิเศษ GSP หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ USTR ได้รับคำสั่ง ให้ทบทวนการให้สิทธิต่อหลายประเทศ ตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีก่อน ขณะที่ผู้ประกอบการอเมริกันหลายรายเรียกร้องความเป็นธรรมเพื่อเข้าถึงตลาดนมในอินโดนีเซีย และเข้าถึงสินค้าเนื้อหมูในตลาดไทย



    ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับสิทธิ GSP จากสหรัฐเป็นมูลค่ากว่า 4,200 ล้านดอลลาร์ (เป็นอันดับ 2 รองจากอินเดีย) และอินโดนีเซีย มีมูลค่าสินค้าที่ได้รับสิทธิ GSP 2,000 ล้านดอลลาร์ (อันดับ 4 ในเอเชีย) ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าตุรกี อย่างไรก็ตาม ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้แทนของอินโดนีเซียได้เดินทางไปวอชิงตันแล้ว เพื่อเจรจากับสหรัฐและร่วมแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า-ลงทุนของสหรัฐในอินโดนีเซีย และคาดว่าจะเดินทางไปเจรจากรณีดังกล่าวที่วอชิงตันอีกครั้งกลางปีนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ายังจะได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า



    สำหรับ "ประเทศไทย" เคยถูกตัดสิทธิ GSP จากสหรัฐ 11 รายการ จากสินค้าที่ครอบคลุมทั้งหมด 3,500 รายการ ขณะเดียวกัน สื่อของอเมริกันรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดของ USTR ระบุว่า บราซิล ไนจีเรีย และแอฟริกาใต้ เป็นอีกกลุ่มประเทศหนึ่งที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อย ๆ



    ส่วนฟิลิปปินส์ และปากีสถาน ติดโผมีการส่งออกไปยังสหรัฐคิดเป็นมูลค่าเกินเพดานที่กำหนด นักวิเคราะห์จึงมองว่า หากไทยและอินโดนีเซีย ถูกตัดสิทธิ GSP เป็นไปได้ว่าประเทศเหล่านี้จะถูกทบทวน GSP เป็นรายต่อไป


    Source: ประชาชาติธุรกิจ

    - US move to end India trade benefit rattles Indonesia and Thailand : https://asia.nikkei.com/Economy/US-move-to-end-India-trade-benefit-rattles-Indonesia-and-Thailand
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไทยตอนบนอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางพื้นที่ ขณะที่ 13-16 มี.ค.นี้ ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุม จะทำให้หลายภาคเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเอ็นเสียเจ้าหน้าที่คราวเดียว19คน จากเหตุเครื่องบินเอธิโอเปียตก... #เครื่องบินตก #เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ส #157ชีวิตดับยกลำ #เจ้าหน้าที่ยูเอ็นตาย19คน #เดลินิวส์

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MOREMOVE


    #มอร์มูฟเป็นข่าว เชื่อใจ (จีน) ได้ไหม!!?? ก่อนหน้านี้มีสัญญาณถูกส่งออกมาเรื่อยๆ อยู่เนืองๆ ถึงความไม่ชอบมาพากลกรณีจีนให้ประเทศต่างๆ ในแอฟริกาใต้กู้ยืมเงินแบบทุ่มไม่อั้น ทั้งการที่มีข่าวเล็ดรอดมาว่า จีน (จะ) ได้เข้าครอบครองบริษัทการไฟฟ้าของประเทศแซมเบียเพื่อใช้หนี้ในโครงการกู้ยืมต่างๆ ของรัฐบาล หรือเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็มีรายงานว่าท่าเรือมอบบาซาของเคนยาก็มีความเสี่ยงที่จีนจะเข้ามาบริหารเพื่อ (ขัดดอก) ชดใช้หนี้กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์จากโครงการเส้นทางรถไฟจากท่าเรือถึงกรุงไนโรบีของเคนยา โดยผู้นำของทั้ง 2 ประเทศออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว ยืนยันเดินหน้ากู้ยืมเงินต่อเพื่อพัฒนาประเทศ


    ล่าสุด #หนี้สาธารณะ ในอูกันดาที่พุ่งสุงขึ้นจากการกู้ยืมเงินจากจีน ทำให้อูกันดาตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะถูกยึด 'ทรัพย์สิน' เพื่อชดใช้หนี้ก้อนใหญ่ให้แก่จีนเช่นกัน


    Source : voicetv - https://bit.ly/2ELXqrK // https://bit.ly/2EUFjB8 // https://bit.ly/2SSQcHA


    วิกฤตการณ์หนี้สินของหลายประเทศในแอฟริกากำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ หลังจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจีนเข้าไปลงทุนในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนน รถไฟ ท่าเรือ และสนามบิน ด้วยเงินลงทุนที่สูงลิ่ว จนมองไม่เห็นว่าแต่ละประเทศจะสามารถหาเงินมาใช้หนี้ทั้งหมดได้หรือไม่


    โดยเรื่องนี้ สถาบันเพื่อการพัฒนาต่างประเทศระบุว่า ประเทศในภูมิภาคแอฟริกากว่าร้อยละ 40 ต่างกำลังตกอยู่วิกฤตหนี้สินที่เป็นอันตรายจากโครงการต่างๆ ของจีนที่เข้ามาลงทุนและสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในแอฟริกา ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวเกิดจากการก่อสร้างโดยบริษัทจีนที่มีราคาแพงเกินไป และทำให้ประเทศต่างๆ ก่อหนี้จำนวนมหาศาลที่พวกเขาไม่อาจจะจ่ายคืนได้หมด


    อย่างไรก็ตาม รายงานของหน่วยงานตรวจเงินแผ่นดินของประเทศอูกันดา ระบุว่า หนี้สาธารณะของอูกันดานับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2017-2018 เพิ่มขึ้นกว่า 2,000 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 9,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป็น 11,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้อูกันดาตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเสียทรัพย์สินที่เป็นของรัฐให้แก่เจ้าหนี้


    ซึ่งเรื่องนี้ นายมาเทีย คาไซจา รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอูกันดา กล่าวว่า บริษัทจากจีนหลายแห่งสามารถประมูลโครงการต่างๆ ในอูกันดา เนื่องจากพวกเขาให้ราคาที่ถูกที่สุดในการลงทุน ซึ่งเจ้าของบริษัทเหล่านี้มีเพียงผู้เดียว คือ 'รัฐบาลจีน'


    "ตราบใดที่เขายังอยู่ในตำแหน่ง จีนไม่สามารถที่เข้ามาครอบครองทรัพย์สินของอูกันกาได้ ยกเว้นมันจะเกิดหายนะขึ้นมาจริงๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้เขายังไม่เห็นว่าจะมีทางใดที่จีนเข้ามาครอบครองทรัพย์สินของรัฐได้ พวกเขาสามารถกระทำได้ในที่อื่นแต่ไม่ใช่ในอูกันดา"


    อนึ่ง Aficanstand สื่อของแอฟริกันเคยกล่าววิจารณ์ผู้นำรัฐบาลประเทศต่างๆ ในแอฟริกาว่า พวกเขากำลังจะทำให้ชาวแอฟริกันทุกคนเป็นทาสอีกครั้ง แม้ว่าในศตวรรษที่ 21 จะไม่มีโซ่ตรวนพันธนาการ แต่มีหนี้สินที่เกิดจากความไม่รู้และความเห็นแก่ตัวของบรรดาเหล่าผู้นำที่ได้กู้ยืมเงินจากจีนเพื่อมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและลงทุนในโครงการต่างๆ ของประเทศ.


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เร่งช่วย48หลังเมืองยางโคราชพายุฤดูร้อนถล่ม
    พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านพัง 48 หลังที่ อ.เมืองยางโคราช เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายพร้อมให้ความช่วยเหลือ 11 มีนาคม 2019 - 09:56

    8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99040-780x405.jpg


    นายศิวะเสก สินโทรรัมย์ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองยาง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองช่างองค์การบริหารส่วนตำบลละหารปลาค้าว อ.เมืองยาง ได้ลงพื้นที่ สำรวจความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนของประชาชน หมู่ที่ 10 ต.ละหารปลาค้าว ได้รับความเสียหาย โดยพบว่า พายุฤดูร้อนได้พัดเอาหลังคาบ้าน ซึ่งเป็นหลังคาสังกะสี ปลิวไปตกลงกลางทุ่งนาโดยเฉพาะบ้านของนายเรียง ฝ่ายกลาง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 10 ตำบลละหารปลาค้าว อ.เมืองยาง ถูกพายุฤดูร้อน พัดเอาหลังคาบ้านพังเสียหาย ทำให้ไม่มีที่อยู่อาศัย โดยเด็กนักเรียนชั้นม.1 และชั้น ม.2 โรงเรียนเมืองยางศึกษา ที่ได้อาศัยอยู่กับนายเรียง ฯ จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่กับบ้านญาติ

    8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9939-1024x768.jpg

    8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9942-1024x768.jpg

    ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พบว่า พายุฤดูร้อนได้พัดกระหน่ำบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 48 หลังคาเรือน ยุ้งข้าวเสียหาย 10 หลัง และคอกสัตว์ จำนวน 26 หลัง ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอำเภอเมืองยาง เร่งเตรียมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว

    %9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99038-1024x768.jpg

    %9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99044-1024x768.jpg

    8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9937-1024x768.jpg

    https://www.innnews.co.th/regional-...dzqvwQg7YQlMiIzYiaIXwC95WGdLJ3kkucQKTC0XkizRE
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โคราชแล้งหนักพระสงฆ์ขุดบ่อบาดาลใช้เอง
    จังหวัดนครราชสีมาแล้งหนัก พระสงฆ์ต้องขุดบ่อน้ำบาดาลใช้เอง ชาวบ้านกว่า 200 หลังขาดแคลนน้ำใช้นับเดือน ต้องซื้อน้ำใช้ขยายวงกว้าง 3 หมู่บ้าน 11 มีนาคม 2019 - 10:12

    91947-780x405.jpg

    สถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา ยังคงขยายวงกว้างออกไปมากขึ้น ล่าสุดพบว่า ชาวบ้าน ใน ต.หนองมะนาว อ.คง จ.นครราชสีมา ใน 3 หมู่บ้าน 200 หลังคาเรือน ขาดแคลนน้ำใช้ จำเป็นต้องซื้อน้ำจากรถขายน้ำ ในราคาถังละ 100 บาท มาไว้ใช้อุปโภค โดยนายมานพ จัดนอก ชาวบ้าน บ.หมัน ม. 1 ต.หนองมะนาว อ.คง บอกว่า ในปีนี้ สถานการณ์ภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ ปริมาณน้ำภายในสระน้ำสาธารณะ บ้านหมัน ม. 1 ต.หนองมะนาว อ.คง ที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปาให้กับชาวบ้านได้ใช้อุปโภค บริโภค ใน 3 หมู่บ้าน 200 หลังคาเรือน ปริมาณน้ำแห้งขอดจนหมด ไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาผลิตน้ำประปาได้ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ขาดแคลนน้ำใช้ จำเป็นต้องซื้อน้ำจากรถขายน้ำ ถังละ 100 บาท อาทิตย์ละ 300บาท เฉลี่ยเดือนละ 900-1,000 บาท
    91945-1024x576.jpg

    โดยล่าสุด พระภิกษุสงฆ์ภายในวัดบ้านหมัน ได้ร่วมกับกรรมการวัด ลงทุนขุดบ่อน้ำบาดาลไว้ภายในวัด เพื่อสูบน้ำขึ้นมาให้ชาวบ้านได้ใช้สอย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านจึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเร่งด่วน

    91950-1024x576.jpg 91949-1024x576.jpg 91948-1024x576.jpg 91944-1024x576.jpg 91943-1024x576.jpg


    https://www.innnews.co.th/regional-news/news_342701/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดฯ เจอภัยพิบัติอีก แม่น้ำมลพิษหลากท่วม กระทบชาวบ้าน 3 หมื่นชีวิต วันที่ 10 March 2019 - 13:56 น.
    000_1EC8LW-728x487.jpg
    เอเอฟพี รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติในอินโดนีเซียอีกครั้ง หลังจากฝนกระหน่ำจนแม่น้ำจีตารุม ล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 6,000 หลัง ในหลายพื้นที่ในจังหวัดชวาตะวันตก มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย และชาวบ้านหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย

    แม่น้ำจีรุมได้ชื่อว่า มีมลพิษปนเปื้อนสูงที่สุดในโลก เนื่องจากอยู่ในเขตอุตสาหกรรม เว็บไซต์ข่าววีวาของอินโดนีเซีย รายงานสถานการณ์ล่าสุด วันที่ 9 มี.ค. ว่าระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว จาก 2.5 เมตร เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เหลือ 1.9 เมตร

    ด้าน ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียระบุว่า เหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านกว่า 3 หมื่นคน ในหลายพื้นที่ของจังหวัดชวาตะวันตกและตะวันออก ขณะที่ชาวบ้านจากหลายชุมชนในชานเมืองบันดุง ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา ต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมสูงถึงระดับอก และย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยบนเรือโป๊ะและเรือไม้ลำเล็ก

    000_1EC8LV.jpg
    (Photo by TIMUR MATAHARI / AFP)
    ด้าน จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า ในจังหวัดนูซาเต็งการาตะวันออก บนเกาะโฟลเร็ซ ตั้งอยู่ภาคตะวันตกของอินโดนีเซีย เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย มีผู้บาดเจ็บ 3 คน อีก 8 คน ยังสูญหาย

    นายสุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติ กล่าวว่า แผ่นดินถล่มทำลายสะพาน บ้าน 3 หลัง และพาหนะอีกจำนวนมากในพื้นที่ และทางการต้องอพยพชาวบ้านอีกหลายคน

    westmenggara.jpg
    (JP/Markus Makur)
    ภัยพิบัตินี้เกิดต่อเนื่องจากเกิดเหตุน้ำท่วมและดินถล่มในจังหวัดสุลาเวสีใต้เมื่อเดือนม.ค. สังเวยเหยื่ออย่างน้อย 70 ราย ส่วนความคืบหน้าเหตุเหมืองทองคำผิดกฎหมายถล่มฝังกลบคนงาน 60 คน ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่ค่ำวันที่ 26 ก.พ. ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 27 ราย

    ที่มา : ข่าวสด

    https://www.prachachat.net/aseanaec/news-299481
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Juan Guaidoไม่มีอำนาจออก พระราชกฤษฎีกา เพราะเขาไม่ใช่ประธานาธิบดี

    Kike Hernandez

    #Juan Guaido - "สถานะของการเตือนที่เรากำลังจะออกพระราชกฤษฎีกาในวันพรุ่งนี้คือการขอความช่วยเหลือในการเข้าร่วมเหตุฉุกเฉินนี้"
    #Venezuela
    การแทรกแซงทางทหารที่เป็นไปได้ในเวเนซุเอลาในอีกไม่กี่ชั่วโมง ...









     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Hernandez

    เหลือเชื่อ
    โมเดลที่คาดการณ์ถึง พายุที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในดินแดนในใจกลางของสหรัฐอเมริกา (Kansas)
    ในวันต่อไป ...


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จอมฉวยโอกาส มีแต่คนที่จิตใจสกปรกที่สุดถึงจะนำความเดือดร้อนของประชาชนทั้งประเทศมาใช้ เพื่อประโยชน์ส่วนตน

    กวยโดปลุกมวลชนประท้วงในการากัส มาดูโรโทษมะกันต้นเหตุไฟดับหลายวัน
    เผยแพร่: 10 มี.ค. 2562 19:21 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002482601.jpg

    รอยเตอร์ – ฮวน กวยโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา เรียกร้องประชาชนทั่วประเทศเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อร่วมประท้วงใหญ่ต่อต้านประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ขณะที่เวเนซุเอลาเผชิญสถานการณ์ไฟดับครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีเป็นวันที่สามเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 มี.ค.)

    กวยโดที่อ้างอิงรัฐธรรมนูญและประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปราศรัยกับผู้สนับสนุนทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงการากัสว่า รัฐบาลมาดูโรเป็นต้นเหตุของวิกฤตไฟฟ้าและไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหานี้ กวยโดยังเรียกร้องให้ชาวเวเนซุเอลาทุกคนเดินทางไปยังการากัส แต่ไม่ได้บอกว่า จะจัดประท้วงใหญ่เมื่อใด

    นักเคลื่อนไหวปะทะกับตำรวจและทหารก่อนที่จะมีการชุมนุมเพื่อกดดันมาดูโรท่ามกลางวิกฤตไฟฟ้าดับ ซึ่งพรรคสังคมนิยมที่เป็นพรรครัฐบาลกล่าวหาว่า เป็นการก่อวินาศกรรมโดยมีอเมริกาหนุนหลัง ทว่า ฝ่ายค้านโต้ว่า สาเหตุที่แท้จริงมาจากการบริหารผิดพลาดและการทุจริตยาวนานถึงสองทศวรรษของรัฐบาล

    ดิออสดาโด คาเบลโล รองประธานพรรคสังคมนิยมแถลงทางทีวีว่า ไฟฟ้าในหลายพื้นที่ของกรุงการากัส ซึ่งรวมถึงทำเนียบที่พักประธานาธิบดี ยังตกเป็นระยะเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ ขณะที่ 6 ใน 23 รัฐไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

    รอสส์แมรี แนสซิเมียนโต นักโภชนาการวัย 45 ปีที่ร่วมชุมนุมในคารากัส บอกว่า ประชาชนไม่พอใจมากที่ไม่มีไฟฟ้า โทรศัพท์ รวมถึงน้ำประปาใช้ และอยากให้สถานการณ์ของประเทศกลับสู่ภาวะปกติ

    ในการเดินขบวนที่พรรคสังคมนิยมจัดขึ้นเพื่อประท้วงลัทธิจักรวรรดินิยมของอเมริกา มาดูโรโทษว่า ต้นเหตุของไฟฟ้าดับคือการโจมตีทางไซเบอร์และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวรรดิภายนอกที่ร่วมมือกับพวกฝ่ายขวาในประเทศ พร้อมรับปากว่า รัฐบาลจะพยายามแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว

    ประชาชนหลายพันคนชุมนุมกลางเมืองหลวงในวันเสาร์เพื่อประณามมาตรการแซงก์ชันน้ำมันของอเมริกาที่มีเป็นหมายในการตัดแหล่งทุนของรัฐบาลมาดูโร

    เอลบาดินา โกเมซ วัย 76 ปีที่ทำงานให้กลุ่มเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับพรรครัฐบาล บอกว่า ที่ไปร่วมชุมนุมก็เพื่อขัดขวางไม่ให้ต่างชาติเข้ายึดอำนาจในเวเนซุเอลา

    ขณะเดียวกัน ฮูลิโอ คาสโตร แพทย์และสมาชิกองค์กรเอกชนที่ชื่อว่า ด็อกเตอร์ ฟอร์ เฮลธ์ ทวิตว่า มีคนตายระหว่างที่ไฟฟ้าดับถึง 17 คน ซึ่งรวมถึง 9 คนที่เสียชีวิตในห้องฉุกเฉิน อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ รวมถึงไม่สามารถยืนยันว่า การเสียชีวิตเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับปัญหาไฟฟ้าดับหรือไม่ ขณะที่กระทรวงข้อมูลเวเนซุเอลาไม่ตอบกลับคำขอสัมภาษณ์แต่อย่างใด

    คลินิกหลายแห่งในรัฐซูเลียทางตะวันตกที่เผชิญสถานการณ์ไฟฟ้าดับเรื้อรัง ต้องระงับการให้บริการหลังจากไม่มีไฟฟ้าใช้เกือบ 72 ชั่วโมง

    ทั้งนี้ เวเนซุเอลาที่ประสบปัญหาภาวะเงินเฟ้อพุ่งรุนแรง รวมทั้งขาดแคลนสินค้าพื้นฐาน กำลังตกอยู่ในวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่นับจากที่กวยโดประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลเมื่อต้นปี และประณามมาดูโรว่า โกงการเลือกตั้งอย่างโจ๋งครึ่มในปี 2018

    ด้านมาดูโรโต้ว่า กวยโดเป็นหุ่นเชิดของคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา ที่ต้องการเข้าควบคุมทรัพยากรน้ำมันของเวเนซุเอลา

    วันเสาร์ที่ผ่านมา แอนโตนิโอ เลเดซมา อดีตนายกเทศมนตรีและนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน เรียกร้องให้กวยโดใช้หลักการอาร์เอสพี หรือ “ความรับผิดชอบในการปกป้อง” เพื่อให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าแทรกแซงเวเนซุเอลา

    หลักการดังกล่าวร่างขึ้นมาเพื่อให้นานาชาติเข้าแทรกแซงเพื่อปกป้องพลเมืองจากอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบที่เกิดขึ้นในรวันดาและบอสเนีย

    กวยโดปราศรัยในวันเดียวกันว่า จะไม่อ้างอิงมาตรา 187 ในรัฐธรรมนูญที่อนุญาตให้รัฐสภา ซึ่งปัจจุบันควบคุมโดยฝ่ายค้าน อนุญาตให้ต่างชาติเข้าไปปฏิบัติการในเวเนซุเอลาจนกว่าสถานการณ์บังคับ แต่ระหว่างนี้ประชาชนควรออกไปชุมนุมเพื่อร่วมกันกดดันรัฐบาล

    ทั้งนี้ ทรัมป์ประกาศว่า มาตรการทางทหารเป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับวิกฤตการณ์ในเวเนซุเอลา ทว่า เพื่อนบ้านในละตินอเมริกาต่างคัดค้านการแทรกแซงของวอชิงตัน

    https://mgronline.com/around/detail/9620000024071
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนสั่งระงับใช้โบอิ้ง 737 MAX หลังเครื่องเอธิโอเปียร่วง-ดับยกลำ 157 ศพ เผยแพร่: 11 มี.ค. 2562 10:13 ปรับปรุง: 11 มี.ค. 2562 10:23 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002500601.jpg

    รอยเตอร์ - สำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติจีน (CAAC) มีคำสั่งวันนี้ (11 มี.ค.) ให้ทุกสายการบินของจีนระงับใช้ฝูงบินโบอิ้ง 737 MAX ทั้งหมดตั้งแต่เวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังเครื่องบินรุ่นเดียวกันของสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์สประสบอุบัติเหตุตก คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 157 คนเมื่อวันอาทิตย์ (10)

    คำแถลงจาก CAAC ระบุว่า ทางหน่วยงานจะแจ้งไปยังสายการบินต่างๆ อีกครั้งว่าจะนำเครื่องบินรุ่นนี้กลับมาให้บริการได้อีกเมื่อใด หลังจากที่ติดต่อกับทางโบอิ้งและสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) เพื่อยืนยันในความปลอดภัย

    “เนื่องจากอุบัติเหตุทั้ง 2 ครั้งเกี่ยวข้องกับเครื่องบิน 737-8 รุ่นใหม่ของโบอิ้ง และเกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังเทคออฟ จึงนับว่ามีความคล้ายคลึงกันพอสมควร” CAAC ระบุ พร้อมยืนยันว่าคำสั่งกราวนด์ฝูงบินครั้งนี้เป็นไปตามปณิธานของหน่วยงานซึ่งยึดหลักไม่ประนีประนอม (zero-tolerance) ในเรื่องของความปลอดภัย

    ก่อนหน้านั้น นิตยสารไฉจิง (Caijing) ได้อ้างแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการบินซึ่งระบุว่า สายการบินจีนที่ให้บริการด้วยโบอิ้ง 737 MAX ประมาณ 60 ลำได้รับคำสั่งจาก CAAC ให้ระงับใช้เครื่องบินรุ่นดังกล่าว โดยให้เปลี่ยนไปใช้เครื่องรุ่น 737-800 แทน

    เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้ไม่ประสงค์ออกนามบอกกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่แน่ใจว่าจีนได้ทราบข้อมูลอะไรมาจึงตัดสินใจเช่นนี้ ทว่าในส่วนของอเมริกาเองยังไม่มีแผนระงับใช้โบอิ้ง 737 MAX ซึ่งมีประวัติความปลอดภัยสูงในสหรัฐฯ อีกทั้งสาเหตุการตกของเอธิโอเปียแอร์ไลน์สก็ยังไม่ชัดเจน

    เครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 ของเอธิโอเปียแอร์ไลน์สซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงไนโรบีของเคนยา ประสบอุบัติเหตุร่วงโหม่งโลกหลังเทคออฟไปได้เพียง 6 นาที นับเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นกับโบอิ้ง 737 MAX 8 ซึ่งเป็นอากาศยานลำตัวแคบรุ่นใหม่ล่าสุดของโบอิ้งที่เพิ่งเริ่มให้บริการเที่ยวแรกเมื่อปี 2017

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว เครื่องบินโมเดลเดียวกันนี้ของไลอ้อนแอร์ก็ประสบอุบัติเหตุตกทะเลชวาหลังเดินทางออกจากสนามบินกรุงจาการ์ตาได้เพียง 13 นาที ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตรวม 189 คน

    รายงานเบื้องต้นเมื่อเดือน พ.ย. ก่อนที่จะมีการค้นพบกล่องดำโฟกัสไปที่ความบกพร่องในด้านการฝึกและซ่อมบำรุงของไลอ้อนแอร์, ระบบป้องกันการสูญเสียแรงยก (anti-stall system) ของโบอิ้ง รวมถึงเซ็นเซอร์ที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ แต่ยังไม่ได้ระบุสาเหตุการตกที่ชัดเจน

    ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน FlightRadar24 พบว่า ในเวลา 00.43 GMT ของวันนี้ (11) ไม่มีเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX8 บินอยู่เหนือน่านฟ้าจีนแม้แต่ลำเดียว โดยฝูงบินรุ่นนี้ของแอร์ไชน่า 15 ลำลงจอดตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ (11) ยกเว้นเพียง 2 ลำที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเพิ่งลงจอดในเช้าวันนี้ (11)

    โบอิ้ง 737 MAX ของไชน่าอีสเทิร์น 4 ลำลงจอดเมื่อเย็นวานนี้ (10) และยังไม่มีตารางบินจนถึงวันอังคาร (12) ตามฐานข้อมูลของ FlightRadar24

    สายการบินชาติอื่นๆ เช่น เคย์แมน์แอร์เวย์ส ประกาศผ่านเว็บไซต์ว่าได้สั่งกราวนด์ฝูงบิน 737 MAX8 จนกว่าจะทราบข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่ฟิจิแอร์เวย์สยืนยันว่าได้ทำตามขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้องในการนำโบอิ้ง 737 MAX8 เข้าประจำการในฝูงบิน และยังเชื่อมั่นในความสมควรเดินอากาศ (airworthiness) ของเครื่องบินรุ่นนี้

    https://mgronline.com/around/detail/9620000024175
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครั้งก่อนน้อยไป! ‘ทรัมป์’ เตรียมไถงบสร้างกำแพงเพิ่มอีก $8,600 ล้าน!! เผยแพร่: 11 มี.ค. 2562 13:31 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002508701.jpg

    เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เตรียมเสนอร่างงบประมาณปี 2020 ซึ่งบรรจุวงเงินสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกสูงถึง 8,600 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะนำไปสู่การงัดข้อกับพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสอีกครั้ง

    แผนงบประมาณปี 2020 ซึ่งจะถูกเสนออย่างเป็นทางการในวันนี้ (11 มี.ค.) มีการเรียกร้องงบสร้างกำแพงสูงยิ่งกว่าตัวเลข 5,700 ล้านดอลลาร์ที่ ทรัมป์ เคยขอเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถูกฝ่ายเดโมแครตปฏิเสธจนนำไปสู่การปิดหน่วยงานรัฐบางส่วนนานถึง 35 วัน ยืดเยื้อที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ

    แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต และ ส.ว. ชัค ชูเมอร์ ออกมาเตือน ทรัมป์ ว่าจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อีกครั้ง ขณะที่ แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ยอมรับว่าคำขอล่าสุดของประธานาธิบดีคงจะนำไปสู่การเผชิญหน้าเรื่องงบประมาณครั้งใหม่ในสภาคองเกรส

    “ผมเดาว่าคงจะเป็นเช่นนั้น” เขาให้สัมภาษณ์ในรายการฟ็อกซ์นิวส์ซันเดย์ พร้อมยืนยันว่า ทรัมป์ “จะผลักดันโครงการสร้างกำแพง และยึดนโยบายปกป้องความมั่นคงชายแดนต่อไป ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมาก”

    คุดโลว์ ยังแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตมากกว่า 3% “ในปี 2019 และปีต่อๆ ไป”

    ด้านสำนักงบประมาณและการจัดการของทำเนียบขาว (Office of Management and Budget) แถลงว่า แผนงบประมาณที่ ทรัมป์ เสนอนั้นจะมีการตัดลดรายจ่ายลงถึง 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ “มากกว่ารัฐบาลชุดไหนๆ ในประวัติศาสตร์” โดย รัสส์ วอท (Russ Vaught) รักษาการผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ระบุว่า ตัวเลขที่ลดลงนั้นจะได้จากการตัดทอนรายจ่ายในส่วนที่มิใช่เพื่อการทหาร (non-defense spending) ลงอีก 5% จากปี 2019 และจะจัดสรรงบเพิ่มในส่วนอื่นๆ เช่น ความมั่นคงชายแดน, การป้องกันประเทศ, การปราบปรามสารเสพติดจำพวกโอปิออยด์ (opioids) และงบอุดหนุนทหารผ่านศึก เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ ทรัมป์ จะได้เงินไปสร้างกำแพงนั้นเป็นไปได้ยากยิ่ง ในยุคที่พรรคเดโมแครตกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

    562000002508702.jpg

    เพโลซี และ ชูเมอร์ ได้ออกคำแถลงร่วมกล่าวหา ทรัมป์ ว่า “สร้างความเดือดร้อนต่อชาวอเมริกันนับล้านๆ คน และก่อความปั่นป่วนอย่างกว้างขวางด้วยการปิดหน่วยงานรัฐบาล เพียงเพื่อให้ได้งบไปสร้างกำแพงที่ทั้งสิ้นเปลือง และไร้ประสิทธิภาพ”

    “สภาคองเกรสปฏิเสธที่จะอุดหนุนกำแพงของเขา เขาจึงจำใจยอมรับความพ่ายแพ้และเปิดหน่วยงานรัฐ สถานการณ์เดียวกันนี้จะเกิดขึ้นซ้ำอีกถ้าเขายังพยายามทำแบบเดิม เราหวังว่าเขาคงจะเรียนรู้จากสิ่งที่ผ่านมา”

    หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า ทรัมป์ มีแผนจะดึงงบ 5,000 ล้านดอลลาร์จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และอีก 3,600 ล้านดอลลาร์จากกระทรวงกลาโหมเพื่อนำมาสร้างกำแพงให้สำเร็จ และทั้งหมดนี้ยังไม่รวมงบประมาณอีก 6,700 ล้านดอลลาร์ที่ ทรัมป์ ดึงมาจากโครงการอื่นๆ ของรัฐ ภายใต้อำนาจพิเศษที่ได้จากการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเมื่อเดือน ก.พ.

    ทรัมป์ ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากสภาคองเกรสอนุมัติวงเงินเพียง 1,375 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้สำหรับสร้าง ‘รั้วเหล็ก’ กั้นพรมแดนรัฐเทกซัสกับเม็กซิโกเป็นระยะทาง 90 กิโลเมตร

    พรรคเดโมแครตรวมถึงคนในรีพับลิกันบางคนวิจารณ์ ทรัมป์ ว่าใช้อำนาจเกินขอบเขต และยังสร้างตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับผู้นำสหรัฐฯ ในอนาคตที่อาจประกาศภาวะฉุกเฉินตามอำเภอใจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

    สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติให้ยกเลิกภาวะฉุกเฉินด้วยคะแนน 245-182 เสียงเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งญัตติดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการโหวตของวุฒิสภาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากภายในสัปดาห์นี้ ล่าสุดมี ส.ว. รีพับลิกันอย่างน้อย 4 คนที่ประกาศจะช่วยฝ่ายเดโมแครตคว่ำคำสั่งของทรัมป์

    https://mgronline.com/around/detail/9620000024282
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    53860984_2432672266752251_639560354526920704_n.jpg?_nc_cat=105&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
    (Mar 11) สงครามการค้าจีน-สหรัฐ 'ศุภชัย' ชี้โอกาสไทย การเมืองต้องมั่นคง : ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน" ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าโลก หลังจากสหรัฐสร้างเงื่อนไขทางการค้าโดยการปรับขึ้นภาษีสินค้าจีน เป็นแรงผลักให้จีนใช้กลยุทธ์ผนึกกำลัง "ภูมิภาค" เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ทางเศรษฐกิจเช่นกัน

    ในงานประกาศผลการตัดสินข่าวและภาพข่าวรางวัลอิศรา อมันตกุล ประจำปี 2561 ซึ่งสมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2562 "นายศุภชัย เจียรวนนท์" ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "เศรษฐกิจไทยในสงครามการค้าโลก" ในฐานะภาคเอกชนที่ขยายการค้า และการลงทุน 13 กลุ่มธุรกิจ ใน 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงทั้งสหรัฐและจีน ได้สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายทั้งสองประเทศที่ต่างต้องการสร้างความมั่นคงภายใน

    โดยสหรัฐมีนโยบายกีดกันทางการค้า (protect) รักษาผลประโยชน์ของสหรัฐ (preserve) การทำให้เศรษฐกิจน่าลงทุน การจ้างงานเพิ่มพูน เศรษฐกิจไม่ซบเซา (promote) และนโยบายให้สหรัฐมีบทบาทสำคัญไปทั่วโลกในทุกด้าน (advance) ส่วนจีน เน้นปฏิรูปโครงสร้างภาคการผลิต หรือซัพพลายไซด์ การบริหาร จัดการนโยบายทางการค้าการเงิน และส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญ

    ต้นเหตุที่สหรัฐยอมไม่ได้

    ปัญหาที่สหรัฐขาดดุลการค้าให้กับจีนเป็นสาเหตุสำคัญ ทำให้สหรัฐกำหนดนโยบายที่สร้างเงื่อนไขทางการค้า แทนนโยบายเดิมที่เน้นการค้าเสรี โดยในช่วงที่ผ่านมาพบว่าสัดส่วนการส่งออกของจีน 2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไปสหรัฐถึง 19% ขณะที่สหรัฐส่งออกไปจีนเพียง 8.4% แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่าคือ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สหรัฐจึงพยายามสร้างสมดุลทางการค้า โดย "การดึงคู่แข่งช้าลง สร้างศักยภาพ ตัวเองให้สูงขึ้น" นำมาสู่การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าลอตแรก 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และขยับดีกรีขึ้นเป็น 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้อัตรา 10% และขู่จะขึ้นเป็น 25% ซึ่งจีนก็ใช้มาตรการเดียวกันเช่นกัน แต่หลังจากสองฝ่ายตกลงที่จะเจรจายืดออกไปก่อน ทำให้ "ตลาดหุ้น-เศรษฐกิจโลก" ตอบรับดี

    อย่างไรก็ตาม สหรัฐปีนี้จะเข้าสู่การเลือกตั้ง และคำศัพท์ที่ว่า "ภาษีนำเข้าก็คือภาษีของชาวอเมริกัน" เพราะผู้ที่เสียภาษี คือ คนอเมริกัน เพราะต้นทุนชีวิต สูงขึ้น การปรับขึ้น 25% ไม่รู้ว่าจีนหรือ สหรัฐจะเจ็บกว่ากัน ดังนั้น จึงเห็นการ ประนีประนอมสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สหรัฐคงไม่รามือง่าย ๆ เหตุที่ "ดุลการค้า"ห่างกันมาก การใช้มาตรการนี้เหมือนยิงปืน นัดเดียวได้นกสองตัว คือ เศรษฐกิจสหรัฐโตขึ้น และเศรษฐกิจจีนโตลดลง โดยมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจาก 3% จะลดลงเหลือ 2.9%

    จีนขึ้นแท่นผู้นำด้าน AI

    ส่วนจีนเป็น "emerging market" มีโอกาสโต 6.6% เหลือ 6.2% จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แม้ว่าการ ส่งออกจะชะลอตัวลงไปบ้าง แต่จีนสามารถกระตุ้นการบริโภคภายในได้ เพราะมีฐานประชากรจำนวนมาก

    จุดเด่นสำคัญ คือ นโยบายในปี 2025 จีนโฟกัสเทคโนโลยี 10 อุตสาหกรรม โดยเฉพาะ AI จะเป็นตัวสำคัญ ซึ่งเมื่อรวมทุกด้าน จีนจะเป็นผู้นำโลกด้าน AI ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของมนุษยชาติ และสะเทือนฐานที่สหรัฐเป็นผู้นำโลกอยู่แล้ว จึงเป็นธรรมดาที่สหรัฐต้องกันไม่ให้แซงขึ้นมาได้ กรณีหัวเว่ย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีงบประมาณการลงทุนวิจัยมากที่สุดในตอนนี้ ตามสมมุติฐานส่วนตัวผมมองว่า หากสหรัฐปล่อยให้จีนเป็นผู้นำ 5 จี หรือ 6 จี ด้านสื่อสารซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของดิจิทัล และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ AI ก็ยิ่งทำให้จีนก้าวกระโดด ซึ่งกรณีนี้สหภาพยุโรปหลายประเทศก็เริ่มจะป้องกันฐานผลิตในอียู เว้นเพียงเยอรมนีที่เป็นคู่ค้าสำคัญของจีน

    นอกจากนี้ ปัจจัย "บทบาทเงินหยวน" ก็เป็นอีกนโยบายซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย One Belt One Road (OBOR) นโยบายการศึกษาและต่อยอด ด้านเทคโนโลยี และการทำโครงการ Mega Rigion เชื่อม 3-4 เมืองโดยรถไฟที่มีรัศมีไม่เกิน 1 ชม. เพื่อเป็นศูนย์รวมการพัฒนาและยกระดับในทุกด้าน

    สหรัฐบีบจีนผนึกภูมิภาค

    เมื่อเดือนมกราคม ได้ไปร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ทุกคน ห่วงเทรดวอร์ และพูดถึงการเติบโตอาเซียน รวมถึงเริ่มให้การยอมรับจีนว่าเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจอีกราย จากครั้ง ที่ผ่านมาหลายประเทศเอียงไปทางสหรัฐ แต่ปีนี้ทุกคนคิดว่าจีนคงไม่ไปไหน และเทรดวอร์คงจะหาข้อสรุปได้ใน 2 ปี ประเด็นที่สหรัฐให้จับกุมตัวผู้บริหาร ระดับสูงของหัวเว่ย ผมสัมผัสได้จากความรู้สึกของเอกชนทั่วโลกว่าเห็นใจจีน อย่างไรก็ตาม ลึก ๆ ผมว่าสหรัฐยอมรับว่าการใช้มาตรการกับจีนจะไม่มีผล เหมือน กับที่เคยใช้กับประเทศอื่นที่ผ่านมา และนำไปสู่การประนีประนอม

    โอกาสและความเสี่ยงของไทย

    ในส่วนของไทยมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง โดยโอกาสหลักของไทยมาจาก ความเป็น "ศูนย์กลางอาเซียน" ทำให้หลายโรงงานในจีนพิจารณามาลงทุน ในไทยและยิ่งสหรัฐพยายามกดดันจีน จะยิ่งเป็นแรงผลักดันให้จีนจับมือกับ เพื่อนบ้าน สร้างความเข้มแข็งในภูมิภาค มากขึ้น

    แต่อีกด้านนักลงทุนไม่ได้มองเพียง แค่ไทยประเทศเดียว แต่ยังมองโอกาสการลงทุนที่เวียดนาม อินโดนีเซีย หรือแม้แต่มาเลเซียด้วย ความเสี่ยงสำคัญของไทย คือ "ความมั่นคงทางการเมือง" เป็นปัจจัยสำคัญต่อการดึงพันธมิตรจากทั่วโลก ถ้าหากไม่มีเสถียรภาพ โอกาสการเข้ามาแทรกแซงอาจจะมีขึ้น และต่างประเทศจะมองไทยเป็นโอกาสไหม

    Source: ประชาชาติธุรกิจ
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    ces%2Fimg%2Feditorial%2F2019%2F03%2F10%2F105784863-1552224107560gettyimages-1129580987.1910x1000.jpg

    (Mar 11) เกิดอะไรขึ้นกับโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8? ตกตายยกลำ 2 ครั้งใน 5 เดือน : เครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 รุ่นใหม่ของบริษัท โบอิ้ง เข้าไปเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 5 เดือน เมื่อเครื่องบินรุ่นนี้ของสายการบิน เอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ให้บริการเที่ยวบินที่ ET302 ตกหลังจากขึ้นบินได้เพียงไม่กี่นาที ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 157 คน เสียชีวิตทั้งหมด เมื่อ 10 มี.ค.

    ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2561 หรือราว 5 เดือนก่อน เครื่องบินรุ่นเดียวกันนี้ของสายการบิน ไลออน แอร์ ของประเทศอินโดนีเซีย ตกหลังจากขึ้นบินจากกรุงจาการ์ตาแค่ไม่กี่นาทีเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 189 คน เสียชีวิต
    สิ่งที่เหมือนกันในโศกนาฏกรรมทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ก็คือ อุบัติเหตุเกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินขึ้นไม่กี่นาที และ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ที่ตกทั้ง 2 ลำล้วนเป็นเครื่องบินใหม่ โดย 737 ของไลออน แอร์ เพิ่งมีอายุการใช้งานเพียง 3 เดือน ส่วนของเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ขึ้นบินเที่ยวแรกในเดือนตุลาคม 2561
    *โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ต่างจาก 737 รุ่นก่อนอย่างไร?
    เครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 มีความยาว 39.52 เมตร กว้างจากปลายปีกถึงปลายปีกที่ 35.9 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 210 ที่นั่ง มีระยะการบินราว 6,570 กิโลเมตร ใช้เครื่องยนต์ LEAP-1B จากบริษัท ‘ซีเอฟเอ็ม อินเทอร์เนชันแนล’ ของสหรัฐฯ และเป็นเครื่องบินที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของโบอิ้ง โดยขายมากกว่า 4,500 เครื่องให้แก่ผู้ให้บริการการบินกว่าร้อยแห่งทั่วโลก นับตั้งแต่ปี 2559
    นายแกร์รี โซจัตมัน นักวิเคราะห์การบินในกรุงจาการ์ตา บอกกับสำนักข่าว บีบีซี ว่า เครื่องยนต์ของ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ล้ำไปด้านหน้าเล็กน้อย และติดตั้งสูงใกล้กับปีกมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสมดุลของเครื่องบินรุ่นนี้
    ด้านคณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติ ของอินโดนีเซีย ระบุว่า เที่ยวบิน 610 ของสายการบินไลออน แอร์ เกิดปัญหาได้รับข้อมูลผิดพลาดจากหนึ่งในเซนเซอร์ ที่ออกแบบมาเพื่ออจ้งนักบินกรณีที่เครื่องมีโอกาสเกิดอาการ สตอล (stall) หรือภาวะร่วงหล่นจากการไม่มีแรงยก เพราะเปิดมุมปะทะของปีกสูงกว่าข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสืบสวนยังไม่สรุปว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้
    เซนเซอร์ตัวนี้กับซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องทำงานต่างกับเครื่อง 737 รุ่นก่อน แต่ในกลับไม่มีการแจ้งเรื่องนี้ให้นักบินทราบ โดยไม่กี่วันหลังจากเครื่องบินไลออน แอร์ตก บริษัท โบอิ้ง ก็ออกประกาศแนะนำการปฏิบัติถึงสายการบินต่างๆ ทันที
    *การบินสหรัฐฯ ออกคำเตือน
    สำนักงานการบินพลเรือแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ก็ออกคำสั่งฉุกเฉินเรื่อง ความสมควรเดินอากาศ (AD) ถึงสายการบินในสหรัฐฯ เกี่ยวกับเซนเซอร์ตัวนี้ ซึ่งถูกเรียกว่า ‘Angle of Attack’ หรือเซนเซอร์ AOA โดยระบุว่า หากปัญหาที่เกิดขึ้นกับเซนเซอร์ตัวนี้ไม่ได้รับการแก้ไข มันก็อาจทำให้ลูกเรือควบคุมเครื่องบินได้อย่างยากลำบาก นำไปสู่สถานการณ์ที่หัวเครื่องบินทิ่มลง, สูญเสียระดับความสูงอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปได้ที่จะตกกระแทกกับพื้น
    ขณะที่แหล่งข่าวบอกกับบีบีซี ว่า นักบินของสายการบิน เอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ควรได้รับการอัพเดตเกี่ยวกับปัญหาของเซนเซอร์ตัวนี้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่า เครื่องบินของพวกเขาประสบปัญหาเดียวกันกับไลออน แอร์ ก่อนที่เครื่องจะตกหรือไม่
    *โบอิ้งตอบสนองว่าอย่างไร?
    บริษัท โบอิ้ง ออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ว่า ทีมช่างเทคนิคของพวกเขาเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคตามคำขอ และตามคำสั่งของคณะกรรมความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติสรัฐฯ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความครัวและบุคคลอันเป็นที่รักของผู้โดยสารและลูกเรือที่อยู่บนเครื่อง และพร้อมจะสนับสนุนทีมของ เอธิโอเปีย แอร์ไลน์ ด้วย

    Source: ไทยรัฐออนไลน์
    - Boeing's top-selling plane is set for new scrutiny after second deadly crash in 5 months:
    https://www.cnbc.com/2019/03/10/boe...RAPfvu3RgtD4YdsHzOYGTiZSXVH3xPxEY8loPVAy7qs6w
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    53541002_2432805700072241_3297012446270586880_o.png?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.png
    (Mar 11) ข้อมูลในหัวข้อ "บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด 10 อันดับแรกของไทย" โดยกราฟแสดงมูลค่าตามราคาตลาดของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับ ในปี 2009 และ 2018 จะเห็นได้ว่าในปี 2009 บริษัทที่มีมูลค่าสูงมักอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานและสาธารณูปโภค เทคโนโลยีสารสนเทศฯ และธนาคาร แต่ในปี 2018 มีความหลากหลายของอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยมีบริษัทจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา ได้แก่ ขนส่งและโลจิสติกส์ พาณิชย์ และการแพทย์

    ข้อมูล PIER Statistics
    หน่วย: พันล้านบาท
    ที่มา SET SMART https://www.setsmart.com/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    53367917_2431963886823089_822030747312324608_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    (Mar 10) บทความ aBRIDGEd เรื่อง “นโยบายส่งเสริม SMEs: เราไปถึงสิ่งที่คาดหวังหรือยัง” : ในปัจจุบัน แนวคิดเรื่องการส่งเสริมและสนับสนุน SMEs เป็นสิ่งที่รัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยเน้นว่าจำเป็นต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ แต่เราเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมประเทศต่าง ๆ ถึงมีนโยบายสนับสนุน SMEs และนโยบายเหล่านี้ประสบผลสำเร็จเพียงใด
    บทความนี้เปิดประเด็นชวนคิดเกี่ยวกับนโยบายเหล่านี้ โดยส่วนแรก สรุปวรรณกรรมในต่างประเทศซึ่งพยายามหาหลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับเหตุผลที่นำมาสนับสนุนการส่งเสริม SMEs ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมี SME sector ขนาดใหญ่จะช่วยยกระดับรายได้ของประเทศ SMEs ช่วยเพิ่มการจ้างงาน หรือปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อของ SMEs ส่วนที่สองของบทความการกล่าวถึงกรณีของประเทศไทย โดยทบทวนว่าประเทศไทยได้ดำเนินนโยบายในการส่งเสริม SMEs มาอย่างไรบ้าง นโยบายเหล่านี้ประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด และตัวชี้วัดที่ดีน่าจะเป็นอย่างไร
    สามารถอ่านบทความวิจัยฉบับนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.pier.or.th/?post_type=abridged&p=6482

    Source: PIER FB
     

แชร์หน้านี้

Loading...