ติดตามสถานะการณ์

อินเดีย-ปากีสถาน ยิงกันสนั่น ชาวบ้านสังเวย 4 ศพ ทั่วโลกผวาสงครามโลกครั้งที่ 3
03 มี.ค. 2019 - 12:03 น.

ปากีสถาน กับ อินเดีย เปิดศึกยิงใส่กันอีกครั้ง ส่งผลให้ชาวบ้านเสียชีวิตรวมแล้ว 4 ศพ ขณะที่คนทั่วโลกเริ่มห่วงสถานการณ์บานปลายจนถึงขั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3

อินเดีย-ปากีฯ เปิดศึกรอบใหม่ ยิงกันสนั่น ชาวบ้านสังเวย 4 ศพ
จากเหตุการณ์ปากีสถานยิงเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอินเดียที่อยู่ในน่านฟ้าแคชเมียร์ตกสองลำ พร้อมกับจับกุม น.ท.อภินันทาน วารธามัน นักบินของอินเดียเป็นตัวประกัน และยอมปล่อยตัวในเวลาต่อมา หนึ่งในเครื่องบินลำที่ตกได้ตกลงมาในเขตของปากีสถาน ขณะที่อีกลำไปตกในฝั่งของอินเดีย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จนทำให้สถานการณ์ตึงเครียด

ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงาน ล่าสุดจากเมืองศรีนคร แคว้นแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่สงบ ทหารกองทัพอินเดียและปากีสถาน กลับมายิงปืนใหญ่ใส่ฐานที่มั่น และหมู่บ้านของอีกฝ่ายหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บริเวณแนวพรมแดน ข้อพิพาทแคว้นแคชเมียร์ ตั้งแต่ช่วงกลางคืนวันศุกร์ จนถึงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีชาวบ้านเสียชีวิตไป 4 ศพ แยกเป็นฝั่งอินเดีย 3 ศพ และปากีสถาน 1 ศพ ที่เหลือมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน



เจ้าหน้าที่ของทั้งอินเดียและปากีสถาน ยังคงใช้การชี้แจงรายละเอียดการยั่วยุทางทหารของอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น การโต้ตอบของทหารฝ่ายตนนั้นเหมาะสมแล้ว ขณะเดียวกันกล่าวหาอีกฝ่ายว่ายั่วยุ ทำให้เกิดการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงปี ค.ศ. 2003 ในพื้นที่หลายจุดตลอดแนวพรมแดนแคว้นแคชเมียร์ เป้าหมายการโจมตีอยู่ที่ที่ตั้งทางทหาร และยังรวมถึงหมู่บ้านที่มีประชาชนอาศัยอยู่ สำหรับความตึงเครียดของข้อพิพาทแคว้นแคชเมียร์ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ได้ปะทุขึ้นมาเพราะเครื่องบินรบของกองทัพอินเดีย ได้ข้ามเขตแดนเข้าไปปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในฝั่งปากีสถานของแคว้นแคชเมียร์ อ้างว่าเพื่อโจมตีกองกำลังติดอาวุธของปากีสถาน ที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในแคว้นแคชเมียร์ฝั่งอินเดีย ทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิตไป 40 นาย



ปากีสถาน จึงตอบโต้ด้วยการยิงเครื่องบินขับไล่มิก-21 ของกองทัพอากาศอินเดียตกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมจับนักบิน 1 คน เป็นเชลยศึก สุดท้ายปากีสถานยอมปล่อยตัวนักบินคืนให้อินเดียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อแสดงถึงท่าทีสันติ และหวังที่จะคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดไม่ให้ลุกลามมากไปกว่านี้ กระทั่งเกิดเหตุนองเลือดอีกครั้ง หลังจากข่าวทั้ง 2 ประเทศ เปิดศึกกันขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทั่วโลกเฝ้าจับตา หวั่นจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3

https://www.springnews.co.th/global/453373

 

2 มีนาคม 2562 ฝนตกชุก ฝนตกใน 30 ชั่วโมง เทียบเท่าฝนตกใน 4 เดือน น้ำท่วมเมืองทะเลทรายกันดาฮาร์ เสียหาย 2,000 หลังคาเรือน เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนอัฟกานิสถาน

 

พายุหมุนถล่มอินโดฯ บ้านเรือนประชาชนพังยับ วันที่ 2 มี.ค. 2562 เวลา 17:35 น.

มีการเผยภาพปรากฏการณ์พายุลมหมุน บนท้องฟ้าในอินโดนีเซีย สร้างความเสียหายต่ออาคาร และบ้านเรือนประชาชนเป็นจำนวนมาก

ปรากฏการณ์พายุลมหมุนดังกล่าว เกิดขึ้นในเมืองกูปัง (Kupang) บนเกาะติมอร์ ทางตอนใต้ของอินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้บันทึกภาพไว้ได้ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยพายุลมหมุนดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายต่อหลังคา และกำแพงบ้านเรือนของประชาชนเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม นับเป็นเคราะห์ดี เนื่องจากไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเจ้าหน้าที่กรมอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซีย ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใน พื้นที่ดังกล่าว เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะมีแนวโน้มว่า จะมีลมพายุกระโชกแรงพัด เข้ามาในพื้นที่อีก ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

https://news.ch7.com/detail/329506

 

อินเดียเร่งสร้างบังเกอร์ตามแนวพรมแดน
ต่างประเทศ 3 มี.ค. 2019 12:24:16 ต่างประเทศ 3 มี.ค. 2019 12:24:16

อินเดีย 3 มี.ค. - รัฐบาลอินเดียเร่งสร้างบังเกอร์กว่า 14,000 แห่ง ตามแนวพรมแดนที่ติดกับปากีสถาน ในรัฐชัมมู และแคชเมียร์ เพื่อรองรับการหลบภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ในยามที่มีการยิงตอบโต้กันด้วยปืนใหญ่ระหว่างกองทัพอินเดียกับปากีสถาน แทนที่จะต้องอพยพหนีไปยังที่ปลอดภัยที่ห่างไกล เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเผยว่า บังเกอร์เหล่านี้อยู่ใต้ดิน มีโครงสร้างที่เป็นเหล็กกล้าและคอนกรีต ใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 60 ล้านดอลลาร์ฯ เริ่มสร้างตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับปากีสถานได้เลวร้ายลง จนเกือบถึงจุดต่ำสุดแล้ว. - สำนักข่าวไทย

https://www.tnamcot.com/view/kKci4_1

 

ไฟป่าออสเตรเลียลุกลามไหม้อาคารที่ทำการอุทยานฯ วอด 5 หลัง 3 มี.ค. 2019 12:28:12

ออสเตรเลีย 3 มี.ค. - ไฟป่าในรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียกำลังลุกลามอย่างหนัก โดยเฉพาะที่วนอุทยานแห่งชาติบันยิป เพลิงได้เผาไหม้อาคารที่ทำการของอุทยานฯ ไปแล้ว 5 หลัง วนอุทยานแห่งนี้อยู่ห่างกรุงเมลเบิร์น เมืองหลวงของออสเตรเลียราว 65 กิโลเมตร นับแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา มีไฟป่าเกิดขึ้นในรัฐวิกตอเรียถึง 25 จุด ทางการต้องระดมเจ้าหน้าที่ 850 คน รถดับเพลิง 120 คัน และเครื่องบินดับไฟป่า 20 ลำ เข้าต่อสู้กับไฟป่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระบุว่า กระแสลมที่พัดแรงและอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว ชุมชนกว่า 30 แห่ง กำลังเสี่ยงต่อการถูกไฟป่าลุกลามเข้าเผาทำลาย. - สำนักข่าวไทย

https://www.tnamcot.com/view/DhhKvbs

 

จบยาก! สหรัฐฯ คว่ำบาตรเวเนฯ เพิ่ม ขณะที่ ‘รัสเซีย’ เตรียมส่งความช่วยเหลือผ่าน ‘มาดูโร’
เผยแพร่: 2 มี.ค. 2562 15:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา (ซ้าย) และ ฮวน กวยโด ผู้นำฝ่ายค้านซึ่งตั้งตนเป็นประธานาธิบดีรักษาการ โดยมีกว่า 50 ชาติทั่วโลกให้การหนุนหลัง
เอเอฟพี - สหรัฐฯ และรัสเซียเปิดศึกงัดข้อเรื่องการส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังเวเนซุเอลา โดยมอสโกรับปากจะส่งอาหารและยารักษาโรคผ่านทางประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ขณะที่วอชิงตันคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเวเนฯ 6 นายที่มีส่วนในการปิดพรมแดนไม่ให้ฝ่ายค้านลำเลียงความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ เข้าไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

หลังจากที่รัสเซียและจีนพร้อมใจกัน ‘วีโต’ ร่างมติที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเสนอต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อเรียกร้องเปิดทางส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังเวเนซุเอลา สหรัฐฯ ก็ได้ประกาศคว่ำบาตรนายทหารระดับสูงเวเนฯ 6 นายที่มีส่วนในการสกัดกั้นคาราวานความช่วยเหลือของอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายจากเหตุชุลมุนซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากกองทัพ มาดูโร ขวางไม่ให้ขบวนรถขนข้าว ถั่ว และสิ่งของอุปโภคบริโภคอื่นๆ ข้ามจากโคลอมเบียเข้าไปยังเวเนซุเอลาได้ โดยผู้นำหัวซ้ายอ้างว่าความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นแค่แผนอำพรางปฏิบัติการแทรกแซงทางทหาร

สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงว่า “เราได้สั่งคว่ำบาตรสมาชิกกองกำลังความมั่นคงของ มาดูโร เพื่อตอบโต้ที่พวกเขาใช้ความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต และยังจุดไฟเผาอาหารและยารักษาโรคที่เราจะส่งไปให้แก่ชาวเวเนฯ ที่กำลังล้มป่วยและหิวโหย”

หนึ่งใน 6 คนที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำคราวนี้ ได้แก่ พลตรี จีซัส โลเปซ วาร์กัส ผู้บัญชาการกองกำลังเนชันแนลการ์ดเวเนฯ

คำสั่งคว่ำบาตรจะทำให้นายทหารทั้ง 6 ถูกอายัดทรัพย์สินในสหรัฐฯ และยังมีบทลงโทษต่อผู้ใดก็ตามที่ทำธุรกรรมการเงินกับคนกลุ่มนี้

ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้ประกาศเพิกถอนวีซ่าเจ้าหน้าที่เวเนฯ 49 คน รวมถึงสมาชิกในครอบครัว

ฮวน กวยโด ประธานรัฐสภาและแกนนำฝ่ายค้านเวเนฯ ซึ่งสหรัฐฯ รับรองว่าเป็น ‘ประธานาธิบดีรักษาการ’ โดยชอบธรรม หวังที่จะนำอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์จากสหรัฐฯ เข้าประเทศให้ได้ โดยมีการประสานขอความร่วมมือกับทั้งบราซิลและโคลอมเบีย

กวยโด อ้างว่า หากนำความช่วยเหลือเข้าไปไม่สำเร็จ ประชากรเวเนฯ อาจจะเสียชีวิตถึง 300,000 คน

องค์การสหประชาชาติระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและเงินเฟ้อขั้นรุนแรงทำให้ชาวเวเนซุเอลาตัดสินใจหลบหนีออกนอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 2.7 ล้านคนตั้งแต่ปี 2015

ในขณะที่ กวยโด มีรัฐบาลกว่า 50 ประเทศทั่วโลกให้การหนุนหลัง แต่ มาดูโร ก็ยังได้รับการสนับสนุนจากชาติมหาอำนาจอย่างรัสเซีย ซึ่งต้องการท้าทายพฤติกรรมแทรกแซงการเมืองชาติอื่นของสหรัฐฯ รวมถึงจีนซึ่งกังวลว่าเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ปล่อยกู้ให้การากัสจะสูญเปล่า

เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้รับปากรองประธานาธิบดี เดลซี โรดริเกวซ แห่งเวเนซุเอลาซึ่งเดินทางไปเยือนมอสโกว่า รัสเซียจะเร่งจัดส่งข้าวสาลีไปให้ และอาจส่งยาและอุปกรณ์การแพทย์ไปให้เพิ่มเติมอีก หลังจากที่เคยส่งไปแล้ว 7.5 ตัน

“เรามีความร่วมมือและประสานงานกันอย่างใกล้ชิดในทุกๆ ด้าน... ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยิ่งมีความสำคัญในยามที่เวเนซุเอลากำลังถูกโจมตีและแทรกแซงกิจการภายในอย่างไม่หยุดหย่อน” ลาฟรอฟ กล่าว

เอลเลียต อบรามส์ ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ด้านปัญหาเวเนซุเอลา ระบุว่า กองทัพ มาดูโร คิดจะแปลงความช่วยเหลือจากรัสเซียเป็น“อาวุธทางการเมือง” โดยจะแจกจ่ายให้เฉพาะประชาชนที่หนุนหลังรัฐบาลเท่านั้น

“สหรัฐฯ ต้องการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ชาวเวเนซุเอลา แต่เราจะไม่มอบมันให้แก่รัฐบาลฉ้อฉลนี้” อบรามส์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่วอชิงตัน

ลาฟรอฟ แสดงความคาดหวังว่าแรงกดดันจากนานาชาติคงจะช่วยทำให้ “พวกหัวร้อน”ในวอชิงตันใจเย็นขึ้นมาบ้าง พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ ว่ามีแผนจัดซื้ออาวุธเบา ปืนครก จรวดชนิดยิงประทับบ่า และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานจาก “ประเทศในยุโรปตะวันออก”แห่งหนึ่ง เพื่อส่งเข้าไปประจำการ “ใกล้ๆ เวเนซุเอลา”

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ไม่ปฏิเสธการใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงเวเนซุเอลา ขณะที่ชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยืนยันว่าไม่เห็นด้วย และไม่สนับสนุนการใช้กำลัง

https://mgronline.com/around/detail/9620000021415

 

พายุฤดูหนาวจะกระทบ 95 ล้านคนทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ
ต่างประเทศ 2 มี.ค. 2019 14:24:24

วอชิงตัน 2 มี.ค.- เว็บไซต์แอคคิวเวเธอร์ (AccuWeather) รายงานว่า พายุฤดูหนาวจะส่งผลกระทบต่อประชาชน 95 ล้านคนทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เพราะจะทำให้เกิดฝนและหิมะเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรตั้งแต่วันอาทิตย์ไปจนถึงวันจันทร์

แอคคิวเวเธอร์พยากรณ์ว่า พายุฤดูหนาวจะทำให้การเดินทางล่าช้าจากกำหนด และอาจทำให้เที่ยวบินบางเที่ยวต้องยกเลิก ส่วนโรงเรียนอาจต้องเลื่อนหรือปิดการเรียนการสอนในวันจันทร์ ขณะที่ผู้ขับขี่ตามทางหลวงสายหลักอาจเผชิญกับกองหิมะที่สะสมอย่างรวดเร็ว เพราะคาดว่าจะตกในอัตรา 1-2 นิ้วต่อชั่วโมง นอกจากนี้ฝนที่ตกโปรยปรายท่ามกลางอากาศเย็นจัดจะแปรสภาพเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ทำให้ถนนลื่นถึงขั้นเป็นอันตรายได้ อุณหภูมิในหลายพื้นที่จะลดลงต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนมกราคม.-สำนักข่าวไทย

https://www.tnamcot.com/view/3oqORAB

 

เจาะเวลาหาอดีต
“โรงโคมเขียว” สถานค้าประเวณีในอดีต
“มาตราหนึ่ง ชายใดสู่ขอเอาหญิงคนขับคนรำเที่ยวขอทานเลี้ยงชีวิต แลหญิงนครโสเภณีมาเลี้ยงเป็นเมีย ทำชั่วเหนือผัวก็ดี…ผู้รู้ด้วยประการใด ๆ พิจารณาเป็นสัจไซ้ ท่านให้ผจานหญิงชายนั้นด้วยไถนา ส่วนหญิงอันร้ายให้เอาเฉลวปะหน้าทัดดอกฉบาทั้งสองหู ร้อยดอกกบาลเป็นมาไลยใส่ศีศะ ใส่คอ แล้วให้เอาหญิงนั้นเข้าเทียมแอกข้างหนึ่ง ชายชู้เข้าเทียมแอกข้างหนึ่ง ผจานด้วยไถนาสามวัน ถ้าแลชายผัวมันยังรักเมียมันอยู่มิให้ผจานไซ้ ท่านให้เอาชายผู้ผัวนั้นเข้าเทียมแอกข้างหนึ่ง หญิงอยู่ข้างหนึ่ง อย่าให้ปรับไหมชายชู้นั้นเลย”
นี่คือบางตอนจากกฎหมายสมัยพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์กรุงศรีอยุธยาที่ทรงตราไว้เมื่อ พ.ศ. 1904 ที่กล่าวถึงนครโสเภณีไว้ ถือเป็นเอกสารหลักฐานเก่าแก่ที่สุดที่มีอยู่ แสดงให้เห็นว่าหญิงนครโสเภณีได้มีมาแล้วอย่างน้อยก็ในสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา คือเมื่อ 628 ปีที่ผ่านมา ตามความเป็นจริงของสังคมไทยนั้น โสเภณีอาจมีมาก่อนหน้านี้แล้วก็ได้ เพียงแต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด
และต่อมา จากคำให้การของขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม เอกสารจากหอหลวงได้กล่าวถึงหญิงนครโสเภณีสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ก่อนกรุงแตกเมื่อ พ.ศ.2310 มีว่า
“…มีตลาดบนบกนอกกำแพงพระนครตามชานพระนครบ้าง ตามฝั่งฟากกรุงบ้าง ติดแต่ในรอบบริเวณขนอนใหญ่ทั้ง 4 ทิศ รอบกรุงเข้ามาจนฟากฝั่งแม่น้ำตามกรุง แลชานกำแพงกรุงนั้นด้วยรวมเป็น 30 ตลาดคือ…ตลาดบ้านจีนปากคลองขุนละครไชย มีหญิงนครโสเภณีตั้งโรงอยู่ท้ายตลาด 4 โรงรับจ้างทำชำเราแก่บุรุษ ตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ใกล้ทางเรือแลทางบก มีตึกกว้างร้านจีนมาก ขายของจีนมากกว่าของไทย มีศาลเจ้าจีนศาลหนึ่งอยู่ท้ายตลาด 1“
เนื่องจากตลาดบ้านจีนเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของคนจีน จึงสันนิษฐานว่า นอกจากหญิงนครโสเภณีที่เป็นคนไทยแล้ว คงจะมีหญิงโสเภณีคนจีนด้วย
ยุครัตนโกสินทร์ ปลายรัชกาลที่ 5 มีการตราพระราชบัญญัติป้องกันสัญจรโรค รัตนโกสินทร์ศก 127 (พ.ศ. 2451) ตอนหนึ่งมีความว่า “ต้องมีโคมแขวนไว้หน้าโรงเป็นเครื่องหมาย…” ทั้งนี้ไม่ได้บังคับว่าจะต้องเป็นโคมสีอะไร แต่สันนิษฐานว่าที่ใช้โคมสีเขียวคงเป็นในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ คือทำโคมใช้กระจกสีเขียวเป็นตัวอย่าง โคมดังกล่าวจึงเป็นสีเขียวเหมือนกันหมด กฎหมายฉบับนี้ จัดเป็นฉบับแรกที่ตราใช้บังคับหญิงนครโสเภณีให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ดังเหตุผลที่ตรากฎหมายฉบับนี้มีความตอนหนึ่งว่า
“ทุกวันนี้หญิงบางจำพวกประพฤติตนอย่างที่เรียกว่าหญิงนครโสเภณี มีหัวหน้ารวบรวมกันตั้งเงินโรงหาเงินขึ้นหลายตำบล แต่ก่อนมาการตั้งโรงนครโสเภณี นายโรงช่วยไถ่หญิงมาเป็นทาส รับตั๋วจากเจ้าภาษี แล้วตั้งเป็นโรงขึ้น ครั้นต่อมา ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เลิกทาสเสียแล้ว หญิงบางจำพวกที่สมัครเข้าเป็นหญิงนครโสเภณี ก็รับตั๋วจากเจ้าภาษี แล้วมีหัวหน้ารวบรวมกันตั้งขึ้นในท้องที่โรงอันควรบ้างมิควรบ้าง กระทำให้มีเหตุเกิดการวิวาทขึ้นเนือง ๆ อีกประการหนึ่ง หญิงบางคนป่วยเป็นโรค ซึ่งอาจจะติดต่อเนื่องไปถึงผู้ชายที่คบหาสมาคมได้ ก็มิได้มีแพทย์ตรวจตรารักษา โรคร้ายนั้นอาจจะติดเนื่องกันไปจนเป็นอันตรายแก่ร่างกายและชีวิตมนุษย์เป็นอันมาก”
กฎหมายฉบับนี้ได้บัญญัติไว้ว่า ผู้ที่จะเป็นนายโรงหญิงนครโสเภณีได้ ต้องเป็นผู้หญิงและต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน นางโรงต้องมีบัญชีหญิงนครโสเภณีที่มีอยู่ประจำแลที่เข้ามาอยู่ใหม่ ห้ามนายโรงรับหญิงนครโสเภณีที่ไม่มีใบอนุญาต ห้ามนายโรงรับเด็กหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีมาไว้ในโรง ห้ามนายโรงกักขังและทำสัญญาผูกมัดหญิงนครโสเภณี ตลอดจนห้ามไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดบังคับหรือล่อลวงผู้หญิงผู้ใดที่ไม่สมัครใจเป็นหญิงนครโสเภณี
ชาวบ้านเรียกโรงหญิงนครโสเภณีในสมัยนั้นว่า “โรงโคมเขียว” และเรียกหญิงนครโสเภณีว่า “หญิงโคมเขียว” ตามลักษณะโคมที่แขวน
โรงหญิงนครโสเภณีหรือโรงโคมเขียวสมัยรัชกาลที่ ๔ ถึงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทั่วไปแทบทุกตรอกซอกซอย แต่ที่มีนักเที่ยวไปใช้บริการกันคับคั่งคือที่ ตรอกเต๊า โรงยายแฟง โรงแม่กลีบ โรงแม่เต้า ยายแฟงเป็นแม่เล้าใจบุญ ได้นำเงินไปสร้างวัดใหม่ขึ้นวัดหนึ่งที่ตรอกวัดโคก ชาวบ้านเรียก วัดใหม่ยายแฟง หรือ วัดคณิกาผล (วัดที่สร้างขึ้นจากผลประโยชน์ของนางคณิกา) ส่วนแม่กลีบได้สร้างวัดที่ปากตรอกเต๊า เรียก วัดกันมาตุยาราม
กาญจนาคพันธ์ได้เล่าถึงผู้หญิงโคมเขียวที่ตรอกเต๊าไว้ดังนี้ “ในตรอกเต๊านี้ เป็นห้องแถวยาวติดต่อกันไปตลอดตรอก ทุกห้องแขวนโคมเขียวไว้หน้าห้องเป็นแถว และเวลาก่อนค่ำ จะเห็นพวกโสเภณีเขาจุดรูปราวกำมือหนึ่ง (ราวสัก 20 ดอก) มาลนที่ใต้โคมเขียวหน้าห้อง ข้าพเจ้าเคยถามเขาว่าลนทำไม เขาบอกว่าลนให้มีแขกเข้ามามาก ๆ พวกนี้ราคาอยู่ใน 6 สลึงหรือสองบาท ส่วนที่ตึกใหญ่ตรงกันข้ามกับตรอกนี้ก็มีอาชีพเช่นเดียวกัน แต่เขาแขวนโคมเขียวไว้ให้ลับเข้าไปมองไม่เห็น นอกจากคนเคยแล้วก็รู้จักมีนามว่า “ยี่สุ่นเหลือง” เป็นชั้นสูงหน่อย ไม่จุ้นจ้านเหมือนพวกตรอกเต๊า ราคาราว 3 บาทถึง 5 บาท ข้าพเจ้าเคยเข้าไปหลายครั้ง ออกจะสภาพเรียบร้อยดี ห้องแต่ละห้องในตึกก็ตกแต่งดี แปลว่ารับแขกชั้นสูง ไม่สัพเพเหระเหมือนตรอกเต๊า”
ในเวลาต่อมาเนื่องจากสภาพการณ์ทางสังคมของประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญหาการขายบริการทางเพศทวีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งจากสถิติเมื่อสมัยรัชกาลที่ 6 ของกรมสุขาภิบาล กระทรวงมหาดไทย พบว่าผู้ชายในพระนครเป็นกามโรคกันถึงร้อยละ 75 เปอร์เซ็นต์ เพราะสมัยนั้นยังไม่มียารักษา ใครเป็นต้องกินยาไทยต้มเป็นหม้อ ๆ หายก็มี เรื้อรังก็มาก ประกอบกับกระแสการต่อต้านการค้าหญิงและเด็กขององค์การสหประชาชาติ กฎหมายฉบับดังกล่าวจึงถูกยกเลิกในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัช เป็นนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนมาใช้ พระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 แทนจนถึงปัจจุบัน และนับแต่นั้นมา การค้าประเวณีจึงเป็นเรื่องผิดกฏหมาย
ภาพประกอบ : ย่านโคมเขียว (ภาพจากศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช)

 

Watchers
#แจ้งเตือน
02/03/19
ก้อนน้ำมันลึกลับยังโผล่เกลื่อนหาดบ้านฉิมหลา อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช แมงกะพรุน-สัตว์น้ำตายเกลื่อนไร้หน่วยงานใดๆเข้าดูแล-ชาวบ้านระอาไร้การแก้ไขจริงจัง
เครดิต : ThaiPBSnews
ผ่าน : @Krit_ThaiPBS

 

Watchers
#สภาพอากาศ #พายุหมุนเขตร้อน
03/03/19
08:00
พบการก่อตัวใหม่ของพายุดีเปรสัช 17S ในมหาสมุทรอินเดียโซนซีกโลกใต้ พายุทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อนได้ชื่อเรียกว่า Heleh แนวโน้มจะกลายเป็นพายุไซโคลนในลำดับต่อไป ไม่มีแนวโน้มขึ้นฝั่งประเทศใด
Craipibut

 

ดินแดนมาลายูส่วนติดสยาม อยู่ในการปกครองของสยามมาก่อน การยกดินแดนในการปกครองของสยามและอังกฤษ ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ให้และผู้รับ คือเป็นเรื่องการตกลงกันของ 2 ฝ่ายคืออังกฤษกับสยาม และการที่อังกฤษไม่ถามความเห็นของบรรดาสุลต่านว่าจะเรียกร้องให้สยามยกพื้นที่ใดให้อังกฤษบ้างก็เพราะคงเห็นว่าสุลต่านเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการขอเรียกร้องประโยชน์อันใดจากสยามของอังกฤษ เพราะพื้นที่ๆ อังกฤษได้ไปในช่วงนั้นก็ถือว่าเป็นพื้นที่ใต้การปกครองของอังกฤษ

และอังกฤษไม่ได้ยกสิทธิในพื้นที่ที่ได้จากสยามให้สุลต่านรายใด อังกฤษสามารถขอ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ไปอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษก็ได้ ซึ่งถ้าขอก็ถือว่าเป็นพื้นที่อิสระที่อยู่ในปกครอวของอังกฤษ เมื่ออังกฤษให้อิสระก็จะไปรวมตัวกับประเทศใดก็ได้ แต่ในความเป็นจริง อังกฤษก็ไม่เอา ดังนั้น พื้นที่ที่เหลือ ก็ต้องผนวกเป็นส่วนหนึ่งของสยาม เพราะเป็นพื้นที่ในการปกครองของสยามมาก่อน ซึ่งไม่ว่าประเทศใดในโลกก็ทำกันแบบนี้ และการจะอ้างว่าการขอเขตการปกครองจากสยามต้องถามความเห็น หรือประชาพิจารณ์จากสุลต่าน หรือประชาชนในพื้นที่ มันคงเป็นเรื่องตลก เพราะในยุคล่าอาณานิคมของตะวันตก และยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำเป็นต้องถามความเห็นบรรดาสุลต่าน หรือประชาชนด้วยหรือ

ปัจจัยที่มีผลต่อการตกลงพรมแดนในดินแดนมลายูระหว่างสยามและอังกฤษในสนธิสัญญาปี ค.ศ.1909,
http://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2017/TU_2017_5806030085_7393_6026.pdf

 

Watchers


#ข่าวภัยพิบัติ

// #ภัยแล้ง มาแล้ว!ลำน้ำมาศแห้งขอดในรอบ 10 ปี จ. #นครราชสีมา //

3 มี.ค. 2019 12:11

นครราชสีมา -พื้นที่อำเภอชุมพวงเริ่มประสบปัญหาจากภัยแล้ง ลำน้ำสายหลักแห้งขอด จนเดินข้ามได้ ชาวบ้านครวญรุนแรงสุดในรอบ 10 ปี หวั่นสถานการณ์จะยิ่งแย่หนัก ถ้าไม่มีฝนตกลงมาภายใน 1-2 เดือนนี้


ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมารายงานว่า ลำน้ำมาศ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักหล่อเลี้ยงพื้นที่ ต.ประสุข อ.ชุมพวง มีสภาพเกือบแห้งขอด จากที่เคยมีระดับน้ำลึกกว่า 7-8 เมตร ปัจจุบันนี้มีสภาพไม่ต่างจากหนองน้ำขนาดเล็ก มองเห็นเป็นสันดอนดินขนาดใหญ่ และหญ้าขึ้นปกคลุมรกทึบ จนสามารถเดินข้ามไปมาได้ในบางจุด ชาวบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์จากน้ำที่เหลือเพียงเล็กน้อยได้อย่างเต็มที่

เครดิต : tnamcot


ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า ปีนี้น้ำในลำน้ำมาศลดลงอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์ภัยแล้ง และอากาศร้อนจัด ชาวบ้าน 12 หมู่บ้านเคยใช้ประโยชน์ทั้งอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรจากลำน้ำแห่งนี้มานานต่อเนื่องทุกปี ไม่เคยแห้งขอดถึงขนาดนี้ ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากหน้าฝนปีที่แล้วมีฝนตกน้อย ทำให้มีปริมาณน้ำเก็บกักสะสมน้อยกว่าทุกปี ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มเดือดร้อน ไม่มีน้ำเพาะปลูกพืช และบางหมู่บ้านขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค หากไม่มีฝนตกลงมาภายใน 1-2 เดือน น่าเป็นห่วงว่าสถานการณ์จะรุนแรงกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง

รัฐบาลและฝ่ายค้าน"นิการากัว": เริ่มการหารือเพื่อหาทางออกทางสันติภาพได้เริ่มหารือกันอย่างยาวนานอีกครั้ง เพื่อหาทางออกให้แก้วิกฤติภายในประเทศหลังการปล่อยตัวกลุ่มผู้ประท้วงที่ต่อต้านรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว โดยการพบกันของ2ฝ่ายเกิดขึ้นใน"กรุงมานากัว"โดยคริสจักรคาทอลิกทำหน้าที่เป็นคนกลาง"การหารือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ"ลดความตึงเครียด"ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการประท้วงนองเลือดเพื่อต่อต้านรัฐบาล ฝ่ายค้านกล่าวหา"ออร์เตกา"ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี2007รวมถึงภรรยาของเขาและโรซาร์โอ มูรีโอ(รองประธานาธิบดี)ว่าล้มเหลวในการปกครองระบอบเผด็จการ ในระหว่างการประท้วงเมื่อปีที่ผ่านมาฝ่ายค้านเรียกร้องให้ออร์เกตา"ลาออก"จากตำแหน่งและจัดการเลือกตั้งใหม่ ทำให้กองรักษาความปลอดภัยและกลุ่มประชาชนติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทำการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง.///ข้อมูลจากนักสิทธิมนุษยชนระบุว่าเหตุรุนแรงดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย325คน มีผู้บาดเจ็บ2,000คนที่ถูกจับกุมอีกกว่า750คน และประธานาธิบดีนิการากัว ไม่ยอมรับผิดเรื่องการทำให้ผู้ประท้วงเสียชีวิต แต่กลับกล่าวหา"สหรัฐอเมริกา"และฝ่ายค้านว่า เป็นผู้ปลุกระดมให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของเขา.////การหารือเพื่อทางออกทางสันติภาพได้พังลงเมื่อเดือนพฤษภาคมเมื่อปีที่แล้ว หนึ่งในความต้องการของฝ่ายค้านคือการปล่อยตัวนักโทษมากกส่า770คนที่ถูกจำคุกในความผิดฐานเข้าร่วมการประท้วง:///

 

#! ก่อการร้าย กวนหลายจุด. พ่นสี PATTANI110 หลายพื้นที่

มหกรรมพ่นสีป่วนใต้เป็นได้แค่ฝันเฟื่องเรื่องเอกราชบนท้องถนน #หรือว่าถนน สะพาน ป้ายบอกทาง คือ #คู่สงครามของโจร??

ล่าสุดเมื่อวันนี้ 3 มี.ค.62 เวลา 06.30 สภ.เมืองยะลา รับแจ้งจากพลเมืองดี มีการพ่นสีหลายพื้นที่โดยมีพ่นคำว่า "PATTANI110"
หลายจุดที่ในพื้นที่จังหวัดยะลา
อ.เมือง 5 จุด
อ.รามัน 7 จุด
อ.ยะหา 5 จุด
อ.กาบัง 3 จุด
อ.กรงปินัง 4 จุด
อ.บันนังสตา 6 จุด
อ.ธารโต 5 จุด
อ. เบตง 2 จุด
สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่าผู้ก่อเหตุ โดยมีเป้าหมายเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์และสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นทั้งในพื้นที่........ เพจข่าวสืบสวน.ขอเป็นแรงใจส่งให้เจ้าหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย 3 จังหวัดภาคใต้.

 

วลาดิเมียร์ ปูติน

ฮัจจาห์ - ผู้ก่อการกว่า 80 คนที่ภักดีต่อรัฐบาลซาอุดีอาระเบียนำโดยถูกสังหารในขณะที่คนอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวมตัวกันในเขตชายแดน Midi ของจังหวัดฮัจยาห์ สิ่งนี้ได้รับการยืนยันโดย Yahya Saree โฆษกกองทัพเยเมนซึ่งเขียนไว้ในหน้าโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของเขา


โฆษกกองทัพบกระบุว่ากองกำลังขีปนาวุธของเยเมนยิงขีปนาวุธในคืนวันเสาร์โดยกำหนดเป้าหมายการชุมนุมของกองทหารของซาอุดิอาระเบียและกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ Midi ซึ่งพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีขนาดใหญ่ในเขต Hiraan และ Haradh


ผู้ก่อการร้ายกว่า 80 คนถูกสังหารและบาดเจ็บเนื่องจากการโจมตี


Saree ยืนยันว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธนั้นแม่นยำเนื่องจากมีรถยนต์หลายสิบคันที่วิ่งไปยังสถานที่เป้าหมายเพื่อส่งคนตายและบาดเจ็บไปยัง Jizan ท่ามกลางการบินอย่างเข้มข้นของเครื่องบินหลายประเภท


โฆษกกล่าวว่าการนัดหยุดงานทำให้เกิดความสยองขวัญและความสับสนอย่างมากในการจัดอันดับ.

 

วลาดิเมียร์ ปูติน


หน่วยกองทัพอาหรับซีเรียปะทะกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายจำนวนมากจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย Ansar al-Tawhid ที่ละเมิดข้อตกลงเขต de-escalation และโจมตีจุดทหารในทิศทางของ al-Masasneh ในเขตชนบท Hama


ผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธประเภทต่าง ๆ หลังจากยิงจุดอัลมาดาจูนซอลอัลไฮซ่าและคีรีเบ็ตมารินในสภาพอากาศเลวร้ายตามแหล่งข่าวจากกองทัพ


หน่วยทหารที่ปฏิบัติการในภูมิภาคตอบโต้การโจมตีของผู้ก่อการร้ายฆ่าคะแนนของพวกเขาและทำลายอุปกรณ์และอาวุธของพวกเขาแหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่าการโจมตีของผู้ก่อการร้ายทำให้ทหารซีเรียบางคนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง...

 

แผ่นดินไหวจังหวัดลำปาง ครั้งที่ 65 ขนาด 2.1

ภูมิภาค อ.วังเหนือ จ.ลำปาง Amphoe WangNuea,Lampang

เวลา 2019-03-03 01:08:13 ตามเวลามาตรฐาน UTC

2019-03-03 08:08:13 ตามเวลาประเทศไทย พ.ศ. 2562

Epicenter 19.25°N , 99.6°E


http://www.earthquake.tmd.go.th/inside-info.html?earthquake=5634

 

Schumann Resonance วันนี้


การเปลี่ยนแปลงของ Schumann Resonance ด้วยความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ แต่นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าดาวเคราะห์กำลังเปลี่ยนแปลง โลกสั่นสะเทือนมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเรา! ความถี่ฐานอาร์เอส 7.83 Hz


2 มีนาคม - หลังจากผ่านกิจกรรมที่หนักหน่วงมาหลายวัน วันนี้เป็นวันที่สงบเงียบ ไม่มีอะไรสำคัญ แต่ถ้าเราต้องการค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดของวันคือ ความถี่เพิ่มขึ้นไปที่ 15 Hz เวลา 18:00 น. เวลาประเทศไทย (11 UTC)


Schumann Resonance Today

March 2 2019 – 17:17 UTC


Schumann Resonance Today 3/2/2019 We will try to keep you updated about the variations of the Resonance with this page. The great variations that nobody can explain but that give us a clear sign that the planet is changing. The Earth is vibration higher and higher, just like us! RS Base Frequency 7.83 Hz.

Schumann Resonance Today Peaks:


3/2 – After several days of strong activity and probably before some others when there could be another series of peaks, today has been a clam day. Nothing significant but if we want to find something the top of the day was 15 Hz. at 11 UTC.


https://www.disclosurenews.it/en/schumann-resonance-today-update/

 

รัสเซีย

 

ชอบสนุก

#เงินไม่มีจ้าาาา
#รูปดีหน่อย ผ่านค่ะ 555
—-

ขอเกริ่นก่อนเลย คุณพ่อเค้าโพสเล่นๆ ขำๆ กับเพื่อนในเฟสค่ะ แล้วปรากฏว่า คนแชร์กันเรื่อยๆ

ในสำนักงานข่าวช่องนึงขอลงสกู๊ปน่ะค่ะ คุณพ่อก็ให้ลง ทางตัวกาญจน์ นี่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย รู้แต่ว่าแกโพสขำๆ

ไม่มีเจตนาจะโปรโมทร้านหรืออะไรน่ะค่ะ เพิ่งรับรู้กระแส โซเชียลก็ตอนนี้เหละค่ะ

คนอ่าน ผู้รับข่าว
อย่าคิดไปทางลบเลยค่ะ
ขอบคุณคนที่ให้กำลังใจน้าค่ะ
♥️

ปล.
1. จริงๆไม่มีอะไรแถม เลยค่าาาา
กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ค่ะ

2. โสดจริงจริงจ้าา