ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo

    ภูมิอากาศบนโลกนี้

    IMG_0077.JPG
    ในมิชิแกนหิมะตกลงมาจนทำให้รถถูกฝังอยู่

    IMG_0078.JPG
    บ้านถูกแช่แข็งในแคนาดาเนื่องจากอุณหภูมิต่ำ

    IMG_0079.JPG
    ไฟป่าอันยิ่งใหญ่ในสหราชอาณาจักรในช่วงกลางฤดูหนาว ...

    IMG_0080.JPG
    น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ในแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    ออสเตรเลีย

    IMG_0081.JPG
    รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากสภาวะความร้อนสูงในภาคตะวันออก


    คลื่นของอากาศร้อนมากค่อนข้างสั้น แต่รุนแรงกระจายไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย


    ช่องทางที่มีระบบแรงดันต่ำตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก / ทิศตะวันตกเฉียงใต้ทำให้เกิดความกดดันในการรัดแน่นดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มลมและทำให้เกิดอันตรายจากไฟไหม้มาก


    รูปแบบที่มีการพัฒนาในปัจจุบันมีลักษณะ โดยสันเขาในภาคใต้ / ตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปด้วยช่องทางที่เข้ามาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ อุณหภูมิสูงมากกระจายไปทั่วทั้งภูมิภาคมากกว่า 15 ° C อุ่นกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งจาก GFS และ ECMWF เห็นด้วยกับค่าที่อาจใกล้เคียงกับค่าปัจจุบัน


    คลื่นความร้อนที่คาดว่าจะถึงระดับสูงสุดในวันนี้และอุณหภูมิอาจสูงถึง +45 ° C ที่สนามบิน Kalgoorlie มีอุณหภูมิถึง +44.4 ° C เมื่อวานนี้ และวันนี้เป็นไปได้ที่จะได้รับค่าที่คล้ายกันหรือสูงกว่า บันทึกก่อนหน้าสำหรับเว็บไซต์คือ +44.9 ° C ถึง ในปี 2013 และ 2007


    วันนี้แบบจำลอง GFS อุณหภูมิจะสูงสุดคาดว่าจะอยู่ที่ +46 ° C ในส่วนตะวันออกไกลของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียหากตรวจสอบแล้วจะเป็นวันที่ร้อนที่สุดที่บันทึกไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่สนามบิน Kalgoorlie ในเดือนกุมภาพันธ์ 80 ปีที่ผ่านมา! คาดว่าภูมิอากาศร้อน แห้งแล้ง และลมแรงนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ที่เป็นอันตรายในส่วนต่าง ๆ ของออสเตรเลียตะวันตกในปัจจุบัน


    AUSTRALIA


    Australia Occidental sufre condiciones extremas de calor en el sureste.


    Una ola de aire extremadamente caliente, bastante corta pero intensa, se ha extendido por el sureste de Australia Occidental.


    Un canal con sistema de baja presión está ubicado al oeste / suroeste, produciendo un gradiente de presión de apriete y, por lo tanto, aumentando los vientos y resultando en un peligro extremo de incendio.

    --

    El patrón que evoluciona actualmente se caracteriza por una cresta en las partes sur / suroeste del continente con un canal que se aproxima desde el suroeste. Las temperaturas muy altas se extienden por toda la región, localmente más de 15 ° C más cálidas que el promedio. Ambos modelos globales GFS y ECMWF están de acuerdo en los valores potencialmente cercanos a los actuales.


    La ola de calor esperada alcanzará su máximo hoy y las temperaturas podrían alcanzar los +45 ° C. El aeropuerto de Kalgoorlie alcanzó ayer los +44.4 ° C y hoy es posible obtener valores similares o incluso más altos antes de que cambie el patrón. El récord anterior para el sitio fue de +44.9 ° C, alcanzado en 2013 y 2007.


    Hoy en día, la simulación del modelo GFS para la temperatura máxima se espera a +46 ° C en las partes más alejadas del este de Australia Occidental, Si esto se verifica, sería el día más caluroso registrado en febrero en el aeropuerto de Kalgoorlie en los últimos 80 años! Se espera que este clima extremadamente caluroso, seco y ventoso aumente la amenaza de incendios peligrosos en estas partes del oeste de Australia hoy.


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อินโดนีเซีย



    พายุลมแรง (ลมพายุทอร์นาโด) ที่พัดแรงในวันนี้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์บ้านหลายหลังได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ต้นไม้หลายต้นล้มลงและเสาไฟฟ้าในเมืองลิลิบาประเทศอินโดนีเซีย
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อินโดนีเซีย



    พายุทอร์นาโดที่สร้างความเสียหายได้โจมตีเมือง Liliba ใกล้กับเมือง Kupang จังหวัด Nusa Tenggara ตะวันออกของอินโดนีเซียเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2019


    “ บ้านหลายหลังและสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ได้รับความเสียหาย หลังคาบ้านเกือบทั้งหมดของพวกเขาถูกทำลาย” ผู้อยู่อาศัยคนหนึ่งกล่าว ผู้พักอาศัยรายอื่นกล่าวว่าบ้านหลายหลังได้รับความเสียหาย


    ตามรายงานของพายุทอร์นาโดพร้อมฝนตกหนักและเหตุการณ์ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อินโดนีเซีย



    พายุก่อให้เกิดฝนตกหนัก และในอีกด้านหนึ่งการก่อตัวของพายุทอร์นาโดที่ฟาดอย่างรุนแรงในวันนี้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเมืองลิลิบา ประเทศอินโดนีเซีย
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    ... “กลุ่ม JeM ป่วนอินเดียคือใคร? ไวรัสบาปอังกฤษเพาะไว้ ? Sco อ่อนแอลง?"
    53402040_10213149740408024_7419479733810757632_o.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg
    ... ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานในปี 2019 เป็นความขัดแย้งสืบต่อเนื่องของ “อินเดีย- ปากีสถานในแคว้นจัมมูและแคชเมียร์”

    ... เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 ผู้ก่อการจาก “จัมมูและแคชเมียร์” ได้ใช้รถระเบิดฆ่าตัวตายเพื่อสังหารสมาชิกกองกำลังตำรวจกลางของ “อินเดีย” ทำให้อย่างน้อย 42 นายเสียชีวิต ขณะที่กำลังถูกลำเลียงมาในรถขนเจ้าหน้าที่บนถนนในเขต Pulwama ของแคว้นดังกล่าว และเป็นการโจมตีเจ้าหน้าที่ของอินเดียที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่มีการต่อต้านอินเดียของกลุ่มในปากีสถาน

    ... การโจมตีถูกอ้างความรับผิดชอบ ว่าเป็นการก่อการร้ายโดยกลุ่ม Jaish-e-Mohammed ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบติดอาวุธที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ใน “ปากีสถาน” ขณะที่ตัว “รัฐบาลปากีสถาน” เองก็ได้ประณามการโจมตีในครั้งในและปฏิเสธการมีส่วนร่วมใด ๆ กับทางกลุ่มดังกล่าว

    ... จากนั้น ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2019 “กองทัพอากาศอินเดีย” ได้ทำการโจมตีทางอากาศจากอินเดียใน “จัมมูและแคชเมียร์” ของฝั่งปากีสถานเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ “สงครามอินเดีย - ปากีสถาน 1971” โดยได้บินข้ามเส้นแบ่งการควบคุมเข้าไปในเขตดินแดนนั้น แหล่งข่าวจากอินเดียอ้างว่าการโจมตีทางอากาศในวันนั้นได้สังหารผู้ก่อการร้ายไปแล้ว 350 ราย แต่ผู้อยู่อาศัยและรัฐบาล “ปากีสถาน”ในพื้นที่เป้าหมายนั้นออกมาบอกว่าตัวเลขของอินเดียไม่ตรงตามจริง เพราะไปทิ้งระเบิดในเขตที่ไม่ค่อยมีกลุ่มก่อการร้ายอยู่อาศัย พื้นที่ว่าง และกระจายในเขตชาวบ้านและทำให้หญิงแก่และเด็กเสียชีวิตด้วย และอินเดียบอกว่าเป็นการแก้แค้นกลุ่มก่อการร้ายที่โจมตีในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 ที่เขต Pulwama

    ... กลุ่ม Jaish-e-Mohammed , JEM หรือ “เจอีเอ็ม” ที่แปลว่า “ทหารของท่านโมฮัมหมัด” นั้นก่อตั้งในปี 2000 , กลุ่มติดอาวุธนี้ตั้งอยู่ใน “ปากีสถาน” ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือการบ่อนทำลายและโค่นล้มการควบคุมของ “อินเดีย” เหนือ “จัมมูและแคชเมียร์” ที่ ปกครองโดยอินเดีย เน้นการโจมตีกลุ่มเป้าหมายด้านความมั่นคงและเป้าหมายของรัฐบาลอินเดีย และเพื่อการรวมดินแดนนี้เข้ากับปากีสถานในอนาคต นอกจากนั้นยังขยายการโจมตีและขจัดอิทธิพลของอินเดียไปถึงดินแดนหลักอินเดียด้วย โดยใช้ แคว้น “จัมมูและแคชเมียร์” นี้เป็นเสมือน "ประตู" ไปทั่วทั้งอินเดียซึ่งเขามองว่าชาวมุสลิมในอินเดียเหล่านั้นต้องการการปลดปล่อยด้วย “พวกเขาจะนำญิฮาดไปยังส่วนอื่น ๆ ของอินเดียด้วยความตั้งใจที่จะขับฮินดูและศาสนาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่มุสลิมจากอนุทวีปอินเดีย”

    ... แต่ที่แน่นอนชัดเจนคือ "กลุ่มJeM นี้ทำให้อินเดียกับปากีสถานแตกแยกกัน"

    … กลุ่มนี้ก่อตั้งโดย Masood Azhar ซึ่งก่อนหน้านี้เคยต่อสู้ภายใต้ร่มธงของกลุ่ม Harkat-ul-Mujahideen ที่มีความเชื่อมโยงกับ “อัลกออิดะห์” al-Qaeda ( แม้ยังไม่มีหลักฐานว่า JEM เชื่อมโยงกับตะวันตก แต่ก็ทราบกันทั่วโลกว่า “อัลกออิดะห์” นั้นเชื่อมโยงกับซาอุดิอาระเบีย อเมริกามานานทั้งใน อัฟกานิสถาน อิรัก และซีเรีย )

    ... ข้อมูลที่อ้างจากสหประชาชาติ กล่าวว่า Masood Azhar ได้ก่อตั้ง JeM ขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจาก “โอซามา บินลาเดน” หัวหน้าของ “อัลกออิดะห์” และกลุ่มตาลีบันใน “อัฟกานิสถาน” และในปี 2001 กลุ่มนี้ก็ได้ช่วยเหลือ “ตาลีบัน” ในการต่อสู้กับทหารตะวันตกและนาโต้ภายใต้การนำของ “อเมริกา” ( ที่เบื้องหลังนั้น อเมริกา ต้องการสร้างทางท่อส่งแก๊สจากรอบทะเลสาปแคสเปียนไปที่มหาสมุทรอินเดีย ที่ต้องผ่าน อัฟกานิสถาน แต่ตอนนั้น ตกลงผลประโยชน์ไม่ลงตัว ทำให้ อเมริกาต้องใช้กำลังทหารมา “ปล้นประเทศอัฟกานิสถาน” แบบเดียวกับเวเนซุเอล่า โดยอ้างเรื่องตาลีบันให้การปกป้องโอซามาบินลาเดนในกรณีระเบิดตัวเอง 11 กันยายน 2001 )

    ... โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2001 กลุ่ม “เจอีเอ็ม”ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีอาคารสภานิติบัญญัติในแคชเมียร์ ของอินเดียและรัฐสภาอินเดียในกรุงนิวเดลี มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 คนในการโจมตีทั้งสองครั้งนั้น และทำให้นาย Masood Azhar ถูกทางการปากีสถานจับตัวและหลังจากนั้นกูถูกปล่อยโดยอ้างว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ทำให้ต่อมาทางปากีสถานและกลุ่มประเทศ รัสเซีย ออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย ยูเออี อังกฤษ อเมริกา และสหประชาชาติ ได้ประกาศว่ากลุ่มนี้เป็น “องค์การผู้ก่อการร้าย”

    ... และหลังการถูกปล่อย เขาก็ได้มีการพยายามก่อการร้ายใน “ปากีสถาน” ประเทศตัวเองด้วย แต่ไม่สำเร็จ รวมทั้งพยายามลอบสังหารนายเปอร์เวซ มูชารัฟ ประธานาธิบดีประเทศในครั้งนั้น ในปี 2003 ด้วย

    ... ในปี 2016 “ปากีสถาน” กักตัวนาย Masood Azhar ,อัซฮาร์ อีกครั้งหลังจากที่ “อินเดีย” กล่าวหาว่า “เจอีเอ็ม” นั้นรับผิดชอบในการโจมตีฐานทัพอากาศอินเดียในเมือง Pathankot ที่ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยหกคน

    ... ต่อมาในปี 2016 เดียวกันนั้น JeM ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีกองกำลังความมั่นคงของอินเดียที่เมือง Uri ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 19 คน

    ... ย้อนกลับมาสู่ปัจจุบัน หลังจากที่ จากวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2019 “อินเดีย” ได้ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดที่เขตแดนของ “ปากีสถาน” นั้น เมื่อวันที่ 27กุมภาพันธ์ ก็บอกว่าสามารถยิงเครื่องบินอินเดียตกสองคน และกักขังไว้ และกำลังมีการเจรจาปล่อยตัวในเร็ววันนี้ โดยปากีสถานบอกการยิงกลับคืนนั้น ว่าไม่ใช่การแก้แค้นหรือดึงเขตนี้เข้าสู่สงครามแต่แค่ต้องการบอกว่าสามารถจะแก้แค้นหรือมีศักยภาพที่จะทำแบบนั้นได้ เพื่อป้องกันตัว และสันติภาพ

    ... ข่าวบางสำนักบอกว่าการที่ทางนายกรัฐมนตรีอินเดีย นายนาเรนทรา โมดิเล่นไม้แข็งในการไปบอมบ์ปากีสถานนั้น ก็เพราะว่าจะต้องแสดงบทบาทความเข้มแข็งให้ประชาชนเห็น เพื่อจะได้รักษาความนิยมเอาไว้ต่อไปจนถึงการเลือกทั่วไปในอินเดีย ประมาณ เดือนเมษายน หรือ พฤษภาคมปี2019 นี้

    ... ความขัดแย้งระหว่างเขต แคว้น เมือง ต่างๆในอินเดียนั้น มีมาก่อนแล้วก็จริง ในทั้งการเมืองและศาสนา ฮินดู ซิกข์ อิสลาม แต่ระหว่าง “อังกฤษ” ปกครองสมัย “บริติชราชา” ในระหว่างปี 1858-1947 ที่ ก่อนนั้นเกิด “สงครามซีปอย” ที่ทหารที่ก่อการส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดียมุสลิมที่มีทั้งเรื่องการเมืองและศาสนามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นเอาน้ำมันหมูที่อิสลามถือว่าผิดหลักศาสนามาใช้หล่อลื่นปืน ( เหมือนที่อเมริกาทำกับฟิลิปปินส์ในอดีต )

    ... “อังกฤษ” เข้ามาทำให้ความแตกแยกในอินเดียทวีปแย่หนักกว่าเดิม พยายามลดอำนาจของฝ่ายเขตแคว้น “อิสลาม” และสนับสนุนฝ่าย “ฮินดู” หรือ มีการจัดแบ่งเอาหัวเมืองใหม่ตามใจตัวเอง ที่ต่างเมืองก็ต่างศาสนา มามัดรวมกันในมณฑลเดียวกันแบบไม่กลมกลืนทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น แต่งตั้งผู้ปกครองชาวฮินดูในพื้นที่แคว้นที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม จนทำให้การแตกแยกสามัคคี อังกฤษมองว่าฮินดูปกครองง่ายและเปิดรับแนวคิดตะวันตกมากว่าอิสลาม เพื่อจะกอบโกยเอาผลประโยชน์จากความแตกแยกนั้น เช่น ทำให้มณฑลปกครองเหล่านั้นแตกแยกกันเอง จนไม่เกิดความสามัคคีกันเพื่อจะมาเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ เช่นครั้งหนึ่ง อังกฤษเคยเอาคนเชื้อสายแขกอินเดีย และชาวเบงกาลี ไปเป็นตำรวจ ทหาร พ่อค้า ข้าราชการ แรงงาน ในเขต “พม่า” จนเติบโตออกลูกหลานหลายส่วนไปแย่งงานและออกเงินกู้ที่บางปีการเพาะปลูกเกิดภัยธรรมชาติส่งเงินกู้คืนไม่ได้ ต้องถูกแย่งที่ดินทำกินจน “ชาวพม่า” ไม่พอใจ ทำให้เกิดรอยร้าวความแตกแยกในประเทศพม่า ทำให้ไม่มีเอกภาพพอที่จะมาเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษและเป็นบาดแผลมาจนถึงทุกวันนี้ เช่นเรื่องรัฐยะไข่และโรฮีนจา

    ... “ผลเสีย ถ้าอินเดียกับปากีสถานขัดแย้งกันหนัก”
    ... จะมีผลต่อกลุ่ม SCO หรือ “กลุ่มความร่วมมือเซี่ยงไฮ้” หรือ Shanghai Cooperation Organisation ทำให้อ่อนแอลง โดยกลุ่มนี้เข้าใจกันว่าเป็น “พันธมิตรแห่งตะวันออก” เพื่อจะสร้างอำนาจทางการเมือง การทหาร ทางการค้าเศรษฐกิจ ทางการเงินของตัวเอง มาแข่งคานอำนาจกับฝั่งที่นำโดย “อเมริกาและยุโรปนาโต้” กลุ่มนี้จึงมีประเทศในเอเชีย เอเชียกลาง 3ใน 5 , เอเชียใต้เป็นสมาชิกด้วย ที่ทั้งคู่ “อินเดียกับปากีสถาน” เพิ่งจะเป็นสมาชิกใหม่พร้อมกัน ในวันที่ 9 มิถุนายน 2017 ภายใต้การดึงเข้ามาของ “จีน” และทั้งกลุ่มนี้ เช่น จะใช้เงินท้องถิ่นในการซื้อขาย ไม่ใช้เงินดอลล่าร์ของ “กลุ่มพันธมิตรตะวันตก” ด้วย หรือ โครงการ “ทางสายไหมใหม่” ที่จะเดินระบบรางหรือทางหลวงผ่านระหว่างประเทศเหล่านั้น

    ... นอกจากนี้ ถ้า “สงครามอินเดียกับปากีสถานยื้ดเยื้อ” แล้วจะมีผลกระทบต่อโครงการ CPEC หรือ China–Pakistan Economic Corridor ที่เป็นส่วนต่อขยายของ “เส้นทางสายไหมใหม่” ที่จะเชื่อมระหว่าง “จีนกับปากีสถานและออกทะเลมหาสมุทรอินเดีย” ด้วย ที่ข้อดีของโครงการนี้คือจะทำให้จีนไม่ต้องขนส่งน้ำมันหรือสินค้าไปไกลอ้อมถึงช่องแคบมะละกาและทะเลจีนใต้

    ... ดังนั้น “ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน” จึงมีผลต่อโครงสร้างทางการเมือง ทางการทหาร การค้าและการเงินของโลกอย่างมาก

    .
    … Jaish-e-Mohammed (Urdu: جيش محمد‎, literally "The Army of Muhammad", abbreviated as JeM) is a Pakistan-based[1] Deobandi[2] jihadist[2][3] terrorist group active in Kashmir.[4] The group's primary motive is to separate Kashmir from India and merge it into Pakistan. Since its inception in 2000, the terror outfit has carried out several attacks in the state of Jammu and Kashmir. It projects Kashmir as a "gateway" to the entire India, whose Muslims are also deemed to be in need of liberation. After liberating Kashmir, it aims to carry its ‘jihad’ to other parts of India, with an intent to drive Hindus and other non-Muslims from the Indian subcontinent. It has carried out several attacks primarily in the Indian state of Jammu and Kashmir.[5][6] It also maintained close relations with Taliban and Al-Qaeda in Afghanistan and continues to be allied to them

    ... The declared objective of the JeM is to liberate Kashmir and merge it with Pakistan. However, it projects Kashmir as a "gateway" to the entire India, whose Muslims are also deemed to be in need of liberation. After liberating Kashmir, it aims to carry its jihad to other parts of India, with an intent to drive Hindus and other non-Muslims from the Indian subcontinent

    … Pakistan, Russia, Australia, Canada, India, the United Arab Emirates, the United Kingdom,[22] the United States and the United Nations

    ... The SCO is widely regarded as the "alliance of East", due to its growing centrality in Asia-Pacific, and has been the primary security pillar of the region.[4][5] Being the world's forefront regional organisation in economic power and political influence,[6][7] and one of the world's strongest military alliances,[8] it is also the largest regional organisation in the world in terms of geographical coverage and population, covering three-fifths of the Eurasian continent and nearly half of the human population. At present, the SCO is one of the world's most powerful and influential organisations.[9][10][11]

    https://en.wikipedia.org/wiki/2019_India–Pakistan_standoff
    https://www.aljazeera.com/news/2019/02/profile-jaish-muhammad-190215061851082.html
    https://en.wikipedia.org/wiki/Jaish-e-Mohammed
    https://en.wikipedia.org/wiki/Shanghai_Cooperation_Organisation

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    มีผู้เสียชีวิต 3 ราย จากสายฟ้าฟาด ลูกเห็บตกในบังคลาเทศ 27Feb2019

    หนึ่งในผู้เสียชีวิตเสียชีวิตที่บ้าน อีกรายที่ทำงาน และรายสุดท้ายในขณะที่หาที่หลบภัย
    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสามคนจากการถูกฟ้าผ่า และลูกเห็บตก ในสามเขตทั่วบังคลาเทศในวันพุธ ...





    3 die in lightning strike, hailstorms across Bangladesh 27Feb2019

    One of the deceased was killed at home, another at work, and the last while seeking shelter
    At least three people have been killed in lightning strike and hailstorm in three districts across Bangladesh on Wednesday.
    Dhaka Tribune's Sirajganj correspondent Aminul Islam Rana said a 52-year-old woman was killed when a tree branch fell on her during a storm in Sirajganj Sadar upazila.
    The deceased was identified as Sufia Khatun, a resident of Sartia area of Saidabad union under the upazila.
    Witnesses said several women had been collecting dry leaves near Bangabandhu Bridge West Eco Park.
    As the storm intensified, they tried to shelter in a safe place.
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใครโกหก!เกาหลีเหนือโต้ไม่ได้ขอยกเลิกคว่ำบาตรทั้งหมด ชี้ซัมมิตล่มเพราะสหรัฐฯเรียกร้องเลยเถิด เผยแพร่: 1 มี.ค. 2562 02:32 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002169301.jpg

    รี ยอง โฮ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ เปิดแถลงข่าวจากกรุงฮานอยในวันพฤหัสบดี(28ก.พ.)

    รอยเตอร์ - รี ยอง โฮ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ เปิดแถลงข่าวจากกรุงฮานอยในวันพฤหัสบดี(28ก.พ.) ยืนยันเปียงยางยื่นข้อเสนอที่เป็นจริงต่อที่ประชุมซัมมิตกับสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงรื้อถอนโรงงานนิวเคลียร์ยองบยอน เพื่อแลกกับการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนเท่านั้น ข้อมูลที่สวนทางกับคำกล่าวอ้างของทางฝั่งอเมริกา

    รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุระหว่างแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี ว่าสหรัฐฯต้องการมากกว่าการรื้อถอนโรงงานนิวเคลียร์ยองบยอน โดยข้อเสนอของอเมริกาคือหากประสงค์ให้ปลดมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน เปียงยางจะต้องรื้อถอนกำลังผลิตวัสดุนิวเคลียร์ทั้งหมด ทั้งพลูโตเนียมและยูเรเนียม ภายใต้การสังเกตการณ์ของสหรัฐฯ

    รี บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า เปียงยาง ต้องการเพียงแค่การปลดมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน ไม่ใช่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด ซึ่งสวนทางกลับคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ระบุว่าเขาลุกออกจากการประชุมซัมมิต สืบเนื่องจาก คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ มีข้อเรียกร้องที่มิอาจยอมรับได้ด้วยการขอให้ยกเลิกมาตรการแซงก์ชันทั้งหมด

    ยิ่งไปกว่านั้น รี เผยด้วยว่านอกเหนือจากรื้อทำลายโรงงานนิวเคลียร์ยองบยอนแล้ว เกาหลีเหนือยังเสนอระงับการทดสอบนิวเคลียร์เป็นการถาวรด้วย

    ทรัมป์ กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสฯ (28 ก.พ.) ก่อนขึ้นเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ฟอร์ซ วัน” จากฮานอยกลับวอชิงตันว่า เกาหลีเหนือต้องการให้ยกเลิกมาตรการแซงก์ชันทั้งหมด ซึ่งอเมริกาไม่สามารถยินยอมได้ แต่ยืนยันว่า เป็นการยุติการเจรจาฉันมิตร กระนั้น ผู้นำทำเนียบขาวมองแง่ดีว่า มีความคืบหน้าทั้งก่อนและระหว่างการหารือซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต และสิ่งสำคัญคือ ไม่ควรรีบร้อนทำข้อตกลงที่เลวร้าย

    ในถ้อยแถลงที่กรุงฮานอย รี บอกว่าหากทั้งสองฝ่ายผ่านพ้นก้าวย่างแห่งการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจหลากหลายระดับ เมื่อนั้น เปียงยาง ก็จะมีความตั้งใจมุ่งหน้าสู่การปลดนิวเคลียร์

    https://mgronline.com/around/detail/9620000020941
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics: ภาพสุดอึ้ง!!บ้านริมทะเลสาบกลายสภาพเป็น'สุสานสีขาว'หลัง'สึนามิน้ำแข็ง'ซัดผ่าน เผยแพร่: 1 มี.ค. 2562 04:47 ปรับปรุง: 1 มี.ค. 2562 04:52 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002169901.jpg

    เดอะซัน - สภาพอากาศประหลาด ซึ่งก่อพายุความเร็วลมสูงสุด 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้เปลี่ยนบ้านพักริมทะเลสาบฤดูร้อนแห่งหนึ่งกลายเป็นบ้านน้ำแข็ง ภาพสุดอึ้งที่ถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากเมื่อช่วงกลางสัปดาห์พายุได้ก่อปรากฏการณ์หาดูยากสึนามิน้ำแข็งสูง 40 ฟุต ค่อยๆม้วนตัวขึ้นฝั่งทะเลสาบออนแทรีโอในแคนาดา เช่นเดียวกับที่รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ

    พวกเจ้าของบ้านที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาดราโมนา ในเขตพูลาสกี รัฐนิวยอร์ก ต่างอยู่ในอาการตกตะลึง ไม่เชื่อสายตาตนเองตอนที่พวกเขากลับมาที่บ้าน แล้วพบว่าที่พักอาศัยของพวกเขานั้นถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งทั้งหลัง


    เบอร์ตา สมิธ เพื่อนของเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง เผยว่าตอนนี้บ้านและสิ่งต่างๆที่อยู่ล้อมรอบจมอยู่ใต้น้ำเยือกแข็งสูงกว่า 4 ฟุต "ใจของฉันแตกสลาย ฉันมีความทรงจำมากกมายกับชายหาดแห่งนี้ ชายหาดที่ฉันโตมา ระดับน้ำสุงอย่างน่ากลัว ฉันอาศัยอยู่ที่นี่มากว่า 50 ปี แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย"

    ภาพอันน่าตะลึงที่ถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ พบเห็นบ้านกว่าครึ่งหลังจมอยู่ใต้น้ำแข็ง โดยมีเพียงแค่ส่วนหลังคาที่โผล่พ้นขึ้นมาไม่กี่ฟุต เนื่องจากบริเวณพื้นดินนั้นถูกกลืนไปด้วย "สึนามิน้ำแข็ง"

    562000002169902.jpg


    เหตุการณ์นี้มีขึ้นท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่าเกิดพายุลมแรงซัดเล่นงานพื้นที่ทางตะวันออกของสหรัฐฯตลอดทั้งสัปดาห์ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนและอาคารธุรกิจหลายแสนหลังเกิดไฟดับ , โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนและก้อนน้ำแข็งถูกดันขึ้นสั่งชายฝั่งทะเลสาบอิรี

    ปรากฎการณ์สึนามิน้ำแข็ง นี้มีต้นตอจากพายุรุนแรงที่ยกชิ้นน้ำแข็งขนาดใหญ่หลุดจากผิวแม่น้ำและซัดพวกมันพุ่งชนกำแพงชายฝั่งและท้องถนนที่อยู่ด้านบน จนเกิดการม้วนตัวกลายเป็นสึนามิน้ำแข็งขนาดยักษ์

    562000002169903.jpg

    ทั้งนี้ปรากฏการณ์ก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ม้วนตัวขึ้นชายฝั่ง เกิดขึ้นที่บริเวณริมตลิ่งของแม่น้ำไนแองการาที่ไหลผ่านเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยมันก่อตัวจนกลายเป็นกำแพงก้อนน้ำแข็งกั้นระหว่างแม่น้ำกับถนนที่อยู่ติดกัน

    นอกจากนี้แล้วยังปรากฏคลิปวิดีโอก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เคลื่อนเข้าหากำแพงกันคลื่นของทะเลสาบอิรี ในรัฐออนแทรีโอ ของแคนาดา ที่อยู่ติดกัน จากนั้นก็ค่อยๆม้วนตัวขึ้นฝั่งกลายเป็นสึนามิน้ำแข็ง คุกคามบ้านเรือนประชาชน ต้นไม้และเสาไฟฟ้าริมทาง

    https://mgronline.com/around/detail/9620000020945
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พอมเพโอแย้มอาจมีประชุมซัมมิต'ทรัมป์-คิม'หน3 เชื่อยังบรรลุข้อตกลงกันได้
    เผยแพร่: 28 ก.พ. 2562 23:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002165901.jpg

    รอยเตอร์ - ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเผยในวันพฤหัสบดี(28ก.พ.) ว่าอเมริกาและเกาหลีเหนือ อาจจัดประชุมกันอีก หลังการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ คิม จองอึน ในเวียดนาม จบลงด้วยความล้มเหลวไม่นำมาซึ่งข้อตกลงใดๆ อย่างไรก็ตามยังไม่มีแผนในเร็ววันนี้

    "เราไม่ได้กำหนดวัน" พอมเพโอบอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างบินจากเวียดนามสู่ฟิลิปปินส์ "ผมคิดว่ามันจะต้องใช้เวลาสักพัก เราแต่ละฝ่ายจำเป็นต้องใช้เวลารวมทีมใหม่ แต่ผมหวังเป็นอย่างยิ่งกว่า สตีเฟน บีกัน ผู้แทนพิเศษด้านเกาหลีเหนือ และคณะทำงานจะรวมทีมกันได้ ก่อนเวลาจะเนิ่นนานไป"

    สำหรับ สตีเฟน บีกัน เป็นผู้นำการเจรจาระดับคณะทำงานของสหรัฐฯ ที่ทำงานร่วมกับผู้นำการเจรจาระดับคณะทำงานของเกาหลีเหนือ ซึ่งนำไปสู่การประชุมซัมมิตในกรุงฮานอย ทั้งนี้เขาอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกับ พอมเพโอ ด้วย แต่ปฏิเสธตอบคำถามใดไของผู้สื่อข่าว

    "ยังมีทฤษฎีหนึ่งของกรณีนี้เกี่ยวกับแนวทางผลักดันให้มันเดินหน้า" พอมเพโอกล่าว "ผมมั่นใจในทฤษฎีนั้น ผมเห็นความสอดคล้องต้องกันมากพอระหว่างสองฝ่าย ในความพยายามบรรลุเป้าหมาย ผมเห็นความเป็นมิตรไมตรีระหว่างสองผู้นำ ดังนั้นผมจึงหวังว่าเราจสามารถค้นพบแผนๆหนึ่ง"

    พอมเพโอกล่าวว่าทั้งสองฝ่าย "ได้ขจัดขวากนามไปแล้วมากมาย ในการเจรจาระดับคณะทำงานช่วง 60-90 วันที่ผ่านมา และดังนั้นเราจึงหวังว่าเราจะสามารถก่อความก้าวหน้าครั้งใหญ่เมื่อ 2 ผู้นำมาพบเจอกัน และเราทำสำเร็จ เรามีความคืบหน้าบางอย่าง เพียงแต่มันไม่มากพอดังที่เราคาดหวังไว้ก็เท่านั้น"

    ทรัมป์ เผยก่อนหน้านี้ว่าเขาลุกหนีจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ณ ที่ประชุมซัมมิตกับ คิม ในเวียดนามวันพฤหสบดี(28ก.พ.) สืบเนื่องจากข้อเรียกร้องที่ไม่อาจยอมรับได้ของผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ขอให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่างๆที่นำโดยสหรัฐฯ

    พอมเพโอเผยว่า คิม ย้ำว่าเขาพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับปลดนิวเคลียร์ และจะเดินหน้าระงับการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ในขณะที่ ทรัมป์ ยังคงยึดมั่นในคำสัญญาว่าจะไม่ซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ "ดังนั้น จึงมีพื้นฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่าเราสามารถก้าวไปข้างหน้าได้" พอมเพโอระบุ แต่ยอมรับว่า "ยังคงมีงานให้ทำอีกมาก" ในการบรรลุเป้าหมายปลดนิวเคลียร์

    https://mgronline.com/around/detail/9620000020929
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันโลกลงกังวลอุปสงค์จีน หุ้นมะกัน,ทองคำลงจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส4สหรัฐฯ เผยแพร่: 1 มี.ค. 2562 05:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000002170701.jpg

    มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันโลกในวันพฤหัสบดี(28ก.พ.) ปิดลบเล็กน้อย จากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ ส่วนวอลล์สตรีทขยับลงหลังสหรัฐฯเผยตัวเลขจีดีพี ขณะที่ทองคำปรับลด นักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

    สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ ปิดที่ 57.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 36 เซนต์ ปิดที่ 66.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ตลาดน้ำมันสัญญาสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจาก รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯที่เผยแพร่ในวันพุธ(27ก.พ.) ที่ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ลดลงถึง 8.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้กว่า 2 เท่า

    อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดลอนดอน ราคาน้ำมันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจอันอ่อนแอของจีน หลังพบกิจกรรมการผลิตลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยมีความเป็นไปได้ว่ากำลังผลิตหดตัวเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ขณะเดียวกันอุปสงค์ภายนอกก็อ่อนแอยิ่งกว่าเดิม

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(28ก.พ.) ปรับลด หลังข้อมูลพบเศรษฐกิจอเมริกาในไตรมาส 4 เติบโตแบบชะลอตัว แม้มันจะเหนือกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ก็ตาม

    ดาวโจนส์ ลดลง 69.16 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,916.00 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.89 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,784.49 จุด แนสแดค ลดลง 21.98 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,532.53 จุด

    กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4 ระบุว่ามีการขยายตัว 2.6% ลดลงจากระดับ 3.4% ของไตรมาส 3 อย่างไรก็ตามมันยังเหนือกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ที่ 2.3%

    การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น 2.8% ขณะที่การใช้จ่ายของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 6.7% ส่วนการลงทุนในสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 9.71 หมื่นล้านดอลลาร์

    อย่างไรก็ดี การขาดดุลการค้าได้กระทบต่อ GDP ในไตรมาส 4 คิดเป็นสัดส่วน 0.22% ขณะที่การปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) กระทบต่อ GDP ราว 0.1%

    ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(28ก.พ.) ขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ดัชนีเศรษฐกิจเติบโตเกินคาดของสหรัฐฯ ผลักนักลงทุนผละหนีจากสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,316.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    https://mgronline.com/around/detail/9620000020953
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    ces%2Fimg%2Feditorial%2F2019%2F02%2F28%2F105766545-1551351641594gettyimages-1128007353.1910x1000.jpg
    (Mar 1) การเจรจาที่ไร้ข้อสรุป: วานนี้ การประชุมสุดยอดครั้งที่สองระหว่างประธานาธิบดี Trump และนาย Kim Jong Un ผู้นำเกาหลีเหนือ ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ยุติลงด้วยระยะเวลาสั้นกว่าที่คาดการณ์ โดยปราศจากข้อตกลงร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย

    ทั้งนี้ ประธานาธิบดี Trump กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมด โดยยอมที่จะรื้อถอนโรงงานนิวเคลียร์ที่เมือง Yongbyon ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการข้อตกลงที่ครอบคลุมถึงการรื้อถอนในส่วนอื่นของเกาหลีเหนือด้วย รวมถึงฐานการผลิตแร่ยูเรเนียมความเข้มข้นสูง

    อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี Trump ยังมิได้ปิดโอกาสสำหรับการเจรจาในครั้งต่อไป โดยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะได้ข้อตกลงร่วมกันในท้ายที่สุด

    ขณะเดียวกัน นาย Ri Yong Ho, รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ แถลงการณ์ว่า เกาหลีเหนือมิได้ขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมด แต่เสนอให้ยกเลิกการคว่ำบาตรที่พุ่งเป้าไปยังกลุ่มพลเรือน โดยจะยอมรื้อถอน facility ในการผลิตวัสดุนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิงอย่างถาวรในบริเวณพื้นที่เมือง Yongbyon

    นอกจากนี้ นาย Ri ยังได้กล่าวเสริมว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นมาตรการการถอนอาวุธนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ด้วยระดับความเชื่อมั่นในปัจจุบันของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ดี เป็นที่ชัดแจ้งว่าความต้องการของรัฐบาลสหรัฐฯ มีมากกว่าที่จะรับข้อเสนอได้

    Source: BoTSS
    - Trump agreed to nothing with North Korea — and completely defied the experts:
    https://www.cnbc.com/2019/02/28/tru...gP1JLLQ5fGgvJ8f9lP28DbxQC_p9wJFYF-_jnjpggpOUY
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    ces%2Fimg%2Feditorial%2F2019%2F01%2F29%2F105706097-1548765478789gettyimages-1090672394.1910x1000.jpg
    (Mar 1) การเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนมีทิศทางที่ดี: นาย Larry Kudlow, Director of the White House’s National Economic Council ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC เกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศจีนว่ามีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์

    ทั้งนี้ ทางการจีนยินยอมที่จะปรับลดเงินทุนสนับสนุน state-owned firms รวมถึงจะทำการเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศของ PBOC

    นอกจากนี้ นาย Kudlow เผยว่าจีน ตกลงที่จะ “de-emphasize” แผนนโยบายในการสร้างอิทธิพลในแวดวงเทคโนโลยีใหม่ๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ Made-in-China 2025

    อย่างไรก็ตาม นาย Kudlow ระบุว่า U.S.-China accord จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลจีนเสียก่อน

    ด้านนาย Steven Mnuchin, U.S. Treasury Secretary ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาในเชิงระมัดระวังเช่นเดียวกับนาย Lighthizer ว่า แม้การเจรจาจะมีความคืบหน้าไปมาก แต่ทั้งสองประเทศยังไม่ถือว่าได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ พร้อมปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับความเห็นที่ไม่ตรงกันภายในรัฐบาลเกี่ยวแนวทางในการรับมือกับจีน

    อนึ่ง วานนี้ U.S. Trade Representative’s office ระบุว่าจะลงประกาศแจ้งใน Federal Register เกี่ยวกับการเลื่อนระยะเวลาการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

    Source: BoTSS
    - Larry Kudlow says US-China trade deal talks made 'fantastic' progress last week :
    https://www.cnbc.com/2019/02/28/lar...GqxO-6inIn76VBiQyZ4-l6pJJk6GwhB-pR_LUfshDLs5w
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    safe_image.php?d=AQCuQPsYtB9HydAk&w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fs3.reutersmedia.jpg

    (Feb 28) สหรัฐเผย GDP Q4/61 โต 2.6% สูงกว่าคาดการณ์ : กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 โดยมีการขยายตัว 2.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3%

    ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 3.4% ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะ 4.2% ในไตรมาส 2 และแตะระดับ 2.2% ในไตรมาส 1 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.9% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 และสูงกว่า 2.2% ในปี 2560 แต่ต่ำกว่าระดับ 3% ซึ่งเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น 2.8% ขณะที่การใช้จ่ายของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 6.7% ส่วนการลงทุนในสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 9.71 หมื่นล้านดอลลาร์

    อย่างไรก็ดี การขาดดุลการค้าได้กระทบต่อ GDP ในไตรมาส 4 คิดเป็นสัดส่วน 0.22% ขณะที่การปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) กระทบต่อ GDP ราว 0.1%

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

    - U.S. economic growth slows moderately in fourth quarter : https://www.reuters.com/article/us-...gdNdAsPYvxaGPAbs6SasxbfxXqNMJxNBdXv3XHNu6C4QA
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    %2Fcdn.cnn.com%2Fcnnnext%2Fdam%2Fassets%2F180718075259-netflix-screen-remote-control-super-tease.jpg
    (Feb 28) 'เอทีแอนด์ที'ชนะคดีควบ'ไทม์วอร์เนอร์' - เอทีแอนด์ที ได้รับชัยชนะเหนือความพยายามของคณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะขัดขวางการซื้อไทม์ วอร์เนอร์ เป็นมูลค่า 85,400 ล้านดอลลาร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมแถลงว่าจะไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลที่ให้ทำข้อตกลงนี้ได้ ได้มีการจับตาการเข้าถือสิทธิ์ในไทม์ วอร์เนอร์ของเอทีแอนด์ทีอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โจมตีดีลนี้และคัดค้านเพราะมองว่าเป็นการช่วยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ซึ่งเขาได้เคยกล่าวหาว่า “กุข่าว” องค์คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์โคลัมเบียซึ่งมี 3 คน ได้ตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์เข้าข้างข้อตกลงนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยลงความเห็นว่าเหตุผลของรัฐบาลที่เห็นว่าการควบรวมจะทำให้ราคาผู้บริโภคสูงขึ้นนั้น ไม่มีน้ำหนักจูงใจ “ให้เชื่อเช่นนั้น” การตัดสินนี้ได้ยุติความพยายามมานาน 15 เดือนของกระทรวงยุติธรรมที่จะขัดขวางข้อตกลงนี้ นี่เป็นครั้งที่สองที่เอทีแอนด์ทีได้รับชัยชนะครั้งใหญ่เหนือกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะปูให้บริษัท รวมธุรกิจของ “วอร์เนอร์มีเดีย” ของเอทีแอนด์ที และ Xandr ซึ่งเป็นธุรกิจโฆษณาแห่งใหม่เข้าด้วยกันได้

    ข้อตกลงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับอุตสาหกรรมสื่อที่ได้ถูกบริษัทอย่างเน็ตฟลิกซ์และกูเกิลมาโค่นธุรกิจ ด้วยการทำคอนเทนต์ออนไลน์ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกบริการเคเบิล การควบรวมนี้ได้ประกาศตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 แต่ได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 หลังจากที่ริชาร์ด เลโอน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ตัดสินว่าเป็นไปตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาด

    Source: ข่าวหุ้น
    - How Netflix and Amazon helped save the AT&T-Time Warner deal:
    https://edition.cnn.com/2019/02/27/...6gbBzaeOYr1R3jp3U6f1wC0tLIcLfyYwl60v09htF5jK0
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    tps%3A%2F%2Fcdn.cnn.com%2Fcnnnext%2Fdam%2Fassets%2F190227021259-2702-china-luxury-02-super-tease.jpg
    (Feb 28) จีนรั้งแชมป์มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก: รายงานประจำปี พ.ศ. 2562 "หูรุ่น รีพอร์ต" ของจีน ระบุ จีนยังคงเป็นประเทศที่มีคนร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก และกรุงปักกิ่งยังครองแชมป์เมืองที่มีมหาเศรษฐีอยู่อาศัยมากที่สุดเช่นกัน
    สำนักข่าวเอพีประจำประเทศไทย รายงานเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ว่า ภาวะหุ้นตกในปี พ.ศ. 2561 ทำให้ความร่ำรวยของมหาเศรษฐีโลกหดหายไปรวมกันราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยชาวจีนกว่า 212 คนสูญเสียสถานะมหาเศรษฐี อันดับหล่นลงมาอยู่แค่เศรษฐีธรรมดา จากรายงานประจำปีของหูรุ่น

    รายงานแสดงให้เห็นว่า ณ วันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา จีนมีมหาเศรษฐีมากกว่าทุกประเทศในโลก 658 คน ตามด้วยสหรัฐ 584 คน และกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน มีหมาเศรษฐีอยู่อาศัยมากที่สุด 103 คน ตามด้วยนครนิวยอร์ก สหรัฐ 92 คน และอันดับ 3 เขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน 69 คน

    ขณะที่จีนและชาติอื่นๆในเอเชีย มีคนร่ำรวยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกยังคงเป็น นายเจฟฟ์ เบซอส ชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งบริษัทแอมะซอน ด้วยจำนวนสินทรัพย์สุทธิตามประเมิน 147,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,595,120 ล้านบาท) เบซอสครองแชมป์บุคลร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนอันดับ 2 คือนายบิล เกตส์ ชาวอเมริกัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ จำนวนสินทรัพย์สุทธิ 96,000 ล้านดอลลาร์ (3,000,890 ล้านบาท) และอันดับ 3 นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ชาวอเมริกัน มีสินทรัพย์สุทธิ 88,000 ล้านดอลลาร์ (2,750,820 ล้านบาท)

    เกตส์มีเงินเพิ่มขึ้นในบัญชี 6,000 ล้านดอลลาร์ (487,556 ล้านบาท) เฉพาะในปี 2561 ปีเดียว

    มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนคือ นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา จำนวนสินทรัพย์ 39,000 ล้านดอลลาร์ (1,219,110 ล้านบาท) แต่อันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 10 ของโลก ซึ่งเป็นชาวเอเชียคนเดียวที่รวยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกคือ นายมูเกช อัมบานี ชาวอินเดีย เจ้าของเครือข่ายธุรกิจรีไลแอนซ์ อินดัสตรีส์ มีสินทรัพย์สุทธิตามประเมิน 54,000 ล้านดอลลาร์ (1,688,000 ล้านบาท)

    Source: เดลินิวส์ออนไลน์
    - China lost 161 billionaires because its stock markets tanked:
    https://edition.cnn.com/2019/02/27/...-6UpaRXGiYK7X-f35n6DR1cWtnbVGxzp5rBYg1SlxLnfA
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    tps%3A%2F%2Fstatic-news.moneycontrol.com%2Fstatic-mcnews%2F2018%2F07%2FGoldman-Sachs-Inc-770x433.jpg

    (Feb 28) โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ Brexit แบบไร้ข้อตกลง เหลือเพียง 10% : โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์การเกิดกรณีที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง ลงเหลือ 10% จาก 15% ก่อนหน้านี้ โดยได้ร่วมกับธนาคารและผู้จัดการสินทรัพย์อื่นๆ ในการปรับลดความเป็นไปได้ที่จะเกิด Brexit แบบไร้ข้อตกลงในเดือนหน้า

    บรรดานักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มโอกาสเป็น 55% จาก 50% ที่จะมีการขยายการใช้มาตรา 50 ขณะที่ยังคงคาดการณ์ตามเดิมว่า มีโอกาส 35% ที่อังกฤษจะไม่ถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (no Brexit)

    นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ด้วยว่า โอกาสที่เป็นไปได้มากที่สุดของการผ่าทางตันในปัจจุบัน ขณะที่จะมีการลงสัตยาบันต่อข้อตกลงของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษในที่สุดนั้นได้แก่ การขยายมาตรา 50 ออกไปอีก 3 เดือน

    ทั้งนี้ นางเมย์มีเวลาอีกราว 2 สัปดาห์ หลังจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของอังกฤษได้เลื่อนการประท้วงที่มีเป้าหมายสกัดกั้นการเกิด Brexit แบบไร้ข้อตกลง หลังจากที่นางเมย์เห็นด้วยกับความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปจากกำหนดเส้นตายเดิมในวันที่ 29 มี.ค.

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช/รัตนา

    - Goldman Sachs cuts chances of no-deal Brexit to 10% : https://www.moneycontrol.com/news/b...4aLwHr-aTyLJh6qmIBquQMo56l6phemhfnDZz6fqoWEmA
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    safe_image.php?d=AQAm9OZbeO3idcLO&w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fs4.reutersmedia.jpg

    (Feb 28) เบร็กซิต-เงินปอนด์อ่อน เอื้อต่างชาติซื้อบ้านราคาถูก : ความไม่แน่นอนในการเจรจาว่าด้วยเรื่อง "เบร็กซิต" ระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรป (อียู) สร้างความปั่นป่วนในหลายธุรกิจให้ตัดสินใจย้ายออกจากอังกฤษ โดยเฉพาะธุรกิจการเงินและยานยนต์ ขณะที่เมื่อ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา "เทเรซา เมย์" นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งลอนดอน ยืนยันว่ามีโอกาสที่การเบร็กซิตจะยิ่งล่าช้า อย่างไรก็ตาม"รอยเตอร์สโพล" พบว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำให้ "ตลาดที่อยู่อาศัย"ของอังกฤษ ราคาดิ่งลง ประกอบกับที่เงินปอนด์อ่อนค่า ยิ่งเป็นอานิสงส์ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าไปซื้ออสังหาฯในอังกฤษมากขึ้น

    รอยเตอร์ส รายงานอ้างข้อมูลของ "รอยเตอร์สโพล" ที่ทำการสำรวจมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในวงการอสังหาริมทรัพย์ 25 ราย ระหว่างวันที่ 13-20 ก.พ.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาที่อยู่อาศัยในอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่มองว่า หาก สหราชอาณาจักร (ยูเค) ที่มีอังกฤษเป็นหัวขบวนนำทีม และสหภาพยุโรป (อียู) ล้มเหลวในการทำข้อตกลงร่วมกัน หรือส่งสัญญาณเลื่อนการเบร็กซิตออกไป เป็นไปได้ว่าในช่วง 6 เดือนแรกหลังจากวันที่ 29 มี.ค. ราคาบ้านและที่อยู่อาศัยในอังกฤษ ยกเว้น "ลอนดอน"จะลดลงราว 1-2% ส่วนในกรุงลอนดอน ในฐานะศูนย์กลางการเงินของโลก จะร่วงลงอย่างน้อย 3%

    นายโทนี่ วิลเลียมส์ จากบริษัท Building Value ผู้ให้บริการคำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ในรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า กรณี "เลวร้ายที่สุด" คือ เกิดการเบร็กซิต แบบ nodeal หรือไม่มีข้อตกลงร่วมกันทุกทาง อาจส่งผลทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในอังกฤษ โดยเฉพาะในลอนดอน ปรับลดลงมากถึง 10%

    ทั้งนี้ ราคาบ้านในอังกฤษลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการทำประชามติการแยกตัวออกจากอียู ในเดือน มิ.ย. 2016 ที่ผ่านมา โดย "Rightmove" ผู้ให้บริการข้อมูลอสังหาฯในอังกฤษระบุว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวลดลงอย่างชัดเจนช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 2017 ราคาที่อยู่อาศัยลดลงราว 0.5% ส่วนปี 2018 ราคาบ้านลดลงประมาณ 0.8% มาอยู่ที่เฉลี่ย 300,715-466,988 ปอนด์ ซึ่งราคาบ้านในกรุงลอนดอนเคยมีราคาสูงสุดเกือบ 700,000 ปอนด์ หลังจากผ่านพ้น ช่วงวิกฤตการณ์ในปี 2009

    "ปีเตอร์ ดิซอน" นักเศรษฐศาสตร์จาก Commerzbank ระบุว่า ความไม่แน่นอน ของเบร็กซิตที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และ การเบร็กซิตในระดับที่รุนแรง คือ nodeal จะมีโอกาสทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงอีกถึง 5-10% อย่างไรก็ตาม อานิสงส์ของเงินปอนด์อ่อนค่าจะทำให้ราคาบ้านและที่อยู่อาศัย หรืออสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

    ขณะที่ "โจนาธาน ซามูเอลส์" ซีอีโอ บริษัท Octane Capital ของอังกฤษ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯอังกฤษ มีสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติมากกว่า 40% โดยนักลงทุนจากอียู เป็นกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดในลอนดอน 19% อันดับ 2 เป็นนักลงทุนจากตะวันออกกลาง แต่ปีที่ผ่านมาสัดส่วนการซื้อลดลงเหลือ 8% จาก 15% ในปี 2017

    "ผลการเบร็กซิตไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด คาดว่าจะทำให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเป็นกำลังซื้อหลักตลาด ที่อยู่อาศัยในอังกฤษมากขึ้นในปีนี้ โดยคาดว่านักลงทุนจากเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีน และสิงคโปร์ จะมีบทบาทมากขึ้น" นายซามูเอลส์ กล่าวเพิ่มเติมอย่างไรก็ตาม การสำรวจของ รอยเตอร์สโพลประเมินว่า หากอังกฤษและอียูบรรลุข้อตกลงตามกำหนด ภายในเดือนมีนาคมนี้ มีความเป็นไปได้ ที่ตลาดที่อยู่อาศัยของอังกฤษ จะปรับเพิ่มขึ้นราว 1.5% และช่วง 6 เดือนแรกในกรุงลอนดอนจะเพิ่มขึ้น 0.5%

    ทว่าต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์เมื่อ 2 ปีก่อนหน้าว่า ราคาบ้านและตลาดที่อยู่อาศัย ในอังกฤษจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 1.8-2.3%

    นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคน อาทิ นักวิเคราะห์จาก Carter Jonas บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระบุว่า ไม่ใช่แค่ตลาดที่อยู่อาศัยในอังกฤษที่น่าสนใจต่อนักลงทุนต่างชาติ แต่ประเทศอื่นในสหราชอาณาจักร (ยูเค) ได้แก่ ไอร์แลนด์เหนือ สกอตแลนด์ และเวลส์ ก็มีแนวโน้มว่าราคาบ้านและที่อยู่อาศัยจะปรับลดลงเช่นเดียวกัน เช่น กรณี "สกอตแลนด์" ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเบร็กซิตมากที่สุด ในเดือน ธ.ค. 2018 ที่ผ่านมา ราคาอสังหาฯ ปรับลดแล้ว 2.39%

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    เพิ่มเติม
    - UK consumers show 'amazing' stoicism before Brexit: GfK :
    https://www.reuters.com/article/us-...src2uGHkt-s92oOz_EhqEWWpEMoFU2DE69pJ9RlsLTbdo
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    om%2Fimages%2F2019%2F03%2F01%2Fworld%2F01summit-placeholder%2F01summit-placeholder-facebookJumbo.jpg
    (Feb 28) ประชุมสุดยอดทรัมป์-คิม : เหตุใดการประชุมสุดยอดทรัมป์-คิม 2 จึงยุติโดยไร้ข้อตกลง : ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ แถลงต่อสื่อมวลชนหลังสิ้นสุดการเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์กับผู้นำเกาหลีเหนือ โดยชี้แจงสาเหตุที่การประชุมดังกล่าวถูกรวบรัดตัดตอนให้ยุติลงโดยปราศจากข้อตกลงร่วมระหว่างสองฝ่ายว่า ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะลงนามในข้อตกลงใด ๆ ในขณะนี้

    ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวขอบคุณต่อประชาชนชาวเวียดนามที่ช่วยให้การประชุมสุดยอดครั้งนี้เกิดขึ้น ทั้งยืนยันว่าความสัมพันธ์ที่สหรัฐฯมีกับเกาหลีเหนือยังคงแข็งแกร่ง แต่เขาได้ตัดสินใจว่าจะไม่ดำเนินการตามทางเลือกใดที่มีการเสนอมาในขณะนี้ แม้จะได้มีการเตรียมร่างข้อตกลงร่วมเอาไว้ให้สองผู้นำลงนามแล้วก็ตาม

    นายทรัมป์ระบุว่าเกาหลีเหนือต้องการให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด และพร้อมจะรื้อทำลายโรงงานนิวเคลียร์ที่เมืองยองบอน แต่จะยินยอมให้ดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในบางพื้นที่ของประเทศเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่พื้นที่สำคัญที่สหรัฐฯ ต้องการ จึงไม่อาจจะยอมรับข้อเสนอดังกล่าวได้ แม้ข้อเสนอนี้จะถือเป็นความคืบหน้าที่เข้าใกล้เป้าหมายสูงสุดมากขึ้นกว่าการประชุมครั้งก่อนก็ตาม

    "ผมคิดว่าเราจะไปถึงเป้าหมายนั้นในที่สุด แต่ตอนนี้เราจำต้องตัดสินใจเดินจากไป" นายทรัมป์กล่าวพร้อมเผยว่า สหรัฐฯไม่มีข้อตกลงผูกพันกับฝ่ายเกาหลีเหนือว่าจะต้องจัดการประชุมสุดยอดอีกเป็นครั้งที่สามหรือไม่

    เขายังย้ำว่าจะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดการครอบครองอาวุธและสถานที่ทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในอนาคตอย่างแน่นอน โดยขณะนี้สหรัฐฯ รู้ว่าเกาหลีเหนือยังมีโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแอบซ่อนไว้อีกสองแห่ง นอกจากที่เมืองยองบอน

    แต่อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์เผยว่าผู้นำเกาหลีเหนือได้ให้คำมั่นสัญญากับเขาระหว่างการพบปะในคืนก่อน ว่าจะไม่ทำการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์อีก ผู้นำสหรัฐฯ ยังแสดงท่าทีว่าไม่ต้องการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือให้มากไปกว่านี้ เพราะคำนึงถึงความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิตของประชาชนเกาหลีเหนือ "ทัศนคติของผมในเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง หลังจากที่ได้รู้จักกับนายคิมเป็นการส่วนตัวมากขึ้น"

    ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือที่กรุงฮานอยของเวียดนาม มีอันต้องสะดุดลงกลางคัน หลังมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการโดยฝ่ายประธานาธิบดีทรัมป์ยกเลิกการหารือระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน และรวบรัดการเจรจาให้สิ้นสุดลงในเวลาราว 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะเดินทางออกจากสถานที่ประชุม โดยไม่มีพิธีลงนามในข้อตกลงร่วมตามที่คาดหมายกันไว้

    แถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้นำทั้งสองมีการเจรจาที่สร้างสรรค์ โดยหารือกันในหลายแนวทางที่จะทำให้การปลดอาวุธนิวเคลียร์และการพัฒนาทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือมีความคืบหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใด ๆ ได้ในขณะนี้ แต่จะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อให้มีการพบเจรจากันอีกในอนาคต

    ก่อนหน้านี้บรรยากาศการเจรจาในช่วงเช้าเป็นไปด้วยดี โดยในระหว่างการประชุมโต๊ะกลมซึ่งเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ครู่หนึ่ง ผู้นำเกาหลีเหนือเผยว่าเขายินดีจะให้จัดตั้งสำนักงานเพื่อการติดต่อประสานงานระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือขึ้นในกรุงเปียงยาง อันเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศในระยะยาว เนื่องจากขณะนี้ทั้งสองประเทศยังไม่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน จึงไม่มีการจัดตั้งสถานทูตและการประสานงานต่าง ๆ ที่ผ่านมาต้องทำผ่านคณะทูตของประเทศตัวแทน

    นายคิม จอง อึน ยังได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจจริงที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง โดยได้ตอบคำถามจากสื่อมวลชนรายหนึ่งในเรื่องดังกล่าวว่า "หากผมไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น ก็คงไม่มาอยู่ตรงนี้" คำตอบของนายคิมทำให้ผู้นำสหรัฐฯกล่าวชื่นชมว่า "นั่นอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดเท่าที่คุณเคยได้ยินมา"

    Source: BBC Thai

    - Trump’s Talks With Kim Jong-un Collapse After North Korea Demands End to Sanctions : https://www.nytimes.com/2019/02/28/...rZ0QsaSjQb1PdStSSLQEKey74CCFnW2OqMkvqq1NHhkq8
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150

แชร์หน้านี้

Loading...