ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อินโดนีเซีย



    พลาสติกที่ปนเปื้อนอย่างไม่น่าเชื่อในแม่น้ำของประเทศอินโดนีเซีย


    แม่น้ำขยะแสดงขนาดของปัญหามลพิษพลาสติกในอินโดนีเซีย


    ภาพที่น่าตกใจของอินโดนีเซียแสดงให้เห็นกระแสน้ำที่เต็มไปด้วยขวดพลาสติกในขณะที่ชาวบ้านพยายามดิ้นรนเพื่อล้างสิ่งสกปรก


    ฉากที่น่าอัศจรรย์ ในเมืองมานาโดประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ขณะที่ทางน้ำพยายามที่จะเคลื่อนไหวผ่านคลอง


    ในที่สุดขวดทั้งหมดจะไหลไปสู่มหาสมุทรของประเทศ ทำให้เสี่ยงต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลของโลก


    ระดับมลภาวะร้ายแรงที่ทำให้พลาสติกมีผลกระทบ และการต่อสู้ที่ยากลำบากเพื่อลดการใช้


    ชาวท้องถิ่นที่ถ่ายทำฉากที่น่าเศร้า Cheer Zniqitha กล่าวว่า: "ทุกคนพยายามทำความสะอาดแม่น้ำ แต่มีขยะมากเกินไป"

    ...

    ...

    พวกเขากล่าวว่านี่เป็นตัวอย่างที่น่าสะพรึงกลัวที่โลกถูกคุกคามโดยขยะที่ผลิตโดยผู้อยู่อาศัย นี่เป็นปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเรา
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    ญี่ปุ่น



    แผ่นดินไหว ขนาด 5.5 ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่สนามบินชิโตเสะแห่งซัปโปโร CTS ที่โจมตีฮอกไกโดทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเวลา 03:00 JST ในวันพฤหัสบดี บ้าน 3 ล้านหลังไม่มีไฟฟ้า สนามบินยังเปิดให้บริการ แม้จะมีความเสียหายต่ออาคารผู้โดยสาร
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    บังคลาเทศ



    หลังจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในเมืองหลวงธากา เมื่อคืนตอนนี้ ผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นเป็น 80 คนและบาดเจ็บอีกหลายรายในบังคลาเทศ


    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 คนและอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้อย่างรุนแรงในอาคารอพาร์ตเมนต์ห้าชั้นในบังคลาเทศ


    ที่ชั้นล่างมีคลังสินค้าเก็บสารเคมี "ที่ไวไฟสูง" ไฟไหม้ที่รุนแรงเริ่มขึ้นตอนดึกในอาคารในพื้นที่ธากา แต่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปยังที่อื่น ๆ ที่มีประชากรหนาแน่นในย่านการค้าเก่าใน เมืองหลวงของบังคลาเทศ ที่เหลือ 55 คนบาดเจ็บ


    Deutsche Welle กล่าวว่าย่าน Mughal อายุ 400 ปีเต็มไปด้วยอาคารที่คั่นด้วยตรอก ซอกซอยแคบ ๆ โดยทั่วไปมีที่อยู่อาศัยตั้งอยู่เหนือร้านค้า ร้านอาหารหรือโกดังที่อยู่ชั้นล่าง Deutsche Welle กล่าว


    หัวหน้าหน่วยดับเพลิงกล่าวว่าไฟ Chawkbazar อาจเกิดขึ้นจากถังแก๊สก่อนที่จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ผ่านอาคารที่จัดเก็บสารเคมีที่ติดไฟได้ง่าย เปลวไฟไหลผ่านอาคารสี่หลังที่อยู่ติดกันซึ่งใช้เป็นร้านขายสารเคมีด้วย


    ในบังคลาเทศโศกนาฏกรรมเป็นเรื่องปกติ โดยไฟไหม้ น้ำท่วมการทรุดตัวของเรือข้ามฟาก และภัยพิบัติอื่น ๆ ที่อ้างว่ามีผู้คนนับสิบชีวิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีเหตุไฟไหม้ร้ายแรงที่ทำลายชุมชนสลัมในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    บราซิล



    หลังจากเกิดพายุรุนแรงเมื่อวานนี้มีผู้บาดเจ็บสองคนหลังจากที่ต้นไม้ล้มลงในภูมิภาค Morumbi ทางตอนใต้ของเมืองเซาเปาโล
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ บีบกองทัพเวเนฯ หลัง ปล้นบริษัทพลังงานไม่สำเร็จ

    ต่อเนื่องกับเรื่องราวในเวเนซุเอลา หลังจากที่สหรัฐฯ พยายามบีบให้ทางด้านประธานาธิบดีมาดูโร พ้นจากตำแหน่ง แต่ก็ไม่สำเร็จ แถมคณะผู้บริหารชุดใหม่ทั้ง 15 คน ของบริษัทซิตโก ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น ผู้ประกอบการด้านพลังงานที่มีสำนักงานอยู่ในรัฐเทกซัสของสหรัฐฯ และอยู่ในเครือของบริษัทเปโตรเลออส เดอ เวเนซุเอลา (PDVSA ) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของเวเนซุเอลา ที่แต่งตั้งจากฮวน ไกวโด กลายเป็นโมฆะ ความพยามที่จะให้บริษัทแห่งนี้ฝากเงินไว้กับธนาคารในสหรัฐฯ เท่านั้นก็ไม่สำเร็จ

    1024_k6ce9fjaaha6ke596aed5.jpg

    ถึงกระนั้นใช่ว่าสหรัฐฯ จะหยุดดำเนินการใด ๆ กับเวเนซุเอลา สหรัฐฯ ยังคงพยายามที่จะยึดประเทศแห่งนี้ต่อไป ผ่านตัวแทนที่ตนเองสนับสนุน นั่นก็คือ ฮวน ไกวโด แม้ว่าเวลานี้ กำลังตกที่นั่งลำบาก แต่สหรัฐฯ ไม่ได้สนใจ ล่าสุดทางด้านสหรัฐฯ ได้เดินหน้าบีบกองทัพให้ยอมรับคนที่สหรัฐฯ สนับสนุน โดยทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ลงพื้นที่ปราศรัยที่กับชุมชนผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาและคิวบา ที่ศูนย์ประชุมของมหาวิทยาลัยนานาชาติไมอามี โดยเขาบอกว่ากองทัพเวเนซุเอลาเหลือเพียง 2 ทางเลือกเท่านั้นในตอนนี้ คือการหันมาสนับสนุนนายฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้านและประธานสมัชชาแห่งชาติ ในฐานะผู้นำรักษาการของเวเนซุเอลา ที่จะตามด้วยการนิรโทษกรรมและการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อกองทัพ แต่หากยังคงเลือกข้างอยู่กับรัฐบาลของ ายนิโคลัส มาดูโร กองทัพเวเนซุเอลาจะสูญเสียทุกอย่าง

    640_7hbk8k6eiebb556kb6jgd.jpg

    แต่ดูเหมือนว่ากองทัพเวเนซุเอลา ไม่เอาด้วยกับสิ่งที่นายโดนัลทรัมป์ เรียกร้อง เพราะกระทรวงกลาโหมเวเนซุเอลาสั่งทหารเพิ่มการตรึงกำลังตามแนวพรมแดนทุกแห่ง โดยเฉพาะที่ติดกับโคลอมเเบีย และปิดพรมแดนที่ใกล้กับเกาะกือราเซา

    โดยทางด้าน พล.อ.วลาดิเมียร์ ปาดริโน โลเปซ รมว.กระทรวงกลาโหมของเวเนซุเอลา แถลง ย้ำจุดยืนของทุกเหล่าทัพในการสนับสนุนประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ในฐานะผู้นำซึ่งมีอำนาจชอบธรรมเพียงหนึ่งเดียว และได้กำชับให้ทหารทุกนายเตรียมความพร้อมตลอดเวลา เนื่องจากบ้านเมืองกำลังเผชิญกับความเสี่ยงสูงจากการรุกล้ำพรมแดนจากทุกทิศทางนอกจากนั้นเขายังได้สั่งเพิ่มกำลังทหาร และ สรรพาวุธต่าง ๆ ตลอดแนวพรมแดน ที่ติดกับโคลอมเบีย

    640_a876aiecj7f687hdgajak.jpg

    ล่าสุดทางด้านกองทัพเวเนซุเอลาประกาศปิดพรมแดนทั้งน่านฟ้าและน่านน้ำที่เชื่อมต่อกับเกาะกือราเซา ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งทางเหนือของประเทศเพียง 65 กิโลเมตรเท่านั้น เนื่องจากเกาะกือราเซาถือเป็นประเทศปกครองตนเองที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของเนเธอร์แลนด์ และเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะหันมาใช้เส้นทางนี้เพื่อเข้าสู่เวเนซุเอลาพฤติกรรมของสหรัฐฯเวลานี้ พยายามใช้ทุกวิธี ที่จะบีบให้คนของตนเองได้ขึ้นเป็นผู้นำประเทศเวเนซุเอลา เพื่ออนาคตสหรัฐฯจะสามารถเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ จากประเทศแห่งนี้ได้อย่างอิสระนั่นเอง

    http://www.nationtv.tv/main/content/378692062/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Feb 22) พาณิชย์ เผย ม.ค.62 ส่งออก ติดลบ 5.65% นำเข้าโต 13.99% ขาดดุลการค้า 4,032 ล้านเหรียญฯ : กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ม.ค.62 การส่งออก มีมูลค่า 18,993.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบ 5.65% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 23,026.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 13.99% ส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้า 4,032 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

    น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า การส่งออกของไทยในเดือนม.ค.62 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงกดดันจากภาวะการค้าโลกที่ชะลอตัว และอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ชะงักงัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากประเด็นข้อพิพาททางการค้าที่ยังคงยืดเยื้อทำให้เกิดการชะลอคำสั่งซื้อ รวมทั้งผลจากปัจจัยภายในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ทั้งนี้ การส่งออกเดือนม.ค.62 ยังคงติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน จากเดือนพ.ย. และ ธ.ค.61 เป็นผลมาจาก 5 ปัจจัยหลักที่สำคัญ คือ
    1.สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงยืดเยื้อ
    2.ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงจากระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ลงมาอยู่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล
    3.มูลค่าการส่งออกทองคำลดลง 36%
    4.การส่งออกรถยนต์ในเดือน ม.ค.ติดลบ
    5.ภาวะเงินบาทแข็งค่า ซึ่งกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตร และทำให้รายได้จากการส่งออกที่กลับมาในรูปเงินบาทลดลง

    "ปัจจัยที่เป็นปัจจัยผันผวนระยะสั้น คือ ราคาน้ำมัน, ทองคำ และรถยนต์ ซึ่งตรงนี้เราไม่กังวลมากเพราะเป็นปัจจัยชั่วคราวในระยะสั้นๆ ซึ่งต่างจากปัจจัยสงครามการค้า เชื่อว่าจะยังคงมีต่อเนื่องไปตลอดทั้งไตรมาสแรก" น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว

    สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการส่งออกซึ่งต้องติดตามต่อเนื่องไปอีก 1-2 ไตรมาส คือ การบังคับใช้ FTA ของเวียดนาม-สหภาพยุโรป และ FTA เวียดนาม-ญี่ปุ่น ตลอดจนกรณีที่สินค้าไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ซึ่งปัจจัยนี้คงไม่สามารถจะมองข้ามได้ เนื่องจากการตั้งราคาสินค้าต่างๆ หากอัตราภาษีต่างกันเพียงเล็กน้อย ก็จะมีผลต่อราคาสินค้าและความสามารถในการแข่งขันให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบได้

    นอกจากนี้ ประเทศไทยยังไม่ค่อยมีการส่งสินค้าที่เป็นกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีเก่า ดังนั้นจึงควรส่งเสริมให้มีการลงทุนและส่งออกสินค้าที่เป็นเทคโนโลยีใหม่เข้าสู่ตลาดให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ติดลบ 2.9% ลดลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยสินค้าเกษตรสำคัญที่ส่งออกลดลง คือ ยางพารา, น้ำตาลทราย, มันสำปะหลัง ส่วนข้าวลดลงเล็กน้อย ในขณะที่สินค้าเกษตรสำคัญหลายรายการยังขยายตัวได้ดี เช่น ผัก ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป, ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป, เครื่องดื่ม เป็นต้น

    "สินค้าข้าว, มัน, ยาง มีแนวโน้มการแข่งขันสูงขึ้น จากการนำเข้าที่เริ่มลดลง โดยเฉพาะยางพาราที่จีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้ายางรายใหญ่จากไทย จะเริ่มปลูกยางเอง ทำให้ demand ไม่โต เราอาจจะต้องหันมาจำกัดปริมาณการผลิตยางอย่างจริงจัง...แม้เงินบาทจะอยู่ในระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ แต่สินค้าเกษตรไทยยังไปได้ดี เพราะสินค้าเรามีคุณภาพ โดยเฉพาะข้าว, มัน, อาหารทะเล และผลไม้ ดังนั้นเราต้องรักษามาตรฐานในส่วนนี้ไว้" ผู้อำนวยการ สนค.กล่าว

    ส่วนการส่งออกไปยังตลาดสำคัญปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัว โดยการส่งออกไปตลาดหลักในภาพรวม ขยายตัว 1.7% ตลาดศักยภาพระดับรอง ติดลบ 8.1% เป็นผลจากการหดตัวของการส่งออกไปจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ขณะที่ตลาดศักยภาพรอง ติดลบ 5.2% เนื่องจากการส่งออกไปตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย ละตินอเมริกา แอฟริกา และกลุ่มประเทศ CIS ลดลง

    ผู้อำนวยการ สนค. กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกในปี 62 ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงใน 4 ปัจจัยหลัก คือ 1.การชะลอตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ 2.ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากอุปทานและสต็อกล้นตลาด กดดันรายได้และการส่งออกของกลุ่มประเทศเกิดใหม่รวมทั้งไทย 3.แนวโน้มเงินบาทแข็งค่าซึ่งเป็นตัวกดดันรายได้ของผู้ส่งออก 4.ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ยังกดดันบรรยากาศการค้าการลงทุนของโลก

    สำหรับเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ที่ 8% จะมีการทบทวนหรือไม่นั้น น.ส.พิมพ์ชนก ระบุว่า จะขอประเมินภาพรวมการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกก่อน แต่ยอมรับว่าการส่งออกในไตรมาสแรกปีนี้ตัวเลขอาจจะออกมาไม่ค่อยดีนัก คงต้องรอให้ปัจจัยที่มีความผันผวนและปัจจัยที่เข้ามากระทบชั่วคราวได้หมดไปก่อน จึงจะสามารถประเมินภาพรวมการส่งออกในปีนี้ใหม่อีกครั้ง

    "เป้าทั้งปีจะยังคงไว้ที่ 8% หรือไม่นั้น คงต้องขอดูตัวเลขไตรมาสแรกก่อน รอให้ปัจจัยที่ผันผวนหมดไปก่อน ตัวเลขอาจจะออกมาไม่ค่อยสวยงามนัก แต่เชื่อว่าจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 2...ปัจจัยที่คุมไม่ได้ และกระทบกับส่งออกมากกว่าบาทแข็ง คือเรื่องราคาน้ำมัน เพราะหากราคายังลงไปอีก ก็จะมีแนวโน้มกระทบต่อการส่งออกได้มากกว่า" ผู้อำนวยการ สนค.ระบุ

    ทั้งนี้ หากจะทำให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย 8% ที่กระทรวงพาณิชย์วางไว้นั้น มูลค่าการส่งออกในแต่ละเดือนจะต้องทำได้ไม่น้อยกว่า 23,000 ล้านดอลลาร์ แต่หากทำได้เดือนละ 22,374 ล้านดอลลาร์ การส่งออกจะเติบโตได้ 5% และหากทำได้เดือนละ 21,915 ล้านดอลลาร์ การส่งออกจะเติบโตได้ 3%

    น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวด้วยว่า จากภาวะเงินบาทที่แข็งค่า ผู้ส่งออกไทยควรใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบตลอดจนเครื่องจักร หรือการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ รวมทั้งต้องไม่ลืมทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ

    ในภาวะที่การส่งออกไทยเผชิญกับความเสี่ยงที่หลากหลายนั้น ทำให้ผู้ส่งออกไทยจำเป็นต้องปรับตัวให้เท่าทัน พิจารณากระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาตลาดหรือห่วงโซ่อุปทานเป็นหลักเพียงตลาดเดียว รวมถึงเตรียมกลยุทธ์ทางการค้าให้พร้อมอยู่เสมอ เช่น สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ พัฒนาช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น
    FB_IMG_1550842969584.jpg FB_IMG_1550842972457.jpg FB_IMG_1550842975159.jpg FB_IMG_1550842978158.jpg FB_IMG_1550842980902.jpg

    Source-อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/นิศารัตน์/ศศิธร

    เพิ่มเติม
    -Presentation http://tpso.moc.go.th/sites/default/files/ppt_export_mkraakhm_62_final_nonbu.pdf
    - เอกสารการแถลงข่าว http://tpso.moc.go.th/sites/default/files/press_release_aethlngsngk_mkraakhm_62_final.pdf
    - Press release http://tpso.moc.go.th/sites/default/files/press_release_eng_intertrade_jan2019_rev2.pdf
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    image_readtop_2019_109735_15508165803645969.jpg
    (Feb 22) เกาหลีใต้เผยหนี้สินภาคครัวเรือนแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2561 : ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยในวันนี้ว่า หนี้สินภาคครัวเรือนของเกาหลีใต้แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในปี 2561 แม้อัตราการขยายตัวอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากรัฐบาลพยายามที่จะควบคุมการลงทุนเพื่อเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม

    ข้อมูลของ BOK ระบุว่า หนี้สินภาคครัวเรือนแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1534.6 ล้านล้านวอน (1.36 ล้านล้านดอลลาร์) ณ สิ้นปี 2561 เพิ่มขึ้น 83.8 ล้านล้านวอน (7.45 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือ 5.8% จากปี 2560

    อย่างไรก็ตาม หนี้สินภาคครัวเรือนขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากรัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อควบคุมการกู้เงินเพื่อการลงทุนเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หนี้สินภาคครัวเรือนหมายถึงหนี้สินของครัวเรือนที่เกิดจากการกู้ยืมเงินจากธนาคาร สถาบันนอกภาคธนาคาร และสถาบันการเงินอื่นๆ รวมถึงการซื้อด้วยบัตรเครดิต

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช/รัตนา
    - Korea’s household debt hits fresh high of $1.36 tn, pace slows : https://pulsenews.co.kr/view.php?year=2019&no=109735
    -
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    105665540-1546950926399rtx6kcmt.530x298.jpg
    (Feb 22) แก้พิพาท 6 ประเด็น หวังจบศึกค้า'สหรัฐ-จีน' - สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน 2 ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักเป็นวงกว้าง หลังจากทั้งสองชาติได้ตั้งกำแพงภาษี นำเข้ากระทบสินค้าเป็นวงเงินหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐตอบโต้กัน ทั้งยัง ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก สร้างความปั่นป่วนให้ซัพพลายเชนและฉุดภาคการผลิตทั่วโลก

    ล่าสุด รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า คณะเจรจาของสหรัฐและจีน ได้เริ่มร่างข้อตกลงเพื่อคลายข้อพิพาทวานนี้ นับว่าเป็นความคืบหน้าครั้งใหญ่ที่จะนำไปสู่การสงบศึกสงครามการค้า ที่ยืดเยื้อมานาน 7 เดือน โดยกำลังร่างบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) 6 ฉบับ เพื่อคลายข้อพิพาท 6 ประเด็น ที่กระทบความสัมพันธ์ทางการค้า ได้แก่
    1. การบีบบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี และการจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์
    2. การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
    3. การบริการ
    4. ค่าเงินหยวน
    5. สินค้าเกษตร
    6. อุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี

    ครอบคลุมประเด็นหลัก
    ทั้งนี้ สหรัฐกล่าวหาว่าจีนบีบ บังคับให้เอกชนสหรัฐที่ทำธุรกิจในจีนต้องถ่ายโอนเทคโนโลยีและความลับด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้พันธมิตร ท้องถิ่น แต่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหามา ตลอด

    รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้พยายามกดดันให้จีนลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรม กฎระเบียบ กระบวนการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ กระบวนการตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และแนวทางการปฏิบัติต่างๆ ที่สหรัฐอ้างว่าจีนกีดกันสินค้าจากสหรัฐ หรือเพิ่มความได้เปรียบให้บริษัทท้องถิ่น

    สตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ พยายามผลักดันให้จีนเปิดตลาดในภาคการบริการทางการเงินให้บริษัทต่างชาติ รวมถึงวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ผู้ให้บริการบัตรเครดิตของสหรัฐ ซึ่งรอเข้าตลาดจีนมานานหลายปีแล้ว นอกจากนี้มนูชินยังเคยเตือนจีนเรื่องการอ่อนค่าเงินหยวนเพื่อเอื้อการส่งออก หลังค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าอย่างหนัก เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว

    รอยเตอร์สระบุว่า คณะเจรจาทั้งสองชาติยังได้ร่างรายชื่อสินค้า 10 ประเภทที่จีนจะเพิ่มการนำเข้า เพื่อช่วยลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐ รวมถึง สินค้าเกษตร พลังงาน และเซมิคอนดักเตอร์

    อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า สหรัฐและจีนยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับเปลี่ยนทางโครงสร้างของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ในการเจรจาและการเจรจาอาจจบด้วยความล้มเหลว ขณะที่ทั้งสองชาติยังอยู่ระหว่างการหารือเรื่องกลไกสำหรับการปฏิบัติตามข้อตกลง ซึ่งอาจมีเงื่อนไข ตั้งกำแพงภาษีอีกครั้ง ถ้าปักกิ่งละเมิดข้อตกลง โดยทั้งสองชาติต้องเจรจาเพื่อได้ข้อตกลงก่อนเส้นตายวันที่ 1 มี.ค. ที่สหรัฐจะปรับขึ้นอัตรากำแพงภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ จาก 10% เป็น 25%

    ขณะเดียวกัน รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า การบรรลุข้อตกลง การค้าจะลดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) เพื่อเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่คาดว่าจะมีการปรับลดสัดส่วนกันสำรองภายในไม่กี่ไตรมาสข้างหน้านี้ หลังปรับลด 5 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว

    ชาติเอเชียอ่วมหนัก

    สงครามการค้าที่ฉุดเศรษฐกิจจีนยังส่งผลกระทบต่อหลายชาติเอเชีย โดยล่าสุดดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ของญี่ปุ่นในเดือน ก.พ. อยู่ที่ 48.5 ลดลงมาจาก 50.3 ในเดือน ม.ค. หลุดระดับ 50 หรือเข้าขั้นถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2016

    โจ เฮย์ส นักเศรษฐศาสตร์ของ ไอเอชเอส มาร์กิต กล่าวว่า แม้ว่ามีการคาดการณ์ในไตรมาส 4 ปีที่แล้วว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่มีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจยังไม่ฟื้นตามคาด พร้อมระบุว่ามีโอกาสสูงขึ้นที่ญี่ปุ่นอาจเข้าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้

    ขณะที่นิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า การส่งออกสินค้าไปจีนของหลายชาติในเอเชียยังลดลงด้วย โดยการ ส่งออกไปจีนของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค. ลดลง 17.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นับเป็นการหดตัว 2 เดือนติดต่อกัน เพิ่มเติมจากการหดตัว 7% ในเดือน ธ.ค. เนื่องจากการส่งออกผลิตภัณฑ์หลายประเภทลดลง โดยเฉพาะอุปกรณ์ผลิตชิปที่ลดลงราว 25% และอุปกรณ์อื่นๆ เช่น แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ลดลงราว 39%

    ด้านการส่งออกของเกาหลีใต้ ไปจีนในเดือน ม.ค. ลดลง 19% ซึ่ง คาดว่าสาเหตุหลักคือการส่งออก เซมิคอนดักเตอร์ที่คิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของการส่งออกไปจีน เช่นเดียวกับการส่งออกของสิงคโปร์ไปจีนที่ ลดลง 25% เนื่องจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และแผงวงจรไฟฟ้าลดลง ขณะที่การส่งออกของประเทศไทยไปยังจีนใน เดือน ธ.ค. ลดลง 7.3%

    โดย ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

    Source: Posttoday
    https://www.cnbc.com/2019/02/21/us-china-outline-of-deal-to-end-trade-war-reuters.html
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่าฯ ลำปาง ประกาศเขตภัยพิบัติ เร่งช่วยเหลือปชช. หลังเกิดแผ่นดินไหว 32 ครั้ง วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 - 20:46 น.
    11d-1-6.jpg
    เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวจังหวัดลำปาง อบต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลำปาง สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง หน.ปภ.ลำปาง สาขาวังเหนือ นายไพรัช พรหมไผ่ ปลัดอาวุโส อ.วังเหนือ นายนิยต์ แม่ก๋วม นายก อบต.ทุ่งฮั้ว นายชัยธวัช ศิวบวร หน.ปภ.ลำปางและผู้แทนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพ.ต.อ.อภิรักษ์ นักไร่ ผกก.สภ.วังเหนือ เพื่อหารือกำหนดแนวทางในการทำงานตรวจสอบอาคารบ้านเรือชาวบ้านและอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ขนาด 4.9 ลึก 10 กิโลเมตร และเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้ง

    นายทรงพล กล่าวว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ ต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เบื้องต้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายกับวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานโยธาธารและผังเมืองจังหวัดลำปาง เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของโรงสร้างบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ และเก็บรวบรวมข้อมูลซึ่งจะแบ่งงออกเป็นพื้นที่สีแดง ห้ามเข้าใช้อาคาร พื้นที่สีเหลือง สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ แต่ต้องระมัดระวัง และพื้นที่สีเขียว ประชาชนเจ้าของบ้านสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ โดยที่บ้านไม่เสียหายมากนัก

    นายทรงพล กล่าวอีกว่า เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในพื้นที่ จ.ลำปาง ที่บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายและมีผลกระทบตามมา การศึกษาระเบีบกฎเกณฑ์การช่วยเหลือจึงล่าช้าไปบ้าง ซึ่งมีระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติธรรมชาติ ที่ให้อำนาจ อปท.สามารถเบิกงบประมาณมาดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้เบื้องต้น หากไม่เพียงพอก็สามารถของบประมาณเพิ่มเติมมาที่ จ.ลำปางได้

    สำหรับความเสียหายเบื้องต้นจากแผ่นดินไหวใน ต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ระหว่างวันที่ 20-22 ก.พ. พบว่ามีความเสียหายจำนวน 7 ตำบล 14 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.ทุ่งฮั้ว ร่องเคาะ วังแก้ว วังซ้าย วังทอง วังเหนือ และ ต.วังใต้ โดยมีบ้านเรือนเสียหายรวม 72 ครัวเรือน สถานที่ราชการ 4 แห่ง และวัด 2 แห่ง

    ในวันที่ 22 ก.พ. สำนักตรวจวัดและเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ ต.ทุ่งฮั้ว จำนวน 5 ครั้ง คือ เวลา 02.02 น. ขนาด 1.9 ลึก 5 กม., เวลา 02.50 น. ขนาด 1.5 ลึก 10 กม., เวลา 03.25 น.ขนาด 2.3 ลึก 10 กม., เวลา 04.24 น.ขนาด 1.7 ลึก 10 กม. และล่าสุดเมื่อเวลา 10.07 น. ขนาด 1.9 ลึก 2 กม. สรุปแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ ต.ทุ่งฮั้ว ตั้งแต่วันที่ 20-22 ก.พ. รวม 32 ครั้ง

    ด้านนายสุวิทย์ โควสุวรรณ นักธรณีวิทยาชำนาญการพิเศษ กรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า แผ่นดินไหวใน อ.วัง เหนือ จ.ลำปาง เกิดจากการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก จึงส่งผลกับรอยเลื่อนพะเยาเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง การศึกษารอยเลื่อนนี้พบว่าแผ่นดินไหวที่ อ.วังเหนือ น่าจะยุติแล้ว เพราะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นที่ประเทศลาว เมื่อเวลา 11.50 น. ขนาด 3.9 ลึก 10 กม. ดังนั้นรอยเลื่อนพะเยา จะไม่ปลดปล่อยพลังออกมาอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้าสำรวจบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.9 ในพื้นที่อ.วังเหนือ เพื่อจัดลำดับกลุ่มอาคารบ้านเรือนที่เสียหายในการเข้าช่วยเหลือ

    ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทรงพล สวสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ประกาศพื้นที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติธรรมชาติ (แผ่นดินไหว) เพื่อพิจารณาประกาศให้เป็นเขตการให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยพิบัติต่อไป ซึ่งทางจังหวัดและอปท.จะได้นำงบประมาณฉุกเฉินของทางราชการ เพื่อนำมาช่วยเหลือ และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป

    IMG_7816-150x150.jpg IMG_7827-150x150.jpg IMG_7830-150x150.jpg

    https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2239760
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2019
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่าฯ ลำปาง นำจนท.-วิศวกร ช่วยเหลือ บ้านเรือนเสียหาย จากแผ่นดินไหว วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 - 23:40 น.

    บ้านเรือนเสียหาย – วันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางกฤษดาพร นุชสวัสดิ์ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 33 บ้านทุ่งฮั้วพัฒนา ม.11 ต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งบ้านอาศัยเสียหายหนักที่สุด ในเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวที่ อ.วังเหนือในครั้งนี้ โดยลักษณะเป็นบ้านปูนก่ออิฐเสาคอนกรีตสูง 2 ชั้น ผนังบ้านร้าวทั้งหลังมีรอยแตกยาวรอบตัวบ้าน และบ้านทรุด บนเนื้อที่ กว่า 50 ตร.วา เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกเวลา 12.01 น. ขนาด 2.1 แมกนิจูด ลึก 1 กม. ในพื้นที่ อ.วังเหนือ มีศูนย์กลางที่ ต.ทุ่งฮั้ว ก็พยายามติดตามข่าวตลอด เห็นว่าไม่รุนแรงอะไร และประกาศว่าอย่าได้ตื่นตระหนก

    ต่อมาในช่วงเวลา 16.05 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 4.9 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ขณะนั้นตน และน้องสาวกำลังทำกับข้าวอยู่ที่ห้องครัวหลังบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนหม้อไฟระเบิด กระจกกรอบรูปในบ้านตกลงมาแตกบนพื้น ตัวบ้านสั่นสะเทือนอย่างแรงเหมือนจะพัง จึงหลบอยู่ในห้องครัว จากนั้นได้ออกสำรวจทั้งใน และรอบตัวบ้าน พบว่ามีรอยร้าวไปทั่ว ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ซึ่งตกใจมาก

    หลังจากเหตุการณ์สงบจึงได้ออกมาเก็บกวาดเศษกระจกที่แตกบนพื้นในบ้าน และฝังบ้านมีรอยร้าวและบางที่อิฐหักออกจากกัน ปูนฉาบก็แตก รวมทั้งบล๊อกแก้วกระจกก็แตกเสียหาย หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พบว่าบ้านเสียหายมาก กลัวจะไม่ปลอดภัย ไม่ให้ขึ้นไปนอนบนบ้าน จึงต้องพากันมานอนที่ห้องครัวแทน เพราะกลัวบ้านจะถล่ม จึงต้องพาพ่อแม่น้องสาวและครอบครัวออกมานอนนอกบ้านอีก 1 คืน เป็นคืนที่ 2 ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้

    นางกฤษดาพร กล่าวอีกว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าคงใช้งบประมาณซ่อมแซมจำนวนมาก เนื่องจากบ้านเสียหายทั้งหลัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาสำรวจตรวจสอบอีกที เพื่อจะของบประมาณมาดำเนินการซ่อมแซมบ้านให้ ซึ่งรู้สึกดีใจที่ทางราชการให้การช่วยเหลือ ตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้รับผลกระทบมากที่สุดและเสียหายหนักที่สุดในหมู่บ้าน

    นายทรงพล สวาสดิ์ธรรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ได้เดินทางลงพื้นที่ ต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ ที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ตั้งแต่วันที่ 20-21 ก.พ.มาเยี่ยมเยียนชาวบ้านและให้กำลังใจผู้ประสบภัย พร้อมร่วมสำรวจพื้นที่เสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ สำหรับบ้านหลังดังกล่าวที่เสียหายหนักกว่าหลังอื่น โดยจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง วิศวกร จากสำนักงานโยธาธิการจังหวัดลำปาง มาตรวจสอบเบื้องต้นว่า โครงสร้างภายในบ้านเป็นอย่างไร สามารถใช้การได้หรือซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้หรือไม่ ซึ่งทาง จ.ลำปางก็จะช่วยเต็มที่ ขอให้ประชาชนผู้ประสบภัยสบายใจได้ ซึ่งคงต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เนื่องจากบ้านเสียหายทั้งหลังและพื้นบ้านก็ทรุดด้วย

    นายทรงพล กล่าวอีกว่า ทาง อบต.ทุ่งฮั้ว สามารถเบิกงบฉุกเฉิกมาช่วยเหลือชาวบ้านได้ในอำนาจ กว่า 6 แสนบาท หากไม่พอก็สามารถขอเพิ่มงบประมาณกับทาง จ.ลำปาง ได้ครั้งละ 2 แสนบาท เพื่อมาช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว แต่เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่เหมือนเกิดพายุลมกระโชกแรงที่หลังคากระเบื้องเสียหาย แล้วนำกระเบื้องมาแจก แต่การเกิดแผ่นดินไหวทำให้บ้านทรุด ฝาผนังแตกร้าวย่อมกระทบโครงสร้างต่างๆ ด้วย จึงต้องใช้เวลา แต่จะพยายามสั่งการเร่งรัดซ่อมแซมปรับปรุงบ้านที่ได้รับผลกระทบให้โดยเร็วที่สุด หากประชาชนผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ณ อบต.ทุ่งฮั้ว ได้ตลอดเวลา

    นายกิตติ เหลืองจิระโณทัย หน.กลุ่มงานวิชาการ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.ลำปาง กล่าวว่า สำนักงานโยธาธิการฯ และสำนักทรัพยากรธรณี ได้ส่ง เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบบ้านเรือนชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย ทั้งอาคาร บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ที่อยู่อาศัยต่างๆ เพื่อทำการประเมินความรุนแรงของเหตุการณ์ จัดทำแผนที่ (Earthquake Inntensity Map) ประเมินความเสียหาย รวบรวมข้อมูลเสนอต่อนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวดลำปาง และแนะนำแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบโดยด่วนแล้ว

    อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

    IMG_7747-150x150.jpg IMG_7748-150x150.jpg IMG_7750-1-150x150.jpg IMG_7750-150x150.jpg IMG_7752-150x150.jpg IMG_7756-150x150.jpg IMG_7757_fB8T3bk-150x150.jpg IMG_7761-150x150.jpg IMG_7778-150x150.jpg

    https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_2236511
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Feb 22) ลดค่าเงินหยวน เงื่อนไขต้องห้ามจีน
    ในบรรดาการคาดการณ์ทำนาย ทายทักเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2018 และค้างคาต่อเนื่องมาจนถึงปี 2019 นี้ สถานการณ์หนึ่งที่บรรดานักลงทุนและนักกลยุทธ์ค่าเงินคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นก็คือ "ค่าเงินหยวนของจีน" จะอ่อนค่าลงไปแตะระดับ 7 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากผลพวงของสงครามการค้ากับสหรัฐ ซึ่งจะบั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนให้ชะลอตัวลงต่ำสุด ในรอบหลายสิบปี

    อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวยังดูห่างไกลจากความเป็นจริง อย่างน้อยก็ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ หรือไตรมาสแรกนี้ และยิ่งเมื่อมีปัจจัย "ตัวแปรใหม่" เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็อาจเป็นไปได้ว่าปี 2019 อาจเป็นอีกปีที่ค่าเงินของจีนไม่หลุด 7 หยวน ตามที่ชาติส่งออกในเอเชียกำลังลุ้นกันอยู่ เพราะทิศทางค่าเงินในแถบนี้มักเคลื่อนไหวไปตามจีนกันเป็นส่วนใหญ่ หากหยวนอ่อนเมื่อเทียบดอลลาร์ ก็มีแนวโน้มที่จะช่วยดึงให้ค่าเงินในแถบนี้อ่อนตามลงด้วย

    ที่จริงแล้วเงินหยวนของจีนเคยลงมาเฉียดใกล้ระดับ 7 หยวนมากที่สุดก็ในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว โดยลงไปแตะระดับ 6.9748 หยวน/ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2018 หรือเป็นระดับที่อ่อนค่าลงมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจเมื่อทศวรรษก่อน โดยตลอดทั้งปี (ในขณะนั้น) คิดเป็นการอ่อนค่าลงไปมากกว่า 7%

    ทว่า ในช่วงปลายปีเดียวกันหลังจากนั้นสถานการณ์กลับเริ่มเปลี่ยนไป และทำให้ในช่วงเพียงแค่ไม่ถึง 2 เดือนของปี 2019 ค่าเงินหยวนปรับตัวแข็งค่าขึ้นไปแล้ว 2.24%

    ล่าสุดค่าเงินหยวนออฟชอร์กลับมาแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนไปเมื่อวานนี้ อยู่ที่ 6.6874 หยวน/ดอลลาร์ ภายหลังมีรายงาน

    ข่าวว่า "สหรัฐ" ได้ตั้งประเด็นเรื่อง "ค่าเงินหยวน" เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนด้วย

    รายงานของบลูมเบิร์กซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา ระบุว่า ฝ่ายสหรัฐต้องการตั้งเงื่อนไข ไม่ให้รัฐบาลปักกิ่งเข้าแทรกแซงกดค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าลง เพื่อช่วยเอื้อประโยชน์ต่อภาคการส่งออกของตนเอง

    แม้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จีนจะรอดพ้นมาทุกครั้งจากการถูกขึ้นบัญชีดำประเทศปั่นค่าเงิน ในรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐที่ออกมาปีละ 2 ครั้ง โดยขึ้นบัญชีอยู่เพียงแค่ระดับ สีส้มของประเทศที่ต้องจับตามอง แต่ประเด็นค่าเงินหยวนของจีนนั้นก็ยังคงเป็น "เรื่องพื้นฐาน" ที่รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มักหยิบยกขึ้นมาโจมตีและกล่าวหาเสมอเมื่อมีปัญหากับจีน

    ยิ่งสหรัฐมีปัญหาพิพาททางการค้ากับจีน จนทำให้เศรษฐกิจแดนมังกร สั่นสะเทือนหนักทั้งภาคการผลิต ส่งออก ยันการบริโภคภายใน อีกทั้งยังผีซ้ำด้ำพลอยไปกับค่าเงินหยวนที่ แข็งค่าขึ้นมาต่อเนื่อง เพราะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอ

    ขึ้นดอกเบี้ย ทำให้สหรัฐยิ่งเกรงว่าไม่ช้าก็เร็ว จีนจะต้องกลับไปใช้วิธีเข้าแทรกแซงลดค่าเงินหยวนลงมา เพื่อช่วยพยุงภาคธุรกิจและการส่งออกที่ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ

    การตั้งเงื่อนไขเรื่องค่าเงินของสหรัฐนั้น ไม่ใช่เพิ่งจะทำกับจีนเป็นเจ้าแรก เพราะก่อนหน้านี้เมื่อช่วงประมาณเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว สหรัฐเคยให้ข่าวว่าต้องการตั้งเงื่อนไขห้ามแทรกแซงลดค่าเงินเพื่อหนุนการส่งออกกับ "ญี่ปุ่น" ระหว่างการเจรจาการค้าทวิภาคีรอบใหม่เช่นกัน เพียงแต่ในครั้งนั้น ท้ายที่สุดแล้วไม่ปรากฏมีการตั้งเงื่อนไขนี้ในข้อตกลงด้วย

    รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวในทิศทางเดียวกันว่า "ค่าเงิน" เป็น 1 ใน 6 ประเด็นหลัก ที่สหรัฐตั้งเงื่อนไขในการเจรจาการค้ากับจีน ที่กรุงวอชิงตันในขณะนี้ โดยมีการร่างบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู 6 ฉบับ เพื่อคลายข้อพิพาท 6 ประเด็น ที่กระทบความสัมพันธ์ทางการค้า ได้แก่ 1.การบีบบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยีและการจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ 2.การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา 3.การบริการ 4.ค่าเงินหยวน 5.สินค้าเกษตร และ 6.อุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี

    ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บรรดาเจ้าหน้าที่ฝั่งสหรัฐซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีคลัง สตีเฟน มนูชิน ต่างออกมาเตือนจีนไม่ให้ลดค่าเงินหยวนเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า โดยได้เรียกร้องขอ "ค่าเงินหยวนที่มีเสถียรภาพ" ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝั่งจีนเองก็พยายามตอบรับเพื่อคลายความกังวลมาตั้งแต่เดือน ต.ค.แล้วว่า จีนไม่มีความคิดที่จะใช้วิธีดังกล่าว

    ล่าสุดจีนยังได้ย้ำเรื่องนี้อีกครั้งผ่านการให้ข่าวกับรอยเตอร์สในรูปแบบแหล่งข่าวธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ว่า จีนยังไม่มีความคิดที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย แม้ว่าตอนนี้ค่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น และอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงมาก็ตาม โดยการลดดอกเบี้ยจะเป็นทางออกสุดท้ายของจีนเท่านั้นจริงๆ

    แต่ไม่ว่าที่สุดแล้ว ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจะมีเงื่อนไขเรื่องค่าเงินรวมอยู่จริงหรือไม่ แต่แรงกดดันอย่างหนักของสหรัฐในเวลานี้ ที่มีไพ่เหนือกว่ากับการขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีนจาก 10% เป็น 25% และยังรวมถึงเคสลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ที่กำลังรอขึ้นศาลแคนาดา ก็ล้วนมีผลกดดันให้จีนไม่อาจทำอะไรกระโตกกระตากเรียกแขกในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน ผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่นก็ออกมาแบ่งรับแบ่งสู้กับข้อเรียกร้องให้แทรกแซงค่าเงินเช่นกัน หลังค่าเงินเยนแข็งค่าหนักเพราะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่หลายฝ่ายกำลังลี้ภัยความเสี่ยงต่างๆ ด้วย

    การแทรกแซงค่าเงินเพื่อพยุง ส่งออก จึงเป็นเงื่อนไขต้องห้ามที่จีนหรือใครๆ ไม่อาจพูดได้เต็มปากเต็มคำในเวลานี้ และหากปรากฏในข้อตกลงการค้ากับสหรัฐจริง ก็อาจยิ่งเป็นมิติใหม่ที่เสี่ยงจะเป็นบรรทัดฐานให้ชาติรายอื่นๆ ต่อไป ในช่วงอีก 2 ปีที่ยังเหลือหลังจากนี้ของรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์

    โดย นันทิยา วรเพชรายุทธ

    Source: Posttoday

    - Exclusive: China central bank sees benchmark rate cut as last resort, may use other tools – sources : https://www.reuters.com/article/us-...ort-may-use-other-tools-sources-idUSKCN1QA0FV
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ด่วน !! เวเนปะทะเดือด ตายแล้ว 1 เจ็บ 12 ทหารยิงพลเรือนเปิดทางเพื่อให้การช่วยเหลือสามารถเข้าถึงได้ !!!!!!!!
    --#วลาดิเมียร์ปูติน

    https://www.washingtonpost.com/news...umanitarian-aid-delivery-at-brazilian-border/

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Tati Gelo

    เสียงสะท้อน Schumann (Schumann Resonance ) ที่มีระดับสูงสุด 102 Hz (ปกติ 7.83 Hz)

    IMG_9789.JPG IMG_9790.JPG

    Proença Renata Fernandes

    Ressonância Schumann com pico de 102 Hz

    Proença Renata Fernandes


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวจังหวัดลำปาง ครั้งที่ 33 ขนาด 1.3
    C8604D53-6734-4836-9CB1-093E53ED117F.jpeg
    ภูมิภาค อ.วังเหนือ จ.ลำปาง Amphoe WangNuea, Lampang

    เวลา 2019-02-22 15:02:18 ตามเวลามาตรฐาน UTC

    2019-02-22 22:02:18 ตามเวลาประเทศไทย พ.ศ. 2562

    Phase Count 7

    จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว 19.25°N , 99.61°E


    http://www.earthquake.tmd.go.th/inside-info.html?earthquake=5590
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_9793.JPG
    (Feb 22)

    เครดิตสหรัฐฯที่ขอบเหว

    โดนัลด์ ทรัมป์กับพวก ยังคงเดินหน้าไม่ยี่หระกับสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเลือกที่จะหลอกคนอเมริกันที่เอียงขวาจนหน้ามืดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในยุคของเขาเติบโตดีที่สุดในรอบทศวรรษ แต่นั่นก็ไม่อาจหลอกได้นาน เพราะแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตเร็วกว่าที่เคยเป็นจริง แต่ตัวเลขขาดดุลงบประมาณก็เพิ่มขึ้นอีก 17% เป็น 779,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 ก็ส่งสัญญาณเลวร้ายมาให้เห็น



    ล่าสุดสัปดาห์นี้ ตัวเลขหนี้สินของสหรัฐอเมริกาภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ 22 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้าตัวเลขจีดีพีที่คาดว่าจะต่ำกว่า 20 ล้านล้านดอลลาร์เรียบร้อยในขณะที่พรรครีพับลิกันซึ่งมักจะประท้วงเรื่องปัญหาหนี้สินและตัวเลขขาดดุลงบประมาณกลับยังทำเป็นนิ่งเฉย



    ตอนที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งใหม่ ๆ หนี้สินซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ยืมมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณเรื้อรังและดอกเบี้ยที่พอกพูนขึ้นอยู่ที่ราว ๆ 19.95 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สหรัฐฯ มีหนี้สาธารณะเทียบเท่ากับจีดีพี



    ระดับหนี้สาธารณะที่สูงเกิน 100% ของจีดีพี ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นห่วงโซ่ เฟดตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ “ระหว่างเขาควาย” เพราะด้านหนึ่งถูก “ขึงพืด” จำกัดขีดความสามารถในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพราะจะทำให้ต้นทุนการเงินและภาระหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก แต่อีกด้านหนึ่งก็จำต้องสู้กับเงินเฟ้อที่ตั้งเค้ามาจากผลพวงของสงครามการค้าโดยเฉพาะกับจีน ในขณะที่ทุนสำรองเงินตราต่ำมาก ๆ ต่ำกว่าไทยด้วยซ้ำ



    ตัวเลขดังกล่าว ทำให้คนเริ่มคิดถึงคำเตือนเมื่อปลายเดือนมกราคมของนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานเฟดที่บอกสั้น ๆ ว่า “ถ้าดิฉันมีไม้กายสิทธิ์ ก็จะทำการขึ้นภาษี และลดการใช้จ่ายของรัฐบาลในส่วนที่เกี่ยวกับเงินบำเหน็จบำนาญ”



    ปัญหาหนี้รัฐบาลที่สะท้อนการคลังย่ำแย่ โยงกับตัวเลขขาดดุลงบประมาณอย่างแยกไม่ออก



    ตัวเลขล่าสุดของปีงบประมาณระบุว่า สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณ 7.79 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 17% จากปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% ก่อนหน้านี้ ขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มจากปีก่อน 3.0 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้รายจ่ายพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี แต่รายได้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งผิดคาดมาก จากเดิมที่เชื่อกันว่าการลดภาษี จะย้อนกลับมาทำให้รายได้ภาษีเพิ่มขึ้นตามหลักเศรษฐศาสตร์ที่เน้น “ใช้อุปทานสร้างอุปสงค์” ที่เคยใช้ได้ผลในยุคโรนัลด์ เรแกน เมื่อกว่า 30 ปีก่อน



    นางเยลเลน เตือนว่า ปัญหาหนี้ของรัฐบาลจะมีความรุนแรงและจะระบาดหนักในช่วงที่คนเกิดยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงวัยเกษียณพอดี ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีรายจ่ายเกี่ยวกับเงินบำเหน็จบำนาญและค่ารักษาพยาบาลมากมาย



    ก่อนหน้านี้ นางเยลเลน ได้เคยออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากความหละหลวมของมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อในตลาด ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขหนี้สินภาคเอกชนในปัจจุบันของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์



    นางเยลเลน ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนลเชียล ไทมส์ ของอังกฤษว่า “รู้สึกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในเชิงระบบที่เป็นผลมาจากเงินกู้เหล่านั้น เพราะมาตรฐานการปล่อยเงินกู้หละหลวมลงไปมาก ในขณะที่กฎระเบียบการปล่อยสินเชื่อก็ผ่อนคลายลง”



    การขาดดุลงบประมาณที่เชื่อมโยงต่อถึงยอดหนี้สาธารณะสหรัฐฯ มีเค้าลางมาตั้งแต่ต้นปีนี้แล้ว หากมองข้อมูลเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ หนี้สาธารณะสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากถึง 2.15 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าตัวเลขจีดีพีทั้งปีของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งตัวเลขดังกล่าว จะถูกแซงในจำนวนสะสมขึ้นเรื่อย



    มองไปในอนาคต ตัวเลขคาดการณ์ล่วงหน้าของสำนักงานกรรมาธิการงบประมาณของรัฐสภา (CBO-Congressional Budget Office) ล่าสุดระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณล่าสุดที่เป็นสถิติใหม่สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา 8.04 แสนล้านดอลลาร์ (จากประมาณการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ 5.63 แสนล้านดอลลาร์) นั้นยังต่ำไป ในอนาคตสิ้นปี ค.ศ. 2020 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า จะเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์



    สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรส (CBO) คาดการณ์ว่า ตัวเลขดังกล่าวจะพอกพูนขึ้นจนถึงระดับ 900,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ยอดสะสมหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ มีความหมายมากกว่าปกติตรงที่ว่า อัตราการเติบโตของหนี้ได้แซงหน้าอัตราการเติบโตของจีดีพีในแต่ละปีมากขึ้นต่อเนื่องเป็นลูกโซ่



    หากนำข้อมูลในสิ้นปีที่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เกิดขึ้น ค.ศ. 2008 มาเทียบตัวเลขข้างต้น จะยิ่งสยดสยองมากขึ้น เพราะในปีนั้น สหรัฐฯ มีขนาดจีดีพีที่ระดับ 14.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มียอดหนี้สาธารณะต่ำกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ยอดหนี้ที่ระดับ 22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยืนยันว่าภายใน 10 ปีมานี้ อัตราเติบโตของหนี้สาธารณะสูงมากถึง 123% โดยมีขนาดคิดเป็น 106% ของจีดีพี ส่งผลให้ต้องทำงบประมาณขาดดุล



    สหรัฐฯ เคยทำงบประมาณเกินดุลได้อยู่ 4 ปีในยุคของประธานาธิบดีบิล คลินตัน ซึ่งเศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟูสุดขีด ก่อนที่จะบัญชีงบดุลจะกลับมาติดลบตัวแดงอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช นำกองทัพสหรัฐฯ บุกอิรัก นโยบายลดภาษีที่ ทรัมป์ ประกาศใช้เมื่อปลายปี 2017 รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณสูงขึ้น โดยเฉพาะในด้านกลาโหม ยิ่งเป็นปัจจัยเร่งให้สหรัฐฯ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่โตที่สุดในโลกต้องเผชิญปัญหาขาดดุลงบประมาณมากขึ้น



    ดูเหมือนคำเตือนทั้งหลายจะไม่เข้าหูทรัมป์เอาเลย ล่าสุดทรัมป์ ให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า“ถ้าเราไม่มีกองทัพที่เข้มแข็ง คุณก็อย่ามัวห่วงเรื่องหนี้สินเลย เพราะคุณจะเจอปัญหาที่ใหญ่ยิ่งกว่านั้นอีก" และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ก็พยายามโต้แย้งว่า มาตรการลดภาษีซึ่งคาดว่าจะทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะ 10 ปี จะไปให้ผลชดเชยในแง่ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งก็จะช่วยให้ภาครัฐจัดเก็บภาษีได้มากขึ้นตามไปด้วย



    ข้อเท็จจริงชี้ว่า คำโต้แย้งเป็นแค่ลมปาก ปีที่ผ่านมา อัตราเติบโตของจีดีพีสหรัฐฯ ก่อนหักด้วยเงินเฟ้อ อยู่ที่ระดับ 4.4% (ถ้าหักด้วยเงินเฟ้อแล้วจะมีอัตราการเติบโตเพียงแค่ 2.5% เท่านั้น) แต่ตัวเลขอัตราเติบโตของหนี้สาธารณะกลับเพิ่มขึ้นถึง 6% หากนำมาคำนวณเทียบกัน จะเห็นได้ว่าอัตราการเติบโตของหนี้สาธารณะมากกว่าจีดีพีถึง 36%



    จากการฉายภาพอนาคต CBO ระบุว่า งบประมาณปีหน้าคาดว่าจะติดลบ หรือขาดดุลประมาณ 9.81 แสนล้านดอลลาร์ และคาดว่าภายใน 11 ปีข้างหน้าตัวเลขขาดดุลงบประมาณจะพอกพูนไปที่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ แต่นักลงทุนส่วนหนึ่งเชื่อว่าน่าจะมากกว่า เพาะรายได้จากภาษีที่ลดลงจากผลพวงของสงครามการค้า



    ข้อเท็จจริงดังกล่าว บ่งบอกว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่งเริ่มต้นครั้งใหม่เท่านั้น เพราะหนี้สาธารณะจะทะลุเพดานขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามการขาดดุลงบประมาณ พร้อมกับคำถามเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลกลางและท้องถิ่น (โดยไม่ต้องขึ้นภาษี) ว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้ซ้ำรอยแบบที่เคยเกิดกับเมืองดีทรอยต์เมื่อหลายปีก่อน



    ที่สำคัญการที่รัฐบาลมีหนี้เพิ่มขึ้น ต้องออกพันธบัตรมาดูดซับเงินจากตลาดทวีคูณ ทำให้เฟดลำบากในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพราะถ้าขึ้นดอกเบี้ย จะเป็นภาระต่อรัฐบาลในการชำระคืนหนี้ แต่จะลดก็ยากเพราะรัฐบาลอเมริกันต้องออกพันธบัตรมาแย่งทุนเอกชนมากขึ้น



    ข้อมูลระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องจ่ายดอกเบี้ยหนี้สาธารณะในเดือน ธ.ค. ปีที่แล้วเพิ่มขึ้นจากช่วง 1 ปีก่อนหน้าถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ ภาวะเช่นนี้ จะดำรงอยู่อีกนานเท่าใด คำตอบอยู่ที่โดนัลด์ ทรัมป์ คนเดียว



    คอลัมน์ พลวัตปี 2019: วิษณุ โชลิตกุล

    Source: ข่าวหุ้น


    - The US national debt just pushed past $22 trillion — here's how Trump's $2 trillion in debt compares with Obama, Bush, and Clinton : https://www.businessinsider.com/trump-national-debt-deficit-compared-to-obama-bush-clinton-2019-2
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    DFA88A85-1407-4BBF-902B-AD09A725E376.jpeg

    แผ่นดินไหวจังหวัดลำปาง ครั้งที่ 34 -38 ขนาด 2.4, 2.5, 1.7, 1.3 และ 2.1 (สังเกตแผ่นดินไหวจากแนวแผ่นเปลือกโลกแถวๆสุมาตราที่ขนานกับแนวที่ใกล้กับจังหวัดลำปางว่ามีความสัมพันธ์กันหรือเปล่า)


    http://www.earthquake.tmd.go.th/inside.html
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    IMG_9798.JPG IMG_9799.JPG
    22 กุมภาพันธ์ 2019 Schumann Resonance มาตรวัดความถี่ของโลก... มันเพิ่งมีค่าเพิ่มขึ้นถึง 102 เฮิร์ตซ์ ...


    มีการลงทะเบียนเฉพาะในช่วง 100-110 Hz 5 ครั้งก่อนหน้า: 7 ตุลาคม 2018, 9 กันยายน 2018, เมษายนและพฤษภาคม 2018, และพฤษภาคม 2017


    Schumann Resonances (SR) เป็นชุดของสเปกตรัมสูงสุดในส่วนความถี่ต่ำมาก (ELF) ของสเปกตรัมสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลก เสียงสะท้อนของ Schumann คือเสียงสะท้อนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากทั่วโลกซึ่งถูกสร้างและถูกเร้าโดยการปล่อยสายฟ้าในช่องที่เกิดจากพื้นผิวโลกและไอโอโนสเฟียร์ ปกติจะเป็นค่าคงที่ 7.83 Hz


    February 22, 2019. The Schumann Resonance measures the frequency of the Earth and is excited by lightning discharges. It just spiked to 102 Hz 12 hours ago.


    It's only registered in the 100-110 Hz range 5 times before: October 7, 2018, September 9, 2018, April and May of 2018, and May of 2017.


    The Schumann resonances (SR) are a set of spectrum peaks in the extremely low frequency (ELF) portion of the Earth's electromagnetic field spectrum. Schumann resonances are global electromagnetic resonances, generated and excited by lightning discharges in the cavity formed by the Earth's surface and the ionosphere. It is normally a constant 7.83 Hz.


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers


    พระจันทร์เต็มดวงขึ้นเหนือยอดเขาคิลิมันจาโร, แทนซาเนีย, แอฟริกา

    19 กุมภาพันธ์ 2019

    ภาพโดย © Tnevni Odunem:


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,263
    ค่าพลัง:
    +97,150
    B038FAB8-8DBF-49AD-8DD2-1956ACAD8D48.jpeg

    แผ่นดินไหวจังหวัดลำปาง ครั้งที่ 39 ,40 ขนาด 2.0 และ 1.9 (สังเกตแผ่นดินไหวจากแนวแผ่นเปลือกโลกแถวๆสุมาตราที่ขนานกับแนวที่ใกล้กับจังหวัดลำปางว่ามีความสัมพันธ์กันหรือเปล่า)


    http://www.earthquake.tmd.go.th/inside.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...