ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_9457.JPG
    (Feb 17) 'มะพร้าวออร์แกนิก' ราชบุรีบุกตลาดอเมริกา-ยุโรป-ตะวันออกกลาง - ปัจจุบันผลไม้ส่งออกของไทยกำลังประสบปัญหาเรื่องราคาตก โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากเกินความต้องการของ ผู้บริโภค เกษตรกรส่วนใหญ่มักหันหน้าไปพึ่งตลาดจีนแต่ยังถูกล้งกดราคาจนต้องส่งผลผลิตในราคาถูกกว่าต้นทุน โดยเฉพาะ "มะพร้าวน้ำหอม" อีกหนึ่งผลผลิตที่มักจะล้นตลาดจนราคาตกในฤดูออกผลและราคาพุ่งสูงเมื่อหมดฤดู ซึ่งผู้คนเริ่มหันมาปลูกเพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดราชบุรีแหล่งผลิตมะพร้าวน้ำหอมที่สำคัญของประเทศไทย แต่จะสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพเพื่อส่งออกแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้หรือไม่



    "ประยูร วิสุทธิไพศาล" ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผลไม้ปลอดภัยสารพิษเพื่อส่งออก จ.ราชบุรี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตนเป็นเกษตรกรที่เคยปลูกผลไม้หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นฝรั่ง ชมพู่ แก้วมังกร ลำไย มะม่วง จนประสบปัญหาขาดทุน เพราะใช้ปุ๋ยใช้สารเคมีที่เป็นยาฆ่าแมลงมาก พอปรับเปลี่ยนและพัฒนาขึ้น สามารถส่งออก "ชมพู่" ไปยังประเทศจีนได้ราคาดี เกษตรกรรายอื่นเริ่มหันมาปลูกบ้างจนประสบปัญหามีแมลงวันทองติดไปด้วย จีนจึงมีมาตรการเด็ดขาดห้ามนำเข้า ชมพู่จึงราคาตก ระบายผลผลิตไม่ได้ ต่อมาจึงหันมาปลูกพืชหลายอย่างจนกระทั่งมาเป็น "มะพร้าวน้ำหอม" และได้เริ่มทำตลาดด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งตลาดจีนเพียงอย่างเดียว โดยการรวบรวมสมาชิกเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผลไม้ปลอดภัยสารพิษเพื่อส่งออก ทำเกษตรออร์แกนิกที่ได้มาตรฐาน USDA จนไปถึงมาตรฐาน EU สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ รวมไปถึงได้รับการขึ้นทะเบียน GI แล้ว



    เมื่อสามารถส่งออกมะพร้าวได้ราคาดีและเป็นที่ยอมรับ สมาชิกของกลุ่มที่เคยปลูกชมพู่ ฝรั่ง มะม่วง ก็เปลี่ยนมาปลูกมะพร้าวเพิ่มขึ้น และสมาชิกทุกคนจะต้องได้รับความรู้ในการผลิตเพื่อให้เป็นมะพร้าวออร์แกนิก สามารถรักษาคุณภาพและควบคุมการออกผลได้ในทุกช่วงของฤดูกาล ในปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 60 ราย กระจายอยู่ในจังหวัดราชบุรี สามารถปลูกมะพร้าวได้ทั้ง 7 อำเภอ ได้แก่ อ.โพธาราม อ.เมือง อ.ปากท่อ อ.วัดเพลง อ.ดำเนินสะดวก อ.บางแพ และ อ.บ้านโป่ง คาดว่าในอีก 3 ปีจะมีมากขึ้นถึง 100 ราย รวมพื้นที่ปลูกทั้งหมดของสมาชิกประมาณ 3,000 ไร่ จำนวนต้นที่ปลูกคือ 40 ต้น/ไร่ จาก 1 ต้นให้ผลผลิต150-200 ลูก/ปี สร้างรายได้ เฉลี่ย 5 หมื่นบาท/ไร่



    "มะพร้าวจะมีราคาแพงในช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน เป็นช่วงที่อากาศร้อนจัดและไม่มีผลผลิตในตลาด แต่กลุ่มเรามีความโดดเด่นสามารถสร้างผลผลิตบุกตลาดได้ ต่างประเทศยอมรับ แม้ราคาจะต่างกันกับราคามะพร้าวที่ปลูกปกติเพียงเล็กน้อย 1-2 บาทต่อลูก แต่ในตลาดจะเลือกผลผลิตจากเรา โดยมีตลาดส่งออกหลักคือสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สเปน เยอรมนี อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก อิสราเอล อินโดนีเซีย จีน สิงคโปร์ ตามลำดับ



    แม้ตลาดจีนหลายคนมักจะบอกว่าดี แต่จีนทำให้ตลาดผลไม้บ้านเราตาย นอกจากชมพู่ก็มาลำไย มะพร้าวก็เช่นเดียวกัน พอถึงช่วงเทศกาลจีนก็แห่ซื้อ ปั่นกระแสให้ดัง ให้เกษตรกรฮือฮาปลูกกันเยอะ หลังจากนั้นก็มากดราคารับซื้อ เป็นตลาดที่ไม่ยั่งยืน เราต้องมีตลาดหลายทางไว้รองรับ"



    ทั้งนี้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผลไม้ปลอดภัยสารพิษเพื่อส่งออก จ.ราชบุรี จะส่งออกมะพร้าวน้ำหอมไปยังตลาดต่างประเทศกว่า 80-90% คู่ค้า 10 กว่าประเทศ มีบริษัทรับซื้อ 10 กว่าบริษัท ส่วนอีก 10% จะเป็นตลาดขายปลีกภายในประเทศ แม้ว่าการส่งออกไปยังต่างประเทศจะมีปัญหาการได้เงินล่าช้ามากกว่าการขายภายในประเทศ แต่คู่แข่งและการตัดราคาหรือต่อรองราคาซื้อขายง่ายกว่าในประเทศที่มีข้อกำหนดหลายขั้นตอน ถือเป็นการผลักดันเกษตรกรให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายของการทำเกษตรออร์แกนิก อย่างแท้จริง



    ขณะเดียวกัน "พินิจ เจริญเร็ว"เกษตรจังหวัดราชบุรี ให้ข้อมูลว่า มะพร้าวน้ำหอมเป็นพืชที่มีชื่อเสียงของจังหวัดราชบุรีซึ่งปลูกมากที่สุดในประเทศไทยและดีที่สุดในโลก แม้จะมีคู่แข่งในตลาดแต่ยังเทียบคุณภาพกับประเทศไทยไม่ได้ มีข้อมูลตัวเลขพื้นที่ปลูกประมาณ 7 หมื่นกว่าไร่ แต่หากรวมทั้งจังหวัดคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนไร่ และจากข้อมูลในเดือนตุลาคม 2561 มีผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 341 ล้านตัน และยังคงส่งออกไปยังประเทศจีนมากที่สุด โดยเฉพาะแหล่งปลูกที่ดำเนินสะดวกสร้างรายได้ต่อปี 5-6 หมื่นบาท/ไร่/ปี



    "ตอนนี้เรามีปัญหาเรื่องแรงงาน และยังต้องใช้แรงงานคนเมียนมา ค่าแรงงานเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 700-800 บาท/คน/วัน ส่วนเรื่องราคาเมื่อถึงปลายเดือนมีนาคม เดือนเมษายน ราคาจะขยับสูงขึ้น เพราะผลผลิตจะขาดตลาด บางช่วงเคยสูงถึงลูกละ 30 บาท และถ้ามีเครื่องบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ราคาจะสูงกว่าปกติ เมื่อผลผลิตออกสู่ท้องตลาดมากราคาจะถูกลง เป็นไปตามกลไกราคา ส่วนมะพร้าวออร์แกนิกจะเป็นมะพร้าวที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีเงิน ซึ่งมะพร้าวของจังหวัดราชบุรีไม่ค่อยมีเรื่องโรค เพราะเป็นพืชสุขภาพ ไม่มีสารเคมี ถือเป็นพืชที่มีอนาคตที่ดี"


    Source: ประชาชาติธุรกิจ
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_9458.JPG
    (Feb 17) แบงก์ชาติชี้ ศก.ใต้ปี’62 ชะลอ นักท่องเที่ยวจีนหด-สงครามการค้า : ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคใต้ รายงานภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ครึ่งหลังปี 2561 ยังชะลอตัว แม้นักท่องเที่ยวจีนหดตัว แต่ได้แรงส่งจากกลุ่มมาเลเซีย-อินเดีย-ยุโรป-รัสเซีย การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 2.4% ด้านเกษตรหดตัว สะท้อนจากราคายาง-ปาล์ม-กุ้ง ชี้ปี 2562 ยังเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเศรษฐกิจภาคใต้ คาดการผลิต-ส่งออกอุตสาหกรรมจะปรับตัวดีขึ้นช่วงหลังปี 2562


    โดย นายสันติ รังสิยาภรณ์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท. สำนักงานภาคใต้ เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 13.1% เช่น มาเลเซีย อินเดีย ยุโรป และรัสเซีย ส่วนนักท่องเที่ยวจีนยังคงหดตัวจากปัจจัยลบด้านความเชื่อมั่น แต่เริ่มทยอยฟื้นตัวช่วงปลายไตรมาส 4/2561 หากพิจารณาตามพื้นที่ชายแดนภาคใต้ขยายตัว ฝั่งอันดามันชะลอตัว ส่วนฝั่งอ่าวไทยหดตัว


    ขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนมีการขยายตัวจากปีก่อน 2.4% มีปัจจัยมาจากการขยายตัวภาคก่อสร้าง การลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ สอดคล้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์มีการลงทุนโครงการใหม่ต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยหนุนจากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากปีก่อน 0.6% และการใช้จ่ายหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว


    ขณะที่รายได้ภาคการเกษตรหดตัว ราคายางพาราลดลง ด้านปาล์มน้ำมันและกุ้งขาวลดลงตามตลาดโลก รวมถึงมูลค่าการส่งออกลดลงจากปีก่อน 9.6% ส่งผลให้รายได้หดตัวต่อเนื่อง 17.3% ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคฐานราก สำหรับภาคการผลิตอุตสาหกรรมหดตัวจากปีก่อน 4.1% ตามการผลิตยางพาราแปรรูปที่ลดลง เพราะความกังวลจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ และเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ความต้องการใช้ยางลดลง ส่วนเรื่องอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูปลดลงต่อเนื่องจากปัญหาวัตถุดิบตึงตัว ทั้งหมึกและปลา ประกอบกับการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันของสินค้ากุ้ง


    สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.76% ตามราคาพลังงาน ลดลงจากไตรมาสก่อน 1.51% อัตราการว่างงานหลังปรับฤดูกาลอยู่ที่ 1.3% การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากปีก่อน 2.4% ตามรายจ่ายการลงทุนที่ลดลง 10.3% ส่วนรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้น 3% ตามการเบิกจ่าย และสิ้นไตรมาส 4/2561 เงินฝากทั้งระบบเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% จากเงินฝากประเภทออมทรัพย์และประจำ ด้านสินเชื่อคงค้างทั้งระบบเพิ่มขึ้น 5.2% ตามการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากมีการรับโอนพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อจากบริษัทในเครือ


    ด้าน นางสาวจิดาภา ช่วยพันธุ์ เศรษฐกรอาวุโส ฝ่ายนโยบายโครงสร้างเศรษฐกิจ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2562 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายสำหรับเศรษฐกิจภาคใต้ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจภาคใต้ปี 2561 ขยายตัวได้ดีในช่วงครึ่งแรกของปี และเริ่มชะลอตัวในครึ่งปีหลัง เนื่องจาก 2 ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น คือ 1.กรณีเรือนักท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึงเหตุการณ์ทำร้ายนักท่องเที่ยวที่สนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 เป็นต้นมา 2.สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ทั้งนี้คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ปี 2562 เศรษฐกิจภาคใต้มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง


    ทั้งนี้คาดว่าภาคการท่องเที่ยวจะชะลอตัวลง ตามภาวะเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันจากหลายประเทศที่รุนแรงขึ้น ทำให้การขยายตัวของนักท่องเที่ยวเกือบทุกสัญชาติชะลอลง แม้ว่าทางฝั่งอุปทานจะยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ด้านอุปสงค์คาดว่าจะขยายตัว โดยการใช้จ่ายครัวเรือนจะยังขยายตัวได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งได้รับแรงส่งจากการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง ขณะที่การผลิตและส่งออกในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อาหารทะเลกระป๋อง และถุงมือยาง ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง และการผลิตและส่งออกไม้ยางแปรรูป คาดว่าจะปรับดีขึ้นช่วงครึ่งหลังของปี 2562 หลังจากที่โรงงานในจีนบางส่วนสามารถปรับปรุงมาตรฐานตามเกณฑ์และกลับมาเปิดดำเนินการได้


    ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยยังได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ และยังคงกดดันรายได้เกษตรกร และรายได้นอกภาคเกษตร ที่คาดว่าจะชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ แม้ว่าครัวเรือนบางส่วนจะได้รับผลดีจากมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐก็ตาม สำหรับการลงทุน ทั้งภาครัฐและเอกชน จะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อเศรษฐกิจภาคใต้ต่อเนื่องในปี 2562 โดยเฉพาะภาคก่อสร้างสอดคล้องกับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีมากขึ้น ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทั้งภายนอกและภายในประเทศที่จะเข้ามากระทบ


    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


    https://www.prachachat.net/local-economy/news-290524


    แถลงข่าว ธปท. https://www.bot.or.th/Thai/Monetary...rt/Doclib_news51/PressReleaseSouth_Q42018.pdf
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    IMG_9459.JPG

    (Feb 17) วิเคราะห์] KTB-KBank-SCB ประกาศสงครามแพลตฟอร์มดิจิตอลอะไรจะเกิดขึ้น? หลายปีนี้ใครๆ ก็เบื่อที่จะเดินเข้าสาขาธนาคารแล้วหันมาใช้ Mobile Banking บนมือถือแทน ไม่ว่าจะโอน จ่ายบิล ฯลฯ เลยกลายเป็นช่องทางใหม่ของแบงก์ที่ใครไม่ทำ ให้ง่าย ให้เร็ว ก็แพ้เกมส์นี้ไป


    ล่าสุดเราเห็นแบงก์ใหญ่ 3 ค่าย เขย่าโลกดิจิตอลผ่านการปรับโฉม Mobile Banking ให้เหมือนธนาคารอยู่บนมือถือ และต้องทำให้ผู้บริโภคติดใจ ทุกแบงก์เลยตั้งโจทย์เดียวกันในการเป็น Lifestyle Banking


    กรุงไทยเขย่าตัวในรอบ 10 ปี ใช้จุดแข็งแบงก์ของรัฐ เพิ่มฟีเจอร์ที่คนอื่นไม่มี และเข้าถึงทุกกลุ่ม


    จักรกฤษณ์ กลิ่นสมิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายนวัตกรรมและวิจัยทางเทคโนโลยี ธนาคารกรุงไทย บอกว่า ถือเป็นการปฏิรูประบบดิจิตอลของแบงก์ในรอบ 10 ปี และการเปิดตัวโมบายแบงก์กิ้งตัวใหม่ “กรุงไทย NEXT” จะทำให้สร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า เพราะปรับหน้าแอพฯ ใหม่ เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ให้ใช้ง่ายขึ้น


    ตอนนี้ฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด เป็นกลุ่มข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ แต่เราก็พยายามเข้าถึงลูกค้ากลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะ Gen Y มากขึ้น กรุงไทย NEXT จึงเป็น Lifestyle Banking ที่มีมากกว่าธุรกรรมโอน-เติม-จ่ายบิล แต่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันเยอะขึ้น เช่น บริการ Krungthai Travel Card ที่นักเดินทางแลกสกุลเงินต่างประเทศเก็บไว้ในบัตรได้ผ่านมือถือ บริการเปิดบัญชีและซื้อขายกองทุน บริการพร้อมเพย์ ขอข้อมูลเครดิตบูโร บริการ Pay Alert ฯลฯ


    นอกจากนี้จะมีฟีเจอร์ที่คนอื่นไม่มี เป็น “Killer Feature” จะมีเดือนละอย่าง เช่น เดือนหน้าเป็นเรื่อง Cross Border Payment (การโอนเงินข้ามประเทศ) ก่อนสิ้นปีนี้จะมีกดเงินไม่ใช้บัตร และหลังจากนี้เมื่อ National ID ภาครัฐเกิดขึ้นเราก็จะทำ Digital Lending หรือการกู้เงินออนไลน์ตามมา


    ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย บอกว่า ธนาคารกรุงไทยเป็นแบงก์พาณิชย์ของรัฐ กลยุทธ์หลักคือเสนอบริการการเงินให้ประขาชนตามนโยบายของภาครัฐ ทำให้เรามีจุดแข็งคือมีสาขาแบงก์เยอะที่สุดในประเทศ แม้ว่าสาขาจะอยู่ไกลแต่เราก็ต้องมีเพือให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินให้ได้ ขณะเดียวกันเราเชื่อมโยงกับรัฐทำให้มีบริการที่คนอื่นไม่มี เช่น สั่งจองล็อตเตอรี่ จ่ายค่าปรับจราจร ฯลฯ แถมยังเชื่อมกับฐานลูกค้าขนาดใหญ่อย่าง บัตรสวัสดิการอีก 11.4 ล้านคน


    และเมื่อโลกดิจิตอลขยับเข้ามาใกล้ชีวิตคนมากขึ้น ถ้าลูกค้าเรายังใช้ไม่เป็นแอพฯ หรืออะไรไม่คล่อง เราก็มีพนักงานที่พร้อมให้ความช่วยเหลือกว่า 15,000 คนทั่วประเทศ สิ้นปี 2562 คาดว่าจะมีฐานลูกค้า กรุงไทย NEXT อยู่ที่ 10 ล้านคน


    SCB Easy ไม่หยุดความแรง ใส่การตลาด-เพิ่มฟีเจอร์เด่นเพียบ


    ธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่า SCB Easy เป็นช่องทางที่ทำให้แบงก์เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ดังนั้นในแอพฯ ต้องมีฟีเจอร์ที่ใช้ได้จริง มากกว่าฟีเจอร์พื้นฐาน ถอน-โอน-จ่ายบิล ต้องเข้าให้ถึง Lifestyle Banking อย่าง เปิดให้ลูกค้าจองตั๋วหนังของ SF ได้ เลือกรายการผ่อนชำระสินค้าได้เอง ตั้งค่าเปิด-ปิดบัตรเครดิตได้เอง กดเงินสดไม่ใช้บัตร ต่อไปจะมีกดเงินจากบัตรเครดิตโดยไม่ใช้บัตรตามมาภายใน 6 เดือนนี้


    SCB Easy มาพร้อมกับ #เป็นทุกอย่างให้คุณ ดังนั้นนอกจากบริการหน้าบ้านที่เข้าถึงลูกค้า ถูกที่ถูกเวลา ไทยพาณิชย์เลยใช้ Big Data มาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า สร้างผลิตภัณฑ์การเงินที่ดีขึ้นให้ลูกค้า


    เมื่อทุกแบงก์มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราก็ต้องแก้ Pain Point ของลูกค้าเช่น ให้ลูกค้าทำ E-KYC (ระบุตัวตน) และสามารถเปิดบัญชีผ่านมือถือ การขอรับเอกสารต่างๆ รวมไปถึงการขอสินเชื่อออนไลน์ (Digital Lending) ผ่านแอพฯ แต่เรายังต้องใช้การตลาดดึงให้ลูกค้ามาลองใช้ Mobile Banking เช่น การยกเลิกค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมผ่าน SCB Easy (แถมมีแจกรางวัลให้คนที่จ่ายบิลผ่านแอพฯ ด้วย) แต่ตัวแอพฯ ก็ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภายใน 6 เดือนหลังจากนี้จะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกเพียบต่อไป “ธนาคารจะอยู่ทุกที่ ยกเว้นที่ธนาคาร”


    ปัจจุบัน SCB เรามีลูกค้าเปิดบัญชีอยู่ 15 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2561 นี้จะมีผู้ใช้ SCB EASY 10 ล้านราย และสิ้นปี 2562 จะมีผู้ใช้งานที่ 12.5 ล้านราย จากตอนนี้ SCB EASY มียอดผู้ใช้งานกว่า 8 ล้านราย


    กสิกรไทย ส่งตระกูล KPlus เจาะทุกเซคเมนท์ พร้อม Kade เชื่อมทุกแพลตฟอร์ม ตั้งเป้าฐานลูกค้า 100 ล้านคน


    พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า เราตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Mass มากที่สุด ตามมอตโต “บริการทุกระดับประทับใจ” และเข้าถึง Lifestyle ของลูกค้ามากขึ้นอย่างโปรโมชั่นร้านค้าเด่นๆ จากเครือข่ายพันธมิตรที่มีอยู่


    KPlus ไม่ใช่แค่แอพฯ Mobile Banking แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงบริการต่างๆ ของธนาคารให้มาอยู่บนมือถือ ซึ่งเชื่อมกับ KADE หรือ AI-ปัญญาประดิษฐ์ ให้ธนาคารรู้จักและเข้าใจลูกค้ามากขึ้น อย่างตอนนี้กสิกรไทย ใช้ KADE เสนอสินเชื่อออนไลน์ผ่านมือถือให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าสนใจก็สามารถกดสมัครผ่าน KPlus ได้เลย ซึ่งจะช่วยแบงก์คัดกรองความเสี่ยงของลูกค้าที่ขอสินเชื่อด้วย นอกจากนี้ยังมี K+ Market ที่จะเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าขายของได้ง่ายขึ้น มีช่องทางกระจายสินค้าให้คนอื่นเห็นมาขึ้นด้วย


    ตอนนี้ K PLUS เปิดใช้งานมาแล้ว 5 ปี ณ เดือน ก.ย. 2561 มียอดผู้ใช้ 9.4 ล้านราย จากลูกค้า KBank ทั้งหมด 15 ล้านราย แต่เป้าหมายในอนาคตแบงก์มองว่าจะมีฐานลูกค้าถึง 100 ล้านคน นอกจากคนไทยต้องมีบริการให้คนต่างประเทศด้วย ดังนั้นแพลตฟอร์มที่ทำอยู่ทุกวันนี้ต้องต่อยอด และเชื่อมโยงกับมาตรฐานของสากลได้ด้วย


    สรุป


    ดิจิตอลเปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนความคิดลูกค้าไปหมดแล้ว เลยกลายเป็นหน้าที่ของแบงก์ที่ต้องตามใจลูกค้าให้ถูกจุด ขณะเดียวกันต้องวางแผนลงทุน ให้สามารถทำธุรกิจในต้นทุนที่ถูกลงในอนาคต 3 ค่ายแบงก์ใหญ่เลยไม่น้อยหน้าเร่งเครื่องปรับแพลตฟอร์มดิจิตอลหลังบ้านแล้ว ก็ต้องปรับโฉมแอพฯ Mobile Banking หน้าบ้านให้ใช้ง่ายขึ้นด้วย อย่าง KPlus SCB EAsy ที่แข่งกันลดค่าธรรมเนียมเพิ่มบริการให้เหมือนมีสาขาอยู่บนมือถือ แม้ว่า กรุงไทย NEXT จะตามหลังมา แต่ด้วยความเป็นแบงก์พาณิชย์ของรัฐ ก็มีฟีเจอร์และบริการที่คนอื่นไม่มีเพียบ เช่น ซื้อล็อตเตอร์รี่ จ่ายค่าปรับจราจร ฯลฯ


    หลังจากนี้เราคงเห็นบริการใหม่ๆ จากแบงก์พาณิชย์อีกเพียบ เรียกว่าสงครามแพลตฟอร์มดิจิตอลครั้งนี้ผู้ชนะคงจะเป็นลูกค้าอย่างเรา


    โดย Chutinun Sanguanprasit (Liu)


    Source: Brandinside.asia

    https://brandinside.asia/ktb-kbank-scb-war-digital-banking-impact/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไทยเข้ม "อหิวาต์แอฟริกาในสุกร"ระบาดเวียดนาม #ฐานเศรษฐกิจ

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MOREMOVE

    #มอร์มูฟเป็นข่าว เพื่ออนาคต!!! ค่ายรถยนต์ 9 ราย ได้แก่ BMW, GM, Isuzu, Mazda, Mercedes-Benz, Mitsubishi, MG, Suzuki และ Toyota ร่วมใจลดฝุ่นพิษ PM 2.5 ลุยปรับรถใหม่ทุกคันให้เป็นยูโร 5 ภายในปี 2564 รวมทั้งจะเร่งรณรงค์ให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 เติมน้ำมันที่ได้มาตรฐานยูโร 5 ที่มีจำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมันในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดมลพิษโดยเฉพาะฝุ่นละออง PM ได้กว่าร้อยละ 20-25

    Source : สำนักข่าวไทย - https://bit.ly/2TJcn45


    โดยเรื่องนี้ นายณัฐพล รังสิตพล ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ขานรับนโยบายภาครัฐและตระหนักว่า แม้การยกระดับมาตรฐานรถยนต์ยูโร 4 เป็นยูโร 5 และยูโร 6 โดยเร็วจะมีต้นทุนการปรับเปลี่ยนและต้นทุนการผลิตรถยนต์สูงขึ้นก็ตาม แต่เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกค้าและประชาชนทุกคน ต้นทุนดังกล่าวก็คุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับต้นทุนจากปัญหาสุขภาพและค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเองของประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น ค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัย N95 และเครื่องกรองอากาศแบบกรองฝุ่น PM 2.5 รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอื่นๆ


    "บริษัทรถยนต์ทุกรายมองว่า การใช้รถยนต์ควรมีการดูแลรักษาที่ถูกต้องและต้องยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำมันให้เป็นยูโร 5 อย่างไรก็ตาม รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 ยังคงมีการปล่อยฝุ่น PM จากไอเสียเครื่องยนต์ที่มีความเข้มข้นกว่ารถยนต์มาตรฐานยูโร 5 ถึง 5 เท่าตัว" นายณัฐพล กล่าว


    อนึ่ง ปัจจุบันประเทศไทยมีรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ได้แก่ Eco car รุ่นที่ 2 จำนวน 27 รุ่น และรถยนต์นั่งขนาดกลางและใหญ่ 11 รุ่น รวมทั้งรถยนต์นำเข้า 19 รุ่น สำหรับรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ได้แก่ รถยนต์นั่งขนาดกลางและใหญ่ที่ผลิตภายในประเทศ 27 รุ่น และรถยนต์นำเข้า 84 รุ่น ซึ่งมีราคาเริ่มต้นเพียง 467,000 บาท


    สามารถดูข้อมูลรายละเอียดที่ถูกต้องได้จากป้าย ECO Sticker ที่ติดอยู่บนกระจกรถยนต์ใหม่ทุกคันและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.car.go.th .


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The MATTER


    BRIEF: สิงคโปร์กำลังพิจารณากฎหมายใหม่ ถ้าใครถอด ‘ถุงยาง’ ระหว่างมีเพศสัมพันธ์โดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม จะถือว่ามีความผิด

    .

    ประเด็นความยินยอมหรือ ‘Consent’ ในเรื่องเพศนั้นกำลังเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลก กำลังรณรงค์กันอยู่อย่างต่อเนื่อง ในภาคการเมืองของประเทศสิงคโปร์ก็พูดถึงเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

    .

    ในเดือนพฤษภาคมนี้ รัฐสภาของสิงคโปร์จะมีวาระพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวพันกับพฤติกรรมการ Stealthing ที่หมายถึง การแอบถอดถุงยางอนามัยระหว่างการร่วมเพศ โดยที่ผู้ที่รวมเพศอีกฝ่ายไม่รู้ และไม่ได้ให้ความยินยอม ซึ่งปัญหานี้ไม่เพียงมีความผิดแค่ละเมิดสิทธิในร่างกายของอีกฝ่าย หากแต่ยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย

    .

    ในเบื้องต้น ร่างกฎหมายกำหนดว่า ผู้ที่มีพฤติกรรม Stealthing จะมีสิทธิโดนโทษจำคุกมากที่สุด 10 ปี

    .

    ประเด็นเรื่อง Stealthing เป็นหนึ่งในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นผ่านชุดกฎหมายปฏิรูปคดีอาชญากรรมที่รัฐบาลสิงคโปร์ผลักดัน เพื่อให้กฎหมายของประเทศได้เข้ากับปัญหาและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในสังคมมากยิ่งขึ้น

    .

    การพิจารณากฎหมายดังกล่าวได้ผ่านวาระแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเข้าสู่วาระที่สองได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้

    .

    Vice news รายงานว่า ถ้าหากรัฐสภาสิงคโปร์ผ่านกฎหมายได้สำเร็จ ก็จะทำให้สิงคโปร์จะเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชีย ที่ออกกฎหมายและบทลงโทษอย่างเป็นทางการต่อเรื่อง Stealthing

    .

    .

    อ้างอิงจาก


    https://www.mha.gov.sg/docs/default-source/default-document-library/proposed-legislation.pdf


    https://www.independent.co.uk/news/...inal-law-reform-bill-penal-code-a8782456.html


    https://www.vice.com/en_asia/article/8xy5vb/singapore-is-about-to-make-stealthing-illegal


    #Brief #TheMATTER


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The MATTER

    6 ส.ว. ที่เป็นโดยตำแหน่งอัตโนมัติ และมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี

    .

    รู้หรือไม่ว่าใน 250 ส.ว. ที่จะมีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ นั้น มีอยู่ 6 คนที่จะได้รับตำแหน่งนี้โดยอัตโนมัติตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ

    .

    แม้วันนี้เรายังไม่รู้ว่านายกฯ คนต่อไปจะเป็นใคร แต่ที่รู้แน่นอนแล้วคือ กำลังจะมี 6 บุคคลสำคัญที่จะได้เป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ที่จะมีสิทธิยกมือโหวตเลือกนายกฯ ร่วมกับเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ

    .

    รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 มาตรา 269 เขียนเอาไว้ว่า ให้มี ส.ว. ชุดแรกทั้งหมด 250 คนโดยมาจากระบบสรรหา และจะมี 6 คนที่ได้รับตำแหน่งนี้โดยตำแหน่ง ซึ่งได้แก่

    .

    1) ปลัดกระทรวงกลาโหม

    2) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

    3) ผู้บัญชาการทหารบก

    4) ผู้บัญชาการทหารเรือ

    5) ผู้บัญชาการทหารอากาศ

    6) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

    .

    ย้อนกลับไปวันช่วงมีนาคม 2559 เลขาธิการ คสช. พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ได้ทำหนังสือเรื่อง ‘ข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ’ ถึง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในหนังสือที่ว่านั้น ได้เสนอให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญเพิ่ม 6 ส.ว. ที่จะเป็นโดยตำแหน่งเข้าไปด้วย

    .

    ในหนังสือดังกล่าว ได้ระบุถึงความจำเป็นของการมี ส.ว.เพื่อ ‘พิทักษ์รัฐธรรมนูญ’ และ ป้องกันไม่ให้ฝ่ายการเมือง บิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน รวมถึงการช่วยสนับสนุนการทำงานของรัฐฐาลให้มีธรรมาภิบาล ถูกต้องชอบธรรมเป็นที่พอใจแก่ประชาชน

    .

    รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยระบุถึงเรื่องนี้ว่า

    .

    “ผมก็ขอแค่นี้ ไม่ต้องการคนอื่นเข้าไปหรอก แต่ถามว่า ทำไมเราต้องการ 6 ตำแหน่งนี้ เพื่อไปพูดคุยแนะนำชี้แจงพิทักษ์รัฐธรรมนูญให้อยู่ได้ และเหตุการณ์ต่างๆที่แก้ไขปัญหาได้ 6 ตำแหน่งนั้นจะได้พูดคุยกันทั้ง ส.ว.และ ส.ส.”

    .

    .

    อ้างอิงจาก


    https://www.isranews.org/isranews-news/45546-ksch1mmie.html


    https://www.posttoday.com/politic/news/421669


    https://www.thairath.co.th/content/595388


    https://ilaw.or.th/node/4663


    #quickbite #เลือกตั้ง62 #TheMATTER


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150


    สดๆร้อนๆจากตลาดนัดคลองถม นางรอง
    #น่าสงสาร พ่อค้าแม่ค้ามากเลยครับ
    เครดิต---->> สายฟ้า กกรัมย์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Extreme weather



    ท้องฟ้าที่น่าทึ่งเหนือเวนิส, อิตาลี... ♥️
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Candy Bella

    IMG_9460.JPG
    ... คำสาปจากฟาโรห์ ...


    ใครบังอาจขุดสุสานต้องมีอันเป็นไป... ท่ามกลางดึกอันเงียบสงัดที่บ้านในชนบทประเทศอังกฤษ สุนัขตัวหนึ่งได้หอนอย่างโหยหวน เสียงของมันทำให้ทุกคนในบ้านนั้นตื่นขึ้นมาด้วยความเสียวสยองขนลุกไปตาม ๆ กัน มันเฝ้าแต่หอนจนเหนื่อยอ่อนล้มฟุบขาดใจตายไปอย่างเวทนา เหตุการณ์ประหลาดนี้เกินขึ้นที่บ้านของนักโบราณคดีสมัครเล่น ลอร์ดคาร์นาร์วอน อายุ 57 ปี ที่แฮมไชร์ ในเวลาเดียวกับที่สุนัขส่งเสียงหอนนั้น ห่างออกไปหลายพันไมล์ ลอร์ดคาร์นาร์วอน เองกำลังอยู่ในขั้นโคม่า ทุรนทุรายใกล้จะตายอยู่ในห้องโรงแรมคอนติเนตอล นครไคโร ประเทศอียิปต์ นี่คือที่มาจากอาถรรพ์คำสาปแช่งของฟาโรห์ ยุวกษัตริย์ตุตันคาเมน แห่งอียิปต์โบราณ ได้สำแดงอิทธิฤทธิ์คร่า 2 ชีวิตแรก สุนัขและเจ้าของ แล้วติดตามต่อมาด้วยความตายอย่างลึกลับอีกหลายชีวิต ด้วยคำสาปแช่งนี้ ลอร์ดคาร์นาร์วอน เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอียิปต์โบราณได้ทราบดีมาก่อนแล้ว ในระหว่างที่เขาวางแผนการที่จะขุดค้นหาขุมสมบัติในสุสานฟาโรห์ ขณะที่เขายังอยู่อังกฤษ ได้รับคำเตือนจากเคานต์ฮามอน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไอยคุปต์อีกคนหนี่งว่า " ท่านลอร์ดไม่ควรที่จะเข้าไปในสุสานฟาโรห์ เพราะจะพบกับความวิบัติ ถ้าหากยังขัดขืนไม่เชื่อฟังจะได้รับความทุกข์ทรมานจากความเจ็บไข้ และไม่อาจรักษาได้ ความตายจะมาหาท่านเองใน อียิปต์" ลอร์ดคาร์นาร์วอน ก็มีความวิตกกังวลในเรื่องนี้อย่างยิ่ง เขาได้ไปหารือกับโหรที่มีชื่อเสียงถึง 2 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งเขาก็ได้รับคำทำนายว่า จะพบกับความตายอย่างลึกลับ แม้ว่าจะมีความวิตกกังวลในเพียงใด ลอร์ดคาร์นาร์วอน ได้เดินหน้าที่จะขุดปิระมิดของฟาโรห์ต่อไป เพราะเขาใฝ่ฝันและได้รับแรงดลใจมาหลายปีแล้ว เมื่อเขาเดินทางไปถึงอียิปต์ คำสาปแช่งของฟาโรห์เริ่มปรากฎแววให้เห็น นับตั้งแต่คนงานพื้นเมืองที่จ้างให้มาขุดสุสานใต้ปิระมิดที่ลูซอร์ตื่นตระหนก ล้มเจ็บและหนีหายไป อาร์ธอร์ ไวกัลล์ เพื่อนร่วมทีมที่ใกล้ชิดของเขาคนหนึ่ง ได้เกิดหวาดหวั่นขึ้นมาถึงกับกล่าวว่า "ถ้าหากคาร์นาร์วอนยังคงดื้อดึงขุดสุสานต่อไป ชีวิตเขาจะไม่ยืนยาว" ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2466 คาร์นาร์วอน และคณะได้ขุดปิระมิดเข้าไปถึงสุสานห้องที่ไว้พระศพของฟาโรห์ตุตันคาเมน ภายในนั้น ลอร์ดคาร์นาร์วอน และ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ คู่หุชาวอเมริกันได้พบทรัพย์สมบัติจำนวนมากทั้งเพชรนิลจินดา รวมทั้งโลงทองคำที่บรรจุมัมมี่ของพระศพยุวกษัตริย์ เหนือสุสานนี้มีข้อความอักษรอียิปต์โบราณซึ่งแปลได้ว่า "มัจจุราชจะมาสู่ผู้ซึ่งรบกวนการบรรทมของฟาโรห์" สองเดือนต่อมาลอร์ดคาร์นาร์วอน ซึ่งตอนนั้นมีชื่อเสียงขึ้นมาในการค้นพบขุมทรัพย์ ได้ตื่นขึ้นภายในห้องที่โรงแรมคอนติเนตอลและกล่าวว่า "เหมือนกับอยู่ในขุมนรก" ซึ่งเป็นจังหวะที่ลูกชายของเขาเข้ามาในห้องนั้นพอดี หลังจากนั้น ลอร์ดคาร์นาร์วอน ก้ไม่ได้สติ คืนนั้นเอง ความตายได้มาคร่าชีวิตเขาไป ลูกชายของเขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่า "แสงสว่างเหมือนดูเหมือนจะเรื่องรุ่งขึ้นไปทั่วนครไคโร ผมต้องจุดเทียนแล้วสวดมนต์" ความตายของ ลอร์ดคาร์นาร์วอน มาจากถูกยุงกัดทำให้เป็นนิวมอเนีย แต่ที่น่าประหลาดอย่างยิ่งที่มัมมี่ของยุวกษัตริย์ฟาโรห์ก็มีรอยยุงกัดที่แก้มซ้าย ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่ ลอร์ดคาร์นาร์วอน ถูกยุงกัดเหมือนกัน หลังจากนั้นไม่นานนัก ความตายก็มาเยือนที่โรงแรมคอนติเนตอลอีก อาร์เธอร์ แมค นักโบราณคดีอเมริกันซึ่งร่วมทีมกันขุดสุสานครั้งนี้ด้วย ได้อุทธรณ์ว่าเขารู้สึกเหนื่อยอ่อน แล้วทันใดนั้นก็เข้าขั้นโคม่าเขาหมดลมก่อนที่หมอจะมาถึง และทางแพทย์ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาตายด้วยโรคอะไร ความตายได้มาเยือนผู้เชี่ยวชาญไอยคุปต์อีกคนหนึ่ง เขาคือ จอร์จ กูล์ด เพื่อนสนิทของคาร์นาร์วอน ซึ่งได้รีบเดินทางมาอียิปต์หลังจากได้ทราบข่าวมาณกรรมของคาร์นาร์วอน กูลด์ ได้เดินทางไปที่สุสานของฟาโรห์ ในวันต่อมาเขาล้มฟุบลงด้วยเป็นไข้ขึ้นสูง อีก 12 ชั่วโมงต่อมาเขาถึงแก่กรรม อาร์ซิบัลด์ เรียด นักรังสีวิทยาที่ฉายเอ็กซ์เรย์มัมมี่พระศพฟาโรห์ได้ถูกส่งตัวกลับอังกฤษเพราะเกินอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเฉย ๆ แล้วก็ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ริชาร์ด เบธเฮลล์ เลขาส่วนตัว คาร์นาร์วอน ในการขุดค้นสุสานครั้งนี้พบว่านอนตายอยู่บนเตียงเนื่องจากหัวใจวาย โจเอล วูล ซึ่งเป็นแขกเชิญชุดแรกที่ไปดูสุสาน ตายในเวลาถัดมาไม่นานนัก ด้วยไข้ลึกลับที่แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยได้ ภายในเวลา 6 ปีที่มีการขุดสุสานฟาโรห์ตุตันคาเมน ผุ้ที่ได้ร่วมขุดค้นได้ตายไปถึง 12 คน และภายใน 7 ปีมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ร่วมในการขุดมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือใกล้ชิดผู้ที่ขุดสุสานจำนวน เกือบ 22 คน ได้ถึงแก่กรรมในเวลาไม่สมควร เช่น เลดี้คาร์นาร์วอน อีกคนหนึ่งทีฆ่าตัวตายด้วย เนื่องจากเกิดเป็นบ้าขึ้นมา มีผู้เดียวที่ร่วมเป็นหัวหน้าในการขุดสุสานฟาโรห์ที่โชคดีมีชีวิตอยู่คือ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ แต่ก็มาตายตามธรรมชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2482 แต่ถึงกระนั้นคำสาปแช่งของฟาโรห์ก็ยังสำแดงอิทธิฤทธิ์ในปีต่อ ๆ มาอีด ในปี พ.ศ. 2509 โมหะเม็ด อิบราฮัม ผู้อำนวยการพิพิภัณฑ์โบราณของอียิปต์ ซึ่งทางรัฐบาลของเขาได้สั่งให้นักทรัพย์สมบัติของฟาโรห์ ตุตันคาเมนไป จัดแสดงที่ปารีส ฝรั่งเศส เขาได้คัดค้านคำสั่งของรัฐบาล และเขาฝันว่าเขาได้เผชิญกับภยันตราย ถ้าหากทรัพย์สมบัติของฟาโรห์ถูกส่งออกนอกอียิปต์ หลังจากหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลและคัดค้านไม่สำเร็จแล้ว ระหว่างที่เขาเดินทางกลับก็ถูกรถชนเสียชีวิต 3 ปีต่อมา ริชาร์ด อดัมสัน วัย 70 ปี ซึ่งเคยเป็นองค์รักษ์ให้แก่ ลอร์ดคาร์นาร์วอน ในการขุดสุสานฟาโรห์และยังมีชีวิตอยู่รอดเหลืออยู่คนเดียว ได้ให้สัมภาษณ์ทีวีอังกฤษถึงอิทธิฤทธิ์คำสาปแช่ง เขากล่าวว่า "ผมไม่เชื่อในคำสาปแช่ง" แต่หลังจากเดินออกจากสถานนีโทรทัศน์นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ก็เกิดอุบัติเหตุเหวี่ยงเขาตกลงจากรถ และมีรถบรรทุกคันหนึ่งแล่นเฉียดหัวเขาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่อดัมสันได้ถูกฤทธิ์ของของคำสาปแช่งครั้งแรกเมื่อเขา กล่าวว่าไม่เชื่อคำสาปแช่ง เมียเขาตายภายใน 24 ชั่วโมง ครั้งต่อมา ลูกเขาสันหลังหักจากเครื่องบินตก


    ที่มา :https://www.clipmass.com/story/7440


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Candy Bella


    ... พรานเม่นผู้ฆ่าสมิง...


    เล่าโดย : คุณธกร คนชอบเล่า


    เป็นเหตุการณ์ที่คุณยายของคุณเอ็ม เล่าให้คุณเอ็มฟัง เมื่อสมัยที่คุณยายยังสาวๆ สมัยนั้นมีแต่ป่ารก กลางค่ำกลางคืน ผู้ใหญ่จะไม่ให้ออกไปไหน พอตกเย็น ก็จะปิดบ้าน เข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ เพราะเมื่อก่อนมันอันตรายมาก ไม่เหมือนกับสมัยนี้


    เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ คุณปู่ของคุณยาย ชื่อเม่น เมียของแกชื่อยายใบ แกมีอาชีพเป็นพราน ล่าสัตว์ขายบ้าง แลกกับข้าวสารบ้าง รุ่งเช้าของทุกวัน แกจะเก็บห่อเก็บพาย เตรียมทำกับข้าว เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเข้าป่า กว่าจะกลับมาก็ตอนเย็น


    ซึ่งวันที่เกิดเรื่องขึ้นนั้น แกก็ทำกิจกรรมเหมือนทุกๆวัน ซึ่งทุกๆวัน พรานเม่นจะออกจากบ้านเพียงคนเดียว แต่วันนี้แปลก ยายใบเมียแก เดินไปส่งแกที่ชายป่า ทางเข้าป่าจะมีลำธารสายเล็กๆ ซึ่งมีก้อนหินก้อนใหญ่อยู่


    พรานเม่นก็แปลกใจนิดๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เมียเดินมาส่งก็ดี พอถึงลำธารก็รีบเดินเข้าป่า แล้วหันมาบอกกับยายใบว่า "รีบเดินทางกลับบ้านได้แล้ว แถวนี้มันอันตราย" ยายใบก็บอกว่า "ได้ๆ เดี๋ยวก็กลับแล้ว ว่าจะแวะเดินหาผักข้างทางก่อน"


    พอยายใบพูดจบ พรานเม่นก็เดินเข้าป่า เพื่อจะไปหาสัตว์อย่างที่เคยทำทุกวัน วันนั้น ในขณะที่กำลังล่าสัตว์อยู่ ในใจพรานเม่นก็รู้สึกเหมือนเป็นพะวง ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รู้สึกใจหาย เป็นห่วงอะไรอยู่เนืองๆ อยากกลับแต่บ้าน


    และวันนี้ สัตว์ก็ล่าไม่ได้เลย ทำให้ไม่มีอารมณ์จะล่าสัตว์อีกต่อไป ก็เลยกลับแต่หัววัน เป็นเวลายังไม่ทันจะเย็นมากนัก สักพัก แกก็เดินมาถึงชายป่าทางออก เมื่อมาถึงลำธาร แกก็แปลกใจ ที่ยังเห็นยายใบนั่งหันหลัง เหมือนกำลังนั่งเล่นน้ำอยู่บนก้อนหินที่อยู่ริมฝั่ง


    แกก็นึกในใจว่า ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับอีก มันอันตราย และนี่ก็ใกล้จะค่ำแล้วด้วย ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก แกจึงเดินไปหายายใบ กะจะด่าซะหน่อย พอแกเดินไปถึง แกก็เอามือจับที่แขนของยายใบ


    แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ยายใบก็หันหน้ามา แต่สิ่งที่หันหน้ามา เริ่มเปลี่ยนจากหน้าคน กลายเป็นหน้าที่ยับยู่ยี่ แล้วกระโจนใส่แก แกตกใจสุดขีด คว้าเอาปืนได้ก็ยิงไปหนึ่งนัด จากนั้น มันก็กระโจนออกไปในทางเข้าป่า เป็นเงาดำๆ วิ่งหายเข้าไปในป่า


    ส่วนพรานเม่นก็ยังตกใจไม่หาย พยายามรวบรวมสติ สิ่งที่เห็นเมื่อกี้มันคืออะไรกัน แต่สิ่งที่ทำให้แกช็อคยิ่งกว่า เมื่อเหลือบไปเห็นร่างของยายใบ ข้างหลังก้อนหินใหญ่ที่แกเห็นยายใบนั่งอยู่ก่อนหน้า


    ร่างของยายใบถูกฉีกออกเป็นครึ่ง ส่วนหนึ่งหายไป เหมือนโดนสัตว์ตัวใหญ่ฉีกแล้วกินไปครึ่งตัว แกตกใจจบแทบช็อค ยืนนิ่ง ความรู้สึกแน่นจุกอก คับแค้น มันประดังเข้ามาในตัวแก จนสักพัก แกก็รวบรวมสติเดินเข้าไปหา แล้วอุ้มร่างของเมียแก


    แกมีความรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่น้ำตามันกลับไม่ไหลออกมา แผลที่แขน ที่โดนเจ้าสิ่งนั้นกระโจนใส่ก็ยังรู้สึกเจ็บ แกเดินไปเรื่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีก็เริ่มมืด เมื่อชาวบ้านเห็นว่าแกอุ้มอะไรมา ต่างวิ่งเข้ามาถามกันอย่างอุตลุด "เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น ยายใบไปโดนอะไรมา"


    ตอนนี้แกมึนงงไปหมด ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่นึกในใจว่า จะต้องตามไปฆ่ามัน ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไรก็ตาม ที่ฆ่าเมียแก เมื่อพรานเม่นเริ่มตั้งสติได้แล้ว ก็เล่าสิ่งที่เห็นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟัง


    ซึ่งสรุปกันได้ว่าเป็นเสือสมิงแน่ ตอนนี้ตัวแกเองรู้สึกโกรธจัด อยากตามไปฆ่าเสือสมิงตัวนี้ให้ได้ แกเข้าบ้านไปเอาอาวุธล่าสัตว์ทุกอย่าง เพื่อที่จะไปล่าเสือสมิงคืนนี้ พอแกเตรียมตัวเสร็จ แกก็ไปชวนเพื่อนๆพรานในหมู่บ้าน เพื่อไปช่วยกันล่าเสือสมิง


    รวบรวมกันได้ประมาณห้าถึงหกคน พวกผู้หญิงในหมู่บ้านต่างห้ามกันใหญ่ บอกว่ามันดึกแล้ว อย่าออกไปกันเลย มันอันตราย ค่อยไปกันตอนกลางวันจะดีกว่า กลางคืนมันมองไม่เห็น แต่พรานเม่นก็บอกว่า "ต้องตามไปฆ่ามันตอนนี้ มันยังหนีไปไม่ไกล ยังตามรอยมันได้อยู่ พรุ่งนี้ไม่ทันแน่"


    เมื่อเก็บข้าวของกันเสร็จก็ออกเดินทางทันที จุดตะเกียงแก๊ส หรือที่ภาคกลางเรียกกันว่าตะเกียงส่องกบ ที่เอาถ่านหินเป็นก้อนใส่น้ำ ใส่ในถังเหล็กเล็กๆ แล้วจุดไฟที่หัว เพื่อส่องแสงสว่าง


    ทุกคนออกเดินทาง มุ่งตรงไปยังลำธารทางเข้าป่า พอเดินมาถึงลำธาร ก็เดินไปสำรวจร่องรอยของเจ้าเสือตัวนั้น ปรากฏว่า เห็นรอยเท้าเดินเข้าไปในป่าลึก ทุกคนก็เดินตามรอยกันไป ยิ่งเดินก็ยิ่งลึกเข้าไปเรื่อยๆ ป่าเงียบสนิท ไม่มีเสียงร้องของสัตว์ใดๆ


    พรานที่อาวุโสกว่าคนอื่นก็พูดขึ้นมาว่า "ท่าไม่ค่อยดีแล้ว มันเงียบผิดปกติ" แล้วก็เอามือล้วงเข้าไปในย่าม หยิบลูกกระสุนเม็ดสีดำๆ ส่งให้พรานทุกๆคน คนละกำมือ แล้วบอกให้ใช้ลูกกระสุนนี้ยิง ถ้าหากเจอกับเสือตัวนั้นเข้า ทุกคนก็รับคำ ใส่กระสุนเตรียมพร้อม


    ตามรอยกันไปสักพัก เริ่มเห็นอะไรบางอย่าง ทุกคนก็หยุดเดิน มองดูกันอย่างแน่นิ่ง เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้านั้น คือร่างของหญิงคนหนึ่ง นั่นคือยายใบนั่นเอง แกหันมายิ้ม และก็เรียกชื่อพรานเม่นซ้ำๆ ซ้ำไปซ้ำมา


    ส่วนพรานอาวุโสก็พูดว่า "ยิงเลยๆ มันไม่ใช่คน" ทุกคนก็ลั่นไกปืนทันที "ปั้ง..ปั้ง..ปั้ง" ทั้งป่าได้ยินแต่เสียงปืน ส่วนร่างของหญิงสาวก็กลายเป็นร่างของเสือตัวใหญ่ วิ่งกระโจนเข้าไปหลังต้นไม้


    พรานเม่นเห็นดังนั้น จึงวิ่งตามไป พร้อมกับยิงไล่ไปด้วย พรานอาวุโสก็ตะโกนบอกว่า "อย่าตามไปคนเดียว มันมาเพื่อล่อให้พวกเราแตกกลุ่มกัน" ตอนนี้พรานเม่นไม่ฟังใครแล้ว ในใจคิดอย่างเดียว ว่าต้องฆ่ามันให้ได้


    พรานอาวุโสก็ให้พรานอีกคนนึงวิ่งตามไป ย้ำส่งท้ายว่า "ห้ามอยู่คนเดียว ต้องเกาะกลุ่มกันไว้" ไล่ตามมาสักพัก เสือตัวนั้นก็หายไป หันไปมองเพื่อนที่ตามมาก็หายไปด้วย พรานเม่นเดินไปมาแถวนั้นสักพักหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงปืนทางด้านหลัง จึงตกใจ รีบวิ่งตามเสียงปืนนั้นไปดู


    เสียงปืนเริ่มเงียบไป พรานเม่นก็วิ่งมาถึงตรงจุดนั้น เห็นเพื่อนคนหนึ่งกำลังนอนจมกองเลือดอยู่ ตามลำตัวมีแต่แผล รอยโดนข่วนลึก เลือดไหลท่วมเต็มตัว ปากก็ร้องว่า "เจ็บๆๆ" แล้วก็ชี้ไปทางซ้ายมือ บอกว่าเสือมันลากเพื่อนอีกคนไปด้วย


    พรานเม่นบอกให้เพื่อนรออยู่ตรงนี้ก่อน แล้วแกก็วิ่งไปตามทางที่เพื่อนชี้ พรานเม่นเดินตามรอยเลือดไปเรื่อยๆ มันไปหยุดอยู่ตรงต้นไม้ต้นหนึ่ง พลันก็ได้ยินเสียงเบาๆ ร้องให้ช่วยเหลือ


    พรานเม่นค่อยๆเดินไปที่หลังต้นไม้ เห็นเสือตัวนั้นกำลังฉีกร่างของเพื่อนอยู่ แกไม่รอช้า คว้าปืนยิงใส่เสือตัวนั้นเต็มๆ แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือเสียงกรีดร้องของผู้หญิง เหมือนกำลังเจ็บปวดทรมาน เสียงนั้นดังไปทั่วทั้งป่า เป็นเสียงที่โหยหวน จนขนพองไปทั้งตัว


    ตอนนี้ สิ่งที่อยู่ต่อหน้าพรานเม่นนั้นไม่ใช่เสือ แต่ดันกลายร่างเป็นเด็กผู้หญิง นอนชักดิ้นชักงอ ร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วค่อยๆคลานมาตามพื้นดิน พร้อมกับพูดว่า "อย่าทำหนูเลย..อย่าทำหนูเลย..ปล่อยหนูไปเถอะ..หนูเจ็บ" พูดหลายรอบ ซ้ำไปซ้ำมา


    พรานเม่นไม่รอช้า รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่คน ยัดกระสุนเข้ารังเพลิง เตรียมที่จะยิงซ้ำอีกครั้ง คราวนี้ เด็กคนนั้นเห็นพรานเม่นเล็งปืนพร้อมยิง จากเสียงเด็ก ก็กลายเป็นเสียงผู้หญิงแก่ๆ พูดเสียงหยาบๆว่า "เอ็งอยากตายนักใช่มั้ย ข้าจะเอาเอ็งไป เหมือนเมียของเอ็ง" แล้วกระโจนพรวดใส่พรานเม่น


    เมื่อพรานเม่นเห็นคนกลายเป็นร่างเสือ แล้วกระโจนเข้ามา จึงยิงสวนทันที แต่ด้วยความตกใจ กระสุนจึงพลาดเป้าไปโดนขาหน้าของเสือตัวนั้นแทน พรานเม่นคิดในใจว่า แย่ละ ใส่กระสุนไม่ทันแน่


    เจ้าเสือพุ่งตรงมาอยู่ตรงหน้า พรานเม่นรีบยกมือขึ้นป้องหน้าทันที จนโดนกัดเสียเต็มๆแขน แล้วฉีกเอาเนื้อออกไปก้อนหนึ่ง ส่วนแขนอีกข้างโดนข่วนจนแหก พรานเม่นล้มลง ในใจคิดว่าตายแน่นอน ต้องไม่รอดแน่ๆ


    เมื่อล้มลง เสือตัวนั้นก็พุ่งตรงเข้ากัดฉีกใบหน้า จนลูกกะตาหลุดเข้าไปในปากเสือข้างหนึ่ง เลือดท่วมตัว ตามัว คิดว่าไม่รอดแน่แล้ว คิดถึงพ่อคิดถึงแม่ ด้วยความไม่อยากตาย สติและแรงเฮือกสุดท้าย คว้ามีดที่เอว ที่ส่วนมาก พรานจะมีมีดหมอพกติดตัวกันทุกคน


    พรานเม่นใช้มีดหมอ จ้วงแทงไปที่คอของเสือตัวนั้นทันที แทงเข้าไปซ้ำๆ จนเสือตัวนั้นแน่นิ่งและหยุดหายใจ พรานเม่นรีบยันตัวลุกขึ้น ไปคว้าตัวเพื่อน แล้วพากันเดินออกไป จนไปเจอกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน พร้อมเลือดเต็มตัว กลุ่มเพื่อนที่เห็นต่างพากันยืนอึ้งกันสักพัก แล้วก็พากันออกมาจากป่า


    รุ่งเช้า ชาวบ้านก็พากันเข้าไปในป่า เพื่อไปดูร่างของเสือตัวใหญ่ที่นอนตายอยู่ แต่ชาวบ้านทุกคนก็ต้องรู้สึกตกใจ ร่างเสือที่นอนตายอยู่ บัดนี้ กลายเป็นร่างของหญิงแก่คนหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครรู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน


    พวกพรานที่เข้าไปล่าเสือเมื่อคืน ต่างพูดเป็นเสียงแข็งว่า ก่อนเดินออกจากป่า ยังเห็นเป็นเสือตัวใหญ่ นอนจมกองเลือดอยู่เลย จากการที่คนแก่ๆ และพวกผู้ใหญ่พูดกัน คิดว่าน่าจะเป็นพวกเล่นของ จนของเข้าตัว หรืออาจจะเป็นร่างของผู้หญิงที่เคยถูกเสือตัวนี้ฆ่าตาย และกลับเข้ามาสิงในร่างของเสือ


    จากเหตุการณ์นั้น พรานเม่นได้เสียแขนและลูกกะตาไปอย่างละข้าง เสียภรรยา และเสียเพื่อนไปอีกหนึ่งคน และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด


    เรื่องเล่าจากเพจ คนอ่านผี


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Sayan Rujiramora


    Silver Doctors

    Egon von Greyerz BOMBSHELL: MOST Of The United States’ 8,000 Tons Of Gold IS IN CHINA!

    by Egon von Greyerz of Gold Switzerland. Feb 15, 2019


    ทองคำเกือบทั้งหมด 8,000 ตันของสหรัฐ ตอนนี้อยู่ที่จีน ...และสหรัฐไม่มีวันได้คืนแล้ว


    ....เมื่อราคาทองข้ามเส้น $1,350/ออนซ์ (ในไม่เกิน 3 เดือนนี้) จะเกิด PANIC และเกิดการช้อร์ตอย่างถาวร!!


    THE CHINESE GOLD LINE AND MAGINOT GOLD LINE.


    มันมีช่วงเวลาวิกฤติที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้ ผู้เขียนจะขอพูดถึงเรื่องแนวทางของทองคำสองแนวทางที่เห็นว่ามันสำคัญมาก เพราะทั้งสองจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในอีกหลายปีจากนี้ ...แนวทางแรกคือ Chinese Gold Line ที่เกี่ยวพันอย่างมากกับประวัติศาสตร์ของจีน แนวทางนี้จะมีผลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในโลกในไม่ช้านี้ ...กับ Maginot Gold Line ซึ่งก็จะมีผลต่อโลกในอีกนับสิบปี


    ประวัติศาสตร์ของจีนกับทองคำเป็นเรื่องที่ชวนหลงไหล ..และจะน่าตื่นใจมากขี้นเมื่อรวมกับเรื่องที่ญี่ปุ่นเข้ามาปล้นทองของจีนเข้าไปด้วย ญี่ปุ่นสนใจทองคำของจีนมาตั้งแต่สงคราม Sino-Japanese ปี 1894 ญี่ปุ่นใช้เวลาสำรวจแหล่งทองคำในแมนจูเรียตั้งแต่นั้นจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ...ว่ากันว่าญี่ปุ่นปล้นเอาทองคำจำนวนมากจากเหมืองของจีนตอนเหนือ


    ไม่เพียงเท่านั้น ในปี 1947 ในช่วงสงครามกลางเมืองของจีนกำลังระอุ ..เมาเจ๋อตุงและพวกคอมมูนิสต์ขับไล่เจียงไคเช็คออกจากอำนาจ ญี่ปุ่นผู้รุกรานได้ขโมยทองคำจากกรุงนานกิงถึง 6,600 ตัน มูลค่าปัจจุบันเท่ากับ $280,000 ล้าน ...(ผมแปลตามต้นฉบับครับ แต่คิดว่าข้อมูลเรื่องเวลาน่าจะผิด..ผู้แปล)...


    THE US GOLD IS IN CHINA


    สหรัฐเป็นประเทศที่ถือครองทองคำมากที่สุดในโลก ที่ 8,000 ตัน แต่ทองส่วนใหญ่คงไปอยู่ที่จีนและเอเซียหมดแล้ว เพราะสหรัฐมีแต่จะขายและจำนองทองคำที่มี..โดยไม่คิดที่จะซื้อหรือไถ่ถอนคืนอีกเลย ทั้ง Fed และสาขาต่างๆปล่อยทองในตลาดทำกำไรไปแล้ว ...ทองเหล่านี้เคยรออยู่ในตลาดลอนดอนและนิวยอร์คในคลังของ LBMA ..แต่กลุ่มประเทศสมาชิกของ Silk Road รวมทั้งรัสเซีย ก็พร้อมจะรอซื้อทองคำ physical เท่าที่จะซื้อได้.. LBMA ก็ออกเอกสาร IOU ให้กับธนาคารกลางของสหรัฐ และขายทองให้พวกตะวันออกไป และก็ไม่ต้องหวังว่าจะซื้อคืนได้จากตะวันออกอีกต่อไป ..LBMA ไม่สามารถหามาคืนให้สหรัฐได้แล้ว กระดาษ IOU ใบนั้นก็เป็นเหมือนเศษกระดาษเท่านั้นเอง ทั้งหมดนี้จะทำให้เซฟเก็บทองทุกใบของโลกตะวันตกว่างเปล่า นำไปสู่การล่มสลายของสกุลเงินของตน และราคาทองคำที่จินตนาการไม่ถูก


    THE YAMASHITA GOLD


    ทองคำที่ญี่ปุ่นชิงไปจากจีนครั้งนั้นกลายเป็นส่วนเสี้ยวหนึ่งของทองยามาชิตะ นั่นคือทองที่ญี่ปุ่นปล้นสดมภ์ไปทั่วเอเซียในช่วงสงครามทั้งจาก จีน เกาหลี อินโดนีเซีย และมาเลเซีย (ภาพที่ 1)


    ทั้งหมดส่วนใหญ่ถูกซุกไว้ในฟิลิปปินส์และในญี่ปุ่น (เคยมีข่าวที่กาญจนบุรีด้วย) นายพลยามาชิตะเป็นผู้ควบคุมการสร้างอุโมงค์ที่ใช้ในการเก็บซ่อนทองคำและทรัพย์สินอื่นๆ การปล้นสดมภ์และซุกซ่อนทรัพย์สินเหล่านี้เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณของพวกทหารญี่ปุ่น ทองคำส่วนใหญ่ถูกฝ่ายอเมริกันค้นพบและมีรายงานว่าถูกใช้ไปในปฏิบัติการมืดทั่วโลก


    CHINESE FIAT MONEY IN 740 BC


    จีนจ่ายค่าบทเรียนถึงความสำคัญของทองคำด้วยความเจ็บปวดมาแล้ว จีนเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้ระบบเงินเฟียตในสมัยราชวงศ์ถัง 740 ก่อนคริสต์กาล ค่าเงินเฟียตของจีนคงความเสถียรจนมาถึงยุคของราชวงศ์หยวนในช่วงศตวรรษที่ 13-14 นั่นเป็นครั้งแรกที่เกิดเงินเฟ้อรุนแรงในจีนจากการพิมพ์เงินมากเกินไปเพื่อใช้จ่ายในการสงคราม


    ในช่วง 1930s และ 40s ค่าเงินของจีนลดลงไปจนหมดสิ้น เมื่อตอนที่จะสิ้นยุคของจอมพลเจียงไคเช็ค เขาคือประธานาธิบดีของจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่ปี 1928-1949 ..เจียงเริ่มต้นด้วยความยิ่งใหญ่อลังการ เพียงแค่ถึงปี 1929 หนี้ของประเทศก็เท่ากับ 49% ของรายรับรัฐบาลแล้ว สภาวะการเงินเลวร้ายลงอีกหลังการรุกรานของญี่ปุ่นในปี 1932 ..ในช่วงท้ายๆของรัฐบาลเจียง เศรษฐกิจจีนล่มสลายและการพิมพ์เงินเป็นไปอย่างมหาศาล ..$1 ซึ่งเคยมีมูลค่า 3.4 หยวนในปี 1937 กลายเป็น 23 ล้านหยวนในปี 1949


    CHINESE GOLD LINE


    ในตอนนั้นเองที่ชาวจีนเริ่มรู้ซึ้งถึงความสำคัญของทองคำช่วงที่เกิดเงินเฟ้อรุนแรง เมื่อสภาพเศรษฐกิจเลวร้ายลงอย่างรุนแรง ..ในเดือนธันวาคม 1948 เมื่อเงินหมดค่าลง รัฐบาลจีนคณะชาติยุคนั้นตัดสินใจแจกทองคำให้ประชาชนคนละ 40 กรัม (1 oz.=31.1 กรัม) จนเกิด panic แย่งทองช่วยชาติกัน (ภาพที่ 2)


    THE CHINESE LEARNT A VALUABLE LESSON FROM THE 1930s HYPERINFLATION


    ชาวจีนยุคนั้นบอกเล่าสู่คนรุ่นหลังถึงความยากลำบากจากผลของเงินเฟ้อรุนแรง ทั้งความยากจน อดหยาก โรคระบาด ....นี่เป็นสาเหตุหลักที่ชาวจีนสะสมทองคำมากกว่าทุกๆประเทศ


    ตั้งแต่ยุคสงครามและการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด จีนใช้เวลาไม่กี่สิบปีขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ตรงข้ามกับพวกชาวตะวันตก ชาวจีนมีบทเรียนที่เจ็บปวดมาแล้วว่า เงินที่หาได้มาไม่ควรนำไปใช้จ่ายในการบริโภคมากเกินไป นั่นเป็นเหตุผลที่ชาวจีนเก็บสะสมทองคำเป็นการออมระยะยาว


    THE WEST DOESN’T UNDERSTAND GOLD


    การสะสมทองคำเป็นสิ่งที่ชาวตะวันตกรังเกียจมาก ไม่มีใครเลยที่คิดจะออมเงินเป็นทองคำ ตรงกันข้ามชาวอเมริกันและยุโรปทั่วๆไปที่ใช้จ่ายเงินที่มีจนหมดและยืมเงินเพิ่มเพื่อการบริโภค เรียน ซื้อรถหรือบ้าน


    ดังนั้น Chinese Gold Line เป็นแนวทางที่ไม่มีใครในโลกตะวันตกจะเข้าใจในหลักการได้เลย แนวทางนี้ชี้ชัดถึงสิ่งที่ตามมาจากการสิ้นหวังของผู้คนหลังจากช่วงเวลาของความเลวร้ายด้านการเงินของประเทศในสถานการณ์เดียวกับที่โลกปัจจุบันกำลังเผชิญอยู่ .....หลังจากผ่านไป 100 ปี แห่งความพินาศจากผลของเงินกระดาษ..การสร้างเครดิตและการพิมพ์เงินจำนวนมหาศาล เราเข้าใกล้จุดที่ชาวโลกจะพากันสิ้นหวังและแสวงหา real money และทองคำแล้ว แต่จุดนั้นมันสายเกินไป


    NO GOLD SHOPS IN THE WEST


    ในลอนดอนทุกวันนี้ มีร้านที่เป็น specialised gold shop อยู่แค่ 2 แห่งที่ประชาชนยังสามารถซื้อทองคำแท่งและเหรียญได้ ในซูริคก็มีอยู่ 2 แห่ง เช่นเดียวกับในเมืองใหญ่ทั่วไปในโลกตะวันตก ไม่กี่สิบปีก่อน ธนาคารของสวิสทุกแห่งจะเป็นแหล่งซื้อขายทองคำแท่ง แต่บัดนี้ไม่มีเหลือแล้ว ..ธนาคาร UBS เคยมีผู้เชี่ยวชาญประจำอยู่ที่ gold counters ของตนในหลายสาขา แต่ไม่เหลือแล้ว


    ภายในไม่กี่ปีจากนี้ คุณจะได้เห็น panic แบบที่เห็นที่จีนในร้านทองที่ยังคงเหลืออยู่ แต่จะร้ายแรงกว่าเพราะไม่มีสต้อคเหลือพอ ...และกว่าที่ผู้คนจะตื่นรู้ว่าทองคำนี่แหละจะเป็นทางรอดเดียวของวิกฤติที่กำลังจะมา ก็จะไม่มีทองคำเหลือไม่ว่าจะเป็นที่ราคาเท่าไหร่


    MAGINOT GOLD LINE


    แนวทางที่สองที่พูดถึง คือ Maginot Gold Line ..Maginot เป็นรัฐมนตรีสงครามของฝรั่งเศสก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เขาสร้างค่ายทหารต่อกันเป็นแนวที่ซับซ้อนเพื่อป้องกันฝรั่งเศสจากการรุกรานของเยอรมัน เรียกว่า Maginot Line ..แต่เยอรมันเข้าโจมตีจากทางเหนือผ่านฮอลแลนด์และเบลเยี่ยม บุกผ่านเข้าทางป่าอาร์เดนส์จนได้...


    Maginot Line จึงถูกนำมาเปรียบเป็น ..."ยุทธศาสตร์ที่บันดาลใจให้เกิดความเชื่อผิดๆด้านความมั่นคง"...


    Maginot Gold Line ที่ว่านี้ก็คือแนวป้องกันราคาทองคำมาตั้งแต่ปี 2013 ตามขาร์ต (ภาพที่ 3) ราคาทองคำถูกกดให้ต่ำกว่าระดับ $1,350 มาเป็นเวลา 5 1/2 ปี เส้นนี้ถูกพยายามทำลายในปี 2016 และ 2018 แต่ไร้ผล ..ไม่ว่าแนวต้านนี้จะแข็งแกร่งจริงหรือเป็นการสร้างของพวก bullion banks ก็คงไม่แปลก ..แนวต้านนี้ต้องถูกทลายลงแน่ในปี 2019 โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนจากนี้ ..และถ้าแนวต้านนี้พังลง ราคาทองจะต้องมี new highs หลายครั้งแน่ๆ


    A BREAK OF THE MAGINOT GOLD LINE WILL LEAD TO SEVERE GOLD SHORTAGES


    และเมื่อถึงตอน Maginot Gold Line พังลง มันจะสร้างเงื่อนไขให้เกิด panic และเกิดการช้อร์ตของทองคำอย่างถาวร ..ความคิดของชาวตะวันตกที่ว่า การถือครองทองคำเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์เป็นความคิดที่อันตรายมาก


    ต้องไม่ลืมว่า ทองคำไม่ใช่สิ่งที่ถือไว้เพื่อการลงทุน แต่เป็นการรักษาหรือการประกันความมั่งคั่งในยามวิกฤติ ..ไม่กลายเป็นแบบเวเนซูล่าเสียก่อน


    Egon von Greyerz

    Founder and Managing Partner

    Matterhorn Asset Management

    Zurich, Switzerland

    Phone: +41 44 213 62 45


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! สถานที่ต้องห้ามสำหรับคู่รักหนุ่มสาวในไต้หวัน ลือกันว่าไปมาแล้วมักจะแยกทางกัน ไปดูกันว่ามีที่ใดบ้าง?...#RtiFanpage

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาตรา 26 วรรคสอง แห่ง ร่าง พ.ร.บ. ข้าว ได้เขียนยกเว้นในกรณีชาวนาที่เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้กันเองแล้วอย่างชัดเจน โดยไม่ถือเป็นความผิด และไม่มีการลงโทษทั้งจำคุกหรือปรับใด ๆ ดังนั้น ตามหัวข่าวที่แชร์กัน จึงเป็นเท็จ

    ชัดเจนอีกด้วยว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็ไม่ได้เอื้อนายทุนยักษ์ใหญ่ ตามที่ถูกกล่าวหา เพราะถ้าชาวนามีเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี ก็สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างอิสระ เว้นแต่ชาวนาจะไปทำในลักษณะที่เป็นผู้ประกอบการเพื่อค้ากำไรเสียเอง เช่นนี้ก็ต้องขอรับรองพันธุ์ข้าวก่อนตามมาตรา 26 เท่านั้น
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    China Xinhua News

    สุดยอด! นักวิทย์จีนพัฒนา “มุ้งลวด” กรองฝุ่นพิษ PM2.5 ปลอดภัยในหนึ่งนาที
    .
    คณะนักวิทยาศาสตร์จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนามุ้งลวดหน้าต่างอัจฉริยะ ที่สามารถดักจับ “หมอกพิษ” และลดความเข้มข้นของอนุภาคขนาดเล็กอันเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอย่างพีเอ็ม 2.5 (PM2.5) ในพื้นที่ร่มสู่ระดับปลอดภัยในหนึ่งนาที
    .
    วัสดุใหม่ดังกล่าวเป็นผลงานของทีมวิจัยนำโดยนายอี้ว์ ซูหง อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน (USTC) เมืองเหอเฝย มณฑลอานฮุยทางจีนตอนกลาง
    .
    การวิจัยซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสารไอไซเอนซ์ (iScience) ระบุว่า “มุ้งลวดนาโนไนลอน” มีประสิทธิภาพดักจับพีเอ็ม 2.5 สูงถึง 99.65 เปอร์เซ็นต์ และสามารถลดความเข้มข้นจาก 248 เป็น 32.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรใน 50 วินาที
    .
    ขณะเดียวกันมุ้งลวดนาโนไนลอนพร้อมเคลือบย้อมสารเทอร์โมโครมิก (thermochromic) ยังสามารถปรับเปลี่ยนความเข้มข้นของแสงสว่าง ที่สาดส่องเข้ามาภายในพื้นที่ร่มอีกด้วย
    .
    หากเทียบกับมุ้งลวดกรองหมอกพิษแบบเก่า มุ้งลวดแบบใหม่ยังมีราคาถูกกว่า สามารถใช้งานซ้ำ และผลิตในปริมาณมากง่ายกว่า โดยใช้ต้นทุนเพียง 100 หยวน (ราว 500 บาท) และเวลา 20 นาที ในการผลิตมุ้งลวดขนาด 7.5 ตารางเมตร
    .
    ส่วนวิธีการทำความสะอาดมุ้งลวดอัจฉริยะนี้ก็แสนง่ายดาย เพียงนำมาแช่เอทานอล (ethanol) หรือเอทิลแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน 20 นาทีเท่านั้น
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers
    #SUN
    // หลักฐานชี้ค่าคงที่พื้นฐานใหม่ของดวงอาทิตย์ //
    13/02/19
    หลังจากตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมในระยะเวลา 10 ปี ทีมงานจากภาควิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และวิศวกรรมไฟฟ้าของมหาวิทยาลัยนอร์ธัมเบรีย ในเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ ได้เผยการค้นพบว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในโคโรนา (corona) ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศนอกสุดของดวงอาทิตย์ ทำปฏิกิริยากับคลื่นเสียงที่ปล่อยออกมาจากด้านในของดวงอาทิตย์ แสดงให้เห็นว่าคลื่นแม่เหล็กของดวงอาทิตย์มีพฤติกรรมแตกต่างจากที่เชื่อกันอยู่ในปัจจุบัน
    ทีมวิจัยอธิบายว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่รู้จักกันในชื่อ Alfvenicwave มีบทบาทสำคัญในการขนส่งพลังงานรอบดวงอาทิตย์และระบบสุริยะ โดยก่อนหน้านี้เคยคิดกันว่าคลื่นนี้เกิดขึ้นที่พื้นผิวของดวงอาทิตย์ ซึ่งมีไฮโดรเจนเดือดและมีอุณหภูมิสูงมาก ได้สร้างความปั่นป่วนต่อสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ทว่านักวิจัยกลับพบหลักฐานว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ายังทำปฏิกิริยาในชั้นบรรยากาศโดยคลื่นเสียงที่รั่วไหลจากด้านในดวงอาทิตย์นั่นเอง
    คลื่นเสียงจะทิ้งร่องรอยบนคลื่นแม่เหล็ก แสดงให้เห็นว่าโคโรนาทั้งหมดของดวงอาทิตย์กำลังสั่นไหวในลักษณะที่เป็นกลุ่มเพื่อตอบสนองต่อคลื่นเสียง เป็นสาเหตุให้สั่นสะเทือนในช่วงความถี่ที่ชัดเจนมาก การตรวจสอบนี้ชี้ว่านี่คือค่าคงที่พื้นฐานของดวงอาทิตย์ และอาจเป็นค่าคงที่พื้นฐานของดาวดวงอื่นด้วยเช่นกัน.
    ภาพ : Northumbria University, Newcastle
    เครดิต : thairath
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai


    ... “แคนาดา จีน สัมพันธ์ร้าวหนัก: ลามสู่การศึกษา ศาสนา, หวังดึงพันธมิตรออกจากจีน”


    ... หลังจากที่ “แคนาดา” ถูก “อเมริกา” ดึงเข้ามาเป็นสมุนบริวารใน “สงครามการค้าจีน อเมริกา” นั้น โดยการสั่งให้แคนาดาจับตัวลูกสาว “หัวเหว่ย” ในแคนาดาจนทำให้ความสัมพันธ์จากที่แคนาดาเป็นกลาง ต้องถูกลากเข้าข้างอเมริกาไปแล้ว จนถึงวันนี้ยังไม่ดีขึ้น


    ... และก็จะหนักตกต่ำลงมากกว่านั้น เมื่อความร้าวฉานระหว่างสองชาติจีนและแคนาดา กำลังจะเสื่อมทรามลงอีก ขยายมาอีกมิติ คือการเมือง การศึกษาและศาสนา


    ... ล่าสุดต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2019 นั้น มีนางสาว Rukiye Turdush นักศึกษาสายกิจกรรมชาวจีนเชื้อสายอุยกูร์ ได้มีโอกาศได้ปราศรัยในมหาวิทยาลัยชื่อดังสองแห่งในแคนาดา ทั้ง University of Toronto และ McMaster University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่กว่าร้อยปี และรัฐบาลแคนาดาให้การสนับสนุน


    ... การได้มีโอกาสปราศรัยเรื่องอุยกูร์ของนักศึกษานั้น ทำให้นักศึกษาจีนคนอื่นได้แจ้งไปทางสถานทูตและกงศุลจีนในแคนาดาแล้ว เพราะว่าไม่พอใจและไม่เหมาะสม


    ... ทางการจีนก็บอกนุ่มๆว่าแคนาดาก็รู้เรื่องนี้ดีว่า “การปกป้องอธิปไตยและต่อต้านกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเป็นจุดร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศของโลกและเป็นจุดยืนที่รัฐบาลแคนาดาสนับสนุน” ( เหมือนกดดันแบบอ่อนๆ ว่าการที่แคนาดาปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลของประเทศมาปราศรัยในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของตนนั้น ไม่เหมาะสมอย่างมาก )


    ... ล่าสุดสัปดาห์นี้ ก็มีการผลักดันส่งเสริมให้นักศึกษาชาวจีนเชื้อสายธิเบตให้เป็นประธานนักศึกษาของมหาวิทยาลัยในโตรอนโต้ด้วย ที่นักศึกษาจีนมีการลงชื่อนับหมื่นคนไม่เห็นด้วยอย่างมาก เพราะไม่พอใจที่จีนกำลังถูกเล่นงานเรื่องการปฏิบัติกับชนกลุ่มน้อยในประเทศ ทั้งๆที่จีนก็บอกว่าปัจจุบันนี้มีการปฏิบัติต่อชาวชนกลุ่มน้อยเหล่านั้นอย่างดีไม่ผิดกฏของสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด ( ตะวันตกกำลังจะเอาเรื่องนี้เป็นประเด็นในการโจมตีจีนด้วย )


    ... จีนบอกว่า “รัฐบาลจีนปกป้องเสรีภาพในความเชื่อทางศาสนาและสิทธิที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของผู้คนในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ในทิเบตและซินเจียงตามกฎหมาย”


    ... และก็มีคำแถลงเสริมว่า “แต่ทางการจีนได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายและลัทธิหัวรุนแรงใน ซินเจียง” ( โดยทั่วไปให้สิทธิอิสระทางความเชื่อทุกอย่าง แต่ถ้ามาในแนวสร้างความวุ่นวายรุนแรงเพื่อขอแยกดินแดนก็ต้องมีมาตรการอีกแบบหนึ่งเพื่อรักษาความมั่นคงของชาติเอาไว้ ซึ่งการก่อการร้ายอเมริกาเรียกร้องไปทั่วโลกเองในการปราบปราม )


    ... แต่ “จีน” ก็เหมือนรู้ว่ามาแผนนี้เพื่อจะทำให้ จีนทะเลาะหรือเสีย “พันธมิตรประเทศกลุ่มอิสลาม” ไป ตามแผนการของประเทศตะวันตกที่ต้องการ “ดึงพันธมิตรออกจากจีน” แบบที่ดึงแคนาดาออกจากจีนได้สำเร็จ โดยล่าสุด “ตุรกี” ก็ออกมาบอกว่าเรื่องเกี่ยวกับอุยกูร์นั้น ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง “จีนและตุรกี" ร้าวฉานลงแต่อย่างใด


    … “นักศึกษาจีน” เป็นลูกค้ารายใหญ่ จำนวนมากที่ลงทะเบียนเรียนหาเงินมาเลี้ยงและเรียนที่มหาวิทยาลัยในแคนาดา จากข้อมูลของสำนักการศึกษานานาชาติของประเทศแคนาดาพบว่ามีนักเรียนจากประเทศจีนในแคนาดามากกว่า 140,000 คนในปี 2017


    .


    ... Earlier this week, a group of Chinese students at McMaster University in Ontario were infuriated when they found out Rukiye Turdush – a Uygur woman they considered a separatist – had been given the opportunity to deliver a speech on campus about the mass internment of Muslims in the Xinjiang region, in China’s far west.

    Also this week, a Tibetan woman seeking to become student union president at the University of Toronto at Scarborough was targeted in a petition signed by nearly 10,000 people who were unhappy about her pro-Tibet stance.ms in the Xinjiang region, in China’s far west.

    ... A large number of Chinese students are enrolled at Canadian universities. According to the Canadian Bureau for International Education, there were more than 140,000 students from China in Canada in 2017.

    As the number of Chinese students at foreign universities has grown, the Washington Post reports that educators have expressed concern that student activism carried out with the support or direction of Chinese officials could corrode free speech by making students and scholars, particularly those with family ties to China, afraid to criticise the Communist Party line.


    https://www.scmp.com/news/china/dip...triotic-actions-chinese-students-who-reported


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk


    สัญญาณอื่น

    IMG_9463.JPG IMG_9464.JPG
    ดาวเคราะห์น้อยจะบล็อกดาวที่สว่างที่สุดของเราในวันจันทร์และ เกิดคราส (Eclipse) อเมริกาเหนือ


    การถูกบดบังที่ผิดปกติของดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืนจะเกิดขึ้นประมาณ 22:30 น. MST ในเย็นวันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ (12:30 น. เวลาไทย วันที่ 19 กุมภาพันธ์ )

    .

    4388 Jürgenstock - ดาวเคราะห์น้อยกว้าง 3.1 ไมล์จะบินข้ามด้านหน้าของ Sirius และปิดกั้นแสงบางส่วน นั่นจะทำให้เงาเล็ก ๆ คลุมเครือทั่วโลกในระยะเวลา 21 นาทีและข้ามทวีปอเมริกาเหนือ


    Another Sign.


    An Asteroid Will Block Our Brightest Star on Monday and Eclipse North America.


    This unusual brief occultation of the brightest star in the night sky will occur around 10:30 p.m. MST on Monday evening, February 18, where it will.briefly blink out of existence.

    .

    4388 Jürgenstock – a 3.1-mile-wide asteroid – will fly across the front of Sirius and block some of its light. That will make a small, fuzzy shadow across Earth over the course of 21 minutes and cross North America.


    https://www.sciencealert.com/an-ast...star-on-monday-and-astronomers-need-your-help


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2019
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แดง วงศ์ทวิชาติ


    17 Feb 2029

    #eruption #Alret #Earthqaukes

    #ดาวเคราะห์ชุมนุมตะวันออกเฉียงใต้

    #SuperFullmoon

    กิจกรรมแผ่นดินไหวได้เกิดขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา นี่น่าจะเปลี่ยนไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

    ระวังกิจกรรมแผ่นดินไหวขนาดใหญ่..!


    > ที่สำคัญที่สุดจะมาจากวันที่ 19 ถึง 21


    <> เพิ่มเติม

    วันนี้ 21.35น.

    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.4 ลึก เกือบ 400 กม. ที่ปาปัวนิวกินี

    แน่นอนว่าระดับลึกนี่ก็ผิดปกติแน่ๆ. แนวใดจะไหวรุนแรงก่อน

    มาลุ้นกันให้ผ่าน ช่วงนี้ไปได้..!!!!


    <> ย้ำแนวมหาสมุทรอินเดีย หรือทางตะวันตกจากปลายสุมาตรา ไล่ขึ้นเหนือไปถึงแนว หิมาลัย มีลุ้นพลิกแรง..!!!!

    Cr. คุณมาร์...


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150

แชร์หน้านี้

Loading...