ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_9362.JPG
    (Feb 15) รายงานพิเศษ: ไม่มีจะกินแล้ว! เปิดบทเรียน พิษประชานิยมอาร์เจนฯ : ชาวอาร์เจนตินาพร้อมใจกันเดินขบวนประท้วงใน 50 เมืองทั่วประเทศ รวมทั้งในกรุงบัวโนสไอเรส เรียกร้องให้ประธานาธิบดี เมาริซิโอ มาครี ประกาศภาวะฉุกเฉินทางอาหารและหยุดขึ้นราคาสาธารณูปโภค เนื่องจากส่วนใหญ่ตกงานจนแทบไม่มีเงินประทังชีวิต โดยนับตั้งแต่ประธานาธิบดีมาครีขึ้นดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2015 ชาวอาร์เจนตินาต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 2.1% ค่าแก๊ส 3% แล้ว



    ทั้งนี้ หากย้อนไปในช่วงศตวรรษที่ 19 อาร์เจนตินายังเป็น 1 ใน 10 ประเทศร่ำรวยเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าไม่ขาดสาย แต่ กลับเป็นช่องว่างให้คนรวยกลุ่มหนึ่งเข้ามาครอบงำประเทศจนเกิดความเหลื่อมล้ำ ในปี 1916 ฮิโปลิโต อิริโกเยน นักการเมืองคนหนึ่งได้ชูนโยบายประชานิยมขึ้นมาเพื่อโค่นล้ม กลุ่มคนรวย ปรากฏว่าเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำและเริ่มแจกทุกอย่างให้ชาวอาร์เจนตินาทันที ต่อมาผู้นำที่ยังครองอำนาจก็ใช้วิธีเดียวกันนี้จนชาวอาร์เจนตินาเสพติดของฟรี



    จากนั้นไม่นานเงินสำรองของประเทศ ก็หมดลงจนต้องกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ เมื่อไม่มีใครให้กู้อีกต่อไปก็เริ่มพิมพ์ธนบัตรออกมาใช้ตามใจชอบ ในที่สุดอาร์เจนตินาก็ประสบภาวะเงินเฟ้อจนนำไปสู่การล้มละลาย ในปี 1956 หรือ 40 ปี หลังเริ่มใช้นโยบายประชานิยม



    เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของอาร์เจนตินายังถูกอภิมหาวิกฤตเศรษฐกิจ (Great Depression) ระหว่างปี 1974-1990 เล่นงานจนเศรษฐกิจล่มสลาย อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นปีละ 3,000% และมีปัญหาลากยาวมาถึงปี 2002 ระหว่างนั้นรัฐบาลก็เริ่มกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มากระตุ้นเศรษฐกิจ



    เมื่อปีที่แล้วเศรษฐกิจอาร์เจนตินา ก็ทรุดลงอีก เมื่อค่าเงินเปโซลดลงไปครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ประกอบกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นไปแตะ 48% บีบบังคับให้ประธานาธิบดีมาครีจำต้องกู้เงินจาก IMF อีก 56,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นเงินกู้ก้อนใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ IMF ภายใต้ข้อตกลงว่าอาร์เจนตินาต้องรัดเข็มขัด ปล่อยให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด และตัดลดการอุดหนุนต่างๆ จากนโยบายประชานิยม โดยธนาคารกลางก็ห้ามแทรกแซงค่าเงิน ข้อแลกเปลี่ยนของ IMF ส่งผลให้ราคาสินค้าทะยานขึ้นต่อเนื่อง ค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินายิ่งต่ำลง และเมื่อค่าเงินต่ำลงแล้ว ต่างชาติ ก็จะเข้าซื้อกิจการต่างๆ ในอาร์เจนตินาในราคาแสนถูก ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญก็มองว่าเงินกู้ของ IMF เป็นกับดักที่ร้ายกาจ และอาจจะทำให้เศรษฐกิจของอาร์เจนตินาย่ำแย่ลงอีก เช่น ในปี 2001 ที่อาร์เจนตินาประสบวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่ผลักให้ประชาชนนับล้านตกอยู่ในฐานะยากจน 3 ปีหลังจาก IMF เข้ามาแทรกแซง ซึ่งในภายหลังผู้ตรวจสอบภายในของสถาบันแห่งนี้ยอมรับว่าประเมินการเติบโตเศรษฐกิจและความสำเร็จในการปฏิรูปเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาผิดพลาด จึงยังปล่อยเงินกู้ ให้อาร์เจนตินาทั้งที่มีความสามารถในการ ชำระหนี้ต่ำ



    ทั้งนี้ เว็บไซต์ publicfinanceinter national.org ระบุว่า สหรัฐคือหุ้นส่วนใหญ่ในกองทุน IMF (ราว 16%) ซึ่งมีอำนาจมากพอที่จะชี้เป็นชี้ตายมาตรการรัดเข็มขัดของประเทศ ผู้กู้ ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะเป็นประโยชน์กับสหรัฐไม่ทางตรงก็ทางอ้อม


    Source: M2F


    - Argentines protest in push for 'food emergency' declaration: https://www.channelnewsasia.com/new...ush-for--food-emergency--declaration-11241560


    ttps://www.facebook.com/277100888976077/posts/2395507893802022?sfns=mo
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Feb 15) ธปท.จับตาสินเชื่อรถยนต์ หลังพบสัญญาณเอ็นพีแอลขยับ : นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ ปี 2561 ว่าสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัว เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน สอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจ ด้านคุณภาพสินเชื่อค่อนข้างทรงตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการบริหารคุณภาพพอร์ตสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์


    "ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาพรวมของธนาคารพาณิชย์มีปัจจัยคือ สภาพเศรษฐกิจโดยรวม ดิจิทัลเข้ามามีความสำคัญต่อภาคธนาคารมากขึ้น เกณฑ์กำกับดูแลทั้งมาตรฐานสากลและการดูแลภายใน เช่น มาตรฐาน IFRS 9 และมาตรการ LTV รวมทั้งนโยบายของสถาบันการเงินเองที่หันมาบริหารจัดการสินทรัพย์ของตัวเองมากขึ้นแทนการขายสินทรัพย์ที่มีปัญหาออกไป"


    นายสมชาย กล่าวอีกว่า ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก รายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายการกันสำรองที่ลดลง ทั้งนี้ ระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ โดยมีเงินสำรอง เงินกองทุน และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถรองรับการขยายตัวของสินเชื่อใน ระยะต่อไปได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้


    สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.4 ในปีก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 6.0 สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นมาจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคใน ทุกพอร์ตซึ่งสอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดี และสินเชื่อธุรกิจในหลายประเภทที่ส่วนใหญ่ มาจากการใช้สินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่และ SME ที่วงเงินค่อนข้างสูง แม้ว่าธุรกิจขนาดใหญ่บางส่วนจะมี การระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้น



    สินเชื่อธุรกิจ (ร้อยละ 65.9 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 4.4 โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) ขยายตัวร้อยละ 4.1 จากสินเชื่อภาคบริการในธุรกิจที่พักแรม ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ บางรายที่ซื้อกิจการเครือโรงแรมในต่างประเทศ ประกอบกับการขยายตัวของสินเชื่อในภาคพาณิชย์ และภาค อสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก สำหรับสินเชื่อธุรกิจ SME (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) ขยายตัวร้อยละ 4.5 โดยยัง ขยายตัวดีในธุรกิจพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง ส่วนใหญ่จาก SME ที่มีวงเงินสินเชื่อสูง




    สินเชื่ออุปโภคบริโภค (ร้อยละ 34.1 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนในทุกพอร์ต มาอยู่ที่ร้อยละ 9.4 โดยหลักจาก




    1) สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และการปล่อยสินเชื่อ เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ก่อนมาตรการ Loan To Value (LTV) จะบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2562




    2) สินเชื่อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น หลังสิ้นสุดระยะเวลาถือครอง 5 ปี ของมาตรการรถยนต์คันแรก

    และ

    3) สินเชื่อส่วนบุคคลทุกประเภท อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีบ้านเป็น หลักประกัน สินเชื่อทะเบียนรถ และสินเชื่อสวัสดิการ

    คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นปี 2561 สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ต่อสินเชื่อรวม อยู่ที่ร้อยละ 2.93 ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ร้อยละ 2.91 โดยมี

    ยอดคงค้าง NPL อยู่ที่ 443 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 14 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ ชะลอลงต่อเนื่องมาตั้งแต่สิ้นปี 2559 สะท้อนภาพรวมคุณภาพสินเชื่อที่เริ่มทรงตัว แม้ว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจาก การปรับโครงสร้างหนี้และการตัดหนี้สูญ สำหรับสัดส่วนสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention Loan: SM) ต่อสินเชื่อรวมปรับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.42 จากร้อยละ 2.55 ในปีก่อน โดยมียอดคงค้างทั้งสิ้น 366 พันล้านบาท ทั้งนี้ ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินสารองอยู่ในระดับสูงที่ 668 พันล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจาก ปีก่อน 67 พันล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 193.3

    ในปี 2561 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 207.2 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10.8 จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยตามสินเชื่อที่ขยายตัว และการลดลงของค่าใช้จ่ายการกันสำรอง แม้ว่ารายได้ ค่าธรรมเนียมชะลอตัวลงเนื่องจากการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัลซึ่งมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมเร่งตัวขึ้น ประกอบ กับรายได้ค่านายหน้าจากธุรกิจประกันและกองทุนรวมลดลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Asset : ROA) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 1.11 จากร้อยละ 1.04 ในปีก่อน ขณะที่อัตราส่วนรายได้ ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (Net Interest Margin: NIM) ทรงตัวที่ร้อยละ 2.73

    ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,569 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 117 พันล้านบาท โดยเป็นผลจากการจัดสรรกำไรเข้าเป็นเงินกองทุนเป็นสาคัญ ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1: CET1 ratio) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 18.3 และ 15.8 ตามลำดับ

    "NPL ของสินเชื่อรถยนต์มีสัญญาณการขยับขึ้นจากร้อยละ 1.60 ในปี 2560 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.66 ซึ่งมาจากการเร่งปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ในปี 2561 สินเชื่อรถยนต์โตร้อยละ 12.6 นับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบหลายปี แต่ NPL ที่ขยับขึ้นยังต่ำกว่าช่วงที่มีผลจากมาตรการรถคันแรก โดยช่วงนั้น NPL สินเชื่อรถยนต์อยู่ที่ร้อยละ 2.54 โดยธปท.กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้ความสำคัญกับมาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งภาพรวม NPL ของธนาคารพาณิชย์จะขยับขึ้นบ้างในปีนี้"

    IMG_9363.JPG IMG_9364.JPG IMG_9365.JPG IMG_9366.JPG IMG_9367.JPG IMG_9368.JPG IMG_9369.JPG IMG_9370.JPG

    Source: การเงินธนาคาร


    ข่าว ธปท. https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/News2562/n1362t.pdf


    ttps://www.facebook.com/277100888976077/posts/2395634770456001?sfns=mo
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    IMG_9371.JPG
    (Feb 15) คอลัมน์ บางขุนพรหมชวนคิด: 10 ปีเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไปในทศวรรษหน้า : หากเปิดโซเชียลมีเดียในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์ จะเห็นหลายๆ คนโพสต์ภาพเปรียบเทียบหน้าตัวเองในปัจจุบันเทียบกับสิบปีก่อน พร้อมติดแฮชแท็ก #10YearChallenge กันมากมาย ในฐานะที่ผู้เขียนติดตามภาวะเศรษฐกิจไทย ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเศรษฐกิจไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร บางขุนพรหมชวนคิดในวันนี้จึงอยากชวนผู้อ่าน มองดูพัฒนาการของเศรษฐกิจไทยว่าเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มองต่อไปในอนาคตว่าหน้าตาของเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร รวมถึงจะมีวิธีการอย่างไรที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง



    เมื่อลองเทียบเศรษฐกิจไทยปี 2551 กับตัวเลขล่าสุดปี 2560 ตามตารางด้านล่าง จะพบว่าภายในเวลา 10 ปี มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ GDP (มูลค่าที่แท้จริง) เพิ่มขึ้นจาก 7.7 ล้านล้านบาท เป็น 10.2 ล้านล้านบาท เติบโต 3.25% ต่อปี ขณะที่รายได้ต่อหัวของประชากรก็เพิ่มขึ้นสอดคล้องกัน คือเพิ่มจาก 12,197 บาท/เดือน มาอยู่ที่ 18,618 บาท/เดือน ขยายตัว 5.26% ต่อปี ถือว่าเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีและรายได้ประชาชนในภาพรวมดีขึ้น



    ส่วนภาพเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไรนั้น ในไม่กี่วันนี้ภาครัฐ จะประกาศตัวเลข GDP ปี 2561 อย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่ คาดว่า GDP ปี 2561 จะขยายตัวประมาณ 4.0-4.7% (รวบรวมโดย Consensus Economics Inc. เดือน ธ.ค. 2561) ขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 และอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 3% หรือคิดเป็นรายได้ต่อหัวของประชากรที่ประมาณ 19,400 บาท/เดือน โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออกที่ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่สามารถกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง และได้รับแรงส่งจากอุปสงค์ การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยขยายตัวถึง 5% ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบกว่า 5 ปี



    สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหมูนี้ หน่วยงานพยากรณ์เศรษฐกิจต่างๆ เห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวลดลงเล็กน้อย โดย ธปท. คาดว่า GDP จะเติบโตลดลงจากปีก่อนที่ 4.2% มาเป็น 4.0% (อ้างอิงจากรายงานนโยบายการเงิน ฉบับเดือน ธ.ค. 2561) โดยการส่งออกสินค้าไทยได้รับผล กระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอลงจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่ยืดเยื้อ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังได้รับแรงส่งจากอุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง ตามรายได้ นอกภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้นและกระจายตัวมากขึ้น การย้ายฐานการผลิตมาไทย รวมถึงมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน



    ประเด็นถัดมาที่น่าสนใจคือ จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยในอนาคตเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง หากวิเคราะห์ตามหลักเศรษฐศาสตร์ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว ประกอบด้วยปัจจัยแรงงาน ปัจจัยทุน (เช่น เครื่องจักรในการผลิตต่างๆ) และผลิตภาพการผลิตรวม (Total Factor Productivity: TFP) ซึ่งก็คือผลผลิตที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ได้มาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนแรงงานหรือทุน (เช่น แผนบริหารจัดการองค์กรที่ดีขึ้น เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น หรือความสามารถของแรงงานที่สูงขึ้น) โดยเมื่อวิเคราะห์แต่ละปัจจัยพบว่า



    (1) กำลังแรงงานมีแนวโน้มลดลง จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัย ทำให้กำลังแรงงานลดลงจากที่เคยขยายตัวประมาณ 2% เมื่อ 10 ปีก่อน กลับมาหดตัวที่ 0.4% ในปี 2560 การจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนภายใต้ภาวะกำลังแรงงานที่มีอยู่จำกัดเช่นนี้ ต้องหาวิธียกระดับการใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พัฒนาคุณภาพและพัฒนาทักษะแรงงานให้ตรงตามความต้องการของภาคธุรกิจ



    (2) ปัจจัยทุนเพิ่มขึ้นในระดับต่ำ สะท้อนจากสัดส่วนการลงทุนรวมต่อ GDP และอัตราการเพิ่มของสต๊อกทุน (Capital Stock) ในปี 2560 ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2551 แสดงว่าบทบาทของการลงทุนต่อการขยายตัวของ GDP ในระยะหลังมีน้อยลง ดังนั้นหากลงทุนมากขึ้น จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยภาครัฐควรเน้นการลงทุนที่มีคุณภาพ คือลงทุนไปแล้วก่อให้เกิดประโยชน์กับภาคธุรกิจ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งสามารถจูงใจให้ภาคธุรกิจตัดสินใจลงทุนตามได้



    (3) ผลิตภาพการผลิตรวม (TFP) มีบทบาทเพิ่มขึ้น โดยดัชนีชี้วัดผลิตภาพรวม (TFP) ของ Asian Productivity Organization สะท้อนว่า TFP ของไทยเพิ่มขึ้นจาก 10 ปีก่อนที่ 128.5 มาอยู่ที่ 147.5 สะท้อนว่าในระยะหลัง TFP มีบทบาทต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมากขึ้น ดังนั้นการเพิ่ม TFP จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งควรเพิ่มการลงทุนที่มีคุณภาพ คือต้องเน้นลงทุนในด้านพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงลงทุนยกระดับการศึกษาและคุณภาพแรงงาน



    โดยสรุป ภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันถือว่าปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน แต่เพื่อให้เศรษฐกิจในอนาคตเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง จำเป็นต้องยกระดับปัจจัยการผลิตทั้ง 3 ตามที่ได้กล่าวข้างต้น ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งความต่อเนื่องของนโยบายและการดำเนินนโยบายในเชิงปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะต่อไป


    โดย ธนันธร มหาพรประจักษ์

    เศรษฐกรอาวุโสฝ่ายนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย


    Source: Posttoday


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวบ้านจัดพิธีบวงสรวงเจ้าที่ เชื่อใช้ “โคลนลาวา” กิน-ทา ล้มป่วย เพราะไม่บอกกล่าว
    pnsamtv 2019-02-15
    %E0%B8%9B%E0%B8%81-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%99.jpg

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปรากฏการณ์ลาวาโคลนผุดกลางทุ่งนาบ้านหนองกุงน้อย ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์จากธรรมชาติ ทำให้มีความสนใจจากนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมความแปลกทางธรณีวิทยากันเป็นจำนวนมาก อีกด้านหนึ่งก็มีนักเสี่ยงโชค และผู้แสวงหาการรักษาโรคแผนโบราณ ได้เดินทางเข้าไปเที่ยวชม พร้อมทั้งนำโคลนและน้ำที่ผุดขึ้นมาพอกตามตัว ใบหน้า รวมถึงบางรายนำน้ำไปดื่มกิน เพราะมีความเชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคได้ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

    %B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5.jpg
    บรรยากาศพิธีบวงสรวง
    B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%992.jpg
    บรรยากาศพิธีบวงสรวง
    ล่าสุด วันที่ 15 ก.พ. 62 มีนักเสี่ยงโชคนับพันคนได้เข้าร่วมพิธีกรรมบวงสรวงบ่อลาวาโคลน ตามความเชื่อ โดยนางสาวสากล นาดี ชาวบ้าน ซึ่งร่วมในการประกอบพิธี เปิดเผยว่า พิธีกรรมบวงสรวงวันนี้จัดขึ้นเพื่อทำการไหว้สักการะเจ้าที่ พระแม่ธรณี รวมถึงพญานาคราชที่ดูแลปกป้องสถานที่แห่งนี้ ตามแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล

    %E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C.jpg
    นางสาวสากล นาดี ชาวบ้าน
    ซึ่งสาเหตุที่ต้องทำพิธีการสักการะนั้น เพราะได้ปรากฏว่ามีชาวบ้านบางคนที่นำดินโคลนกลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง พระแม่ธรณี และพญานาคราช แล้วเกิดล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ จนต้องนำโคลนกับมาคืน อาการจึงทุเลาลง ชาวบ้านจึงได้จัดพิธีการบวงสรวงขึ้น เพื่อทำการบอกกล่าวเจ้าที่ พระแม่ธรณี รวมถึงพญานาคราช ก่อนที่จะนำดินไปใช้ประโยชน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ควรต้องใช้วิจารณญาณในการเชื่อถือสิ่งเหล่านี้

    B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%992.jpg
    นายทองใบ ตรีล้ำ ชาวบ้าน
    นายทองใบ ตรีล้ำ อายุ 80 ปี เปิดเผยว่า จากความเชื่อที่ชาวบ้านหลายคนได้บอกกล่าวต่อกันมา มีคนนำน้ำที่ผุดขึ้นมาลูบตามหน้าตามตัวแล้วหายจากอาการเจ็บป่วย จึงได้ทดลองนำน้ำไปทำตาม ส่วนการทำพิธีในวันนี้คือการบวงสรวงทำบุญให้กับเจ้าที่เจ้าทาง เพื่อจะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ส่งเสริมให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น ส่วนความเชื่อในเรื่องเจ้าที่ พระแม่ธรณี รวมถึงพญานาคราช ตนเองก็ยังคงไม่เชื่อมากนัก แต่เชื่อว่าคงมีสิ่งมหัศจรรย์อยู่ใต้พื้นดินแน่นอน ดูจากการที่โคลนไหลออกมาเป็นรูปร่างจรเข้ หรือรูปร่างอื่นตามแต่จินตนาการ

    %B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%99.jpg
    ชาวบ้านตักโคลนกลับไปใช้

    http://www.amarintv.com/news-update...6D0m0O4oDYgu9998b1WkIVV-1YKLubhje6bvi475PnKBc
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FactBang EP.3
    IMG_9374.JPG
    หนึ่งในเรื่องเล่าตำนานทหารไทยที่โด่งดังที่สุดตลอดกาลนั้นคงไม่พ้นตำนานเรื่องเล่า ”ทหารผี” ในช่วงสงครามเวียดนามกันอย่างแน่นอน สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าตำนานนี้คืออะไร เรื่องเล่ามีอยู่ว่า

    “ในช่วงสงครามเวียดนาม ผบ.ทหารเวียดนามเหนือได้แจกใบปลิวเพื่อเตือนเหล่าทหารเวียดนามเหนือและเวียดกง โดยรายละเอียดในใบปลิวกล่าวถึงข้อมูลศัตรูจากชาติศัตรูต่างๆว่าจะจำแนกอย่างไร โดยในใบปลิวได้กล่าวถึงทหารไทยว่า

    ถ้าปะทะกับศัตรูที่ยิงต่อสู้กับเราแล้วไม่มีปืนใหญ่กับเครื่องบินมาสนับสนุน ไม่รู้จักหยุดยิง ไม่รู้จักหมอบ ไม่รู้จักคลาน ไม่รู้จักถอย เอาแต่วิ่งเข้าใส่ บางรายยิงไม่ตาย บางรายยิงไม่เข้า จงระวังไว้นั่นคือ....ทหารไทย”

    ซึ่งคำเล่านี้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าอมตะสุดฮิตในแวดวงการทหารไทยจนถึงปัจจุบันถึงความบ้าบิ่นและไม่กลัวตายของทหารไทย จนกลายเป็นสมญานามของทหารไทยไปโดยปริยาย

    แต่รู้หรือไม่ว่าเรื่องเล่าตำนานทหารไทยทหารผีนี้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด เนื่องจากการค้นคว้าของผู้เชี่ยวชาญทางการทหารและนักประวัติศาสตร์หลายๆคนในช่วงหลังพบว่าเป็นเพียงแค่การโฆษณาชวนเชื่อในช่วงนั้นเพื่อเพิ่มกำลังใจให้ทหารเท่านั้น พร้อมอีกทั้งข้อความในใบปลิวนั้นกล่าวค่อนข้างเกินกว่าที่จะเป็นจริงไปได้ หากได้ค้นคว้าเพิ่มเติมอีกจะพบว่าความจริงแล้วนั้นสมญานาม ”ทหารผี” นั้นมีจริงในช่วงสงครามเวียดนามแต่ไม่ใช่สมญานามของทหารไทยในช่วงนั้นแต่อย่างใด

    โดยสมญานามที่ใกล้เคียงคำว่า “ทหารผี” ที่สุดก็คือทหารจากหน่วยรบพิเศษ SASR (ชื่อเต็ม Special Air Service Regiment) จากประเทศออสเตรเลีย (บางส่วนเป็น NZSAS จากประเทศนิวซีแลนด์ที่มาในนาม SASR) โดยได้รับสมญานามจากเวียดกงว่า “Ma Rung” ที่แปลเป็นอังกฤษว่า “Phantom of the jungle” หรือที่แปลเป็นไทยว่า “วิญญาณแห่งพงไพร” ซึ่งถ้าพูดแบบสั้นๆอาจจะพูดได้ว่า “ทหารผี” นั่นเอง

    เพราะอะไรถึงได้ฉายานี้?

    การรบในช่วงเวียดนามสำหรับฝ่ายโลกเสรีแล้วมักจะเป็นยุทธวิธีที่เรียกว่า “Search and Destroy” ที่แปลว่า “ค้นหาและทำลาย” หลักการค่อนข้างจะเข้าใจง่าย ตั้งชุดลาดตระเวนเข้าไปในป่า คอยมองหาศัตรูแล้วกำจัดทิ้งหรือค้นหาฐานที่ซ่องสุ่มอาวุธศัตรู ทำลายแล้วกลับฐาน เป็นยุทธวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงเวียดนามตั้งแต่ต้นสงครามยันท้ายสงคราม

    แน่นอนว่าการเดินลาดตระเวนในป่านั้นอันตรายเป็นอย่างมาก เสี่ยงต่อการถูกซุ่มโจมตี มองหาศัตรูยาก ซึ่งเวียดกงก็มักจะใช้การซุ่มโจมตีในป่าโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยใช้ความได้เปรียบจากความเคยชินพื้นที่ส่งผลให้เหล่าทหารอเมริกันต่างหวาดกลัวจนกลายเป็นสงครามจิตวิทยาชั้นดี ทำให้เกิด ”อาการกลัวป่า”ในหมู่ทหารหน้าใหม่อเมริกันมักจะไม่อยากจะเข้าไปในป่า (ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นมุกล้อขำๆบนโลกอินเทอร์เน็ตที่เหล่าทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามไม่ขำด้วย)

    ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าเวียดกงกลายเป็นผีในป่าที่คอยหลอกหลอนเหล่าทหารอเมริกัน แต่นั่นไม่ใช่กับทหารหน่วยรบพิเศษจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อย่าง SASR และ NZSAS

    เนื่องจาก SASR และ NZSAS ได้รับประสบการณ์การรบในป่าเขตร้อนมาก่อนอย่างช่วงวิกฤตการณ์มาลายา ทำให้ทันทีที่หน่วยนี้เหยียบแผ่นดินเวียดนาม พวกเขาก็สามารถปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้ทันทีเนื่องจากสภาพป่าเป็นแบบเดียวกัน

    SASR ในช่วงการลาดตระเวนจะไม่มีการพูดคุยที่ออกมาเป็นเสียงพูดโดยเด็ดขาด จะทำการสื่อสารเฉพาะสัญญาณมือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น พวกเขาจะเคลื่อนไหวอย่างช้าๆในป่าเพื่อไม่ให้เกิดเสียงที่เป็นการบ่งบอกข้าศึกว่าที่คนอยู่ในป่า และบางครั้งจะหมอบอยู่เฉยๆไม่ขยับแม้แต่นิดเดียวนานเป็นชั่วโมงเพื่อรอให้ข้าศึกเข้ามาอยู่ในระยะ

    สมาชิกหน่วยทุกคนจะมีการพรางทุกส่วนที่เปิดเผยผิวหนังออกมาทั้งหมด หมวกที่ใช้จะเป็นหมวกผ้าธรรมดาหรือบางคนก็ไม่ใส่หมวกเลยซึ่งข้อดีคือมันเนียนกับสภาพแวดล้อมมากว่าการใส่หมวกเหล็กกลมๆแบบที่พวกอเมริกันใส่กัน รวมถึงการดัดแปลงปืนประจำกายเองเพื่อความเหมาะสมกับภารกิจ

    เมื่อถึงเวลาโจมตี SASR รอข้าศึกเข้ามาอยู่ในระยะและจะโจมตีข้าศึกโดยที่ไม่รู้ตัวอย่างเด็ดขาด รวดเร็ว สร้างความโกลาหลจากหลายทิศทาง บางครั้งก็ดักข้าศึกทุกทิศทาง (ปิดประตูตีแมว) ซึ่งเป็นยุทธวิธีเดียวกับแบบที่เวียดกงโจมตีอเมริกัน

    ตลอดสงครามเวียดนาม SASR กับ NZSAS ทำการลาดตระเวนไปมากกว่า 1,200 เที่ยว สังหารเวียดกงไปมากกว่า 492 ศพที่ยืนยันได้และอีก 106 ศพที่ยืนยันไม่ได้ ขณะที่ฝั่ง SASR เสียทหารในการปะทะ 1 นาย, เสีย 1 นายจากพิษบาดแผล, 3 นายจากอุบัติเหตุยิงกันเองจากชาติพันธมิตร, สูญหาย 1 นายและ 1 นายจากไข้ป่า รวมกันทั้งหมด 7 นาย

    ด้วยเหตุผลที่ว่ามานี้ทำให้เวียดกงต่างเรียกทหาร SASR ว่า “Phantom of the jungle” หรือ ”วิญญาณแห่งพงไพร”

    อ้างอิง : - หนังสือ SAS, phantoms of the jungle: A history of the Australian Special Air Service

    - วิกิพีเดีย https://en.wikipedia.org/wiki/Special_Air_Service_Regiment

    รูปพื้นหลัง : ทหาร SASR ในสงครามเวียดนาม

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chainarong Setthachua

    IMG_9375.JPG
    หายนะจากเขื่อนของเหมืองแร่ในบราซิลแตก


    หลังจากเขื่อนของเหมืองแร่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิลแตกเมื่อ 25 มกราคม 2562 สถาบันการจัดการน้ำของรัฐมีนัสเซไรย์รายงานว่าขี้ตะกรันที่ัก้กเก็บไว้ในเขื่อนใกล้เมืองบรูมาดิญโญ่ได้ไหลปนเปื้อนในแม่น้ำปารันดิญโญ่เป็นระยะทาง 75 ไมล์ หรือ 120 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อเมือง10 แห่งที่ตั้งอยู่ริมน้ำ


    เจ้าหน้าที่สถาบันการจัดการน้ำของรัฐระบุว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้เตือนคนในท้องถิ่นไม่ใ้ห้ใช้นำน้ำมาใช้ในการดื่ม ให้น้ำแก่สัตว์เลี้ยง และการชลประทาน เพราะพบว่าน้ำปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำ ซึ่งร่วมถึงตะกั่วและโครเมี่ยมในระยะ 20 กิโลเมตรจากเขื่อนที่แตก


    ขณะที่ยอดศพผู้เสียชีวิตที่พบเพิ่มเป็น 166 ราย ยังสูญหาย 155 คน ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตหมดแล้ว


    ภาพ ปลาในแม่น้ำปารันดิญโญ่ที่ลอยตายท้ายเขื่อน


    สำหรับในประเทศไทยมีเขื่อนของเหมืองสองแห่งคือ ที่เหมืองแร่เมืองเลยและเหมืองทองพิจิตร ขณะนี้มีการปิดเหมือง แต่การตรวจสอบและซ่อมบำรุงไม่ให้เกิดหายนะน่าจะไม่มีหน่วยงานใดลงไปดำเนินการ


    Cr.ข้อมูลและภาพ Physic.org


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โพสต์ทูเดย์

    IMG_9376.JPG
    14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติ 16 ต่อ 5 เสียง อนุญาตให้ใช้สารเคมีร้ายแรงอย่างพาราควอตต่อไปอีก 2 ปี


    สารเคมีชนิดนี้มีพิษสูง ไม่มียาถอนพิษ และมีผลกระทบเรื้อรังต่อสุขภาพ เช่น ก่อโรคพาร์กินสัน สมองเสื่อม


    แม้ใส่อุปกรณ์ป้องกันยังผ่านเข้าสู่ร่างกายได้โดยการสัมผัสทางผิวหนัง ทั้งยังพบตกค้างในอาหาร สิ่งแวดล้อม ยังสามารถผ่านจากมารดาไปสู่ตัวอ่อนในครรภ์


    ผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปั๊มน้ำมันภาคใต้ฟันกำไร แห่ซื้อน้ำมันอุตสาหกรรมลงปั๊มตบตาลูกค้า จี้หน่วยงานตรวจสอบ
    .
    https://mgronline.com/south/detail/9620000016171

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The MATTER


    BRIEF: ในสวีเดน มีกฎหมายที่สนับสนุนพนักงาน ลางานได้เต็มที่ 6 เดือน เพื่อใช้โอกาสนี้ไปเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว

    .

    ระยะเวลา 6 เดือนน่าจะมีส่วนสำคัญกับการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ หรืออย่างน้อยก็ช่วยให้เราได้โฟกัสกับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น ในประเทศสวีเดนมีกฎหมายที่เปิดทางให้กับพนักงานทั้งหลาย สามารถหยุดได้ 6 เดือนเพื่อเริ่มธุรกิจของตัวเอง

    .

    กฎหมายที่ชื่อว่า ‘Right to Leave to Conduct a Business Operation Act’ มีเนื้อหาที่การันตีว่า พนักงานทุกคนมี ‘สิทธิ’ ที่จะขอหยุดงานได้เต็มที่เป็นเวลา 6 เดือนเพื่อเริ่มธุรกิจของตัวเอง ขณะเดียวกัน ก็เป็นที่รู้กันโดยธรรมเนียมว่า ทางบริษัทต้นสังกัดเดิมก็จะต้องไม่ลดตำแหน่งของพนักงานคนดังกล่าวหลังจากที่เขาขอหยุดงานไป

    .

    การขอหยุดงานตามเงื่อนไขนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการหยุดโดยที่ไม่ได้รับเงินเดือนจากบริษัทต้นสังกัด

    .

    อย่างไรก็ดี เงื่อนไขสำคัญคือ พนักงานทุกคนที่ขอลางานไปจะต้องไม่ได้เป็นเปิดบริษัทใหม่ที่เป็น ‘คู่แข่ง’ ของบริษัทต้นสังกัดเดิม ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในทางธุรกิจ รวมถึงการนำข้อมูลบริษัทไปใช้ในทางที่มิชอบ นอกจากนี้ พนักงานจะมีสิทธิได้หลังจากที่ถูกบรรจุให้ทำงานแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน

    .

    เว็บไซต์ Business Insider วิเคราะห์ว่า นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้สวีเดนได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้าน start-up ชั้นนำของโลก เพราะผู้คนได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ในการสร้างสรรค์ธุรกิจของตัวเองอย่างเป็นรูปธรรม

    .

    .

    อ้างอิงจาก


    https://www.businessinsider.com/sweden-lets-employees-take-six-months-off-start-own-business-2019-2


    https://www.sabbatic.com/know-taking-sabbatical-sweden/


    https://www.weforum.org/agenda/2017/10/why-does-sweden-produce-so-many-startups/


    #Brief #TheMATTER


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    China Report ASEAN - Thailand


    จีนทำจริง! รื้อถอน ทำลาย หมู่บ้านบุกรุกป่า มณฑลส่านซี

    .

    ต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐของหน่วยงานรัฐบาลประจำมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน จากความล้มเหลว ไม่สามารถจัดการรื้อถอนหมู่บ้านที่สร้างโดยผิดกฎหมายในเขตพื้นที่เทือกเขาฉินหลิง (Qinling Mountains) แม้ว่าจะมีคำสั่งมาจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แล้วก็ตาม

    .

    หลังจากล้มเหลว มาถึงวันนี้ มีความคืบหน้าชัดเจนแล้ว เมื่อหน่วยงานรัฐบาลประจำมณฑลส่านซี ประกาศแผนเด็ดขาด รื้อหมู่บ้านที่สร้างโดยผิดกฎหมาย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมของเทือกเขาฉินหลิงเป็นอย่างมากภายในเดือนมิถุนายนนี้ และจะฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของป่าไม้ให้กลับมาสมบูรณ์ภายในปี 2020 ให้ได้

    .

    นอกจากจะแก้ปัญหาการปลูกสร้างบ้านผิดกฎหมายแล้ว จะแก้อีกหลายปัญหาใหญ่ไปในคราวเดียวกัน ด้วยการมอบหมายให้ทีมพิเศษเดินทางไปสอดส่อง 6 เมืองรอบเทือกเขาฉินหลิงเพื่อจัดการกับการบุกรุกพื้นที่ป่า การล่าสัตว์ การขุดเหมือง และการปล่อยมลพิษ แบบผิดกฎหมาย

    .

    แผนปฏิบัติการทั้งหมดนั้น มีเป้าหมายสูงสุดคือ ภายในปี 2020 ขนาดพื้นที่ป่าของมณฑลส่านซีจะต้องขยายเป็น 500 ล้านลูกบาศก์เมตร และอัตราส่วนพื้นที่ป่าจะต้องเป็น 45% ของพื้นที่มณฑลส่านซีทั้งหมด

    .

    Courtesy of chinadaily.com


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การสำรวจมหาสมุทรอินเดียครั้งนี้ถือเป็นการสำรวจมหาสมุทรแห่งใหญ่เเห่งสุดท้ายบนโลกที่ยังไม่เคยถูกสำรวจมาก่อน

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คัดข่าว

    4 ล้านบาทเพื่อล่า...แพะภูเขา
    .
    ชายอเมริกาคนหนึ่งเผยแพ่รภาพเขากับซากแพะภูเขาแห่งปากีสถานที่เค้าล่าได้สำเร็จ
    ภาพนี้เป็นที่ฮือฮาเพราะมันเป็นสัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์(มีเหลือราวๆ5,700)ของปากีฯ อย่างไรก็ดีชายท่านนี้ไม่ได้ทำผิดกฏหมายเพราะเค้าซื้อใบอนุญาตจากรัฐแล้วมูลค่า 4 ล้านบาท($110k)เพื่อล่ามัน
    ทำให้หลายฝ่ายตกใจทั้งในแง่ของราคาและสัตว์ที่เค้าล่า โดนภาพที่ออกมามีเสียตำหนิจากหลายฝ่ายต่อผู้ล่าและรัฐบาลปากีสถานที่กำลังใช้สัตว์หายากมาหารายได้
    https://edition.cnn.com/2019/02/13/...-13T13:28:43&utm_term=image&utm_medium=social

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Clips: สตอกโฮล์มปลดฟ้าผ่า “เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำจีน” หลังลูกสาวเจ้าของร้านหนังสือใต้ดินฮ่องกง “กุย มินไฮ” ที่เคยหายตัวจากไทยปี 2015 แฉเป็นตัวกลางจัดพบ 2 นักธุรกิจปักกิ่ง เพื่อปิดปาก

    เมื่อวานนี้(14 ก.พ) รัฐบาลสตอกโฮล์มออกแถลงการณ์ เปลี่ยนตัวเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำกรุงปักกิ่ง หลังจากพบว่า “อันนา ลินด์สเต็ดต์” (Anna Lindstedt) มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในฐานะนักการทูต ทำการจัดการพบปะที่ไม่ได้รับอนุญาตระหว่างบุตรสาว แองเจลา กุย และนักธุรกิจจีน 2 คน อ้างหวังช่วยหาทางปล่อยตัวเจ้าของร้านขายหนังสือใต้ดินชื่อดังของฮ่องกง กุย มินไฮ (Gui Minhai ) ชาวสวีเดนเกิดในจีนที่เคยถูกลักพาตัวจากบ้านพักตากอากาศในไทยเมื่อปี 2015 และในเวลานี้อยู่ในคุกจีน

    https://mgronline.com/around/detail/9620000016378

    #MGROnline #สตอกโฮล์ม #เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำจีน

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_9378.JPG
    (Feb 15) สี จิ้นผิงเผยสหรัฐ-จีนเตรียมเจรจาการค้ารอบต่อไปที่กรุงวอชิงตันสัปดาห์หน้า: ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวในวันนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความคืบหน้าที่สำคัญในสัปดาห์นี้ และทั้งสองฝ่ายจะยังคงเจรจาต่อไปที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า


    "สัปดาห์หน้า ทั้งสองฝ่ายจะพบกันอีกครั้งที่กรุงวอชิงตัน ผมหวังว่าคุณจะยังคงใช้ความพยายามบรรลุข้อตกลงที่ได้ชัยชนะทั้งสองฝ่าย และได้ผลประโยชน์ร่วมกัน" ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวต่อคณะเจรจาการค้าของสหรัฐ


    ปธน.สี จิ้นผิงยังกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ข้อขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ

    -

    Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    ********

    ผู้แทนการค้าสหรัฐแจ้งประธานาธิบดีจีน การเจรจาการค้ายังคงมีประเด็นยากลำบาก :


    สื่อรายงานว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้กล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในวันนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงมีประเด็นที่ยากลำบากเหลืออยู่


    "เรารู้สึกว่าเราจะต้องสร้างความคืบหน้าต่อประเด็นที่ยากลำบาก และมีความสำคัญ โดยเรายังคงมีงานที่ต้องทำ แต่เราก็ยังมีความหวัง" นายไลท์ไทเซอร์กล่าว


    ทั้งนี้ นายไลท์ไทเซอร์ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ รวมทั้งคณะเจรจาการค้าของสหรัฐ ได้เข้าพบปธน.สี จิ้นผิง หลังเสร็จสิ้นการเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และคณะเจรจาการค้าของจีนในวันนี้


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    ความคืบหน้า

    - China and US make ‘progress’ in Beijing but trade war talks to continue in Washington next week: https://www.scmp.com/economy/china-...-states-make-progress-beijing-trade-war-talks


    ttps://www.facebook.com/277100888976077/posts/2395897037096441?sfns=mo
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    ชิลี



    ลมแรงทำให้เกิดไฟป่าหมุนวนในภาค Quichamali (Austasta del Itata กม. 16)
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Sayan Rujiramora

    IMG_9381.JPG
    จากข้อมูล TIC Data (Trasury International Capital) ..นักลงทุนต่างชาติพากันดั๊มพ์พันธบัตร US ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาถึง $77,000 ล้าน มากเป็นประวัติการณ์...ถึงแม้ยีลด์ในตลาดหุ้นก็ร่วงลงในเดือนธันวาคม....


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes


    #แอฟริกาใต้ #สถานการณ์ใน #bloemfontein วันนี้

    IMG_9384.JPG IMG_9385.JPG IMG_9386.JPG IMG_9387.JPG

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แดง วงศ์ทวิชาติ


    Cr.คุณมาร์...

    15 Feb 2019

    #Earthquake

    *เกิดแผ่นดินไหวแรงที่แอตแลนติคกลาง ระดับ 6.1-6.2 แล้วมาระดับ 5 ยิ่งใกล้ฟูลมูน 19 นี้ อีกทั้งดาวเคราะห์หลายดวงมาชุมนุมทางตะวันออก/และออกเฉียงใต้ ตลอดเดือนเลย

    เมื่อวานนี้ก็ที่เซ้าท์แซนวิชกับเปรู 5.4 ที่พบปลาออร์ฟิช ก่อนนี้ 2 วัน


    ติดตามความเปลี่ยแปลง..!!!

    <> อันเป็นผลมาจากรูปทรงเรขาคณิตวิกฤตในวันที่ 10-11 ขนาด 5.9-6.1 เกิดขึ้นที่หมู่เกาะมาเรียนาเมื่อวันที่ 12


    หลังจากการจัดแนวเอิร์ ธ - ดาวอังคาร - ยูเรนัสในกิจกรรมแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ 13 อาจเกิดขึ้นขนาดกลางถึงสูง ขนาด 6+จากวันที่ 14 ถึง 16


    จากวันที่ 17 ถึง 21 จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง..กับการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 ถึง 8 ...!!!


    <> อีกทั้งปฎติกิริยาจากดวงอาทิตย์ใหม่ ก็จะมาส่งผลพอดีด้วยคาดการเพิ่มขึ้นของแผ่นดินไหวแรงจะมากขึ้นด้วย..


    M 6.1 - NORTHERN MID-ATLANTIC RIDGE - 2019-02-14 19:57:06 UTC


    #แจ้งปรับใหม่เป็น 6.2 เท่ากับ USGS

    #Earthquake REVISED M 6.2 - NORTHERN MID-ATLANTIC RIDGE - 2019-02-14 19:57:06 UTC


    ศึกษาจากคลิปล่าสุดที่มารีน่า M 6.1/12Feb 2019

    M 6.1 Mariana Islands 12 Feb 2019 - More M6+ to come




    As a result of the critical lunar geometry on the 10th-11th a magnitude 5.9-6.1 occurred at the Mariana Islands on the 12th.


    Following the Earth-Mars-Uranus alignment on the 13th larger seismic activity may occur, possibly mid to high 6 magnitude from the 14th to the 16th.


    From the 17th to the 21st will be extremely critical with potentially a high 7 to 8 magnitude earthquake.


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แดง วงศ์ทวิชาติ

    IMG_9388.JPG
    แผ่นดินไหว Mindanao, Philippines(6.81°N,126.89°E) ขนาด 5.0 ลึก 91 กม. วันที่ 15 ก.พ. 2562 เวลา 23:20 น. ตามเวลาประเทศไทย [GEOFON]...


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    แอฟริกาใต้



    น้ำท่วมรุนแรงใน bloemfontein, แอฟริกาใต้ หลังฝนตกหนักและรุนแรง วันนี้ 15 ก.พ.
     

แชร์หน้านี้

Loading...