ติดตามสถานะการณ์

Clima Extremo 24

สหรัฐอเมริกา

แผ่นดินถล่มเป็นสาเหตุให้ถนนถล่มและพังทลายลง เนื่องจากฝนตกหนักและแผ่นดินถล่มใน Saunders Meadow, California วันนี้ทำให้ทางหลวงปิด

 

Clima Extremo 24

สหรัฐอเมริกา

ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในSan Bernardino, California วันนี้ 14 ก.พ.

 

La nueva era de la tierra - respaldo

นาทีสุดท้าย: ภูเขาไฟ Popocatepetl เข้าสู่ขั้นตอนการปะทุแบบ strombolian (Strombolian Eruption คือ การ eruption แบบที่ลาวาพุ่งขึ้นเป็นเส้นๆเหมือนดอกไม้ไฟที่เป็นโอ่ง ลาวาจะเป็นแบบ basalt หรือ basaltic andesite)

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่ภาพ

คอลัมน์ที่ปะทุของการปะทุแบบ strombolian เพิ่มขึ้นเกือบ 3 กม. อันตรายหลักคือเถ้า ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ ของปวยบลา รัฐเม็กซิโก และมอเรโลส
https://www.mundoextremo19.com/2019...qW0214lR98wqp6PlTyV_ybG0Jpcv8RY14BKTo1_1qBzRc

 

Amazing World

การระเบิดของภูเขาไฟ # Popocatépetlเวลา 21:06 น. เห็นได้จาก San Nicolás de los Ranchos #Puebla

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 15) ทีเอ็มบี ยอมรับอยู่ระหว่างศึกษารวมกิจการ แต่ยังไม่มีข้อสรุป : ทีเอ็มบี ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ยอมรับอยู่ในระหว่างการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องถึงความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการ แต่ยังไม่มีข้อสรุป

ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าตามที่ได้มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการรวมกิจการของธนาคารทหารไทย จากัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี นั้น ทีเอ็มบีขอเรียนชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดังนี้ ที่ผ่านมาธนาคารได้ทาการศึกษาถึงการเติบโตทางธุรกิจในหลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตจากภายในองค์กร หรือการเติบโตจากภายนอกผ่านการรวมกิจการ

ทั้งนี้ธนาคารยังอยู่ในระหว่างการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องถึงความเป็นไปได้ในการรวมกิจการ รวมถึงมีการนาเรื่องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร หากแต่การศึกษาดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปอันเป็นที่ยุติในขณะนี้ จึงเรียนมาเพื่อทราบ และหากมีความชัดเจนใดๆ เกิดขึ้น ธนาคารจะแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมผ่านตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/827134

 

Watchers


#สภาพอากาศ
// หิมะตกหนักทำให้กรุงมอสโกก่อให้เกิดการจราจรติดขัดและเที่ยวบินล่าช้า - แต่ไม่ถึงทำลายสถิติ อย่างที่สำนักข่าวว่า //
14/02/19
หิมะตกลงบนเมืองหลวงของรัสเซียมอสโกเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2019 ทำให้เกิดการจราจรติดขัดและเที่ยวบินล่าช้า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สื่อตื่นเต้นอย่างมากเกี่ยวกับการทำลายสถิติและรุนแรงที่สุดในรอบ 140 ปี อย่างไรก็ตามการดูข้อมูลที่ให้ไว้อย่างรวดเร็วรวมถึงรูปภาพและวิดีโอเปิดเผยว่ามันไม่เป็นความจริง

รายงานปริมาณหิมะตกหนักในมอสโกปรากฏตัวครั้งแรกในสำนักข่าวรัสเซีย TASS : http://tass.com/society/1044413

อย่างไรก็ตามบทความซึ่งจริงๆแล้วเป็นแกลเลอรี่สื่อไม่ได้พูดถึงปริมาณหิมะ หรือ บันทึกที่ทำลายสถิติ

เมืองแห่งนี้มีหิมะตกสูงประมาณ 7 ซม. (2.8 นิ้ว) โดยมีหิมะตกถึง 45 ซม. (18 นิ้ว) ตามรายงานของ AFP
เนื่องจากความลึกของหิมะและหิมะถูกวัดในสถานที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการพัดพาและการดริฟท์ตกลงมา 7 ซม. มันไม่ใช่และไม่แม้แต่หนึ่งในสามของค่าเฉลี่ยรายเดือนของมอสโก จำนวนหิทะตกสะสมตามรายงานภายใน 7 ชั่วโมง

พายุหิมะที่แรงในทำนองเดียวกันเข้าโจมตีเมืองเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2013 ด้วยหิมะ สูง 36 ซม. (14 นิ้ว) ภายใน 24 ชั่วโมง
https://themoscowtimes.com/news/hea...Wx0AJ14sicLjS4EDO2oIIoDGzgXn7ctmUMQcWK8GXzF1Y

// อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นก็รุนแรง //
นายกเทศมนตรี Sergei Sobyanin กล่าวว่าสำนักเทศบาล ทั้งหมดได้เพิ่มการทำงานของพวกเขา เขาส่งคนไปทำงาน มากกว่า 60,000 คนโดยใช้คันไถหิมะ 10,000 คันและรถบรรทุก 2,000 คัน
เขากล่าว

ในขณะที่สภาพอากาศหนาวเย็นนี้เป็นที่น่าสังเกตโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเมืองหลวงที่มีประชากร 12 ล้านคนในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 เมืองนี้ก็ได้รับผลกระทบจากสื่อที่อธิบายว่า 'หิมะแห่งศตวรรษ' หิมะ ตกสะสมสูง 22 ซม. (8.6 นิ้ว) ใน 24 ชั่วโมงซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยรายเดือนของเมือง มีเที่ยวบินล่าช้ากว่า 850 เที่ยวบินและ ต้นไม้กว่า 2 พันต้น ล้มในเวลากลางคืนและมีคนเสียชีวิตหนึ่งรายหลังจากถูกต้นไม้ล้ม

เครดิต : คลิป AFP
แปล-เรียบเรียง #Watchers

 

Candy Bella

หนึ่งในแม่ทัพอังวะที่ได้รับการคัดเลือกจาก “พระเจ้ามังระ” ให้เข้าบุกตีกรุงศรีอยุธยาคือ “เนเมียวสีหบดี” ทหารเอกคู่บารมีของพระเจ้ามังระ ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถพิชิต 3 อาณาจักรสำคัญในประวัติศาสตร์

ตามบันทึกประวัติศาสตร์ “เนเมียวสีหบดี” คือ 1 ใน 68 ทหารกล้าของ “พระเจ้าอลองพญา” ซึ่งได้ร่วมสถาปนาราชวงศ์คองบอง และเป็นทหารเอกใน “กองทัพรวมชาติแห่งพระเจ้าอลองพญา” ในช่วงปี พ.ศ. 2295-2300 และในเวลาต่อมาชื่อของ เนเมียวสีหบดี ผู้นี้ก็ได้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแม่ทัพผู้พิชิตอาณาจักรล้านนา อาณาจักรล้านช้าง และอาณาจักรอยุธยา ในปี พ.ศ. 2310

วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2309 กองทัพของ เนเมียวสีหบดี ได้เคลื่อนทัพมาบรรจบกับกองทัพของ มังมหานรธา ที่รั้งรออยู่ก่อนหน้า ตรงบริเวณแถบชานเมืองกรุงศรีอยุธยาตามแผนการรบของ พระเจ้ามังระ กองทัพทั้งสองจากอังวะได้ทำการล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้นาน 14 เดือน จนกระทั่งในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2310 มังมหานรธา ซึ่งป่วยเรื้อรังก็ได้เสียชีวิตลง ทำให้ เนเมียวสีหบดี ได้เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพ และสามารถเจาะผ่านแนวป้องกันเข้ายึดกรุงศรีอยุธยาได้ในที่สุด

นอกจากความยิ่งใหญ่และแผนการรบอันน่าทึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กองทัพของอังวะได้รับชัยชนะเหนือกรุงศรีอยุธยาแล้ว เนเมียวสีหบดี ยังมีตัวช่วยสำคัญจากคนของอยุธยาเองอีกด้วย

ชัยชนะของอังวะในครั้งนี้จึงถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของกรุงศรีอยุธยาอย่างยากที่จะลืมเลือนได้...

เขาเริ่มต้นอาชีพทหารโดยเป็นหนึ่งใน 68 ทหารผู้กล้าหาญที่ร่วมกันสถาปนาราชวงศ์โก้นบอง โดยได้รับเลือกจากพระเจ้าอลองพญา ใน พ.ศ. 2295 และได้กลายมาเป็นหนึ่งใน"ทหารที่โดดเด่นที่สุด" ของกองทัพรวมชาติแห่งพระเจ้าอลองพญา (พ.ศ. 2295-2300) ต่อมาเขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้พิชิต 3 อาณาจักร คือ อาณาจักรล้านนา, อาณาจักรล้านช้าง และ อาณาจักรอยุธยา ร่วมกับ มังมหานรธา เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2310

ใน พ.ศ. 2307 พระเจ้ามังระ ตัดสินพระทัยริเริ่มการสงครามกับอาณาจักรอยุธยาใหม่อีกครั้ง พระองค์ได้เลือกเนเมียวสีหบดีและมังมหานรธาเป็นผู้บัญชาการร่วมในการรุกรานคราวนี้ เนเมียวสีหบดีนำเส้นทางรุกรานทางเหนือโดยมีกำลังพล 20,000 นาย เริ่มต้นจากรัฐลาว ราชอาณาจักรเวียงจันทน์ตกลงยินยอมจะเป็นเมืองขึ้นของพม่าโดยไม่มีการสู้รบเกิดขึ้น หลวงพระบางขัดขืนแต่ทัพเนเมียวสีหบดีสามารถยึดเมืองได้อย่างง่ายดายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2308 ทำให้พม่ามีอำนาจควบคุมอย่างสมบูรณ์ตามชายแดนทิศเหนือของอาณาจักรอยุธยาทั้งหมด

เนเมียวสีหบดีเคลื่อนทัพลงมาตามหุบเขาเจ้าพระยา มุ่งสู่กรุงศรีอยุธยา กองทัพของเขามาถึงชานกรุงเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2309 ไปบรรจบกับทัพของมังมหานรธา ฝ่ายพม่าเริ่มต้นการล้อมนาน 14 เดือน ราวเดือนมีนาคม พ.ศ. 2310 มังมหานรธาเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ และเนเมียวสีหบดีกลายมาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของปฏิบัติการทั้งหมด ทัพของเขาเจาะผ่านการป้องกันนครได้ในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310

ดินแดนที่พม่าได้นั้นไม่คงอยู่นานเมื่อพระเจ้ามังระมีบัญชาให้ทหารพม่าส่วนใหญ่กลับประเทศเมื่อปลายปี พ.ศ. 2310 เพื่อรับมือกับการรุกรานของจีนและอินเดียซึ่งคุกคามนครอังวะ ส่วนคนไทยนั้นยึดเอาดินแดนของตนกลับคืนภายในปี พ.ศ. 2312

กลับมาช่วยพม่ารบจีน (2310-2312)
ในขณะที่เนเมียวสีหบดีกำลังทำสงครามอยู่กับอยุธยาอยู่นั้น กองทัพต้าชิงของจักรพรรดิเฉียนหลงได้เห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะที่จะเข้าทำลายกรุงอังวะ เนื่องจากมีปัญหาข้อพิพาทแถวชายแดนมานาน ในระยะแรกของการบุกครั้งที่ 1 และ 2 พระเจ้ามังระยังให้เนเมียวสีหบดีทำสงครามในอยุธยาต่อไป โดยสงครามกับจีนพระองค์จะทรงจัดการเอง ต่อมาภายหลัง ในการบุกครั้งที่3กองทัพต้าชิงส่งทัพใหญ่มา เนเมียวสีหบดีที่พิชิตอยุธยาลงได้แล้วเร่งเดินทางกลับมาช่วยกรุงอังวะรับศึกต้าชิงทันที แต่ยังไม่ทันกลับมาถึงอะแซหวุ่นกี้ก็สามารถพิชิตกองทัพต้าชิงได้แล้ว ส่วนในการบุกครั้งที่ 4 ของต้าชิง เนเมียวสีหบดีได้เดินทางกลับมาถึงกรุงอังวะ โดยมีส่วนสำคัญในการช่วยอะแซหวุ่นกี้ตีกระหนาบต้าชิงจนจะได้ชัยชนะอยู่แล้ว แต่แม่ทัพใหญ่อะแซหวุ่นกี้ก็ได้ตัดสินใจจบสงครามที่ไม่มีประโยชน์ครั้งนี้ลง ด้วยการเจรจาสงบศึกได้ลงนามในสนธิสัญญากองตนในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2312 อันเป็นการยุติสงครามจีน-พม่าลง

ต้นปี พ.ศ. 2316 โป่มะยุง่วนข้าหลวงพม่าคนใหม่ประจำอยู่ที่เชียงใหม่พร้อมกับกองทัพขนาดใหญ่พอสมควร พระเจ้ามังระต้องการเริ่มสงครามกับกรุงธนบุรีที่เริ่มก่อสร้างอาณาจักรขึ้นมาใหม่ แต่ยังต้องระวังภัยคุกคามจากจีนทางเหนือ และอยู่ในช่วงฟื้นฟูกำลังพลขึ้นมาใหม่ เนื่องจากใช้กำลังทหารไปมากเมื่อครั้งทำศึกกับจีน โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2312 สงครามพม่าและจีนสิ้นสุดลงด้วยการทำสนธิสัญญากองตนซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่พอใจนัก จีนยังคงทหารจำนวนมากไว้ที่ชายแดนเพื่อเตรียมทำศึกอีกครั้ง ขณะที่เชียงใหม่โปมะยุง่วนเมื่อถูกส่งมาปกครอง ก็ใช้อำนาจกดขี่ชาวพื้นเมือง จนความรู้ไปถึงโปสุพลา (เนเมียวสีหบดี) เนเมียวสีหบดีจึงมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกับโปมะยุง่วน เนื่องจากให้การสนับสนุนเจ้าท้องถิ่นอยู่ เพราะเนเมียวสีหบดีมองว่าการเชื่อมสัมพันธไมตรีกับชาวพื้นเมืองทางเหนือจำเป็นต่อยุทธศาสตร์การทำสงครามกับกรุงธนบุรี แต่โปมะยุง่วนกับขูดรีดและกลั่นแกล้งขุนนางท้องถิ่นจำนวนมาก จนสุดท้ายมีเรื่องจนทำให้พระยาจ่าบ้าน, พระเจ้ากาวิละเข้าร่วมกับกรุงธนบุรี และทำสงครามกับพม่าอยู่หลายครั้งด้วยความช่วยเหลือของกรุงธนบุรี สุดท้ายอาณาจักรล้านนาซึ่งอยู่ในปกครองของพม่ากว่า 200 ปีจึงสิ้นสุดลง เมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองลำปาง เมืองแพร่และเมืองน่าน เข้ามาอยู่ในพระราชอาณาเขตไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2317 เป็นต้นมา

ธนบุรี (2318-2319) แก้ไข
ขุนนางท้องถิ่นเปลี่ยนไปเข้ากับฝ่ายกรุงธนบุรี และขับไล่ข้าหลวงพม่าออกจากเชียงใหม่ด้วยความช่วยเหลือของกรุงธนบุรีในปี พ.ศ. 2317 พระเจ้ามังระที่ในขณะนั้นพระองค์ประชวรบ้างแล้ว ได้มีบัญชาให้กองทัพพม่าเปิดศึกกับกรุงธนบุรี เนเมียวสีหบดีเป็นรองแม่ทัพ ได้คุมทหารทางด้านเหนืออีกครั้ง ภายใต้การบัญชาการของแม่ทัพใหญ่อะแซหวุ่นกี้ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2318

.. บุกครั้งแรก ...

เนเมียวสีหบดียกกองทัพซึ่งตั้งอยู่ที่เชียงแสนลงมายังเชียงใหม่ ในการศึกครั้งนั้นกองทัพของเนเมียวสีหบดียกมาล้อมเชียงใหม่ แต่ไม่ยอมโหมกำลังเข้าตีทำแต่เพียงล้อมไว้ รอจนกองทัพของเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ ยกขึ้นมาช่วยเชียงใหม่ จากนั้นก็ตั้งรับพลาง ถอยพลางกลับเชียงแสนไป สอดรับกับทัพใหญ่ของอะแซหวุ่นกี้ที่ยกเข้าทางด่านแม่ละเมา เข้าตีเมืองตาก สุโขทัย มุ่งสู่พิษณุโลกในจังหวะที่การป้องกันเมืองพิษณุโลกอ่อนแอที่สุด เนื่องจากทัพของเจ้าพระยาทั้ง2 ติดศึกอยู่ทางเชียงใหม่

... บุกครั้งที่สอง ...

เมื่อกองทัพของเจ้าพระยาทั้งสองถอยกลับไปป้องกันเมืองพิษณุโลกแล้ว กองทัพของเนเมียวสีหบดีที่เตรียมพลไว้พร้อมอยู่แล้วที่เมืองนายและน่าจะคุมหัวเมืองเหนือของไทยไว้ได้แล้ว กำลังจะเคลื่อนพลลงมาสมทบกับอะแซหวุ่นกี้ที่ตอนนั้นสามารถยึดเมืองพิษณุโลกได้แล้ว แต่แล้วเขาก็ต้องยกกองทัพกลับไปอีกครั้ง หลังอะแซหวุ่นกี้สั่งยกเลิกการรุกรานเมื่อทราบข่าวพระเจ้ามังระสวรรคต ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2319

... บั้นปลายชีวิต ...

เมื่อสิ้นพระเจ้ามังระแล้ว แม่ทัพคู่บารมีของพระองค์ผู้นี้ ก็ถูกพระเจ้าจิงกูจาบุตรชายของพระองค์สั่งปลดทิ้งเสียจากตำแหน่งและถูกเนรเทศไปอยู่ที่เมืองสะกาย เช่นเดียวกับอะแซหวุ่นกี้แม่ทัพคู่บารมีอีกคนหนึ่งของพระเจ้ามังระ จากนั้นก็หายเงียบไป และพระเจ้าจิงกูจาก็ได้แต่งตั้ง เนเมียวสีหบดีคนใหม่ซึ่งเป็นคนของพระองค์ขึ้นแทน (เนเมียวสีหบดีเป็นชื่อยศ)

ที่มา :http://www.ch3thailand.com/news/drama/11679
และวิกิพีเดีย

ภาพประกอบจากละครหนึ่งด้าวฟ้าเดียว ไทยทีวีสีช่อง 3

 

Global trend 2300


วาระที่สอง ของผู้นำ คล้ายกัน #การเลือกตั้ง
............................................
การเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมประเทศที่เคยมีความมั่งคั่งทางอุตสาหกรรมการเกษตรในยุโรปกลายเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในยุโรปหลังจากทำรัฐประหารปี2014ได้ผู้นำชาตินิยม เปโตร โปโรเชนโก ๆได้เสนอตนเองเป็นคู่แข่งขัน ปธน.ในวาระที่สองโดยใช้คำขวัญว่าให้เลือกตนเองหรือปูติน
โดยเขาเชื่อว่าปูตินได้ผนวกไครเมียและพื้นที่บางส่วนของยูเครนซึ่งแนวทางของเขาเน้นการทำสงครามกับรัสเซียทุกรูปแบบเป็นแนวพรรคสงครามมากกว่าพรรคสันติภาพ
ประเด็นที่น่าสนใจคือหากเป็นผู้นำคนอื่นๆที่เสนอตนเองนั้นรัสเซียเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหนในแง่ภูมิรัฐศาสตร์นั้น ปูตินคงมีความต้องการให้ โปโรเชนโกเป็นปธน.ต่อไป แม้ว่าผลงานของโปโรเชนโกทำให้ประชาชนจะทุกข์ยากแสนสาหัสแต่ในแง่ของภูมิรัฐศาสตร์เข้าทางปูตินมาก
เนื่องจากโปโรเชนโกเลือกแบ่งประเทศเป็น2ซีกๆที่สนับสนุนโปโรเชนโกคือชาตินิยมมีประชากรอยู่ถึงร้อยละ55ได้รับการสนับสนุนจากส่วนหนึ่งของสังคมยูเครนซึ่งได้รับประโยชน์จากนโยบายของเขาโดยทั่วไป
โดยเฉพาะผู้ที่สามารถสร้างรายได้ในยูเครนและอาศัยอยู่ในยุโรปและเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เกิดลัทธินาซีและการคลั่งทหาร กลุ่มคนที่ต่อสู้กับรัสเซียนั่งอยู่บนโซฟาเล่นคียบอร์ดออกรายการทอลค์โชว์ทางการเมือง เศรษฐกิจเป็นกลุ่มทางสังคมเพียงเล็กน้อย
และซีกที่ปูตินให้การสนับสนุนนั้นนิยมรัสเซียเนื่องจากการค้าขายส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ70ของปริมาณการค้าระหว่างประเทศกับรัสเซียและแรงงานยูเครนทำงานในรัสเซียมากกว่า4ล้านคน แนวทางโปโรเชนโกจึงเสี่ยงมากที่ทำให้ยูเครนแตกตัวเป็น2ส่วนอย่างน้อย
นั้นอาจหมายถึงการล่มสลายของยูเครน
รัฐบริวารของสหรัฐในยุโรปตะวันออก นี้เป็นตัวเลือกที่ปูตินรอคอยหลังปี2014หลังจากที่ยูเครนสูญเสียแหลมไครเมียและดอนบาสส์หากเป็นคู่แข่งขันคนอื่นๆจะสามารถยับยั้งการล่มสลายยูเครนได้หากเปลี่ยนไปสร้างความสัมพันธ์ที่ดีหรือดำรงอยู่ในฐานะรัฐเป็นกลาง
กลยุทธ์นี้เรียกว่ายิ่งแย่ยิ่งดีเพราะเชื่อว่าประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบันยังสะดวกสำหรับผู้นำรัสเซีย ปัญหาคือโปโรเชนโกได้รับการสนับสนุนจากผู้เลือกตั้งประมาณร้อยละ12อยู่อันดับ4ซึ่งโอกาสที่เข้ารอบ2ของการเลือกตั้งคงเป็นไปได้ยากถึงตอนนี้
นี้เป็นการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนวัดความนิยมกันจริงๆไม่เหมือนบางประเทศที่มีกฎหมายพิสดารที่ให้อำนาจแก่ไม่กี่คนกำหนดที่มาจากการแต่งตั้ง สว.มากกว่าการเลือกของประชาชนทั่วประเทศ แต่ยูเครนมีตัวเลือกว่าที่ ปธน.น้อยมากที่จะแตกประเทศ เพราะคู่แข่งที่มีคะแนนนำอยู่ตอนนี้ต่างมีแนวทางที่จะสู้รบกับรัสเซียและนิยมสหรัฐ
อย่างไรก็ตามการคุกคามของการสลายตัวต่อไปของยูเครนยังคงอยู่ ความกังวลเหล่านี้เป็นจริง วิกฤติการเมืองและเศรษฐกิจและโรคกลัวต่อต้านรัสเซีย กระบวนการของชาตินิยมก่อสังคมอาชญากรรมอาละวาดการข่มขู่ของผู้คัดค้าน ทั้งหมดนี้นำไปสู่ความจริงที่ว่ากระบวนการของการล่มสลายของยูเครนยังคงดำเนินต่อไป บางทีรูปแบบของสหพันธ์รัฐอาจจะช่วยยูเครนหรือทำให้กระบวนการสลายตัวเจ็บปวดน้อยลงและสงบสุขมากขึ้น
การเข้าสู่อำนาจการเมืองในวาระที่สองของโปโรเชนโกโอกาสแทบเป็นไปไม่ได้ ปัญหาในตอนนี้ ยูเครนไม่มีตัวเลือกว่าที่ปธน. ที่ทำให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการเมือง การเข้าสู่ในวาระที่สองนั้นทำให้ยูเครนแตกประเทศค่อนข้างชัดเจนจากโรคกลัวรัสเซีย
ปัญหาของการเปลี่ยนผ่านรัฐดาวเทียมแบบยูเครนนั้นเป็นปัญหาการเมืองแบบนอมินีที่ทุกประเทศเผชิญหากมีคะแนนนิยมแบ่งเป็น2ฝ่าย
ฝ่ายปธน.ยูเครนคนปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตันภายใต้การวางแผนรัฐประหารในปี2014โดยสถานทูตสหรัฐในยูเครนร่วมมือกับอียู
การก่อรัฐประหารดังกล่าวทำให้เกิดการขาดดุลยภาพทางภูมิรัฐศาสตร์เพราะยูเครนสูญเสียตนเองในฐานะรัฐเป็นกลางและการเลือกตั้งเสี่ยงแตกประเทศออกมาอย่างชัดเจน หากไม่มีการปฎิรูปหรือจัดตั้งโครงสร้างอำนาจรัฐแบบใหม่อย่างในรูปแบบสหพันธ์
ดูแล้วการเขียนเรื่องราวต่อไปของเศรษฐกิจการเมืองยูเครนเหมือนกับรัฐอุกกาบาตที่อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน
การดำเนินสืบทอดอำนาจในวาระที่สองนั้นจะเกิดปัญหาในอนาคตอย่างยูเครนนั้นหรือไม่ขึ้นกับฝีมือสมองและหัวใจของนักภูมิรัฐศาสตร์มากน้อยแค่ไหนซึ่งเวลาจะพิสูจน์
แต่ที่แน่ๆ การแบ่งแยกความนิยมชมชอบนั้นตามอุดมการณ์จะดำเนินต่อไปโดยมิหวนกลับ การปฎิรูปการเมืองไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรใดๆก็ไม่รู้ว่าใครต้องรับผิดชอบ

น้องตาย่า
................
ภาพจาก http://nrt24.ru/sites/default/files/3_137.png

 

รัสเซียพร้อมช่วยเวเนฯ แก้วิกฤติ-จีนปัดคุยแกนนำฝ่ายค้าน
วันพฤหัสบดี ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562, 06.00 น.

มอสโก/ปักกิ่ง/การากัส (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - รัสเซียพร้อมสนับสนุนเพื่อให้มีการเปิดเจรจาระหว่างรัฐบาลเวเนซุเอลากับฝ่ายค้านเพื่อหาทางออกให้แก่สถานการณ์ในขณะนี้ พร้อมกับเตือนสหรัฐว่าอย่าแทรกแซงกิจการภายในของเวเนซุเอลา ด้านทางการจีนปฏิเสธข่าวคณะนักการทูตจีนได้คุยกับฝ่ายค้านเวเนซุเอลาเพื่อปกป้องการลงทุนของจีนในเวเนซุเอลา

สำนักข่าวทาสส์รายงานอ้างคำกล่าวของนายเซอร์เก เรียบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียว่า รัสเซียติดต่อประสานงานกับรัฐบาลเวเนซุเอลาอย่างจริงจังมาโดยตลอดและพร้อมสนับสนุนเพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดกระบวนการที่จะหาทางออกให้แก่สถานการณ์ขณะนี้ นอกจากนี้ยังได้เสนอบางวิธีเพื่อแก้ไขวิกฤติให้แก่เวเนซุเอลาด้วย ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เตือนระหว่างโทรศัพท์สนทนากับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเมื่อค่ำวานนี้ว่า สหรัฐไม่ควรแทรกแซงกิจการภายในของเวเนซุเอลา โดยเฉพาะการแทรกแซงด้วยกำลังทหาร และว่ารัสเซียพร้อมประชุมหารือสถานการณ์เวเนซุเอลาตามแนวทางของกฎบัตรสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

ด้านนายวาซิลี นีบินเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นกล่าวถึงเรื่องที่สหรัฐยื่นญัตติต่อยูเอ็นเรียกร้องให้เวเนซุเอลาจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเสรี เป็นธรรม และเชื่อถือได้ โดยให้นานาชาติเข้าไปสังเกตการณ์ว่า เป็นการกระทำที่ไม่สมดุลอย่างยิ่ง รัสเซียกำลังหารือเรื่องยื่นญัตติค้าน

ในส่วนของความเคลื่อนไหวจากทางการจีน โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงที่กรุงปักกิ่งว่า กรณีหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลของสหรัฐรายงานว่า คณะนักการทูตจีนซึ่งห่วงเรื่องโครงการน้ำมันในเวเนซุเอลาและเรื่องหนี้ที่เวเนซุเอลาค้างชำระจีนอยู่เกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 626,340 ล้านบาท) ได้คุยที่กรุงวอชิงตันกับตัวแทนของนายฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้านที่ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการนั้นไม่ถูกต้องและเป็นข่าวเท็จ พร้อมกับย้ำจุดยืนของจีนว่า เรื่องของเวเนซุเอลาควรแก้ไขผ่านการเจรจา

จีนให้เวเนซุเอลากู้ยืมกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.56 ล้านล้านบาท) ผ่านข้อตกลงสินเชื่อแลกน้ำมันตลอดทศวรรษที่ผ่านมา หวังมีแหล่งพลังงานรองรับเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว นายไกวโด ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติวัย 35 ปี ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์เมื่อเดือนก่อนหลังประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการเมื่อวันที่ 23 มกราคม ว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเวเนซุเอลาจะเป็นผลดีต่อประเทศเจ้าหนี้หลักอย่างจีนและรัสเซีย อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศนี้ยังคงสนับสนุนประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ขณะที่ตะวันตกหลายประเทศพากันรับรองนายไกวโดให้เป็นผู้นำที่ชอบธรรม

https://www.naewna.com/inter/395345...Iv7Bvx-cr4pmeJxko9Gi2DSiPgDXrltUddBwC9rLTuijo

 

หน่วยงานญี่ปุ่นเตรียมยื่นแก้กฎหมาย ให้การดาวน์โหลดผลงานลิขสิทธิ์ทุกรูปแบบผิดกฎหมาย By: nismod on 15 February 2019 - 13:24Tags:

The Japan Times รายงานว่าหน่วยงานด้านวัฒนธรรม (Cultural Affairs Agency) กำลังพิจารณากฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ เพื่อยื่นให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งจะครอบคลุมการดาวน์โหลดผลงานลิขสิทธิ์ทุกรูปแบบไม่ว่าจะภาพยนตร์, เพลง, มังงะ, หนังสือ ฯลฯ ถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด จากที่ตอนนี้กฎหมายครอบคลุมเฉพาะวิดิโอและเพลงเท่านั้น

กฎหมายดังนั้นยังอยู่ในขั้นร่างและถกเถียงภายในหน่วยงานเท่านั้น รายละเอียดต่างๆ ยังไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตามในร่างกฎหมายมีวรรคหนึ่งระบุว่าให้ลงโทษเจ้าของเว็บที่ลงไฮเปอร์ลิงก์ไปยังเว็บที่ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย โดยทางหน่วยงานด้านวัฒนธรรมจะยื่นร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ภายในวาระการประชุมรัฐสภาที่กำลังมีขึ้นขณะนี้

ที่มา - The Japan Times



https://www.blognone.com/node/108154

 

#เลย ป.ป.ช. วางแผนล่อซื้อจับรองนายก อบต. คาตีนภูทอก เรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการรถโดยสารท่องเที่ยวขึ้นภูทอก พร้อมเงินล่อซื้อ 24,000 บาท
#ทุจริต #ข้าราชการ #รีดไถ

 

The MATTER

หากใครจำกันได้ ปี 2019 คือช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในโลกของ ‘Akira’ มังงะและภาพยนตร์อนิเมะแนวไซเบอร์พังค์ที่ตอนนี้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆ คน ซึ่งในช่วงเวลาที่อนิเมะออกสู่สายตาชาวโลกนั้น ใครจะไปคาดคิดว่าเทคโนโลยีจะมาถึงจุดนี้ได้

.

แรกเริ่มเดิมที Akira เป็นผลงานมังงะที่ Otomo Katsuhiro เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสาร Young Magazine ตั้งแต่ปีค.ศ. 1982 เนื้อหาของเรื่องนั้นเกิดขึ้นในปี 2019 ณ กรุงนีโอโตเกียว (Neo Tokyo) ที่สร้างขึ้นมาหลังจากโตเกียวเดิมล่มสลายไปในสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเมืองที่ยังคงเต็มไปด้วยความรุนแรงต่างๆ อยู่ดี

.

ด้วยงบการสร้างภาพยนตร์อนิเมะของ Akira ที่มียอดเงินกว่า 10,000 ล้านเยน ซึ่งถือว่าเป็นทุนสร้างอนิเมะที่มากที่สุดในยุคนั้น ทำให้งานที่ออกฉายมีภาพที่ไหลลื่นจนเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง แม้ว่ายอดขายในช่วงแรกจะสวนทางกันก็ตาม แต่ Akira ก็ค่อยๆ รุกคืบไปยังคนดูหลากหลายกลุ่ม จนกระทั่งกลายเป็นภาพยนตร์อนิเมะในตำนานไปในที่สุด

.

อ่านที่มาของ Akira ต่อได้ที่ : https://thematter.co/rave/2019-is-a-good-time-to-re-watch-akira/70823


#akira #animation #TheMATTER

 

China Xinhua News


จีนฟันเอาผิดหมู่บ้านบุกรุกป่าภายใน 5 เดือน เร่งฟื้นฟูป่าให้เสร็จสิ้นในปี 2020 ส่งจนท.ตรวจสอบล่าสัตว์ผิดกฎหมาย

.

หน่วยงานรัฐบาลประจำมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ประกาศแผนการแก้ปัญหาหมู่บ้านที่สร้างโดยผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมของเทือกเขาฉินหลิง (Qinling Mountains) ภายในเดือนมิถุนายนนี้ และจะฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของภูเขาให้กลับมาสมบูรณ์ภายในปี 2020.

.

การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้น 1 เดือนหลังจากสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) เผยแพร่สารคดีเมื่อวันที่ 9 ม.ค. เกี่ยวกับการลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มหนึ่งในมณฑลส่านซีเนื่องจากล้มเหลวในการรื้อถอนหมู่บ้านที่สร้างโดยผิดกฎหมายในเขตพื้นที่เทือกเขาฉินหลิง แม้ว่าจะมีคำสั่งย้ำมาจากประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแล้วก็ตาม

.

หน่วยงานรัฐบาลในส่านซีประกาศให้คำมั่นว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งได้แก่ การปลูกสร้างบ้านผิดกฎหมาย การบุกรุกพื้นที่ป่า และการล่าสัตว์ผิดกฎหมายให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน

.

และภายในสิ้นปี 2020 จะระงับการขุดเหมือง – รวมถึงห้ามโดยเด็ดขาด – ในเขตพื้นที่กำลังพัฒนาบนเทือกเขาฉินหลิง และจะมีการสนับสนุนให้ฟื้นฟูสภาพดินในเขตเหมืองตามลำดับ

.

นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐบาลยังมอบหมายให้ทีมพิเศษเดินทางไปสอดส่องยัง 6 เมืองรอบเทือกเขาฉินหลิง เพื่อสืบหาและตรวจตราสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหาย การบุกรุกพื้นที่ป่า การปล่อยมลพิษผิดกฎหมาย และการล่าสัตว์ผิดกฎหมาย

.

ด้วยแผนปฏิบัติการดังกล่าว ภายในปี 2020 ขนาดพื้นที่ป่าของมณฑลส่านซีจะขยายแตะ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร และอัตราส่วนพื้นที่ป่าของมณฑลจะเติบโตถึง 45 เปอร์เซ็นของพื้นที่ทั้งหมด

 

China Xinhua News


"ยักษ์นักอนุรักษ์" นาซ่าเผยจีน-อินเดียสร้างพื้นที่สีเขียวให้โลกเพิ่มขึ้นมากในช่วง 20 ปีมานี้

.

เมื่อเร็วๆนี้ นาซ่าได้เปิดเผยผลการศึกษาที่ค้นพบว่า ประเทศจีนและอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ได้กลายเป็นผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้โลกของเรามีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

.

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Natural Sustainability เปิดเผยว่านับตั้งแต่ปี 2000 พื้นที่สีเขียวของโลกก็ได้เพิ่มขึ้นมาร้อยละ 5 หรือคิดเป็นมากกว่า 5 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่เทียบเท่ากับป่าฝนอเมซอนทั้งหมด

.

“จีนและอินเดียมีพื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศที่เป็นพื้นที่สีเขียว แต่เป็นพื้นที่เพียงร้อยละ 9 ของทั่วโลกเท่านั้นที่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณ ถือการค้นพบที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาถึงความเสื่อมโทรมของที่ดินที่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศที่มีประชากรหนาแน่นเช่นนี้” นายเฉินฉือ ผู้เขียนผลการศึกษาจากภาควิชาโลกและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยบอสตันกล่าว

.

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ส่วนใหญ่มาจากโครงการปลูกต้นไม้ต่างๆ ที่มีการดำเนินงานอย่างเคร่งครัดในประเทศจีน อีกทั้งจีนและอินเดียยังทำ “เกษตรประณีต” (Intensive Farming) อีกด้วย รายงานการศึกษาระบุเช่นนี้

.

ประเทศจีนปลูกป่าเพิ่มขึ้นจนมีพื้นที่ป่าเป็น 1 ใน 4 ของโลก แม้จะมีพื้นที่เพาะปลูกพืชผักเพียงร้อยละ 6.6 ของโลกก็ตาม แต่ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา จีนก็ได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์และขยายพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 42 และทำ “เกษตรประณีต” เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 32 นาซ่ากล่าว

.

ตัวอย่างโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของจีนที่โดดเด่นคือ การปลูกพืชในทะเลทรายคูบูฉี ซึ่งเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 7 ของประเทศจีน จน 1 ใน 3 ของพื้นที่แห่งนี้กลายเป็นแปลงพืชพันธุ์ต่างๆ ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยความพยายามของประเทศจีน

.

รายงานล่าสุดระบุว่า ประเทศจีนครอบครองพื้นที่ป่าร้อยละ 21.6 แต่ได้ตั้งเป้าจะเพิ่มตัวเลขไปเป็นร้อยละ 23.04 ในปี 2020 และจะเพิ่มเป็นร้อยละ 26 ในปี 2050 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว จีนได้ใช้มาตรการต่างๆ ตั้งแต่การปลูกป่าเชิงเขาไปจนถึงการสร้างทุ่งหญ้าและพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ

 

China Xinhua News


เย็นจัด! 'โทรอนโต' ขาวโพลนทั่วเมือง หลังพายุหิมะพ้ดถล่ม 2 วันติด

.

13 ก.พ. ที่ผ่านมา รถกวาดหิมะและเจ้าหน้าที่กวาดหิมะออกทำงานเต็มพื้นที่ถามถนนสายต่างๆ ในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ม้านั่งและต้นไม้ริมทะเลสาบออนแทริโอมีน้ำแข็งเกาะหนา ผิวน้ำเหนือทะเลสาบจับตัวเป็นน้ำแข็งลอยเอื่อย หลังจากพายุฤดูหนาวหอบเอาทั้งหิมะ น้ำฝนที่เย็นจัด และลมกรรโชกแรกพัดเข้าถล่มบริเวณ Greater Toronto Area (GTA) ตลอด 2 วันที่ผ่านมา

 

China Xinhua News



ทำอย่างไร? เมื่อมีนักท่องเที่ยวติดอยู่บนหน้าผา


ชมภาพที่ถูกบันทึกไว้เมื่อเร็วๆนี้ ของวิธีการช่วยเหลือชายนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ติดอยู่บนหน้าผา ในเมืองส้าวซิง มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกเฉียงใต้ประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งหมวกนิรภัยให้ชายดังกล่าวใส่ ส่งเชือกให้เขาผูกไว้ที่ตัว และพาดสะพานไว้ให้ชายดังกล่าวปีนกลับมา ภารกิจจบลงโดยที่ชายกดังกล่าวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขอปรบมือให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ด้วย

 

China Xinhua News



หมุนเยอะไปหน่อย! นักพรตทำพิธีรดน้ำมนต์ หมุนตัวกว่า 160 รอบจนอาเจียนกลางพิธี

.

เมื่อเร็วๆ นี้ วัดหลงหัวซานเจวี๋ยซื่อ (龍華山善覺寺) เมืองหนานโถว เกาะไต้หวัน ได้เชิญนักพรตฮุ่ยเหยียนมาทำพิธีพรมน้ำมนต์ ปัดเป่าสิ่งอัปมงคล ทางด้านนักพรตก็เลือกใช้วิธีพรมน้ำมนต์พร้อมหมุนรอบตัวเองไปพร้อมกัน

.

แต่ปรากฏว่าหลังจากหมุนอยู่นานร่วม 4 นาที รวม 160 กว่ารอบ ทำเอานักพรตฮุ่ยเหยียนเกิดอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงจนแทบยืนไม่อยู่ และถึงกับอาเจียนออกมากลางงาน ท่ามกลางลูกศิษย์ที่ต่างเข้ามาช่วยกันประคอง

 

China Xinhua News


กลัวที่ไหน! มอสโกไม่สนข่าวการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของตะวันตก

.

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 ก.พ.) นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ได้กล่าวว่า มอสโกไม่เกรงกลัวต่อการคว่ำบาตรรูปแบบใหม่ของทางตะวันตก ซึ่งอาจเป็นผลบังคับมาจากวอชิงตัน

.

“เราไม่ได้กำลังหารือเรื่องการคว่ำบาตรกับใคร เราแค่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจของเรา และทำการค้ากับหุ้นส่วนต่างชาติตามปกติเท่านั้น ในลักษณะที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร” นายลาฟรอฟกล่าวในงานแถลงข่าว

.

ในวันอังคารที่ผ่านมา (12 ก.พ.) หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ได้รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการทูตว่า สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) ใกล้จะบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่แล้ว โดยใช้เหตุการณ์ที่รัสเซียจับกุมเรือรบยูเครนในทะเลดำเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นเหตุผล

.

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวอีกครั้งในการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปในวันจันทร์หน้า และในอีกสองเดือนข้างหน้า

.

“เรารู้ว่ามาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ถูกเสนอขึ้นมาใช้ ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักแน่นที่สุดของสหรัฐอเมริกาซึ่งคงพูดได้ว่านี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่สหภาพยุโรปตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นอิสระ” นายลาฟรอฟกล่าว

.

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 พ.ย. ปีที่แล้ว คือรัสเซียได้สั่งยึดเรือยูเครน 3 ลำและลูกเรือ 24 คนที่พยายามแล่นผ่านช่องแคบเคิร์ชจากทะเลดำไปยังทะเลแห่งอาซอฟ ด้วยข้อกล่าวหาว่าละเมิดชายแดนของรัสเซีย หลังจากนั้น มอสโกและเคียฟก็ได้กล่าวหาว่าต่างฝ่ายต่างพยายามยั่วยุซึ่งกันและกัน ซึ่งกลุ่มประเทศตะวันตกก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัสเซียในภายหลัง

 

เวเนซุเอลา - ศาลสูงสุดออกคำสั่งให้บอร์ดบริหารบริษัทพลังงาน PDVSA 15 คนซึ่งล้วนอยู่นอกประเทศ และได้รับการแต่งตั้งโดยสภาเวเนซุเอลา 1 วันก่อนหน้า ให้อยู่ในสถานะสิ้นสภาพ พร้อมกับสั่งดำเนินคดีคนทั้งหมดทันทีในข้อหา ได้อำนาจมาอย่างไม่ถูกต้อง คอร์รัปชัน อาชญากรรมองค์กร และก่อการร้าย เป็นการตอบโต้ที่ออกมาจากฝั่งมาดูโร ที่มีคนใกล้ชิดเต็มไปหมดในศาลแห่งนี้

 

น้ำท่วมทำให้แม่น้ำ Flinders ของรัฐควีนส์แลนด์กลายเป็น 'แม่น้ำขนาดใหญ่ 60 กม.'

เบเนดิกต์บรูค, news.com.au

14 กุมภาพันธ์ 2019 12:59 น



มันเป็นแม่น้ำที่ไม่เหมือนแม่น้ำอื่น ๆ ในออสเตรเลีย และเมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็มีอยู่จริง


ทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์มีฝนตกชุกทำให้เกิด“ แม่น้ำขนาดใหญ่” ขึ้นมาทันทีดังนั้นจึงสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในภาพถ่ายดาวเทียม


ในบางส่วนแม่น้ำฟลินเดอร์สตอนนี้บวมด้วยน้ำท่วม มันขยายกว้างกว่า 60 กิโลเมตรจากฝั่งหนึ่งไปยังฝั่งตรงข้าม


ในวันพุธที่สำนักอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า Flinders“ ปัจจุบันประสบน้ำท่วมที่สำคัญที่สุดในอย่างน้อยใน 50 ปีที่ผ่านมา”


เส้นทางที่เต็มไปด้วยโคลนและเต็มไปด้วยน้ำท่วมอย่างช้าๆ เริ่มต้นจากภายในของรัฐ ไปจนถึงอ่าวคาร์เพนทาเรีย ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ไม่เหมือนใครของพื้นที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อแม่น้ำ


ในภาพถ่ายดาวเทียมสามารถมองเห็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่มากทางตอนเหนือของรัฐ


ยังสามารถมองเห็นได้คือน้ำวนที่มีเมฆสีน้ำตาลขุ่นไหลลงสู่น่านน้ำเก่าแก่ของอ่าว การไหลเวียนเต็มไปด้วยเศษดินและซากปศุสัตว์ที่ตายแล้ว


ภาพถ่ายดาวเทียมจากสำนักอุตุนิยมวิทยาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพื้นที่โคลนอันกว้างใหญ่นั่นคือแม่น้ำฟลินเดอร์ส กว้างมากมันมีแม่น้ำสายอื่นอยู่ใกล้เคียง

ข่าวท้องฟ้านักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ ช่องร็อบชาร์ปบอกข่าว ขนาดของแม่น้ำที่บวมนั้นทำไมวัวควายถึงครึ่งล้านตัวเสียชีวิตไป - ไม่มีที่ว่างสำหรับพวกเขาที่จะหนีไปทันเวลา


“ ปริมาณน้ำฝนที่ซัดเซ เหนือ 500 มม. ฝนกระจายไปทั่วภูมิภาคอันกว้างใหญ่ 300 กม. และ 200 กม. ทางทิศเหนือ ฝนตกหนึ่งปีมีค่าลดลงในหนึ่งสัปดาห์และนั่นเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สุดในแม่น้ำ Flinders


“ ระบบแม่น้ำฟลินเดอร์สตอนนี้เป็นที่ราบน้ำท่วม นี่คือแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ไหลขึ้นสู่อ่าว "


หากคุณต้องรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และทิ้งลงในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่ในนิวเซาธ์เวลส์ มันจะยืดจากซิดนีย์ตะวันตกไปจนถึงบา ธ เฮิร์สต์ และทางใต้สู่ยาสใกล้กับแคนเบอร์รา. นายชาร์ปกล่าว


แต่แตกต่างจากในรัฐ NSW ซึ่งมีแนวโน้มว่าน้ำจะไหลไปยังแม่น้ำหลายสายเพื่อลดผลกระทบโดยรวมภูมิศาสตร์ของรัฐควีนส์แลนด์ตอนเหนือหมายถึงน้ำส่วนใหญ่จะถูกจับในทิศทางเดียวผ่านระบบ Flinders


ทิวทัศน์มุมสูงของริชมอนด์ซึ่งตั้งอยู่บน Flinders ในน้ำท่วม รูปภาพ: จำหน่าย


Flinders บวมมากจนตอนนี้กว้าง 60 กม. ในสถานที่ รูปภาพ: จำหน่าย


ด้วยความยาว 1,000 กม. Flinders เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในรัฐควีนส์แลนด์ และมีพื้นที่กว้างใหญ่ราว 108,000 ตารางกิโลเมตร ระหว่างทางผ่านเมืองต่างๆ เช่นริชมอนด์ ฮิวเด็นเด้น และจูเลียครีก ซึ่งหลายแห่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม


เพียง 70 กม. สุดท้ายของแม่น้ำ เนื่องจากใกล้กับอ่าวคาร์เพนทาเรียใกล้กับเมืองเล็ก ๆ ของ Karumba ที่มีน้ำไหลตลอดปี


แม่น้ำทอดผ่านดินเหนียวแบนขนาดใหญ่และบริเวณโดยรอบส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการเลี้ยงโค สาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก คือแม่น้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว


“ น้ำทั้งหมดนั้นมีฝนตกประมาณครึ่งเมตรไหลลงสู่แอ่งเดียวที่รวมกันเป็นแม่น้ำยักษ์สายหนึ่ง” นายชาร์ป กล่าว


“ ลุ่มน้ำ Flinders ตอนนี้ไหลไปสู่แอ่งน้ำถัดไปแม่น้ำนอร์แมน และนั่นยอดเยี่ยมมาก


วัวตายในระหว่างเมืองจูเลียครีและ Cloncurry เหยื่อเปิดเผยในช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมนานสัปดาห์ที่ล้นมือทางตะวันตกเฉียงเหนือ รูปภาพ: Nigel Hallett


...

“ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเป็นจำนวนมากจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ปศุสัตว์หลายแสนตัวเสียชีวิต ...


Flinders ใหม่ "แม่น้ำขนาดใหญ่" จะหดกลับเป็นขนาดปกติเมื่อน้ำท่วมที่เหลือไหลไปสู่อ่าว แต่อาจจะดี ในสัปดาห์หน้า นายชาร์ปกล่าว


คำแนะนำของ BoM สำหรับผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้นเป็นเรื่องง่าย:“ หากน้ำท่วมให้ลืมไปเลย”


เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายกรัฐเทศมนตรีของรัฐควีนส์แลนด์ แอนนาสตาเซีย ปาลาสซ์ซัค บอกกับรัฐสภาว่าซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคโบทูลิซึมและไข้ Q สำหรับทีมทำความสะอาด และแหล่งน้ำในชุมชนที่ถูกน้ำท่วม


แม้แต่วัวที่รอดพ้นจากความหวาดกลัวสองสัปดาห์ก็ยังติดอยู่ในน้ำท่วมและอาจยังคงต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อสัตว์ที่ตายรอบ ๆ พวกมันปนเปื้อนในน้ำที่พวกมันดื่ม


Mark Furner รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของรัฐควีนส์แลนด์กำลังเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงเหนือพร้อมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและกองทัพเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดสัตว์ที่ตายแล้ว


“ ขั้นตอนต่อไปของการฝึกครั้งนี้คือการกำจัดซากสัตว์” Mr Furner บอก The Courier-Mail “ เมื่อมันร้อนขึ้นมันก็กลายเป็นเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพ”


ผู้เชี่ยวชาญกำลังพิจารณาหลุมฝังศพจำนวนมากเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเกษตรกรในรัฐควีนส์แลนด์พร้อมกับกองกำลังป้องกันในการเจรจา เพื่อนำเครื่องจักรกลหนักมากำจัดศพโค


- การรายงานเพิ่มเติมโดย Natalie Wolfe


https://www.townsvillebulletin.com....r/news-story/f7adf2e8850b05fc084764d3767c88a3