ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 14) สหรัฐเผยยอดค้าปลีกดิ่ง 1.2% ในเดือนธ.ค. ทรุดหนักสุดรอบกว่า 9 ปี : กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 ซึ่งขณะนั้นเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอย

นักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.การทรุดตัวของยอดค้าปลีกในเดือนธ.ค.ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของยอดขายในสินค้าทุกหมวด

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือน ธ.ค. ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 1.7% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ย.

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- U.S. retail sales post largest drop since 2009; jobless claims rise:
https://www.reuters.com/article/us-...2w5ZTKsbjtBgyvWsIuTGRbsUz59Wz0VOhm1wl3lr_fMsw

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 14) 50 มหาเศรษฐีฮ่องกงรวยลดลงกว่า 6 แสนล้านบาท : นิตยสารฟอร์บส์รายงานว่า มหาเศรษฐี 50 อันดับแรกของฮ่องกงมีทรัพย์สินในปีที่แล้วลดลงราว 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 626,900 ล้านบาท) เพราะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว หุ้นฮ่องกงร่วง และตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงลดความร้อนแรง

ฟอร์บส์รายงานเมื่อค่ำวันพุธว่า ปีที่แล้วมหาเศรษฐีกลุ่มนี้มีทรัพย์สินรวมกัน 286,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.99 ล้านล้านบาท) ลดลงจากปีก่อนหน้านั้นที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.88 ล้านล้านบาท) เป็น 307,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.63 ล้านล้านบาท) นางพอลลีอันนา จู วัย 60 ปี เศรษฐีนีอันดับที่ 14 ของฮ่องกงมีทรัพย์สินลดลงมากที่สุดถึงร้อยละ 75 เหลือ 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 103,537 ล้านบาท) เพราะหุ้นคิงสตันไฟแนนเชียลกรุ๊ป บริษัทการลงทุนของเธอร่วงหนักตามตลาดหุ้นฮ่องกงที่ร่วงถึงร้อยละ 9.4

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ชี้ว่า ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีฮ่องกงมักผูกโยงกับตลาดหุ้น แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่น เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและสงครามการค้าจีน-สหรัฐที่ทำให้ตลาดเกิดความไม่แน่นอน มหาเศรษฐีฮ่องกงที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐคือ สามีภรรยาเจ้าของเบียลคริสตัล ผู้ผลิตหน้าจอรายใหญ่ที่สุดของไอโฟน ทรัพย์สินลดลงถึงร้อยละ 57 เพราะยอดขายไอโฟนในจีนทรุดหนัก ขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงราวร้อยละ 10 ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากทะยานจนเกินเอื้อมมาร่วมทศวรรษก็ทำให้มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์อย่างนายลี กาชิง วัย 90 ปี ผู้ร่ำรวยที่สุดในฮ่องกง ทรัพย์สินหายไป 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 125,500 ล้านบาท) เหลือ 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเมื่อปีก่อนมีเพียงคนเดียวคือ นายลี หมั่นทัต วัย 90 ปี เจ้าของธุรกิจซอสน้ำมันหอย รวยขึ้นสองเท่าเป็น 17,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 536,450 ล้านบาท)

Source: สำนักข่าวไทย

- Li Ka-shing Is Down $4 Billion, But Still Tops Hong Kong Rich List For 21st Year
https://www.forbes.com/sites/robert...b5FjRMLMU2oTcp7XhVqEul5jmE71cjnU#1c962caf1abe

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 15) รัฐสภาสหราชอาณาจักรลงมติคว่ำแผนการเจรจาข้อตกลง Brexit deal กับสหภาพยุโรปใหม่อีกครั้งของ นางTheresa May พร้อมทั้งเรียกร้อง “clear massage” ของแผนที่ นาง May จะนำไปเจรจากับสหภาพยุโรป: สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักรมีมติด้วยคะแนนเสียง 303 ต่อ 258 เสียง ปฏิเสธข้อเสนอของ นาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่จะเปิดการเจรจาข้อตกลง Brexit ใหม่อีกครั้งกับสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม ผลการลงมติดังกล่าวไม่ได้มีผลผูกพันตามกฎหมายต่อรัฐบาล

นาย Jeremy Corbyn ผู้นำพรรค Labours กล่าวว่า นาง May ต้องยอมรับว่ากลยุทธ์ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันไม่ประสบผลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม นาย Corbyn ถูกกดดันจากสมาชิก Labour ของตนเอง โดยสมาชิกพรรค Labour จำนวนกว่ากว่า 10 คน ประกาศว่าจะลาออกจากพรรค หาก นาย Corbyn ล้มเหลวในการผลักดันให้มีการลงประชามติ Brexit ใหม่อีกครั้ง

ด้านนาย Edouard Philippe นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวว่า แม้กรณี no-deal Brexit ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่หลังจากที่รัฐสภาสหราชอาณาจักรปฏิเสธร่างข้อตกลง Brexit ฉบับปัจจุบัน ฝรั่งเศสจำเป็นต้องเตรียมแผนฉุกเฉินเพื่อรองรับสำหรับกรณีดังกล่าว โดยกฎหมายหลายฉบับจำเป็นต้องได้รับการพิจารณา รวมถึงเพิ่มการลงทุนด้านท่าเรือและท่าอากาศยาน

คณะทำงานจากสหภาพยุโรปเริ่มเดินสายไปยังประเทศสมาชิกต่างๆ ทั้ง 27 ประเทศ เพื่อประสานงานเกี่ยวกับการเตรียมแผนรองรับสำหรับกรณี no-deal Brexit โดยประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักรได้เริ่มเตรียมการสำหรับกรณีดังกล่าวไปบ้างแล้ว

ขณะที่นาย Margaritis Schinas โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ทุกฝ่ายได้มีการพูดถึงแผนการรองรับสำหรับกรณี no-deal Brexit อย่างจริงจังมากขึ้น เนื่องจากความน่าจะเป็นที่จะเกิดสถานการณ์ดังกล่าวได้ปรับสูงขึ้นหลังจากการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหราชอาณาจักรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่นาย Peter Altmaier – รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวเตือนว่า ทุกคนในยุโรปจะประสบกับความพ่ายแพ้จากการที่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง

จากรายงานในปัจจุบันพบว่าประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางด้านการค้าใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักร อาทิ ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ no-deal Brexit มากกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งสมาชิกสหภาพยุโรปบางประเทศได้ดำเนินการเตรียมแผนรองรับสำหรับกรณี no-deal Brexit ไว้บ้างแล้ว ดังนี้
1. ฝรั่งเศส: นาย Edouard Philippe นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ระบุว่า ฝรั่งเศสได้เตรียมร่างกฎหมายที่เป็นหลักเกณฑ์สำหรับกรณี no-deal Brexit และมีแผนการลงทุนด้านท่าเรือและท่าอากาศยานมูลค่ากว่า 50 ล้านยูโร โดยเน้นไปที่จุดควบคุมสินค้าและพื้นที่จอดรถ รวมถึงมีแผนจะปรับเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ด้านศุลกากรและด้านสัตวแพทย์อีกกว่า 580 ตำแหน่ง

2. ไอร์แลนด์: นาย Leo Varadkar นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ได้รายงานต่อรัฐสภาเกี่ยวกับแผนการออกกฎหมายเพื่อรองรับสำหรับกรณี no-deal Brexit ของรัฐบาลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยแผนการของรัฐบาลจะมุ่งเน้นไปที่มาตรการด้านสุขภาพ การสื่อสาร การศึกษา การเงิน การจ้างงาน และกระบวนการยุติธรรม

3. เนเธอร์แลนด์: นาง Sigrid Kaag รัฐมนตรีด้านการค้าระหว่างประเทศของเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้เผยแพร่ “Major Information Campaign” ซึ่งเป็นรายละเอียดข้อมูลที่สำคัญสำหรับภาคธุรกิจเพื่อใช้เตรียมตัวสำหรับ Brexit เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2019 โดยเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักรมากที่สุดรองจากไอร์แลนด์ โดยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจร่วมกันทั้งด้านการประมง การค้าขายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป และการส่งออกดอกไม้ ซึ่ง นาง Kaag กล่าวว่า ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางของเนเธอร์แลนด์ยังมีการเตรียมแผนรองรับสำหรับกรณี no-deal Brexit ไม่ดีเพียงพอ

4. เยอรมนี: นาย Heiko Maas รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ทุกฝ่ายควรยกระดับแผนการรองรับสำหรับกรณี no-deal Brexit ให้มีความคืบหน้ามากขึ้น โดย นาย Mass กล่าวต่อรัฐสภาเยอรมนีว่า เยอรมนีพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเตรียมการรองรับสำหรับ Brexit ในทุกกรณี

5. สเปน: สเปนเตรียมเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหากสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลง โดยพลเมืองสหราชอาณาจักรจำนวนประมาณ 310,000 คน ที่อาศัยอยู่ในสเปนจำเป็นต้องทำการยืนยันถิ่นที่อยู่หากเกิดกรณี no-deal Brexit อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรและสเปนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาข้อตกลงทวิภาคีร่วมกัน

Source: BOTSS

- UK's May suffers embarrassing defeat on Brexit strategy:https://www.cnbc.com/2019/02/14/uk-...Z163Jdb-zsVeMVKkUJSgExsw4ev7VA4UmlUxxOKEcn5lQ

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 15) ทรัมป์เตรียมลงนามเห็นชอบในร่างงบประมาณค่าใช้จ่ายรวมมูลค่า 333 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด government shutdown พร้อมกับการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อให้ได้งบประมาณการสร้างกำแพงชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก : วันนี้ หลายสำนักข่าวรายงานว่า นาย Mitch McConnell, Senate Majority Leader ของพรรค Republican เปิดเผยว่าประธานาธิบดี Trump เตรียมที่จะลงนามเห็นชอบในร่างงบประมาณค่าใช้จ่ายรวมมูลค่า 333 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด government shutdown พร้อมกับการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อให้ได้งบประมาณการสร้างกำแพงชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ในส่วนที่เหลือ เนื่องจากงบประมาณสร้างกำแพงที่จะผ่านความเห็นชอบจากสภาครองเกรสนั้น ได้รับอนุมัติพียง 1.375 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งยังห่างจากที่ประธานาธิบดี Trump ต้องการมูลค่า 5.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.

ทั้งนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉินจะทำให้ประธานาธิบดี Trump สามารถโยกย้ายงบประมาณจากส่วนอื่นมาใช้ในการสร้างกำแพงได้

อย่างไรก็ดี คาดว่าจะได้รับการต่อต้านจากสมาชิกพรรค Democrats และเกิดการฟ้องร้องทางกฎหมายเรื่องอำนาจของประธานาธิบดีในกรณีดังกล่าว อนึ่ง ร่างงบประมาณที่ประธานาธิบดี Trump จะลงนามนั้น จะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.

Source: BOTSS

- Mitch McConnell says Trump will sign border deal, then declare national emergency :
https://www.japantimes.co.jp/news/2...DywpkUD_HO9onF-LMb2PX15GIX8Lm6Ak#.XGYFoy2B3R0

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 15) เบรนาร์ดเห็นว่า balance sheet ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรสิ้นสุดภายในปี 2019 นี้ : นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (Voter) คาดการณ์ว่าการปรับลด balance sheet ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรสิ้นสุดภายในปี 2019 นี้ เพื่อคงอุปทานของ reserve ที่เพียงพอ โดยเฉพาะในกรณีที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเงิน โดยยังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถขยายตัวได้อย่างมั่นคงในปี 2019 ท่ามกลางตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง แม้ว่า downside risk จะปรับเพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ นาง Brainard ให้ความเห็นเกี่ยวกับตัวเลข retail sales ที่ปรับลดลงมากที่สุดในรอบ 9 ปี ที่ร้อยละ –1.2 จากเดือนก่อนหน้า ว่าเป็นเพียงตัวเลขของ 1 เดือนซึ่งยังไม่สามารถหาข้อสรุปใดๆ จากตัวเลขดังกล่าวได้

ทั้งนี้ นาง Brainard มิได้คาดการณ์ขนาดของ balance sheet รวมถึงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับเพิ่ม/ลด อัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งต่อไป

Source : BOTSS

- Fed’s Brainard Says Balance-Sheet Runoff Should Probably End This Year:
https://www.wsj.com/articles/feds-b...ld4_XOcL3AQZTVcwZwwx-gQggnxduQtokC0L7d7Fq2ubw

 

ศาลฎีกาเวเนฯไม่อนุมัติบอร์ดบริหารบ.น้ำมันที่ตั้งโดยกวยโด

คณะตุลาการศาลฎีกาในกรุงการากัสประกาศให้รายชื่อคณะผู้บริหารชุดใหม่ทั้งหมดของซิตโก บริษัทพลังงานในสหรัฐแต่อยู่ในเครือของรัฐวิสาหกิจเวเนซุเอลา ที่แต่งตั้งโดยนายฮวน กวยโด "เป็นโมฆะ" และบุคคลในรายชื่อต้องเข้ารับการสอบสวนทางอาญา ศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 08.50 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลา เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ว่านายทาเร็ก วิลเลียม ซาอับ อัยการสูงสุดของเวเนซุเอลา กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ว่ากำลังสอบสวนนายฮวน กวยโด ผู้นำฝ่ายค้านและประธานสมัชชาแห่งชาติ ฐานเป็นส่วนหนึ่งของ "ขบวนการยึดอำนาจที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ" ด้วยการตั้งตัวเองเป็น "ผู้นำคู่ขนาน" เมื่อปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ บรรดาเอกอัครราชทูตและอุปทูตทุกคนที่กวยโดแต่งตั้งให้ไปประจำการยังหลายประเทศแล้วนั้น "ต้องถูกสอบสวนเช่นกัน" หนึ่งในนั้นคือนายคาร์ลอส เวกชิโอ ซึ่งกวยโดแต่งตั้งเมื่อไม่นานมานี้ ให้ดำรงตำแหน่งอุปทูตประจำกรุงวอชิงตัน...

ขณะเดียวกัน ซาอับกล่าวว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบกรณีที่กวยโดแต่งตั้งคณะผู้บริหารชุดใหม่ทั้ง 15 คน ของบริษัทซิตโก ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น ผู้ประกอบการด้านพลังงานที่มีสำนักงานอยู่ในรัฐเทกซัสของสหรัฐ แต่อยู่ในเครือของบริษัทเปโตรเลออส เดอ เวเนซุเอลา ( พีดีวีเอสเอ ) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของเวเนซุเอลา ต่อมาคณะตุลาการศาลฎีกาในกรุงการากัสประกาศให้รายชื่อคณะผู้บริหารชุดใหม่ทั้งหมดของซิตโก "เป็นโมฆะ" และบุคคลทั้งหมดในรายชื่อต้องเข้ารับการสอบสวนทางอาญา แม้เป็น "คณะผู้บริหารชั่วคราว" ก็ตาม

ด้านประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร กล่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และบรรดาทีมงานของผู้นำสหรัฐ "ไม่ควรใช้มือสกปรก" แตะต้องซิตโก ที่กระทรวงการคลังสหรัฐต้องการให้รายได้ทั้งหมดฝากเข้าสู่บัญชีธนาคารในอเมริกาที่รัฐบาลมาดูโร "ไม่สามารถเข้าถึงได้" ตามมาตรการคว่ำบาตร และออกปากเชิญนายเอลเลียตต์ อับรามส์ ทูตพิเศษด้านกิจการเวเนซุเอลาของรัฐบาลวอชิงตัน ให้เยือนกรุงการากัสเพื่อพบหารือกับเขาอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งย้ำว่า "ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม" ต่อเวเนซุเอลา คือการที่รัฐบาลทรัมป์ต้องยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลของเขาเท่านั้น และจะไม่มีทางยอมรับสิ่งของจากสหรัฐ หลังกวยโดยืนกรานจะนำสิ่งของทั้งหมดซึ่งติดค้างอยู่ที่ชายแดนโคลอมเบีย เข้าประเทศให้ได้ภายในวันที่ 23 ก.พ. นี้.

เครดิตภาพ : AP,AFP

https://www.dailynews.co.th/foreign...sEAd2OzNaIqQgys6iNnqoOn-OIMOTWL2O4xpkbhrNSHzw

 

Watchers


#ข่าวภัยพิบัติ #Flood
15/02/19
วันนี้มีรายงานน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั่วปาล์มสปริงส์ แคลิฟอร์เนีย
ฝนหนักถล่มติดต่อกัน 3 วัน ก่อน้ำท่วมใหญ่ในปาล์มสปริงส์ เมืองทะเลทรายในริเวอร์ไซด์เคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย
น้ำท่วมทำให้ถนนบางสายไม่สามารถใช้ได้
Cr: AccuWeather
(link: http://ow.ly/Q7CR30nHTfd)
#PalmSprings, #California #Watchers

 

Lucy Tanner

อิ่มท้องและมีความสุข ที่มีความสุขที่สุด ที่นี่ ที่ Cowan Downs Full bellies and happier cattle here at Cowan Downs

 

ยืนยัน "ทรัมป์" ประกาศภาวะฉุกเฉิน หาเงินสร้างกำแพง
เรื่องโดย ไกรลักษณ์ งามโสภา | ภาพโดย AP 15 กุมภาพันธ์ 2562 05:53

ทำเนียบขาวยืนยัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยที่ไม่มีเหตุฉุกเฉิน เพื่อหางบประมาณมาสร้างกำแพงที่พรมแดนทางใต้ เพื่อป้องกันไม่ให้บรรดาผู้อพยพข้ามพรมแดนเข้ามา




งานนี้ ผู้นำสหรัฐจะลงนามในกฏหมายงบประมาณ ที่จะทำให้ไม่ต้องประกาศชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางบางส่วนอีกครั้ง และพร้อม ๆ กันนั้น เขาก็จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย เพื่อนำงบประมาณจากส่วนอื่นมาใช้สร้างกำแพงพรมแดนโดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส เนื่องจากงบประมาณที่สภาคองเกรสอนุมัติให้สำหรับเรื่องนี้ไม่เพียงพอตามที่ทรัมป์ได้ร้องขอไป

วุฒิสมาชิกมิตช์ แม็คคอนเนล จากพรรครีพับลิกัน ได้แจ้งต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่าเขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี และทรัมป์ก็ยืนยันว่าจะลงนามในกฏหมายงบประมาณ และจะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่นาที ทางทำเนียบขาว ก็ออกมายืนยันในเรื่องเดียวกัน โดยให้เหตุผลถึงความประสงค์ของทรัมป์ว่าเพื่อรับประกันว่าจะสามารถหยุดยั้งวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมและด้านความปลอดภัยตามแนวพรมแดนได้



ทรัมป์เคยพูดมาก่อนแล้วว่าเขาจะลงนามในกฏหมายงบประมาณ ก่อนที่จะถึงเส้นตายช่วงเที่ยงคืนของคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ทำให้เกิดความผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่เขาเคยออกมาแสดงความวิตกเกี่ยวกับร่างกฏหมายงบประมาณที่พรรครีพับลิกันและเดโมแคร็ตเพิ่งบรรลุกันไปในช่วงสัปดาห์นี้ เพราะร่างกฏหมายฉบับนี้ให้งบสำหรับการสร้างกำแพงแค่ 1 พัน 375 ล้านดอลลาร์ จากที่ทรัมป์ขอไป 5 พัน700 ล้านดอลลาร์

ความลังเลที่ทรัมป์มีต่อร่างกฏหมายฉบับนี้ สร้างความลังเลต่อวุฒิสภาที่จะให้ความเห็นชอบต่อร่างกฏหมาย แต่หลังทำเนียบขาวยืนยันเรื่องความตั้งใจของทรัมป์ที่จะรับร่างกฏหมายนี้ วุฒิสภาจึงให้ความเห็นชอบร่างกฏหมายอย่างท่วมท้น โดยหลังจากวุฒิสภาโหวตรับรองแล้ว สภาผู้แทนราษฎรก็โหวตรับรองด้วย

แต่ขณะเดียวกัน นางแนนซี่ เปโรซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแคร็ต บอกว่าสถานการณ์ที่พรมแดน ไม่ได้มีความฉุกเฉินแต่อย่างใด ที่ทรัมป์จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็เพื่อที่วิ่งอ้อมไปรอบ ๆสภาคองเกรสเท่านั้น และก็คาดกันว่าอาจจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาตัดสินของศาล

http://www.nationtv.tv/main/content...nYiKvj0s5Y0JoWluqUmu-6yZdZAuw3B3NGmVqUC55Zowg

 

Watchers


#สภาพอากาศ
15/02/19
// อัพเดตพายุหมุนเขตร้อน //
พายุโซนร้อน Gelena ในมหาสมุทรอินเดียโซนซีกโลกใต้ ใกล้สลายตัว
และ พายุโซนร้อน Oma (มาจากพายุดีเปรสชัน 15P) ในมหาสมุทรแปซิฟิกโซนซีกโลกใต้ โดย Oma มีแนวโน้มพัฒนาเป็นไซโคลนในลำดับต่อไป
Cr:TSR #Watchers

 

Watchers




#Volcano #Mudlava
// ภูเขาไฟ-#โคลนผุด ปะทุขึ้นใน Shamakhi อาเซอร์ไบจาน //
14/02/19
มีรายงานภูเขาไฟคุชชู ปะทุขึ้นในชามาคิโคลนแผ่กระจายไปทั่วกินเนื้อที่ 2 เฮกเตอร์ (5 เอเคอร์ หรือ 12 ไร่) อาเซอร์ไบจาน

เริ่มปะทุเมื่อเวลา 06:00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2019
การปะทุของโคลนลาวา(mud lava)กระจายไปทั่วพื้นที่ 2 เฮกเตอร์ (5 เอเคอร์ หรือ 12 ไร่) และทำให้เกิดการเสียรูปและรอยร้าวมากมายในบ้านสองหลังในหมู่บ้านห่างจากภูเขาไฟอย่างน้อย 150 เมตร AzerNews รายงาน (https://www.azernews.az/nation/145609.html)

มันเกิดขึ้นหลังจากแผ่นดินไหวใน Shamahi และ Agsu เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ Adil Aliyev หัวหน้าแผนกโคลนภูเขาไฟ ที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติอาเซอร์ไบจานบอกสำนักข่าว Trend

ไม่มีการปล่อยเปลวไฟและไม่มีรอยแตกในการระเบิดของภูเขาไฟลักษณะเช่นนี้

ภูเขาไฟนี้ปะทุขึ้น 15 ครั้งในรอบ 200 ปีที่ผ่านมา "การปะทุที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปีพ. ศ. 2460, 2484 และ 2535 (1917, 1941 and 1992)" Aliyev กล่าว

อาเซอร์ไบจานเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟโคลนที่ใหญ่ที่สุดในโลก - Boyuk Khanizadagh และ Turaghai

Boyuk Khanizadagh มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 กม. (6.2 ไมล์) และสูง 700 ม. (2 300 ฟุต) เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2544 (ค.ศ. 2001 ) ภูเขาไฟระเบิดปะทุออกมายิงเปลวไฟสูง 300 เมตร ในอากาศ นี่เป็นสถิติที่สูงที่สุดในโลกสำหรับเปลวไฟที่เกิดจากภูเขาไฟโคลน

การศึกษาภูเขาไฟโคลนมีความสำคัญมากในแง่ของการกำหนดโอกาสในการผลิต #น้ำมันและก๊าซ Aliyev กล่าวเมื่อปีที่แล้ว
https://www.azernews.az/oil_and_gas/133579.html

"การปะทุของภูเขาไฟเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพราะในระหว่างการปะทุแต่ละครั้งเราจะได้รับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ การระเบิดของภูเขาไฟทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นที่ตั้งของพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกี่ยวกับแหล่งน้ำมันและก๊าซที่เกิดขึ้นในที่ลึก "
เครดิต : Trend News Agency,@ VolcanoJeannie,@ azernewsaz
แปล-เรียบเรียง #Watchers

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 15) ก.ล.ต.สหรัฐยื่นฟ้องอดีตทนาย แอปเปิล ฐานใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหลักทรัพย์ : คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) และพนักงานอัยการ ได้ยื่นฟ้องอดีตทนายความของบริษัทแอปเปิล อิงค์ เมื่อวานนี้ ฐานใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหลักทรัพย์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทนายความรายนี้มีชื่อว่าจีน แดเนียล เลวอฟฟ์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกฎหมายองค์กรและเลขานุการบริษัทของแอปเปิล เขาถูกกล่าวหาว่ามีการใช้ข้อมูลลับเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ของแอปเปิลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ก่อนที่ทางบริษัทจะได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส

ก.ล.ต.สหรัฐ อ้างว่า นายเลวอฟฟ์ มีพฤติกรรมใช้ข้อมูลภายในอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2558 และ 2559 จนสามารถหลบเลี่ยงการขาดทุน และท้ายที่สุดทำกำไรรวมกันได้ประมาณ 382,000 ดอลลาร์สหรัฐ

แอนโทเนีย ชิออน รองผู้อำนวยการแผนกบังคับใช้ของก.ล.ต.สหรัฐ เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า "การที่นายเลวอฟฟ์หาประโยชน์จากสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของแอปเปิลนั้น ยิ่งเป็นเรื่องที่เลวร้ายลงไปอีกเพราะเขามีหน้าที่กำกับดูแลนโยบายป้องกันการใช้ข้อมูลภายในของแอปเปิลเอง"

ขณะดำรงตำแหน่งนั้น นายเลวอฟฟ์มีหน้าที่กำกับดูแลให้พนักงานปฏิบัติตามนโยบายป้องกันการใช้ข้อมูลภายในของแอปเปิลมาตั้งแต่ปี 2553 เป็นอย่างน้อย และได้มีการปรับปรุงขั้นตอนดังกล่าวในปี 2558

คำร้องเรียนดังกล่าวระบุว่า แอปเปิลได้ยกเลิกสัญญาจ้างนายเลวอฟฟ์เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา หลังจากที่ได้อนุญาตให้ลาหยุด 2 เดือนก่อนหน้านั้น
ด้านสำนักงานอัยการสหรัฐประจำเขตนิวเจอร์ซีย์ก็ได้ออกมาประกาศข้อกล่าวหาทางอาญาต่อนายเลวอฟฟ์ด้วยเช่นกัน โดยมีข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์ 1 กระทง ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี และสั่งปรับ 5 ล้านดอลลาร์

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โ

- The former Apple lawyer who was supposed to keep employees from insider trading has been charged with insider trading
https://www.cnbc.com/2019/02/13/sec...Y8qZ78u4SDDJCh7UWQZt0G3NW4L2QXGDg7ZeCkL7YmIGE

 

จีน-สหรัฐฯเริ่มเจรจาการค้าระดับสูง สื่อมังกรชี้ข่าวลือทรัมป์ขยายเส้นตาย60วัน เผยแพร่: 14 ก.พ. 2562 23:01 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(จากซ้าย) หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนและผู้นำคณะเจรจาของฝ่ายจีน, โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ, และ สตีเวน มนูชนิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ถ่ายภาพร่วมกันก่อนเริ่มการเจรจาทางการค้าที่อาคารรับรองแขกเมืองเตี้ยวอี่ว์ไถ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี (14 ก.พ.)

เอเจนซีส์ – ทีมเจรจาระดับสูงจีน-สหรัฐฯ เริ่มต้นการหารือเป็นเวลาสองวันเมื่อวันพฤหัสบดี(14 ก.พ.) ที่อาจชี้ขาดว่า สงครามภาษีจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหรือไม่ ขณะเดียวกัน บรรณาธิการแท็บลอยด์ในอาณัติพรรคคอมมิวนิสต์จีนยันเรื่องที่ทรัมป์จะขยายเส้นตายข้อตกลงการค้าออกไปอีก 60 วันเป็นแค่ข่าวลือ ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเผยยังไม่มีข้อมูลว่า สีนัดพบทรัมป์ที่ฟลอริดาเดือนหน้าตามที่ทำเนียบขาวเปิดเผย

สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งตารอที่จะได้เจรจาการค้ากับจีน ก่อนเดินทางออกจากโรงแรมที่พักในปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสฯ (14) พร้อมกับโรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เพื่อร่วมหารือกับรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจอาวุโสของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน

ขณะที่เมื่อมาถึงสถานที่ประชุม คืออาคารรับรองแขกเมืองเตี้ยวอี่ว์ไถ ในกรุงปักกิ่ง หลิว กับ ไลต์ไฮเซอร์ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาของทั้งสองฝ่าย ได้จับมือกันในตอนเริ่มต้นการประชุม ทว่าไม่ได้กล่าวอะไรแก่พวกผู้สื่อข่าว

การประชุมนี้ซึ่งจะต่อเนื่องจนถึงวันศุกร์ (15) ขยายผลมาจากการประชุมระดับคณะทำงานเมื่อต้นสัปดาห์เพื่อหารือรายละเอียดทางเทคนิค ซึ่งรวมถึงกลไกการบังคับใช้ข้อตกลงการค้า

ทั้งนี้ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ภายในเส้นตายวันที่ 1 มีนาคม อเมริกาจะขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ จากที่ขึ้นไปแล้ว 10% ในปัจจุบัน เป็น 25% ซึ่งจะเพิ่มความกดดันและต้นทุนให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์จนถึงเกษตรกรรม

กระนั้น เมื่อวันพุธ (13) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การเจรจามีความคืบหน้าที่ดีมาก นอกจากนี้ในวันถัดมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาขยายเส้นตายออกไปอีก 60 วันเพื่อให้คณะเจรจามีเวลามากขึ้น

ทว่า หู สีจิน บรรณาธิการบริหารโกลบัล ไทมส์ แท็บลอยด์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทวิตแย้งว่า การคาดการณ์ของบลูมเบิร์กไม่ถูกต้อง โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดในการเจรจา

ด้านเกา เฉิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน แถลงว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจา แต่จะเปิดเผยทันทีที่ได้รับข้อมูลล่าสุด



โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กลับถึงโรงแรมที่พักพร้อมกับสมาชิกในทีมเจรจาของเขา ภายหลังหารือกับฝ่ายจีนในวันพฤหัสบดี (14 ก.พ.)

วันพุธ ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวยังแถลงว่า มีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะพบกับประมุขแดนมังกรที่รีสอร์ทส่วนตัวมาร์-อา-ลาโกในฟลอริดา หลังจากก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีอเมริกากล่าวว่า ไม่มีแผนพบกับสีก่อนวันที่ 1 มีนาคม

วันเดียวกัน สตีเฟน เซ็นสกี้ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เผยว่า ผู้นำทั้งสองอาจพบกันภายในเดือนมีนาคม

ทว่า ในวันพฤหัสฯ หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตั้งข้อสังเกตว่า ทรัมป์พูดหลายครั้งว่า ต้องการพบสี และว่า จีนยินดีรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอเมริกา แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเยือนอเมริกาของสีแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จีนเปิดเผยรายละเอียดสถานการณ์การเจรจาในสัปดาห์นี้น้อยมาก แต่ในวันพฤหัสฯ มีการแถลงข้อมูลการค้าที่แสดงให้เห็นว่า การนำเข้าจากอเมริกาประจำเดือนมกราคมลดลงถึง 41.2% อยู่ที่ 9,240 ล้านดอลลาร์ ต่ำสุดนับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ส่วนการส่งออกไปยังอเมริกาขยับลง 2.4% อยู่ที่ 36,540 ล้านดอลลาร์ ต่ำสุดนับจากเดือนเมษายน 2018 และจีนเกินดุลการค้าสหรัฐฯ ลดลงจาก 29,870 ล้านดอลลาร์ เหลือ 27,300 ล้านดอลลาร์

อเมริกาใช้มาตรการภาษีศุลกากรเพื่อบีบให้ปักกิ่งเปลี่ยนแปลงนโยบายเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงการยุติการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี การบังคับใช้กฎหมายสินทรัพย์ทางปัญญาอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งการจำกัดการอุดหนุนบริษัทท้องถิ่น

ทว่า จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น และแม้ปักกิ่งให้คำมั่นมาหลายครั้งว่า จะปรับปรุงการเข้าถึงตลาดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากไม่คิดว่า จีนจะเห็นพ้องกับข้อตกลงที่บังคับให้ตนเองต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าที่รัฐเป็นผู้ควบคุมอย่างถอนรากถอนโคน

อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนวันพุธ โกลบัล ไทมส์ได้เผยแพร่บทบรรณาธิการที่ระบุว่า แม้เป็นฝ่ายเริ่มต้นสงครามการค้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนวอชิงตันต้องการบรรลุข้อตกลงมากขึ้น

ความคาดหวังว่า สองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงยังเพิ่มมากขึ้นจากข้อเท็จจริงที่ว่า จีนกำลังถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ความปั่นป่วนในตลาดโลกสร้างความท้าทายสำคัญต่อทรัมป์และบรรดาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ

รายงานเมื่อวันพุธของหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ของฮ่องกงที่ว่า สีมีแผนพบกับคณะเจรจาสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ยิ่งโหมกระพือความหวัง

เทรย์ แมคอาร์เวอร์ จากทริเวียม รีเสิร์ช ชี้ว่า ตลาดจะยังคงจับตาและมีปฏิกิริยาต่อสถานะการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ และสำทับว่า ความสัมพันธ์ของสองประเทศขึ้นอยู่กับผู้นำล้วนๆ ดังนั้น ที่สุดแล้ว ข้อตกลงจะลุล่วงหรือไม่จึงขึ้นอยู่กับสีและทรัมป์เท่านั้น

https://mgronline.com/around/detail/9620000016051

 

ตำรวจตุรกีเชื่อศพคาช็อกกีอาจถูกเผาทิ้งไปแล้ว
เผยแพร่: 14 ก.พ. 2562 23:23 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - สำนักข่าวอานาโดลูของทางการตุรกี รายงานคำพูดของตำรวจในวันพฤหัสบดี (14 ก.พ.) ที่ระบุว่า ตำรวจตุรกีเชื่อว่าศพของ จามาล คาช็อกกี อาจจะถูกเผาไปแล้ว

จามาล คาช็อกกี ผู้ที่วิจารณ์มกุฏราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบีย ได้ถูกสังหารในสถานกงสุลของซาอุฯ ในอิสตันบูล โดยฝีมือทีมปฏิบัติการซาอุฯ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมปีที่แล้ว

อานาโดลู อ้างอิงรายงานของตำรวจตุรกี ที่ระบุว่า สถานกงสุลของซาอุดีอาระเบีย มีหลุมเตาเผาที่อาจทำความร้อนได้สูงถึง 1,000 องศา มากพอที่จะทำลายร่องรอยดีเอ็นเอ

ซึ่งทางตำรวจของตุรกีก็เชื่อว่า ข้อมูลที่ได้รับมาจากการสืบสวนนั้นบ่งชี้ว่าชิ้นส่วนศพของคาช็อกกีอาจถูกเผาทำลายไปแล้ว

ที่ผ่านมา แม้ว่าทีมสืบสวนของตุรกีจะเข้าไปตรวจสอบสถานกงสุลซาอุฯ ในอิสตันบูล รวมถึงบ้านพักกงสุล และที่อื่นอีกหลายแห่ง แต่ก็ยังไม่พบศพของคาช็อกกี

อานาโดลูรายงานด้วยว่า ตำรวจตุรกีเชื่อว่าคู่หมั้นของคาช็อกกีอาจกลายเป็นเหยื่อฆาตกรรมรายที่สอง หากเธอเข้าไปในสาถนกงสุลซาอุฯ พร้อมกับคาช็อกกี

https://mgronline.com/around/detail/9620000016054

 

Gossipสาสุข

ความ "ย้อนแย้ง" ของพลังประชารัฐ
เมื่อแคนดิเดทนายกฯ - รองหัวหน้าพรรค เห็นต่างเรื่องอนาคตหลักประกันสุขภาพ
•
•
เวทีดีเบต “ผ่าแนวคิดพรรคการเมือง อนาคตสุขภาพไทย”เมื่อวันที่ 11 ก.พ.62 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกครั้งที่ สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและอดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ออกไปขายไอเดียเรื่องนโยบาย "หลักประกันสุขภาพ"
•
สุวิทย์ ซึ่งจบปริญญาตรีด้านเภสัชศาสตร์ จบปริญญาโทด้านการตลาด และจบปริญญาเอกด้านเดียวกันจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น สหรัฐอเมริกา และมีพื้นฐานมาจากการเป็น "นักวิชาการ" ยืนยันว่า "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า"หรือ "ระบบบัตรทอง" นั้น เป็นนโยบายที่มีประโยชน์
•
ขณะเดียวกัน ประเทศไทย ไม่สามารถย้อนกลับไปหาระบบ "อนาถา" หรือเฉพาะ "คนจน" เท่านั้น ที่จะได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาลฟรี อีกแล้ว
•
สุวิทย์ ยืนยันว่าทั่วโลก กำลังเดินหน้าเข้าหาระบบ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ Universal Health Coverage กระทั่งสหประชาชาติ ก็ประกาศให้เป็นเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goal เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลก มีระบบแบบเดียวกับ "บัตรทอง" ภายในปี 2573 หรือในอีก 11 ปีข้างหน้า โดยมีไทย เป็นต้นแบบ ให้ประเทศในแอฟริกาเดินตาม
•
ขณะเดียวกัน สุวิทย์ ก็ยังไม่เห็นความจำเป็น ที่จะต้องมีการ "ร่วมจ่าย" เพราะปัจจุบัน คนไทยจ่ายสมทบผ่านภาษีเงินได้อยู่แล้ว
หากจะร่วมจ่าย ก็ควรจะเป็นการท็อปอัพ นั่นคือเพิ่มความ "พรีเมียม" เข้าไปในยาบางตัว หรือการบริการบางอย่าง ที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติ
•
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นท่าทีที่ต่างจากแคนดิเดทนายกซึ่งพรรคพลังประชารัฐ (และตัวสุวิทย์เอง) เสนอมาอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยสิ้นเชิง
•
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เคยกล่าวโจมตี "30 บาทรักษาทุกโรค" หลายครั้ง
•
ไม่ว่าจะเป็น เมื่อเดือน ก.ย. 2561 ที่พูดกับข้าราชการในทำเนียบรัฐบาลว่า การทำโครงการอย่าง "30 บาทรักษาทุกโรค" นั้น เป็นต้นเหตุทำให้คนเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น และทำให้ประชาชนไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง
•
หรือการพยายาม "โยนหินถามทาง" เมื่อพยายามให้กระทรวงการคลัง เปลี่ยนสิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค ไปไว้กับ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" แทน ส่วนกลุ่มที่ใช้บัตรทองเดิม ให้ไปใช้วิธี "ร่วมจ่าย"
•
จนสุดท้ายกลายเป็นเรียก "ก้อนหิน" ทำให้กระทรวงการคลัง ต้องรีบออกมาปฏิเสธว่าไม่มีแนวคิดดังกล่าว และไม่ได้เป็นคนให้ข่าว
•
ทั้งหมดนี้ ยังไม่นับรวมการพยายามเสนอกฎหมาย "ซุปเปอร์บอร์ด" หรือ คณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาติ หรือ "ซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพชาติ" เพื่อดึงอำนาจรัฐราชการ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาล และเป็น "ผู้ให้บริการ" มาอยู่เหนือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเป็น "ผู้ซื้อบริการ"
•
จริงอยู่ที่บรรดาโรงพยาบาลใหญ่ -โรงพยาบาลเล็ก หรือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มีความรู้สึกไม่ดีกับ สปสช.และรู้สึกว่าที่ผ่านมา ผู้ซื้อบริการ รายนี้ "เจ้ากี้เจ้าการ" มากเกินไปในการจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติลงไปยังพื้นที่
•
น่าเสียดายที่ที่ผ่านมา มีเสียงเรียกร้องจำนวนมากว่าให้ "จัดการ" กับ สปสช. ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เองก็เชื่อ จนนำไปสู่การใช้ ม.44 แขวน นพ.วินัย สวัสดิวร อดีตเลขาธิการ สปสช.จนเกษียณอายุราชการ หรือการนำสารพัดหน่วยงานตรวจสอบลงไป
•
แต่สุดท้าย ก็ไม่เกิดมรรคผลอะไร สปสช.ยังทำหน้าที่เดิม ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังหาทาง "แซะ" สปสช. และนโยบายนี้ตลอดเวลา ว่าเป็นสาเหตุทำให้โรงพยาบาล "เจ๊ง" ทั่วประเทศ ทั้งที่ไม่มีข้อมูลใดๆ มาสนับสนุน เป็นอารมณ์-ความรู้สึกล้วนๆ
•
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นสถานะ dilemma หรือสถานะ "ย้อนแย้ง" ของพรรคพลังประชารัฐ พรรคใหญ่อันดับต้นๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง ที่จะได้เป็นรัฐบาลรอบหน้า
•
หากยังไม่สามารถเคลียร์ตัวเองได้ว่าพรรคนี้ จะมีทิศทาง "ก้าวหน้า" หรือ "ถอยหลัง" เรื่องหลักประกันสุขภาพ ประชาชนก็จะอยู่ในสถานะมึนๆ งงๆ ต่อไป
•
ใครอยากเห็นอนาคตที่ชัดเจนขึ้น ไปเลือกพรรคอื่น อาจจะมีความก้าวหน้ามากกว่านี้....

#หลักประกันสุขภาพ #พรรคพลังประชารัฐ

 

Clima Extremo 24

ฮังการี

มุมมองที่น่าตื่นตาตื่นใจของพายุฤดูหนาวบนทะเลสาบบาลาตัน

 

Clima Extremo 24

เอกวาดอร์

แผ่นดินไหวขนาด 4.6 ทางตอนเหนือของเอกวาดอร์ ทำให้บ้านเรือนเสียหาย 15 หลัง

แผ่นดินไหวขนาด 4.6 ได้รับการจดทะเบียนในยามรุ่งอรุณในเมืองTulcán ของประเทศเอกวาดอร์ (เหนือ) และแม้ว่าจะไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ แต่บ้าน 15 หลังได้รับผลกระทบ

“La red conjunta del Instituto Geofísico y el Observatorio Vulcanológico de Pasto registraron en la madrugada de hoy a las 01h24 (06:24 GMT) un sismo tectónico de magnitud 4.6 (…), cuyo epicentro se ubicó al sur-suroeste de la ciudad de Tulcán en la provincia de Carchi a 4.9 kilómetros de profundidad”

El informe agrega que el sismo provocó deslizamientos pequeños en las vías y fisuras en algunas paredes de viviendas.

 

Clima Extremo 24

เอกวาดอร์

แผ่นดินไหวที่รุนแรง ขนาด 4.6 เขย่า Tulcán ลงทะเบียนเมื่อเช้านี้ ทำให้กำแพงอย่างน้อย 2 หลังพัง เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์เวลา 01:24 น. โดยมีจุดศูนย์กลางใน Cerro Negro ถัดจากภูเขาไฟ Chiles

 

Clima Extremo 24

สหรัฐอเมริกา

แม่น้ำล้นทำให้เกิดน้ำท่วมใน Guerneville, California วันนี้เนื่องจากฝนตกหนักและรุนแรง

 

Clima Extremo 24

สหรัฐอเมริกา

น้ำท่วมหนักจากฝนตกหนักใน Trabuco Canyon, Orange, California วันนี้ 14 กุมภาพันธ์