ติดตามสถานะการณ์

พายุฤดูหนาวรอบใหม่กระทบชาวอเมริกันกว่า 100 ล้านคน
กุมภาพันธ์ 13, 2019

Snowstorm

พายุฤดูหนาวระลอกใหม่ถล่มสหรัฐฯ กระทบกว่า 100 ล้านชีวิต ตั้งแต่ฝั่งตะวันไปยังตะวันออกของสหรัฐฯ ขณะที่นครซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน เผชิญหิมะตกหนักสุดในรอบศตวรรษ

เว็บไซต์ USA Today และ CNBC รายงานว่า พายุฤดูหนาวระลอกใหม่จะพาดผ่านพื้นที่ตอนบน ตั้งแต่ฝั่งตะวันตกไปยังตะวันออกของสหรัฐฯ ในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ยังผลให้เกิดพายุ หิมะและลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ ปริมาณหิมะเฉลี่ย 8-20 นิ้ว รวมทั้งบ้านเรือนและอาคารราว 90,000 แห่งในรัฐวอชิงตันไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้หลังพายุเข้า รวมทั้งมีรายงานไฟฟ้าดับในกว่า 100,000 ครัวเรือน ทางมิดเวสต์และตอนใต้ของอเมริกาในช่วงเวลาเดียวกันด้วย

เฉพาะในวันอังคาร พายุฤดูหนาว กระทบกับการสัญจรของประชาชนกว่า 100 ล้านคน ครอบคลุมตั้งแต่นครซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ทางฝั่งตะวันตก ไปจนถึงนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ในฝั่งตะวันออกของอเมริกา เที่ยวบินกว่า 4,000 เที่ยวบินทั่วประเทศล่าช้าหรือยกเลิกจากผลกระทบของพายุหิมะ

เฉพาะที่นครซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน มีรายงานหิมะตกถึง 20.2 นิ้ว ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1916 ทางการมีคำสั่งยกเลิกการเรียนการสอนตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา

สำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าพายุหิมะจะอ่อนกำลังลงในวันพุธ แต่ยังคงรุนแรงพอให้เกิดกระแสลมแรงและหิมะตกในพื้นที่อยู่ ก่อนจะเคลื่อนที่ลงไปในรัฐแคลิฟอร์เนียในอีก 2-3 วันข้างหน้า ยังผลให้เกิดฝนตกและหิมะตกในบางพื้นที่ของแคลิฟอร์เนีย


https://www.voathai.com/a/snow-stor...M0Un3ChdHnC02aAA5F-2MM0vuNPoXn_xs_PfRV4F0e4mU

 

ThairathTV



ชาวบ้าน แห่นำลาวาโคลนผุดไปพอกหน้า ดื่มกิน เชื่อทำให้หน้าใส รักษาโรคปวดเมื่อยได้

 

ชี้ปัญหาน้ำแข็งแอนตาร์กติก ทำระดับน้ำทะเลพุ่งสูง
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 - 12:40 น.
(ภาพ-NASA via Reuters)
คณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ค้นพบหลุมขนาดมหึมาใต้แผ่นน้ำแข็งยักษ์ของทวีปแอนตาร์กติกขนาดเกือบเท่ามหานครแมนฮัตตัน ยิ่งเพิ่มความกังวลว่าน้ำแข็งขั้วโลกอาจละลายเร็วกว่าที่คาดไว้และส่งผลกระทบต่อระดับน้ำทะเล ซึ่งจะสูงขึ้นสู่ระดับอันตรายท่วมเมือง

หลุมในแผ่นน้ำแข็งยักษ์ดังกล่าว ถูกค้นพบใต้ธารน้ำแข็ง ธเวทส์ ซึ่งเป็นแนวธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดทางด้านตะวันตกของทวีปแอนตาร์กติกา บริเวณขั้วใต้ของโลก ตัวหลุมลึกถึง 304.8 เมตร ขนาดโดยรวมเท่ากับ 2 ใน 3 ของมหานครใหญ่อย่างนครแมนฮัตตันของสหรัฐอเมริกา ทำให้ปริมาตรภายในหลุมมีมากพอที่จะบรรจุมวลน้ำแข็งได้หนักถึง 14,000 ล้านตัน ซึ่งเคยจับเป็นก้อนแข็งอยู่เต็มแต่เวลานี้ละลายเป็นน้ำไปหมดแล้ว

รายงานการค้นพบดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลดาวเทียมทั้งของอิตาลี และเยอรมนี รวมทั้งผลการสำรวจภายใต้โครงการ ปฏิบัติการไอซ์บริดจ์ ของนาซาเอง ซึ่งดำเนินมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2010 โดยอาศัยเรดาร์ที่สามารถเจาะทะลุทะลวงแผ่นน้ำแข็งได้ติดตั้งไว้บนเครื่องบิน บินสำรวจเหนือพื้นที่ทวีปแอนตาร์กติกาทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพื่อหาการเชื่อมโยงระหว่างสภาพภูมิอากาศของโลกกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับทวีปที่ขั้วโลกใต้แห่งนี้

เอริค ริกน็อท นักวิทยาศาสตร์ประจำห้องปฏิบัติการเจ็ทโพรพัลชัน ของนาซา ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมศึกษาวิจัยครั้งนี้ ระบุว่า คณะทำงานเคยตั้งข้อสงสัยธเวทส์กลาเซียร์มานานนับปีแล้วว่า การเชื่อมติดกับแผ่นหินฐานของทวีปใต้ธารน้ำแข็งนี้ไม่แน่นหนาเท่าที่ควร แต่ไม่มีหลักฐานชี้ชัดจนกระทั่งได้เห็นรายละเอียดชัดเจนในครั้งนี้

ข้อมูลจากการสำรวจของนาซาแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงระดับสูงต่ำของพื้นผิวของธเวทส์ บริเวณกราวดิงไลน์ส ที่เป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่ธารน้ำแข็งจะลอยตัวอยู่เหนือน้ำทะเล ซึ่งลดต่ำลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบข้อมูลปี 2011 กับปี 2017 นอกจากนั้น ยังพบว่า ไอซ์เชลฟ์หรือหิ้งน้ำแข็งในบริเวณดังกล่าวละลายในอัตราสูงน่าตกใจคือหายไปกว่า 198 เมตรต่อปีระหว่างปี 2014-2017

คณะนักวิทยาศาสตร์ของนาซาระบุว่า ธเวทส์มีขนาดใหญ่มาก ครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 170,000 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าขนาดของกรุงเทพฯ (พื้นที่ทั้งหมด 1,569 ตารางกิโลเมตร) ถึงกว่า 100 เท่า ทำให้มันกลายเป็นกลาเซียร์ที่เป็นอันตรายที่สุดต่อมนุษย์ และนาซาเชื่อว่าถึงตอนนี้ ธเวทส์มีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลของโลกเพิ่มสูงขึ้นแล้ว 4 เปอร์เซ็นต์

ในกรณีที่กลาเซียร์มหึมานี้ถล่มละลายไปทั้งหมด นาซาประเมินว่า จะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับที่เป็นอยู่ในเวลานี้ถึง 61 เซนติเมตร ทั้งนี้ นาซาเชื่อว่าภาวะถล่มและละลายของธเวทส์สามารถเกิดขึ้นได้จริงในช่วง 50 ปีถึง 100 ปีต่อไปจากนี้

ที่น่าสังเกตก็คือระดับการหลอมละลายของธเวทส์ถือว่ายังช้าเมื่อเทียบกับอัตราการหลอมละลายของกลาเซียร์อื่นๆ ซึ่งรวมกันแล้วหากละลายหมดจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงถึงขึ้น 2.44 เมตร คุกคามเมืองตามแนวชายฝั่งทะเลทั่วโลกให้จมอยู่ใต้น้ำได้ทั้งหมด

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานผลการวิจัยอีกชิ้นที่แยกทำเป็นอิสระ เผยแพร่เมื่อปีที่ผ่านมา ระบุว่า ธเวทส์ สูญเสียมวลน้ำแข็งไปมากกว่า 240,000 ล้านตันต่อปี สูงที่สุดเท่าที่เคยมีบันทึกมา

พีเอทโทร มิลลิลโญ เชื่อว่าใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้มีความร้อนและน้ำอุ่นเข้าไปแทรกอยู่ทำให้อัตราการละลายเพิ่มเร็วผิดปกตินั่นเอง

https://www.matichon.co.th/lifestyl...FdHfLGiA4EQC4UfKWZRiDbJ4zADDx6JrRHqhWYo-lV0ZE

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว เอาแล้วไง!!?? ตลาดส่งออก#ทุเรียนไทย มูลค่า 2 หมื่นล้านมีแววป่วน เหตุพี่จีนตรวจสอบการนำเข้าเข้มข้นมาก หลังตรวจพบสารเคมีตกค้างอื้อ ปี 61 ปีเดียว ตรวจพบกว่า 1,700 ครั้ง อธิบดีกรมวิชาการเกษตรนั่งไม่ติด สั่งติวเข้มเกษตรกร-โรงคัดบรรจุต้องผ่านมาตรฐาน GAP (good agricultural practice) และ GMP (good manufacturing practices) เท่านั้น

Source : prachachat - https://bit.ly/2WUAjUh

โดยเรื่องนี้ ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนถือเป็นคู่ค้าหลักของทุเรียนไทยส่งออก โดยที่ผ่านมามีการส่งออกผลไม้สดไปยังจีนระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้องของไทยและจีน โดยกำหนดมาตรฐานผลไม้สดไทย 5 ชนิดคือ ทุเรียน มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง และผลไม้สดของจีน 5 ชนิดคือ แอปเปิล สาลี่ ส้ม พุทรา องุ่น โดยสวนผลไม้ที่ปลูกเพื่อส่งออกต้องขึ้นทะเบียนและได้รับมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) และโรงคัดบรรจุต้องผ่านมาตรฐานหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) แต่ที่ผ่านมาทำกันไม่เข้มข้น กล่าวคือ ในปี 2561 ทางการจีนตรวจพบแมลงศัตรูพืชในทุเรียน (เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย หนอนเจาะเมล็ด) และปริมาณยาต่างๆ เกินมาตรฐาน จึงมีคำเตือนมาเป็นระยะๆ ถึง 1,700 ครั้ง

แหล่งข่าววงการส่งออกทุเรียนไทยเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ทางการจึงจีนจ่อเข้มงวดในการส่งออกทุเรียนมากขึ้น โดยจีนได้แจ้งกรมวิชาการเกษตรว่าจะนำมาตรการข้อบังคับของจีนที่เข้มงวดมาใช้แทนข้อตกลงที่ไทยกับจีนเคยตกลงกันไว้ แต่ฝ่ายไทยเจรจาต่อรองขอให้จีนผ่อนผันการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ก่อน และให้ยึดตามข้อตกลงที่ทำกันไว้ต่อไป ที่ผ่านมายอมรับว่าการกรอกใบรับรองสุขอนามัยพืช ผู้ส่งออกหลายรายใช้วิธี #สวมสิทธิ์ ของสวนที่ได้มาตรฐาน GAP และสวมสิทธิ์โรงคัดแยกที่ได้รับมาตรฐาน GMP มีปัญหาตรวจพบสารตกค้างและแมลง ฝ่ายไทยจึงไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ปีนี้หากมีปัญหาอีกอาจกระทบการส่งออกทุเรียนที่มีมูลค่าปีละกว่า 20,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ดร.เสริมสุขกล่าวต่อไปว่า เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จีนระบุให้การส่งออกทุเรียนจากไทยต่อไปต้องระบุเลขที่ GMP ของโรงคัดบรรจุในใบรับรองสุขอนามัยพืช (PC) และต้องระบุว่ามาจากสวนไหน หากพบแมลงอีกจะระงับการสั่งซื้อ ซึ่งจะกระทบโรงแพ็กกิ้ง โรงคัดบรรจุรายย่อย รวมทั้งเกษตรกรเจ้าของสวนเป็นลูกโซ่ เพราะโรงคัดบรรจุจะต้องระบุสวนที่รับซื้อและต้องได้ใบรับรอง GAP เพื่อคัดคุณภาพ ซึ่งฝ่ายไทยได้เจรจากับจีน และยืนยันว่าจะตรวจสอบคุณภาพทุเรียนอย่างเข้มข้น ไม่ให้มีปัญหาโรคและแมลงเกิดขึ้นอีก หรือหากเกิดขึ้นก็สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

"ที่ผ่านมาเกษตรกรและโรงคัดบรรจุจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญของมาตรฐาน GAP และ GMP ส่วนภาครัฐก็มีกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ดังนั้น ระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้ทันฤดูกาลผลผลิตทุเรียนปี 2562 ต้องมีแผนเร่งด่วนให้เกษตรกร 3 จังหวัดคือ ระยอง-จันทบุรี-ตราด จับมือกับกรมวิชาการเกษตร เป้าหมายแรกเกษตรแปลงใหญ่ 100% ต้องมี GAP จากนั้นจะขยายสู่เกษตรกรรายย่อย ส่วนโรงคัดบรรจุที่มีความพร้อมจะจัดอบรมเจ้าหน้าที่ QC (quality control) เพื่อควบคุมคุณภาพและให้โรงคัดที่มีความพร้อมประเมินรับรองตัวเอง" ดร.เสริมสุข ทิ้งท้าย.

 

ตระเวนข่าว3
กำแพงเพชร ฝนตกหนักตั้งแต่เวลาตี3 จนถึงเช้าวันนี้ ทำให้น้ำป่าหลากหมู่บ้าน อ.คลองขลุงมีบ้านเรือนถูกท่วม 20 หลังคาเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 600 ไร่ บ่อปลาเสียหายกว่า 20 บ่อ ขณะนี้น้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว

 

ขอนแก่น นักทรัพยากรธรณี เผยปรากฏการณ์โคลนพุ ที่ผุดกลางทุ่งนาบ้าน ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา เกิดจากน้ำใต้ดินทำปฏิกิริยากับแร่ในดินแล้วเกิดพองตัวดันผ่านรอยแตกของพื้นดิน เตือนอย่านำไปดื่ม เพราะพบว่ามีค่าความเป็นด่างสูง หรือหากนำไปทาตัวทาหน้าอาจเกิดอาการแพ้ได้

 

แดง วงศ์ทวิชาติ

แผ่นดินไหว อ.พาน จ.เชียงราย(19.64°N,99.72°E) ขนาด 2.5 ลึก 6 กม. วันที่ 13 ก.พ. 2562 เวลา 10:45 น. [TMD] http://bit.ly/2E6XJhQ

 

เทปโกส่ง ‘หุ่นยนต์’ ประเมินสภาพ ‘แท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์’ ภายในโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ เผยแพร่: 13 ก.พ. 2562 13:06 ปรับปรุง: 13 ก.พ. 2562 13:20 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เอเอฟพี - ผู้บริหารโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะส่งหุ่นยนต์เข้าไปตรวจสอบสภาพแท่งเชื้อเพลิงภายในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์วันนี้ (13 ก.พ.) โดยเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการกำจัดรังสีที่ยังเหลือตกค้างจากภัยพิบัตินิวเคลียร์เมื่อปี 2011

ภารกิจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อประเมินสภาพของแท่งเชื้อเพลิงที่หลอมละลายว่าอยู่ในภาวะเสถียรมากพอที่จะเคลื่อนย้ายได้ หรืออาจแตกหักเมื่อสัมผัส

“ปฏิบัติการของเราเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 7.00 น. และจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่พบปัญหาอะไร” โฆษกบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ โค (เทปโก) ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้า ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

หุ่นยนต์ถูกส่งเข้าไปยังเตาปฏิกรณ์ที่ 2 ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะที่แท่งเชื้อเพลิงเกิดการหลอมละลาย หลังจากระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 9.0 และคลื่นสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ปี 2011

เทปโกเคยส่งหุ่นยนต์เข้าไปสำรวจในเตาปฏิกรณ์มาแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญได้มองเห็นสภาพของแท่งเชื้อเพลิง ทว่าภารกิจคราวนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจสอบว่าแท่งเชื้อเพลิงซึ่งปนเปื้อนรังสีอันตรายในระดับสูงมีความเปราะบางเพียงใด

การเคลื่อนย้ายแท่งเชื้อเพลิงหลอมละลายถือเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากที่สุดในปฏิบัติการกำจัดรังสีตกค้างที่ฟูกูชิมะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุดของโลกถัดจากเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิดเมื่อปี 1986

การเคลื่อนย้ายแท่งเชื้อเพลิงคาดว่าจะเริ่มขึ้นในปี 2021 แต่ระหว่างนี้เทปโกยังต้องเผชิญปัญหาอื่นๆ ที่หนักหน่วงไม่แพ้กัน รวมถึงการหาวิธีกำจัด ‘น้ำปนเปื้อนรังสี’ ซึ่งถูกเก็บเอาไว้ในถังบรรจุภายในโรงไฟฟ้าแห่งนี้

เหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2011 คร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นไปราวๆ 18,000 คน ขณะที่อีกหลายแสนคนต้องละทิ้งบ้านเรือนเพื่อหนีอันตรายจากกัมมันตภาพรังสี

รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยสึนามิซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือเพียง 240 กิโลเมตร ขณะที่บริเวณโดยรอบโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะยังคงเสี่ยงอันตรายจากรังสีที่ตกค้าง และไม่สามารถปล่อยให้ผู้คนกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้

https://mgronline.com/around/detail/9620000015389

 

‘วิสกี้’ อเมริกันถูกต่างชาติรีดภาษีอ่วม แก้แค้น ‘ทรัมป์’ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียม
เผยแพร่: 13 ก.พ. 2562 10:21 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รอยเตอร์ - อุตสาหกรรมวิสกี้ในสหรัฐอเมริกาเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีศุลกากรที่หลายประเทศนำมาใช้เพื่อตอบโต้คำสั่งรีดภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

สภาผู้ผลิตสุรากลั่นของสหรัฐฯ (Distilled Spirits Council) เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ว่า มูลค่าการส่งออกวิสกี้ของสหรัฐฯ ซึ่งรวมทั้งไรย์ (rye) และเบอร์เบิน (bourbons) ทำสถิติเติบโตได้ถึง 28% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2018 แต่หลังจากที่แคนาดา เม็กซิโก จีน และสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า ยอดส่งออกวิสกี้จาก 37 รัฐในอเมริกาก็ลดลงถึง 8.2% ระหว่างเดือน ก.ค. ถึง พ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2017

มาตรการแก้แค้นจากหลายประเทศที่เป็นตลาดใหญ่ส่งผลให้ตัวเลขส่งออกที่เคยเฟื่องฟูในครึ่งแรกของปี 2018 หายไปจนหมดสิ้น

“ภาษีศุลกากรเริ่มจะส่งผลเสียต่อการส่งออก” คริสทีน โลกัสซิโอ รองประธานอาวุโสฝ่ายการค้าระหว่างประเทศของสภาผู้ผลิตสุรากลั่นสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (12)

“ผู้ผลิตสุรากลั่นรายย่อยเริ่มสัมผัสถึงผลกระทบได้ตั้งแต่วันแรก”

ผู้ผลิตวิสกี้สหรัฐฯ ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศสูงถึง 1,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 โดยเกือบ 60% ถูกส่งไปจำหน่ายในอียู, 12% ในแคนาดา ส่วนที่เหลือกระจายไปในหลายประเทศรวมถึงจีน

ปีที่แล้วอุตสาหกรรมวิสกี้อเมริกันทำรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 6.6% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ราวๆ 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สหภาพยุโรปเริ่มเก็บภาษีศุลกากรวิสกี้อเมริกันในอัตรา 25% เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ตัวเลขการส่งออกไปอียูก็ลดลง 8.7% ในอีก 5 เดือนถัดมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2017

ในทำนองเดียวกัน เมื่อรัฐบาลแคนาดาเริ่มกำหนดอัตราภาษีนำเข้า 10% ในวันที่ 1 ก.ค. ปีที่แล้ว ยอดจำหน่ายวิสกี้อเมริกันในแคนาดาก็ลดลง 8.3% ระหว่างเดือน ก.ค. - พ.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

https://mgronline.com/around/detail/9620000015302

 

เกาหลีใต้ปัดช่วยจ่ายค่าดูแลทหารมะกันอีก 500 ล้านดอลลาร์ ตามคำอ้างของทรัมป์ เผยแพร่: 13 ก.พ. 2562 13:14 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ – ทำเนียบสีฟ้าของเกาหลีใต้ออกมาปฏิเสธในวันนี้ (13) ต่อความคิดเห็นของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ระบุว่า โซลตกลงที่จะจ่ายเงินอีก 500 ล้านดอลลาร์เพื่อรักษากำลังทหารสหรัฐฯ ในประเทศนี้

เมื่อวานนี้ (12) ทรัมป์กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า โซลตกลงที่จะจ่ายเงินอีก 500 ล้านดอลลาร์ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงร่วมกันรับผิดชอบค่ายใช้จ่ายในการคงกำลังทหารสหรัฐฯ ราว 28,500 คนที่ประจำการในเกาหลีใต้

“ตอนนี้พวกเขาช่วยจ่าย 500 ล้านดอลลาร์สำหรับการปกป้องมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ และเราต้องทำให้ได้ดีกว่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงที่จะช่วยจ่ายอีก 500 ล้านดอลลาร์” ทรัมป์ กล่าว

ภายใต้ข้อตกลงก่อนหน้านี้ซึ่งถูกระงับท่ามกลางความไม่เห็นพ้องกันในเดือนธันวาคม เกาหลีใต้ได้ช่วยจ่ายเงินเป็นจำนวน 857 ล้านดอลลาร์ในปี 2018

เมื่อวันอาทิตย์ (10) เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้และเจ้าหน้าที่อเมริกันลงนามข้อตกลงฉบับนึ่งซึ่งโซลจะเพิ่มความช่วยเหลือเป็นไม่เกิน 927 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 70.3 ล้านดอลลาร์




เมื่อถูกถามเกี่ยวกับตัวเลข 500 ล้านดอลลาร์ของทรัมป์ คิม อุยกยอม โฆษกของทำเนียบสีฟ้าในกรุงโซล กล่าวว่า “มันไม่ควรถูกมองเป็นเรื่องที่มีข้อยุติไปแล้ว” คิม กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของวอชิงตันในระหว่างการเจรจา

ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการลงนามเมื่อวันอาทิตย์ (10) แต่ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาของเกาหลีใต้ คิม กล่าวว่า มันมีผลทางกฎหมายแค่เพียงหนึ่งปีเท่านั้น และจะขยายอีกเวลาต่ออีกหนึ่งปีได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อง

“ทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาว่าการเพิ่มเงินมีความจำเป็นหรือไม่และมันมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเห็นพ้องที่จะรักษาระดับปัจจุบัน” คิมกล่าว

ทั้งสองฝ่ายพยายามอย่างหนักที่จะฝ่าทางตันนี้ ถึงแม้ว่าจะมีการเจรจามาแล้วอย่างน้อย 11 รอบนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ท่ามกลางการเรียกร้องจากทรัมป์ให้เกาหลีใต้เพิ่มเงินช่วยเหลือ

ทรัมป์ กล่าวที่ประชุมเมื่อวานนี้ (12) ว่า ความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้นั้นเยี่ยมยอดแต่ว่าสหรัฐฯ สูญเสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับการป้องกันพันธมิตรรายนี้

https://mgronline.com/around/detail/9620000015392

 

โลกอยู่ยาก! ฝรั่งเศสสร้างขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก เร็วเหนือเสียง 5 เท่า สู้สหรัฐฯ-รัสเซีย-จีน โจมตีเป้าหมาย 6,400 กม./ชม.
เผยแพร่: 13 ก.พ. 2562 04:00 ปรับปรุง: 13 ก.พ. 2562 13:48 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(แฟ้มภาพ) ภาพวาดจำลองขีปนาวุธเร็วเหนือเสียงระดับไฮเปอร์โซนิกที่้้เผยแพร่โดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ
เดอะซัน - ฝรั่งเศสกำลังสร้างขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิก ความเร็วสูงสุด 4,000 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 6,400 กม.ต่อชั่วโมง) ขณะที่ปารีสเดินหน้าแข่งขันกับรัสเซีย, จีน และสหรัฐฯ ในการสร้างขีปนาวุธเร็วระดับไฮเปอร์โซนิก (ความเร็วเหนือเสียงตั้งแต่ 5 เท่าขึ้นไป) ที่สามารถปฏิบัติการได้อย่างสมบูรณ์

รายงานข่าวระบุว่า กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสมีเป้าหมายสร้างขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิกภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาจะกลายเป็นชาติแรกในสหภาพยุโรปที่พัฒนาอาวุธที่สามารถทำความเร็วได้อย่างน้อยๆ 5 เท่าของเสียง (3,800 ไมล์ต่อชั่วโมง)

“หลายประเทศกำลังมีมัน (อาวุธเร็วเหนือเสียง 5 เท่าขึ้นไป) และเรารู้องค์ความรู้สำหรับพัฒนามัน” ฟลอรองซ์ แปร์ลี รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสกล่าว “เราไม่อาจรอได้อีกต่อไปแล้ว”

ขีปนาวุธความเร็วสูงขนาดนี้จะช่วยให้ฝรั่งเศสมีความล้ำหน้าเหนือระบบเซ็นเซอร์ต่อต้านขีปนาวุธใดๆ รวมถึงขีปนาวุธสกัดกั้นที่ออกแบบมาสำหรับต่อต้านขีปนาวุธรุ่นเก่าที่มีความเชื่องช้ากว่า “เป้าหมายคือมีความคล่องแคล่วในความเร็วสูง” DGA สำนักงานจัดซื้อจัดจ้างกลาโหมฝรั่งเศสระบุ

“มันมีความต่างจากเส้นโคจรของขีปนาวุธทั่วไป เมื่อถึงระดับความเร็วแล้ว เราสามารถเปลี่ยนความเร็วและความสูง ปรับระดับขึ้นหรือลง ไปทางซ้ายหรือไปทางขวา สร้างวิถีโคจรที่ทำให้การสกัดกั้นทำได้ยากขึ้น” DGA ระบุ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ตอนนี้ ฝรั่งเศสก้าวมาแข่งขันกับสหรัฐฯ, จีน และรัสเซีย ในการมีขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกเป็นชาติแรกของโลก

“อาวองการ์ด” ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ของรัสเซีย ซึ่งติดตั้งบนขีปนาวุธข้ามทวีป SS-19 ได้ผ่านการทดสอบโจมตีเป้าหมายแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้ พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่าแม้หากว่าจะไม่ติดตั้งหัวรบ แต่ด้วยความเร็งสูงสุดของมัน 27 มัค หรือราว 33,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มันมีแสนยานุภาพทำลายล้างเป้าหมายใดๆ ก็ได้

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ฮีเทอร์ วิลสัน รัฐมนตรีทบวงกองทัพอากาศ แห่งกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เผยว่าอเมริกากำลังเสร็จสิ้นการสร้างอาวุธชนิดหนึ่งที่สามารถพุ่งด้วยความเร็วเหนือเสียง 5 เท่า

แหล่งข่าววงในในหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ก็อ้างด้วยว่า จีนก็อาจเปิดตัวปืนเรือที่ทรงอานุภาพมากที่สุดในโลกภายในเวลาแค่ 6 ปีข้างหน้า ด้วยมันสามารถยิงขีปนาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง 7 เท่า ขณะที่สื่อมวลชนระบุว่าปืนรางแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วไฮเปอร์โซนิก ซึ่งมีศักยภาพโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 124 ไมล์ (ราว 200 กิโลเมตร) ผ่านการทดสอบเมื่อปีที่แล้ว

https://mgronline.com/around/detail/9620000015256

 

รัสเซียพร้อมช่วยเวเนฯแก้วิกฤต เตือนสหรัฐอย่าแทรกแซง ต่างประเทศ 13 ก.พ. 2019 08:03:30

มอสโก 13 ก.พ.- รัสเซียพร้อมสนับสนุนเพื่อให้มีการเปิดเจรจาระหว่างรัฐบาลเวเนซุเอลากับฝ่ายค้านเพื่อหาทางออกให้แก่สถานการณ์ในขณะนี้ พร้อมกับเตือนสหรัฐว่าอย่าแทรกแซงกิจการภายในของเวเนซุเอลา

สำนักข่าวทาสส์รายงานอ้างคำกล่าวของนายเซอร์เก เรียบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียว่า รัสเซียติดต่อประสานงานกับรัฐบาลเวเนซุเอลาอย่างจริงจังมาโดยตลอดและพร้อมสนับสนุนเพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดกระบวนการที่จะหาทางออกให้แก่สถานการณ์ขณะนี้ นอกจากนี้ยังได้เสนอบางวิธีเพื่อแก้ไขวิกฤตให้แก่เวเนซุเอลาด้วย

ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเตือนระหว่างโทรศัพท์สนทนากับนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเมื่อค่ำวานนี้ว่า สหรัฐไม่ควรแทรกแซงกิจการภายในของเวเนซุเอลา โดยเฉพาะการแทรกแซงด้วยกำลังทหาร และว่ารัสเซียพร้อมประชุมหารือสถานการณ์เวเนซุเอลาตามแนวทางของกฎบัตรสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

นายวาซิลี นีบินเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็นกล่าวถึงเรื่องที่สหรัฐยื่นญัตติต่อยูเอ็นเรียกร้องให้เวเนซุเอลาจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเสรี เป็นธรรม และเชื่อถือได้ โดยให้นานาชาติเข้าไปสังเกตุการณ์ว่า เป็นการกระทำที่ไม่สมดุลอย่างยิ่ง รัสเซียกำลังหารือเรื่องยื่นญัตติค้าน.-สำนักข่าวไทย

https://www.tnamcot.com/view/nymkqj...Y83qc4n5K6JTEr8sKRQmpPOnoXbaMy36udVKsxPczCIcM

 

La nueva era de la tierra - respaldo



อีกหนึ่งวิดีโอที่หมีขั้วโลกกำลังบุกรุกเกาะรัสเซีย ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ..

 

La nueva era de la tierra - respaldo



ช่วงเวลาที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ที่มีประชากรในเปรู

มาในรูปแบบสึนามิ

2019/10/02

 

ปักกิ่งแจง! ข่าวทูตจีนแอบคุยฝ่ายค้านเวเนฯ เป็นข่าวปลอม
เผยแพร่: 13 ก.พ. 2562 16:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รอยเตอร์ – จีน ระบุในวันนี้ (13) ว่า รายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ว่า กลุ่มนักการทูตจีนได้จัดการพูดคุยกับกลุ่มต่อต้านทางการเมืองของเวเนซูเอลาเพื่อปกป้องการลงทุนในประเทศตะวันออกกลางแห่งนี้นั้นเป็นข่าวปลอม

วอลสตรีทเจอร์นัล ระบุว่า กลุ่มนักการทูตที่เป็นกังวลเกี่ยวกับโครงการน้ำมันในเวเนซูเอลาและเงินเกือบ 2 หมื่นล้านที่การากัสติดหนี้ปักกิ่ง ได้จัดการพูดคุยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กับคณะผู้แทนของ ฮวน กวยโด ผู้นำฝ่ายค้านที่เป็นหัวขบวนขับไล่ประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร โดยมีสหรัฐฯ หนุนหลัง

“ความจริงแล้วรายงานดังกล่าวไม่เป็นจริง มันเป็นข่าวปลอม” หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามเรื่องบทความดังกล่าว

กวยโดอ้างบทบัญญัติหนึ่งในรัฐธรรมนูญเพื่อขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อสามสัปดาห์ก่อน โดยให้เหตุผลว่า การชนะเลือกตั้งของมาดูโรเมื่อปีที่แล้วนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง

ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่รวมถึงสหรัฐฯรับรองกวยโดเป็นประมุขแห่งรัฐตามกฎหมายของเวเนซูเอลา แต่มาดูโรยังคงได้รับารสนับสนุนจากรัสเซียและจีนรวมทั้งยังควบคุมสถาบันรัฐต่างๆ รวมถึงกองทัพ

กิจการของเวเนซูเอลาควรได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจา หวา กล่าวเสริม และย้ำถึงจุดยืนเดิมของจีน

จีนให้กู้เงินกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่เวเนซูเอลาผ่านข้อตกลงน้ำมันแลกเงินกู้ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ทำให้อุปทานด้านพลังงานสำหรับเศรษฐกิจเติบโตเร็วแห่งนี้ไม่ขาดแคลน

การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในเวเนซูเลาจะเป็นผลดีต่อเจ้าหนี้ต่างชาติหลักสองรายของประเทศ รัสเซียและจีน กวยโด บอกกับรอบเตอร์ในการสัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้ว

https://m.mgronline.com/around/detail/9620000015512

 

การ "ซาฮีด" (อายิ ยามา) คือวีรบุรุษเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่? อย่าลืมว่ากลุ่มขบวนการต่อสู้กับรัฐไทยเพื่ออะไร? เพื่อแบ่งแยกดินแดน เพื่อเอกราชใช่หรือไม่? ที่สำคัญผู้ตายเป็นกลุ่มที่ลงมือฆ่าพระอย่างเลือดเย็น สมควรแล้วหรือกับคำว่า "วีรบุรุษ"


สื่อโจรใต้“อวย”ซาฮีด อายิ ยามา ฆ่าพระเป็นวีรบุรุษ


"แบมะ ฟาตอนี"


ตามคาด! สื่อโจรใต้ปลุกกระแสข่าวชาวบ้านนับร้อยแห่ศพ"คนร้ายถูกวิสามัญ"อ้างชอบช่วยเหลือชาวบ้าน รักครอบครัว เป็นแบบอย่างที่ดีอีกทั้ง "ซาฮีด" ให้เป็นวีรบุรุษ

กรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญคนร้าย 2 ศพ บนเทือกเขาช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายศพไปพิสูจน์ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ก็ได้มอบศพให้ญาตินำตัวไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยหนึ่งใน 2 ผู้เสียชีวิตคือ นายอายิ ยามา ถูกนำมาฝังที่บ้านเกิด เพจ Suara Patani ซึ่งเป็นเพจแนวร่วมของขบวนการก่อความไม่สงบ ได้รายงานว่า สมเกียรติ! ประชาชนนับร้อยแห่เคลื่อนศพ "กองกำลังฝ่ายปาตานี" อ้างชาวบ้านในพื้นที่ได้กล่าวว่า "ซาฮีด (อายิ ยามา) เป็นคนที่ยำเกรงคนหนึ่ง และเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน เป็นคนที่รักครอบครัว ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน และเป็นแบบอย่างที่ดีในทุกๆ ด้าน"และยกให้ นายอายิ ยามา "ซาฮีด" คือวีรบุรุษของเราทุกคน

อย่างไรก็ตาม หากสังเกตผู้ร่วมแห่ขบวนเคลื่อนศพ นายอายิ ยามา ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่ขับมอเตอร์ไซต์ไปทำพิธีที่กูโบร์ การ "ซาฮีด" (อายิ ยามา) คือวีรบุรุษเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่? อย่าลืมว่ากลุ่มขบวนการต่อสู้กับรัฐไทยเพื่ออะไร? เพื่อแบ่งแยกดินแดน เพื่อเอกราชใช่หรือไม่? ที่สำคัญผู้ตายเป็นกลุ่มที่ลงมือฆ่าพระอย่างเลือดเย็น สมควรแล้วหรือกับคำว่า "วีรบุรุษ"

เมื่อมีการตีความหมายการตายของ นายอายิ ยามา ว่า"ซาฮีด" ถือว่าเป็นบาปต่อผู้ตาย ผู้นำศาสนาในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากผู้ที่ตายไปแล้วย่อมไม่รู้ การไม่อาบน้ำศพ แห่ศพ เป็นคนละประเด็นกันตามแนวทางการต่อสู้ของกลุ่มขบวนการ เป็นการกระทำที่ผิดหลักศาสนา อย่านำเรื่องศาสนาซึ่งมีความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวต่อความรู้สึกมาเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม หากมีการ"ซาฮีด"ทุกครั้งที่คนร้ายตาย จะเป็นบรรทัดฐานในการกระทำต่อๆ กันไปอย่างผิดหลัก ทำลายศาสนาและความศักดิ์สิทธิ์ของคำว่า"ซาฮีด"โดยไม่รู้ตัว


https://pulony.blogspot.com/2019/02/blog-post_33.html?m=1

 

Tiempo Extremo



นกกิ้งโครงนับพันหาที่หลบภัยในบริเวณใกล้เคียงกับ Tudela, Navarra, # สเปน


เครือข่ายภูมิอากาศโลก Bayres Andres Armendariz

 

Tiempo Extremo

การค้นพบใหม่!



#ค้นพบอีกหนึ่งที่เป็นไปได้ #ปล่องภูเขาไฟใต้ชั้นน้ำแข็งของ #กรีนแลนด์ที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 22 ของโลก

emat Chematierra

 

Tiempo Extremo



ไฟป่าที่ก่อให้เกิดความเสียหาย เมื่อวานนี้ ใน Coronel, ประเทศชิลี ส่งผลกระทบต่อจังหวัด Arauco และ Concepción


Chile อุบัติเหตุชิลี

 

Tiempo Extremo



พายุหิมะครั้งใหม่ส่งผลกระทบต่อคนมากกว่า 120 ล้านคนใน 35 รัฐ


ฝนค้างเยือกแข็ง ถนนจากชิคาโก ไปดีทรอยต์


ผ่านทางUnivisiónข่าว