ติดตามสถานะการณ์

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว แจ่มจริง!!! #ฟิลิปปินส์ เปิดตัว #รถไฟไฟฟ้าไฮบริด (The Hybrid Electric Train - HET) ขบวนแรกที่ผลิตในประเทศ โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ราว 880 คน ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ของรถยนต์ มีต้นทุนการพัฒนาเพียง 120 ล้านเปโซ (ประมาณ 71.66 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับราคาของรถไฟที่สั่งมาจากทางอินโดนีเซียที่ราคาสูงถึง 2.37 พันล้านเปโซ (ประมาณ 1.4 พันล้านบาท)


อนึ่ง รถไฟไฟฟ้าไฮบริดขบวนนี้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใช้เวลาในการพัฒนาและสร้างขึ้นกว่า 5 ปีก่อนที่จะมีการนำมาทดสอบกับรางรถไฟของการรถไฟแห่งชาติฟิลิปปินส์


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางการรถไฟแห่งชาติฟิลิปปินส์มีการสั่งรถไฟจำนวน 7 ขบวนมาจากอินโดนีเซีย แต่เนื่องจากยังไม่ถึงกำหนดส่งมอบในกลางปี 2019 ทางการรถไฟแห่งชาติฟิลิปปินส์จึงวางแผนจะนำรถไฟไฟฟ้าไฮบริดที่พัฒนาโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้.

--------------------------------------

อ่านต่อ : https://news.abs-cbn.com/business/0...yQB57P_KHBtk8PODal8ayvc1bI5zPTyMTSA4tBPhz1YHA

 

ชาวโคราช แห่ตัก ลาวาโคลนกิน พอกหน้า เชื่อใช้แล้วหน้าใสปิ๊ง รักษาโรคได้ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 - 15:10 น.

ชาวโคราชแห่นำ ลาวาโคลน ผุดไปพอกหน้า ดื่มกิน เชื่อทำให้หน้าใส รักษาโรคปวดเมื่อยได้
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน จ.นครราชสีมา และต่างจังหวัด ได้พากันนำ ลาวาโคลน ที่อยู่กลางทุ่งนา บ้านหนองกุงน้อย หมู่ที่ 10 ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม ไปดื่มกินเพื่อรักษาโรค

หลังจากลาวาโคลน หรือ โคลนผุด ขึ้นมากลางทุ่งนา จำนวน 9 จุด ตามที่รายงานข่าวกันไปก่อนหน้านี้ โดยชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างพากันนำเอาขวดน้ำ กระติกน้ำแข็ง ใส่โคลน และนำโคลนกลับไปบ้าน เพื่อนำเอาโคลนไปพอกหน้า พอกแขน รักษาโรค ปวดเมื่อยตามร่างกาย บางคนยังตักเอาน้ำที่อยู่ติดกับแนวโคลน ที่ผุดออกมาไปดื่มอีกด้วย โดยเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคภัยไข้เจ็บหายได้

นางรัศมี ดิบประโคน อายุ 43 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้นำลาวาโคลน ไปพอกหน้า เผยว่า โคลนที่พุดขึ้นมา เป็นเนื้อโคลนละเอียด ไม่มีกลิ่น โดยพอกหน้าไว้ช่วงหัวค่ำทิ้งไว้จนถึงเช้า ตื่นขึ้นมาพบว่า ใบหน้าใสนิ่ม จึงได้กลับมานำเอาลาวาโคลนไปพอกหน้าอีก บางคนนำเอาขวดน้ำเปล่า มาตักเอาลาวาโคลนไปดื่มกิน และเอาลาวาโคลน ไปพอกตัว รักษาโรคปวดเมื่อย ตามความเชื่อของชาวบ้านในพื้นที่

ด้านนายทรงกลด ประเสริฐทรง นักธรณีวิทยาชำนาญการจากสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 กรมทรัพยากรธรณี เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าดินผุด เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติของน้ำในชั้นใต้ผิวดิน ไหลทะลักเข้าไปทำปฏิกิริยาเคมีกับแร่ธาตุในชั้นดินเหนียว จนทำให้เกิดแรงดันผ่านรอยแยก ผสมกับดินในชั้นต่างๆ จนเกิดเป็นโคลนผุดขึ้นมา

ชาวบ้านไม่ควรนำดินผุดไปกิน เพราะจะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เนื่องจากร่างกายย่อยดินไม่ได้ และดินก็จะมีสิ่งเจือปนของเชื้อโรคชนิดต่างๆ จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนการนำไปทาถูตามร่างกายหรือพอกหน้านั้นอาจทำได้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล


https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_2197020

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว หัวรว้อนนนน!! ปีนี้จ่อๆ ไม่ได้ร้อนแค่หัวนะคะ ร้อนไปหมดทั้งรูขุมขน โดยล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา คาดประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนช้ากว่าปี 2561 ถึง 1-2 สัปดาห์ คาดภาคเหนือ-อีสานอาจอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 40-43 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน หนองบัวลำภู อุดรธานี มุกดาหาร และชัยภูมิ เป็นต้น


ภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 40-42 องศาเซลเซียส เช่น จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ปราจีนบุรี สระแก้ว และฉะเชิงเทรา เป็นต้น ขณะที่ภาคใต้ทั้ง 2 ฝั่งจะมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 38-39 องศาเซลเซียส ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 38-39 องศาเซลเซียส ขณะที่ปริมาณฝนโดยรวมเฉลี่ยจะต่ำกว่าค่าปกติ


อ่านต่อ : https://hilight.kapook.com/view/183778

 

สงสัยค่าน้ำจะบาน เจ้าอาวาส ยัน ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ น้ำผุดจากพื้นโบสถ์เพราะท่อรั่ว 11 ก.พ. 2562

จากเหตุการณ์ชาวบ้านฮือฮา แห่กรอกน้ำที่ผุดจากพื้นกระเบื้องโบสถ์วัดราษฎร์สามัคคี วัดดังเมืองมุกดาหาร เพื่อนำไปดื่มและอาบ เชื่อเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ "ปู่นวน-ปู่เหล็ก" เจ้าอาวาสวัดรุ่นปู่ย่า แสดงอภินิหารนั้น

ล่าสุด (11 กุมภาพันธ์ 2562) ข่าวช่องวัน รายงานความคืบหน้า ว่า น้ำที่ผุดขึ้นบนพื้นข้างโบสถ์นั้น แท้จริงแล้วเกิดจากท่อน้ำประปารั่ว ไม่ได้มีอภินิหารหรือเป็นสิ่งอัศจรรย์ใด ๆ


ภาพจาก ข่าวช่องวัน

โดยพระครูสุวรรณ พัฒนโชติ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี เจ้าคณะตำบลคำป่าหลาย เผยว่า ในคืนแรกตนเห็นน้ำผุดขึ้นมาทางวัดก็ไม่ได้ประชาสัมพันธ์อะไร แต่พอคืนที่ 2 ก็ยังเห็นขึ้นอีก จึงประกาศให้ญาติโยม ชาวบ้านได้มาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งต่อมาได้เรียกช่างประปามาดู ก็พบว่าโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นกุฎิเก่า และมีท่อประปาเก่าที่ไม่ได้ใช้งานมานานกว่า 20 ปี เมื่อซื้อเครื่องปั๊มน้ำแรงดันสูงมาใช้ ทำให้ท่อรั่วจนเกิดน้ำผุดขึ้นมาตามร่องขอบกระเบื้อง

ทั้งนี้ หลังจากพบว่าเกิดจากน้ำประปารั่ว เมื่อปิดวาล์วน้ำ น้ำก็หยุดไหล จึงอยากแจ้งญาติโยมทุกท่านว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากสิ่งอัศจรรย์อะไร มาจากน้ำประปารั่วเท่านั้นเอง


ภาพจาก ข่าวช่องวัน


ภาพจาก ข่าวช่องวัน

https://hilight.kapook.com/view/183814

 

Next Generation Weapons Technology


เครื่องบินรบ f35 ของ อิสราเอล ทำลาย ระบบเรดาร์ anti stealth yj 27 ของจีน ในซีเรีย


จีนอ้างว่าเรดาร์นี้สามารถตรวจจับเครื่องบินรบstealth จากทางไกลได้

 

เตือนคนไทย เลิกราดน้ำแดงลงหิมะ โชว์โซเชียล ชี้ เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นตักเตือน! วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 - 16:56 น.
เตือนคนไทย เลิกราดน้ำแดงลงหิมะ โชว์โซเชียล ชี้ เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นตักเตือน!
ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปแทบตลอดทั้งปี เพราะค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก นั่งเครื่องบินไม่กี่ชั่วโมง และมีวัฒนธรรมที่น่าหลงไหลชวนให้ไปสัมผัสกันซักครั้ง

โดยพบว่า มีการเตือนเรื่องการเดินทางไปท่องเที่ยวอยู่เสมอ เพราะด้วยประเพณี วัฒนธรรมมารยาทที่แตกต่างกัน ทำให้บางครั้งอาจจะมีสิ่งที่คนไทยกระทำไปโดยไม่รู้ว่า ไม่สามารถทำได้ โดยล่าสุด พบว่า มีการแชร์คลิปนักท่องเที่ยวที่ทำหิมะราดน้ำแดงแล้วกิน ซึ่งเมื่อเสิร์ทยูทูบก็พบว่า มีคลิปลักษณะดังกล่าวของคนไทยจำนวนมาก



โดยสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ผ่านกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อเตือนคนไทย ว่า “ขอความกรุณาคนไทยที่จะมาเล่นสกีที่นี่ เลิกเอาน้ำแดงมาราดหิมะเล่นกันได้แล้ว มีคนไทยโดนเจ้าหน้าที่เตือนแล้วนะครับ อย่าสร้างพฤติกรรมเลียนแบบบ้าๆบอๆอะไรแบบนี้กันเลย แค่คนจีนเต็มสกีรีสอร์ตตอนนี้ก็น่าเบื่อมากแล้ว อย่าให้คนไทยคนอื่นต้องอายเพราะเรื่องแบบนึ้อีกเลย”





https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2197498

 

พลังใจถึงชายแดนใต้


จนท.ทพ.49 อยู่ระหว่างเคลียร์ พื้นที่เหตุปะทะที่ยอดเขา บ้านไอลาคอ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส #กลุ่มแนวร่วมตาย 2 ศพ ยึด M16 ได้ 2 กระบอก พบรอยเลือดหลบหนี คาดเจ็บมากกว่า 4-5 ตัว และที่พัก / เบื้องต้นทราบชื่อ...


1.นายอูเซ็ง เจ๊ะมิง

2.นายมูฮัมหมัดซากีริน สาแม


ยังไม่จบภารกิจ.. มีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป..!!

 

นักลงทุนหนีตายทิ้งหุ้นกลุ่มชิน

11 กุมภาพันธ์ 2562

นักลงุทนเทขายหุ้นลดเสี่ยงความไม่แน่นอนการเมือง ขณะเดียวทิ้งหุ้นกลุ่มการเมือง ที่โยงกับเครือข่าย "ชินวัตร" ร่วงยกแผง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดเช้านี้อยู่ในแดนลบ นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากมีการปล่อยเอกสารปลอมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(ม.44) ออกมา ขณะที่หุ้นที่โยงการเมืองโดยเฉพาะหุ้นที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่ม ”ชินวัตร” ปรับลดลงอย่างหนัก

ดัชนีหุ้นไทย ณ เวลา 10.04 น. อยู่ที่ 1,647.12 จุด ลดลง 4.56 จุด ลงต่ำสุดที่ 1,643.68 จุด ลดลง 8 จุด และสูงสุดที่ 1,647.49 จุด ลดลง 4.19 จุด

ส่วนความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มในกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่ม”ชินวัตร”ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ปรับตัวลดลงยกแผง หลังจากขึ้นยกแผงเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา

ณ เวลา 10.07 น. หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC อยู่ที่ 183.50 จุด ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.39%

หุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH อยู่ที่ 54.75 ลดลง 2.25 บาท หรือ 4%
หุ้นบริษัทไทยคม จำกัด(มหาชน)หรือ THCOM อยู่ที่ 8.15 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 5.78%
ส่วนหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC อยู่ที่ 2.98 บาท ลดลง 0.18 บาท หรือ 5.70%

บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH อยู่ที่ 3.02 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือ 1.31% บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH อยู่ที่ 10.70 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.83% และ บริษัทโรงพยาบาลพระราม 9 จำกัด(มหาชน) หรือ PR9 อยู่ที่ 11.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 4.17%



http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/826679

 

ขอให้ปลอดภัยครับ

 

ด่วน ผู้การพิจิตร ได้รับคำสั่ง เตรียมกำลัง ดูแลสถานที่ราชการ พร้อมควบคุมฝูงชนใน 1 ชม.
10 ก.พ. 2562 เวลา 22:06 น.


เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหนังสือจาก ผบก.ภ.จว.พิจิตร ถึง รองผบก.ภ.จว.พิจิตร ( รับผิดชอบความมั่นคง) และ ผกก.สภ. สวญ.สภ. ,สว.สภ. ,สว.ฝอ.4 (กบ.) , สว.ฝอ.6(งป.ก.)ภ.วจ.พิจิตร ที่ 0021( พจ.) 175 ลงวันที่ 9 ก.พ.62

โดยหนังสือระบุว่า โดยมีข้อราชการเร่งด่วนจึงให้หน่วยงานที่สังกัดดำเนินการในส่วนที่ เกี่ยวข้อง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ดังนี้

1 . สภ. ในสังกัด จัดระดมกำลังข้าราชการตำรวจ และกองร้อยควบคุมฝูงชน ให้ อยู่ในความพร้อม ณ . ที่ตั้งของหน่วย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้สามารถ ระดมกำลังได้ภายใน 1 ชั่วโมงเมื่อได้รับคำสั่ง

2. ฝอ.4 ( กบ) ภ.จว. พิจิตร ให้จัดเตรียมอุปกรร์ สำหรับผู้ปฎิบัติการกิจกองร้อยควบคุมฝูงชน พร้อมยานพาหนะให้พร้อมในการ ปฎิบัติภารกิจ

3.ฝอ.( งป. ภ.จว. พิจติตรให้จัดเตรียมงบประมาณสนับสนุนในการปฎิบัติภารกิจกองร้อยควบคุมฝูงชนต้อมข้อ 1-2 กง)ลง๙อ พล. ต.ต. ธวัธชัย มวลนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร

โดย พล.ต.ต. ธวัธชัย มวลนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ผมได้รับคำสั่งจากกองกำลังที่ 36 โดยสั่งให้ มีการดูแล สถานที่ราชการ ไม่ว่าจะเป็นศาลากลาง หรือหน่วยราชการอื่น เนื่องจาก อาจจะ เกิดความวุ่นวาย เนื่องจากอาจจะ มีเหตุ เกิดไม่ปกติ หรือมีเหตุบุคคล ที่ไม่หวังดีมาก่อกวน ซึ่ง ผมสั่งไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่ง ผมเตรียมกำลัง ไว้ 1 กองร้อยภายใน 1 ชั่วโมง

ภาพ



หนักศสือดังกล่าว

ขอบคุณ ข่าวสด

https://www.siamnews.com/view-30588.html

 

แจงสุดมึน! เทพราม เป็นบรรพบุรุษชาวฮินดู-มุสลิม


สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: แจงสุดมึน! เทพราม เป็นบรรพบุรุษชาวฮินดู-มุสลิม

กูรู โยคื รามเทพ แถลง ว่าการเสนอสร้างวัดพระรามขึ้นที่เมืองอโยธยา รัฐอุตรประเทศ มีจุดประสงค์เพื่อให้เป็นศรีสง่าแก่ประเทศชาติ และเขายังอ้างว่า เทพรามของชาวฮินดูนั้นเป็นบรรพบุรุษทั้งของชาวฮินดูและมุสลิมอินเดีย

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โยคี รามเทพ กล่าวกับนักข่าวที่เมืองเนดีแอด เขตคีดา รัฐกุจารัต ในระหว่างการเดินทางไปร่วมค่ายโยคี ที่จัดโดยวันสันทรัม ว่า ประเด็นความต้องการสร้างวัดพระรามบนซากมัสยิดบาบรี นั้น ไม่เกี่ยวกับการรณรงค์เพื่อหาเสียงของนายกรัฐมนตรีโมดี

เขายังกล่าวถึงความเชื่อมั่นอย่างแน่ใจ และไม่มีข้อกังขา ว่าวัดพระรามต้องสร้างขึ้นในเมืองอโยธยา แน่นอนว่า คงจะไม่อาจไปสร้างได้ในมักกะฮ์ มาดีนะ หรือในนครวาติกัน เพราะอโยธยาเป็นสถานที่ประสูติของพระราม

ขณะนี้ศาลสูงอินเดียกำลังพิจารณาข้อขัดแย้งในคดีระหว่างมัสยิดบาบรี กับราม ญันมาภูมี ซึ่งก่อนหน้านี้มีการกำหนดวันรับฟังการพิจารณา ในวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา แต่ได้ผลัดเลื่อนมาเนื่องจากองค์คณะผู้พิพากษาไม่ครบจำนวน และยังไม่ได้มีการกำหนดวันที่แน่นอน

มานีช โดชิ โฆษกสภาคองเกรส ได้ออกมาวิจารณ์ โยคี รามเทพ ว่าผู้นำศาสนาไม่ควรออกมากล่าวชี้นำ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์กับพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล และเขาได้เคยมีพฤติกรรมเช่นเดียวกันนี้มาก่อน

ที่มา: www.scroll.in

http://news.muslimthaipost.com/

http://news.muslimthaipost.com/news/32204

 

คืนมาฆบูชา รอชมดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี
13:40 | 11 กุมภาพันธ์ 2562 |



สดร.ชวนชม ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี 2562 หรือ "ซูเปอร์ฟูลมูน" ห่างจากโลก 356,836 กิโลเมตร ในคืนมาฆบูชา 19 ก.พ.นี้

วันนี้ (11 ก.พ.2562) นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบุว่า คืนวันที่ 19 ก.พ.นี้ ตรงกับวันมาฆบูชา ดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏในตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในรอบปี หรือ ซูเปอร์ฟูลมูน (Super Full Moon) ที่ระยะห่างประมาณ 356,836 กิโลเมตร

หากเปรียบเทียบกับดวงจันทร์เต็มดวงช่วงเวลาปกติ จะมีขนาดใหญ่กว่า 7% และสว่างกว่า 16% สังเกตได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 18.11 น. เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถรอชมและเก็บภาพความสวยงามของดวงจันทร์ได้ในคืนดังกล่าว


ภาพ : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page

สำหรับครูและนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ที่มีกล้องโทรทรรศน์ยังสามารถใช้โอกาสนี้จัดกิจกรรมดาราศาสตร์ในโรงเรียนและชุมชน สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยสนใจศึกษาดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์จากปรากฏการณ์ในครั้งนี้ได้อีกด้วย

นายศุภฤกษ์ ระบุอีกว่า ดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นรูปวงรี 1 รอบ ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ดังนั้น แต่ละเดือนจะมีตำแหน่งที่ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดเรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 356,400 กิโลเมตรและตำแหน่งที่ไกลโลกที่สุดเรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 406,700 กิโลเมตร


ภาพ : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page

ปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลก มีผลทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลงมากกว่าปกติเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีผลกระทบอื่นใดต่อโลก นอกจากนี้ การที่ผู้คนบนโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงที่โตกว่าปกติเล็กน้อยในคืนที่ดวงจันทร์โคจรเข้ามาใกล้โลก นับเป็นเหตุการณ์ปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

“แม้ดวงจันทร์จะโคจรเข้าใกล้โลกทุกเดือนแต่อาจไม่ปรากฏเต็มดวงทุกครั้ง สำหรับดวงจันทร์เต็มดวงและใกล่้โลกที่สุดในรอบปี ครั้งต่อไป ตรงกับวันที่ 8 เม.ย.2563 ห่างประมาณ 357,022 กิโลเมตร ”
ภาพ : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page

ทั้งนี้ สดร.จัดกิจกรรมสังเกตการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ประชาชนที่สนใจร่วมส่องจันทร์ดวงโตชัดเต็มตาด้วยกล้องโทรทรรศน์หลายรูปแบบ และร่วมบันทึกภาพหลุมอุกกาบาตและภูเขาบนดวงจันทร์ 4 แห่ง ได้แก่

1) เชียงใหม่ หอดูดาว อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
2) ฉะเชิงเทรา หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา
3) นครราชสีมา หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา นครราชสีมา
4) สงขลา ลานชมวิวนางเงือก หาดสมิหลา จ.สงขลา

http://news.thaipbs.or.th/content/277645

 

Watchers


#Iridescent Clouds

เมฆสีรุ้ง ถ่ายโดย Darryl Luscombe

เมื่อวันที่ 10 February 2019

สถานที่ @ Trail, BC, Canada

#Sky #Watchers

 

Watchers



เมื่อ มีหิมะในแคลิฟอร์เนีย

Oops #snow #California #Idyllwild

(10/02/19)

คลิปโดย : Jason Pruitt

#Watchers

 

Watchers


#สภาพอากาศโลก

11/02/19

เปิดภาพดาวเทียมของ แคลิฟอร์เนีย #California แสดงความแตกต่างของ กลุ่มหิมะ #snow_pack ระหว่าง วันที่5กุมภาพันธ์ #ปี2019 และวันที่ 5 กุมภาพันธ์ #ปี2018


เครดิตภาพ/ Photo: NASA / Zoom Earth

ภาพบรรยากาศ : Heavenly Mountain Resort วันที่5 กุมภาพันธ์ 2019 หิมะสูง36นิ้ว

#Watchers

 

Chalee Na Roied


ดาวเทียมสำรวจชั้นบรรยากาศของรัสเซีย ได้ตรวจพบปรากฏการณ์ที่ผิดปรกติในชั้นบรรยากาศ ที่ติดกับโลก คือ การระเบิดขนาดใหญ่ของคลื่นแสง ในหลายๆครั้ง โดยท้องฟ้าภายใต้แรงระเบิดแห่งนี้ ค่อนข้างชัดเจน ไม่มี พายุฝนฟ้าคะนอง หรือเมฆ

เอาเป็นว่าดาวเทียมดวงนี้ รัสเซียส่งไปเก็บข้อมูล ความเปลี่ยนแปลงในชั้นบรรยากาศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลง ปริมาณ รังสีต่างๆในชั้นบรรยากาศโลก โดยส่งขึ้นไปเมื่อปี 2016 จนถึงปัจจุบัน



ถ้าให้ผมวิเคราะห์"กึ่งๆมโน"ต่อไป ก็คงจะประมาณว่า รัสเซียส่งดาวเทียมดวงนี้ ขึ้นไป ก็เพราะต้องการทราบการเปลี่ยนแปลง อนุภาคหรือประจุไฟฟ้า ในชั้นบรรยากาศ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศโลก เพราะรู้ว่าอาจจะมี มหาอำนาจบางประเทศ ที่สามารถสร้างเทคโนโลยีเพื่อควบคุมสภาพภูมิอากาศ(Weather warfare)ได้นั่นเอง


https://sputniknews.com/science/201...-unknown-physical-phenomena-earth-atmosphere/

 

ช่างคล้องกันนัก เมตไตร เป็นลูกของแม่ราชสีห์ แม่ชื่อเมตไตร ก็เป็นชื่อของแม่ราชสีห์ ในตำนานประทีปตีนกา

John Traczyk


ดาวหาง C2018 Y1 Iwamoto จะตัดผ่านหัวใจของกลุ่มดาว Leo the Lion ทางด้านซ้ายของดาว Regulus (ละตินสำหรับ "ราชาตัวน้อย") วันนี้วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2019


คืนวันที่ 11 และ 12 กุมภาพันธ์นั้นดีที่สุดสำหรับการมองดูดาวหางซึ่งตอนนี้มีรายงานว่าสามารถมองเห็นได้ผ่านกล้องส่องทางไกล



[ดาว Regulus ดาวดวงนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีก่อนหน้านี้ถึง 3500 ปี ในอาณาจักรอัคคาด (อัคคาเดีย) สมัยโบราณดาวดวงนี้เป็นที่รู้จักในฐานะ “Amil-gal-ur” ราชา-แห่ง-ท้องฟ้า (King-of-the-celestial-sphere) ในอาณาจักรบาบิโลเนีย ดาวดวงนี้เป็นดาวแห่งราชา “ซาร์รู (Sharru)” ซึ่งชาวบาบิโลเนียนได้ทำเครื่องหมายเป็นกลุ่มดาวที่อยู่บนเส้นสุริยะวิถีลำดับที่ 15 ในเปอร์เซียโบราณเรียกว่า “ไมยัน (Miyan)” มีความหมายว่า “เป็นศูนย์กลาง” หรือ “ดาวฤกษ์ผู้เป็นศูนย์กลาง” และเป็นผู้นำของดาวราชาทั้งสี่ (The Four Royal Stars) ซึ่งประกอบด้วย ดาวเรกูลัส ดาวอัลดีบาแรน ดาวแอนทาเรส และดาวโฟมาออท ดาวฤกษ์ทั้ง 4 ดวง ดังกล่าวนี้ จะแบ่งเส้นสุริยะวิถีออกเป็น 4 ส่วน โดยดาวทั้ง 4 ดวง จะอยู่ห่างกันประมาณ 90 องศา ]


Comet C2018 Y1 Iwamoto will cut through the heart of the constellation Leo the Lion to the left of the star Regulus (Latin for "little king") today, February 11, 2019.


The nights of February 11 and 12 are best for glimpsing the comet, which is now reported to be visible in binoculars


https://earthsky.org/astronomy-essentials/c-2018-y1-iwamoto-jan-feb-2019





กลุ่มดาวสิงโตเจ้าป่าแห่งท้องฟ้า

กลุ่มดาวสิงโต เป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในแนวเส้นสุริยวิถี ประกอบด้วยดาวฤกษ์สว่าง 9 ดวง และเป็นกลุ่มดาวลำดับที่ห้าของกลุ่มดาวจักรราศี และกลุ่มดาวสิงโตยังเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวดั้งเดิม 48 ชื่อ ที่ถูกบันทึกไว้เมื่อ 2,000 ปีมาแล้ว โดยชาวกรีกโบราณ ซึ่งชาวกรีกในยุคนั้นเชื่อกันว่ากลุ่มดาวนี้เป็นตัวแทนของสิงโตเนเมียน (The Nemean Lion) จากตำนานของชาวกรีกโบราณสิงโตแห่งเนเมียนถูกฆ่าตายโดยเฮอร์คิวลิส ซึ่งเป็นภารกิจแรกที่เฮอร์คิวลิสได้รับมอบหมายจาก 12 ภารกิจ

ในการต่อสู่กันระหว่างเฮอร์คิวลิสกับสิงโตแห่งเนเมียน เนื่องสิงโตมีหนังที่หนาฟันแทงไม่เข้าเฮอร์คิวลิสจึงใช้วิธีรัดคอสิงโตด้วยมือเปล่าให้ขาดใจตาย


ในประเทศอียิปต์โบราณ ชาวอียิปต์เรียกกลุ่มดาวสิงโตว่าเป็น “บ้านแห่งดวงอาทิตย์” เนื่องจากช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่กลุ่มดาวสิงโตเป็นช่วงเวลาที่แม่น้ำไนล์หลาก และในประเทศอินเดียเรียกดาวดวงนี้ว่า “ดาวมาฆะ (Magha)” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้ทรงพลัง” หรือ “ผู้เป็นใหญ่” และเมื่อจันทร์เพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดวงจันทร์จะปรากฏอยู่ใกล้บริเวณดาวมาฆะ ที่เรียกว่า มาฆฤกษ์ ซึ่งวันดังกล่าวเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนานั่นก็คือ “วันมาฆบูชา” และกลุ่มดาวนี้ยังมีชื่อในภาษาล้านนาว่า ดาวงู หรือ ดาวสาวหน้อย และมีชื่อในภาษาไทยกลางว่า ดาวลิง ดาวงูตัวผู้ และดาวงูเลื้อย ประเทศไทยยังได้รับการสืบทอดความรู้ทางด้านดาราศาสตร์มาจากประเทศอินเดียด้วย ในประเทศไทยเรียกกลุ่มดาวสิงโตนี้ว่า “กลุ่มดาวมาฆะ” ซึ่งประกอบดาวฤกษ์ทั้งหมด 5 ดวง


กลุ่มดาวสิงโตราชาแห่งท้องฟ้าในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นกลุ่มดาวที่สว่างและง่ายต่อการค้นหา

เมื่อใดก็ตามที่ผู้สังเกตเดินออกไปอยู่นอกอาคารหรือในที่โล่งในคืนที่ท้องฟ้าแจ่มใส ลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อตรวจสอบว่าพบกับกลุ่มดาวใดบางที่สามารถมองเห็นได้ในช่วงนี้ เราสามารถหากลุ่มดาวสิงโตได้ง่ายมาก ซึ่งหลายท่านที่ชอบดูดาวก็คงจำลักษณะรูปร่างและการเรียงตัวของกลุ่มดาวนี้ได้ และสำหรับท่านที่ยังไม่มีความชำนาญในการดูกลุ่มดาวนี้มากนัก ท่านสามารถหากลุ่มดาวนี้ได้จากกลุ่มดาวกระบวย (กลุ่มดาวหมีใหญ่) โดยใช้ดาว 2 ดวง ที่ปลายของกระบวยซึ่งเป็นคู่เดียวกันกับที่เราใช้หาดาวเหนือแต่ให้ลากเส้นตรงออกมาในทิศตรงกันข้ามกับการหาดาวเหนือ เราก็จะเจอกับหลังของสิงโต กลุ่มดาวสิงโตเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวที่โดดเด่นที่สุด น่าสนใจ และยังเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวไม่กี่กลุ่มที่มีการเรียงตัวคล้ายกับชื่อของกลุ่มดาว เราสามารถสังเกตเห็นกลุ่มดาวสิงโตได้ในช่วงหัวค่ำทางขอบฟ้าทางทิศตะวันออกในช่วงปลายฤดูหนาวหรือต้นฤดูใบไม้ผลิ โดยกลุ่มดาวสิงโตจะค่อย ๆ เคลื่อนที่ออกมาจากขอบฟ้า และถ้าหากเราสังเกตกลุ่มดาวสิงโตในช่วงเวลาเดียวกัน เราจะเห็นกลุ่มดาวนี้ปรากฏสูงจากขอบฟ้าขึ้นไปเรื่อย ๆ

เมื่อพูดถึงกลุ่มดาวสิงโตหลายท่านคงคิดถึงดาวฤกษ์ที่สว่างในกลุ่มดาวนี้นั้นก็คือ “ดาวเรกูลัส (Regulus)” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวย่อย มีรูปร่างคล้ายกับเคียวเกี่ยวข้าว หรือเครื่องหมายคำถามกลับด้าน ซึ่งกลุ่มดาวย่อยนี้ประกอบด้วยดาวสว่างด้วยกัน 6 ดวง และดาวเรกูลัสเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุด อยู่ตรงปลายด้ามของเคียว ชื่อของดาวดวงนี้ถูกเรียกโดยนักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ ชื่อ นิโคลัส โคเพอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus) และยังเป็นชื่อดาวหนึ่งในไม่กี่ดวงในภาษาละติน คอร์ลีโอนิส (Cor Leonis) มีความหมายว่า “หัวใจสิงห์” มีชื่อเรียกก่อนหน้านี้ว่า “เร็กซ์ (Rex)” เทียบเท่ากับ “แบซิเลออส (Basileos)” ของ ปโตเลมีนักดาราศาสตร์ชาวกรีก ซึ่งหมายถึง “กษัตริย์องค์เล็ก (Little King)” และดาวดวงนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีก่อนหน้านี้ถึง 3500 ปี ในอาณาจักรอัคคาด (อัคคาเดีย) สมัยโบราณดาวดวงนี้เป็นที่รู้จักในฐานะ “Amil-gal-ur” ราชา-แห่ง-ท้องฟ้า (King-of-the-celestial-sphere) ในอาณาจักรบาบิโลเนีย ดาวดวงนี้เป็นดาวแห่งราชา “ซาร์รู (Sharru)” ซึ่งชาวบาบิโลเนียนได้ทำเครื่องหมายเป็นกลุ่มดาวที่อยู่บนเส้นสุริยะวิถีลำดับที่ 15 ในเปอร์เซียโบราณเรียกว่า “ไมยัน (Miyan)” มีความหมายว่า “เป็นศูนย์กลาง” หรือ “ดาวฤกษ์ผู้เป็นศูนย์กลาง” และเป็นผู้นำของดาวราชาทั้งสี่ (The Four Royal Stars) ซึ่งประกอบด้วย ดาวเรกูลัส ดาวอัลดีบาแรน ดาวแอนทาเรส และดาวโฟมาออท ดาวฤกษ์ทั้ง 4 ดวง ดังกล่าวนี้ จะแบ่งเส้นสุริยะวิถีออกเป็น 4 ส่วน โดยดาวทั้ง 4 ดวง จะอยู่ห่างกันประมาณ 90 องศา และยังมีชื่อเรียกในซอกเดียนา (ชาวเปอร์เซีย) ว่าไมตี้ (Mighty) ในหมู่เผ่าพันธุ์ทูราเนียน (Turanian) เรียกว่า “ดาวแมซู (Masu)” ซึ่งเป็นวีรบุรุษของพวกเขา

ดาวเรกูลัส เป็นดาวฤกษ์สีฟ้าขาวอยู่บนเส้นระนาบสุริยวิถี มีค่าความสว่างปรากฏเท่ากับ 1.35 ซึ่งสว่างเป็นลำดับที่ 21 ของท้องฟ้าตอนกลางคืน ดาวเรกูลัสอยู่ห่างจากโลกประมาณ 77 ปีแสง ดาวเรกูลัสเป็นระบบดาวฤกษ์ 4 ดวง ประกอบด้วยดาวคู่ 2 คู่ โดยคู่ของดาวเรกูลัส เอ (Regulus A) เป็นระบบดาวคู่แบบสเปกตรัมไม่สามารถสังเกตเห็นสมาชิกทั้ง 2 ดวง แยกออกจากกันได้ เมื่อสังเกตจะเห็นเป็นดาวสีฟ้าขาว มีประเภทของสเปกตรัมเป็นแบบ B7V ซึ่งคู่ของดาวเรกูลัส เอ คาดว่าน่าจะเป็นดาวแคระขาว และห่างออกไปที่ระยะทางประมาณ 4,200 หน่วยดาราศาสตร์ จะเป็นคู่ของ เรกูลัส บี (Regulus B) และ เรกูลัส ซี (Regulus C) ดาวทั้ง 2 ดวงอยู่ห่างกันประมาณ 100 หน่วยดาราศาสตร์

นักดาราศาสตร์มีความสงสัยในปริศนาความสว่างของดาวเรกูลัสมานานแล้ว ว่าดาวไม่น่าจะมีความสว่างมากถึงขนาดนี้ แม้ว่าดาวเรกูลัสไม่ได้ปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลต และรังสีเอกซ์ออกมามากเท่านี้ควร ซึ่งจากการสร้างแบบจำลองเพื่อใช้คาดการณ์จำนวนมาก แต่ปัญหาของดาวเรกูลัส คือ “การหมุน”

ดาวเรกูลัส ก็เหมือนดาวฤกษ์หลายดวงที่มีสเปกตรัมประเภท B (ร้อน มีมวลมาก และเป็นดาวฤกษ์ยังหนุ่ม) แต่มีอัตราเร็วในการหมุนรอบตัวเองเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาระยะเวลาครึ่งหนึ่งของดาวที่ใช้หลอมไฮโดรเจน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก ในความเป็นจริงแล้วดาวเรกูลัสหมุนเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าความเร็วที่ดาวจะเริ่มต้นบินออกจากกัน ซึ่งเมื่อดาวเรกูลัสหมุนด้วยความรวดเร็วจะทำให้ตัวดาวนูนออกในแนวเส้นศูนย์สูตร ผลที่ได้ก็คือดาวที่ไม่เป็นทรงกลม แต่จะเป็นดาวที่มีรูปร่างแบนที่ขั้ว จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์สามารถคาดเดาได้ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดการหมุนรอบตัวเองเร็วขึ้นของดาวเรกูลัส ซึ่งเป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์ทราบกันดีว่าดาวสามารถเพิ่มความเร็วในการหมุนได้ถ้าหากดาวดวงนั้นเป็นสมาชิกในระบบดาวคู่แบบใกล้ชิดที่มีการถ่ายเทมวลของดาว ในระบบเหล่านี้ดาวดวงหนึ่งอาจพ่นลมสุริยะออกจำนวนมากพอที่จะห่อหุ่มดาวอีกดวงหนึ่งได้ และในฐานะมวลเพิ่มเติม ในกรณีอื่น ๆ ดาวอาจมีมวลมากเกินขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วงที่มี ทำให้เกิดมีมวลรั่วไหลเป็นสายธารก๊าซบาง ๆ ไปสู่ดาวสมาชิกได้ ในกรณีที่ดาวได้รับสายธารก๊าซจากดาวอีกดวงหนึ่งจะทำให้ดาว หมุนเร็วขึ้น

นักดาราศาสตร์ทราบอยู่แล้วว่าดาวเรกูลัสเป็นระบบดาวหลายดวง ดาวหลักของระบบนี้คือ ดาวเรกูลัส เอ และมีคู่ที่อยู่ห่างไกลออกไปเป็นดาวคู่ประกอบด้วยดาวดวงเล็ก ๆ 2 ดวง เป็นดาวสลัวมีค่าความส่องแสงเพียง 1/170 และ 1/44,000 เท่าของดาวเรกูลัส เอ ซึ่งดาวทั้ง 2 ดวง อยู่ไกลมากเกินไปที่จะสามารถถ่ายเทมวลจำนวนมากให้กัน ดังนั้นนักดาราศาสตร์จึงไม่สามารถอธิบายความเร็วของการหมุนที่เพิ่มขึ้นได้


http://www.narit.or.th/index.php/astro-corner/1211

 

John Traczyk


วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ...มี การรบกวนสนามแม่เหล็กโลก ความเร็วลมรอบสนามแม่เหล็กโลก 1225 km / s


February 11, 2019. Documenting. Magnetosphere disturbance. 1225 km/s

 

สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events


มันแปลกมาก ๆ ที่ประเทศที่มีปัญหามากที่สุดในโลกที่ซึ่งสงครามมีแนวโน้มที่จะปะทุออกในอีกไม่ช้าก็พบว่าตัวเองถูกดาวตกถล่ม สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่านั้นคือสื่อข่าวของพวกเขาดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่า "ดาวตก" ยูเทิร์นก่อนที่จะตกกระทบพื้น


Meteor Strike - เวเนซุเอลา - หรือ ICBM รีเทิร์น?

https://sputniknews.com/latam/201902101072283836-meteorite-caracas-space-fire/


ไม่เพียงแค่เวเนซุเอลา แต่ที่คิวบาดาวตกทำบ้านคนเสียหาย!

https://www.rt.com/news/450362-meteorite-strikes-cuba-photos/


* มีการโจมตี "ดาวตก" ในสองสถานที่ซึ่งต่างเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของรัสเซียซึ่งตอนนี้รัฐลึกในสหรัฐกำลังเร่งโจมตีทรัมป์โดยบอกนัยๆว่าทรัมป์อาจหายไปในปี 2020 ?! และกล่าวหารัสเซียแฮกช่วยทรัมป์ - คาดกันว่าปฏืวัติม่วงไกล้เข้ามามาก.. และเธอคนนั้น อาจนำทัพสงครามกับรัสเซียจริงๆ!?


นอกจากนี้มีทฤษฎีขีปนาวุธนอกโลกของนาซากำลังเตรียมหลอกลวงและเสียงบูมเหตุการณ์ประหลาดทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมดเป็นคำถามอาจเกี่ยวข้องกันหรือไม่?


ที่แน่ๆ เหตุกาณ์ทั้งหมดกำลังได้ที่.

 

John Traczyk


วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 Schumann Resonance (เสียงสะท้อนของ Schumann) เพิ่มขึ้นจากปกติไปที่ความถี่ 44 Hz ใน 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา


Resonance Schumann วัดส่วนความถี่ต่ำ (ELF) ของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลก เสียงสะท้อนของ Schumann คือเสียงสะท้อนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากทั่วโลก ซึ่งถูกสร้างและกระตุ้นการปล่อยสายฟ้าในช่วงจากพื้นผิวโลกและไอโอโนสเฟียร์ ดาวเคราะห์โลก มีความถี่(Schumann Resonance ) คงที่ปกติที่ 7.83 Hz


เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ Schumann Resonance มีค่าความถี่ 36+ Hz ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติเมื่อในปี พศ.2557 ความถี่นี้เพิ่มขึ้นจากปกติ 7.83 เฮิร์ตซ์ไปยังความถี่บางช่วงในระดับ 15-25 เฮิร์ตซ์ - ดังนั้นการกระโดดจาก 7.83 เฮิร์ตซ์เป็น 36+ เฮิร์ตซ์เป็นเรื่องใหญ่ ความถี่เพิ่มขึ้นมากกว่าห้าเท่าในระดับความถี่พ้อง เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2560 มันสร้างสถิติสูงสุดอีกครั้งที่ 60 Hz ตั้งแต่นั้นมาก็มีการพุ่งเข้าหาช่วงความถี่เหล่านี้และความถี่ที่สูงกว่าเป็นประจำ


นี่ไม่ใช่จิตสำนึกของมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นบนโลก จิตสำนึกของมนุษย์ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้


พระเยซูคริสต์บอกเราว่าวันสุดท้ายจะเป็นเช่นไร เขาบอกว่าคนอื่นจะทรยศกัน และเกลียดชังซึ่งกันและกัน และผู้พยากรณ์เท็จนั้นจะปรากฏขึ้น และหลอกลวงคนเป็นจำนวนมาก และนั่นเป็นเพราะความชั่วช้า จะทำให้ความรักของคนเป็นอันมากจะจืดจางลง


มัทธิว 24: 10-12 ในเวลานั้นคนจำนวนมากจะถดถอยไปและจะทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังกันและกันด้วย ; ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จหลายคนจะเกิดขึ้น และล่อลวงคนจำนวนมาก; ความรักของคนจำนวนมากจะเยือกเย็นลงเพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป


จะไม่มีการขึ้นสู่มิติที่ 5 ในความเป็นจริง นั่นคือการเป็นการโฆษณาชวนเชื่อในยุคใหม่ มันเป็นเรื่องโกหก


นี่คือสายฟ้าที่ปล่อยออกมา พวกมันเกิดจากระบบดาวฤกษ์ที่กำลังส่งสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของรังสีคอสมิก คลื่นพลังงานที่เป็นอันตราย สัญญานต่างๆ เหล่านี้จะรุนแรงขึ้น


นี่คือสัญญาณตั้งต้นของความใกล้เคียงของมัน ดาวเคราะห์จะพุ่งเข้าสู่เวลาที่มืดที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ระบบของเทห์ฟากฟ้านี้กำลังนำพระพิโรธของพระเจ้าไปด้วย เรียกพวกเขาว่าอาวุธแห่งความขุ่นเคืองเพื่อชำระโลกแห่งความชั่วร้าย มันกำลังก่อไฟและกำมะถัน มันเรียกว่าคติตามที่เขียนไว้ในหนังสือวิวรณ์


'สวรรค์' เท่านั้นที่จะเกิดขึ้นคือผู้ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ มันถูกเรียกว่าความปีติ เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเหนือธรรมชาติและกำจัดร่างกายของพระคริสต์ (ผู้ที่อยู่ในพระคริสต์) ขึ้นไปในอากาศและบัลลังก์ของพระเจ้าตามที่เขียนไว้ใน 1 เธสะโลนิกา 4: 16-17 และวิวรณ์ 12: 5 ของพระคัมภีร์


เขียนไว้ว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จลงมาจากสวรรค์ด้วยเสียงโห่ร้องพร้อมกับเสียงของเทวทูตและด้วยคนที่กล้าหาญของพระเจ้าและผู้ที่ตายในพระคริสต์จะต้องฟื้นขึ้นก่อน: เราผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ร่วมกับพวกเขาในกลุ่มเมฆเพื่อพบองค์พระผู้เป็นเจ้าในอากาศและเราจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นนี้ตลอดไป "


เป็นที่ชัดเจนว่าเราทุกคนมีธรรมชาติบาปและเกิดมาในความบาปและต้องการความรอดจากผลของบาปนั้น พระเยซูคริสต์ทรงชดใช้ผลที่ตามมาจากความบาปและความรอดของคุณเป็นของประทานจากพระเจ้าที่สามารถพบได้ในตัวเขาเท่านั้น


พระวจนะของพระเจ้าแสดงให้เราเห็นวิธีการช่วยชีวิตและรับชีวิตนิรันดร์


Romans 3: 23

เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า


Romans 6:23

เพราะว่าค่าจ้างของบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา


Romans 5: 8

แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา


Romans 10: 9-10

คือว่าถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่านว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในใจว่า พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด;เพราะว่าการเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด


Romans 10:13

เพราะว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด


เอเฟซัส 2: 8

เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า


จอห์น 3:18

คนที่วางใจในพระบุตรจะไม่ถูกพิพากษา ส่วนคนที่ไม่ได้วางใจก็ถูกพิพากษาอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้วางใจในพระนามพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า


Acts 4:12

ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลย เพราะว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้นั้น ไม่โปรดให้มีท่ามกลางมนุษย์ทั่วใต้ฟ้า”


มากกว่าความหมายของการเป็นในพระคริสต์สามารถพบได้ที่ลิงค์ที่นี่ ฉันขอให้คุณได้รับของขวัญแห่งความรอดฟรีวันนี้ ขอพระเจ้าอวยพรคุณ.

https://www.gotquestions.org/in-Christ.html


February 11, 2019. A spike in the Schumann Resonance peaked at 44 Hz 13 hours ago.


The Schumann Resonance measures the low frequency (ELF) portion of the Earth's electromagnetic field. Schumann resonances are global electromagnetic resonances, generated and excited by lightning discharges in the cavity formed by the Earth's surface and the ionosphere. The planet has a normal steady frequency of 7.83 Hz.


On January 31st, 2017, for the first time in recorded history, the Schumann Resonance spiked to frequencies of 36+ Hz. It was considered an anomaly when in 2014 this frequency rose from its usual 7.83 Hz to somewhere in the 15-25 Hz levels—so a jump from 7.83 Hz to 36+ Hz is a big deal. That’s more than a five-fold increase in resonant frequency levels. On April 24, 2017 it set another record spike of 60 Hz. It has since then been regularly spiking into these ranges and higher.


This is not human consciousness rising on Earth. Human consciousness has nothing to do with this.


Jesus Christ told us what it would be like in the end days. He said people would betray one another and hate one another. And that false prophets would rise and deceive many. And that because iniquity would abound the love of many will grow cold.


Matthew 24:10-12 And then shall many be offended, and shall betray one another, and shall hate one another. And many false prophets shall rise, and shall deceive many. And because iniquity shall abound, the love of many shall wax cold.


There is not going to be an ascension into the 5th dimension of reality. That is New Age propaganda. It is a lie.


These are lightning discharges. They are being caused by an approaching star system emitting electromagnetic waves of cosmic radiation. Harmful waves of energy. They will intensify.


These are the precursory signs of its nearing proximity. The planet will plunge into the darkest time in human history. This system of celestial bodies is bringing the wrath of God with it. He calls them his weapons of indignation, to cleanse the world of its wickedness. It is bringing fire and brimstone. It is called The Apocalypse as written in the Book of Revelation.


The only 'ascension' that will occur is to those who are IN Christ Jesus. It is called the Rapture. It is a supernatural physical transformation and removal of the body of Christ ( those who are IN Christ ) into the air and to the throne of God as written in 1 Thessalonians 4:16-17 and Revelation 12:5 of the Bible.


It is written, "The Lord himself shall descend from heaven with a shout, with the voice of the archangel, and with the trump of God: and the dead IN Christ shall rise first: Then we which are alive and remain shall be caught up together with them in the clouds, to meet the Lord in the air: and so shall we ever be with the Lord."


It is very clear that we all have a sin nature and are all born into sin and are in need of being saved from the consequences of that sin. Jesus Christ paid for the consequences of your sin and salvation is a free gift of God that can be found only in him.


The word of God shows us how to saved and recieve eternal life.


Romans 12:3

For all have sinned and fall short of the glory of God;


Romans 6:23

For the wages of sin is death; but the gift of God is eternal life through Jesus Christ our Lord.


Romans 5:8

But God demonstrates His own love toward us, in that while we were still sinners, Christ died for us.


Romans 10:9-10

If you declare with your mouth, “Jesus is Lord,” and believe in your heart that God raised him from the dead, you will be saved. For it is with your heart that you believe and are justified, and it is with your mouth that you profess your faith and are saved.


Romans 10:13

For “whoever calls on the name of the Lord shall be saved.”


Ephesians 2:8

For by grace are ye saved through faith; and that not of yourselves: it is the gift of God:


John 3:18

He who believes in Him is not condemned; but he who does not believe is condemned already, because he has not believed in the name of the only begotten Son of God.


Acts 4:12

Neither is there salvation in any other: for there is none other name under heaven given among men, whereby we must be saved.


More of what it means to be IN Christ can be found at the link here. I pray you receive the free gift of salvation today. God bless you.

https://www.gotquestions.org/in-Christ.html