ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 14) อังกฤษตั้งหน่วยเฉพาะกิจปราบ"เงินโกง" : รัฐบาลอังกฤษจับมือกับภาคอุตสาหกรรมการเงิน เพื่อกวาดล้างการฉ้อโกง ทุจริตคอร์รัปชัน และเงินสกปรก ด้วยการตั้งหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ ที่จะรวมผู้บริหารระดับสูงของธนาคารต่างๆ เป็นคณะกรรมการ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ว่า แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ ระบุว่า ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของธนาคารแซนแทนเดอร์ ธนาคารลอยด์แอนด์บาร์คเลย์ จะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ ในนาม คณะกรรมการยุทธศาสตร์อาชญากรรมเศรษฐกิจ หรือ อีซีเอสบี (Economic Crime Strategic Board) ซึ่งจะพิจารณาแหล่งเพิ่มเติม ในการดึงบุคคลากรมีฝีมือเข้ามาร่วมงาน เพื่อต่อสู้กับการติดสินบน และการฟอกเงิน

นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษจำเป็นต้องดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อจัดการกลุ่มคนโกงฉ้อฉล ที่สร้างความร่ำรวยด้วยเงินสกปรก และใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย บนหยาดเหงื่อของพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย

นายจาวิดจะเป็นประธานอีซีเอสบี ร่วมกับนายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง

แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังอังกฤษ ระบุว่า ในแต่ละปีอาชญากรรมเศรษฐกิจมีมูลค่าประมาณ 14,400 ล้านปอนด์ (587,658 ล้านบาท)

ก่อนหน้านี้รัฐบาลอังกฤษได้ออกมาตรการ กฎความร่ำรวยที่ไม่สามารถอธิบายได้ (Unexplained Wealth Orders) หรือ "กฎหมายแม็คมาเฟีย" เพื่อต่อสู้กับเงินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการทุจริตคอร์รัปชัน ด้วยการอายัดและยึดโดยเป้าหมายแรกของมาตรการนี้ ถูกดำเนินการโดยเปิดเผยเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้กับภรรยาของนายธนาคารชาวอาเซอร์ไบจานรายหนึ่ง ซึ่งใช้จ่ายเงินมากกว่า 16 ล้านปอนด์ (653 ล้านบาท) ในการจับจ่ายซื้อของที่ห้างแฮร์รอดส์ในกรุงลอนดอน

สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติ (เอ็นซีเอ) อังกฤษ ได้รับรายงานกิจกรรมต้องสงสัย หรือ เอสเออาร์ (Suspicious Activity Reports) มากเป็นสถิติระหว่างปี พ.ศ. 2560 - 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 % จากปีก่อนหน้า

เจ้าหน้าที่เผยว่า รัฐบาลอังกฤษจะเน้นกวาดล้างเงินโกงจากรัสเซีย ไนจีเรีย หลายประเทศอดีตเครือข่ายสหภาพโซเวียต และเอเชีย เป็นพิเศษ นายแฮมมอนด์กล่าวว่า สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำโลกในการต่อต้านเงินผิดกฎหมาย "เรารู้ดีว่ายังมีเงินโกงให้ปราบปรามอีกมากมาย" แฮมมอนด์ กล่าว.

Source: เดลินิวส์ออนไลน์

- Banks onboard for UK economic crime taskforce
https://www.bankingtech.com/2019/01...4uPYGphOp_LoJ6lqHdpJPzMLHZweS2JUittVGw4lL7sjs

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Jan 14) รายงานพิเศษ: "ประกาศ" ที่ไม่มีใครอยากได้ยิน : ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นหลังจากที่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ย้ำว่า สามารถอดทนที่จะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มได้ การพิพาทการค้าของจีนกับสหรัฐฯ ก็ผ่อนคลายลงหลังจากที่การหารือในกรุงปักกิ่งจบลงด้วยดี และมีสัญญาณให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายจริงจังกับการเจรจาในครั้งนี้มาก แต่ในขณะที่เรากำลังเคลิ้ม ๆ กับข่าวดีเหล่านี้ ก็มี “ประกาศ” จากบริษัททั่วโลกออกมา “ถี่ยิบ” ในช่วงนี้ และส่วนใหญ่เป็นประกาศที่ไม่มีใครอยากได้ยิน

เฉพาะในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเพียงวันเดียว บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกกว่าครึ่งโหล ได้ดาหน้ากันออกมาประกาศลดประมาณการกำไร ลดการจ้างงาน หรือยกเลิกแผนการต่าง ๆ ท่ามกลางความไม่แน่นอนและความผันผวนในตลาดและความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทั่วโลก

เสียงเตือนจาก อเมริกัน แอร์ไลน์ กรุ๊ป, จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์, เมซี่ อิงซ์, ฟอร์ด, แบล็กร็อก, แอปเปิล, ซัมซุง และเฟดเอ็กซ์ เป็นการย้ำชัดว่าแนวโน้มไม่สดใสอย่างที่คาดไว้ในก่อนหน้านี้อีกแล้ว

ปีใหม่เพิ่งจะผ่านไปเพียงแค่ 10 กว่าวัน แต่อุตสาหกรรมหลัก ๆ หลาย ๆ ภาคเริ่มประหวั่นพรั่นพรึงต่อผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นอันมาก

ในภาคขนส่ง สายการบินสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับแนวโน้มอันมืดมนเมื่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจคุกคามต่อดีมานด์ อเมริกันแอร์ไลน์ลดประมาณการกำไรและการคาดการณ์ทางการเงินที่สำคัญอื่น ๆ หลังจากธุรกิจช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ไม่เป็นไปตามคาด หลังจากนั้น เดลตาแอร์ไลน์ก็ออกมาเคลื่อนไหวในแบบเดียวกัน และคำเตือนของอเมริกันแอร์ไลน์ได้ฉุดหุ้นสายการบินร่วงลงทั้งยวงในวันพฤหัสบดี

บริษัทขนส่งสินค้าก็มองแนวโน้มปี 2562 ในทางลบเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เฟดเอ็กซ์ ลดแนวโน้มลงเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนทั้งที่เพิ่งเพิ่มแนวโน้มไปเมื่อสามเดือนก่อนหน้านี้เท่านั้น นั่นสะท้อนว่า ความเห็นของบริษัทที่มีต่อเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน โดยผู้บริหารของบริษัทอ้างว่าเป็นเพราะความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ

อุตสาหกรรมรถยนต์ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน คาดว่าน่าจะซบเซาอีกครั้งหลังจากที่ในยุโรปและในสหรัฐฯ ได้บูมต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา โดยที่เป็นข่าวใหญ่สุดคือจากัวร์ และฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศโครงการลดต้นทุนครั้งใหญ่ ฟอร์ดคาดการณ์ว่าอาจจะต้องลดตำแหน่งงานหลายพันตำแหน่งทั่วยุโรป หรืออาจจะถึงขั้นต้องปิดโรงงานหากไม่รีบลดต้นทุน ในขณะที่จากัวร์ประกาศลดพนักงาน 4,500 ตำแหน่ง หรือประมาณ 10% ของกำลังแรงงานทั่วโลก เหตุผลสำคัญที่ทั้งสองบริษัทอ้างในการลดต้นทุนคือ ปัญหา Brexit ดีมานด์รถยนต์ดีเซลลดลง และการชะลอตัวในจีน

ภาคค้าปลีกหรือแบรนด์หรู ๆ อย่าง ทิฟฟานี่ และหลุยส์ วิตตอง ก็ส่งสัญญาณเดือดร้อนทุกทวีป ความท้าทายของแต่ละบริษัทแตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาเหมือนกันคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทิฟฟานี่ แอนด์ โค เปิดเผยว่า ยอดขายน้อยกว่าคาด เนื่องจากนักช้อปชาวจีนลดการใช้จ่ายเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ

ในอเมริกา เมซี่ส์ และโคลห์ส์ คอร์ป ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนที่สุดว่าเทศกาลวันหยุดปีใหม่ในสหรัฐฯ อาจจะไม่ดีอย่างที่หวัง แนวโน้มที่ไม่สดใสและยอดขายที่สร้างความผิดหวัง เกิดจากความกังวลที่ดอกเบี้ยสูงขึ้นและปัญหาการค้ากับจีนอาจกระทบการใช้จ่ายของผู้บริโภค

สถานการณ์ในยุโรปและในอังกฤษก็ชวนเศร้าเช่นเดียวกัน บริษัทค้าปลีกที่นั่น ยังต้องพยายามจัดการกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit อีกเรื่องหนึ่ง

ในภาคการเงินที่ได้รับแรงกดดันจากความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาด “แบล็กร็อก” เป็นบริษัทล่าสุดที่ประกาศลดกำลังแรงงาน 500 คน หรือประมาณ 3% ทั่วโลก ซึ่งเป็นการลดพนักงานครั้งใหญ่สุดของบริษัทนับตั้งแต่ปี 2559 ส่วนบริษัทผู้จัดการกองทุนและผู้บริหารสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ได้ประกาศลดพนักงาน ได้แก่ เอคิวอาร์ แคปิตอล แมเนจเมนต์ และสเตท สตรีท คอร์ป เป็นต้น

ความไม่แน่นอนในตลาดที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายปีที่ผ่านมาและต้นปีนี้ ได้เริ่มมีผลกระทบต่อแผนการเงินของบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่แล้ว บริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ป ในสหรัฐฯ ระงับการขายธุรกิจด้านความปลอดภัยและความปลอดภัยจากอัคคีภัย เพราะความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่จะหันไปทำแผนแยกธุรกิจแทน เช่น ธุรกิจเครื่องยนต์เครื่องบิน ลิฟต์ และธุรกิจควบคุมสภาวะอากาศ

ภาคเทคโนโลยีก็ไม่มีข้อยกเว้น และบริษัทที่สร้างเซอร์ไพรส์ได้ฮือฮามากสุดต้อนรับปีใหม่นี้คือ แอปเปิล บริษัทได้ลดประมาณการยอดขายเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี โดยระบุว่า เป็นเพราะการชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดจีน โดย ทิม คุ้ก ซีอีโอของแอปเปิลเชื่อว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีผลให้ยอดขายไอโฟนลดลง

ความจริงแล้ว ก่อนที่แอปเปิลจะออกมาลดประมาณการ บริษัทซัพพลายเออร์ใหญ่ ๆ ของแอปเปิลได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนก่อนแล้วด้วยการลดประมาณการของตนเองในเดือนธันวาคม แต่การเคลื่อนไหวของแอปเปิลได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกให้ดิ่งลงอย่างรุนแรง

การเคลื่อนไหวข้างต้นนี้น่าจะเป็นเพียงแค่การโหมโรง เพราะตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปจะเริ่มมีการแถลงผลประกอบการไตรมาสสี่ในสหรัฐฯ โดยประเดิมจากกลุ่มธนาคาร เช่น เจพี มอร์แกน เชส และโกลด์แมน แซคส์ จากนั้นก็มี เดลตา และเน็ตฟลิกซ์ เป็นต้น

แม้ว่าโดยรวมแล้วนักวิเคราะห์ยังคงคาดว่าตัวเลขไตรมาสสี่ยังแข็งแกร่ง โดยกำไรในช่วงไตรมาสสี่ของบริษัทสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณ 15% แต่นั่นไมได้การันตีว่านักลงทุนจะแฮปปี้

ในการแถลงผลประกอบการรอบสุดท้ายเมื่อเดือนตุลาคม แม้ว่ากำไรโตขึ้นแต่ก็ไม่สามารถยับยั้งแรงเทขายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายปีได้ แล้วยิ่งช่วงนี้มีแต่ “ประกาศ” ที่ยืนยันว่าเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง สถานการณ์ก็ไม่น่าจะดีกว่าสักเท่าไหร่ ...ต้องตั้งสติและเตรียมรับมือกันไว้ให้ดี ๆ

Source: ข่าวหุ้น

เพิ่มเติม
- Worried about the economy? Watch bank earnings
https://edition.cnn.com/2019/01/13/...nmcRTV6D1zl1r1fniAWIT1uxieW9_IxxBaSxJ2Pq4O1wY

ความคืบหน้า
- ซิตี้กรุ๊ปเผยกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาส 4 แต่รายได้ต่ำกว่าคาด : https://www.ryt9.com/s/iq29/2940322

- ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด กังวลผลประกอบการ,เศรษฐกิจจีนซบ,ชัตดาวน์
: https://www.ryt9.com/s/iq18/2940327

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 14) คุณตลาด กับ ทอยน์บี -หลังจากดัชนีดาวโจนส์อุตสาหกรรมบวกแรงเกือบทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา จากข่าวดีประดังขึ้นมาหลายหลากพร้อมกัน วันศุกร์ที่ผ่านมาก็เริ่มออกอาการล้าให้เห็น หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือค่าเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ธ.ค. ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรส เกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

การถดถอยลงของ CPI ทำให้เกิดการตีความนัยสำคัญของการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยอ้างเหตุผลว่า สามารถยืดหยุ่นและมีความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเฟดสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตามขอบเขตที่สมควร หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง และการที่อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในระดับต่ำและสามารถควบคุมได้ ซึ่งกลบเกลื่อนข้อเท็จจริงที่รู้กันว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้มีขีดจำกัดอย่างมาก หากพิจารณาเหตุปัจจัยบวกและลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะพบว่าปัจจัยลบยังคงมากกว่าบวก เพราะมีทั้งปัญหาระยะสั้นและระยะยาวในระยะสั้น การชัตดาวน์งบประมาณจากความขัดแย้งทางด้านศักดิ์ศรี ซึ่งสร้างความหวาดกลัวและวิกฤต จากการที่ทรัมป์ยืนยันต้องสร้างกำแพงให้จงได้ ไม่ว่าจะต้องปิดหน่วยงานรัฐอีกนานเพียงไร ชี้ว่าพวกเดโมแครตเป็นเหตุให้เกิดอาชญากรรมจากคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย

แต่ฝ่ายเดโมแครตชี้ว่าพร้อมให้งบประมาณเพิ่มเติมเพื่อความมั่นคงตามแนวพรมแดน แต่ไม่ใช่ด้วยการสร้างกำแพง ปล่อยให้คนอเมริกันต้องจ่ายภาษีหลายพันล้านดอลลาร์สร้างกำแพงที่ไม่น่าจะช่วยกันคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีพูดว่าเม็กซิโกต้องเป็นคนจ่าย

ส่วนในระยะกลาง นักลงทุนยังวิตกว่าสงครามการค้าที่ยังไม่จบลงง่าย ไม่เพียงแต่จะทำให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น แต่ยังจะทำให้ตัวเลขยอดส่งออก ยอดขาย และกำไรของบริษัทอเมริกันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจีนจะย่ำแย่ลงตามบริษัทแอปเปิล อิงก์ ที่ประกาศปรับลดคาดการณ์รายได้ โดยระบุถึงยอดขาย iPhone ที่ซบเซาในจีน รวมทั้งคาดการณ์ว่าบริษัท สตาร์บัคส์ จะเป็นบริษัทต่อจากแอปเปิลที่จะปรับลดคาดการณ์รายได้ จากยอดขายที่ตกต่ำในจีน

ล่าสุด ผู้จัดการกองทุนใหญ่หลายรายในวอลล์สตรีท ออกคำเตือนว่า กองภูเขาหนี้มหาศาลในตลาดตราสารหนี้ของบริษัทอเมริกัน 122 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 6 เท่าของจีดีพี กำลังย่างเข้าสู่ภาวะอันตรายจากการชักหน้าไม่ถึงหลังทางการเงิน เพราะคาดหมายว่าตลอดปีนี้ ตัวเลขอัตราเติบโตที่แท้จริง (หักลบด้วยเงินเฟ้อแล้ว) จะอยู่ที่เพียง 0.5% เท่านั้น สถานการณ์ดังกล่าวนอกจากจะรบกวนขาขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ในระยะปีนี้แล้ว ยังมีแนวโน้มนำไปสู่การถดถอยความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจอเมริกันในระดับโลกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอัตราเร่ง

จากเดิมเมื่อหลายปีก่อน สำนักวิจัยของบริษัทบัญชีระดับโลก PWC เคยออกบทวิเคราะห์ที่ระบุว่า หากไม่มีสงครามใหญ่เกิดขึ้น จีนจะกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกภายในปี ค.ศ. 2050 แต่ล่าสุด สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดของอังกฤษ ได้เปิดเผยรายงานว่า ภายในปี 2030 เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะร่วงอยู่ในอันดับสามของโลก รองจากจีนและอินเดีย ....เร็วกว่าที่ PWC คาดเอาไว้ 20 ปี ทีเดียว

การถดถอยของ Pax Americana ที่รวดเร็วเกินคาดนี้ เป็นไปอย่างสอดคล้องกับคำเตือนแห่งศตวรรษของนักประวัติศาสตร์ชื่อดังชาวอังกฤษ อาร์โนลด์ ทอยน์บี ว่าด้วยเรื่องของความท้าทาย และการสนองตอบทางประวัติศาสตร์

ทอยน์บี ศึกษารวบรวมและประมวลข้อมูลอันหลากหลายเพื่อจะค้นหาพลังขับเคลื่อนประวัติศาสตร์ของสังคมมนุษย์ แต่ละอารยธรรมเกิดขึ้นได้อย่างไร และเสื่อมสูญไปได้อย่างไร ทำไมอารยธรรมแต่ละแห่งถึงเกิดขึ้นมาและเบิกบาน แต่บางอารยธรรมกลับล่มสลาย

ทอยน์บี พบว่า ความท้าทาย ได้แก่ปัจจัยต่าง ๆ ที่อยู่รอบด้านที่ก่อให้เกิดอารยธรรมต่าง ๆ ขึ้นมา เช่นภูมิอากาศ ภูมิประเทศ การรุกรานจากภายนอก ความขัดแย้งจากภายใน ฯลฯ ซึ่งล้วนมีลักษณะสองด้านในตัวเองคือเป็นทั้งปัจจัยบวกและลบ

ส่วนการสนองตอบ ได้แก่ โครงสร้างทางด้านจิตสำนึกของชนชั้นนำ และวัฒนธรรมในแต่ละอารยธรรมที่ทำหน้าที่ตอบสนองความท้าทายต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนเวลาและสถานการณ์ต่าง ๆ กัน

หนึ่งในคำตอบที่ทอยน์บีได้สรุปอย่างมีนัยสำคัญคือ ความล้มเหลวของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางสังคมจนไม่สามารถเผชิญความท้าทายได้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อารยธรรมล่มสลาย แต่ความล้มเหลวทั้งหลายนั้น ขมวดปมไปที่การที่ชนชั้นนำของสังคมไม่เรียนรู้และล้มเหลวที่จะตอบสนองอย่างสร้างสรรค์ต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ เพราะติดยึดในความสำเร็จของพวกเขาเองในอดีต

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ กรอบโครงสร้างของสังคมใหม่จะเคลื่อนเข้ามาแทนที่กรอบโครงสร้างสังคมเก่า และนั่นอาจหมายถึงการล่มสลายของอารยธรรมในที่สุดได้

ตัวอย่างที่เด่นชัดก็คือ อารยธรรมโรมัน ที่หยิบยืมอารยธรรมกรีกมาผสมผสานเข้ากับการจัดรูปโครงสร้างกองทัพและระบอบการเมืองภายใน จนกลายเป็นจักรวรรดิขนาดใหญ่ที่มีคนหลากชาติพันธุ์มารวมอยู่ในสังคมเดียวกัน แต่ไม่สามารถจัดการให้ลงตัวได้ดี เพราะชนชั้นปกครองไม่ยอมปรับสภาพความหลากหลายให้พอเหมาะพอดี ท้ายที่สุดก็นำไปสู่การล่มสลายในที่สุด อารยธรรมจีน และอินเดีย เป็นตัวอย่างของอารยธรรมที่สามารถปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างทางสังคมได้ยืดหยุ่นมากกว่า และแม้ว่าบางครั้งจะต้องเผชิญกับการยึดครองจากภายนอกบ้าง แต่ท้ายสุดก็ฟื้นตัวกลับมาโดยไม่ล่มสลาย เพียงแต่ต้องจ่ายด้วยต้นทุนที่แพงมหาศาลเท่านั้น

ทุนนิยมแบบอเมริกันเริ่มเดินมาถึงตรอกตัน และตลาดหุ้นเป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง ของคำทำนายโดยนัยของทอยน์บี เริ่มตั้งแต่ปีนี้ไป

คอลัมน์ คอลัมน์พลวัตปี2019 :

Source: ข่าวหุ้น

- US consumer prices drop for the first time in nine months
https://www.cnbc.com/2019/01/10/con...DuBcCZysyR_gtNED7LxYrd-rYQg3AJZB7jxIN0CG696Mg

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 14) ปี’61 “จีน” เกินดุลการค้าสหรัฐ 3.233 แสนล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ : เอเอฟพีรายงานว่า จีนเกิดดุลการค้าสหรัฐปี 2561 สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ยอดนำเข้าและส่งออกเดือนธันวาคมลดลงเนื่องจากสงครามการค้าที่กินเวลายาวนาน

โดยยอดส่งออกไปยังสหรัฐขยายตัว 11.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นแค่ 0.7 เปอร์เซ็นต์ ขยายตัวเกินดุลการค้าเป็นประวัติการณ์ที่ 3.233 แสนล้านดอลลาร์ สูงขึ้นจากปี2560 ที่อยูที่ 2.758 แสนล้านดอลลาร์

ขณะที่ยอดส่งออกไปยังทั่วโลกของจีนเดือนธ.ค. ลดลง 4.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนยอดนำเข้าลดลง 7.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์ที่ชะลอตัวทั้งในและต่างประเทศ

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน

- US trade deficit with China grows to a record and it’s likely even worse than the data shows:
https://www.cnbc.com/2019/01/14/chi..._q8AKka9ZYw1jl4Tk5W_AgL-hkRtzPY9qIlSBaLzAQz6E

 

วิดีโอช็อก! นายกเทศมนตรีโปแลนด์ถูกคนร้ายบุกแทงบนเวที ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว (ชมคลิป) เผยแพร่: 14 ม.ค. 2562 23:30 ปรับปรุง: 15 ม.ค. 2562 00:31 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รอยเตอร์ - พาเวล อดาโมวิคซ์ นายกเทศมนตรีหัวเสรีของเมืองกดานสค์ ประเทศโปแลนด์ เสียชีวิตแล้วในวันจันทร์ (14 ม.ค.) ทนพิษบาดแผลไม่ไหว หลังถูกชายคนหนึ่งบุกขึ้นไปแทงต่อหน้าต่อตาผู้คน บนเวทีงานการกุศลงานหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

“เราแพ้พ่าย” ลูคาสซ์ ซูมอฟสกี รัฐมนตรีสาธารณสุขโปแลนด์ บอกกับผู้สื่อข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ TVN ขณะที่สำนักข่าวแห่งนี้ PAP รายงานว่า คณะแพทย์ใช้เวลาผ่าตัด อดาโมวิคซ์ นานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ก็ไม่อาจยื้อชีวิตเขาไว้ได้

อดาโมวิคซ์ ถูกเล่นงานตอนที่ถูกเชิญขึ้นไปบนเวทีกิจกรรมการกุศลประจำปีของ Great Orchestra of Christmas ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ระดมทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์มอบแก่โรงพยาบาลต่างๆ



ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์พบเห็นชายคนหนึ่งตะโกน ว่า “อดาโมวิคซ์ตายแล้ว!” ตอนที่เขาพุ่งขึ้นไปบนเวทีและแทง อดาโมวิคซ์ ส่งผลให้นายกเทศมนตรีรายนี้ล้มลงไปนอนกองกับพื้น

ระหว่างถูกเข้าจับกุม ชายคนดังกล่าวตะโกนกล่าวหาว่าพรรคเก่าของนายกเทศมนตรีทำให้เขาต้องติดคุกและบอกว่าเขาถูกทรมานในนั้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่โปแลนด์เผยชื่อคนร้ายเพียงว่า นายสเตฟาน วัย 27 ปี แต่ไม่ได้ระบุชื่อเต็มของเขา

โฆษกสำนักงานอัยการให้สัมภาษณ์หลังทราบข่าวการตายของ อดาโมวิคซ์ ว่า อาจมีการตั้งข้อหามือโจมตีรายนี้ทั้งพยายามฆ่าไปจนถึงข้อหาฆาตกรรม



พาเวล อดาโมวิคซ์ นายกเทศมนตรีหัวเสรีของเมืองกดานสค์ ประเทศโปแลนด์

เหล่านักการเมืองทุกฝ่ายในโปแลนด์ ต่างพร้อมใจกันออกมาประณามเหตุแทง อดาโมวิคซ์ ในนั้นรวมถึงพรรครัฐบาล พรรคกฎหมายและความยุติธรรม (Law and Justice party) เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี มาเตอุช โมราเวียชกี และ รัฐมนตรีมหาดไทย โจอาชิม บรุนด์ซินสกี ขณะที่ อดาโมวิคซ์ เป็นผู้ต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์พรรคกฎหมายและความยุติธรรมตัวยง

อันด์แชย์ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์ มีกำหนดพบปะกับพวกผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ ในวันจันทร์ (14 ม.ค.) เพื่อจัดเดินขบวนต่อต้านความรุนแรงและความเกลียดชัง จากเหตุโจมตีครั้งนี้

อดาโมวิคซ์ ยืนหยัดต่อแนวคิดของเขาเกี่ยวกับการสนับสนุนพวกผู้อพยพให้หาทางลี้ภัยในเมืองทางภาคเหนือของโปแลนด์แห่งนี้ และเขายังสนับสนุนแคมเปญประท้วงปกป้อกหลักนิติรัฐในโปแลนด์ต่อความพยายามของพรรคกฎหมายและความยุติธรรม ที่หวังควบคุมอำนาจในกระบวนการยุติธรรมและองค์การอื่นๆ มากยิ่งขึ้น

https://mgronline.com/around/detail/9620000004791

 

ชาวซิมบับเวปิดถนน-เผายางรถ ประท้วงขึ้นราคาเชื้อเพลิง
เผยแพร่: 14 ม.ค. 2562 22:01 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - ผู้ประท้วงในซิมบับเวพากันปิดถนนและเผายางรถยนต์ บริเวณย่านชานเมืองของกรุงฮาราเร ในวันจันทร์ (14 ม.ค.) หลังจากที่เมื่อสองวันก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี เอมเมอร์สัน เอ็มนันกากวา ได้ประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิง

สภาวะขาดแคลนเงินสดทำให้เศรษฐกิจของซิมบับเวระส่ำระสาย เกิดความวุ่นวายในสังคม บั่นทอนความพยายามที่จะดึงนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุน

การประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิง 150 เปอร์เซ็นต์ของเอ็มนันกากวา สร้างความตกตะลึงให้แก่ซิมบับเว ประเทศที่มีคนว่างงานกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยทางรัฐบาลได้กำหนดราคาใหม่ผ่านทางหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานซิมบับเว

ชาวบ้านในเอปเวิร์ธ ห่างจากเมืองหลวงไปทางใต้ประมาณ 36 กิโลเมตร พากันประท้วงหลังจากที่สหพันธ์แรงงานเรียกร้องให้หยุดงานประท้วงเป็นเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ เพื่อตอบโต้การขึ้นราคาเชื้อเพลิง

"บรรดาถนนสายหลักล้วนถูกปิดกั้นด้วยกองหิน ไม่มีขนส่งสาธารณะให้บริการผู้คน" ฟีบอน มาโชนา ชาวบ้านในเอปเวิร์ธบอกนักข่าวทางโทรศัพท์

นอกจากนี้ ตำรวจยังได้ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มวัยรุ่นที่มาประท้วงบริเวณด้านนอกศาลสูงในบูลาวาโย เมืองใหญ่อันดับสองของซิมบับเว ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น

ตำรวจปราบจลาจลได้นั่งรถบรรทุกออกตรวจตราในย่านกลางเมืองของกรุงฮาราเร ขณะที่บรรดาร้านค้ายังมีการปิดให้บริการ

เอ็มนันกากวา เพิ่งจะเริ่มออกทัวร์ 5 ประเทศในวันจันทร์ โดยจะเริ่มที่รัสเซีย และสิ้นสุดที่งาน "เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม" ในดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

https://mgronline.com/around/detail/9620000004779

 

จีนโวยตะวันตกปั้นข้อหาใส่'หัวเว่ย' สื่อมังกรแนะปักกิ่งตอบโต้โปแลนด์ เผยแพร่: 14 ม.ค. 2562 22:20 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โลโก้ของหัวเว่ย เห็นเด่นชัด ที่อาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทจีนแห่งนี้ ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์
เอเจนซีส์ – เอเจนซีส์ - จีนเรียกร้องในวันจันทร์ (14 ม.ค.) ให้ประเทศตะวันตกยุติ “การเสกสรรปั้นแต่ง” ข้อหาใส่หัวเว่ย ขณะที่สื่อในเครือพรรคคอมมิวนิสต์จีนเรียกร้องให้ปักกิ่งดำเนินมาตรการตอบโต้ หลังจากที่โปแลนด์จับกุมพนักงานระดับบริหารคนหนึ่งของบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมชื่อดังสัญชาติจีนแห่งนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของวอร์ซอระบุว่าอาจจำกัดไม่ให้หน่วยงานภาครัฐใช้ผลิตภัณฑ์หัวเว่ย ในอีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศแดนมังกรยังตอบโต้นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยืนยันอดีตนักการทูตแดนใบเมเปิลที่ถูกจับฐานสงสัยเป็นภัยความมั่นคงนั้น ไม่ได้มีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองแล้ว

หัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังถูกฝ่ายตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ รณรงค์เรียกร้องรัฐบาลชาติต่างๆ ไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยกล่าวหาว่าอาจถูกปักกิ่งใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการสอดแนมทำจารกรรม

ถึงแม้ไม่มีการเสนอหลักฐานใดๆ ในเรื่องนี้ต่อสาธารณชน และหัวเว่ยก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็มีหลายชาติตะวันตกออกมาตรการจำกัดหัวเว่ยในการเข้าถึงตลาดของพวกตน

เมื่อวันศุกร์ (11) โปแลนด์ได้จับกุม หวัง เว่ยจิง ผู้อำนวยการฝ่ายขายของหัวเว่ยประจำประเทศยุโรปตะวันออกแห่งนี้ และชายชาวโปแลนด์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของทางการอีกคนหนึ่ง ในข้อหากระทำจารกรรมให้จีน จากนั้นทางหัวเว่ยได้ประกาศไล่ออกพนักงานผู้นี้ พร้อมแถลงว่าการจับกุมคราวนี้เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางบริษัท

ถึงแม้โฆษกของหน่วยงานด้านข่าวกรองของโปแลนด์ได้ยืนยันในทำนองเดียวกันนี้ แต่ คาโรล โอคอนสกี เจ้าหน้าที่รัฐบาลโปแลนด์ซึ่งรับผิดชอบด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ได้บอกกับรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (13) ว่า หลังการจับกุมคราวนี้ ยังไม่มีการเสนอให้เปลี่ยนแปลงนโยบาย “อย่างกะทันหัน” ใดๆ ต่อหัวเว่ย แต่อาจจะมีการทบทวนกันสำหรับการที่หน่วยงานภาครัฐจะใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจีนรายนี้

ปรากฏว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หวา ชุนอิง ได้ตอบโต้เรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวตามปกติที่ปักกิ่งในวันจันทร์ (14) โดยเธอบอกว่า จีนหวังว่าฝ่ายโปแลนด์จะทำงานเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันและธำรงรักษาความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน

เธอกล่าวว่า มี “บางคน” หาทางใช้ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงในเรื่องภัยคุกคามด้านความมั่นคง เพื่อ “กำราบและจำกัดการพัฒนาในต่างแดนของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีของจีน”

“เราเรียกร้องฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ยุติการเสกสรรปั้นแต่งอย่างไม่มีมูลเช่นนี้ และการจำกัดอย่างไร้เหตุผลต่อหัวเว่ยและบริษัทจีนรายอื่นๆ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรม, ดีงาม, และเที่ยงตรง สำหรับการลงทุนของกันและกัน และความมร่วมอันเป็นปกติระหว่างบริษัทของทั้งสองฝ่าย”

“การใช้เหตุผลด้านความมั่นคงเพื่อหลอกลวง, ขัดขวาง, หรือจำกัดความร่วมมืออันเป็นปกติระหว่างบริษัทต่างๆ ในท้ายที่สุดก็รังแต่จะสร้างความเสียให้แก่ผลประโยชน์ของพวกเขาเอง” เธอกล่าว




นอกจากนั้นในวันจันทร์ บทบรรณาธิการของโกลบัล ไทมส์ แท็บลอยด์ในเครือของหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ปากเสียงอย่างเป็นทางการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เตือนโปแลนด์ว่า จะต้องรับผิดชอบการจับกุมหวัง เว่ยจิง พนักงานของหัวเว่ย

บทบรรณาธิการเสนอแนะว่า ปักกิ่งควรเจรจาขั้นเด็ดขาดและดำเนินการตอบโต้วอร์ซอ เพื่อช่วยให้โลกรับรู้ว่า โปแลนด์เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของอเมริกา พร้อมกับบอกด้วยว่า ถ้าหัวเว่ยได้รับผลกระทบ ก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคมจีน รวมทั้งโลกก็อาจเข้าใจว่า การข่มเหงรังแกบริษัทจีนเป็นสิ่งที่ทำได้

“จีนต้องไม่อ่อนข้อในจุดนี้ ปักกิ่งไม่ได้จะรังแกวอร์ซอ และก็ไม่มีค่าอะไรที่จะทำเช่นนั้น หากแต่ฝ่ายหลักจะต้องจ่ายค่าตอบแทนจากการก้าวร้าวของตน” บทบรรณาธิการนี้กล่าว

ในอีกด้านหนึ่ง สืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ (11) นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา ได้ตำหนิจีนอย่างรุนแรงเรื่องการควบคุมตัวชาวแคนาดา 2 คนภายหลังจากที่เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) และลูกสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ถูกจับกุมในแวนคูเวอร์ตามคำขอของอเมริกาเมื่อเดือนธันวาคม โดยผู้นำออตตาวากล่าวหาปักกิ่งด้วยว่าไม่เคารพหลักการเอกสิทธิ์ทางการทูต

เมื่อวันจันทร์ (14) หวาได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยไม่ได้ระบุชื่อทรูโดโดยตรงว่า ผู้ที่จะนำอนุสัญญากรุงเวียนนามาเอ่ยอ้างควรศึกษาอนุสัญญาฉบับนี้อย่างจริงจังเสียก่อน และสำทับว่า ไม่ว่าจะพิจารณาจากบริบทใด ไมเคิล โควริก ก็ไม่มีเอกสิทธิ์ทางการทูตภายใต้อนุสัญญาดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้เป็นนักการทูตแล้ว และเดินทางเข้าจีนโดยใช้หนังสือเดินทางและวีซ่าธุรกิจ

ทั้งนี้ โควริกคือชาวแคนาดา 1 ใน 2 คนที่ถูกควบคุมตัวในจีนไม่นานหลังจากเมิ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ส่วนอีกคนคือ ไมเคิล สเปเวอร์ เป็นนักธุรกิจ

แม้จีนยืนยันว่า ควบคุมตัวบุคคลทั้งสองเพื่อสอบสวนตามกฎหมายของตน แต่นักการทูตตะวันตกในปักกิ่งชี้ว่า ทั้งสองกรณีเป็นการตอบโต้การจับกุมเมิ่งในแคนาดา และว่า ชาวแคนาดาทั้งสองคนเป็นตัวประกันทางการเมืองที่ปักกิ่งต้องการใช้ต่อรอง

ความสัมพันธ์จีน-แคนาดามีแนวโน้มร้าวลึกกว่าเดิม เมื่อศาลเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เปิดการไต่สวนใหม่ต่อโรเบิร์ต ลอยด์ เชลเลนเบิร์ก ในวันจันทร์

เชลเลนเบิร์กเป็นชาวแคนาดาวัย 36 ปีที่ถูกจับกุมในมณฑลเหลียวหนิงเมื่อปี 2014 ด้วยข้อกล่าวหาลักลอบค้ายาและอาจเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรข้ามชาติ ต่อมาในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขาถูกตัดสินจำคุก 15 ปี และยึดทรัพย์ 22,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการอุทธรณ์ในเดือนธันวาคมหรือภายหลังการจับกุมบุตรสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ยในแคนาดา ศาลสูงในเหลียวหนิงวินิจฉัยว่า โทษจำคุก 15 ปีเบาเกินไป ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า ที่สุดแล้วเชลเลนเบิร์กอาจต้องโทษประหาร

ทั้งนี้ ทางการแคนาดาเผยว่า กำลังติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้สถานกงสุลให้ความช่วยเหลือเชลเลนเบิร์ก ขณะที่ปักกิ่งยืนกรานว่า ไม่ได้ใช้คดีนี้กดดันทางการทูตต่อออตตาวา

https://mgronline.com/around/detail/9620000004788

 

สหรัฐฯผลักดันตั้ง'เซฟโซน'ตามชายแดนซีเรีย หวั่นตุรกียกทัพขยี้พันธมิตรเคิร์ด เผยแพร่: 15 ม.ค. 2562 01:01 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
เอเอฟพี - ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯในวันจันทร์(14ม.ค.) เผยกำลังอยู่ระหว่างเจรจาผลักดันข้อเสนอของวอชิงตันในการจัดตั้ง"เขตปลอดภัย(safe zone)" ในพื้นที่ล่อแหลมต่างๆตามแนวชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย จุดที่ความตึงเครียดระหว่างตุรกีกับกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ

"เราต้องการสร้างความมั่นใจว่าใครก็ตามที่ร่วมสู้กับเราในการโค่นล้มพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส)จะปลอดภัย และพวกก่อการร้ายไม่สามารถโจมตีตุรกีจากซีเรีย" พอมเพโอระบุ "เราต้องการชายแดนที่ปลอดภัยสำหรับทุกฝ่าย" เขาบอกในกรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย จุดหมายปลายทางล่าสุดในโปแกรมเยือนตะวันออกกลางของเขา

"วอชิงตันกำลังพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเขตปลอดภัย(safe zone)" พอมเพโอกล่าว

ความคิดเห็นของเขามีขึ้น หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เขียนบนทวิตเตอร์ ผลักดันใหจัดตั้งเขตปลอดภัยรัศมี 20 ไมล์(30 กิโลเมตร) แต่ไม่ได้ระบุว่าใครจะเป็นคนกำหนด บังคับใช้หรือเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย นอกจากนี้แล้วทรัมป์ก็ไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่าพื้นที่กันชนดังกล่าวจะถูกจัดตั้งขึ้นที่ไหน

เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีเผยเมื่อวันจันทร์(14ม.ค.) ว่าประเทศของเขาไม่คัดค้านเขตปลอดภัยในซีเรีย

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและตุรกีพุ่งสูงขึ้น ต่อชะตากรรมของพันธมิตรชาวเคิร์ดซีเรียของวอชิงตัน ที่ร่วมสู้รบจัดการกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)

อังการา ขู่ซ้ำหลายรอบว่าจะปฏิบัติการข้ามชายแดนระลอกใหม่จัดการกับกลุ่มปกป้องประชาชนซีเรียเคิร์ด (YPG) ซึ่งร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯในสู้บรบกับไอเอส ด้วย ตุกร มอง YPG ในฐานะปีกก่อการร้ายของพวกนอกกฎหมายพรรคแรงงานชาวเคิร์ด (PKK) ซึ่งก่อความไม่สงบปั่นป่วนรัฐตุรกีมาตั้งแต่ปี 1984

โฆษกของเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ประธานาธิบดี ให้สัมภาษณ์ในวันจันทร์(14ม.ค.) ว่าอังการา "จะเดินหน้าต่อสู้กับทั้งสองฝ่าย" อ้างถึงไอเอสและYPG

ความคิดเห็นของเขามีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เขียนบนทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์(13ม.ค.) เตือนตุรกีอาจเผชิญหายนะทางเศรษฐกิจ หากโจมตีพวกเติร์ด หลังสหรัฐฯถอนกำลังออกมาจากซีเรีย พร้อมกันนั้นเขาได้เรียกร้องชาวเคิร์ดอย่ายั่วยุอังการา

https://mgronline.com/around/detail/9620000004804

 

นายกฯอังกฤษร้องสภา'พิจารณาอีกครั้ง'ก่อนลงมติชี้ชะตาข้อตกลงเบร็กซิตในวันอังคาร เผยแพร่: 15 ม.ค. 2562 02:31 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษในวันจันทร์(14ม.ค.) เรียกร้องเหล่าสมาชิกสภา "พินิจพิเคราะห์" ใหม่อีกครั้ง ต่อข้อตกลงถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป(เบร็กซิต) ความพยายามสุดท้ายในการเอาชนะใจรัฐสภา ที่ดูเหมือนจะปฏิเสธข้อตกลงของเธอที่เห็นพ้องกับอียู

ชะตากรรมต่อการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากอียูในวันที่ 29 มีนาคม แขวนอยู่บนเส้นด้าย ก่อนที่รัฐสภามีกำหนดลงมติข้อตกลงของเมย์ในวันอังคาร(15ม.ค.) ท่ามกลางความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ต่างๆนานาๆ ไล่ตั้งแต่แยกตัวแบบสับสนอลหม่านไปจนถึงกลับลำเบร็กซิต

ในวิกฤตทางการเมืองของอังกฤษครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบครึ่งศวรรษ เมย์และพวกผู้นำอียูส่งหนังสือตอบกลับกันไปมา ให้คำรับประกันต่อข้อตกลงถอนตัวของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ แม้ดูเหมือนแทบไม่ปรากฏสัญญาณการเปลี่ยนใจของเหล่าสมาชิกรัฐสภาขบถเลย

เมย์ ใช้โอกาสเยือนโรงงานจีนแห่งหนึ่งในเมืองสโต๊คออนเทรนต์ ทางภาคกลางของอังกฤษ บอกกับเหล่าสมาชิกรัฐสภาว่าตอนนี้แนวโน้มการขัดขวางเบร็กซิตดูเหมือนมีความเป็นไปได้มากกว่าการถอนตัวจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงด้วยซ้ำ

จากนั้นเธอได้กลับสู่รัฐสภา และบอกกับเหล่สมากชิกรัฐสภาว่าข้อตกลงของเธอนั้นคือโอกาส อ้างถึงคำรับประกันจากบรัสเซลส์ และเตือนรัฐสภาว่าการโหวตคัดค้านข้อตกลง เสี่ยงทำให้สหราชอาณาจักรแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

"ดังนั้น ฉันอยากบอกกับสมาชิกรัฐสภาทุกฝ่ายว่า ไม่ว่าคุณจะเคยได้ข้อสรุปอะไรก่อนหน้านี้ ในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า จงพิจารณาทบทวนมันเป็นครั้งที่ 2" เธอกล่าว "มันไม่สมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นการประนีประนอม เราควรเห็นชอบมันเพื่อประชาชนชาวอังกฤษและเดินหน้าสร้างอนาคตที่สดใสแก่ประเทศของเรา ด้วยการสนับสนุนข้อตกลงในวันพรุ่งนี้"

ในขณะที่อียู กลุ่มการค้าใหญ่ที่สุดของโลก พยายามเตรียมพร้อมรับมือกับเส้นทางที่ไม่อาจคาดเดาได้ สเปนเผยว่าอียูอาจยินยอมขยายเส้นตายสำหรับเบร็กซิต แต่มันต้องไม่เกินศึกเลือกตั้งรัฐสภายุโรปซึ่งกำหนดไว้ในเดือนพฤษภาคม

เมย์ ส่งเสียงเตือนพวกสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันอาทิตย์(12ม.ค.) ว่าหากล้มเหลวในการคลอดข้อตกลงเบร็กซิตจะเป็นหายนะสำหรับประชาธิปไตย และเหล่ารัฐมนตรีของเธอว่าการต่อต้านผลประชามติเมื่อปี 2016 จะนำไปสู่การเติบโตของประชากรขวาจัด

ด้วยการถอนตัวโดยปราศจากข้อตกลงคือทางเลือกโดยปริยายหากข้อตกลงของเมย์ไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ดังนั้นพวกสมาชิกรัฐสภาบางส่วนจึงมีแผนดึงความรับผิดชอบการเบร็กซิตมาจากรัฐบาล

อย่างไรก็ตามแม้ เมย์ ดูอ่อนแอลง แต่เธอยังคงมีอำนาจพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤต ดังนั้นจึงไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐสภาจะเข้าควบคุมเบร็กซิตได้หรือไม่

หากข้อตกลงของเมย์ปราชัยและรัฐบาลไม่สามารถผลักดันฉบับแก้ไขผ่านความเห็นชอบภายใน 3 สัปดาห์ ส.ส.ระดับอาวุโสรายหนึ่งบ่งชี้ว่ามันอาจไปจบลงที่แผนเบร็กซิตทางเลือก
https://mgronline.com/around/detail/9620000004807

 

น้ำมันลงแรง$1.5หุ้นสหรัฐฯปิดลบ กังวลเศรษฐกิจจีน
เผยแพร่: 15 ม.ค. 2562 05:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - น้ำมันลงแรงและวอลล์สตรีทปิดลบในวันจันทร์(14ม.ค.) ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังอ่อนแอ ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ดันทองคำปรับขึ้น ด้วยนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์ด้านการตลาดจากไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป แสดงความคิดเห็นว่า "มีคำถามอีกอย่างว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่เพิ่งแถลงออกมา เพียงพอจะที่สยบภาวะถดถอยในเศรษฐกิจหรือไม่"

ความกังวลต่อภาวะชะลอตัวในชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลก กัดเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุน และฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์(14ม.ค.) แกว่งตัวปิดในแดนลบ หลังช่วงต้นอยู่ในแดนบวกจากแรงหนุนของรายงานผลประกอบการบริษัท

ดาวโจนส์ ลดลง 86.11 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,909.84 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 13.65 จุด (0.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,582.61 จุด แนสแดค ลดลง 65.56 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,905.91 จุด

ข้อมูลทางการค้าของจีนย้ำให้เห็นถึงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หลังพบว่ายอดส่งออกในเดือนธันวาคม ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 4.4% ในขณะที่ตัวเลขนำเข้าก็ลดลง 7.6% สะท้อนถึงอุปสงค์อันเฉื่อยช้าทั้งในประเทศและต่างแดน

ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนและดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ช่วยดันราคาทองคำในวันจันทร์(14ม.ค.) ในฐานะสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,291.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

https://mgronline.com/around/detail/9620000004817

 

คัดข่าว

อาจาร์ยมหาวิทยาลัยวัย 14





Yasha Asley อายุ 14 ปีได้รับการว่าจ้างจาก University of Leicester ให้เป็นอาจาร์ยพิเศษในมหาวิทยาลัย
โดยเค้ามีความอัฉริยะด้านคณิตศาสตร์ได้รับฉายาว่า ‘human calculator’- "เครื่องคิดเลขมนุษย์"
Yasha ถูกสัมภาษณ์และเสนองานที่ได้รับค่าจ้างเมื่อเขาอายุเพียง 13 ปี - ชนะผู้สมัครอื่นๆที่เป็นผู้ใหญ่ เจ้าหน้าที่ธุรการต้องสมัครขออนุญาตจากสภาเมืองเลสเตอร์เพื่อจ้างเขา เพราะเขายังเด็ก
ปัจจุบันเค้าเป็นอาจาร์ยมหาวิทยาลัยที่เด็กที่สุดที่ได้รับการว่าจ้าง
http://muslimcouncil.org.hk/14-year...1MyHKkDDueXNG9EJ3OtU_c-xtDyJYUifFXQPmwcgptB_M

 

คัดข่าว


เขตห้ามบินโดรนในสิงคโปร์
.
ประเทศสิงคโปร์ เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ทำให้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับรายละเรื่องอย่างพิเศษ ที่อาจกระทบต่อการบิน
โดนก็เช่นกันที่เห็นเป็นการจำกัดพื้นที่ที่ห้ามบินโดรนในสิงคโปร์สังเกตว่ากินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ

 

คัดข่าว


นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ บช.น. และกรมการขนส่งทางบก เข้มงวดหน่วยงานตรวจจับควันดำ พร้อมออกข้อบังคับจราจร ห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าเขตเมืองช่วงเวลาเร่งด่วน โดยจะไม่มีการจับปรับทันที แต่ขอความร่วมมือและตักเตือนให้ดำเนินการตามระเบียบและข้อบังคับจราจร #JS100

 

เจนจิรา จันทรเสนา

" Elon Musk "
เปิดตัวโรงงาน Tesla ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ต่างชาติรายแรกเจ้าแรกที่ใช้ประโยชน์นโยบายจีนใหม่ให้ตั้งธุรกิจรถยนต์ในจีนได้ 100%

 

เจนจิรา จันทรเสนา

Sputnik Deutschland

ศาลปกครองกลางแห่งเยอรมนี ชี้ขาดว่า แต่ละเมือง สามารถสั่งห้ามรถยนต์ที่ใช้เครื่องดีเซลแบบเก่า รวมทั้งรถเก่าที่ใช้งานมานาน เข้ามาวิ่งในเขตเมือง

คำชี้ขาดนี้ เป็นการปัดตกข้ออ้างที่ว่า นโยบายคมนาคมของแต่ละเมือง เป็นของรัฐบาล ไม่ใช่อำนาจของท้องถิ่น

คำพิพากษานี้ ต่างจากที่นักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมคาดไว้พอสมควร เพราะก่อนหน้านี้ นายกฯเยอรมนี แสดงทีท่าว่า ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งห้ามใช้รถยนต์ดีเซลเก่า โดยอ้างว่าจะกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ฝ่ายค้านบอกว่า จริงๆแล้วเป็นเพราะนายกฯกลัวจะกระทบต่อฐานเสียง

ส่วนนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมต่างแสดงความยินดีต่อคำพิพากษาศาลปกครองกลาง แต่ฝ่ายอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นแน่นอนว่า เซ็งเหลือกำลัง!

ทางด้าน รมว.คมนาคม แสดงความไม่พอใจ โดยอ้างว่าคำพิพากษานี้กระทบต่อเสรีภาพของประชาชน และทำให้รถยนต์เก่าไร้มูลค่า

Credit: de_sputnik
via jenjira1958

 

ครม.ฟันข้าราชการใช้รถส่วนกลางโดยมิชอบ หากพบโทษไล่ออก-ปลดจากตำแหน่งทันที! วันที่ 8 January 2019 - 17:03 น.

วันที่ 8 มกราคม 2562 เวลา 14.30 น. ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าทางคณะรัฐมนตรีได้รับทราบข้อสังเกตของทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.เกี่ยวกับการที่ข้าราชการบางหน่วยงานนำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจำตำแหน่ง โดยสืบเนื่องมาจากทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนมาว่ามีข้าราชการบางหน่วยงานซึ่งไม่ได้ดำรงตำแหน่งที่ทางราชการจัดรถประจำตำแหน่งไว้ให้ ได้นำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจำตำแหน่งและมีการเบิกค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากทางข้าราชการ


ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีการสั่งการแจ้งไปที่ทาง สปน.ให้มีการควบคุมและตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าตรวจสอบพบว่าผู้ใดมีการกระทำอย่างที่กล่าวมาข้างต้นจะถือว่าเป็นการทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง มีโทษไล่ออกหรือปลดจากตำแหน่งทันที โดยข้อสังเกตนี้จะใช้บังคับเฉพาะในส่วนของราชการในระดับกรม กระทรวง ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และในต่างประเทศเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นที่มีกฎหมายบัญญัติไว้

https://www.prachachat.net/politics...PwsyEWNsW4LXqo-livETyxEDXBgJKbayWheJrvNXjDK2U

 

ตุรกีลั่นไม่เคยกลัว!ทรัมป์ขู่ทำลายเศรษฐกิจย่อยยับ
วันที่ 14 January 2019 - 22:10 น.

วันที่ 14 ม.ค. เอเอฟพีรายงานสถานการณ์คุกรุ่นระหว่างสหรัฐอเมริกาและตุรกี ชาติพันธมิตรกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้

หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐขู่จะทำลายเศรษฐกิจของตุรกีให้ย่อยยับหากตุรกีเข้ามากวาดล้างกลุ่มนักรบชาวเคิร์ดในซีเรีย ล่าสุด ทางการตุรกีระบุว่า “ไม่กลัว”


ความตึงเครียดดังกล่าวเริ่มหลังจากทหารอเมริกันที่มีอยู่ประมาณ 2,000 นาย ในซีเรียเริ่มถอนกำลังกลับสหรัฐตามดำริของประธานาธิบดีทรัมป์ สร้างความตื่นตกใจให้ชาติพันธมิตร ทำให้ตุรกีซึ่งเป็นพันธมิตรนาโต้ของสหรัฐระบุจะเปิดปฏิบัติการกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ดที่สหรัฐสนับสนุนอยู่ในสงครามต่อต้านกองกำลังนักรบของรัฐอิสลาม หรือไอเอส

กองกำลังติดอาวุธพิทักษ์ชาวเคิร์ด หรือวายพีจี เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือเอสดีเอฟ ที่สหรัฐให้การสนับสนุนในซีเรีย แต่ตุรกีมองว่าวายพีจีนั้นเป็นกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงกับความพยายามแบ่งแยกดินแดนทางตอนใต้ของตุรกีติดกับพรมแดนซีเรีย

นายเมฟลุต กาวูโซกลู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี กล่าวว่า เคยกล่าวหลายครั้งแล้วว่าตุรกีไม่เคยและจะไม่เกรงกลัวต่อคำขู่ใดๆ การโจมตีทางเศรษฐกิจนั้นจะไม่ก่อให้เกิดผลอะไรต่อตุรกี โดยนายกาวูโซกลูย้ำว่า ทางการตุรกีจะเดินหน้ากวาดล้างกลุ่มชาวเคิร์ดและไอเอสต่อไป





ที่มา ข่าวสดออนไลน์


https://www.prachachat.net/world-news/news-277909

 

ศาลจีนตัดสินประหารชีวิตชายแคนาดา

15 มกราคม 2562

ช่วงที่ผ่านมา จีน ได้ประหารชีวิตพลเมืองต่างชาติหลายคนในคดียาเสพติก รวมถึงพลเมืองชาวอังกฤษ ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์

ศาลเมืองต้าเหลียนของจีน ตัดสินประหารชีวิตนายโรเบิร์ต ลอยด์ สเคลเลนเบิร์ก สัญชาติแคนาดา ในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดเข้าจีน หลังจากตัดสินจำคุกชายผู้นี้นาน 15 ปี ซึ่งคำตัดสินของศาลจีนครั้งนี้ ยิ่งทำให้ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลจีนและแคนาดาเลวร้ายลง หลังจากที่รัฐบาลจีนใช้ มาตการตอบโต้กรณีที่ทางการแคนาดาจับกุมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยี เมื่อเดือนที่แล้ว

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จีนได้จับกุมชาวแคนาดาสองคน คือนายไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูตและที่ปรึกษาของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ไครสิส กรุ๊ป (ไอซีจี) และนายไมเคิล สเปเวอร์ นักธุรกิจชาวแคนาดา โดยให้เหตุผลว่าทั้งสองคนต้องสงสัยว่าคุกคามความมั่นคงของจีน

http://www.bangkokbiznews.com/news/...uf70ZphpJWFz3zNnId7XPRicKy4PCCFEKz45uwooLIYzE

 

โบรกฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้พักฐาน เหตุวิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอีกระลอก

15 มกราคม 2562

บล.กรุงศรี ประเมิน SET Index วันนี้พักฐานในกรอบ 1,575 - 1,590 จุด เหตุขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน หวั่นภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หลังตัวเลขการส่งออกและนำเข้าจีนหดตัวลงต่ำ

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี เปิดเผยว่าแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้คาดว่า SET Index จะพักฐานในกรอบ 1,575 - 1,590 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยภาวะตลาดถูกปัจจัยลบจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หลังจีนรายงานตัวเลขการส่งออกและนำเข้าเดือนธ.ค.หดตัวลงต่ำสุดตั้งแต่ปี 2559 นอกจากนี้ความไม่แน่นอนผลโหวต Brexit ของรัฐสภาอังกฤษในวันนี้จะเป็นตัวถ่วงต่อทิศทางการลงทุนด้วยเช่นกัน (โดยร่างกม. Brexit ต้องได้คะแนนโหวตอย่างน้อย 320 เสียง จากทั้งหมด 639 เสียง และส่วนโพลสำนักข่าว BBC คาดว่าร่างกม. Brexit จะถูกคว่ำในสภา) อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ในช่วงอ่อนตัวได้จากแรงหนุน FED ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าและ Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Buy 3 วันต่อเนื่องราว 3 พันลบ.ซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางดัชนี

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนวันนี้แนะนำ กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ,หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BEM, BGRIM, TPIPP และ TTW,กลุ่มอาหาร (TU , ASIAN) EU ปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย และกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/824163

 

มุจญ์ตาฮิดเผยแผนของบินซัลมาน เปิดเสรีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในซาอุฯ
Published: Tuesday, 15 January 2019 09:30 |


นักเปิดโปงความลับของราชวงศ์ซะอูดที่โด่งดังในการเปิดโปงล่าสุดของตนได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับแผนของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียที่จะเปิดเสรีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฟรีในประเทศนี้.....

สำนักข่าว Mehr รายงานว่า : การเปิดเผยข้อมูลครั้งล่าสุดของมุจญ์ตาฮิด นักเปิดโปงความลับของราชวงศ์ซะอูดที่โด่งดัง ได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับแผนของมุฮัมมัด บินซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย เกี่ยวกับนโยบายที่จะเปิดเสรีให้กับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศนี้

มุจญ์ตะฮิดกล่าวเสริมว่า : "ขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการในนโยบายการเปลี่ยนประเทศเป็นตะวันตกนั้น การอนุญาตการขายและการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะครอบคลุมทั้งหมด โดยจะเริ่มต้นจากโรงแรมหรูทุกแห่ง จากนั้นก็จะเป็นร้านอาหาร รวมถึงการจัดตั้งสถานบันเทิงไนท์คลับและคาสิโน

นักเปิดโปงความลับของราชวงศ์ซะอูดที่โด่งดังผู้นี้ยังได้เขียนอีกว่า : บางคนบอกว่าในบางโรงแรมได้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วอย่างไม่เป็นทางการและมีไนท์คลับต่างๆ ที่เปิดบริการอย่างลับๆ แต่สิ่งที่เป็นเรื่องใหม่ก็คือว่า ประเด็นเหล่านี้กำลังจะถูกดำเนินการให้เป็นที่อนุมัติตามกฎหมายอย่งเปิดเผยและเป็นทางการ

ที่มา : สำนักข่าว Mehr

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม


http://www.iicth.com/news01/muslim-news/461-saudi-2030-nightclubs-casinos