ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    News1


    ทางการกัมพูชายันไม่เคยออกหนังสือเดินทางให้ “ยิ่งลักษณ์” ที่ใช้ยื่นจดทะเบียนบริษัทที่ฮ่องกงไม่รู้ว่าปลอมหรือไม่ แต่ยืนยันรัฐบาลกัมพูชาทำให้ไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย ออกหนังสือเดินทางให้ต่างชาติไม่ได้ เว้นแต่จะตราเป็นพระราชกฤษฎีกาให้กษัตริย์นโรดมสีหมุนีลงพระปรมาภิไธเท่านั้น

    http://news1live.com/detail.aspx?NewsID=9620000003545


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_7422.JPG
    (Jan 11) ปัญหาเงินหายจากบัญชีแบงก์ โอนเงินไม่ถึง ฯลฯ ลูกค้าต้องป้องกันอย่างไร? ข่าวใหญ่อีกแล้วเมื่อเงินลูกค้าหายจากบัญชีธนาคารเกือบ 3 แสนบาท โดยบัญชีที่ว่าไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ไม่ได้เชื่อกับ Mobile Banking เป็นไปได้อย่างไร?


    ปัญหาเงินลูกค้าหายจากบัญชีมีทุกปี


    Brandinside รวบรวมเคสปัญหาเงินหายจากบัญชีลูกค้า พบว่าแต่ละปีจะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เช่น เคสล่าสุด ม.ค. 2562 ธนาคารใช้เวลาตรวจสอบและคืนเงินเกือบ 3 แสนบาทให้ลูกค้าภายใน 4 วัน สาเหตุมาจากพนักงานธนาคารฉ้อโกง (จากการสอบสวยของธนาคารพบผู้เสียหายอีก 14 ราย) ส่วน ต.ค. ปี 2561 ลูกค้า 3 รายเงินหายจากบัญชีรวม 1.8 ล้านบาท สาเหตุเพราะพนักงานธนาคารปลอมแปลงเอกสารถอนเงินลูกค้ามาใช้หนี้พนันบอล


    นอกจากนี้ยังมีเคสเกิดขึ้นทั้ง ก.ย. 2561, เม.ย.2560 และ ส.ค. 2559 ที่เงินลูกค้าหายจากบัญชีธนาคารกว่า 1.3 ล้านบาท สาเหตุเกิดจากมิจฉาชีพไปที่ศูนย์บริการค่ายมือถือใช้สำเนาบัตรประชาชนเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่ และเชื่อมโยงกับ Mobile Banking แล้วโอนเงินไปที่บัญชีของมิจฉาชีพ


    แต่ยังมีอีกหลายเคสที่ไม่เป็นข่าว โดยผู้ทุจริต มิจฉาชีพจะอาศัยช่องโหว่ที่แตกต่างกัน เช่น กรณีเงินหายจากบัญชีธนาคาร โดยพนักงานของธนาคารเป็นผู้ปลอมแปลงเอกสาร จะเลือกบัญชีลูกค้าที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวโดยคนโกงถอนและหวังว่าตนเองจะหาเงินมาคืนได้ทัน ส่วนมิจฉาชีพมีหลากหลายแบบตั้งแต่โทรศัพท์ หลอกให้ลูกค้าโอนเงินโดยตรง (กลโกงทางโทรศัพท์) ฯลฯ


    แบงก์พาณิชย์แจงสาเหตุปัญหาเงินหาย-เงินโอนไม่ถึง-กดเงินไม่ออก


    แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ บอกว่า จากเคสที่ลูกค้าได้รับผลกระทบแบ่งเป็น 2 แบบได้แก่ 1. กรณีการทุจริตหรือ Fraud อาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น พนักงานแบงก์ฉ้อโกง มิจฉาชีพ ฯลฯ แต่ละธนาคาต้องใช้เวลาในการตรวจสอบสาเหตุของปัญหา 2. กรณีปัญหาจากระบบภายในธนาคาร เช่น สั่งโอนเงินแต่เงินไม่เข้าที่บัญชีปลายทาง กดเงินจากตู้ ATM ตัดเงินในบัญชีแต่เงินไม่ออกมา ฝากเงินที่ตู้อัตโนมัติเงินไม่เข้าบัญชี โดยข้อ 2 นี้ธนาคารทั้งหลายพยายามคืนเงินลูกค้าภายใน 24 ชม.


    “กรณีเกิดปัญหาจากทุจริตเมื่อธนาคารก็ตรวจสอบ พบสาเหตุถ้าไม่ใช่ความผิดลูกค้าธนาคารรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ถ้าเป็นพนักงานภายในต้องลงโทษตามกฎหมาย ส่วนถ้าเป็นกรณีมิจฉาชีพโกง มักเกิดจาก Social hacking คือผู้ร้ายจะค่อยๆเก็บข้อมูลลูกค้าที่บอกบน Social และหาทางโกงเงินลูกค้าจนได้


    เมื่อเกิดปัญหาขึ้น วิธีแก้ไขง่ายที่สุดคือการติดต่อ Call Center ทันทีที่รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดๆ หรือตอนนี้Mobile Banking หรือแอพพลิเคชั่นของสถาบันการเงินต่างๆ ก็ทำได้หลายอย่าง เช่น กำหนดวงเงินโอนออกจากบัญชีในแต่ละวัน แต่ละครั้ง อายัดบัตรเดบิต บัตรเครดิต ฯลฯ ที่สำคัญเราเช็คข้อมูลธุรกรรมต่างๆได้”


    นอกจากนี้สิ่งที่จะป้องกันปัญหาจากการทุจริต คือ ลูกค้าต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลทางการเงินบนโลกอินเตอร์เน็ต ให้กับคนที่ไม่รู้จัก เช่น รหัส PIN รหัสลับต่างๆ ข้อมูลบนบัตรเครดิต ฯลฯ เพราะอาจเป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพโกงง่ายขึ้น


    บทบาทของแบงก์ชาติกับการดูแลประชาชน


    จาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บอกว่า ตามปกติสถาบันการเงินจะมีกระบวนการภายในเพื่อดำเนินการสอบสวนเรื่องทุจริต และมีบทลงโทษอยู่แล้ว


    ในส่วนของ ธปท. จะให้ความสำคัญต่อผลการสอบสวนและสาเหตุที่ทำให้เกิดการทุจริต และการดำเนินการแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก รวมถึงเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้ความสำคัญต่อการดูแลลูกค้าของสถาบันการเงิน อนึ่ง หาก ธปท. ตรวจสอบพบการทุจริตจะมีการออกคำสั่งให้สถาบันการเงินดำเนินการต่อไป


    ข้อมูลจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (www.1213.or.th) สรุปสิ่งที่ต้องทำหากตกเป็นเหยื่อ 3 ข้อ ได้แก่


    1. เมื่อพบธุรกรรมผิดปกติ ไม่ว่าจะถอนเงิน โอนเงิน ยอดใช้จ่ายที่ไม่ได้จ่ายเอง ฯลฯ รีบติดต่อผู้ให้บริการ (แบงก์ บริษัทเครดิต ฯลฯ) เพื่ออายัดบัตรทันที บัญชีธนาคาร เปลี่ยนรหัสผ่าน E-mail หรือแอพฯที่มีปัญหา


    2. 3. แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงบันทึกประจำวัน ณ ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการระงับการถอนเงินออกจากบัญชีที่โอนไป


    ทำใจ…เพราะเงินที่ถูกมิจฉาชีพขโมยไป โอกาสจะได้คืนนั้นน้อยมาก เพราะเมื่อมิจฉาชีพได้เงินไปจะรีบถอนออกทันที หรือกรณีที่มิจฉาชีพได้ข้อมูลบัตรเพราะความประมาทของผู้ถือบัตร ทั้งนี้ กรณีที่เป็นการ skimming ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารจริง ธนาคารจะชดใช้เงินให้แก่ลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย


    ส่วนคำแนะนำของ Brandinside เรื่องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและป้องกันคือ เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น


    1. ตรวจสอบบัญชีของเราก่อน เช่น เปิดโมบายแบงก์กิ้งเช็คยอดเงินที่หายไป หรือยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตว่าถูกใช้ไปเท่าไร เดี๋ยวนี้โมบายแบงก์กิ้งหลายแบงก์สามารถกำหนดวงเงิน หรืออายัดบัตรได้แล้ว


    2. โทรหา Call Center ธนาคารแจ้งเรื่องให้รีบตรวจสอบไว้ และไปสำนักงานตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน


    3. ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ อย่าง โอนเงินแล้วไม่เข้าบัญชีผู้รับ ฝากเงินที่ตู้แต่เงินไม่เข้าบัญชี หรือ กดเงินที่ ATM แล้วเงินไม่ออกมา ถ้าติดต่อคอลเซ็นเตอร์ธนาคารจะพยายามจัดการคืนเงินภายใน 24 ชม.


    ถ้าไปที่แบงก์แล้วเรื่องยังไม่เดิน โทรเข้า 1213 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)


    ส่วนการป้องกันมี 4 วิธี ได้แก่


    1. บางธนาคารมีบริการแจ้งเตือนฟรี เช่น SCB ผ่านไลน์ หรือ tmb ที่ให้ลูกค้ามีเงินเกินล้าน ก็ควรเปิดใช้งาน


    2. ตั้งค่าให้การธุรกรรมการเงินทั้งหมด ไม่ว่าจะ ฝาก-ถอน-โอน-จ่าย ถ้ามีความเคลื่อนไหวในบัญชีธนาคาร E-wallet บัตรเครดิต ต้องเตือนมาที่เราทั้งหมด เพื่อที่เกิดเรื่องฉุกเฉินเราจะรู้ตัวเร็วที่สุด

    ใครที่ไม่อยากใช้โมบายแบงก์กิ้งก็ติดต่อใช้บริการแจ้งเตือนจากธนาคารได้ แต่ถ้าแบงก์นั้นไม่มี ก็ต้องหมั่นอัพ Book Bank บ่อยๆ

    .

    3. อย่าเปิดเผยข้อมูลการเงิน ข้อมูลส่วนตัวบนโลก Social ไม่ว่าจะรหัส PIN OTP ข้อมูลบนเครดิตการ์ดไม่ควรให้ใครง่ายๆ

    ที่สำคัญเวลาเข้าเว็บไซด์ต่างๆ อาจถูก Phishing จะกรอกข้อมูลการเงิน ข้อมูลส่วนตัวอะไรต้องระวัง เช่น กรณีเจอข้อความเป็น Link ไปหน้าล็อกอินธนาคารออนไลน์ให้สงสัยไว้ก่อน เราควรจะพิมพ์เอง กรณีเจอคนบอกโทรมาขอข้อมูลธนาคารขอข้อมูล ถ้าไม่แน่ใจให้ตัดสายแล้วโทรกลับไปธนาคารเอง


    4. ตั้งค่าธุรกรรมการเงินเท่าที่ใช้ เช่น Mobile Banking สามารถกำหนดวงเงินที่โอนออกจากบัญชีได้ App ของบัตรเครดิตทุกวันนี้ก็ทำอะไรมากมาย


    สรุป

    เมื่อเกิดปัญหาเรื่องเงินขึ้น ลูกค้าต้องติดต่อธนาคารเพื่อป้องกันการรั่วไหลเพิ่มเติม หลังจากนั้นต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง หากแบงก์ช้าต้องพึ่งพา 1213 ของแบงก์ชาติ แต่เท่าที่เห็นปัญหาไหนเป็นข่าว เป็นที่สนใจกระบวนการของแบงก์จะเร็วขึ้นทันที เป็นลูกค้าวันนี้นอกจากหวังกับผู้กำกับอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย คงต้องพึ่งสื่อและ Social ด้วย


    โดย Chutinun Sanguanprasit (Liu)


    Source: Brandinside.asia

    https://brandinside.asia/banking-problem-from-hacking-fraud-how-long-to-fix/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_7423.JPG
    (Jan 11) เงินกู้ เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ เผือกร้อนทั้งวงการ : สถานการณ์ผิดนัดชำระหนี้ของ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จนกลายเป็นหนี้ที่ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ดูท่าไม่จบลงง่ายๆ เกิดความคาราคาซังทั้งฝั่งเจ้าหนี้และลูกหนี้ หลังจากที่แผนฟื้นฟูกิจการของ เอิร์ธ ไม่ได้รับอนุมัติจากศาลล้มละลายกลาง



    ความเคลื่อนไหวทางฝั่งเจ้าหนี้ ซึ่งมีจำนวนหลายราย ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยหารือกันว่าจะมีการรวมตัวจัดทำแผนใหม่หรือไม่ รวมทั้งกลุ่มเจ้าหนี้ผู้ถือตั๋วบี/อี รวมถึงผู้ถือหุ้นรายย่อยพยายามกดดันธนาคารกรุงไทย ฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่เร่งเข้ามาแก้ไขปัญหา ปล่อยเงินกู้เสริมสภาพคล่องให้ "เอิร์ธ" เพื่อดำเนินธุรกิจต่อได้



    ปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เมื่อศาลฟื้นฟูไม่รับแผนก็เท่ากับว่าสิ้นสุด เจ้าหนี้แต่ละรายต้องไปคุยกับลูกค้าเพื่อเจรจาหา ข้อสรุป ซึ่งกระบวนการใช้สิทธิตามกฎหมายมีขั้นตอนตั้งแต่ส่งจดหมายไปทวงหนี้ หากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็มีการ พูดคุยเจรจา หากได้ข้อตกลงร่วมกันที่ดีทั้งสองฝ่ายก็จบ แต่หากไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ก็เข้ากระบวนการ ฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งธนาคารกสิกรไทยบริหารจัดการหนี้ในลักษณะเดียวกัน



    "ขณะนี้ไม่มีแผนแล้ว ก็ตัวใคร ตัวมันแล้วตอนนี้ ส่วนจะกลับมาคุยกันอีกครั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าจะมายังไง ครั้งที่แล้วคนทำแผนมา ศาลไม่รับ ก็ล้ม ภาษาเราก็แพแตก ก็ถอยมาตั้งหลักว่าจะเอายังไงกันดี" ปรีดี กล่าว



    อย่างไรก็ตาม ธนาคารกสิกรไทยพร้อมเปิดรับโอกาสความเป็นไปได้ทุกทาง อาจจะมีการพูดคุยกับเจ้าหนี้รายอื่นเพื่อทำแผนใหม่ก็เป็นไปได้ ซึ่งหากมีกรณีที่เจ้าหนี้สามารถกลับมารวมตัวเพื่อแก้ปัญหาด้วยกัน และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ธนาคารก็พร้อมเข้าร่วม แต่ถ้าไม่มีข้อเสนอในแนวทางดังกล่าว ก็ต้องต่างคนต่างทำหน้าที่ตามกระบวนการ



    ส่วนความเห็นเจ้าหนี้บางรายที่ ไม่สอดคล้องกันนั้น เจ้าหนี้แต่ละคนมีมุมหรือลักษณะการให้วงเงินสินเชื่อแตกต่างกัน การมีมุมมองไม่เหมือนกันจึงเป็นเรื่องปกติ เพราะแต่ละฝ่ายก็ต้องดูแลความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง



    ก่อนหน้านี้ ปริญญา พัฒนภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร กรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเดินหน้า แผนฟื้นฟู บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ อย่างต่อเนื่อง โดยแผนใหม่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เน้นการทำงานร่วมกันเป็นหลักเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ส่วนจะเสร็จเมื่อใดนั้นไม่สามารถระบุระยะเวลาได้แน่ชัด โดยจุดประสงค์หลักของธนาคารกรุงไทยยังคงต้องการให้ลูกหนี้สามารถเดินหน้ากิจการต่อไปได้



    ขณะที่ฝั่งลูกหนี้เองก็ได้มีการเข้ามาพูดคุยกับทางธนาคารบ้างแล้ว โดยฝั่งลูกหนี้ยังมุ่งมั่นต้องการเดินหน้าธุรกิจและต้องการคืนเงินให้กับทาง เจ้าหนี้ ทว่าหลังจากแผนฟื้นฟูเดิมที่เสนอไปนั้นไม่ได้รับการอนุมัติ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ว่าจะต้องเปลี่ยนผู้บริหารแผนฯ รายใหม่ได้ แต่ประเด็นดังกล่าวขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหนี้รายอื่นประกอบด้วย



    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อมูลของแผนเดิมนั้น มีลูกหนี้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ 2,433 ราย คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 1.45 แสนล้านบาทโดยเจ้าหนี้รายใหญ่ของเอิร์ธ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย 1.2 หมื่นล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย 3,800 ล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1,300 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) 350 ล้านบาท



    ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนในการปล่อยสินเชื่อแก่ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ซึ่งกล่าวโทษร้ายแรงแก่ "กิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ" อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จน เจ้าตัวตั้งโต๊ะขอความเป็นธรรม และได้ร้องขอความเป็นธรรมจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น



    ธปท.กระทุ้งกรุงไทยส่งข้อมูล



    จันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในสถาบันการเงิน เป็นเรื่องที่ ธปท.ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงได้กำหนดมาตรฐานคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารสถาบันการเงินไว้ในระดับที่สูง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งก็เป็นแนวที่ธนาคารกลางและผู้กำกับดูแลทั่วโลกใช้ในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน



    สำหรับกรณีข่าวเกี่ยวกับอดีตผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย เป็นเรื่องที่กระทบต่อคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของ ผู้ทำหน้าที่บริหารสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตผู้บริหารธนาคาร กรุงไทยได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และ ธปท. เห็นว่ายังมีข้อมูลที่ต้องให้ธนาคารกรุงไทยชี้แจงเพิ่มเติมในบางประเด็น ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรอข้อมูลดังกล่าวเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป



    ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผยงปฏิเสธที่จะให้ความเห็น


    โดย ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์

    Source: Posttoday
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_7424.JPG
    (Jan 11) ทั่วโลกนิยมใช้เงินสดเพิ่มขึ้น : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวฐิติมา ชูเชิด ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกบทความเรื่อง "เมื่อคนเริ่มไม่ใช้เงินสด นโยบายการเงินจะได้รับผลกระทบอย่างไร?" โดยมีเนื้อหาบางส่วนระบุว่า ความก้าวหน้าของนวัตกรรมทางการเงินกับการวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเทคโนโลยีของรัฐ ทำให้พฤติกรรมการใช้เงินของคนเกี่ยวข้องกับดิจิทัลมากขึ้น ทำให้เงินสดเริ่มมีบทบาทน้อยลง แต่ก็พบว่าแม้ในหลายประเทศ คนนิยมใช้การชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) มากขึ้น แต่ล่าสุด พบว่าความต้องการใช้เงินสดยังไม่ได้ลดลง โดยเฉพาะช่วงที่คนไม่มั่นใจในระบบการเงินหรือช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำ



    โดยธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) รายงานว่ามูลค่าการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) ต่อมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ใน 24 ประเทศ ที่เป็นผู้นำในการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น เกือบเท่าตัวจากเฉลี่ย 13% ในปี 2543 เป็น 25% ในปี 2560 แต่ขณะเดียวกันยังพบว่าสัดส่วนการใช้เงินสดต่อมูลค่าของจีดีพีสูงขึ้นเช่นกัน จาก 6.8% ในปี 2543 เป็น 9.4% ในปี 2560 ยกเว้นในสวีเดน อินเดีย และจีน ที่ใช้เงินสดน้อยลงมาก



    ที่น่าสนใจคือ คนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ใช้เงินสดเพิ่มขึ้นมาก หลังเกิดวิกฤติการเงินโลกปี 2551 หรือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งแตกต่างจากคนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่สัดส่วนการใช้เงินสดต่อจีดีพีคงที่ 7-8% ของจีดีพี ดังนั้น จึงพบว่าความไม่แน่นอนของระบบการเงินเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ถือเงินสดไว้เผื่อฉุกเฉินมากขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก จากการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลาง เป็นอีกสาเหตุที่มีผลเช่นกัน เพราะทำให้ต้นทุนการถือเงินสดถูกลง



    ขณะที่ประเทศไทย ในระหว่างปี 2543-2560 พบว่า คนไทยใช้การชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นเช่นกัน แต่ก็ยังต้องการใช้เงินสดเพิ่มขึ้นทุกปี โดยสัดส่วนการใช้เงินสดต่อจีดีพีอยู่ที่ 9% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ต่างจากก่อนหน้านั้น ที่สัดส่วนนี้ การใช้เงินสดมีทิศทางสูงขึ้น และปริมาณเงินสดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย จึงยังสูงขึ้นเรื่อยๆ แค่เติบโตช้าลงตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของไทย ที่ไม่สูงเหมือนในอดีต และอาจมีผลของการใช้การชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์บ้าง.


    Source: ไทยรัฐ


    อ่านบทความจาก ธปท.

    https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/DocLib_/Article_04Dec2018.pdf


    ภาพจาก Athens Insider
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_7425.JPG

    (Jan 11) เยอรมนีนำตัว 4 ผู้ต้องหาขโมยเหรียญทองคำหนัก 100 กิโลฯขึ้นศาล : ทางการเยอรมนีนำตัวผู้ต้องหา 4 คนขึ้นศาลเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ในข้อหาขโมยเหรียญทองคำ “บิ๊ก เมเปิล ลีฟ” หนัก 100 กิโลกรัม ออกไปจากพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในเยอรมนี เมื่อเดือนมีนาคม 2560


    เหรียญทองดังกล่าวเคยได้รับการรับรองว่าเป็นเหรียญทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลกโดยกินเนสบุ๊ก ได้ถูกนำไปหลอมละลายนับตั้งแต่กลุ่มโจรได้จารกรรมเหรียญชิ้นนี้ออกไปจากพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน โดยใช้อุปกรณ์ที่มีเพียงบันไดและรถเข็น


    อัยการระบุว่าผู้ต้องหา 3 รายได้บุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ผ่านกระจกที่อยู่ด้านบน จากนั้นได้ใช้บันได รถเข็นและเชือกนำเหรียญทองออกไปจากตู้ที่ติดตั้งกระจกนิรภัย โดยผู้ต้องหารายที่ 4 เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ให้การช่วยเหลือกลุ่มโจร


    เหรียญทองคำ “บิ๊ก เมเปิล ลีฟ” จัดทำโดยโรงงานกษาปณ์แห่งชาติของแคนาดาในปี 2550 ได้รับการบันทึกสถิติว่าเป็นเหรียญทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหลังจากสร้างเสร็จ โดยมีความสูงมากกว่าครึ่งเมตรและหนา 1.2 นิ้ว ทำขึ้นจากทองคำบริสุทธิ์ มีการจัดสร้างขึ้นเพียง 6 เหรียญ ขณะที่เหรียญซึ่งนำออกจัดแสดงถูกยืมมาจากเจ้าของซึ่งไม่เปิดเผยนาม มูลค่าที่ปรากฏบนหน้าเหรียญดังกล่าวคือ 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เชื่อว่ามูลค่าตามท้องตลาดสูงกว่านั้นถึง 4 เท่า


    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    https://www.dw.com/en/four-on-trial-for-theft-of-big-maple-leaf-coin-from-berlin-museum/a-47023672
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Jan 11) ห้างค้าปลีกในสหราชอาณาจักรเผชิญกับสถานการณ์การค้าในช่วงคริสต์มาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 : ห้างค้าปลีกในสหราชอาณาจักรเผชิญกับสถานการณ์การค้าในช่วงคริสต์มาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกที่ผ่านมา แม้จะมีการจัดรายการลดราคาอย่างหนักเป็นพิเศษแต่ยังไม่สามารถดึงดูดให้ลูกค้าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากผู้โภคมีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น


    ข้อมูลยอดค้าปลีกซึ่งรวบรวมโดยบริษัท KPMG และ British Retail Consortium (BRC) ประเมินว่ายอดค้าปลีกประจำเดือน ธ.ค. ปี 2018 อยู่ในระดับคงที่ ซึ่งแย่กว่าข้อมูลในเดือนเดียวกันของปี 2017 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.4 และถือเป็นตัวเลขยอดขายที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ค้าปลีกในรายงานดังกล่าว แต่คาดว่าไม่มีการรวมยอดขายผ่านช่องทาง online อาทิ eBay และ Amazon


    นาง Helen Dickinson (BRC Chief Executive) กล่าวว่า ผู้บริโภคที่มีข้อจำกัดทางการเงินเลือกจะไม่ใช้จ่ายมากในช่วงคริสต์มาสส่งผลให้การขยายตัวของยอดค้าปลีกไม่เร่งตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 28 เดือน ด้านนาย Paul Martin (Head of UK Retail ของ KPMG) ให้ความเห็นว่า ความพยายามในการกระตุ้นยอดขายผ่านการลดราคานั้นไม่เพียงพอที่จะดึงดูดให้ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นได้


    ห้างค้าปลีก อาทิ John Lewis, Tesco, Marks and Spencer (M&S), Debenhams และ Halfords ได้ รายงานข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันและสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ทางการค้าที่มีความยากลำบากมากขึ้น โดย นาย Charlie Mayfield ประธานห้าง John Lewis ระบุว่า อุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอลงและอุปทานส่วนเกินเป็น 2 ปัจจัยหลักสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีก และบริษัทอาจจำเป็นต้องปรับลดโบนัสของพนักงานลง เนื่องจากผลกำไรต่ำกว่าปีก่อนเป็นอย่างมาก ด้านห้าง M&S รายงานยอดขายต่อร้านปรับลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.2 ขณะที่ตัวแทนจากห้าง Tesco ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ในสหราชอาณาจักรได้กล่าวเตือนถึงสภาพแวดล้อมทางการค้าที่มีความท้าทายมากขึ้น


    Barclaycard ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการชำระเงินเปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันที่ 1 -22 ธ.ค. 2018 ขยายตัวร้อยละ 1.8 YoY ซึ่งต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า โดยผลสำรวจจากผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 2,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่า ความซบเซาในตลาดค้าปลีกจะคงอยู่ต่อไป เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่คาดว่าราคาสินค้าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกในช่วง 3 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะราคาพลังงาน ค่าสินค้าอุปโภคบริโภค และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ


    Source: BoTSS


    https://www.ft.com/content/c6d5cf04-141d-11e9-a581-4ff78404524e
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_7426.JPG
    (Jan 11)ปอนด์พุ่งเทียบดอลลาร์,ยูโร หลังมีข่าวอาจมีการเลื่อนกำหนดวัน Brexit : ปอนด์พุ่งขึ้นเทียบดอลลาร์และยูโร หลังมีข่าวว่า อาจมีการเลื่อนกำหนดวันที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จากเดิมที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 29 มี.ค.62


    ณ เวลา 18.52 น.ตามเวลาไทย ปอนด์แข็งค่า 0.64% สู่ระดับ 1.2829 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้น 0.35% สู่ระดับ 0.8985 เทียบยูโร


    ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์อีฟนิ่ง สแตนดาร์ดของอังกฤษรายงานว่า รัฐมนตรีหลายรายในคณะรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวว่า มีแนวโน้มที่อาจมีการเลื่อนกำหนดวัน Brexit จากเดิมที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 29 มี.ค.62 เนื่องจากยังคงมีร่างกฎหมายจำนวนมากที่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU)


    รัฐมนตรีรายหนึ่งกล่าวว่า ขณะนี้ตารางการทำงานของสมาชิกรัฐสภาถือว่าตึงมากๆ และถ้าหากสภาคว่ำร่างกฎหมาย Brexit ในวันอังคารหน้า ก็จะทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะมีการผ่านร่างกฎหมายทั้งหมดภายในวันที่ 29 มี.ค.


    ขณะนี้ มีร่างกฎหมายอย่างน้อย 6 ฉบับที่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา ซึ่งได้แก่ ร่างกฎหมายการค้า, การเกษตร, การประมง, การเงิน, การตรวจคนเข้าเมือง และการประกันสุขภาพ


    แหล่งข่าวระบุว่า แม้แต่การให้สมาชิกรัฐสภาเข้าทำงานในวันเสาร์-อาทิตย์ และให้ระงับการใช้วันหยุดช่วงปิดสมัยประชุมครึ่งวาระในเดือนหน้า สิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้สมาชิกรัฐสภามีเวลาเพียงพอในการผ่านกฎหมายทั้งหมดได้ทันวันที่ 29 มี.ค.


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ\


    เพิ่มเติม

    - Sterling pushes higher on report that Brexit date could be delayed: https://www.cnbc.com/2019/01/11/ste...report-that-brexit-date-could-be-delayed.html


    - นายกฯอังกฤษออกโรงขวางแนวคิดเลื่อนกำหนดวัน Brexit

    : https://www.ryt9.com/s/iq37/2939495


    - ผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลก ปรับทัพรับมือเบร็กซิต: https://www.voathai.com/a/carmaker-rolls-royce-urges-uk-s-may-to-avoid-a-hard-brexit/4738354.html


    - “อาเบะ” เยือนถิ่นผู้ดี บอกโลกหวัง “อังกฤษ” เลี่ยงเบร็กซิทแบบ “โน-ดีล”: https://www.matichon.co.th/foreign/news_1313281


    - “ฮอนด้า” ประกาศหยุดการผลิต 6 วัน เดือนเมษายน ที่โรงงานในสหราชอาณาจักร: https://www.prachachat.net/world-news/news-276993


    - นักวิเคราะห์เตือนปอนด์ผันผวนหนักสัปดาห์หน้า ขณะลุ้นสภาอังกฤษโหวต Brexit

    : https://www.ryt9.com/s/iq21/2939498
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_7427.JPG
    (Jan 11) ข้อมูลแรงงานญี่ปุ่นผิด15ปี : ญี่ปุ่นอาจจ่ายผลประโยชน์ ทดแทนกรณีว่างงานต่ำกว่าความเป็นจริง หลังพบว่า รัฐบาลเก็บข้อมูลตลาดแรงงาน คลาดเคลื่อนนานถึง 15 ปี



    ข้าราชการกระทรวงแรงงานญี่ปุ่นรายหนึ่ง เผยวานนี้ (10 ม.ค.) ว่า กระทรวงจะต้องเก็บข้อมูล ทุกบริษัทในกรุงโตเกียวที่มีลูกจ้างไม่น้อยกว่า 500 คน แต่เอาเข้าจริงปรากฏว่า กระทรวง เก็บข้อมูลได้เพียง 1 ใน 3 จาก 1,400 บริษัท



    นายทาคุมิ เนโมโตะ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงานสั่งสอบสวนโดยละเอียดแล้ว แต่ยอมรับว่าเพิ่งได้รับรายงานปัญหาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา เท่ากับว่ากระทรวงเผยแพร่ข้อมูล ที่มีปัญหาในการจัดเก็บจึงขาดความน่าเชื่อถือ



    ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคเผยว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ขณะที่ข้าราชการ ในกระทรวงอีกรายหนึ่งผู้ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้การจ่ายผลประโยชน์ ทดแทนกรณีว่างงานและการประกันภัย บาดเจ็บจากการทำงานต่ำกว่าความเป็นจริง



    สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างแหล่งข่าว ในรัฐบาล ระบุ อาจต้องมีการปรับงบประมาณ กันใหม่หากต้องจ่ายผลประโยชน์ทดแทน ย้อนหลัง



    ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะต้องสำรวจ ข้อมูลตลาดแรงงานทุกเดือน เพื่อเป็นตัว ชี้วัดสำคัญถึงสภาพการจ้างงานในประเทศ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่น ต้องจับตาข้อมูลนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับ สัญญาณการตัดสินใจออกนโยบายเศรษฐกิจ



    ส.ส.พรรครัฐบาลรายหนึ่งเผยว่า นายเนโมโตะจะแถลงรายละเอียดเรื่องนี้ ในวันนี้ (11 ม.ค.) นายโยชิฮิเดะ ซุงะ เลขาธิการ คณะรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องรอให้กระทรวง แรงงานสอบสวนเสร็จสิ้นเสียก่อน รัฐบาล จึงจะตัดสินใจว่าต้องปรับงบประมาณ ปี 2562 หรือไม่


    Source: กรุงเทพธุรกิจ

    https://japantoday.com/category/politics/japan-forced-to-amend-budget-over-dodgy-data-scandal
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_7428.JPG
    (Jan 11) รถยนต์ 2019 ขาลง ตลาดจีนแผ่ว-ภาษีพ่นพิษ : สำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นอาจกล่าวได้ว่าพายุลูกใหญ่ได้เริ่ม ตั้งเค้าขึ้นมานับตั้งแต่ปีที่แล้ว และกำลังจะพัดถาโถมโหมกระหน่ำจริงใน ปีนี้ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงนานัปการ ที่ผุดขึ้นมามากขึ้นทุกที



    หลังผ่านช่วงเวลาอันรุ่งเรืองที่อุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2011 ปีนี้กำลังเป็นปีที่บรรดาค่ายรถจะเผชิญความยากลำบากมากยิ่งขึ้น ทั้งจากตลาดจีนร่วงหนักและความเสี่ยงเจอภาษีเพิ่ม ท่ามกลางแรงกดดันที่ต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมรับเทรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) และเส้นตายเลิกใช้รถดีเซลในยุโรปที่จะมีผลบังคับในปี 2020



    จากทิศทางดังกล่าว หลายฝ่าย จึงคาดว่าภาพรวมตลาดรถยนต์จะอ่อนแอลง ซึ่ง มอร์แกน สแตนเลย์ คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะลดลง 0.3% ไปอยู่ที่ 82.1 ล้านคัน ในปี 2019



    "ตลาดจีนอ่อนแรง" ถือเป็นความน่าวิตกอันยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์โลก เพราะจีนเป็นตลาดรถขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นแหล่งรายได้มหาศาลของค่ายรถจำนวนมาก โดยเมื่อปี 2018 ยอดขายรถในจีนร่วงหนักถึง 6% ไปอยู่ที่ 22.7 ล้านคัน ลดลงครั้งแรกรอบ 20 ปี ขณะที่ก่อนหน้านี้ ยอดขายรถเก๋งซีดาน รถยนต์อเนกประสงค์ และรถเอสยูวี ร่วงหนักถึง 19% ในเดือน ธ.ค. ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ตามข้อมูลของสมาคมยานยนต์ในจีน



    ส่วนในปีนี้ แนวโน้มตลาดรถยนต์จีนคาดว่าจะซบเซาลงยิ่งขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจจีนโตชะลอ ซึ่งอาจอยู่ที่เพียง 6.2% ในปีนี้ จะไปกดดันความต้องการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค รวมถึงดีมานด์รถยนต์ โดยโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ยอดขายรถจีนมีแนวโน้มลดลง 7% ในปี 2019 ขณะที่สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (ซีเอเอเอ็ม) คาดการณ์ว่า ตลาดจีนคงยังไม่ฟื้นตัวมากในปีนี้ และอาจต้องใช้เวลาอีก 3 ปีกว่าดีมานด์จะกลับมาปรับตัวขึ้น



    นอกจากความเสี่ยงรายได้ลดฮวบจากยอดขายตกแล้ว ความอึมครึมในตลาดจีนจะเพิ่มความท้าทายให้บรรดาค่ายรถในการตัดสินใจขยายการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยเช่นกัน หลังหลายรายแห่ย้ายเข้าไปลงทุนตั้งฐานผลิตเพิ่มในจีน เช่น ฟอร์ด มอเตอร์ ที่วางแผนออกรถรุ่นใหม่กว่า 50 รุ่นภายในปี 2025 รวมถึงขยาย แบรนด์ฟอร์ดและลินคอร์นในจีน ส่วนโฟล์คสวาเกนเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าจะลงทุนเพิ่มร่วมกับพันธมิตรในจีนอีก 4,000 ล้านยูโร (ราว 1.47 แสนล้านบาท) ภายในปีนี้



    ก่อนหน้านี้ "การตั้งกำแพงภาษี"เป็นตัวการสร้างแรงกดดันให้บรรดาค่ายรถ โดยรอยเตอร์สรายงานว่า นับตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีที่แล้วที่ จีนตั้งภาษีกับรถยนต์นำเข้า ยอดส่งออกรถไปจีนของสหรัฐในแต่ละเดือนลดลงถึง 35-55% ส่วนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2018 ยอดส่งออกรถไปจีนอยู่ที่ไม่ถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.91 แสนล้านบาท) ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 8,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.71 แสนล้านบาท)



    ขณะที่การตั้งภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากทั่วโลก ที่ 25% และ 10% ของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ทำให้ค่ายรถต้องแบกต้นทุนการผลิตรถเพิ่มแล้ว คันละ 200-300 ดอลลาร์



    ความเสี่ยงที่ค่ายรถจะเจอภาษีเพิ่มขึ้นยังไม่หมดสิ้นไป เพราะทรัมป์ข่มขู่ก่อนหน้านี้ว่าจะเก็บภาษี 25% กับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าจากต่างชาติ ด้วยการอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงตามมาตรา 232 โดยหากสหรัฐเอาจริง ภาษีดังกล่าวจะส่งผลให้ราคารถยนต์เพิ่มขึ้นคันละ 1,300 ดอลลาร์ สำหรับรถตลาดแมสทั่วไป และ 5,800 ดอลลาร์ สำหรับแบรนด์รถยนต์หรู ตามคาดการณ์ของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งราคาที่เพิ่มขึ้นจะยิ่งบั่นทอนความต้องการซื้อรถยนต์มากขึ้นไปอีก



    สถานการณ์ตลาดจีนซบหนักและความเสี่ยงภาษีได้เพิ่มความยากลำบากให้ค่ายรถทั่วโลก ซึ่งมีภารกิจที่ต้องทำรออยู่แล้วในการเร่งพัฒนานวัตกรรมรับมือ "เทคโนโลยีและพฤติกรรม ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป" ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะเห็นการจับมือเป็นพันธมิตรกันมากขึ้นภายในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งระหว่างค่ายรถด้วยกันเองเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีและลดต้นทุนด้านอาร์แอนด์ดี และระหว่างค่ายรถกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อแตกไลน์ธุรกิจไปสู่ ด้านอื่นๆ



    ล่าสุดนั้น โฟล์คสวาเกน และ ฟอร์ดมอเตอร์ กำลังพิจารณากระชับมิตรกันยิ่งขึ้น โดยจะเปิดเผยความ ร่วมมือใหม่ๆ ในสัปดาห์หน้า ที่รวม ถึงการผนึกไลน์ผลิตรถ การร่วม แบ่งปันเทคโนโลยีอีวีและยานยนต์ ไร้คนขับ ซึ่งบลูมเบิร์กรายงานว่า การเสริมแกร่งความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับโฉมธุรกิจสู่ด้าน "ออโต้โมบิลิตี้" ซึ่งหมายถึงบริการเดินทางสัญจรด้วยรถยนต์ โดยไม่จำเป็นต้องมีรถเป็นของตัวเอง อาจจะเป็นการเช่ารถมาขับ หรือใช้บริการเรียกรถรับส่ง



    ส่วนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ ค่ายรถรายใหญ่ที่สุดจาก แดนปลาดิบ จับมือแกร็บ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียกรถรับส่ง ให้บริการ "โททอล-คาร์ เซอร์วิส" หรือบริการซ่อมบำรุงและประกันภัยให้แก่รถในแพลตฟอร์มของแกร็บ นับเป็นการรุกแตกไลน์ธุรกิจสู่ด้านบริการมากยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากการขายรถยนต์แบบเดิมเพียงอย่างเดียว โดยก่อนหน้านี้ โตโยต้า เปิดเผยว่าจะเตรียมเปิดบริการให้เช่ารถชื่อ "คินโตะ" ซึ่งจะเริ่มที่ญี่ปุ่นก่อนอย่างเร็วสุดภายในเดือนนี้



    ถึงอนาคตอันใกล้ที่ดูจะไม่สดใสนักกำลังรอภาคอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ แต่การเร่งปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา ก็น่าจะพอช่วยบรรเทาค่ายรถให้เอาตัวรอดไปได้ บ้างในปีนี้


    โดย เนรินรัตน์ พรหมพิทักษ์


    Source: Posttoday


    เพิ่มเติม

    - China car sales post first annual decline in 20 years : http://www.atimes.com/article/china-car-sales-post-first-annual-decline-in-20-years/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers


    #ข่าวภัยพิบัติ

    // หิมะตกหนักในเยอรมนี เสี่ยงหิมะถล่ม //

    11/01/19

    เบอร์ลิน - หิมะตกหนักต่อเนื่องทำให้การจราจรโกลาหล ปิดโรงเรียน และเสี่ยงหิมะถล่มในพื้นที่หลายแห่งทางภาคใต้ของเยอรมนีวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น


    หิมะตกหนาปกคลุมตามท้องถนน รถยนต์ และต้นไม้อย่างต่อเนื่องในรัฐทางภาคใต้ของเยอรมนี สภาพอากาศหนาวจัดทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถกวาดหิมะในฤดูหนาว ซึ่งกลายเป็นงานที่ผู้อยู่อาศัยต้องทำเป็นประจำในการเก็บกวาดหิมะ ชาวบ้านที่หมู่บ้านใกล้เทือกเขาแอลป์บอกว่า ทุกครั้งที่กวาดหิมะ จะต้องใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาของหิมะด้วย เส้นทางรถไฟหลายสายในรัฐทางภาคใต้โดยเฉพาะใกล้เทือกเขาแอลป์มีหิมะตกหนาสัญจรไม่ได้ หิมะปกคลุมตามทางรถไฟ ทางการยกระดับเตือนภัยหิมะถล่มระดับสองที่เทือกเขาในแคว้นบาวาเรีย หลายโรงเรียนต้องปิดการสอนเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเยอรมนีพยากรณ์ว่าจะมีหิมะตกและลมแรงในอีกไม่กี่วันนี้ โดยจะมีหิมะตกหนา 5-20 เซนติเมตรในเขตเทือกเขาแอลป์ .

    เครดิต : tnamcot

    #Watchers


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Watchers


    #มลพิษ

    // จีนอาจปรับเพิ่มอายุเฉลี่ยหากสามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศ //


    11/01/19

    ปักกิ่ง – ผลการศึกษาล่าสุดของสถาบันนโยบายพลังงานสหรัฐระบุว่า จีนอาจปรับเพิ่มอายุเฉลี่ยของประชากรอีก 2.9 ปี หากสามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศได้ตามมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด


    จีนยืนยันจะจัดการปัญหามลพิษทางอากาศและน้ำที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชากร โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับอายุเฉลี่ยของประชากรเพิ่มจาก 76.3 ปีเมื่อปี 2558 เป็น 79 ปี ภายในปี 2573 สถาบันนโยบายพลังงานแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกระบุว่า ผลของการปรับปรุงคุณภาพอากาศครั้งใหญ่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ช่วยผลักดันให้อายุขัยเฉลี่ยของประชากรเพิ่มสูงขึ้น และว่า จีนกำลังชนะสงครามต่อต้านมลพิษ โดยจะเห็นได้ว่าสุขภาพของประชากรโดยส่วนใหญ่ดีขึ้น และมีอายุขัยยืนยาวขึ้น ถ้าหากแนวโน้มยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ผลการศึกษาคาดว่า คุณภาพอากาศที่ดีขึ้นของเทศบาลนครเทียนจินในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะทำให้อายุเฉลี่ยของประชากรในเทศบาลนครดังกล่าวจำนวน 13 ล้านคนเพิ่มขึ้นอีก 1.2 ปี


    เมื่อปีที่แล้วจีนสามารถลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศลงถึงร้อยละ 9.3 จากเมื่อปี 2560 หลังจากรณรงค์ให้ควบคุมการใช้ถ่านหินและการปล่อยมลพิษจากกลุ่มอุตสาหกรรมและยานพาหนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของจีนกล่าวว่า มลพิษทางอากาศและน้ำเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อสุขภาพในอีก 20 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับโรคอ้วน โรคซึมเศร้า และโรคอัลไซเมอร์.

    Cr: tnamcot

    #Watchers


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้าสนามแม่เหล็กโลกจะกลับขั้วก็รีบๆ กลับเถอะ เพราะสภาพแวดล้อมทุกวันนี้ ผมรู้สึกอึดอัดมาก ข้างในรู้สึกผิดปรกติ ไปหมด ถ้ากลับขั้วแล้ว ข้างในผมไม่อึดอัดอีกก็ดีน่ะครับ

    Laura Gallardo

    IMG_7429.JPG
    นี่คือตั้งแต่เมื่อวานเช้า


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โปรรัสเซีย - Pro Russia


    กองทัพจีนประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบต่อต้านอากาศยาน S-400


    ในการทดสอบจรวดของ S-400 สามารถโจมตีเป้าหมายที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่า 600 เมตรต่อวินาทีได้เป็นผลสำเร็จที่ระยะราว 250 กม.


    รายงานระบุว่านี่เป็นการทดสอบครั้งที่ 2 ของกองทัพจีน โดยครั้งแรกได้ทำการทดสอบในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดีเช่นกัน.


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Severe Weather Europe


    ระบบวัดความลึกหิมะบาวาเรีย ชัดเจนพอ! รูปภาพ: Volker J. Rogl-Monteiro / @WetterOnline


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แดง วงศ์ทวิชาติ


    การก่อตัวของหลุมที่มีลักษณะของปล่องภูเขาไฟบนชายฝั่งของ Laguna de Ixpaco ใน Pueblo Nuevo Viñas, Santa Rosa ทำให้เกิดความกังวลต่อเพื่อนบ้านและหน่วยงานท้องถิ่นเนื่องจากมีการปลดปล่อยวัสดุที่เป็นของแข็งและก๊าซด้วยกลิ่นกำมะถัน

    ตามข้อมูลหลุมเริ่มปรากฏให้เห็นเมื่อเดือนตุลาคม แต่เพื่อนบ้านมองข้ามมัน; อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปหลายวันขนาดก็เพิ่มขึ้นดังนั้นพวกเขาจึงเตือนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานที่ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาของภูเขาไฟ Tecuanburro .

    IMG_7430.JPG IMG_7431.JPG IMG_7432.JPG IMG_7433.JPG

    https://www.climaseveromundial.com/2019/01/podriamos-ver-el-nacimiento-de-un-nuevo.html?m=1


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodrigo Contreras Lopez


    #การระบาดของ #ตั๊กแตน ตามไบเบิล ทางเหนือของ yucatan ประเทศ mexico 10/01 #วิดีโอ


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodrigo Contreras Lopez


    ด่วน; a #ทอร์นาโด เข้า #Bandung ในJava #อินโดนีเซีย ทำให้เกิดความพินาศ รายงานไม่มีผลกระทบกับคน #วิดีโอ #ภาพ 11/01


    AHORA URGENTE ; Un #tornado Golpea #Bandung en Java #Indonesia Causando una estela de destrucción , al momento no se reportan afectaciones a personas #videos #imagenes 11/01

    IMG_7434.JPG IMG_7435.JPG IMG_7436.JPG

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodrigo Contreras Lopez


    มินิไอซ์อายุ?? พายุฤดูหนาวที่ผิดปกติของขึ้นถึง-60° ในบางกรณีส่งผลต่อประเทศทั่วโลก , สร้างความวุ่นวายในตัวเรา Uu , เม็กซิโก ., แคนาดา , อิหร่าน , ตุรกี , โรมาเนีย อินเดีย และทั้งหมด #ยุโรป


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Public Post


    เคราะห์ซ้ำกรรมซัด! พายุหิมะ-ฝนตกหนักถล่มค่ายผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายพันคนในเลบานอน

    https://www.publicpostonline.net/21616


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Global Disaster Watch


    ในนิวซีแลนด์ ภูเขาไฟโคลนปะทุบนแนวรั้วระหว่างฟาร์มกิสบอร์นทั้งสองแห่ง ยังคงพ่นโคลนต่อไปอีกหนึ่งเดือนหลังจากที่มันปรากฏตัวขึ้น ภูเขาไฟโคลนเป็นการปะทุของโคลนน้ำเย็นและก๊าซ สิ่งนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม การปะทุครั้งใหญ่กินเวลานานถึง 5 ชั่วโมง และพ่นโคลนหลายพันตันบนพื้นที่กว่า 1.3 เฮกตาร์ ทำลายต้นเฟิร์นและฝังต้นไม้บางส่วน "เราได้ตรวจสอบพื้นที่สำหรับปีที่แล้วหรือไม่เพราะพื้นที่ยกตัวขึ้นจากแผ่นดินไหว Te Araroa [ในเดือนกันยายน 2559] และมีรอยร้าวมากมาย"

    IMG_7437.JPG IMG_7438.JPG IMG_7439.JPG IMG_7440.JPG IMG_7441.JPG IMG_7442.JPG

    https://i.stuff.co.nz/environment/1...-bubble-away-following-eruption-near-gisborne


     

แชร์หน้านี้

Loading...