ติดตามสถานะการณ์

China Xinhua News


ไม่เหลืออะไรเลย...ไฟป่าแคมป์เผาเมือง "สวรรค์" สหรัฐฯ กลายเป็น "นรก"

.

ชมภาพที่ถูกบันทึกไว้เมื่อเร็วๆนี้ ของเมืองพาราไดซ์ (Paradise) ที่ถูกไฟป่าที่มีชื่อว่า “ไฟป่าแคมป์” (the Camp Fire) เผาจนราบเป็นหน้ากลอง ในตำบล Butte รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จนก่อเกิดความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 63 ราย บ้านเรือนเสียหายหลายร้อยหลัง รวมถึงโรงพยาบาลและโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกเผาไปด้วย

.

ทีมกู้ภัยยังคงเร่งค้นหาประชาชนที่สูญหายไปอีก 600 กว่าราย ขณะที่ทีมงานส่วนหนึ่งก็เร่งตรวจสอบถึงสาเหตุต้นตอของเปลวเพลิงในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าเป็นเพราะสภาพอากาศที่แห้งและลมแรง

.

ชาวเมืองหลายหมื่นชีวิตที่เคยอาศัยอยู่ในเมือง “สวรรค์” ที่แปรเปลี่ยนกลายเป็น “นรก” ไปแล้วในตอนนี้ ต่างอพยพไปยัง Chico เมืองที่อยู่ใกล้เคียงกัน และรอคอยความช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้

 

China Xinhua News



อ้วกแทบพุ่ง！สื่อจีนแฉขั้นตอนการทำข้าวกล่องราคาถูก ผลิตวันละ 400,000 ห่อ

.

หลายคนที่เคยใช้ชีวิตที่จีนคงรู้ดีว่าบริการสั่งอาหารมาส่งที่บ้าน หอพัก หรือ ที่ทำงานนั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะสะดวกรวดเร็วและราคาไม่แพง แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารจานด่วนเหล่านี้บางทีพ่อค้าแม่ค้าไม่ได้เป็นคนปรุงเอง เพียงแค่ไปซื้อซองอาหารกล่องแบบสำเร็จแล้วนำมาอุ่นก่อนเทใส่กล่องข้าวและจัดส่งให้ลูกค้าในราคาย่อมเยา

.

คลิปจากนักสืบที่แอบแฝงตัวเข้าไปถ่ายขั้นตอนและกรรมวิธีในการทำอาหารซองเหล่านี้ ทำให้ชาวโซเชียลจีนต้องเอามือทาบอกด้วยความตกใจผสมปนเปกับความคลื่นไส้ เพราะเป็นการทำอาหารที่ดูยังไงก็อยู่ห่างไกลจากคำว่าสะอาดและถูกสุขลักษณะมากจริงๆ

.

เจ้าหน้าที่ในโรงงานเผยว่า เนื่องจากต้องการทำราคา วัสดุต่างๆ ทั้งเนื้อสัตว์และเครื่องปรุงจึงต้องซื้อมาคราวละมากๆ ซื้อที 10 กว่าตัน ของแซ่แข็งบางอย่างจึงต้องทิ้งไว้นานหลายเดือน บางทีเกือบปีกว่าจะได้นำมาปรุงเป็นอาหาร พร้อมกล่าวว่าซี่โครงหมูนั้นก็จะผสมกระดูกเปล่าที่ไม่มีเนื้อเข้าไปราว 20% ส่วนการบรรจุซอสต่างๆ ก็ทำด้วยมือคน พร้อมยอมรับตรงๆ ว่าแม้แต่ตนเองก็ยังไม่กล้ากินอาหารของบริษัท

.

เจ้าหน้าที่บอกด้วยว่า บริษัทเปิดมาตั้งแต่ปี 2009 และมีช่องทางการจัดส่งไปขายยังราว 30 มณฑลในประเทศ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่มณฑลอันฮุย ยอดผลิตอยู่ที่วันละ 400,000 ห่อ ยอดขายเฉพาะแค่ในภูมิภาคหัวตงของจีนต่อเดือนอยู่ที่ 3 ล้านห่อ ส่วนยอดขายรวมต่อปีอยู่ที่ 220 ล้านหยวน

 

China Xinhua News


สหรัฐฯ มั่นใจเกาหลีเหนือไม่ลืมสัญญา แม้เพิ่งลั่นทดสอบอาวุธสำเร็จแล้ว

.

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (15 พ.ย.) สหรัฐอเมริกาประกาศยืนยันความเชื่อมั่นว่าเกาหลีเหนือจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ในการประชุมที่จัดขึ้นที่สิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายน แม้เกาหลีเหนือจะเพิ่งออกมาประกาศความสำเร็จในการทดสอบอาวุธยุทธวิธีใหม่ก็ตาม

.

"เรายังคงเชื่อมั่นในสัญญาที่ประธานาธิบดีทรัมป์และผู้นำคิมจองอึนได้ตกลงร่วมกัน” นายไมค์ ปอมเปโอ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกากล่าว

.

KCNA สื่อทางการของเกาหลีเหนือรายงานว่า คิมจองอึนเป็นผู้ควบคุมการทดสอบอาวุธยุทธวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง ที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่สถาบันวิทยาศาสตร์การป้องกันประเทศของเกาหลีเหนือ พร้อมรายงานว่าการทดสอบดังกล่าวประสบความสำเร็จ แต่ไม่ได้ระบุประเภทของอาวุธดังกล่าว

.

การระงับการใช้อาวุธนิวเคลียร์และการทดสอบขีปนาวุธของเปียงยางถือเป็นข้อตกลงสำคัญที่ทำให้การทูตระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือในปีนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และได้รับเสียงชมเชยจากทรัมป์เป็นครั้งแรก แต่ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป ว่าเกาหลีเหนือจะทำตามสัญญาได้จริงหรือไม่

 

บูรพาไม่แพ้


#รักคงยังไม่พอ เมื่อชายหนุ่ม #จีน หลายสิบล้านคนต้องเป็นคน #โสด โดดเดี่ยว ถึงแม้จะทุ่มเทมากมายเพื่อหาคู่ครอง เนื่องจากโครงสร้างประชากรที่ #ผู้หญิง น้อยกว่า #ผู้ชาย อย่างมาก อันเป็นและผลกระทบตกค้างมาจากค่านิยมดั้งเดิม และนโยบาย #ลูกคนเดียว


เทศกาล #วันคนโสด วันที่ 11 เดือน11 ที่ฮอตฮิตในเมืองจีนแสดงให้ชัดว่าจำนวนของชายหนุ่มผู้เดียวดายในแดนมังกรมีมากแค่ไหน มีผลการวิจัยประเมินว่าชายหนุ่มจีนวัยเกิน 30 ปีที่ไร้คู่ครองมีมากกว่า 30 ล้านคน และคาดว่าในปี 2030 ชายชาวจีนกว่า 1 ใน 4 ของทั้งประเทศจะหาคู่ครองแต่งงานไม่ได้


ผลการสำรวจขององค์การสหประชาชาติพบว่า ในแดนมังกร จำนวนผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิงอย่างมาก โดยสัดส่วนประชากรผู้ชายต่อผู้หญิงในประเทศจีนอยู่ที่ ผู้ชาย120 คนต่อผู้หญิง 100 คน ขณะที่สัดส่วนเฉลี่ยของประเทศอื่นอยู่ที่ 107 ต่อ 100 ประเทศ จีนครองอันดับหนึ่งของโลกในเรื่องความไม่สมดุลของประชากรชายและหญิง และสภาพเช่นนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980


ประเทศจีนขาดแคลนผู้หญิงอย่างหนัก สาเหตุสำคัญมาจากค่านิยมตามลัทธิขงจื๊อที่ให้ความสำคัญกับลูกชายอย่างมาก เพราะลูกชายสามารถสืบสกุล ถือกระถางธูปในยามที่พ่อแม่จากโลกนี้ไป แต่ลูกสาวเมื่อแต่งงานออกไปแล้วก็กลายเป็นคนนอก ถึงขนาดที่มีคำกล่าวว่า “มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน” และในสังคมโบราณ สามีสามารถมีอนุภรรยาหรือขอหย่าขาดได้ หากภรรยาไม่มีทายาทสืบสกุล


สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่อรัฐบาลจีนมีนโยบาย “ลูกคนเดียว” เพื่อจำกัดการเพิ่มของประชากร นโยบายนี้ถึงแม้จะมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในเมิ่อมีลูกได้คนเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าชาวจีนต้องเลือกมีลูกชาย ไม่ใช่ลูกสาว ยิ่งเมื่อมีเทคโนโลยีอัลตราซาวด์สามารถรู้เพศเด็กในครรภ์ล่วงหน้าด้วยแล้ว หลายคนจึงเลือกที่จะทำแท้งลูกสาว จนรัฐบาลจีนต้องออกระเบียบ ห้ามแพทย์แจ้งเพศของเด็กก่อนคลอด


ถึงแม้รัฐบาลจีนจะยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวในปี 2015 แต่ผลกระทบยังคงยาวนาน เพราะเด็กผู้ชายจำนวนมากต่างเติบโตขึ้น แต่มีผู้หญิงไม่เพียงพอที่จะสร้างครอบครัวใหม่ โดยประเมินว่า ผู้หญิงชาวจีนที่ขาดหายจากความสมดุลไปนั้นมีมากกว่า 41 ล้านคน


**** รวยแค่ไหนก็หาเมียไม่ได้ ****


ค่านิยมผู้ชายเป็นใหญ่ในอดีต แต่ทุกวันนี้กลับตาลปัตร เพราะทุกวันนี้หนุ่มจีนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเอาใจหญิงสาว ไม่เช่นนั้นอาจต้องโดดเดี่ยวไปชั่วชีวิต


ยิ่งเมื่อหญิงสาวสามารถทำงานหารายได้พึ่งพาตัวเองได้แล้ว พวกเธอจึง “เล่นตัว” ได้ ว่ากันว่าหากไม่มีบ้าน มีรถ และเอาอกเอาใจเธอมากพอ ชายหนุ่มก็อย่าหวังจะได้เธอมาครองคู่


ในปี 2015 นักธุรกิจหนุ่มชาวจีนวัย 40 ปีรายหนึ่งได้ฟ้องร้องบริษัทจัดหาคู่แห่งหนึ่งที่ไม่สามารถหาภรรยาให้เขาได้ ทั้ง ๆที่เขาจ่ายค่าบริการไปมากถึง 7 ล้านหยวน หรือราว 35 ล้านบาท


หนุ่มจีนอีกคนในเมืองกว่างโจว ซื้อไอโฟน 99 เครื่องเป็นของกำนัลเพื่อขอสาวแต่งงาน แต่สุดท้ายหญิงสาวกลับ “เซย์โน”


ในเทศกาลตรุษจีน หนุ่มๆ หลายคนได้รับบัญชาจากพ่อแม่ให้พา “ว่าที่ลูกสะใภ้” ไปเยี่ยมบ้านเกิด จึงจำใจใช้บริการ “แฟนสาวให้เช่า” โดยว่ากันว่ามีค่าบริการสูงถึงวันละ 10,000 หยวน หรือราว 50,000 บาท


ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ทุกสุดสัปดาห์จะมีการจัด “มุมหาคู่” โดยติดประกาศประวัติส่วนตัว, การศึกษา, รายได้ และบุคลิกของชายหนุ่มโสดจำนวนมากที่เขียนด้วยลายมือ ด้วยความหวังที่จะหาหญิงสาวที่เหมาะสมมาเป็นคู่ชีวิต


**** จีนมีรถไฟความเร็วสูง แต่คนจีนยังรอรถขบวนสุดท้าย ****


ไม่เพียงแต่ผู้ชายที่กลุ้มใจเพราะไร้คู่ แต่หญิงสาวจีนหลายคนเมื่อรู้ว่าเธออยู่ในฐานะ “ไม่สวยก็เลือกได้” จึงรอเลือกจนเกือบพลาดรถไฟขบวนสุดท้าย ทำให้หญิงสาวที่ #แต่งงาน เมื่ออายุเกิน 30 ปีมีจำนวนมาก


ผู้หญิงหลายคนระบุว่าเธอจะแต่งงานกับผู้ชายที่มีทุกอย่างพร้อมให้เธอเท่านั้น การแต่งงานล่าช้าส่งผลให้มีบุตรยาก นี่คือเหตุผลว่า ทำไมคนจีนจึงนิยมมาทำกิฟท์ หรือแม้กระทั่ง “จ้างอุ้มบุญ” ในประเทศไทยและเพื่อนบ้าน


อักษรจีนคำว่า ดี 好 ประกอบด้วยส่วนที่มีความหมายว่า ผู้หญิงและเด็ก สะท้อนค่านิยมตั้งแต่อดีตว่า สิ่งที่ดีที่สุด คือ “ผู้หญิงมีลูก” ถึงขนาดที่ขงจื๊อยังสอนว่า “ไร้บุตรคืออกตัญญู” หากแต่ทุกวันนี้ การมีคู่ครองของหนุ่มสาวชาวจีนกลับเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ การแต่งงานซึ่งควรจะเป็นเรื่องมงคลกลับกลายเป็นความกลัดกลุ้มทุกข์ทน.

 

China Xinhua News


ฤดูหนาวมาแล้ว! ได้เวลาคุนหมิงต้อนรับ ‘นกนางนวลปากแดง’ จากไซบีเรีย

.

14 พ.ย. ที่ผ่านมา ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวในเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ต่างออกมาเที่ยวชมทิวทัศน์และให้อาหารฝูงนกนางนวลปากแดงที่อพยพหนีความหนาวมาจากแถบไซบีเรีย ซึ่งนกเหล่านี้จะมาอาศัยอยู่ที่คุนหมิงตลอดฤดูหนาวเป็นประจำทุกปี

 

#ตอนที่208

#พระแม่เมืองกังตั๋ง


บรรยากาศในห้องนอนของนางงอฮูหยินซึ่งปรับปรุงเป็นห้องพยาบาล ถูกปกคลุมด้วยความสลดหดหู่เพราะอาการป่วยของนางงอฮูหยินทรุดหนักลงโดยลำดับ ประจักษ์ชัดแล้วว่าเวลาของฮูหยินผู้เฒ่าเหลือน้อยเต็มที อุปมาดั่งแสงตะเกียงอันริบหรี่ใกล้จะดับฉะนั้น


นางงอฮูหยินสั่งเสียซุนกวนแล้ว สั่งให้ซุนกวนคำนับเตียวเจียวและจิวยี่ เป็นการฝากฝังก่อนสิ้นลม จากนั้นนางก็พริ้มตาลงด้วยความอิดโรยไร้เรี่ยวแรง


ซุนกวนฟังคำมารดาแล้วคุกเข่าลงคำนับเตียวเจียวและจิวยี่ ร้องไห้และกล่าวขึ้นด้วยน้ำตาว่าการแผ่นดินเมืองกังตั๋งใหญ่หลวงเกินกำลังสติปัญญาของข้าพเจ้า ขอความเมตตาท่านทั้งสองช่วยทำนุบำรุงสั่งสอนข้าพเจ้าตามคำมารดาผู้เฒ่าด้วย


เตียวเจียวและจิวยี่เห็นดังนั้นก็ตกใจ ต่างคนต่างเข้าไปประคองซุนกวนให้ลุกขึ้น ร้องไห้แล้วว่าทั้งชีวิตแลจิตใจข้าพเจ้าขอพลีเพื่อกังตั๋ง ท่านอย่ากังวลสืบไปเลย ว่าแล้วทั้งสองคนก็คุกเข่าลงคำนับซุนกวน


นางงอฮูหยินแม้สิ้นกำลังแล้วแต่สติยังมั่นอยู่ ได้ยินเสียงซุนกวน เตียวเจียว และจิวยี่ฝากฝังเป็นคำสัญญาหนักแน่นมั่นคงนักก็มีความยินดี อำนาจแห่งปิติโชติขึ้น นางงอฮูหยินจึงลืมตาขึ้นอีกครั้งหนึ่งกล่าวกับซุนกวนด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าว่า นางงอเสี่ยวหยินแม่น้าของเจ้านั้นเป็นน้องร่วมอุทรกับเราคลานตามกันมา ร่วมทุกข์ยากตรากตรำมาแต่น้อย ได้เลี้ยงดูเจ้ามาตั้งแต่ยังแบเบาะ สิ้นบุญแม่แล้วขอฝากฝังเจ้าช่วยดูแลแทนแม่ด้วย จงนับถือนางเสมอด้วยตัวแม่ เจ้าจะขัดขืนฝืนใจให้เสียน้ำใจไม่ได้เป็นอันขาด


นางงอฮูหยินกล่าวต่อไปว่าอันซุนหยินบุตรสาวคนเดียวของแม่น้าเจ้าก็เหมือนหนึ่งน้องสาวของเจ้า กำพร้าพ่อมาแต่น้อยเช่นเดียวกับเจ้า จงเป็นธุระดูแลแทนแม่ด้วย หากถึงกาลมีเหย้าเรือนให้พินิจเลือกคนดีมีสติปัญญา มีน้ำใจรักนางโดยสุจริตเป็นคู่ครองจะได้ความสุขสืบไป อย่าได้เลือกคู่เพราะเห็นแก่ความรักของตัวเอง หรือเพราะอามิสแลอำนาจวาสนาอย่างอื่น จะได้ทุกข์ในภายหลัง ความอันเราสั่งบัดนี้จงจำไว้ในใจให้แม่นยำ


นางงอฮูหยินสั่งเสียความด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลงโดยลำดับ สิ้นความก็สิ้นสั่ง เปลือกตานางค่อยๆ พริ้มหลับลง มือที่วางอยู่บนหน้าอกค่อยๆ เลื่อนลงแล้วพลัดตกที่ข้างตัว ลมอัสสาสะ ปัสสาสะ หยุดลง ณ บัดนั้น


ซุนกวนเห็นอาการมารดาแน่นิ่งไปจึงคุกเข่าลงข้างเตียง กอดมารดาเอาหน้าซบอยู่กับอกนางงอฮูหยินแล้วร้องไห้ราวกับว่าจะสิ้นสติสมประดี


เตียวเจียวเป็นผู้ใหญ่เคยเห็นคนยามสิ้นลมมาแต่ก่อน เห็นลักษณาการดั่งนั้นก็รู้ว่านางงอฮูหยินสิ้นลมแล้ว จึงหันไปสบตาจิวยี่เป็นนัยบอกให้ทราบความ


บรรยากาศเศร้าสลดในห้องนางงอฮูหยินถูกแทรกขึ้นด้วยเสียงร้องไห้อยู่พักหนึ่ง เตียวเจียวจึงเข้าไปประคองซุนกวนให้ลุกขึ้นแล้วว่าเป็นธรรมดาของชีวิต เกิดขึ้นแล้วย่อมตั้งอยู่และดับไปในที่สุด ไม่มีชีวิตใดจะรอดพ้นความตายไปได้ ฮูหยินป่วยเจ็บมาชั่วเวลาหนึ่ง พอให้ลูกหลานได้สนองคุณสมแก่ความกตัญญูแล้วลาลับไปสิ้นทุกข์ทรมาน ตัวท่านได้ดูแลปรนนิบัติอย่างเต็มที่ เป็นความกตัญญูกตเวทีอันเลิศแล้ว จงระงับความโศกและเตรียมการพิธีศพให้สมเกียรติเถิด


ซุนกวนได้สติคลายความโศกแล้วกล่าวขอบคุณเตียวเจียว และมอบหมายให้เตียวเจียวเป็นหัวหน้าในการแต่งการศพของนางงอฮูหยินตามธรรมเนียม เสร็จแล้วนำไปฝังไว้เคียงคู่กับหลุมฝังศพของซุนเกี๋ยนที่ตำบลขยกโอ๋


ครั้นถึงปีใหม่ซุนกวนมีคำสั่งให้ออกประกาศยกย่องนางงอเสี่ยวหยินแม่น้าเป็นงอก๊กไถ้หรือพระแม่เมืองกังตั๋ง


อันนางงอก๊กไถ้นี้เป็นน้องสาวร่วมบิดามารดาเดียวกันกับนางงอฮูหยิน หลังจากนางงอฮูหยินแต่งเป็นภรรยาของซุนเกี๋ยนแล้วได้พานางงอเสี่ยวหยินน้องสาวกำพร้ามาอยู่ในจวนของซุนเกี๋ยนด้วยกัน


เมื่อนางงอฮูหยินคลอดซุนกวนแล้ว สุขภาพของนางงอฮูหยินอ่อนแอลง จึงให้น้องสาวเป็นผู้เลี้ยงดูซุนเซ็กและซุนกวนแทนตัว นางงอฮูหยินตระหนักว่าสุขภาพของตัวไม่สู้ดี หากมีอันเป็นแล้วซุนเกี๋ยนอาจมีภรรยาใหม่ บุตรจะได้ความเดือดร้อนจากมารดาเลี้ยง ประกอบทั้งมีความสงสารน้องสาวที่ต้องเลี้ยงดูบุตร ไม่มีโอกาสมีเหย้าเรือนตามปกติ ดังนั้นนางงอฮูหยินจึงจัดแจงให้น้องสาวเป็นภรรยาของซุนเกี๋ยนอีกคนหนึ่ง นับแต่นั้นมาทั้งซุนเซ็กและซุนกวนจึงเรียกนางงอเสี่ยวหยินว่าแม่น้า


ต่อมานางงอเสี่ยวหยินมีบุตรีกับซุนเกี๋ยนคนหนึ่งชื่อว่าซุนหยิน และซุนหยินนี้แม้เป็นสตรีแต่มีน้ำใจใฝ่ในการทหาร ดังนั้นจึงได้ร่ำเรียนฝึกวิชาอาวุธมาแต่น้อย


เพราะเหตุนี้ซุนกวนจึงใกล้ชิดสนิทสนมกับนางงอเสี่ยวหยินและซุนหยินเป็นพิเศษ ทั้งเคารพเกรงกลัวนางงอเสี่ยวหยินดังมารดา และรักนางซุนหยินเหมือนน้องสาวร่วมอุทร


จากความเคารพรักและความกตัญญูดั่งนี้ เมื่อสิ้นบุญนางงอฮูหยินแล้ว ซุนกวนจึงยกย่องนางงอเสี่ยวหยินเป็นพระแม่เมืองเทียบเท่ากับพระราชชนนี ดังนั้นนางงอก๊กไถ้จึงเป็นที่เคารพยำเกรงของบรรดาขุนนางข้าราชการทั้งปวงของแคว้นกังตั๋งด้วย


พอย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิในปีเดียวกันนั้น ซุนกวนได้เรียกประชุมบรรดาที่ปรึกษาและแม่ทัพนายกองทั้งปวง ปรารภว่าบัดนี้การศพของมารดาเราก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สิ้นกังวลการข้างใน ทั้งบัดนี้เป็นช่วงระยะที่โจโฉยังมีการศึกติดพันอยู่กับหัวเมืองฝ่ายเหนือ เราจึงคิดที่จะยกกองทัพไปตีเมืองกังแฮกำจัดหองจอล้างแค้นแทนบิดา ท่านทั้งปวงจะมีความคิดเห็นเป็นประการใด


เตียวเจียวขุนนางผู้ใหญ่จึงว่าการศพของไท้ฮูหยินเสร็จสิ้นแล้วก็จริง แต่ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ไม่ถึงปี ไม่ชอบที่จะทำการศึกในช่วงที่ไว้ทุกข์กันอยู่นี้


จิวยี่ทราบความแค้นที่กรุ่นอยู่ในใจของซุนกวนเป็นอย่างดี ได้ฟังดังนั้นจึงท้วงว่าความแค้นระหว่างกังตั๋งกับเมืองกังแฮนั้นใหญ่หลวงนัก ไม่พึงคำนึงว่าจะอยู่ในช่วงไว้ทุกข์หรือช่วงไหน หากมีโอกาสล้างแค้นได้แล้วก็ชอบที่จะรีบทำการ


แล้วจิวยี่จึงว่าบัดนี้เป็นโอกาสอันดีที่ไม่ต้องกังวลด้วยโจโฉ จึงสมควรที่จะรีบยกกองทัพไปตีเมืองกังแฮ


ในขณะที่ยังปรึกษากันอยู่นั้น และไม่ทันที่ซุนกวนจะว่ากล่าวประการใด ลิบองซึ่งไปรักษาด่านอยู่ปากน้ำลงจิ๋ว ได้เข้ามารายงานในที่ประชุมว่าขณะนี้กำเหลงทหารเอกของหองจอได้ประสานติดต่อมาจะขอเข้าสวามิภักดิ์ด้วยเมืองกังตั๋ง


ลิบองได้รายงานต่อไปว่า “ข้าพเจ้าสืบดูรู้ว่ากำเหลงคนนี้อยู่ชายทะเล ตำบลลิมกั๋ง แต่ก่อนนั้นกำเหลงคุมพวกเพื่อนเป็นโจรเที่ยวตีชิงเรือลูกค้าวานิชอยู่ในท้องทะเล แลพวกโจรทั้งนั้นเอาพรวนแลกระดึงร้อยผูกกายทุกคน แล้วกำเหลงให้เอาแพรขบวรลายทองซึ่งตีได้ในเรือลูกค้าเมืองเสฉวนมาทำใบเรือ แลลูกค้าวานิชเห็นเรือสำคัญดังนั้นก็กลัวมิอาจที่จะต่อสู้ ครั้นอยู่มากำเหลงละความชั่วเสีย จึงพาพวกเพื่อนไปอยู่กับเล่าเปียวเป็นหลายเดือน กำเหลงเห็นว่าเล่าเปียวเป็นคนมีความคิดน้อย จึงหนีข้ามอ่าวจะมาอยู่ด้วยท่าน พอพบหองจอกลางทาง หองจอว่ากล่าวเกลี้ยกล่อมกำเหลงไปไว้ด้วย”


ลิบองได้กล่าวต่อไปว่า กำเหลงผู้นี้เป็นผู้มีฝีมือกล้าแข็ง เมื่อครั้งที่ท่านยกกองทัพเรือไปรบเมืองกังแฮนั้น หากหองจอไม่ได้กำเหลงไว้เป็นพวกก่อน หองจอก็ต้องเสียทีพ่ายแพ้แก่ท่านแต่ครั้งนั้นแล้ว หลังจากหองจอได้รับชัยชนะในครั้งนั้นก็มิได้ปูนบำเหน็จแก่เหล่าทหาร แม้ตัวกำเหลงซึ่งมีคุณช่วยชีวิตไว้ก็มิได้ทำนุบำรุงปูนบำเหน็จความชอบตามที่ควร มิหนำซ้ำยามเมาสุราขึ้นเมื่อใดก็ดูหมิ่นเหยียดหยามกำเหลงว่าเป็นโจรสลัดมาแต่ก่อน เหตุนี้กำเหลงจึงน้อยใจ คิดจะออกจากหองจอมาเข้าสวามิภักดิ์ต่อท่านตามความคิดเดิม


ความที่กำเหลงน้อยใจและคิดเอาใจออกหากจากหองจอทราบความถึงโซหุยซึ่งเป็นทหารคนสนิทของหองจอจึงเข้าไปว่ากล่าวกับหองจอ ครั้นหองจอได้ฟังคำท้วงจากนายทหารคนสนิทก็ได้คิด จึงปูนบำเหน็จกำเหลงตั้งให้เป็นนายทหารรักษาเมืองเอียนก๋วนซึ่งขึ้นต่อเมืองกังแฮ


นับแต่นั้นมากำเหลงและโซหุยจึงไปมาหาสู่คบหากันเป็นเพื่อนสนิท อยู่มาวันหนึ่งทั้งสองคนแต่งโต๊ะดื่มสุราแล้วปรารภความที่เป็นทหารอยู่กับหองจอแล้วมิได้รับการยกย่องให้สมแก่ความชอบ โซหุยอยู่กับหองจอมาช้านาน ทราบความเป็นไปในเมืองกังแฮเป็นอย่างดี ครั้นคบหากับกำเหลงเป็นเพื่อนใกล้ชิดสนิทสนม น้ำใจก็สงสารจึงแนะนำกำเหลงว่า “แลตัวท่านก็เป็นชาติทหาร จงพิเคราะห์ดูให้ประจักษ์ใจเถิด ใช่ว่าเดือนตะวันนี้จะอยู่ท่าก็หามิได้ ครั้นจะนิ่งอยู่เล่าท่านก็จะแก่ชราลงทุกวัน ซึ่งท่านจะไปเป็นนายทหารนั้นจงเร่งคิดตั้งตัวให้ได้”


เมื่อโซหุยกล่าวความหนุนความคิดเดิมดังนี้ กำเหลงจึงตัดสินใจที่จะออกจากหองจอมาสวามิภักดิ์อยู่ด้วยท่าน แต่เกรงว่าท่านจะผูกพยาบาทเกี่ยวด้วยความศึกเมื่อครั้งก่อนที่กำเหลงใช้เกาทัณฑ์ยิงเล่งโฉทหารเมืองกังตั๋งถึงแก่ความตาย จึงให้คนมาติดต่อดูลู่ทางเสียชั้นหนึ่งก่อน


ซุนกวนได้ฟังดังนั้นจึงถามว่าท่านได้แจ้งท่าทีของเราแก่กำเหลงหรือไม่ ประการใด


ลิบองจึงตอบว่าข้าพเจ้าได้แจ้งแก่กำเหลงว่า “อันน้ำใจท่านมิได้พยาบาท แลประการหนึ่งในท่ามกลางสงครามต่างคนต่างอาสานายทำศึกจะเอาชัยชนะ” แล้วว่าข้าพเจ้าได้รับคำกำเหลงว่าจะนำความมารายงานให้ท่านทราบ จึงขอท่านได้โปรดพิจารณา ทั้งนี้ขอให้เห็นแก่ข้าพเจ้า อย่าได้ให้เสียคำพูดกับกำเหลงนั้นเลย


ซุนกวนได้ฟังดังนั้นจึงว่าที่ท่านได้แสดงท่าทีไปทั้งนี้ชอบด้วยความคิดเรา อันตัวเรานี้รักทหารผู้มีฝีมือและภักดีอาสานาย ถ้าหากได้กำเหลงมาทำการด้วยแล้วก็เท่ากับเป็นการตัดกำลังของหองจอให้อ่อนลง ในขณะที่กำลังของเราก็จะกล้าแข็งขึ้น การที่กำเหลงมาขออยู่ด้วยเราในครั้งนี้ เห็นทีหองจอจะต้องถึงกาลดับสูญเป็นแม่นมั่น แล้วซุนกวนจึงสั่งลิบองให้ไปตามกำเหลงมาพบ


ซุนกวนใคร่จะทราบความข้างในเมืองกังแฮจากกำเหลงเสียชั้นหนึ่งก่อนจึงสั่งเลิกประชุม ลิบองคำนับลาซุนกวนแล้วรีบกลับไปที่ด่าน และให้ทหารไปประสานงานเชิญกำเหลงมาเมืองกังตั๋ง


กำเหลงทราบความก็ยินดี รีบเก็บข้าวของส่วนตัวแล้วลอบพาทหารคนสนิทออกจากเมืองเอียนก๋วนมาพบลิบอง ฝ่ายลิบองเห็นกำเหลงมาพบก็มีความยินดี รีบพากำเหลงเข้าไปพบซุนกวน


หลังจากกำเหลงคำนับซุนกวนตามธรรมเนียมแล้ว ซุนกวนจึงว่าซึ่งท่านจะมาอยู่ด้วยเรานี้เรามีความยินดียิ่งนัก จะทำนุบำรุงท่านให้ถึงขนาดอย่าได้กังวลเลย ความอันใดเคยผิดพลั้งกันมาแต่ก่อน อย่าได้เก็บมาใส่ไว้ในใจ ตัวเราเองก็จะไม่พยาบาทท่านสืบไป นับแต่นี้ขอท่านจงทำราชการด้วยเมืองกังตั๋งโดยสุจริต แล้วคิดอ่านกำจัดหองจอช่วยเราล้างแค้นแทนบิดา ความชอบก็จะมีแก่ท่านเป็นอันมาก


กำเหลงได้ฟังดังนั้นจึงคำนับขอบคุณซุนกวนแล้วว่า บัดนี้แผ่นดินเป็นจลาจลด้วยโจโฉเป็นทรราช ข่มเหงฮ่องเต้ คิดอ่านเป็นใหญ่ในแผ่นดินแต่ผู้เดียว บัดนี้โจโฉติดศึกพัวพันกับหัวเมืองฝ่ายเหนือคงต้องใช้เวลานับปีกว่าจะเสร็จศึก ดังนั้นการเมืองด้านใต้ก็ว่างอยู่


กำเหลงได้กล่าวต่อไปว่า อันเล่าเปียวนั้นบัดนี้แก่ชราแล้ว ทั้งโรคภัยเบียดเบียนจึงเป็นโอกาสอันดีชอบที่ท่านจะยกไปตีเมืองเกงจิ๋วเพราะหากละไว้นานไปโจโฉเสร็จศึกจากภาคเหนือแล้วก็จะทำการได้ลำบาก


ซุนกวนได้ฟังดังนั้นจึงถามว่า แผนการความคิดของท่านในครั้งนี้เป็นอย่างไร


กำเหลงจึงว่าหากท่านเห็นชอบด้วยความคิดข้าพเจ้าแล้วก็ขอได้ยกกองทัพไปตีเมืองกังแฮซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านเมืองเกงจิ๋วเอาไว้ในอำนาจให้ได้ก่อนเพราะเหตุที่หองจอนั้นเป็นคนถ่อยด้อยปัญญา มากด้วยความโลภและโทสะ ข่มเหงรังแกราษฎร จนชาวเมืองรอคอยโอกาสที่จะล้มล้างอำนาจของหองจออยู่ทุกเมื่อ ทั้งตัวหองจอเองก็มักดื่มสุรา ตั้งอยู่ในความประมาท มิได้เตรียมการป้องกันรักษาเมืองตามปกติ หากท่านยกกองทัพไปตีคงจะได้เมืองกังแฮโดยง่าย ทั้งจะกำจัดหองจอล้างแค้นให้เสร็จสิ้นเสียในคราวเดียว จากนั้นจึงค่อยคิดอ่านยึดเมืองเกงจิ๋วต่อไป.


เครดิต: สามก๊กฉบับคนขายชาติ

(อ้างอิงวรรณกรรมเป็นหลัก)


เครดิตรูปภาพ: กำเหลง จากภาพยนตร์โจโฉแตกทัพเรือ

https://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=peanut-nut&month=13-07-2008&group=3&gblog=3


รวมบทความอ่านสนุกและได้ความรู้อีกมากใน

กลุ่มสามก๊กเพิ่มปัญญา คลิกเข้าเยี่ยมชมได้ที่


https://www.facebook.com/groups/1457360214332393/


กลุ่มสามก๊กถกถึงกึ๋น คลิกเข้าเยี่ยมชมได้ที่


https://www.facebook.com/groups/204037590197873/

 

Sismologia Mundial


คุณรู้ไหมว่า #Uranium สามารถปล่อยแก๊ส # Radon # กัมมันตภาพรังสีในแผ่นดินปริมาณมากจำนวนหนึ่ง และจากความผิดปรกติทางธรณีวิทยา?


ในฐานะที่เป็นก๊าซกัมมันตรังสีทางธรรมชาติ ปล่อยอย่างฉับพลันและเป็นภัยพิบัติเงียบและต่อเนื่องของก๊าซเรดอนในสภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้พื้นผิวที่สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งปอด ซึ่งภายใน ของโลกอุดมไปด้วยยูเรเนียม


ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดประมาณ 11,000 รายเสียชีวิตในแต่ละปีในสหรัฐอเมริกาและประมาณ 55,000 คนในประเทศจีนอันเป็นผลมาจากการสัมผัสกับเรดอน


การศึกษาก่อนหน้านี้รายงานว่าการเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงสามารถทำให้ก๊าซ degassing ของเรดอนเพิ่มขึ้นจากส่วนลึกของโลกผ่านรอยเลื่อน อย่างไรก็ตามการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างน้ำและหินและการขนส่งทางน้ำใต้ดินอาจทำให้เกิดแร่ธาตุดินที่สะสมและทำให้เกิดการอุดตันของรอยแตกในรอยเลื่อนบางอย่างซึ่งยับยั้งการปลดปล่อยก๊าซเรดอน


เรดอนเป็นก๊าซมีตระกูลที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติ ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี และมีกัมมันตภาพรังสีที่มีอายุครึ่งชีวิต 3.82 วัน เป็นผลพลอยได้จากการสลายกัมมันตรังสีของเรเดียมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในชุดของการสลายตัวของยูเรเนียม


หากต้องการทราบว่าพื้นที่ของคุณอุดมไปด้วยยูเรเนียมคุณต้องพบกับหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านธรณีวิทยาในประเทศของคุณ


รายงานทางวิทยาศาสตร์

อ้างอิงจากบทความของการศึกษาใน Beijin: www.nature.com/articles/s41598-018-35262-1

 

Candy Bella


# นิทานก่อนนอน

# อาถรรพ์ไร่อ้อย


... เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ที่จังหวัดอุดรธานี วันที่เกิดเรื่อง คุณเสกได้เอาของไปลงที่เวียงจันทร์ และช่วงเย็นก็ได้ข้ามกลับมาที่ฝั่งไทย ช่วงเวลาประมาณเดือนธันวาคม ปี 2556 และช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังตัดอ้อยกัน


ทางบริษัทสั่งให้ไปขึ้นน้ำตาลที่อำเภอนึง ในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ คุณเสกไปกับภรรยาสองคน และไปถึงที่หมายก่อนเวลากำหนด จึงได้ไปนอนรอขึ้นน้ำตาล กว่าจะเสร็จก็ประมาณตีหนึ่ง ภรรยาถามว่าจะนอนต่อมั้ย จะวิ่งตอนเช้าหรือว่าจะวิ่งตอนนี้เลย คุณเสกตอบไปว่ายังไงก็ได้นอนแล้ว เดี๋ยววิ่งออกไปเลย


คุณเสกจึงขับรถออกมา พอหลุดออกมาจากหมู่บ้านนั้น จะเข้ามาในเขตจังหวัดอุดรธานี เป็นช่วงต่อระหว่างหมู่บ้านนึงไปยังอีกหมู่บ้านนึง ระยะทางประมาณหกถึงเจ็ดกิโลเมตร ตามข้างทางจะมีป่าอ้อยและดงมัน พอเข้าดงป่าอ้อย


คุณเสกรู้สึกง่วงขึ้นมาทันที ง่วงชนิดที่ว่าจะหลับให้ได้ สักพักนึงคุณเสกสังเกตเห็นทางแยกข้างหน้า เหมือนเป็นทางแยกลงไปที่ไหนสักแห่ง แล้วมีเวิ้งช่องว่างพอที่จะให้รถจอดได้ คุณเสกจึงเลี้ยวรถเข้าไปแล้วจอดรถชิดขอบทาง โดยพยายามเอารถหลบออกห่างจากถนน


ภรรยาได้ถามคุณเสกว่า จะนอนตรงนี้เลยหรอ คุณเสกตอบว่า ไม่ไหวแล้ว ขอสักงีบก่อน ปกติเวลานอนคุณเสกจะยกผ้าม่านมาปิดหน้ารถและหน้าต่างข้างรถหมด แต่วันนั้นคุณเสกง่วงมาก จอดรถได้ ดับเครื่องยนต์ ปิดไฟ เอนเบาะนอนเลย แล้วก็หลับ


มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนภรรยาปลุก ภรรยาตะโดนลั่นเลย แล้วบอกว่าตอนที่คุณเสกหลับ ประมาณสามสิบนาทีได้ แต่ภรรยาไม่หลับ ได้ยินเสียงหญ้าข้างทางแหวกออกเหมือนมีคนเดิน ภรรยาจึงชะโงกมอง แต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะข้างนอกมืดมาก และก็มีเสียงเดินรอบรถ เดินไปเดินมา


ซักพักนึงภรรยาของคุณเสกก็เริ่มจะมองเห็นลาง เห็นเป็นผู้ชายสองคน จึงเริ่มตกใจและรีบปลุกคุณเสก และบอกว่ามีคนมาปีนรถเราอยู่ คุณเสกสดุ้งตื่นขึ้นมา มองไปข้างหน้าต่าง เห็นขาคนปีนบันไดข้างรถขึ้นไปด้านบนหัวรถ (รถสิบล้อจะมีบันไดติดอยู่ข้างรถใกล้ๆประตูด้านคนขับ)


คุณเสกเห็นอย่างนั้นก็ตกใจคิดว่าเป็นโจร จึงรีบสตาร์ทเครื่องทันที แล้วคลำดูที่ประตูรถก็ยังล็อกอยู่ เปิดไฟหน้ารถแล้วขับออกมาเลย เพราะ ณ ตอนนั้นอยู่กลางป่า ไม่สามารถเปิดประตูออกไปดูได้ ภรรยาก็บอกว่ามันยังอยู่บนหลังคารถสองคนเลย คุณเสกรีบขับรถออกมาจากตรงนั้น


จนไปถึงตัวอำเภอวังสามหมอ พอพบป้อมตำรวจ คุณเสกเลยจอดรถทันที แต่ไม่กล้าเปิดประตู เลยแง้มกระจกแล้วส่องขึ้นไปดู แต่กลับไม่เห็นอะไรเลย สักพักนึงคุณเสกเห็นตำรวจอยู่ในป้อม จึงเปิดประตูแล้ววิ่งลงไปข้างล่าง แล้วหันกลับมามอง ก็ไม่เจอใครอยู่ข้างบนหลังคารถ คุณเสกลองเดินสำรวจรอบรถแต่ก็ไม่เจออะไร สักพักคุณเสกก็กลับเข้ามาในรถ แล้วขับออกไปนอนที่ปั้มน้ำมัน


คิดว่าตอนเช้าค่อยเดินทางต่อ หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ คุณเสกเอาของไปลงในตัวเมืองจังหวัดของแก่น ครั้งนี้เดินทางคนเดียว พอลงเสร็จ บริษัทโทรมาบอกว่า ให้ไปขึ้นไม้ยูคาที่อำเภอนึง เป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอสีชมพูกับศรีบุญเรือง ก็คือจังหวัดขอนแก่นกับหนองบัวลําภู


คุณเสกบอกกับทางบริษัทว่า นี่มันก็บ่ายแล้วนะ น่าจะไปถึงประมาณสี่โมงเย็น เค้าจะขึ้นให้มั้ย ทางบริษัทบอกว่าขึ้นให้ คุณเสกก็เลยขับออกไป ลักษณะจะเป็นไร่ป่าไม้ยูคาทั้งสองข้างทาง ตัวไร่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณสองกิโลเมตร


คุณเสกนำรถวิ่งเข้าไปในไร่ ทางเข้าไร่จะเป็นทางเกวียน ถึงที่หมายประมาณสี่โมงเย็น เค้าก็นำไม้ขึ้นรถให้ จนถึงเวลาประมาณหกโมงเย็น แสงแดดโพ้เพ้ แต่ก็ยังขึ้นไม่เสร็จ ไม้ไม่พอต้องรอขึ้นพรุ่งนี้อีก คุณเสกเลยบอกว่า แล้วจะนอนที่ไหนหละ เค้าบอกว่า เดี๋ยวเข้าไปนอนในหมู่บ้านกับพวกเค้าก็ได้ คุณเสกก็บอกว่า แล้วรถของผมหละ เค้าบอกว่า รถอะจอดไว้นี่ก็ได้ ไม่มีอะไรหรอกพี่ แต่คุณเสกเป็นห่วงรถ เลยถามออกไปว่า พี่มานอนเป็นเพื่อนผมไม่ได้หรอ แต่ก็ไม่มีใครอาสามานอนด้วย


สุดท้ายคุณเสกตัดสินใจนอนในรถคนเดียว ประมาณทุ่มนึง มืดมาก คุณเสกลงไปปัสสาวะแล้วรีบขึ้นมานอน ปิดผ้าม่านรอบรถ เปิดพัดลม แล้วก็หลับ วันนั้นร้อนมาก คุณเสกสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกที เหมือนมีคนมาขย่มรถ ลักษณะเหมือนมีคนเดินขึ้นเดินลงรถ และเสียงดัง ตุ๊บ เหมือนมีคนกระโดดลงจากรถ ทั้งซ้ายทั้งขวา คุณเสกตาสว่างขึ้นมาทันที เลยเอาผ้าห่มคลุมโปง แล้วปิดพัดลมเพื่อไม่ให้มีเสียง เงียบมากจนได้ยินแม้แต่เสียงแมลงที่อยู่ในป่า


ซักพักคุณเสกเปิดโทรศัพท์ดูนาฬิกา เวลาประมาณตีสามกว่าๆ เหมือนมีคนเดินในลักษณะเดิม เสียงเดินรอบรถ สักพักมาหยุดเดินอยู่ที่หน้ารถ แล้วก็มีเสียงผู้ชายคุยกัน แต่จับใจความไม่ได้ คุณเสกเริ่มนึกไปถึงเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ไปประสพมาที่ไร่อ้อย ณ ตอนนั้นคุณเสกทำอะไรไม่ได้เลยเพราะอยู่ในป่าคนเดียว ได้แต่ฝืนนอนแต่ก็นอนไม่หลับ เสียงคุยกันก็ยังดังต่อเนื่องแต่ก็จับใจความไม่ได้ จนกระทั่งคุณเสกได้ยินเสียงนกกระพือปีกดัง พรึ่บ คุณเสกก็เริ่มจับใจความเสียงที่คุยกันอยู่นอกรถได้ความว่า กินมั้ย ไม่ได้กินนานแล้ว พอได้ยินแบบนั้น คุณเสกคิดในใจว่า ยังไงก็ไม่ใช่คนแน่ๆ ได้แต่นอนตัวสั่นคลุมโปงน้ำตาไหลอยู่ในรถ แต่ก็นอนไม่หลับ เพราะเสียงคนเดินอยู่รอบรถ เสียงลมพัดต้นไม้ แต่ในรถร้อนมาก จนคุณเสกหลับไปตอนไหนไม่ทราบได้


ตื่นมาอีกทีตอนเจ็ดโมง คนขึ้นไม้มาเรียก คุณเสกกะจะเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่เล่าให้ฟัง แต่มันอดใจเก็บไว้ไม่ได้ เลยต้องเล่าให้คนขึ้นไม้ฟัง คนขึ้นไม้บอกว่า ที่แรกพวกเค้าก็มาตั้งแคมป์ตรงนี้เหมือนกัน แต่เค้าไม่ใช่คนพื้นที่ มารับจ้างตัดไม้เฉยๆ ก็เจอแบบที่คุณเสกเจอเหมือนกัน เค้าบอกว่า เค้ามากันสิบคน มาตั้งแคมป์ทำงานตัดไม้ กลางดึกปวดปัสสาวะ ก็เดินออกมาปลดทุกข์ เค้าก็เจอในลักษณะเงาคนเดินไปเดินมาในป่า เวลาคืนเดือนหงายมันยังพอจะมีแสงให้มองเห็นได้บ้าง และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด


# Credit


เรื่องสยองขวัญจาก THE SHOCK

เล่าโดย คุณเสก

 

ปี 62 แน่นอน แต่วันไหนใน 365 วัน ยังไม่คอนเฟิร์ม

 

Rodrigo Contreras Lopez


#ปริมาณน้ำในทะเลทราย #อาระเบีย ยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากฝนตกหนักที่ไม่เคยเห็นในรอบหลายร้อยปี 16/11 #climatechange #พายุ #ฝน

 

Rodrigo Contreras Lopez


ตอนนี้; #ไซโคลน _ jaga ทำให้เกิดการทำลายล้างในบางภูมิภาคของอินเดีย มีคนอพยพเป็นพันๆคน

#videos 16/11

 

Rodrigo Contreras Lopez



คำรามเมื่อคืน 14 / 11 ปล่องภูเขาไฟเหนือใหม่ของ #ภูเขาไฟ _ เอตนา ในซิซิลี #อิตาลี hd โดย vincenzo กรีก #วิดีโอ #ภูเขาไฟ

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 16) เบร็กซิท: เมื่อ รมต.-ส.ส.ร่วมพรรคไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายกฯ พวกเขาจะกำจัด เทเรซา เมย์อย่างไร : นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบาก ข้อตกลงเบร็กซิทที่เธอเสนอกับสหภาพยุโรป เผชิญกับเสียงคัดค้านรอบด้าน ทั้งจาก ส.ส.พรรคคอนเซอร์เวทีฟ และพรรคร่วมรัฐบาลอื่น รวมทั้งพรรคฝ่ายค้าน และรัฐมนตรีหลายคนลาออกประท้วง อนาคตทางการเมืองของเธอคืออาจถูกปลดจากตำแหน่ง


การจะปลดนายกรัฐมนตรีอังกฤษต้องใช้กระบวนการอะไรบ้าง

ขณะนี้ พรรคคอนเซอร์เวทีฟเป็นพรรครัฐบาล และหากต้องการจะปลดนางเมย์ออกจากตำแหน่ง ส.ส. สมาชิกพรรคต้องลงออกเสียงลงมติไม่ไว้วางใจ โดยมีกระบวนการดังต่อไปนี้


1. 15% ของ ส.ส. พรรคต้องเรียกร้องให้ลงมติ

ต้องมี ส.ส. พรรคอย่างน้อย 15 เปอร์เซ็นต์เขียนจดหมายเรียกร้องให้มีการลงมติ และหากคิดจากจำนวน ส.ส. พรรคที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะต้องมี ส.ส. อย่างน้อย 48 คนร่วมกันเรียกร้อง ยื่นจดหมายไปยังคณะกรรมการ 1922 หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Conservative Private Members' Committee"


หากนายกรัฐมนตรีชนะในการลงมติ ส.ส. ในพรรคจะไม่สามารถเรียกร้องให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจไปอีกหนึ่งปี แต่หากผลออกมาแพ้ นายกรัฐมนตรีจะต้องลาออก แต่คำถามคือใครจะมาแทนนางเมย์


หากพรรคคอนเซอร์เวทีฟปลดผู้นำตัวเองออก ก็ต้องมีการคัดเลือกผู้นำคนใหม่ซึ่งผู้นำที่ถูกปลดออกไม่สามารถเข้าร่วมได้ โดยปกติแล้ว ส.ส. พรรคจะเลือกตัวแทนขึ้นมาสองคน แต่ด้วยเส้นตายเรื่องเบร็กซิทที่คืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ นี่อาจจะใช้เวลาหลายสัปดาห์

เป็นเรื่องยากมากที่ ส.ส. พรรคจะเห็นตรงกันว่าใครควรจะเป็นผู้นำคนถัดไป หากพิจารณาถึงความแตกแยกที่เกิดขึ้นในพรรคในประเด็นเบร็กซิท และการเลือกผู้นำใหม่อาจยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ขึ้นไปอีก


2. จัดการเลือกตั้งทั่วไปใหม่

ฝ่ายนิติบัญญัติยังสามารถปลดนายกรัฐมนตรีได้เองโดยไม่ต้องหวังพึ่งแรงสนับสนุนจากพรรคคอนเซอร์เวทีฟอย่างเดียว โดยสามารถทำได้สองวิธีด้วยกัน


1. สองในสามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (จากพรรคไหนก็ได้) เสนอญัตติให้มีการเลือกตั้งใหม่ จากจำนวน ส.ส. 650 คน หมายความว่าจะต้องมี ส.ส. 434 คนที่สนับสนุน


2. ส.ส. ขอยื่นญัตติและลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้ หากสำเร็จ รัฐบาลเดิมต้องหมดอำนาจลง และหลังจะนั้นจะมีเวลา 14 วันในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนฯ หากไม่สามารถทำได้ ต้องยุบสภาและจัดการเลือกตั้งทั่วไปใหม่


มาถึงขั้นนี้ หากสภาผู้แทนฯสามารถคว่ำรัฐบาลของพรรคคอนเซอร์เวทีฟไปได้ นางเมย์มีสิทธิ์ที่จะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ และนำทีมสู้ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ต่อ เธอจะหมดอำนาจลงเมื่อมีผู้สมัครอื่นได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนฯ


Source: BBC Thai

https://www.bbc.com/thai/international-46233517


เพิ่มเติม

- No chance for a second Brexit referendum, according to Margaret Thatcher's former advisor: https://www.cnbc.com/2018/11/16/brexit-its-a-done-deal-according-to-former-thatcher-advisor.html


- Brexit: What could happen now and what it could mean for markets: https://www.cnbc.com/2018/11/16/brexit-what-could-happen-now-and-what-it-could-mean-for-markets.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 16) ประธาน ECB ชี้เงินเฟ้อยูโรโซนอาจไม่ดีดตัวขึ้นตามคาด เหตุบริษัทเผชิญปัจจัยไม่แน่นอน: นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณในวันนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อในยูโรโซนจะไม่ดีดตัวขึ้นเร็วตามที่มีการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากบริษัทต่างๆเผชิญกับปัจจัยความไม่แน่นอนมากมาย


"หากบริษัทต่างๆรู้สึกว่ามีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวและเงินเฟ้อ ก็จะทำให้มาร์จิ้นกำไรยังคงถูกกระทบต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดีดตัวของเงินเฟ้อ" นายดรากีกล่าว


ขณะเดียวกัน นายดรากียังได้กล่าวเตือนว่า การชะลอตัวของการค้าโลกจะเป็นปัจจัยถ่วงเศรษฐกิจยูโรโซน


อย่างไรก็ดี นายดรากีกล่าวว่า เศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัวในขณะนี้ เนื่องจากผู้บริโภคพร้อมที่จะใช้จ่าย ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง

นายดรากียืนยันว่า ECB จะไม่เปลี่ยนแปลงแผนการยุติการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 2.5 ล้านล้านยูโรในช่วงสิ้นปีนี้ แต่ ECB พร้อมรับมือภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โดยจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยาวนานกว่าที่คาดไว้ หลังจากที่นายดรากีเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์อย่างน้อยจนถึงฤดูร้อนของปีหน้า


นายดรากีกล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในระยะนี้ ได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เช่น การผละงานประท้วง และการที่ผู้ผลิตรถยนต์ประสบปัญหาจากการที่รถยนต์ไม่ได้รับใบรับรองภายใต้การทดสอบไอเสียแบบใหม่


Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


https://www.cnbc.com/2018/11/16/draghi-inflation-forecast-euro-zone-growth.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 16) CNN ชนะยกแรก หลังศาลให้การคุ้มครองชั่วคราวอคอสตาเป็นผู้สื่อข่าวทำเนียบขาว: ศาลสหรัฐมีคำสั่งให้การคุ้มครองชั่วคราวต่อนายจิม อคอสตา ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นประจำทำเนียบขาว หลังจากที่ถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพิกถอนสิทธิการได้รับบัตรสื่อมวลชนประจำทำเนียบขาว


ทั้งนี้ คำสั่งของศาลดังกล่าวจะทำให้นายอคอสตายังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยขั้นสุดท้ายในคดีที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น และนายอคอสตายื่นฟ้องปธน.ทรัมป์และพวกรวม 6 คนในข้อหาละเมิดสิทธิของนายอคอสตาตามรัฐธรรมนูญด้วยการสั่งพักการใช้บัตรผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวของนายอคอสตา


คำสั่งของศาลในวันนี้ถือเป็นชัยชนะยกแรกของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นในคดีดังกล่าว


สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้ยื่นฟ้องปธน.ทรัมป์และพวกว่าได้ละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 และครั้งที่ 5 จากกรณีที่นายอคอสตาถูกห้ามเข้าทำข่าวในทำเนียบขาว หลังจากที่มีการปะทะคารมกับปธน.ทรัมป์ในวันที่ 7 พ.ย. โดยซีเอ็นเอ็นเรียกร้องให้ศาลประกาศระงับคำสั่งของทำเนียบขาวเป็นการชั่วคราวในการเพิกถอนสิทธิเข้าสู่ทำเนียบขาวของนายอคอสตา จนกว่าศาลจะมีคำตัดสินขั้นสุดท้าย


นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็นยังขอให้ศาลประกาศว่าการเพิกถอนสิทธิการเป็นผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวของนายอคอสตาถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


- Judge orders White House to return Jim Acosta's press pass: https://edition.cnn.com/2018/11/16/media/cnn-trump-lawsuit-hearing/index.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 16) แบงก์ชาติอินโดฯ-ฟิลิปปินส์มีมติขึ้นดอกเบี้ย: สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการแบงก์ชาติอินโดนีเซีย กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นอีกมาตรการหนึ่งของธนาคารกลางในการลดยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลงมาอยู่ในระดับที่ปลอดภัย


นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าวยังมีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างความน่าสนใจของสินทรัพย์ทางการเงินภายในประเทศ ในขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า อัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆทั่วโลกจะปรับตัวสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้


ขณะที่ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีเช่นกัน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 พ.ย.นี้


ทั้งนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 5 ครั้งติดต่อกัน เพื่อควบคุมการคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อ และดูแลเป้าหมายเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบของนโยบาย

นอกจากนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนและเงินฝากด้วยเช่นกัน


Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


- https://www.bloomberg.com/news/arti...es-with-rate-hike-as-currency-remains-a-worry

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 16) จีนยอมอ่อนข้อตามที่สหรัฐเรียกร้อง ตลาดขานรับแม้ยังไม่ชัด 'ทรัมป์' พอใจหรือไม่ - จีนได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับรายการที่จีนอาจจะยอมอ่อนข้อให้กับสหรัฐแล้ว แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด แต่มีรายงานว่าเอกสารของจีนส่วนใหญ่ปรับจากที่รัฐบาลปักกิ่งได้เปลี่ยนแปลงในก่อนหน้านี้ เช่น เพิ่มเพดานการถือหุ้นของต่างชาติในบางอุตสาหกรรม ยังไม่ชัดเจนว่าการตอบสนองของจีนสร้างความพอใจให้แก่ทรัมป์หรือไม่ แต่ข่าวนี้สร้างความยินดีให้กับตลาดการเงินเนื่องจากอาจทำให้เกิดการเจรจาที่จะยุติสงครามการค้าระหว่างสองประเทศได้



แหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐสามคน เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า จีนได้ตอบสนองเป็นลายลักษณ์อักษรต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้จีนปฏิรูปการค้าในหลาย ๆ เรื่องแล้ว และการเคลื่อนไหวของจีนอาจทำให้เกิดการเจรจาที่จะนำไปสู่การยุติสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐได้



อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่จีนตอบไป และยังไม่ชัดเจนว่าการตอบของจีนมีการอ่อนข้อที่จะสร้างความพอใจแก่ทรัมป์หรือไม่



โฆษกกระทรวงการคลังของสหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธว่า ทีมงานของสหรัฐซึ่งนำโดยเดวิด มัลพาสส์ ปลัดกระทรวงการคลังได้หารือในประเด็นการค้ากับทีมงานของจีนผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวันอังคาร



สำนักข่าวบลูมเบิร์กก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวสองคนว่า การให้คำมั่นของจีนในขณะนี้ยังไม่ได้เป็นการปฏิรูปโครงสร้างตามที่ทรัมป์เรียกร้อง และเตือนว่าอีกยาวไกลกว่าที่จะมีการเจรจา ขณะที่แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า กำลังหารือกันอย่างต่อเนื่องและอย่างสร้างสรรค์



แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า เอกสารของจีนส่วนใหญ่ปรับจากที่รัฐบาลปักกิ่งได้เปลี่ยนแปลงในก่อนหน้านี้ เช่น เพิ่มเพดานการถือหุ้นของต่างชาติในบางอุตสาหกรรม แต่ไม่ได้ให้คำมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายอุตสาหกรรมอย่างเช่นนโยบาย “Made in China 2025” ที่รัฐบาลวอชิงตันได้หาทางเรียกร้อง



ผู้ที่ใกล้ชิดกับการเจรจาสองคนยังกล่าวว่า ข้อเสนอของจีนเป็นสัญญาณว่าการหารือระหว่างสองฝ่ายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ อย่างไรก็ดี ทั้งโฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐและกระทรวงการต่างประเทศของจีนไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการส่งเอกสารของจีน



แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า การส่งข้อเสนอของจีนทำให้เกิดความสงสัยว่าทรัมป์และสีจะทำข้อตกลงที่จะมีสาระสำคัญอย่างไรเมื่อผู้นำทั้งสองพบกันในปลายเดือนนี้ ในการประชุมนอกรอบการประชุมจี 20 ที่อาร์เจนตินา



สหรัฐได้กล่าวว่าจะไม่เริ่มต้นเจรจาการค้าจนกว่าจะมีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมจากจีนเพื่อแก้ไขความกังวลของสหรัฐ และเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากที่ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับสี ทรัมป์ กล่าวว่า เขาคิดว่าสหรัฐจะทำข้อตกลงกับจีนเรื่องการค้าแต่ก็พร้อมที่จะเก็บภาษีสินค้าจีนอีกหากไม่มีความคืบหน้า



อัตราภาษีที่สหรัฐเก็บต่อสินค้าจีนในวงเงิน 200,000 ล้านดอลลาร์จะเพิ่มจาก 10% เป็น 25% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม และทรัมป์ยังได้ขู่ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีกประมาณ 267,000 ล้านดอลลาร์ หากรัฐบาลปักกิ่งไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐได้



ทั้งสองประเทศเริ่มหารือกันหลังจากที่ผู้นำทั้งสองสนทนาทางโทรศัพท์เพื่ออุดรอยร้าวที่มีมานานสามเดือนจนความสัมพันธ์ถดถอยลงเมื่อสหรัฐกล่าวหาว่าจีนแทรกแซงการเมืองภายในประเทศและหาทางบั่นทอนทรัมป์



รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ได้กล่าวเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลปักกิ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามเย็นใหม่กับสหรัฐ



สัญญาณที่จีนและสหรัฐอาจจะมีความคืบหน้าที่จะยับยั้งการพิพาทการค้าได้สร้างความยินดีให้กับตลาดการเงิน โดยตลาดหุ้นในเอเชียปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้แม้ว่าราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงอีกเพราะมีความกังวลว่าตลาดน้ำมันโอเวอร์ซัพพลาย


Source: ข่าวหุ้น


- Exclusive: China offer unlikely to spur major trade breakthrough - senior U.S. official

https://www.reuters.com/article/us-...breakthrough-senior-us-official-idUSKCN1NK2UA

 

น้ำมันขึ้นหลังซาอุฯกดดันโอเปกลดกำลังผลิต ดาวโจนส์,ทองคำพุ่ง
เผยแพร่: 17 พ.ย. 2561 05:32 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์(16พ.ย.) ตามความคาดหมายว่าโอเปกจะเห็นพ้องลดกำลังผลิตในเดือนหน้า ส่วนดาวโจนส์พุ่งแรงหลังประธานาธิบดีทรัมป์แย้มอาจไม่รีดภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติม ขณะที่ทองคำดีดตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม คงที่ ปิดที่ 56.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 14 เซ็นต์ ปิดที่ 66.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ซาอุดีอาระเบียยักษ์ใหญ่ของโอเปกประสงค์ให้พวกชาติผู้ผลิตหลักๆปรับลดกำลังผลิตน้ำมันดิบลง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือราว 1.5% ของอุปทานน้ำมันโลก เพื่อสนับสนุนตลาด อย่างไรก็ตามพวกชาติผู้ผลิตอื่นๆ ในนั้นรวมถึงรัสเซีย ลังเลที่จะตัดลดกำลังผลิต

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันศุกร์(16พ.ย.) โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ดีดตัวขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่าบางทีสหรัฐฯอาจไม่กำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติม

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 123.95 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,413.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.07 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,736.27 จุด แนสแดค ลดลง 11.16 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,247.87 จุด

ทั้ง 3 ดัชนีแกว่งตัวสู่แดนลบในช่วงต้นของการซื้อขาย หลังแนวโน้มผลประกอบการระดับต่ำจากอินวิเดีย คอร์ป ฉุดหุ้นกลุ่มผลิตผลิตชิป ขณะที่หุ้นของแอปเปิลยังคงดิ่งลงต่อเนื่อง หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับแนวทางรับมือการโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของพวกเขา

อย่างไรก็ตามวอลล์สตรีมฟื้นคืนชีพหลังจากนั้น เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าดูเหมือนจีนจะมีความตั้งใจบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ และบางทีอเมริกาอาจไม่กำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก

ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์(16พ.ย.) พุ่งแรง ความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,223 ดอลลาร์ต่อออนซ์

https://mgronline.com/around/detail/9610000114690

 

มาโนชญ์ อารีย์ เพจติดตามสถานการณ์โลกมุสลิม


CIA สรุปว่า MBS เป็นคนสั่งฆ่า Khashoggi

 

“ซีไอเอ” ฟันธง เจ้าชายบินซัลมาน “สั่งฆ่า” คาช็อกจี
โดย กองบรรณาธิการ - 17 พฤศจิกายน 2018

credit (Amir Levy/Reuters)
“โมฮัมหมัด บินซัลมาน”เจ้าชายมกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย คือคนสั่งให้ฆาตกรรม “จามาล คาช็อกจี” ซีไอเอ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 พ.ย.)

รายงานของวอชิงตันโพสต์ระบุ “สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ” หรือ “ซีไอเอ” (CIA) ได้เก็บรวบรวมข้อมูลข่าวกรองจากหลายแหล่ง ซึ่งสรุปได้ว่า เจ้าชายมกุฎราชกุมารซาอุฯ “โมฮัมหมัด บินซัลมาน” คือคนออกคำสั่งให้ฆาตกรรม

วอชิงตันโพสต์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ ได้แสดงความมั่นใจอย่างสูงในการประเมินของ “ซีไอเอ” ซึ่งเป็นที่ชัดเจนมากที่สุดจนถึงตอนนี้ว่า การสังหารนี้เชื่อมโยงกับผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย และทำให้เกิดความยุ่งยากในการพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับหนึ่งในพันธมิตรของอเมริกันที่ใกล้ชิดที่สุดในภูมิภาคนี้

หนึ่งในบรรดาแหล่งข้อมูลข่าวกรอง คือ โทรศัพท์ระหว่าง คาช็อกจี และ คาลิด บินซัลมาน – ทูตซาอุดีอาระเบียประจำสหรัฐอเมริกาและเป็นน้องชายของโมฮัมหมัด บินซัลมาน โดยคาลิด บอกกับคาช็อกจี ว่า เขาควรจะไปที่สถานกงสุลอิสตันบูลเพื่อขอเอกสารที่เขาต้องใช้สำหรับการแต่งงานใหม่

แหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองสหรัฐบอกกับวอชิงตันโพสต์ว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าคาลิดรู้เรื่องเกี่ยวกับการฆาตกรรมนี้หรือไม่ก็ตาม แต่พวกเขาก็แสดงความมั่นใจว่าคาลิดได้โทรศัพท์หาคาช็อกจีตามคำร้องขอของโมฮัมหมัด บินซัลมาน

https://www.publicpostonline.net/19278