เรื่องเด่น ตามรอยหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ (กลุ่มหลวงพ่อเงิน)

ได้มาใหม่ รบกวนด้วยครับ

 

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล บางครั้งการออกความเห็นของผมก็เกิดการผิดพลาดได้ครับต้องขออภัย เพราะไม่เห็นองค์จริง ข้อผิดพลาดจะสูงมาก
กล่าวกันที่ว่า กรุ (กุ) กรุวัดเขาพระใต้ ที่ว่าทันหลวงปู่นั้น (ที่เค๊าโฆษณากันในเวฟ) ย้อนไปดูเงินที่ใช้ในสมัยนั้นกัน เงินในสมัยนั้น จะเป็น พดด้วง เป็นเงินตราของไทยโบราณ ใช้แลกเปลี่ยนหมุนเวียนในประเทศไทยเป็นเวลายาวนาน ตั้งแต่กรุงสุโขทัย อยุธยาจนถึง กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยทำจากแท่งเงินบริสุทธิ์ตามน้ำหนักพิกัดของราคา ทุบปลายทั้งสองข้างให้งอเข้าหากัน มีรูปร่างคล้ายลูกปืนโบราณ จนมีการประกาศยกเลิก วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2447 จากนั้นก็เป็นยุกของเหรียญ หรือเทียบเคียงกับ เหรียญเงินในรัชการที่ 5 ครับ ลักษณะของสนิมเงินจะเป็นอย่างไร ลักษณะสนิมที่มีส่วนผสมของสังกะสีจะเป็นอย่างไร
ทำไมราคาเช่าบูชา กุเขาพระใต้ถึงถูกมากเมื่อเทียบกับ กรุอื่นๆ ของหลวงปู่ ไม่ลองแกล้งไปปล่อย กับเซียนพระที่เล่นหาหลวงปู่ดูครับ หรือลองไปปล่อยในเวฟหน้ากระดานหลักๆ ของหลวงพ่อเงินดูครับ อีกวิธีเอาองค์พระไปออกใบประกาศรับรองนี่ก็น่าสนุกครับ มีน้องท่านนึงเค๊าบอกว่าจะไปเช่ากรุเขาพระใต้มาลองล้างดู ในราคา 50 บาท ท่านใดชอบก็เก็บไว้แยะๆ นะครับ




ผิดพลาดตรงไหน ขอรับผิดเพียงผู้เดียวครับ

 

สวัสดียามบ่ายครับ
เหมือนจะเฮ ส่องอีกเหมือนจะฮา เลย เฮเฮ ฮาฮา

 

จาก อัมรินทร์ ปริ้นติ้ง

 

เคยเห็นองค์นึงครับหยิบไม่ทันเค๊า อดเลย แต่นานมาแล้วและเป็นองค์เดียวกันเลย เพราะผมเซฟรูปไว้

 

(deejai)(deejai)ขำกลิ้งเลย เนื้อนะยะเป็นเคลือญาติกับเนื้อนะวะ เจ๊ตุ้ม นี่มุขแน่นอนจริง .........พระแบบนี้เชียรให้ตายก็เชียรไม่ขึ้นหลอกครับ กรุเขาใต้เขาเหนืออะไรเนี่ย เห็นสภาพพระก้รู้แว๊วว่าเก๊ตาป่าว เซียนคนไหนมารับรองว่าแท้ เลิกคบเซียนคนนั้นได้เลยครับ ขออภัยเจ๊ตุ้ม ผมชอบ หวดตรงไปตรงมาครับ(smile)(smile)

 

วันนี้พึ่งพุทธคุณจอบใหญ่ครับ เลยได้แบบนี้

 

ขอบคุณมากครับ อาจารย์ เจ๊ตุ้ม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่ผมมีข้อสังเกตุนิดนึงครับว่า กรุนี้เพื่อนผมที่เป็นช่างทองบอกว่า โลหะที่ใช้มากกว่ามูลค่าของตัวพระที่ให้เช่ากัน เพราะครั้งหนึ่งเพื่อนผมเคยได้เนื้อทองคำมา และนำมาพิสูจน์ตามประสาช่างทองก็ปรากฏว่าเป็นทองบริสุทธิ์ผสมอยู่มากพอสมควร กรุนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ (ที่หลุดมานอกพื้นที่ก็มีครับ แต่ปลอมซะส่วนใหญ่ และเป็นโลหะไม่มีค่า อย่างที่อาจารย์เจ๊ตุ้มบอก)ซะมากกว่าในตลาด และตลาดก็ไม่นิยมเพราะประวัติการสร้างไม่ซัดเจน เพราะประวัติมีแค่ว่าหลวงพ่อเงินเคยมาจำพรรษา และวางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญที่วัดนี้ (วัดศรีพรหมจริยาวาสดิ์) ยังไงผมก็ขอขอบคุณ อาจารย์เจ๊ตุ๊มอีกครั้งด้วยครับสำหรับข้อมูล

 

โชคดีมากครับ ผมซื้อต่อใบละ120เอามั้ยครับ ได้กำไรทันทีใบล่ะ10บาท. อิอิ

 

----------

 

----------

 

หลวงพ่อเงินปี 15 เนื้ออัลปาก้า พิมพ์คอแอล (นิยม) พร้อมกับจุดตาย !!!! ที่คุณควรรู้

พิธีมหาพุทธาภิเษก พระหลวงพ่อเงิน ปี 15 บันทึกไว้ว่า การลงอักระแผ่นโลหะที่นำมาเป็นชนวนเนื้อพระ ได้มาจากพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศ จำนวน 74 รูป นำไปหลอมและปั๊มเป็นรูปเหมือน และเหรียญ แล้วนำไปเข้าพิธีปลุกเสก ณ วัดสุทัศน์ในวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2514 โดยนิมนต์พระคณาจารย์จากทั่วประเทศรวม 127รูป จากนั้นได้นำไปเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้ง ณ วัดหิรัญญาราม เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2515 โดยมีพระคณาจารย์ร่วมพิธี 96 รูป
***** ลักษณะรูปเหมือนปั๊ม หลวงพ่อเงิน บางคลาน ปี 15 เป็นรูปเหมือนปั๊มแบบปั๊มเครื่อง ด้านในองค์ บรรจุเม็ดกริ่ง ฐานกว้างประมาณ 1.8 ซม. สูงประสาณ 2.5 ซม. มีด้วยกัน 2 เนื้อ คือ เนื้อทองเหลือง
และเนื้ออัลปาก้า
***** ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อเงิน นั่งสมาธิบนฐานเขียงเตี้ยๆ คล้ายกับรูปหล่อหลวงพ่อเงินยของเก่า แต่เนื่องจากเป็นพระ"ปั๊ม" จึงปรากฏรายละเอียดต่างๆ คมชัด มีเส้นจวรที่หน้าอก 3 เส้น และเส้นชายจีวรที่ซอกแขนซ้ายรวม 7 เส้น
***** ใต้ฐาน จะทำการตอกโค๊ต "๑๔/๑๕ แต่เนื่องจาก...ทำการตอกโค๊ตไปเรื่อยๆ ทำให้โค๊ตเกิดความเสียหาย ฉะนั้น รูปเหมือนปั๊มรุ่นนี้ ในบางองค์จะมีโค๊ต บางองค์ไม่มีโค๊ตตอกไว้ เพราะโค๊ตพังแล้ว นั่นเอง
***** จุดพิจารณา รูปเหมือนปั๊ม หลวงพ่อเงิน ปี 15 พิมพ์คอแอล *****
1. ในระหว่างแก้ใขวาองค์พระ และใบหูขวา จะปรากฏเม็ดกลมเล็กๆ ลักษณะเหมือน "เม็ดสิว"
2. ลำคอด้านขวาองค์พระ แตกเป็นเส้นตรง ตั้งฉาก เหมือน "ตัวแอล" เป็นเอกลักษณ์ของพิมพ์
3. ลายเส้นจีวรเส้นกลาง จะแตกอกเป็น 2 แฉก
4. มี "ติ่ง" แหลม วิ่งขึ้นจากแข้งขวา ตรงแนวเส้นสบง
5. มีร่องแตกเป็น 2 แฉก บริเวณโหนกแก้มซ้ายองค์พระ ใกล้จมูก
6. มี " เส้นแตก" ตัดเป็นรูปกากบาท ในร่องหูซ้ายองค์พระ
7. ในซอกแขนซ้ายองค์พระมี "เส้นนูน" พาดเฉียงขวางอยู่

 

ขออนุญาต พี่เจ๊ตุ้มนะครับ ลงกันลืม
ข้อมูลจากหลวงพ่อเงิน.com
-----------ประโยชน์ในการศึกษา แสวงหาครับ
จุดสังเกตสำคัญในพระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน

พระเครื่องรูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลานขนาดพิมพ์หัวหลิม บางท่านแบ่งเป็นพิมพ์ชายติดกับพิมพ์ชายห่าง โดยสังเกตจากชายจีวรในองค์พระและอาจจะมีการแบ่งเป็นพิมพ์อื่น ๆ อีก ซึ่งจะขอยกไว้ไม่นำมากล่าวในที่นี้ แต่ขอจำเฉพาะลายระเอียดสำคัญที่พระหลวงพ่อเงินพิมพ์นิยมควรจะมีเหมือน ๆ กัน รวมทั้งข้อสังเกตสำคัญในเนื้อหาหรือกระแสโลหะผสมที่ถือว่าเป็นจุดสำคัญหลัก หรือ จุดตายในการพิจารณา

จะขอกล่าวถึงตำหนิจุดเป็นจุดตายที่ใช้พิจารณาพระพิมพ์นิยม เคยมีผู้ชี้ตำหนิไว้มากกว่า 20 จุด แต่เนื่องจากต้นแบบหรือการปั่นหุ่นแกะหุ่นนั้นกระทำโดยคน
ๆ เดียว (คุณยายวัน สุทัศน์ ณ อยุธยา ช่างปั่นหุ่น)
รายละเอียดพิมพ์ทรงโดยรวมจึงเหมือนหรือคล้ายกันแตกต่างกันก็แต่รายละเอียดอันอาจจะเกิดจากการแต่งหุ่นเทียนและการเทหล่อโลหะที่ทำให้เกิดร่อง
รอยของโลหะที่ขาดและเกินแตกต่างกันไปบ้าง เพราะพระพิมพ์นี้ใช้วิธีหล่อแบบเบ้าทุบติดช่อหล่อทีละองค์ จึงมีความละเอียดกว่าแบบการ
หล่อเบ้าหกพิมพ์ประกบของพระพิมพ์ขี้ตา พระพิมพ์นิยม จึงมีความเรียบร้อยสวยงามไม่มีตะเข็บข้างให้เห็น

ตำหนิจุดเป็นจุดตาย ( จุดเป็นคือตำหนิที่ควรจะมี ซึ่งบางองค์อาจไม่มีก็ได้ ส่วนจุดตายคือจุดสังเกตสำคัญที่ต้องมีหากไม่มีจะเป็นพระดูยาก ) จุดสังเกตด้านพิมพ์ทรงสำคัญทั้งพิมพ์นิยมและพิมพ์ขี้ตามีตั้งแต่บริเวณ ศรีษะ หน้าผาก คิ้ว ตา จมูก คางหัวไหล่ หน้าอก แขน ขา และตามจีบริ้วจีวรในองค์พระ

แต่จุดที่สำคัญกว่า.... ที่จะขอนำมาบอกกล่าวนั้น ไม่ใช่ตำหนิพิมพ์ทรงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของแร่ธาตุสำคัญบางอย่างที่อยู่ในกระแสโลหะผสมในพระรูปหล่อหลวงพ่อเงินที่ยังไม่มีใครเลียนแบบได้ เป็นจุดตายยากต่อการปลอมแปลง นักสะสมระดับแนวหน้าทั้งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และในวงการบางท่านเก็บเป็นความลับเฉพาะตัวใช้เป็นหลักในการพิจารณาพระเครื่องหลวงพ่อเงินมานานแล้ว นั่นคือนอกจากกระแสโลหะผสมหลายอย่างทำให้ผสมกลมกลืนแตกต่างจากพระทองเหลืองทั่วไป สนิมของพระหลวงพ่อเงินส่วนหนึ่งจึงออกน้ำตาล กระแสแบบทองดอกบวบ เพราะมีส่วนผสมของทองคำแน่นอนประการสำคัญในกระแสโลหะผสมนี้เชื่อกันว่ามีแร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์ ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระเครื่องเมืองพิจิตรผสมอยู่อาจเป็นแร่เหล็กน้ำพี้ หรือผงแร่เหล็กไหลก็อาจเป็นไปได้

ร่องรอยแร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์นี้ เมื่อนำพระหลวงพ่อเงินแท้ ๆ มาส่องดูอย่างละเอียด ส่วนใหญ่จะพบว่ามีอยู่ตามผิวจริงไม่มากก็น้อย นักสะสมพระหล่อโบราณบางท่านแสดงทัศนะว่าอาจเป็นคราบเศษเบ้าดินที่หลุดออกจากดินนวลหุ้มหุ่นเทียนเข้าไปในเนื้อพระ แต่คนพิจิตรส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นแร่ศักดิสิทธิ์ที่ผสมลงไปไม่ใช่คราบเศษเบ้าดินเพราะมีขนาดสันฐานแตกต่างกันไป ที่พบเห็นเป็นสีเทาปนน้ำตาลเข้มคล้ายแร่เหล็กมีความแข็งในตัวและทนไฟ

นี่คือจุดสังเกตสำคัญอีกจะหนึ่งในพระรูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ซึ่งแม้จะไม่ใช้ข้อยุติเด็ดขาดแต่หวังว่าท่านผู้อ่านและผู้สนใจทั่วไปจะใช้เป็นข้อมูลในการต่อยอดองค์ความรู้ในการศึกษาพระเครื่องหลวงพ่อเงินต่อไปไม่มากก็น้อย

 

เรื่องการหลอมโลหะ...เพื่อนลองหาอ่านดูในหน้าต้นๆนะจ๊ะ

การหลอมโลหะเพื่อสร้างพระเรามีเทคโนโลยีระดับชาวบ้านๆมาแต่โบราณแล้ว
ขนาดปืนใหญ่ของชาวบางระจันเรายังหล่อได้(แต่ไม่แกร่งพอ)...ดังนั้นเรื่องหล่อพระนะ..สบายมาก...เช่นเดียวกันเมื่อหล่อพระแท้ได้..พระเลียนแบบก็ย่อมทำได้มาตั้งแต่นานแล้ว...สำหรับเรื่องกรุวัดเขาพระใต้..จำได้ว่าเคยเขียนเฉลยข้อข้องใจเพื่อนๆไปครั้งนึงแล้ว..(จำไม่ได้ว่าตอบเวบไหนหว่า)...สรุปว่าคนในพื้นที่เชื่อว่ามีทั้งแท้และเทียม..คือทีแรกๆที่แตกกรุเมื่อปี 53 เชื่อกันว่าแท้ เพราะได้มาจากวัดเขาพระใต้เลย...แต่ที่มาทำเสียชื่อก็ตอนปี 55 ที่มีการมาโปรโมทเปิดขายที่วัดอื่น ..มีข้อมูลของการยัดกรุ...ลักษณะพระเนื้อโลหะสดใหม่(อันนี้เคยเห็นกับตาเลย..หยิบดูแล้วก็วางไว้ที่เดิม)...ฯลฯ...สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่ศรัทธาส่วนบุคคลแล้วหละครับ...ถ้าได้รับมาแล้ว..เชื่อมั่นและศรัทธาซะอย่าง...อมลูกกบไว้ในปาก..ลูกกบดิ้นยังคิดว่าของขึ้น...โดนยิงไม่เข้าซะงั้น.....ผมมีข่าวเก่าๆที่คัดลอกเก็บไว้จากเวบดีเด็ดดังปัจจุบันหาไม่เจอ..น่าจะปิดไปแล้ว...(ดังนั้นชื่อวัดและพระที่เกี่ยวข้อง..ต้องขอตัดออกไป..เพราะขาดแหล่งยืนยัน)........

พระกรุเขาพระใต้ มีการแตกกรุเมื่อ 23 ตุลาคม 2553 สาเหตุการแตกกรุมาจากการรื้อถอนศาลาการเปรียญหลังหนึ่ง ที่วัดเขาพระ ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ซึ่งมีประวัติว่า เมื่อปี พ.ศ.2460 หลวงพ่อเงินได้ไปเป็นประธานในการสร้างศาลาฯในสมัยนั้นเพื่อใช้เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนธรรมของภิกษุ สามเณร ซึ่งตอนแตกกรุใหม่ๆก็เป็นข่าวดังในพิจิตรตอนนั้น..และแล้วในปีนี้(2555)กลับมาดัง(อย่างน่าครางแคลงใจ)อีกครั้งเพราะมีการเปิดให้เช่าบูชาโดยวัด.......สาเหตุที่ทำให้น่าแคลงใจก็เพราะสงสัยกันว่าจะมีการทำพระเสริมลงกรุ...ลองอ่านข้อความที่ผมขอถือโอกาสขออนุญาตคัดลอกจากเวบ “ดีเด็ดดัง” มาให้เพื่อนๆได้อ่าน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันนะครับ......................................................................................
........ “ ขึ้นชื่อว่ากรุพระแตก ต่อให้เป็นเวลาเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง ไม่เป็นอุปสรรคของผู้ที่ชื่นชอบเกี่ยวกับพระกรุ ยิ่งหากเป็นพระหลวงพ่อเงินด้วยแล้ว พูดง่ายๆมืดฟ้ามัวดินแน่ๆ ดูได้จากรูปภาพที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ลงไว้และได้นำภาพมาลงให้ดู เป็นบรรยากาศของกรุพระแตกเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2553 ที่วัดเขาพระ ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร หากเป็นรายละเอียดแค่นี้คนในวงการที่ชื่นชอบเกี่ยวกับหลวงพ่อเงิน ต่างรู้กันหมดแล้ว พูดง่ายๆรู้กันตั้งนานแล้วลุง แต่ที่นำมาลงรายละเอียดให้อ่านดูกันในครั้งนี้ เป็นเรื่องราวของผู้ที่ไปเช่าพระจากวัดจำนวนหลายราย แล้วนำมาเล่าให้ฟังกัน จึงเก็บรายละเอียดมาเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์ของผู้ที่คิดจะไปเช่าบูชาได้รู้ เท่าทันของเหลือบในวงการพระพุทธศาสนา
เรื่องมีอยู่ว่า มีผู้ที่ไปเช่าพระเป็นไหจากวัดๆหนึ่งอย่าไปบอกใครน่ะว่าเป็นวัด........อยู่ที่ จ.พิษณุโลก ได้นำพระหลวงพ่อเงินที่แตกที่วัดเขาพระใต้ ตั้งแต่เมื่อปี 53 มาเปิดให้พุทธศาสนิกชนที่มีความชื่นชอบศรัทราในหลวงพ่อเงินได้เช่าบูชา หากเช่ามาเพียงองค์เดียว สององค์ หรือสามองค์ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ปัญหาเกิดเนื่องจากมีผู้ไปเช่าหลายรายไปเช่ามาเป็นไห พูดง่ายๆ เช่าแบบผู้ที่มีความละโมภ จึงโดนทางวัดที่จับทางได้อยู่แล้วกับพวกที่ชอบเช่าพระแบบนี้ จึงมีการกระทำที่คิดว่าแนบเนียนแล้วมาหลอก ทำให้เป็นที่เสื่อมเสียกับชื่อเสียงของวัดนี้ ทุกรายที่ไปเช่าบูชามาจากวัดห้วงกระได ต่างยอมรับกันว่าเป็นพระแท้ที่แตกกรุที่วัดเขาพระ เมื่อปี 53 แต่ไม่ยอมรับเรื่องลักษณะของพระที่บรรจุอยู่ในไห เขาว่าจะให้ยอมรับได้อย่างไรละครับ ก็ไหพระที่เช่ามาจากวัด เมื่อเขาหรือเธอที่ไปเช่าบูชามา เมื่อไปเปิดดูที่บ้านช่างผิดจากลักษณะของพระกรุ ที่บรรจุไว้ เพราะพระที่บรรจุอยู่ในไห หากยังไม่มีการไปยุ่งเกียวกับไห พูดง่ายๆไปเอาพระออกมาทั้งหมดแล้ว ดินที่อยู่ในไหจะมีลักษณะแน่นมากและเป็นคราบๆ หากมีเศษหญ้าก็จะแห้งสนิทเป็นเนื้อเดียวกับดินที่อยู่ในไห แต่ไหพระที่ไปเช่าบูชาจาดวัดนี้มา ดินจะร่วนพร้อมกับมีดินปนเป็นก้อนๆ มีเศษหญ้าซึ่งเหมือนกับหญ้าที่พึ่งโดนแดดเผาแห้งไม่นาน เมื่อยกไหขึ้นเทคว่ำลง ทั้งดินทั้งพระจะไหลลงออกมานอกไหเกือบทั้งหมด นี่แหละครับจึงเป็นข้อคิดเ้อะใจของผู้ที่ไปเช่าบูชาหลวงพ่อเงินจากวัด.......มา พูดง่ายๆมีการย้อมแมวกันอีกครั้งหนึ่ง โดนการเอาพระออกจากไหแล้วทำการบรรจุลงไปใหม่ โดยมีการเอาคัดเลือกเอาพระที่คิดว่าราคาน่าจะแพงออก แล้วทำการบรรจุลงไปใหม่แถมยังมีจำนวนน้อยผิดปกติพระที่บรรจุไว้ในไห มีการเล่าต่อกันว่า เซียนใหญ่มากๆของเมืองไทย ไปเช่าบูชามารายละ 10 ไห พูดง่ายๆ งานนี้กลืนเลือดแล้วทำเงียบเนียน แต่ระดับเซียนแล้ว ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอกครับ เขาแห่เพียงแป๊บเดียว ขายได้องค์ สององค์ ก็คืนทุนแล้ว ห่วงก็แต่พวกระดับล่างนั่นแหละ รวยก็ไม่รวย หวังจะรวยกับเขามั่ง แหม!!! ช่างหลอกกันได้ ขนาด...นะเนี่ย หากเป็นคนธรรมดาจะขนาดไหน เป็นๆยังหลอกขนาดนี้ ถ้าตายแล้วจะเฮี้ยนขนาดไหน ยังหนุ่มยังแน่นยังเป็นขนาดนี้ หากผมสองสีจะขนาดไหน ท่านว่าจริงไหมครับ จ้าววว นายยยย .......”
…………………………………………………………………………………………………………….
เท็จจริงประการใดเพื่อนๆโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลด้วยครับ....
ความเห็นส่วนตัวของผม (bhothale) ....ข้อที่น่าแคลงใจของผมคือปี พ.ศ.2460 ที่บอกว่าหลวงปู่ไปเป็นประธานในพิธีฯ ซึ่งตอนนั้นอายุหลวงปู่น่าจะเป็นอุปสรรคมากในการเดินทางไกล(สำหรับสมัยนั้น หลวงพ่อเงินเกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน ๑๐ ปีฉลู ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๓๔๘ ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์เดือน ๑๐ แรม ๑๑ ตรงกับวันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๒ รวมอายุได้ ๑๑๑ ปี พรรษาที่ ๙๐ ..แสดงว่าท่านไปเป็นประธานเมื่อตอนอายุได้ 109 ปี...!!!!!)....แต่..ผมก็มีเก็บไว้ 2 องค์..อิอิ..เผื่อเหนียวไว้บ้าง...กันตกรถไฟ...และรับจากมือเจ้าอาวาสวัดเขาพระใต้เลย...ร่วมทำบุญไปตามกำลังศรัทธา..ไม่ได้ถูกเรียกเป็นหมื่นๆพันๆอย่างที่เขามาโฆษณาขายกันเมื่อปีที่แล้ว(2555)หรอกครับ...แนบท้ายด้วยรูปเวบที่ผมเคยไปเอาข้อมูลมา กับภาพข่าววันกรุ(หรือกุ)แตก...เชิญใช้วิจารณญาณกันตามสะดวกครับ

 

QUOTE=psom;7942269]----------
[/QUOTE]

ฮ่าๆๆ.... ท่านพี่psomครับ ช่วยกรุณานำตำหนิพระสมเด็จวัดระฆัง มาฝากที่กระทู้ข้างๆไว้บ้างก็ดีนะครับ ได้ยินข่าวว่าท่านเสด็จมาเยือนท่านพี่แล้วนี่ครับ ยินดีด้วย จากใจจริงครับ(f)(f)(f)[

 

โอ.....งั้นงวดหน้าขอตามท่านพี่บ้างนะครับ อย่าลืมบอกกันด้วย(kiss)(kiss)(kiss)

 

ถ้าจริงก็ดี นะครับ พี่ 24hrs

ฮ่าๆๆ.... ท่านพี่psomครับ ช่วยกรุณานำตำหนิพระสมเด็จวัดระฆัง มาฝากที่กระทู้ข้างๆไว้บ้างก็ดีนะครับ ได้ยินข่าวว่าท่านเสด็จมาเยือนท่านพี่แล้วนี่ครับ ยินดีด้วย จากใจจริงครับ(f)(f)(f)[[/QUOTE]

---------
ยังก้ำกึ่งครับท่าน ถ้า ใช่ก็ดี นิ

 

เยียมครับ

 

สบายๆ วันอาทิตย์
เห็นรูปในโลกไซเบอร์ครับ

 

วิจารณ์องค์นี้กันหน่อยครับ

ตามที่ตาของท่านเห็น ตามความคิดเห็นของท่าน ไม่ต้องเกรงใจครับ รับได้ทุกความคิดเห็น จัดเต็มมมมมม ได้เลยครับ