ตามรอยบาท หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก "พระอริยสงฆ์แห่งหริภุญไชย"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ลูกพ่อลิงดำ, 5 เมษายน 2010.

  1. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]
    คลิกขยายภาพ


    …………เมื่อลูกแก้วหายไปแล้ว ผมก็ยอมแพ้ความ เลิกสู้ความเสียดื้อ ๆ ยึดเอาหลัก “อภัยทาน” เป็นที่ตั้ง มุมานะก้มหน้าก้มตาพากเพียรสร้างสมคุณงามความดี ชั่วก็มีบ้าง แต่ได้พยายามมีให้น้อยที่สุด ผมได้ก้าวหน้าในชีวิตราชการมาเรื่อย ๆ แม้จะเทียบเทียมกับบรรดาเพื่อนฝูงชั้นแนวหน้าไม่ได้ แต่ก็สามารถรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้โดยตลอด แม้บางครั้งกว่าจะรอดก็อึแทบจะเล็ดก็ตาม



    <DD>ในที่สุดลูกทั้งสองคนก็กลับมาอยู่กับผม ศัตรูที่เคยพรากลูกผมไปนั้น ก่อนเขาจะตาย เขายกมือไหว้ขอโทษผมได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว คนที่จะเอาส้นสูงเคาะกระบาลผมระเห็จไปอยู่ต่างประเทศ ไปทำงานเป็นขี้ข้าเขาด้วยความสมัครใจ ทั้ง ๆ ที่มีทรัพย์สมบัติอยู่ในเมืองไทยนับสิบล้าน


    <DD>เจ้ากุนซือคนที่แนะนำให้โกงทรัพย์สมบัติที่ผมควรจะได้ เมื่อคุณพ่อของผมถึงแก่กรรมไปแล้วอย่างไม่ละอายต่อบาป ทำให้ทรัพย์มรดกที่ควรอย่างยิ่งที่จะต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผม ต้องถูกยื้อแย่งไปโดยการกระทำเยี่ยงฝูงสัตว์ในอเวจีมหานรก และผมก็เฉยเสียไม่ต่อสู้ เพราะผมได้ฝันถึงหลวงปู่ทืม ฯ มาทำภาพในอดีตชาติให้ผมได้เห็นว่า


    <DD>ผมกับคนกลุ่มนี้ได้สร้างเวรก่อกรรมทำเข็ญต่อกันมานานแสนนาน ซึ่งผมรู้สึกว่า เป็นสิ่งที่น่าเบื่อเสียนี่กระไรที่จะต้องไปต่อสู้กับกลุ่มคนที่ไร้คุณภาพทางศีลธรรมอย่างนั้น และช่างไร้ค่าสำหรับผมเสียจริง ๆ


    <DD>สิ่งที่ยืนยันและสร้างความเชื่อมั่นในจิตใจของผมว่า ที่หลวงปู่ทืม ฯ มาเล่าในฝันของผมนั้นน่าคิด น่าพิศวงก็ตรงที่ว่า เจ้ากุนซือแก่คนที่เป็นต้นคิดให้คนกลุ่มนั้นยื้อแย่งประโยชน์ไปจากผมอย่างหน้าด้าน ๆ ได้รับบทเรียนหรือการตักเตือนจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปอย่างเบาะ ๆ ก็คือ ตาแก่คนนี้รับอาสาอาราธนาศีลและพระปริตรแทนผม ในวันงานทำบุญหลังจากที่ได้ลอยกระดูกคุณพ่อผมเสร็จสรรพไปแล้ว จึงจะต้องรับศีลจากพระสงฆ์ด้วย


    <DD>ปรากฏว่า พอพระท่านให้ศีลถึงข้ออทินนาทานากับข้อมุสาวาทา ตะแกรับศีลสองข้อนี้ออกมาไม่ได้ อึกอัก ๆ อยู่อย่างนั้นจนหน้าเขียวหน้าหลือง กว่าจะหลุดปากออกมาได้แต่ละคำ ทั้ง ๆ ที่พระสงฆ์ท่านก็บอกซ้ำให้ตั้งหลายครั้ง แกก็พูดไม่ออก ตั้งท่าจะกระอักเลือดตายอยู่อย่างนั้น ในท่ามกลางสายตาของแขกที่เชิญมา และรู้จักกับแกเป็นร้อยคน พากันหันมาดูเหตุการณ์เป็นตาเดียวกัน


    <DD>ตะแก..ซึ่งก่อนหน้านี้รื่นเริงเสียไม่มี เมื่อได้เห็นผมเซ็นต์มอบทรัพย์สมบัติของผมให้ กับพวกของแกโกงแต่โดยดี กลับกลายเป็นเศร้าซึมเงียบขรึมไปจนผิดหูผิดตา ก้มหน้างุด ๆ พูดน้อยลงและพูดไม่กล้ามองหน้าคน ทำเอาผมไม่กล้าคิดว่า ถ้าแกตายจากโลกนี้ไป แกจะเกิดเป็นอะไร ถ้าเมื่อยังอยู่ในโลกแกก็ไม่กล้ามองหน้าคนแล้ว น่าสงสารจริง ๆ พวกมนุสเปโตพวกนี้


    <DD>ที่ผมเล่ามาถึงตอนนี้ จะเห็นว่าสิ่งที่ผมควรจะได้ ผมกลับถูกยื้อแย่งไป แต่ผมได้วางเฉยเสียนึกว่าใช้หนี้ไปและไม่พยาบาทตอบ แต่สิ่งที่ผมไม่น่าจะได้ ผมก็กลับได้ เช่น อยู่ดี ๆ คนที่เพิ่งจะรู้จักกันเพียง ๒-๓ ชั่วโมง จู่ ๆ ก็พอใจเมตตาผมขึ้นมา ได้ควักเงินช่วยเหลือผมด้วยจำนวนเงินเป็นแสน ๆ เพราะรู้ว่าผมรับราชการมา ๒๐ กว่าปี ไม่มีบ้านของตนเองอย่างนี้ เป็นต้น


    <DD>และปัจจุบันผมก็มีบ้านอยู่เป็นสัดส่วนของตนเองและสวยงามสะดวกสบายตามควรแก่อัตภาพของผม และดีกว่าของเก่าที่ถูกยื้อแย่งเอาไปเสียอีก


    <DD>มาเข้าเรื่องลูกแก้วต่อกันดีไหมครับ เถลไถลออกไปไกลเดี๋ยวจะลืมเรื่องลืมประเด็นเดิม เมื่อครั้งที่ลูกแก้วยังอยู่กับผม ผมมักจะประสบความสารพัดนึกทุกอย่าง ผมสามารถสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้คนที่ประสบเคราะห์กรรมเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุแห่งความบกพร่องของกายสังขาร หรือเพราะจากการกระทำทางไสยศาสตร์


    <DD>วิธีช่วยก็อย่างง่าย ๆ เพียงให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมนต์ที่ได้นำเอาลูกแก้วนี้แช่ไว้กับน้ำธรรมดาเท่านั้นเอง คนที่ป่วยและไม่ถึงฆาตจริง ๆ ส่วนใหญ่หายเป็นปกติในเวลาอันรวดเร็ว ผู้ที่ป่วยเรื้อรังและด้วยโรคร้ายแรงก็ต้องมีกรรมวิธีเพิ่มขึ้นไปตามส่วน แล้วแต่ท่านเจ้าของจะสั่งการโดยตรง หรือผ่านมาทางใดทางหนึ่ง แม้ไม่อาจหายขาด ก็ทุเลาเบาบางลง แต่ถ้าเป็นเรื่องคุณไสยอะไรทำนองนี้แล้ว ไม่เคยเกิน ๓ ครั้งก็หายสบายดี


    <DD>ครั้งหนึ่ง เคยมีเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ท่านหนึ่งของผมที่กองบัญชาการทหารสูงสุดส่วนหน้าได้หัวเราะเยาะผม แล้วบอกว่า ผมเอาลูกแก้วโป่งข่ามที่ไม่สวยเอาเสียเลยมาห้อยใส่คอเอาไว้ทำไม ผมบอกว่าไม่ใช่โป่งข่าม ท่านก็เลยขอท้าให้เอามายีกับเพชรหัวแหวนที่ท่านกำลังสวมใส่อยู่


    <DD>ผมเห็นว่าท่านดูถูกและอยากลอง ก็ยินยอมให้ทำเช่นนั้น พอนำของสองสิ่งมาถูยีกัน ก็เกิดเป็นขุยละเอียดสีขาว ๆ คละเคล้ากันไปหมด ใจผมนั้นคิดว่า แย่แล้ว....เจ๊งเขาแน่ เพราะว่าแก้วไหนเลยจะแข็งไปกว่าเพชร



    <DD>ส่วนเจ้าของแหวนเพชรก็หัวเราะฮ่า ๆ อย่างสะใจ แต่ครั้นพอลูบผงลูบฝุ่นออก ลูกแก้วนั้นกลับไม่เป็นอะไรเลย แต่หัวแหวนเพชรนั้นเหลี่ยมเพชรถูกบดมนไปหมด ที่เคยหัวเราะเยาะ..ฮา ฮา ก็กลับกลายเป็นคราง..ฮือ..ฮือ เสียดายของ..!



    <DD>เลยสงสัยและพากันไปร้านค้าเพชรให้ช่วยตรวจดู อาเฮียแกก็อุตส่าห์ตรวจสอบให้ แล้วก็ตอบมาอย่างง่าย ๆ ว่า ไม่ทราบว่าเป็นหินอะไรไม่เคยเห็น จึงพากันเอาไปให้กรมทรัพยากรธรณีตรวจกันอีก เขาตอบมาว่า เป็นธาตุและสารประกอบที่ไม่มีในโลกนี้ สันนิษฐานว่าเป็นส่วนหนึ่งจากสะเก็ดดาว


    <DD>ก็เลยต้องอนุมานเชื่อเอาไว้ก่อนว่า น่าจะเป็นจริงตามที่หลวงปู่ชุ่ม ฯ ท่านเล่าว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านฤาษี อาจารย์ของท่านเสกน้ำปรอทจนแข็งและเสกปรอทที่แข็งนั้นจนกลายเป็นลูกแก้วที่ว่านี้จริง เชื่อหรือไม่...ไม่รู้นะ


    <DD>สำหรับลูกแก้วองค์ที่หลวงปู่ชุ่ม ฯ ถวายให้กับหลวงพ่อ ฯ ของพวกเรานั้น ผมจำได้ว่าเป็นลูกแก้วตัวผู้เพราะไม่มีรูกลางลูก ใหญ่กว่าที่ผมได้มาประมาณ ๓ เท่า ข้างในมีแก้วสีสันอื่น ๆ ปะปนอยู่ด้วย ดูเผิน ๆ ก็จะเหมือนกับแก้วโป่งข่าม แต่รับรองว่าไม่ใช่โป่งข่ามแน่นอน


    <DD>ลูกแก้วองค์ที่อยู่กับหลวงพ่อของเรานี้ หลวงพ่อ ฯ เคยเอาแช่น้ำไว้ทำน้ำมนต์อยู่ในอ่างน้ำมนต์ที่บ้านสายลม ซึ่งวางเอาไว้อย่างเปิดเผย ไม่ยักกะกลัวหาย แม้จะเป็นที่หมายปองของบรรดาศิษย์จำนวนมากเป็นอย่างยิ่ง แต่เป็นเพราะว่าหลวงปู่ชุ่ม ฯ ท่านให้กับหลวงพ่อ ฯ เป็นการเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง


    <DD>และเป็นเพราะว่าหลวงพ่อ ฯ ของเราท่านรักศิษย์เสมอกันอีกประการหนึ่ง ท่านจึงไม่สามารถที่จะมอบให้กับใครเพียงคนใดคนหนึ่งได้ ท่านจึงได้สร้างเลียนแบบเป็นลูกแก้วที่มีรูปร่างและสีสันคล้ายคลึงกันกับองค์ที่ท่านมีอยู่ เพื่อแจกจ่ายให้กับบรรดาลูกศิษย์ที่อยากจะได้เอาไว้บูชากันอย่างทั่วถึง ไม่น้อยหน้ากัน โดยได้ทำแจกอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง


    <DD>ต่อมาทราบเลา ๆ ว่าพระท่านได้แนะนำหลวงพ่อ ฯ ให้ทำลูกแก้วที่ดีกว่าเดิมทั้งคุณภาพและความงดงาม จนปัจจุบันนี้ได้พัฒนามาเป็นแก้ว “มณีรัตนะ” ให้พวกเราได้ห้อยคอกันอยู่ทุกวันนี้


    <DD>เรื่องของลูกแก้วราหู ที่มีความเป็นมาและวิวัฒนาการเรื่อยมา จนกลายมาเป็นแก้วมณีรัตนะนี้ ผมได้เขียนเล่าเอาไว้มาก่อนหน้านี้ คือ ก่อนที่จะนำมารวมเป็นหนังสือเล่มนี้ โดยเรื่องตอนลูกแก้วสารพัดนึก ตอนต้น ๆ ผมได้เขียนเสร็จเมื่อประมาณเดือนกันยายน ๒๕๓๓ และท่านที่จัดพิมพ์หนังสือที่ให้ชื่อว่า “ลูกศิษย์เขียน” ได้นำไปพิมพ์รวมกับข้อเขียนของลูกศิษย์ท่านอื่น ๆ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อ ฯ


    <DD>และต่อมา เมื่อหลวงพ่อ ฯ ได้อ่านต้นฉบับเรื่องนี้ของผม ท่านจึงได้ทราบว่า ลูกแก้วนี้หลวงปู่ชุ่ม ฯ มอบให้ผม และนึกได้ว่า ลูกแก้วองค์ที่ผมเคยมีนั้น บัดนี้ท่านได้ย้ายนิวาสถานไปอยู่กับหลวงพ่อ ฯ แล้วอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งนี้ เมื่อแม่นิดมาเล่าให้ผมฟังว่า ลูกแก้วของผมไปอยู่กับหลวงพ่อ ฯ ผมก็ยังทำเฉย ๆ


    <DD>ต่อมาเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๔ หลวงพ่อ ฯ ไปเยี่ยมผมที่โรงพักบางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งขณะนั้นผมเป็นสารวัตรใหญ่อยู่ ท่านได้กรุณาไปแจ้งให้ผมทราบว่า ลูกแก้วองค์เล็กไปอยู่ที่ท่านแล้วด้วยตนเอง โดยได้มีหญิงวัยกลางคนที่คงจะไม่ใช่คนนำไปถวายท่าน


    <DD>ซึ่งเมื่อผมทราบอย่างนั้นก็รู้สึกดีใจเป็นอันมาก วันนั้นผมจำได้ว่าเมื่อ “ท่านปู่ใหญ่” รสบัสที่เป็นพาหนะมาจอดที่โรงพัก ผมเข้าไปต้อนรับและไม่ทันที่หลวงพ่อ ฯ จะนั่ง ท่านก็พูดและสั่งผมในระหว่างที่เดินอยู่ ๓ ประการ คือ


    <DD>๑. “ไอ้เป๋...เอ็งเขียนหนังสือให้ข้า ฯ ๑ เล่ม ข้า ฯ จะพิมพ์เอาเป็นเรื่องที่เอ็งเขียนล้วน ๆ ทำขนาดนี้”


    <DD>ว่าแล้วท่านก็ส่งหนังสือขนาดพ็อกเก็ตบุ๊คที่ท่าน พล.อ.ต. มนูญ ชมพูทีป เขียนให้เป็นตัวอย่าง ๑ เล่ม



    <DD>๒. “ลูกแก้วของเอ็งที่หายไป ตอนนี้อยู่ที่ข้า ฯ มีผู้หญิงวัยกลาง ๆ คน นุ่งซิ่นเก่าสีมอ ๆ สวมเสื้อแขนกระบอกปอน ๆ เอามาถวายข้า ฯ พูดกับข้า ฯ ว่า



    <DD>“คุณ ๆ โยมเอาแก้วองค์น้องมาให้ เป็นองค์น้องเจ้าค่ะ รักษาเอาไว้ดี ๆ มีอานุภาพไม่แพ้องค์พี่ เก็บไว้ให้ดี”



    <DD>แล้วก็ลาไป ข้า ฯ ก็ไม่รู้ว่าโยมเป็นใคร แล้วไม่ทันนึกว่าเป็นแก้วอะไร เห็นอมยิ้ม จนข้า ฯ มาอ่านหนังสือที่เอ็งเขียน จึงได้รู้ว่าเป็นลูกแก้วของเอ็ง โยมคงไม่ใช่คน”



    <DD>นอกจากนั้น หลวงพ่อ ฯ ยังบอกผมว่า ทีแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นแก้วอะไร แต่เมื่อรู้เรื่องแล้ว ท่านจึงสงสัยว่า ผู้หญิงคนที่ว่านี้จะไม่ใช่คนเสียแล้ว



    <DD>๓. สั่งให้เจ้าบัง (คุณนที) นำเอาชานหมากจำนวน ๙ ก้อน ที่ท่านได้ทำพิธีบวงสรวงแล้วที่จันทบุรี ก่อนหน้าจะมาบางละมุงมอบให้ผม กำชับให้เก็บไว้ให้ดี เพราะอาจจะมีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นกับชานหมากชุดนี้ก็ได้



    <DD>เมื่อหลวงพ่อ ฯ กลับไปแล้ว ผมก็เริ่มต้นรวบรวมเรื่องที่เขียน จนกระทั่งวันที่เขียนถึงบรรทัดนี้รวมเวลาได้ปีเศษ ก็ยังไม่เสร็จ แต่ใกล้แล้วละครับ และเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๓๕ ผมได้ไปพบหลวงพ่อ ฯ เพื่อรายงานถึงความคืบหน้าของการรวมเรื่องหนังสือเล่มนี้


    <DD>หลวงพ่อ ฯ จึงได้กรุณาเล่าเพิ่มเติมอีกว่า ผู้หญิงคนนั้นนำลูกแก้วมาถวายที่บ้านสายลม เมื่อประมาณ ๔ ปีมาแล้ว (พ.ศ. ๒๕๓๑) ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ หญิงคนนี้ก็กลับมาอีก นำพระพุทธรูปโลหะเก่า ๆ เปื้อนฝุ่นมอมแมมมาถวายหลวงพ่อ ฯ ที่วัดท่าซุง ๑ องค์


    <DD>ซึ่งเมื่อหลวงพ่อ ฯ ให้พระทำความสะอาด แล้วปรากฏว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ ปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน และเป็นเชียงแสนแท้แต่ยุคเก่า หน้าตาจึงไม่เหมือนกับชาวบ้านเขา คือ มีพระพักตร์ยาวกว่าพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนปกติที่เคยเห็น


    <DD>คราวนี้หลวงพ่อ ฯ อดรนทนไม่ได้ จึงได้ไปถามโยมท่านพ่อพระอินทร์ แต่โยมท่านพ่อพระอินทร์ไม่ตอบเอง เลี่ยงให้ไปถามโยมท่านแม่ จึงได้ความว่าหญิงกลางคนที่นำลูกแก้วและพระทองคำมาถวายนั้น คือ โยมแม่ของท่านนั่นเองที่แปลงมา


    <DD>เล่ามาถึงตอนนี้ หลวงพ่อ ฯ ก็อดหัวเราะไม่ได้ บอกว่าใครจะไปจำได้ ก็โยมเล่นนุ่งห่มเสื้อผ้าเสียกะรุ่งกะริ่ง และเหตุที่นำมาถวายก็เพื่อจะช่วยอาการป่วยของหลวงพ่อ ฯ นั่นเอง เพราะเป็นระยะที่หลวงพ่อ ฯ ร่อแร่เอามาก ๆ


    <DD>ทำให้ผมยิ่งรู้สึกยินดีมากยิ่งขึ้น ที่ลูกแก้วของผมมีส่วนช่วยให้อาการป่วยของหลวงพ่อ ฯ หายและร่างกายสบายขึ้น เพราะในวันนั้นผมสังเกตว่า หลวงพ่อ ฯ สบายเป็นปกติ และดูแข็งแรงกว่าที่เคยเห็นอยู่เสมอ ๆ และไม่ต้องให้น้ำเกลือ


    <DD>สำหรับพระพุทธรูปนั้น โยมแม่ท่านเล่าว่า เป็นพระพุทธรูปที่พระเจ้าพรหมมหาราชทรงสร้าง โดยตั้งจิตปรารถนาเพื่อขอบังเกิดเป็นพรหม ก่อนหน้านั้นพระพุทธรูปองค์นี้บรรจุอยู่ในกรุโบราณ โยมแม่ไปนำมาจากกรุแล้วนำมาถวายทันที จึงได้เปื้อนฝุ่นเลอะเทอะอย่างนั้น และหลวงพ่อ ฯ ยังได้รำพึงออกมาว่า


    <DD>“เมื่อตายตอนเด็ก มีพระทองคำ ๑ องค์ แต่เมื่อตายตอนแก่ มีพระทองคำ ๒ องค์”


    <DD>ผมได้กราบเรียนถามหลวงพ่อ ฯ เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้อีกว่า จะให้พิมพ์กี่เล่ม เพราะผมเกรงว่าถ้าพิมพ์มากแล้วจะจำหน่ายไม่ออก จึงเสนอความเห็นว่า ควรจะพิมพ์สักสองพันเล่มก็พอ และผมจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด


    <DD>หลวงพ่อ ฯ มองลอดแว่นมาที่ผมอยู่ครู่หนึ่ง บอกว่า

    <DD>“สองพันเล่มคงจะไม่พอ เพราะหนังสือเล่มนี้ต่อไปเมื่อหลวงพ่อ ฯ ตายไปแล้ว จะมีคนต้องการมาก”


    <DD>แบบนี้ก็ชื่นใจเป๋ไปละซีครับ หน้าบานเป็นกล้วยโดนรถบดถนนทับ กราบเรียนขออภัยไปอีกว่า โดยปกติแล้ว ไม่มีความถนัดในการเขียนเรื่อง และไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาเขียนให้ เพราะลูกศิษย์ที่ทรงคุณวุฒิ และมีความพร้อมมากกว่าก็มีตั้งหลายท่าน จึงขาดการเตรียมการที่ดี


    <DD>นอกจากนั้น แม่นิดก็มาป่วยหนัก รูปภาพต่าง ๆ ที่ได้เคยขอให้ท่านเป็นผู้เก็บรวบรวมก็กระจัดกระจายไป ซึ่งถ้าสามารถหามาประกอบและพิมพ์อยู่ในหนังสือเล่มนี้ได้ ก็จะทำให้มีคุณค่ายิ่งขึ้น เช่น รูปหลวงพ่อ ฯ หลวงปู่ ฯ ครูบา ฯ ต่าง ๆ เสกสังฆาฏิให้ รูปหลวงปู่แหวน สุจิณโณ เสกพระเครื่องโดยให้ผมทูนพระที่ให้เสกไว้บนศีรษะ ในขณะที่ท่านกำลังเสกอยู่


    <DD>รูปที่หลวงปู่วงษ์ ฯ ให้กะเหรี่ยงนำเสลี่ยงมาหามผมเข้าวัดนาเลี่ยง รูปที่ผมในขณะที่บวชเป็นพระภิกษุถ่ายคู่กับหลวงพ่อ ฯ ที่น้ำตก ที่เมืองลับแล จ. อุตรดิตถ์ โดยต่างก็ถือไม้เท้าด้วยกัน ดูแล้วตลกดี เป็นต้น รูปดี ๆ อย่างนี้ใช้เป็นพยานหลักฐานได้ดีกว่าข้อเขียนเป็นไหน ๆ ใครยังพอหามาให้ได้ก็จะเป็นกุศลอย่างยิ่ง เพราะเคยอัดแจกกันไปไม่ใช่น้อย


    <DD>สำหรับผมนั้น เดิมไม่มีบ้านช่องเป็นของตนเอง ขณะนี้แม้จะมีแล้วก็กำลังต่อเติมอยู่ สิ่งของก็นำไปฝากบ้านคนอื่นเขาเอาไว้สามบ้านแปดบ้าน..หาไม่เจอ ไม่ทราบว่าอยู่ในกล่องไหนและอยู่ที่ไหนบ้าง ช่วยทีเถอะครับ นึกว่าทำบุญคราวนี้ไม่ทัน คราวหน้าก็ยังดี ถ้าได้ก็สุดสวยเลยครับ..นับว่าสมบูรณ์..!


    <DD>ตกลงหลวงพ่อ ฯ ให้พิมพ์หนังสือนี้เป็นปฐมฤกษ์หนึ่งหมื่นเล่ม ผมปวารณาออกสตางค์ค่าพิมพ์สองพันเล่ม ที่เหลือหลวงพ่อ ฯ ออก คงไม่สิ้นเปลืองเท่าไรเพราะผมทำเองเกือบทุกอย่าง..แฮ่ะ..แฮ่ะ<DD> <DD>ข้อมูล จาก

     
  2. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ต่อไปจะลงภาพวัตถุมงคลท่านครับ

    [​IMG]


    [​IMG]

    รูปหล่อหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก 5 นิ้ว รุ่นแรก สร้างจำนวนไม่มาก
     
  3. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    เหรียญครูบาชุ่ม โพธิโก รุ่นแรก สร้างโดย หลวงพ่อทองใบและคุณหมอสมสุข คงอุไร คณะรัศมีพรหมโพธิโก มีทั้งแบบมีห่วงและไม่มีห่วง มีเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง ขนาดมี 2 ขนาด ไข่ใหญ่ ไข่เล็ก


    [​IMG]

    แบบมีห่วง ด้านหน้า


    [​IMG]

    แบบมีห่วงด้านหลัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 เมษายน 2010
  4. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ


    ลูกหลานขอกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยเคารพยิ่ง ขอรับ
    ขออนุโมทนาครับ __^/|^__

    ______________________________
    hello9
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน
    กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน มารายงานตัวกันหน่อยครับ

    โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
    โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  5. mod_x-ray

    mod_x-ray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    536
    ค่าพลัง:
    +2,686
    อ่านแล้วอยากเกิดทันจัง
     
  6. SPARTANS

    SPARTANS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    3,380
    ค่าพลัง:
    +2,986
    กราบนมัสการหลวงปู่ ด้วยกาย วาจา ใจครับ
     
  7. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    งดงามเป็นที่สุด
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  8. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    <TABLE class=BPramoolDesc cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    จำนวนการสร้างเหรียญรุ่นแรก




    เหรียญชุดนี้เป็นชุดแรกและชุดเดียวของท่านที่สร้างเมื่อปี 2517 ชาวลำพูนใครมีหวงกันมากครับ เอาพระคงไปแลกยังไม่ยอมเลย

    จำนวนการสร้างวัตถุมงคลประเภทเหรียญของท่าน...
    จำนวนการสร้างทั้งหมด
    เหรียญรูปไขใหญ่(ไม่มีหูห่วง)
    - เนื้อทองคำ 30 เหรียญ
    - เนื้อเงิน 999 เหรียญ
    - เนื้อนวะ 999 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง 13,629 เหรียญ

    เหรียญรูปไข่เล็ก(มีหูห่วง)
    - เนื้อทองคำ 19 เหรียญ
    - เนื้อนวะ 499 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง 1,599 เหรียญ

    เหรียญกลมโภคทรัพย์
    - เนื้อเงิน 277 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง 1,500 เหรียญ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ล็อกเกต รุ่นแรก


    [​IMG]

    [​IMG]




    สร้างจำนวน 227 องค์ หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก อฐิธานจิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 เมษายน 2010
  10. ampaporn

    ampaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ไม่ทราบรูปหล่อท่านบูชาองด็ละเท่าไหร่ และยังมีเหลือไหมคะ ตอบทาง pm ก็ได้คะ
     
  11. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    เหรียญหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก รุ่นแรก เนื้อเงิน

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  12. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    รูปหล่อท่านสร้างน้อยมากครับ หลักไม่ถึงร้อยองค์ หายากมาก แล้วก็หมดไปตั้งแต่สมัยท่านแล้วครับ เหลือแต่เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่ครูบาครับ
     
  13. คนบรรพต

    คนบรรพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +4,456
    ขออนุโมทนาด้วยครับผม คุณลูกวัดท่าซุงนำมาลงให้อ่าน นับเป็นบุญของผมอย่างยิ่งที่ได้ทราบประวัติหลวงปู่ครูบาชุ่ม

    ขอบพระคุณมากมายจากใจจริงครับ
     
  14. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]


    [FONT=&quot]ขอเชิญร่วมทำบุญพิธีพลีกรรมบูชาเสดาะนพเคราะห์ทั้ง ๙ เสริมบารมี[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]และเชิญร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพ[/FONT][FONT=&quot] ถวายตุงเงิน ประจำวันเกิดปีเกิด<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot]ปีชวด[/FONT][FONT=&quot] ปีฉลู ปีขาล ปีเถาะ ปีมะโรง ปีมะเส็ง ปีมะเมีย ปีมะแม ปีวอก ปีระกา ปีจอ ปีกุน<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot]ณ[/FONT][FONT=&quot] วัดชัยมงคล (วังมุย) ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot]วันที่[/FONT][FONT=&quot] ๑๖ เดือนเมษายน ๒๕๕๓ (ตรงกับเดือน ๘ เหนือ แรม ๓ ค่ำ)<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot]************[/FONT][FONT=&quot]************************<o></o>[/FONT]



    [FONT=&quot]ในโอกาสเทศกาลมหาสงกรานต์ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ นี้ วัดชัยมงคล (วังมุย) โดยพระวีณุวัฒน์ วฑฺฒนสิริ พร้อมทั้งญาติโยมพุทธศาสนิกชนจะได้จัดทำพิธีพลีกรรมบูชาเสดาะนพเคราะห์ทั้ง ๙ บูชาเทวดานพเคราะห์ สวดกำลังพระเสวยอายุ อาทิตย์ ๖, พระจันทร์ ๑๕, พระอังคาร ๘, พระพุทธ ๑๗, พระเสาร์ ๑๐, พระพฤหัสบดี ๑๙, พระศุกร์ ๒๑, พระราหุล ๑๒, พระเกตุ ๙ เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งอัปมงคลต่าง ๆ โรคภัยไข้เจ็บความชั่วร้าย และเสริมดวงชะตา ของผู้เข้าร่วมพิธีให้มีความสุข ความเจริญในหน้าที่การงาน ครอบครัว การดำเนินชีวิต คุ้มโรค คุ้มภัย คุ้มเสนียดจัญไร ไม่ให้มาเบียดเบียนตลอดปีขาล[/FONT]


    [FONT=&quot]เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวะโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงมีประชนมพรรษาครบ ๘๒ พรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot] ปัจจัยรายได้ที่ท่านสาธุชนพุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญในพิธีพลีกรรมบูชาเสดาะนพเคราะห์ในครั้งนี้วัตถุประสงค์ทางวัดชัยมงคล (วังมุย) จะนำไปร่วมสบทบทุนสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์หลวงปู่พระครูบาเจ้าชุ่ม โพธิโก[/FONT]


    [FONT=&quot] ดังนั้นจึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมทำบุญพิธีพลีกรรมบูชาเสดาะนพเคราะห์ทั้ง๙ รับโชคเสริมบารมี ถวายสังฆทานและร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพถวายตุงเงินประจำวันเกิด เพื่อเป็นพุทธบูชา ในเทศกาลมหาสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๕๓ จึงขอเรียนเชิญ ญาติโยม พุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมพิธี ตามวัน และเวลา ดังกล่าว<o></o>[/FONT]

    [FONT=&quot]กำหนดการ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]



    [FONT=&quot]๑๖ เดือนเมษายน[/FONT][FONT=&quot] พ.ศ.๒๕๕๓[/FONT]


    [FONT=&quot] เวลา ๐๗.๐๐ น. พีธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์,สามเณร เปิดให้ญาติโยมทำบุญถวายสังฆทานตลอดทั้งวัน<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot]เวลา[/FONT][FONT=&quot] ๐๙.๓๙ น. พิธีบวงสรวงเทพยาดา ขึ้นท้าวทั้ง ๔ และบอกกล่าวเสื้อวัด สิ่งศักดิ์สิทธิ์<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot] ดวงทิพย์พระวิญญาณหลวงปู่พระครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย ,พระครูบาชุ่ม โพธิโก ,พระครู[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot]บุญสม สิริวิชโย <o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot]เวลา[/FONT][FONT=&quot] ๑๙.๓๙ น. พีธีพลีกรรมบูชาเสดาะนพเคราะห์ทั้ง ๙ คือ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัส พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู พระเกตุ<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot] -ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ไหว้พระ สมาทานเบญจศีล อาราธนาพระ[/FONT]


    [FONT=&quot] ปริตร เริ่มพิธีสวดนพเคราะห์ทั้ง[/FONT][FONT=&quot] ๙<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot] -ถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์พิธีจำนวน ๙ รูป[/FONT]


    [FONT=&quot]พระสงฆ์อนุโมทนาเป็นเสร็จพิธี[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

    [FONT=&quot]หมายเหตุ.[/FONT][FONT=&quot]ร่วมเป็นเจ้าภาพสังฆทานถวายพระสงฆ์พิธีจำนวน ๑๒[/FONT][FONT=&quot] ชุด ๆ ละ ๕๐๐ บาท<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot] ทางวัดได้จัด ธูปเทียนประจำวันเกิด ไว้บริการแก่ญาติโยม พุทธศาสนิกชน ที่มาร่วมงาน<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot] ติดต่อได้ที่วัดชัยมงคล (วังมุย) หมู่ที่ ๑ ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ๕๑๐๐๐<o></o>[/FONT]


    [FONT=&quot] พระวีณุวัฒน์ วฑฺฒนสิริ โทรศัพท์ ๐๕๓-๕๐๐๑๓๑ หรือ ๐๘๕-๐๔๑๔๔๕๖[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2010
  15. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    [​IMG]

    คำอวยพรของหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก ขอมอบทุกท่านให้ก่อนวันสงการณ์ที่จะมาึถึงนึ้ครับและผู้ร่วมบุึญทุกท่านครับ


    (ถอดเทปเสียงหลวงปู่ครูบา)

    "ขอคุณพระศรีไตรรัตนะทั้ง ๓ ประการ ตั้งอยู่กระหม่อมจอมขวัญแห่งบรรดา ทายกทายิกา เพื่ออยู่ชุ่มเนื้อเย็นใจ คิดหาอันใดก็สมบูรณ์ทุกสิ่งทุกประการ ทำการทำงานอันใด ก็ขอหื้อสมดังคำปรารถนาทุกอย่างทุกประการเทอญ ”
     
  16. chakapong

    chakapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    497
    ค่าพลัง:
    +1,305
    เกศาหลวงปู่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. jirasak

    jirasak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +1,716
    ผมติดตัวไว้ตลอดครับ

    ได้มาจากเพื่อนที่ลำพูน
    ตะกรุดปรอท และตะกรุดหนังควายตายครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC16058.JPG
      SDC16058.JPG
      ขนาดไฟล์:
      166.7 KB
      เปิดดู:
      117
    • SDC16025.JPG
      SDC16025.JPG
      ขนาดไฟล์:
      182.4 KB
      เปิดดู:
      116
  18. หยกเขียว

    หยกเขียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +956
    มีใครรู้บ้างครับ ว่าสามเณรน้อยที่ติดตามครูบาชุ่มไปที่วัดท่าซุงในปี 2518 นั้นตอนนี้เป็นพระรูปใด อยู่ที่ไหนครับ(จากเรื่องเล่าของหลวงตาวัชรชัย)
     
  19. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    เจ้าของเดิมเป็นบิดาของเพื่อน ซึ่งเป็นคนลำพูนบ้านอยู่ใกล้ๆ วัด ได้รับมาจากมือของ ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย โดยตรง
    โดยในตอนแรกที่เขาได้รับมานั้นก็เข้าใจว่าเป็นตะกรุด เพราะหลวงปู่ท่านพอกด้วยครั่งพุทรา
    แบบเดียวกับที่พอกตะกรุดนังลูกควายตายพรายของท่านปิดจนหมด
    ซึ่งเจ้าของเดิมก้ได้ห่อผ้าและพกติดตัวไว้ตลอด จนเนื้อครั่งที่หุ้มไว้ปริแตกออกถึงได้รู้ว่าข้างในเป็นฟันของหลวงปู่ท่าน
    นับได้ว่าเป็นสิ่งมงคลสักการบูชาอันสูงยิ่ง

    หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง อุทัยธานี เล่าว่า... หลวงปู่ชุ่มสามารถเข้านิโรธสมาบัติด้วยอิริยาบถทั้ง ๔
    (ปกติผู้ที่เข้านิโรธสมาบัติ จะเข้าได้เฉพาะอิริยาบถใดอิริยาบถหนึ่ง ส่วนใหญ่ไม่นั่งก็นอน)
    ซึ่งหลวงพ่อเล่าว่าในชีวิตของท่าน ไม่เคยได้ยินว่ามีใครทำได้อย่างนี้มาก่อนเลย...
    <O:p</O:p
    (จากคำกล่าวของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ บันทึกโดยพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ๒๘ มี.ค. ๒๕๓๓ )<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    วัวธนู ฝังตะกรุด พอกครั่งพุทรากิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออก ของ ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย

    สร้างน้อยมาก ไม่เกิน 100 ตัว ตามประวัติที่เคยสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านวังมุย ที่เคยรับมากับมือหลวงปู่บอกว่า มีประมาณ 50 กว่าตัวเท่านั้น
    ส่วนใหญ่ผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ ที่เคยได้รับวัวธนูจากหลวงปู่ก็จะนำไปฝังไว้ตามเขตบ้านเรือนของตน

    วัวธนูของหลวงปู่ครูบาชุ่ม จะ มีทั้งวัวที่ทำจากดินแล้วพอกครั่ง และ วัวที่เป็นเนื้อครั่งล้วน ๆ
    แต่ที่เป็นวัวที่สร้างจากเนื้อครั่งล้วน ๆ นั้นส่วนใหญ่จะเป็นวัวธนูขนาดเล็ก
    ซึ่งศิลป์การปั้นจะมี 2 แบบ คือ ศิลป์แบบหมู และศิลป์แบบวัว
    <O:p</O:p
    การพิจารณา เนื้อครั่งจะเป็นแบบเดียวกับที่ใช้พอกตะกรุดหนังลูกควายตายพรายของท่าน
    และตรงก้นหรือที่หางของวัวจะมีตะกรุดสอดไว้แทบทุกตัว ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์วัวธนูของท่านเลยทีเดียว
    ของปลอมมีเหมือนกันแต่ฝีมือยังห่างไกลของแท้อยู่มาก <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01copy.jpg
      01copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134.5 KB
      เปิดดู:
      418
    • ocopy.jpg
      ocopy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      160.5 KB
      เปิดดู:
      432
    • 3b9iu.jpg
      3b9iu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      144.7 KB
      เปิดดู:
      147
    • a3qi1.jpg
      a3qi1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.9 KB
      เปิดดู:
      362
    • dsc_0802.jpg
      dsc_0802.jpg
      ขนาดไฟล์:
      173.7 KB
      เปิดดู:
      88
    • dsc_0803.jpg
      dsc_0803.jpg
      ขนาดไฟล์:
      180.1 KB
      เปิดดู:
      108
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...