ชีวิตของ ข้าพเจ้า

ในอดีต มีผู้หญิงจำนวนนับล้านคุยกับธรรมชาติ

และ สิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้

แต่ผู้หญิงเหล่านั้นได้ถูกผู้คนประนามและถูกสังคมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

เพราะ ความที่ไม่เหมือนกับตนเอง เพราะความกลัวภายในตัวพวกเขา


และไม่เข้าใจพลังอำนาจที่ผู้หญิงเหล่านั้นถือครอง คือ อะไร

และทำได้อย่างไร...พลังอำนาจที่ได้ เกิดจาก สิ่งที่เรียกว่า มานอง

มานอง คือ ทุกสรรพสิ่ง
ไม่ใช่แค่พลังของความดี หรือ พลังของความชั่ว
​

อยู่ที่ว่า ผู้ที่ได้พลังดังกล่าว จะนำประโยชน์ จากอำนาจที่ว่า

ไปใช้ในทาง ดี หรือ ทางร้าย

ดังนั้น แม้แต่แม่มด จึงมีทั้ง แม่มดขาวและแม่มดดำ

อยู่ที่ว่า ใครจะมีอำนาจให้ กิเลสมากกว่า

ซึ่งไม่ต่างจากอภิญญา ในประเทศในเอเชีย

แต่แม่มดเหล่านั้น ไม่ว่าจะดีหรือเลว ก็โดนเผาให้ตายอยู่ดี​

 

ตาที่สาม หรือ Third Eye
เป็นคำที่ผู้สนใจฝึกสมาธิทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศคุ้นเคยกันพอสมควร เป็นเวลานานที่นักวิทยาศาสตร์พยายามค้นหาความจริง
เกี่ยวกับตาที่สามนี้ว่าอยู่ส่วนไหนในสมองและมีหน้าที่อย่างไร

โดยปกติดวงตาของเราจะส่งภาพกลับหัว จากบนเป็นล่าง
ส่งไปยังสมอง ซึ่งสมองจะประมวลผลและทำให้เราเห็นภาพในลักษณะปกติ
ที่ถูกต้อง นอกจากดวงตาปกติแล้ว

มนุษย์ยังมีอวัยวะอีกอย่างที่รู้จักกัน
ในชื่อ ของดวงตาที่สาม หรือ ต่อมไพนีล
ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพลังมหัศจรรย์หรือตาทิพย์ เป็นดวงตาภายใน

ต่อมไพนีล Pineal Gland มีขนาดเท่าเม็ดถั่ว
และอยู่ตรงกลางของสมอง หลังดวงตาปกติ
อยู่ข้างหลังเยื้องด้านบนจากต่อมปิตูอิตารี่ ( pituitary )
บางคนได้เทียบตำแหน่งกลางสมองนี้ว่าคล้ายคลึง
กับตำแหน่งศูนย์กลางของปิรามิดซึ่งเป็นจุดรวมแห่งพลังงาน
ที่กล่าวกันว่าเหนือธรรมชาติ

นักปราชญ์กรีกโบราณเชื่อว่า ต่อมไพนีล
เป็นจุดเชื่อมต่อกับอาณาจักรแห่งความคิด
บางคนเรียกว่า ที่สถิตของจิตวิญญาณ
ต่อมไพนีลนี้จะถูกกระตุ้นโดยแสงสว่าง
และต่อมนี้ควบคุมระบบร่างกาย ( Biorhythm)
หลายอย่าง โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส ( hypothalamus)

ซึ่งต่อมไฮโปทารามัส ส่งผลโดยตรงกับร่างกายในเรื่อง ความหิว ความกระหาย เรื่องเซ็กส์ และนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์

เมื่อต่อมไพนีลถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
จะรู้สึกถึงความกดดันที่ใต้สมอง
( ความกดดันเหมือนในลักษณะที่อยู่ใต้คลื่นความถี่สูง)
การกระทบกระเทือนที่ศีรษะบางครั้งก็เป็นสาเหตุกระตุ้นให้ต่อมไพนีลตื่นขึ้นได้

ถึงแม้ในอดีตจะยังไม่สามารถค้นคว้าพิสูจน์เกี่ยวกับต่อมไพนีล
เพิ่งจะมาทราบในสมัยปัจจุบันไม่นานนัก
แต่ในสมัยนั้นก็เชื่อกันว่า เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งวัตถุและโลกแห่งวิญญาณ และเป็นจุดสำคัญในการเริ่มต้นของพลังเหนือธรรมชาติในมนุษย์ทำให้มองเห็นเหนือกว่าคนทั่วไปได้

 

ให้ดู เพื่อ พิจารณา ความศรัทธา ของมนุษย์

1. พุทธศาสนิกชน

2. ชาวคริสต์

3-4 แฟนบอล

5 แฟนคลับเรน

6 กู้ชาติ ครับพี่น้อง

7. อินเตอร์เน็ต (อันนี้เเรงสุด)

 

ไปลองใหม่แล้ว ตอนแรกหมุนตามเข็ม พอเหลือบลงไปมองที่เงาด้านล่าง แล้วเลื่อนตากลับมาด้านบนมันหมุนทวนเข็ม trick มันน่าจะอยู่ที่เงาด้านล่างหรือเปล่าครับ

 

ลองใหม่อีกที คราวนี้บังคับมันหมุนกลับไปกลับมาได้แล้ว ขึ้นกับว่าเราคิดว่าเท้าที่ลอยมันสะบัดช่วงแรงสุดมาข้างหน้า (ทวนเข็ม) หรือสะบัดไปข้างหลัง (ตามเข็ม) ใช่มั๊ยครับ

(y)

 

อรุณสวัสดิ์คะ ป้า พิชญ์ มาแต่เช้าเลย

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>สันโดษ, เด็กชายพชร, วิมุตติ, k.kwan, khajonsak9999, พิชญ์ </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->

อรุณสวัสดิ์คร้าบพี่น้อง ทั้งใจผู้ดู และจิตสงสัยทุกท่าน

วันนี้ ดีหน่อย ไม่มีธุระข้างนอก เลยมาสิงได้เเต่เช้า

เช้าๆสดใส จิตยังนิ่งอยู่ แต่ตกบ่ายทีไร จิตแตกทุกที


สงสัยเข้าหน้าร้อน เลยมีแต่คนชวนไปว่ายน้ำ...
วันนี้ขออาบแดดอยู่บนฝั่งดีกว่า

 

เอ่อ.....

ท่าอาบแดด แบบนี้หรือเปล่า....


เอ... หรือแบบนี้หนอ... คิก คิก

 

อย่าลืมเต้นด้วยนะ ออกกำลังคะ จะได้สดชื่น

 

555 วันนี้คุณขจร อารมณ์ดีแต่เช้า สงสัยศรีภรรยาที่บ้านจะน่ารักไม่แพ้สามี

 

ผู้ใดยังไม่หลุดพ้น พิจารณา ได้ดังต่อไปนี้

การกระทำสิ่งใด สิ่งหนึ่งเป็นเวลาต่อเนื่องหากไม่ได้ทำ

แล้ว จิตตกหรือทุกข์ นั้นเเสดงว่ายังไม่หลุดพ้น

ติดทีวี, ติดธรรมะ, ติดการพนัน, ติดแฟน,
ติดลูก, ติดปัญญา, ติดกิน, ติดสงสัย
ติดเชื่อ, ติดไม่เชื่อ, ติดเงิน, ติดงาน
ติดดูดี, ติดสบาย, ติดแบรน์เนม ฯลฯ

ไปดูว่าตัวเอง ติดอะไร

ข้าพเจ้า ติดกระทู้ นี้ โง้หัวไม่ขึ้น

 

Trick คือ การแยก รูป กับ นาม

เมื่อ รู้นาม แล้ว กำหนดเป็นเวทนา สวนลงไป รูป ก็เปลี่ยน
( อันนี้ยืมสำนวนจาก The Secret ) แต่จริงๆแล้วก็คือ
รูป-นาม-ปริเฉท เมื่อ กำหนด ภพ หรือ อารมณ์ใหม่ ก็ได้
ภพ หรือ อารมณ์ใหม่ วิญญาณตนะ ก็เปลี่ยนการวิถีการรับรู้

บางคนทำไม่ได้ เลยต้องแยก รูป ก่อน เลยมองที่เงาบ้าง
หรือ มองที่สุดปลายขาในแต่ละด้านบ้าง แล้วค่อยเปลี่ยนวิถี
การมองรูปโดยรวม ก็จะสามารถทำลาย นาม ตัวเดิมได้ ทำให้
ได้ นาม หรือ วิธีการรับรู้อีกแบบ

แต่พอดูไปๆ บ่อยๆเข้า ทั้งทวนเข็ม และ ตามเข็ม ทำให้จิตจด
จำสภาวะธรรมได้ ทำให้ดูกลับซ้าย กลับขวาก็ได้ ไม่หมุนเลยก็ได้
เพราะเห็นความจริงเข้าไปเรื่อยๆ แต่ยังจริงไม่หมด ถ้ามองไปอีก
จะเห็นมันแค่กระพริบ ไม่ได้หมุนแต่อย่างใด

 

ที่ติดคือ จิตตัวหนึ่ง แต่ใจแค่ดู

ถ้าเกิดทุกข์ ก็รู้ว่าทุกข์

ถ้าเกิดสุข ก็รู้ว่าสุข

ถ้าเกิดดีก็รู้ว่าดี

แล้วจบที่เป็นผู้ดู อย่าติด จิตตัวเดิม


จงเป็นเเค่ OBSERVER ผู้ดูอย่างเดียว

 

ทุกข์กว่าเดิมสิ เราอยู่เพื่อรู้ทุกข์

ฉลาดในการรู้ทุกข์

 

ดีท่านเอกวีร์ หัดเอาความรู้ที่ศึกษามาแชร์

กับผู้ดูท่านอื่นๆบ้าง ไม่ใช่ดูจิตตัวเองทะเลาะกันอยู่นั้นแล..

อ่ะ...ล้อเล่น นะครับพี่น้อง...วันนี้ อยู่ริมหาด

อย่ามาฉุดลงไปเล่นน้ำนะท่าน

 

วันนี้ดีกว่าเมื่อวานครับ

เพราะเมื่อวาน วิดน้ำจนเหนื่อย ปวดเมื่อยไปทั้งตัวและหัวใจ

วันนี้ยังไม่ได้วิด ยังไม่เมื่อย ยังไม่เหนื่อย

ท่านอาจารย์จรล่ะครับ ชนะได้กี่ทิศแล้ว

แต่ผมว่า อย่ารบทุกทิศ เพราะยังไม่ชำนาญการศึกสงครามเพียงพอ

ให้ปิดทิศทั้งห้า แล้วรบแต่เฉพาะทิศที่หกอย่างเดียวก็พอ

รบชนะทิศเดียว ชนะทั้งหมด ^_^

วันนี้ต้องไปข้างนอก คงไม่ได้อยู่รวมแจม ขอตัวครับท่าน...

 

แปลกนะ ท่านเอกทุกข์กว่าเดิม

แต่ผมกลับสุขกว่าเดิม

มันยังไงกันแน่ล่ะเนี่ย

คุณสันโดษแนะนำหน่อยครับ

พ้นน้ำแล้วน่าจะทราบ ถือว่าเมตตาพวกอยู่ใต้น้ำครับ อะ บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม ...

 

จิตตัวเดิม....คือ สภาวะที่กำลังจะกลายเป็นอัตตา

คือ หากเราทุกข์ ตัวจิตนั้นจะใหญ่มากขึ้นและเป็นพลังงานในแง่ลบ

และเมื่อตัวจิตนั้น คือ พลังงานในแง่ลบ

สภาวะรอบตัวก็จะเปลี่ยนเป็นลบเช่นกัน

อย่างคนที่ซวยซ้ำซวยซ้อน เพราะ ติดจิตตัวเดิม

คนที่คิดแต่เรื่องเงิน มานนนเลยทำอะไรเเล้วก็ รวยยยยยย

อันนี้ The Secret อธิบายไว้ เข้าใจดีมาก

ดังนั้น มนุษย์ทั่วไป จึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพ

ได้เหมือน คนที่ มีความอ่อนน้อมถ่อมต้น

หรือทำตัวเหมือนน้ำ หากยึดติดจิตตัวไหนจนเป็นอัตตา

ผู้นั้น ไม่สามารถ ต่อกรกับ ทุกสภาวะที่เข้ามาได้

คนดี จึงแพ้ คนเลว เพราะ ความสงบและเรียบร้อย

แต่ถ้า คนเลว เจอคนที่ สามารถ เข้าใจกฏนี้

มนุษย์สามารถอยู่ได้ทุกที่


สภาวะที่ว่า คือ คนเหนือคน เพราะมันไม่มีจุดที่เรากลัวอะไรอีกแล้ว

ไม่มีทั้งทุกข์ หรือ สุข ไม่ว่าเราจะทำไรก็ไม่ สะเทือน

 

ต่อ#1054

ถ้าพิจารณาลงไปในความจริง ก็เหมือนเดิม รูปที่ดูจากหน้าจอคอมฯ ไม่ใช่
ของจริง เป็นเพียงของถูกรู้ถูกดู ถ้าพิจารณาไม่เท่าทันตรงนี้ ก็คิดว่ารูปภาพ
มีทริก แต่จริงแล้วเปล่า ทริกอยู่ที่ใจคนมอง

การจดจำสภวะธรรม หรือ รูป+นาม จนกลายเป็น สัญญา ถ้า สัญญาวิปลาส
ก็จะทำให้มองรูปได้เพียงทางเดียว หมุนทางเดียว แต่ถ้าเข้าใจว่า ทุกข์อยู่ที่
สัญญาสังขาร ที่เราไปจดจำสภวะธรรมการหมุนเพียงด้านเดียว ทำให้ไม่
สามารถแยกดูอย่างปริเฉทได้

แต่เมื่อจดจำได้ทั้งการหมุนซ้าย และหมุนขวา ก็จะเข้าใจความเป็นจริงหนึ่ง
คือ มันไม่ได้หมุน เพราะมันหมุนสองทางไม่ได้ เมื่อนั้นก็ทำลายความเห็น
ผิด ทอดถอนสัญญาเดิมทิ้งหมด เพราะรู้เท่าทันสภาวะธรรมแล้ว จึงดูใหม่
โดยดู สัญญา ที่เกิดขึ้นในใจเรา จนกระทั้งรู้ทันอารมณ์เราเอง เมื่อนั้น ก็จะ
รู้การกำหนดอารมณ์

และเมื่อรู้ทันอารมณ์ทั้งหมด คราวนี้ จะหมุนเล็กน้อยก็ได้ ไม่หมุนเลยก็ได้

เพราะเราไม่คล้อยตามทุกข์สัจที่เกิดจากความเห็นผิด(สัญญาสังขาร)อีกต่อไป
เป็นลักษณะหนึ่งของ ภยตูปัฏฐานญาณ รู้เท่าทันภัยในสังขาร ในความคิดทิฏฐิ
ในจิต ในผู้รู้ รู้แบบนี้ 4 รอบ ก็ทอดถอนภพชาติได้

ญาณในกลุ่มที่ยังไม่ใช่โลกกุตระ จะสามารถเกิดขึ้นได้ แก่ หรือ อ่อน จะเป็นภาวะ
ที่เราค่อยๆรู้ว่า มี และรู้ชัดว่า มีโดยสมบูรณ์ แค่ไหนอย่างไร แต่มีแล้วก็เสื่อมได้
แต่ก็เป็น วาสนา ติดตัวได้

 

ไม่มีจิตที่ตายตัว อยู่กับร่าง

อยู่กับแม่ ก็เป็น ลูก

อยู่กับเพื่อน ก็ เป็นเพื่อน

แต่เมื่อไรที่คนไหนเข้าใจเเล้ว

ทุกคนสามารถเป็น มิตรกับทุกคน และเป็นศัตรูกับคนที่เลว

นั้น คือ ภาวะ ที่ไม่ยึดติด



อย่ายึดติดตามตำราหรือคำพูดผู้อื่น

ศึกษา และดู นำไปพิจารณาแล้ว

ไปสร้างภาษาตนเอง

ทำให้ตัวเองเข้าใจถ่องแท้

ทำให้ตัวเองเชื่อ

ชาวบ้านไม่ต้องไปเพ่ง ลืมมนุษย์ทุกคนในโลกให้ได้​

ดูจิต กับ ดูกายตนเอง

ทำยังไงก็ได้ พิสูจน์ให้ตัวเอง

ศรัทธาตัวเองให้ได้​