จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ธรรมแท้ๆ เป็นเรื่องของจิตเท่านั้น.

    ข้างนอกเป็นส่วนประกอบ หากจิตไม่ทุกข์


    ทุกอย่างก็ไม่ทุกข์ หากปัญหาข้างในไม่มี ปัญหาข้างนอกก็ไร้ผล

    จะทำอย่างไรให้ทุกข์ทั้งข้างในและข้างนอกไม่มี นี่แหละที่เราต้องแสวงหาธรรมแท้ๆกัน.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2013
  2. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    "นาทีทองของสังสารวัฎ"
    ไหน ๆ ก็ได้เกิดมาเป็น "มนุษย์" ที่เต็มศักยภาพ ได้เจอพุทธศาสนา ได้มีความสนใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า ได้เจอแผนที่ชี้ทางที่ถูกตรง ได้พบครูบาอาจารย์ และกัลยาณมิตรอย่างนี้แล้ว ไม่ฉกฉวยโอกาสและกำลังจากชาตินี้แล้ว จะไปรอเอาชาติไหน....

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
     
  3. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ฐิติภูตัง
    คือ จิตดวงเดิมที่มีอยู่เป็นอยู่ แต่ถูกห่อหุ้มด้วยอวิชชา ตัณหา อุปาทาน
    เมื่อชำระด้วย ศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว เป็น ฐิติญาณัง
    จิตคือผู้รู้ว่าสูญจากอาสวะ และรู้ว่าสูญจากอาสวะก็เป็นบรมสุข พ้นจากทุกข์ทั้งปวง
    ดังคำว่า นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง เป็นคู่กันกับ นิพฺพานํ ปรมํ สุญญํ

    พระพุทธเจ้ารวมทั้งพระสาวก หลายหมื่นหลายแสนองค์ เข้าสู่พระนิพพาน เพราะพระนิพพานไม่มีที่เต็ม ว่างอยู่ตลอด
    อย่ากลัวพระนิพพานเต็ม พวกเราจงเร่งไปสู่พระนิพพานเหมือนกับพระพุทธเจ้าเถิด พระนิพพานไม่เต็มหรอก ท่านว่าอย่างนั้น

    มีแต่พวกขี้เกียจ กุสิโต หีน วิริโย ท่านพูดเป็นภาษาบาลี

    ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย ไม่มีที่สิ้นสุด แก้ให้ตกเน้อ แก้บ่ตกคาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้แขวนคำนำต่องแต่ง แก้บ่พ้นคาก้นย่างยาย คาย่างยายเวียนตายเวียนเกิด เวียนเอากำเนิดในภพทั้งสาม ภาพทั้งสามเป็นเฮือนเจ้าอยู่ ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายไม่มีที่สิ้นสุด

    เหมือนกับศัพท์บาลีที่ว่า สงฺสาเร อนมตฺตคฺเค ในสงสารมีเบื้องต้นและที่สุด อันใครๆ ก็ตามไปรู้ไม่ได้แล้ว
    นอกจากพระสัพพัญญูเจ้าเท่านั้นจะรู้ได้ เพราะอาศัยอะไร เพราะอาศัยอวิชชาตัวนี้แหละหุ้มห่อ จึงไม่รู้



    ��
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=PJOk66u-qBo]มุตโตทัย (ฉบับรวม) - YouTube[/ame]

    มุตโตทัย
    แปลว่า แดนเกิดแห่งความหลุดพ้น

    ผู้เจริญทั้งหลาย
    อย่าเอาดีแต่ปากเลย จักต้องเอาดีกับจิตตนเองเถิด
    แต่จิตจะดีได้ด้วยการเจริญอริยมรรคนี้
     
  5. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    ซำบายดี ยามเช้าครับ ^^

    จงอย่าพยายามที่จับผิดผู้อื่น...
    เพียงเพราะเชื่อสายตา..
    เพราะเขาอาจไม่เป็นดังที่เราเห็น...
    แต่จงมองเขาด้วยใจ..
    พยายามมองแต่สิ่งดีของเขา..
    แล้วนำมาปรับปรุงตนเอง...
    โลกของเรายังไม่หมดสิ้นคนดี ตราบใดที่พระอาทิตย์ยังให้แสงสว่างแก่โลก
    พระจันทร์ยังคงส่องแสงนวลใย... ตราบนั้น.. คนภายนอก..
    แม้จะดูดุดัน (เหมือนพระอาทิตย์จ้า) แต่ภายในส่วนลึกของจิตใจผู้นั้น...
    ย่อมมีความอ่อนโยน (เหมือนแสงนวลใยแห่งพระจันทร์)

    ว.วชิรเมธี
     
  6. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    ในโลกใบนี้...
    มีใครบ้าง... ที่ดีพร้อมไปเสียทุกอย่าง...
    หรือมีใครบ้าง... ที่เลวพร้อมไปเสียทั้งหมด...
    จนหาดีไม่ได้... หากวาดตามองไปจนทั่วจตุรทิศ (ทิศทั้ง ๔)
    พวกเรา...ก็จะค้นพบสัจธรรมว่า...
    คนทุกคนต่างก็มีดี..มีเลว..มากบ้าง..น้อยบ้าง..
    คละเคล้าปะปนกันไป..ในตัว..เหมือน ๆ กัน

    ว.วชิรเมธี
     
  7. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    1. รู้รอบตัวมากมาย แต่ไม่รู้ดีรู้ชั่ว ก็เสื่อม

    2. รู้เว้นงู เว้นเสือ เว้นมีด เว้นปืน แต่ไม่รู้เว้นอบายมุข ก็เสื่อม

    3. รู้ภาษาต่างประเทศ แต่ไม่รู้คุณค่าภาษาไทย ก็เสื่อม

    4. รู้ตอบคำถาม แต่ไม่รู้ตอบคุณแผ่นดิน ก็เสื่อม

    6. รู้วัน เดือน ปีเกิด แต่ไม่รู้กาลเทศะ ก็เสื่อม

    7. รู้พยากรณ์อากาศ แต่ไม่รู้ว่าชีวิตมีขึ้นมีลง ก็เสื่อม

    8. รู้จักรวาลวิทยา นภากาศ แต่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ก็เสื่อม

    9. รู้จักคนมากมายหลายวงการ แต่ไม่รู้จักตนเอง ก็เสื่อม

    10. รู้จักบริหารคน บริหารงาน แต่ไม่รู้จักวิธีบริหารใจ ก็เสื่อม

    11. รู้จักวิธีหาเงินมากมาย แต่ไม่รู้วิธีบริหารเงิน ก็เสื่อม

    12. รู้จักสร้างตึกสูงนับร้อยชั้น แต่ไม่รู้วิธีฝึกใจให้สูง ก็เสื่อม

    13. รู้จักโกรธ แต่ไม่รู้จักให้อภัย ก็เสื่อม

    14. รู้จักกติกามารยาท แต่ไม่รู้จักกฏแห่งกรรม ก็เสื่อม

    15. รู้จักสวมนาฬิกาแพงๆ แต่ไม่รู้จักคุณค่าของเวลา ก็เสื่อม

    16. รู้จักการเข้าสังคม แต่ไม่รู้จักการเข้าหาสังฆะ ก็เสื่อม

    17. รู้เรียนเอาปริญญาสูงๆ แต่ไม่รู้จักยกพฤติกรรมให้สูง ก็เสื่อม

    18. รู้ที่จะมีลูก แต่ไม่รู้จักเลี้ยงลูก ก็เสื่อม

    19. รู้ที่จะรัก แต่ไม่รู้จักรับผิดชอบ ก็เสื่อม

    20. รู้ที่จะดู แต่ไม่รู้ที่จักเห็น ก็เสื่อม

    21. รู้ที่จะนับถือ แต่ไม่รู้ที่จะนับถืออย่างไร ก็เสื่อม

    22. รู้ที่จะพูด แต่ไม่รู้จักศิลปะการพูด ก็เสื่อม

    23. รู้ที่จะสวมหัวโขน แต่ไม่รู้ที่จะถอด ก็เสื่อม

    24. รู้ว่าวันหนึ่งจะต้องตาย แต่ไม่รู้วิธีเตรียมตัวตาย ก็เสื่อม

    25. รู้คุณของเงินทอง แต่ไม่รู้คุณพ่อคุณแม่ ก็เสื่อม


    ว.วชิรเมธี
     
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=hXC8_KuXpFs&playnext=1&list=PLFekyFDwo01xCmSRXJ-NrABKDvgz252jM&feature=results_main]ปัญญาในพระพุทธศาสนา - YouTube[/ame]
    ปัญญา
    ๑.สุตมยปัญญา ปัญญาที่ได้มาจากตำราหรือการเล่าเรียนหรือการฟัง
    ๒.จินตามยปัญญา ปัญญาที่ได้จากการคิดนึก
    ๓.ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่ได้จากการเจริญสติภาวนา

    *คนส่วนใหญ่ที่มักเข้าไม่ถึง ก็คือ ภาวนามยปัญญา*
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ======
    หนทางแห่งความเสื่อมอีกประการของบัณฑิต โดย TJS คือ

    รู้ธรรมะอ่านธรรมะมากมายศึกษาธรรมะมามากมาย แต่ไม่รู้จักนำไปปฏิบัติขัดเกลา จิตก็เสื่อม

    เพราะได้แต่แค่รู้ แต่จิตจะดีได้จะสูงขึ้นได้ มิใช่อาศัยแค่รู้ แต่อาศัยการขัด

    เกลาจิตก็คือด้วยการนำความรู้ที่มีไปสู่การปฏิบัติ ครับ สาธุ ครับ
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เหตุแห่งความเสื่อมมีมากมาย ความเสื่อมก็มีมากมาย
    แต่อะไรจะเสื่อมก็ไม่สำคัญเท่า อย่าให้จิตมันเสื่อม ครับ
    สาธุ ครับ
     
  11. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    ...ความอดทนเป็นตบะอันยิ่งใหญ่...

    "...เพราะเหตุที่นิสัยจิตใจของคนมันมีต่างกัน ท่านจึงสอนให้มีความอดทน แต่อยู่ด้วยกันแล้วจงหาความดีต่อกัน ไม่อิจฉาพยาบาทไม่จองล้างจองผลาญ ไม่โกรธเกลียดกัน ไม่มีทิฏฐิมานะ มีอะไรก็ควรที่จะปรึกษาหารือเข้าหากันได้ การมุ่งหน้าเข้าหากันได้เป็นการดีมาก

    คนในโลกอันนี้มันมีร้อยแปดพันประการดูแต่คอมมูนิสต์กับรัฐบาล ก็เคยฆ่าฟันกันตาย ฆ่าพระเจ้าพระสงฆ์ ถึงขนาดนั้นเขาก็ยังหันหน้าเข้าหากันได้ สิ่งใดที่ควรจะปรึกษาหารือกันก็ทำ มันเป็นประโยชน์ คอมมูนิสต์ก็เหมือนกันนั่นแหละ สิ่งที่ดีเป็นคุณเป็นประโยชน์ คอมมูนิสต์เขาก็เห็นดีด้วย เขาก็ยังอ่อนน้อมยอมเข้าเป็นพลเมืองดี อันนี้เราเป็นพระเป็นสงฆ์แท้ ๆ ก็ควรจะปรึกษาหารือกัน หวังดีด้วยเจตนาอันดี

    แต่ว่าการปรึกษาหารือกันอย่าเอาทิฏฐิมานะไปพูดกัน หวังความสงบเยือกเย็น หวังความดีความงาม ตั้งจิตเมตตาปรารถนาหวังดีแล้วจึงเข้าหากัน จึงค่อยพูดกันได้ ผู้น้อยผู้ใหญ่ก็พูดกันได้ อย่าเป็นการเอาฐานะข่มขี่และเหยียดหยามกัน ผู้ใหญ่พูดกับผู้น้อยก็อย่าเป็นการเหยียดหยามดูถูก

    คนต้องมีทิฏฐิด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ เรามาปฏิบัติมาละทิฏฐิ แต่ว่ามันไม่ละหรอก ทิฏฐิมันก็มีอยู่ทุกคน ๆ นั่นแหละ ล้วนแต่มากมาย การเอาทิฏฐิใส่กันแล้วมันไม่มีที่สิ้นสุด มันต้องละด้วยกัน ครั้นหากเรามีทิฏฐิแข็งกระด้าง คนอื่นเขาก็แข็งกระด้างเท่ากัน แข็งต่อแข็งใส่กันก็แตกหักน่ะซี ครั้นยอมลดยอมละทิฏฐิมานะคนหนึ่งเสีย ยอมด้านหนึ่งเสีย อีกด้านหนึ่งมันก็อาจจะลดละลงไปได้

    จึงว่าศาสนานี้สอนเพื่อความปรองดองสามัคคีเป็นพื้น เรามาอยู่ในศาสนาของพระพุทธเจ้า แล้วไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้ามันก็ใช้ไม่ได้ ท่านสอนให้มีความอดความทน อยู่ด้วยกันแล้ว จงหาความดีต่อกัน ไม่โกรธเกลียดกัน ไม่มีทิฏฐิมานะ การมุ่งหน้าเข้าหากันได้ เป็นการดีมาก..."

    พระธรรมเทศนาเรื่อง การละทิฏฐิมานะ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    ที่มา fbเครือข่ายกลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2013
  12. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    พึงระวังในข้อนี้

    “การปรามาสพระก็ดี การพูดจาจ้วงจาบในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    หรือท่านที่มีศีล มีธรรมก็ดี จะเป็นกรรมติดตัวเราและขัดขวางการปฏิบัติธรรมในภายหน้า
    ดังนั้น หากเห็นใครทำความดี ก็ควรอนุโมทนายินดีด้วย
    แม้ต่างวัด ต่างสำนักหรือแบบปฏิบัติต่างกันก็ตาม ไม่มีใครผิดหรอก
    เพราะจุดมุ่งหมายต่างก็เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์เช่นกัน
    เพียงแต่เราจะทำให้ดี ดียิ่ง ดีที่สุดเท่านั้น
    ขอให้ถามตัวเราเองเสียก่อนว่า "แล้วเราล่ะ ถึงที่สุดแล้วหรือยัง ?"

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    ที่มา fb ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ
     
  13. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745

    แชร์ประสบการณ์ผู้ฝึกจิตใหม่ๆ
    สมัยเมื่อเริ่มเข้าสู่หนทางแห่งความสว่างในจิต ไปปฎิบัติธรรม
    ท่านบอก ปัญญาเดิมแท้ของเรามีอยู่มาก เลยทำให้เห็นนั่นรู้นี่บ้าง
    หรือ อ๋อ อันนี้ยังมีอุปาทานอยู่ ปัญญายังไม่มา เราก็ เอ๊
    แล้วมันเป็นเยี่ยงไรล่ะปัญญา เรานึกไม่ออกมันคืออะไร เคย
    อ่านว่า ปัญญาทางโลกกับปัญญาทางธรรม มันไม่เหมือนกัน
    อะไรหนอที่ว่าเป็นปัญญาทางธรรม หลังจากนั้นก็ลืมๆไปซะแล้ว
    จนเมื่อได้มาปฎิบัติฝึกจิตอย่างเข้มข้นขึ้น โอ้ละหนอ โอ้ละเห่ กล่อมเกลาจิตอัน
    เน่าเหม็น ทั้งชั่ว และเลว (ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่สะอาดเลย) ถุงใส่ขยะกำจัดขยะในจิต
    มีไม่พอ ต้องคอยสร้างขึ้นมา ผลิตออกมาอยู่เรื่อยๆให้ทันใส่ขยะในจิตเรา(ถุงใส่ขยะที่
    คอยสร้างก็คือ กำลังใจ) ถึงได้มา
    ร้องอ๋อ นี่แหละหนอที่ท่านว่า ปัญญา
    ตัวอย่างง่ายๆ
    เมื่อก่อนเป็นคนชอบมักโกรธ โมโห อยู่เนืองๆ วันหนึ่ง มีเหตุมากระทบ
    ให้เกิดความโกรธ แต่ด้วยอานิสงค์ของการฝึกจิตอยู่เรื่อยเลยมีโอกาส
    ขอใช้คำว่า โอกาส เห็นความโกรธมันผุดขึ้นมาในจิต เราก็เอ๊ มันเลย ใช่เลย
    พอได้แค่คำนี้ มันก็หายไปไหนไม่รู้ พอมันหาย มันเกิดการปล่อยวาง
    มันโล่ง จิตรู้มันก็บอก นี่แหละปัญญาเกิด อ๋อนี่เหรอที่เรียกว่า ปัญญา
    อ๋อ ซึ่งเราไม่ได้คิดค้นหาอะไรจากไหนเลย มันเกิดจากการบวก ลบ
    คูณ หาร จากข้างในจิตเรานี่หว่า เออๆ เอาใหม่ มันจะมีอีกมั้ยเนี่ย
    ปฎิบัติธรรมไป นิมิตมักเกิดจริงปลอม เราก็ไปปรึกษาท่าน ท่านก็บอก
    นิมิตเกิด ปล่อยมันเกิด จะจริงจะปลอมก็ปล่อยมัน ไม่ต้องไปสนใจอะไร
    มากมาย เรากลับมาก็ลองทำดังว่า พอนิมิตเกิดเราก็ปล่อยมันเกิดแล้วเราก็
    ปล่อยให้มันหายไป ดูมันอย่างเดียว ไม่ไปออกความเห็นเสนอหน้ากับนิมิต
    จิตรู้มันผุด เห็นที่ลบกระดานกำลังลบกระดานที่มีตัวหนังสือหมดจดจนขาว
    ไม่เหลืออะไรเลย มันโดนลบ โดนล้างออก เหลือแต่ความว่างเปล่า นิมิต
    หายไปไหนไม่รู้ อะไรๆก็หายไป มันถูกดีลี๊ทออกไปหมด อ๋อ นี่เหรอปัญญา
    มันมองเห็นสิ่งต่างๆ แล้วมันก็ค่อยๆวางปล่อยลบออกไปไม่เหลือแม้นนิด ทำให้
    เรารู้สึกโล่ง กลวงในจิต สว่างโร่ในใจ
    เรารู้ว่า ท่านที่ฝึกจิตมาทั้งหลายก็มีประสบการณ์ที่ไม่น้อยเลย เรามิได้ออกมา
    โอ้อวดหรือบอกว่าเราคือผู้มีปัญญา ตัวอย่างนี้เป็นแค่ปัญญาอันเล็กน้อยน้อยนิด
    เท่ากับหิ่งห้อย ส่องแสงกระพริบไปในความมืดแทบมองอันใดไม่เห็น แต่
    มันจะเป็นประโยชน์แม้จะน้อยนิดกับบางท่านที่กำลังฝึกจิตปฎิบัติการเดินมรรค และผู้ที่
    เคยสงสัยเหมือนเช่นเราว่า ปัญญา คืออะไร ยังมีตัวอย่างอีกมากมาย
    การพูดออกมาบางครั้งมันก็ยังเป็นพูด ไม่เหมือนจิตพูด จิตเข้าใจ
    จิตกระจ่าง มันต่างกันราวฟ้ากับดิน เหมือนเราดูทีวีท่องเที่ยวเขาออกรายการ
    ไปเที่ยวต่างประเทศ มันต่างกับการที่เราไปต่างประเทศด้วยตัวเราเอง
    เจอเองไม่ต้องมีจอสี่เหลี่ยมมาขวาง เห็นเองไม่ต้องผ่านกล้อง จับต้องได้เองไม่ต้องผ่านการบอกเล่า รู้เองไม่ต้องมีการบรรยาย ยังไงยังงั้นเลยแหละ
    เพราะฉะนั้น ทำเองเด้อ
    โมทนาสาธุ
     
  14. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    ผี 6 ตัวล่ะครับ ปากทางแห่งความเสื่อม หรืออบายมุข6 ที่รู้ๆกัน

    ดังนั้น เพศตรงข้าม ก็ทำให้เสื่อมได้เหมือนกันน๊า...

    และชัดเจนด้วย หากไม่ระวังตัว คือ นิวรณ์

    จิตเสื่อมไม่สำคัญ เท่ากับการรู้ว่าจิตเสื่อม และหาวิธีแก้ไข

    อย่างเช่น ใน "มุตโตทัย" ท่านก็เอานิมิตอิตถีเพศ เพื่อให้เห็นและรู้การเสื่อม
    นี่ล่ะ มาแก้ทิฏฐิอำนาจฌานสมาบัติ จนเกิดพอใจ ใน faceงาม รูปงาม
    ดังในเรื่อง "สำคัญตนว่าได้บรรลุอรหัตตผล" จนได้บรรลุอรหันต์อย่างแท้จริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2013
  15. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    [​IMG]
     
  16. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    สวัสดีค่ะคุณ◎สบายดีนะเจ้า ขอบคุณสำหรับธรรมะดี ๆ ที่มีให้กันค่ะ
     
  17. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    [​IMG]
     
  18. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    [​IMG]
     
  19. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    "อาการบังคับตนเองให้กำหนดลมหายใจ ข้อนี้เป็น ศีล

    การกำหนดลมหายใจได้และติดต่อไปจนจิตสงบ ข้อนี้เรียกว่า สมาธิ

    การพิจารณากำหนดลมหายใจว่าไม่เที่ยง ทนได้ยาก มิใช่ตัวตน รู้แล้วปล่อยวาง ข้อนี้เรียกว่า ปัญญา"

    หลวงพ่อชา สุภัทโท
     
  20. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...