จับตามอง สงคราม"นิวเคลียร์" โรงงานพลังงาน "นิวเคลียร์" การรั่วไหลของกัมมันตรังสี

*** สาร ถึงผู้มีอำนาจทุกประเทศ ****


เรียน...ผู้มีอำนาจ ผู้นำทั่วโลก


ปัจจุบัน....โลกกำลังอ่อนไหว



เนื่องจาก....บุรุษผู้หนึ่ง ที่มีสติเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า....
ได้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน คือ โลกุตตระ ....นำ "น้ำ" มาเติมบนโลกให้เต็ม
ตามสัดส่วนที่หายไป ๑๖ ส่วน
มนตรีพระ...ผู้ดูแลจักรวาล ทั้ง ๓๒ องค์ ร่วมประชุมกันและเห็นด้วย

จึงเริ่มจัดสรร น้ำ จำนวนมากจากทางช้างเผือกแหล่งน้ำของจักรวาล
ก้อนน้ำแข็งจากทางช้างเผือก...ถูกลำเลียงมาตาม กระแสลมจักรวาล....มาสู่โลก
เมื่อเข้าใกล้โลก...ก้อนน้ำแข็ง เสียดสีจนเล็กลง ....โดยมีบริเวณ ไซบีเรีย เป็นแหล่งรองรับ
ซึ่งกระบวนการนี้ได้เริ่มต้นมาหลายปีแล้ว
เกิดปรากฏการณ์ ที่เขาเรียก...ฝนดาวตก....ไม่เป็นภัยอันตรายต่อโลก...
ซึ่งต่างจากฝนเหล็ก...ที่มีอันตรายยิ่ง

เมื่อเสร็จสิ้น...โลกมนุษย์เรา....จะเข้าสู่ยุคใหญ่ ที่สมบูรณ์เหมือนในอดีตกาล
น้ำจะเพิ่มมากขึ้น...ทุกอณูของสรรพสิ่งบนโลก จะมีน้ำครบส่วน คือ เข้ายุคพระศรีอารย์

เมื่อถึงเวลาเหมาะสม...บุรุษ ผู้มีสติพระพุทธเจ้า....
กาย เป็นพระพุทธเจ้า...จิตใจ เป็นโลกุตตระ
จะลุกออกมาโปรด...ธรรมของโลกุตตระ เพื่อนำสัตว์ให้หลุดพ้น

แต่...ชะตาฟ้าลิขิต มนุษย์ทุกคน จะต้องระส่ำระสาย...
จากภัยอาวุธร้ายจากฟากฟ้า...ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
ก่อน....ที่มนุษย์ กำลังก้าวเดินถึงจุดนี้...
โลกุตตระ...ทรงเมตตา....ให้พรโปรดมวลมนุษย์ ประกาศว่า

 

ตายแน่ๆ
5555555555555555555555555555555555555

ตาย ต่าย ต้าย ต๊าย ต๋าย

ตาย(f) (f) (f) (f) (f) (f)

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อิหร่านเปิดทัวร์โรงงานนิวเคลียร์ อ้างแสดงความบริสุทธิ์ใจ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 กุมภาพันธ์ 2550 03:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ผู้แทนจากนานาประเทศเดินชมภายในโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สื่อมวลชนถ่ายภาพภายในโรงงาน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เจ้าหน้าที่ของโครงการนิวเคลียร์</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี – อิหร่านเปิดประตูโรงงานนิวเคลียร์วานนี้ (3) ให้ผู้แทนจากประเทศต่างๆ เข้าชม เพื่อแสดงความโปร่งใสของประเทศ ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาประเทศให้รัฐบาลเตหะรานหยุดโครงการนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ยังยืนยันจะเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ต่อไป

ผู้แทนจากขบวนการประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (NAM) อาทิ ทูตของคิวบา มาเลเซีย และอียิปต์ประจำทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ รวมถึงผู้แทน 77 คน เช่น ทูตจากซูดาน โบลิเวีย และอัลจีเรียได้เดินทางเยี่ยมชมโรงงานแปลงแร่ยูเรเนียมของอิหร่าน ในเมืองอิสฟาฮาน พร้อมกับสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ

ด้าน อาลี อัสกอร์ โซลตอนีห์ ทูตอิหร่านประจำไอเออีเอกล่าวว่า “พวกเขามีโอกาสที่จะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในกิจกรรมนิวเคลียร์สันติภาพของอิหร่านด้วยตัวเอง และมีประสบการณ์ตรง”

นอกจากนี้ เขายังย้ำว่า การเปิดโรงงานให้ชมนี้เป็นความโปร่งใสที่สุดที่ประเทศหนึ่งจะทำได้แล้ว และมันยังแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของอิหร่านใส่ใจต่อความคิดเห็นของนานาประเทศด้วย

อย่างไรก็ดี ทูตอิหร่านคนดังกล่าวก็ออกมายืนยันหลังจากการพาผู้แทนจากนานาประเทศทัวร์ภายในโรงงานแล้วว่า อิหร่านยังจะติดตั้งเครื่องเพิ่มสมรรถภาพแร่ยูเรเนียมต่อไป โดยปฏิเสธที่จะเผยถึงกำหนดการ วันและเวลา

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ความขัดแย้งในอิรักชนวนเหตุสงครามกลางเมือง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 กุมภาพันธ์ 2550 11:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สหรัฐฯ เปิดเผยผลการประเมินด้านการข่าวในอิรักแล้วเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ความขัดแย้งในอิรักเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดสงครามกลางเมือง และชี้ว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงทางศาสนามากขึ้น และรัฐธรรมนูญในอิรักจะล่มสลายถ้าสหรัฐฯถอนกองกำลังออกจากอิรักในทันที
ถึงแม้ว่ารายงานดังกล่าวระบุว่า อิรักใกล้ที่จะเกิดความชุลมุนวุ่นวาย แต่ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐยืนยันว่า การประเมินครั้งนี้เป็นไปอย่างยุติธรรม และอธิบายถึงการตัดสินใจของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่จะส่งกองกำลังไปเพิ่มเติมในอิรักอีกกว่า 21,000 นาย ผลการประเมินข่าวกรองแห่งชาติครั้งนี้ ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากหน่วยข่าวกรอง 16 แห่งในสหรัฐฯ ยังยืนยันด้วยว่า การรีบร้อนถอนกองกำลังพันธมิตรออกจากอิรักจะนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงทางศาสนามากขึ้น และกองกำลังความมั่นคงของอิรักจะเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมสถานการณ์ แต่ถ้าเหตุการณ์รุนแรงลดลงแล้วก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะสร้างความปรองดองทางการเมืองได้ภายในเวลา 12 - 18 เดือนข้างหน้า

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อเมริกันแทรกแซงภายในประเทศอื่น เพื่อควบคุมอำนาจขั้วการเมือง แสวง
ผลประโยชน์ต่างๆ โดยไม่สนใจผลกระทบต่อใคร แขกเริ่มทนไม่ไหว จำต้อง

นิวเคลียร์!

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รัสเซียรับประกันสหรัฐฯ ไม่มีแผนทำสงครามกับอิหร่าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 กุมภาพันธ์ 2550 14:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=220 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=220> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอชเอ็น - เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย รับประกันว่า สหรัฐฯ ไม่มีแผนทำสงครามกับอิหร่าน พร้อมระบุว่า วอชิงตันเห็นพ้องที่จะร่วมมือกับมอสโกในความพยายามดึงเตหะรานยุติความขัดแย้งกรณีโปรแกรมแปรรูปยูเรเนียม


รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหลังจากเดินทางกลับมาจากวอชิงตันว่า สหรัฐฯ ให้คำรับประกันกับรัสเซียว่าไม่มีแผนทำสงครามกับอิหร่าน และสาเหตุที่เพิ่มเติมกำลังทหารเข้าไปยังอ่าวเปอร์เซีย เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค

จากการสัมภาษณ์ของสำนักข่าวอาร์ไอเอ ลาฟรอฟ กล่าวต่อว่า สหรัฐฯ และรัสเซียจะทำงานร่วมกันในคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในการดึงอิหร่านคืนสู่โต๊ะเจรจา และแก้ปัญหาด้วยวิถีทางการทูต

ขณะเดียวกัน ลาฟรอฟ ยอมรับว่า ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างบางส่วนระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ เกี่ยวกับสภาวะในโคโซโว

หลังจากประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ของสหรัฐฯ ออกมาขู่ว่า เขาจะตอบโต้อิหร่าน หากว่ารัฐบาลเตหะรานเพิ่มระดับปฏิบัติการทางทหารเข้าไปในอิรัก รวมทั้งกล่าวหาว่าอิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในอิรักและยังเป็นผู้จัดหาอาวุธให้พวกเขาเหล่านั้นนำมาใช้สังหารทหารสหรัฐฯ ทำให้นานาชาติวิตกกังวลว่าบุชจะดำเนินการรุกรานอิหร่านเหมือนกับอิรัก

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกา ยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะเปิดสงครามกับอิหร่าน มีเพียงแค่ความพยายามยับยั้งเตหะรานไม่ให้สนับสนุนกลุ่มก่อความรุนแรงในอิรักเท่านั้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อเมริกันชนต้านนโยบายอิรักของ “บุช” ร้องถอนทหารเร็วที่สุด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 กุมภาพันธ์ 2550 15:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐฯ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ฟอกซ์นิวส์ - ชาวสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เชื่อว่าประเทศของตนเองควรจะยุติการมีส่วนร่วมในสงครามอิรักเร็วที่สุด โดยโพลล่าสุดชี้มีถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องการให้ถอนทหารก่อนปีหน้า ขณะที่อีกร้อยละ 12 อยากให้ถอนกำลังพลในทันที

ผลการสำรวจของสำนักข่าวฟอกซ์ พบว่า ราว 34 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่ตอบแบบสอบถามอยากให้ถอนทหารออกมาหลังจากกองกำลังอิรักเข้ารับภาระต่อแล้ว และมีเพียงร้อยละ 9 เท่านั้นที่อยากให้เพิ่มกำลังทหารเข้าไปในอิรัก

นับตั้งแต่รุกรานอิรักเพื่อล้มล้างรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ในเดือนมีนาคมปี 2003 มีทหารสหรัฐฯ เสียชีวิตในปฏิบัติการดังกล่าวไปแล้ว 3,090 นาย และมีนายทหารได้รับบาดเจ็บมากกว่า 23,200 นาย

ในวันที่ 10 มกราคม ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ของสหรัฐฯ แถลงนโยบายใหม่ในความพยายามยุติความรุนแรงในอิรักด้วยการเพิ่มกำลังทหาร ทั้งนี้จากผลการสำรวจพบว่ามีถึง 77 เปอร์เซ็นต์ของอเมริกัน มองว่าสถานการณ์ในอิรัก กระทบต่อความปลอดภัยของพวกเขาในสหรัฐฯด้วย

โดยที่ผลการสำรวจความเห็นของชาวอเมริกัน 900 รายระหว่างวันที่ 30-31 มกราคม มี 19 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่คิดว่าความรุนแรงในอิรักจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของพวกเขา ขณะที่อีก 4 เปอร์เซ็นต์ ตอบว่าไม่ทราบ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คาร์บอมบ์กลางแบกแดดดับร่วม140 รบ.อิรักเผยคนร้ายใช้ระเบิดหนัก1ตัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 กุมภาพันธ์ 2550 21:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สภาพความเสีหายบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุระเบิด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี/เอเจนซี - เกิดเหตุคนร้ายขับรถบรรทุกระเบิดหนัก 1 ตัน เข้าถล่มตลาดในแหล่งชุมชนชาวชิอะห์กลางกรุงแบกแดดของอิรัก เมื่อวันเสาร์ (3) คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 135 คน บาดเจ็บอีกกว่า 300 คน อีกทั้งยังมีประชาชนบางส่วนติดอยู่ใต้ซากบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแรงระเบิด ถือเป็นเหตุรุนแรงในพื้นที่เดียวครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เกิดเหตุคาร์บอมบ์หลายระลอกเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว

มือระเบิดพลีชีพได้ขับรถบรรทุกยี่ห้อเบนซ์เข้าไปในตลาดในย่านซาดริยะห์แล้วจึงกดระเบิดในช่วงเย็นที่มีประชาชนมหาศาลออกมาจับจ่ายซื้ออาหารและข้าวของเครื่องใช้ ก่อนจะถึงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานในตอนกลางคืน แรงระเบิดทำให้แผงขายผักผลไม้และร้านค้าพังราบเป็นหน้ากลอง เกิดหลุมบริเวณด้านหน้าร้านค้า บ้านเรือนใกล้เคียงพังพินาศ และร่างผู้เสียชีวิตอันแหลกเหลวและไหม้เกรียมนอนกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ

พลตรีญิฮัด อัลญาเบรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยอิรัก กล่าวว่า รถคันดังกล่าวบรรทุกวัตถุระเบิดรวม 1 ตัน

ช่างภาพของสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้รอดชีวิตที่กำลังหวาดกลัวอย่างหนักได้ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุและกั้นไม่ให้รถพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เนื่องจากมีข่าวลือว่าอาจมีระเบิดซุกซ่อนอยู่ในรถพยาบาลเหล่านั้น

ตำรวจเลยต้องใช้รถตำรวจทุกคันที่มีอยู่ทยอยนำเหยื่อระเบิดส่งรถพยาบาล ตำรวจนายหนึ่งที่กำลังเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บใส่รถปิ๊กอัพ ถูกประชาชนผู้รอดชีวิตที่อยู่ในอาการช็อก เข้าทุบตี
สำหรับตัวเลขเหยื่อคาร์บอมบ์ครั้งนี้ ตำรวจเปิดเผยว่าพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 135 คน ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 305 คน

โรงพยาบาลต่างๆอยู่ในสภาพอลหม่านวุ่นวายอย่างหนัก โดยอาสาสมัครรีบนำตัวผู้บาดเจ็บไปยังแผนกต่างๆเพื่อรับการรักษา ขณะที่ทางเดินในโรงพยาบาลแปรสภาพเป็นที่เก็บศพชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่วางศพผู้เสียชีวิตที่ไหม้เกรียมหรือโชกเลือดอยู่ในบริเวณนั้น

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในซากบ้านเรือนที่พังราบเนื่องจากแรงระเบิดครั้งใหญ่นี้

ทางด้านทำเนียบขาวได้ออกคำแถลงประณามผู้ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้และให้คำมั่นว่าจะให้ร่วมมือกับทางการอิรักในการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาพิจารณาคดี

ขณะที่นายกรัฐมนตรีนูรี อัลมาลิกี แห่งอิรัก กล่าวว่า ลูกสมุนของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ได้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ในครั้งนี้เพื่อเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์มากมาย อีกทั้งยังอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดพลีชีพครั้งก่อนๆทั้งในชุมชน ตลาดและมหาวิทยาลัยในแบกแดด

ก่อนหน้านี้ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ 6 ระลอก ในย่านซาดร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นย่านที่มีชาวชิอะห์อาศัยอยู่หนาแน่น ในแบกแดด เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตไปทั้งสิ้น 202 คน บาดเจ็บ 250 คน ถือเป็นเหตุนองเลือดครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐฯนำกำลังบุกอิรัก เมื่อปี2003

ด้านอาลี อัลดับแบก โฆษกรัฐบาลอิรัก แถลงว่า ตนยืนยันว่า 50%ของเหตุนองเลือดในอิรัก เป็นฝีมือของชาวอาหรับหัวรุนแรงที่มาจากซีเรีย

ส่วนสถานการณ์ในกรุงแบกแดดเมื่อวันนี้(4) ก็ยังมีเสียงระเบิดและเสียงปืนได้ยินอยู่ประปราย โดยที่ย่านอัลกอสรอ รถตำรวจที่กำลังลาดตระเวนพื้นที่ดังกล่าวก็แล่นทับกับระเบิดติดตั้งจากริมถนน ส่งผลให้ตำรวจเสียชีวิตไป 4 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย นอกจากนี้ยังมีคาร์บอมบ์และเหตุกราดยิงทั้งในแบกแดดและจังหวัดอื่นๆในอิรัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไป 11 คน เมื่อวานนี้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์(2) มีรายงานข่าวกรองของทางการสหรัฐฯระบุว่า เหตุความขัดแย้งทางเชื้อชาติศาสนา ระหว่างกลุ่มมุสลิมสุหนี่และชิอะห์ในอิรักได้ทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นสงครามกลางเมืองแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อิรักจวกซีเรียปล่อยให้มีการลักลอบนำระเบิดข้ามพรมแดน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 กุมภาพันธ์ 2550 18:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อิรักกล่าวหาความละเลยของซีเรีย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี - รัฐบาลอิรักกล่าวในวันนี้(4) ครึ่งหนึ่งของระเบิดที่กลุ่มหัวรุนแรงของสุหนี่ใช้ก่อเหตุในอิรัก ถูกส่งมาจากเพื่อนบ้านอย่างซีเรีย

รัฐบาลของสหรัฐฯและอิรัก กล่าวหาซีเรียและอิหร่าน มานานว่าอยู่เบื้องหลังที่คอยให้การสนับสนุนอาวุธแก่นักรบอิสลามที่ก่อเหตุโจมตีทหารและพลเรือนในอิรัก

ล่าสุดโฆษกของรัฐบาลอิรัก กล่าวว่าพวกสุหนี่บางคนเป็นพวกนอกศาสนา และยืนยันว่าระเบิดกว่า 50 เปอร์เซนต์ ที่คร่าชีวิตชาวอิรักถูกส่งข้ามมาจากพรมแดนของซีเรีย

โฆษกรัฐบาลอิรัก กล่าวว่าจะต้องจับตาซีเรียอย่างใกล้ชิด โดยอิรักเคยบอกมาก่อนหน้านี้และวันนี้ขอย้ำอีกครั้ง อิรักเผชิญกับการเสียเลือดเนื้อและความเจ็บปวด ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ซีเรีย ไม่จริงจังกับการดูแลตามแนวพรมแดน

รัฐบาลอิรักภายใต้ผู้นำที่นับถือนิกายชีอะห์ ออกมากล่าวหาว่าผู้สนับสนุน ซัดดัม ฮุสเซน และนักรบนิกาย คือผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์พลีชีพ เมื่อวันเสาร์(3) ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 135 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 300 คน ซึ่งเป็นสถิติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในการโจมตีครั้งเดียว นับตั้งแต่สหรัฐฯรุกรานในปี 2003

ด้านรัฐบาลซีเรีย ออกมากล่าวว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมตามแนวชายแดน พร้อมกับระบุจะไม่ให้มีนกตัวไหนบินข้ามไปอิรักได้ นอกจากนี้ยังชี้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความไม่เตรียมพร้อมของอิรักเช่นกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** บริวาร...ไม่กลัวใคร ****

หลายประเทศเล็ก...มีอาวุธร้ายนำวิถี....ไม่กลัวใคร...ไม่กลัวตำรวจโลก
เพราะ...มีพี่ใหญ่หนุนหลัง ......หวังครองโลก
ก่อนเกิด...สงคราม ทุกฝ่ายอยากได้...ครัวของโลก...ทำอาหารให้กิน

หาก...ผู้บริหารไทย...ทรยศ "สัจจะ" ที่ปฏิญาณที่ให้ไว้....
ท่านทั้งหลาย...จะกลายเป็นผู้ขายชาติทันที !!!
ชีวิตต่อไป...จะวิบัติเจ็บทุกข์ทรมานถึงที่สุด
หาก...ท่านทั้งหลาย...มั่นคงใน "คำสัตย์ปฏิญาณ" !!!
ชีวิตของท่าน...จะเจริญ อย่างที่สุด

เพราะ...คำสัตย์ ปฏิญาณ สาบานตน...คือ สัจจะ ที่ห้ามล่วงเกิน
จึง เป็นได้ทั้ง "พร" และ "คำสาป" จาก สิ่งศักด์สิทธิ์

ชีวิตอนาคตของท่านทั้งหลาย
ขึ้นกับ "การกระทำ" ของตัวเองทั้งสิ้น
ขอให้คิดถึงใจเขาใจเรา ... เมตตา ... เสียสละให้มาก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ญี่ปุ่นกร้าวไม่ให้ความช่วยเหลือโสมแดงจนกว่ายุตินุก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 กุมภาพันธ์ 2550 14:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>การเจรจา 6 ฝ่าย ที่จะเริ่มอีกครั้งในสัปดาห์นี้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - ญี่ปุ่นเตือนจะไม่เตรียมการให้ความช่วยเหลือใดๆ กับเกาหลีเหนือ จนกว่าเกาหลีเหนือจะแสดงตัวอย่างชัดเจนว่าจะยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์

เมื่อถูกถามว่า ญี่ปุ่นอาจจะยื่นข้อเสนอให้ความช่วยเหลือกับเปียงยาง ทาง ยาซูฮิซา ชิโอซากิ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า

 

*** ผลการกระทำ ****

ผลจากความอยาก ความโลภ
ความไร้เมตตาปราณีต่อกัน
ใช้วิธีการแก่งแย่งชิงกัน ขู่กัน
สร้างความเบียดเบียนต่อกัน

ประเทศใหญ่ ก็อยากมีอำนาจล้นฟ้า ครองความเป็นเจ้าโลก
ใช้ประเทศเล็กเป็นเครื่องมือในการต่อรอง

ขออย่าให้...บ้านเมืองสยามเรา
เป็นเช่นนี้เลย

เพียงแค่ขอให้...ผู้มีกำลังอำนาจในบ้านเมือง
ไม่ขายชาติ ไม่ทรยศคนไทย พระมหากษัตริย์ไทยด้วยกัน...ก็พอแล้ว

หากเรา...เคยพลาดพลั้งหลงผิด ไปกับความเชื่อผิดๆ
ที่ไปสนับสนุนต่างชาติ และสนับสนุนให้คนไทยเกลียดกันเอง...กัดกันเอง
ก็ขอให้...ยุติการกระทำของตนเอง....เสียแต่วันนี้
ไม่ยุยง...ทำลายความสามัคคีของคนไทย อีกต่อไป

ขอให้ผู้ที่คิดผิดและกลับตัว กลับใจได้
รอดพ้นจากภัยพิบัติ กรรมในอนาคต ...และพบกับปฏิหาริย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

USอ้างภัย'จีน'พัฒนา'ขีปนาวุธ'ในอวกาศ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 กุมภาพันธ์ 2550 20:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=379 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=379> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นักท่องเที่ยวกำลังชมกระสวยอวกาศที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติในกรุงปักกิ่ง ขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวด้านอวกาศของจีนอย่างใกล้ชิด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี - สหรัฐฯควรเริ่มอภิปรายถกเกียงกันได้แล้ว เรื่องโครงการพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธที่ตั้งฐานในอวกาศ ในเมื่อจีนประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงจรวดนำวิถีจากภาคพื้นดิน ขึ้นไปทำลายดาวเทียมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นความเห็นของ พล.อ.ท.เฮนรี โอเบอริง ผู้อำนวยการสำนักงานขีปนาวุธเพื่อการป้องกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนทากอน) เมื่อวันจันทร์(5)

ระหว่างการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์คราวนี้ โอเบอริงยังบอกปัดความหวั่นวิตกของพวกนักวิจารณ์ที่ว่า หากใช้ระบบต่อต้านขีปนาวุธในอวกาศ มาขัดขวางจรวดติดหัวรบซึ่งยิงมาใส่สหรัฐฯแล้ว จะทำให้เกิดปัญหาเศษซากที่จะกระจายฟุ้งไปในอวกาศ ทั้งนี้เขาบอกว่า เรื่องเศษซากเป็นเรื่องน่าห่วงน้อยกว่าการที่จะต้องป้องกันอเมริกา ไม่ให้ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์

อันที่จริงในร่างงบประมาณประจำปี 2008 ซึ่งประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ยื่นต่อรัฐสภาวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็มีรายการของบขั้นต้น 10 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ศึกษาว่าระบบต่อต้านขีปนาวุธซึ่งมีฐานยิงอยู่ในอวกาศนั้น ควรจะมีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร ถึงแม้เรื่องนี้จะถูกคัดค้านทั้งจากจีน, รัสเซีย, และประเทศอื่นๆ

หากงบรายการนี้ได้รับอนุมัติ ย่อมเท่ากับเป็นรายจ่ายก้อนแรกในยุคของบุช สำหรับโครงการพัฒนาศักยภาพด้านการป้องกันขีปนาวุธขึ้นในอวกาศ จากที่ก่อนหน้านี้ศักยภาพด้านนี้ในอวกาศจะจำกัดอยู่แค่การติดตามและการสอดแนมเท่านั้น

นอกจากนั้น ยังจะเป็นก้าวอีกก้าวหนึ่งมุ่งสู่การสร้างปราการป้องกันขีปนาวุธ ซึ่งเสนอขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1983 โดย โรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีสหรัฐฯในขณะนั้น ที่ได้เรียกโครงการนี้ว่า "แผนการริเริ่มเพื่อการป้องกันทางยุทธศาสตร์" หรือรู้จักกันทั่วไปในนาม โครงการ "สตาร์วอร์"

โอเบอริงกล่าวว่า การได้งบศึกษาขั้นต้นจะเป็นการลงทุนเพื่อสร้าง "รากฐานการทดลองที่ดี" ของสหรัฐฯ ซึ่งมุ่งหาคำตอบให้แก่คำถามที่ว่า จะเพิ่มระบบต่อต้านขีปนาวุธที่มีฐานอยู่ในอวกาศขึ้นมาอย่างไร เป็นการเสริมเติมระบบซึ่งมีฐานอยู่ในทะเลและบนภาคพื้นดิน ที่อเมริกากำลังพัฒนาอยู่ในเวลานี้

เขาระบุด้วยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกประการหนึ่งก็คือ จีนอาจถ่ายโอนความรู้เรื่องระบบต่อต้านขีปนาวุธของตน ไปให้แก่ประเทศอื่นๆ

โอเบอริงยังปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า การที่จีนทดสอบยิงขีปนาวุธจากฐานภาคพื้นดินไปทำลายดาวเทียมเก่าของตนเองในอวกาศเมื่อวันที่ 11 มกราคมนั้น เป็นการแสดงปฏิกิริยาต่อความเคลื่อนไหวสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธของอเมริกา โดยเขายืนยันว่า จีนได้พยายามพัฒนาศักยภาพด้านนี้มาก่อนนานแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แหม่....งานนี้ ไม่ต้องเหนื่อยฆ่ากันก้อตายอยู่ดี(แก่ตาย ป่วยตาย เกิดอุบัติเหตุตายฯลฯ)
ผู้ที่รอดชนิดชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์(รอดหมายถึงรอดพ้นจากตกนรก เรื่องตายนั้นไม่มีใครรอดแน่) ก้อมีแต่พระอริยะเจ้าเท่านั้นครับ
ยังไงซะขอเชิญชวนพี่น้องเพื่อน ๆ ทุกท่านมาเร่งปฏิบัติเป็นพระโสดาบันให้ได้เป็นอย่างน้อยกันเถิดครับ