งานบุญ งานกุศล ประเทศไทย

เกิดในชาตินี้บุญที่เขาได้สร้างสมมา จึงมาตอบสนองให้เขามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย แต่ถ้าเขาคอบนั่งกินบุญเก่าอยู่ โดยไม่สร้างบุญใหม่เพิ่มเติมในชาตินี้ มิหนำซ้ำกลับสร้างแต่ความชั่ว ดังที่คุณเล่ามาแล้ว ก็นับว่าเขาเหล่านั้นตกอยู่ในความประมาทอย่างมากแบะเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะถ้าเมื่อใดบุญเก่าหมด กรรมชั่วจะมาตอบสนองเขาทันที อาจจะได้รับผลกรรมทันตาเห็นในชาติปัจจุบันก็ได้นะ แต่ถ้าบุญกุศลที่เขาสร้างสมมาแต่อดีตมีมากผลของกรรมชั่วแม้จะตามมาตอบสนองไม่ทันในชาตินี้ เขาก็ต้องไปรับกรรมชั่วในชาติหน้า ภพหน้าอยู่ดี หนีไม่พ้นหรอกนะ เหมือนเช่นคุณ ถ้ามัวแต่นั่งนอนรอกินมะม่วงที่คุณลงทุนลงแรงปลูกไว้เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว โดยไม่ยอมรดน้ำ พรวนดิน ให้ปุ๋ย หรือปลูกต้นมะม่วงใหม่เพิ่มเติมแล้ว ผลมะม่วงจากต้นเก่าที่จะออกผลให้คุณก็จะน้อยลงๆและลูกผลก็จะเล็กลงไปทุกทีๆ ในที่สุดสักวันหนึ่ง คุณก็จะไม่มีมะม่วงกินเช่นกันนะ” หลวงพ่ออธิบายอย่างละเอียด และเมื่อเห็นข้าพเจ้ายังตั้งใจฟังอยู่ก็พูดต่อว่า
“มนุษย์และสัตว์โลก ล้วนถูกลิขิตให้เกิดมาเพื่อชดใช้กรรมจากในอดีตชาติทั้งสิ้น ใครทำกรรมดีมา ก็ได้เกิดมาเสวยสุขและใครทำกรรมชั่วมาก็ต้องชดใช้กรรมชั่วนั้น ๆ หลีกเหลี่ยงไม่ได้ ส่วนเมื่อเกิดมาแล้ว หากผู้ใดสร้างแต่คุณงามความดี ก็จะไปได้รับส่วนกุศลผลบุญตอบสนองเอาในชาติหน้า เหมือนเช่นคนที่เริ่มปลูกมะม่วงในขณะนี้ ก็จะไปได้กินมะม่วงในอีก 5-6 ปีข้างหน้านั่นแหละส่วนผู้ใดแม้ร่ำรวย มั่งมีศรีสุข หากประกอบแต่กรรมชั่วไว้ในชาตินี้ก็จะต้องชดใช้ดรรมชั่วในชาติหน้า เช่นกันนะ ด้วยเหตุนี้ องค์สมเด็จพระศาสดาจึงได้จำแนกผู้คนออกไว้เป็น 4 จำพวกด้วยกันคือ
1.มาสว่างไปมืด ได้แก่บุคคลประเภทที่คุณได้เล่ามาคือในอดีตชาติสั่งสมบุญเอาไว้มาก พอมาเกิดในชาตินี้ก็มั่งมีศรีสุข และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่มิได้สร้างสมบุญกุศลเพิ่มเติม หรือกระทำแต่ความชั่วในชาตินี้ เมื่อตายไปก็จะต้องไปชดใช้กรรมในอบายภูมิทั้ง 4 คือนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน หรือแม้นหากเกิดเป็นมนุษย์ก็จะยากจนข้นแค้นแสนสาหัสนะ
2.มามืดไปมืด ได้แก่บุคคลที่เกิดมาชดใช้กรรมชั่วที่ได้กระทำไว้ในอดีตชาติ มิหนำซ้ำเมื่อเกิดมาแล้วกลับกระทำแต่ความชั่วอีก เมื่อตายไปก็จะต้องไปชดใช้ความชั่วในอบายภูมิ สถานเดียว
3.มามืดไปสว่าง ได้แก่บุคคลที่เกิดมาชดใช้กรรมชั่วที่ได้กระทำมาแล้วในอดีตชาติและแม้เมื่อเกิดมาในชาตินี้ จะมีฐานะความเป็นอยู่ที่ยากจนข้นแค้นแสนสาหัสสักเพียงไร หรือประสบแต่ความผิดหวังล้มเหลว ซ้ำแล้วซ้ำเล่าสักเพียงไหน ก็ตั้งหน้าตั้งตาประกอบแต่คุณงามความดีโดยไม่ท้อถอย เมื่อตายไปก็จักได้ไปเสวยสุขตามกุศลผลบุญที่ได้กระทำนั้น ดังเช่นเจ้าแดงสุนัขของฉันซึ่งถูกรถบรรทุกทรายทับตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดานั่นแหละ จำได้ไหม?
4.มาสว่างไปสว่าง ได้แก่บุคคลที่ในอดีตชาติสั่งสมบุญไว้มากเมื่อมาเกิดในชาตินี้ก็มั่งมีศรีสุขและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมิหนำซ้ำ กลับตั้งหน้าตั้งตาประกอบแต่คุณงามความดีเพิ่มเติมโดยไม่หยุดยั้ง เมื่อตายไปก็จักไปเสวยสุขในภพที่สูงกว่ามนุษย์นะ หรือแม้นเกิดเป็นมนุษย์ก็จะร่ำรวย มั่งมีศรีสุขยิ่งกว่าเก่า ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานยิ่งกว่าเก่านะ เข้าใจหรือยัง?
“รวมความว่า ทุกคนเกิดมาเพื่อใช้กรรมเก่าที่ได้กระทำมาแต่อดีตชาติทั้งสิ้น หากทำดีมากก็ได้เสวยสุข หากทำชั่วก็ต้องทนทุกข์ชดใช้กรรมไปส่วนจะกระทำความดีหรือกระทำความชั่วในชาตินี้ ก็ต้องว่ากันในชาติหน้าใช่ไหมครับ?”ข้าพเจ้าเน้นถามเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
“ถูกต้องแล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกเสียทั้งหมดทีเดียวนะ เพราะการกระทำชั่วบางอย่าง เป็นบาปมหันต์ อาจต้องรับกรรมชั่วอย่างทันตาเห็นโดยไม่จำเป็นต้องไปรอถึงชาติหน้าก็มี เช่น เถนเทวทัต ถูกธรณีสูบเป็นต้น ขอให้จำไว้นะ ของสูงเช่นพระพุทธเจ้าก็ดี พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี พระอริยสงฆ์ก็ดี อย่าได้ไปลบลู่ดูหมิ่นเป็นอันขาดนะเพราะเป็นบาปมหันต์รับผลทันตาเห็นในชาตินี้ทันที และแม้ตายแล้วบาปนั้นก็ยังจะติดตามไปถึงชาติหน้าภพหน้าอีกด้วยนะ” หลวงพ่ออธิบายย้ำแล้วพูดต่อว่าความจริงชีวิตมนุษย์นั้นสั้นนัก ตามสถิติแล้ว เขาเฉลี่ยอายุของคนไทยทั่วประเทศก็แค่ 55-60 ปีตายมิใช่หรือ? ดังนั้นถ้าหากเอาเวลาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (สวรรค์ชั้นที่ 2 )มาเทียบคือ 1 วันในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ซึ่งเท่ากับ 100 ปีของมนุษย์แล้ว ก็จะเห็นได้ชัดว่าในชั่วชีวิตหนึ่ง ๆ ของพวกคุณนั้นมีความหมายนานเพียงแค่ครึ่งวันของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เท่านั้นเองนะ คราวนี้ถ้าสมมุติว่าคุณหนีมาเที่ยวในโลกมนุษย์เพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้นนะ และถ้าครึ่งวันนี้คุณเอาแต่กอบโกยใฝ่หาแต่ความสุขทุกรูปแบบโดยไม่คำนึงถึงความถูก ความควรหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นมาเป็นของตนก็ดี ผิดลูกผิดเมียเขาก็ดี หรือกล่าววาจาเท็จหลอกหลวงผู้อื่นก็ดี หรือเสพย์สุรายาเมาก่อความเดือนร้อนรบกวน คุณก็จะต้องรับผลแห่งกรรมชั่วที่คุณได้กระทำอีกไม่รู้กี่กัลป์ กี่ภพ กี่ชาตินะ เปรียบเสมือนเช่นในวันรับเงินเดือนหากคุณนำเงินนั้นไปเที่ยวเตร่ หาความสนุกสนานอย่างเต็มที่ด้วยการตั้งวงเสพย์สุรา เที่ยวบาร์ เที่ยวคลับ เล่นการพนันหรือหลับนอนกับหญิงโสเภณี จนเงินเดือนหมด คุณก็สนุกของคุณอยู่แค่วันเดียวนะแต่อีก 29 วันที่เหลือคุณจะต้องเกิดทุกข์ใช่ไหม? แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณเวลาครึ่งวันนี้ ตั้งหน้าปฏิบัติแต่คุณงามความดีโดยไม่ท้อถอยแม้จะยากดีมีจนประสพแต่ความทุกข์เข็ญปานใดก็ยึดมั่นในทาน ศีล ภาวนา ให้ได้ตลอดไปแล้วคุณก็จะได้เสวยผลแห่งกรรมดีอีกหลายภพหลายชาติ เช่นกันนะ ในขณะนี้คุณก็โชคดีแล้วที่เกิดมาเป็นมนุษย์ดังนั้นจงใช้ระยะเวลาอันสั้นของชีวิตนี้ ประกอบแต่กุศล ผลบุญเถิด” หลวงพ่ออธิบายอย่างละเอียด
“หลวงพ่อครับ สมมติว่า หากผมได้สร้างกรรมชั่วมาแต่อดีตและเมื่อได้เกิดในชาตินี้ ผมก็จะรีบบวชทันทีเมื่อมีอายุครบบวชแล้วเร่งปฏิบัติแต่คุณงามความดี ด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาอย่างครบถ้วนโดยมิได้ขาดตกบกพร่องเลย ผมยังจะต้องชดใช้กรรมชั่วที่ได้กระทำมาแต่ในอดีตชาติอีกหรือไม่ครับ? ข้าพเจ้าถาม เพรายังติดใจสงสัยอยู่
“ถ้าคุณไปหยิบยืมเงินจากคนอื่นเขามาสัก 10 รายแต่ยังไม่สามารถจะหาเงินมาใช้หนี้ให้เขาได้เลยสักรายเดียว แล้วคุณใช้วิธีทำดีกับเขาด้วยวิธีอื่นในทุกวิถีทางเช่นคอยรับใช้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เขาและลูกเมียที่เขารักบ้าง เอาอกเอาใจเขาด้วยการขวนขวายหาสิ่งของที่เขารัก เขาชอบโดนคุณไม่ต้องใช้เงินใช้ทองมากมายนักมาให้บ้างหรือเอาตัวคุณเข้าเสี่ยงภัยปกป้องคุ้มครองเขาบ้าง คุณคิดว่าเจ้าหนี้ทั้ง 10 รายของคุณนั้นเขาจะเห็นอกเห็นใจ เห็นในคุณงามความดีของคุณแล้วยอมยกหนี้สินทั้งหมดให้คุณโดยที่คุณไม่ต้องหาเงินมาชดใช้เขาเลยหรือไม่ล่ะ? หลวงพ่อย้อนถามยิ้มๆ เล่นเอาข้าพเจ้าต้องคิดหนักสักครู่หนึ่งจึงตอบไปว่า
“ก็คงมีเจ้าหนี้บางรายแหละครับที่มีจิตใจเมตตากรุณาแล้วเห็นในคุณงามความดีของผมบ้าง แล้วยอมยกหนี้สินให้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ผมไปยืมเขามาว่ามากน้อยแค่ไหนด้วย ส่วนบรรดาเจ้าหนี้บางรายที่ทั้งงก ทั้งหน้าเลือด แล้วผมคิดว่าแม้ผมจะทำดีกับเขาสักเพียงไรเขาก็คงไม่ยกหนี้สินให้ผมหรอกครับ คงต้องตามทวงเช้าทวงเย็นเอาเงินของเขาคืนจากผมให้ได้”
“เออ ตอบตรงดีนี่” หลวงพ่อชมแล้วพูดต่อว่า”บรรดาเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่คุณไปก่อกรรมทำเข็ญกับเขาไว้ในอดีตชาติ ก็เหมือนเจ้าหนีที่คุณพูดมานั่นแหละ แม้คุณจะถือบวชบำเพ็ญทาน ศีลภาวนา แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้เขาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เขาอยู่ดี มีสุขขึ้นก็ตามที เจ้ากรรมนายเวรบางรายที่เขารู้คุณ เขาก็อาจอภัยไม่คิดตามทวงหนี้กรรมจากคุณอีก แต่เจ้ากรรมนายเวรบางรายแม้คุณจะทำดีสักปานใดเขาก็ยังผูกพยาบาท อาฆาตจองเวรกับคุณ ติดตามจองล้างจองผลาญคุณไม่รู้จบสิ้นก็มีนะ แม้ตามทวงหนี้กรรมจากคุณไม่ได้ในชาตินี้ เขาก็จะติดตามทวงหนี้กรรมจากคุณต่อไปในชาติหน้า ภพหน้าไม่มีสิ้นสุดยิ่งคุณไปก่อบาปมหันต์ด้วยการลบหลู่ดูหมิ่นหรือกระทำความชั่วร้ายต่อพระพุทธเจ้าก็ดี พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี พระอริยสงฆ์ก็ดี บิดา มารดาก็ดี ครูบาอาจารย์ตลอดจนผู้มีพระคุณทั้งหลาย แม้ท่านจะให้อภัยก็ตามแต่กฎแห่งกรรมจะไม่มีการอภัยให้เป็นอันขาดนะคุณต้องชดใช้กรรมชั่วที่คุณได้กระทำมาอย่างแน่นอน หลบเลี่ยงไม่ได้เลยนะ แม้แต่พระโมคคัลลาน์ ซึ่งเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้าซึ่งได้รับสมญาว่า “เลิศด้วยอิทธิฤทธิ์” ท่านก็ยังต้องชดใช้กรรมที่ได้ก่อมาแล้วในอดีต โดยยอมให้โจรทุบตาย ในชาติสุดท้ายนั่นเอง” หลวงพ่ออธิบายอย่างละเอียดและกระจ่างชัดเจนยิ่งนัก
ข้าพเจ้ากราบลาหลวงพ่อกลับบ้าน ด้วยจิตที่ปลอดโปร่งความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องของกรรมดี กรรมชั่วหมดไปโดยสิ้นเชิงอีกทั้งเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าได้ประสบพบเห็นในกาลต่อมาก็ยิ่งประจักษ์ชัดในจิตให้เห็นถึงผลแห่งกรรมยิ่งขึ้น ซึ่งข้าพเจ้าจะหยิบยกมาเล่า

 

** อภิมหากุศลครับ **
-- ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชาย --
โครงการอุปสมบทหมู่ ถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมีพระชนมายุ 86 พรรษา ณ วัดวีระโชติธรรมาราม ฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 1-13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ( บวชฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น )

หากท่านใดมีจิตศรัทธา ต้องการร่วมเป็นเจ้าภาพ เรียนเชิญโอนเข้ามาร่วมได้ที่บัญชีบุญ 7982022384
ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์
สาขาย่อย โบ๊เบ๊ทาวเวอร์
ชื่อ บัญชี รังสิญา เพ็ญศิริโสภา
โทร 09 0956 0997

ร่วมเป็นเจ้าภาพ 200 บาท รับเหรียญสมเด็จองค์ปฐม ด้านหลังเป็นหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไม่มีค่าจัดส่งครับ
สอบถามได้ที่ พระครูปลัดกิตติวัฒน์ ( หลวงพ่อ องอาจ อาภากโร )
เจ้าอาวาสวัดวีระโชติธรรมาราม 08 4977 3339

ตั้งแต่ วันนี้ - 1 ธันวาคม พ.ศ.2556
อนุโมทนา สาธุครับ

 

ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชาย
บวชเพื่อ....เปลี่ยนชีวิต ตอบแทนคุณ

โครงการอุปสมบทหมู่ ถวายเป็นพระราชกุศล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสมีพระชนมายุ ๘๖ พรรษา
ณ วัดวีระโชติธรรมาราม
อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ระหว่าง วันที่ ๑ – ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๖
สอบถามได้ที่ พระครูปลัดกิตติวัฒน์ เจ้าอาวาส
โทร. ๐๘๔-๙๗๗-๓๓๓๙
ตั้งแต่วันนี้ - ๑ ธันวาคม ๒๕๕๖

บวชฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย ใดๆ ทั้งสิ้น

ร่วมทำบุญผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ สุวินทวงศ์ กองทุนบูรณะและปฏิสังขร เลขที่ 386-8-01280-2 —

 

ขอเชิญร่วมทำบุญ ทุนนิธิสนั่น บรรพเชิด(วัดตะเฆ่ จินดาราม)แด่พระภิกษุสามเณร





--------------------------------------------------------------------------------

ทุนนิธิ สนั่น บรรพเชิด (วัดตะเฆ่ จินดาราม) เพื่อการศึกษา คิลานเภสัช ภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร ขอเชิญร่วมบริจาคทรัพย์ซึ่งเป็นบุญที่มีผลมากและมีอานิสงค์มากเกิดขึ้นทั้งกลางวันกลางคืนตลอดไป
ความเป็นมา วัดตะเฆ่ ( จินดาราม ) ตามประวัติเป็นวัดเก่าแก่สร้างโดยเชื้อพระวงศ์ชื่อว่า เจ้าธรรมจินดา ซึ่งอพยพมาจากทางเหนือเมื่อ พ.ศ. 2246 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักบริเวณ ต. ม่วงงาม อ. เสาไห้ จ. สระบุรี เป็นวัดที่อยู่ห่างไกลความเจริญพอสมควรและมีฐานะขาดแคลนเนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม แต่เนื่องจากวัดเป็นจุดศูนย์รวมทางด้านจิตใจของชาวบ้านอย่างเหนียวแน่นเป็นศูนย์รวมทางพุทธศาสนาและวัฒนธรรมของชาวบ้านทุกวันพระจะมีผู้สูงอายุ อุบาสก อุบาสิกามาอยู่วัดปฏิบัติธรรมรักษาศีลเป็นประจำ ทั้งยังมีการอนุรักษ์เทศกาลงานประเพณีต่างๆเช่น ตรุษ สงกรานต์ ลอยกระทง เทศมหาชาติ กวนข้าวทิพย์ เป็นต้นสืบมาจนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อหลายปีก่อนทางวัดเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ ศาสนะสถานถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมดยกเว้นพระอุโบสถ เช่น กุฏิที่พักสงฆ์ หอฉัน ศาลาท่าน้ำ คัมภีร์ใบลานบันทึกคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา พระพุทธรูปสำคัญเก่าแก่ประเมินค่ามิได้ถูกไฟไหม้ทั้งหมด ปัจจุบันทางวัดและคณะกรรมการได้พยายามรวบรวมทุนทรัพย์จากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อก่อสร้างถาวรวัตถุที่จำเป็นขึ้นมาใหม่เช่น กุฏิที่พักสงฆ์ ศาลาการเปรียญซึ่งใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและสิ่งก่อสร้างอื่นๆแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นคุณพ่อ สนั่น บรรพเชิด จึงได้หารือกับบุตรหลานและญาติๆเพื่อหาทุนสนับสนุนแก่สงฆ์ในการทำกิจกรรมต่างๆทางศาสนาสืบต่อไป ด้วยการริเริ่มก่อตั้งทุนนิธิ สนั่น บรรพเชิด (วัดตะเฆ่ จินดาราม)เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. ต้นทุนของทุนนิธิยังคงอยู่ตลอดไป.
2. นำดอกผลที่ได้มาเป็นค่าปัจจัย 4 แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณรผู้อยู่ปฏิบัติธรรม และ เผยแผ่พระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.
3. นำดอกผลที่ได้มาเป็นค่าภัตตาหารแด่พระภิกษุสงค์ สามเณรในโอกาสที่มีการทำสังฆกรรมต่างๆ.
4. นำดอกผลที่ได้มาเป็นค่ารักษาพยาบาลพระภิกษุ สามเณรอาพาธเบื้องต้น เช่นค่ารถนำส่งโรงพยาบาล ค่ายาสามัญต่างๆ เป็นต้น.
5. นำดอกผลที่ได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาภาคปริยัติและปฏิบัติธรรมเช่นค่าหนังสือ สมุด ปากกา ดินสอ ฯลฯ.
6. นำดอกผลที่ได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการอบรมภาวนาธรรม แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ผู้อยู่ศึกษา และปฏิบัติธรรม.
7. นำดอกผลที่ได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการเผยแผ่ธรรมต่างๆ แก่ประชาชนทั่วไป เช่นพิมพ์หนังสือธรรมต่างๆเป็นต้น.
การบริจาคทรัพย์ร่วมทำบุญดังกล่าวนี้บุญของท่านจะเกิดเพิ่มพูนขึ้นตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนเหมือน ท่านได้ทำบุญทุกวัน กล่าวคือได้ถวายภัตตาหารพระเณร ได้รักษาภิกษุอาพาธ ได้เผยแผ่ธรรม ได้สนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ เพราะดอกผลของกองทุนจะเกิดขึ้นทุกวันและตลอดไป จึงเป็นการทำบุญที่มีผลมากและมีอานิสงค์มากความเจริญทางธรรมจะบังเกิดแก่ท่านและครอบครัวนับตั้งแต่ท่านเริ่มทำบุญสืบไปชั่วกาลนานไม่มีสิ้นสุดทั้งในโลกนี้และโลกหน้า สาธุ สาธุ ขออนุโมทนา

ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญบริจาคทรัพย์ได้ตลอดเวลาที่
...........วัดตะเฆ่ (จินดาราม ) ต.ม่วงงาม อ. เสาไห้ จ. สระบุรี
...........ธนาคารกรุงไทย สาขาเสาไห้ บัญชีเงินฝากประเภท ฝากประจำชื่อบัญชี วัดตะเฆ่ (ทุนนิธิ สนั่น บรรพเชิด)
บัญชีเลขที่ 131-2-04838-7
-หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อได้ที่ วัดตะเฆ่ เบอร์ 036-391417

 

รูปภาพพระพุทธรูปยืนปางพุทธลีลามหามงคล ซึ่งมีความสูง ๑๙.๔๕ เมตร ขณะนี้ ทางวัดได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วประมาณ ๘๐ เปอร์เซนต์


ขอเรียนเชิญร่วมทำบุญ " ปิดทององค์พระ "
ท่านผู้ใดประสงค์ร่วมทำบุญ ขอเรียนเชิญติดต่อได้ที่วัดท่าข้ามเจริญศรัทธาฯ จ.ฉะเชิงเทรา
หรือประสงค์บริจาคผ่านบัญชีโปรดสั่งจ่ายธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีย่าน
เลขที่บัญชี 11-00-963-733
ชื่อบัญชีกองทุนอุ้มสร้างพระใหญ่ (วัดท่าข้ามฯ)

ติอต่อสอบถามได้ที่ “พระครูวิทิตปัญญาภรณ์” เจ้าอาวาสวัดท่าข้ามเจริญศรัทธา โทร. 081-650-1231
พระครูวิทิตปัญญาภรณ์(หลวงพ่อ ดร.สุชาติ) เจ้าอาวาสวัดท่าข้าม
โทร. 081-650-1231,081-1011870 แฟกซ์ 038-574-241, 02-2414011

 

บัญชี จากทางกลุ่ม... ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ 4014684531 สาขามหาสารคาม ชื่อบัญชี นายคมกริช เจริญชัย

ปล.โอนกี่บาทก็ช่าง ครั้งเดียว มีอานิสงส์เกี่ยวเนื่องทุกกองบุญที่ทีมแสงโพธิญาณเป็นคนจัดการหรือช่วยจัดการจ้า

 

โยมสามารถร่วมบุญได้ตามกำลังศรัทธา หรือร่วมเป็นเจ้าภาพ บวช รูปละ 6000 บาท ครับ, ใหโยมโทรติดต่อที่ พระมหาชินวิชฌ์ 089-9135594 ได้เลยครับ จะสะดวกที่สุด, อนุโมทนา สาธุครับ

 

ชื่อธนาคาร : ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนพระราม 9 (บัญชีออมทรัพย์)
ชื่อบัญชี : "มูลนิธิปิยะเวท"
เลขที่บัญชี : 215-0-76581-2

 

((0200166072 ณัฐภัทร บุญยารุณ ธนาคารกรุงเทพ สาขามหาวิทยาลัยรังสิต))

 

วันอาทิตย์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
-ขอเชิญชวนญาติธรรมสายบุญทุกท่าน ร่วมอนุโมทนาบุญ
งานพิธีมหามงคลเททองหล่อพระองค์ที่ ๓๖ ในโครงการ
หล่อพระ ๑๐๘ องค์ ณ วัดวังชมพู จังหวัดเพชรบูรณ์
ร่วมบุญเททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
-ร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกสมโภชองค์พระครั้งที่ ๓๕
-ร่วมพิธีถวายมหาสังฆทานจำนวน ๑๐ กอง แด่พระสงฆ์
ผู้เป็นเนื้อนาบุญจำนวน ๑๐ รูป
-ร่วมถวายผ้าป่าบุญต่อบุญ เพื่อเป็นการบำรุงอุปถัมภ์วัด
-ร่วมกราบพระดี กราบพระผู้ทรงศีลทรงธรรม กราบพระผู้
มากด้วยบุญบารมี เพื่อรับพลังบุญบารมีจากท่าน
-ร่วมรับวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกนึกถึงบุญและความโชคดี
มีชัยแห่งชีวิต
อย่าลืมอย่าพลาดโอกาสอันเป็นมหามงคลครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตนะทุกท่าน
ติดต่อร่วมบุญได้ที่ พระครูกิตติคุณสาร (พระอาจารย์ทวี)
วัดวังชมพู ตำบลวังชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ๖๗๒๑๐ ธนาคารออมสิน สาขาเทสโก้โลตัส เพชรบูรณ์
ชื่อบัญชี พระครูกิตติคุณสาร (กองทุนหล่อพระ ๑๐๘ องค์
วัดวังชมพู) เลขที่บัญชี ๐๒๐๐๘๗๒๓๖๕๑๗
โทรศัพท์ ๐๘๑-๐๔๕๔๒๙๗
***สร้างพระ สร้างบุญ สร้างสุขให้แก่ชีวิต
ร่วมหล่อพระ ๑๐๘ องค์ ณ วัดวังชมพู เพชรบูรณ์**

 

ขอเชิญลูกหลาน ร่วมสร้างอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ ร่วมบุญทอดผ้าป่าวางศิลาฤกษ์บูรณะพระเจดีย์ชัยยะมงคล
ในวันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ณ หมู่ที่ ๑๑ ต.ศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน

สำหรับผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมเป็นเจ้าภาพและส่งปัจจัยบริจาคได้ที่
ธนาคาร กรุงเทพจำกัด สาขาลำพูน
ชื่อบัญชี "วัดศรีบุญเรืองเพื่อบูรณะวัดดอยม่อนร้าง"
เลขที่บัญชี 334-4-89105-0
โทรศัพท์ 089-7009-377, 089-850-0918 หรือ 084-369-7974
คุณศิริกุล คุโณปการพันธ์, คุณเพชรา ด่านไพบูลย์

 

ท่านใดจะร่วมบุญปล่อยปู รบกวนโอนได้ที่

บัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาศูนย์ราชการฯ
บัญชีนายชยาคมน์ ธรรมปรีชา เลขที่บัญชี 4022640563

(วันนี้ – 22 พ.ย.56 หากเลยกำหนดรบกวนอย่าโอนเงินมา เพราะเป็นบัญชีส่วนตัวครับ)

 

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2556 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12)

เวลา 20.39 น.พิธีเททอง หล่อพระเกตุหลวงพ่อพุทธโสธร หน้าตัก 139 นิ้ว
และ หลวงพ่อพุทธโสธร หน้าตัก 30 นิ้ว 1 องค์

ณ.วัดสุทธาวาส ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
12140

กำหนดการ
เวลา 09.09 น. แห่กฐินสามัคคีรอบพระอุโบสถ
เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณร
เวลา 12.39 น. ถวายกฐินสามัคคีโดยพร้อมเพียงกัน
เวลา 20.39 น. พิธีเททองหล่อ พระเกตุหลวงพ่อพุทธโสธร หน้าตัก 139 นิ้ว
และ หลวงพ่อพุทธโสธร หน้าตัก 30 นิ้ว 1 องค์

จึงขอเรียนเชิญสาธุชนผู้ใจบุญทุกๆท่าน
เข้าร่วมงานบุญครั้งนี้โดยพร้อมเพียงกัน

ติดต่อสอบถาม 0862872112

วัดสุทธาวาส ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
12140

 

บัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ประเภทออมทรัพย์

ชื่อบัญชี นาย ชวลิต เนตรทราย

หมายเลขบัญชี 707-256365-4



บัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์นครราชสีมา

ชื่อบัญชี นาย ชวลิต เนตรทราย

เลขที่บัญชี 595-09587-6

 

กองทุนช่วยเหลือค่าจัดส่งโครงการสร้างพระทุกวัน
สำหรับท่านที่ต้องการช่วยค่าจัดส่ง ค่าซองจดหมาย ค่าฟองน้ำกันกระแทก ค่าโอน หรือ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่ง

สามารถโอนเงินร่วมบุญได้ที่



บัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ประเภทออมทรัพย์

ชื่อบัญชี นาย ชวลิต เนตรทราย

หมายเลขบัญชี 707-259978-6

 

เชิญร่วมทำบุญ...เป็นเจ้าภาพสมทบทุนสร้างพระเจดีย์...วัดพระธาตุดอยหัวฝาย ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

กระเบื้องเคลือบสีทองติดรอบองค์พระเจดีย์

-กระเบื้องคลือบ ทองคำแท้ 25 เปอร์เซ็นต์

ติดที่ปลียอด พระเจดีย์ทั้ง 9 องค์

เพื่อประดิษฐาน-พระพุทธรูปสมัยต่างๆ

-พระบรมสารีริกธาตุ

-พระอรหันตธาตุ

-พระไตรปิฎกแกะสลักลงบนแผ่นหิน

เนื่องด้วยวัดพระธาตุดอยหัวฝาย หมู่ 2 ตำบล พระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในอดีตเคยมี พระเจดีย์องค์เก่าที่
ได้ก่อสร้างประมาณปี 2400 กว่า ไว้ เป็นที่สักการบูชาของพุทธศาสนิกชนตลอดมา จนกระทั้ง ถึงปี 2528

พระเจดีย์ได้ปรักหักพังลง ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 ได้มีการก่อสร้างพระเจดีย์องค์ ใหม่ครอบบริเวณเดิมของพระเจดีย์องค์เก่า ปัจจุบันยังไม่ แล้วเสร็จ เนื่องจากยังขาดปัจจัยที่จะนำมาก่อสร้าง

เพื่อเป็นที่ประดิษฐาน-พระพุทธรูปสมัยต่างๆ-พระบรมสารีริก- ธาตุ-พระอรหันตธาตุ-พระไตรปิฎกแกะสลักลงบนแผ่นหิน ถวายเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ลักษณะของพระเจดีย์ที่กำลังก่อสร้างอยู่ขณะนี้เป็นพระเจดีย์เปิด 2 ชั้น ขนาดกว้างนับรวม
ฐานบันไดกว้าง 35 เมตร สูงนับจากพื้นดินถึงลูกแก้ว สูง 42 เมตร

ชั้นล่างประดิษฐานพระพุทธปฏิมากร (คันธราช)ปรางประทานพรเป็นองค์ประธานในชั้นนี้และเป็นพื้นที่ใช้สอยประโยชน์เกี่ยวกับการประกอบศาสนกิจ เช่น สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น เป็นที่ปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเจริญจิตภาวนาของพระภิกษุสงฆ์ ตลอดถึงสาธุชนผู้ใฝ่ใจ การประพฤติปฏิบัติธรรมฯ

ชั้นบนเป็นที่ประดิษฐานปูชนียธาตุอันเป็นที่สุดแห่งการสักการบูชา “เพียงสิ่งเดียวที่บังเกิดจากพระวรกายของ พระพุทธเจ้า และพระสงฆ์อรหันตสาวกของพระองค์ ”

ด้วยเหตุนี้คณะพระภิกษุสงฆ์ กรรมการวัดพระธาตุดอยหัวฝายจึงเล็งเห็นความสำคัญ ปรารถนาที่จะทำการก่อสร้างพระเจดีย์ให้สำเร็จลุล่วงบริบูรณ์อันจะเป็น ประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชน ผู้ใฝ่ในธรรมได้ประกอบศาสนกิจทางศาสนา และเพื่อทำนุบำรุงสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาสืบไป

จึงใคร่ขอเชิญชวนท่านสาธุชน ชาวอำเภอแม่สอด และท่านผู้มีจิตเลื่อมใสศรัทธาได้เป็น ผู้มีส่วนร่วมสร้างพระเจดีย์ในส่วนที่ยังค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ หรือจะบริจาคทรัพย์ดังนี้

- กระเบื้องเคลือบสีทอง ติดรอบองค์พระเจดีย์ ตารางฟุตละ 499 บาท หรือตามจิตศรัทธา

- กระเบื้องเคลือบทองคำแท้ 25 เปอร์เซ็นต์ ติดที่ปลียอด ตารางฟุตละ 15,800 บาท หรือตามจิตศรัทธา
ท่านใดจะร่วมบรรจุ (ประดิษฐาน) พระพุทธรูปสมัยต่างๆ -พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุ-บริขารของพระอรหันต์ -บริจาคสร้างพระไตรปิฎกแกะสลักลงแผ่นหิน-อัญมณีต่างๆ ให้เป็นบริวารของพระเจดีย์นำมามอบถวาย เพื่อรอบรรจุ ได้ตั้งแต่บัดนี้ เขียนชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ผู้ มอบถวาย เพื่อสะดวกในการติดต่อในเวลาบรรจุ

บริจาคได้ที่ตู้บริจาคของวัด หรือโอนเข้าบัญชีวัดพระธาตุดอยหัวฝาย ธนาคารกรุงเทพ
ชื่อบัญชี วัดหัวฝายเพื่อสมทบทุนสร้างเจดีย์พระธาตุดอยหัวฝาย บัญชีเลขที่ 328 - 0-75897-4 สาขาแม่สอด ประเภทสะสมทรัพย์

ติดต่อสอบถาม.
พระอาจารย์ขจร กาญจโน โทร 082-8801-140 เจ้าอาวาส
พระโชติ โทร 086-9341-927 ผู้ช่วย
พระสุธี โทร 081-8877-308 ผู้ช่วย
คุณลุงมานิตย์ ไชยชนะ โทร 086-2105-020 (ไวยาวัจกร)
คุณปลัดจิรัฏฐ์ ธนันต์วรฤทธิ์ โทร 089-6645-851
คุณพีระวัฒน์ ปริยวงศ์กรกุล โทร 086-4468-739
คุณวิชา ทัตมะนิน โทร 089-4378-166