คําทํานายต่างๆที่เกี่ยวกับประเทศไทย

ถิ่นกาขาว หมายเอาถึงในสภาพปรกติของชนทั่วไปในยุคนี้ เป็นเหล่าชนผู้มีจิตใจมืดดำ หลงผิดในหลักธรรม นับถือศาสนาแต่เปลือกนอก ขาดการฝึกจิตเพื่อให้เข้าถึงธรรมมะภายในของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง ทำบุญด้วยความตระหน่ีเพียงเพื่อเอาชื่อเสียงหน้าตา ใช้ธรรมมะบังหน้าหาผลประโยชน์ เช้าตักบาตร เย็นดื่มเหล้า เข้าหาอบายมุข สนุกไปวันๆ ไม่ได้สร้างสรรค์ประโยชน์ ใครเป็นหนุ่มสาวเข้าวัดทำบุญ ก็ถูกเพื่อนล้อว่าเป็นพวกบ้าบุญ หลงงมงาย เป็นตาเถรยายชีหลงยุค ซึิ่งในสภาวะเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องปรกติของคนในยุคนี้ เปรียบเทียบได้กับกาที่มีสีดำเป็นปรกติ เรียกว่า "กาดำ"
แต่มีกลุ่มคนอีกส่วนหนึ่ง เข้าวัดฟังธรรมนั่งสมาธิกันอย่างจริงจัง บางวัดมีคนมาปฏิบัติธรรมเป็นกลุ่มๆ 5 คน10คน บางวัดก็มีเป็นร้อย บางวัดก็มากันมากๆเรือนแสน
ซึ่งคนกลุ่มนี้ยังมีไม่ถึง 10%ของคนทั้งหมดในประเทศไทย จึงถูกมองว่าเป็นพวกที่ทำตัวแปลกแยกจากคนกลุ่มอื่น (สมมุติเปรียบว่าเป็นกาเช่นเดียวกัน แต่กลับมีสีขาวซึ่งเป็นของที่แปลกจากกาส่วนใหญ่ที่มีสีดำ) ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงเป็นผู้ที่ถูกตั้งฉายาว่าเป็น "กาขาว" ซึ่งคนกลุ่มนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยยุคนี้มากที่สุดกว่ายุคอื่นๆที่ผ่านมาทุกรัชกาล
และคนกลุ่มนี้ จะรอดพ้นจากมหัตภัยร้ายที่คุกคามโลกในเวลาอันใกล้นี้ และยังสืบสานงานเผยแผ่พุทธศาสนาอย่างจริงจัง เพื่อนำมวลชนเข้าสู่ยุคศรีวิไลในยุคหน้า..........
คุณล่ะ.......เป็นกาดำ หรือ กาขาว

 

ถิ่นกาขาว หมายเอาถึงในสภาพปรกติของชนทั่วไปในยุคนี้ เป็นเหล่าชนผู้มีจิตใจมืดดำ หลงผิดในหลักธรรม นับถือศาสนาแต่เปลือกนอก ขาดการฝึกจิตเพื่อให้เข้าถึงธรรมมะภายในของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง ทำบุญด้วยความตระหน่ีเพียงเพื่อเอาชื่อเสียงหน้าตา ใช้ธรรมมะบังหน้าหาผลประโยชน์ เช้าตักบาตร เย็นดื่มเหล้า เข้าหาอบายมุข สนุกไปวันๆ ไม่ได้สร้างสรรค์ประโยชน์ ใครเป็นหนุ่มสาวเข้าวัดทำบุญ ก็ถูกเพื่อนล้อว่าเป็นพวกบ้าบุญ หลงงมงาย เป็นตาเถรยายชีหลงยุค ซึิ่งในสภาวะเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องปรกติของคนในยุคนี้ เปรียบเทียบได้กับกาที่มีสีดำเป็นปรกติ เรียกว่า "กาดำ"
แต่มีกลุ่มคนอีกส่วนหนึ่ง เข้าวัดฟังธรรมนั่งสมาธิกันอย่างจริงจัง บางวัดมีคนมาปฏิบัติธรรมเป็นกลุ่มๆ 5 คน10คน บางวัดก็มีเป็นร้อย บางวัดก็มากันมากๆเรือนแสน
ซึ่งคนกลุ่มนี้ยังมีไม่ถึง 10%ของคนทั้งหมดในประเทศไทย จึงถูกมองว่าเป็นพวกที่ทำตัวแปลกแยกจากคนกลุ่มอื่น (สมมุติเปรียบว่าเป็นกาเช่นเดียวกัน แต่กลับมีสีขาวซึ่งเป็นของที่แปลกจากกาส่วนใหญ่ที่มีสีดำ) ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงเป็นผู้ที่ถูกตั้งฉายาว่าเป็น "กาขาว" ซึ่งคนกลุ่มนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยยุคนี้มากที่สุดกว่ายุคอื่นๆที่ผ่านมาทุกรัชกาล
และคนกลุ่มนี้ จะรอดพ้นจากมหัตภัยร้ายที่คุกคามโลกในเวลาอันใกล้นี้ และยังสืบสานงานเผยแผ่พุทธศาสนาอย่างจริงจัง เพื่อนำมวลชนเข้าสู่ยุคศรีวิไลในยุคหน้า..........
คุณล่ะ.......เป็นกาดำ หรือ กาขาว

 

สาธุ สาธุ สาธุ บุญของแผ่นไทย