คู่มือรักษาโรคด้วย "พลังจักรวาล"

ผมยังไม่ได้รับเลยครับ

ช่วยส่งหมายเลขที่ไว้เช็คของให้ทีนะครับ

อยากอ่านมาก = ="

 

ส่งไปแล้วครับผม คงไม่น่าจะเกิน 1-2 วันนี้ล่ะครับ
ใจเย็นๆ นะครับ ได้อ่านแน่นอนครับ
;20

 

hello3
อัพเดทภาพ 3 มิติ สวยๆ กันต่อนะครับ

 

ได้รับแล้วนะครับ (พอเริ่มบ่นแระมาเลย)

อ่านเล่มที่หนึ่งจบแล้วครับ ได้รับความรู้ที่ไม่เคยทราบ
เล่นสอง คาดว่าจะอ่านจบพรุ่งนี้

ผมอยากทราบว่า คยที่ไม่ได้เปิดจักระ สามารถ ฝึกได้ไหมครับ

 

ปกติก็จะประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์ครับ ถ้าหนังสือมีอยู่ก็ส่งได้เลย
ถ้าหมดก็ต้องทำเพิ่มและส่งพร้อมๆ กันครับ ก็เลยต้องรอหน่อยน่ะครับ

คนที่ไม่เคยเปิดจักระ การรักษาจะไม่ได้ผลเหมือนคนที่เปิดจักระครับ
ส่วนคนที่รักษาได้ผล พลังที่ใช้รักษาจะเป็นพลังจิต หรือพลังภายในครับ
จะทำให้เหนื่อยมากครับ เวลาที่รักษาโรคครับ

 

ใครว่าง วันเสาร์ 21 มีนาคม 52 มีประชุมศิษย์พลังจักรวาล
ท่านใดว่าง เรียนเชิญทุกๆท่านครับ

 

พลังที่ใช้รักษาจะเป็นพลังจิต หรือพลังภายในครับ
จะทำให้เหนื่อยมากครับ เวลาที่รักษาโรคครับ
แล้วถ้าใช้พลังภายในรักษามากๆเป็นอะไรไหมครับ ปกติเวลาภายในจะฟื้นยังไงครับ พี่โยดาครับถ้ามีคอร์สสำหรับผู้เริ่มต้น รบกวนบอกทีนะครับ

 

การรักษาพลังที่ใช้จะเป็นพลังจากภายนอก แต่ในการรักษาพลังจะไหลผ่านจากภายนอกเข้าสู่ภายในตัวเรา จากตัวเราไปหาคนไข้(ระหว่างที่พลังผ่านตัวเราไปแล้ว พลังงานใหม่(ภายนอก)จะไหลเข้ามาเองอัตโนมัติ)
จึงทำให้เวลารักษาคนไข้ จึงไม่เหนื่อย ยิ่งรักษาคนไข้มาก(จำนวนคน)เท่าไหร่ จะทำให้ร่างกายเราแข็งแรงมากขึ้น หากเจ็บป่วยอยู่จะทำให้หายไว้ขึ้น:VO

 

การฟื้นฟูกำลังภายในสามารถทำได้โดยการนั่งสมาธิครับ

ถ้ามีการเปิดจักระอีกเมื่อไหร่เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ
ตอนนี้ขอเก็บรวบรวมรายชื่อเอาไว้ก่อนครับ

 

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน 2552
มีงานติดตั้งเสาอากาศใหญ่ ณ ศูนย์ฯ SSD
www.ssdthailand.org

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2552
มีงานเลี้ยงครบรอบศูนย์ฯ พล.เอกเกษม
www.uethailand.org

ขอเรียนเชิญทุกๆท่าน ที่มีเวลาไปร่วมงานดังกล่าวได้ ฟรี ครับ

 

โดยปรกติมนุษย์ จะมีจุดรับพลังที่เป็นตัวหลัก อยู่ 7 จุด ที่เรียกว่า "จักกระ"
ถ้าเปรียบสิ่งนี้คือ แบตเตอรี่รถยนต์........คนที่จักกระอุดตัน ก็เหมือนหม้อแแบต
เตอรี่สกปรก มีสิ่งต่าง ๆ มาเกาะกุม ทำให้เส้นทางเดินพลัง วิ่งไปมาไม่สะดวก
เกิดการอุดตัน ส่งผลให้กายทิพย์เว้าบ้าง แหว่งบ้าง หมองบ้าง และส่งผลมายังกายเนื้อ
จนเกิดโรคต่าง ๆ และร่างกายทรุดโทรม

ผู้ที่ผ่านการเปิดจักร ในระดับใดก็ตาม เปรียบการทำความสะอาด หม้อแบตฯ
จุดนั้นจะ"โล่งขึ้น" และเบา เมื่อมีการเพ่ง หรือกำหนดจิต พลังงานไฟฟ้า หรือ
ปราณ หรือชี่ หรือรังสีคอสมิค ที่มีมากในชั้นบรรยากาศ จะวิ่งเข้ามายังจุดนั้น ๆ
ทำให้กายทิพย์ ได้รับพลัง เปลี่ยนจากสีขุ่นมัว เป็นสว่างสดใส และอุดรอยช่อง
โหว่ ของพลังด้านลบ ร่างกายจึงแข็งแรง ปราศจากโรค


ส่วนใครจะสามารถดึงพลัง ให้เข้ามามาก/น้อย ขึ้นอยู่กับจักร และสภาพร่างกาย
รวมถึงระดับของการเปิด ผลพลอยได้ นอกจากตัวเอง จะมีสุขภาพดีแล้ว ยังอา
ศัยร่างกายของเรา เป็นสื่อกลาง ทำตัวเชื่อมกับพลังภายนอก....คือยืมพลัง
จักรวาล ให้ผ่านตัวเรา และถ่ายทอด ไปสู่บุคคลอื่น ทำให้เขาหายจากโรค

เมื่อเป็นเช่นนั้น เกิดมีคนสงสัยว่า แล้วหม้อแบตฯ ของเรา ไฟไม่หมดหรือ
______________มันจะหมดได้อย่างไร ในเมื่อก่อนที่จะรักษา จะต้อง
ชาร์จหม้อของตัวเอง ให้เต็ม และระหว่างการส่ง ก็ชาร์จไปตลอดเวลา คล้ายได
นาโมของรถยนต์..........ไฟที่หม้อเลยมีอยู่ตลอด

สิ่งนี้ เป็นการฝึกระดับต้น ที่ทุกคนทำได้ แม้ไม่มีสมาธิอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญ
คือควรได้รับการเปิดจักร หรือทำความสะอาดหม้อแบตฯ เสียก่อน จะช่วยทุ่น
ระยะเวลาได้มาก.........มากกว่าที่ท่านคิดไว้........มากมาย


สำหรับการฝึกในระดับสูง จะอาศัยพื้น จากการดึงดูดพลังภายนอก มาเป็นฐาน
ให้จักรต่าง ๆ เปิดเคลียร์ จนมีลักษณะโล่ง โปร่ง และเบา พลังหมุนเวียน ไปมาสะดวก
จนทำให้ตำแหน่งฝีเย็บ (จักร1) เปิดขึ้นทันที

ขุมพลังอันมหาศาล ที่มนุษย์ดึงดูดจากใต้พื้น ใต้แผ่นดิน จากน้ำใมหาสมุทร
ที่ประกอบด้วยแร่ธาตุ จากต้นไม้ ใบไม้ อาหาร ถูกเปลี่ยนเป็นกระแสปราณ เข้าสะสมในร่างกาย
แต่แรกเกิดจนโต เพื่อการดำรงชีพ ในเผ่าพันธ์มนุษย์ จะเข้าไปรวมยังจักร 1

และเมื่อจักร 1 ตื่นขึ้น พลังของมัน จะเลื้อยไต่ไปตามแนวกระดูกสันหลัง วิ่งผ่านจักร 2 3 4 5 6
และขึ้นไปรวมกับจักร 7 ตรงที่ท่านยืมพลังจากจักรวาล เมื่อพลังทั้งสองรวมตัว..........
(พอดีกว่า ไปครับ)

 

พี่มังกรมาให้ความรู้อีกแล้วครับ...มาเล่าต่อจิครับรอฟังอยู่ อิอิrabbit_scary

 

ขอบคุณพี่มังกรที่แวะมาเยี่ยมเยือนครับ
แถมยังเก็บเกี่ยวเอาความรู้มาฝากอีกตางหาก
เล่าต่อให้จบเลยครับไม่ต้องเกรงใจ... ลุยโลด
(good)(good)(good)

 

จักระที่ 1 (กุณฑาลินี) ผุ้ที่จะเปิดได้ต้องพร้อมด้วยร่างกายและจิตใจ ใช่ว่าใช้ความอยากของตัวเองเมื่อสามารถเปิดจักระที่ 1 ได้แล้วจะมีความสามารถพิเศษเพิ่มเติมหรือเพื่อให้พลังมากขึ้นกว่าเดิมนะ
ระวังจะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง เนื่องจากควบคุมไม่ได้ครับ

 

ความสำคัญและความหมายของจักระทั้ง 7
จักระ 1 ตั้งอยู่ระหว่างทวารหนักและอวัยวะสือพันธุ์
เป็นที่ตั้งของไฟศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งคุผ่านกระดูกสันหลังขึ้นไปคล้ายท่อกลวง ทำให้ผู้ปฏิบัติสมาธิเสี่ยงต่อการถูกวิญญาณเข้าสิงสู่
แต่ถ้าผู้ปฏิบัติตระหนักถึงภัยอันตรายก็อาจเตรียมการป้องกันได้ด้วยการปฏิบัิติสมาธิ มุ่งชำระจิตและกายให้สะอาด
เพื่อปิดช่องทางเดินของพลัง ต่อจากนั้นผู้ปฏิบัติยังต้องเผชิญสิ่งท้าทายอื่นๆ ที่จะตามมาทำลายความตั้งใจ จึงต้องให้สมถะ
ควบคุมสติและมีความอดทนจึงสมปรารถนาในที่สุด

 

จักระ 2 ตั้งอยู่ปลายกระดูกก้นกบ
ทำหน้าที่ควบคุมพลังกายและพลังจิตของมนุษย์ หากเราโน้มจิตเข้าหากามตัณหาก็จะใช้พลังให้สิ้นเปลืองไปโดยเปล่าประโยชน์โดยไม่อาจหาทดแทนได้
ทำให้่ร่างกายทรุดโทรม แต่ถ้ารู้วิธีเก็บรักษาพลังนั้นไว้ จักระนี้จะพัฒนาอย่างรวดเร็วและส่งพลังไปเลี้ยงสมองทุกวันทำให้เราก้าวเข้าสู่แสงสว่างแห่งปัญญา
รู้แจ้งในสัจธรรมของสรรพสิ่ง

 

จักระ 3 ตั้งอยูบนกระดูกสันหลังบริเวณเอวตรงกับสะดือ
ทำหน้าที่กำหนดระบบการย่อยทั้งหมด และควบคุมระบบการผลิตเม็ดโลหิต จักระนี้ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร ตับ ตับอ่าน ไต ลำใส้ เมื่อใดที่การทำงานของจักระนี้หย่อนยานลงจะทำให้เกิดโรคได้โดยเฉพาะโรคมะเร็งและโรคเอสด์

 

จักระ 4 ตั้งอยู่กระดูกสันหลังระหว่างสะบักตรงระดับหัวใจ

ทำหน้าที่กำหนดจิตทำให้เกิดความรัก ความเมตตาอารี ความบริสุทธิ์ ความสงบ เกิดมโนธรรมของจิตวิญญาณ ความกรุณา การให้อภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งความรัก ความเมตตา
เมื่อเปิดจะหมุนด้วยความเร็วสูงทำให้เซลล์ในร่างกายสั่นสะเทือน ทำให้เกิดพลังความรัก ความเมตตาออกมา ตราบใดที่จักระนี้ยังเปิดอยู่ต่อให้เราพูดถึงความเมตตาก็ไม่เกิดผลในทางปฏิบัิติ
หากเราสามารถประสานความรักความเมตตาเข้ากับพลังสั่นสะเทือนนี้ได้ ก็สามารถลดกรรมของมนุษย์ชาติจากกรรมส่วนใหญ่ได้ คนส่วนมากโอ้อวดถึงความเมตตา ความดี ความรัก ที่มีต่อผู้อื่นหรือต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
แต่ตราบใดที่จักระนี้ยังไม่เปิดคนเหล่านั้นก็ยังจมอยู่ในความโง่เขลา สิ่งที่เขาพูดหรือกระทำจะไม่เกิดผลต่อจิตวิญญาณแต่จะอยู่ในความมืดมนตลอดกาล

 

เช้านี้จะมาต่อน่ะ

 

จักระ 5 ตั้งอยู่บริเวณกระดูกต้นคอด้านหลัง

จักระนี้กำหนดระบบการหายใจซึ่งรวมถึงจมูก หลอดลม ปอดและผิวหนัง
เมื่อจักระนี้เปิดจะช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น โรคไอ และหอบหืด ส่วนใหญ่ โรคหอบหืดเกิดจากสิ่งไม่บริสุทธิ์ต่างๆ ถ้าสามารถขับอกมาได้ อาการก็จะดีขึ้น
ผู้ป่วยโรคนี้อาจเป็นผลมาจากกรรมในชาติก่อนที่จะต้องใช้ วิธีการหายป่วยจากโรคนี้คือการแสวงหาทางพัฒนาจิตวิญญาณ และยอมรับผลกรรมและสำนึกผิดที่ตามมาจากอดีตชาติ