คิดไม่ตก..จะทำอย่างไรกับชีวิตนี้ดี

ยินดีเหลือเกินที่เรื่องลงเอยด้วยดีอีกวาระหนึ่ง ...

ชีวิตคู่นั้น เหมือนลิ้นกับฟัน การกระทบกระทั่งกันมีได้ตลอดเวลา บางคราวกระทบกันด้วยอาการสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน...แต่บางคราว กลับขัดแย้งกันในการกระทบ ความเจ็บปวดย่อมตามมา เพราะเกิดบาดแผลขึ้น..จึงเมื่อไรเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น ควรหยุดนิ่ง ไตร่ตรองด้วยสติ ระงับกิเลสคือมานะลงให้ได้ พิจารณาถึงคุณความดีของอีกฝ่ายที่มีอยู่(เพราะในยามนั้น การเห็นความดีของคนอื่นทำได้ยากเย็นแสนเข็ญ)..นำมาประกอบการพิจารณาก่อนตัดสินอะไรๆด้วยอารมณ์ ...ชั่ววูบ..อย่างที่คุณ siwatchaยกเรื่องราวมาเป็นอุทาหรณ์นั่นแหละ..

ดีใจมากด้วยจริงๆ ต่อไปนี้ก็พากันรักใคร่ปรองดองกันด้วยการเพิ่มสาร"เมตตา"ให้กันและกันไม่ปล่อยให้มานะมาเพ่นพ่านบ่อยๆ เตะถีบมานะออกไปจากใจให้มาก ก็จะไม่ทุกข์สาหัสเพราะได้ยินคำพูดที่ไม่น่ารักเพราะเหตุที่ถูกฤทธิ์เหล้าสั่งให้พูดของใครๆ..

หมั่นสมาทานศีล ทำหน้าที่แม่บ้านปรนนิบัิติแฟนด้วยความสัตย์ซื่อ ด้วยวิถีแห่งธรรม..ย่อมนำประโยชน์ มาสู่ตนและแฟน คือตนย่อมไม่เดือดร้อนเพราะบาปใดๆในสัมพันธภาพ และเป็นผู้ได้ชื่อว่ากตัญญูบุคคลคือตอบแทนคุณที่เขาเอื้อเฟื้ออุปการะเราด้วยดี.บัณฑิตย่อมสรรเสริญ....ทั้งแฟนย่อมได้ความเบาใจเพราะสามารถไว้วางใจในคนรักที่ตนดูแลรักษาได้ตลอดเวลา ว่าเธอย่อมรู้จักทำแต่สิ่งอันเป็นคุณแก่ตนแลครอบครัว.........คุณค่าของการมีชีวิตคู่ คืออะไร หากมิใช่ความสัตย์ซื่อไว้วางใจกันได้ในทุกกรณี ดุจเงาที่ตามตนตลอดเวลาไม่เป็นอื่นไปได้?....

ขอความมั่นคงในครอบครัวของคุณtassumaleeพึงปรากฏยั่งยืน ตลอดกาลนานครับ..ขอแสดงความยินดีฝากถึงแฟนคนดีว่าท่านช่างมีบุญที่ได้แฟนอย่างคุณtassumalee นะครับ ขอให้เขาทราบความมีบุญนั้นเถิด..

chearrchearrchearr:VO:VO:z14;43;ปรบมือ;aa7;aa7;aa55;aa57

 

การทำอะไรซ้ำๆแล้วคาดหวังผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นไปได้ยากครับ
ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ออกมาพักร้อนก่อนนะครับ ไว้หายเหนื่อยหายเมื่อยล้าค่อยวกกลับไปใหม่แก้ปัญหาใหม่นะครับ

 

อภัยทานมันให้ยากเนอะ
คนใกล้ตัวยังให้ลำบากขนาดนี้

 

การเป็นสามีภรรยานั้นไม่ง่ายแต่ถ้าเรารู้จักให้อภัย พูดคุยและปรับปรุงตัวเองทั้งสองฝ่ายพูดอย่างเปิดอกเลยว่าต่างฝ่ายชอบ และไม่ชอบอะไร แบบไม่มีอคติในใจคิดว่าคุณทั้งคู่จะเข้าใจกันและอภัยให้กันได้ในที่สุด ขอให้ผ่านพ้นภาวะนี้เร็วๆนะคะ

 

อ่านมาแล้ว ก้อดีใจกับคุณtassumalee ที่ปรับความเข้าใจกันแล้ว
แอนขอแนะนำน้ะค้ะ ในฐานะคนมีครอบครัวแล้วเหมือนกัน
เวลาที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจอะไร
เพราะเหมือนแผลมันเพิ่งเป็นใหม่ๆ มันก้อเจ็บเป็นธรรมดา
แต่ให้ใช้เวลารอสักพัก สัก 1 เดือน ถ้าแผลมันยังไม่แห้ง เราค่อยตัดสินใจกันใหม่
เพราะถ้าตัดสินใจอะไรตอนแผลมันยังเจ็บอยู่ จะมีอะไรพลาดหลายอย่าง
ถ้าเราตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตเค้า ณ ตอนนั้น แล้วแผลหายแล้ว จะกลับไปก้อยาก
แต่ถ้าเรารอแผลหายแล้วค่อยชั่งใจตัวเองก่อนดีกว่าน้ะค้ะ เป็นกำลังให้อีกคนน้ะค้ะ

 

ดีใจด้วยครับที่พูดคุยปรับความเข้าใจจนกลับมาคืนดีกันแล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆครับ
เพราะการจะมีใครสักคนหนึ่งที่คอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอในยามทุกข์ยากมาโดยตลอดนั้น
เป็นเรื่องที่บุญพาวาสนาส่งมาจริงๆ โชคดีมากๆ ไม่ได้มีกันทุกคน ควรที่จะถนอมกันไว้ให้ดีๆ

ขออนุโมทนา สาธุ ขอบคุณ พี่ๆ เพื่อนๆทุกคน ที่มีจิตเมตตากรุณาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นอยางดี

แต่ยังไงก็ตามควรใช้เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้เป็นบทเรียนให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก คือ

1. การจะครองชีวิตคู่ หรือครอบครัว พ่อ แม่ ลูก พี่น้อง ไม่ว่าจะเกิดกระทบกระทั่งอะไรกันขึ้นมา
ควรจะยึดถือหลัก หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน อย่าถือโทษโกรธเคืองจนกลายเป็นการอาฆาตแค้น มีอคติเกาะติดอยู่ที่ใจ
ตอนที่เพิ่งเกิดเรื่องราวใดๆขึ้น ใจอาจจะยังลุกเป็นไฟ รอจนมันสงบลง ใจเย็นขึ้นมา
ก็ให้นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาว่ามันร้ายแรงถึงขนาดยกโทษให้กันไม่ได้เลยเชียวหรือ
นึกถึงสิ่งดีๆที่เคยมีให้กันมา ช่วยเหลือ ห่วงใย ดูแลซึ่งกันและกันมา
ถ้าเค้าคือคนที่เรารัก เราแคร์ เราจะเมตตากรุณา ปราถนาให้เค้ามีความสุข ยอมอภัยให้เค้าไม่ได้เลยเชียวหรือ
เพราะคนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบกันทุกคนทุกอย่าง ปุถุชนคนธรรมดาย่อมต้องมีทำอะไรผิดพลาดบ้างเป็นเรื่องปกติ
ถ้าเราเข้าใจ และมีสติอยู่ตลอดเวลา รับรู้ว่าตอนนี้เรากำลังหวั่นไหว เพราะอารมณ์ชั่ววูบที่กำลังเกิดขึ้นมาอยู่นั้น
เราก็จะเกิดการเรียนรู้ และฝึกฝน จนสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีและเหมาะสม

2. แก้ที่สาเหตุ ถ้าแฟนของคุณ tassumalee ดื่มเหล้าแล้วควบคุมวาจาไม่ได้ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ก็ควรที่จะ ลด ละ เลิกเสีย ลองใจเย็นๆ ค่อยๆพูดคุยปรึกษากันดู อย่าบังคับหรือหักดิบจนเกินไป ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป
ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ว่าแฟนคุณ tassumalee ดื่มเหล้าหนัก-เบาขนาดไหน ดื่มเพราะชอบ หรือดื่มเพราะเหนื่อจากงาน หรือดื่มเพราะต้องเข้าสังคม
โดยก็ได้เห็นแล้วว่าการดื่มเหล้านั้นมีแต่โทษ ทำให้ ขาดสติ ขาดความยับยั้งชั่งใจ

3. การจะครองรักกันให้ดีๆได้นั้น ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีการรับและให้พอๆกัน สมดุลกันทั้งสองฝ่ายในเกือบทุกๆเรื่อง
ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหนักไปหรือเบาไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็ย่อมจะแตกหักพังทลายลงในสักวันใดวันหนึ่ง
แม้ผมจะเข้าใจดีว่างานแม่บ้านนั้นเหนื่อยยากแค่ไหน ทำอยู่ตลอด ทำทั้งวัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดของที่พักอาศัย และจำนวนสมาชิกในครอบครัวด้วยนะครับ
ดังนั้นแล้ว 3.1 ถ้าแฟนคุณ tassumalee ทำธุรกิจส่วนตัว นอกเหนือจากงานบ้านแล้ว คุณ tassumalee ก็ควรจะช่วยงานของแฟนด้วย และแสดงให้เห็นว่าคุณก็ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของงาน ของความยากลำบากในการหารายได้เหมือนกัน
3.2 แต่ถ้าแฟนคุณ tassumalee ทำงานกินเงินเดือน คุณ tassumalee ก็น่าจะลองหาอาชีพเสริม อาชีพอิสระทำดู ไม่่ต้องได้เงินมากมายอะไร แค่มีงานทำมีรายได้พอดูแลตัวเองได้ โดยเป็นงานที่คุณมีความสนใจ / ชอบ / ถนัด ก็พอ จะได้ทำอย่างมีความสุข และสามารถเต็มที่กับมันได้ในยามว่างจากงานบ้าน ซึ่งจะทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป

หวังว่าพอจะเป็นแนวทางให้คุณ tassumalee และเพื่อนๆบางคนที่มีปัญหาคล้ายๆกันได้บ้างนะครับ
ขอภาวนาให้เพื่อนๆทุกคน จงมีแต่ความสุข ความเจริญ ประสบความสำเร็จ มีความหวัง มีเป้าหมาย มีความพึงพอใจในชีวิตกันทุกคนเทอญ ครับ สาธุ

 

ต้องขอขอบคุณ existence และเพื่อนสมาชิกทุกๆท่าน ที่เข้ามาให้คำแนะนำ

และให้กำลังใจ ดิฉัน ในเวลานี้ดิฉันเองยังไม่ค่อยมั่นใจในความสัมพันธ์ครั้งใหม่


มันเหมือนมีเส้นบางๆเป็นแผลที่รอตกสะเก็ด พอมีอะไรมาสะกิดปุ๊บ ก็พร้อมที่จะร่วงหล่นทัน


ที ( เหมือนใจดิฉันในตอนนี้ )




ถ้าให้แฟนดิฉันเลือกระหว่าง เหล้า กับตัวดิฉันแล้ว ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย

ค่ะว่าเขาเลือก เหล้า เพราะดื่มทุกวันจนขาดไม่ได้ ส่วนดิฉันนั้นไม่มีก็ได้ ( แต่บังเอิญมีไป

แล้วเกือบ 5 ปี ก็คงมีความผูกพันธ์อยู่บ้างถึงยังมีเมตตากับดิฉันอยู่ ) เขาเลิกไม่ได้หรอก


ค่ะแต่ถ้าให้ลดๆลงหน่อยนี่ คงพอจะได้ เวลาเขาดื่มนี่ใครห้ามก็ไม่ได้ แต่ดีอยู่อย่างนึงค่ะว่า


เมาแล้วจะนอนและชอบกินอยู่ในบ้าน ไม่ชอบออกไปเที่ยวไหน ( อย่างน้อยก็อุ่นใจค่ะว่า


เขาไม่มีคนอื่นนอกจากดิฉัน เพราะเมาแค่ไหนก็เห็นกันอยู่ ) แต่ไปสังสรรค์กับเพื่อนก็คง


มีบ้าง " ถ้าไม่กินเหล้าแล้วนั้น พ่อพระดีๆเลยค่ะ เวลาขับรถไปทำงานจะสวดมนต์ในรถ

ตลอด ( ขับไปสวดไป ) เจอวัดที่ไหนเป็นต้องจอดแวะทำบุญเกือบตลอดค่ะ ชอบช่วย

เหลือคนอื่น เป็นที่รักของเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน พอตกตอนเย็น ( เป็นที่ระอาแก่ดิฉัน

มากค่ะแต่ก็พอรับได้ ) ก็มีบ้างค่ะที่รับไม่ได้จนเป็นปัญหาแล้วทะเลาะกันแต่ก็ไม่บ่อย



ที่ดิฉันยคงไม่ไปจากเขาไม่ใช่เพราะไม่มีที่ไปนะคะ แต่คงเป็นเพราะยังไม่หมด

กรรมต่อกัน ( ความผูกพันธ์ส่วนนึงคะ ) ที่สำคัญคือเขาเองไม่เคยทำผิดต่อดิฉัน นอกเสีย

จากเมาแล้วพูดเรื่อยเปื่อย จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกัน



ครั้งนี้ดิฉันเองก็ต้องปรับตัวและใจส่วนตัวแฟนดิฉันนั้นเขาเองก็คงต้องปรับตัว

เช่นกัน เพราะมันเหมือนแก้วที่มีรอยร้าวแล้ว จะให้เหมือนเดิมทันทีคงไม่ได้คงต้องใช้เวลา

ค่อยๆปรับตัวกันไป



เขาเป็นเสาหลักในชีวิตดิฉันเลยล่ะค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายหลักๆเขาจะรับผิดชอบ

หมดทุกอย่าง ดิฉันไม่ต้องทำงานก็ได้เป็นแม่บ้านเฉยๆทำงานบ้านไป ( อยู่แบบประหยัดๆ

หน่อยก็อยู่กันได้ ) แต่ดิฉันอยากหารายได้เสริมมาช่วยเขาก็เลย ค้าขายเล็กๆน้อย ( นี่


ก็เคยเป็นสาเหตุหลักในการทะเลาะกันค่ะ เพราะขาดทุนตลอดไม่ค่อยได้กำไรเลย ) จน


ตัวดิฉันท้อแท้ เพราะทำหลายอย่างมากแต่ไม่ประสบความสำเร็จเลย จนเขาให้ดิฉันหยุด


พักขายของมา 2เดือนกว่าๆแล้วค่ะ ( คราวนี้ว่างมากก็เลยฟุ้งซ่านพอมาเจอคำพูดคนเมาเข้า

ก็เลยเป็นเรื่อง )



เสียแรงที่ไปปฏิบัติธรรมมาซะเป่ลา ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย คงเป็นเพราะดิฉัน

นั้นยังปฏิบัติได้ไม่ดีพอ ( ดิฉันจะเริ่มปฏิบัติตัวใหม่ และจะหมั่นทำให้สม่ำเสมอ ) เพื่อตัว

ขิงดิฉันเอง




ดิฉันไม่สามารถรู้ได้ว่า วันข้างหน้าดิฉันและเขาจะอยู่กันได้อีกนานแค่ไหน

หรือจะเลิกรากันเมื่อไหร่ ดิฉันจะขอทำวันนี้ที่ยังมีกันและกันอยู่ให้ดีที่สุดในทุกๆเวลา เพราะ

ถ้าถึงวันนึงที่ต้องไม่มีกันและกันแล้ว จะได้ไม่ต้องมานึกเสียใจในภายหลังว่าน่าจะทำให้ดี


กว่านั้น หรือทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็คงต้องดูแลกันไป ดิฉันได้คิดหาทางออกให้


กับตัวเองไว้แล้วค่ะว่าจะทำอย่างไรเมื่อไม่มีเขาแล้วจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้มั้ยคงต้องรอ


ให้ถึงวันนั้นก่อน




ขอขอบพระคุณในกุศลจิตของทุกๆท่าน คำแนะนำดีๆในการใช้ชีวิตคู่ที่หลายๆ

ท่านได้ให้มานั้นดิฉันจะนำมาปรับใช้ในชีวิตคู่ของดิฉันค่ะ " ความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

เป็นเรื่องของคนสองคน ที่ต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ให้อภัยกันเมื่อมีผู้หนึ่งผิด ต้อง

ยอมรับในตัวตนที่ต่างฝ่ายเป็น ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับคำว่าขอโทษ "



ในเมื่อวันนี้เขายังต้องการให้ดิฉันเป็นภาระในชีวิตเขาอยู่ จะด้วยความสงสาร

ความผูกพันธ์หรืออะไรก็ช่าง ดิฉันก็จะดูแลเขาเท่าที่ผู้หญิงคนนึงจะทำให้ได้ ด้วยความ


ซื่อสัตย์ ด้วยความรัก ให้สมกับความเมตตาที่เขามีให้ดิฉันค่ะ

 

มาส่งกำลังใจให้คุณtassumaleeครับ ..

คนทุกคนในโลก ที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ใจเราปรารถนานั้นไม่มีและเป็นไปไม่ได้ ทุกคนย่อมมีข้อเด่นข้อดี ข้อด้อย ข้อเสียต่างๆนานามากมายสาธยายไม่หมด ..แม้ในเรื่องเสีย ก็ยังมีแง่มุมที่ยังดีได้ดังที่คุณเล่าไว้ ..ตัวเราเองก็มีข้อพร่องอยู่ด้วย เช่นกัน เพียงแต่จะเห็นหรือไม่เท่านั้น จึงพึงทำใจให้พอใจในคนที่เราเกี่ยวข้อง รักด้วยเมตตานั้นจะไม่มีความคาดหวังอะไรๆให้ปวดหัวใจ แต่ถ้ารักด้วยตัณหาแล้ว จะมีแต่ความไม่เพียงพอ ได้คืบจะเอาศอก จะคาดหมายไปเสียทุกอย่างจนตนนั่นเองหมดสุขไปเอง เพราะคิดจะไปจัดการชีวิตเขาให้เข้าเขตความชอบใจของเรา..อีกฝ่ายจะรู้สึกเหมือนถูกข่ม ครานี้ก็ไม่ยอมกันได้ ..

คุณtassumalee พึงละความชอกช้ำในใจจากคำพูดของน้ำเปลี่ยนนิสัยเสีย เขาเองคงจำไม่ได้แล้ว เราเองควรทิ้งมันไปด้วย ไม่นำมาเป็นกองหนุนที่จะคอยเชียร์เราให้เดินหาความแตกร้าวด้วยเหตุอื่นๆที่ไม่สมควร..

ใจนั้น เมื่อฝึกให้คิดไม่ดี ก็จะหาและเห็นแต่สิ่งไม่ดีอยู่เสมอ เช่น ถ้าเราบอกตัวเองทุกวันว่า แก้วใบนี้ไม่ดีไม่สวย ไม่ได้เรื่อง รูปทรวน่าเกลียด สีไม่เข้าท่า อยากจะเขวี้ยงทิ้งนัก ..ไม่ช้าหรอก การกระตุ้นนี้จะพามือไปหยิบแก้วที่เพิ่งซื้อมาใช้ได้ไม่กี่วัน โยนทิ้ไปจริงๆ..

จึงควรฝึกคิดดีให้มาก โดยเฉพาะ การมองหาและเห็นความดีของแฟนให้มาก ..การอดทนอดกลั้นนั้น คนที่มีชีวิตคู่ทุกคนต้องมี จะมากหรือน้อยเท่านั้น หามีใครอยู่กันแล้วไม่ต้องอดทนนั้น.."ไม่มีเลย" ยิ่งอยู่นานกันยิ่งต้องอดทนมาก ไม่มีเบาลงหรอกครับเพราะทุกข์ชรามาเพิ่มให้เกิดความอึดอัด ขัดใจในกายที่ทรุดโทรมเต็มไปด้วยโรคาพาธแล้วยังต้องใส่ใจความอยู่ดีมีสุขของคู่อีกผู้ซึ่งนิสัยเปลี่ยนไปเป็นขี้น้อยใจบ้าง ขี้งอนขี้โกรธขี้รำคาญเพราะสังขารที่แปรผัน..

เวลานี้ เเฟนเองได้โอกาสเจริญบุญด้วยการอุปถัมภ์เรา เมื่อเราทำการตอบแทนคุณเขาก็เป็นบุญที่สมกัน..ขอให้มีกำลังใจ ทำหน้าที่ของตนที่ดีต่อไป ไม่ปล่อยกิเลสคือ"มานะ"มาคอยแยงหูให้ได้ยินคำพูดไรๆที่ไม่น่าปรารถนา แล้วเอามาสร้างความกดดันในใจตนตลอดเวลา เอาเวลาที่มีอยู่ขวนขวายในกิจแม่บ้าน และหาวิธิช่วยเรื่องรายได้ตามที่เห็นควร...

เรื่องอนาคตนั้น ว่ากันตามจริงก็ไม่มีใครรู้แท้แน่จริงสักคน..ที่คิดว่าแน่นักหนา ปรากฏว่าหมดลมไปเพราะเหตุต่างๆก็มาก หรือเข้าถึงความหมดกระทันหันก็มีให้เห็น หรือกลายเป็นเศรษฐีชั่วข้ามวันก็ลงข่าวกันทุกสื่อ...เอาแน่ไม่ได้ การคิดฟุ้งไปย่อมไม่เกิดประโยชน์ บางทีท้อเฉยเลยทั้งๆที่ยังไม่รู้นั่นแหละ ควรอยู่กับปัจจุบัน เพราะเรามีปัจจุบันเำพื่อการทำพูดคิดในสิ่งดีมีประโยชน์ ขวนขวายหาวิธีเพื่อเพิ่มรายได้ เสมอ สักวันย่อมได้ช่องที่ดีิ..ไม่ท้อหมดกำลังใจทุกทาง เพราะบุญเราก็เคยทำมามาก การขวนขวายจะเป็นตัวกระตุ้นวิบากที่ดีมาสู่ตนและคนรักได้เช่นกัน นะครับ ..

 

ทุกๆ ท่านนั้นแนะนำไว้ดีมากแล้วนะคะ..ส่วนตัวดิฉันเองนั้นขอฝากข้อคิดไว้สักนิดนะคะว่า "การทำอะไรไม่เคยสำเร็จ ย่อมยังดีกว่าการที่ไม่เคยทำอะไรจริงจังเลยสักอย่าง เราอาจท้อ อาจเหนื่อยล้ากับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่หากทุกครั้ง เราได้ทุ่มเทจนสุดความสามารถ ความล้มเหลวแต่ละครั้งก็ใช่ว่าจะสูญเปล่า.. ทบทวนดูนะคะ หาจุดที่ควรแก้ไขค่อยๆ เรียนรู้ อย่างค่อยๆเป็นไป ครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จ คราวหน้าเราก็เริ่มได้ใหม่ เชื่อเถิด หากเราตั้งใจ เราก็จะสามารถที่จะทำได้ดีกว่าเดิมเสมอ แล้ววันนึง..สิ่งที่เรามุ่งมั่นทุ่มเท ก็จะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้.. หัวใจคนนั้น มีเลือดเนื้อจึงท้อได้ เหนื่อยได้ เจ็บได้ อ่อนล้าได้ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งเป็นชีวิตคู่ด้วยแล้ว ต้องนำใจเขามาใส่ใจเราด้วย หากเราเองยังต้องพึ่งพาอาศัยเขา ยิ่งต้องให้เกียรติ์เขามาก เวลาจะทำอะไรทุกครั้ง ขอให้บอกและถามความเห็นเขาว่า..ดีไหม แล้วคุณ tassumalee เห็นว่าดีอย่างไรก็บอกเขาไป ให้เขาได้มีส่วนร่วมในกิจการงานของคุณด้วยนะคะจะดีมาก วันนี้กำไรหรือขาดทุนก็บอกไปให้ทราบ ให้รู้ความเคลื่อนไหว คุยกันด้วยใจดี คุณนั้นโชคดีค่ะ ที่ทั้งคุณและเขามีธรรมะอยู่ในหัวใจ แม้จะผิดศีล ก็ขอให้มองว่าเป็นการคลายความเครียด มิใช่ว่าจะสนับสนุนหากมันดีกว่าเขาจะไปคลายเคลียดที่อื่นด้วยวิธีอื่น คงจะแย่กว่านี้ การลด ละ เลิกเหล้านั้น คงต้องใช้เวลา อยากให้พูดกันด้วยเหตุผล แลกเปลี่ยนกันด้วยความรัก สื่อสารกันด้วยการทำหน้าที่ที่จะรักษาใจของเรา ในขณะแสดงความคิดเห็นต่อกันอย่าให้มีกิเลสเข้าครอบงำปัญหา..ก็แก้ได้ ใจ..ก็รอด"

คนทุกคนนั้นย่อมมีความทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น ต่างแค่เหตุและปริมาณ การจะบอกว่าใครดี...ใครด้อย ใครใช่...ใครไม่ใช่ ใครถูก...ใครผิด ให้ดูตรงที่..ใครกันที่ทุกข์! ดิฉันเองไม่เคยคิดว่าชีวิตคู่ของคนเราจะจบลงอย่างง่ายดาย เพราะผู้หญิงเรามีความอดทน อดกลั้นสูง แต่หากมีวันใดที่ต้องมีเรื่องให้ขุ่นข้องหมองใจ ขอให้ใช้ความสงบ และใช้ความคิดตรองให้มากค่ะ ต้องรู้ใจตนเองจริงๆให้ได้ ว่ายังต้องการเขาอยู่ไหม ชั่งน้ำหนักความดีของเขา นึกถึงวันแรกที่คุณทั้งสองเข้ามาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ดิฉันขอให้นึกถึงความรู้สึกอันนั้นค่ะ การได้มามันง่ายกว่าการที่จะรักษามันไว้.. แต่หากว่าถึงที่สุดแล้ว..วันใดที่ไม่มีความสุขที่จะรักที่อยู่ร่วมกันแล้ว จงถอยออกมา อย่ายืนตายทั้งเป็นด้วยความพยาบาทกัดกร่อนใจเลยนะคะ..

ในเคสนี้มั่นใจค่ะ ว่าคุณ 2 สองรักกันและแยกกันไม่ได้หรอกค่ะ..ได้กลิ่นความรักและเห็นสายใยของความผูกพัน..

ยินดีเป็นที่สุด..ตอนนี้คงหายคิดถึงดิฉันแล้วนะคะ..แต่ยังรอปลาทู กะ หมอนทองอยู่นะค่ะ จัดมาค่ะ 555

คนเรานั้น..ผิดหวังได้..แต่อย่าสิ้นหวัง
ผิดพลาดได้..แต่อย่าลืมแก้ไข
พ่ายแพ้ได้..แต่ต้องสู้ต่อไป
สูยเสียอะไรก็ได้...
แต่อย่าสูญเสียกำลังใจในชีวิต

 

ขอเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันเพิ่มเติมหน่อยนะครับ

คนดื่มเหล้าเป็นประจำนั้นเพราะอะไรบ้าง อาจจะเพราะ
เหนื่อยจากงาน, มีเรื่องกลุ้มใจ ไม่สบายใจ ไม่พอใจบางอย่าง จากงาน หรือจากเหตุการณ์ใดก็แล้วแต่,
ติดใจในอารมณ์ ในความรู้สึกเวลาดื่มเหล้า มึนๆ ซู่ซ่า คึกคัก ลืมโลก ลืมอะไรก็แล้วแต่ที่กำลังกังวลอยู่ ทุกข์อยู่,
มีเวลาว่าง อยากผ่อนคลาย แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี, หรือเหตุผลกลใดก็แล้วแต่

ดังนั้นแล้วถ้าเรามีโอกาส เราควรจะให้กำลังใจ สนับสนุน ช่วยเหลือผู้ที่หลงทาง หลงผิด ติดในสิ่งเสพติดมึนเมา ทำลายสติ ทำลายความรับรู้ผิดชอบชั่วดีได้อย่างไรบ้าง

อาจจะคอยอยู่เป็นเพื่อนเค้า หากิจกรรมใดๆทำร่วมกัน ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว
โดยเป็นสิ่งทีมีความสนใจ/ชอบเหมือนกัน หรือช่วงแรกอาจเริ่มต้นด้วยสิ่งที่เค้าสนใจ เค้าชอบก่อนก็ได้ แล้วค่อยๆลองไปเรื่อยๆ หลายๆอย่าง หรืองานอดิเรกส่วนตัวก็ได้
ซึ่งได้คิดพิจารณาดีแล้วว่า น่าจะไม่มีปัญหา ไม่มีความเดือนร้อนใดๆตามมา ไม่เป็นการฟุ่มเฟือย สิ้นเปลืองเงินทอง
เป็นการผ่อนคลาย ได้ฟื้นเติมพลัง รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา เพื่อดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข
ไม่ใช่ยิ่งทำ ยิ่งเครียด ยิ่งกังวล หาเรื่องทุกข์ใส่ตัวเพิ่มขึ้นมา
ต้องรู้จักเรียนรู้ ศึกษาเพิ่มเติมเรื่อยๆ รู้จักสังเกต และสังกาตลอดเวลา

ถ้าคุณ tassumalee มีค้าขายอยู่ แต่มักจะขาดทุน ก็น่าจะลองเปลี่ยนไปหาอย่างอื่นทำดู
เน้นไปในสิ่งที่ สนใจ หรือ ชอบ หรือ ถนัดจริงๆ จะได้สามารถทำได้อย่างเต็มที่ และมีความสุขไปกับสิ่งที่ทำ
มันจะช่วยให้ไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป แถมผลลัพท์ก็มักจะออกมาในทางที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆด้วย
ยังไม่ต้องไปกังวล หรือไปหวังว่าจะได้กำไรมากๆ เอาแค่ไม่ขาดทุน มีกำไรเหลือเก็บบ้างก็พอ
และได้ใช้เวลาว่างอย่างคุ้มค่า มีความหมาย มีแก่นสาร
เพราะไม่ว่าในการทำงานใดๆก็ตาม มีสิ่งที่ให้เราได้เรียนรู้ ได้ฝึกฝน พัฒนาตนเองในทางใดทางหนึ่งอยู่เสมอ

ขอเป็นกำลังใจ และสนับสนุน พร้อมทั้งยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆทุกคนเสมอไปครับ
ขอความสุข สวัสดี มีชัย จงอยู่กับเพื่อนๆทุกคน

 

หลังจากเห็นกระทู้ของคุณ ดีดีแมน แล้วก็น่าดีใจนะครับที่เห็นอะไรต่อมิอะไรของคนเราเยอะแยะ สมัยนี้มิจฉาชีพเยอะแยะ คอยแต่จะเอาเปรียบกันตลอดเวลา แต่ีตราบใดที่ธรรมะ น้ำใจมนุษย์ ตำรวจ และ ลายนิ้วมือ ยังพิสูจน์อะไรได้เยอะแยะ คำว่า มิจฉาชีพก็มีขอบเขตจำกัดที่จะเอาเปรียบกัน สมัยนี้คนโกหกเพื่อตัวเองแล้วเอาเปรียบคนอื่นยิ่งมีเยอะอยู่ด้วยน่ากลัวมาก แต่การตรวจสอบจะช่วยให้เรารอดจากภัยที่ยืดเยื้อเรื้อรังได้ในที่สุด ผมเองก็เคยกินเหล้าไปแต่ไม่สบายเลยเลิกมาหลายปีแล้วครับ แต่ก็ยังพบว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้าวัดเข้าวาบ่อยๆเขาน่าจะถือศีลกันอย่างน้อย 5 ข้อนะครับ ข้อแรก ไม่ฆ่าสัตว์ ข้อสอง ห้ามลักทรัพย์ หรือ ขโมยของที่ผุ้อื่นไม่เต็มใจให้ ข้อสาม ไม่ประพฤติผิดในกามหรือเป็นชู้กับใคร ข้อสี่ ไม่โป้ปดมดเท็จ ข้อ 5 ไม่ดื่มสุรา

 

ดวงตก ตกงาน แฟนทิ้ง หนี้สินรุงรัง (เจอกัน 28/6/56 งานนี้อย่าพลาด พิสูจน์ฟรี ๆๆๆ)

--------------------------------------------------------------------------------



ด่วน!! ขอเปลี่ยนสถานที่จากโรงแรมเดอะแทลเวลเลอร์ เป็น สโมสรทหารมหาดเล็กฯ ร.1 พัน.1 รอ.1

ขอเชิญร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดสัญจร :

สโมสรทหารมหาดเล็กฯ ร.1 พัน.1 รอ.1 ดินแดง กทม.

28 มิถุนายน 2556

เวลา 12.00-15.00 น.

**ท่านสามารถแชร์หรือปริ้นท์ใบปลิว...แล้วนำไปแจกหรือติดตามสถานที่ได้รับอนุญาติและเหมาะสมได้เลย ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้ากับทุกๆท่าน สาธุ**
วิธีการสมัครเข้าร่วมกิจกรรม :
1.สมัครทางเฟสบุ๊คหรือทางเวปไซต์บ้านสวนพีระมิด โดยแจ้งข้อมูลดังนี้
- ชื่อ นามสกุลจริง
- ท่านศรัทธาในท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิดหรือไม่
- ปัญหาที่ต้องการได้รับการบำบัด
2.หลักฐานการสมัคร : ให้นำไปมอบหน้างาน
- สำเนาบัตรประชาชน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง และขีดคร่อมว่า "ขอร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัดฯ" เพื่อป้องกันการนำไปใช้ต่อ

กิจกรรมที่จะจัดขึ้นนี้เป็นความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล ที่จะช่วยปลดล็อคกรรมให้แก่ทุกท่านที่จะมาร่วมกิจกรรมนี้ด้วยพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งทุกท่านสามารถพิสูจน์ผลได้แบบฉับพลันทันทีอย่างเป็นวิทยาศาตร์ ตามหลักกาลามสูตร ไม่ต้องไปเชื่อใคร หรือถามใคร แต่ตนเองจะเป็นผู้พิสูจน์ผลและให้คำตอบแก่ตนเองได้ดีที่สุด

ในกิจกรรมครั้งนี้ มุ่งเน้นในการปลดล็อคความจน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่สุด

ของทุกๆคนในขณะนี้ ตลอดจนปัญหาใหญ่ที่ทุกๆคนอาจคาดไม่ถึงว่าตนเองมี

ส่วนเกี่ยวข้องทั้งรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว คือ มนต์ดำ คุณไสย์ ซึ่งหลายๆคนอาจสงสัยว่า

ทำทุกวิถีทางชีวิตตนเองก็ไม่ดีขึ้นแย่ทุกด้าน ทั้งการงาน การเงิน สุขภาพซึ่ง

รักษาเท่าไหร่ก็ไม่เคยดีขึ้นเลย เช่น ปวดในกระดูก เจ็บปวดตามร่างกายช่วง

ก่อนหรือในวันพระ และเป็นโรคที่หมอหาสาเหตุไม่ได้ นี่ล้วนเป็นสัญญาณ

อันตรายว่าท่านถูกมนต์ดำ คุณไสย์เข้าให้แล้ว ทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม และที่

ผ่านมาในกิจกรรมธรรมะบำบัดสัญจรภาคเหนือและที่อื่นๆพบผู้ถูกมนต์ดำ คุณ

ไสย์จำนวนมากที่ไม่รู้ตัว และใช้วิธีการบำบัดทุกอย่างไม่ดีขึ้น ซึ่งก็เหลือแค่วิธี

การเดียวคือ การถอดถอนด้วยพระบารมีของพระนางเนเฟอร์ตารีและท่านรามเส

สที่2 เท่านั้นจึงจะสามารถถอดถอนมนต์ดำ คุณไสย์เหล่านี้ได้ และได้พิสูจน์ต่อ

หน้าผู้คนจำนวนมากแล้วว่า ให้ผลที่ชัดเจนมาก แต่ละคนดีขึ้นและหายจาก

อาการเจ็บป่วยอย่างทันทีหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหายในที่สุด

ในเวลาอันรวดเร็ว

กิจกรรมในงาน : ฟรีทุกอ่ยาง


1.ธรรมะบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย เช่น ปวดขา ปวดหัว ปวดหลัง เบาหวาน ความดัน หัวใจ ฯลฯ
2.ปลดล็อคความจนอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วที่สุดตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
3.ทำน้ำทิพย์ + ลูกอมอภิญญา : ขอให้นำน้ำมาจากบ้านท่านละ3ขวดเท่านั้น ลูกอมคนละ1ห่อเท่านั้น ห้ามเกิน
4.เรียนรู้การใช้ธรรมะบำบัดช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นทั้งในยามปกติและยามวิกฤต เช่น เกิดภัยพิบัติ ด้วยวิธีการที่เห็นผลทันทีตามแบบฉบับบ้านสวนพีระมิด
5.พิสูจน์อานุภาพและบูชาวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด ในการใช้ร่วมกับธรรมะบำบัดฯ

หากจำนวนที่สมัครเต็มหรือทางบ้านสวนพีระมิดเห็นสมควรว่าพอเหมาะแล้วก็ขออนุญาติที่จะปิดรับสมัครทันทีโดยจะแจ้งให้ทราบในเฟสบุ๊คและเวปไซต์บ้านสวนพีระมิด

สำหรับท่านที่ต้องการชมกิจกรรมการบำบัดในสถานที่ต่างๆสามารถติดตามรับชมย้อนหลังได้ที่เวปไซต์บ้านสวนพีระมิด www.baansuanpyramid.com เลือกชมได้ที่ "รายการคุยไปแจกไป"

และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :http://www.baansuanpyramid.com/index...e=1&No=1413603



http://th-th.facebook.com/Baansuanpy...ation=timeline

http://www.baansuanpyramid.com/index...e=1&No=1413107

 

ขอให้ปัญหาคราวนี้ทำให้ได้เรียนรู้กันมากขึ้น
ความคับข้องใจที่เคยมีต่อกันบางเบา และจางหายไป
ความเข้าใจ ความปรารถนาดี มีต่อกันเพิ่มขึ้น
จุนเจื้อ เกื้อกูลกันเพื่อก้าวผ่านปัญหาต่างๆจะมากหรือน้อยจากนี้ด้วยกัน
ไปด้วยความรักและเข้าใจที่บริสุทธิ์ด้วยนะคะ...

 

- ชีวิตของครอบครัวที่อบอุ่นมักจะพังลง จากเหตุผล 5 ข้อ คือ

1. ไม่รู้จักลด
2. ไม่รู้จักละ
3. ไม่รู้จักปล่อย
4. วางใจไว้กลางๆ
5. ไม่รู้จักให้

มันไม่มีใครผิดใครถูก ทุกอย่างมันเป็นปัญหาของใจ ระหว่างคน 2 คน ทุกท่านให้คำชี้แนะมาดีแล้ว

เขาก็ทำให้คุณมีความสุขมาเยอะไม่น้อย เพียงบางช่วงเวลาที่เป็นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นตลอด ผมเองคนนึงก็เป็นดั่งสามีคุณ หากสามีคุณชอบเข้าวัดทำบุญแล้วเขาก้าวข้ามผ่านไปได้ คือ พยายามลดลง กินน้อยลง เจริญสติให้มาก(รู้กาย เวทนา จิต ธรรม) ศีล๕ และ พรหมวิหาร๔ เห็นคุณและโทษของทุกสิ่งทุกอย่าง รู้ถึงความพอใจยินดีที่ควรเสพย์ และ ความพอใจยินดีที่ไม่ควรเสพย์ เพื่อให้มีจิตไม่ร้อนรน ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง ก่อให้จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ สงบรำงับในกาม ราคะ พยาบาท ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์ขึ้น ให้คุณกับเขาเจริญปฏิอบัติทาง กาย วาจา ใจ อย่างนี้ทุกวัน ครอบครัวคุณจะดีขึ้นแน่นอน

- ให้คุณหนีจากเขาไปหาใหม่อีก 100 คน คุณคิดว่าตนเองนั้นจะดีพอแค่ไหนสำหรับคนอื่นๆเหล่านั้นไหม และ จะมีใครรักคุณเท่าแฟนคุณคนนี้ไหม มันก็เช่นกัน..สามีคุณก็ย่อมต้องมีข้อเสีย ไม่มีใครครบพร้อมหมด ดีหมด เพอร์เฟคไปหมดทุกอย่าง การให้อภัยจึงเป็นสิ่งที่ควรทำในตอนนี้ แล้วคุณก็ขอให้เขาปรับปรุงข้อผิดพลาดในบางส่วนและให้เวลาเขาปรับปรุงตัวเอง

- ดังนั้นให้คุณละความพอใจยินดี และ ไม่พอใจยินดี หรือ ชอบ กับ ไม่ชอบในสิ่งที่สามีคุณทำให้เสียจงได้
- คุณลองมองย้อนดูสิ ขณะนี้คุณไม่พอใจในข้อบกพร่องของเขาบางส่วน คุณก็ร้อนรน ร้อนใจ ทุกข์กายและใจอยู่ตอนนี้ นี่ไงผลลัพธ์ของการตั้งความพอใจยินดี และ ไม่พอใจยินดีไว้ในใจ จนเกิดเป็นความสำคัญมั่นหมายของใจ พอเกิดอะไรที่ไม่สมปารถนาก็ร้อนรนไม่พอใจทุกข์ใจ พอสมปารถนาก็ติดใจอยากได้ใคร่ที่จะเสพย์อย่างนั้นอย่างนี้ นี่ล่ะคือโทษของมัน
- กลับไปหาสามีคุณเสีย อย่าทำอะไรโดยใช้ความคิดจากอารมณ์ความรู้สึกเป็นที่ตั้งมากกว่าปัญญา เวลาเกิดอะไรขึ้นให้ระลึกว่า เราให้ความสำคัญกับมันมากไป อย่าไปให้ความสำคัญกับสิ่งที่เห็น ได้ยินที่สามีคุณทำในสิ่งที่คุณไม่พอใจยินดีนั้นเสีย
- ระลึกว่า ความพอใจยินดี และ ไม่พอใจยินดีนี้มันหาประโยชน์ใดๆไม่ได้นอกจากทุกข์ ละความพอใจยินดี และ ไม่พอใจยินดีนี้ๆมันไปเสียเพราะมันทำให้จิตใจเราเศร้าหมองไม่ผ่องใสสงบสุข

- หากผมตอบช้าไปจนคุณตัดสินใจแยกทางแล้ว หรือ ยังทันก่อนคุณจะแยกทาง ก็ขอให้คุณพึงเจริญตามข้อธรรมทั้งหมดที่ผมให้ไว้นี้ ซึ่งวิธีการเจริญปฏิบัตินี้ เป็นวิธีการดำรงชีวิตในประจำวันให้เป็นสุข ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ก็เพื่อให้ กาย วาจา ใจ เรานั้นเป็นกุศลตลอดเวลาในการดำรงชีวิต สามารถใช้ได้กับทุกคน เมื่อเจริญปฏิบัติตามนี้จะไปอยู่ที่ไหนก็เป็นสุข อยู่กับใครก็ไม่ร้อนรน ไม่เป็นทุกข์ มีแต่ความผ่องใน สงบ สุข

 

ขอบคุณมากนะคะ Admax-z ที่ให้คำแนะนำและช่วยเตือนสติดิฉัน ดิฉันยัง

คงอยู่กับเขาค่ะ ไม่ได้ไปไหน ขอบอกตามตรงว่าอยู่กันฉันท์เพื่อนมากกว่า สามีภรรยากัน

( อาจเป็นเพราะ อายุเท่ากันด้วยมั้งคะ ) ดิฉันกับแฟนได้พูดคุยตกลงกันไว้แล้วว่าถ้าวันนึง

มีใครได้พบเจอคนที่ดีกว่า และอยากจะไปก็ไปได้เลย แต่สำหรับดิฉันไม่คิดจะมองใครส่วน

ตัวเขานั้นดิฉันไม่สามารถจะรู้ใจเขาได้



ก็อยู่กันปกติ มีทะเลาะกันบ้างตามประสาแต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไร ส่วนใหญ่จะ

เป็นตอนเขาเมาพูดกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง... ไอ้เรื่องดื่มเหล้านี่ยังไงก็ ลด ละ เลิกไม่ได้ ซึ่ง

ดิฉันก็ไม่รู้จะพูดกับเขายังไงได้ ก็ได้แต่ปล่อยไป ( ขนาดเขายังไม่รักตัวเองเลย )



เขาเป็นเสาหลักในชีวิตดิฉันเลยละคะ พูดง่ายๆว่าดิฉันไม่มีอะไรติดตัวมาเลย

มีแต่เขาที่เป็นฝ่ายให้ดิฉัน รับผิดชอบดูแลดิฉันมาตลอด เกือบ5ปีนี้ ซึ่งดิฉันเองก็ซึ้งใจมาก

ที่เขามีแต่คำว่าให้.....



ดิฉันขอบอกจากใจเลยนะคะว่า ดิฉันคิดเผื่ฉนาคตไว้ว่า ถ้าถึงวันนึงที่เขา

ต้องจากไปจริงๆแล้วดิฉันจะดำเนินชีวิตไปอย่างไร ในทุกๆวันนี้ดิฉันพยามหาอาชีพเลี้ยง

ตัวเองให้ได้ คือขายข้าวเกรียบปากหม้อ ตามตลาดนัด ( กำไรวันนึง ก็ 200,300 บ. )

ถ้าอยู่แบบประหยัดก็พอจะอยู่ได้ แต่ก็อย่างว่า ไม่มีบ้านอยู่ต้องเช่าเขา มันต้องมีรายจ่าย

แน่นอนทุกเดือนไปจนกว่าจะมีบ้านเอง ก็ต้องดิ้นรนกันต่อไปนะคะ ยังมีอีกหลายคนที่เขา

ลำบากกว่าเรามาก มือเท้ายังดี เรี่ยวแรงกำลังยังพอมี ก็ต้องสู้





ไม่ว่าจะยังไงในอนาคตดิฉันจะยังอยู่กับเขาหรือไม่....ดิฉันก็ต้องขอขอบคุณ

เพื่อนสมาชิกทุกๆท่าน ที่เข้ามาให้คำแนะนำ ให้ข้อคิด เตือนสติ ให้กำลังใจ ดิฉัน ทำให้ตัว

ดิฉันมีแรงใจสู้ต่อไปค่ะ... ขอบคุณจริงๆค่ะ......

 

ลองร่วมถวาย พระไตรปิฎก บ่อยๆครับแล้วอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของสามี

ลองโหลดเพลง มหากรุณาธารณีสูตร หลายๆเวอร์ชั่นมาเปิดแบบเบามากๆทั้งวัน

แล้วก็ อภัยทาน ครับ ทั้งเราและสามี

 

หลังจากที่ดีกันแล้ว พี่ก็ลองสวดมนต์แล้วก็แผ่บุญให้เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองคนรักของพี่ด้วยนะครับ แล้วก็อธิฐานในสิ่งที่พี่อยากให้แฟนพี่เปลี่ยน อย่างเช่น เลิกดื่มเหล้า ทำบ่อยๆครับ เดี๋ยวแฟนพี่จะดีขึ้นเอง เป็นกำลังใจให้นะครับ