ควรให้อภัยคนเลวที่ทำผิดซ้ำซากหรือเปล่า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Thanks-Epi, 6 เมษายน 2014.

  1. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    คนแรก ดิฉันห่างออกมามากให้ที่สุดค่ะ บางคนถามว่า ทำไมดิฉันไม่กลับบ้าน ดิฉันขี้เกียจพูดมาก (หรือนินทา) กลายเป็นว่าดิฉันใจร้าย ใจเย็น ทำไมทิ้งบ้านได้ (นั่นรวมถึง ทิ้งไม่กลับไปหาพ่อแม่นั่นเอง) ถ้าไม่ห่างป่านนี้ก็ยังคงต้องอดข้าวเหมือนเดิม เงินที่เสียไปดิฉันยังรู้สึกเสียดายมากค่ะ (มันรวมหลายเหตุการณ์ด้วยค่ะ ทำให้ตัดสินใจแบบนี้)
    ส่วนคนที่ 2 อันนี้คงต้องโทษกฎแห่งกรรม

    ส่วนตัวดิฉันคิดเองว่า ถ้าใครโดนเหตุการณ์อย่างดิฉันต้องมี เผลอ แน่นอน(แต่อาจจะไม่ได้แช่ง) ถ้าเพื่อนถามย้อนเรื่องปฎิบัติแล้วทำไมอภัยไม่ได้ล่ะ

    ดิฉันค่อนข้างงง ว่า แล้วพวกมีโรคจิตอยู่ในตัว (แต่ไม่ถึงกับวิกลจริต) ทำไมอะไรไม่ผิดหรือ ดิฉันต้องวางใจ ให้อภัยหรือ (จิตเวชบอก)


    ส่วนตัวดิฉันกล้ายืนยันว่า ถ้าดิฉันไม่โดนบีบโดนกดขนาดนี้ ดิฉันไม่เป็นคนที่ผิดศีลข้อ 4 ค่ะ นิสัยปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก เพราะโดนมาเยอะค่ะ (อย่างที่เล่าดิฉันเคยเฉยแล้วกลับโดนมากขึ้น แต่พอกล้าขึ้น โดนน้อยลง) รวมถึงคนอื่นๆด้วยนะค่ะ บางครั้งเห็นเราเหน็บแนมได้ไม่โกรธ ไม่เถียง ก็พลอยน้อยลงไปด้วยความกลัว(หรือเปล่าไม่ทราบ)

    ชาติก่อนมั้งคะ คงเป็นกรรมชาติก่อน พอดีเพื่อนไม่เคยเปิดกรรมในลักษณะเจ้ากรรมนายเวรปัจจุบัน เลยไม่ทราบเหตุการณ์
     
  2. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ค่ะ ก็ตรงนี้ล่ะที่ทำให้รู้สึกแค้นน้อยลงกว่าเดิม เพราะอยากเลือกภพใหม่ที่ไม่ใช่แบบนี้ แต่ก็ทำไม่ได้หมดนั่นเอง
     
  3. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    แสดงว่าต้องเป็นคนใกล้ชิดมาก ใช่ไหมคับ?
    ผมเคยเห็นแบบนี้ คล้ายๆ ของ จขกท คืออยู่ด้วยมีแต่ความทุกข์
    ทุกข์มากขนาดไหน ไม่ขอเล่ารายละเอียด
    เอาเป็นว่า อยู่ดีๆ ก็สามารถทำให้อีกคนกลายเป็นหนี้ ที่ใช้ไม่หมด โดยไม่เคยใช้สักบาทได้
    แม้เจ้าตัวจะพยายามทนแค่ไหน นานมาก หลาย 10 ปี ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
    บวกกับคิดบวก แต่ความจริงก็คือความจริง
    ชีวิตก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย วุ่นวาย วิ่งวกวน ทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด
    สุดท้าย ก็ทนไม่ได้ ต้องหย่ากัน
    ปรากฎว่า หลังหย่าเท่านั้นแหละคับ ชีวิตดีขึ้นมากมาย
    อันนี้ยกเป็นกรณีศึกษานะคับ แต่ขอบอกว่าคนที่โดนเป็นคนดีนะคับ ดีมากๆ ด้วย
    อีกคนก็ไม่ใช่ว่าคนไม่ดีนะคับ แต่เขามีความเชื่ออีกแบบ เรื่องมันซับซ้อน
    จขกท น่าจะเข้าใจเรื่องแนวนี้เป็นอย่างดี
     
  4. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ...แม้คนแรกก็ต้องเจอด้วยอำนาจกรรมของเราครับ...จะด้วยบาปทางกาย วจีหรือมโนกรรมก็ตาม ผลคือต้องผจญทุกข์ทางทวารนั้นๆตามกำลังของเจตนาเก่า...

    ส่วน ความคิดปลีกแยกให้ห่างคนพาลนั้นเป็นสิ่งที่สมควร เพราะการคบคุ้นอยู่ใกล้กันเป็นทางมาของบาปกรรมทั้งหลายเป็นส่วนมาก เรียกว่าพรากตนจากบุคคลที่ไม่เป็น"สัปปายะ"เสียได้ กุศลย่อมไม่เสื่อมไป ....

    ส่วนถ้อยคำใคร่รู้ของชาวบ้านนั้นถือเอาเป็นสาระไม่ได้ เพราะใจเราทราบชัดในเหตุผลที่ควรทำ และไม่ได้คิดเลิกกตัญญูต่อแม่อะไร คนภายนอกจะคิดเห็นอย่างไรจะห้ามปรามก็ไม่มีผล...

    เรื่องการแยกห่างจากบุคคล ไม่สัปปายะนั้น แม้พระพุทธเจ้ายังตรัสสอนภิกษุว่า หากภิกษุไปพักที่ใด แล้วพบว่าเจ้าอาวาสหรือเพื่อนภิกษุร่วมวัดเป็นพาลทุศีล ให้ภิกษุรีบไปเสียจากที่นั้น ..เรียกว่า ถ้ารู้กลางคืนก็ให้ไปเสียในเวลากลางคืน ถ้ารู้ตอนกลางวันให้รีบไปตอนนั้นเลยทีเดียว ทำนองว่าไม่ต้องร่ำลากันก็ได้..การปลีกตนห่างจากคนชั่วพาลเขลาบอด เป็นมงคล(อย่างที่ท่านlovepyouกล่าวไว้ข้างบน)...การกระทำของท่าน Thanks-Epi เป็นความฉลาดคิดรู้จักทำปัจจัยใหม่เพื่อพ้นวิบากกรรมเลว สมควรแล้ว..

    บุคคลผู้ไม่ฉลาดย่อมไม่คิดดิ้นรนอะไร ปล่อยตัวไปตามยถากรรม อย่างนี้มีแต่จมและจมเท่านั้น เหมือนกอสวะหาค่าอะไรไม่ได้ มีแต่ถูกกระแสน้ำซัดให้พินาศไปถ่ายเดียว..ไม่สมควรเลย..



    ......ไม่ต้องเจออย่างที่ท่านThanks-Epi เจอหรอก ..แค่นั่งดูTV หรือฟังวิทยุ เรื่องคนร้ายอำมหิตฆ่าข่มขืนหรือแม้เรื่องเล็กน้อยอื่นๆทั่วๆไปก็เป็นเหตุกระตุ้นความคิดสาปแช่งได้ ในชนทั้งหลาย พอคิดแล้ว ก็พูดออกมา..บางรายนึกขลังค์มากถึงกับกระทำพิธีกรรมสาปแช่งครบสูตรก็มี..นี่เป็นเรื่องปรกติในปุถุชนส่วนมาก..

    ส่วน เรื่องที่เพื่อนถามว่า.."ปฎิบัติแล้วทำไมอภัยไม่ได้ล่ะ"..นี่ก็เป็นเรื่อง ของคนที่ไม่รู้....คิดจับผิดคนอื่น.. ความที่ตนไม่รู้จึงคิดเองเออเองว่า คนปฏิบัติธรรมนั้นคือพระอรหันต์หมดแล้จากกิเลสทั้งปวง คนพวกนี้จะมีpattern ในใจไว้วัดใครๆที่ตนเห็นว่าเป็นคนปฏิบัติธรรม...จิตขณะถามหากไม่ใช่เพื่อ เกื้อกูลเพื่อนเพื่อเตือนสติแล้ว โดยมากเป็นไปกับมานะ คิดข่มเขาเท่านั้นทั้งตนก็ไม่รู้ตนเองเลยเพราะเพ่งเล็งคนอื่นอยู่เป็น หลัก...

    คนที่ปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ใช่ไม่มีเวทนา หรือสังขารอะไร เเต่สามารถทราบหรือบอกตนได้ว่าขณะใดเป็นกุศลหรือ อกุศล เพราะเหตุไร มีการใคร่ครวญไตร่ตรองถึงเหตุที่มาที่ไปของสิ่งตนประสบพบได้ ตามควร และจะปรับจิตใจตนไปในทางใด...ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถสั่งปุ๊บกลับหลังหัน ได้ทันทีกันทุกคนไป ขึ้นอยู่กับกำลังของปัญญา ที่ต้องสู้กับกิเลสที่มีกำลังมากมหาศาลที่บงการควบคุมเรามาตลอดเวลาในสังสารวัฏ..

    ก็ เมื่อเพลี่ยงพล้ำไป เพราะกิเลสแข็งแรงกว่า คนที่ปฏิบัติธรรม ย่อมไม่ปล่อยตนลอยเท้งเต้งออกนอกอ่าวไปใหน ก็ยัง"มีปัญญา"เข้ามาถามหาความช่วยเหลือจากเหล่าบัณฑิตในที่นี้ ซึ่งแน่นอนว่าเขาย่อมสามารถได้รับกองหนุนให้เกิดปัญญาเข้มแข็งขึ้นขัดขวางกระแสอกุศลกรรมที่กำลังโหมท่วมทับให้สงบลงได้บ้างแน่นอน...ส่วนคนไม่ปฏิบัติธรรม นั้น อย่าว่าแต่จะตระเวณหากัลยาณชนเพื่อถามอะไรๆเลย ถ้าใครใจดีไปเตือนหรือแนะเข้า อาจได้รางวัลคือคำด่าหรือสาปแช่งกลับมาเป็นรางวัล ..เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นมากมายทั่วโลก..


    อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมาเลย อย่างไรความบ้านั่นเองเป็นสิ่งที่ลงโทษเขาในตัวอยู่เองแล้ว...คนบ้าเกิดด้วยกุศลที่ไม่มีปัญญาประกอบ ที่จะให้คิดได้ด้วยสำนึกแบบคนปรกติย่อมเป็นเรื่องยาก ก็เมื่อสั่งสมความบ้าจนเป็นอุปนิสสัยเเน่นหนาแล้ว ที่จะไม่ทิ้งความบ้าย่อมไม่ง่ายเลย..เพราะแม้ธรรมสัญญาแม้เล็กน้อยย่อมปากฏได้ยากในกมลสันดาน...จึงเมื่อยามย้ายภพ เขาจะไปใหนต่อ ..คนบ้านั้นมีโมหะเป็นเจ้าเรือน..กลุ่มโมหะมักรวมกันในเดรัจฉานภูมิ..ท่านThanks-Epi พึงเจริญกรุณาแก่เขาเถิด

    อย่างนี้ย่อมเป็นอภัยทานที่ตนทำแก่ตนได้ในเวลานี้(ด้วยว่าสามารถละอกุศลกรรมในใจได้ขณะนั้น) ..แม้ไม่คิดอภัยให้ใครอื่นก็ตาม..ทั้งยังเป็นเหตุใหม่เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีในภายหน้าอีกด้วย เรียกว่ายิงนกสองหัวด้วยกระสุนนัดเดียว....!

    เ รื่องล่วงศีล ก็เพียรละไปเท่าที่ทำได้ ที่สำคัญหากโกหกแล้วคนอื่นเสียหายมาก ผลบาปมีกำลังแรง ถ้าเขาไม่เสียหายหรือเสียหายน้อย ผลก็น้อยตามไปด้วย หากละเว้นได้ก็ดีมาก ถ้าละไม่ได้ก็คิดว่าจะพยายามละก็ยังดีนะครับ...เพราะเมื่อคิดว่าจะทำ สักวันจะทำได้ .. ถ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรๆ ก็เงียบไว้ดีกว่าโกหกเขา..พิจารณาดูครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2014
  5. twentynine

    twentynine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +992
    เขา2คนมาชวนลงนรกน่ะ^^ อย่าไปหลงกลเขาน่ะ มีสติให้ทันท่วงทีหาอุบายแก้จิตให้เหมาะกับตน พูดง่ายแต่ทำยากแต่ยังไงก็ต้องทำ ไม่งั้นทำบุญรักษาศีลเท่าไรก็ช่วยไม่ได้

    เพราะใจไปเกาะอกุศลเข้าแล้ว ลองสังเกตุจิตดูสิช่วงที่โกรธโมโหใครมันคิดถึงบุญกุศลที่เคยทำมาไม่ออกหรอก มันจะวนเวียนอยู่กับคู่กรณีไม่จบสิ้นคิดวนไปวนมาอยู่นั้น

    ถ้าความดันขึ้น หัวใจวาย เส้นเลือดสมองแตก ตายตอนนั้น ไปสบายเลยปรู๊ดเดียวลงนรก ท่านพญายมโบกมือบ๊ายบายช่วยไม่ทันจริงๆ ถ้ายังจำเป็นต้องเจอะเจอคนเหล่านี้ก็คิดว่า

    บุญใหญ่มาแล้วอภัยทานนี้ได้บุญสูงกว่าสร้างวัดวาอารรามพิมพ์หนังสือธรรมมะซะอีก ดีไม่ต้องลงทุน แต่ถ้าพี่แกเอาบุญใหญ่มากๆๆๆๆให้บ่อยๆก็หลบไปพักผ่อนหย่อนใจ ดูหนัง

    ฟังเพลง ท่องเที่ยวต่างจังหวัด เอาบุญใหญ่ออกจากอกบ้างก็ดีน่ะ ฝึกวิชาหูทวนลม ตาเหม่อลอย ใบ้แบะๆ ไว้ต่อกรกับพวกนี้ไว้ด้วย เขาคุยไม่สนุกเห็นเราไม่สนใจ ก็ไม่อยากมาคุยกับเราเองผมใช้บ่อยได้ผลดีนักแล
     
  6. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ขอบคุณมากๆค่ะ ดิฉันคงว่างมากไปเลยมาตั้งกระทู้ เพราะวันนี้ที่ไม่ว่างกลับไม่คิดถึงเรื่องแบบนี้ (แม่เคยพูดเป็นภาษาจีนว่า กินอิ่มไม่มีงานทำ )
    คุณ ddman ยังคงกล่าวอะไรๆ เรียกว่า คารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง :cool: น่าอ่านเสมอค่ะ

    เหตุที่ดิฉันรู้สึกไม่ค่อยดี+คิดมาก เพราะคำถามอโกวนะค่ะว่า ทำไมไม่กลับบ้าน (แบบว่า ใจร้ายใจแข็งจริงๆ) หลายคนถามดิฉันแล้ว ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร หลายคนถามมากค่ะ ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร
     
  7. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ชอบสีแดงๆที่เน้นไว้นะค่ะ 555:cool::cool::cool: ต้องถามตัวเองว่า ปฎิบัติอย่างไร ทำไมไม่คิดได้แบบนี้ อันนี้ต้องโทษตัวเองแล้วค่ะ
     
  8. tharathan

    tharathan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +7,128
  9. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เวปพลังจิตคือเวปรวมคนเพี้ยนค่ะ แม้กระทั่งการสนใจทางธรรมก็ยังไม่วายถูกเหน็บแนมหรือด่าหยาบๆ (ทางการแพทย์ยกเว้นค่ะ 5555 หมอบอกว่า ถือว่าควรสงสารเพราะเจ้าตัวคุมตัวเองไม่ได้)
    หรือจะถูกเทวบุตรมาร ดลใจหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบค่ะ

    ...ตามนั้น...
     
  10. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    การที่เราเกิดมาเป็นญาติกัน พ่อ แม่ พี่ น้อง คู่ครอง ลูกหลาน สายเลือดเดียวกันนั่นเพราะเรามีรหัสกรรมเดียวกัน อดทนเพราะเราก็เป็น หลายๆคนก็เป็น ทนไม่ไหวก็เถียงไปบ้าง แต่ไม่แช่งนะ แม้เขาจะแช่งเรา เราอย่าแช่งตอบ คนรู้จักคุณพี่คนหนึ่งเป็นคนดีมีศีลธรรม ชอบทำบุญ ปฏิบัติมากกว่าเรา แต่แกมักแช่งคนอื่นอยู่ตลอดหากไม่ถูกใจแก สมัยก่อนก็เพื่อนร่วมงาน ต่อมาป่วยเป็นมะเร็งเลย เออรี่ มาอยู่บ้าน เขาปฏิบัติธรรมมากกว่าเดิม สามีทำผิดต่อพี่เขา เขาก็แช่งอีก(เบากว่าเดิม) เราก็เลยมาคิดว่าบางทีก็อาจจะเพราะกรรมทางวาจา มันมาหลอกอีกแล้ว เหมือนที่คุณ twentynine เขียนไว้ อยากหลุดจากเรื่องเดิมๆ เราต้องทำสิ่งใหม่ให้ดีขึ้น ไม่เบียดเบียนใคร ก็คือพอมันเริ่มจะคิดปุ๊บก็คิดสวดมนต์ในใจเลยคะ มันจะสวดผิดๆถูกๆช่างมัน เอาบทง่ายๆก็ได้ หรือไม่ก็ภาวนาในใจแข่งเลย พยายามให้สติมาจดจ่ออยู่กับบทสวด ค่อยฝึกทำไป จำไม่ได้พกบทสวดเล่มเล็กเอาไว้เปิดอ่านเลย ลองทำดู ช่วงแรกขันติอาจเป็นขันแตก แต่คนเราย่อมต้องมีความเพียร ทำให้ได้เกิน 21 วัน น่าจะดีขึ้น
     
  11. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ความคิดเรานะเลิกสนใจ
    คนบางคน ก็ต้องทิ้งให้เขาชดใช้กรรมของเขาเอง ช่วยไม่ได้ก็ปล่อยไปตามทางของเขา
    ทางใครทางมัน เราก็หนักที่ตัวเองจะแย่ละ ขอโทษนะที่ต้องบอกว่า ไม่สนใจ

    เคยเจอ รถคัมรี่บีบแตรไล่บนทางด่วนนะ ก็ข้างหน้าติดทั้งถนนแล้วจะเหยียบไปเบรคทำไมมิทราบก็ค่อยๆไปยายแก่แล้วนะ ปรากฏว่าพี่แกมันอะ บีบปาดซ้ายปาดขวา อ้าวโรคติดต่อเลย อยากได้จัดให้ เจอไปสามทีวิ่งหายไปเลยอันนั้นยังนะ.

    ไอ้คนนั่งข้างตัวดีโธ่ไปวัดไปวา แล้วใง ไปวัดนะไม่ได้เป็นสากกะเบือนั่งยิ้ม ไปวัดแล้วต้องยอมทั้งที่ฉันไม่ได้ผิดฉันก็ยอมไม่สู้ ผิดแล้วมั๊งเพ่
    เงียบกริบ ไม่เข้าใจ ตรงเนี้ย ตรงไปวัดแล้วต้องนั่งยิ้มปล่อยเขารังแก ไม่เข้าใจคนแก่เซ็ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...