คนเล่านิทานอัพเดท "แผนจัญไร"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Apinya17, 23 กันยายน 2014.

  1. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ตอนที่ 4 จิกโก๋เก่า จิกโก๋ใหม่

    ตอนที่ 4/1
    การล่าทรัพยากรรุ่นใหม่แม้ไม่ได้เน้นการใช้กาลังทหารยึดครองดินแดน ก็ต้องแน่ใจว่าประเทศเป้าหมาย อยู่ในกํามือแนนอน ไม่มีนักล่าต่างพวกมาแย่งจากปากอเมริกา นกลั ่ารุ่นใหม่ในฐานะพี่เบิ้มถักตาข่ายมาคลุมสมันน้อยไทยแลนด์ด้านเศรษฐกิจแล้ว แค่นั้นไม่พอ มันต้องคุมการเมือง การทหารด้วย มันถึงจะอยู่หมัด (มาถึงแล้วไง เรื่องความมั่นคง !) สงครามอินโดจีนเริ่มต้น เมื่อปีพ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) เริ่มจากมวยคู่แรกระหว่างเวียตนามกับฝรั่งเศส แต่เค้าลางน่ะ มันมีมาก่อนแล้ว ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) เวียตนามซึ่งตกเป็นเมืองขึ้นของ
    ฝรั่งเศส มากว่า 50 ปีชักจะทนเหม็นเขียวฝรั่งกร่างไม่ไหว
    ลุงโฮจึงพยายามปลุกชาวญวนให้ตื่น ขยับตัวขยับขาให้พ้นจักกะแร้ฝรั่ง
    อย่าลืมว่า องกฤษ ั ฝรั่งเศส อเมริกา นั้นเกาะกลุ่มกันแน่น แม้ภาพข้างนอก บางครั้งเหมือนจะแย่งกระดูกกันเอง แต่มันเป็นเพียงแค่ละครตบตา
    ของจริง 3 ชาตินี่มันเป็น 3 เกลอหัวแข็งต้นแบบ ทําเป็นทะเลาะตีหัวกันไปมา แต่มันก็หากินด้วยกัน แบ่งกระดูกกันมาตลอด ไม่แบ่งได้ยังไง ย้อนไปดูประวัติศาสตรอังกฤษกับฝรั่งเศส เดี๋ยวมันก็รบกัน เดี๋ยวมันก็จับลูกสาว ลูกชาย
    ให้แต่งงานกัน มันก็เรื่องในครอบครัวเขานั่นแหละ
    ส่วนอเมริกาเศรษฐีใหม่มาจากไหน ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกไอริช อพยพมาหากนในแผน
    ที่เพิ่งค้นพบใหม่ เพราะทนอดอยากอยู่ที่เดิมไม่ไหว ถูกอังกฤษข่มเหงให้กินแต่ของเหลือเดน ดังนั้น ถึงจะเป็นไม้เบื่อของอังกฤษ แต่ก็อยู่ในอวยของอังกฤษอยู่ดี
    จึงไม่แปลกที่อังกฤษ จะมองอเมริกาเป็นลูกไล่อยู่ตลอดเวลา ขู่ฝ่อใส่มาตั้งแต่สงครามกลางเมืองแล้ว ทุกวันนี้อเมริกันแถวนิวยอร์ค ยังแต่งสีเขียวฉลองวันเซนต์
    แพรทริกอยู่เลย ราชวงศ์เคนเนดีก็มาจากแถวนี้แหละ ดูจากท่าทางนายโทนี่แบลร์ตอนอยู่กับนายบุชตัวลูก แล้วกคงพอเข้าใจกันนะ แล้วจะกล้าไปหือ กับเขาได้ไง มีแต่อือ อือ อย่างเดียว แล้วฝรั่งเศสล่ะ คนอื่นไกลกันที่ไหน ทางใต้ของอเมริกาน่ะ ใครมอีิทธิพล นิว ออร์ลีน น่ะมาจากภาษาฝรั่งเศสนะ ไม่ใช่ ภาษาอินเดียนแดง
    ดังนั้น เมื่อฝรั่งเศสเริ่มเดือดร้อนในการปกครองเวียตนาม เพราะลุงโฮเริ่มเอาจริงตั้งแต่ปีพ.ศ.2482 (คศ 1939) สามเกลอหัวแข็ง ก็คิดหนัก เดี๋ยวพวกขี้ข้าเมืองขึ้นทั้งหลายมันจะเอาอย่างกัหมด อย่ากระนั้นเลย จําเป็นต้องตัดไฟแต่หัวลม เราจงร่วมกันสรางผู้ให้พวกมันกลัวซักตัว มันจะได้ไม่กล้าไปจากอ้อมจักกะแร้เหม็นเขียวของพวกเราบัดนั้นเอง ผีคอมมิวนิสต์ก็ถูกสร้าง ถูกปลุกไปทั่วแถบอินโดจีน
    ต่างอะไรกับการปลุกประชาธิปไตยสมัยนี้ในประเทศที่อุดมด้วยทรัพยากร แต่ไม่อุดมปัญญา

    ตอนที่ 4/2

    หว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นบุกเข้าเวียตนามและยึดได้ในปีพ.ศ. 2483
    (ค.ศ. 1940) ยึดไว้ในกํามอไม่พอ ประกาศยกเลิกการปกครองโดยฝรั่งเศส ไล่ไอ้พวกหัวทองจักกะแร้เหม็นออกไป (แหม! ญี่ปุ่นก็เข็ดฝรั่งเหมือนกันนะ โชกุนน่ะ โดนโปรตุเกศเล่นชะงอมหล่นเหมือนกัน ซามุไรจะไปสู้กับปืนไหวหรือ)
    อย่างที่บอก ขบวนการลุงโฮเกิดขึ้น ตั้งแต่ปีค.ศ. 1939 ดังนั้นพอญี่ปุ่นยึดเวียตนาม สามเกลอหัวแข็ง ก็วางแผนยุและสนับสนุนขบวนการลุงโฮ ให้ไปสู้กับญี่ปุ่น
    ใช้ไปจิกกระดูก ออกมาจากปากญี่ปุ่นแทนพวกตัว ลุงโฮฉลาดล้ํา รับแผนไปปฏิบัติตามทันที แต่มันพลิกล็อก ตอนที่ลุงโฮไล่ญี่ปุ่นออกไปแล้ว แทนที่ลุงแกจะคืนกระดูกให้ฝรั่ง แกกลับเก็บกระดูกไว้แล้วดัดหลัง 3 เกลอหัวแข็งอีกต่อ
    ลุงโฮประกาศแยก เวียดมินห์ออกจากเวียตนาม ในปีพ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) หลังจากควันสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่ทันจะจางดีฝรั่งหงายท้อง โอ้พระเจ้าจ้อด
    ยูทําได้งัยเนี่ยเรียกได้ว่ากําลังสําคัญ ที่สนับสนุนให้เวียตมินห์เติบโต ก็คืออเมริกา ภายใต้การกํากับของกลุ่มสามเกลอหัวแข็งอืม โลกนี้มันสลับซับซ้อนแยะกว่าที่คิดนะโยม

    พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) พี่เบิ้มทําเป็นตกกะใจ ว้ายตาเถร ดันติดดาบให้ยักษ์ติดอาวุธใหศัตรู เวียตนามเริ่มขยายแนวรั้วใหม่ ดอกไม้แห่งเสรีภาพขยายพันธ์อย่างรวดเร็วอเมริกาจึงประกาศขยายนโยบายปิดกั้น (Containment) การแพร่พันธ์ของระบอบคอมมิวนิสต์ซึ่งกําลังขยายตัวอยู่ในแถบรสเซยข้าีมโลกมาถึงจีน และอินโดจีนด้วย พญาอินทรียสยายปีกแล้วนี่มันเอาหนังเก่ามา ฉายใหม่นี่หว่า จําได้ไหม สมัยรัชกาลที่ 4 ต่อรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศสกับอังกฤษ มนเล่นป่าหี่กันจะยึดไทย ไทยกพยายามถ่วงดุลย์ระหว่าง 2 ประเทศ พระเจ้าแผ่นดินทั้ง 2 พระองค์ต้องใช้พระปรีชาสามารถอย่างสูง ในการดําเนินวิธีการทูต ถ่วงดุลย์ 2 ประเทศอยู่นาน มาฝีแตกเอา ร.ศ. 112 (ประวัติศาสตร์ตอนนี้ยาวขอติดไว้เล่าวันหลังนะ แต่ต้องรู้
    เพราะมันต่อเนื่องกับปัจจุบัน ก็บอกแล้ว ถ้าไม่รู้ว่าต้นไม้ต้นใดเป็นพิษ จะรู้ได้ได้ไงว่าลูกมันกินอร่อยหรือกินแล้วเด็ดสะมอเร่)

    ตอนที่ 4/3

    กลับไปดูภูมิศาสตร์กันหน่อย ประเทศไทยตั้งอยู่ตรงไหน ข้างซ้ายของไทยเป็นพม่า
    ติดพม่าขึ้นไปทางเหนือเป็นลาว ย้ายมาด้านขวาหน่อยเป็นญวณและเขมร กระจุกประเทศแถบนี้อยู่ใต้
    มณฑลยูนานของจีน ซึ่งเป็นประตูทางเข้าที่สําคัญของจีน ที่เขาเรียกกันว่า Soft Belly น่ารักนะยูนานเป็นมณฑลที่อุดมสมบูรณ์ในน้ํามีปลาในนามีข้าว ป่าไม้แร่ธาตุโอ้ย ! อุดมไปหมด ภัยธรรมชาติก็ไม่มีน้ําไหลทั้งปีใคร ๆ ก็อยากได้
    ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ที่ 5 ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษก็เล็งเข้าอยู่นาน อังกฤษวางแผนจะเข้าผ่านทางพม่า ฝรั่งเศสจะเข้าผ่านทางลาว ญวณ และเขมร
    ฝรั่งเศสจึงตีเขมรก่อน เพื่อขึ้นไปล้อมญวณ แต่ลาวนั่นขึ้นอยู่กบไทยอยู่ช่วงนั้น
    มันถึงหาเรื่องทะเลาะกับไทย เพื่อจะเอาลาว เหตุการณ์ร.ศ. 112 ก็มาจากเรื่องนี้แหละ เล่าย่อไว้ก่อนนะจนแล้วจนรอดก็กินไทยไม่ได้เต็มที่มันถึงผังใจมาถึงเดี๋ยวนี้ไง
    โน้น! เขาพระวิหารมารําไรเกี่ยวกันไหมหนอ พอเห็นไหม ทําไมประเทศรอบบ้านเราตกเป็นอาณานิคมของ ไอ้ 2 เกลอ แล้วทําไมมันถึงตามบี้เราจน
    ทุกวันนี้ทุกอย่างมันต่อเนื่องกัน สงสัยต้องหัดเล่นจิกซอว์จะได้มองเห็นภาพรวมชัด
    พม่าเสียเมืองให้อังกฤษในปีพ.ศ. 2428 (ค.ศ. 1875) ส่วน ญวณ เขมรและลาว
    ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ในปีพ.ศ. 2401, 2426, 2436 ตามลําดับ
    เม่อเราเป็นประเทศที่เป็นปากทางเข้าจีน และคอมมิวนิสต์ก็กําลังเริ่มบานเบิกอยู่ที่จีน
    และกําลังลามมาเวียตนาม แล้วนี้ถ้ามันลามมาทั้งอินโดจีน จะทํายังไง สามเกลอหัวแข็งเริ่มเกาหัว ไอ้ประเทศแถวนี้ (ยกเว้นไทยแลนด์) มันก็ขี้ข้าเก่าเราทงนั้น ถึงให้เอกราชมันไปแล้ว แต่มันก็ยงกุมเป้าเวลาพูดกับเรา เรายังพอจิกหัว
    ใช้ได้จะปล่อยให้คนอื่นมางาบต่อไปได้ยังไงว่าแล้วสามเกลอก็เซ็นใบมอบอํานาจแบบเดดขาดให้อเมริกา ยูไปจัดการเอาให้อยู่หมัดเลยนะ ไทยแลนด์น่ะรอดปากพวกเรามาหลายหนแล้ว ครั้งนี้อย่าให้พลาดนะ!

    ตอนที่ 4/4

    อเมริกาออกข่าวทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความสําคัญ ที่อเมริกาต้องการใช้เป็นฐาน ในการปฏิบัติการปิดกั้นระบอบคอมมิวนิสต์ในอินโดจีน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตรของไทย ์(ทฤษฎีโดมิโนไง)
    ไอ้ที่ออกข่าวมันก็อีหรอบเดิม ใช้เป็นหน้าฉากของการล่าครั้งสําคัญ ครั้งนี้เขาเขียนบทไว้ยาว เล่นกันนาน สมันน้อยจะรู้ทันไหมหนอ ไม่เคยจําซะทีว่าไอ้พวกสามเกลอหัวแข็งมันเล่นตลกเก่ง เปลี่ยนฉากสลับกันตีหัว แล้วก็ไอ้วิธีการแบบนี้น่ะ จําไว้ให้ดีนะ สมันน้อย มันกําลังจะกลับมาใช้เล่นอีกเมื่อออกข่าวหัวสีไปแล้ว ที่นี้ก็ส่งพนักงานเดินสารระดับรองประธานาธิบดีมากล่อมนายกฯ ของสมันน้อยต่อ (ตอนนั้น จอมพลคนแปลก ใส่หมวกแล้ว ทําให้ชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรี)
    บอกว่าไอ้พวกคอมมี่มันมาใกล้บ้านยูแล้วนะ อย่าทำเป็นเล่นไป
    แต่ยูไมต่องห่วงหรอก ไอเห็นใจยูไอจะเลี้ยงดูเอ๊ย ดูแลไทยอย่างดีหาเงินกู้ให้ยู
    (พี่เบิ้มใจป้ํามากนะ!) ไปพัฒนาประเทศ และกองทัพให้แข็งแรง ยูจะได้สู้กับคอมมี่ได้ไงล่ะ นู้น อยู่กันคนละซีกโลก อยู่ดีๆ ก็จะมาช่วยไทยรบกับคอมมี่ ไม่สงสัยกันบ้างเหรอว่าทําไมพี่เบิ้มใจดีอย่างนี้แล้วพี่เบิ้มก็จัดการให้ไทยกู้เงิน จาก World Bank IBRD ก้อนใหญ่ซึ่งแน่นอน มีเงื่อนไขที่พี่เขาวางไว้
    แบบกับดักสมันน้อยติดมาเพียบ (ไม่ต่างกับยุครัฐบาลชวน กู้เงิน IMF เลยนะ ฟัง นิทานไปเรื่อย ๆ ไปเดี๋ยวถึงบางอ้อเอง)
    แต่พี่เบิ้มเขาเก่ง กลัวไทยแลนด์ไม่สบายใจ ก็เพิ่งจีบกันใหม่ๆน่ะ เขาก็เลยแถมเงินช่วยเหลือทางทหารจากUsom, Usaid, JUSMAC ติดไม้ติดมือมาให้นิดหน่อย
    พี่ไทยสมันน้อยก็อ่อนระทวย มันกเป็ ็นยังงี้แหละพี่น้อง ใครเขาเอาเงินมาล่อ ก็รีบรับของเขา ไม่คิดอะไรมาก เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ เฮ้อ! แล้วมันจะเหลือเหรอ ไทยแลนด์สยามเมืองยิ้มของเราน่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    จิ๊กโก๋ปากซอยยังไม่จบน่ะ แต่คนโพสต้องไปทำอย่างอื่นบ้าง
    ยิ่งอ่าน เริ่มเครียด บทความนี้มี 85 หน้าไฟล์ Pfd. ใครอยากอาสาช่วยโพส หลังบ้านมาได้เลย เพราะต้องแก้คำผิดเยอะ จัดข้อความ ใช้เวลาแก้เยอะเหมือนกัน
     
  3. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ท่านผู้อ่านนิทานที่รัก

    โปรดหยิบธนบัตร ใบละ 500 ในกระเป๋าของท่าน (หรือของใครก็ได้ ที่ท่านจะหยิบได้)
    แล้วอ่านพระราชดำรัส ของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3
    ที่อยู่ด้านหลังของธนบัตร
    ท่านได้ทรงเตือนเราประชาชน เรื่องฝรั่ง มาประมาณ 150 ปี แล้วนะครับ

    เพื่อทราบพระราชดำรัสเต็มครับ “การศึกสงครามข้างญวน ข้างพม่า ก็เห็นจะไม่มีแล้ว จะมีอยู่แต่ข้างพวกฝรั่ง ให้ระวังให้ดี อย่าให้เสียทีแก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาที่คิดไว้ ควรจะเรียนเอาไว้ ก็เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เขารูปช้าง

    เขารูปช้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +127
    อ่านแล้วชอบมากครับ ขอสมัครเป็นแฟนคลับท่าน" คุณลุงคนเล่านิทาน" ด้วยคน
    ท่านสามารถเล่าเรื่องสลับซับซ้อน ให้เห็นความเชื่อมโยงกันของเหตุการณ์ และติดตามได้อย่างไม่เบื่อครับ
    ขอให้ท่านรักษาสุขภาพ และกลับแข็งแรงเป็นปกติโดยเร็ว แฟนคลับจะได้ติดตามสำนวนการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมของท่านต่อไปครับ
     
  5. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022

    อย่าเอาแต่ติดตามอ่านอย่างเดียวสิ เอาไปเล่าให้ลูกหลานฟัง ปริ้นแจกเลยได้ยิ่งดี
     
  6. เห็ดถอบ

    เห็ดถอบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +300
    มีคำกล่าวที่ว่า อดีตเกื้อหนุนปัจจุบัน ปัจจุบันเกื้อหนุนอนาคต มิตรแท้มิตรเทียมดูได้จากประวัติศาสตร์ครับ อุปนิสัยใจคอคนแต่ละชาติเป็นยังไงก็ย้อนกลับไปศึกษาได้ครับไม่หนีกันมากเท่าไหร่ ญี่ปุ่นที่ว่าดีนักดีหนาหากนั่นเป็นเพียงส่วนเดียวที่แสดงออกต่อคนในชาติเดียวกันหากเขาต้องทำเพื่ออุดมการณ์และเผ่าพันธุ์เรื่องมนุษย์ธรรมยกไว้ก่อน
     
  7. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ตอนที่ 5 เหนือจิกโก๋ยังมีมาเฟีย (CIA)

    ตอนที่ 5/1
    แล้วไง ปรากฏว่าการปิดกนของอเมรริกาไม่ได้ผล (หรือได้ผล?) การสู้รบขยายวงกว้างไปทั่ว และยืดเยื้อเกิดเป็นสงครามอินโดจีนของจริง อเมริกา (ปล่อย ข่าวว่า) ทําทาจะเอาไม่อยู่
    ปีพ.ศ. 2496 (คศ 1953) อเมริกาจึงปรับการให้ความช่วยเหลือแก่ไทยใหม่คราวนี้ขุดหลุมลึกซึ้งเหลือเชื่อขึ้นไปอีก โดยผ่านกลไกของ CIA ซึ่งสมัยนู้น ยังเรียก OSS อยู่ (ชื่อเต็มคือ Office of the Strategic Services) คงพอเดาออกนะ ว่าหน่วยงานนี้เขาทําหน้าที่อะไร
    โดยกลไกของพี่ซี (CIA) อเมริกาตั้งบริษัท Sea Supply ขึ้นในไทย มาทําหน้าที่ซื้อ ขายอาวุธ จัดตั้งกองกําลัง ให้การฝึก และวิทยาการ ฯลฯ (ทํากิจกรรมตรงตามชื่อเลย ไม่มีปิดบัง เหนียมอาย)
    ผู้ที่มาทําหน้าที่ดูแล ซีซัพพลาย เป็นทีมใหญ่ซึ่งถูกฝึกมาจากมือเก๋าของ OSS คือคุณ Donovan คนเก่ง ซีตัวพ่อของจริง (สมญา " Wild Bill Donovan") แกเก่งแบบพระเอกหนังเลยนะคุณโดคนนี้
    คุณ Donovan วางแผนรูปแบบขบวนการกระชับวงล้อมคอมมี่อินโดจีน อย่างจัดเต็มวางแผนเสร็จแล้ว ก็มอบให้แก๊งคุณ Bird คนพี่และคุณ Bird คนน้อง เป็นชุดปฏิบัติการ แว่วว่าเดี๋ยวนี้ลูกหลานคุณเบิร์ด ก็ยังสืบถอดงานบางประการของคุณปะป๋าอยู่แถวเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ไปทําอะไร ตามหากันเองแล้วกันอ้อ ลืมเล่า คุณเบิร์ด อยู่เมืองไทยนานๆ ก็แน่นอน ย่อมมีภรรยาเป็นสาวไทย อย่าให้พูดเลยนะ ว่าเป็นใคร ญาติใคร รู้แล้วจะหนาว
    ก๊วนคุณเบิรดน์ ี่ยังกะหนัง Hollywood หนึ่งในก๊วนก็คือคุณ Jim Thompson ราชาผ้าไหมไทย ชีวิตคุณจิมนี่สนุก โลดโผน น่าเอาไปทําหนัง ว่าง ๆ ไปหาหนังสือชีวประวัติแกอ่านดูซีผู้ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ จากซีซัพพลาย คือ กรมตำรวจ ภายใต้การดูแลของ พล ต อ เผ่า ศรียานนท์คงยังจําชื่อนี้กันได้นะ และถ้าไม่บอกชื่อผู้ประสานงานระหว่าง พล ต อ เผ่า กับ ซีซัพพลาย เรื่องก็จะไม่ครบรสชาด ฟังแล้วรับรอง ร้องซิ้ด เขาผู้นั้นเป็นนายทหารอากาศ หนุ่มลูกครึ่ง รูปหล่อ มาดขรึม ชื่อ สิทธิเศวตศิลา ครับผม....


    นิทานเรื่องจริง เรื่องจิ๊กโกปากซอย

    ตอนที่ 5/2
    ซีซัพพลาย ช่วยกรมตํารวจ จัดตั้งและทําการฝึก ตารวจพลร่ม ตํารวจตระเวนชายแดน และ สร้างตั้งค่ายนเรศวรอยู่แถวบ่อฝ้าย หัวหิน เพื่อใช้เป็นศูนยฝึก ที่มีอาวุธยทโธปกรณ์ทันสมัยครบเครื่องมีตํารวจอะไรอีกมั้ย ที่ยังไม่ได้ตั้ง อ้อ ตํารวจแก๊สน้ำตา อันนี้มาตั้งตอนหลัง เดี๋ยวก็มาเอง ไม่ต้องรอนานทุกวันนี้ค่ายนเรศวร ยังใช้การอยู่สภาพเป็นอย่างไร คงต้องไปถาม วีระ ตู่ เต้น ฯลฯ ช่วงหลังกระชับวงล้อมที่ราชประสงค์เขาว่าเหมือนกับอยู่รีสอร์ตหรูชายทะเล นี่ขนาดตั้งมา กว่า 50 ปีแล้วนะแต่โปรดอย่าลืมชื่อค่ายนี้มีของดีเล่าวันหลังหลังจากฝึกกันจนเข้าฝัก ตชด บวกคนของซีซัพพลาย ก็เริ่มปฏบิัติการ ตามคําสั่งของคุณพี่ซีงานหลักของกองกําลังซีซัพพลาย กับ ตชด คือ ร่วมมือกับกองพลก็กมินตั๋ง (จีนไต้หวัน ภายใต้การนำของนายพลเจียง ไค เช็ค ที่ไม่ยอมตกอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน) สู้กับจีนคอมมิวนิสต ์
    ขณะเดียวกัน ก็รับฝิ่นจากกองพลก๊กมินตั๋งส่งขายทั่วโลก เอาเงินเข้ากระเป๋าไว้เป็นเงินทุนสู้รบกับคอมมี่เขาอ้างว่าอย่างนั้น เพราะ operation sea supply มันอยู่ off book (นอกระบบ)
    มันส์จริงๆ ! นี่เอามาจากรายงานของคุณพี่มหามิตรเองนะ ไม่ได้มั่ว
    คงพอนึกออกแล้วนะ คําว่า "ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ตํารวจไทยทําไม่ได้" มาจากไหน
    เอ๊ะ! แล้วรูปแบบกองกําลังตํารวจของ พวกตํารวจ ประเภทมีวันนี้เพราะพี่ให้วนสอยม ั ็อบเสธอ้ายับวันสยบม๊อบลุงเอี่ยม นี่มาจากไหนนะ คลับคล้ายคลับคลาจริงมาแล้วไง ตํารวจแก๊สน้ําตา รูปแบบเหมือน Homeland Security ของใครเอ่ย


    ตอนที่ 5/3

    สงครามอินโดจีน เริ่มต้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) จบสิ้นเอาปีพ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979)
    ระหว่างนั้นรฐบาลไทยเปลี่ยนไปหลายยุค แต่ไม่ว่ายุคไหน ก็อยู่ในความด ู่ ูแลของพี่เบิ้ม มหามิตรอเมริกาทั้งสิ้น
    อเมริกาไม่เคยเล่นไพ่ใบเดียว จําตรงนี้ให้ดีๆ เมื่อให้ซีซัพพลายกับ คุณป๋าเผ่า มือขวาของจอมพล แปลก อเมริกาก็ต้องมีอะไรให้มือซ้าย คือ คณป๋า สฤษดิ์ด้วยช่วงปีพศ 2490 ถึง 2499 แม้จอมพล ป จะเป็นนายกฯ แต่ไม่มีกองกําลังจริงๆอยู่ในมือกําลังตํารวจซึ่งแข็งปึกอยู่กับ คุณป๋าเผ่า ส่วนกําลังทหารขึ้นอยกู่ ันคุณป๋าสฤษดิ์ ทั้ง 2 ฝ่ายก็ต่างกินก๋วยเตี๋ยวไม่เส้นด้วยกัน การเมืองไทยช่วงนั้นสนุกจริง ๆ แต่ต้องนับถือสายตาพญาอินทรีย์มองการณ์ไกลรู้ว่าจะทำยังไง ใช้ใคร อเมริกาก็ใชทั้ง 2 คน สนับสนุนทั้ง 2 คนนั่นแหละ เพราะหวยยังไม่ออกว่า เมื่อจอมพล ป หมดอํานาจ
    แล้ว ใครจะขนมาแทนระหว่างนั้น อเมริกาก็จะประเมิน ผลได้ผลเสียของอเมริกา ที่จะเกิดขึ้น ภายใต้การบริหารของไพ่ทุกใบ
    ที่อเมริกาเล่น จนถึงจุดหนึ่ง ที่เห็นชัดพอว่า ตัวเลือก หรือ ไพ่ใบไหน เป็น ประโยชน์หรือ ภาระอเมริกา ก็จะมีวิธีจัดการ ใช้หรือ เก็บไพ่ที่ไม่เล่นต่อ อืม... น่าสนใจ หัดสังเกตกันบ้างนะพี่น้อง
    แล้วตอนนี้ละจ๊ะ อเมริกาเขาเล่นทั้งหน้าเหลี่ยมและหน้าหล่อ สีเหลือง สีแดง สีฟ้า กีฬาสีหรือเปล่านะ
    และยังมีพี่ทหารอีกด้วย โปรดอย่าลืมเรื่องนี้สํามะคัญ อ่าน ๆ ไปแล้วจะรู้ว่าพทหารนียอดดวงใจของอเมริกาขนาดไหน!


    ตอนที่ 6 จะดื่ม Coke หรือจะแทะเม็ดก๊วยจี้

    ตอนที่ 6/1

    ต้องย้อนหลังเล่าถึงการเมืองไทยยุคจอมพล ป. หน่อย เล่าข้ามเดี๋ยวเหมือนหนังขาดจอมพล ป. ขึ้นมามีอํานาจ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2490 หลังจากแยกวงกบนายปรีดีพนมยงค์พอถึงปีพ.ศ. 2492 ทางฝ่ายจีนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เป็นระบอบคอมมิวนิสต์
    พี่เบิ้มก็ตาเขียวขึ้นมาทันทีมือหนึ่งถือกระเป๋าเงินหนัก 7.5 ล้านเหรียญ อีกมือหนึ่งจับบ่าจอมพล ป. ถามว่า จอมพลคนแปลก ยูจะเอายังไง จะดื่มโค้กกับไอ หรือจะไปแทะเม็ดก๊วยจี๋?

    แหม! ไม่อยากคิดเลยว่าเราจะเป็นพวกเห็นแก่เงิน เอาว่าไทยเราเป็นประเภทนักการทูตนกรู้แล้วกันนะ ว่าแล้วก็จิบโค้กแกล้มเงินช่วยเหลือ 7.5 ล้านเหรียญ อร่อย (เอะ! ตอนนี้ฝรั่งต้มไทยหรือไทยต้มฝรั่งกันแน่)
    พอให้เงินแค่ 7.5 ล้านเหรยญี พี่เบิ้มก็เริ่มเบียดกระแซะไทยเข้ามาอีกคืบ
    จับมือไทยลงชื่อแปะโป้งลงนามสัญญา 3 ฉบับ ในปีพ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950) (อีตอนนี้ฝรั่งต้มไทยนะนายจ๋า) เกี่ยวกับการรวมมnvอการศึกษาและวัฒนธรรม 1 ฉบับ, ความตกลงร่วมมือทางเศรษฐกจและวbทยาการ
    อีก 1 ฉบับแต่ที่สําคัญ คือ ความตกลงช่วยเหลือทางการทหาร เรียกย่อ ๆ ว่า สัญญา JUS MAC อีก 1 ฉบับ
    เฉพาะรายการหลัง เพื่อให้แน่ใจว่า สมันน้อยผูกคอตัวเองจนแนน่ พี่เบิ้มใจดีจ่ายค่าแปะโป้งให้อีก 10 ล้านเหรียญ ! อืม... มันหวังดีจริงนะ
    จําสัญญานี้ให้ดีๆ นะ เรื่องนี้สําคัญมาก มันเป็นสัญญาที่ทําให้ไทย กลายประหนึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ยของพี่เบิ้ม ไปตั้งแต่บัดนั้นและจนถึงทุทวันนี้
    สัญญานี้ก็ยังมีผลบังคับอยู่สนใจกันบาง ไปหามาอ่านกันนะ หรือไปถามคุณพี่ประยุทธ คนว่าง่ายของคุณพี่ถังเช่า ที่บอกว่าทหารไม่ยุ่งกับการเมือองเอาเองแล้วกัน ข้าพเจ้าขี้เกียจพูด เล่ามากกวานี้เดี๋ยวก็จะโดนข้อหา
    เอาความลับของทางราชการมาเผย เดี๋ยว คุณพี่ ประยุทธ แกจะตวาดเอา (คนอะไรของขึ้นง่ายจัง)
    ก็ใอ้สัญญา ที่ผูกมัดประเทศแบบนี้แหละ ที่เขาไม่อยากให้เราชาวประชารู้เขาถึงคิดแก้รัฐธรรมนูญกัน เพื่อ
    เอาสิทธิของประชาชนคืนไป แล้วไง เราก็นั่งดูละครน้ำเน่าต่อ ยังกะบ้านเมืองไม่ใช่ของเรา..

    ตอนที่ 6/2

    จอมพล ป. เจ้าของ “มาลานําไทย ใสหมวกแล้วชาติเจริญ นั้นนะ่
    เป็นคนที่เชื่อในลัทธิชาตินิยมออกกฎหมายลักษณะชาตินิยมทางเศรษฐกิจไว้แยะ เรื่องนี้ก็ต้องย้อนไป ตั้งกะสมัยปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ซะหน่อย
    เรา ๆ เข้าใจว่า ปฏวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองล้มเจ้าแล้ว ชาวเราได้ปกครองหรือ เปล่าหรอก เปลี่ยนจากเจ้าก็มาเป็นพวกเขาที่ทําปฏิวัตินั่นแหละ มันเป็นการยายที่ ทุนกับอํานาจ ยังไง จําได้ไหม เกริ่นไว้ตั้งกะแรกนะ ก่อนพ.ศ. 2475 อํานาจกับทุนอยู่ที่กษัตริย ์หลังพ.ศ. 2475 อํานาจกับทุนย้ายมาอยู่ที่พวกปฏวิัติหรือจริง ๆ ก็คือ พวกอํามาตย์ (ทหาร+ข้าราชการ) และพ่อค้า ไม่ได้มาอยู่ที่ชาวประชาราษฎรไทยอย่างที่คิดและเข้าใจหรอกนะ (นิทานตอนนี้อยากให้พวกนิติราษฎร์มาอ่าน แยะ ๆ เผื่อจะชอบ version นี้บ้าง 555)
    สมัยพระมหากษัตริย์ปกครอง พระองค์ท่านมิได้ทําทําการค้าขายเอง แต่ใหนายอากรเป็นผู้ดําเนินการแล้วก็จ่ายค่าอากรให้หลวง ถึงเรียกว่านายอากรไง นายอากรนี้ส่วนใหญ่ก็เปนคนจีน ดังนั้น การค้าสวนใหญ่สมัยรัตนโกสินทร์ส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือพี่น้องคนจีนของเรา
    พอหลัง พ.ศ. 2475 คณะราษฎร์ก็รวบทั้งอํานาจและทุน แล้วก็ออกกฎหมายใหม่อะไรที่นายอากรเคย ทํา ก็เอามาทาเอง จึงกําเนิดรัฐวิสาหกิจ 100 กว่าแห่ง ธนาคารอกเกือบ 10 แห่ง แล้วพวกคณะราษฎร์นั่นแหละ ก็เข้าไปร่วมถือหุ้นในกิจการต่าง ๆ เหล่านั้น แล้วมันปฏิวัตเพื่อประชาชนตรงไหน มีเวลาจะเล่ารายละเอียดว่า ตระกูลไหน ใครบ้างเข้าไปถือหุ้นใน
    รัฐวิสาหกิจอะไร ธนาคารอะไร ไม่งั้นมันจะยังรวยกันอยู่ถึงตอนนี้เหรอ ผ่านไปตั้ง 70-80 ปีแล้ว (เอ้า! พวกนิติราษฎร์อย่าลืมเล่าตรงนี้บ้างนะ)
    นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้คนจีนที่เคยค้าขายในประเทศไทย ส่งเงินไปสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพราะเห็นว่าถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลไทย
    ขณะเดียวกัน พี่เบิ้มก็บี้ไทยซ้ํา ยูจะเอายังไง ไอบอกว่าทุนนิยม ยูก็จะชาตินิยม เดี๋ยวเอาเงินคืนนะ ถึงขนาดส่งนาย John Dulles รมต.ตปท. มาบีบลูกกระเดือกจอมพล คนแปลกเอง

    ตอนที่ 6/3

    มันจะเกี่ยวกบเรื่องจอมพลคนแปลก มาลานําไทยแล้วชาติเจริญ ไม่ยอมเปลี่ยนจากชาตินิยมเป็นทุนนิยมหรือเปล่าไม่รู้นะ
    แต่ช่วงพ.ศ. 2498-2500 สถานะการณ์ของจอมพล ป. ก็คลอนแคลน โยกเยก แล้วในที่สดุ 16 ก.ย. 2500 จอมพลผ้าขะม้าก็ทํารัฐประหาร
    จอมพล ป. ก็รีบเก็บกระเป๋าขึ้นรถ นั่งตัวตรงลี้ภัยไปที่เขมร ก่อนที่จะติดปีกบินต่อไปญี่ปุ่น ผู้ทําหน้าที่ขับรถพาท่านจอมพลไปเขมรชื่อ ชุมพล โลหะชาละ คุ้น ๆ นะ ชื่อนี้ ส่วนนายพล Sea Supply ก็หรูหน่อยขนเครื่องบินลี้ภัยไปสวิส น่าคิดนะ ไม่ว่าใครที่ขวางทางหรือไม่เป็นเด็กดีตามใบส่งพี่เบิ้มนี่ ไม่นานหรอกก็มีอันต้องเก็บฉากหายตัวเป็นแถว ๆ ตามดูไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกันจอมพลผ้าขะม้ารัฐประหารแล้วไม่เป็นนายกเอง แปลกนะ! คนเป็นนายกชื่อ นายพจน์สารสิน (แปลกไม่แปลกเอ่ย อ่าน ๆ ไปก็รเอง ู้ ) คล้าย ๆ กับ พล.อ.สุจินดาทํารัฐประหาร แล้วให้นายอานันท์เป็นนายกเลยนะ อิ! อิ! นายพจน์เป็นนายกได้ไม่นาน ก็จดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยใบสั่งรุ่นแรก

    ปีพ.ศ. 2501 หวยก็ไปตกที่พล.อ. ถนอม เป็นนายก โดยมีคุณป๋าผ้าขะม้าถือไม้เรียวคุมเข้มอยู่ข้างหลัง
    รัฐประหารไม่เท่าไหร่ น้าหนอมยังเป็นนายกตั้งไข่คุณป๋าผ้าขะม้าก็ล้มป่วย
    พี่เบิ้มตาเหลือก แหม! วางแผนซะเกือบตาย กําลังจะไปได้สวยทุก
    อย่างอยู่ในอวยหมดแล้ว ทําไมทําไม จะหมดวาสนาเอาง่าย ๆ
    พี่เบิ้มก็เลยกล่อมให้คุณป๋าไปรักษาตัวที่ ร.พ. Water Reed อันลือชื่อของพี่เบิ้ม
     
  8. เขารูปช้าง

    เขารูปช้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +127
    ครับผมได้เซฟเก็บเป็นเท็กซ์ไฟล์ไว้ตั้งแต่ความเห็นแรกในกระทู้นี้ และจะหาทางเเจกจ่ายให้ทราบกันถึงเล่ห์กลของชาติที่สร้างระบอบขึ้นมาเพื่อสูบเอาทรัพยากรและความมั่งคั่งจากชาติอื่นครับ
    รีบเซฟเก็บไว้ตอนแรกๆยังอ่านไม่หมดเลยครับ ต้องกลับไปนั่งอ่านช้าๆและคิดตามไป จะไปทราบสิ่งที่ "คุณลุงคนเล่านิทาน" ท่านสื่อออกมาได้ครบถ้วนครับ
     
  9. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    คุณลุงเล่านิทานท่านบอก ยินดีเป็นอย่างยิ่ง น่าจะทำเป็นตำราหนังสือประวัติศาตร์นานาชาติ ให้ลูกหลานวัยเรียนเราได้อ่านได้ปลูกฝังกันตั้งแต่เล็กๆเลย เด็กสมัยนี้ขาดภูมิคุ้มกันรักชาติในแนวทางที่ถูกต้อง ถ้าเหตุการณ์ยังเป็นสมัยนี้ที่เราปล่อยให้ทุนนิยมมาสูบทรัพยากรเรา อนาคตข้างหน้าเราจะเหลืออะไร คิดถึงอังกฤษควบคุมอียิปต์ใช้แรงงานอียิปต์ปลูกฝ้าย ได้แต่ค่าแรงเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละเราตกเป็นทาสเต็มๆ
     
  10. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    พอพี่ตะหารไม่ถูกกะอเมริกาเรื่องก็พลั่งพรูออกมาแบบพวกยุโรป&อเมริกาเป็นผู้ร้าย แต่ก่อนเห็นอเมริกาเป็นเทวดา ร่วมมือกันใส่ร้ายประชาชน ในข้อหามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ หันไปคบพระยามังกร ระวังหนีเสือเจอช้างทับตาย อย่างไรประชาชนก็จนที่จนอยู่แล้วก็จนเหมือนเดิม 5566
     
  11. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    จริงหรือที่พี่ตะหารไม่ถูกกะอเมริกา


    หรือแค่นักแสดงขอขึ้นค่าตัว
     
  12. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ตอนที่ 6/4

    ระหว่างที่คณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวไป พักฟื้นไป พี่เบิ่มก็ส่งพี่เลี้ยงชื่อ พล.อ Eskine
    มานั่งจับมือคุณป๋า เล่านิทานเรื่องภัยคอมมิวนิสต์ในอินโดจีนให้คุณป๋าฟังทุกวัน ทุกวัน คุณป๋าแกเป็นทหารรักชาติของจริง ไม่ใช่พวกเห็นแก่ร้องเท้ากอล์ฟคู่เดียว หรือมีวันนี้เพราะพี่ให้แกฟังพี่เลี้ยงใส่สีตีไข่ทุกวัน คุณปาเลือดรักชาติพุ่งกระฉูดแทบหายป่วยเลย อะไรมันจะขนาดนั้น ภัยมนจ่อคอหอยบ้านเราแล้วหรือ แถมลาวน้องรักก็กําลังจะถึงซึ่งชีวีมีหรือพี่จะนอนต่อไปได้ ว่าแล้วคุณป๋าก็ลุกขึ้น ทําเสียงเข้มใส่พี่เบิ้มทันทีบอกมาบัดเดี๋ยวนี้เราจะช่วยบ้านเราและบ้านพี่เมือง
    น้องของเรา ให้พ้นจากภยคุกคาม ของเหล่าคอมมิวนิสต์ตัวร้ายได้อย่างไร
    อ้า! สมันน้อยติดกับเราเรียบร้อยแล้ว! เสียงรําพึงขึ้นจมูกโด่งงุ้มของใครบางคนดังขึ้น
    อย่าตกใจไปเลยสมันน้อย เราได้เตรียมการไวให้ ้ท่านสมันน้อย เอ๊ย มิตรรัก ไว้พร้อมสรรพแล้ว เพียงท่านทําตามที่เราบอก บ้านท่าน รวมทั้งบ้านพี่บ้านน้องท่านก็จักพ้นภัยวิธีจัดการกับสมันน้อยนามไทยแลนด์ของพี่เบิ้มเนียนมาก
    ด้านหนึ่งก็บอกว่าต้องพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ชาวประชาต้องมีงานทํา
    พวกคอมมี่มันจะได้ เข้าไม่ถึง ถ้าเรายากจน เขาก็มาช่วงชิงประชาชนไปได้
    อีกด้านหนึ่งเราก็ต้องจัดการ ให้ยูมีกองกําลังเอาไว้ป้องกันตัว บดขยี้ไอ้พวกคอมมี่ที่จะมาตีบ้านตีเมืองยูไอไม่ปล่อยให้ยูเดียวดาย โฮมอะโลนหรอกเพื่อนรัก
    แล้วการจะทำทุกอย่างใหม้ีประสิทธิภาพน่ะ เพื่อนต้องมีอํานาจเบ็ดเสร็จ การเมืองต้องนิ่ง คุมสภาให้อยู่หมัด เพื่อนอย่าเพิ่งมึน
    แหม! นี่ะถ้าไมบอกว่า พี่มะกันพูดกะป๋าสฤษดิ์น่ะ ท่านผู้อ่านอาจเผลอนึกว่า พี่มะกันพูดกับพี่น้องนักซุกว.5 ยุคปัจจุบันเลย
    ดังนั้นไทยแลนด์เพื่อนรัก เพื่อนจงรีบจัดการ เรื่องการบ้านการเมืองบ้านยูให้เรียบร้อย หลังจากนั้น ก็ดําเนินการพฒนาประเทศเป็นการด่วน ไอได้ทําการสํารวจ และทําข้อแนะนําไว้ให้ยูเรียบรอยแล้ว เห็นไหม ไอรู้ใจเพื่อนรักขนาดไหน
    ยูรีบไปดูแล จัดตั้งหน่วยงานพัฒนาเสียโดยดีเพื่อนจะรออะไรอีก เงินไม่มีไอก็จะให้ก ู้
    โอ้ย! เพื่อนใจป้ําอย่างนี้หาได้ง่ายที่ไหน
    คุณป๋ารีบหายป่วยเลย กลับบ้านเรียกประชุมมิตรรักนักเพลงที่คอเดียวกับพี่เบิ้มมะกันเป็นการด่วน เร็ว ๆ พวกเรา คอมมิวนิสต์มันจ่อก้นเราแล้ว เราต้องช่วงชิงประชาชนกลับมา นําความเจริญไปสู้เขาฯลฯ
    แหม นกแก้วรุ่นพ่อก็ท่องคล่องเหมือนกันนะ นึกว่ามีแต่นกแก้วสมัยนี้

    ตอนที่ 6/5

    ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวอยู่ ที่สหรัฐ น้าหนอมเป็นนายกก็จริง แต่เริ่มมีรัศมีของลุงตุ๊หนวดจิ๋มขึ้นมาบดบัง คุณป๋าก็ร้อนใจ โอ๊ย ! ไหนจะเรื่องคอมมี่ ไหนจะเรื่องหนวดจิ๋มพี่เบิ้มนี่น่ารักจริง ๆ ไม่ปล่อยให้คุณป๋าร้อนใจนานหรอก คนรักกนชอบกัน ทํามั้ยทําไม เรื่องแค่นี้จะทําให้กันไม่ได้พี่เบิ้มเขาทําอะไรให้นะ ใจเย็น ๆ อ่านต่อไป
    คุณป๋ากลับมาถึงไทยแลนด์ทันทีในเดือนตุลา 2501 ก็สั่งปรับ ครม.
    ระหว่างนั้น ก็มีคนช่วยนั่งเตรียมแผนให้คุณป๋ามีอํานาจเบ็ดเสร็จ ตามที่มีผู้ปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้ายแนะนําเอาไว้
    ช่วงกลางปีพ.ศ. 2502 (ค.ศ. 1959) คุณป๋าก็เดินทางไปอังกฤษ อ้างว่าจะไปตรวจสุขภาพ รายงานของ CIA อ้างว่า คุณป๋าไปเตรียมแผนปฏิวตัิอยู่ที่ Sunning Dale ใน London หอบเอาคณะมันสมองไปด้วยประมาณ 1 โหล
    ชื่อเด็ด ๆ ในรายงานบอกว่ามีถนัด คอมันตร์หลวงวิจิตรวาทการ สนทร ุ หงส์ลดารมภ์บุญชูจันทรุเบกษา พงษ์สวัสดิสุริโยทัย เฉลิมเกียรติวัฒนางกรู ฯลฯ
    ระหว่างเตรียมการรัฐประหาร CIA ระบุในรายงานของตนว่า เป็นการเตรียมตัวของไทยแลนด์เข้าสู่การพัฒนาตาม Pax America ให้บรรลุผลสําเร็จ พี่เบิ้มต้องรีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาอุดปาก น้ําลายมันไหลเยิ้มไม่หยุด อู้ย! หมูกําลังเต๊าะแต๊ะ ๆ เข้าอวยแล้วรายงานของ CIA ยังบอกอีกว่า ได้ส่งกําลังมาอารักขาครอบครัวของคณะท่าน Sunning Dale โดยส่งครอบครัวไปซ่อนในที่ปลอดภัยที่หัวหิน มาแล้วไง ค่ายนเรศวร บอกแล้วว่าให้จําไว้อย่าลืม ๆ โดยมี
    ขบวนรถของสหรัฐเตรียมพร้อมตลอดเวลา เพื่อนําครอบครัวของคณะ Sunny เผ่นลงใต้หากแผนล่ม!
    19 ต.ค. 2502 คุณป๋าและคณะเดินทางกลับประเทศไทย
    20 ต.ค. 2502 น้าหนอมยื่นใบลาออกจากการเป็นนายกฯ วันเดียวกันนั้น คุณป๋าก็ปฎิบัติการยึดอํานาจ
    โดยคณะทหารที่เรียกตัวเองว่า “คณะปฎิวัติ” แล้วคุณป๋าก็ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติและให้น้าหนอมเป็นรองหัวหน้าคณะฯ
    CIA รายงานว่าการรฐประหารครั้งนี้มึงลดอำนาจลุงตุ๊และทําให้คุณป๋ามีอํานาจเบ็ดเสร็จPax America เดินหน้าอย่างไม่มีอุปสรรคแล้ว ดื่ม Coke แก้กระหายด่วน (โฆษณาให้ฟรีจะส่งเงินมาสมทบก็ไม่ขัดข้อง)
    [​IMG]
     
  13. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ตอนที่ 7 สมันน้อยลงหม้อ

    ตอนที่ 7/1

    ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2502 (ค.ศ.1959)
    สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไวด้วยว่า เลขาธิการสภาพฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์สารสิน (พจน์อีกแล้ว!) อย่างที่เล่าไวตอนแรกๆ ้ แผนพัฒนาเศรษฐกืจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทําขึ้น โดยใช้วิธีแปลรายงานของ World Bank ทั้งฉบับ เป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงหัวสมองอะไร แค่แปลแล้วนําก็มาใช้เป็นแผน
    แม่บท ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง
    รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการ ด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ําประปา ปรับปรุงระบบขนส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ํา และ สร้างสนามบิน! สังเกตดูให้ดีนะพี่น้อง สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทําน่ะ มันอะไรกันแน่
    แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่
    กําหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ยคุณป๋ารําพึงดังๆแน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วงเดี๋ยวไอจัดให้ !
    ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของWorld Bank ไงล่ะ สํารวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคณุ
    โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลีอุบล อุดร โคราช น้ําพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
    ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สรางสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กูขี่สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบนหรืออไงนะเนี่ยสาธารณูปโภคที่สร้าง ก็อยู่ในจังหวัดทสร้างสนามบิน หรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา
    โคราช สายพษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขา เรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆนอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯสถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกวางขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ําขนาดโอลิมปิค ฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน1,000คน และลูกจ้างชาวไทยอีก 1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย
    ที่สําคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ใแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยได้ไงเนี่ย หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วยยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหน่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้เพราะฉะนั้น
    ทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ข้าพเจ้าเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการถูกจับอย่างยิ่ง

    ตอนที่ 7/2

    คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์
    ล้วงกระเป๋าเขา ไปซื้อของของขวัญให้เขานะตัวเอง หลงดีใจ!
    ที่นี้เข้าใจหรอยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มีมีแต่ทางเกวียน สนุกจริง ๆ
    ต้องไม่ลืมถนนมิตรภาพทอเมริกาสร้าง ให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยนะ วันเปิดถนนทําพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลําเลียงพลและ อาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนามมันคล้าย ๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่น่ะนะ วันดีคืนดีก็มีคนให้ของขวัญ เราก็ดใจเปิดกล่องของขวัญออกมากลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่าเอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหม
    เตรียมการเรองแผนพัฒนาเศรษฐกืจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ําไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทํา 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตํารวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทํากองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ใหพวกคอมมี่มันขยายตัวแหลมเข้ามาแถวนี้

    ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 ถึง 2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นําทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสําคัญในการรบเคียงขาเคยงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาว และกัมพูชาตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอย่ในประเทศไทย ู น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดใม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาว และกัมพูชา
    ที่น่าสนใจ การที่สหรัฐเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน สหรัฐไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายสหรัฐก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัดแค่มาใช้บ้านเขาเฉย ๆ เอง ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบ ๆ งิบ ๆ อย่างนี้ดีกว่า ไม่มีใครรู้เงิน
    ช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่สวนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถว ๆ
    และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่าปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอย่ในประเทศไทย ) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ําประปาบ้านยู
    ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอํานาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจําไทย ขณะนั้น(นาย Martin) จึงเป็นคนอนุมัติกดปุ่ม O.K.!
    สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่าทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้มีหลายภาค
    ค่อย ๆ อ่านไป

    ตอนที่ 7/3

    เห็นชัดหรือยัง ลองเรียบเรียงดูการสํารวจของ World Bank แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตํารวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กองทัพไทยการควบคุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหม และทําเพื่ออะไร ผลประโยชน์ของใครอาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ป้องกันไม่ให้ระบอบคอมมิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่าแล้วเรามวีิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประเทศกลับหัวกลับหางหกขะเมนตีลังกา เช่นนี้

    เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปีพ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974)

    ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร
    ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบ ๆ ทําความรู้จักไว้เพราะเหตุการณ์เช่นสงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง
    และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
    หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนําเข้าทุนนิยมเสรีเปลี่ยนประเทศทําเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์เรานาจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม้ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทํา CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด
    พี่น้องที่รักทั้งหลาย จงอยางดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทําให้เราหรอก เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดูแล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟ้อกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้า ๆ น่ะ มันน้ํา หรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมนดอลล่าร์ หรือใบตองที่แน่สีทอง ๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ

    ภายใต้ Pax Americana หรือ การขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา
    ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ถึงขนาดขู่ว่าถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ. 2505 เช่น
    พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลงทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่
    พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยราย่ เงินของไอนะ
    พรบ.ธนาคารพาณิชย์จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ต ด มาลงทุน
    แล้วดูตอนนี้ซิลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน
    เป็นของฝรั่งตาน้ําข้าวหัวแดง ตาตี่หัวดํา อย่าง สิงคโปร์ขีข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่
    ถ้าอยากรู้ตัวเลข จริง ๆ ทําใจแข็ง เปิดดูรายงานของธปท. ของคุณพี่ประสาร ก็พอรู้
    รู้แล้วอย่าเปน็ลมก็แล้วกัน แหม!

    เรื่องนี้ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว
    พี่น้องอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง!
    นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนํา (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกจิ 150 แห่ง ที่
    ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (์ อันน้มีันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดําเนินกิจการเอง ควบคมเอง ุทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อยางไร มัน ก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มบีงคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด
    ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตนะ่ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย
    ชาวประชาอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่องรูปถ่ายเอกสารข้างล่าง คือ รายงานของ Pentagon ระดับ Top Secret
    ลงวันที่ September 5, 1956 เรื่อง US Policy in Mainland Southeast Asia

    ส่วนที่พูดถึงการความจําเป็น ที่จะต้อง สนับสนุน ผู้นําไทย
    ที่พร้อมจะ ทํางานกับพี้เบิ้ม และ การใช้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลาง ในการสรบู้
    กับคอมมิวมิสต์พูดง่ายๆ เป็นใบสั่งให้มาเกี้ยว คุณป๋าสฤษดิ์หัวหน้าสมันน้อย น่ะรูปถ่ายเอกสารข้างล่าง คือ รายงานของ Pentagon ระดับ Top Secret
    ลงวันที่ September 5, 1956 เรื่อง US Policy in Mainland Southeast Asia
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ของแถม!
    ลองอ่านเอกสารข้างล่างนี้ดูเป็นเอกสารของ Pentagon อีกเหมือนกัน
    อันนี้สนุก เป็นรายงานของ รองประธานาธิบดีอเมริกา Lyndon Johnson ถึง ประธานาธิบดี J F
    Kennedy เมื่อ May 23,1961
    อ่าน ข้อ 8 ดูจะเห็นชัดเจนว่า พี่เบิ้มคมเข้มสมันน้อยไทยแลนด์เพราะอะไร
    ใครอยากอ่านทั้งฉบับ บอกมานะครับ จะหาทางส่งให้อ่านแล้วตัวใคร ตัวมันนะครับ
    ถูกตาม ห้ามซัดทอดผม 555
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ตอนที่ 8 ผลประโยชน์ VS ภาระ

    ตอนที่ 8/1

    พ.ศ. 2506 คุณป๋าสฤษดิ์ก็หมดบุญ น้าหนอมของป๋าจงก็ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 อีกครั้งหนึ่ง พี่เบิ้มบอกว่าน้าหนอมน่าเอ็นดูแต่เด็ดไม่ขาด ไม่มีบารมีการสั่งการจากที่เคยคุยแต่กับคุณป๋าคนเดียวก็รู้เรื่อง ที่นี้ก็ตองคุ้ยเป็นพวง ถนอม ประภาส จิตติทวีกฤษณ์ฯลฯ แล้วไง ทําเป็นไม่รู้เรื่อง คุย 1 คน จ่าย 100 คุย 5 คน ก็เอา 5 คูณ
    พี่เบิ้มถึงจะรวยก็ขี้เหนียวนะ มาเล่นวิ่งผลัด 100x5 กับไอนี่ ไอไม่ชอบนะ
    ช่วงนั้นสถานการณ์ด้านการรบก็กําลังเข้ม การบริหารประเทศไทยแลนด์ของยูก็ไม่มีเอกภาพ แบ่งชามข้าวกันอยู่นนั้ เอ้า! พจน์สารสิน (อีกแล้ว!) ยูมาคุมกระทรวงพัฒนาแห่งชาติหน่อย อย่างน้อยไอก็ไม่
    ต้องปวดหมองด้านการพัฒนาเศรษฐกจิ เดี๋ยวเงินไหลเข้าไหลออกมนจะสะดุด แล้วพจน์ยูก็มาทําหนาที่เป็นกระบอกเสียงระหว่างน้าหนอมกับไอด้วยนะ เวลาพี่เบิ้มจะเอาอะไรก็บอก good boy ชื่อพจน์
    พจน์ก็ไปบอกน้าหนอม ไม่งั้นสั่งอะไรน้าหนอมก็พยักหน้าอย่างเดียว ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือเปล่าสถานการณ์วงผลัดก็ดําเนินไปเรื่อย ๆ เขาเข้ามาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ ทั้งบก เรือ อากาศ นี่ดีว่าไม่มีเรือดํานํานะ ถามว่าภายใต้พันธะอะไร ข้อตกลงอะไร เคยรู้กันบ้างไหมว่า เขาเข้ามากันเปล่า ๆ ไม่เคยมีสัญญาข้อตกลงเป็นรูปธรรมเลยระหวางสหรัฐกับไทย ก็มันสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย สหรัฐก็ไม่ต้องแจ้ง Congress ของตัวเอง ไทยก็ไม่ต้องแจงสภาเพราะทุกอย่างอยู่ในกํามือ บอกแล้วเงินช่วยเหลือเข้ามา ก็คนละหนุบละหนับเขียนแล้วมันเศร้าใจ
    ทหารอเมริกันก็ไม่ต้องขึ้นศาลไทย เครื่องบินจะบินขึ้นไปทิ้งบอมบ์เขาก็เป็นคนอนุมัติเขาจะขนทหารเขามาเท่าไหร่ เราก็ o.k, o.k
    นี่คือสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยุคสงครามเวียตนาม แล้วนึกว่าหมดแล้วหรือ เปล่าเลยแล้วให้จําสัญญา
    JusMac ปี 1950 ที่ท่านนายพลคนแปลก เป็นผู้ลงนามไว้บอกไว้แล้วว่าสัญญานั้นยังมีชวีิตอยู่สัญญานี้มีผลอย่างไร เกี่ยวกับปัจจุบันหรือไม่ โปรดติดตาม อย่าได้ขาดตอนเชียว

    ตอนที่ 8/2

    ช่วงปี 2507-2511 คอมมิวนิสต์เริ่มรุกเข้าอีสานบ้านเรา พี่เบิ้มก็ทุ่มเงินใส่ให้พัฒนาหมู่บ้านและตชด. กับตํารวจภธรู เพื่อดูแลหมู่บ้าน ตอนนี้เข้าใจแล้วใชไหม ่ ทําไมเขาต้องตั้งตชด.และตั้งตํารวจภูธรให้เราทหารนั้นเอาไปรบกับเวียตกง โว้ย! สั่งทุกอย่างเหมอนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ เงินที่พี่เบิ้มให้มาผ่าน
    โครงการ MAP (Military Assistance Program) โดยให้ผ่านหน่วยงาน USIS และ USOM ปีละตั้ง
    หลาย (ประมาณ 100 ลานเหรียญต่อปี)
    พี่เบิ้มเขาก็เป็นห่วงว่าเงิน MAP นี่มันจะไปใช้สนับสนุนกีฬาวิ่งผลัด 100x5 เท่าไหร่จะถึงตชด.เท่าไหร่จึงเข้ามาวางแผนเข้าไปถึงระบบพัฒนาหมู่บ้านเอง จัดสรร งบเอง
    เพื่อไม่ให้กีฬาวิ่งผลัดเบิกบานเกินไป และเพื่อให้การเมืองไทยมเสถียรภาพ สามารถรับใช้การปฎิบัติงานของเจ้าของเงินได้อย่างราบรื่น พี่เบิ้มก็ต้องการให้ไทยแลนด์มีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยจริง ๆ เสียทีเพราะว่าคาใช่ ้จ่ายกีฬาวิ่งผลัดมันชักจะสูงไปแล้วนะ แทนที่จะคุยกับนักกีฬาวิ่งผลัด คุยกับรัฐบาลมัน
    น่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายไอมากกว่านะ แต่ต้องเป็นรัฐบาลจากพรรคที่ไอเลือกให้เป็นรัฐบาลนะคิดกลับไปกลับมา พี่เบิ้มก็ปวดหัวว่าจะใช้บริการของใครดีหนอ น้าหนอมน่าจะดีที่สุด ท่าทางนอนง่ายสอนง่าย ไม่ค่อยมีพยศ รายงานของ CIA ระบุว่า สหรัฐมีแผนที่จะให้กลุ่มถนอมเป็นผู้บริหารประเทศไทยต่อไป ดังนั้นจึงมีการเจรจากับทูตอเมริกันนามวาคุ่ณ Martin ให้อเมริกาสนับสนุนการตั้งพรรคของกลุ่มถนอม ได้ยินเสียงตัวแทนฝ่ายไทย คล้าย ๆ เสียง นายพจน์สารสิน บอกเลือกตั้งน่ะนะ มันต้อง
    ใช้ทุนแยะอยู่ถ้ายูช่วย พวกไอก็ไม่ต้องไปเอาจากพ่อค้า ซึ่งส่วนมากเป็นคนจีน ยากจะเดาวาจะเอียงหน้าไปอยู่ข้างไหนรายงาน CIA บอกว่าทูต Martin นําเรื่องนี้ไปเสนอต่อ 303 Committee ปรากฎว่าทาง Washington
    ก็ถามกลับมาว่า คุ้มแน่นะ คําตอบก็อยู่ในสายลม ที่พัดไป แล้วก็เงียบหาย
    ระหว่างนั้น ไทยแลนด์ก็เลยมีข่าวลือว่าจะมีการปฎิวตัิน้าหนอม โดยกลุ่มทวีจตติ ิกฤษณ์บ้าง ลุงตุ๊บ้าง
    แต่ระยะหลังข่าวปฎิวัติโดยลุงตุ๊มาแรงส์แหม มันประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้น บังเอิญจริงนะ
     
  16. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ตอนที่ 8/3

    ช่วงข่าวปฏิวตัิโดยลุงตุ๊ทูต Martin ก็หมด term กลับบ้าน ทูต Unger มาแทน คุณ good boy นาม
    พจน์ก็ไปเตือนทูตใหม่อีกว่า ยูจะเอายังไง ข่าวปฎิวัติมาแรงนะ ถ้ายูจะให้ถนอมเป็นนายกนี่ต้องเร่ง ๆหน่อย เราจะตั้งพรรคแล้วหนา เงินที่ว่าจะช่วยยังไมมาเลย ่
    ทูตตั้งคําถาม 20 คําถาม แล้วก็มีประโยคทองตอบไป เป็นเกียรติประวัติวา่ “Trust us-We know what to do” ไอรวยจะตายยูไม่ต้องห่วง ธุรกิจแยะไปหมด น้ําดําไทยแลนด์นี่ก็ของไอนะ (ไม่ได้ค่าโฆษณาไม่เขียนให้รอบสอง!)
    ทูต Unger ได้ยินประโยคทอง แล้วก็อ่อนระทวยเขียนรายงาน ชื่อว่า “Lotus Project” ส่งด่วนจี๋ไปยังWashington ทันทีอีกรอบ
    การเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.พ 2512 ปรากฎว่าพรรคสหประชาไทยของน้าหนอมได้รับชัยชนะเฉียดฉิวมาก คือ 75 ที่นั่งจาก สส. ทั้งหมด 215 คน เก่งจังเลย!
    การเลือกต้งครั้งนี้สมควร บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่าอํานวยการสร้างโดย CIA
    ของแท้ภายใต้ชื่อว่า Lotus Project มีนายพจน์สารสิน เป็น project manger ทั้งนี้เพราะพี่เบิ้มกลัวว่าถ้าการเมืองไทยไม่นิ่ง Pax Americana ที่วางไว้ซับซ้อนก็จะ ฉ ห ดังนั้นพรรคสหประชาไทย
    ภายใต้การดาเนินงานของนายพจน์จึงเกิดขึ้น และชนะการเลือกตั้งและได้นายกชื่อ พล.อ. ถนอม! ไอ้ที่เขียนเกี่ยวกับ Lotus Project มาทั้งหมดนี้นี้อยู่ในรายงานลับของทูต Martin และทูต Unger เองนะ ไม่ได้ยกเมฆ แหม ลับยังไงก็หลุดมาได้น่า สีมือระดับนี่แล้ว เดี๋ยวว่าคุย (ฮา)
    โม้มาก สงสัย กลับบ้าน พวกซีมาคอยรับตัวไปเที่ยวแน่ !
    Lotus Project ใช้เงินหลวงของพี่เบิ้มอุดหนุน ภายใต้การพิจารณาอนุมัติของ Committer 303 ไปหาดูกันแล้วกันไว้ Committee นี้มันทําอะไร แล้วอย่ามาพูดอีกนะ ยูต้องเป็นประชาธิปไตย เหม็นขี้ฟันจริง ๆ
     
  17. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ตอนที่ 9 ขาดทุน

    ตอนที่ 9/1

    ระหว่างที่สงครามเวียตนามกำลังเริ่มเข้าขั้นโคม่า ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) พี่เบิ้มเริ่มเป็นฝ่ายรับ พี่เบิ้มจึงเปลี่ยนมาใช้แผน 2 (แผน 2 หน้า)
    หน้าหนึ่งก็เรมให้มีการเดินสายเล่นบทเจรจา ระหว่างรัฐมนตรีตปท.คนสําคัญของพี่เบิ้มกับทางเวียตนาม คุณจมูกโต Heney Kissinger รมต ตปท ของพี่เบิ้มสมัยนั้น เดินทางเป็นว่าเล่น เหมือนคุณนายClinton ตอนรัฐบาล Obama (1) นั่นแหละ
    อีกหน้าหนึ่งก็ส่งให้ลูกกะเป๋งทั้ง หลาย ก็ใครล่ะ นึกให้ดีนะ ลุยเข้าไปถล่มคอมมี่ต่อ (โปรดสังเกตพวกพี่เบิ้ม เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน รมต.ตปท. ชีพจรลงเท้าทั้งนั้น ตอนนี้ก็เห็นบินกันว่อน ตามดูรอบตัวเรากันบ้างนะ)
    ดังนั้นปฎิบัติการลับในประเทศลาว ซึ่งฝ่ายไทยนําโดย ระหัสเทพ 333 (ไปหาเอาเองนะวาเป็นใคร) กับฝ่าย CIA อเมริกา จึงทํางานหนัก บินกระหน่ําถล่มคอมมิวนิสต์ที่ลาว ผล ลาวแตกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อปีพ.ศ. 2518 (ค.ศ.1975) พี่น้องเจ้าลาวถูกเสี้ยมให้แตกกันเอง เจ้าสุวรรณภูมา ผู้พี่ วิ่งไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่เบิ้มอเมริกา
    เจ้าสุภานุวงศ์คนน้อง เหม็นฝรั่ง จึงไปซบกับฝ่ายจีน แล้วลาวก็เปลี่ยนจากประเทศที่ปกครองโดยระบอบกษัตริย์เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบสังคม
    นิยม ตั้งแต่ครั้งนั้นฝีมือใครลองคิดดูโปรดไปศึกษาต่อน่าสนใจมากไม่ใช่เฉพาะที่ลาว ในสงครามเวียตนามเอง หลังจากทุ่มเงินไปกว่าพันล้านเหรียญ (ใช้เงินมากกว่าตอน
    อเมริการบในสงครามโลกครั้งที่ 2 !) ใช้ทหารไปรบประมาณ 500,000 นาย เสียชีวิตไประหว่างรบทั้งหมดเกือบ 60,000 คน ยังไม่นับที่สูญหาย ทุพพลภาพทางกายและจิตใจ อเมริกาก็ออกอาการ ยืนพิงเชือก

    ปีพ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) อเมริกาเสนอขอเจรจาสงบศึกกับเวียตนาม !!!!
    มันจะเป็นไปได้ยังไง ? อเมริกา (อ้างว่า) ลงทุนกับสงครามอินโดจีนมากมาย ทั้งด้านอาวุธ กำลังพล และกําลังทรัพย์ชาวประชาก็เป็นมึน กําลังรบกันเข้าฝัก ดันถอยทัพเสียอย่างนั้น ไทยแลนด์งงเป็นไก่ตาฟาง นักวิ่งผลัดวิ่งผล่านชนกันเอง เฮ้ย เฮ้ย เอาไงวะ พวก! มันเป็นไปแล้ว ก็บอกว่าเล่นแผน ่ 2

    วันที่ 25 ก.ค พ.ศ. 2512 ประธานาธิบดีนิกสันก็ประกาศ Guam Doctrine สรุปว่าพี่เบิ้มเปลี่ยนจากเหยี่ยวเป็นพิราบ (เปลี่ยนง่ายดีนะ ลูกกะเป๋งปรับตัวกันไม่ทันเลยล่ะ) จะไม่ส่งทหารไปช่วยทําสงครามกับประเทศที่ถูกรุกราน (โดยคอมมิวนสติ ์)
    แต่จะให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตรด้านเศรษฐกิจ (ฮั่นแน่!) และการทหารแทน แหม! นี่มันพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวนี่นา หลอกใครไม่รู้
    แล้วไงล่ะ ไทยแลนด์ตอนให้เขาเข้ามาในบ้าน ใช้เป็นฐานทัพ เขาก็ไม่ถาม ไม่เซ็นสัญญา พอเขาจะไปเขาก็ไม่ปรึกษา บทจะไปก็เก็บฉากไปซะยังงั้น
    นักวิ่งผลัดก็หน้ามืดละซิที่นี้จะเอาไงดีเงิน MAP ที่พี่เบิ้มเขาเคยให้ปีละ 100 ล้านเหรียญ เขาก็ลดลงเหลือ 20 ฝ่าล้านเหรียญ ต๊าย ตาย ลดเยอะนะพวก เดี๋ยวตอผุด เราจะเอายังไงดี

    ตอนที่ 9/2

    อเมริกากย็ังเป็นอเมริกา ปากบอกว่าถอนทหาร ถอยทัพ แต่ตาก็ขยิบ
    สั่งให้ลูกกะเป๋งไปถล่มเขมร ก็บินไปจากฐานทัพในไทยนั่นแหละ
    เหล่านักวิ่งผลัด ก็เลยเห็นโอกาส ยังไม่อยากให้ยี่เกปิดฉาก นายพลเจ้าของสวนทุเรียน (ไปหาชื่อกันเองแล้วกันนะ เขียนมานี่ก็เสียวหลายเรื่องแล้ว) ก็เลยรับหน้าที่ไปเจรจากับพี่เบิ้มได้ไง! ยูสั่งให้ไอบิน ไอก็บิน สั่งให้ไอถล่ม ไอก็ถล่ม บอกไม่ทําสัญญา ไอก็ O.K ทหารยูทำผู้หญิงไทยท้อง ชกไอ้หนูหน้าดําผอมเกร็งแถวอีสานจนงอม ไม่ยอมขึ้นนศาลไทย ไอก็ยอมหมดแล้ว แต่เรื่องจะมาลด MAP นี่เรื่องใหญ่นะ (ของมันเคยได้น่ะ) แล้วต่อไปนี้สั่งใครเขาก็ลําบากนะ ทุกอย่างมัน
    ต้องใช้เงินทั้งนั้นนะ (เอะ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องสงครามเวียตนาม หรอสงครามไพร่ครองเมืองนะ คนเล่านิทานชักงง เรื่องมันคล้าย ๆ กัน 555)
    ระหว่างเจรจาต่อรองกัน การเจรจาสันติภาพที่ปารีสเกิดสะดุด ฮานอยไม่ยอม
    อย่านึกวาหมู่นะ พญาอินทรีย์ที่พยายามจะแปลงกายเป็นนกพิราบก็เลยยั้วะ
    งั้นสั่งรบต่อก็ได้ (วะ) คราวนี้ไม่รบแค่ในเวียตนาม ไอ้พวกญวณแดงอยากหนุนเขมรแดงดีนัก บอมบ์เขมรแม่มซะเลย คราวนี้
    กําลังรําคาญพี่ไทยที่มาแบมือขอเงินเพิ่ม พี่เบิ้มก็เลยใช้เกาะกวมเป็นฐานทัพ
    เจ้าของสวนทุเรียนได้ข่าว ก็รีบถลาไปเจรจาใหม่ (เขาเรียกว่าตื้อน่ะ ถ้าจะให้พูดตรง ๆ) ยูก้อ เราก็คบกันมานาน รู้ใจกันจะเอาอะไรก็บอก ไอก็จะพยายาม
    ยูบินจากกวมน่ะ มันไกลนะ เปลืองน้ํามัน กลับมาใช้ฐานทัพเราเหมอนเดิมเหอะ แต่ไอ้ MAP น่ะ ลดเหลือ 20 ล้าน มันก็เกินไปนะ ไปคิดใหม่ไป๊!
    ไอ้นิสัยที่ชอบใช้แผน 2 (2 หน้า) ของอเมริกานี่แหละ ก็ไม่ใช่ว่จะรอดหูรอดตาประชาชนและสื่อของตนเองได้การปฎิบัติการลับในเขมรจึงรั่วออกไป
    N.Y Times ลงข่าวใส่สีครบ ทําให้สภาสูงของอเมริกาซักฟอกเรื่องนี้มีการถามถึงแผนตากสิน (Project 22) และบทบาทของไทยในลาว ข้อตกลง Thanat Rusk
    ถึงกับมีประโยคอมตะออกมาเกี่ยวกับไทยว่า ไทยเป็นพันธมิตรดีสุดที่เงินซื้อได้ (“the Thai are the best allies money can buy”) อันนี้ปรากฎอยในรายงานของอเมริกาเอง ข้าพเจ้ามิได้แต่งเติมเห็นชัดหรือยังเขามองผู้บริหาร หรือรัฐบาลของเราอย่างไร ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนบ้าง ได้แต่เดินกุมตามก้นเขา แบมือขอเงินเขา เขาต้มแล้วต้มอีก ยังไม่รู้ตัว ล่าสุด ยังแถมไปยืนกระแดะยิ้มเยิ้มให้เขาจนลือกันไปทั้งโลกไม่มียางเหลือเลยนะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ตอนที่ 9/3

    ระหว่างปีพ.ศ. 2512-2516 (ค.ศ. 1969-1973) การเมืองไทยเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง
    เริ่มจากนายถนัด คอมันตร์รมต.ตปท.ของไทยเร่งให้อเมริกาถอนฐานทัพจากไทย เนื่องจากนายถนัดรู้อยู่แก่ใจว่าไอ้ข้อตกลThanant Rusk นี่มันของเก๊
    ประโยชน์จรงๆของไทยอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ อเมริกายิ่งอยู่นานไทยแลนด์ก็ยิ่งตกอยู่ในกรงอินทรีย์ลึกเข้าไปทุกทีกระดิกกระเดี้ยไม่ออก จะเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาซะด้วยซ้ําแต่ด้านรัฐบาลนายกถนอม กลับยังต้องการให้อเมริกาคงฐานทัพและเงินช่วยเหลือต่อไปเพราะอะไร ก็คงพอเข้าใจกัน อย่าให้ต้องพูดชัดกว่านี้เลยนะ
    อเมริกาเองก็ถูกบีบจากสภาสูง (Congress) ให้รีบเร่งลงนามสัญญาสันติภาพ
    กับเวียตนาม เพราะที่ลงทุนไปสร้างเรื่องรบกับเวียตนามเอาใจนกค้าอาวุธที่ควบคุมรัฐบาลอเมริกาอยู่อีกต่อหนึ่งนั่นน่ะ มันชักจะไม่คุ้ม นักค้าอาวุธได้เงินก็จริง แต่ประชาชนชาวดอกไม้บานในอเมริกาเริ่มจะโวยไมหยุด เพราะทหารอเมริกันตายเป็นเบือแล้วอเมริกาลงนามสัญญาสันติภาพที่ปารีส เมื่อ 28 ม.ค. พ.ศ. 2516 (ค.ศ. 1973) ขณะเดียวกันยังคง
    กองกําลังทางอากาศขนาดใหญ่และกองเรือในภูมภาคต่อไป แต่การให้ความช่วยเหลือไทยถูกตัดลดจาก
    ปีละ 100 ล้านเหรียญ เหลือปีละ 38 ล้านเหรียญ!
    มันเป็นการลดฮวบ ที่เหล่านักวิ่งผลัด ช็อคจนพูดไม่ออก นักวิ่งผลัดเริ่มแตกคอกัน นักศึกษาและสื่อเริ่มประท้วงเรื่องรัฐบาลทหารเผด็จการ ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตยแปลกดีนะ หลงจากเป็นเผด็จการมาตั้งแต่ปี 2504 นะ 12 ปีไม่เคยมีใครประท้วง วันดีคืนดีการประท้วงก็เกิขึ้น!
    เริ่มมีนักวิชาการ นักศึกษา เรียกร้องหาประชาธิปไตยของจริง
    ที่สําคัญมีหมายเหตุในรายงานทูตอเมริกันในไทย ถึงกระทรวงตปท.อเมริกัน บอกว่านักศึกษาชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไม่มีใครออกมาโวยเรื่องฐานทัพอเมริกาในไทย นึกให้ดีๆ นะ พี่น้อง หมายเหตุนี้มันมีความหมาย ลองตีโจทก์กันเองบ้างแล้วกัน นอกจากนี้ในรายงานของ CIA ระบุวานายคิสซิงเจอร์ในฐานะรมว. ตปท. อเมริกาได้สนทนากับนายลีกวน ยูนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ขณะนั้น เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2516 นายลีบอกวาสถานการณ์ ไทยน่าเป็นห่วงนะ ถ้าเขมรไป ไอว่าถนอม ประภาส คงอยู่ได้ไม่เกิน 18 เดือน
    ก่อนเก็บของเปิดก้นวิ่งหนีแน่ยูควรบอกเขานะ ว่ายจะดูแลเขา ไอคุยกับชาติชายไปแล้ว ว่ายูจะดูแลเขาแต่ยูบอกเองดีกว่านาย K บอกว่า นี่ท่านนายก เราก็พยายามอดทนมากนะ เราก็ตองผ่านความยากลําบากมาเหมือนกัน
    เราก็ต้องคิดว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร
    นายลีบอก ยูต้องบอกให้ถนอม ประภาส รู้เรื่องนะ ว่ายูไม่สนับสนุนปฏิวัติหรือยูจะดําเนินการอื่น
    นาย K เราไมสน่ ับสนุนปฏิวัติหรอก แต่เราจะดูหนทางดําเนินการอื่น
    (ไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเองนะ บทสนทนาข้างต้นน่ะ อยู่ในรายงานของ CIA ล้วน ๆ)

    ของแถม
    เป็นเอกสารบันทึกการประชุม ที่มีนาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา
    กับ คณะ การสนทนาส่วนหนึ่ง ทําให้เราเห็นชัดว่า การที่อเมริกาเข้ามาใช้บ้านเราเป็น
    ฐานทัพนั้น ไม่มีสัญญา เป็นทางการกับเรา
    นาย Habib ผู้ชี้แจง คือ นาย Philip Habib นักการทูต ผู้ชํานาญเกี่ยวกับเอเซีย
    และมีอิทธิพลสูงในช่วงสงครามเวยตนาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. พลายวาต

    พลายวาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +369
    ผ๊มว่าคุณลุงเล่านิทานเนี่ยต้องเคยอยู่หน่วยข่าวกรองแน่เลย นักวิชาการวิชาเกินธรรมดาไม่มีทางเข้าถึงข้อมูลในระดับนี้ (หน้าผู้มีชื่อเสียงท่านหนึ่งลอยขึ้นมาในหัว แค่คิดเล่นๆคงไม่ใช่ท่านหรอกนะครับ
     
  20. The Meta

    The Meta สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +19
    :cool:อ่านไปๆเหมือนนึกว่า กะลังอ่านบทความของ เสธ น้ำเงิน ในfbแฉความลับ ขอเป็นกำลังใจให้คุณApinya17 และขอบพระคุณมากๆ(f)
     

แชร์หน้านี้

Loading...