ข้าคือ นักรบแสง...ผู้โรยแรง แสงใกล้สิ้น เพียงหวัง ใครได้ยิน แสงใกล้สิ้น ส่งเสียงมา...

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย gratrypa, 20 กันยายน 2011.

  1. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    กลับมาเถิดวันวาน วันวานยังหวานอยู่

    .
    กระดิ่งทองแสน.จะดีใจ ประชาชาวไทยสดใสทั่วหล้า
    ทั่วโลกก็ล้วนเป็นสุข ทั่วโลกก็ล้วนเป็นสุข แสนสนุก.อยู่ทุกเวลา
    บัดนี้ เมื่อฟ้าสีทอง ผ่อง.อำไพไฉไลทั่วหล้า
    ชาวประชาก็ล้วนมีสุข ชาวประชาก็ล้วนมีสุข แส๊นจะสุข.ตลอดเวลา

    ทุกข์โศกล้วนแล้วจางคลาย หาย.ไปกับกาลเวลา
    จะไม่มีแล้วความทุกข์ยาก จะไม่มีแล้วความทุกข์ยาก ไม่ลำบาก.กระเด็นเลือดตา
    บัดนี้ อาทิตย์ส่องแสง ร้อน.แรงแบบแหวกมรรคา
    ความมืดล้วนแล้วไม่อยู่ ไหลลงรู.ไปในพริบตา

    ทักษิณก็ใกล้กลับบ้าน พาน.พบปวงประชา
    เรื่องต่างต่างล้วนคุยกันได้ ทุกเรื่องล้วนเคลียร์กันได้ ไม่เป็นไร.ชาวไทยหลับตา
    แต่ท่านต้องเสียเงินทอง ให้พี่น้องและปวงประชา
    เราขอซักเจ็ดสิบกว่า เหลือยี่บห้า.ท่านพอไส้ยา

    เชิญท่านกลับมาทำงาน จัด.การกับตัวปัญหา
    ทำงานแบบไร้อำนาจ ทำงานแบบไร้อำนาจ แต่รับจัด.ได้ทุกเวลา
    เราท่านพร้อมเทพเทวา จะยืนเคียงข้าง.สร้างโลกด้วยปัญญา
    ช่วยท่านสร้างเกียรติยศ ให้ปรากฏ.อยู่ทั่วโลกา

    ทักเอยทักษิณ แผ่นดินไทย พร้อมให้ อภัยท่าน
    กลับมาเถิด มาช่วยกัน สานสร้างฝัน ของปวงประชา
    ตัวเราและเหล่าเทพ พร้อมจะเสก เวทมนต์คาถา
    ทุกสิ่งเราท่านคิดมา เสร็จง่ายกว่า เทวดาช่วยเรา


    กระต่ายป่า ข้างวัด
    .
     
  2. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เสียงเรียกจากธรรมชาติ

    .
    เสียงเรียกจากธรรมชาติ

    .... ธรรมชาติ พิราบล้ำ รำพัน
    แจกสุข ทุกวัน ทั่วหล้า
    ทั่วโลก ล้วนเห็น เจนตา
    สุขอุรา คราได้ชม รมณ์รื่นเริง
    .... มอบบันเทิง เริงรื่น แลลึกล้ำ
    มอบดื่มด่ำ แก่ดวงจิต พิศมัย
    มอบหมดสิ้น น้ำดินฟ้า สุราลัย
    มอบหมดใจ ให้หมดสิ้น ฟ้าดินเอย

    .... แต่ทำไม โลกนั้น ผันเปลี่ยน
    หมุนเวียน ว่ายวน หม่นหมอง
    ธรรมชาติ กรีดก้อง ทำนอง
    ร่ำร้อง ช่วยที มีใครยิน

    .... ความได้ยิน ถึงองค์ เทพเจ้า
    ทรงทราบข่าว เหล่าเทวา มาขับขาน
    ถึงทุกข์โศก ชาวทะเล ทั่วฟ้าคราม
    ต่างล้วนถาม ปลาอยู่ไหน ไยมิเจอ
    .... ออกทะเล กลับมา ว้าเหว่านัก
    ลูกเมียรัก นั่งละห้อย คอยอาหาร
    พ่อหอบฝัน ฟันฝ่าสู้ ฟ้าสีคราม
    เพื่อมุ่งตาม ฝันและใฝ่ ให้ลูกเมีย

    .... ล่วงรู้ข่าว ชาวเล ว้าเหว่หวัง
    พระองค์หวัง ให้ชาวเล ว้าเหว่หาย
    พระองค์เสก สรรพสิ่ง ตั้งมากมาย
    เสกเอาไว้ ให้ฝูงปลา มาอยู่กิน


    .... จากนั้น เวลาเริ่มผ่าน วิถีกาล นั้น มิหยุดนิ่ง
    ทุกอย่าง ทุกสรรพสิ่ง มิหยุดนิ่ง มัน มิจีรัง
    ฝูงปลา วิ่งหาบ้าน ว่ายซมซาน ปานโลโซ
    ว่ายไป พลางไชโย ส่งเสียงโห่ โอ้ ฟ้าประทาน ฝันเป็นจริง
    .... และแล้ว เวลาเริ่มผ่าน ลูกหลานเล เลิกเหว่ว้า
    เริ่มมีหวัง ว่าฝูงปลา กลับกลายมา มีมากมาย
    มิรู้ ว่ามาจากไหน ดั่งถูกสั่งไว้ ให้มาพึ่งบารมี
    ฝูงปลา ล้วนมากมี พึ่งพระบารมี มิมีเสื่อมคลาย
    .... อีกครั้ง เวลาเริ่มผ่าน เลิกซมซาน ปานโลโซ
    เริ่มส่ง เสียงร้องโห่ ร้องโอ้โห เทพเต่าปลาทอง
    ว่ายเด่นมา ราศีก้อง ทั่วทั้งท้อง ทะเลไทย
    ใครใคร ต่างอยากรู้ ว่าใครอยู่ ใต้ตั่งเตียง

    .... เป็นไงเล่า ยำธรรมมะ ของลูกนี้
    รสชาติดี ถูกใจ ใครขี้เหงา
    ทุ่มทุนเล่า ถูกจิต ซักนิดป่ะ
    รสชาติล่ะ ว่ายางงาย หายมะ ความเหงา ....

    กระต่ายป่า ข้างวัด

    .
     
  3. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ลืมไปได้เลย เรื่องภัยพิบัติ ฉันฝันว่าจัด การมันจนสิ้น

    .
    ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไปโพสต์ไว้ที่กระทู้อื่นก็ไม่รู้แฮะ
    อาจเพราะักระทู้นั้นกลัวกันจัง อ่านแล้วรำคาญ เลยสงเคราะห์ซักหน่อย
    โพสต์ไว้ตั้งแต่ 11 มีค. ก่อนแผ่นดินไหวที่อินโด มั้ง
    เห็นคนยังไม่เลิกกลัวแผ่นดินไหว เลยเอามาให้อ่านที่นี่ด้วย จะได้วางใจ


    Sunday, 11 March, 2012 04:54:56
    ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติไปสู่มิติที่ 5 หน้า 250 กระทู้ที่ 4996

    สวัสดี สวัสดี เธอจ๋า เธอกับฉันมา สวัสดี

    หวัดดีจ้า คนใหม่มา ขอเล่นด้วย
    ท่านโปรดช่วย รวยเอ็นดู สู่กระผม
    คนใหม่นี้ เป็นคนดี น่านิยม
    นี่กระผม ชมตัวเอง เก่งจริงเรา


    ลืมไปได้เลย เรื่องภัยพิบัติ ฉันฝันว่าจัด การมันจนสิ้น
    ไม่ว่าเรื่องน้ำ หรือเรื่องแผ่นดิน ฉันจัดการสิ้น ไม่ดิ้นรุนแรง
    จะเรื่องดาวหาง หรือดาวผลุบโผล่ ดาวชวนโมโห ผลุบโผล่กวนทีน
    ฉันเป่าโอมเพี้ยง โคจรเอียงซักมิล โลกพ้นด้วยกสิณ แล้วนอนดิ้นไปมา

    เรื่องแผ่นดินไหว ก็จงวางใจ เราจำฝันได้ ฝันดีติดตา
    เรามองขวาซ้าย คิดไปคิดมา กาวช้างนี่หละหวา เอามาเชื่อมแผ่นดิน
    หยอดหยอดมันลงไป ตามร่องของแผ่นดิน เชื่อมต่อไม่ให้ดิ้น แถวแผ่นดินอินโด
    นี่คือเรื่องจริง ที่มันได้เกิด ฉันฝันเตลิด แล้วนอนดิ้นไปมา

    เรื่องฝนเรื่องน้ำ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันฝันตอนง่วง ในห้วงนิทรา
    ว่าได้ตีซี้ พี่น้องนาครา เรื่องน้ำเรื่องท่า เดี๋ยวนาคราโชว์พาว
    หรือว่าพายุ ลูกใหญ่มหึมา มังกรของข้า เลี้ยงมารับมือ
    แค่ส่งขึ้นฟ้า เมฆาครางฮือ ฉันฝันตาปรือ แล้วนอนดิ้นไปมา

    เห็นคนอื่นเล่า เรื่องราวที่ฝัน เราก็มีเหมือนกัน เลยแบ่งปันกันมา
    แต่ว่าในฝัน ฉันมักรู้ตัว ไม่ได้พูดมั่ว รู้ตัวไม่ได้ฝัน
    ภาพที่ฉันเห็น ชัดเจนเต็มที่ ดุจดั่งทีวี เฮชดีพลาสม่า
    นี่ว่าเรื่องฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง เล่าเสร็จจนสิ้น เดี๋ยวจะนอนดิ้นไปมา



    ไม่รู้รักยัง เลยไม่ให้จุ๊บบบ
    กระต่ายป่า ข้างวัด



    14-03-2012, 03:35 PM
    ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติไปสู่มิติที่ 5 หน้า 250 กระทู้ที่ 5022


    อีกสามวันถัดมา ก็ได้รับนิมิตรจากพญานาค เจอกันกลางถนนเลยล่ะ
    ไม่ได้มาเพียงหนึ่งด้วยนะ แถมดูเรียบร้อยยังกะผ้าลายไทยพับไว้อยู่ในถุง
    ส่วนกายารับน้ำหลั่งนี่ ได้รับที่บ้าน หลายหยดเลยล่ะั


    สวัสดีพี่น้อง ประกาศก้องข่าวด่วน นาคราที่ข้าชวน ให้มาป่วนที่ไทยแลนด์
    ดินแดนแห่งพระพุทธ เพียงแค่หยุดก็สเบย จิตนิ่งดั่งลิงเฉย เปรียบเปรยให้โดนใจ
    ท่านได้ตอบรับแล้ว ไม่แห้วหรอกสเหย มิรู้มีใครเคย เผยนิมิตรจิตจังจัง
    ได้เห็นกะสองตา กายารับน้ำหลั่ง ปลุกศรัทธาบ้าพลัง ข้านั่งยิ้มอิ่มอุรา


    กระต่ายป่า ข้างวัด
     
  4. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    กลับก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไป ก็ไปไม่ถึง สงสัยต้องขอสละสิทธิ์

    กลับก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไป ก็ไปไม่ถึง สงสัยต้องขอสละสิทธิ์

    หลังจากผ่านการดิ้นรนและค้นหาความหมายของฃีวิต
    ด้วยจิตที่ฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างสะเปะสะปะ ตั้งแต่เด็ก
    แต่เราฝึกฝนด้วยความสนุกสนาน ด้วยหัวใจที่เบิกบานยินดี
    จนตัวเองต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ในคดีสำคัญ โดยไม่รู้ตัว แลไม่อาจแน่ใจได้

    เรารู้ตัวตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว ว่าเราไม่ธรรมดา
    เรามีหน้าที่สำคัญที่ต้องกระทำ ความนี้เรารู้
    แต่ว่า! นี่มันจะใหญ่โตมโหฬารเกินตัวไปเยอะเลยนะ
    แม้ว่าเราจะเคยคิดไว้ ว่าสิ่งนี้อาจจะเป็นหน้าที่ของเราจริงๆ ที่ต้องกระทำ

    คุณสมบัติของผู้ถูกเลือก สูงส่งเกินตัวเราไปมากนัก
    หลายข้อที่เราขาดอย่างแรง หลายอย่างก็มีเกินไปมากนัก
    ความโง่เขลา ดื้อด้าน สติปัญญาก็ยังห่างจากของจริงมากนัก
    ในวันนี้ แม้เพียงในความฝัน ก็ยังฝันต่อไปไม่ถูกแล้ว

    ด้วยความสัตย์จริง เราไม่เคยคิดที่จะถอยแม้สักก้าวเดียว
    แต่ หลังจากฝึกมากว่าสามสิบปี ด้วยศาสตร์ต่างๆ เท่าที่จะหาได้จากร้านขายหนังสือ
    และตั้งแต่ 19 กันยา 54 จนวันนี้ วันที่ 7 พฤษภา 55 รวมเกือบ 8 เดือนแล้ว
    เป็นแปดเดือนแห่งความทุกข์ทรมาน ที่ยากจะทานทนได้อีกต่อไปแล้ว

    เราทุ่มทุกสิ่งทุกอย่างลงไป ตั้งแต่ สิบเจ็ดปีที่แล้ว ตามหลักฐานหน้าแรกของกระทู้
    ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราฝึกไปได้ถึงระดับไหน ไม่เคยตรวจสอบกับใคร เพราะไม่จำเป็น
    แต่หลังจากช่วงนั้นแล้ว เราก็ไม่สามารถที่จะเป็นคนธรรมดาได้อีกต่อไป
    ถอยกลับมาไม่ได้แล้ว ได้แต่ต้องเดินหน้าต่อไป

    แต่แล้วก็เกิดเหตุ ตามท้ายกระทู้
    ทำให้สิบกว่าปีมานี้ เราเดินหน้าก้าวนึง อาจต้องถอยถึงสองก้าว
    แทบไม่มีความคืบหน้า ที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย
    แม้เราอาจจะสงสัย ว่าเรามีส่วนร่วมด้วย ในภารกิจ ปี 1999 ก็ได้แต่สงสัย

    ขอบอกตรงตรง ว่าเรื่องธรรมมะ เราก็ไม่อาจพูดได้ว่ารู้จริง
    ความรู้และความเข้าใจในสิ่งที่ผู้ปฏิบัติธรรมทั่วไป ควรจะต้องทราบ
    เราก็ยังไม่รู้เลย คาถาหรือบทสวดมนต์ ก็จำแทบไม่ได้เลย (เว้นชินบัญชร)
    ข้อเสียและจุดที่น่าตำหนิ ก็มีมากเป็นกระบุงเลยมั้ง

    คงต้องยอมแล้วล่ะ หวังว่าเบื้องบนคงมีแผนสำรองนะ
    ถ้าเราสำคัญต่อแผน ก็คงจะมีแผนสำรองฉุกเฉิน มาแทนตัวเราได้
    ทุกท่านโปรดเข้าใจด้วยว่า เราคงไปไม่ไหวแล้วจริงๆ
    ไร้มุ่งมั่นในวิญญา แลกายาสิ้นกำลัง

    บัดนี้เราไม่มีงานทำ ไม่มีบ้านอยู่ อาจต้องนอนอยู่ข้างถนนด้วยซ้ำไป
    คอมก็ต้องเอาไปจำนำไว้ เพราะไม่มีเงินจะประทังชีวิตแล้ว
    ใช่ เราผิดที่ไม่ยอมทำมาหากิน เหมือนคนธรรมดาทั่วไป
    แต่ใครจะรู้ได้ ว่าในใจเราคิดอะไร พูดไปก็ไล์ฟบอย ไม่มีประโยชน์

    เราไม่รู้ว่าจะดิ้นหลุดจากสิ่งเหล่านี้ได้เมื่อไหร่
    แถมตัวเองก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมเข้าใจ พูดก็ไม่รู้เรื่อง
    ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราคงไม่เดือดร้อนนัก เพราะเราทำเพื่อตัวเองคนเดียว
    แต่ตอนนี้ เหมือนว่ามันไม่ใช่แล้ว ชีวิตของเรา กลายเป็นของใครก็ไม่รู้
    ทุกการกระทำ อาจจะส่งผลเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อโลกได้
    เราคงไม่อาจตัดสินใจ ได้อย่างถูกต้องทุกครั้งไป
    โดยที่ไม่รู้เรื่องราวรอบด้าน การทำงานโดยไม่รู้อะไรเลย มันยากมากนะ
    โดยเฉพาะเมื่อต้องทำกิจ ท่ามกลางความคาดหวัง ของคนจำนวนมหาศาล

    เราไม่รู้ว่ายังมีเวลาอีกกี่เดือน และก็ไม่แน่ใจว่าเราสำคัญกับแผนงานแค่ไหน
    ถ้าไม่สำคัญมากนัก และ "ฝั่งโน้น" มีตัวสำรองที่สามารถทดแทนได้
    ก็ไม่อยากให้ท่านทั้งหลายต้องรอ กับความหวังที่ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องรึเปล่า
    อาจไม่ทันเวลา ถ้าเราไม่รีบถอนตัวแต่เนิ่นๆ

    อยากบอกว่าแปดเดือนนี้ เราต้องเสียน้ำตา มากกว่าเวลาก่อนนั้นทั้งชีวิต
    ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น กว่าจะรู้เรื่อง เหตุการณ์ก็เสร็จสิ้นไปแล้ว
    แล้วทำไมต้องทำคนเดียว ไม่มีแม้เพื่อนที่จะฟังเราได้ ไม่มีแม้สักคน ที่เข้าใจ ให้พึ่งพาได้บ้าง
    ทุกขั้นตอนต้องดิ้นรนเพียงลำพัง ถูกผิดบางครั้งก็ไม่อาจคิดให้มากความได้

    ในเวบมียอดฝีมือเยอะแยะ เลือกมาซักคน คงจะเหมาะกว่าเรา
    ไม่อยากเขียนต่อแล้ว เซ็งชีวิตอย่างแรง

    ขออภัยที่ทำให้ผิดหวัง
    กระต่ายป่า ข้างวัด
     
  5. ใส้เดือน

    ใส้เดือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +2,085
    ลม หนาว เย็น ร้อน หรือ เรา ร้อน เย็น หนาว ไปตามลม หรือ ลม มีเพียงลม หนาว เย็น ร้อน อยู่ที่ใจ
     
  6. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    ขอบพระคุณในธรรมทาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤษภาคม 2012
  7. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    ตัวสีน้ำเงิน เป็นเรื่องของผู้อื่น
    ตัวสีชมพู เป็นเรื่องของเราเอง

    ในสีชมพู มีความขัดแย้ง หลายประการ

    ก. ขอสละสิทธิ์ ยากจะทานทน ไปไม่ไหว ไม่มีงานทำ ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีเงิน ไม่ยอมทำมาหากิน ชีวิตของเรากลายเป็นของใคร ดิ้นหลุด พูดไปก็ไล์ฟบอย ทำไมต้องทำคนเดียว

    ข. ไม่เคยคิดที่จะถอย เบิกบานยินดี

    ก. มีเยอะดี
    ข. มีน้อย

    ข. น้อยๆ
    ยังมีแรงบันดาลใจ
    ได้ 17 กว่าปี
    นับถือๆ

    ก. มีมาก
    แรงบันดาลใจ
    ใน ก.
    คงมากกว่า 17 ปี
    นับถือๆ

    ทั้งนี้ ใน ก. มีความขัดแย้งกันนะ
    พูดไปก็ไล์ฟบอย vs. ทำไมต้องทำคนเดียว
    ชีวิตของเรากลายเป็นของใคร vs. ดิ้นหลุด
     
  8. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529
    ไอ้หนุ่มกระต่ายป่า เอ็งเป็นอะไรกับคนชื่อสุวินัย ภรณวลัย หรือไม่ ข้าสงสัยนัก จงเร่งแถลงไขให้ลุงแก่ๆๆ ฟังเถิดพ่อหนุ่ม
     
  9. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    ** คนดีตกน้ำไม่ไหล-ตกไฟไม่ไหม้ **/
    --------------------------------------------------
    เมื่อยึดถือก็ ทุกข์ เมื่อไม่ยึดก็ไม่ ทุกข์
    เมื่อแบกมันก็ หนัก เมื่อไม่แบกมันก็ ไม่หนัก
    ยึดหนึ่งก็ทุกข์ หนึ่ง ยึดสิบก็ทุกข์ สิบ ยึดร้อยก็ทุกข์ ร้อย
    ไม่ยึดเลยก็ ไม่ทุกข์ เลย
    ---------------------------------------------------
    สัจจะสี่ มีอยู่แน่ แต่ไม่เห็น
    เขาจึงเป็น ปุถุชน จนจักษุ
    มัคคญาณ ผลญาณ ก็อดรู้
    ได้แต่ดู บัญญัติ เห็นบัญญัติ
    หากหมั่นเพียร ปฏิบัติไป ให้ถูกต้อง
    ประครองจิต ตามครรลอง อริยสัจ
    เห็นรูปนาม ตามที่เป็น ปรมัตถ์
    ---------------------------------------------------
    พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมแก่นางปฏาจาราว่า

    "ปุถุชนตาบอด ไม่เห็นธรรมเกิดดับแม้อายุยืนร้อยปี ก็เสียชาติเปล่าประโยชน์ ส่วนผู้เห็นธรรมเกิดดับ แม้มีอายุวันเดียว ประเสริฐกว่าตั้งร้อยเท่า"

    พระบาลีว่า

    โย จะ วัสสะสะตัง ชีเว อะปัสสัง อุทะยัพพะยัง
    เอกาหัง ชีวิตัง เสยโย ปัสสะตัง อุทะยัพพะยัง ฯ

    ผู้เห็นการเกิดดับอยู่เพียงวันเดียว ประเสริฐกว่าผู้ไม่เห็นการเกิดดับที่มีชีวิตอยู่ร้อยปี
    ----------------------------------------------------​
    เกิดมาเป็นมนุษย์ถูกประมวลจากผลบุญและกรรม เพื่อบําเพ็ญหรือชดใช้ หรือทั้ง2อย่างล้วนเป็นไปได้
    จุดดําของมนุษย์หรือสิ่งที่ฝืนใจทําตอบได้ว่า ต้องมีทุกคน แตกต่างกันไป
    หากอยากเวียนเกิดใหม่ ก็ให้ใหลไปตามกระแสในสิ่งที่ผิด ดุจดั่งปลาที่ว่ายตามกระแสนํ้า
    หากเป็นปลาที่ว่ายทวนกระแสก็ต้องเหนื่อย และอดทนต่อสภาวะที่เข้ามากระทบในสิ่งที่ผิดๆ
    เพราะต้องฝืนต่อสภาวะลงสู่ที่ตํ่า

    หากถามว่า...เราจะรู้ได้อย่างไรว่า สิ่งที่เราเผชิญอยู่นั้นถูกสภาวะแห่งบุญ หรือ บาป ส่งผลให้เป็นไป
    อยากให้ข้อคิด แนวปุถุชน โดยจะยังไม่กล่าวถึง สื่งซ่อนเร้นเบื้องหลัง..เป็นแนวคิดอย่างมีเหตุมีผล..คือ
    หากการกระทําที่ทำอยู่

    1. หากมีเหตุว่า......มิต้องกระทําก็ได้ แต่ด้วยจิตเมตตา ยังต้องเปลืองตัวลง ไปทํา.." นี้ คือ บําเพ็ญของใหม่ "
    2. หากมีเหตุว่า........ต้องกระทํา........จึงกระทำ ด้วย จิตขัดขืนมิกระทํา..." นี้ คือ ไม่ชดใช้ของเก่า "
    3. หากมีเหตุว่า........ต้องกระทํา........จึงกระทํา ด้วย ยินดีไม่ขืนใจ..." นี้ คือ ด้วยหน้าที่ ที่ต้องทํา "
    4. หากไม่มีเหตุว่า....ต้องกระทำ........แต่สภาพบีบบังคับให้จํายอมทํา... " นี้ คือ ต้องชดใช้ "
    5. หากมีเหตุว่า........ต้องกระทํา........ยินดีทํา แต่ขืนใจ... "นี้ คือ บําเพ็ญของเก่าที่พร่อง "
    6. หากไม่มีเหตุว่า....ต้องกระทํา........ยังขืนทํา.." นี้ คือ ทํากรรมเพิ่ม "
    7. หากไม่มีเหตุว่า....ต้องกระทํา........ก็ไม่ทํา.. " นี้ คือ เสมอกัน "

    การประมวลว่า เป็น บุญ หรือ บาป หรือ หน้าที่ หรือ ชดใช้ หรือ บําเพ็ญ ถามว่าสําคัญไหม?
    ตอบ..สําคัญสําหรับนักปฏิบัติ เพราะย่นระยะเวลา ไม่ต้องเกิดมาลองผิดลองถูก จะเสียเวลาเสียชาติกําเนิด

    เมื่อเป็น ดังนี้ เรามาสรุปความเป็นข้อๆ คือ...

    1. เกิดมา เพื่อ ทําหน้าที่ ที่ตนบําเพ็ญมา เพื่อประโยชน์ ต่อ ส่วนรวม..(ตามคําสั่ง หรือจิตเมตตา)...
    2. เกิดมา เพื่อ ทําหน้าที่ และ บําเพ็ญต่อยอด เพื่อประโยชน์ตน และ ประโยชน์ผู้อื่น...
    3. เกิดมา เพื่อ บําเพ็ญ ต่อ เพื่อประโยชน์ ต่อ ตนสถานเดียว...
    4. เกิดมา เพื่อ ชดใช้ ของเก่าให้หมดสิ้น
    5. เกิดมา เพื่อ ทํากรรมไม่ดี่ เพิ่มในปัจจุบัน...

    สิ่งเหล่านี้วนเวียนไม่จบสิ้น....ก่อนอื่นควรตั้งสติ สรุปเหตุสังเกตุผล ก่อนลงมือ กระทําสิ่งใด

    สรุปได้จำกเหตุ 3 ฝ่าย คือสภาวะของ

    1. เหตุผลที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์
    2. สภาวะแห่งใจในขณะนั้น
    3. สภาวะแห่งการลงมือกระทําอีก

    ทั้ง 3 สิ่งนี้สลับไปมา ท่านก็จะทราบเหตุผลว่า ปัจจุบัน ท่านทําสิ่งนั้นๆเพื่ออะไร

    เมตตา..หน้าที่..บำเพ็ญ..หรือชดใช้ จะได้ย่นระยะเวลา..

    CR. http://www.navagaprom.com/oldsite/show1.php?id=137
    สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  10. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    แค่อยากเป็นตัวเอง อยากเป็นตัวฉัน อย่าทำให้เป็นไครใคร

    ท่านเทพอภิบาล

    ไอ้หนุ่มกระต่ายป่า เอ็งเป็นอะไรกับคนชื่อสุวินัย ภรณวลัย หรือไม่ ข้าสงสัยนัก จงเร่งแถลงไขให้ลุงแก่ๆๆ ฟังเถิดพ่อหนุ่ม



    สวัสดีครับท่านเทพอภิบาล

    ผมเคยเป็นลูกค้าของท่านสุวินัย ภรณวลัยครับ ตั้งแต่เล่มแรก
    เคยติดตามชม ภารกิจของท่านอยู่สิบกว่าเล่ม น่าจะเกือบครบชุด
    เคยเป็นสมาชิกชมรมมังกรธรรมอยู่ปีนึง มั้ง
    เคยไปร่วมฝึกที่สวนหลวง ร.9 ครั้งนึง
    เคยโทรคุยกับท่านครั้งนึง รู้สึกว่าคุยกันแล้ว ท่านจะเบื่อเราเต็มที
    แต่ก็ให้เวลาเราได้คุยด้วยถึง ครึ่งชั่วโมง
    ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเป็น ศิษย์-อาจารย์ กันได้รึเปล่า
    ไม่อยากแอบอ้าง เดี๋ยวท่านจะเสียหาย
    แต่คงได้รับส่งมอบภารกิจมาบ้าง ไม่ชัวร์ กลัวจะมั่วนิ่ม
    จากกองหนังสือหลายร้อยเล่ม ก็ไม่ทราบแน่ ว่ามันเป็นยังไงหว่า

    กระต่ายป่า ข้างวัด
     
  11. สุมิตราจ๋า

    สุมิตราจ๋า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +1,529
    บ๊ะ มิน่า เล่าวิถีมันถึงได้คล้ายจักมีส่วนมาจากสำนักนี้

    อันตัวข้านั้น เป็นเพื่อนร่วมที่ทำงานนั้นแล จักเรียกว่ารุ่นพี่ ก็มิผิดดอก แต่ปัจจุบันเป็นลุงแก่ๆๆ อยู่บ้านเลี้ยงหลานจ๊ะ หนังสือของสุวินัย
    นั้นส่วนใหญ่ข้ามิได้อ่านดอก ด้วยรู้ที่มาว่า เขานั้นคัดมาจากที่ใด อย่างเล่ม มังกรตันตระนั้นเล่า ด้วยช่วงแรกนั้นมาจาก The Book of The Secrets ของ Shree Rajneesh มิผิดดอก อีกทั้งพอเปิดดูแล้วนึกว่า ซุปเปอร์มาเก็ต มีสินค้าให้เลือกมาสำนักจนตาลาย เห็นแล้ว มิรู้จับหยิบซื้ออันใดมาใช้ เพราะสินค้าเยอะไป แล...รกรุงรัง

    อีกทั้งอันตัวข้านั้นเล่าสนใจตัวต้นฉบับเสียมากกว่า มิได้สนใจที่สรุปจากการอ่าน แลตีความมาของผู้ใด จะว่าไปมีเล่ม ชีวประวัติ อินทปัญโญ เฒ่านั้นแลที่ข้าอ่าน ส่วนเล่มอื่นนั้นเล่ามิได้สนใจดอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤษภาคม 2012
  12. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    พุทธบูชา วันวิสาขะ ๕๕๕

    .
    .....วันนี้ ที่มาุถึง ในห้วงคำนึง ติดตรึงจิตรา
    พุทธะ บังเกิดมา สู่ห้วงโลกา ติดตาตรึงใจ
    องค์พุทธ สุดบากบั่น บุกห้วงโลกันตร์ ฝ่ามารมายา
    สรรค์สร้าง ยอดวิชา ทุกห้วงจิตรา ชีวาชุ่มเย็น

    .....วันนี้ เวียนมาถึง ชาวพุทธคำนึง ถึงคุณพุทธา
    ทรงมอบ จิตกายา สดใสยิ่งกว่า จิตราดวงเดิม
    ชาวพุทธ อย่าหยุดเฉย ทุ่มเทไปเลย สุดขั้วหัวใจ
    ทุ่มเท สุดจิตใจ สิกขาหนักไว้ ได้ใกล้พระธรรม

    .....องค์ธรรม ดั่งองค์แทน องค์พุทธมอบแทน ดั่งแท่นพระธรรม
    ยืนหยัด คอยชี้น้ำ ทุกก้าวสูงล้ำ ชี้นำชีวี
    วันนี้ วิสาขะ เวียนมาครบจะ สองพันหกร้อยปี
    ชาวพุทธ ทั่วโลกนี้ ล้วนแล้วยินดี ปรีดิ์เปรมเอมใจ

    .....จากธรรม มาถึงสงฆ์ ตั้งมั่นดำรง ยืนยงยาวนาน
    เวลา เพียงพัดผ่าน ตั้งมั่นยืนนาน ยืนหยัดมั่นคง
    ดำรง มาเป็นคู่ พระสงฆ์ยืนอยู่ เคียงคู่พระธรรม
    มุ่งหวัง เพียรชี้นำ ถ้วนทั่วสรรพส่ำ ก้าวล้ำกรรมเกม

    ....องค์สงฆ์ ของไทยนี้ นับว่ามีดี ครบถ้วนทุกเกม
    กลกรรม ดังไร้เกณฑ์ สงฆ์รับประเคน ด้วยความบายใจ
    เกมกรรม มาท่าไหน สงฆ์ไทยรับได้ ด้วยใช้พระธรรม
    ยืดหยัด รับมือกรรม โดยใช้พระธรรม ชี้นำชีวี

    ....วิถี ของไทยนี้ นับว่ามีดี ที่มีพระธรรม
    น้าวโน้ม จิตติดกรรม ให้ก้าวสูงล้ำ ก้าวข้ามกรรมเกม
    จิตใด พ่ายกรรมเกม พระธรรมแก้เกม ได้.ทุกครั้งไป

    กระต่ายป่า ข้างวัด
    .
     
  13. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ชีวิตใครหว่า ถลาล่าลม

    ชีวิตใครหว่า ถลาล่าลม


    ...เอาไงดีหว่า กับชีวิตข้า ร่อนเร่ไปมา ถลาล่องลอย
    ภารกิจ ก็มีไม่น้อย ไม่น่าล่องลอย ถอยถลาล่าลม
    ถึงมีดาบคม แต่ลอยลมนัก ไยไม่จับฝัก แล้วชักออกมา
    ชี้ดาบขึ้นฟ้า ประกาศกล้า ฟ้าดิน กูจะทุ่มหมดสิ้น ให้ฟ้าดินทั้งหัวใจ

    ...แต่ว่าตอนนี้ ยังมิมีหนทาง ทุ่มจิตก่อร่าง สร้างบ้านแปลงเมือง
    มัวแต่พะวง กับพวกแดงเหลือง ปิ้งบ้านย่างเมือง จนเหลืองกรอบโอชา
    ไอ้ตัวต่างชาติ ก็จ้องตาเป็นมัน ส่วนไหนของฉัน อ้ะ.ส่วนนั้นของแก
    ไอ้แก่ตัณหากลับ ใกล้ตายลับยังไม่เจียม ชอบดูสาวใส่เอี๊ยม เจี๋ยมเจี้ยมจุ๊กกรู

    ...อู้ฮูโอ้โฮเฮะ ชักจะเละออกทะเล อย่าไปไกลใจว้าเหว่ กลางทะเลว้าเหว่หวัง
    พระองค์หวัง ให้ชาวเล ว้าเหว่หาย
    พระองค์เสก ข้ามมิติ มีมากมาย
    เสกไว้ให้ ราษฏร์ประชา พอหากิน

    ...ดินแล้ง ก็กลับชุ่ม ป่าเขียวชอุ่ม ชุ่มดวงหทัย
    ทวยราษฏร์ ร่วมกลับใจ ถอดเหลืองแดงไว้ แล้วใส่ไตรรงค์
    ชูธง แห่งศักดิ์ศรี รักสามัคคี พี่น้องผองไทย
    ตัวท่าน จงสังวรณ์ไว้ พี่น้องชาวไทย ยังจับจ้องมองดู

    ...ใครดู ก็บอกว่าเละ สะปะสะเปะ เละเทะเหลวไหล
    จะทะเลาะ กันไปทำไม บ้านเมืองจะบรรลัย ใครเล่าเขลายินดี
    ทุกฝ่าย บอกมีเหตุผล เหตุสัปดน จึงเกิดผลอัปรีย์
    บ้านเมือง เละแบบนี้ เหตุผลม่ายดี จึงอับปรีย์อย่างไว

    ...ใครเห็น ก็ต้องส่ายหน้า สอสอของข้า ช่างน่าอับอาย
    ชาวบ้าน เลือกท่านไป หวังพึ่งท่านได้ ให้ช่วยราชการ
    ทุ่มเท เพื่อชาวบ้าน มิใช่ให้คลาน ควานหากากเดน
    หวังให้ ท่านยืนเด่น อย่าคลุกกากเดน มันเหม็นที่หัวใจ

    ...เมื่อหล่าย ก้อหม่ายรู้ สอสอของตู จ๊ะถูกอุรา
    ตัวเลือก คัดสรรมา สุดดีแสนกล้า ชูธรรมาธิปไตย
    หลักธรรม นำทางไป เชื่อมั่นเข้าไว้ หลักชัยอยู่ใกล้ธรรม
    พวกเรา ร่วมโน้มนำ จดจำพระธรรม มาชี้นำชีวี

    กระต่ายป่า ข้างวัด
    .
     
  14. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    "มีสติกับปัญหา"​


    มีสติ กับปัญหา ดั่งมีปัญญา พร้อมบารมี
    ทุกครั้งคราว ปัญหามี สติไม่หนี ปัญญามีรอ
    ทุกครั้งท่าน มีปัญหา จงรีบไขว่คว้า สติมารอ
    แล้วปัญญา จะมาง้อ จะมายืนรอ ขอแก้ไขเอง

    สติ ยามเขาเกิด เธอมาพร้อมเปิด ปัญญาบารมี
    สติ นี้แสนดี พวกพ้องน้องพี่ จงมีเต็มหัวใจ
    สติ ดีนักหนา สมกับที่ข้า ฝึกมาซะมากมาย
    สติ เต็มหัวใจ ฝึกมามากมาย ได้หัวใจมั่นคง

    พวกเรา จงอย่ายืนงง อย่าปล่อยจิตหลง ยืนงงงกงัน
    เร่งฝึก สติให้มั่น จนมีพวกมัน ยืนยันมั่นคง
    ตั้งตรง ดำรงในจิต ดั่งมีนิมิตร คอยชี้นำทาง
    ส่องแสง แรงสว่าง ส่องเห็นหนทาง ถึงกลางจิตใจ

    สตินี้ มีพรรคพวก พระจับบวก กะพวกอีกสาม
    พุทธทาส ขนานนาม หนึ่งบวกสาม ธรรมะสี่เกลอ
    มีสติ เป็นเบอร์หนึ่ง ส่งสองซึ่ง สัมปชัญญา
    เพียงสองนี้ ตามกันมา หัวเราะร่า ข้าได้รู้ตัว
    ส่วนเบอร์สาม ตามให้เห็น ปัญญาเด่น เห็นเหตุปัจจัย
    สมาธิ เบอร์สี่ไซร้ เธอมอบให้ ซึ่งขุมกำลัง

    กระต่ายป่า ข้างวัด
    .
     
  15. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    "อยากเก็บฝันเรียงรายที่ปลายฟ้า"​


    ....อยากเก็บฝัน เรียงราย ไว้ปลายฟ้า
    คอยใครคว้า ร่วมเรียง เคียงข้างแขน
    ฝันของข้า ของใคร ทั่วไทยแลนด์
    อยากเก็บแขวน เรียงราย ปลายนภา

    ....ฝันข้าอยู่ เลยฟ้า ช่างน่าเศร้า
    เดินเปลี่ยวเหงา ลำพัง ช่างโหยหา
    ข้าดั้นด้น โดดเดี่ยว เปลี่ยววิญญา
    เดินค้นหา ลำพัง ยังมิเจอ

    ....หรือว่าเรา เหม่อลอย คอยฝันเฟื่อง
    มิมีเรื่อง อันใด ให้ต้องฝัน
    พอกลับสู่ โลกจริง ยิ่งงงงัน
    โลกของฉัน อยู่ไหน ไยมิเจอ

    ....ฤ ว่าเรา หล่นเข้า โลกแห่งฝัน
    ชวนงงงัน ฝันเฟื่อง เรื่องชวนหัว
    มัวแต่ฝัน เพ้อไป ไม่ห่วงตัว
    ช่างชวนหัว มัวฝัน ฉันอดตาย.

    กระต่ายป่า ข้างวัด

    แต่งเมื่อ พฤ. 14 มิถุนายน 2555 3:39:37 PM
    ระหว่างเรียนพิเศษที่เวบกลอนไทย
    ไปโวยวายไว้สิบกว่าบทแล้ว
    บทนี้ส่งเข้าประกวดด้วยนะ หัวข้อนี้ของเดือนมิย.

    ที่อยู่ตามนี้ เผื่อใครอยากตามไปหาอ่านที่เหลือ
    ประกวดแต่งกลอนประจำเดือน มิถุนายน ๒๕๕๕...."อยากเก็บฝันเรียงรายไว้ปลายฟ้า"



    "สะบัดสะบิ้ง กลิ้งไปเรื่อย"​

    นกพิราบปวดท้อง "กระย่องกระแย่ง"
    ยื่นท้องแกว่งใกล้น้ำ "ระส่ำระสาย"
    หมู่มัจฉาว่ายปร๊าด "กระจัดกระจาย"
    ต่างแหวกว่าย หนีตด "ระทดระทม"

    คล้ายรักขม ตรมจัด "สะบัดตะปิ้ง"
    ไม่เพราะพริ้ง คลุ้งคละ "สละไม่สวย"
    อย่าไปซื้อ แม่ค้า "กะซุ่ม เราซวย"
    ถามกลับด้วย คำผุด "ละมุดเท่าไร"

    วาดรูปหวานอย่างดี "กวี ไม่วาด"
    ใครพิฆาตคำหวาน "ผสานไม่สม"
    พรวนดินเสร็จเตรียมเซ็ท "ไข่ทอดชะอม"
    "กระด้างกระเดื่อง" ไข่ขม เขวี้ยงจมดิน

    ปัทโธ่โว้ย เบื่อจริง ปิ้งปลาให้
    แมวตัวใหญ่ ไม่กิน ดิ้นเสมอ
    ดังตัวเรา มัวเฝ้า ฝันละเมอ
    มัวแต่เพ้อ เฝ้าฝัน มันไม่จริง.

    ต้องขอ อภัยด้วย
    มือใหม่หน่วย ก้านไม่ให้
    กฎกลอนฉัน ไม่เข้าใจ
    ขอมือใหม่ ใส่เต็มที่ มิลังเล

    กระต่ายป่า ข้างวัด

    แต่ง พฤ. 14 มิถุนายน 2555 10:50:13
    เห็นเขาเรียกว่า "กลอนกลบท สะบัดสะบิ้ง"

    เห็นแล้วชักคันมือ ลองดูหรือเป็นอย่างไร
    ไม่เคยเลยสักครั้ง ฉันเลยยังทำไม่เป็น
    ฉกตัวอย่างที่เห็น เอามาเป็นตัวต้นแบบ
    ต้นบทของสามแบบ ลองแล้วแทบทำไม่ได้
    เลยมั่วมันเข้าไป ออกมาได้ ให้วิจารณ์

    กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ)

    กระต่ายป่า ข้างวัด
     
  16. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    นิมิตร ชิดฟ้า

    "นิมิตร ชิดฟ้า"

    มองฟ้า เย็นวันนี้ ก็สวยดี อยู่เหมือนกัน
    ท้องฟ้า ช่างเฉิดฉัน งามดั่งฝัน ฉันละเมอ
    สาดแสง ส่องเส้นสี นิมิตรดี มีขึ้นมา
    จาเกิด ไรขึ้นหว่า สาดแสงมา ส่องสวยดี

    เพ่งไป ให้กลายเป็น นิมิตร
    เพ่งจิต ให้นิมิตร แตกฉาน
    เพ่งฌาน ให้เบิกบาน หยั่งรู้
    แล้วทุบตัวกู ให้หยั่งรู้ ธรรมมา

    ธรรมมา คือวาจา พระพุทธ
    เพียงหยุด คือมนุษย์ นิพพาน
    เบิกบาน คือการงาน พระธรรม
    สูงล้ำ คือคุณค่า พระสงฆ์
    ชีวิตปลิดปลง พระสงฆ์ช่วยเผา

    เผากาย ยามไร้ชีวิต
    มิสู้เผาจิต ยามชีวิตคง
    เผาตรง ไปที่กิเลส
    ด้วยฟืนพิเศษ คือพระธรรมมา
    ปัญญาก็ยิ่งแตกฉาน
    ศึกษาสำเร็จพิศดาร
    ธรรมมาก็ยิ่งเบิกบาน
    ยืนนานมั่นตรงคงใจ
    ใครใครก็ต้องหยุดดู
    แล้วร้องอู้หู้ มันเขียนอะไร

    กระต่ายป่า ข้างวัด​
     
  17. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    นกน้อยเหล่านั้น ยืนฝันในกรง

    .
    "นกน้อยเหล่านั้น ยืนฝันในกรง"


    วันก่อน เพิ่งโดนสอน สั่งเขียนกลอน ซ่อนธรรมมา
    วันนี้ ชัดอุรา ธรรมชาติมา กล่าวซ้ำย้ำเตือน
    วันดี มีนกเขา สองตัวเฝ้า โค้งเข้ากัน
    สายไฟ หน้าบ้านฉัน โค้งหากัน ฉันดูเพลิน

    บังเอิญ เกิดเป็นนิมิตร ว่านกเขาคิด ผู้แรกแหวกสอน
    ผ่านจิต คิดเป็นกลอน อยากฝากสอน อ้อนวอนผู้คน
    เพื่อนนก ผู้น่ารัก ไยถูกกัก ขังในกรง
    นกเขา เศร้าและปลง แล้วยืนงง ตรงสายไฟ

    ในใจ ข้าร้อนผ่าว เพื่อนนกส่งข่าว หวังเราช่วยเหลือ
    เอื้อเฟื้อ และจุนเจือ ปลดปล่อยนกเพื่อ พ้นกักขังกรง
    นกน้อย ทั้งหลายนั้น อยากกางปีกฝัน พริ้วผ่านนภา
    โผผิน บินหลั่นล้า โยกพริ้วลิ่วถลา เหิรฟ้าท้าลม

    แม้ถูก สายฝนสาด เห็นฟ้าฟาด มิหวาดอุรา
    นกน้อย ฝันถลา เล่นลมหลั่นล้า คงสุขอุรา เพลินใจ
    วันนี้ มีเพียงฝัน นกน้อยเหล่านั้น ยืนฝันในกรง
    พวกเรา ตั้งจิตรตรง ชวนเปิดขังกรง ให้นกเจ้าโผบิน

    กระต่ายป่า ข้างวัด

    เขียนเสร็จ อ่านหลายรอบ เพราะเธอชอบ โชว์เล่นกล
    ข้าโดน มาหลายหน เธอซ่อนกล จนงงงัน
    วันนี้ สองท่อนท้าย ซ่อนความหมาย ดูชอบกล
    ดั่งเรา มีสองคน ถ้าเลือกชื่อบน คนคงจังงัง

    .
     
  18. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    นิราศ นักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน


    "นิราศ นักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน"
    ฉบับทดลองงาน โดย สุนทรทู่

    ภารกิจ ในวันนี้ นิมิตรมี เมื่อกี้เอง
    ให้เรา โชว์สุดเจ๋ง คิดเอาเอง ได้ดังใจ
    ยำใส่ ให้รสจัด ล้วนถูกปาก ทุกวิญญา
    ของเคียง เพียงธรรมา ให้เราจัดหา ทุกวิญญารอชิม

    น้ำจิ้ม ยังไม่ต้อง เพ่งเพียรจรดจ้อง ของเคียงธรรมา
    ทำแจก ทุกวิญญา ประจำกายา จิตรามั่นคง
    แจกจ่าย ไปให้ทั่ว จิตใดเมามัว ฟันชั้วด้วยธรรมา
    ของดี วิเศษหนา เชิญทุกท่านมา หยิบไปใช้ฟรี

    ของดี ชิ้นที่หนึ่ง ที่นักรบซึ้ง คือพระพุทธา
    แสนทึ่ง ในธรรมา ที่พระพุทธา เชื่อมมาผ่านใจ
    ทึ่งแท้ แน่พระสงฆ์ พากเพียรมั่นคง ตรงหานิพพาน
    พุทธแท้ แน่ยืนนาน มั่นคงพ้นผ่าน สองพันหกร้อยปี

    ของดี เรามีมาก จัดเรียงลำบาก ยุ่งยากปัญญา
    ใช้สุ่ม คลุมควักคว้า แขนคลำหา ใจพามาโชว์
    ของดี ชิ้นที่สอง เราร่ำร้อง ให้ออกมาโผล่
    ..........(ห้ามอ่าน / เรานั่งรอสาร นานสิบนาที).........
    จับได้ ร้องไชโย ลูกแก้วยักษ์โผล่ พรวดพราดประหลาดใจ

    เขตอาคม กลมดิ๊ก "ระริกระรี้"
    ข้าลองสร้าง หลากวิธี "ขมีขมัน"
    แม้ใครเห็น เป็นต้อง "ตะลึงตะลาน"
    "ทะเยอทะยาน" อยากมี ที่ข้างตัว

    ขอเรียกลูก กลมนี้ ว่ากลมกิ๊ก
    เธอกลมดิ๊ก อีกใส ประภัสสร
    ส่องแสงสี สอนสั่ง ทุกครั้งตอน
    ส่งจิตวอน สอนสั่ง ทุกครั้งมา

    เอ๊ะทำไม ซ้ำกัน แต่ไม่ซ้ำ
    อีกใจย้ำ คล้ายเซ็น เป็นหนักหนา
    อวดฤทธิ์เดช เหตุผล ล้นปัญญา
    อื่นวิญญา มาชิม อิ่มล้นใจ

    ใครอยากมี ไม่หลอก บอกว่าง่าย
    สงบใจ หยุดจิต คิดว่าฝัน
    ให้ลูกแก้ว ปรากฏ บนมือพลัน
    เพียงเพ้อฝัน ไม่ปรากฏ อดเลยเรา

    เรื่องราวไม่ง่ายอย่างนี้ ลองคิดให้ดี หยั่งงี้ง่ายไป
    ดูแล้ว มันไม่ยิ่งใหญ่ มันง่ายเกินไป ยิ่งใหญ่ไม่พอ (ยาว ต่อวันหลัง)

    กระต่ายป่า ข้างวัด
    เริ่มเขียน 22/6/555 บ่ายสาม
    .

     
  19. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    แผ่เมตตา แบบเกาะแห้วพิศดาร



    แผ่เมตตา แบบเกาะแห้วพิศดาร
    (ประชดโดย สุนทรทู่)


    กาแฟถ้วยที่สอง
    จิบแล้วนั่งมอง
    ไม่รู้จ้องไรใจปรอย
    ยุงบินแบบว่าใจลอย
    จูบท้องแขนข้อย
    แล้วห้อยแท่นเจาะเหมาะเหม็ง

    โชคร้ายที่ตาทันเล็ง
    เมตตาไม่เจ๋ง
    มิเห็นธรรมา มาสอน
    มือซ้ายไวกว่าพังพอน
    ตบไว้ก่อนแม่สอน
    เดือดร้อนศีลห้ากระเด็น

    เลือดติดตามแขนให้เห็น
    โธ่เอ๋ยกรรมเวร
    เหตุไฉนไยเป็นเช่นชะนี้
    อีกใจร่ำร้องยินดี
    แทนยุงน้องพี่
    เวรกรรมที่มีหมดไป

    พี่ส่งน้องให้เกิดใหม่
    มิต้องสงสัย
    เกิดใหม่เป็นไท เห็นเห็น
    บุญพี่จงพาน้องเป็น
    คนใหม่ให้เห็น
    ร่มเย็นเป็นสุขทุกวิญญา

    ค้างคาวแห่งแสง
    เป็นเพื่อนทุ่นแรง ของแสงแห่งหวัง
    .

     
  20. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ไม่อยากเก็บ ฝันของใคร ออกจากปลายฟ้า

    "ไม่อยากเก็บ ฝันของใคร ออกจากปลายฟ้า"

    อยากเก็บ ฝันของใคร ที่ร่วงหล่นไว้ แถวปลายฟากฟ้า
    อยากแปะ และบอกว่า ฝันใครร่วงหว่า ข้าขอแปะคืน
    อยากกู้ ฝันของผู้อื่น เธออย่าเพิ่งตื่น อย่าคืนคลายฝัน
    อยากชวน ร่วมด้วยช่วยกัน ผลักดันทุกฝัน สร้างสรรค์ปัญญา

    ฝันใด ของใครอื่น ที่เคยมิลื่น จงหลั่งไหลมา
    ฝันใด ของใครช้า จงรีบรีบมา ให้ไวให้ไว
    ฝันเด่น ของใครดับ ที่เคยเลือนลับ จงกลับไสว
    ฝันไว้ ของทุกใคร จงเป็นจริงได้ คล้ายดั่งความฝัน

    พวกเรา จงอย่าเพิ่งตื่น และรีบรีบตื่น ไปพร้อมพร้อมกัน
    พวกเรา จงอย่าลืมฝัน หลับลืมตาพลัน รีบฝันรีบตื่น
    พวกเรา จงยิ้มสดชื่น ยามหลับตาตื่น หลับตื้นลึกไป
    พวกเรา จงยิ้มสดใส ตื้นจิตเต็มใจ ไม่มีใครหลับตื่น

    เมื่อไหร่ จะมีใครตื่น เขย่าให้ฟื้น ตื่นรับธรรมา
    เมื่อกี้ ยังมิไม่มา ชักจนปัญญา ธรรมาเหลือบาน
    เมื่อวาน มิใช่ไม่บอก เราเหมือนโดนหลอก น้ำอยากออกตา
    เมื่อม้วย ม่องมรณา คงเชื่อวาจา ว่าข้าเก็บจริง

    ค้างคาวแห่งแสง
    เป็นเพื่อนทุ่นแรง ของแสงแห่งหวัง
    (กระต่ายป่า ข้างวัด)
    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...