ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    จากรุ่นหนึ่ง ถึงรุ่นสอง จากรุ่นสอง สู่รุ่นสาม
    เพื่อสานต่อการทำงานเป็นทอดๆ

    ขันธ์ห้า ของแต่ละรุ่น ย่อมต้องแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เป็นธรรมชาติ
    ขันธ์ห้าจะสลายเมื่อไร เราไม่รู้ แต่รู้ว่า งานระบบ จะต้องดำเนินต่อไป
    เพื่อคงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ สร้างภูมิมนุษย์ให้เจริญในทางจิตวิญญาณ
    และเป็นจิตวิญญาณที่ขาวสะอาด ภูมิมนุษย์จึงจะอยู่รอดปลอดภัย จะมีการพัฒนาทั้งทางวัตถุและจิตใจ โดยมีธรรมะ ของพระพุทธองค์ ที่เป็นแก่นสาระ
    ไม่ยืดเยื้อเยิ่นเย้อ เหมือนเช่นปัจจุบัน ทำให้เกิดการแบ่งแยกระดับขั้น ระดับชั้น
    เป็นการสร้างสมกิเลส โดยไม่รู้ตัว

    ธรรมะ ที่แท้ คือธรรมชาติที่เราเห็นได้ รู้ได้ เข้าใจได้ และสามารถปฏิบัติ ได้ผลจริง และรวดเร็ว เหมือนเช่นครั้งพุทธกาล

    วางอดีตกรรมทั้งปวง แล้วสร้างปัจจุบันกรรม เพื่อก้าวสู่ความหลุดพ้นกันเถิด
    เราเสียเวลามามากแล้ว จะตายเกิด ตายเกิด ซ้ำซากอยู่เช่นนี้หรือ

    สาธุครับ
     
  2. juksawat

    juksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    980
    ค่าพลัง:
    +3,507
    เริ่มมีการอัพเกรดอุปกรณ์มนุษย์ต่างดาว ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกันหลายรูปแบบ เริ่มมีประสบการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นกับคนหลายๆคน ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่การฝึกหัดใช้อุปกรณ์ ให้เกิดความชำนาญเท่านั้น ยังมิได้เป็นการปฎิบัติจริง

    คาดว่างานใหญ่คงจะเริ่มในเร็วๆนี้ เป็นแน่........

    เตรียมตัวกันได้แล้วครับเพื่อนพ้อง
     
  3. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081

    อาจารย์จักษวัชร์กล่าวมา ก็อยู่ในเหตุผล
    ระบบให้เราพัก เพื่อเตรียมทำงานใหญ่ ที่ต้องทำกันเป็นทีม

    ช่วงพัก ก็ฝึกการใช้อุปกรณ์ไปพลางๆ
    จารจุก ก็รักษาเมื่อมีวาระเข้ามาให้รักษา เป็นช่วงๆ(ไม่เกี่ยวกับหลินฮุ่ย)
    จารหนุ่ย ก็รักษาเชื่อมกระดูก ได้สำเร็จ
    ตาเม้า ก็รับโทรศัพท์ สแกนกรรม ตามเวลาที่ว่าง

    เมื่อมีงานใหญ่ ทุกคนก็จะมาร่วมช่วยเหลือกัน
    โดยไม่หวังอามิสสินจ้าง
    หลายครั้งหลายครา เจ้าภาพงาน มักมีจิตเมตตาหยิบยื่นค่ารถ ค่าน้ำมัน
    ค่าอาหาร ให้กับกลุ่มประสานงานฯ(เขากะลา) ในการออกทำงานกันเป็นทีม
    ซึ่งทางกลุ่มฯต้องกล่าวขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง และขออนุโมทนามาเป็นอย่างยิ่งครับ
     
  4. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    คุณหนุ่ยเคยเล่าว่า สันโดษ คือ คนทำนายให้กับคุณหนุ่ยมาก่อน

    เมื่อครั้งที่คุณหนุ่ยเกิดปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจนับ สิบล้าน บาท

    เเล้วคุณหนุ่ยก็ตั้งใจว่าจะคุยกับคนที่โพสต์ในเว็บพลังจิตบ่อยที่สุด ซึ่งคนๆนั้นก็คือ สันโดษ

    สันโดษเคยทำนายให้คุณหนุ่ยว่า คุณหนุ่ยจะมีโอกาสได้ มาทำงานให้กลุ่มคนกลุ่มนึง

    แล้วหลังจากนั้นคุณหนุ่ยก็ได้มาทำงานให้กับชาวเขากะลาอย่างที่สันโดษทำนายให้

    ก่อนที่สันโดษจะเล่าต่อไป คือ ความสัตย์ซื่อเเละต้องการให้ทุกคนรับรู้ว่า

    ทุกโพสต์ในเว็บพลังจิต เเละทุกสิ่งที่สันโดษทำ ล้วนไม่ใช่สันโดษ

    สันโดษไม่ได้คิด ไม่ได้วางเเผน เเละไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งเลย

    คนหลายๆคนคิดว่า สันโดษเก่งมีพลังจิต เเละทำอะไรได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

    สันโดษเองก็ยอมรับว่าตัวเองเก่งจริง เเต่มันไม่ใช่เพราะตัวเอง

    เเละ ไม่เคยถูกสอนว่าเป็น ความเก่งจากพระเจ้า หรือ มนุษย์ต่างดาว

    สันโดษโชคดีตรงที่ีว่า สันโดษมีระบบการทำงานที่เกิดจาก จิตใต้สำนึกของตัวเอง

    เเละจิตใต้สำนึกเหล่านั้นก็ยอมรับว่า สันโดษโง่จริง เเละ ไม่รู้อะไรเลย

    สันโดษไม่เก่งปริยัติ ไม่เก่งธรรมะ ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ ไม่มีพลังจิต

    เเละไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งอะไรเลย เเม้เเต่ทุกวันนี้ สันโดษก็ยังคงคิดว่าตัวเองโง่อยู่เสมอ

    สันโดษดีใจทุกครั้งที่ บังเอิญเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่บ่อยๆ

    สันโดษบังเอิญคุยกับคนที่เก่งๆ อยู่เสมอ

    สันโดษบังเอิญเจอคนที่สามารถเเนะนำสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่เป็นประจำ

    ไม่ว่าจะเป็น คนธรรมดา คนมีพลังจิต คนที่สื่อสารกับเทพ หรือ เเม้เเต่มนุษย์ต่างดาวก็ตาม

    ความบังเอิญมากมาย ทำให้สันโดษไม่เคยยึดติดกับอะไรเลยเเม้เเต่อย่างเดียว

    สันโดษมีโอกาสได้ไปตามกลุ่มชุมนุมต่างๆมีโอกาสได้เจอคนเก่งๆในทุกศาสตร์เเละเเขนง

    มีโอกาสได้เรียนรู้เเละฝึกฝนสิ่งต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตเสียส่วนมาก

    เเละเมื่อได้เรียนรู้ก็มีความรู้สึกอยากที่จะเเบ่งปันให้กับทุกคนอยู่เอง โดยไม่มีคนมาบอกหรือบังคับ

    นั้นคือ ระบบของตัวเอง ระบบที่ไม่มีครูบาอาจารย์ เเต่ทุกสรรพสิ่ง คือ ครูบาอาจารย์

    สันโดษไม่ได้นับถือใครคนใดคนนึงเเต่เคารพทุกสรรพสิ่ง เพราะทุกสรรพสิ่ง คือ สิ่งเดียวกัน

    นั้น คือ ความโชคดีของตัวเองที่ไม่คิดอะไรเลย

    ดังนั้น ระบบของชาวกะลาก็เป็นอีกนึงกลุ่มที่สามารถเปิดใจสันโดษให้รับข้อมูลได้

    กลุ่มมนุษย์ต่างดาวชาวพลูโตก็เป็น อีกนึงกลุ่มที่มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจในการเรียนรู้

    เเต่สิ่งที่สันโดษโชคดีก็คือ ไม่ว่าจะเทพ จะมาร จะพระพุทธองค์ จะ มนุษย์ต่างดาว

    หรือ อะไรก็ตามที่ควบคุมร่างกายของสันโดษ พวกเขาต่างยอมรับว่า สันโดษโง่

    เเละสันโดษก็พร้อมที่จะสงสัยไปเรื่อยๆ นั้นคือ ความโชคดีของตัวเองค่ะ

    เพราะเมื่อเราโง่เเละเราสงสัยอยู่เรื่อยๆ

    เรามักจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มขึ้นทุกๆวันอย่างง่ายดายนั้นเองค่ะ


    ***ถึงเเม้ว่าตัวเองจะไม่คิดอะไรเเต่ทว่า ....

    สันโดษรู้ว่าจิตตัวเองโง่เเละมีข้อสงสัยอีกมากมายเกี่ยวกับโลกเเละจักรวาล

    เมื่อเราไม่สิ้นสงสัยเราจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ

    ถ้าเมื่อไรที่คุณคิดว่าตัวเองเก่งเเล้ว คุณจะไม่มีวันเก่งได้มากกว่าที่คุณเป็น

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2010
  5. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081

    ขออนุโมทนากับข้อความทุกบรรทัดของคุณสันโดษ ด้วยครับ

    ทุกข้อความทุกประโยค ที่คุณสันโดษ เขียนลงในกระทู้ ล้วนมีข้อคิด
    และ ทำให้เห็นถึงสภาวะการไม่ยึดติดในอัตตาตัวตน ได้เป็นอย่างดี
    พร้อมที่จะรับรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตและจิตวิญญาณ ให้ก้าวพ้นจาก การเวียนว่ายตายเกิด

    สาธุครับ
     
  6. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=X1W9hk8pF9Q]YouTube - [MV]รักแท้ยังไง - น้ำชา ชีรณัฐ[/ame]
     
  7. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081

    ใช่ครับนู๋เปิ้ล ยังคงจะต้องมีเรื่องราวของพี่หนุ่ยต่อไปอีก
    โปรดติดตามตอนต่อไป
     
  8. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901
    จั๊ดจ๊าดีดาดีดัด .... อ๊อด อ๊อด... :VO :cool:
     
  9. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901
    ความเป็นธรรมชาติ ในมุมมองของมนุษย์ต่างดาว...

    สำหรับน้องใหม่ หรือสมาชิกใหม่ที่เพิ่งเข้ามาดูเรื่องราวเหล่านี้ อาจจะยังไม่ทราบว่าเรื่องราวนี้ ต่อเนื่องยาวนานมานับ 10 ปี ไม่ใช่ว่าจะเพิ่งเกิดในวันสองวันนี้

    ดังนั้น ไม่ว่าสิ่งที่อ่านนั้นจะเป็นอะไร น่าเชื่อถือหรือไม่ ถ้าอ่านแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ไม่พอใจ ขอให้น้อง ๆ รักษาจิตตนเองไว้ดีกว่า สิ่งใดที่ทำแล้วเกิดความทุกข์ เราก็ไม่ควรทำ หากสิ่งใดอ่านแล้วขัดแย้งในจิตของท่าน ขอให้เลือกที่จะรักษาจิตของท่านดีกว่า ที่จะปล่อยให้หม่นหมองไปกับเรื่องเล็กน้อยจากภายนอก เพราะความทุกข์เกิดขึ้นภายในตัวท่านเอง ดังนั้น หากการมองของเรายังมีกรอบของ ผิด ถูก ดี ชั่ว อยู่ ก็ย่อมทำให้จิตใจมีทั้ง ยินดี ยินร้าย สุข ทุกข์ เบิกบาน เศร้าหมอง อยู่นั่นเอง


    แต่ถ้าเราเข้าใจความเป็นธรรมชาติแล้ว มุมมองของเราจะกว้างขึ้น การรู้เท่าทันความเป็นธรรมชาติของมนุษย์นั้น จะทำให้เราเข้าใจคำว่า เช่นนั้นเอง ได้ดียิ่งขึ้น

    มุมมองของมนุษย์ต่างดาว ในความเป็นธรรมชาติของมนุษย์โลกเป็นเช่นไร?

    - ให้มนุษย์ลองนึกภาพเมื่อเดินเข้าไปในขายหนังสือร้านใหญ่สักแห่งหนึ่ง ที่มีหนังสือทุกประเภทวางอยู่เต็มไปหมด มีทั้งประเภทการ์ตูน หนังสือพิมพ์ หนังสือแฟชั่น หนังสือทำอาหาร หรือหนังสือธรรมะ วางอยู่เรียงรายตามชั้นต่าง ๆ ทั่วไป

    เมื่อเราเป็นผู้เข้าไปซื้อหนังสือ เราก็ไม่อาจที่จะเลือกอย่างที่ให้เป็นได้ เช่นเราชอบหนังสือธรรมะ เราอยากให้ร้านนี้มีแต่หนังสือธรรมะ เข้าไปแล้วเจอแต่หนังสือธรรมะเท่านั้น เราชอบคอมพิวเตอร์ เราอยากให้มีแต่หนังสือคอมพิวเตอร์เท่านั้น ไม่อยากให้มีหนังสืออื่นมาวางปะปน เมื่อคุณคิดอยากเช่นนั้น ก็อาจเป็นได้ถ้าอยู่ภายในวัดที่มีแต่หนังสือธรรมะ หรืออยู่ในสมาคมคอมพิวเตอร์ แต่ถ้ายังอยู่ปะปนกับโลกภายนอกที่มีความหลากหลาย ร้านหนังสือที่มีขายหลากสไตล์ แค่คิด คน ๆ นั้นก็มีความทุกข์แล้ว เพราะตั้งจิตไว้ผิดแต่ทีแรก โดยตามจริงแล้วคุณจะไม่ได้ตามความอยากแน่นอน

    ดังนั้น การมองให้เห็นจริงตามธรรมชาติ คือ
    - เห็นความเป็นเช่นนั้นเอง ของร้านหนังสือ เมื่อเป็นร้านหนังสือก็ย่อมต้องมีหนังสือมากมายเป็นธรรมดา แต่ละชนิด แต่ละประเภทมากมาย แยกไปตามความโดดเด่น หรือกระแสความสนใจในช่วงระยะเวลานั้น ๆ

    - เห็นความเป็นเช่นนั้นเอง ของผู้เขียนหนังสือ เพราะทุกคนมีความคิดไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นเด็กก็ชอบการ์ตูน ผู้เขียนก็เขียนการ์ตูนขาย เป็นแม่บ้านก็ชอบเรื่องอาหาร ก็มีผู้เขียนตำราอาหารขาย เป็นนักศึกษาก็ชอบคอมพิวเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ก็เขียนคู่มือคอมพิวเตอร์ขาย ดังนั้น ผู้ที่เขียนหนังสือก็ย่อมมีหลายสาขา หลากหลายอาชีพ หลากหลายประสบการณ์ มันจึงเป็นอย่างนั้นเองอยู่แล้ว

    - เห็นความเป็นเช่นนั้นเอง ของผู้ที่เข้ามาซื้อหนังสือ เมื่อเป็นร้านขายหนังสือ ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเลือกหาซื้อหนังสือตามที่แต่ละคนต้องการ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ร้านหนังสือจะต้องมีคนหลากหลายประเภทเข้าไปรวมกันอยู่ในนั้น แต่ร้านขายหนังสือก็มีการจัดวางแต่ละประเภทให้อยู่แล้ว เพื่อความสะดวกของผู้สนใจเลือกซื้อ สนใจอาหาร ก็ไปที่ชั้นประเภทหนังสือแม่บ้าน อาหาร สนใจแฟชั่น ก็ไปชั้นหนังสือแฟชั่น สนใจหนังสือธรรมะ ก็ไปกลุ่มหนังสือธรรมะ เพื่อที่จะไม่ปะปน และสับสนในการหาหนังสือแต่ละประเภท
    - นี่เป็นตัวอย่างง่าย ๆ ที่เราเห็นกันเป็นประจำอยู่แล้ว และเราก็ไม่ได้คิดอะไร เราไปซื้อหนังสือ เราก็ตรงดิ่งไปเลือกหนังสือประเภทที่เราชอบ แม้เราจะเดินผ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่วางอยู่ด้านนอก หรือระหว่างทางเดิน เราก็ไม่ค่อยสนใจนัก อาจดูคร่าว ๆ แล้วผ่านเลยไป เพราะมันเป็นของมันอย่างนั้นอยู่แล้ว

    - ดังนั้น เมื่อเราทำง่าย ๆ เราก็ไม่เกิดความทุกข์ แต่ถ้าทุกครั้งที่เดินเข้าไปในร้านหนังสือ แล้วคิดว่าทำไมต้องเขียนการ์ตูนขายนะ ไร้สาระ ทำไมต้องทำหนังสือแฟชั่นมาขายนะ ทำให้คนฟุ้งเฟ้อ ทำไมต้องมีหนังสือเรื่องทำอาหารนะ ทำให้คนยึดติดการกินมากขึ้น เมื่อตั้งความเห็นไว้ผิด ขณะที่เดินเข้าไปในร้านนั้น คุณจะมีแต่ความทุกข์ เพราะความคิดที่ปรุงแต่ง มีกรอบของความ ผิด ถูก ดี ชั่ว ที่เรากำหนดขึ้นเองเป็นตัวชี้นำ การมองก็จึงเห็นไปในทางผิด หรือ ถูก ควร หรือไม่ควร ซึ่งผู้ที่รับความทุกข์ ก็คือคนที่กำลังคิดนั่นเอง ก็ต้องรับทุกข์ไปเอง ไม่ใช่เจ้าของร้านหนังสือที่เป็นทุกข์ เพราะไม่ว่าใครจะคิดอย่างไร เขาก็ไม่มีความทุกข์ใด ๆ ผู้เข้าร้านมาสิบคน คิดสิบแบบ ร้านขายหนังสือก็ยังเป็นร้านขายหนังสือเช่นเดิม ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไร?

    นี่คือความเป็นธรรมชาติ ที่ตรงไป ตรงมา ไม่มีลำเอียง เมื่อใครคิดอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น เมื่อเราปล่อยวาง เห็นความเป็นเช่นนั้นเอง เราก็เบาสบาย จะเดินในร้านทั้งวันก็ไม่ทุกข์ แต่ถ้าเรายึดมั่นในความคิด และอยากไปเปลี่ยนแปลง ก็จะหนักในจิต เพราะต้องแบกความทุกข์ไว้ด้วย เดินสักครึ่งชั่วโมงก็ไม่ไหวแล้ว เพราะความทุกข์มันรุมเร้ามากมาย

    ดังนั้น ในขณะนี้ เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปมากขึ้นเท่าไร โลกก็แคบลงมากขึ้นเท่านั้น เพราะเราสามารถรู้ข่าวสารจากทั่วโลกได้ภายในลัดนิ้วมือเดียว ซึ่งก็จริง เพียงแค่ใช้นิ้วกด ก็สามารถดูข่าวสารทั่วโลกผ่านอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ดังนั้น ข้อมูลหลากหลายจากทุกมุมโลก ก็หลั่งไหลเข้ามาอยู่ในอินเตอร์เน็ตเครื่องเล็ก ๆ นี้เท่านั้น โอกาสที่จะพบเจอกับข้อมูลต่าง ๆ หลากหลายก็มากขึ้นด้วย หากไม่รู้จักวางจิตให้ถูกต้อง ก็ย่อมต้อง ขึ้น ลง สุข ทุกข์ กับข้อมูลเหล่านั้น เป็นเรื่องธรรมดา

    หากคุณมองเป็น คุณก็จะเห็น ความเป็นเช่นนั้นเอง ซึ่งไม่ต่างอะไรไปกับร้านหนังสือหรอก เมื่อคุณเข้าไปหน้าแรกของเว็ปไซด์หลากหลาย เช่น sanook.com คุณก็จะเห็นความหลากหลายของข่าวสารทุกประเภทที่มีให้เลือก

    ดังนั้น เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเข้าไป ก็เลือกหน้าข่าวสารด้านเพลง ด้านดารา บางคนก็เลือกเกี่ยวกับรถยนต์ บางคนก็เลือกด้านคอมพิวเตอร์ บางคนก็เลือกเข้าไปเรื่องผี เรื่องวิญญาณ บ้างก็เลือกเกี่ยวกับ ธรรมะ ตามแต่ความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งผู้เป็นเว็ปมาสเตอร์ ก็จัดวางแยกให้ในแต่ละกลุ่ม เพื่อความสะดวกของผู้ประสงค์จะเข้าชมในหมวดนั้น ๆ

    เว็ปไซด์ พลังจิต ก็เช่นกัน แม้จะเป็นเว็ปไซด์ ที่คัดแยกออกมาค่อนข้างแน่ชัดว่าเกี่ยวกับพุทธศาสนา เกี่ยวกับพลังจิต เกี่ยวกับเรื่องลึกลับ ซึ่งหากผู้ที่สนใจเรื่องเพลง เรื่องดารา เรื่องอาหาร ก็ถูกคัดแยกไปโดยปริยายอยู่แล้ว

    แต่แม้จะถูกคัดแยกจากกลุ่มใหญ่มาแล้ว ก็ยังมีความหลากหลายในกลุ่มย่อย ๆ อีกมาก ในเว็ปไซด์นี้ ซึ่งจะเห็นได้มีหลายหมวด มีหลายกลุ่ม หลายเรื่องราว แม้จะอยู่ในหมวดเรื่องของจิต แต่ก็ยังหลากหลายอยู่ดี

    ซึ่งก็เหมือนร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้าน หรืออาจจะเป็น HOME PRO แม้จะขายแต่เฉพาะอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้าน ก็ยังมีแยกอีก ว่าอุปกรณ์ห้องครัว อุปกรณ์ห้องนั่งเล่น อุปกรณ์ภายในห้องนอน หรือ อุปกรณ์ตบแต่งสนามหญ้า แม้จะแยกไปแล้วว่า เฉพาะเรื่องของบ้านเท่านั้น ก็ยังแยกย่อยได้อีก และคนที่จะเข้าไปซื้อของประเภทใด ก็จะเดินไปยังกลุ่มเหล่านั้น ก็จะตรงประเด็นตามต้องการ

    ดังนั้น เว็ปไซด์นี้ก็เช่นกัน กลุ่มใด สนใจเรื่องใด กลุ่มใด ชอบเรื่องใด ก็มีการแยกโดยอัตโนมัติของแต่ละกลุ่ม แต่ละบุคคลอยู่แล้ว ดังนั้น ความหลากหลายของข้อมูล จึงมีจำนวนมาก เชื่อได้ หรือเชื่อไม่ได้นั้น ทุกคนมีวิจารณญาณเป็นของตนเอง และถูกคัดแยกโดยพื้นฐานของแต่ละกลุ่มอยู่แล้วโดยธรรมชาติ

    ดังนั้น นี่คือจุดมุ่งหมาย ในการให้มองเห็นความเป็นเช่นนั้นเองของธรรมชาติ การตั้งจิตไว้ผิด คือการอยากให้ทุกคนเชื่อในสิ่งที่ตนเองเชื่อ มุ่งที่จะให้แต่ละคนยอมรับในสิ่งที่ตนเองบอกกล่าว เมื่อตั้งเจตนาไว้ผิดแต่ทีแรก ความทุกข์จะเป็นของคุณเองโดยทันที เพราะแค่ตั้งความหวัง ก็จะมี สุข ทุกข์ ได้ทันที เพราะเมื่อมีความสมหวัง ก็จะมีความผิดหวัง ควบคู่กันไปเสมอ

    ข้อมูลไหน ที่ท่านสนใจ อ่านแล้วทำให้เกิดปัญญา พิจารณาเห็นความไม่เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน ในหมวดธรรมะ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก หรือพระปฏิบัติหลายองค์ ซึ่งมีอยู่
    มากมายในกระทู้นี้ นั่นเป็นสิ่งที่ควรศึกษาให้เกิดปัญญา และปฏิบัติตามเลย ก็จะได้เห็นผลเลยเช่นกัน<O:p</O:p
    ส่วนเรื่องราวใด ๆ ที่ขัดกับจริตของเรา เมื่ออ่านแล้วทำให้เกิดทุกข์ เกิดความเศร้าหมอง ก็ปล่อยให้มันเลยผ่านไปเสียยังดีกว่า เพราะความทุกข์มันเกิดขึ้นภายในตัวเรา เราต้องรับผิดชอบทุกข์นั้น ๆ เอง ไม่ได้ไปเกิดขึ้นกับเจ้าของกระทู้นั้น ๆ เขาอาจไม่เคยรู้ด้วยซ้ำ ว่ากระทู้ของเขา ไปทำให้ใครสักกี่คนต้องเป็นทุกข์ แล้วทำไมเราต้องทำจิตของเราให้เศร้าหมองไปกับสิ่งภายนอกเหล่านั้นด้วย

    ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวมาสอน มามุ่งเน้นให้กลุ่มผู้ฝึกฯ ต้องมีมุมมองที่กว้าง ให้เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของธรรมชาติ ของมนุษย์บนโลกนี้ที่ต่างความคิด ต่างความชอบ ต่างนิสัย และต่างความเข้าใจที่หลากหลายนั้น ก็เพราะเราต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว เมื่อต้องเผยแพร่เรื่องราวหลุดโลกแบบนี้

    แต่อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า เราทำหน้าที่ แจ้งเพื่อทราบ เท่านั้น เมื่อเราแจ้งแล้ว เราก็จะวางมันลง โดยไม่คาดหวังว่าจะมีคนเชื่อหรือไม่ หรือหากมีบุคคลที่สนใจมาศึกษา และได้ประโยชน์จากมุมมองของธรรมชาติเหล่านี้ ก็รับไปพิจารณา หรืออยากทราบเพิ่มเติม เราก็ยินดีให้ข้อมูล โดยที่เราก็ไม่มีจุดประสงค์จะไปบังคับบัญชา หรือเปลี่ยนความเชื่อใครได้ ดังนั้น ระบบของมนุษย์ต่างดาว จึงมุ่งเน้นให้เห็นความเป็นเช่นนั้นเอง ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อมีความเข้าใจในธรรมชาติของเพื่อนมนุษย์แล้ว ก็จะได้ไม่ไป ทุกข์ฟรี กับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

    ดังนั้น การดูแลจิตของตนนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้น ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ webmaster.palungjit ที่จะกระทำการ ต่อกระทู้ต่าง ๆ ที่เห็นว่าไม่เหมาะสม และกระทำการไปตามความเหมาะสม ซึ่ง webmaster เอง ท่านปฏิบัติจิตมามากแล้ว ย่อมเห็นความเป็นธรรมดาของสิ่งต่าง ๆ และกระทำไป ตามสมควร ด้วยจิตที่ปล่อยวาง และย่อมไม่มีความทุกข์เกิดกับจิตของท่านอยู่แล้ว

    ดังนั้น เมื่อกลุ่มผู้ฝึกฯ ทำงานกับมนุษย์ต่างดาว แล้วจิตไม่พัฒนาเห็นความว่างมากขึ้น ยังทำไปทุกข์ไป มนุษย์ต่างดาวจะสั่งหยุดทำงานนั้นทันที ถ้าทำไปแล้วเกิดความทุกข์ สะสมกิเลสเพิ่มเติมมากขึ้น เขาก็ไม่ให้ทำ เพราะมนุษย์ต่างดาว มุ่งเน้นให้ผู้ทำงานรู้จักปล่อยวาง เห็นความว่างในทุกการกระทำ ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา การฝึกจึงมุ่งเน้นไปที่การฝึกจิตให้ปล่อยวาง ให้เห็นความว่างจากตัวตน ของตน มากถึง 70% และการมุ่งเน้นอธิบายให้เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของธรรมชาติ ก็ช่วยให้ผู้ทำงานมีมุมมองที่กว้างมากขึ้น และไม่ไปอคติกับผู้ที่มีความคิดแตกแยกออกไป
     
  10. เทพบุตรชาวดิน

    เทพบุตรชาวดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +1,901
    กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)เป็นกลุ่มที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีจากมนุษย์ต่างดาวเพื่อรับข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาวโดยตรง ในแต่ละงานของแต่ละแผนก

    ดังนั้น ทางกลุ่มฯจึงไม่สามารถที่จะบอกวิธีการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ไม่ใช่เราไม่อยากจะให้ท่านทราบ แต่เพราะเราเองก็ยังไม่ได้ใช้วิธีการทำสมาธิหรือการใช้โทรจิต เพื่อติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ในแบบที่คุณพ่อ หรือ ดร.เทพนมหรือหลายท่านที่ฝึกสมาธิมานานสามารถติดต่อสื่อสารได้ด้วยสมาธิของท่านเหล่านั้นเอง


    สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวได้บอกกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ก็คือ

    โครงการเพื่อช่วยเหลือเรื่องของภัยพิบัตินี้มีกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมาก ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวในโครงการนี้การที่หลายท่านเกิดมาแล้วมีความสนใจเรื่องของการปฏิบัติจิตเพื่อยกระดับจิตใจตนเองการสนใจที่จะช่วยเหลือบุคคลอื่น สนใจเรื่องของภัยพิบัติและพร้อมที่จะทำเท่าที่มนุษย์จะทำได้ เพื่อที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันและพร้อมที่จะเผยแพร่เรื่องราวของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นให้กับผู้ที่สนใจได้รับทราบให้ได้ตระหนักถึงวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้นในภายหน้านั้น
    บุคคลเหล่านั้นได้สร้างพื้นฐานเพียงพอแล้วที่จะทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวกล่าวคือ

    ท่านที่ปฏิบัติธรรม หรือมีจิตเมตตามีความปรารถนาที่จะช่วยเหลือบุคคลอื่นเป็นประจำอยู่แล้วนี่เป็นพื้นฐานของจิตที่มนุษย์ต่างดาวบอกว่า สามารถทำงานร่วมกันได้

    ซึ่งเปรียบเสมือนท่านเหล่านั้นถ้าบังเอิญนั่งทำสมาธิอยู่ริมน้ำกันเป็นกลุ่มแล้วบังเอิญเรือที่พาเด็กนักเรียนจะข้ามแม่น้ำ แล้วเกิดล่มลงกลางแม่น้ำซึ่งไม่กว้างเท่าไรนัก ถ้าท่านนั่งสมาธิอยู่ ท่านก็คงไม่คิดว่าช่างเถอะ..ไม่ใช่เรื่องของเรา เดี๋ยวคนอื่นเขาก็ช่วยกันเองซึ่งคนปกติบางส่วนอาจจะคิดเช่นนั้นหรือยืนรอผู้อื่นไปช่วย

    แต่สำหรับผู้ที่ปรารถนาจะช่วยเหลือผู้อื่นเป็นทุนอยู่แล้วต่อให้นั่งสมาธิอยู่ คุณก็ต้องออกจากสมาธิเพื่อช่วยเหลือเหตุการณ์เฉพาะหน้าใครว่ายน้ำเป็นก็รีบว่ายไปช่วย ใครว่ายไม่เป็นก็วิ่งไปหาอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือใครแข็งแรงก็วิ่งไปตามบุคคลอื่น ณ สถานการณ์นั้น ไม่มีใครนิ่งดูดายแน่นอนใครมีอะไรที่พอช่วยเหลือได้แค่ไหน ก็
    ทำกันอย่างเต็มที่โดยไม่มีการนั่งคิดถึงตัวเองสักนิดในเวลานั้น

    แต่มนุษย์ก็ทำได้เต็มกำลังที่มนุษย์ทำได้ อาจจะว่ายไปช่วยได้ครั้งละสองคนหลายเที่ยวก็อาจหมดแรง ว่ายไม่ไหว เพราะร่างกายของมนุษย์มีขีดจำกัดแต่ความพยายามที่จะช่วยเหลือมีเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว

    มนุษย์ต่างดาวเป็นเพียงผู้ให้อุปกรณ์ เมื่อเห็นมนุษย์ที่ปรารถนาจะช่วยเหลือคนอื่นแต่มีพื้นฐานการเสียสละอยู่แล้ว ก็ต้องช่วยเหลือเป็นธรรมดา
    โดยการให้เรือลำใหญ่ที่ติดเครื่องยนต์ไว้พร้อมมีอุปกรณ์การช่วยเหลือเช่นห่วงยางจำนวนมาก แค่สอนวิธีการใช้เล็กน้อยก็สามารถนำเรือนั้นไปช่วยผู้กำลังจะจมน้ำเหล่านั้นได้ครั้งละมาก ๆโดยผู้ที่ไปช่วยเหลือก็ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยจนเกินไป เพราะใช้อุปกรณ์ในการช่วยเหลือนั่นเอง

    ก็ไม่แตกต่างจากของมนุษย์ถ้าให้เราขนก้อนหินกองใหญ่ให้หมด เราก็ต้องเหน็ดเหนื่อยต้องใช้เวลาเป็นวันกว่าจะขนเสร็จ เหนื่อยแทบขาดใจ แต่ถ้ามีคนให้ยืมรถตักหินแล้วสอนวิธีใช้เล็กน้อย เราก็ขับรถนั้นไปตักหิน ไม่เหน็ดเหนื่อยและรวดเร็วเพียงชั่วโมงเดียวเสร็จ เพราะใช้อุปกรณ์หรือเครื่องทุ่นแรงนั่นเอง

    มนุษย์ต่างดาวจึงไม่ได้มีกฎเกณฑ์ต้องเป็นแบบนั้น ต้องเป็นแบบนี้ ต้องปฏิบัติอย่างนี้ อย่างนั้น

    เพราะไม่จำเป็นต้องกำหนดเป็นมาตรฐานสำหรับบุคคลทั่ว ๆ ไปเพราะทุกคนปฏิบัติจิตกันอยู่แล้วในกลุ่มเป้าหมายที่มนุษย์ต่างดาวต้องการ

    แต่สำหรับกลุ่มบุคคลที่ต้องฝึกอย่างเข้มข้นกับมนุษย์ต่างดาว เป็นเวลาที่ค่อนข้างนานก็เพราะต้องมีความเข้าใจในโครงการนี้อย่างครอบคลุม เพื่อที่จะได้บอกกับบุคคลรุ่นต่อๆ ไป ที่มีอุปกรณ์ติดตั้งไว้แล้วแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับอุปกรณ์เหล่านั้น

    สิ่งหนึ่งที่เขาบอกไว้นานแล้วก็คือ เขาสอนแค่ให้อ่านออก เขียนได้เท่านั้นเอง
    อ่านออกเขียนได้คืออะไร?

    มนุษย์ต่างดาว เคยถามกลุ่มผู้ฝึกว่า ผู้หญิงกับผู้ชาย ใครแข็งแรงกว่ากัน

    ซึ่งความคิดของมนุษย์ก็คือ ผู้ชายต้องแข็งแรงกว่าผู้หญิง

    แต่มนุษย์ต่างดาวบอกว่าสิ่งที่เขาต้องการมิใช่กำลังของมนุษย์ เพราะผู้ฝึกแต่ละคนเป็นผู้หญิงส่วนมากอายุมากเกินไป อายุน้อยก็มี ร่างกายอ่อนแอก็มีแต่เขาบอกว่าต้องการแค่จิตที่มีพลังเท่านั้น

    ถ้าให้มนุษย์ ยกเหล็กร้อยกิโลกรัมผู้ชายอาจจะยกได้ แต่ผู้หญิงอาจยกไม่ไหว

    แต่ถ้าเป็นเหล็กพันกิโลกรัมล่ะ ผู้ชายก็ยกไม่ไหวผู้หญิงก็ยกไม่ไหว
    เพราะเกินกำลังมนุษย์ แต่รถแม็คโครยกได้เพราะเป็นเครื่องจักร

    มนุษย์ต่างดาวจึงไม่จำกัดรูปแบบของผู้จะร่วมงานกับเขา อายุมากอายุน้อย แข็งแรง อ่อนแอ เป็นชาย หรือเป็นหญิง แต่ดูจากพื้นฐานของการเสียสละการปล่อยวาง เพราะสภาวะจิตเช่นนี้สามารถใช้ประกอบกับเทคโนโลยีของเขาได้เป็นรูปแบบพลังงานเพื่อใช้ขับเคลื่อนเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์เหล่านั้นให้ทำงานได้
    ดังนั้นมนุษย์ต่างดาวมีหน้าที่ให้อุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คือให้รถแม็คโครกับผู้ที่ขับรถเป็นแล้วพร้อมกับให้คู่มือการใช้ไฮโดรลิคสำหรับยกเหล็กแต่มนุษย์ต้องไปหัดอ่านหนังสือให้ได้เสียก่อนจะได้มาอ่านวิธีการใช้อุปกรณ์เหล่านั้น

    เหมือนซื้อโทรทัศน์มาเครื่องหนึ่งคนที่ซื้อมาไม่เคยใช้โทรทัศน์มาก่อนเลย ก็ทำอะไรไม่ถูก เสียบไฟ

    แต่เปิดไม่มีภาพไม่มีอะไรเลย

    แต่ถ้าเราอ่านหนังสือออก เราก็เอาคู่มือการใช้มาอ่านแล้วทำตามวิธีการนั้น เช่น

    - เสียบไฟ
    - กดปุ่ม power
    - กดเมนู
    - กด ตั้งช่อง
    - กดบันทึกช่อง
    - และอื่น ๆตามขั้นตอน

    เมื่อเรียบร้อย เราก็สามารถใช้อุปกรณ์นั้นได้เพื่อการรับรู้ข่าวสาร และความบันเทิงได้หรือเขียนอธิบายให้คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจได้

    นี่คือการ"อ่านออกเขียนได้"ในความหมายของมนุษย์ต่างดาว

    และผู้ที่จะอ่านออกเขียนได้ก็คือผู้ที่เตรียมพร้อมในการฝึกจิต ฝึกสมาธิ วิปัสสนา กรรมฐาน ฝึกการปล่อยวางตัวตนของตน จะฝึกสมาธิสายไหนก็ได้ เมื่อคุณมีสมาธิในแบบที่คุณเป็น มนุษย์ต่างดาวก็พร้อมที่จะนำอุปกรณ์มาติดตั้งให้ได้เลย และคุณสามารถเข้าใจได้ว่าสิ่งนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง

    อย่างที่เราพบเจอตัวอย่างมามากมายหลายท่านไม่เคยรู้จักเขากะลามาก่อน พอมารับรู้ ก็เริ่มพบสิ่งที่แปลก ๆเกิดขึ้นกับตัวเอง หรือบางคนเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน แต่เมื่อได้คุย ได้สนทนากันก็เริ่มเข้าใจ และเริ่มทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้แล้วนานแล้วซึ่งพี่สุดใจมีตัวอย่างมากมายถ้ามีโอกาสจะนำมาเล่าให้ฟัง

    หรือบางท่าน ได้เห็น UFO หลายครั้ง หลายหน หรือมีการรับข้อมูลมาจากบางสิ่งบางอย่าง จะเป็นจากจักรวาลหรือจากที่ใดก็ตาม ไม่มีใครฝึกเพื่อสื่อสารกับสิ่งต่าง ๆ ทั้งสิ้นแต่สิ่งเหล่านั้นเป็นผู้สื่อสารลงมา เพราะท่านนั้นมีฐานความพร้อมของจิตอยู่แล้ว

    พี่สุดใจอาจจะอธิบายยาวไปสักหน่อยเพื่อให้ผู้ที่สนใจจะฝึกกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ได้มีความเข้าใจว่า เรามิได้มีเจตนาที่จะปกปิด หรือปิดกั้นใด ๆ ทั้งสิ้นเพียงแต่เพื่อให้มีความเข้าใจว่า สิ่งที่ทุกท่านได้กระทำนั้นถูกต้องตามความต้องการของมนุษย์ต่างดาว ที่ต้องการ
    เพียงฐานของจิตที่มีการเสียสละ การมีความเข้าใจในกฎของธรรมชาติ มีความเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพียงเท่านี้ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่สามารถรับการติดตั้งอุปกรณ์ และร่วมในโครงการเดียวกันกับมนุษย์ต่างดาวแน่นอน

    ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์ต่างดาวต้องฝึกให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) อย่างเข้มข้น และเฉพาะกิจเพียงรุ่นเดียวนั้น เพราะต้องสอนให้ "อ่านออกเขียนได้" ในรุ่นแรกก่อน และเรียนรู้อุปกรณ์เทคโนโลยีที่นำมาให้เห็น ให้ศึกษา เพื่อบอกต่อกับบุคคลรุ่นต่อไป

    ซึ่งพี่สุดใจ ก็จะขอนำภาพการฝึกตั้งแต่พื้นฐานในปัจจัยสี่ การฝึกสื่อสารด้วยอุปกรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลา และปัจจุบันก็ผ่านการฝึกแล้ว และมีพื้นฐานเพียงพอที่จะให้คำแนะนำผู้ที่มีประสบการณ์แปลก ๆ เจอเหตุการณ์แปลก ๆ ให้ได้รับทราบต่อไป เพราะมีการทำตัวอย่างไว้ให้เราเห็นมากมาย สิ่งที่ท่านพบ ก็ไม่เกินกว่าที่เราเคยเห็นมาแน่นอน
     
  11. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    รายงานสดจากห้องเเชตพลังจิต


    อิงชี่ [Jan 8, 11:24]: วันนี้ระบบ
    อิงชี่ [Jan 8, 11:24]: ไปฝ่าดงลำไส้ และ เศษซากอวัยวะ มา
    อิงชี่ [Jan 8, 11:24]: เรื้อนมาก

    Likely [Jan 8, 11:25]: -*-
    อิงชี่ [Jan 8, 11:25]: สดๆจากกลางถนน

    สันโดษ [Jan 8, 11:26]: {อิงชี่} ไปกินมาหรา
    อิงชี่ [Jan 8, 11:28]: ป่าว
    อิงชี่ [Jan 8, 11:28]: ซากอวัยวะคนตายอ้ะ

    สันโดษ [Jan 8, 11:28]: {อิงชี่} ไฮโซไปผ่าศพมา

    อิงชี่ [Jan 8, 11:28]: ไม่รู้เรื่อง อยู่ก็ข่ามถนนหน้าบ้านไปซื้อหนม
    อิงชี่ [Jan 8, 11:28]: ก็งง
    อิงชี่ [Jan 8, 11:28]: ซากอะไรวะ
    อิงชี่ [Jan 8, 11:28]: หมาตายหรอ
    อิงชี่ [Jan 8, 11:28]: ป่าว
    อิงชี่ [Jan 8, 11:28]: ซากคน

    สันโดษ [Jan 8, 11:29]: กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    สันโดษ [Jan 8, 11:29]: อิงเจอศพคน

    อิงชี่ [Jan 8, 11:29]: มันมีอุบัติเหตุวันที่ 31 ตอนเที่ยงคืนอ้ะ

    สันโดษ [Jan 8, 11:29]: ไปโพสต์ในเขากะลาดิ
    สันโดษ [Jan 8, 11:29]: ระบบเมิงถูกทดสอบอย่างหนักก่ากูเยอะเลย
    สันโดษ [Jan 8, 11:29]: เจอศพคน

    อิงชี่ [Jan 8, 11:29]: ยังเหลือซากให้ได้เห็น
    อิงชี่ [Jan 8, 11:29]: เสือกเดิมข้ามผ่านอีก
    อิงชี่ [Jan 8, 11:29]: เขาตามมาด้วย

    สันโดษ [Jan 8, 11:29]: อนาคตได้เป็นหมอเเน่เลย

    อิงชี่ [Jan 8, 11:30]: อย่าเล้ยยยยยยย
    อิงชี่ [Jan 8, 11:30]: ซาก ลำไส้
    อิงชี่ [Jan 8, 11:30]: ยี้ ยังไม่เน่า
    อิงชี่ [Jan 8, 11:30]: เฮี้ยนชิบ


    อิงชี่ has added a drawing:

    /__________________________________

    __________________O________________

    __________________*________________

    อิงชี่ [Jan 8, 11:31]: จุดเล็กๆ คืออิง
    อิงชี่ [Jan 8, 11:31]: วงใหญ่ๆ เส้นกลางคือ ตรงที่เขาขี่มอไซ ไป ชน
    อิงชี่ [Jan 8, 11:31]: ขีดทางซ่ายคือ ตรงที่ร่างมันตาย
    อิงชี่ [Jan 8, 11:32]: ระบบเสือก แอ็คท่าตรงจุดเล็ก แล้ว ก็ เยื้องย่าง อย่างสง่า ผ่านเศษซาก อวัยวะ
    อิงชี่ [Jan 8, 11:32]: (ที่เขาไม่เก็บ หรือ เก็บไม่หมด )

    สันโดษ [Jan 8, 11:32]: ขออนุญาตเองเรื่องไปเล่าได้ไหม
    Guest9665 [Jan 8, 11:32]: ใหนๆๆดูรายขอดูด้วย

    อิงชี่ [Jan 8, 11:32]: ได้
    อิงชี่ [Jan 8, 11:32]: แต่เราไม่ได้ถ่ายรูป
    อิงชี่ [Jan 8, 11:32]: -*-

    Guest9665 [Jan 8, 11:32]: แล้วทำไมมะถ่ายอ่า

    อิงชี่ [Jan 8, 11:33]: ไปแต่ตัวและเงิน
    อิงชี่ [Jan 8, 11:33]: จะเล่าให้ัฟัง

    Guest9665 [Jan 8, 11:33]: อะเค
    Guest9665 [Jan 8, 11:33]: ได้ยิน
    Guest9665 [Jan 8, 11:33]: สยองตัวเองใช่ป่าว

    Likely [Jan 8, 11:35]: -*- กูแค่เคยเห็นศพคนสมองไหล เอง
    Likely [Jan 8, 11:35]: -*-
    Guest9665 [Jan 8, 11:35]: เพิ่งตายใหม่ๆๆเลยเหยอ
    Likely [Jan 8, 11:36]: ตอนนั้นรถชนกันหน้าบ้าน คอหัก สมองไหล ออกมา มันสมอง เหลืองๆๆๆ แหยะ ><
    Likely [Jan 8, 11:36]: -*-

    อิงชี่ [Jan 8, 11:36]: ตอนเดินผ่าน
    อิงชี่ [Jan 8, 11:36]: ได้รับไอวิญญาณของ ชี ด้วย
    อิงชี่ [Jan 8, 11:36]: -*-
    อิงชี่ [Jan 8, 11:38]: ตามมาบ้านด้วย

    Guest9665 [Jan 8, 11:38]: แผ่เมตตาให้เค้าตะ

    อิงชี่ [Jan 8, 11:38]: ชีเสียใจ ชี เหงา
    อิงชี่ [Jan 8, 11:38]: เล่าให้เป็นวิทยาทาน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2010
  12. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    (deejai) สวัสดีอีกครั้งค่ะ ก่อนอื่นขอขอบคุณอาจารย์หนุ่ยมากค่ะ ที่กรุณาแนะนำให้ทำใจ จริงๆแล้วตามเรื่องกลุ่มเขากะลามาระยะนึงแล้วค่ะ ตามเพราะความสงสัยว่า มี มนตด อยู่จริงๆรึเปล่า อ่านแล้วก็รู้สึกว่า เหมือนได้ความรู้เพิ่ม ไม่ได้คิดลบหลู่แต่อย่างใด สิ่งที่เรายังไม่ได้สัมผัส รู้เห็น ไม่ได้หมายความว่า มันไม่มีอยู่ จริงไหมคะ
    ขอเป็นกำลังให้คุณทุกคนที่มีภาระหน้าที่ และกำลังผ่านการทดสอบอยู่ด้วยความยากลำบาก เอเองไม่รู้ว่า ตัวเอง นอกจากมีชีวิตอยู่แบบปกติธรรมดานี้แล้ว ยังจะมีหน้าที่พิเศษอะไรอีกรึเปล่า แต่ก็คิดว่าถ้ามันจะมาก็คงมาเอง แต่ใจก็คิดอยากจะช่วยทุกคน ถ้าเราสามารถทำได้นะคะ เอาเป็นว่าขอเอาใจช่วยก่อนละกันนะคะ
    สู้ๆค่ะ
     
  13. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,437
    ค่าพลัง:
    +1,770
    nation เฉยๆ(เหน่อนิดหนึ่ง)
    ...........
    .........
    .......
    .....
    ...
    ..
    .
    พระ 0 มิติ
     
  14. dalink

    dalink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +2,436
    มีงานเข้า มีงานเข้า มีงานเข้า มีงานเข้า ลาลันล้า
     
  15. mokhpoo

    mokhpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +239

    สันโดษ..... สู้สู้
    สันโดษ..... สู้ตาย
    สันโดษ.....ไว้ลาย
    สู้ตาย..... สู้สู้ เฮ้..... (y) :love:
     
  16. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ถ้าช่วยรักษาให้น้องมลเดินได้ จะยิ่งประหลาดใจยิ่งกว่า
    เมื่อไม่กี่เดือน ได้ไปให้หมอเป็นสิบ ร่วมกันวินิจฉัยอาการของน้องมล
    การผ่าตัดยังไม่สามารถช่วยให้เดินได้เลย...:'(
     
  17. boogiman

    boogiman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +11
    เป็นไปได้ อืม อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าคุณเชื่อ แต่ผมอยากจะเชื่อ และต้องการเชื่อด้วย อยากเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวต่างดาวและจิตวิญญาณ ตอนนี้ผมกำลังเริ่มศึกษาเรื่องนี้อยู่ ถึงผมจะไม่ใช้คนพิเศษอะไรแต่ก็จะพยายามทำสมาธิทุกวันเพื่อต้องการติดต่อกับต่างดาวและจิตวิญญาณ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมหรือให้คำปรึกษาชี้แนะ ช่วยบอกผมด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ boogiman@sanook.com
     
  18. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081

    ถ้าหากทำได้ ผมก็อยากให้น้องมลเดินได้เช่นกันครับ

    แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น การมีเงื่อนไขของกรรม เข้ามาพัวพัน ก็เป็นเรื่องยากนะครับ
    แม้แต่พระพุทธองค์ พระโมคคัลลานะ และท่านอื่นๆ ก็ยังต้องยอมรับในกฎแห่งกรรม

    แต่ถ้ามีเหตุปัจจัย ที่จะกระทำได้ ก็คงต้องมาพิจารณากันเป็นกรณีๆไป
    โดยไม่ไปฝืนกฎธรรมชาติมากเกินไปนัก

    อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ถ้าเราไม่ไปตีกรอบ
    และมีความรัก ความเมตตา เผื่อแผ่ไปทั่วอนันตจักรวาลรวมทั้งโลกธาตุใบนี้ โดยไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง


    ยังเอาใจช่วยให้น้องมล สามารถดำเนินชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปครับ


    ด้วยความปรารถนาดีที่มีต่อเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายทุกท่านครับ
     
  19. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081

    ยินดีต้อนรับคุณboogiman สู่กระทู้เขากะลา ครับ

    :cool::cool::cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • smile.jpg
      smile.jpg
      ขนาดไฟล์:
      692 bytes
      เปิดดู:
      43
  20. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ได้พบข้อความของพระอาจารย์ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ จากเว็บมนต์นัทธ์

    ��ͤԴ�ҡ�������

    อ่านแล้วซาบซึ้งในหัวอกของความเป็นแม่ เลยอดใจไม่ได้ ต้องนำมาให้รับรู้กันครับ



    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>ข้อคิดจากต้นมะยม


    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>


    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>เมื่อวันศุกร์หลังเทศน์อุโบสถจบ หัวหน้าอุบาสิกาเข้ามาเล่าให้ฟังว่า ที่บ้านดิฉันปลูกมะยมไว้หน้าบ้าน ๑๐ ปีแล้ว ต้นโตมาก งามดี ใบดกครึ้ม บังแสงต้นไม้อื่นไปทั่ว ลูกชายมาบอกว่า แม่ มะยมไม่เห็นออกลูกเลย ขออนุญาตตัดทิ้งนะเพราะไม่ได้ประโยชน์ มิหน้ำซ้ำยังพรางแสงต้นไม้อื่นไม่มีโอกาสโต ดิฉันก็บอกว่าตามใจ

    แต่ก็นึกเสียใจเหมือนกันกับของที่แม่ตั้งใจปลูกเพื่อคนจะได้นิยมชมชอบลูกแต่ลูกไม่เห็นคุณค่า แล้วดิฉันก็เดินไปจับที่ต้นมะยมพร้อมพูดกับมะยมว่า ลูกฉันเขาไม่เห็นประโยชน์ของเธอแล้วเพราะเธอไม่มีลูก เขาจะตัดเธอแล้วนะ ฉันเสียใจด้วย ฉันมันแก่มากแล้วหมดความหมาย คัดค้านเขาไม่ได้แล้ว ทั้ง ๆ ที่ดินและบ้าน ฉันก็เป็นเจ้าของ ตัวเธอ ฉันก็เป็นคนปลูก วันหนึ่งฉันก็คงหมดความหมายเหมือนเธอ เมื่อฉันหมดแรงเดิน หมดแรงพูด เขาก็คงเร่งภาวนาให้ฉันตายจะได้ไม่รกบ้าน

    ท่านอาจารย์คะไม่น่าเชื่อเลยเพียงแค่ ๗ วันจากวันนั้น มะยมออกดอกตั้งแต่โคนต้นเหนือพื้นดินเต็มถึงยอดไม่มีที่ว่างเลย เขาคงฟังเสียงที่ฉันพูดกับเขารู้เรื่องนะคะ ดูสิมะยมเป็นเพียงต้นไม้เขายังรักตัวกลัวตาย รีบสืบทายาทเพื่อจะได้ไม่สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ฉันดีใจมากค่ะท่าน ดีใจจนน้ำตาไหล ฉันเลยไปซื้อผ้าเยื่อไม้สีแดงมาผูกรับขวัญเขา เรียกขวัญเขา อธิษฐานให้เขาเป็นต้นไม้อาถรรพ์เรียกเสน่ห์เมตตามหานิยมมาให้ลูกๆ เพื่อหน้าที่การงานเขาจะได้ประสบผลดั่งเขาคิดเขาหวัง

    อุบาสิกาท่านนี้เรารู้จักมานานมากตั้งแต่ก่อนเราบวช ลูกทุกคนของท่านเราก็รู้จักมักคุ้นกันดี ไม่ว่าลูกคนใดจะริเริ่มทำกิจการหรือคิดสินค้าตัวใหม่ขึ้นมา อุบาสิกาผู้เป็นแม่จะพาลูกมาพบเรามาขอพรเราให้สำเร็จ ให้เราประพรมน้ำพุทธมนต์ น้ำเทพมนต์ให้ เราก็ทำให้เพื่อเป็นเครื่องบำรุงขวัญและกำลังใจเพราะขัดไม่ได้ ด้วยความเห็นใจในหัวอกแม่ที่เป็นทุกข์เป็นร้อนกลัวลูกจะขาดทุนกลัวลูกจะไม่สำเร็จ และแล้วลูกทุกคนก็สำเร็จสมปรารถนาเพราะลูกตั้งใจลงมือกระทำจริง และด้วยแรงอธิษฐานปรารถนาให้ลูกได้สำเร็จด้วยพรของแม่ผู้อธิษฐานทุกวัน หลังไหว้พระสวดมนต์หรือประกอบกองการกุศลใดใด แม่ผู้นี้ก็จะอธิษฐานยกให้ลูกจนหมด โดยไม่คำนึงถึงตัวเองเลย

    ท่านสมาชิกมนต์นัทธ์อ่านกระทู้นี้แล้ว คิดอะไรได้บ้าง มะยมเพียงต้นเดียวทำให้เราเกิดอารมณ์สะเทือนใจได้มากมายระหว่างความรักความปรารถนาดีที่แม่มีให้ลูก ในห้วงแห่งความรักความรู้สึกของแม่ทุกลมหายใจเข้าและหายใจออกมีแต่ "ลูก" อย่างเดียวเท่านั้น

    ขอกราบแทบเท้าแม่ผู้ก่อร่าง ผู้สรรค์สร้างคุณธรรมและความหมาย
    ผู้ถนอมปกป้องรักษากาย ให้ลูกได้เติบใหญ่อย่างไม่ไร้คุณธรรม


    สวัสดี ขอบคุณแม่และต้นมะยมที่แสดงธรรม

    ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
    ๙ มกราคม ๒๕๕๓
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...