ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table class="tborder" style="border-bottom-width: 0px;" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="tcat">
    ข้อความส่วนตัว: ข่าวจากเพชรบูรณ์ </td> </tr> <tr> <td class="alt1">Recipients: kananun | ตอบกลับทุกคน...
    </td> </tr> </tbody></table> <table id="post" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 16-03-2008, 07:44 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> sutatip_b <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    ข้อความ: 3,081
    พลังการให้คะแนน: 2810 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center>ข่าวจากเพชรบูรณ์

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> จากพี่วิจิตรค่ะ
    แจ้งพี่เค้าแล้วว่าจากนี้ให้ส่งคุณเ็ล็กด้วย ช้อตเดียวเราได้สามคนเลยค่ะ


    ๑๔ มีค ๕๑


    หลวงพ่อพูดกับเฮียฮวดพี่ชายคุณพิชัยว่า ได้ไปดูรถกันไว้หรือยังจะเอากันสักกี่คัน เฮียฮวดบอกว่าประมาณ 20 คัน หลวงพ่อบอกน้อยไปต้องเยอะว่านั้น และรถแบคโฮ รถไถอีกเพื่อทำงานในอนาคตนะครับ
    ฉะนั้น ถ้าหลวงพ่อให้ลูกศิษย์ไปออกรถได้ผมว่าไม่น่าเกิน 2 เดือน

    ข้อความส่วนตัว: โทรคุยกับคุณพิชัย ๑๕ มี.ค.๕๑


    โทรคุยกับคุณพิชัย ๑๕ มี.ค.๕๑
    หลังจาก อ.ไก่ โทรมาไม่นานคุณพิชัยโทรมาคุยกันเลยถามว่าแฟน อ.ทานยาแล้วปวดกระดูกปวดหลังเป็นเพราะสาเหตุใด คุณพิชัยบอกว่า ถ้าปวดกระดูกแสดงว่าถูกแล้วเพราะยาจะไปล้างสารพิษที่เกาะอยู่ตามข้อกระดูก และอยู่ในไขกระดูก บางคนปวดกระดูกอยู่ 1 อาทิตย์ จึงหาย บางคนสารมากปวดถึง 1 เดือนก็มี ให้ทานไปเรื่อยๆเดี๋ยวเข้าที่เองก็เป็นปกติ


    วันนี้คุณพิชัยได้ไปหาคนที่นับถือท่านหนึ่งโดยจะไปพบเดือนละ 1 ครั้ง คนนี้เป็นผู้หญิง ผ่านร่างของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ แต่คุณพิชัยไม่ขอบอกว่าท่านอยู่ที่ใด

    ไปถึงท่านทักขึ้นว่า กำลังทำงานใหญ่อยู่นะเนี่ย งานที่ทำจะสำเร็จ คนที่เดินตามเป็นกลุ่มสายธรรมอยู่แล้ว วิกฤต(ใช้คำเหมือนกับหลวงพ่อ)นี้มีจุดปลอดภัยอื่นอีก
    ข้อมูลที่เธอได้รับเกือบสมบูรณ์หมดแล้ว..เดินถูกทางแล้วครูบาอาจารย์ก็เป็นอรหันต์ให้ติดตามครูบาอาจารย์ไปเรื่อยๆ

    คุณพิชัยบอกว่าท่านให้ศิษย์เย็บย่ามแบบที่ท่านใช้ประมาณ 10 ใบ มัดกองอยู่แถวๆที่ๆท่านนั่งฉันอาหารหลวงพ่อบอกว่าเอาไว้ใส่เงิน..เราไม่ได้ พูดเล่นนะ

    ท่านบอกว่าสายพระป่าเช่น หลวงปู่ลี...หลวงปู่ผอง...หลวงปู่จันทร์เรียน..มีทีมงานอุปฐากมีความสามัคคีทีมเวอร์คดีมาก

    (ผมเคยไปพักที่วัดหลวงปู่จันทร์เรียนเลือกในถ้ำเล็กๆ คืนนั้นเจอมดง่ามเล่นงานเต็มที่นอนเต็มกลดนอนไม่ได้เลย)

    ตกไปหน่อย (จดไม่เก่งอย่าง อ.ไก่ นับถือจริงๆ)

    คุณพิชัยบอกว่า....วิกฤตที่จะเกิดก่อนให้ดูที่นักโทษที่จะถูกปล่อยออกมา(คงจะทั่วโลก)เพราะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานจะไม่ได้รับเงินเดือน นักโทษที่ถูกขังอยู่ก็จะไม่มีข้าวกินถ้าขังไว้ก็อดตายถ้าเราขึ้นไปไม่ทันก็ ต้องต่อสู้กับนักโทษที่ออกมาพวกนี้

    (ผมว่าต้องมองที่เศรษฐกิจโลกที่กำลังตกต่ำอย่างหนัก...วิจิตร)
    __________________
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  2. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table class="tborder" style="border-bottom-width: 0px;" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="tcat">
    ข้อความส่วนตัว: หลวงพ่อในป่า ๘ มีค ๕๑ </td> </tr> <tr> <td class="alt1">Recipients: chdhorn, vijit_j, Xorce, ดอกขจร, ตุ๊กตาแก้ว | ตอบกลับทุกคน...
    </td> </tr> </tbody></table> <table id="post" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 12-03-2008, 01:25 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> sutatip_b <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    ข้อความ: 3,082
    พลังการให้คะแนน: 2810 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center>หลวงพ่อในป่า ๘ มีค ๕๑

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> สนทนากับหลวงพ่อในป่าตามท่านสั่ง เสาร์ ๘ มีค ๕๑
    คณานันท์ (มาไม่ได้เพราะคุณแม่ไม่สบาย) สุธาทิพ วิจิตร

    ยังตกลงกันไม่ได้หรือ พวกเอาอย่างไรก็เอาอย่างนั้น จะไปอยู่ไหน อาจารย์เขามีอยู่เราก็ไปพักอยู่ ท่านว่าอย่างไร
    (ที่กลุ่มเขาจะไปพักที่วัดธรรมยานตอนเกิดภัยเจ้าค่ะ)
    มันก็มีหลายจุดอยู่ ตรงธรรมยานเขามีอีกอันอะไรนะ ไปทางเขาพวงนั่นแหละ เส้นสายนอก ข่อยนอก อ๋อ สำนักสงฆ์อรัญวาสี หลวงปู่อำนวยสายหลวงพ่อฤาษีฯ น้ำสะดวกดี อากาศจะดีหรือเปล่า
    ถ้าแจกแจงแล้วคนเข้าใจก้เข้าใจ ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ จะสะดวกแบบไหนยังไม่ชัดเจน ยังแจ้งสาธารณะไม่ได้ เราหาหลายที่สำหรับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ (เราหมายถึงตัวหลวงพ่อ)
    นาเฉลียง (หมายถึงที่วัดธรรมยาน) มีที่ไม่มาก
    ธรรมยาน (หมายถึงสายหลวงพ่อฤาษีฯ) มีหลายสาขา อ.(ที่นาเฉลียง)ที่มาตั้งวัดเขาตามใจศรัทธา โยมว่าไงก็เอาตาม เขาเป็นคนดำเนินการ ศรัทธาญาติโยมไปมองข้ามเขาไม่ได้
    เหมือนว่าเราไม่ได้จะมาหลบชั่วคราว สร้างฐานได้ก็ต้องสร้างให้ประโยชน์เกิดขึ้น เจ้าของพื้นที่จะให้ไหม ถ้าเข้าใจก็ไปลง ถ้าเขาไม่เข้าใจก็คือเก่าแหละ (คือเหมือนไม่ได้เกิดขึ้น)
    คือเกรงใจเจ้าของที่นั่นแหละ
    คือเขาทำบุญด้วยเกียรติ ไม่ใช่ด้วยสมัครใจ ไม่ได้หวังกุศล จะรองรับพวกเรายากเหมือนกัน พระก็ต้องเอียง ถ้าไม่เอียงเราก็อยู่ได้
    ถ้าหนึ่งไม่มีสองนะ เป็นอื่นไปไม่ได้ เราก็เรียนมาแล้ว ระบบโลกเป็นอย่างไร เป็นอืนไปไม่ได้ เราศึกษากันดูในกลุ่มของเขา เราก็ไปได้แค่พัก ดุไปก่อน ถ้ายังไม่ได้ทีก็เรียกมาไม่ได้ ให้เข้าใจที่แท้จริงก่อน

    ตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้สร้างสำนัก คนสร้างต้องการมีเกียรติ ถ้าไม่สร้างก็เสียเกียรติ เขาไม่ศรัทธานั่นแหละ จะเข้าไปอยู่อย่างไร เราจะไปก็ต้องอยู่จนวิกฤติจากไปไม่ตายจากกัน ถ้าไม่อยู่อย่างงี้ไม่มากันหรอก จมน้ำตายหมด
    เราเป็นคนเลือก ถึงมาก็ยังให้คำตอบไม่ได้ว่ารับไม่ได้ ยังไม่ว่ารับน้า ถ้าเราคุยกับเจ้าของพื้นที่เขาได้ว่าเขายอมรับแบบไหน ถ้าเขากลัวเสียเกียรติเขาก็ต้องรับเรา ที่เรามานี้ไม่ได้เอาเกียรติมา เรามาเพราะทุกข์ร้อน เราช่วยเขาถ้าช่วยได้
    ก็ช่วยคนส่วนมากให้เข้าใจก่อนเด้อ ต้องพูดกับเจ้าสำนักและอุปัฏฐากพระ จะสร้างก็ไม่พอ ตระกูลเดียวมาก็หมดแล้วร้อยไร่ คนไหนไม่เข้าใจก็ไม่ต้องไปน้อยใจ

    ถ้าเราเข้าใจกัน ถ้าเราไปตั้งที่เขาพวง พวกที่อยู่มาก่อน (หมายถึงชาวบ้านในพื้นที่..สุธาทิพ) ก็ไม่มีสำนักเหมือนกัน ทำน้อยทำมากก็แล้วแต่โอกาส ใครมีน้อยว่าทำน้อย มีมากทำมาก ไม่ได้ให้ไปฝืนอะไร

    (เรียนท่านว่าส่วนใหญ่คงมาอยู่ธรรมยาน บ้างจะมากับท่าน แต่บ้างจะไปๆมาๆระหว่างสองแห่ง)
    เป็นธรรมดา ไม่ว่าสังคมไหน พวกไปๆมาๆก็จะมี มีพวกรวนเร พวกเอาจริง แต่มันก็ไปได้ เหมือนมิตรนี่แหละ มีทั้งกัลยาณมิตร มิตรกลับกลอก.. มีหมด เหมือนมีเฒ่า เฒ่าแมงดา เฒ่าวัดวา เฒ่าหัวงู ฯลฯ พระก็มีทุกอย่าง
    พระสุปฏิปันโน พระซน พระจริงจัง พระไม่จริงจัง มีทุกรูปแบบ ให้ศึกษา ให้ไปดูที่ เวลายังมี ข้อมูลนี่เราจะเป็นคนๆเดียวจะเก็บข้อมูลได้บ๊อ บางคนนึกได้ข้อมูลนี้ ข้อมูลนั้นประกอบโยงกันไป
    ฟังข่าวลือเขาให้ดีก่อนว่าฝ่ายอื่นเตรียมการหรือไม่ หรือขี้เหร่กลัวตายจะมีแต่พวกเรา ขี้เหร่กลัวตายยอมรับเสียก็โอเค
    โลกเป็นไปตามสมมุติ พยายามเท่าที่ทำได้ ถ้าผ่านวิกฤติก็ครองกันไป ถ้าไม่ผ่านคนที่เหลือก็ครองกันไป ก็ไม่ได้เอาไปด้วย ตอนต้นก็มีอยู่ ตอนต้นก็ไม่ได้เอาอะไรมา เสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่มา

    ศึกษาดู พูดแต่ที่เข้าใจกันได้ (เรา)ไม่ได้เลือกอย่างโน้นอย่างนี้ เอาแต่คนสมัครใจ สัตว์โลกเหมือนๆกัน ที่มาอยู่ด้วยก็ไม่ใช่วงศ์ตระกูล ก็ศรัทธา เขาเชื่อเรา เขาพอใจในตัวของเราก็คือพอใจ แล้วแต่เขาจะเลือก เราจะไปคานเขาไม่ได้
    อันนี้ (เรา) ไม่ได้เลือกหรอก เขาพอใจศึกษาก็ตามเขา เขารับได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ จะไปฝืนคติธรรมดาไม่ได้

    สุธาทิพขอสัญญาณการเกิดภัยพิบัติจากปากท่าน..
    สัญญาณ ถ้าพูดก็นาน
    อยู่ได้ค่ะ
    เอ้า ทุกอาทิตย์ดีไหม
    ไม่ไหวเจ้าค่ะ เดือนละหนยังพอว่าค่ะ...
    ก็เรามีความเชื่อแล้วนี่ พอเดินๆไปก็เป็นสัญญาณสะสมขึ้น
    ขอสัญญาณไม่ได้ แล้วแต่คติมันจะเกิด ชี้ว่าต้นอยู่ไหนไม่ได้
    ถ้ายอมรับแล้ว ยกตัวอย่างว่าดีหมด
    แต่ก่อนรุ่น.. มีหลวงปู่รุ่นหนึ่งเขาปฏิบัติกับ.. แต่ท่านไม่สึก ท่านไปอยู่อุดร ชื่อสมณศักดิ์จำไม่ได้ เขาเรียกกันหลวงปู่ดีน้อ รักหมด สามล้อไปส่ง สามล้อไม่หยุด หัวทิ่มเลือดไหลหลวงปู่บอกดีน้อ

    ถ้าเราเชื่อทางนี้ ไปวิจารณ์มันก็จะเลอะ อนุโลมปฏิโลมได้ จะถูกใจคนก็ไม่ถูก จะไปทางพ้นทุกข์หรือนรกสวรรค์มีอุปสรรคหมด จะผ่านวิกฤตไปแล้วได้ไหมเรื่องของเรา
    พระบวชก็มีอุปสรรคเหมือนกัน สิ่งแวดล้อม.. ร้อนหนาว..
    คนเป็นหมอรู้ภูมิต้านทาน นี่เป็นโลกวิทยาศาสตร์ ภูมิแพ้ ภูมิต้านทาน ถ้าเราไม่แพ้ไม่เป็นไร
    ทุกอย่างที่เราได้คติ อันนี้คืออาจารย์เรา ถ้าเราผิดไป เป็นครูบอกไม่ถูกต้อง ให้ใช้ทุกอันเป็นครูหมด
    พุทธองค์ตรัสไว้ถูกต้อง ถ้าเราโน้มใส่ตัวเองก็ไม่คลาดเคลื่อน จะเป็นอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร จะเข้าใจ
    อนิจจังไม่เที่ยง แล้วแต่จะเกิด โน้มมาเป็นคติของเราได้ เขาทำถูก-ผิดก็โน้มมาเป็นคติของเราได้

    สัญญาณเป็นของที่เราจ้องจะดูผลนั้น ไม่ถูกต้อง
    เราทำแล้ว บริสุทธิ์ใจแล้ว
    เกิดร่วมโลก เกิดในโลกนี้ ไม่ใช่แต่เรา กรรมมากกว่าก็มี บุญมากกว่าก็มี เรามาศึกษาแล้วมันตรงกัน บางคติจริง บางคติไม่จริง
    บ้างดูหมอดูโบราณและภาษิตหลายอย่าง
    ภาษิตไม่ใช่คำตรัสรู้คนฉลาดแต่ง เป็นนโยบายให้คนละชั่วทำดี
    ถ้าทุกคติไปรวมกันก็ต้องเตรียม คนที่เตรียมนั่นแล้วก็มี

    อันนี้แยกจากกลุ่มมาแล้วก็แล้วแต่เขาจะทำอย่างไร เพราะว่าได้ตั้งอธิษฐานแล้วแต่ก่อน
    ไม่ได้รับนิมนต์เขา เป็นญาติตระกูลก็ไม่รับ รับแต่บิดามารดา พ่อยังไม่เสียอีกหลายปี ต้องรอสุดท้าย พิธีเราไม่ได้ทำ ศาสนพิธีไม่ทำ ยังไม่ทำ
    จริงๆเป็นกิจของสงฆ์ ประเพณีเทศน์ สวดมนต์ อบรม เป็นเครื่องโน้มน้าวจิตใจ

    ดูพุทธทำนายได้ ดูแล้ววินิจฉัยเอาเพราะเป็นคำสอน เอาปัญญาเป็นเครื่องตัดสิน เอาวินาทีสุดท้าย ยังไงเตรียมการไว้ก่อน อยู่ด้วยความไม่ประมาท
    เพราะเรารู้แล้วสงสัยอยู่เป็นวิกิจฉา ถ้าลังเลเป็นครึ่งหนึ่งของสาวกไม่เต็มตัว
    เตรียมแล้วทันก็ดี ไม่ทันก็ดี ฟังคำพูดคำเห่อคนอื่นก็วุ่นอยู่ดี
    พวกที่มาก็สะสางกัน ถ้าข้องใจก็จัดการไปเลย ลังเลไม่ได้อยู่ด้วยความประมาทไม่ได้ พุทธองค์สอนให้เป็นคติ
    เราพร้อมเสมอ ถ้าเฉยเป็นประมาท

    ไปดูค่อยศึกษากันดู
    ถ้าฝ่ายนี้ดำเนินได้ก็ว่ากันไป ไม่ได้กีดกั้นกลางใคร แล้วแต่สมัคร
    จะไปตั้งสำนัก ไม่ใช่หนีน้ำหนีภัย ถ้ายังมีชีวิตจะให้สมุนไพรช่วยชาวบ้านจนตาย
    เรื่องอื่นว่ากันทีหลังก็ได้
    พวกมาหาเราก็รับเขา จะหาน้อยไม่ได้ต้องหามาก ได้จริงมากน้อยไม่เป็นไร ไม่ใช่ต้องเอาให้ได้ แค่เตรียมการ

    ทำได้เท่าที่ทำ จะถูกใจทุกคนในกลุ่มไม่ได้ หลวงพ่อคนเดียวจะถูกใจหมดได้อย่างไร
    เขาศึกษาเราเห็นว่าสงบ จึงตามมาหลายปี แต่ไม่มีสำนัก เป็นเจตนาเรา ได้เท่าไหร่เราก็เอา ญาติตระกูลเรายังไม่มาปรึกษา เขามีที่ไป
    พรพุทธเจ้าสอนทั้งโลก จะแบกก็มีสัมมาทิษฐิ มิจฉาทิษฐิ หลงไปดีแล้วได้คติขึ้นมา

    ถ้าเขาไม่เกรงใจเราแล้วไปเกรงใจเขาทำไม
    เราไปดูเราก็หาที่สูงอยู่ ถ้าแหล่งน้ำสะดวกก็ใช้ได้
    พวกเรามันก็ไม่ใช่ย่อย เราก็ร่วมกันได้ ใครจะไว้ใจกันไม่ไว้ใจกันก็แล้วแต่ ถ้าไม่ไว้ใจกันคงไม่ไปด้วยกัน
    __________________
    [FONT=&quot]
    [/FONT]
    </td></tr></tbody></table>
     
  3. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ vijit_j

    หลวงพ่อประชุมประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2551

    หลวงพ่อ ยาใหม่ซิ........(น้ำมีสีดำๆ)
    หลวงพ่อ ต้อง..ฝนที่บ้านตกบ่ (คุณต้องทำงานพัฒนาชุมชนอยู่ อ.ชนแดน)
    ( พูดถึงเรื่องฟ้าๆ..ฝนๆ..)
    หลวงพ่อ นายเขาจะลาปีนี้หรือเปล่าล่ะ ( นายหมายถึง นายอำเภอลูกศิษย์ท่านหนึ่งอยู่แถวๆ
    จ.พิษณุโลก หลวงพ่อให้ลาออก )
    หลวงพ่อ แล้วนายเขาจะอยู่ฝ่ายไหนล่ะ? ถ้าเราไม่ไปทางโน้น ทางโน้นเขาก็จะว่า ถ้าเราไม่มาทางนี้
    ทางนี้เขาก็จะว่า คือเก่านะแหละ
    . . . . .
    คุณต้อง มันไม่ยอมกันนะครับ
    หลวงพ่อ ก็เขาทะเลาะกันน่ะ
    หลวงพ่อ ต้องเข้ามาใกล้ๆ
    ........
    หลวงพ่อ เขาพลวง คือถ้าตั้งใจแล้วก็ตกลงกันแล้วก็เอา แต่แถวนั้นเราคงไม่เป็นไร เพราะบ้านเราไม่เจริญ มันมี 2 จังหวัด คือ เมืองเลย กับ บ้านเรา เพราะว่าถึงจะเป็นอย่างไงกัน ก็คงไม่มาถึงเรา เพราะเราไม่มีรถไฟ (จะมีการขนคนมารถไฟ) เออ..ชนแดนมันย่องเข้ามาข้างหลังได้เน๊าะ ( แซวคุณต้อง เพราะ อ.ชนแดนติดกับ อ.ตะพานหินซึ่งมีรถไฟ)

    (พูดถึงพระสงฆ์รุ่นที่เคยบวชพร้อมๆกัน บางองค์ผ่านโลกมามาก คือมีครอบครัวแล้วจึงมาบวชบางองค์ยังไม่เคยมีครอบครัวมาบวช)

    ( พูดถึงคุณต้องและนายอำเภอที่ไปตามล่าหาอาจารย์ต่างๆมา)
    หลวงพ่อ ไปมาครบองค์แล้วหรือ นับได้ไหม?
    คุณต้อง หลายองค์อยู่ครับ แต่พอนับได้
    หลวงพ่อ ถามเบี้ยวดูซิว่าเหรียญน่ะ มีกี่รุ่น เรายังตัดสินใจไม่ได้เลย ยังไม่ยุติ เหรียญวัตถุมงคล
    องค์นี้ไป องค์ใหม่อุบัติขึ้นมาอีก ก็ไม่หมด

    (พูดถึงที่แปลงหนึ่ง เลยป่ามะขามของผู้ช่วยไปอีก)
    หลวงพ่อ ที่ส่วนหนึ่งมันขึ้นกับวิเชียรหรือ ( อ.วิเชียรบุรี)
    พี่เบี้ยว เป็นของนายหัว ขึ้นกับวิเชียรบุรี

    (พูดถึงที่แปลง 260 ไร่ )

    หลวงพ่อ อันนี้เราเสนอไปแล้วซิ มันเหลืออีก 2 เดือน ถั่วจะเก็บหมด เราก็แจ้งไปพอที่จะสู้เขาได้
    เราก็รู้อยู่แล้วเขามืออาชีพ (คนจะขายเล่ห์มาก......วิจิตร )

    (พูดถึงที่ดินบนเขาพลวง)
    หลวงพ่อ มันอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน อาจอยู่ห่างกัน คนละส่วน แต่ไปมากันได้ เสนอไปแล้ว
    แล้วแต่เขาจะรับหรือไม่รับ

    หลวงพ่อ เสร็จงานนี้แล้วก็จะไปอุดร
    คุณต้อง หลวงพ่อจะไปเมื่อไร?
    หลวงพ่อ ไม่แน่อาจเป็นวันจันทร์ (ท่านจะไปเตือนให้รีบหาที่ว่าจะไปทางไหน จับอาจารย์องค์ไหน)

    (พูดถึงน้ำที่จะมาจากจีน)
    หลวงพ่อ ตามรูปการณ์แล้ว อุดร หนองคาย อันตรายกว่าเรา แม่น้ำโขงก็มาใกล้ เส้นตรงด้วย ถ้าเขาย้าน(กลัว) สะพานมันพัง ก็ปล่อยน้ำออกมา เขื่อนใหญ่ๆ 400 เขื่อน เขื่อนน้อยๆอย่างกับบ้านเราอีกมันร้าวหมดแล้วโน๊ะใครจะไปปะผุมัน ขนาดแค่ต้นฤดูฝน ถ้ากลางฤดูฝนล่ะ มันจะมาตั้งแต่หลวงพระบาง

    คุณต้อง แล้วทาง ปิง วัง ยม น่าน ละครับ
    หลวงพ่อ มันไม่ตรงเหมือนน้ำโขง แต่ถ้าสมมุติว่าแค่เขาภูพาน หนองบัวลำภู ก็จะปริ่มๆที่ตีนเขา
    (ตีนเขาภูพาน) นอกนั้นก็เป็นสะดือ
    ....................ก็ต้องไปทางสกล อุดร หนองบัวลำภู อุบล นั่นแหละ
    คุณต้อง น้ำทะเลไม่หนุนหรือครับ ?
    หลวงพ่อ หนุนก็หนุนแค่สระบุรี โคราช ...........................โอ้ ระยง ระยอง ตายหมด ถ้าน้ำทะเลหนุนนะ ถ้ามันมาจริงๆน่ะนะ
    หลวงพ่อ มันแล้วแต่โลก โลกเป็นอนิจจังมันไม่เที่ยงหรอก มันไม่แน่นอนหรอก มันถึงยุคมันแล้ว
    หลวงพ่อ เมื่อก่อนทางหนองบัวลำภูก็ล่ม บึงบอระเพ็ดก็ล่ม อย่างหนองกระแสก็แผ่นดินทรุด ล่มนะหละ มันต่อหลวงพระบางไป

    (พูดกับคุณต้องที่ดินที่ทำไร่)
    คุณต้อง ตอนนี้ก็แห้งแล้ง
    หลวงพ่อ ก็แห้งนะซิ เขาเอาไปเก็บไว้ที่ขั้วโลกเหนือ มันระเหยเป็นไอ พอหมุนรอบมาทีก็หอบไปที
    ถ้าเรารู้มันก็ธรรมดา
    คุณต้อง อยู่ตรงไหนก็ตายนะครับ
    หลวงพ่อ อย่างนั้นแหละ
    แต่เราขี้เหร่กลัวตาย ก็หลบไปก่อน วันนี้เอาแค่นี้นะ

    คุณคณานันท์ส่งต่อให้ด้วยครับ
     
  4. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post870967" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 18-12-2007, 04:08 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_870967", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2005
    สถานที่: เมื่อคิดถึงผมผมก็คิดถึงคุณ
    อายุ: 23
    ข้อความ: 1,882
    [​IMG]
    พลังการให้คะแนน: 1993 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_870967" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->E-book ถอดไฟล์เสียงงานสัมมนาภัยพิบัติและการเตรียมการ ฉบับสมบูรณ์เสร็จแล้วครับ<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --> [​IMG]
    สวัสดีครับทุกท่าน

    เนื่องจากงานสัมมนาภัยพิบัติและการเตรียมการได้ดำเนินการไปเสร็จสิ้นเป็นที่เีรียบร้อยแล้ว

    ทางทีมงานได้บันทึกไฟล์เสียงไว้เป็น MP3

    http://www.pdisaster.com/audio/strea...-16.084309.mp3
    ขนาด 138MB ความยาวกว่า 8 ชั่วโมง

    ขอเชิญชวนสมาชิกเว็บพลังจิตมาช่วยกันถอดไฟล์เสียงกันครับ

    ตอนนี้ผมกำลังถอดไฟล์ของ ดร.สมิทธ อยู่ครับ

    ส่วนของ ดร. ซิลวิโอ เอเมอรี่ อาจารย์ไก่ได้สรุปให้ฟังแล้ว

    อยากขออาสาสมัครมาช่วยถอดไฟล์เสียงที่เหลือ ดังนี้



    - ดร.สมิทธ ธรรมสโรช (Nakamura)
    - ดร.ซิลวิโอ เอเมอรี่ (sutatip_b)
    - พระอาจารย์ใหญ่ (sutatip_b)
    - นพ. สมพนธ์ บุณยคุปต์ (apichan)
    - ดร. กัญจีรา กาญจนเกศ (nuttadet)
    - คุณ อภิชาติ แพรริ้วทอง (มาอยู่เฉยๆ,
    pat3112)
    - พระอาจารย์ประจักษ์ (พุทธโกมุท)
    - พระอาจารย์สุวัฒน์ (Rattanaporn)
    - คุณ คณานันท์ ทวีโภค (nantiya.j)
    - ดร. สุธาทิพ ภมรประวัติ (sutatip_b)


    ใครอาสาจะถอดไฟล์เสียงของใครแจ้งได้ที่กระทู้นี้เลยครับ

    ขอโมทนากับทุกท่าน
    ล่วงหน้าด้วยครับ _/\_

    -------------------------------------------
    E-book ฉบับสมบูรณ์เสร็จแล้วครับ (ฉบับปรับปรุงล่าสุด 15/01/51)



    </td></tr></tbody></table>
     
  5. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post871019" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">18-12-2007, 04:27 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #3 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_871019", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2005
    สถานที่: เมื่อคิดถึงผมผมก็คิดถึงคุณ
    อายุ: 23
    ข้อความ: 1,882
    พลังการให้คะแนน: 1993 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_871019" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ดร.สมิทธ :

    ต้อง เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ ผมเอามันย่อๆนะ เพราะไฟล์ผมเยอะมากยาว เวลาไปบรรยาย พรุ่งนี้ผมก็จะต้องเดินทางไปกระบี่ นะครับ ไปบรรยายที่กระบี่ เพราะขณะนี้ต้องเดินสายอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเรายังให้องค์ความรู้กับประชาชนไม่พอ ผมรับอาสามาทำงานนี้โดยไม่ได้รับเงินเดือนมา 2 ปีเศษแล้ว
    จากอาศัยเงินบำนาญนิดๆหน่อยๆ แต่ทำมาเพื่อชดเชยกับชีวิตคนไทยที่สูญเสียไป 8 พันกว่าคน 5 พันคนเมื่อวันที่ 26 ธันวา 2547 เพราะผมเคยคาดการณ์ว่าจะมีคลื่นสึนามิมากระทบฝั่งไทย เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เสนอเรื่องไปถึงรัฐบาล ในขณะนั้นผมมีอำนาจเต็มที่ ที่จะเสนอเรื่องให้รัฐบาลทราบเพราะผมเป็นอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาอยู่รับผิดชอบโดยตรง เขียนเป็นหนังสือราชการปั้มรับ ถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ถึงอธิบดีกรมการปกครอง ถึงอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 6 จังหวัดให้ทราบว่าภัยธรรมชาตินี้นะ จะต้องมีผลกระทบต่อประเทศไทย ทั้ง 6 จังหวัดอีก เขียนไปถูกต้องเลยทั้ง 6 จังหวัด ตั้งแต่พังงาลงมาไปจนถึงสตูล เค้าก็หาว่าผมเป็นบ้า ผมทำลายเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตไม่ให้ผมเข้าจังหวัด ไม่ให้เข้าจังหวัด ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า ถ้านายสมิทธเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตจะไม่รับรองความปลอดภัย สมาคมการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม ไม่ยินดีต้อนรับให้ผมไปในภูเก็ต นะครับ
    แล้วอะไรเกิดขึ้นครับ เมื่อเกิดขึ้นมาคนเสียชีวิตมากมาย เพราะเราไม่มีระบบเตือนภัย เราไม่มีระบบที่จะให้องค์ความรู้กับชาวบ้านล่วงหน้า ครับ พูดแล้วเป็นเรื่องยาว

    ต่อไปเรื่องนี้ดีกว่า เดี๋ยวนะฮะ ช้าๆ อันนี้นิดนึง มนุษย์โลกยังไม่สามารถบังคับภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติได้ ถ้าจะอันนี้ไว้นะครับ มันเป็นประโยคที่สอนให้เราต้องรู้จักไม่ประมาทกับภัยพิบัติ ภาษาอังกฤษเค้าเรียก Do not underestimate a nature power คือ ต้องไม่ underestimate คือ ต้องไม่ประมาทกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ต่อไปครับ ย้อนไปถึงภูมิศาสตร์นิดนึง โลกเราเนี้ยเกิดขึ้นเมื่อ 4,600 ล้านปีครับ ลักษณะเป็นเช่นนี้ จากการแตกสลายของระบบสุริยะจักรวาลครับ ต่อไปครับ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วนะฮะ เราก็พาพลังงานจากดวงอาทิตย์ติดโลกมาด้วย พลังงานที่เราได้มาจากดวงอาทิตย์ก็ได้มาจากตรงกลางโลกนี้ครับ ลึกลงไป 2,900 กิโลเมตร ถึง 4,980 กิโลเมตร อยู่ตรงนี้ครับ โลกเรายังมีพลังงานมหาศาล เป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวของโลก เอ้ย! ของสุริยะจักรวาล ที่เอาพลังงานติดตัวมา ดาวดวงอื่นไม่มีครับ ดาวเคราะห์ดวงอื่น ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวเสาร์ เนปจูน พลูโต นี้ไม่มี เพราะฉะนั้น ดาวพวกนั้นถึงไม่มีบรรยากาศหุ้มห่อดาวของเขา และก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้น มีโลกเราโลกเดียวแหละฮะ โชคดี ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมธรรมชาติเขาแบ่งให้อย่างงั้น ให้เรามีพลังงานติดมา และพลังงานเนี้ยนะครับ ถ้าดูให้ดีนะฮะ ความหนา 1,000 กิโลเมตร คือหนาตั้งแต่ นราธิวาส จนถึง เชียงรายครับ ยังมีมหาศาล ขณะนี้ก็ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นอีกหลายพันปีกว่าพลังงานนี้จะหมดไป โลกเราเนี้ยมีทั้งโชคดีและโชคร้าย คือ มีพลังงานติดตัวมา แต่ไอพลังงานตัวนี้ก็ทำให้ เราเกิดภัยธรรมชาติด้วย ต่อไปครับ พลังงานนี้ก็ปลดปล่อยครับ มีการปลดปล่อยพลังงานอยู่ตลอดเวลา ออกมาตามภูเขาไฟ อยู่ใต้มหาสมุทรก็มี มีการระเบิดของภูเขาไฟอยู่ทุกวินาที ที่เรานั่งอยู่เนี้ย แต่เราไม่สามารถมองเห็นได้ นะฮะ เป็นการปลดปล่อยพลังงานที่มีอยู่มหาศาลอยู่ในใจกลางของโลก เพราะฉะนั้นพลังงานที่เราสะสมไว้ทั้งหลาย 4,600 ล้านปีเนี้ย มันก็พยายามจะออกมา การออกมาเนี้ยเป็นการปลดปล่อยพลังงาน ก็ดี ถ้าเราไม่มีการปลดปล่อยพลังงานแบบนี้โลกเราจะเกิดแผ่นดินไหว เกิดภัยธรรมชาติมากขึ้น ต่อไปครับ ตอนนี้พูดถึงสภาวะโลกร้อนนี้เรื่องกำลัง กำลังฮิตอยู่ กำลัง Hot issue อยู่ ที่ประชุมที่บาหลี
    พึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ไประชุมเกือบหมื่นคนเนี้ย พึ่งสรุปเมื่อวานนี้เอง นะครับ ว่า สภาวะโลกร้อนเนี้ย อันนี้เป็นสภาวะของธรรมชาติบวกกับมนุษย์ทำขึ้น นะครับ

    ต่อไปครับ โลกร้อนเพราะอะไรครับ การเผาไหม้เชื้อเพลิง การผลิตซีเมนต์ การทำลายป่า อะไรต่างๆ เนี้ย นะครับ การใช้สารต่างๆที่เรามนุษย์เราปลดปล่อยอันนี้เป็นฝีมือมนุษย์ครับ โลกเขาร้อนอยู่เค้า เค้ามีบรรยากาศอยู่แล้ว เค้าควบคุมบรรยากาศ จากแสงอาทิตย์ที่ได้รับแล้วให้อยู่คงที่ แต่มนุษย์เรามาทำพวกนี้เพิ่มขึ้นทำเพิ่มขึ้น ก็เลยทำให้โลกร้อนขึ้น ทำไมโลกถึงร้อนขึ้นครับ ต่อไปครับๆ โลกร้อนขึ้นเพราะว่าพลังงาน ที่มาจากดวงอาทิตย์นั้น เมื่อกระทบผิวโลกแล้วนะครับ ปกติเค้าจะสะท้อนกลับ ส่วนหนึ่งก็จะสะท้อนกลับ ไปสู่บรรยากาศ นะครับ ส่วนหนึ่งก็จะเก็บไว้ในพื้นผิวโลก ทำให้บรรยากาศของโลกเนี้ยร้อนอยู่ในอุณหภูมิที่เท่าๆกัน แต่เนื่องจากเรามีก๊าซต่างๆเนี้ยนะครับ สะสมอยู่ในบรรยากาศมาก พลังงานที่จะสะท้อนกลับก็กลับมา สะท้อนสู่โลกอีกก็ทำให้อุณหภูมิของโลกนี้สูงขึ้น ต่อไปครับ นี้ครับ ใจเย็นๆฮะใจเย็นๆ กลับไปที่เมื่อกี้นิดนึง ถอยหลังได้มั๊ย อ่า รังสีจากดวงอาทิตย์นะครับ มา ผ่านบรรยากาศมากระทบผิวโลก รังสีจะสะท้อนกลับ บางส่วนนะฮะ สะท้อนสู่บรรยากาศ นะฮะ แต่บางส่วนไม่สามารถสะท้อนได้เพราะมีก๊าซพวกนี้นะครับ กับคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน อะไรต่างๆ สะสมอยู่ในบรรยากาศเป็นจำนวนมากก็ทำให้รังสีบางส่วนเมื่อกระทบกับชั้น บรรยากาศชั้นนี้ก็สะท้อนกลับมาสู่พื้นผิวโลกอย่างเดิม ก็ทำให้โลกร้อนขึ้น

    เดี๋ยวดูภาพกราฟิกครับ นะครับ รังสีจากดวงอาทิตย์เข้ามาทะลุชั้นบรรยากาศลงสู่ผิวโลกนะครับเป็น Global radiation บางส่วนจะสะท้อนกลับขึ้นไปครับ นะฮะ แต่ไปเจอก๊าซพวกนี้ขึ้นมา นะฮะ เนี้ย สะท้อนทะลุออกไปไม่ได้ นะฮะ ก็เลยสะท้อนกลับมา ไอตัวนี้ไอตัวแดงเนี้ย รังสีสะท้อนกลับเนี้ย นะฮะ
    Atmospheric counter radiation เนี้ยทำให้เราโลกเราร้อนขึ้น ทุกขณะๆ อันนี้เป็นปัญหาหนักมาก ซึ่งทั่วโลกจะต้องแก้ไขนะครับ ๆ ก๊าซที่เราปล่อยขึ้นเป็นจำนวนมากก็คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ครับ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นตัวที่ทำให้โลกร้อนมากที่สุด มนุษย์เราก็ปล่อยขึ้นไปมากที่สุด แต่ก่อนที่มนุษย์เราไม่ค่อยมีโรงงานอุตสาหกรรม ไม่มีการเผาไหม้ เราก็ไม่มีการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็เลยขึ้นสู่บรรยากาศน้อย แต่ขณะนี้เนี้ยทุกประเทศเป็นประเทศอุตสาหกรรมหมด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่บรรยากาศก็มีจำนวนมากขึ้น นี้เป็นก๊าซที่เราตรวจวัดได้นะครับจากปริมาณน้ำแข็งที่อยู่ในขั้วโลกต่างๆเนี้ย วัดอุณหภูมินะฮะ จำนวนก๊าซของคาร์บอนไดออกไซด์ (Ice age) เนี้ย มันมีอยู่ตลอดเวลา มันเป็น Cycle ของมันแต่ขณะนี้มันผิดปกติมาก จากการที่เคยสะสมอยู่หลายพันปีมาแล้ว ตั้งแต่ปี 1750 นักวิทยาศาสตร์เค้ารวบรวมไว้แล้วถึงปี 2000 เนี้ย ตอนนี้มัน 2007-2008 ก็คงอยู่แถวนี้ ปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นสูงขึ้นตลอดเวลา ไม่เคยมีลดลงเลย หรือไม่เคยมีเท่าเลย ส่วนหนึ่งเนี้ยการปล่อยการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ในกรุงเทพมหานครเนี้ย รถที่จดทะเบียนแล้วประมาณ 3 ล้านคัน วันนึงเราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่าไหร่ รถยนต์ทั่วโลกอีกเท่าไหร่นะครับ ฉะนั้นปัญหาของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คงจะยังไม่สิ้นสุดนะครับ จนกว่าเราจะหาพลังงานอื่นมาทดแทน ถ้าเรายังใช้พลังงานน้ำมัน พลังแก๊ซอยู่เนี้ย การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขึ้นสู่บรรยากาศก็จะมีมาก ปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่บรรยากาศมีถึง 76% นอกนั้นก็จะเป็นก๊าซไนตรัสสัก6% มีเทนสัก 13% ฟรูโรคาร์บอนอีก 5% ก๊าซพวกนี้ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน แต่ส่วนใหญ่เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 76% เปอร์เซ็นต์ที่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากโรงงานอุตสาหกรรม จากยานยนต์ จากระบบการขนส่ง จากโรงงานทั่วไป การคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ไว้ว่าในปี 2643 หรือ 2001 เนี้ยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศจะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า จาก 278 ppm เป็น 556 ppm คือ หนึ่งในล้านส่วนนะครับ อุณหภูมิของโลก
    จะเพิ่มขึ้น 1.5-4.5 องศา 4.5 นี้คุณก็แย่แล้ว

    สมัยผมเมื่อรับราชการใหม่ๆเมื่อสัก 39 ปีที่แล้วเนี้ย อุณหภูมิของประเทศไทยสูงสุดอยู่ที่จังหวัดตาก
    จังหวัดตากเนี้ยในหน้าร้อนจะมีอุณหภูมิสูงที่สุด 38 องศาเซลเซียสเรายังบ่นร้อนแทบตาย กรุงเทพมหานคร วันที่ 10 ธันวาคม ทุกๆปี จะมีงานวันรัฐธรรมนูญที่สวนอัมพร ท่านต้องใส่เสื้อหนาวไปนะสมัยก่อน ท่านที่เกิดมาอายุมากๆเนี้ยคงจะจำได้ กรุงเทพมีหน้าหนาวนะฮะ สมัยก่อน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วครับ
    หน้าหนาว กรุงเทพมีแต่หน้าร้อน ร้อนมากร้อนน้อยเท่านั้นเอง นะฮะ อุณหภูมิเปลี่ยนไปมาก ท่านทราบมั๊ยว่าขณะนี้ อุหณภูมิสูงสุดของประเทศไทยอยู่ที่42 องศาเซลเซียส จาก 38 มา 42 ใน 30 กว่าปี นะครับ ร้อนที่สุดอยู่ที่จังหวัดตาก ก๊าซที่ขึ้นไป คือ ไนตรัสออกไซด์ จากการใช้ปุ๋ย ไนโตรเจนอะไรต่างๆ
    นี้ปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มขึ้นเหมือนกัน ปี 1750 - 2000 ก๊าซมีเทนครับ มีเทนน้อยหน่อย แต่ก็ยังทำให้สภาวะโลกร้อนได้จากการเกิดจากมูลสัตว์ มูลวัว มูลควาย เนี้ยกระทบกับแสงอาทิตย์ ทำปฎิกิริยาขึ้น นี้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ส่วนใหญ่เกิดในแอฟริกา ที่มีฝูงสัตว์เยอะๆ
    เป็นจำนวนล้านๆตัว วันหนึ่งสัตว์พวกนี้จะถ่ายออกมาเป็นตันๆ มูลของสัตว์ เป็นจำนวนหลายตัน เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ ก็จะเกิดก๊าซไนตรัส เอ้ย ก๊าซมีเทนขึ้นสู่บรรยากาศได้ นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง นี้ฮะปริมาณของก๊าซมีเทนก็สูงเหมือนกัน แต่พึ่งมาสูงเมื่อปี 1950 - 2000 นี้ก็เป็นสามารถที่ทำให้เกิด
    ก๊าซมีเทน เราช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากจะฆ่าวัวควายหมดโลกละฮะถึงไม่มีก๊าซมีเทน แล้วเราก็จะไม่มีอะไรกิน เราก็คงแย่เหมือนกัน ไอนี้เป็นก๊าซที่มนุษย์ทำขึ้นโดยไม่มีความจำเป็นเลย ก๊าซที่สุภาพสตรีสวยๆมีส่วนทำให้เกิดก๊าซนี้ คือเวลาที่ท่านใช้เสปรย์เป่าผมของท่านทุกเช้าเนี้ย ส่วนหนึ่งของเสปรย์มันก็จะลอยขึ้นไปติดผมของท่านสัก 10-20% อีก 80% มันก็จะลอยขึ้นไปในบรรยากาศ เพราะฉะนั้นสุภาพสตรีทั้งหลายถ้าลดความสวยลงสักนิดนึง ท่านจะช่วยให้โลกเย็นขึ้นหน่อยนะครับ ฝากไว้ด้วย การใช้เสปรย์ทำผม น้ำยาที่อัดเข้าไป ในเครื่องแอร์คอนดิชั่น เครื่องทำความเย็น บางส่วนมันจะ leak ออกไป เข้าสู่บรรยากาศทำให้โลกร้อนขึ้นนะครับ ก๊าซต่างๆนี้ก็ขึ้นไป พวกนี้แหละทำให้โลกร้อน

    ตั้งแต่ ค.ศ.1995-2004 Mean temporature หมายถึง อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่เคยเย็นลงเลยนะฮะ จาก -2 ขึ้นไปเนี้ย ถึง 2 องศา แดงๆเนี้ย โลกร้อนขึ้น ทั้งใน ยุโรป อเมริกาเหนือ ขั้วโลกเหนือก็เริ่มร้อนขึ้น ตรงเนี้ยมีผลกระทบกับเรามากเพราะว่าจะทำให้น้ำแข็งในขั้วโลกเหนือละลาย ท่านจำได้มั๊ยว่าสมัยก่อนการที่จะได้ไปขั้วโลกเหนือ เอาเรือไปไม่ถึงนะ เอาเรือไปจอดอยู่ รอบๆขั้วโลกเหนือ
    แล้วท่านต้องนั่งสกีไปถึงจะไปปักธงที่ขั้วโลกเหนือได้ ว่าท่านมาขั้วโลกเหนือได้ แต่เมื่อ 2-3 อาทิตย์ 2-3 เดือนที่แล้วเนี้ย รัสเซียเอาเรือสกัดน้ำแข็งเข้าไปถึงขั้วโลกเหนือเลย แล้วหย่อนทุ่นลงไป ยึดพื้นที่ตรงขั้วโลกเหนือตรงนั้น เป็นพื้นที่ของเค้า ทำให้ประเทศแคแนดา ประเทศอเมริกา ประเทศฟินแลนด์
    ต้องไปยึดเหมือนกัน เพราะตรงนั้นมี oil กับ แก๊ซอยู่ แต่ก่อนไปไม่ถึงฮะ เดี๋ยวนี้น้ำแข็งมันบางมาก สามารถเอาเรือสกัดน้ำแข็งขนาดใหญ่วิ่งเข้าไปถึงขั้วโลกเหนือเลย

    นี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงเท่าไหร่ อุณหภูมิของโลกก็สูงขึ้นไปเท่านั้น อุณหภูมิของประเทศไทยก็สูงขึ้นไปเหมือนกันตั้งแต่ปี 2494-2546 นี้สูงมาตลอด ปริมาณฝนที่เคยตกในประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงเพราะ สภาวะโลกร้อนครับ ฝนจะตกหนักในฤดูฝน น้ำจะท่วมมาก เพราะว่าการระเหยของน้ำทะเลมันจะสูง เมื่อน้ำทะเลระเหยมากขึ้นไปสู่บรรยากาศ ก็จะทำให้มีน้ำในอากาศมาก ก็จะทำให้ฝนตกลงมาในพื้นดินมากกว่าปกติ ก็จะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมในฤดูฝนในโอกาสเดียวกันในฤดูแล้ง ก็จะแล้งขึ้น เพราะการระเหยของน้ำในผืนดินก็จะมากขึ้น ต่อไปประเทศไทยจะนำนาได้เพียงปีละ ครั้งเดียว ในฤดูฝนเท่านั้นนาปรังจะทำไม่ได้ เพราะปริมาณน้ำที่อยู่บนผิวดินที่ชาวบ้านเค้าจะขุดดินลงไป 50 เซน เมตรนึง เค้าจะตักน้ำ มาบริโภคเอามาทำกสิกรรมไม่มีแล้ว เพราะมันจะระเหยมาก
    ผลิตผลของการเกษตรของเราต้องลุดลงแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ประเทศอื่นๆด้วย ข้าวจะลีบลง เมล็ดข้าวจากการวิจัยของกรมวิชาการเกษตรข้าวของเราแช่อยู่ในน้ำครับ อุณหภูมิของน้ำที่แช่อยู่ในข้าวเนี้ยมันร้อนขึ้น เมล็ดข้าวจะลีบลง ในรวงข้าวรวงนึงจะมีเมล็ดข้าวน้อยลง ผลิตผลทางการเกษตรเนี้ยAgriculture productivities เนี้ยจะต่ำลงไป การส่งออกของข้าวจะมีผลกระทบมาก อันนี้เราก็ต้องระวัง จะมีผลมีปัญหามา ทั้งในหน้าฝนและหน้าร้อน แมลงและศัตรูพืชก็จะระบาดมากขึ้น การเกิดตั๊กแตน เช่น ตั๊กแตนปาทังก้า เนี้ย อายุของตั๊กแตนก็จะยาวขึ้น การผสมพันธุ์จะมีมากขึ้น จำนวนตั๊กแตนจะมีมากขึ้น ตัวเพลี้ยก็จะเจริญเติมโตมากขึ้น ท่านปลูกข้าวไว้เป็นพันๆไร่ มันลงมาพรึ๊บเดียวหายไปหมดเนี้ย นะครับ แล้วเราจะทำยังไง นี้เป็นเพียงส่วนย่อยๆเท่านั้นเอง

    ปัญหาที่จะมีเกี่ยวกับ เรื่องผิวหนัง โรคผิวหนังที่จะเกิดขึ้น เดี๋ยวผมจะอธิบายต่อไป สภาวะโลกร้อนทางพื้นที่ลุ่มประสบอากาศหนาวมากขึ้น ฝนตกหนักการละลายของน้ำแข็ง บริเวณขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้จะเพิ่มระดับน้ำของมหาสมุทรทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1-1.5 เมตรภายใน 8-15 ปี ผมไม่ได้ทำนายนะ อย่ามาโทษผมถ้ามันไม่เกิด หรือ เกิดเร็วกว่านั้น นี้เป็นการทำนายของ องค์การสหประชาติ เค้าเรียกว่าองค์การ ภาษาอังกฤษเค้าเรียก IPCC : Intergovernmental Panel on Climate Change ซึ่งที่เค้าประชุมอยู่ที่บาหลีเนี้ย นี้เค้าเป็นคนทำนายนะฮะ แล้วเค้าไม่ได้ทำนายด้วยนักวิทยาศาสตร์คนเดียว นักวิทยาศาสตร์เป็นหลายร้อย หลาย เป็นพันคน ทำนาย แล้วเขียนออกมาเป็นเอกสารหนาถึง 1,400 หน้า
    เป็นเอกสารยืนยัน ยังมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนไม่เห็นด้วย แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เค้าสรุปแล้ว มันจะต้องเป็นยังงี้ น้ำทะเลมันจะสูงขึ้นจากการละลายของน้ำแข็ง

    ทำไมครับ นี้เป็นภาพถ่าย ดาวเทียมเมื่อปี ค.ศ. 1979 ท่านสังเกตดูให้ดีนะฮะ นี้ส่วนหนึ่งเท่านั้นเองนะฮะ น้ำแข็งที่ปกคลุมขั้วโลกเหนืออยู่ ท่านดูอีกรูปหนึ่ง เพียงไม่มีกี่ปีเอง น้ำแข็งส่วนหนึ่ง เค้าเรียกว่า ICE CAP ส่วนหนึ่ง ละลายไปเยอะแล้ว แล้วน้ำแข็งพวกเนี้ย ปริมาณน้ำแข็งมันมหาศาล แต่ละก้อนแต่ละอันสูงมาก สูงเป็นกิโลเมตร แล้วมันละลายหายไป ปริมาณน้ำพวกเนี้ย มันก็จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ยังมีน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ที่ยังไม่ละลาย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เค้าค้นพบอยู่สูงจากข้างบนถึงข้างล่างเนี้ย เฉลี่ย 5-7 กิโลเมตร โผล่ขึ้นน้ำมาประมาณสักกิโลหนึ่ง หรือ 2 กิโลเมตร แต่อยู่ข้างล่างสัก 3-4 กิโลเมตร พวกเนี้ยยังไม่ละลาย เพราะขั้วโลกใต้ของเรามันไม่วิ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ มันจะวิ่ง ระยะขั้วโลกใต้กับดวงอาทิตย์ จะเท่าๆกัน แต่ขั้วโลกเหนือเนี้ยมัน away ครับ มันห่าง ขั้วโลกเหนือเนี้ย แกนขั้วโลกเหนือจะวิ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ในฤดูร้อน และจากดวงอาทิตย์ในฤดูหนาว เพราะฉะนั้นขั้วโลกเหนือจะละลายมากกว่าขั้วโลกใต้
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->"คนที่ไม่เคยเจออุปสรรค คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย"<!-- google_ad_section_end -->
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nakamura : 23-12-2007 เมื่อ 01:03 PM
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("871019")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2009
  6. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post871022" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 18-12-2007, 04:28 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #5 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_871025", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2005
    สถานที่: เมื่อคิดถึงผมผมก็คิดถึงคุณ
    อายุ: 23
    ข้อความ: 1,882
    พลังการให้คะแนน: 1993 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_871025" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->รูปเขื่อนจะเป็นอย่างนี้ครับ เอาแบบมาจากเนเธอร์แลนด์ครับ บนสันเขื่อนมีถนนวิ่งครับ ให้รถวิ่ง
    สวนกันได้ ขนาด 4 เลน ท่านมาจากภาคตะวันออก จากระยอง จากจันทบุรี ขนสินค้าอะไรลงไป
    ภาคใต้ ท่านไม่ต้องเข้ากรุงเทพมหานครเลย พอมาถึงบางประกง ท่านวิ่งมาตามสันเขื่อนนี้ ลงไป
    ชะอำ ไปภาคใต้เลย ทางชะอำ ขนสินค้าเข้ามา จะออกต่างประเทศ ข้ามสันเขื่อนนี้ มาลงเรือที่
    แหลมฉะบัง ได้เลยครับ โดยไม่ต้องเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร ไม่ต้องปล่อยมลพิษไว้ ให้มาอยู่ใน
    กรุงเทพมหานครนะครับ เป็นวิธีการเดียวที่เราสามารถจะทำได้ มีบางท่านบอกว่า แล้วน้ำเสีย
    ท่านจะเอาไปไว้ที่ไหน (ต่อเลยครับ) น้ำเสียเรามีประตูระบายครับ น้ำเสียที่ไหลออกมาจากตาม
    แม่น้ำภาคเหนือ มาถึงตรงนี้มีประตูระบาย มีทางให้เรือเข้า-ออกนะครับ ไม่มีผลกระทบต่อท่าเรือ
    คลองเตยเลยนะครับ มีระบายน้ำเสีย สูบน้ำออกไป ใช้เขื่อนนี้เราจะทำระบบนิเวศน์ให้ดีกว่าเดิม
    นะครับมีการปลูกป่าชายเลน มีการปลูกต้นไม้ ริมเขื่อน เพื่อให้ระบบนิเวศน์ของอ่าวไทยยังเหมือน
    เดิมเพราะว่าการสร้างเขื่อนนี้มันทำให้กระแสน้ำที่ไหลวนเวียนอยู่ในอ่าวไทยนี้เร็วขึ้น ถ้าเราไม่มี
    ระบบนิเวศน์นะครับ เราต้องมีการระบบนิเวศน์เพื่อเก็บหอยแครงไว้ ท่านจะได้มีโอกาสกินหอยแครง
    อย่างเดิม หอยแมลงภู่อย่างเดิม จับปลาทูได้อย่างเดิม เพราะว่า ถ้าท่านไม่ทำนะ ไอ้พวกแพลงตรอน
    ที่มันมาอยู่ตามก้นอ่าวไทย มันจะถูกน้ำพัดพาไปหมด แล้วปลาทูก็จะไม่มา ท่านก็จะไม่มีโอกาส
    กินปลาทู เพราะฉะนั้นเราต้องทำเสริมระบบนิเวศน์ไปตามเขื่อนนี้ เพราะฉะนั้นไอ้นี่มันดีหลาย
    อย่างนะครับ ถ้าเราทำได้ ประเทศอื่นเขาก็กลัวน้ำท่วมทั้งนั้นนะครับ (ต่อเลยครับ)
    สิงค์โปร์ เค้ามาหาผมนะครับ เอาข้อมูลไป เขาตั้งคณะกรรมการนะครับ เขาเอานักวิทยาศาสตร์
    เอาข้อมูลมาบอก ที่ประเทศไทยทำนะ จริงรึป่าว ทำเล่น ๆ หรือทำจริง ผมบอกไม่ทราบ อันนี้มัน
    เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะมาทำต่อไป แต่เขาตั้งแล้วครับ เขาตั้งคณะกรรมการแล้วครับ ตั้ง
    คณะกรรมการศึกษา เขาจะทำเขื่อนรอบสิงค์โปร์แล้ว ประเทศเวียดนาม ซึ่งผมพึ่งกลับมานี้ เขาก็ทำ
    เอาผมไปบรรยายให้เขาฟังว่า ลักษณะมันจะเป็นอย่างไร แต่ประเทศไทยเรายังไม่ได้ทำ มันยังไม่
    ทันคิดเลย กำลังคิดว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคไหน ใครจะทำยังไง จะรวมพรรค แยกพรรคกันอยู่
    เพราะฉะนั้นผมฝากความหวังไว้กับท่านทั้งหลาย ว่าท่านจะคิดยังไง ต้องเป็นประชามติครับ ผมมี
    แผนว่า หลังจากตั้งรัฐบาลใหม่สัก 2-3 อาทิตย์ ผมจะไปตั้งโต๊ะตามศูนย์การค้าต่าง ๆ ขอประชามติ
    เพียง 50,000 ชื่อ แล้วก็จะเอา 50,000 ชื่อที่สนับสนุนโครงการนี้ เสนอเข้าไปสู่รัฐสภา และให้สภา
    ผู้แทนราษฏรเสนอ คณะรัฐบาลหน้า เพื่อคิดที่จะทำ เพราะการสร้างเขื่อนนี้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย
    5 ปีนะครับถึงจะเสร็จ วัสดุเรามีอยู่แล้วครับ ทราย กรวด หิน ซีเมนต์ ไม่ต้องซื้อเลย อยู่ในประเทศ
    ไทยทั้งนั้นเลย เราไม่ต้อง import วัสดุเข้ามา ทำได้ (ขอย้อนกลับไปดูเขื่อนนิดหนึ่งครับ) เขื่อนนี้
    จะสูง6 เมตรครับ จากระดับน้ำทะเลครับ ตรงกลางเป็นสันเขื่อน เป็นซีเมนต์ครับ ข้างล่างนี้เป็นดิน
    กับกรวด ทราย แล้วข้าง ๆ นี้ ข้างนอกปลูกเป็นระบบนิเวศน์ น้ำตรงนี้ก็ไม่ลึกครับ น้ำก้นอ่าวไทยตื้น
    มาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งในวันเฉลิมพระชนมพรรษาว่า กองทัพเรือ อย่าซื้อเรือดำ
    น้ำเลย ดำไปก็ไปชนเลน มันตื้น อ่าวไทยมันตื้นครับ เรือดำน้ำ ดำไปนิดเดียว เรือบินก็ยังมองเห็นอยู่
    ว่าเรือดำน้ำอยู่ตรงไหน มันตื้น หนีไม่พ้นหรอก มันต้องออกไปโน้น ออกเลยอ่าวไทยไปโน้น ถึง
    จะลึกนะครับ ไม่ทราบทหารเรือมีในที่นี่รึป่าว เดียวโกรธผมอีก อย่าไปซื้อเลยครับเรือดำน้ำ ดำ
    ไปเดี๋ยวไปเจอเลนแล้ว ดึงไม่ขึ้นตายหมดนะครับ เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องสร้างเขื่อนนี้ป้องกัน
    ไม่ให้น้ำทะเลเข้ามา อันนี้เป็นวิธีเดียว (ต่อเลยครับ)
    นี่ก็เป็น ฝรั่งเขาเขียนมานะครับ เขาบอกว่าเห็นด้วย อย่างนั้น น้ำจะขึ้น มีโรคระบาดเยอะแยะ
    ยุงก็จะอายุยืนขึ้น ไข้มาเลเรียก็จะสูงขึ้น โรคร้อนนี่นะครับ อหิวาห์ตกโรค เชื้อโรคมาก สิ่งที่สำคัญ
    ที่สุดก็คือ แสงอุตราไวโอเลต ซึ่งส่องลงมาจากแสงอาทิตย์ซึ่งผ่านชั้นโอโซนเลเยอร์นี่ ซึ่งอยู่ห่างจาก
    ผิวโลก 50 กิโลเมตรนี่ ชั้นโอโซนเลเยอร์นี่จะบางลงจากแก้สพิษที่เราปล่อยออกไปนี่ มันเริ่มบาง ๆ
    ลง บางแห่งมันเป็นรู โดยเฉพาะที่ประเทศออสเตเรียมีรูทะลุชั้นโอโซนนี่มากมาย จนขนาดนี้สถิติ
    การเกิดเป็นมะเร็งผิวหนัง ของประชาชนออสเตเรียนี่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จนรัฐบาลออสเตเรียมีความ
    ตระหนก เพราะว่าแสงอุตราไวโอเลต เวลามันผ่านชั้นโอโซน ชั้นโอโซนมันจะกรองแสงบางส่วนไว้
    แต่ถ้าตรงไหนเป็นรูนี่ มันจะออกมามาก แล้วพอมันกระทบผิวเรานี่นะครับ มันจะทำให้ เซลล์ที่ใต้ผิว
    หนังเรานี่ ถ้าโดนจัง ๆ เข้า บ่อย ๆ เข้ามันจะตาย ตายด้าน แล้วก็จะทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ โดย
    เฉพาะคนที่ผิวขาว ๆ อย่างฝรั่งนี่ ชอบอาบแดด ตากเสื้อกัน เพราะฉะนั้นอันนี้มันจะเป็นโรคที่มีผล
    กระทบต่อชีวิตมนุษย์ของโลก เป็นอย่างมาก อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง (ต่อเลยครับ ) (ผมมีเวลาอีกที่นาทีครับ)
    แผ่นดินไหวนี่ ทำให้เขื่อนแตกได้นะครับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขาไม่เห็นด้วยกับผม ที่จังหวัดกาญจน-
    บุรี มีเขื่อนอยู่ 2 เขื่อน มีเขื่อนศรีนครินทร์ กับเขื่อนวชิราลงกรณ์ ใกล้ ๆ กับเขื่อนนั้น มีรอยเลื่อน
    อยู่ 2 เขื่อน ที่ยัง active อยู่ คือยังมีพลังอยู่ คือรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ กับรอยเลื่อนเจดีย์ 3 องค์
    ประเทศไทยมีรอยเลื่อนอยู่ 13 รอย ที่ยังมีพลังทั้งนั้น แล้วหลังการเกิดซึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม
    2543 เหมือนกับเรามีรอยร้าวอยู่ที่แก้วนี่ 13 รอย แล้วเวลาเกิดซึนามิใหญ่ครั้ง 26 ธันวาคม 2547
    มีคนเอาฆ้อนมาทุบแก้วซึ่งร้าวอยู่นี่ เพราะฉะนั้น พวกนี้มันเกิดขึ้นปุ๊บปั๊บเต็มไปหมดเลย เดี๋ยวนี้
    ประเทศไทย มีสถิติการเกิดแผ่นดินไหว มากขึ้นกว่าเดิมเยอะแยะเลย ผมมีสถิติอยู่ ว่าจะพูด มา
    แล้วไม่มีข้อมูล (ต่อเลยครับ)
    นี่ละครับสถิติของการเกิดแผ่นดินไหว ก่อนการเกิดซึนามิ น้อยนะครับ ไปปี 49-50 นี่หลังจาก
    การเกิดซึนามิ ขึ้นมาเป็นจำนวนมากเลย รอยเลื่อนที่มันจะตายอยู่แล้วนี่ มันคล้าย ๆ กับใครไป
    ปลุกให้มันมี activity ขึ้นมานะครับ เพราะฉะนั้นใครที่อยู่แถวบริเวณรอยเลื่อนนี่ น่าเป็นห่วง ต้อง
    สร้างอาคารบ้านเรือนให้แข็งแรง (ต่อเลยครับ)
    สำหรับกรุงเทพมหานครนะครับ ขู่ไว้หน่อย ว่ามันมีรอยเลื่อนเข้ามาอยู่ 2-3 รอย (ต่อเลยครับ) จะ
    มีผลกระทบไหม (ต่อเลยครับ) นี่ครับ ผลกระทบจะมาจากภายนอกประเทศมากกว่านะครับ (ต่อ
    เลยครับ) นี่ครับรอยเลื่อนที่มันเข้ามากรุงเทพมหานคร 3 รอยเลื่อนนี่ จะทำให้กรุงเทพมหานครมี
    ผลกระทบ (ต่อเลยครับ) ทำไมครับ ทำไมกรุงเทพมหานครจึงมีผลกระทบพอสมควร ถ้าเกิดแผ่น
    ดินไหวใหญ่ ๆ มันเคยมีแผ่นดินไหวใหญ่ที่แสกง เมื่อ 76 ปี ที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวที่แสกง
    ประเทศพม่า ขนาด 8 ริกเตอร์ เมืองทั้งนั้น ทั้งเมืองราบไปหมด มีผลกระทบเข้ามาถึงประเทศไทย
    นิดหน่อย ทำให้แผ่นดินไหวในจังหวัดกาญจนบุรีถึง 5.9 ริกเตอร์ เพราะประเทศไทยตั้งอยู่บนดิน
    เหลว การที่มีคลื่นแผ่นดินไหวมากระทบ พื้นที่ ที่อยู่บนดินเหลวนี้ มันจะมีพลังงานขยายกำลังอัตรา
    การเร่ง อัตราการเกิดแผ่นดินไหวให้รุนแรงขึ้นนะครับ ขนาดแผ่นดินไหวเท่ากัน ถ้าเกิดบนหินนิด
    เดียว บนดินเหลวนี่สูงมาก บนทรายยังน้อยหน่อย แต่ปริมาณแผ่นดินไหวนี้ สูง แล้วก็ยังไหวนาน
    อีกครับ ไหว 10 second อย่างนี้ (10 วินาที) พวกนี้ทำให้ตึกพังนะครับ อันตรายมาก โดยเฉพาะ
    ตึกสูง ๆ (ต่อเลยครับ)
    นี่ครับ พูดแล้วไม่มีข้อมูลไม่ได้ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2503 แผ่นดินไหวนอกประเทศไทยนะครับ
    ทำให้ตึกในประเทศไทยนี่ ตึกสูง ๆ (ตึกนี้) ร้าวนะครับ (นี้รอยร้าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดใช่ไหม
    ครับ) (ต่อเลยครับ) นี่นะครับ ตึกร้าวเยอะหลายตึก ร้าวฝาผนังไม่เป็นไรนะครับ แต่ถ้าร้าวคานนี่
    ท่านอยู่ที่ตึกสูง ๆ นี่ ถ้าคานร้าว เสาร้าวนะครับ ตัวใครตัวมันเลยนะครับ ท่านอย่าไปรอเลย อย่า
    ให้ใครเขามาขุดท่านขึ้นมานะ เสียเวลามาก วิ่งออกไปข้างนอกก่อนนะครับ (ต่อเลยครับ)
    นี่แหล่ะครับ อันนี้ที่จะพูดถึง รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ กับรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ แล้วมีเขื่อนอยู่ 2 เขื่อน
    นะครับ เขื่อนศรีนครินทร์ กับเขื่อนวชิราลงกรณ์ ตรงนี้แหล่ะครับ ผมยังทะเลาะกับการไฟฟ้า
    ฝ่ายผลิตอยู่ไม่หาย เพราะทุกครั้งที่ผมไปบรรยายที่จังหวัดกาญจนบุรี ผมก็บอกว่า ต้องระวังนะ
    การไฟฟ้าเขาบอกว่า เขาสร้างเขื่อนไว้ทนทานได้ถึง 7 ริกเตอร์ ผมบอกเราไม่รู้หรอก แผ่นดินไหว
    แล้วเราจะไปบอกว่า มันจะไหวแค่ 7 ริกเตอร์ มันไม่ได้ ที่เปรู เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว มันไหวไป 7.3-
    7.4 ถ้ามันไหวเกินนั้น แล้วเขื่อนนี้แตกแล้วทำยังไง ผมทำ simulation มาให้ดู โดยอาจารย์จาก
    เอที ข้าง ๆ บ้านท่านนี้แหล่ะ
    แผ่นดินไหวนี่นะครับ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา น้ำในระยะแรกจะมาแค่นี้ครับ ท่วมนครปฐมนะครับ
    นี้แหล่ะแถวนี้แหล่ะท่วมหมด เพชรบุรี นะครับ น้ำจากเขื่อนนี่ ภายใน ประมาณ 2 ชั่วโมง (ต่อเลยครับ)
    แล้วจะมาถึงกรุงเทพประมาณ 4 ชั่วโมงครับ นี่คือพื้นที่ ที่น้ำจะต้องท่วม เรามีระบบเตือนภัยไหม
    ไม่มีเลย เราไม่เคยสร้างระบบเตือนภัย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตไม่เคยสร้างเลย เอาน้ำ ทรัพยากรธรรม-
    ชาติ ไปเก็บไว้ในเขื่อน ปล่อยน้ำออกมาทางไฟฟ้า เสร็จแล้วมาเก็บเงินพวกเราอีก ผมก็บอกท่าน
    ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิต บอกว่าท่านคืนกำไรให้ประชาชนมั่งสิ มาตั้งระบบเตือนภัยไว้ในตามจุดต่าง ๆ
    ที่น้ำจะท่วมนี้ บอกเขาสักนิดหนึ่ง ว่าเวลาเขื่อนท่านแตกนี่ น้ำจะไปถึงตรงนั้นเท่าไหร่ สูงเท่าไหร่
    อีกทีนาที ถึงจะถึง ท่านก็บอก ท่านจะเก็บเงินที่ได้กำไรไปทำสนามกอล์ฟ บนเขื่อนไว้ให้พวกท่าน
    เล่นก่อน จนเสร็จแล้ว ท่านถึงจะมาให้ประชาชน อันนี้ก็ฟ้องท่านไว้นะครับ เขาก็จะไปปิดไฟที่
    บ้านผมไว้ อยู่เรื่อยเลยก็ต้องระวังนิดหน่อย ครับ ผมไม่มีเวลาครับอาจารย์ จะไปเรื่องซึนามิอะไร เดี๋ยว
    จะไปรบกวนพระคุณท่านเปล่า ๆ ผมเอาไว้วันหลังค่อยมาใหม่ ครับ ขอขอบพระคุณนะครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->"คนที่ไม่เคยเจออุปสรรค คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย"<!-- google_ad_section_end -->
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nakamura : 23-12-2007 เมื่อ 01:02 PM
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("871025")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead">Nakamura</td> </tr> <tr><td class="vbmenu_option">ดูรายละเอียดของ</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ Nakamura</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ Nakamura</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Add Nakamura to Your Contacts</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Nakamura Donation Stats</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option"> View Nakamura's Videos </td></tr> </tbody></table>

    [/LEFT]
    [/LEFT]
    [/CENTER]
    <table id="post871081" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 18-12-2007, 04:58 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right">
    </td></tr></tbody></table>
     
  7. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post871149" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 18-12-2007, 05:40 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #12 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sutatip_b<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_871149", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    ข้อความ: 3,088
    พลังการให้คะแนน: 2810 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_871149" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->แกะสมบูรณ์แล้วจะลงให้อีกค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->ภัยพิบัติทางอารมณ์ พระอาจารย์ใหญ่ วัดแจ้งเมืองเก่า ปราจีนบุรี
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1">ภัยพิบัติทางอารมณ์ พระอาจารย์ใหญ่ วัดแจ้งเมืองเก่า ปราจีนบุรี <o></o>
    แกะบันทึกเสียงแบบคร่าวๆ ผิดพลาดขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว สุธาทิพ<o></o>
    <o></o>
    ขอ เจริญพรญาติโยมทุกท่าน ทั้งผู้ที่มีความเกี่ยวข้องติดตามเรื่องภัยพิบัติของโลก และผู้ที่อยากรู้อยากเห็นในเรื่องดังกล่าว ทราบมาหลายส่วน จากคำทำนายและอื่นๆก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป โลกมีน้ำ ๓ ส่วนมีดินหนึ่งส่วน มีมนุษย์ ๖ พันล้านคน ดร.สมิทธพูดถึงภัยตามตะเข็บประเทศ ดร.ซิลวิโอพูดถึงอาวุธนิวเคลียร์ที่จะมาประหัตประหารกัน เพื่อต้องการเป็นใหญ่นั่นเอง<o></o>
    <o></o>
    เรื่อง สึนามิจริงๆเกิดมานานแล้ว แต่คนไทยเพิ่งประสพหนักๆปี ๔๗ คนตายไปมากพอควรทั้งไทยและเทศ ภัยพิบัติเกิดจากธรรมชาติและจากการกระทำของมนุษย์ ที่เอาทรัพยากรของโลกมาบำรุงบำเรอตัวเองมากเกินไป <o></o>
    <o></o>
    ภัย พิบัติทางสังคม มีศาสนามากมาย ทุกศาสนาพูดถึงมนุษย์ พุทธศาสนากล่าวว่ามนุษย์มีตัวตนจากดินน้ำลมไฟ เอาดวงจิตมาประกอบทำให้เกิดปรุงแต่งอารมณ์ขึ้นมา อาการเกิดของดวงจิต เกิดความรู้ จิตมี ๑ ดวง แต่อาการเกิดของดวงจิต มีอย่างต่ำ ๘๙ อารมณ์มี อย่างมาก ๑๒๑ อารมณ์ น้อยไปมากไปก็เพี้ยนหรือบ้า <o></o>
    <o></o>
    ศาสนา พุทธถือว่าร่างกายเป็นตัวรอง พลังจิตเป็นตัวตั้ง ต้องมีศีลบริสุทธิ์ืเป็นตัวตั้งพลังจิตจึงจะบริบูรณ์ อารมณ์ไม่เศร้าหมองจึงจะมีพลังจิตที่เหนือดินน้ำลมไฟ<o></o>
    <o></o>
    ศีล มี ๕ ประเภท ศีล ๕ คน ศีล ๘ ชี ศีล ๑๐ของเณร ศีลของพระ ศีลของภิกษุุณี ศีลบริสุทธิ์เท่าไรจะทำให้พลังจิตแรงกล้ามากเท่านั้น มวลชนให้ถือศีล๕ ถ้าบริบูรณ์พลังจิตจะเริ่มเข้าสู่การฝึกสมาธิและกรรมฐานได้ดีขึ้น สร้างอารมณ์ จิตหลับหรือตื่น เศร้าหมองหรือไม่เศร้าหมองจิตเป็นตัวกำหนด คนตื่นมีมารยา แปลว่าหลอกลวง หลับไม่มีมายา ไม่มีการปรุงแต่งทางอารมณ์<o></o>
    <o></o>
    คน จะอยู่ในโลกอย่างเป็นสุขคนไม่ปองร้าย ไม่อาฆาตไม่พยาบาท มีความปรารถนาดีต่อกันก็จะสงบสุข ถ้าโลกอยู่ในศีล ๕ ไม่ต้องมีตำรวจ มนุษย์เกิดมารับกรรม สร้างกรรม บำเพ็ญบารมีต่อ คนเกิดมาแตกต่างกันที่กรรม กรรมที่ทำดีช่วยเหลือคน เป็นบุญ ถ้าทำความเดือดร้อนเสียหาย เป็นบาป กรรมเป็นตัวบอกว่าจะเกิดความเศร้าหมองหรือไม่ ปิติหรือไม่<o></o>
    <o></o>
    ภัย พิบัติเกิดแน่นอน มนุษย์ไม่ต้องการภัย ลูกหลานจะอยู่ยังไง เราต้องช่วยกันให้โลกรอดเพื่อรองรับพระศรีอารย์ เพื่อนไดโนเสาร์ที่เหลือถึงปัจจุบันคือแมงมุม เราไม่ต้องการให้ตายหมด มนุษย์สร้างอาวุธเพราะอยากใหญ่ไม่มีศีล<o></o>
    <o></o>
    มหา เถระหลายรูปมองว่ามิติปัจจุบันจะเกิดภัย มนุษย์จะเกิดมหันตภัย พุทธศาสนาให้ถือศีล สร้างพลังจิต ไม่อาฆาต ไม่ปองร้าย ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ไม่แข่งขันมาก จะร่มเย็น
    <o></o>
    ปัจจุบันภัยทางอารมณ์มีมาก จากอาหารที่บริดภคเข้าไปหรือการสั่งสอน? แข่งทางวัตถุเป็นตัวตั้ง การแข่งขันเป็นภัยทำให้เดือดร้อน เป็นภัยพิบัติทางอารมณ์ บ้างไม่มีจะกิน บ้างมีเป็นร้อยล้านกินกี่ร้อยชาติก็ไม่หมด คนฉลาดกอบโกยมาก คนหัวช้าไปไม่ทัน <o></o>
    <o></o>
    อาตมา คุยกับหมอสมพนธ์เวลาไปป่วยที่วิชัยยุทธ คุยว่ามีภัยทางอารมณ์ สมมุติว่ามีคนฝันถึงหลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นตำนานหรือไม่ อาตมามาพบราว ๒๕๓๐ ได้ยินจากหลวงปู่เกษม เขมโก เล่าว่าหลวงปู่เทพฯดูแลโลก เป็นพระสยามเทวาธิราชฝ่ายสงฆ์ มาพบเองราว ๒๕๔๐ ตามฝันว่าท่านถูกมอบหมายให้มาสนับสนุนผู้ปฏิบัติธรรม ท่านจะไปส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมทั้งสงฆ์และฆราวาส หลวงปู่เทพฯไปปรากฏที่กาญจนบุรีเมื่อ ๔๘ อาตมาฝันว่าทำไมอุกกาบาตผ่านมาแล้วเยอะ ลูกละ ๗-๘ กิโลเมตรทำไมจึงเบนไปได้ ที่ฝรั่งคำนวณเขาทำนายมันไม่ตรง ฝันว่ามีพระเถระที่จะประคองโลกน่าจะเป็นหลวงพ่อเทพฯสร้างมิติ สร้างพลังจิตให้มีอำนาจ ดินน้ำลมไฟจะได้อ่อนแรงลง<o></o>
    <o></o>
    ที่วิชัยยุทธ ผู้ใดปฏิบัติธรรม มีมิติที่ฝันว่าท่านปกปักรักษาท่านจะช่วย ถือศีลปฏิบัติธรรมจะมีพลังจิต<o></o>
    <o></o>
    แล้ว เทพ เทวดาล่ะ มนตด ด้วย ลงที่กระบี่ พังงา นครสวรรค์ โคราช เชียงราย ปราจีนบุรี ช่องพลังงานให้เขาลงมีประมาณ ๒๐ แห่ง เขากะลาเป็นตัวรับสัญญาณ บ้างรับสัญญารได้ บ้างเรียกได้ ใครเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวบ้าง หมอเทพนม ดร. อาจอง มาหรือเปล่า<o></o>
    <o></o>
    อาตมา ฝันเพิ่ม ๓๐ วันก่อนมีปรากฏมนุษย์ต่างดาว มีความเร็วเป็นร้อยเท่าของคลื่นสมองมนุษย์ รู้หมด ว่ายานจะไปดวงจันทร์จะทำอะไร มนุษย์ต่างดาวเท่าที่สัมผัสไม่กินอาหาร ไม่มีลำไส้ ตามีร่องตาเล็ก ไม่มีจมูก เปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่าเทวดา สูงสักร้อยสี่สิบ ซม บางทีมาไวมากหล่นมาเป้นกระดาษแผ่นเดียว<o></o>
    <o></o>
    ตอนนี้มนุษย์กลัวภัยพิบัติ จึงโยงเทวดา และมนุษย์ต่างดาวเต็มไปหมด ภัยเกิดแน่ถ้าเราไม่รักษาอารมณ์ ดีที่สุดคือสร้างพลังจิต ทำใจให้ดี<o></o>
    <o></o>
    ภัย จะมาแล้ว วันที่ ๒๓ ประเทศไทยจะวุ่นวายกันนิดหนึ่ง วุ่นวายเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดี ต้องสร้างพลังจิตในมิติเลือดเนื้อให้บริสุทธิ์<o></o>
    <o></o>
    หมอ ดูทำนาย... จากหลักคำนวณ บ้างมีฌานสมาบัติ ผ่านขบวนการมหาเถระ เราขัดไม่ได้ ก็ต้องฟัง ภัยจะเกิดต้องรักษาอารมณ์ เรื่องใดๆพระจะพูดต้องอิงพระไตรปิฏก ถ้ารู้เห็นมากก็ไม่ดี<o></o>
    เรื่อง อำนาจพระมหาเถระ ร.๕ กษัตริย์สมัยทวาราวดี สุโขทัย อยุธยา หลวงปู่ทวด ทุกท่านมีพลังมาก ไปจุติแล้วแต่พลังท่านยังปกปักรักษาโลกอยู่ รอพระศรีอารย์มา พระพุทธเจ้าบอกว่าพระศรีอารย์จะมาเกิดโลกใบนี้ ไม่ใช่โลกอื่นๆ ตรัสรู้ในธรรมะข้อเดียวกัน มาเกิดที่อินเดียที่สกปรก รวมชนชั้น จะมาเกิดที่สุวรรณภูมิ ประเทศอินเดียในโซนนี้ ขอให้รักษาอารมณ์ ดูดวงจิตตัวเองสร้างพลังจิต โลกจะอยู่เป็นสุขถ้วนหน้ากัน ขอเจริญพร<o></o>
    <o></o>
    </td></tr></tbody></table>
     
  8. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post871166" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 18-12-2007, 05:47 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #14 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sutatip_b<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_871166", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    ข้อความ: 3,088
    พลังการให้คะแนน: 2810 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_871166" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->สารจากจักรวาล

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1">[FONT=&quot]สาส์นจาก เคอร์-คราย-ตัม หรือ เคอร์-คู-เดียน หรือ จิตรู้ [/FONT]

    Energy Spirit : [FONT=&quot]จากจักรวาล สำหรับสื่อในงานสัมมนาวิชาการ ภัยพิบัติและการเตรียมการ 16 ธค. 50[/FONT]

    [FONT=&quot]บันทึกบ่ายวันพุธที่ 12 ธันวาคม 2550 โดยข้าพเจ้า (เพื่อน ดร. สุธาทิพ) ดังนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]๑)[FONT=&quot]มนุษย์ทุกคนต้องมีสติปัญญา ผู้มีสติปัญญาเท่านั้นจึงจะรอดพ้นภัยพิบัติได้[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๒)[FONT=&quot] การเกิด-ดับของโลกและจักรวาล มีทุกยุคทุกสมัย จักรวาลไม่เคยเหมือนเดิม เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกับพวกเราทุกคน จึงอย่าไปให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของโลก จักรวาลไม่ได้มาติดต่อเพื่อให้วิตกกังวล มากเกินไป[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๓)[FONT=&quot]แม้น ว่าคุณเผชิญวิกฤติแล้ว โลกเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่จิตวิญญาณคุณจะยกระดับสูงขึ้น ไม่ต้องไปกังวลกับการแตกดับของกายเนื้อ เพราะถ้าโลกเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็อยู่แบบ 4 ขันธ์ได้ (ไม่มีรูปขันธ์) แบบเทพ-พรหมทั้งหลายจนกว่าจะนิพพาน[/FONT][/FONT]

    อย่าให้ความกลัวจากความไม่รู้ ไปสร้างคลื่นพลังงานความกลัวออกไปรวมตัวในจักรวาล แล้วสะท้อนกลับมาโลกมนุษย์ แบบเดียวกับภาวะเรือนกระจก<o></o>
    <o></o>

    เมื่อจิตรู้จากจักรวาลสื่อมาถึงตรงนี้ ข้าพเจ้า(ผู้บันทึก) ได้กล่าวแทรกขึ้นมาว่า พระอาจารย์สุวัฒน์ สุวฑ<sub>.</sub>ฒโน สำนักปฎิบัติธรรมพุทธมงคล ต.ท่าเกวียน อ. วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพิ่งจะให้คติธรรมว่าด้วยเรื่องของชีวิต กรรม ความเจ็บป่วยและความตายแก่ข้าพเจ้าเมื่อวานซืนนี้ว่า ความมีชีวิตอยู่ของเราไม่ได้อยู่ที่กายเนื้อ แต่อยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก ดังนั้นจงอย่าไปใส่ใจกับกายเนื้อให้มากเกินไป แม้จะเจ็บป่วยแค่ไหน เพราะตราบใดที่เรายังหายใจได้ ตราบนั้นเรายังมีชีวิตอยู่ ถ้าเรายังหายใจอยู่เรื่อยๆ กรรมที่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็จะเบาบางลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดไป โรคภัยไข้เจ็บก็จะหมดไปเอง ข้าพเจ้าได้โยนิโสมนสิการให้ลมหายใจเข้าเป็นลมแห่งพุทธบารมี เป็นลมหายใจแห่งการเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นลมหายใจที่เข้าไปซักฟอกธาตุขันธ์ให้บริสุทธ์ เมื่อหายใจออกมาให้เป็นลมหายใจออกเพื่อการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลต่อสรรพ ข้าพเจ้าจึงได้กล่าวกับท่านเคอร์-คู-เดียน ว่า หากทุกลมหายใจเข้า-ออกของข้าพเจ้าเป็นอยู่เช่นนี้แล้วข้าพเจ้าก็พร้อมตายได้ ทุกเมื่อ เช่นนี้ใช่หรือไม่ ท่านก็ตอบว่า สิ่งที่จักรวาลปรารถนาให้มนุษย์ทุกคนได้ปฎิบัติคือสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังปฎิ บัติอยู่นั่นเอง และขอให้ข้าพเจ้าทำหน้าที่ทูตสวรรค์สื่อผ่านข้อความเหล่านี้ในงานสัมมนาภัย พิบัติและการเตรียมการด้วย<o></o>

    [FONT=&quot]จากนั้นข้าพเจ้าได้ซักถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ทราบมาว่า [/FONT]-[FONT=&quot]เคอร์-คู-เดียน เป็นชื่อแรกที่ใช้สื่อกับมนุษย์[/FONT] [FONT=&quot]หมายถึง [/FONT]Energy Spirit เป็นพลังงานบริสุทธ์ ในจักรวาล ไม่มีตัวตน
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->[FONT=&quot]
    [/FONT]
    </td></tr></tbody></table>
     
  9. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post872115" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 19-12-2007, 05:38 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #25 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Rattanaporn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_872115", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    สถานที่: ...ไม่เคยมีอยู่จริง...
    ข้อความ: 1,180
    พลังการให้คะแนน: 1759 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_872115" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->พระอาจารย์สุวัฒน์ สุวัฒโน<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->พระอาจารย์สุวัฒน์ สุวัฒโน
    บรรยายในหัวข้อเรื่องภัยพิบัติและการเตรียมการ
    (ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวพันกับทางด้านการปฏิบัติทางจิต เรื่องสัมมาทิษฐิ)

    ....................................................................................



    ขอกราบครูบาอาจารย์ พระอาจารย์ประจักษ์ และก็ขอเจริญพรต่อ สาธุชนคนดีทั้งหลายที่
    กำลังรับฟังอยู่ ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่อาตมาภาพได้มาร่วมกับท่านทั้งหลายในวันนี้ ซึ่งทุกท่านก็ล้วนแต่
    เป็นผู้ที่หวังความเจริญ หวังความสงบ หวังสันติภาพ ให้มันเกิดขึ้นกับโลกของเรา ซึ่งที่ท่านทั้งหลาย
    ได้ฟังแล้วเมื่อเช้านี้ ก็ถือว่า เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก สิ่งทั้งหลายจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ท่าน
    ทั้งหลายจะทำได้ก็คือป้องกัน

    ทำอย่างไรถ้าเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น เราจะช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไร ตรงนี้สำคัญ อยากจะ
    ฝากท่านทั้งหลายไว้ตรงนี้ว่า ธรรมมะของพระพุทธเจ้า สามารถช่วยเหลือได้ อาตมาภาพปฏิบัติธรรมมา
    ถือว่าสร้างประโยชน์ตน ได้ถึงพร้อม แล้วก็เข้าใจในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ พร้อมที่จะนำคำสั่งสอน
    นั้นมาประกาศให้กับท่านทั้งหลาย ได้รับทราบแล้วก็ปฏิบัติตาม สามารถที่จะหลุดพ้นจากวิกฤตินี้ได้
    ขอให้ท่านทั้งหลายได้ตั้งใจฟังนะ

    เหตุการณ์จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น ตรงนั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ว่า ท่านทั้งหลาย
    จะอยู่ได้อย่างไร หลายท่านรู้ เข้าใจแต่ยังทำไม่ได้ วิธีป้องกัน หลักคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้น อยากให้
    ท่านทั้งหลาย ป้องกันตัวเอง ช่วยเหลือตัวเอง เราต้องทราบก่อนว่า มนุษย์นี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร อะไร
    เป็นแก่นสารของชีวิต ชีวิตอยู่ได้อย่างไร ตรงนี้สำคัญนะ พวกเรามีสิ่งสำคัญอยู่ 3 อย่าง ฟังให้ดีไม่ต้องจำ
    ก็ได้ 3 อย่างนี้คืออะไร

    1. คือพ่อแม่ของเราเอง ถ้าเราไม่มีคุณพ่อคุณแม่ เราก็ไม่สามารถที่จะเกิดได้ ถูกมั้ย นี่คือความจริง
    พวกเราต้องทดแทนบุญคุณ กตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ไม่ว่าชาติใดศาสนาใด ล้วนสอนคล้าย ๆ กัน
    2. คือออกซิเจน ลมหายใจ ทำให้เรามีชีวิตอยู่รอดได้ คือลมหายใจคือออกซิเจน
    3. อาหาร เป็นยาบำรุงร่างกายของพวกเราเอง

    *3 อย่างนี้สำคัญที่สุด สำหรับชีวิตของทุกคน นี่คือความจริงนะ จะอยู่รอดหรือไม่รอดอยู่ตรงนี้นะ
    1 คือพ่อแม่ของเราเองสำคัญที่สุด เพราะทำให้เราเกิดขึ้นมา อันที่ 2 คือลมหายใจหรือว่าออกซิเจน
    ทำให้เรามีชีวิตอยู่รอด ชีวิตนะ ไม่ใช่ร่างกายนะ ดวงจิต ชีวิตของเราอยู่รอด ถ้าเราหายใจเข้า ไม่ออก
    ก็ตาย หายใจออก ไม่เข้าก็ตาย คือชีวิตดับเพราะลมดับ เห็นความจริงนะ เป็นจริงนะ สิ่งนี้เป็น ความจริง
    แต่สิ่งที่ง่าย ๆ อย่างนี้แหล่ะ แต่พวกเรายังไม่เข้าใจ เพราะพวกเรานึกว่าไม่ได้อาศัยมัน นี่แหล่ะสำคัญ
    ยิ่งใหญ่เลยแหล่ะ พ่อแม่กับลมหายใจนี่แหล่ะที่จะอธิบายให้ฟังต่อไปนี้ ส่วนอาหารนั้นเป็นแค่ยาบำรุง
    ร่างกาย ลมหายใจ บำรุงจิตทำให้มีชีวิตอยู่รอด อาหารนั้นเป็นยาบำรุงร่างกายทำให้ร่างกายของเราเกิด
    การพัฒนา เจริญเติบโต นี่คือความจริงนะ อาตมาภาพค้นวิชานี้มาได้สำเร็จ ลมหายใจนี้พระพุทธเจ้า
    ของเราใช้คำว่า อาณาปาณสติ* อันบุคคลใดเจริญให้มากแล้ว ทำให้มากแล้ว มีผลใหญ่ มีอานิสงค์ใหญ่

    ตัวนี้จะเชื่อมร้อยกับคำวิธีแก้ ผลและอานิสงค์อยู่ตรงไหน
    1. ทำให้เราสามารถตรวจสอบร่างกายได้ว่ามีโรคภัยไข้เจ็บอะไรอยู่
    2. สามารถรักษาโรคนั้นได้ นี่คือลมหายใจนะ


    ถ้าสงสัยแล้วรีบถาม ถามได้เลยตลอดเวลาตรวจสอบร่างกายได้ รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้
    แล้วใช้หนี้กรรมได้ ลมหายใจนี่แหล่ะ อาณาปาณสตินี้แหล่ะ ทำให้อายุยืนยาว แล้วก็ เกิดปัญญาสูงสุด
    หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด ในอาณาปาณสติ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ยอดเยี่ยมที่
    สุดก็คือ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ เกิดปัญญาสูงสุด ดับอวิชชาทั้งหลายทั้งปวงได้ ทำไมถึง
    บอกว่าตรวจสอบร่างกายได้ พลังชีวิตของเรานั้นนะ การหายใจเข้า หายใจออกแต่ละครั้ง เป็นการขับ
    เคลื่อนพลังชีวิตของเรา ที่มันหมุนไปตลอดเวลา ทุกขณะที่หายใจเข้า หายใจออก มันก็เหมือนกับลูกตุ้ม
    นาฬิกาที่มันเขวี่ยงไปเขวี่ยงมา แล้วทำให้เข็มนาฬิกามันค่อย ๆ หมุน ติ๊ก ๆ ๆ จากวินาทีเป็นนาที
    จากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวัน จากวันเป็นเดือนเป็นปี หมุนไปเรื่อย หมุนไปเรื่อย แล้วมัน
    ทำให้ขับเคลื่อนพลังชีวิตพลังจิตของเราสั่งงานเรา สั่งร่างกายให้ทำโน้น ให้ทำนี่ เขาเรียกว่า กรรม ทุกคน
    ล้วนเกิดแต่กรรม กรรมดีหรือกรรมชั่วที่พวกเราทำไว้ในอดีตที่ส่งผลมา พวกเรา ร่ำรวย ยากจน ก็เพราะ
    ผลของกรรม พวกเรามีความสุขความทุกข์ ก็เพราะผลของกรรมที่พวกเราทำ จริงไม่จริง ตรงนี้อันนี้เป็น
    เรื่องจริงนะ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธตรงนี้ เป็นเรื่องจริง

    นี่แหล่ะการหายใจเข้าหายใจออกแต่ละครั้งเนี้ย ส่งผลให้พวกเราได้แสดงกรรม ทุกวันนี้
    พวกเรากำลังนั่งแสดงกรรมของพวกเราอยู่ กรรมมันแสดงอยู่ตลอดเวลา วิบากของกรรมนั้นแสดง เขาเรียก
    กรรมคือการแสดง มันส่งผลของกรรมตลอด เดี๋ยวพวกเรามีอารมณ์โกรธเกิดขึ้น พวกเราก็ทุบตีข้าวของ
    ทำลายกัน อารมณ์โกรธมันเกิดขึ้น นั่นคือกรรม ที่เราทำความชั่วเกิดขึ้น เพราะว่าจิตมันส่งมา วิบากกรรม
    ทำให้เราเป็นเช่นนั้น นี่คือความจริง นี่แหล่ะ

    หายใจเข้าหายใจออก หายใจเข้าหายใจออกแต่ละครั้ง มันทำให้เราต้องทำโน้นต้องทำนี่
    อยู่ตลอด แต่พวกเราไม่เข้าใจ เพราะขาดสตินะ ตรงนี้มันขาดสติ ไม่ได้พิจารณาอย่างถ่องแท้ อาตมาภาพ
    ใช้วิธีนี้รักษาโรคโดยไม่ต้องใช้ยา ไม่ว่าจะเป็นไมเกรน เบาหวาน ความดันต่าง ๆ โรคทั้งหลายสามารถ
    รักษาได้ด้วยวิธีนี้ แต่รักษาอย่างไร ไม่มีเวลาที่จะอธิบาย เพราะจะกินเวลาคนอื่น ถามได้ตลอด ไปถาม
    ข้างล่างได้ หรือว่าสงสัย ถ้าอยากให้อธิบาย ก็ถามได้นะ สามารถรักษาโรคได้ เราไม่ได้ดูถูกดูแคลนหมอ

    แต่อาตมาต้องการให้ต่างชาติมาศึกษาที่ประเทศไทย ใช้หลักของพุทธศาสนา อยากให้เขามาเรียนที่เรา
    ไม่ใช่หมอเราไปเรียนที่เขา วิธีนี้วิชานี้ นักวิทยาศาสตร์ยังค้นไม่พบ อาตมาภาพเป็นพระ ค้นพบค้นเจอ
    ถึงจะกำลังเอามาแก้ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น วิธีนี้สามารถหยุดได้ หยุดอาหารได้ โดยไม่ต้องทานข้าวได้
    7 วัน 9 วัน เพราะทำมาแล้ว ลูกศิษย์ลูกหาทำได้แล้ว ไม่ต้องกินข้าว กินแต่น้ำเปล่า ๆ ธรรมดา อยู่ได้ถึง
    7 วัน ไม่มีความหิวไม่มีความกระหาย โรคภัยไข้เจ็บสามารถสำรอกออกได้หมด โดยไม่ต้องใช้ยา นี่คือ
    ความอัศจรรย์ของธรรมมะ อย่างเดียวล้วน ๆ ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ใช่หมอไม่ดีไม่เก่ง แต่นี่คือวิธีใหม่ ที่ทุกคน
    น่าสนใจ น่าจะเข้ามาศึกษา ไม่ใช่ให้เชื่อ แต่ให้พิสูจน์

    อาตมา มาที่นี่เพื่อให้ทุกคนพิสูจน์ ไม่ใช่ให้มา
    พูดให้เชื่อ ให้พิสูจน์ได้ทุกเรื่อง แม้แต่ความโลภ ความโกรธ ความหลงทั้งหลาย ที่มันอยู่ในจิตใจของท่าน
    สามารถสำรอกออกได้เหมือนกัน ทำไมถึงบอกว่าสามารถสำรอกออกได้ เพราะทุกคนมีกรรม การชดใช้หนี้
    กรรม ก็คือทำให้เราสงบนั่นเอง กรรมชั่วทำให้พวกเราวุ่นวาย กรรมดีทำให้พวกเราสงบเย็นสบาย
    ทาน ศีล ภาวนา เป็นกุศลที่สามารถชดใช้หนี้กรรมได้

    การหายใจเข้าหายใจออกนี้ เป็นวิธี
    สร้างกุศลมหาศาลให้เกิดขึ้น พวกเราโดนหลอกมาเยอะแล้ว ที่เอาเงินเอาทองไปทำบุญมากมายก่ายกอง
    พวกเรามีเงินเยอะ ๆ ก็เก็บไว้ได้ แต่ว่า ถ้าจะบำรุงพุทธศาสนา บำรุงชาติบ้านเมืองของเรา สมควรที่จะ
    เจียดออกมาช่วยกัน เพื่อพัฒนา อย่างสังคมแบบนี้ น่าจะเกิดขึ้นเยอะ ๆ เพื่อป้องกันภัยพิบัติ การให้ทาน
    เป็นการดี แต่ถ้าพวกเราจะใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ภาวนาทุกเช้าค่ำ หายใจเข้า หายใจออกนี่แหล่ะ มีวิธีรักษา
    โรคทุกอย่าง ค่อยศึกษานะ พร้อมที่จะให้คำชี้แนะตลอดเวลา นี่แหล่ะมันจะแก้ปัญหาภัยพิบัติได้ เพราะเรา
    ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งหมอ พึ่งใคร เพราะสงครามเกิดขึ้น ภัยพิบัติเกิดขึ้น หมอเองก็เอาตัวไม่รอด หมอเองก็
    อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น พวกเราเองต่างหากที่จะพึ่งตนเอง ง่ายที่สุดก็คือ พิจารณาดูลมหายใจของเรา และก็
    ฝึกฝนตัวเอง ให้อยู่ได้โดยไม่ต้องทานข้าวสัก 7 วัน เริ่ม 3 วัน 5 วัน 7 วัน 9 วัน ไม่ตาย เชื่อได้ไม่ตาย
    หมอบอกว่าจะเป็นโรคไต อาจารย์ทำมาแล้ว ไม่เป็นไร พวกเรากลัวไปเอง เพราะอะไร ก็เหมือนปัจจัย 4
    นั้นแหล่ะ

    ที่พวกเราโดน เขาเรียกว่าโดนครอบงำด้วยอวิชชา คือความไม่รู้มาโดยตลอด ต่อไปนี้อยากให้
    พวกเราเกิดปัญญา ให้รู้จริงในชีวิตของพวกเราเองนะ รู้สัจจะ รู้ความจริง ที่มีอยู่นั่นแหล่ะ ในชีวิตของทุกคน
    นะ

    เรื่องวิญญาณ เรื่องอะไรต่าง ๆ นั่นนะมีมากมายก่ายกอง แต่มันยังไม่จำเป็น มีเยอะ ถ้า
    อยากสัมผัสกับวิญญาณต่าง ๆ ได้ด้วยลมหายใจนี่แหล่ะ วิธีนี่แหล่ะ อาณาปาณสตินี่แหล่ะ แต่ไม่ใช่
    ประเด็นที่เราจะมาพูดกันวันนี้ ประเด็นที่จะมาพูดในวันนี้ก็คือ เอาอย่างไร ที่จะเอาตัวรอดได้จากภัยพิบัติ
    ที่จะเกิดขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นหมดแหล่ะ พระพุทธเจ้าของเราสอนไว้ เป็นจริงทุกเรื่อง การันตีได้ คำสั่งสอน
    ของพระพุทธเจ้าล้วนแต่อัศจรรย์ ความอัศจรรย์ยังมีอีกมากมายที่พวกเรายังไม่เข้าใจ ยังไม่เห็น แต่
    พระอริยสงฆ์ทั้งหลายเห็น เข้าใจนะ สงสัยไหม ลมหายใจทำไมถึงแก้ได้ขนาดนั้น อันนี้เป็นเรื่องจริงนะ
    พิสูจน์นะว่าอาตมาภาพทำไว้แล้ว บางทีอาจจะงง เพราะหมอไม่เคยสอน ไม่เคยได้เรียนสิ่งเหล่านี้ แต่ตั้งแต่
    สมัยพุทธองค์แล้ว ท่านสอนคนก็ไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นแหล่ะ ก็ต้องมาพิสูจน์เอา พิสูจน์ให้เห็นจริง สิ่งนี้เป็น
    เรื่องจริงที่ปรากฏแล้ว พิสูจน์แล้ว 4 ปีที่สามารถถ่ายทอดอยู่ตรงนี้ มีลูกศิษย์ลูกหาสามารถปฏิบัติได้ เข้าใจ
    เรื่องของสัพพวิญญาณ เข้าใจเรื่องของ ชีวิตของสัตว์โลก ตั้งแต่พรหมลงมา เข้าใจ เข้าใจในวิถีชีวิตของสัตว์

    โลกที่มีอยู่ เพราะทุกคนเกิดแต่กรรมทั้งสิ้น เขาเรียกว่า กรรมบันดาลให้เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโม้เล่น ๆ
    แต่อยากให้พิสูจน์


    ต่อไปนี้เนี้ย เมืองไทยน่า จะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำให้กับสังคมเขา เพราะเรามีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น มีสิ่ง
    ดี ๆ อีกมากมายก่ายกอง แต่พวกเราถูกอวิชชาครอบงำ ถูกนักการเมืองทั้งหลาย ที่ไม่เอาไหนมาบริหาร
    ประเทศ ไม่ได้ว่าเขานะ แต่ว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็เลยไม่เกิดการพัฒนา มัวแต่โกงกินกันอยู่นะ
    ไม่ว่าหรอกนะ อยากให้เห็นของจริง รีบมาพิสูจน์นะ มีแน่


    ภัยพิบัติมันมีแน่ แต่เมื่อไหร่ อย่างที่ท่านคุณหมอที่วิชัยยุทธพูดนะ ที่ว่ามีจิตญานต่าง ๆ
    ที่มันเกิดขึ้น ยกตัวอย่างศิษย์ของอาจารย์ ตัวเล็ก ๆ แค่อยู่อนุบาลเนี้ย นั่งบนฐานดอกบัว ไม่ดูยาย
    อาตมาภาพให้ไปดู นี่ด้วย ด้วยวิธีปฏิบัติ ใช้อาณาปาณสตินี้แหล่ะ มันเป็นเรื่องอัศจรรย์ วิธีคลาดเคลี่อน
    แค่ 10 นาทีเอง แต่สิ่งที่เขาโทรศัพท์คุยกันนั้น เป็นจริง นี่คือเห็นจริงอย่างนั้นจริง ๆ นี่คือพลังจิตนะ มี
    จริง มีจริง (ไม่ทราบว่าให้เวลาอาตมาเท่าไหร่) อีก 5 นาทีนะ ถ้ายังไงถ้าสงสัยตรงนี้ ถ้าอยากจะศึกษาให้
    ละเอียดกว่านี้ วิธีการปฏิบัติมีนะ แม้แต่ความหลุดพ้น เรื่องนิพพาน เรื่องการปฏิบัติเป็นเรื่องง่าย ง่ายการ
    พวกเราที่ทำมาหากินด้วยซ้ำไป เพราะพวกเราปฏิบัติ ตั้งใจทำจริง ทำจริงได้จริง ทำเล่นได้เล่น ของจริง
    อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่อยู่ที่คำพูด ไม่ได้อยู่ในตัวหนังสือ ปรากฏจริงที่จิต ปรากฏจริงขณะที่เรากระทำเอง
    เห็นเอง รู้เองเฉพาะตน เกิดขึ้นรักษาเอง ตัวเองได้นะ ก็อยากฝากรอบแรกนี้ อยากให้พวกเราเนี้ยพิจารณา
    ให้ดี อย่าเพิ่งเชื่อ ถ้าอยากจะปฏิบัติ ที่สำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคล (พร้อม) สำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคล
    ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้วนะ (พร้อม)

    ชื่อพระอาจารย์สุวัฒน์ สุวัฒโน สำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคล ต.ท่าเวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

    อาตมาภาพเป็นศิษย์ของหลวงพ่อคง สัตฺมโร ที่เขาสมโพช เชื่อมั้ยหลวงพ่อคงไม่ได้สอนเลย
    แม้แต่คำเดียว แต่อาตมาขอเป็นศิษย์ท่าน ขอเดินตามท่าน โดยที่ไม่มีชีวิตอยู่เลย แล้วสำเร็จวิชาธรรมมะ
    กรรมบันดาลนี้ได้โดยที่ท่านไม่ได้สอนแม้แต่คำเดียว เพราะฉะนั้นมีเคล็ดลับ อยากศึกษา ถาม
    อาตมาภาพหายสงสัยในคำสั่งสอน ของพระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะการปฏิบัตินะ
    (ฝากไว้เท่านี้ก่อนรอบแรก) ขอเจริญพร

    ....................................................................................

    *แกะไฟล์เสียงแบบสมบูรณ์โดย Rattanaporn
    (หากผิดพลาดประการใดข้าพเจ้าฯ ขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว)
    </td></tr></tbody></table>
     
  10. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post873522" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 19-12-2007, 07:20 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #40 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->pat3112<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_873522", true); </script>
    ผู้สนับสนุนบริจาค

    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: nontabury
    อายุ: 25
    ข้อความ: 447
    พลังการให้คะแนน: 355 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]

    </td> <td class="alt1" id="td_post_873522" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->คุณอภิชาติ แพรริ้วทอง
    [FONT=&quot] ผมในฐานะตัวแทนการประสานงานการเตือนภัยเขากะลา[/FONT]
    [FONT=&quot] คุยกันนะครับ ได้ลงเว็ปไซส์ส่วนของพลังจิต เขาสื่อสารผ่านมาไม่มีข้อมูลไม่อยากทำบางทีบอกผ่านมาพี่สุดใจเช้าพี่จดไว้ ตลอด[/FONT]10[FONT=&quot]ปี ที่ผ่านมาเขาสอนประโยชน์ส่วนตน ทำยังไงถึงจะไม่ทุกข์ ที่ผ่านมาเรื่องสรรหาบุคคล การเตรียมการ เขาจะไม่สอน จะสอนแต่ธรรมมะบ้างอไรบ้าง โดยปกติดูแล้วเชื่อยาก มาจากต่างดาว แต่ข้อมูล หลักฐานมีการอ้างอิงจาก ดร[/FONT].[FONT=&quot]เทพพนม และถ้าเรื่อง[/FONT]UFO[FONT=&quot]มา จากกลุ่มเรา เห็นทุกวันต้องเชื่อ การสอนพลัดกันสอนพูดแบบธรรมดาชาวบ้าน มีข้อมูลผ่านมาก็พูดออกมา รายละเอียดต่างๆไปดูได้จากกระทู้ข้อความการเตือนภัยเขากะลา คนภากนอกเชื่อว่าเกิด คนภายนอกเชื่อว่าเราบ้า บางกลุ่มเชื่อว่าเกิดปี[/FONT]2000[FONT=&quot] หรือ[/FONT] y2k[FONT=&quot] เลื่อนมาๆแต่ไม่เลื่อนไป ตอนนี้ยอมรับกันเรื่องโลกร้อนบ้างยังดี มองกลุ่มเราว่าบ้า บอกตรงๆนี่ส่วนตัวว่าเกิดขึ้นจริง ตามโครงการว่าเปิดเผยตัวไว้ทำเป็นหนังสือ [/FONT]“[FONT=&quot]จานบินวิเคราะ[/FONT]”[FONT=&quot] หรือ ดร[/FONT].[FONT=&quot]แอนจีรา ในสหรัฐเขามาเข้าทรงใช้ชื่อ[/FONT]Tom[FONT=&quot]ว่าเขามาทำอะไรยังไงขั้นตอนนี้คือโครงการที่[/FONT]1[FONT=&quot]มาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ผู้คนต่างได้ทราบ โครงการของเขามี[/FONT]5000[FONT=&quot]คน ทั่วโลกส่วนมากเป็นคนไทยเป็นคนที่มีบุญถ้าไม่มีเรื่องพวกนี้เขาจะไม่มาเกิด เขามาประชาสัมพันกัน ต่อมาเขาจะมาลงจอดให้เห็นมีการเห็นเป็นลำดับตามแต่ว่าภัยพิบัติจะหนกแค่ไหน ถ้าภัยเกิดหนักจริงเขาจะปรากฏให้เห็น ดูแล้วมันน่าจะเชื่อยากถามกัน[/FONT]UFO[FONT=&quot]มีจริงไหม แต่ต่างประเทศเขาผ่านจุดนี้ไปแล้วเขาสามารถเก็บ[/FONT]UFO[FONT=&quot]ที่ตกที่[/FONT]Rosswell[FONT=&quot]จนกระทั่งตั้งองค์กรลับ ทั้งในสหรัฐ ยุโรป กระทั่งเยอรมันมีการสร้างจานบิน เขายอมรับแล้วว่ามีจริงหาเทคโนโลยีของ[/FONT]UFO[FONT=&quot] ส่วนของเราไม่มีความรู้ขนาดนั้น มาทางปฎิบัติมีธรรมมะมาก และก็เปลกชาวบ้านก็ไม่เห็นใครๆก็ไม่เห็นพวกเราเห็นก็ว่าใช่และที่เขาสอนมัน เรื่องจริงและเรื่องใหญ่ เดี๋ยวถ้าถามผมจะบอกเปิดใจ [/FONT]
    [FONT=&quot] เรื่องของคนทำงานได้รับเลือกมา อย่างท่านดร[/FONT][FONT=&quot].[/FONT][FONT=&quot]กัญจีรา[/FONT][FONT=&quot]ต่างคนต่างมีหน้าที่ อย่างกลุ่มผมมี[/FONT][FONT=&quot]3[/FONT][FONT=&quot]คน เป็นมนุษย์ไฟฟ้าข้างหลังห้องมาคนหนึ่ง มีจุดเชื่อมโยงกันในแต่ละกลุ่ม ทุกกลุ่มเชื่อเรื่องภัยพิบัติ แต่ละกลุ่มกระจายกันไปมีทั่วโลก เช่นอย่างไฟฟ้าดับพี่สุดใจพูดเรื่องอุปกรณ์โทรจิต ซึ่งธรรมดาต้องนั่งโทรจิตหากัน อย่างอันนี้เหมือนมือถือ เขาจะแจก คนที่ทำงานที่ทำเพิอส่วนรวม ตัวอย่างเนี่ยพี่สุดใจหรือคนในกลุ่มเนี่ย มี่ตัวอย่างในกระทู้ ไปอ่านได้[/FONT]<!-- google_ad_section_end -->

    [FONT=&quot]ขนาดเขาเดินทางข้ามจักรวาลมาได้ แสดงถึงสมองของเขาพัฒนามาก่อนเรา อย่างของเรา [/FONT][FONT=&quot]Dr[/FONT][FONT=&quot] เรียนมา[/FONT][FONT=&quot]3-4[/FONT][FONT=&quot]ใบ ก็ตาย แต่ของเขาอายุยืนกว่าของเรามากเขาก็คิดได้มากกว่า เรืองอไรต่ออะไร เรื่องมิติ หลายๆดวงดาวม่เท่ากัน ผู้คิดอายุมากกว่านั้น เขาเป็นผู้นำโครงข่าย เขาจะมาสอนผู้มาทำงาน หลายๆท่าน ท่านเหล่านั้นจะมีหมายเลข บางคนลงมาทำตรงนี้เฉพาะ อย่างท่านแอสโตรนีโม เขาจะทดสอบก่อน สารพักแบบ บ้านหาย เขาจะเอามิติไปซ่อน บางที[/FONT][FONT=&quot]7[/FONT][FONT=&quot]หาย อย่างพี่สุดใจ มี ตัวอย่างเช่นนี้พี่อธิบายเรื่องมิติเขาทำได้ มีพยานเป็นคนนอก เรื่องภัยพิบัติมนุษย์ช่วยตัวเองไม่ได้เขามาช่วย เหมือนนักดับเพลิง ถ้าไฟไม้ไหม้ไม่ต้องดับ ถ้าเกิดเขาจะปรากฏมาช่วยช่วยเขาช่วยโดยมีอุปกรณ์อำนวยการ คนช่วยคือพวกเราที่เสียสละ เขาทำตัวอย่างให้เห็น อย่างตอนนั้นมีผู้มีประสบการอยู่หลังห้องเลย ขับกันมาสองคนหลงเข้าไปรถไม่มีสักคันไปนครสวรรค์ล่อเข้าไป[/FONT][FONT=&quot]500[/FONT][FONT=&quot]กิโล อย่างพวกหลุมหลบภัยเราสร้างกันเองหลบกัมันตะรังสีไม่พ้น อย่างแผ่นดินไหวหนักมากๆอากาศไม่มีต้องเข้ามิติไปหลบ ช่วยคงได้ไม่หมด ผมมีตัวอย่างอย่างหลวงปู่มั่นขอคาถาพระสยาม เพื่อจะช่วยคนตอนสงครามโลกท่านบอกช่วยได้แค่คนบางกลุ่มมีบารมี สถานที่สำคัญเท่านั้น แทรกแซกเวรกรรมไม่ได้ อย่างมายั่งงี้ บางคนเชื่อบางคนไม่เชื่อ บางคนเชื่อนี่ไม่ยอมออกจากบ้านบอกฉันจะอยู่ที่นี่ เราเองไปจะไปอุ้มเขาออกมาก็ไม่ได้ มีคำถามถามมาได้ แต่เขาไม่บอกเกิดเมื่อไหร่เพียงบอกทำยังไงไม่ให้ทุกข์ อยู่ๆมาพูดเขาบอกให้พูดเดี๋ยวเขาควบคุมเอง ไม่รบกวนเวลาท่านอื่น ยังไงก็ถามมาแล้วกัน[/FONT]

    ภาคประสานงานคุณอภิชาติ แพรริ้วทอง
    [FONT=&quot]การประสานงาน รับฟังข่าวสาร สิ่งต่างๆ โดยเฉพาะเวปพลังจิต ได้ประโยชน์ ไม่ว่าแจ้งเตือนทาง[/FONT]email[FONT=&quot]ทาง ผมเตือนวันต่อวัน รู้ข้อมูลมาตามนั้น อย่างวันที่เก้ามีสัมมนา กำลังสัมมนาอยู่มีสายเข้ามาบอกว่าเป็นแพทย์ผ่าตัดสมอง เห็นผม คุณนีโม คุณนิชาพาเจ้าของสถานที่ ยังบอกต้องมาพรุ่งนี้ต้องมาเพื่อช่วยประเทศ บอกขอปกปิดอย่าลง[/FONT]post[FONT=&quot] แปลกจู่ๆก็รู้จักไม่ต้องทำอะไร ขอฝากธรรมมะไว้หน่อยกลัวตกเทรน แยกอายตนะ[/FONT]6 [FONT=&quot]ตา หู จมูกลิ้น กาย ใจ คู่กับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และ ธรรมอารมณ์ แยกเห็นภาพข้างนอก ตาเราอยู่ข้างใน เสียงเราข้างนอกหูเราข้างใน สมมุติมีคนมาด่าเรา เราเห็นภาพ คนด่า หูรับรู้ ใจเราต่างเป็นตัวรับอารมณ์ อารมณ์เป็นอายตนะภายนอกต้องตักก่อน เห็นแก้วน้ำไม่ใช่ตัวเราตัดมันเสีย สมมุติอีกครั้งถ้ามีคนด่าเราเราโกรธ ตัวโกรธเป็นอายตนะภายนอก[/FONT]
    [FONT=&quot]ให้กำหนดรู้มันไม่ใช่เรา ตัดเสีย เช่นมีคนด่าเรา[/FONT]3[FONT=&quot]วัน[/FONT]3[FONT=&quot]คืนมีคนลากตัวไปบอกคนนี้บ้าโกรธมามันหายไปเลยไปโกรธเขาทำไมสร้างตัวตนปรุงแต่งเอง เราสร้างมันเอง ฝากธรรมมะไว้เดี๋ยวตกเทรน<o></o>[/FONT]


    __________________
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2009
  11. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post874460" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 20-12-2007, 08:53 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #45 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พุทธโกมุท<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_874460", true); </script>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: May 2007
    อายุ: 35
    ข้อความ: 282
    พลังการให้คะแนน: 323 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_874460" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->พระอาจารย์ประจักษ์


    นมัสการท่านอาจารย์สุวัฒน์ เจริญพร สาธุชน กัลยาณมิตรทุกท่าน อาตมาภาพขอแก้ข่าวนิดหนึ่ง คือ ปัจจุบันไม่ใช่เจ้าอาวาสวัดโรงฆ้องแล้ว เพราะว่าได้รับผลกระทบจากเรื่องจตุคาม ไปเป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์ ห่างจากอำเภอเมืองไปอีก 80 กม.อยู่รูปเดียว แจ้งให้คุณคณานันท์ทราบตรงนี้เลย

    อาตมาก็เป็นผู้หนึ่งที่สนใจและติดตามเรื่องนี้ไม่นาน ประมาณ 4-5 ปี แต่ว่าก่อนหน้านี้จะมีเหตุพลิกผันให้อาตมาสนใจเรื่องนี้ คือว่าอาตมามีประสบการณ์ถูกทำร้ายด้วยไสยศาสตร์ ซึ่งอาตมาเองก็เหมือนญาติโยมทุกท่าน คือเป็นคนรุ่นใหม่แล้วก็เริ่มศึกษาธรรมะ ก็ศึกษางานข้อพิพาทเลย เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนี้ไม่เห็นความสำคัญ แต่เมื่อวันหนึ่งเมื่อฟ้ามากระทบหลัง รู้สึกก็เลยได้ลงลึกรายละเอียดและก็ศึกษาตรงนั้น คราวนี้หลายๆอย่างที่อาตมาทบทวนและศึกษาสาเหตุต่างๆ ก็มองกลับมาว่าเรื่องภัยพิบัติที่กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั่วไปทั่วโลกขณะ นี้ก็ว่าได้ เพราะเป็นนโยบายส่วนหนึ่งของสหประชาชาติไปแล้ว เสร็จแล้วก็มองกลับมาว่า ภัยพิบัตินั้นมันมาในหลายลักษณะ แต่ที่เรากำลังเพ่งมองไปที่จุดใหญ่คือเรื่องที่เกิดจากธรรมชาติ แต่จะพาโยมมองกลับไปอีกจุดหนึ่งใกล้ๆตัวคือว่า ถ้าเราพูดถึงเรื่องภัยพิบัติ หมายถึงว่าเรื่องร้าย การเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เราไม่พึงพอใจ นี้เป็นประเด็น ถามว่าเราอยู่ในยุคของกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างนับตั้งแต่ตั้งกรุงมา แล้วสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เรารู้ล่วงหน้ามาก่อน แต่ก็ยังเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ถ้าเราศึกษาถึงประวัติศาสตร์ อาจจะไม่ค่อยมีแพร่หลายมาก จะเป็นประวัติศาสตร์กระซิบ อย่างตอนที่เราตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีคำพยากรทำนายว่า สมเด็จพระพุทธยอดฟ้ารัชกาลที่ 1 ท่านพยากรณ์ว่า ราชวงศ์ของท่านจะอยู่ในอำนาจ 150 ปี นับจากวันตั้งกรุงถึงวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 150 ปีเป๊ะ นี่ก็คือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับสถาบันการปกครอง ถามว่าเปลี่ยนแปลงได้ไหม ทำไมเปลี่ยนแปลงไม่ได้ทั้งที่รู้ เมืองไทยเรานี้บางอย่าง ภัยพิบัติระดับโลกเราก็สามารถข้ามพ้นมาได้ด้วยดี อย่างเช่นยุคอาณานิคม ทำไมเราผ่านวิกฤตมาได้ ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร เราพูดได้เต็มที่ คนไทยประเทศเดียวที่รอดได้ ทำไม เมืองไทยมีพลังอะไรจึงเปลี่ยนแปลงทฤษฎีโดมิโนได้ ถามว่านี่ใช่เรารอดจากภัยพิบัติหรือเปล่า ใช่ทั้งสิ้น มามองมุมกลับว่าเรามีพลังอะไร จึงมีพลังต้านภัยพิบัติได้ ถ้าเรามองลงไปกว้างๆก็เห็นว่าเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์และพระพุทธศาสนา กลับมาที่พระพุทธศาสนาแล้วก็บวกกับภัยพิบัติเราพูดกันเยอะ คนที่พูดแรงๆแต่ก่อนก็โดนเล่นงานไปจนอ่วม ก็คือสำนักปู่สวรรค์ ถ้าเราไปศึกษางาน เค้าพูดเรื่องนี้ทั้งนั้น และก็โดนเคราะห์กรรม เอาใกล้ๆตัวก็คือท่านสมิธ ธรรมสโรจน์ เคยโดนคนภูเก็ตไม่ให้เข้าภูเก็ตเพราะเนรื่องภัยพิบัติ แต่ที่อาตมาอยากจะพูดก็เพราะว่าในเมื่อเรารู้เรื่องภัยพิบัติ ทั้งระดับโลก และประวัติศาสตร์ที่เราเห็นคือ ซึนามิ ถามว่า เราจะทำอย่างไรให้รู้ว่าจะเกิดเมื่อไร ถ้าเราทำตรงนี้ได้ แต่ทั้งที่ว่าเราเตรียมการมาทั้งหมดนี้จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าเราไม่สามารถ รู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นช่วงไหน ตรงนี้อาตมาว่าสำคัญที่สุด ถามว่าการที่จะทำ ทำอย่างไร ที่ท่าน นพ.สมพล อธิบาย ท่านเอาชาร์ทมาแสดงเรื่องวงจรของจิต โดยกว้าง โดยสรุป อันนี้ชั้นต้น พระอาจารย์พูดเรื่องศีล อาตมาก็จะพูดเรื่องศีล 5 เหมือนกัน แต่อาตมาจะบอกว่ารักษาศีล 5 แล้ว จะรักษาอย่างไรให้ได้พลานิสงที่จะคุ้มครองตัวเองให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติ จริงๆแล้วถ้าพูดเรื่องจิต เราจะพูดเรื่องศีล สมาธิปัญญา อันนี้ชัด ตามหลักไตรสิกขาตรงตัว แต่ในวิถีชีวิตจริงของญาติโยมที่มาสัมผัสดูมันยากมาก ยิ่งวิถีชีวิต ระบบเศรษฐกิจ ระบบการดำรงชีวิตทุกวันนี้ ยากที่จะตัดอารมณ์ชอบไม่ชอบ สงสัย ง่วง ภาษาพระเรียกนิวรณ์ 5 จะให้เราปลอดภัยจากสิ่งรบกวนตรงนี้จะใช้วิสัยการมองของเรามันเคลียยาก เพราะสมาธิมี 3 ระดับคือ ขนิกกะ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ จริงๆแล้วระดับที่เราจะรักษาตัวได้ปลอดภัยจากภัยพิบัติ ไม่ต้องอาศัยสมาธิถึงขั้นอัปปนาสมาธิหรอก สมาธิขั้นอัปปนาคือ ผู้ที่สามารถหยั่งอดีต อนาคตได้ เพราะเรากำลังพูดเรื่องที่กระทบกับคนส่วนใหญ่ เราต้องหาวิธีการที่จะให้คนส่วนใหญ่เข้าใจได้ สัมผัสได้ง่ายแต่ก็ต้องลงทุน ถามว่าศีล 5 รักษาอย่างไรให้เป็นขณิกกะสมาธิ จริงๆแล้วเรื่องของการปฎิบัติคือธรรมชาติ ใกล้ตัว เป็นเรื่องที่บางทีเราไม่ให้ความสำคัญ อาตมาบอกเลยว่าเราพัฒนาอยู่ 2 ประเด็นคือ บริหารกายกับบริหารจิต ถามว่าบริหารกายสำหรับผู้ที่ฝึกจิตแล้วให้สามารถรักษาตัวได้ปลอดภัยในขั้น ต้น ให้เอาเรื่องใกล้ๆตัวคือ เรื่องการทานอาหาร ทานให้ตรงเวลา มีประโยชน์ พอเหมาะพอดี เท่านี้ แต่จริงๆอยู่ในหลักโอวาทปาติโมกข์เลยนะ หลักการสำคัญที่พระพุทธเจ้าวางหลักการอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา แม้กระทั่งพระพุทธเจ้าบอกว่าถ้าจะบัญญัติศีลของพระที่มี 4 ข้อที่จะทำให้ภิกษุขาดจากความเป็นพระ แต่ท่านจะบัญญัติข้อที่ 5 นี่เกี่ยวกับการบริโภคนะ แต่ท่านไม่ได้บัญญัติเพราะรักษายากมากเดี๋ยวพระจะไม่เหลือ เรื่องของการทานอาหารพอเหมาะพอดีตรงเวลานี่ข้อแรก ข้อสองเรื่องของการนอน พยายามพักผ่อนให้เพียงพอตรงเวลา เรื่องที่ 3 เรื่องที่อยู่ให้สะอาด ปลอดโปร่ง ถูกสุขลักษณะ เรื่องสุดท้ายคือเรื่องของการดำรงเผ่าพันธุ์ คือการสืบพันธุ์ ทำให้พอเหมาะพอดีแก่วัย เท่านี้คือเรื่องของการบริหารกาย รักษาศีล 5 อีกส่วนคือการบริหารจิต จะทำอย่างไรให้เป็นขณิกะสมาธิแบบง่ายๆ การที่เราทำกิจของเราตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ตื่นนอนเข้าห้องน้ำก็พยายามให้จิตอยู่กับปัจจุบัน ออกจากห้องน้ำทานข้าวทำครัวให้จิตอยู่ในครัว ออกจากห้องตรัวจะเดินทางไปทำงานจะขับรถ นั่งอยู่ในรถก็ให้จิตอยู่ตรงนั้นพยายามให้จิตอยู่กับปัจจุบัน เวลาทำงานให้จิตอยู่ในที่ทำงาน เสร็จจากที่ทำงานกลับบ้านเข้าห้องนอน ฝึกอยู่แค่นี้ง่ายๆแล้วจะเข้าขณิกกะสมาธิ แค่พื้นฐานก็คือการรักษาศีล 5 ถามว่าเมื่อผู้ฝึกอย่างนี้แล้วจะหยั่งรู้ได้อย่างไร ถ้าฝึกแล้วเราจะสามารถจำนิมิตฝันได้ จริงๆแล้วเราทุกคนทำสมาธิแล้ววันหนึ่งเฉลี่ย 6-7 ชั่วโมง ก็คือการพักผ่อนนอนหลับนี่เอง แต่เราไม่ได้ฝึกตรงนี้ตื่นมาเลยจำอะไรไม่ได้ จริงอยู่เราฝึกอย่างนี้แล้ว บางครั้งเราฝันก็อาจจะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ไม่รู้อีกว่าเรื่องที่ฝันจริงหรือไม่จริง เรื่องของความฝันมีอยู่ในพระไตรปิฎกแสดงไว้หลายตอน ตอนหนึ่งคือว่าก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ก็มีบุพนิมิตฝัน เรียกว่าสุบินสูตร แต่รายละเอียดพระอรรถาจารย์ท่านก็อธิบายว่า ความฝันมี 4 ประเภท จิตประหวัด ลมกำเริบ เทพสังหรณ์ บุพนิมิตร แต่ที่จะแนะนำให้ปฏิบัติคือ ฝันแล้วเป็นฝันที่เป็นบุพนิมิตร หรือถ้าฝันที่เป็นเทพสังหรณ์ ก็เป็นเทพที่เป็นมิจฉาทิษฐิสังหรณ์ เราจะรู้ได้ว่าเราจะรักษาตัวให้ปลอดภัยได้อย่างไรตรงนี้ บางทีสิ่งที่เราสัมผัสนิมิตรู้ อาจเป็นเทพมิจฉาทิษฐิสังหรณ์ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจะโดนหลอกหรือไม่โดนหลอกในนิมิต ตรงนี้ญาติโยมต้องรู้จักการสวดมนต์ภาวนา รู้จักการอธิษฐานจิต ก็คือในเรื่องปกติที่เวลาเราสวดมนต์ไหว้พระ แต่ให้เพิ่มการอธิษฐานจิตเข้าไป ถ้าภาษาพราหมณ์เรียกว่ามีโองการ หรือทางพุทธก็มีชุมนุมเทวดา จริงๆแล้วเป็นแนวคิดให้เราอธิษฐานจิต การที่เราฝึกมาในเบื้องต้นแล้วมีการอธิษฐานจิต และมีการสาธยายมนต์จะเป็นเกราะคุ้มกันทำให้เทพที่เป็นฝ่ายมิจฉาทิษฐิเข้ามา ลวงมาไม่ได้ หมายถึงนิมิตหรือความฝันที่เราจำได้จะเป็นความฝันที่เป็นเทพสัมมาธิษฐิเข้า มาสังหรณ์ และเป็นบุพนิมิตเท่านั้นคือเรื่องที่จะเกิดจริงๆ จะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ตาม บางทีเราทำแบบนี้แล้ว แต่อำนาจกุศล อำนาจกรรมของเรานั้นยังมีอยู่ เฉพาะที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎก บางทีเราจะปฏิบัติแล้วยังมีสิ่งปิดกั้นคือ 1 กิเลส 2 กรรม 3 ความไม่ศรัทธา แต่เรามีศีลและศรัทธาในขั้นนี้แล้วแต่ต้องมีอีกตัวเข้ามาเสริมแรงคือเรื่อง การแผ่เมตตา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ในพระไตรปิฎกมีรายละเอียดกว้างๆถึง 3 อย่างคือ แผ่เมตตาโดยเจาะจง โดยไม่เจาะจง โดยทิศ ถ้าเราทำ 3 อย่างสัมพันธ์กันได้จะเกิดพลังแรงขึ้นอีก เพราะว่าหลักของการแผ่เมตตา เพียงปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายในคัมภีร์ท่านว่าจะมีอำนวจโดยภูมิ คือถ้าเราเปิดใจให้กว้างและแผ่เมตตาไปกระทบสัมผัสกับดวงวิญญาณต่างๆ จะเป็นของครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านเหล่านั้นจะช่วยบอกเราในนิมิตเราก็จะได้นิมิตฝันที่เป็นสัมมาทิฐิและ เป็นบุพนิมิตที่จะทำให้เราได้รู้เตรียมตัวว่าสิ่งไรที่จะเกิดขึ้นกับเราโดย ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นภัยพิบัติหรือเรื่องส่วนตัวในชีวิตประจำวันใช้ได้หมด แม้แต่ใครจะมาหลอกเราก็สามารถที่จะรู้ก่อน เป็นการปฏิบัติง่ายๆ ใกล้ตัวและได้ประโยชน์มากเป็นสิ่งที่เป็นพื้นฐานสำหรับชาวพุทธ สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตา รักษาศีล 5 แค่ทำตรงนี้ขึ้นมาถ้าเราทำได้สม่ำเสมอตรงนี้เป็นขณิกสมาธิ คือดึงจิตมาอยู่กับปัจจุบันบ่อยๆ โดยไม่ต้องอาศัยคำบริกรรมภาวนาอะไร ถ้าเราทำสม่ำเสมอก็สามารถที่จะรู้ได้ อย่างกำลังเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติแล้วก็เป็นแกนนำหรือผู้ที่ทำหน้าที่ตรงนี้ โดยตรง 100% จะเป็นประโยชน์มาก แต่พยายามให้สังเกตก่อน เพราะบางอย่างเป็นนิมิตที่ดูโลดโผนมาก แต่จริงๆมันเกิดมาหน่อยเดียว บางทีหลายท่านพูดถึงนินิต แต่บางทีมันเกิดเนี่ยอาจจะเบาลง เพราะว่าเมืองไทยของเราเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ อย่าลืมว่านับแต่พระเจ้าอโศกส่งสมณฑูตลงมาเผยแพร่ศาสนา 2000 กว่าปี ดินแดนเราไม่เคยขาดพระพุทธศาสนาเลยและอำนาจบารมีของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันก็ยังแผ่คุ้มครองแผ่นดินอยู่ ธาตุศักดิ์สิทธิ์ ตามภูเขาตามป่าต่างๆ ยังมีธาตุกายสิทธิ์ อย่างเรื่องเหล็กไหลก็มีพลังต้านแรงของภัยที่จะเกิดขึ้นตามสภาพภูมิศาสตร์ หรือแผ่นดินของเรา หรือพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ตามจุดต่างๆทั่วไทย จะมีพลังที่จะทำให้หนักเป็นเบา พูดเช่นนี้ก็อย่าคิดว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองแล้วจะเย็นใจได้ ระดับหนึ่ง ถ้าเราไม่รู้จักปรับตัวให้เรามีพลังภายใน พลังจิตที่สัมผัสรู้ก็จะยังไม่รอด อาตมาจะยกตัวอย่างให้ฟังตอนเกิดซึนามิ อาตมามีโอกาสไปช่วยที่บ้านน้ำเค็มที่พังงา ได้ยินโยมคุยให้ฟังว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสที่หมู่บ้านนั้นท่านบอกกับโยมว่า ให้ไปอยู่ที่อื่นเถอะ อย่าอยู่เลยบ้านน้ำเค็ม มันอยู่บนขอนไม้ผุ ท่านพูดอยู่ตลอดพรรษาปี 47 พอออกพรรษาท่านก็มรณภาพ พอเกิดซึนามิชาวบ้านที่ไปทำบุญถึงได้รู้ว่าตอนที่หลวงพ่อพูดมีความหมายอย่าง ไร พระพูดขนาดนั้นทำไมไม่ตื่นตัว เพราะว่าเขาสัมผัสไม่ได้ ไม่ได้ฝึกตรงนี้ ทำบุญก็ตามประเพณี ไม่ตระหนักรู้ แต่คนที่ไปทำบุญที่วัดวันที่เกิดซึนามิเป็นวันพระวันนั้นรอดหมด คนที่อยู่ทางบ้านเสียชีวิตเยอะมาก ก็คือกรณีตัวอย่างว่าจริงๆแล้วผู้ที่ได้อัปนาสมาธิมีเยอะ ท่านมีความรู้ แต่คำพูดของท่านไม่มีใครค่อยฟัง เพราะคนส่วนใหญ่ยังสัมผัสไม่ได้ แต่ถ้าเราฝึกแบบนี้ก็สามารถเชื่อมได้ ท่านพูดมาเราก็จะตระหนักรู้เห็นความสำคัญมากขึ้นนี่คือนัยยะที่มีความสำคัญ จริงๆแล้วอาตมาได้ลงลึกค้นคว้าในพระไตรปิฎก เรียบเรียงเป็นหนังสือประมาณ 50 หน้า เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับพลังอำนาจของการสวดมนต์ หรือการแผ่เมตตาจิตเอามารวบรวมไว้ ทีแรกว่าจะทำมาแจกพอดีเพิ่งเสร็จเมื่อวันศุกร์ และพิมพ์ถ่ายเอกสารไม่ทัน แต่อาตมาได้มีคณะที่ทำงาน ประมาณอาทิตย์หน้าจะเผยแพร่ทาง Website จะให้โยมคณานันท์เป็นคนบอก ตรงนี้ลงลึกถึงว่าคณะที่มาทำงานให้อาตมาก็มีคนกลุ่มหนึ่ง มีศรัทธาเพื่อหากิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นตัวยึดโยงเชื่อมให้เรามาเจอกัน ได้ ก็จะมีกิจกรรมสร้างพระประธานและเปิด Website ในฐานะที่อยู่นครศรีธรรมราช คณะเลยจะทำจตุคามเพื่อเป็นที่ระลึก เรามาเจอกันได้เพราะเรื่องของมีวัตถุประสงค์ร่วมกันเกี่ยวกับการสร้างพระทำ ให้อาตมามีโอกาสมาเล่าถึงเรื่องที่รอดจากการถูกเบียดเบียนโดยไสยศาสตร์ แล้วมาสู่วิธีการที่จะให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติใกล้ๆตัว และง่ายๆ ก็ขอฝากโยมไว้เพียงเท่านี้ เจริญพร <o>:p</o>
    </td></tr></tbody></table>
     
  12. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post877945" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 21-12-2007, 09:51 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #56 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nuttadet<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_877945", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2007
    ข้อความ: 1,332
    พลังการให้คะแนน: 526 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_877945" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ดร. กัญจีรา กาญจนเกศ (รอบแรก) (ช่วงที่ 1)

    -----------------------------------------------------------------------

    กราบ นมัสการพระคุณเจ้าแล้วก็คณะผู้จัดกิจกรรมการเสวนาในครั้งนี้และก็ผู้สนใจ เกี่ยวกับเรื่องพลังจิตนะคะ วันนี้ดิชั้นอาจจะมาแปลกนิดนึง ยังไงขออนุญาตให้ เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงไม่พอหรอก เพราะเรื่องเยอะ คนแยะเรื่องเยอะ และจริงๆ บางคนอาจจะไม่รู้ข้อมูล บางคนอาจจะไปเปิดกูเกิ้ลดูหรือรู้จักจากเวปไซต์ บางทีก็เป็นเวปที่ข้อมูลไม่ถูกต้องทั้งหมด เราจะพูดกันถึงเรื่องภัยพิบัติต่างๆ กันมากมาย ซึ่งช่วงเวลานี้ที่จะเกิดคลื่นซึนามิและแผ่นดินไหวหลายๆ พื้นที่ในโลกเรา โดยเฉพาะปริมณฑลใกล้ๆ บ้านเรา อย่างเช่น บอเนียว สุมาตรา มันก็ทำให้เราเกิดความรู้สึก ตระหนกมากกว่าตระหนัก เพราะถ้าหากเราตระหนักห้องประชุมต้องแน่นมากกว่านี้ เพราะเราคิดว่าเป็นภัยไกลตัว ยังไม่ใช่ภัยใกล้ตัว อันนี้ขออนุญาติเล่าปูมหลังซักนิดนึง เพราะช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมาเนี่ยคนเค้าเรียกดิชั้นว่า "ด๊อกเตอร์เพี้ยน" แม้กระทั่ง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ที่พูดเมื่อเช้านี้ บางทีท่านอาจจะยังไม่รู้จักดิชั้นดีพอ และช่วงนั้นกระแสกำลังแรงเหลือเกินโดย เฉพาะตามเวปต่างๆ แล้วก็การที่มีการส่ง อีเมล์,ฟอเวิร์ดเมล์กันทั่วบ้านทั่วเมือง จริงๆ แล้วดิชั้นเป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ แล้วก็วุฒิบัตรไบโอเคมี -ชีววิทยา แต่ไปเรียนเอ็มบีพิษเคมี พิษวิทยา ซึ่งพื้นฐานตนเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ 100% เป็นคนที่ไม่เคยเชื่ออะไรที่ตัวเองยังพิสูจน์ไม่ได้ สัมผัสไม่ได้ จับต้องไม่ได้ ประมาณว่ามีคนบอกว่าเป็นคนหัวแข็ง ซึ่งถ้าอะไรยังพิสูจน์ไม่ได้ยังไม่เห็นด้วยตา สัมผัสไม่ได้จะไม่เชื่้อ ทั้งๆที่ในชีวิตจริงๆ แล้วเนี่ย พระผู้ใหญ่หลายๆคน ที่อยู่ใกล้ชิด ผู้หลับผู้ใหญ่ อย่างเช่น เลขาของท่านเจ้าคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ซึ่งท่านมรณะภาพไปนานแล้ว หรือหลวงพ่อสด ซึ่งดิชั้นเคยเรียกว่าหลวงลุงวัดปากน้ำภาษีเจริญ บอกว่า ไอ้เจ้าเนี่ยมัน "Born to be" คือเกิดมาก็เห็นวิญญาณตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ คุยกับผีเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่เราไม่รู้จัก และก็เป็นคนที่ไม่ กลัวผีเพราะ ไม่รู้ว่านั่นคือผี เมื่อโตขึ้นเรียนวิทยาศาสตร์ อยู่ในห้องแลปพิสูจน์ มันเจออะไรแปลกๆ เยอะ แต่เราก็ไม่เคยสนใจสิ่งต่างๆ เหล่านั้น ชีวิตก็ดำเนินไปในแนวทาง ของนักวิทยาศาสตร์ แต่เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ อาจจะมีความผิดปกติกว่าเค้านิดนึง ตรงที่ว่าเราได้สัมผัสรู้อะไรที่เราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วชีวิตตัวเองเป็นชีวิตที่ระหกระเหินน่าสงสารมาก เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เชื่อไม๊คะว่าใช้ชีวิตอยู่ในรถในเครื่องบินเนี่ย ไม่ต่ำกว่า 50,000 ชั่วโมง เคยถามพระบางองค์ท่านบอกว่า "คุณโยมต้องโปรดสัตว์" เราก็คิดว่า โหจะโปรดกันถึงไหนเนี่ย ชีวิตนี้เดินทางมาตั้งแต่เรียกว่า เด็กๆ นะคะ ข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนเมืองนอกกลับมานึกว่าจะได้นั่งห้องแลปอยู่สบาย ก็เป็นโรคไม่ถูกกับเค้าอีกเพราะว่างานวิจัยบ้านเรา fail กลับมากะว่าจะมาทำงานวิจัยอย่างเดียว แต่พบว่ามันเป็นอะไรที่ fail มากก็เบนเข็มมาทำงานในหน่วยงานของรัฐบาลที่ต้องเดินทาง ชีวิตก็เลยต้องสัญจร ซึ่งทำให้เราได้พบเห็นอะไรที่เราไม่อยากจะเชื่อ ซึ่งบางสิ่งบางอย่างเนี่ย ถามว่ามัน
    มีอย่างนี้จริงๆ หรอ เพราะตัวเองจะเป็นคนที่มี นิมิตร มาก เนื่องจากว่าเป็นคนที่นอนน้อย เพราะเวลาส่วนนึงจะทำแต่งาน กลางวันก็เดินทาง กลางคืนก็จะต้องทำงาน เขียนหนังสือ เขียนรายงาน ซึ่งช่วงนึงก็เป็นวิทยากรด้วย ซึ่งเราก็จะต้องเซ็น paper ในการสัมนาต่างๆ

    จนกระทั่งเมื่อ 19 ปีที่แล้ว ปี พ.ศ. 2531 อยู่ๆ
    วันนึงนั่งสมาธิ คือปกติเป็นคนที่นั่งสมาธิ เพราะคุณพ่อสอนให้นั่งสมาธิตั้งแต่เล็ก โดยให้เหตุผลว่า จะช่วยให้ความจำดี แล้วตัวเองก็เป็นคนที่ไม่ชอบท่องหนังสือถ้า ทำสมาธิแล้วไม่ต้องท่องหนังสือ น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ฉะนั้นก็จะใช้วิธีนั่งสมาธิ กลับรถมาจากโรงเรียนมาบ้าน พอรถไปรับปั๊บตัวเองก็จะหลับตานึกทบทวนถึงสิ่งที่ ครูสอนมา สิ่งที่คนพูดกันมา ก็ทำเป็นเรื่องปกติ จนรู้สึกว่าเรื่องสมาธินี่มันทำไมต้องเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับบางคน พอบอกว่าทำสมาธิ คำแรกที่บอกคือ ไม่มีเวลาจริงๆ เราทำได้ตลอดเวลา ถ้าเราไม่ติดรูปแบบ แล้ววันนึงดิชั้นก็นั่งสมาธิ จากที่ไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ที่ค่อนข้างเสี่ยงภัยก็คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนั้นเข้าไป ที่ ดูซองยอ แล้วมันมีการระเบิดที่ น้ำตกบาโจกัน ก็หลับตา อยู่ๆ มันมีไฟช๊อตขึ้นมาที่ศรีษะ มันวิ่งแปล๊บๆแล้วก็ ตึ้ดๆๆๆ เอ๊ะ นี่มันไฟช๊อตนะ แต่ไฟมาจากไหน นับตั้งแต่วันนั้นที่ผ่านมา ดิชั้นก็เริ่มเพี้ยนเลยค่ะ เพราะมันจะมีอาการแบบนี้บ่อยมาก เด๋วช๊อตที่มือ ช๊อตที่ไหล่ ช๊อตที่ศรีษะ มันคืออะไรกัน พอมันช๊อตบ่อยมากเข้า บางวันเดินเข้าห้องน้ำไปจับอลูมีเนียมหรือราวเหล็กโครเมี่ยมไฟก็จะแปล๊บตั้งแต่ มือถึงศรีษะบางทีก็วิ่งลงไปที่เท้า สงสัยเราจะเป็นตัวอันตรายแล้ว หรือท่าจะสนุกดีนะอีกหน่อยจะได้ เที่ยวไปช๊อตใครต่อใคร แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะมันไม่ได้แค่ไฟ มันมาพร้อมคำสั่ง สั่งให้ทำนู่นสั่งให้ทำนี่ เพราะบอกว่าต้องเตรียมตัวนะภัยพิบัติกำลังใกล้มาเยือนแล้ว แผ่นดินภาคใต้จะร้อนเป็นไฟ เพราะคนต่างศาสนา แต่ถึงที่สุดแล้วทุกอย่่างจะกลับมาสงบและร่มเย็นเหมือนเดิมด้วยบารมีแห่งพระพุทธองค์

    หลังจากนั้นก็มีคำสั่งประหลาดๆ ให้ดิชั้นไปทำไอ้นู่นไปทำไอ้นี่ ฟังแล้วดูมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ก็ปรึกษาผู้รู้ก็คือ นายอำเภอที่ท่านสอนสมาธิ หลายๆ
    คนก็ บอกว่าเคสอาจารย์เนี่ยประหลาด มันไม่เคยมี มีอยู่ครั้งนึงนั่งสมาธิกันอยู่ในบ้านนายอำเภอ ท่านกำลังพูดถึงเรื่องว่า การทรงเจ้าเข้าผีต่างๆ เนี่ย ท่านบอกว่าถ้า ฝึกวิชาธรรมกายสำเร็จ สมัยนั้นก็คือวิชาธรรมกายของวัดปากน้ำ วิญญาณต่างๆ จะไม่มีทางมาสิงสู่ได้ พูดไม่ทันจบ อยู่ๆ ก็มีพลังงานเข้ามาในห้องนั้น ทุกคนสัมผัสได้เพราะเป็นคลื่นความ ร้อน หลังจากนั้นดิชั้นก็รับสัญญาณได้ทันทีเลย มีคำสั่งประหลาดๆ อยู่ๆ ก็มีนายทหารคนนึงก็คลานเข้ามาลองของ เค้าบอกว่าถาม ว่าดิชั้นเป็นใครหรือสิ่งไหน ดิชั้นก็ตอบว่า ดิชั้นก็เป็นดิชั้นนี่แหละ เค้าบอกว่าอ้าวแล้วทำยังไงผมถึงจะได้เป็นพันเอก ตอนนี้ผมติดพันโทมาหลายปีแล้ว ก็พูดสวน ไปว่า มีชีวิต มีลมหายใจทุกวันนี้ก็ดีแล้ว ไม่ตายก็ดีแล้ว เนี่ยรู้ไม๊ใครรักษา "เจ้าบุเรงนอง" เชื่อไม๊ว่าเค้าหงายหลังผึ่งไปเลย เพราะเค้าบอกว่าไม่เคยมีใครรู้ว่า เค้าเอารูป บุเรงนอง ห้อยคอไว้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลก หลังจากนั้นชั้นต้องหนีเลยนะ เพราะค่ายทหารทั้งค่ายทุกบ้านเลยแหละ คนนู้นอยากจะมาคนนี้อยากจะมา

    ทีนี้หลังจากที่มีคำสั่งประหลาดๆ แล้วบอกว่าดิชั้นจะต้องเตรียมการเพื่อป้องกัน ไม่ให้ภัยพิบัตินี้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ในดินแดนสุวรรณภูมิ ศึ่งต่อไปจะเป็นดินแดน
    พุทธเกษตร มันคืออะไรเหมือนเคยได้ยินเหมือนกันแหละ ตอนนี้ตัวเองต้องศึกษาและค้นคว้า จากนักเคมี จากนักวิชาการต่างๆ ตอนนี้เริ่มจะมาเป็นนักไสยศาสตร์และ นักพุทธศาสตร์ ต้องเริ่มศึกษาพระไตรปิฏกต่างๆ แต่บางอย่างมันก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน เพราะถามผู้รู้แล้ว ผู้รู้ท่านก็เอ๋อ เอออย่างนี้ก็ไม่เคยมีนะ มันเกิดอะไร ขึ้น แถมที่ตลกมากก็คือ คำสั่งที่สั่งให้ไปทำอะไรแปลกๆ ให้ไปตรงนู้น ให้ไปตรงนี้ ให้ไปตรึงพลังงาน ฟังคำนี้แล้วดูแปลก หลายๆ ท่านเนี่ยฟังคำว่าพลังจิตพลังต่างๆ เยอะ แต่ดิชั้นเชื่อว่าบางครั้ง imagine ไม่ได้ หรือแม้กระทั่งไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร เรารู้แต่ว่ามันเป็นพลังนะ มันเป็นพลังแบบไหน เด๋วช่วงท้าย ดิชั้นจะสาธิต ให้ทุกคนรับพลังงาน ที่อยากจะพูดตรงนี้เพราะว่าวันนี้เข้ามาในห้องเนี่ยรู้สึกแปลก แปลกที่ว่าไม่ได้มีแต่เรา กายสังขารของมนุษย์ เพราะห้องนี้ไม่มีพระ พุทธรูป ไม่มีสิ่งใดๆ ที่จะสื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ แต่ห้องนี้มีพลังงานพิเศษคลื่นไหวไปมาอยู่ตลอดเวลา หลายๆ คนที่มีเซ้นต์และสัมผัสรู้ได้ จะรู้เลยว่าในห้องนี้
    ไม่ ได้มีแต่เรามาชุมนุม มีสิ่งอื่นซึ่งเข้ามาร่วมชุมนุมเพราะน่าจะถึงเวลาแล้วที่น่าจะมีการรวมตัว กันของกลุ่มที่ฝึกจิต ฝึกพลังจิตต่างๆ เพื่อมาช่วยกันทำงานครั้ง ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติเพราะ 19 ปี ดิชั้นทำงานคนเดียวโด่เด่โดดเดี่ยวมากเลย เพราะบางครั้งตัวเองก็ทำเหมือนคนบ้า หมดทุนทรัพย์ของตัวเองไปประมาณ 3 ล้านกว่า ของลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาด้วยอีกไม่รู้เท่าไหร่ เพียงเพื่อไปทำอะไรก็ไม่รู้ที่เรียกว่าการตรึงพลังงาน ขณะเดียวกันไม่ทำก็ไม่ได้ สัญญาณบอกว่าต้องทำอย่าง นั้นต้องทำอย่างนี้ ทำเหมือนคนบ้า ดีว่ามีเครือข่ายของหน่วยงานของรัฐบาลที่เราพอจะใช้เค้าได้คือหน่วยทหาร ขอมาช่วยแจมตรงนี้นิดตรงนู้นหน่อย และกำลังลูกศิษย์ส่วนนึง

    แต่ที่มันประหลาดมากก็คือก่อนเกิดคลื่นซึนามิช่วงนั้นดิชั้นไปวิจัยเรื่อง HIV และก็เรื่องไวรัสโดยเฉพาะเรากำลังศึกษาเรื่องสมุนไพรที่เอา
    มา ป้องกันไวรัส เพราะตัวเองเป็นคนที่พูดว่าวันนึงไวรัสกลายพันธุ์แล้วจะลำบากทั่วโลกมากเลย โดยเฉพาะจะทำให้สัตว์และคนล้มตายเป็นจำนวนมาก ก็คือก่อนเกิด ซาแล้วก็เกิดไข้หวัดนกเนี่ย ช่วงก่อนนั้นชั้นเป็นผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพคุ้มอโรคยาอยู่ แต่ก็มีการวิจัยอยู่นาน ทางรัฐบาลจีนและก็ทางเหนือ ไปทำการวิจัยเรื่องนี้อยู่ ขณะเดียวกันช่วงที่กำลังศึกษาวิจัย ก็พบว่ามันมีคลื่นใหม่อีกและ เค้าบอกว่าอยู่เหนือไม่ได้ต้องลงใต้ ถามว่าใต้จะเกิดอะไรขึ้น มันจะเกิดมหกรรมใหญ่ ช่วงนั้นเป็น ช่วงปี 40-41 ซึ่งก็มีกลุ่มที่ศึกษาเรื่องพลังจิตเตือนเรื่องภัยธรรมชาติทั้งๆ ที่กลุ่มจากธนาคารกรุงไทย กลุ่มจากธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ดิชั้นไม่ขอระบุ ก็มีการเสวนาเรื่องนี้กันอย่างเข้มข้นและก็จริงจัง และก็มีการออกแผนที่โลกใหม่กันขึ้นมาเลย ทุกคนก็เอามาให้ดิชั้นดูบอกอาจารย์นี่ประเทศไทยมันจะเป็นอย่าง นี้เหรอ น้ำมันจะท่วมใหญ่ปี 43-44 เหรอ ดิชั้นก็บอกว่าไม่หรอกถ้าตราบใดอาจารย์ยังไม่ตายนะแผ่นดินนี้จะต้องปกติสุข ไม่รู้อะไรวิญญาณองค์ไหนเข้ามาที่ทำให้กล้าหาญชาญชัยถึงกับพูดอย่างนั้น ว่าตราบใดที่ดิชั้นยังมีลมหายใจ แผ่นดินนี้จะต้องปกติสุข เพราะเราทำงานเหมือนคนบ้าคนเดียวมาตลอด วันนั้นก็ยังไม่รู้ว่าอานิสงที่ทำมา 10กว่าปีเนี่ยมันจะให้ผลเช่นไร จนกระทั่งวันนึงก็มีการเสวนากันที่โรงพยาบาลสมุทรปราการเค้าก็มีการสื่อกับ จักรวาลกันนี่แหละคะแล้วเค้าก็ บอกว่ามันจะเกิดเมื่อนั้นเมื่อนี้ ทุกคนก็ตื่นตัว ตอนนั้นที่ดินแถวเชียงราย เชียงใหม่ขายดีมากเลย ใครที่ว่าทำ real estate ทำเกี่ยวกับการที่ดินเนี่ยรู้สึกว่า
    ร่ำ รวยกันไปตามๆ กัน ช่วงนั้นภาวะเศรษฐกิจยังไม่ ฟองสบู่ยังไม่แตกเท่าไหร่ ทีนี้ช่วงนั้นดิชั้นก็ต้องไปช่วยงานหน่วยงานรัฐบาลทำงานเกี่ยวกับงานด้าน ความมั่่นคง ก็ต้องดูแลในหลายๆ พื้นที่ ก็อาศัยช่วงนี้แหละ ก็ได้ไปทำจัดระบบหลายๆ อย่างของพลังงานแต่ตัวเองก็ยังไม่มั่นใจว่าที่ตัวเองทำลงไปเนี่ยมันจะเกิดอานิสงไม๊

    ขณะเดียวกันที่หลายๆ คนเนี่ย ไม่พอใจ ก็มีการพูดกันว่าเนี่ยจะต้องเกิดเหตุภัยพิบัติ ที่มันไม่เกิดเนี่ยเพราะมีคนพยายามไปฝืน ลูกศิษย์ก็มาบอกว่าอาจารย์
    อาจารย์เนี่ยเป็นตัวต้นเหตูนะที่ทำให้เหตุการณ์ธรรมชาติมันไม่เกิดขึ้น ออถ้าชั้นเก่งได้ขนาดนั้นก็ดีชั้นคงจะช่วยพลิกโลกนี้ให้มีอะไรที่มันดีขึ้น กว่านี้ จนกระทั่งปลายปี 45 ก็ได้สัญญาณมาว่า นี่ละนะมันจะเกิดคลื่นซีนามิแล้วนะ ตอนนั้นคำว่าซึนามิสำหรับประเทศไทยไม่เคยมีใครรู้จัก แต่ดิชั้นกล้าพูดได้เพราะว่าหลายๆคน ที่ติดตามงานของดิชั้น ตั้งแต่ปี 44-45-46 ในงานวิทยาศาสตร์ทางจิตเนี่ยจะไปฟังบรรยายทุกปี เพราะทุกๆ ปีดิชั้นจะพูดว่าปีหน้าประเทศไทยจะเจออะไรบ้างเพื่อ เราจะได้เตรียมตัวเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อม ทีนี้หลายๆ คนที่ไปฟังเนี่ย ปี 45-46 แม้กระทั่ง ปี 47 วันที่ 4-5-6 ดิชั้นก็ยังบรรยาย 4-5-6 ธันวา ก็ยังบรรยายว่าวันที่ 26 ธันวา เนี่ยนะมันจะเกิดการเลื่อนไหลของแผ่นดินครั้งรุนแรงและเราจะเห็นตึกที่สูง กว่าคลื่น 5 ชั้นเข้ามาถล่มทลาย เชื่อไม๊คะวันนั้นทุกคนฟังผู้ ฟังประมาณ 200 กว่าท่าน ทุกคนฟังก็ยิ้มไม่มีใครรู้สึกอะไร ทุกคนฟังก็เออมันจะเป็นไปได้เหรออาจารย์เตือนมานะและกล้าระบุวันแบบฟันธง ขออนุญาตย้อน
    ไปตรงนี้นิดนึง คือก่อนหน้านี้ดิชั้นเคยพูดว่าอเมริกาเนี่ยจะเกิดการก่อวินาศกรรมครั้ง รุนแรงจะมีตึกใหญ่มากเลยโดนถล่มลงมา แล้วก็ฟันธงไปว่าวันที่ 11 กันยาหลัง จากที่เกิดตึกเวิลด์เทรดถล่มดิชั้นอยู่ไม่ได้เลย ต้องมุดลงรูอย่างเดียวเพราะมีหนังสือต่างๆ จะมาขอสัมภาษณ์มากมายที่อยากรู้และตอนนั้นใครๆ ก็ตั้งฉายาว่า
    นอสตราดามุสหญิง แล้วก็มีอยู่ช่วงนึงที่อาจารย์เทพนม พาไปเชิญวิญญาณที่โรงแรมรัตนะโกสินเพราะที่นั่นก็จะมีสมาคมค้นคว้าทางจิตกัน ตอนนั้นก็เป็นข่าวฮือฮามาก พออาจารย์บรรยายเรื่องซึนามิหลายคนก็เชื่อแต่หลายคนไม่เคยเห็นว่ามันจะเกิดขึ้นแต่ ก่อนหน้านี้ดิชั้นได้ไปทำการตรึงพลังงานบางอย่างที่ท้ายเหมือง จ.พังงา
    ด้วย เหตุผลว่ามีสัญญาณมาบอกว่าเนี่ยในอดีตเมื่อ 5000 ปีที่แล้วมันก็เกิดคลื่นแบบนี้ขึ้นเนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงเกิดภูเขา ไฟระเบิดและแผ่นดินตรงนี้ก็งอกขึ้น มา โดยเฉพาะเกาะแก่งต่างๆ ในอ่าวพังงานเกิดจากแผ่นดินใหม่เมื่อ 4-5 พันปีที่แล้วหลังจากที่ดิชั้นไปทำเนี่ยเจ้าหน้าที่อุทยานก็แปลกๆ ผู้หญิงคนนี้โห
    เปรี้ยวมากเลยนะมากับ ลูกศิษย์ที่เป็นผู้ชายทั้งฝูงเลยมาทำอะไรกันเนี่ยแล้วเค้าก็บอกว่าอาจารย์ เก่งนะกล้ามานอนตรงนี้ ถามว่าทำไมเหรอ เค้าบอกรู้ไม๊ตรงนี้ผีดุ เราไปนอนกันตรงหาดหน้ายักษ์ ทีนี้ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกคืนนั้นเรานอนกันเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาช่วยและ เอาปืนมาก็ถามว่าไหนว่าผีเยอะแล้วทำไมเอาปืนมา เค้าก็บอกว่า บางทีวันมีโจรสลัดแล้วเอาปืนมายิงผีเนี่ยนะ เค้าก็บอกเสียงดังไว้ก่อนผีจะได้ตกใจ ผลสุดท้ายคืนนั้นเราก็นอนกันแบบไม่สนิทเนื่องจากแผ่นดินตรงนั้นมันมีความ แปลกตรงที่ว่าเมื่อเรานอนลงไปเนี่ยมันมีแร่ธาตุบางอย่างที่มันจะดูดตัวเราจม ลงไปเรื่อยๆ เด๋วได้ยินเสียงลูกศิษย์โวยวายอาจารย์ช่วยด้วยผมกำลังจมลงไปเด๋วๆ ก็ได้ยินเสียงว่าจมลงไป เออเนี่ยนะมันเป็นพลังงานที่แปลก แต่ที่มหัศจรรย์มากก็คือตื่นเช้า มีรอยเท้าประมาณเกือบ 100 กว่ารอยเต็มพื้นทรายไปหมดพวกเราอยู่ กันเนี่ยคณะทั้งหมดก็คือ 6 คนแล้วก็เจ้าหน้าที่ป่าไม้อีก 2-3 ท่าน แต่รอยเท้านั้นเป็น 100 รอยซึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหนมีทั้งรอยเล็กรอยใหญ่ ณ จุดนั้น ดิชั้นก็ได้บอกกับเจ้า หน้าที่ป่าไม้ว่าดิชั้นจะมาทำพิธีบางอย่าง เค้าก็บอกตามสบายเลยครับอาจารย์ อาจารย์จะมาทำเมื่อไหร่ นั่นก็คือเหตุการณ์ที่เราไปทำกันไว้เมื่อ
    ปี 45 แต่เชื่อไม๊คะว่าดิชั้นไปทำแล้วเนี่ยเค้าก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดอะไรแต่วัน ที่เกิดซีนามิเนี่ยเค้าบอกว่าเค้าวิ่งมาที่ลิ้นชักเพื่อค้นหานามบัตรของ อาจารย์แล้วเค้าก็รายงานไปทาง ผู้ใหญ่ว่าเนี่ยมีอาจารย์หญิงท่านมาบอกว่าตรงนี้จะเกิดซึนามิแล้วมันก็เป็น เรื่องที่แปลกแต่จริงอีกนั่นแหละว่าคลื่นซึนามิที่ถาโถมเข้ามาเนี่ยเขา หลักโดนไปเยอะทับละมุที่อยู่ลงมาจากเขาหลักก็โดนตายไปเยอะแล้วก็ต่ำลงไปก็ คือหาดไม้ขาวแต่ตรงท้ายเหมืองไม่มีคนตายเลยแล้วก็ความรุนแรงแทบจะไม่มี เลยทำให้เกิดกำลังใจขึ้นอีกโข ว่าสิ่งที่เราทำมามันไม่สูญเปล่านะที่หมดเงินเหมือนคนบ้าไปแล้วเนี่ยไม่ได้ สูญเปล่า แต่หลายๆ คนก็ยังบอกก็ยังเกิดการสูญเสียนะ ค่ะสูญเสียแต่ท่านเชื่อไม๊คะว่าถ้าเหตุการไม่เกิดในวันที่ 26 ธันวาแล้วเลื่อนมาเกิดปลายปี อะไรจะเกิดขึ้น คนไทยจำนวนมากจะตายไม่ใช่ชาวต่างชาติเพราะช่วง นั้นเป็นช่วงคริสต์มาสเค้ามีการฉลองคริสต์มาสฉะนั้นชาวต่างชาติจะเข้าไปที่ หาดป่าตองเพื่อฉลองคริสต์มาสกันเยอะแต่ถ้าหากเป็นช่วงปีใหม่เนี่ยคนไทยจะเข้าไปเที่ยวป่าตอง เที่ยวภูเก็ตเยอะมากการสูญเสียของชีวิตคนไทยจะไม่ใช่แค่นั้น จะมากกว่าตรงนั้นอีกเยอะมาก อันนี้ก็ถือว่าเราสามารถรู้ได้ รู้ได้จริงๆ นะคะ
    ทีนี้หลายๆ

    ท่านอาจจะถามว่าแล้วรู้เนี่ยรู้จากอะไรคลื่นที่ดิชั้นว่าเนี่ยมันคืออะไรกัน จริงๆแล้วเราพูดกันถึงพลังงาน จริงๆมันก็คือ vibration ชนิดนึงที่เกิดการสั่น
    สะเทือนแต่ที่ เรารับสัญญาณตรงนี้ไม่ได้เพราะเราไม่สามารถจูนคลื่นของเราให้สัมพันธ์กับ คลื่นพลังงานอื่นได้ ทำไมถึงต้องทำสมาธิ ทำสมาธิเพื่อให้จิตเราสงบระงับ กับทุกสิ่งทุกอย่างไม่เกิดการปรุงแต่ง คลื่นสมองของเราหรือเวฟเนี่ยมันจะเกิดความถี่ที่สามารถจูนและรับเครื่องตัว อื่นได้แล้วก็มาแปลเป็นรหัสภาพหรือเสียงให้ เราได้ยิน เพราะดิชั้นเชื่อ หลังจากที่มีการฝึกลูกศิษย์ในการปรับและรับคลื่นตรงนี้โดยเฉพาะการกระตุ้น ซอฟต์แวร์สมอง คำว่าซอฟต์แวร์สมองเนี่ยคือจริงๆแล้วเรา ไม่ได้เกิดมาชาติเดียว ถ้าเราเชื่อตามหลักพุทธศาสนาเราเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสังสารวัฏนี้มาไม่ รู้กี่ภพกี่ชาติทุกครั้งของการเดินทางเราจะตรึกนึกรู้อยู่ในซอฟต์แวร์ สมองแต่ถ้าเราไม่ฝึกจิตให้เกิดการจดจำ จำได้หมายรู้สัญญาเดิมนี้จะหายไปโดยเฉพาะเมื่อเราต้องไปอยู่ในอบายภูมิทั้ง หลายสมองของเราจะไม่จดจำเรื่องราว ต่างๆ ฉะนั้นใครก็ตามแต่ที่ไม่ประคองจิต จิตตกลงไปแล้วเมื่อเราต้องไปชดใช้กรรมอยู่ในอบายภูมิสัญญาตรงนี้จะถูกลบ เลือนไป แต่ถ้าท่านเป็นผู้ปฏิบัติ
    ฝึก จิตให้สงบให้ระงับให้ลดให้ละจนถึงเลิกในที่สุดได้คลื่นความถี่ในสมองท่านจะ สามารถรับและก็จูนกับคลื่นความถี่อื่นได้นั่นแหละคะข้อมูลต่างๆจะถูกบันทึก และก็เก็บสะสมไว้ในซอฟต์แวร์สมอง และเราก็มีการในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ดิชั้นบอกว่าถ้าสอนเรื่องพลังจิต ดิชั้นจะไม่สอนแบบให้เป็นนามธรรมทุกสิ่งทุกอย่าง
    ต้อง สัมผัสและจับต้องได้เด๋วช่วงท้ายถ้ามีเวลาเราจะให้ทุกคนได้ฝึกพลังจิตอย่าง ง่ายๆ เพื่อให้สัมผัสได้ว่าพลังจิตนั้นมีจริง พลังงานมีจริงๆไม่ใช่เป็นเรื่องที่ว่าเราสม มุติขึ้นติ๊ต่างขึ้นหรือว่าเป็นสิ่งที่เราจับต้องไม่ได้เพราะเมื่อนักวิทยา ศาสตร์มาสอนเรื่องพุทธศาสตร์ต้องให้รู้เพราะดิชั้นมีความเชื่อมั่นว่าพระ พุทธองค์เนี่ยเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ ยิ่งใหญ่ ท่านรู้ค่ะรู้ว่าจริงๆแล้ว เหมือนกับชั้นอยู่ที่เชียงใหม่ลูกศิษย์ดิชั้นอยู่ที่กรุงเทพหรือหาดใหญ่ โทรมาบอกอาจารย์ขาหนูไม่สบายมากเลยพรุ่งนี้หนูต้องพูดหน่ะ อ่ะนั่งสมาธิดิชั้นก็ส่งคลื่นไปไม่ถึง 2 นาที เค้าโทรกลับมาเค้าบอกว่าเค้ารับได้แล้วรู้สึกดีขึ้นอย่างเมื่อคืนนี้เหมือน กันอดีตพยาบาลโรงบาลหาดใหญ่ก็โทร มาบอกว่าเค้าไม่สบายกล่องเสียงอักเสบ ไม่ทราบไปติดเชื้อที่ไหนมา ก็เมื่อคืนก็นั่งสมาธิให้ เมื่อเช้านี้โทรมาเสียงดีแล้ว หรืออีกครั้งนึงลูกศิษย์ที่อยู่โรง พยาบาลแอดมิทอยู่ที่เกษมราษฏร์ไม่สบายมากเลยแล้วก็ตอนนั้นดิชั้นประชุมอยู่ ที่เชียงรายปรากฏว่าเพื่อนเค้าโทรไปบอกว่าโคม่าแล้วเราก็โอตาย ถ้าตายตอน นี้ อาจารย์ไม่ได้เห็นใจแน่เลย เลื่อนๆๆ เค้าไปนิดนึง ประคองเค้าไว้นิดนีง ก็ตอนนั้นเค้าอยู่ไอซียู ดิชั้นก็ส่งคลื่นจิตมา ส่งคลื่นพลังงานมา หมอ พยาบาลที่กำลังตรวจคนไข้อยูตกใจ เพราะพยาบาลเธอไปจับราวโครเมี่ยมที่กั้นเตียงคนไข้แล้วปรากฏว่ามันช๊อตก็ ตกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นมันสป๊าคตัวเธอและนั่นคือสิ่งที่ทดสอบได้ เลยว่าพลังงานนี่จริงๆ แล้วมันก็เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างนึงซึ่งเราสามารถส่งถ่ายไป ดิชั้นไม่ได้เกลียดทักษิณหรอกเพราะดิชั้นขโมยดาวเทียมไทยคมเนี่ย
    ส่ง คลื่นให้ลูกศิษย์ลูกหาแล้วก็ส่งคลื่นไปในสถานที่ต่างๆ เนี่ยเยอะมากเลย แอบใช้โดยที่ไม่ต้องเสียเงิน

    คลื่นจิตเนี่ยมันต้องเกิดจากการฝึก หลังจากที่เกิด
    เหตุการณ์คลื่นซีนามิแล้ว หลายๆ คนบอกว่าอาจารย์การที่เราละเมิดกฏสวรรค์หรือเอาความลับของสวรรค์เนี่ยมาบอก ผู้คนมันเป็นเรื่องผิดนะเพราะบางคนเนี่ยก็เหมือนอย่างที่พระคุณท่านพูดถึงเรื่องบุพผาสวรรค์ว่าเอาความลับสวรรค์มา เตือนแล้วก็เกิดเหตุภัยพิบัติดิชั้นเองก็ประกาศกับสวรรค์เลยค่ะ แหงนหน้ามองฟ้าท่ามกลางฝนตกเปรี้ยงๆ นี้แหละบอกว่า ถ้าดิชั้นเป็นคนที่ลงมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์จริงๆ สิ่งใดที่เห็นต้องบอกได้ ถ้าไม่อยากให้พูดอย่าให้เห็นอย่าให้รู้ ถ้ารู้แล้วจะต้องเตือนเค้า ไม่ได้เตือนให้ตระหนกตกใจแต่เตือนให้ตระหนักถึงคุณค่าของความมีชีวิตของความ เป็นมนุษย์ของทุกคน คุณมีบุญแค่ไหนแล้วที่เกิดมาเป็นมนุษย์ไม่ ใช่สัตว์เดรัจฉาน ฉะนั้นคุณมีโอกาสที่จะเรียนรู้พัฒนาได้ มนุษย์เป็นสัตว์โลกชนิดเดียวที่เป็นโรคปวดหลังได้เพราะแนวกระดูกสันหลังของ เราเป็นแนวดิ่ง ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน ที่แนวกระดูกสันหลังขนานกับแรงดึงดูดของโลก ฉะนั้นก็จะเกิดแรงกดทับทำให้เรามีปัญหาปวดหลังถ้าเรา ยืน นั่ง นอน ไม่ถูกสุขลักษณะ แต่ก็เป็น
    ความโชคดี เพราะการที่เรามีกระดูกสันหลังเป็นแนวดิ่งนี่ล่ะคะทำให้เราสามารถชักเสา วิทยุของเราได้และเราทุกคนมีเสาวิทยุติดตัวก็คือโครงกระดูกสันหลังเพียงแต่ เราจะปรับเสาวิทยุของเราเนี่ยให้คมและชัดเจนได้อย่างไร อันนี้คือสิ่งที่เราต้องกระทำด้วยตัวเราเอง ฉะนั้นการที่ว่าเรารู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นและเราต้องเตรียม ตัวมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่ประมาทกับชีวิตเพราะดิชั้นบอกว่าวันนี้ดิชั้น ไม่พูดหรอกค่ะว่าเตือนภัยแต่ดิชั้นจะบอกว่าทำอย่างไรเราถึงจะป้องกันไม่ให้ ภัยพิบัตินั้นเกิดขึ้นอย่างรุนแรงใน ประเทศไทยและดิชั้นเชื่อว่าอานิสงจากที่เราได้ทำต่างๆและดินแดนนี้เป็นดิน แดนที่พิเศษจริงๆ ดินแดนแห่งพุทธเกษตร ดินแดนสุวรรณภูมิ นี้ เพราะดิชั้นเชื่อว่าไม่ใช่มีแต่กลุ่มเรา แต่มีพระคุณเจ้าพระสุปัณโนมีผู้มีพลังจิตมากมายอยู่ในแผ่นดินนี้ที่มีความ มุ่งมั่นที่จะรักษาและปกปักแผ่นดินนี้
    ให้ อยู่จนถึงยุคหน้าให้ได้

    ฉะนั้นนับว่าวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เราได้ เริ่มมีการรวมตัวกัน ที่เมื่อก่อนนี้ต่างคนต่างสะเปะสะปะ ลดอัตตาของท่านและเปิดใจให้กว้าง
    ลอง มาพิจารณาว่าเราจะช่วยอะไรกันบ้าง ดิชั้นเชื่อว่าสิ่งที่เราได้ทำกันอานิสงเนี่ยถ้าเกิดเรารวมตัวกันมันจะเกิด เป็นพลังงานมหาศาล หลายๆ ท่านเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เคยได้ยินพายุเรื่องหมุึยฟ้า หมุยฟ้าเนี่ยปรากฏว่าทางกรมอุตุฯ แจ้งว่าจะเข้ามาประมาณ 2 ทุ่ม มีการเคลื่อนมาทางทะเลจีนใต้ จากเวียดนามและจะเข้ามาสู่อ่าวไทย ประมาณเท่านั้นเท่านี้ ลูกศิษย์โทรมาตอน 2 โมง ว่าแม่จ๋าพายุจะเข้าแล้ว อืมรู้และไม่เป็นไรหรอกลูก ลูกเล็กนิดเดียวเด๋วจัดการได้ คำว่าจัดการได้ดิชั้นว่าบางคนฟัง แล้วมันเหมือนเรื่องตลก แต่ตัวเองเนี่ยทำแล้วมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว พอหลังจากนั้เนี่ยที่ประมาณการว่าหมุยฟ้าจะเข้า 2 ทุ่ม ก็แล้ว 3 ทุ่มก็แล้ว
    4 ทุ่มก็แล้ว พายุหายไปไหน จนกระทั่งเช้ามีโทรศัพย์ถามมาที่กรมอุตุุฯ อย่างมากมายว่าทำไมพายุหมุยฟ้ามันสลายหายตัวไปไหน ทางนั้นก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ว่าไอ้พายุที่ก่อตัวที่แหลมบินดะเนาแล้วภาพถ่ายอากาศก็เห็นปรากฏ แล้วมันหายไปไหน และหายไปอย่างไรอย่างไรร่องรอย เรื่องนี้เป็นเรื่องของพลังงานเรื่อง energy อย่างแท้จริง คลื่นพายุเวลาก่อตัวเนี่ยมันจะมันจะหมุนเป็นลักษณะนี้ ถ้าเราสามารถเข้าไปสู่ศูนย์กลางของพายุเพื่อตัดขั้วได้ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น คะ พลังงานจะอ่อนแล้วก็แตกกระจายไป แล้วก็จะกลายเป็นดีเปรสชั่นธรรมดาไม่ใช่พายุไต้ฝุ่นอีกต่อไป สมัยพายุเกหน่ะยังไม่ฝึกวิชาและเรียนรู้นี้ แต่ตอนลินดาได้ทำและเห็นชัดเจนมากก็คือพายุไม่เข้าฝั่งแต่เลาะไล่มาตามชายฝั่ง ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องตรงนี้ทำให้ดิชั้นมีความเชื่อมั่นเรื่องพลังงาน เรื่อง energy มากขึ้นเลยว่า

    จริงๆ
    แล้วทุกคนนั้นฝึก ได้ ทุกคนช่วยกันได้ และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์การทำนายทายทักว่าไอ้นั่นจะเกิดไอ้นี่จะเกิด แล้วทุกอย่างทำไมมันไม่เกิด บางคนบอกอาจารย์อาจารย์ พูดไปแล้วเนี่ยถ้ามันไม่เกิดอาจารย์หน้าแตกนะ ชั้นไม่กลัวหน้าแตกหรอก แต่ัชั้นกลัวความสูญเสียและกลัวประชาชนบอบช้ำ ที่สำคัญทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์วิกฤตธรรมชาติคนที่ทุกข์ที่สุดคือใครทราบไหมคะ พ่อหลวงของเราค่ะ ท่านไม่ทรงหลับทรงนอนเลย ท่านจะอยู่กับวิทยุอยู่กับคอมพิวเตอร์อยู่กับเอกสาร อยู่กับแผนที่ทุกอย่างทรงงานตี 3 ตี 4 ตรงนั้นเค้ามีน้ำกันหรือยังเค้ามีอะไรกินไม๊ ตรงนั้นใครไปช่วยเค้า เค้าจะอยู่ยังไงอะไร นี่คือสิ่งที่ท่านทรงห่วงใยพสกนิกรอย่างลึกซึ้งมาก ดิชั้นบอกดิชั้นทำทุกวันเนี้ยไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพราะพ่อ พ่อของแผ่นดินที่เราบอกเราทรงรักนักหนานี่แหละค่ะ แต่ถามว่าเราได้ช่วยกันทำอะไรบ้าง ขณะเดียวกันดิชั้นเองก็ทำเพื่อพสกนิกรของพระองค์ท่านเพราะว่าเราบอบช้ำมาจาก เรื่องหนี้เศรษฐกิจและตอนนี้เรากำลังจะเจอเรื่องพลังงาน

    จริงๆแล้ว
    เวลาขนาดเนี้ยให้อาจารย์พูดไม่พอหรอกค่ะ เพราะอาจารย์บอกมีเรื่องเยอะเพราะอยากจะพูดเรื่องเศรษฐกิจ แต่วันนี้เป็นเรื่องของพลังจิต ขอพูดเรื่องพลังจิตอย่างเดียว ถ้าท่านใดสนใจนะคะ เดี๋ยวลงชื่อให้เบอร์โทรศัพท์ไว้เดี๋ยวเราอาจจะมีรอบสองเปิดเป็นพิเศษเพราะ ปีนี้ยังไม่ได้พูดเลยว่าปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตรงนี้ขอ
    อยาก เตือนนิดนึง ในฐานะที่ได้รับสัญญาณมาและในฐานะที่วันนี้เนี่ยมีกลุ่มนิรนามดิชั้นขออนุญาตเรียกกลุ่มมนิรนามเพราะว่าไม่มีกายสังขารเหมือนพวกเรา เช้ามา อยู่ในห้องนี้ ค่อนข้างจะหลายท่านทีเดียวซึ่งอยากให้ดิชั้นบอกกล่าวอะไรออกไป ซึ่งมันดูจะแผลงๆ นิดละนะ ที่เราประชุมกันที่สถาบันแพทย์ศาสตร์ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์เกือบทั้งนั้นแต่เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แต่เดี๋ยวเราต้องรู้ค่ะ เดี๋ยวตอนท้ายจะให้สัมผัสพลังงาน ท่านใดสนใจจะสัมผัสพลังงานขอมือหน่อยค่ะ ขอเสียงปรบมือดังๆ หน่อยซิคะ ขอบคุณค่ะ นี่อาจารย์เกินเวลาไปหรือยังคะ

    ขออีกนิดนึงนะคะ ก็คือหลายๆ ท่านที่เข้ามานะคะ ในกลุ่มที่เรามองไม่เห็นเนี่ย
    เค้าบอกต้องการสื่อให้เราเตรียมพร้อม ทุกคนจะถามว่าเมื่ออาจารย์รู้ว่าจะมีภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติเกิดขึ้น อาจารย์เตรียมตัวอย่างไร ดิชั้นบอกดิชั้นเตรียมอยู่2 อย่าง

    ฝึกร่างกายให้แข็งแรงเพื่อจะได้ช่วยตัวเองได้ไม่ใช่วิ่งหนีนะคะ และเพื่อจะได้ช่วยคนอื่นได้เพราะถ้าเราไม่แข็งแรงแล้วเราจะไปแบกหามคนอื่นจะไป ช่วย
    คนอื่นได้อย่างไรตัวเองยังพาตัว ไม่รอด

    ข้อสองฝึกจิตให้มั่นคงและมีสติสัมปชัญญะไม่ตื่นตูมเมื่อเกิดภาวะวิกฤตและคิด ว่าเราจะหาหนทางแก้ไขมันอย่างไร


    ด๊อกเตอร์ กัญจีราเนี่ยนะคะเป็นคนประกาศว่าเราต้องย้ายเมืองหลวงและดิชั้นก็เลือกที่ ไว้แล้วตอนนั้นด๊อกเตอร์อาทิตย์เสนอที่ฉะเชิงเทรา ดิชั้นบอกไม่ได้เพราะ
    แผ่นดินเป็นแผ่นดินใหม่ลุ่มและเหลวต่อไปน้ำจะท่วม อีกคนนึงเสนอนครนายก ดิชั้นบอกไม่ได้เพราะมีรอยเลื่อนแผ่นดินจะไหวได้ เค้าบอกไม่เคยมีข่าวว่าที่นครนายก มีรอยเลื่อน ดิชั้นบอกมีอีก10กว่าปีข้างหน้าเค้าถึงจะรู้ ดิชั้นรู้ตอนนี้แล้ว ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อดิชั้นก็เสนอแต่ไม่บอกหรอกเด๋วคนจะรีบไปซื้อที่กักและอนาคต เราต้องย้ายไปอยู่จริงๆ เราไม่ได้ย้ายทั้งหมดแต่เราจะย้ายบางส่วนปล่อยให้กรุงเทพเป็นเมืองพาณิชย์ เป็นเมืองธุรกิจ แต่ย้ายในส่วนงานส่วนราชการบางส่วนเนี่ยออกไป เพราะเหตุว่าทำไมถึงต้องย้ายเพราะกรุงเทพฯ หมดอายุแล้ว เพราะเมืองหลวงของทุกประเทศจะมีอายุ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปเป็นกฏไตรลักษณ์กฏของธรรมชาติอย่างแน่แท้ ฉะนั้นเมื่อกรุงเทพฯ หมดอายุแล้วก็รอการล่มสลาย ฉะนั้นสิ่งนึงที่เราจะประคับประคองได้ก็คือเราจะต้องขยับขยายออก ไป ดิชั้นบอกเลยว่าเรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงประเสริฐที่สุดท่านทรงหยั่งรู้ เรื่องนี้นะคะ ท่านถึงย้ายพระองค์ท่านเองไปอยู่วังไกลกังวลตลอดเวลา 20 กว่าปี
    เหมือนกับย้ายจุดศูนย์กลางของ พระนครหรือเมืองหลวงไปนั่นเองเพราะเมืองหลวงเมื่อไม่ได้อยู่ในจุดศูนย์กลาง พระองค์ท่านย้ายไปเนี่ยมันก็ช่วยผ่อนบางสิ่งบางอย่าง

    ที่สำคัญที่สุดก็คือ อันนี้อาจจะเป็นเรื่องพุทธศาสตร์หรือไสยศาสตร์ก็ได้ วันนี้เราไม่มีเทวดารักษาเมืองแล้วพระสยามเทวาธิราชเสด็จกลับขึ้นข้างบนแล้ว
    ซึ่ง ตรงนี้เป็นเรื่องอีกเรื่องนึงที่ปีหน้าหรือปี 51 นะค่ะดิชั้นจะต้องสร้างพระองค์นี้ สร้างพระองค์นึงซึ่งเป็นตัวแทนของเทวดาที่จะมารักษาเมืองเราจะเรียกพระองค์ นี้ว่าพระจตุรพิตพิภิตพรชัยวงเล็บ ว่าชนะมาร สร้างสี่องค์สี่ภาคเป็นเหมือนยันต์ประเทศเพื่อให้ผ่านวิกฤตของภัยธรรมชาติ ไม่กี่วันก่อนก็พึ่งไปขึ้นทางเหนือเพื่อไปร่องรอยแผ่นดินไหวที่ไหวเมื่อ 3800 ปีที่ทำให้เกิดรอยแยกของแผ่นดินเกิดเป็นแม่น้ำกกที่วัดท่าตอนก็เพิ่งไปมา ไปที่โยนกนคร โยนกนี่ไปตั้งแต่ 41-43 เพราะรู้ว่า มันมีความสำคัญกับบางสิ่งบางอย่าง เมื่อกี้พระคุณเจ้าท่านพูดถึงการแผ่เมตตา ดิชั้นขอเสริมตรงนี้นิดนึงนะคะ มันเป็นสิ่งทีดีมาก แต่การที่คุณจะแผ่นเมตตาคุณ จะเป็นเศรษฐีที่จะจ่ายให้คนอื่นได้ คุณต้องมีทุนสะสมไม่ใช่อยู่ๆ คุณก็จะไปควักทุนแผ่เมตตาหมดแล้วคุณไม่มีทุน วันนึงคุณก็หมดกระเป๋า เพราะอะไรทราบไม๊คะ การแผ่เมตตาเนี่ยจะทำให้สรรพสัตว์ที่อดอยากและยากไร้ได้อานิสงค์ผลบุญที่คุณ ต้องกระทำ คุณต้องกระทำก่อนนะคะ คุณต้องสร้างบุญและบุญนี้แหละนะ คะ จะไปเกื้อหนุนทำให้คุณมีทุนรอนที่จะแผ่เมตตาและช่วงชีวิตตัวเองที่เดินทางมา ทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 36 ปีแผ่เมตตามาตลอดไปที่ไหนก็แผ่ ไปที่ไหนก็แผ่จน กระทั่งตัวเองนอนแผ่หลาก็มีเพราะบางทีมารุมมาตุ้มกันจน โอ้โห้ตั้งตัวไม่ติดเลยนะคะ แผ่กันมาแบบไม่ต้องหลับต้องนอนเลยนะคะ เดี๋ยวก็วู้วๆ มา โดยเฉพาะจุดตรงไหน ที่เคยมีการตายเป็นจำนวนมากๆ เหมือนอย่างที่ท้ายเหมือง ตรงนั้นมีผู้คนตายนับหมื่นนับแสน อย่างเกาะหลีเป๊ะ เกาะต่างๆ แถวนั้นอ่ะนะคะ แถวอันดามัน ลังกาวีแล้วก็เกาะเขาพิงกันคือเกิดขึ้น ตรงนั้นเคยเป็นเมืองใหญ่แผ่นดินใหญ่ แล้วก็ล่มสลายบางส่วน บางส่วนก็ยังคงอยู่ฉะนั้นจะเห็นเลยว่ามีปฏิมากรรมการ เขียนภาพสีน้ำมันอยู่ ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 3-4 พันปี ทีนี้ภาคเหนือก็เหมือนกัน จุดใดก็แล้วแต่ที่มีคนตายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตายไม่รู้สึกตัว ตายอย่าง
    ขาด สติ ไม่รู้ว่าตาย วิญญาณไปไหนไม่ได้เพราะเค้ารู้ว่าเค้าไม่ตายจิตวิญญาณเค้าจะอยู่ตรงนั้นผูกพันตรงนั้นฉะนั้นบอกได้เลยว่าใครไม่อยากเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์อย่า งก บางคนหวงบ้าน บางคนหวงรถ หวงทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งเป็นทรัพย์สินเงินทองหาไรมาได้ก็หวงหมดเลยจิตของคุณจะผูกพันธ์กับตรง นั้นและไอ้คลื่นจิตที่ผูกพัน ตายปั๊บคุณจะวิ่งมาตรงนั้นทันที ไม่งั้นพระท่านไม่บอกหรอกคะตายแล้วไปที่ชอบ ที่ชอบก็คือที่เราชอบอะตรงไหนที่เราชอบใจเราก็ผูกพันอยู่ตรงนั้นแล้ว พอเราตายปั๊บจิตวิญญาณเรามันก็จะไปตรงนั้น บางคนชอบอาบอบนวด ก็ไปเลยนะคะอาบอบนวดอันนี้เรื่องจริงๆ บางคนหน่ะบ้านเมียหลวงไม่ไป ผูกพันกับเมียน้อยพอตายปุ๊บนู่น หมาไปหอนเกรียวบ้านเมียน้อย อันนี้เรื่องจริงเลย อะไรก็ตามแต่ที่เราชอบเราผูกพัน คลื่นจิตนะคะไม่ใช่ความรู้สึกอย่างเดียว ความรู้สึกนึกคิดเนี่ยมันเป็น พลังงานส่งออกมาและคลื่นความถี่เนี่ยจะไปจับกับมวลสารนั้นๆ ก็เหมือนที่เราพุทธาพิเสกไงละคะ เราเอาพลังงานของพุทธคุณก็คือคลื่นจิตของผู้ที่ปลุกเสก ใส่ลงไปในมวลสารหรือวัตถุนั้นๆ เพื่อให้เกิดเป็นพลังงาน แต่ดิชั้นจะถามทุกคนเสมอว่าทำไมเราต้องไปอาศัยอย่างอื่นมาคล้องมาแขวนคอกันรุงรัง ขอพระคุณเจ้านะคะท่านไหนที่ห้อยจตุคามขออนุญาติตรงนี้นิดนึง ทำไมไม่คิดปลุกเสกตัวเองให้เป็นของขลัง เราทำได้ด้วยจิตที่สะอาดสงบเพื่อให้คลื่นความ ถี่เรามีพลังงานที่ดีสัมพันธ์กับคลื่นพลังงานอื่น ไปที่ไหนเทวดาแห่แหนไปที่ไหนเทพพรหมมาโมทนาสาธุ ซึ่งตรงนี้เนี่ยเราทำได้เมื่อคลื่นจิตของเราบริสุทธิ์เรา แผ่เมตตาให้ใครก็ถึง โดยเฉพาะคลื่นจิตของคนที่มีพลังงานสูงมากๆ จากการฝึกจิตไปได้ไกล ดิชั้นเคยไปที่เขาสุกิมไปที่แก่งหางแมวไปแผ่นเมตตา พระบอกโอ้โห้วันนี้ใครมาแผ่เมตตา นู่นเทวดาจากเขาเขียวจากไหนก็ไม่รู้มากันเต็มเลยเพราะเสียงที่เราสวดมนต์ เนี่ยละคะ เป็นคลื่นเสียงทั้งนั้นฉะนั้นทุกครั้งที่สวดมนต์ก็ ตามถึงบอกว่าให้เปล่งเสียง เปล่งเสียงออกมาเพื่อเสียงของเราเนี่ยมันจะเป็น vibration เคลื่อนเข้าไปในมิติต่างๆ บางคนถามว่าสวรรค์อยู่ข้างบนหรอ นรกอยู่
    ข้างล่างหรอ เทวดาอยู่ตรงไหน ดิชั้นบอกเนี่ยเดินอยู่เนี่ย ดิชั้นเคยไปเดินที่ศิริราชตึกกายภาพที่ตึก 5 ชั้นที่เค้าไว้ซีอุย เวลาไปเดินลูกศิษย์บอก อาจารย์มากันเป็นพรวน เลยตามหลังอาจารย์มาเพราะคลื่นความถี่ของเราที่ไปกวน พูดอย่างนี้แล้วบางคนบอกไม่เอาไม่ฝึกดีกว่าเด๋วผีตามหลัง จริงๆแล้วเราได้อานิสงนะคะเพราะคลื่น ความถี่เนี่ยเราไปสัมพันธ์กับเค้าได้ฉะนั้นเวลาเราปล่อยคลื่นความถี่แค่จิต ของเราเนี่ย จิตของเรามีพรหมวิหารสี่มีเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขาตรงเนี้ยเป็นจิตที่ ส่งออกไปสรรพสัตว์ที่ได้รับแม้กระทั่งมนุษย์แม้กระทั่งเทพเทวดาก็เกิดความ รู้สึกปิติกับสิ่งที่เราได้ให้เค้าไปฉะนั้นคลื่นจิตเนี่ยจะเป็นตัวที่ส่ง สัญญาณและป้องกันตัวเราจากเภทภัย ทุกอย่างได้และลองคิดดูซิคะถ้าเราเป้นกลุ่มที่มีพลังจิตที่มีความจงรักภักดี ต่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไม่ใช่พวกที่มาฉวยโอกาสหาเสียงเป็นครั้ง คราวนะคะ รักด้วยจิตวิญญาณ รักด้วยความรู้สึกของเราเองเนี่ยดิชั้นเชื่อว่าถ้ามารวมตัวกันฝึกให้ถูกต้อง มันจะเกิดเป็นพลังงานมหาศาล

    มีคนถามว่าอาจารย์
    น่ะ เก่งจะตายทำไมอาจารย์ทำคนเดียวไม่ได้เหรอ ได้ค่ะแต่สังขารมันจะไม่รอดเพราะทุกวันนี้สังขารตัวเองเนี่ยอาศัยการฝึก เพราะก็ไกล้จะตะกาย 60 แล้วเหมือนกัน ฉะนั้นมันต้องอาศัยการฝึก ฝึกร่างกายเพื่อให้เราสมบูรณ์พร้อมที่จะทำงานขณะเดียวกันที่เราใช้พลังงาน มากๆ เนี่ยมันก็เป็นส่วนนึงที่จะทำให้กายเราไม่
    สามารถ อยู่ในโลกมนุษย์นี้ได้ เพราะยิ่งเราฝึกมากเท่าไหร่ความเป็นทิพย์เราเกิดขึ้นเราจะอยู่กับโลกมนุษย์ ไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ทานได้น้อยลงอันนี้ขอเสริมท่านพระ คุณเจ้า จริงๆ นะคะถ้าเราปฏิบัติให้มากเราจะไม่ต้องการอาหารเลยเพราะกายของเราเนี่ยมันจะมี พลังงานพิเศษที่มาห่อหุ้มอยู่แต่เราต้องรักษาศีล ต้องหมั่นให้ทาน เพื่อลดความตระหนี่ และก็ต้องฝึกอบรมจิตด้วยการปฏิบัติทุกวัน ทุกวัน ทำไมทุกวันท่านต้องอาบน้ำชำระร่างกายละคะ เพื่อให้ร่างกายชำระสิ่งสกปรกออกไปและ จิตใจของเราที่กระทบกับทุกสิ่งทุกอย่างในแต่ละวันเราเคยคิดกันบ้างไม๊ว่าเรา จะต้องชำระล้างกันแค่ไหน และจิตของเราที่โปร่งที่เบาที่สบาย นี่แหละคะถึงจะเป็น จิตที่มีพลังจิต มีบางคนในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนะคะ เดินมาหาแล้วก็บอกว่า อาจารย์คนนั้นเค้าบอกเค้าเก่งเค้าเห็นนู่นเห็นนี่ นี่เธออย่าโง่ ถ้าเธอเป็นลูกศิษย์ ชั้นเธออย่าโง่ เธอมองดูซิคนมีพลังจิตแมวอะไรเดินก็ยังพาตัวไม่รอดเลยกะปลกกะเปลี้ยแบบนั้น พลังจิตมันต้องมาจากฐานมาจากร่างกายที่แข็งแรงแกร่ง แล้วมันส่ง input output ออกมา ไม่ใช่บอกเดินตัวเองง๋อยๆ ขึ้นกระไดก็สั่นพับๆ แล้วเอาพลังจิตที่ไหนละ ฉะนั้นเราเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานเราจะต้องไม่ถูกคน อื่นเค้าหลอก เพราะทุกวันเนี้ยเราถูกหลอกให้เชื่อในหลายๆ เรื่องนะคะ ดิชั้นจะพูดเสมอเลยว่าภูมิชีวิตสร้างภูมิธรรมและภูมิธรรมนี่แหละสร้าง ภูมิปัญญา ฉะนั้นตรงนี้เนี่ยถ้า หากว่าเรามองเราพิจารณา ความไม่แน่นอนความเปลี่ยนแปลงของโลกที่มันจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะวันที่ 22 ธันวาคมนี้ หลายๆ คนหูผึ่งเลย พออาจารย์พูด อย่างนี้นะคะ มันจะเข้าสู่ช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลง 3 เดือนนี้คือ ตุลา พฤศจิกา ธันวา เป็นช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนพลังงานบางอย่าง ทีนี้บางคนถามว่าอาจารย์ีรู้ได้ยัง ไง ก็อย่างที่บอกดิชั้นรับจากสัญญาณคลื่นแล้วแปลเป็นรหัสออกมา เอ่อเคยได้ยินเจ้าหน้าที่กรมอุตุฯ เคยพูดว่าทำไมนะเด๋วนี้กรมอุุตุฯ เนี่ยพยากรณ์อากาศไม่แม่น บอกฝนตกแต่ฝนดันไม่ตก แล้วบอกฝนไม่ตกโอ้โหมันลงห่าใหญ่เลย กรุงเทพฯ เนี่ยนะคะบอกฝนหมดแล้วอ่ะมันตกมาเย้ยกันเลยเพราะกรมอุตุฯเค้า ศึกษาจากสถิติ แต่ของอาจารย์ไม่ ดิชั้นจะไม่ทำอย่างนั้น เชื่อไม๊คะจากการไหวตัวของแผ่นดินที่อาเจะนั้นมันไม่ได้ไหวตรงนั้นแต่แผ่น ดินทั่วโลกมันมีการขยับตัวมันขยับๆๆ มากน้อยแล้วแต่ว่าตรงไหนที่เจอแกนหินแข็งแรงแน่นหนามันก็อาจจะขยับน้อย ที่เป็นทรายเป็นของเหลวมันก็จะมีการขยับตัวมากแล้วมันก็รอการจัด ระเบียบครั้งใหญ่อีกหนึ่งครั้งและช่วง 3 เดือนเนี้ยคือช่วงเปลี่ยนแปลงขณะที่ใครทำนายเรื่องฝนไม่ถูกไม่ต้องนะคะ แต่ ดร.กัญจีราจะพูดเรื่องฝนได้ถูกต้องเพราะ อะไร ดิชั้นไม่ได้ศึกษาแค่เรื่องภูมิศาสตร์เรื่องระบบนิเวศวิทยาแต่ศึกษาถึงการ เปลี่ยนแปลงของพลังงานร่องน้ำเปลี่ยนเกิดการขยับตัวของแผ่นดินร่องน้ำ
    เปลี่ยน ความชื้นสัมพัทธ์เปลี่ยนทิศทางลมเปลี่ยนเพราะฉะนั้นบางครั้งเหมือนไม่มีเมฆ ฝนแต่อีกซักพักนึงฝนตกได้เพราะอะไรคะ เพราะเนื่องจากว่ามันเกิด vortex เป็นคลื่นพลังงานที่เรามองไม่เห็นเมื่อกระแสลมกระทบพลังงานตรงนี้มันก็จะ ม้วนตัวรวมกันแล้วก็ก่อเป็นพายุฝนซึ่งตรงนี้เนี่ยหลายๆ จุดในโลกเกิดพลังงาน ตรงนี้เพราะแม้กระทั่งในห้องเนี้ย มันก็มี vibration คลื่นเป็นมิติต่างๆ ซึ่งลูกศิษย์หลายคนที่เคยตามอาจารย์เข้าป่าเนี่ยจะบอกเลยว่าบางทีเนี่ยเดินเหมือน หลงป่าหาทางออกไม่เจอเราก็ปล่อยให้เค้าเดินกันเพื่อศึกษาอะไรบางอย่าง เค้าบอกอาจารย์ทำไมมันออกไม่ได้ ทำไมมันกลับมาที่เก่า บอกนั่นแหละคือมิติ ที่ซ้อนมิติ เอาแหละเดี๋ยวจะเปิดให้พอดิชั้นใช้คลื่นความถี่เข้าไปเพื่อปรับคลื่นความถี่ ของพลังงานที่กั้นไว้เราก็เห็นทางออก เห้ยไม่น่าเชื่อถ้าไม่เห็นกับตาจะไม่ เชื่อตรงนี้ นี่ไงคะมิติที่ซ้อนกับมิติอยู่ในแนวระนาบเดียวกันกั้นกันด้วยคลื่นพลังงาน และคลื่นพลังงานนี้แหละถ้าเราสามารถเคลื่อนเข้าไปได้เราสามารถย่นระยะทางได้ เราสามารถรับรู้สัญญาณที่ส่งมาเพราะเหตุการณ์นี้ที่เรานั่งกันอยู่ตรงนี้ถ้า ไอสไตน์ยังอยู่ไอสไตน์บอกมันเป็นอดีตแล้ว มันเป็นอดีตของอนาคตซึ่งเหตุการณ์วันนี้ ชั้นได้เห็นมาแล้วเห็นมาเมื่อ 6 เดือนก่อนว่าจะมีการรวมตัวกันที่คณะแพทย์และจะมีกลุ่มคนที่สนใจมีทั้งพวกเทพ พวกมาร ตอนนี้คนอยากรู้อยากเห็นก็มานะ คะ อยากรู้ว่าเออพวกพลังจิตมันจะบ้ากันไปถึงไหนนะ มันพูดเรื่องจริงเพ้อเจ้อขนาดไหนนะ เอ๊ะเดี๋ยวนี้มดหมอเอากับเค้าด้วยเหรอนะอะไรประมาณนั้น หรือแม้กระทั่ง หลายๆ คนอยากจะเห็น ดร.กัญจีรา หน้าตาเป็นอย่างไรเห็นอยู่ในเวปไซต์อยู่ตั้งนานแล้ว วันนี้นะคะมีคนมานั่งพูดกันหน้าห้อง เนี่ยชั้นมาเพราะอยากจะฟังดร.กัญจีรา แต่ไม่รู้หน้าตาเป็นยังไง ก็บอกเพี้ยนๆ อย่างนี้แหละค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็คืออยากจะบอกทุกท่านว่า จงมีสติให้มั่นคง อะไรก็เกิดขึ้นได้ สร้างบุญกุศลไว้ทุกลมหายใจ ทุกขณะจิต ท่านพุทธทาสบอกว่าถ้าอยากมีชีวิตยืนยาวให้หายใจยาวๆ เพราะการหายใจยาวๆ จะทำให้เรา ถ้าตามหลักวิทยาศาสตร์ การหายใจก็คือการเหนี่ยวนำอ๊อกซิเจนเข้าไปสู่ร่างกายจะทำให้การสันดาบเม็ตตาบอลิซึ่มต่างๆ ดีขึ้น ทำให้ประจุไฟฟ้าต่างๆ ในร่างกาย แต่ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ต้องทำยังไงคะต้อง หายใจเข้าไว้ค่ะ ถ้าคุณไม่หายใจคุณจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงและทุกลมหายใจเข้าออก บอกตัวเองว่าให้ทำดี ทำดี เพราะพรุ่งนี้เราก็ตายแล้วช่วงนี้ขอเวลาเท่านี้ก่อนนะคะ
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2009
  13. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post878227" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 22-12-2007, 01:33 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #59 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Rattanaporn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_878227", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    สถานที่: ...ไม่เคยมีอยู่จริง...
    ข้อความ: 1,180
    พลังการให้คะแนน: 1759 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_878227" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start --> อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ apichan [​IMG]
    โพสต์ข้อความที่ถอดเทปแล้วไม่ขึ้นครับ

    ขอแนบเป็นไฟล์เวิร์ดแล้วกัน
    </td> </tr> </tbody></table>
    การพัฒนาจิตเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ
    โดย นพ. สมพนธ์ บุณยคุปต์
    (ทำการถอดไฟล์เสียงโดยคุณ apichan)

    นมัสการพระคุณเจ้า ท่านประธานและก็ท่านผู้ฟังทุกท่าน คือผมต้องขอเรียนในเบื้องต้นว่าเมื่อ
    ทางผู้จัดได้โทรศัพท์มาเชิญให้ผมมาร่วมบรรยายในวันนี้ ผมกำลังบรรยายวิชาการการแพทย์
    อยู่ที่ขอนแก่น ก็เบื้องต้นคิดว่าจะปฏิเสธ เพราะว่ากลุ่มบุคคลที่มาฟังในวันนี้ส่วนใหญ่คงจะไม่
    รู้จักผมมาก่อน และก็จะมาพูดเรื่องอย่างนี้ก็น่าจะเสียแก่ตัวผมมากกว่า แต่ว่าเมื่อจิตมันแวบขึ้น
    มาว่า ถ้าเผื่อมีสักคนหนึ่งในห้องนี้ได้ประโยชน์จากสิ่งที่ผมพูด มันก็อาจจะเป็นกุศลที่น่าจะเพียง
    พอที่จะทำให้ผมมาพูดในวันนี้ ก่อนอื่นผมขอเรียนให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าผมเองจบแพทย์มา
    จากศิริราชมาห้าสิบสองปี ขณะนี้ยังเป็นอายุรแพทย์ที่ทำงานอยู่ทุกวัน แล้วก็ผมก็เป็นนักวิจัยที่
    ได้ค้นพบโรคใหม่ๆของประเทศไทยและของโลกถึงสองโรคด้วยกัน และก็ยังพบเรื่องอื่นอีก ได้
    ตีพิมพ์เรื่องวิชาการทางแพทย์ต่างประเทศและในประเทศมากกว่าร้อยห้าสิบฉบับ และก็ได้รับ
    เชิญให้เขียนตำราแพทย์มาตรฐานของโลก Oxford of Textbook medicine ที่พูดนี่ไม่ต้องการ
    โอ้อวด แต่อยากให้ทุกคนเข้าใจในเบื้องต้นว่า ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางแพทย์ที่มีผลงานไม่
    ใช่คนงมงาย เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปมันเป็นเรื่องของตัวรู้ของจิต ซึ่งเป็นสิ่งที่พิเศษที่มนุษย์
    ทั่วไปหรือแม้แต่วิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง เมื่อเก้าปีที่แล้วคือวันที่ 7 สิงหาคม 2541 ผมได้บรรยาย
    เรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ ให้แก่แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลวิชัยยุทธฟัง
    โดยเฉพาะ ไม่ให้คนนอกฟัง ทั้งนี้เพราะว่าทุกคนรู้ว่าผมเป็นคนยังไงเค้าคงไม่ว่าผมบ้า แต่ในใจ
    อาจจะคิดว่าเพี้ยนหรือเปล่า แต่ก็ไม่กล้าพูดเพราะผมเป็นแพทย์ผู้ใหญ่อยู่ที่นั่น คือในขณะที่ผม
    พูดนั้นยังไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย ที่ผมพูดไม่ใช่ว่าผมได้เห็นภาพของอนาคตด้วยจิตของ
    ผมเอง แต่เพราะว่ามีบุคคลที่ผมเชื่อถือในพลังจิต เขาได้มาบอกผมด้วยความหวังดี ผมก็เลยบอก
    ลูกน้องผมด้วยความหวังดี ดังนั้นเมื่อวันนี้ผมได้รับการเชิญให้มาพูดเรื่องพัฒนาจิตคือความ
    สำคัญข้อแรก คือผมคิดว่าทุกคนต้องยอมรับซะก่อนด้วยจิตของเราว่า ภัยพิบัติอาจจะเกิดได้จริง
    นะครับ คือเพื่อให้ท่านได้เข้าใจเรื่องของจิต ผมอยากขอเรียนว่า สัตว์โลกทั้งมนุษย์และสัตว์ซึ่ง
    ประกอบด้วยสองส่วนคือ กายและจิต อย่างที่ไดอะแกรมไม่ทราบขยายได้หรือเปล่า คือทุกคน
    รู้เรื่องกายดี กายก็คือส่วนทั้งหมดที่เห็นเป็นวงรีนั่นนะครับ แต่เรื่องของจิตเนี่ยน้อยคนที่จะเข้าใจ
    ผมขอเรียนว่าจิตไม่ใช่ใจนะครับ เพราะว่าโดยมากเรามักจะพูดรวมกันว่า จิตใจ แต่ไม่ใช่นะครับ
    เพราะว่าจิตเป็นพลังงานอย่างหนึ่งของแต่ละคน ซึ่งผมคิดว่าพวกเราคงเคยได้อ่านหรือดูข่าวที่
    ฝรั่งใช้จิตแล้วก็นั่งเพ่งงอช้อนส้อมได้ ซึ่งความแรงความคงทนของจิตของมนุษย์แต่ละคนแตกต่าง
    กันมาก เพราะนั้นจึงมีผู้ที่เรียกว่ามีพลังจิต คือผู้ที่ได้ฝึกไว้ดีแล้วจนสามารถมาใช้ตามความต้อง
    การได้ คือเค้าเปรียบเหมือนกำลังกายของแต่ละคน บางคนอ่อนแอยกของไม่หนักเท่าไหร่ยังไม่
    ขึ้น แต่บางคนแบกข้าวสารได้เป็นกระสอบ แต่บางคนก็แสดงมายากลนะครับ เพราะนั้นเราจะต้อง
    ดูว่าอันไหนเป็นมายากลอันไหนเป็นพลังจิตแท้ และต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ ในฐานะที่ผมเป็น
    นักวิทยาศาสตร์ ผมได้พิสูจน์แล้วว่าเรื่องของพลังจิตนี้มีจริงตั้งแต่ผมจบแพทย์ได้สามปี เพราะ
    ว่าผมเองไปสนใจเรื่องพระเครื่องเพราะว่าคุณพ่อผมมีมาก เพื่อนที่เป็นหมอได้ชวนผมให้ไปให้
    เซียนพระดู ผมก็เอาพระที่มีเยอะไปให้เซียนดู เซียนเอาเลนส์ส่องกล้องแล้วก็บอกว่า อันนี้เก๊อัน
    นี้ดี ผมก็ไม่เชื่อเค้า เพราะว่าสมัยพ่อผมซึ่งเป็นนายทหารผู้ใหญ่ไม่มีตลาดพระไม่มีพระเก๊ ผมก็
    เอาพระกลับบ้าน แล้วก็มาบ่นที่โรงพยาบาล เผอิญมีพยาบาลคนหนึ่งเค้านั่งอยู่ตรงนั้น เค้าบอก
    ว่าเอาไปหา อาจารย์ทวี ทิวแก้ว สิ ท่านสามารถจะนั่งดูได้ หมอไม่ต้องเอา<table id="post878230" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_878230" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);">พลังจิตเนี่ยแรงแค่ไหนทะลุห่อผ้าได้เหรอ ท่านบอกแรงทะลุอะไรก็ได้ ผมก็บอกแรงกว่าเอกซ์เรย์
    ไหม เอกซ์เรย์นี่เราถ่ายทะลุร่างกายได้ ท่านบอกแรงกว่า ผมก็ไม่เชื่อท่านผมก็กลับมาโรงพยาบาล
    ผมก็เอาแผ่นตะกั่วที่เค้าหุ้มเอกซ์เรย์เพื่อจะกันไม่ให้เอกซ์เรย์ผ่านนี่แล้วทำกล่อง แล้วผมก็เอาเงิน
    สิบบาทใส่กล่องไป แล้วผมก็ไปหาท่านใหม่วันหลัง ไปถึงก็ไปวางตรงหน้าแล้วบอกถ้าเผื่อพลังจิต
    แรงจริงต้องทะลุกล่องตะกั่วได้ ผมก็บอกอย่างนี้ ท่านก็มองหน้าผมว่าไอ้นี่มาลองวิชา แต่ท่านก็ไม่
    ดูท่านเรียกลูกชายท่านซึ่งอายุสิบขวบวิ่งเล่นอยู่แถวนั้นไม่มีหู ไม่มีรูหู เรียกว่าโสตทิพย์ หูทิพย์คือ
    ไม่มีรูหู ให้เข้ามาดู บอกว่า เอ้าดูสิในกล่องมีอะไร ไอ้เด็กนี่มาถึงก็มานั่งหลับตาอยู่ตรงหน้ากล่อง
    เดี๋ยวก็บอกแบงค์พ่อแบงค์ ท่านก็บอกว่าแบงค์เท่าไหร่ มันดูบอกใบละสิบพ่อ เห็นเลขไหมเลข
    อะไร มันก็บอกออกมาผมก็รีบจด ผมก็ไม่รู้แบงค์ผมเบอร์อะไร ไม่ได้บอกหวยนะฮะ แต่พอเปิด
    กล่องมาผมก็เอาแบงค์มาคลี่ มันก็ตรงผมก็ยอมรับ เอ้อไอ้พลังจิตนี่มันแรงจริง มันทะลุกล่องตะกั่ว
    ซึ่งเอกซ์เรย์ไม่ผ่านได้ ผมก็เลยถามว่า ก็ในทางวิทยาศาสตร์พลังวิทยาศาสตร์เราสามารถจะส่งไป
    เป็นภาพได้ เป็นเสียงก็ได้ ตอนนั้นก็มีทีวีแล้ว ถามว่าแล้วทางจิตทำได้ไหมถ้าเป็นพลังงาน ท่านก็
    บอกว่าได้ ผมก็บอกว่าถ้างั้นทดลอง ท่านก็บอกเอาสิ หมอจะส่งอะไรล่ะ ท่านก็ให้ลูกชายไปนั่งห่าง
    สักสิบเมตรได้หลับตา แล้วผมก็เขียนไปบอกว่า ท่านบอกเอาภาพที่เด็กมันรู้นะว่าที่ไหน ผมก็บอก
    เอาถ้างั้นขับรถขึ้นสะพานผ่านฟ้าเห็นภูเขาทองอยู่ทางซ้ายเห็นอนุสาวรีย์อยู่ข้างหน้า ผมบอกเอา
    แค่นี้ ท่านอ่านของผมแล้วท่านก็หลับตา ไอ้เด็กก็หลับรับทางโน้น พอท่านส่งเสร็จท่านก็บอกไป
    ถามเค้าดูว่าเค้าเห็นอะไร ผมก็ไปถามมันก็บอกอย่างที่เราบอก อันนี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพลังจิต
    สามารถจะสื่อด้วยการส่งได้ ผมก็ถามว่าเรามันส่งได้ไกลแค่ไหน ท่านบอกไกลแค่ไหนก็ได้ สุด
    แต่ว่าเครื่องส่งซึ่งก็ตรงหลักวิทยาศาสตร์ ท่านบอกท่านเคยทดสอบกับลูกศิษย์ของท่านที่ไปอเมริกา
    แล้วท่านก็ส่ง นัดเวลากันแล้วท่านก็ส่งไปข้อความ แล้วก็ให้ลูกศิษย์ทางโน้นบันทึกว่าท่านส่งอะไร
    แล้วก็เอาบันทึกกลับมาดูก็ตรง เพราะนั้นก็หมายความว่า พิสูจน์ว่าไอ้จิตนี่มันสามารถจะส่งระยะ
    ไกลได้ ทะลุได้ อันนี้ก็คือเป็นพลังทางวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง พลังจิตเนี่ย ที่สามารถจะพิสูจน์ได้
    อันนี้ผมถึงเชื่อ แล้วผมก็ถามว่าแล้วถ้างั้นดูอนาคตที่ยังไม่เกิดได้ไหมล่ะ ท่านก็บอกว่าไอ้ดูนะดูได้
    แต่ว่าเวลามันไม่แน่ เห็นเนี่ยเห็นแล้วมันต้องเกิด แต่เวลาที่มันจะเกิดไม่ชัด เพราะเวลาเค้าจะตั้ง
    ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เค้าก็จะตั้งจิตว่าวันที่เท่านั้นวันที่เท่านี่แล้วก็หลับตาไล่ไปทีละวัน เมื่อไหร่
    ภาพชัดก็บอกว่านั้น คือมันไม่ได้บอกวันที่ว่าวันอะไร เพราะงั้นไอ้ความคลาดเคลื่อนอันนี้มี ซึ่งก็
    เกิดกับผมเอง คือวันดีคืนดีท่านก็บอกให้ลูกโทรศัพท์มาบอก หมอในอาทิตย์นี้ให้ระวังนะจะเกิด
    อุบัติเหตุ รถจะชนให้ขับรถดีๆเจ็ดวัน แหมผมก็ระวัง ผมขับรถเร็วนะครับ เจ็ดวัน โอ้ยอาจารย์ผิด
    เจ็ดวันไม่โดนอะไรเลย พอวันที่แปดผมขับรถไปวังพญาไท รถข้างหน้ามันเบรคคันที่สองชนตูด
    ผม ผมชนคันที่สาม สามคันชนกันรวด เกิดในวันที่แปด ท่านบอกมาเจ็ดวันเตือนมาเจ็ดวัน เราก็
    นึกว่าพ้นแล้ว เพราะนั้นเนี่ยเวลามันไม่แน่แต่ว่ามันเกิดจริง อันนี้คือตัวอย่าง อันนี้เป็นหตุผลว่า
    ทำไมนักวิทยาศาสตร์อย่างผมถึงได้ยอมเชื่อเรื่องเหล่านี้นะครับ ผมก็เลยสมัครเป็นลูกศิษย์ท่าน
    พอตอนหลังก็เลยรู้ว่าท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทวดที่เมื่อกี้ท่านอาจาย์พูดถึงนั่นแหละครับ แล้วท่าน
    ได้ปฏิบัติสมาธิมาตั้งแต่ท่านเป็นเด็กเจ็ดขวบ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดหนังก่อนที่จะเป็นลูกศิษย์
    หลวงปู่ทวด ผมก็เรียนกับท่านมาตั้งแต่บัดนั้น ก็ปฏิบัติมาเรื่อยจนบัดนี้ อันนี้เชื่อเพราะพิสูจน์ได้
    เพราะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่การที่ผมได้ศึกษาในเรื่องพลังจิตแล้วและเรื่องพระพุทธคุณ
    ทำให้ผมมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น จนถึงในปัจจุบันนะครับ นี้เพื่อให้ความเข้าใจ
    อันดีของท่านที่ยังไม่ทราบ ผมก็ขอใช้เวลาสั้นๆสรุปให้เข้าใจว่า ตามไดอะแกรมนี่นะครับว่า
    มนุษย์เราเนี่ยมีกายและจิต ตามภาษาธรรมที่เรียกว่ารูปและนาม กายของเราก็คือรูป เป็นส่วนที่
    เราเห็นเราจับต้องได้ ซึ่งก็มีการเติบโต มีการเสื่อมสลายไปในที่สุด และก็เป็นเถ้าถ่านไม่มีเหลือ
    อยู่ แต่ตัวนามหรือตัวจิต อันนี้เป็นพลังงานที่ไม่เสื่อมสูญนะครับ มันเปลี่ยนจากอดีตชาติมาสู่
    ปัจจุบันชาติ แล้วก็จะไปสู่อนาคตชาติ ซึงหมายถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า การเวียน<!-- google_ad_section_end -->
    เวียนว่ายตายเกิด ซึ่งจะต้องวนเวียนอยู่ใน ไม่ใช่มนุษย์เป็นมนุษย์นะฮะ บางคนนึกบอกว่าชาติ
    หน้าฉันจะเกิดเป็นเศรษฐี จะเกิดเป็นอะไร ไม่ใช่ เพราะว่ามันแล้วแต่กรรม มันมีสามสิบเอ็ดภพ
    ภูมิที่อยู่ทางขวานะครับ มนุษย์เป็นเพียงหนึ่งในสามสิบเอ็ด ไอ้ที่เลวกว่ามนุษย์ที่เรียกว่าอบายภูมิ
    สี่ คือไอ้พวกที่ทำบาปกรรมในโลกมนุษย์ทั้งหลาย ก็จะต้องลง ก็คือพวกเดรัจฉาน คือพวกสัตว์ที่
    เราเห็นรูป พวกเปรต อสุรกาย แล้วก็สัตว์นรกที่อยู่ต่ำที่สุด เพราะนั้นใครที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว
    จิตมันไม่ดีทำไม่ดี ก็มองอบายภูมิเลือกเอาว่าจะไปไหน แต่ว่าอย่างดีที่สุดคือเป็นสัตว์ นี่ถ้าเพื่อ
    ว่าเราทำดีขึ้น สิ่งที่เราจะไปได้คือขึ้นไปเป็นเทพเป็นเทวดาหกชั้น ไปเป็นรูปพรหมสิบหกชั้น
    หรือเป็นพรหมที่ไม่มีรูปอีกสี่ชั้น นี่ถ้าเรามาดูว่าศาสนาอื่นเนี่ยศาสดาของเค้านี่คือใคร ก็คือผู้ที่
    อยู่ในรูปพรหมสิบหกชั้น จะอยู่ชั้นไหนผมไม่ทราบ ไม่ว่าจะเป็นพระพรหมอยู่หน้าเอราวัณหรือ
    ที่ไหนก็ตาม หรือแม้แต่ god ของคริสตศาสนาก็คงอยู่ในนี้นะครับ แต่ว่าอันนั้นก็คือชั้น เพราะ
    ว่าสำหรับของเราที่เป็นพระอรหันต์ ก็คือว่าท่านได้บรรลุไม่มีเวียนว่ายตายเกิด คือหลุดออกไป
    จากโลกียภูมิ โลกียภูมิก็คือสามสิบเอ็ดชั้น ไปสู่โลกุตตระภูมิ คือหลุดไปแล้วไม่มาหมุนเวียนอีก
    แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านตายนะฮะ ไม่ได้หมายความว่าท่านสิ้น เพราะนั้นบางคนนี่สงสัยว่า
    เอ้าไหนละสังขารไปหมดแล้ว แล้วทำไมยังมีการติดต่อได้ ยังมีอะไรได้ จิตของท่านยังอยู่นะ
    ครับ มันเป็นวิทยาศาสตร์มันไม่สูญหาย เพียงแต่ท่านไปอยู่ไหนที่ๆไม่ต้องมาวนเกิดอีก อันนี้ที่
    ผมพูดเพื่อให้เข้าใจนะครับ สำหรับเรื่องของจิตเนี่ย มีคำอธิบายด้วยว่า จิตเนี่ยถูกหุ้มด้วยวิญญาณ
    จะอยู่รอบจิต ก็คือเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อย่างที่เราเคยฟังพระท่านพูดนะฮะ ซึ่งมีกิเลส
    เป็นตัวควบคุม ถ้าเราเพียรปฏิบัติทำให้จิตสงบนิ่งด้วยวิธีต่างๆ เช่น การใช้การติดตามลมหายใจ
    อานาปณสติ ให้ห่างจากนิวรณ์ทั้งหลาย แล้วจนกระทั่งเกิดสมาธิ อันนี้ก็เป็นหลังจากที่จิตซึ่งมี
    กิเลสเป็นตัวทำ มีกรรม มีปัญญาเป็นตัวนำ แล้วถ้าเกิดมีเพียรเป็นปฏิบัติ จนกระทั่งเกิดสมาธิขั้น
    แรกเรียกว่า ขณิกสมาธิ ซึ่งขณิกสมาธินี่จะขึ้นๆลงๆ จะเห็นในวงนี่มันไม่ชัดเพราะว่าเดี๋ยวเกิด
    เดี๋ยวดับอยู่ตลอดเวลา อันนี้ตัวนิวรณ์เป็นตัวที่นำมา เสร็จแล้วจากขณิกสมาธินี่ถ้าเผื่อปฏิบัติต่อไป
    มันก็จะขึ้นไปถึงอุปจารสมาธิ ซึ่งก็ยังชั่วคราว ในชั้นของอุปจารสมาธิเนี่ย จะเกิดสิ่งหนึ่งที่เรียก
    ว่านิมิต ซึ่งอันนี้บางคนก็หลงเพราะว่ามันเห็นไอ้นู่นเห็นไอ้นี่ เพราะนั้นถ้าบางคนบอกว่าเทวดา
    มาบอกหวยหรืออะไรต่างๆเนี่ย อย่างมากอยู่แค่เนี่ย ซึ่งอาจจะของจริงของชั่วผมไม่รู้ แต่ว่ามัน
    เป็นนิมิตที่เกิดชั่วคราว มันไม่แน่ มันไม่เที่ยง มันไม่ใช่ของจริง แต่มันเกิดขึ้นจริงจากที่เค้าเห็น
    แต่ถ้าเผื่อปฏิบัติต่อไปให้มันนิ่งมากขึ้น จนกระทั่งผ่านปฐมญาณ ทุติยญาณ อะไรไป ระดับจิต
    ขึ้นสูงขึ้นก็คืออัปปนาสมาธิ ซึ่งอัปปนาสมาธิเนี่ยก็จะเกิดพลังความสามารถที่จะมี เรียกว่า ตาทิพย์
    หูทิพย์ คือ ทิพยโสตญาญ หรือทิพยจักษุญาณ อันนี้ก็เป็นขั้นหนึ่งซึ่งระดับพระภิกษุสงฆ์ครูบา
    อาจารย์ที่เรากราบไหว้เราเห็นอยู่ และแม้ฆราวาสจำนวนไม่น้อยที่ท่านปฏิบัติจิตมาถึงขั้นนี้แล้ว
    ดังนั้นท่านก็อาจจะบอกอะไรเราได้ถูกต้อง แต่ถ้าเผื่อจะให้สูงกว่านี้ก็คือท่านที่ปฏิบัติจนหลุดพ้น
    ก็ขึ้นถึงวิปัสสนาสมาธิ ต้องผ่านทั้งหมดอย่างที่เขียนไว้นะครับ ซึ่งอันนั้นจะเกิดเจโตปริญญาณ
    คือหมายความว่าอ่านใจคนอื่นได้ คือถ้าเผื่อที่ใครได้เคยเจอครูบาอาจารย์บางคน บางที่เราไป
    กราบท่านใจเราเคยบอกเดี่ยวจะถามยังไง ยังไม่ทันถามท่านตอบแล้ว หรือบางคนคิดอะไรกับ
    ท่านไม่ดี ท่านก็แย็บกลับมาแล้ว อันนี้คือเจโตปริญญาณ อ่านใจอ่านได้ในวินาทีที่เราคิด ผมเคย
    เจาะเลือดหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่เมืองเลย ท่านละสังขารไปแล้ว ท่านมาท่านไข้สูงนอนหลับตา
    ไม่ลืมเลย ผมก็เจาะเลือด เส้นท่านก็หายาก ผมก็แทง พอดูดเลือดได้เอาเลือดใส่ tube ใจมันบอก
    เค้าบอกว่าท่านเป็นอรหันต์ ใครเอาเลือดอรหันต์ ตกเลือด ต้องตกนรก จิตผมคิดแค่นี่นะครับ
    ท่านหลับตาอยู่สองชั่วโมง ท่านลืมตายิ้มเอามาเอื้อมมาจับหัวผม นี่คือแสดงว่าท่านอ่านจิตใน
    วาระที่เราคิด ยังไม่ทันอะไรเลยนะเพียงแต่หันไป จิตคิดปับเนี่ยท่านยิ้มแล้วก็จับ แล้วท่านก็หลับ
    ต่อ อันนี้คือสิ่งที่เราเรียกว่า เจโตปริญญาณ ถ้าใครสังเกตดีๆไปหาครูบาอาจารย์จะพบเรื่องนี้บ่อย
    สำหรับอตีตังสญาณก็คือการรู้อดีตว่าของใครเป็นใคร คนนี้เป็นใครเป็นใคร เท่าที่ผมมีประสบการณ์
    ส่วนตัวนะครับ มีองค์หนึ่งซึ่งผมว่าเท่าที่ผมเจอเก่งที่สุดเลย
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878230")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table><!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878227")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  14. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post878232" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 22-12-2007, 01:44 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #62 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Rattanaporn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_878232", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    สถานที่: ...ไม่เคยมีอยู่จริง...
    ข้อความ: 1,180
    พลังการให้คะแนน: 1759 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_878232" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->นะฮะ ถ้าใครเคยไปหลวงปู่จาม มหาปัญโญ ท่านอายุเก้าสิบหกแล้วแต่ว่าท่านเหลือเกินนะครับ
    แล้วก็อนาคตังสญาณก็เช่นเดียวกัน มาด้วยกัน นอกจากนั้นก็มีญาณอย่างอื่นซึ่งคงจะทราบแล้ว
    นะฮะ มีมโนมยิทธิซึ่งพระหลายรูปก็ใช้อันนี้คือการถอดจิต แล้วก็ไปเที่ยวในที่ต่างๆ อาจารย์ผม
    อาจารย์ทวีเนี่ย ปีหนึ่งท่านจะเข้าอันนี้หนหนึ่ง ประมาณห้าถึงเจ็ดวันก็ปิดห้อง ไม่กินน้ำไม่กิน
    อาหารนั่งอยู่อย่างเดียว ท่านก็ถอดจิตของท่านไปไหนๆ แล้วก็กลับมา อันนี้เป็นมโนมยิทธิคือว่า
    ผมก็บอกว่าเอมันผิดทางแพทย์นะ คนเราจะต้องหายใจ ต้องกินอาหาร ต้องปัสสาวะ ต้องกินน้ำ
    แล้วมันอยู่ได้ไงเจ็ดวัน ตายวายสิ ท่านบอกไม่หรอกเพราะว่าเวลาที่ถอดจิตเนี่ย ตามร่างกาย
    หัวใจมันจะเต้น ไม่มีใครไปจับตอนนั้นนะฮะ บอกว่าช้ามาก อาจจะนาทีสักสิบครั้ง หายใจอาจ
    นาทีละสองครั้ง ก็ไม่ต้องการออกซิเจน ไอ้การที่จะขับทางปัสสาวะก็น้อยเพราะว่าเลือดมันไม่ต้อง
    ไปขับถ่ายทางไต ของกินไม่เข้าไปของเสียไม่ออก นี่ก็อธิบายทางด้านการแพทย์ได้หมด คือผม
    ก็เป็นหมอผมก็ถามอย่างเงี้ย เพราะงั้นอันนี้ก็เป็นเรื่องของจิตจริงๆที่ผมมาเล่าให้ฟัง เพราะว่าที่
    เราพูดวันนี้มันเรื่องจิตนะครับ ทีนี้พอเข้าใจเรื่องจิตแล้วผมขอพูดเรื่องภัยภิบัติซึ่งเป็นหัวข้อวันนี้
    อันนี้เพื่อให้ท่านผู้ฟังที่อาจจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ว่าจะเกิดก็ได้ เพราะว่าผมว่าควรจะทราบข้อมูล
    ทั้งหมดก่อน แล้วมานั่งพิจารณาว่าตัวเองจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะว่าถ้าเชื่อก็ต้องเตรียมต่อ คือ
    เผื่อเราถ้าจะเอาก็ต้องพิจารณาว่าอันแรกเรามีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์หรือประวัติศาสตร์ในเรื่องนี้
    หรือไม่ เมื่อเรามีหลักฐานแน่นอนว่าเมื่อหกสิบห้าล้านปี ได้เคยมีอุกกาบาตชนโลกที่เมกซิโก
    ขนาดศูนย์กลาง 190 กิโลเมตร ซึ่งใหญ่มาก ซึ่งการชนครั้งนั้นทำให้ไดโนเสาร์ในโลกนี้ตายหมด
    เมื่อไดโนเสาร์ตายลงนึกภาพสิครับ คนอยู่ไหมครับ เพราะนั้นก็ต้องมีการล้างโลกด้วยสิ่งที่เกิด
    จากอิมแพคอันนี้แน่นอน เพราะนั้นเราก็บอกถ้าอย่างงั้นถ้าย้อนกลับไปดูว่า เมื่อกี้ท่านเจ้าคุณพูด
    ว่าพระศรีอาริยเมตไตยจะมา แล้วท่านจะตรัสรู้สิ่งเดียวกัน พระธรรมอันเดียวกัน กับพระพุทธเจ้า
    พระองค์นี้ แล้วเราเรียนมาแล้วว่าพระพุทธเจ้าของยุคเรามีห้าพระองค์ ของเราขณะนี้เป็น
    พระองค์ที่สี่ ทุกพระองค์ตรัสรู้สิ่งเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นเรียกตรัสรู้ได้ไง ถ้าลองมีหลักฐานอันเก่า
    ของพระองค์เดิมอยู่แล้วเกิดขึ้นพระองค์ใหม่ซ้อนมา เราไม่ถือว่าตรัสรู้เราก็เรียนจากคนอื่น
    ใช่ไหมฮะ เพราะงั้นไม่ใช่ เราจะแปลได้ไง ก็ต้องแปลว่ามีอะไรก็ตามที่ทำให้ข้อมูลทั้งหลายที่มี
    อยู่ในอดีตหายหมด เราเคยเจอไหมมีหลักฐานของพุทธศาสนาในที่เราขุดค้นได้ที่ไหนไหมที่
    นอกยุคของเรานี่ ไม่มี หายไปไหนหมด แล้วทำไมมีพระสามพระองค์ก่อนพระพุทธเจ้าพระองค์
    นี้ แล้วในยุคพระศรีอารย์ มันจะเหลือเหรอ แล้วทำไมพระพุทธเจ้าท่านถึงบอกว่าของท่านยุค
    ของท่านจะหมดเมื่อห้าพันปี ลองคิดอันนี้นะครับ เพราะว่าถ้าเราจะอธิบายนี้หมายความว่า ถ้า
    เราเอาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าโลกนี้ได้ถูกอุกกาบาตชนขนาดหลุมนี้กว้าง 170 กิโลเมตร
    ไดโนเสาร์ตายทั้งหมดโลก แล้วคนจะเหลืออะไร เพราะนั้นอาจจะกลับไปอธิบายได้ว่าทำไม
    ศาสนาของพระพุทธเจ้าของพระองค์ก่อนๆในยุคของเรา ที่ผ่านมาแล้วสามพระองค์ถึงได้หาย
    ไปจากโลกหมด แล้วทำไมพระศรีอารย์ซึ่งจะเกิดมาในอนาคตท่านถึงจะตรัสรู้ธรรมะข้อเดียวกัน
    นี้โดยที่จะต้องไม่มีข้อมูลในปัจจุบันเหลืออยู่ อันนี้ก็เป็นการบ้านที่ต้องไปคิด อันที่สองสำหรับ
    ประเทศไทยเนี่ยมีศิลาจารึกในพงศาวดารโยนกบอกว่า ในพ.ศ.พันสามนะฮะ หรือประมาณพัน
    ห้าร้อยปีก่อน ได้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ และโยนกนครจมอยู่ใต้ดินกลายเป็นหนองน้ำ ผมก็ไม่รู้
    ว่ามันอยู่ที่ไหน เรารู้แต่ว่าโยนกอยู่ทางเหนือ แต่ว่าถ้าใครในห้องนี้เคยไปเชียงใหม่แล้วเคยไป
    เที่ยวเวียงกุมกาม ผมว่าเป็นเมืองที่น่าไป เชียงใหม่ถ้าใครไปขอให้ไปดูสองแห่ง หนึ่งคือเวียงกุม
    กาม สองพระพุทธบาทสี่รอย อันนั้นของจริงนะครับ แล้วจะได้รูว่า พระพุทธเจ้ามีสี่พระองค์มา
    เนี่ย เราเห็นรอยพระบาทซ้อนกันอยู่สี่อัน อยู่บนก้อนหินใหญ่ อยู่บนเขา ไม่มีใครไปทำหรอก
    นะฮะ แล้วก็เวียงกุมกามเป็นบทตัวอย่างว่า เหตุไฉนเมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้โคลน ตัวหลังคาโบสถ์
    โผล่มานิดเดียว เหลือแต่ศรีษะพระองค์ใหญ่ เมืองทั้งเมืองจม ก็แสดงว่าต้องเกิดภัยพิบัติที่ทำให้
    เมืองทั้งเมืองอยู่ใต้ดิน ก็ตอนนั้นตามประวัติก็บอกว่า ประมาณพ.ศ.พันแปดร้อย เวียงกุมกามเนี่ย
    หลังจากโยนกนครก็แม่น้ำปิงซึ่งเคยวิ่งผ่านตรงนั้นก็เปลี่ยนทางเดินไปอยู่<!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878232")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead">Rattanaporn</td> </tr> <tr><td class="vbmenu_option">ดูรายละเอียดของ</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Add Rattanaporn to Your Contacts</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Rattanaporn Donation Stats</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option"> View Rattanaporn's Videos </td></tr> </tbody></table>
    <table id="post878234" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 22-12-2007, 01:47 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #63 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Rattanaporn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_878234", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    สถานที่: ...ไม่เคยมีอยู่จริง...
    ข้อความ: 1,180
    พลังการให้คะแนน: 1759 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_878234" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ทางเดินปัจจุบัน ทั้งนี้เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้น ข้อมูลในปัจจุบันเรารู้ว่ามีลายของแผ่นดิน
    ไหวที่ผ่านทางเหนือทางเชียงใหม่อยู่แล้ว ซึ่งจะเลื่อนเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะนั้นอันนี้ก็เป็นเครื่องยืน
    ยันว่าเรามีหลักฐานแน่นอนในอดีตว่าได้เกิดภัยพิบัติขนาดนี้ขึ้นในเมืองไทยมาแล้ว ทีนี้ถ้าเผื่อเรา
    มาดูว่าตามประวัติเราเรียนประวัติศาสตร์บอกว่า ฑูตฝรั่งเศสเอาเรือมา สมเด็จพระนารายณ์จอด
    ที่ลพบุรี ถ้าเป็นเรือเดินสมุทรมาจากฝรั่งเศส วิ่งขึ้นไปจอดลพบุรี ไปได้ยังไง ก็แสดงว่าไอ้ทะเล
    เนี่ยมันเข้าไปใกล้ลพบุรีมาก แล้วถ้าไปดูประวัติสุพรรณบุรี กาญจนบุรี คือเมืองชายทะเล แต่เดี๋ยว
    นี้มันไม่ใช่ เพราะนั้นก็มาอย่างที่ได้ฟัง ไอ้กรุงเทพเป็นส่วนของโคลนที่เกิดขึ้นในภายหลัง ไม่ได้
    เกิดแต่ต้น แล้วถ้าเผื่อใครเคยไปดูมิวเซียมของที่ไต้หวันนะครับ เค้ายกมาจากจีนแดง เจียงไคเช็ค
    ยกมา ผมไปดูเมื่อสักสี่สิบปีที่แล้ว มีแผนที่โลก คนจีนเค้าเขียนไว้ เป็นแผ่นขนาดนี้ ยาวเต็มห้อง
    เลย แล้วก็มีแผนที่ประเทศต่างๆ ผมก็ไปเดินหาแผนที่ประเทศไทย โอโหเค้าเขียนอ่าวไทยนี่ลึก
    เข้ามากลางประเทศ ใหญ่มาก จะว่ามันเขียนผิดก็ได้ แต่ในเวลาเดียวกัน เรามาดู เราเจอกระดูก
    ปลาทะเล หอยทะเล อยู่ที่ นครสวรรค์หรือพิษณุโลก ผมไม่ทราบ แต่นั่นนะคือทะเล แผ่นดินอยู่ที่
    นั่น เพราะนั้นไอ้สิ่งที่อยู่ใต้ลงมาเนี่ย เดิมคือทะเล เพราะนั้นขณะนี้คือโคลน อันนี้เราต้องจำไว้
    เพราะว่ามันจะโยงไปถีงที่เมื่อเช้า ท่านว่าท่านจะสร้างเขื่อนกันอ่าวไทย เผอิญผมที่จริงจะนึกจะลุก
    ขึ้นคอมเมนต์ เพราะว่าความเห็นผมเนี่ยไม่เห็นด้วย ไม่ใช่ไม่เกิดภัยพิบัติ เกิด แต่ว่าไม่ใช่วิธีแก้
    เท่านั้นเอง แต่ว่าท่านนี้กลับไปซะก่อน ถ้าใครรู้จักท่านบอกด้วยนะว่ามีคนค้าน เพราะนั้นอันนี้ก็
    เลยทำให้ นึกว่าทำไมคนยุคเรานี่มันโง่ดันไปสร้างสนามบินสุวรรณภูมิลงเงินไปสองแสนล้านบน
    ก้อนโคลน ทำไมคนโบราณเค้าสร้างสนามบินอยู่บนดอนเมืองที่ดอน แต่ไอ้คนสมัยปัจจุบันดัน
    ไปสร้างบนหนอง หนองงูเห่า แล้วก็ทาธรณีวิทยาก็รู้ว่ามันคือก้อนโคลนอยู่ข้างล่าง เสร็จแล้วก็
    เดี๋ยวรันเวย์ทรุด ทรุดอยู่ตลอด ไม่มีวันจะดี เพราะมันอยู่บนโคลน เราเอาสองแสนล้านไปทุ่มอยุ่
    ทำไม โง่หรือเปล่า นี่เป็นตัวอย่างว่าเวลาเราคิดอะไรเราไม่มีไปให้มันลึก เอาแต่ว่าตรงนี้ว่างดี ที่
    กว้าง ฉันซื้อที่ดินไว้แล้วจะได้ราคาขึ้น นี่คือตัวอย่างของประเทศไทย เพราะนั้นอันนี้ผมก็พูดมา
    เพื่อยืนยันว่า เมื่อเราพูดถึงภัยพิบัติ ภัยพิบัตินี้ได้เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆในประเทศไทย มีหลักฐาน
    แน่นอนไม่ใช่เพ้อฝัน ที่นี้ถ้าเราจะมาดูว่า ตามหลักของการเกิดภัยพิบัติมีนั้นบ้างไหม ก็ที่จริง
    แล้วในพุทธศาสนาก็ได้มีบอกว่า ในศิลาจารึกที่วัดมหาวิหารมฤคทายวันที่อินเดีย ได้มีพระพุทธ
    ทำนายบอกว่า ในสองพันห้าร้อยปี จะเกิดปัญหาใหญ่ แล้วเมื่อครบห้าพันปีก็สิ้นสุดพุทธกาล ขณะ
    นี้เราสองพันห้าร้อย คือมันไม่เป๊ะ แต่หมายความว่าเราอยู่ในช่วงนี้ เพราะนั้นก็คงจะมีปัญหาใหญ่
    คือภัยพิบัติใหญ่ แล้วห้าพันปีสิ้นพุทธกาลหมายความว่าอะไรสิ้นพุทธกาล พระพุทธเจ้าอยู่ดีๆคน
    เลิกนับถือพระพุทธศาสนาเหรอ ไม่ใช่นะฮะ มันจะต้องโลกหมดไป เพราะนั้นขณะนี้ภัยพิบัติก็คือ
    ภัยพิบัติกลางของยุคพุทธกาล แม้แต่ในไบเบิ้ลเองก็เขียนไว้ว่า ในพ.ศ.สองพันก็จะเกิดภัยพิบัติ
    โลก สำหรับทางด้านผู้ที่ใช้พลังจิต ผมคิดว่าคงเคยได้ยินนอสตราดามุส ที่เคยทำนายไว้ว่าจะเกิด
    สงครามโลกในพ.ศ.1999 หรือประมาณ 2000 แต่ก็ยังไม่เกิด แต่ก็มันไม่แน่ เพราะนั้นไม่รู้จะเกิด
    เมื่อไหร่ และก็ภาพที่เค้าเห็นก็คล้ายๆมีพระอาทิตย์ขึ้นสองดวงที่เกาะที่อยู่ทางด้าน คือเค้ามองจาก
    ทางยุโรป อยู่เกาะที่อยู่ทางฝั่งทะเลของแอตแลนติค ก็คือน่าจะเป็นเกาะนิวยอร์ค ผมก็นึกภาพเอ
    นึกจะเป็นระเบิดปรมณู อิหร่านอาจจะยิงไปที่นิวยอร์ค เพราะนั้นอันนี้ก็ที่ท่านพูดถึงระเบิดปรมณู
    เนี่ย ขนาดไอ้ปืนใหญ่นี่ก็ไปเยอะแล้ว ถ้าเผื่อลองเป็นจรวดนี่ก็นิวยอร์คก็คงจะไป อันนี้ก็เป็นของ
    นอสตราดามุส ในปี 2521 มีอเมริกันชื่อมิสเตอร์ไมเคิล กอร์ดอน ก็ได้ดูอนาคตด้วยจิตที่เป็นญาณ
    พิเศษ ก็ที่อย่างที่เราพูดนี่นะครับ เค้าได้ทำนายไว้ถูกต้องว่า แผ่นดินจะไหวในแคลิฟอร์เนียใน
    เมษายน 35 และ 37 ก็ไหวจริงๆ และจะเกิดที่ญี่ปุ่นใน 2538 ก็เป็นจริง และก็เค้าทำนายไว้ว่าใน
    พ.ศ.2541 ถึง 2555 จะเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เกาะต่างๆเช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย
    ฟิลิปปินส์ จะจมหายไป ทวีปต่างๆในยุโรปจะยุบเป็นแห่งๆ แคลิฟอร์เนียจะกลายเป็นเกาะ ยุโรป
    เหนือจะหายไป อันนี้ยังไม่หมดระยะที่เค้าทำนาย ยังเหลืออีกห้าปี ที่นอสตราดามุสบอกไว้ เค้าทำ
    นายอย่างนี้ เค้าเห็นภาพอย่าง<!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878234")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead">Rattanaporn</td> </tr> <tr><td class="vbmenu_option">ดูรายละเอียดของ</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Add Rattanaporn to Your Contacts</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Rattanaporn Donation Stats</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option"> View Rattanaporn's Videos </td></tr> </tbody></table>

    <table id="post878236" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 22-12-2007, 01:50 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #64 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Rattanaporn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_878236", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    สถานที่: ...ไม่เคยมีอยู่จริง...
    ข้อความ: 1,180
    พลังการให้คะแนน: 1759 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_878236" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->นี้ ก็ไม่รู้จะจริงไม่จริง สำหรับเมืองไทย เมื่อสิบปีก่อน คือในพ.ศ. 2540 โสตทิพย์ไอ้เด็กที่ไม่มีหู
    เคยมาดูให้ผมนะฮะ ถึงตอนนี้เป็นผู้ใหญ่อายุห้าสิบแล้วนะฮะ ซึ่งผมเคยทดสอบระดับจิตเค้าแล้ว
    หลายครั้ง ได้มากระซิบกระซาบบอกผมว่า ในประมาณ 2553 และ 2559 ในช่วงนั้นซึ่งเวลาก็ไม่
    แน่ อาจจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย หลายส่วนของประเทศไทยจมน้ำทะเล
    โดยเฉพาะตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ไป เค้ามองเห็นคลื่น ตอนนั้นซึนามียังไม่มี ไม่มีใครรู้จัก เค้า
    บอกคลื่นสูงเท่าตึกสามชั้น แล้ววิ่งโถมเข้ามากรุงเทพ ท่วมกรุงเทพ เค้าเห็นแผ่นดินไหวทั่วโลก
    เค้าเห็นคล้ายวัตถุบางอย่างตกลงกลางมหาสมุทร แล้วก็แผ่นดินหลายแห่งทั่วโลกจมไป แล้วเค้า
    เขียนแผนที่โลกใหม่มาให้ผมดู เค้าบอกเค้าเขียนมาห้าปีก่อนมาบอกผม แต่ก็ไม่กล้าบอกเพราะ
    กลัวผมว่าเค้าบ้า มันเป็นไม่ใช่โลกเรานะครับ ประเทศไทยมันกุด เป็นเหมือนออสเตรเลีย กระจุก
    อย่างนี้ เวียดนามหายไป พม่าหายไป มาเลย์ มลายู อินโดนีเซีย ญี่ปุ่นไม่มีเหลือนะครับ ทางใต้
    ก็เป็นเกาะๆ อันนี้ก็เป็นภาพที่เค้าเขียนมา ผมดูแล้วผมก็ยังหัวร่อ ว่าอันนี้โลกนี้แน่หรือ แต่ว่า
    อันนั้นเป็นสิ่งที่เค้าเห็นในจิตของเค้า ผมก็ไม่แน่ใจว่า มันจะเกี่ยวกับสิ่งที่มาจากนอกโลกหรือเปล่า
    เช่นดาวหาง หรืออะไรที่วิ่งมาชนโลก อย่างเมื่อคราวก่อนลูกอุกกาบาตอาจจะไม่ใหญ่พอที่จะ
    ทำลายทั้งโลก แต่อาจจะทำให้เกิดอะไรก็ได้ หรือว่าอาจจะเป็นจากปรมณูอะตอมิคบอมบ์ ซึ่งมีการ
    ทิ้งหรือยิงในทะละ ซึ่งทำให้เกิดเหมือนซึนามิ แล้วก็แผ่นดินไหว แล้วก็กระทบไปทั่วโลก นอกจาก
    นี้ผมยังได้อ่านเอกสารที่มีผู้ตีพิมพ์ไว้ ข้อมูลคล้ายๆกับที่หูทิพย์เห็น คือในพ.ศ.2533 แล้วก็ 2535
    ผมไม่รู้จักท่านนะฮะ ชื่ออาจารย์สมโชค พงษ์พิทักษ์ เขียนไว้บอกว่ามีพระธุดงค์รูปหนึ่ง ชื่อหลว
    งพ่อวานิช ได้มาบอกว่าโลกจะเกิดภัยพิบัติรุนแรง ในพ.ศ. 2538 แล้วก็ 2542-54 2544 จะรุนแรง
    มาก กรุงเทพจะหายไป ประเทศที่เป็นเกาะหายไป ประชากรในโลกห้าพันล้านจะเหลือแค่พันล้าน
    และเมืองไทยจะสูญเสียน้อยที่สุด อันนี้ข้อมูลหนึ่ง นอกจากนี้ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2539 ก็มี
    อาจารย์เพลิน นนทโก แห่งบ้านนาคำน้อย อุดรธานี บอกว่าหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่เมื่อกี้ท่านอาจารย์
    พูดนะครับ ไม่กี่ปีจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ แล้วก็มีอีกคนผมก็ไม่รู้จักเหมือนกัน ชื่ออาจารย์เกียรติ จิต
    อ่อนน้อม บอกเมื่อพ.ศ. 2539 พฤศจิกายน มีตาแป๊ะมาบอกว่าจะเกิดภัยพิบัติในปี 2540 แล้วก็
    อาจารย์ศักดา สกุลพนารักษ์ ผมก็ไม่รู้จักท่านเหมือนกันนะฮะ บอกไว้เมื่อปี 2541 บอกว่ามีจีนชื่อ
    โก๊ะจุทก มาบอกข้อมูลคล้ายๆกัน แล้วก็เผอิญคุณหมอเทพนมไม่มา เมื่อวันที่ 10 กุมภา 2541
    หมอเทพนมก็บอกว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาบอกท่าน ก็บอกว่าคล้ายๆกันเนี่ยนะครับ เพราะนั้นอันนี้
    ก็เป็นไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แต่ว่าเมื่อกี้เราพูดถึงจิตอะไรต่างๆแล้ว อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนเห็น และที่
    อาจารย์เตือนเมื่อกี้ ท่านไม่บอกรายละเอียดแต่ว่าก็เป็นส่วนหนึ่งนะครับ สรุปได้ว่ามีผู้ที่มีทางจิต
    เป็นสมาธิประมาณหกเจ็ดคน ได้เห็นภาพภัยพิบัติของโลก ของประเทศคล้ายๆกัน แต่เวลาผ่าน
    มาแล้วยังไม่เกิด นี่ผมขอย้อนไปว่าตามที่ผมเคยถามอาจารย์ทวี ท่านบอกว่าภาพที่เห็นเนี่ยเกิด
    แน่ แต่เวลาที่เกิดไม่แน่ เพราะนั้นถ้าบอกว่าเกิดเมื่อไหร่เนี่ยอาจจะไม่เกิดตอนนั้น แต่จะเกิดภาย
    หลัง เพราะว่าอย่างที่ว่า การตั้งจิตจะดูว่าตรงไหนชัด ตรงไหนไม่ชัด มันไม่แน่นะครับ ทีนี้ใน
    ฐานะวิทยาศาสตร์เราคงต้องดูความเป็นไปได้ของเรื่องนี้นะครับ เพราะความจริงก็มีนักวิชาการ
    ได้พูดไว้เยอะ แต่ที่มาดังก็คือตั้งแต่อัลกอร์มาออกทีวีเนี่ยนะฮะ แล้วก็มาบรรยายเรื่องน้ำแข็งขั้ว
    โลกละลาย อันนี้ผมก็เอารูปมาจากหนังสือของเค้า จะเห็นไว้ว่าภูเขาคีรีมันจาโรในอัฟริกา ทาง
    ซ้ายมือเมื่อค.ศ.1970 หิมะยังปกคลุมยอดเขา ปีพ.ศ.2505 หิมะเหลือแค่นั้นนะครับ คือมันละลาย
    ลงมาเป็นน้ำหมด ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เมื่อเช้านี้ก็ได้ฟังแล้วนะครับ แล้วก็คำนวณว่าจะสูงประมาณ
    สิบเมตรในระยะสิบกว่าปีข้างหน้า บางแห่งว่าสามสิบปี ทีนี้ถ้าเผื่อใช้ปัญญามาเอาข้อมูลทั้งหมด
    มาประกอบกัน แล้วถ้าเผื่อว่าเราเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้ทรงตรัสรู้ เป็นผู้ทรงรู้แจ้ง รู้แจ้ง
    หมายความว่ารู้ในทุกเรื่อง ไม่ใช่เรื่องศาสนาอย่างเดียว ผมเป็นแพทย์ผมอยากชี้ให้เห็นว่า สมัย
    พุทธองค์ยังไม่มีกล้องจุลทรรศน์ แต่ท่านสามารถจะบอกได้ว่ามนุษย์เกิดได้ยังไง เริ่มตั้งแต่ไข่
    ขนาดเท่าเม็ดน้ำมันงาปลายขนแกะ ลูกแกะนะฮะ แล้วก็มามีอสุจิมาผสม แล้วก็เจริญเติบโตใน
    ครรภ์ แล้วก็<!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878236")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  15. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post878239" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 22-12-2007, 01:53 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #65 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Rattanaporn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_878239", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    สถานที่: ...ไม่เคยมีอยู่จริง...
    ข้อความ: 1,180
    พลังการให้คะแนน: 1759 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_878239" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ก็ค่อยๆเจริญไป ระยะที่ท่านบอกเนี่ยว่าเมื่อไหร่มีแขนมีขามีอะไรต่างๆ ตรงกับวิทยาศาสตร์ที่เรา
    อยู่ปัจจุบัน แล้วท่านรู้ได้ยังไง ถ้าท่านไม่รู้แจ้ง อันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าคำว่ารู้แจ้งเราไม่ค่อยเข้า
    ใจ แต่ความจริงอันนี้ครับคือสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องทางศาสนาท่านก็ทรงรู้ นอกจากนี้ท่านยังได้พูดถึง
    จักรวาล ยังพูดถึงโลกอื่น ดาวเคราะห์อื่น อะไรต่างๆ สิ่งมีชีวิตในโลกอื่น แต่ท่านบอกอย่าไปสน
    ใจ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นประโยชน์แก่มนุษย์ แต่ว่าท่านรู้ เพราะนั้นอันนี้ก็ ผมก็อยากจะ
    เอาข้อสรุปของพระพุทธองค์มาให้ดูว่า สิ่งที่เราอยู่เนี่ยท่านเรียกว่า สังขารโลก ก็เหมือนสังขาร
    มนุษย์ สังขารโลกประกอบด้วยอะไร ก็เหมือนมนุษย์ คือหนึ่งประกอบด้วยดิน น้ำ ลม แล้วก็ไฟ
    นี่สำหรับดินเนี่ย ไอ้ภัยพิบัติเรารู้อยู่แล้วมีอะไร ภูเขาไฟระเบิด ไฟไหม้ป่า แคลิฟอร์เนียเมื่อไม่
    กี่เดือนนี้ ไหม้มาถึงบ้านตั้งเยอะแยะ นอกจากนั้นไอ้หิมะที่ละลายจากยอดเขาละลายมาเป็นน้ำท่วม
    แผ่นดินแยก แผ่นดินไหว ที่อยู่ใต้ดิน อันนี้เป็นดินทั้งนั้นที่ภัยพิบัติเกิดขึ้นได้ ก็สำหรับน้ำเนี่ย ก็
    น้ำก็วนเวียนก็ขึ้นไปเป็นอยู่ในลมแล้วก็ตกมาเป็นฝน ไอ้ภูเขาน้ำแข็งละลายมาเป็นน้ำทะเล โดน
    พายุเฮอริเคนพัดขึ้นมา เมืองทั้งเมืองทลาย ดูอย่างเรื่องเขื่อนเนี่ยอาจารย์แกทำเมื่อเช้าเนี่ย ผม
    เคยอยู่นิวออร์ลีนสองปี ทุกคนที่นั้นภาคภูมิใจว่านิวออร์ลีนปลอดภัย เพราะมีเขื่อนกันอยู่ที่ปาก
    แม่น้ำมิซิซิปปี้ ภาคภูมิใจมากเพราะนั้นนิวออร์ลีนจะไม่เป็นไร ถึงแม้จะอยู่ระดับเดียวเหมือน
    กรุงเทพ แต่ว่าน้ำทะเลจะไม่มีปัญหาไม่มีอะไร แต่โดนเฮอริเคนเข้า เขื่อนมันไม่ได้กั้นเฮอริเคน
    มันกั้นแต่น้ำทะเลที่ขึ้น เพราะนั้นโดนเฮอริเคนเขื่อนก็ทลาย เมืองนิวออร์ลีนราบทั้งเมือง ขณะนี้
    ยังฟื้นไม่ดีเลย อันนี้ก็เป็นตัวอย่าง เดี๋ยวพอจบแล้ว ก็เรื่องไฟก็ทราบดีว่าต่างๆ ทีนี้อันหนึ่งที่ มัน
    มีนอกจากที่พระพุทธองค์มีทำนายไว้ ก็คือสิ่งที่มาจากนอกโลก ก็คือเรื่องของอุกกาบาตและ
    ดาวหาง ที่จะมาชนโลก อันนี้เป็นสิ่งจริงที่เรารู้ แต่มันไม่ได้อยู่บนโลก มันมาจากนอกโลก นอกจาก
    นั้นท่านมีพูดถึงเรื่องไฟประลัยกัลป์ไว้ว่า จะเกิดขึ้นแล้วก็ล้างโลก ไอ้อันนี้คือะไร มันอาจจะเป็น
    ปรมณู สงครามปรมณู อะตอมิคบอมส์ หรือสงครามเชื้อโรค หรืออะไรก็ไม่ทราบ ที่จะเกิดขึ้น
    มนุษย์ทำเอง อันนี้ไม่ใช่ธรรมชาติทำ ซึ่งท่านไม่ได้บอกไว้ว่าไฟประลัยกัลป์จะเกิดขึ้นยังไง อันนี้
    ก็เอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมาแปลเป็นสิ่งที่เราเจอในวันนี้ สำหรับลมเนี่ยอันนี้เป็นภัยพิบัติที่จาก
    แผ่นดินไหว ซึ่งเป็นเรื่องน่ากลัว แล้วเรื่องใกล้ตัว แต่คนไทยไม่ค่อย aware เพราะอะไร เพราะ
    ว่าส่วนใหญ่เราอยู่กรุงเทพ ไม่ค่อยรู้สึก เราเคยรู้สึกใหญ่ครั้งเดียวเมื่อตอนนั้น สักยี่สิบปี ผมยังอยู่
    รามา ผมอยู่ชั้นแปด แผ่นดินมันไหว เอนี่เป็นไร ผมว่าผมเวียนหัว เสร็จแล้วคนวิ่งกันทั้งตึก ลง
    ข้างล่างกัน ซึ่งอันนั้นทำผิด เพราะความจริง เผอิญลูกน้องผมคนหนึ่งเค้ามาฝึกกับผม เค้าเคยอยู่
    ฟิลิปปินส์ บอกอาจารย์อย่าไป เค้าจับผมลากเข้าไปยัดอยู่ใต้เตียง บอกถ้าไปวิ่งตอนนี้อะไรที่มัน
    หล่นลงมาลงหัวแตก ต้องให้หยุดไหวก่อนถึงจะวิ่ง เพราะนั้นที่เมื่อกี้ท่านบอกว่าถ้าไหวแล้วให้รีบ
    วิ่ง อันนั้นผิดหลัก จะต้องหลบเข้าใต้อะไรที่แข็งแรง แล้วเมื่อมันหยุด แล้วถึงวิ่งลง ต้องทำอย่าง
    นั้น อันนี้ก็เป็นภาพแผ่นดินไหว แล้วเกิดเขื่อนแตก จะเห็นได้ว่ารอยแยกของแผ่นดินไหว ผ่าน
    เขื่อนพอดี ศรินครินทร์ ศรีสวัสดิ์นี่นะครับ วิ่งลงมาเลย แล้วก็ถ้าเขื่อนแตกอย่างที่ว่า ไอ้น้ำที่ไหล
    ลงมาจะท่วมมีห้าจังหวัดที่ข้างล่างที่เป็นสีเขียว สุพรรณ อ่างทอง อยุธยา นนทบุรี กรุงเทพ สมุทร
    ปราการ นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม อันนี้คือน้ำที่จะท่วม เพราะนั้นเราไม่รู้หรอกแผ่นดินจะ
    ไหวไหม แต่ถ้าไหวใหญ่ๆแล้วเขื่อนเกิดแตก มันไม่ได้การันตีว่าจะต้องไหวไม่เกินเจ็ด เขื่อนถึง
    จะไม่แตก แผ่นดินไหวไม่ฟัง แล้วถ้าเผื่อเราศึกษาว่า เมื่อเกิดซึนามิเนี่ย ถ้าเผื่อแต่ก่อนเกิดซึนามิ
    ไปถามคนไทยว่า เนี่ยระวังนะคลื่นยักษ์จะมา มีคนไทยเชื่อไหมครับ ไม่เชื่อ เพราะอะไรเพราะ
    เราไม่เคยเห็น แต่พอมาสักครั้งหนึ่ง ตอนนี้ไปบอกเอ้าเชื่อ แล้วซึนามิครั้งนั้นมันเกิดเพราะอะไร
    แผ่นดินมันเลื่อนตั้งร้อยกิโล แผ่นดินใหญ่ที่รอยแยก เพราะนั้นอันนี้มันกระทบ รอยแยกอันนั้น
    วิ่งผ่านเมืองกาญ ผ่านมาทางนี้ อยู่ทางซ้ายของแผนที่ มันจะกระทบไปเรื่อย แล้วก็ค่อยไหวๆๆ
    ไปเรื่อย แล้วก็โอกาสของแผ่นดินไหวในเมืองไทยที่เป็นภัยพิบัติมีแน่นอน เมื่อไหร่เท่านั้น แล้ว
    จะมากน้อยแค่ไหนบอกไม่ได้ สำหรับเราในฐานะมนุษย์ผู้มีปัญญาอยู่ในโลกอันไม่เที่ยง เราต้อง
    เตรียมตัวของเราให้พร้อม ทางด้าน<!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878239")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead">Rattanaporn</td> </tr> <tr><td class="vbmenu_option">ดูรายละเอียดของ</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Add Rattanaporn to Your Contacts</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Rattanaporn Donation Stats</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option"> View Rattanaporn's Videos </td></tr> </tbody></table>
    <table id="post878240" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 22-12-2007, 01:56 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #66 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Rattanaporn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_878240", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    สถานที่: ...ไม่เคยมีอยู่จริง...
    ข้อความ: 1,180
    พลังการให้คะแนน: 1759 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_878240" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ด้านกายภาพผมคงจะไม่พูด เพราะว่าสุดแต่สิ่งแวดล้อม แล้วก็สภาพของแต่ละคน แต่อย่างน้อย
    ก็ตามถ้ามีภัยพิบัติ สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือ ที่อยู่อาศัย อาหาร น้ำ เสื้อผ้า ยารักษาโรค ห้าอย่างนี้นะ
    ครับ แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยที่จะไปสร้างเขื่อนกันน้ำทะเล ที่ท่านอาจารย์ท่านเสนอ เพราะว่าผมคิด
    ว่าท่านมองอย่างเดียว คือมองภัยที่เกิดจากน้ำทะเลขึ้น แต่ว่าในเวลาเดียวกันภัยอย่างอื่นไม่ได้ดู
    เพราะว่าภัยอย่างอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว ไอ้เขื่อนอันนั้นเนี่ยไม่อยู่นะ
    ครับ เพราะว่ารอยแยกแผ่นดินไหวลงผ่านกรุงเทพลงทะเลตรงนั้นเลย เพราะนั้นเขื่อนก็ไป เรา
    ลงทุนแสนล้าน แล้วก็ตัวอย่างนิวออร์ลีนมีอยู่แล้ว อย่าไปเอาตัวอย่างฮอลแลนด์ เพราะฮอลแลนด์
    มันไม่ได้โดนแผ่นดินไหว ไม่ได้โดนพายุอย่างนั้น แต่นิวออร์ลีนสร้างเขื่อนเหมือนกัน ถ้าเขื่อน
    พังๆทั้งเมือง เพราะนั้นเราต้องเอาอันนี้เข้ามา แล้วผมก็อยากให้พวกเราเป็นคนไทยยุคนี้ ลอง
    มองอดีตว่าเหตุไฉน เมืองไทยเราย้ายเมืองหลวงมาตั้งแต่สุโขทัย อยุธยา ลพบุรี ลงมาธนบุรี
    รัตนโกสินทร์ ทำไม เพราะเราหนีภัยใช่ไหมครับ ย้ายเมืองหลวงนะฮะ มามั้งหมด เพราะเราหนี
    ภัย ภัยแต่ก่อนคืออะไร ไม่ใช่ภัยแผ่นดินไหว แต่ภัยพม่า เราก็ย้ายลงมา มาอยู่อยุธยาเพราะ
    อะไร แม่น้ำล้อมรอบ แต่ก็โดนตีแตก เพราะข้างในมันพัง ต้องหนีมาอยู่ธนบุรี ฝั่งซ้าย เอ้าใกล้
    พม่า เพราะว่ามันฝั่งเดียวกับพม่า ข้ามมารัตนโกสินทร์ ข้ามฝั่งมา เพราะว่าถ้าเผื่อพม่ามาก็จะเจอ
    แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ เราหนีมาย้ายเมืองมา รัตนโกสินทร์สองร้อยห้าสิบกว่าปี อยุธยาสี่ร้อยปี
    เพราะนั้นแต่ละเมืองหลวงก็อยู่ราวๆเป็นร้อยปีแล้วก็ต้องย้าย ขณะนี้เรายุคปัจจุบันเนี่ย ภัยมาใน
    รูปแบบใหม่ ไม่ได้มาอย่างนั้น แต่มาจากภัยที่เราพูดเมื่อกี้ เพราะนั้นการที่เราเตรียมการ เราก็
    ต้องเตรียมการที่จะแก้ไขอันนี้ สมัยอยุธยาไปสร้างคูหอป้องกันเมือง ก็พัง แตกจนได้ เพราะนั้น
    ไอ้เราจะมาทำเขื่อนนี้เข้าไป เพราะนั้นที่จะบอกว่าไม่ควรย้ายเมืองหลวงนี่ ผมเองไม่เห็นด้วย
    ผมคิดว่าจำเป็นที่เราจะต้องขยับขยายมีเมืองที่เป็นเผื่อไว้ในกรณีที่เกิดปัญหาต่อกรุงเทพ ถ้าเรา
    จะสร้างเขื่อนป้องกัน ควรจะทำอย่างเดียวสำหรับความเห็นผม ทำรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อ
    รักษาสิ่งที่เป็นสัญญลักษณ์ของรัตนโกสินทร์ไว้ ก็คือวัดพระแก้ว วังหลวง อะไรต่างๆ ซึ่งไม่ลงทุน
    อะไรมากเท่าไหร่ และก็สามารถจะอยู่ได้ถ้าแผ่นดินไหวก็ไม่เป็นไร เพราะนั้นอันนี้ก็เผอิญท่าน
    ไม่อยู่ แต่ผมคิดว่าถ้าจะลงทุนแสนล้านก็ค่อยทยอย เหมือนเมื่อสองวันก็มีข่าวว่ารัฐสภาจะไปสร้าง
    ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ของสุสานหรืออะไร ที่เป็นทหารเก่า ก็รู้อยู่แล้วว่าน้ำมันจะท่วม แล้วก็จะไป
    สร้างอยู่ตรงนั้น จะลงทุนตั้งกี่หมื่นล้าน ก็อยากสร้างรัฐสภาใหม่ขึ้นมา ไปทำที่เขาที่ไหนก็ได้ รถ
    เดี๋ยวนี้วิ่งชั่วโมงหนึงก็ถึงแล้ว เพราะนั้นผมว่าอันนี้ผมว่าเป็นคนยุคใหม่ ทางธรรมศาสตร์นี่ก็มี
    คนเข้าไปการเมืองเยอะ ลองช่วยเอา...พวกนี้เข้าสมองนักการเมืองไว้บ้าง ว่าดูอะไรขอให้อย่าไป
    มองแต่ผลประโยชน์ นี่อันสุดท้ายที่ผมได้รับผิดชอบมาคือการเตรียมทางจิต ของผู้ที่มีปัญญาและ
    ไม่อยู่ในความไม่ประมาทที่พระพุทธเจ้าสอน ถึงแม้จะเตรียมการอย่างอื่นไม่ได้มาก จะไปเตรียม
    ที่อยู่ จะไปอะไร มันก็ต้องลงทุน ไม่รู้จะเกิดเมื่อไหร่ จะไปเตรียมอาหารไว้มันก็เน่าหมด จะเกิด
    เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ทุกคนที่สามารถเตรียมได้ คือสามารถเตรียมจิตของตนเอง เพราะว่าไม่ต้องใช้
    ทุน ใช้แต่ความตั้งใจ เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่เกิดภัยพิบัติต่อโลก ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ ไม่มี
    ใครบอกได้ แต่ถ้าเราไม่เตรียมจิตไว้ เวลามันเกิดมันเป็นภาวะการที่เลวร้ายที่สุดที่แต่ละคนเคย
    เจอ เราจะตกใจไร้สติ ช่วยตัวเองยังไม่ได้เลย จะไปคิดช่วยคนอื่น เพราะนั้นถ้าเผื่อเรามีโอกาส
    เราเตรียมทางจิตของเราไว้ เราจะเตรียมได้ยังไง หลักการคืออันที่หนึ่ง เราต้องยอมรับว่าภัยพิบัติ
    ของโลก ของเมืองไทย เกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ เพราะในอดีตได้เกิดขึ้นแล้ว และพุทธเจ้าสอนแล้วว่า
    ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง เพราะนั้นอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เพราะนั้นอันนี้เนี่ยทุกคนต้องยึด
    ไว้แล้วข้อที่เกี่ยวข้องคือ ทุกคนต้องรู้ว่าตัวกำหนดของแต่ละคนคือกรรม เพราะนั้นแต่ละคนจะไป
    ให้เหมือนกันไม่ได้ ทุกคนมีกรรมเป็นของตน ก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น เราต้องอยู่กับกรรม
    นั้น หมายถึงข้อหนึง ข้อที่สองคือทางทฤษฎีเราต้องเข้าใจว่า ชีวิตของเรานี้ก็คือตัวจิตดวงนี้มัน
    เป็นเพียงจุดหนึ่งในเส้นทางอันยาวไกล ที่มองไม่เห็นหัวเห็นหาง ที่เราได้ผ่านมาแล้ว และเราจะ
    ผ่านต่อไป อันนี้มันเพียงภพภูมิหนึ่งเท่านั้นเอง เพราะนั้นอย่าไปคิดมากว่าเราจะต้อง<!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878240")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead">Rattanaporn</td> </tr> <tr><td class="vbmenu_option">ดูรายละเอียดของ</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Add Rattanaporn to Your Contacts</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Rattanaporn Donation Stats</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option"> View Rattanaporn's Videos </td></tr> </tbody></table>

    <table id="post878242" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 22-12-2007, 01:58 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #67 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Rattanaporn<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_878242", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    สถานที่: ...ไม่เคยมีอยู่จริง...
    ข้อความ: 1,180
    พลังการให้คะแนน: 1759 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_878242" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->อย่างนั้นอย่างนี้ เพราะว่านอกจากว่าเราจะมุ่งนิพพาน ที่เราจะหลุดพ้นไป ซึ่งเป็นของยากไม่ใช่
    ของง่าย เพราะงั้นทางที่จะทำได้อย่างเก่ง คือขณะมีปัญหา คนที่จิตถึงคือเอาจิตหลบไป อย่างที่ว่า
    ถ้าเพื่อจะมารู้ก็เอาจิตหลบไปสักห้าวัน แล้วค่อยกลับมา แต่กลับมาอาจจะเห็นร่างหายไปแล้วก็ได้
    เพราะมันไม่มีใครช่วยป้องกัน เพราะนั้นที่เราจะทำได้คืออะไร เมื่อกี้ท่านอาจารย์ท่านสอนไว้
    แล้ว มีอยู่สามข้อ ข้อที่หนึ่งคือต้องยึดมั่นในศีลห้า คนไม่ค่อยนึกถึง เพราะเรารับกันเรื่อย แต่ไม่
    ได้ทำ ยึดมั่นหมายความว่านอกจากตั้งใจแล้วทำ เพราะมันเรื่องเล็กน้อย แต่บางทีเราลืมนึกว่านี่
    ผิดศีลนะ เดินเห็นขี้คกตัวมาเตะตัวไปแล้ว ทั้งๆที่ไม่ได้มากัดไม่ได้อะไรเรา เพราะเราลืมนึกเรา
    ไปทำกรรม อันนี้เป็นต้น เพราะนั้นคนที่มีศีลห้าเนี่ยต้องทุกวินาทีที่เราใช้ชีวิต ต้องนึกถึงอยู่ว่าเรา
    ปฏิบัติให้อยู่ในกรอบของศีลห้า ข้อที่สองก็ต้องถ้าทำได้ เจริญสมาธิกรรมฐานภาวนา ให้ทุกเวลา
    ที่ทำได้ จนกระทั่งให้มันติดกับตัว ถ้าใครไม่เคยทำก็ควรจะเริ่มซะวันนี้ ง่ายมากไม่มีอะไร ถ้าทุก
    คนก่อนนอน ถ้ามีห้องพระเข้าห้องพระ ไม่มีก็กราบกับหมอนแล้วก็สวดมนต์ซะก่อน สวดเสร็จ
    แล้วถ้าสวดไม่ได้ก็เอาหนังสือมากาง สวดจบอย่าลืมแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร อันนี้สำคัญ
    เพราะว่าเราทำกรรมมา เจ้ากรรมนายเวรเค้าก็ตามมา เราก็ขออโหสิไปทุกวัน เค้าใจอ่อนเมื่อ
    ไหร่จะได้หมดกัน อันนี้ก็ทำให้ได้ เสร็จแล้วจิตมันจะค่อยๆสงบ เสร็จแล้วเราถึงจะพยายามสงบ
    จิตของเราเข้าสู่สมาธิ ค่อยๆทำไปทุกวันๆ เท่าที่มีเวลา แล้วมันจะค่อยๆนานขึ้น ค่อยๆนิ่งขึ้น จิต
    มันค่อยสมาธิขึ้น มันจะกลับไปช่วยงานที่เราทำทุกวัน ช่วยการดำรงชีวิตของเราด้วย ไม่ใช่เรื่อง
    ยาก แต่ว่าอย่าไปทำอย่างที่เค้าทำกัน คือว่าฉันจะต้องแต่งนุ่งขาวหุ่มขาว ต้องไปถือศีลแปด ต้อง
    เข้าไปนั่นปฏิบัติสมาธิปีหนึ่งสิบห้าวัน แต่สามร้อยวันไม่รู้อะไร ไม่ได้ประโยชน์ ทำมันทุกวัน
    ทำงานเวลาเดินก็ให้จิตอยู่กับตัว ผมอยากแนะนำให้ไปอ่านหนังสือของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย กับ
    หลวงพ่อทูล ขิปปัญโญ หลวงพ่อพุธ ท่านละสังขารแล้ว หลวงพ่อทูลท่านยังอยู่ที่วัดป่าบ้านค้อ
    ท่านสอนเรื่องให้ใช้สติตามรู้ ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนยุคใหม่ คือเอาสติตามจิตของ
    เราให้รู้อยู่ตลอดเวลาว่าขณะนี้จิตเราไปไหน ตอนนี้เรากระโดดไปด่าใคร ตอนนี้เราไปคิดไม่ดี
    กับใคร คือให้เรารู้ตลอดเวลา ไม่ต้องไปให้นิ่ง แต่ให้รู้ เสร็จแล้วมันจะค่อยนิ่งๆๆๆบางเข้า แล้ว
    อันนี้จะเป็นประโยชน์ ทำได้ง่าย ตั้งแต่ตื่นมา เดินไปไหนก็ซ้ายก็ก้าวหนอ ไม่ต้องไปย่องแย่งๆ
    อย่างเค้าทำ เดินธรรมดาแต่ขอให้จิตอยู่อ้อตอนนี้ฉันก้าว อันนี้เป็นวิธีปฏิบัติที่ practical ที่สุด ไป
    อ่านของหลวงพ่อทูลหรือหลวงพ่อพุธ เมื่อจิตเราพัฒนาแล้วเวลาเกิดอะไรเราจะไม่หวั่นไหว แล้ว
    ก็ข้อที่สามอันสุดท้าย ก็คือการยึดมั่นในบารมีของพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ทำไมเราสวด พุทธังสรณัง คัจฉามิ ธรรมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ แปลว่าอะไร รู้ไหม
    นั่นคือเรายึดถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่อาศัยได้จริง อันนี้คือจุดสุดยอดของโลก
    นะครับ ขอให้เชื่อผม ไม่มีบารมีของอะไรในโลกนี้ไม่ว่าจะวิทยาศาสตร์ อะไรก็ตาม จะเหนือไป
    กว่าพระรัตนตรัย ถ้าทุกคนยึดในอันนี้ได้ ถ้าคนเป็นพุทธ ถ้าคนเป็นศาสนาอื่นก็ยึดพระเจ้า ยึด
    อะไรก็ยึดไป แต่ว่าพระรัตนตรัยเนี่ยจะเป็นที่พึ่งที่อาศัยได้จริงแม้ในยามภัยพิบัติ เพราะท่านก็จะ
    ช่วยคุ้มภัยให้เรา ถึงตอนนี้ผมก็อยากจะแจ้งนิดนึงว่าเผอิญเรากำลังพยายามจะสร้างพระมหาเจดีย์
    ศรีสยาม ที่ปากช่อง อันนี้เพราะอะไร เพราะว่าได้มีพระบรมสารีริกธาตุ ปริมาณมากที่สุดในโลก
    ไม่เคยเห็นที่ไหน ไม่ใช่ที่ไปแสดงที่งานนั้นนะครับ คือตอนที่เราเริ่มต้นจะทำเนี่ย มีพระบรมสารี-
    ริกธาตุเสด็จมาสักหนึ่งโถใหญ่อย่างนี้ แล้วพอเราคิดว่าเราจะสร้างทำมหาเจดีย์ ทำโครงการอะไร
    ต่างๆ ท่านเสด็จมาอีกหกโถใหญ่ ขณะนี้มีเจ็ดโถใหญ่ คือถ้าเผื่อเราจำได้ว่าเมื่อตอนนี้ถวายพระ
    เพลิงพระพุทธเจ้า พระบรมสารีริกธาตุรวมทั้งหมดได้แปดทะนาน แล้วก็แบ่งตามกษัตริย์ต่างๆใน
    อินเดีย ขณะนี้มาอยู่ที่เราแล้วแน่ๆเจ็ดโถ ก็ใกล้ๆหกเจ็ดทะนาน เพราะนั้นส่วนใหญ่มาอยู่ที่เรา
    แล้วยังมีพระอรหันตธาตุของพระอสีติสาวกแปดสิบองค์ พระโมคคัลลา พระสารีบุตร พระโสณะ
    ในนี่ทั้งหมดนี่อยู่แล้ว ประมาณแปดสิบองค์ ซึ่งเราจะสร้างพระมหาเจดีย์อันนี้บรรจุไว้ โดยเป็น
    เจดีย์เปิดมีประตู ให้ทุกคนเข้าไปเห็นด้วยตาว่า อันไหนเป็นของโคร หน้าตาเป็นยังไง ที่น่าสนใจ
    ขององคุลีมาร ถ้าใครเห็นแล้วจะต้องหัวร่อ<!-- google_ad_section_end --> เลย เพราะว่าพระธาตุของพระองคุลีมาร ขณะนี้เป็นนิ้วอย่างนี้เลย เพราะจิตท่านเวลาที่ท่าน
    อรหันต์ แต่ว่ากรรมที่ท่านนึกถึงว่าท่านได้ไปตัดนิ้วคนเข้ามา พระธาตุกลายเป็นนิ้ว มีอยู่องค์
    เดียว นอกนั้นไม่มี นี่เป็นต้น เพราะนั้นก็จะอยู่ในที่นี้ ใครก็จะได้ไปเห็นว่าอ๋ออย่างนี้เอง แต่ละ
    องค์ไม่มีเหมือนกัน แล้วขนาดต่างๆกัน เพราะนั้นผมคิดว่าในโลกนี้ไม่มีที่ไหนที่จะมีอย่างนี้ เรา
    ก็เลยตั้งใจจะสร้างอันนี้ จุดประสงค์ใหญ่เพื่อให้ถวายพระพุทธศาสนา และหวังว่าสถานที่แห่งนี้
    จะช่วยคุ้มครอง รักษาประเทศไทยของเรา ให้พ้นภัยพิบัติที่จะมาในอนาคตอันใกล้ได้ เพราะ
    บารมีของพระพุทธอันนี้ยิ่งใหญ่เหนือโลก ไม่มีอะไรจะใหญ่เหนืออันนี้แล้ว และเราตั้งใจจะทำ
    เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวาระแปดสิบสี่พระชันษา เพราะนั้นอันนี้ก็ผมเรียน
    ไว้เพราะว่าคิดว่าในห้องนี้คงจะมีผู้ที่สนใจทางพุทธศาสนา เผื่อว่าเมื่อเราเริ่มทำจะได้ช่วยกันทำ
    เพราะว่าไม่มีราชการไหนทำ เราทำกันเอง เพียงแต่ว่าได้กราบบังคมทูลให้ท่านได้เมตตาอนุโมทนา
    เป็นประธาน ซึ่งยังไม่สำเร็จออกมาเพราะว่ายังติดขัดในเรื่องอะไรต่างๆ ก็ผมเรียนให้ทราบ
    เพราะเรื่องนี้ก็เกี่ยวเนื่องกันเพราะว่าผมบอกแล้วว่า พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่อาศัย สุดท้ายเมื่อ
    เกิดภัยพิบัติแล้วจะคุ้มประเทศไทย คุ้มคนไทยให้พ้นภัยได้ แล้วผมก็ขอขอบคุณที่ทุกท่านเสียเวลา
    ทนฟัง เกินเวลาที่ผมได้มาเยอะ และหวังว่าคงจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็เตือนว่า
    ภัยพิบัติเกิดขึ้นได้จริง เราต้องเตรียมการ เตรียมทางกายไม่พอ ต้องเตรียมทางจิต เตรียมทางจิต
    ไม่มีอะไรสำคัญเท่าสามอย่าง ศีลห้า สมาธิ แล้วก็ยึดมั่นในพระรัตนตรัย ขอขอบคุณนะครับ

    ...................................................................................

    (ทำการถอดไฟล์เสียงโดยคุณ apichan)*
    Rattanaporn: ขออนุญาติย้ายจาก Word Document มาให้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878242")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead">Rattanaporn</td> </tr> <tr><td class="vbmenu_option">ดูรายละเอียดของ</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ Rattanaporn</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Add Rattanaporn to Your Contacts</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Rattanaporn Donation Stats</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option"> View Rattanaporn's Videos </td></tr> </tbody></table>

    <table id="post878246" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 22-12-2007, 02:02 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right">
    </td></tr></tbody></table>
     
  16. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post878433" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 22-12-2007, 07:03 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #70 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nantiya.j<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_878433", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2006
    ข้อความ: 822
    พลังการให้คะแนน: 914 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_878433" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ถอดเสียงคุณคณานันท์

    (04:19:07)ก่อนอื่นขอกราบนมัสการพระคุณเจ้าละก่อสวัสดีเพื่อนพี่ๆทุกท่านน่ะครับที่สนใจในเรื่องการสัมมนา
    ของเวบไซต์พลังจิตในหัวข้อภัยพิบัติและการเตรียมการณ์น่ะฮ่ะ วันนี้ก่อนอื่นก็ขออนุญาตที่จะแนะนำวิทยากรที่
    จะมาร่วมสัมมนากันในวันนี้น่ะครับเริ่มจากอ่าพระอาจารย์สุวัฒสุวัตฒโนน่ะครับที่ท่านได้เดินทางมาจาก
    จังหวัดสระแก้วพระคุณเจ้าก็มีความรู้ในเรื่องการปฏิบัติข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติค่อนข้างมากอีกท่านหนึ่ง
    ก็คือพระอาจารย์ปะจักษ์เจ้าอาวาสวัดโรงฆ้องจังหวัดนครศรีธรรมราชพระคุณเจ้าท่านนี้ขอโทษน่ะครับ
    อ่าส่วนพระอาจารย์ประจักษ์เจ้าอาวาสวัดโรงฆ้องจังหวัดนครศรีธรรมราชพระคุณเจ้าแล้วก็ได้มีปฏิปทาในการ
    ปฏิบัติแล้วก็ทำโครงการต่างๆที่อ่า ช่วย ครับที่ช่วยคน อ่า ช่วยมีการจัดการเกี่ยวกับภัยพิบัติหลายๆโครงการ
    ไม่ว่าจะเป็นโครงการสร้างพระพุทธรูปเพื่อฉลอการเกิดภัยพิบัติทั่วประเทศการจัดสร้างพระพุทธรูปเพื่องาน
    ในพระพุทธศาสนาหลายๆงานนะครับส่วน อกท่านหนึ่งก็คือ ดร.กัญจิรากาญจนเกศประธานชมรมวิถีธรรมวิถีไทย
    ซึ่งทุกคนก็คาดว่าน่าจะรู้จักอาจารย์ดีอยู่แล้วละก้อมีหลายๆท่านที่สนใจติดตามอ่าการสัมมนาและก่อการ
    มาบรรยายของอาจารย์ตลอด โดยเฉพาะวันนี้เท่าที่ทราบก็มีหลายๆท่านน่ะครับอ่าอีกท่านหนึ่งคือคุณอภิชาติแพรริ้วทอง
    ในฐานะตัวแทนกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัยเขากะลานะครับซึ่งท่านก็เป็นประธานของกลุ่ม อ่าเป็นตัวแทน
    ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัยเขากะลาน่ะครับก่อนอื่นผมกราบขออนุญาตเรียนเชิญอ่าพระอาจารย์สุวัติสุวัฒโนนะครับ
    ได้อ่าเริ่มบรรยายก่อนในหัวข้อเรื่องภัยพิบัติและการเตรียมการน่ะครับซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวพันกับในด้านการ
    ประทังจิตเรื่องสัมมาทิษฐินะครับกราบเรียนเชิญพระอาจารย์ครับ

    <o>:p</o>:p

    (4:41:15)ในเบื้องต้นสรุปกันง่ายๆก็คือการเกิดภัยพิบัตินั้นการเกิดอาจจะเกิดในเวลาอันใกล้หรืออาจต้องใช้เวลา
    หรืออาจการคลาดเคลื่อนใดๆก็ตามแต่หากพวกเราที่เป็นชาวพุทธศรัทธาในพระรัตนไตยเราก็ควรจะปฏิบัติธรรมฝึกจิต
    ฝึกสมาธิกันเอาไว้เพื่อที่ว่าเราจะได้มีสติในการรับรู้รับทราบแล้วก็ป้องกันตัวเองให้บารมีธรรมภูมิธรรมเป็นเครื่องคุ้มกัน
    เราจากนภัยพิบัติปวงในอันดับต่อไปน่ะครับผมจะขออนุญาตกราบเรียนเชิญพระอาจารย์ประจักษ์เจ้าอาวาสวัดโรงฆ้อง
    จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นบรรยายในโครงการต่างๆที่เกี่ยวพันในเรื่องภัยพิบัติครับ(4:41:57)
    <o>:p

    (05:03:42)กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าพระอาจารย์ประจักษ์โดยสรุปที่พระอาจารย์ท่านได้บรรยายใพวกเราฟัง
    สิ่งสำคัญก็คือพื้นฐานของพระพุทธศาสนาอันได้แก่ศีลเราในฐานะที่เป็นฆารวาสก็ควรจะรักษาศีลห้าให้ได้ให้บริสุทธิ์
    ให้เป็นปกติกันส่วนทางด้านสมาธิท่านก็ได้บอกแล้วว่าสิ่งสำคัญในการปฏิบัติทางด้านสมาธิคือการแผ่เมตตา
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมตตาสมาณฌานคือเมตตาที่เราแผ่ออกไปไม่มีขอบเขตซึ่งสำหรับพวกเราถ้าติดตามในพลังจิต
    กับทุกวิชาที่จะทำให้อยู่รอดในภัยพิบัติเรื่องนี้ผมก็เน้นอยู่เสมอเพราะว่าอาณิสงฆ์ของเมตตาพรหมวิหารสี่เนีย
    มีมากมีมากว่าที่พวกเราคิดกันไว้ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสมีตั้งหลายเรื่องหลายอย่างทั้งบารมีของพรหมวิหารสี่
    สามารถปกป้องให้เราปลอดภัยจากยาพิษภัยทางไฟจากน้ำจากภัยธรรมชาติเป็นที่รักขอเทวดาพรหมอมนุษย์
    และมนุษย์ทั้งหลายนะครับส่วนต่อไปผมจะขออนุญาตเรียนเชิญอาจารย์ดร.กัญจิรากาญจนเกศประธานชมรมวิถีธรรมวิถีไทยน่ะครับ


    (05:05:15) - อาจารย์ดร.กัญจิรากาญจนเกศ

    <o>:p
    (05:52: 06)กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับก็อย่างที่อาจารย์ได้สรุปไปน่ะครับว่าจุดสำคัญคือเราต้องฝึกฝน
    สร้างความแข็งแรงทั้งร่างกายละก็จิตใจทำความสะอาดจิตใจด้วยการทำสมาธิแผ่เมตตาพรหมวิหารสี่ให้เป็นปกติครับ
    เพื่อที่จะได้ช่วยกันรวมพลังกันปกป้องและรักษาประเทศไทยเราให้พ้นจากภัยพิบัติจะมากจะน้อยก็ช่วยกันคนละไม้
    คนละมือช่วยกันทำน่ะครับต่อไปขออนุญาตอ่ากราบเรียนเชิญให้คุณอภิชาติ แพรริ้วทองกลุ่มประสานงานเพื่อการ
    เตือนภัยเขากะลาได้บรรยายครับเชิญครับ
    <o></o>
    -คุณอภิชาติ แพรริ้วทอง


    06:08:33ต้องขอขอบคุณคุณอภิชาติ แพรริ้วทองอีกครั้งน่ะครับไหนขอมือนิดหนึ่งครับมีใครที่เคยมีประสบการณ์
    ได้เห็นยูเอฟโอบ้างครับรบกวนยกมือขึ้นนิดหนึ่งครับไม่ต้องเขินกันมากก็ได้ครับรู้สึกข้างหลังทั้งแถบเลยไม่ใช่หรือครับ
    ด้านหลัง ไหนครับอ่าขอมืออีกครั้งหนึ่งครับใครได้มี มีประสบการณ์ได้เห็นยูเอฟโอบ้าง ก็พอสมควรน่ะครับแต่ส่วน
    แต่ส่วนใหญ่ยังขี้อายกันน่ะครับโอเคอ่าครับครับผมก็เห็นครับอ่าส่วนหนึ่งที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเนียเพราะว่าโดยสรุปแล้วเนีย
    ไม่ว่าจะมาทั้งสายการปฏิบัติก็ดีหรือว่าจากสายที่ได้รับข่าวข้อมูลสารจากพลังจักรวาล หรือติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว
    ได้ก็ดีทุกสายเท่าที่ผมได้สังเกตดูจะสรุปรวมอยู่ในเรื่องทุกคนจะต้องฝึกจิตตัวเองให้ดีก่อนนั้นซึ่งก็บังเอิญก็ไปตรงกับ
    ธรรมะแนวทางการปฏิบัติพระพุทธเจ้า ดังนั้นผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าทางที่จะรอดใครก็ตามที่มีหน้าทีที่จะช่วยคน
    และเรื่องภัยภิบัติครั้งนี้ก็ดีหรือว่าใครก็ตามที่จะรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ก็ดีจุดสำคัญหนึ่งก็คือการพัฒนาจิตของเรา
    ให้บริสุทธิ์ให้มีเมตตามีพรหมวิหารสี่มีความเสียสละต่อส่วนรวมและอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการสัมมนาในครั้งนี้ได้
    เออ ทางผมเองผมก็สื่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนมาท่านบอกว่างานในการสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นงานที่รวบรวม
    กลุ่มต่างๆที่มีหน้าที่ที่จะช่วยคนในยามที่จะเกิดภัยภิบัติให้มาพบกันแล้วรายชื่อของวิทยากรต่างๆนั้นส่วนใหญ่ก็
    จะเป็นรายชื่อที่พระท่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนท่านบอกมาว่าให้ให้เรียนเชิญให้กราบเรียนเชิญท่านมาค่อนข้างแปลก
    ที่ข้อมูลต่างๆโดยเฉพาะที่อ่าท่านอาจารย์กัญจิราได้เรียนให้ทราบตั้งแต่ต้นแล้วว่างานนี้หล่ะเป็นงานที่เราจะมา
    ประสานกันว่าแต่เดิมเราเป็นคนต่างคนต่างเดินต่างช่วยกันป้องกันก็ดีหรือว่าให้ข้อมูลคนเรื่องภัยพิบัติก็ดีแต่ตอนนี้
    ถึงสเตตที่พวกเราแต่ละคนแต่ละกลุ่มเนียจะเริ่มประสานความร่วมมือเพื่อที่จะผลักดันในการช่วยเหลือเรื่องภัยภิบัติ
    ไปในทางทิศทางเดียวกันเพื่อที่ว่าจะได้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ดังในอ่าหัวข้อต่อไปที่จะกราบเรียน
    เชิญวิทยากรทุกท่านพูดก็คงจะเป็นเรื่องการประสานงานกันระหว่างกลุ่มต่างๆศักยภาพกลุ่มต่างๆที่จะร่วมมือกัน
    ในการมาช่วยเหลือส่วนรวมให้พ้นจากภัยภิบัติครับซึ่งผมขอกราบเรียนเชิญพระอาจารย์สุวัติได้มาอธิบายเป็นท่านแรกครับ(06:11:54)



    รออีกแป๊บนะค่ะ นันทิยาก็มีอู้เล็กๆๆ สำหรับเสียงคุณคณานันท์ ต้องรอให้ทุกฟาย
    เสียงถอดหมดจะได้รวบรวมแทรกให้สมบรูณ์อีกครั้ง

    (อันนี้ยังมีอยู่มาร์คแทร็คไว้ก่อน)

    06:37:59
    06:42:05
    07:16:06
    07:21:31
    07:39:59

    ต่อที่เหลือกันน่ะค่ะ

    <o></o>
    <o>
    06:37:59<o></o>
    กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุวัตมากน่ะครับต่อไปก็ขอกราบเรียนเชิญท่านอาจารย์ประจักษ์ครับ<o></o>
    <o></o>
    06:42:05<o></o>
    ก็ สรุปแล้วการประสานงานกันในการเรื่องภัยพิบัตินี้สิ่งสำคัญก็คือเราเองในฐานะ ที่เป็นคนในฐานะที่เป็นมนุษย์ที่อยู่บนโลกก็ควรที่จะต้องทำจิตให้บริสุทธิ์ ทำจิตให้มีกำลังมีสมาธิรวมทั้งเมื่อเราเป็นคนดีเทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธ์ ท่านก็เห็นท่านก็ช่วยเมตตาท่านก็ช่วยสงเคราะห์หากเราอ่อนน้อมถ่อมตนเคารพ บูชามั่นคงในพระรัตนตรัยบารมีของพระรัตนตรัยก็ช่วยคุ้มครองอีกทางหนึ่งรวม เป็นสามพลังที่คุ้มครองปกปักรักษาตัวเราและก็ช่วยผลักดันในการทำงานประสานใน การช่วยคนในเรื่องภัยพิบัติอีกทีโอเคต่อไปผมขอ อ่าเรียนเชิญอาจารย์ดร.กัญจิราได้อ่าอภิปรายเป็นท่านต่อไปครับผมในเรื่องการประสานงานระหว่างกันครับ<o></o>
    <o></o>
    07:16:06<o></o>
    ครับต้องขอบคุณท่านอาจารย์ดร.กัญ จิรา กาญจนเกศครับในการฝึกสมาธิที่เราได้ฝึกไปที่ผ่านมาครับต่อไปขออนุญาตเชิญอ่า เรียนเชิญคุณอภิชาติ แพรริ้วทองมาพูดอภิปรายในหัวข้อใรเรื่องการประสานงานกันครับ<o></o>
    <o></o>
    07:21:31<o></o>
    ขอบคุณครับ อ่าในช่วงต่อไปคงอ่าขออนุญาตตั้งคำถามน่ะครับแล้วอ่ามีที่อาจารย์ดร.กัญจิรา จะเสริมนิดหนึ่งเรื่องยูเอฟโอขอเวลาก่อนตอบคำถามสักครู่นิดหนึ่งครับ<o>

    </o>
    07:28:41<o></o>
    ครับ ขอบคุณครับ ต่อไปจะเป็นช่วงของคำถามนะครับมีหลายๆท่านมีความสนใจ จะสอบถามทางวิทยากร อ่าในคำถามแรกน่ะครับถามว่าในระหว่างสงครามนิวเคลียร์และภัยธรรมชาติอะไรจะ เกิดก่อนกันครับไม่ทราบว่าจะให้วิทยากรท่านใดเป็นผู้ช่วยตอบครับ อ่าขอเชิญดร.กัญจิราครับ<o></o>
    <o></o>
    07:33:27<o></o>
    ขอบ คุณครับ คำถามต่อไปเป็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติในการสร้างบารมีคำถามมีอยู่ ว่าปฏิบัติธรรมอย่างไรเพื่อสร้างบารมีได้คือแต่ทำดีอย่างเดียวหรือไม่ต้อง วางกำลังใจทำอารมณ์ใจอย่างไรครับ นมัสการเรียนถามอ่าพระอาจารย์ประจักษ์ครับผม<o></o>

    07:34:40<o></o>

    คำถามต่อไป คำถามส่วนใหญ่อ่าจะเรียนถามมาทางดร.กัญ จิราค่อนข้างเยอะน่ะครับแล้วเออบางคำถามผมขออนุญาตรวมคำถามที่คล้ายๆกันครับ เข้าด้วยกันอย่างเช่นอ่ามีคำถามอีกคำถามหนึ่งครับคำถามมีอยู่ว่าวันที่ 23 ธันวาคม 50 นี้จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่อินโดนีเซียตามที่นักทำนายชาวบลาซิลทำนาย ไว้หรือไม่และจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อประเทศไทยครับ<o></o>
    <o></o>
    07:39:59<o>
    </o>
    อ่า ส่วนอีกคำถามหนึ่งน่ะครับเรียนถามกราบเรียนถามนมัสการถามท่านอาจารย์สุวัติ เรื่องการฝึกปฏิบัติสมาธิโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไม่ต้องทานอาหาร 7 วันน่ะครับต้องทำอย่างไรมีกำหนดวันเวลามีกำหนดจำนวนผู้เข้าปฏิบัติอย่างไรขอกราบเรียนถามเบอร์โทรศัพท์ท่านอาจารย์ด้วยครับ<o></o><o></o>
    <o></o>
    <o></o>
    07:48:42<o></o>
    ต้องขออนุญาตนิดหนึ่งน่ะครับคือท่านอาจารย์ประจักษ์ท่านติดกิจต้องไปธุระต่อน่ะครับ ท่านจะกลับก่อนน่ะครับ ขอพวกเรากราบนมัสการท่านกัน<o></o>
    ขอ อนุญาตมอบของที่ระลึกถวายพระอาจารย์ท่านครับหลังจากนั้นอ่า ยังมีการตอบคำถามต่อน่ะครับแล้วทางอาจารย์สุธาทิพย์ ในช่วงปฏิบัติสมาธิสักครู่อ่า อาจารย์ได้บอกว่าได้สัมผัสกับสารจากจักรวาล<o></o>
    <o></o>
    07:50:05<o></o>
    ครับเดียวขออนุญาตอ่าเนื่องจากสถานที่น่ะครับต้องการอ่าต้องปิดห้องประชุมนะครับเพราะว่าเนื่องจากเราติดต่อท่างได้ประมาณ 4โมง เย็นน่ะครับต้องขอโทษนิดหนึ่ง แต่ว่าเดี๋ยวสักครู่เนียะเราสามารถใช้พื้นที่ด้านนอกได้ถ้าท่านใดที่ยังสนใจ อยากสอบถามเรื่องคำถามต่างๆรายละเอียดต่างๆจากท่านวิทยากรทุกๆท่านน่ะครับขอ เรียนเชิญถามเป็นการส่วนตัวได้น่ะครับได้ได้ทุกๆท่านเลยน่ะครับอ่าถ้างั้นโอ เคถ้างั้นในช่วงสุดท้ายขออนุญาตอ่าขออนุญาตอาจารย์สุธาทิพย์ดร.สุธาทิพย์ ครับ<o></o>
    <o></o>
    08:00:15<o></o>
    สุด ท้ายนี้ครับขอกราบขอบพระคุณทางวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่เมตตามาให้ ความรู้กับพวกเราทุกคนในวันนี้ขอขอบคุณความเสียสละของทีมงานสต๊าฟพลังจิต พิชิตภัยพิบัติทุกๆท่านที่อุทิศเวลาแรงกายแรงใจอาสาสมัครมาทำงานให้โดยไม่มี ค่าใช้จ่ายไม่มีค่าแรงไม่มีอะไรทั้งสิ้นมากันด้วยใจแท้ๆและก็ขอกราบขอบพระ คุณสมาชิกเวบไซท์พลังจิตทุกท่านที่ติดต่อและช่วยประชาสัมพันธ์ให้งานนี้ เกิดขึ้นได้ และท้ายที่สุดขอกราบขอบคุณทุกท่านที่ได้มารวมสัมมนาในงานครั้งนี้ จนสำเร็จได้เป็นผลดีทุกอย่าง ผมเชื่อว่างานในครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มเล็กๆแต่จะปรากฏผลที่ยิ่งใหญ่ต่อมวล มนุษยชาติในการช่วยเหลือทุกคนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติครับ ขอขอบคุณมากครับ <o></o><o></o><o></o>
    </o>
    <!-- google_ad_section_end --> </o></o>
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ยังไม่สาย..กับสายธรรม
    <!-- google_ad_section_end -->
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nantiya.j : 29-12-2007 เมื่อ 02:25 AM
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("878433")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="thead">nantiya.j</td> </tr> <tr><td class="vbmenu_option">ดูรายละเอียดของ</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ nantiya.j</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ nantiya.j</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">Add nantiya.j to Your Contacts</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option">nantiya.j Donation Stats</td></tr> <tr><td class="vbmenu_option"> View nantiya.j's Videos </td></tr> </tbody></table>
    <table id="post879678" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> [​IMG] 23-12-2007, 12:50 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right">
    </td></tr></tbody></table>
     
  17. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post906281" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 08-01-2008, 05:38 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #77 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_906281", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2005
    สถานที่: เมื่อคิดถึงผมผมก็คิดถึงคุณ
    อายุ: 23
    ข้อความ: 1,882
    พลังการให้คะแนน: 1993 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_906281" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ของดร. กัญจีกรา ยังถอดไม่หมดนะครับ ผมก็เลยมาถอดต่ออยู่หลายชั่วโมง พึ่งเสร็จ


    (ช่วงสอง)
    ค่ะ ขอเชิญท่านกลับมานะค่ะ เพราะรู้สึกหลายคนไปเฝ้าพระอินทร์อยู่นะค่ะ ก็คือ ขอพูดถึงเรื่องของการประสานงาน อันนี้ถือว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆของการทำงานร่วมกันนะค่ะ หลายๆท่านอาจจะเชื่อหรือเชื่อ แต่หลายท่านก็คิดว่ามันมีความเป็นไปได้ วันนี้ถามดิฉันๆเชื่อแน่ว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าพูดเมื่อ 50 ปีที่แล้วเนี้ยเค้าบอกว่า โห จะเกิดแผ่นดินไหว จะเกิดภูเขาน้ำแข็งละลาย จำได้ว่าสมัยที่คุณพ่อไปทำงานเป็นวิศกรอยู่ที่แคนาดา แล้วก็มีการไปสำรวจที่ขั้วโลกเหนือเนี้ยนะค่ะ แล้วก็บอกว่า เนี้ยอนาคตข้างหน้าเนี้ย เอ่อ ภูเขาน้ำแข็งจะละลาย ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ เพราะว่าก้อนน้ำแข็งมหึมาอยู่มานับเป็นพันๆล้านปี มันจะละลายได้ยังไง นะค่ะ แต่วันนี้สมการมันออกมาแล้วค่ะว่า การที่เราใช้พลังงานธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือย นะค่ะ มากที่สุด โดยเฉพาะช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เราใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติ จากน้ำมันดิบ ลองคิดดูสิค่ะ อย่างดิฉันพูดอยู่เสมอว่าจริงๆแล้วเนี้ย ทางตะวันออกกลางเนี้ยเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติ จากภูเขา ภูเขาทรายเนี้ย ทรุดตัวลงไป แต่เนื่องจากภูเขาทรายเนี้ยบางครั้งลมพัด นะค่ะ แล้วก็มันมีมากมายจนกระทั้งไม่มีเป็นที่สังเกต แต่ฉะนั่นเวลาเกิดการยุบตัวเนี้ย เราแทบจะมองไม่เห็น หรือแทบจะไม่รู้ถึงการเคลื่อนไหวของภูเขาทรายเหล่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ทางด้านวิศวกร แล้วก็นักออกแบบของอาคารใต้พื้นดินนะค่ะ แถวตะวันออกกลาง เค้าบอกว่า จริงๆแล้วมันมีการเคลื่อน เพราะว่าอย่างจุดหนึ่งที่เค้า เอ่อ เหมือนกับเค้าสกัดพื้นดินเข้าไปเนี้ย พบว่าบางจุดเนี้ย มันเคยหนาแน่นมาก แต่บางจุดเนี้ยมันมีอากาศมันโฟล์ขึ้นมาจากข้างบนได้ แสดงว่ามันต้องมีการ เอ่อ เกิดช่องว่างทางอากาศขึ้นจากการทรุดตัว เพราะเราลองตั้งสมมติฐานง่ายๆ นะค่ะ การที่เราดึงของเหลวภายในใจของของโลกขึ้นมา ไม่ว่าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเนี้ย ความสมดุลของโลกมันต้องผิดเพี้ยนไป ฉะนั้นการที่โลกหมุนอยู่ตลอดเวลา แล้วสมัยก่อนที่ใครมาบอกว่า แกนโลกจะเอียง แกนโลกจะพลิกผันไป เราก็บอกมันเป็นไปไม่ได้ โอ้โห มันจะเป็นไปได้ไง แต่วันนี้สมการมันออกมาแล้วว่ามีความเป็นไปได้ เมื่อความสมดุลของโลก ใจกลางโลกเนี้ย มันไม่สมดุลอีกแล้วนะค่ะ มันก็จะเกิดน้ำหนักขึ้น ซึ่งแน่นอนที่สุด การเคลื่อนไหวของลาวา และของเหลวในโลกเนี้ย ในแกนโลกเลย มันก็จะต้องมีการเคลื่อตัว ต้องนี้ละค่ะ ที่จะทำให้ส่วนหนึ่งของแกนโลกเราเริ่มเอียงไป นะค่ะ เมื่อเริ่มเอียงไป ส่วนที่จะต้องไปรับพลังงานจากแสงอาทิตย์มากขึ้น ทำให้เกิดภาวะความร้อน คลื่นความร้อน เอลนิโญ ลานิญา กระทบกัน ดิฉันติดตามเรื่อง เอลนิโญ กับ ลานิญา ยังบอกว่า เคยตั้งสมมติฐานว่าเมื่อไหร่ไอสองตัวนี้มันวิ่งมาบรรจบกัน นะค่ะ อย่างลานิญามันก็วิ่งอยู่ตามขอบปีกทางด้านเม็กซิโกนะค่ะ แต่ทางด้านเอลนิโญก็วิ่งมาทางคาบสมุทรแปซิฟิก วันไหนไอสองกลุ่มมันมาเจอกัน คลื่นความเย็นกับคลื่นความร้อน อะไรจะเกิดขึ้น เราจะเห็นพายุมหึมา ยิ่งกว่าทอร์นาโด ยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นเลย มันจะสูงไม่ใช่แค่ตึก 5 ชั้น แต่อาจจะสูงถึง 20 ชั้น นะค่ะ เราจะเห็นการม้วนตัวของคลื่นมหาสมุทรเนี้ยอย่างรุนแรง เพราะเนื่องจากว่า ระบบนิเวศวิทยา อุณหภูมิของมหาสมุทรจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน สัตว์น้ำจะตายกันเป็นเบือเลย แล้วเค้ามีข้อสังเกตจากนักวิทยาศาสตร์นะค่ะ แล้วก็นักนักชีววิทยาว่า มันมีความเป็นไปได้ เพราะเนื่องจากแพลงตอน ปะการัง หลายๆอย่างเนี้ย ในใต้ท้องทะเลในคาบสมุทรแปซิฟิกนะฮะ ก็มีการเรียกว่ามีการตายไปเยอะมากเลย ซึ่งตรงนี้เนี้ยมันเป็นผลกระทบจากการที่เราใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง ฟุ่มเฟือย แล้วก็มากเกินขีดจำกัด เมื่อสมการตรงนี้มันไม่สมดุลเมื่อไหร่ นะค่ะ สมดุลมันไม่เกิดขึ้น มันเสียกันแล้ว ฉะนั้นเราต้องเตรียมตัว นี้นับเป็นจุดเล็กๆของการเตรียมความพร้อม ถ้าถามดิฉันว่าวันนี้เราต้องเตรียมการยังไง เตรียมตัวเตรียมใจของท่านก่อน ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ดิฉันยังยึดหลักคำพระไว้อยู่เสมอเลยว่า อตฺตา หิ อตฺตาโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตน นะค่ะ ท้ายที่สุดแล้วการเดินทางของชีวิต ไม่มีใครช่วยใครได้ ต่อให้ท่านห้อยพระเต็มคอ ต่อให้ท่านเป็นอย่างไร เพราะจุดสุดท้ายของชีวิตเมื่อท่านละสังขารที่ต้องเดินทางไปหาบ้านใหม่อยู่ นะค่ะ จิตของท่านมีความประภัสสรแค่ไหน จิตที่สะอาด จิตที่สงบ และจิตที่สว่างเท่านั้น ที่มีประภัสสรนั้นแหละค่ะที่จะเป็นตัวส่องนำทางให้ท่านไปยังภพภูมิใหม่ ที่ดีได้ ฉะนั้นมันอยู่ที่ตัวท่าน เหมือนที่ท่านรับประทานอาหารท่านถึงจะอิ่มเอง นะค่ะ ฉะนั้นตรงนี้เนี้ย ทุกท่าน ถ้าอยากแข็งแรงท่านก็ต้องปฎิบัติ ถ้าท่านอยากปล่อยวางอยากจะมีสมาธิท่านก็ต้องฝึกปฎิบัติด้วยตัวเอง มันถึงจะเกิดพลังกายและพลังจิต ชีวิตที่เข้มข้น ฉะนั้น อตฺตา หิ อตฺตาโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตน ท่องไว้เลยค่ะ จำไว้ในใจของท่าน ทีนี้ ณ วันนี้ถ้าการประสานงานเราควรจะเริ่มต้นยังไง นี้นับเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่เรามีการรวมตัว ดิฉันคิดว่า ณ วันนี้นะค่ะ ในความเห็นของดิฉันควรจะเริ่มก็คือ อาสาสมัครตัวท่านเองว่า ใครจะทำอะไร และจะช่วยอะไรได้บ้าง ใครมีความสามารถด้านไหน ใครมีกำลังทรัพย์หรือใครคิดว่าตัวเองเนี้ยมี power หรือมีความสามารถด้านใด ลองเขียน นะค่ะ คร่าวๆว่าเราจะช่วย เราต้องการอาสาสมัคร volunteer คือเต็มใจที่มาช่วย แต่ที่สำคัญท่านต้องมีศรัทธาก่อน นะค่ะ อย่าเข้ามาอย่างอยากรู้อยากเห็นแล้วก็คอย contrast กับเค้าทุกเรื่องว่า อย่างนี้ก็ไม่ใช่ อย่างนู้นก็ไม่ใช่ แบบว่าอยากมาหาประสบการณ์เท่านั้น อยากมาเจอะอะไรใหม่ๆ ให้มันตื่นเต้นในชีวิต นะค่ะ อันนั้นไม่ใช่ เพราะดิฉันเอง ณ วันนี้ กว่ามายืน ณ จุดนี้ได้ ดิฉันฝึกฝนตัวเอง ปฎิบัติตัวเอง เพราะดิฉันบอกอยู่เสมอ บอกตัวเองอยู่เสมอว่า จะไม่เป็นครูที่แต่พูดได้ สอนได้ อ่านหนังสือ จำแต่ทฤษฎีแล้วมาสอน ไม่ใช่ค่ะ เราต้องเรียนรู้แล้วเราต้องประพฤติปฎิบัติด้วยตัวของเราเอง เราถึงจะไม่ลังเลสงสัยเลย อ้อมันใช่นะ มันจริงอย่างนี้ อันนี้มันไม่ใช่ เชื่อมั๊ยค่ะว่าในโลกนี้เนี้ยมันยังมีอะไรอีกเยอะมากที่มนุษย์ยังเข้าไปไม่ ถึง แล้วไปไม่ถึงจุดนั้น และเราก็ไม่เชื่อว่ามันมีจริง อย่างการย่นระยะทาง ดิฉันเคยพาลูกศิษย์คนนึง เค้าขับรถจากหัวหินมาถึงกรุงเทพใช้เวลาเพียงแค่ 45 นาที ถ้าบอกใครไม่มีใครเชื่อ แต่เรามีประจักษ์พยานหลายคนนะค่ะ ในขณะนั้นที่มันเกิดเหตุการณ์นั้น แล้วหลายๆครั้งที่เราเข้าไปในมิติต่างๆ ทีนี้พูดถึงเรื่องการป้องกัน สารต่างๆ ไม่ว่ากัมมันตภาพรังสีหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ จริงๆแล้วอย่างที่บอก ตัวเราเป็นพลังงานนะค่ะ แล้วมันมีการเคลื่อนไหวของ energy ตัวนี้ด้วยการสั่นสะเทือนของ vibration การสั่นสะเทือนนี้ละค่ะ เป็นตัวนึงที่จะทำให้รัศมีกายหรือออร่าของเรากว้างขึ้น ซึ่งตรงนี้ถ้าหากมันมีปริมาณมาก เข้มข้นนะค่ะ แล้วก็กว้างมาก มันจะสามารถป้องกันอะไรได้หลายอย่าง แม้กระทั่งอุบัติเหตุ ต่อให้คุณดิ่งลงมา ตัวเองเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ เอ่อ สมัยที่ไปตรวจจุดที่ว่ามันมีการจี้ปล้นกันเนี้ยนะค่ะ ที่เอ่อ ที่ทุ่งสองห้องนะค่ะ เขตดอนเมือง เนื่องจากตรงนั้นเป็นตึกอาคารร้าง แล้วก็เอ่อมีพวกมิจฉาชีพเนี้ย ไปเสพยาบ้าแล้วก็เนี้ยเอาผู้หญิงไปชำเราข่มขืนเนี้ย เราก็ไปตรวจสถานที่ ดิฉันตกมาจากตึก 4 ชั้น ใครๆบอกว่าต้องเดี้ยง ต้องขาหัก แต่เชื่อมั๊ย เดินออกมาจากที่เกิดเหตุได้อีก 500 เมตรเพื่อที่มาขึ้นรถ ในขณะที่ขาเนี้ยบวมเป๋ง แต่ใครๆบอกต้องหักหลายท่อนแน่เลย และที่ลงมาเนี้ยที่มันหวาดเสียวมาก เพราะมันมีไม้อยู่ ไม้ก่อสร้างไม้แบบเพราะอาคารนี้ยังไม่เสร็จ มันตั้งอยู่เนี้ย มันเฉียดตัวดิฉันไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด แน่เนื้อนี้ไหม้เลยนะค่ะ เนื้อนี้ไหม้เลย ใครๆบอกโอ้โห ถ้าเสียบนี้มันทะลุอาจารย์แน่ๆเลย เพราะมันทั้งคม และแรงดิ่งที่หล่นลงมา นะค่ะแรงดิ่งลงมา ดิฉันบอกดิฉันคงจะมาใช้วิบากตรงนี้ แต่ก็เพียงเวลาเพียงแค่ 15 วัน นะค่ะ ขาก็ดีขึ้น ไม่ยอมใส่เฝือกด้วย เพราะหมอบอกว่าถ้าใส่เฝือกแล้วไม่ต้องทำอะไร 15 วัน บอกเป็นไปไม่ได้สำหรับดิฉัน อันนี้ก็คือภาวะตรงนั้นตอนเราหล่นลงมา เรารู้สึกเหมือนมีอะไรรับเราไว้ แล้วไอไม้ที่ควรจะเสียบเราเนี้ย โอโหแบบว่า มันฉิวเฉียด นี้คือการที่เราฝึกปฎิบัติ อาจจะเป็นเพราะเรื่องบุญบารมี เพราะดิฉันยังใช้กรรมไม่หมด เพราะมีหน้าที่ที่จะทำให้มวลชลนี้นะค่ะ ก็เลยเป็นอะไรที่ต้องมีชีวิตอยู่ ณ วันนี้ต่อไป ทีนี้อานิสงส์ ที่เราฝึกจิต ฝึกกายให้แข็งแรง เมื่อรัศมีเรามีคลื่นสั่นสะเทือนที่มากพอนะค่ะ มันจะสามารถขับเคลื่อนทำให้คลื่นต่างๆ หรือพลังงานต่างๆ ที่วิ่งจะเข้ามากระทบเราเนี้ย เกิดภาวะหักเห ดิฉันเคยลอง ลองแบบว่าลองในกลุ่มทหารด้วยกันก็คือ ทดลองให้คนยิงปืน เล่นเสียวกันมากเลยนะค่ะ แต่อยากจะรู้ว่าวิถีการหักเหของพลังงานเมื่อกระทบกับคลื่นพลังงานแม่เหล็ก ชนิดหนึ่ง เหมือนกับเรากั้นเป็นคลื่นพลังงานขึ้นมา มันจะเกิดการหักเหได้อย่างไร ก็เหมือนพระต่างๆ ที่มีพุทธคุณด้าน เอ่อ ด้าน เรียกว่า คล้ายๆว่า ทำให้แคล้วคลาดต่างๆ หรือแม้กระทั่งเหล็กไหล เหล็กไหลก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง เมื่อเค้าส่งคลื่นพลังงานออกมาเนี้ย นะค่ะ เอ่อ หัวลูกกระสุนปืนมันก็เป็นโลหะชนิดหนึ่ง เมื่อพลังงานมากระทบกันมันก็จะเกิดการเบี่ยงเบนของคลื่นพลังงาน ซึ่งเราพบว่ามันใช้ได้ แล้ววันนี้ดิฉันคิดไกลไปถึงการใช้คลื่นพลังงานเนี้ย ที่เป็นประโยชน์ในการที่จะเบี่ยงเบน (อันนี้เป็นความลับทางราชการนะค่ะ) ก็คือ ขีปนาวุธต่างๆ ให้เกิดการหักเหได้ ไม่ว่าจะใช้มวลสารหรือจะใช้คลื่นความถี่บางอย่าง เพราะเนื่องจากตัวเองเนี้ยประสบการณ์เนี้ย ที่โลดโผนหลายๆอย่างเนี้ย เราพบว่าคลื่นความถี่มันมีประโยชน์มาก นะค่ะ ที่นี้รู้สึกว่าพูดเรื่องความถี่ พูดเรื่องพลังจิต พลังชีวิตมากันเยอะมากแล้วเนี้ย ทดสอบนิดนึงกันดีมั๊ยค่ะๆ เพราะหลายๆท่านไปเฝ้าพระอินทร์กันเยอะเหลือเกิน นะค่ะ นั่งตัวตรงค่ะ ก็คือ การฝึกตรงนี้เราจะชัดเจนมากเลยในที่จะรับคลื่นนะค่ะ เพราะว่าเมื่อกี้ได้ทดลองเล่นกับน้องคนนั้น เป็นไงบ้างจ๊ะ มีอะไรเกิดขึ้น ไหนลอง ลอง มีอะไรเกิดขึ้น ลองบอกประสบการณ์ตรงเมื่อกี้นี้

    คุณคณานันท์: รบกวนพูดออกไมค์นิดนึงครับ

    Nakamura: หวัดดีครับ เมื่อกี้ตอนนั่งอยู่ ก็มีเสียงคลื่นมา บอกว่าทดสอบๆๆ ก็ตกใจ ก็ลองเปลี่ยนสัญญาณดู เสียงคลื่นก็เงียบไป แล้วพอเปลี่ยนกลับมาอีกที ก็ดังเหมือนเดิม อาจารย์ก็มองอยู่ด้วย ก็คิดว่าน่าจะ อาจารย์ส่งมา

    อาจารย์กัญจีรา: ค่ะ พอดีน้องเค้ากำลังเล่นวิทยุ แล้วอยากให้เค้าเห็นว่า มันจริงๆเค้าดันเสาวิทยุ ก็เลยบอก เทสๆๆ ทดสอบๆๆ ทีนี้เค้าเนี้ย เค้าก็ไม่มั่นใจ เค้าก็ดึงเสาวิทยุขึ้นไปจนสูงเลยแล้วก็พยายามเปลี่ยนช่องใช่มั๊ยค่ะ เปลี่ยน channel มันไปแต่อาจารย์ก็จูนคลื่นความถี่เข้าไปเพื่อเทส ดังนั้นเมื่อกี้มันจึงมีเสียงแปลกๆนะค่ะ อันนี้ก็คือ บอกให้รู้ว่าคลื่นพลังจิตของเราเนี้ย เราสามารถแทรกไป มันก็เหมือนคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ทั่วไป สมัยก่อนเรามีเคเบิล ใช่มั๊ยค่ะ เรามีสัญญาณโทรศัพท์วิ่งมาตามสายเคเบิล แต่ ณ ปัจจุบันเราใช้อะไรค่ะ โทรศัพท์มือถือ ก็เป็น mobile ระหว่างแม่กับลูก ทำไมเราจูนกันได้ ก็คือ การที่เรา ส่งคลื่น แล้วก็ปรับจูนคลื่นแล้วก็ให้เข้าตัวรับ แล้วก็ส่งสัญญาณ แล้วก็แปลงเป็นรหัสนี้เอง นะค่ะ ทีนี้ขอมาตรงนี้นิดนึง เมื่อกี้วกไปที่พระคุณเจ้า ที่พูดถึงว่า แต่ละท่านเนี้ยมีคำถามว่า แล้วเออ แล้วทำไมสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะปกป้องแต่คนที่จะปฎิบัติดีปฎิบัติชอบเท่านั้นหรอ หรือปกป้องแต่สถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาหรอ จริงๆ ไม่ มันมีเหตุอย่างนี้ค่ะ แต่ละท่านๆ มีสายพันธุ์กันมา หรือพูดตามหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ มี DNA หรือมีโครโมโซม ดิฉันอาจจะเป็นคุณแม่ของใครในห้องนี้หลายๆคน นะค่ะ หรือเป็นลูกของใครอีกหลายๆคน แต่มันร้อยภพร้อยชาติ ซึ่งเราก็ก่อกำเนิดมาจาก DNA เดียวกันนั้นแหละ แล้วมันก็แตกหน่อๆๆ ไม่ว่าท่านจะไปผสมดำรงพันธุ์กับใครนะค่ะ แต่ DNA ของท่านก็ยังคงอยู่ และตรงนี้ละค่ะ มันเป็นจิตวิญญาณดั้งเดิมของมนุษย์เรา ซึ่งตรงนี้เค้าเรียกว่าจิตเดิมแท้ ฉะนั้นบางทีเนี้ย บางท่านเคยเกรกมะเหรก เกเร แล้วไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่วันนึงทำไมมีความรู้สึกว่า เออ เราต้องมาปฎิบัติธรรม เพราะมันถึงเวลาของคุณแล้ว เพราะจิตเดิมของคุณจะกระตุ้นให้เกิดความรักดี กลับมาเป็นผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ฉะนั้นอานิสงส์ตรงนี้เกิดจากจิตวิญญาณดั้งเดิมของแต่ละคนที่เคยมีพันธุกรรม ร่วมกันมาในอดีต แต่วันนี้คุณอาจจะไป แต่ถ้ามาตรวจดูนะค่ะ มันก็เป็นสายพันธุ์ เป็นโซ่ เป็นรหัสที่เดินทางมาด้วยกันนั้นเองนะค่ะ แล้ววันนี้มันก็แตกตัวออกไปมากมาย แต่ถึงเวลามันก็เป็นจิตดวงเดิมที่ระเบิดมาจากที่เดียวกัน นั่งตัวตรงค่ะ ให้เสาวิทยุของท่านอยู่ในแนวดิ่งมากที่สุด นะค่ะ เรามีกรรมกันมาเยอะแล้ววันนี้ แบมันออกค่ะ ไม่กำแล้วนะค่ะ แบมือของท่านค่ะ นะค่ะ แบมือของท่านแล้วก็หงายลงที่หัวเข่าลงบนโต๊ะก็ได้นะค่ะ สองข้างเลยนะค่ะ เดี๋ยวตอนนี้เราจะทำ destination กันนะค่ะ เพื่อสร้าง energy เอ่อ แบมือนะค่ะ แบมือค่ะ นั่งตัวตรง เอาละค่ะ ตอนนี้เราจะเอาวิทยาศาสตร์การหายใจ อานาปานสติมาช่วย หายใจออกมากๆเลยนะค่ะ ให้ท้องให้พุงยุบ ให้แห้งที่สุด พยายามดึงออกซิเจนเข้าไปให้มากที่สุด หายใจเข้าช้าๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หายใจออก หายใจเข้า หายใจออก หายใจเข้า ให้มีสติรู้อยู่กับลมหายใจนะค่ะ หายใจออก พยายามให้ผนังหน้าท้องของเรารู้สึก หายใจเขาถึงการเคลื่อนตัวของกองลม หายใจออก หายใจเข้า หายใจออก ต่อไปท่านหายใจเข้าหายใจออกเรื่อยๆ แล้วฟังเสียงอาจารย์ตามไปนะค่ะ ตอนนี้เราหลับตาของเรา ปิดเปลือกตาของเราเบาๆ ให้มีสติรู้อยู่กับลมหายใจเข้าออก กำหนดจิตของเราว่า เรานั้นเกิดมาเป็นมนุษย์เกิดมาเป็นสัตว์ที่แสนประเสริฐกว่าสัตว์เดรัจฉาน ทั้งหลาย เราตั้งจิตว่า ณ ต่อไปนี้เราจะหมั่นสร้างบุญสร้างกุศลเป็นผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ด้วยการให้ทาน รักษาศีล แล้วก็ปฎิบัติภาวนา ซึ่งการกระทำเหล่านี้ จะทำให้เราลด ละ เลิก กิเลสต่างๆที่เป็นเครื่องอุปทานร้อยรัดเราให้วนเวียนในสังสารวัฎ เราคิดถึงคุณพ่อ คิดถึงคุณแม่ คิดถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่บุพการีเรามีต่อเราแม้ว่าท่านจะหาชีวิตไม่แล้ว แต่ความรักนั้นยังคงอยู่ในจิตวิญญาณของเราเสมอ เราคิดถึงคนที่เรารักมากที่สุด อาจจะเป็นลูก อาจจะเป็นสามี อาจจะเป็นภรรยา หรือเป็นเพื่อน เรามองเห็นดวงหน้าของเค้าที่มองตอบเราด้วยความรัก ความเมตตา และความปรารถนาดี ทุกลมหายใจเข้าออกของเรา เรามีสติรู้ว่า เรายังมีชีวิตอยู่ เพราะตราบใดที่เรามีกองลม ยังมีลมหายใจ เราก็ยังมีอุณหภูมิ มีความร้อน สามารถประกอบธาตุธรรม ธาตุทั้ง 4 ขันธุ์ 5 ของเราได้ อันดิน น้ำ ลม ไฟ ที่มาประกอบกันรวมเป็นกายสังขารนั้น เป็นของไม่เที่ยงแท้ และแน่นอน มีจิตวิญญาณเราเท่านั้นเอง วันนึงเมื่อกายสังขารหรือบ้านนี้ของเราชำรุดทรุดโทรม เพราะขาดการดูแล หรือหมดอายุไขแล้ว จิตวิญญาณของเราก็จะต้องเดินทางเพื่อไปยัง ภพภูมิใหม่ ไปหาบ้านใหม่อยู่ บ้านใหม่ของเราจะงดงาม จะสวยงามเพียงใด ก็อยู่ที่แสงส่องนำทาง ความประภัสสรของดวงจิตนั้นแหละที่จะส่องนำทางของเรา เพื่อที่จะไม่ให้หลงภพและหลงภูมิ ณ ต่อไปนี้ เราจะปรับคลื่นจิตของเรา ให้สัมพันธ์กับคลื่นจิตในชั้นเทวดา เทพ พรหม ในระดับชั้นสูง เพื่อจิตของเรามีความเป็นปรมัตถ์ที่ยิ่งใหญ่ จิตนั้นจะได้ไม่หลงทาง จิตนั้นจะได้เกิดความสว่างไสวและประภัสสร จิตนั้นจะมุ่งตรงไปสู่แดนแห่งนิพพาน หรือสุญตาความว่างอย่างแท้จริง เพื่อให้จิตนี้มีดวงกำลัง มีพลังงานมากยิ่งขึ้น การประกอบธาตุธรรมด้วยกายสังขาร ก็คือการดึงเอาออกซิเจนเข้าสู่กายสังขารให้เกิดเป็นพลังงานปรมาณู ในระดับเซลล์และนิวเคลียสมากขึ้น กระแสไฟฟ้าไหลวนเวียนไปทั่วร่างกายของเราก่อให้เกิดเป็นพลังงานต่างๆให้ขับ เคลื่อนไป ใจของเราสงบนิ่ง ไม่ปรุงแต่ง ไม่คิดสิ่งใด มีแต่ความสงบ มีแต่ความสะอาด และมีแต่ความสว่างอย่างแท้จริง ให้จิตของเราขยายขอบเขตออกไปกว้างขึ้นๆๆ รัศมีจิตของเรากว้างขึ้นเท่าไร รัศมีกายก็ขยายขอบเขตออกไปกว้างขึ้นเท่านั้น ให้เกิดความสั่นสะเทือนเกิดพลังงานไฟฟ้าที่หมุนวนเวียนอยู่ข้างๆรอบกายของ เรา ทุกลมหายใจเข้าออกเราต้องกำหนดรู้ เอาละค่ะ ทีนี้ทุกท่านลืมตาขึ้นช้าๆนะค่ะ ลืมตาขึ้นช้าๆค่ะ ลืมตาขึ้นช้าๆนะค่ะ แล้วก็เคาะปลายนิ้วเข้าด้วยกัน หายใจลึกๆเหมือนเดิมนะค่ะ เคาะปลายนิ้วนะค่ะ ปลายนิ้ว สัมผัสปลายนิ้วแผ่วๆให้เป็นจังหวะ ขณะที่ท่านหายใจเข้าหายใจออก ลึกๆยาวๆ เคาะปลายนิ้วนะค่ะ เคาะให้เป็นจังหวะ หายใจลึกๆยาวๆ นะค่ะ เพื่อเหนี่ยวนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย จะช่วยให้กระบวนการสันดาบนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นถูวน ถูมือนะค่ะ วนค่ะ วน เหมือนกังหันวิดน้ำ ถูช้าๆนะค่ะ มีสติอยู่กับลมหายใจ นะค่ะ มีสติอยู่กับลมหายใจ รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของมือ ที่ถูกันไป ถ้าพูดง่ายๆก็เหมือนกับเรากระตุ้นไฟฟ้าในร่างกาย ปลายนิ้วของเรามีประสาทสัมผัสที่มากมายนะค่ะ ช้าๆ เอาละค่ะ ที่นี้หายใจเข้าดึงมือออก ไม่ต้องกว้างนะค่ะ อย่าเกินไหล่ของท่าน หายใจออกกดมือลงไป หายใจเข้า หายใจออก กดนะค่ะ หายใจเข้า หายใจออก หายใจเข้า หายใจออก หายใจเข้า หายใจออก หลายๆท่านจะเริ่มสัมผัสถึงพลังงานบนฝ่ามือได้ หายใจเข้า หายใจออก หายใจเข้าช้าๆนะค่ะ ทำอย่างมีสติ รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของมือ หลายๆท่านจะเริ่มรู้สึกว่าฝ่ามือของท่านหนักขึ้น หนักขึ้น หนักขึ้น แล้วก็หนักขึ้น เอาละค่ะ ทีนี้ลองหยุด แล้วยกมือขึ้นระดับไหล่ อาจารย์จะเคลื่อนพลังงาน หันมาทางด้านอาจารย์ค่ะ ยกอย่างนี้ค่ะ นะค่ะทุกท่าน เดี๋ยวขออนุญาตพระคุณเจ้ายืนหน่อยนะค่ะ อาจารย์จะเริ่มเคลื่อนพลังงานนะค่ะ ห้องนี้คือการส่งคลื่นเป็น vibration ไป จากด้านหน้าไปด้านหลัง ทุกท่านหลับตาอย่าพึ่งดู เพื่อที่จะได้ไม่เกิดการปรุงแต่งว่าอาจารย์ทำอะไร หลับตานะค่ะ กำหนดลมหายใจลึกๆ ยาวๆ สม่ำเสมอ
    (ไม่ใช้ไมค์) อาจารย์จะเริ่มส่งคลื่นนะค่ะ เป็น vibration ไปยังด้านหลัง ช้าๆ ทุกคนหลับตา ทำสมาธิกำหนดลมหายใจ ลึกๆ ยาวๆ สัมผัสอะไรได้ก็ให้เพียงแค่รู้ ให้รู้ว่ามันมี นะค่ะ อย่างไปปรุงแต่ง ตอนนี้เราจะส่งเป็นคลื่นความถี่ ซึ่งเป็น vibration ผ่านมิติของห้องนี้ไปยังด้านหลังนะค่ะ ขออนุญาติ เทพ พรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดเมตตาลูกหลานที่ตั้งมั่นที่จะปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ เพื่อความเป็นมนุษย์ เพื่อความเป็นอริยะชน ให้หลุดพ้นจากความเป็นปถุชน และมีดวงจิตที่ตั้งมั่นที่จะทำประโยชน์ให้กับจิตวิญญาณของท่าน แล้วก็สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ตอนนี้อาจารย์จะส่งคลื่นที่เป็นพลังงานออกไปเรื่อยๆ นะค่ะ (.....อยู่ในช่วงส่งคลื่น.....) สิ่งที่ส่งไปถ้าพูดถึงก็เหมือนกับคลื่นจิต หรือพูดตามหลักวิทยาศาสตร์ก็เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างหนึ่ง นะค่ะ ซึ่งหลายๆท่านเริ่มจะรับได้แล้ว เพราะว่ามีกระแสตอบรับมานะค่ะ ทีนี้อาจารย์จะเคลื่อน ก็คือการส่งคลื่นความถี่บางอย่างให้ไปกระทบกับอากาศหรือบรรยากาศในห้องนี้ ขณะเดียวกันก็มีบางท่านปรับคลื่นความถี่ให้ตรงกับคลื่นความถี่ที่อาจารย์ส่ง ไป แต่บางท่านก็จะรับได้ นะค่ะ จะสัมผัสได้ ก็จะรู้ว่ามันมี เกิดประจุไฟฟ้า หลายๆคน มีการตอบสนองกลับมาแล้วนะค่ะ หลายๆท่าน นอกจากกลุ่มของพวกเราแล้ว จะสังเกตว่าห้องนี้นะค่ะจะก้องขึ้นๆ เหมือนว่าเราอยู่ในจุดที่ว่าเหมือนในถ้ำ เสียงที่อาจารย์ส่งไปเนี้ย ถ้าถามทั่วไปโดยคนปกติที่ไม่ใช้ไมค์เนี้ย นะค่ะ ข้างหลังได้ยินใช้มั๊ยค่ะ เนื่องจากอาจารย์ใช้คลื่นความถี่ของห้องนี้ เป็นตัวส่งไป เสียงก็จะก้องแล้วก็จะมีพลังงาน ซึ่งสะท้อนกลับไปกลับมา เพราะเนื่องจากว่าผนังต่างๆ vortex เนี้ยเรามองไม่เห็นว่ามันกั้นด้วยคลื่นพลังงาน แต่เมื่อเสียงส่งถ่ายออกไป เสียงกลับมา เราจะรับรู้ได้นะค่ะ โดยสัญญาณตรงนี้ เสียงนี้จะก้อง นะค่ะ...

    พุทธัง...สรณัง...คัจฉามิ...ธัมมัง...สรณัง...คัจฉามิ...สังฆัง...สรณัง...คัจฉามิ
    พุทธัง...สรณัง...คัจฉามิ...ธัมมัง...สรณัง...คัจฉามิ...สังฆัง...สรณัง...คัจฉามิ
    พุทธัง...สรณัง...คัจฉามิ...ธัมมัง...สรณัง...คัจฉามิ...

    เอาละค่ะ สาธุๆๆ เอามือลง เป็นยังไงค่ะ ท่านใด
    (ใช้ไมค์) ท่านใดบ้างค่ะที่สามารถรับพลังงานได้ ขอมือนิดนึงสิค่ะ เห็นมั๊ยค่ะ ถ้าหากท่านฝึกแล้วท่านปรับ นี้ก็คือการปรับจูนคลื่นพลังงาน ซึ่งการที่ท่านฝึกจิตก็ดี ท่านปฎิบัติทางกายก็ดี จนกระทั้งความละเอียดของพลังงาน ของท่าน energy ของท่านสามารถปรับเป็นคลื่นพลังงานได้ ดิฉันต้องไปสอนเด็ก ซึ่งเด็กบางครั้งก็เบื่อหน่าย ฉะนั้นเราต้องหาอุบายในการฝึกจิตของเค้าเพื่อให้เกิดสมาธินะค่ะ บางทีก็เนี้ย โป้งๆ ชี้ๆ กลางๆ นางๆ ก้อยๆ แล้วก็จำๆๆ เคยไปทดสอบเด็กเนี้ย 3-4 ขวบ เราเรียกว่าการโปรแกรมจิต นะค่ะ เพื่อให้เค้าเกิดการเรียนรู้ เกิดพฤติกรรม แล้วเกิดการพัฒนาทางสมองและสติปัญญามากขึ้น หรือแม้กระทั่งกลุ่มพวกที่เด็กติดยานะค่ะ ไม่ใช่เด็กหรอกค่ะ คนมีอายุแล้ว 60 กว่าที่ติดแอมเฟตามีน เนี้ย เราก็ไปโปรแกรมใหม่ เพราะคนพวกนี้จะเป็นปัญหาของสังคมนะค่ะ บางคนมาจากบ้านแตกบ้าง มีปัญหาทางสังคม ทางครอบครัวมาก การที่เรามาจัดให้เค้าอยู่ในกระบวนการเรียนรู้ และโปรแกรมเค้าใหม่ ให้เค้าเกิดสำนึกดีนะค่ะ มันก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เค้าพัฒนา บางคนมีจิตวิญญาณเดิมที่ดีอยู่แล้ว แต่นอกจากว่าหลงทาง ไปกับสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมต่างๆนะค่ะ ฉะนั้นจิตดวงเดิมที่เป็นจิตแท้เนี้ยเป็นจิตที่บริสุทธิ์อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเรานำมาชำระล้างแล้วก็โปรแกรมใหม่ ซึ่งการโปรแกรมใหม่เนี้ยซึ่งจะทำให้เราเกิดความเข้าใจ เกิดปัญญานะค่ะ เมื่อเราเกิดปัญญา เราไม่โง่ เราไม่หลงทาง เราก็สามารถยกระดับจิต ภูมิจิตของเราให้สูงขึ้นไล่เรื่อยๆ แล้วการที่ภูมิจิตของเราสูงขึ้นเรื่อยๆเนี้ยละค่ะ มันก็จะทำให้ดวงจิตของเรา เกิดพลังงาน เพราะมันจะมีความประภัสสร วันนี้เสียดายอาจารย์ไม่ได้เอารูปพลังงานจิตในรูปแบบต่างๆเนี้ยมาให้ดู แต่วันหน้าถ้ามีโอกาสนะค่ะ ถ้ามี ถ้าเรามีการต่อยอดต่อไป และมีกลุ่มผู้สนใจมากพอนะค่ะ เราอาจจะเปิดอีกสักครั้งหนึ่ง เพราะในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์เมื่อมาศึกษาพุทธศาสตร์เราไม่อยากให้ทุกคน มองว่าอุ้ยตายละ ด็อกเตอร์ก็เพี้ยน เรียนมาซะสูงซะเปล่า ไม่ใช่ค่ะ จริงๆแล้วพระพุทธองค์นะท่านมีดวงตาอันประเสริฐ ท่านมีปัญญาอันยิ่งใหญ่ที่ล่วงรู้ไปแล้วว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นทำไมพระสุปฏิ ปัณโณทั้งหลายท่านถึงที่จะปลดเปลื้องพันธการด้วยการปลีกวิเวกไปอยู่ตามป่า ตามเขาใช่มั๊ยค่ะ เพราะว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้เนี้ยเป็นตัวนึงที่ว่าไม่ว่าอะไรเราก็นำติดตัวไป ไม่ได้ ไม่ว่าทรัพย์ศฤงคาร ไม่ว่าบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เงินทองในธนาคาร เครื่องเพชรเครื่องทองหยองทั้งหลาย แม้กระทั่งเสื้อผ้า ถ้าเค้าไม่ใส่ให้เรา เรามายังไงก็กลับไปอย่างงั้นนะค่ะ ฉะนั้นตรงนี้เนี้ยเป็นสิ่งหนึ่งที่ท่านถึงพยายามไปฝึกจิตและบอกเล่า แต่เมื่อท่านเป็นพระเป็นสมณะ บางสิ่งบางอย่างท่านไม่ใช่นักวิทยาศาตร์ที่จะมาอธิบายว่า ทำไมเราฝึกแล้วถึงได้เจโต ทำไมเราฝึกแล้วเราได้อภิญญา เราสามารถมีตาทิพย์ หูทิพย์ได้ ตรงนี้ไงค่ะ มันเป็นคลื่นพลังงานที่เมื่อคลื่นของเราละเอียดมากๆเนี้ย เราสามารถจะจูนไปที่เครื่องต่างๆ เมื่อเช้านี้คุณหมอสมพนธ์พูดถึงการทะลุทะลวง ดิฉันบอกได้เลยว่าเป็นไปได้ เพราะอย่างบางคนเนี้ยมายืนต่อหน้าดิฉันๆแสกนปั๊บ ดิฉันบอกได้เลยว่านี้เธอเป็นโรคนี้ๆแล้วบางทีเค้าก็มอง โอ้โห ตายิ่งกว่าเอ็กซเรย์หรอ ไม่ใช่เธอไปตรวจ เอ่อ มีรุ่นพี่อยู่คนนึง นามสกุลดังมากเลย ต่อสุวรรณ นะค่ะ สมัยนั้นเนี้ย คือ เค้าเป็นคนที่ออกกำลังดี ดูแลสุขภาพดี แต่วันนึงเจอกัน ดิฉันบอกว่า คุณต่อ ไปดูแลสุขภาพนะ เนี้ยคุณจะเป็นมะเร็งปอด เค้าบอก อู้ ผมเช็คร่างกายที่สมิติเวชทุก 6 เดือน แต่อีก 8 เดือนต่อมา ดิฉันทราบว่าเค้า admid อยู่ที่สมิติเวช เพราะสาเหตุก็คือเป็นมะเร็งปอด เชื้อพวกนี้มันเร็วมากเลยค่ะ ฉะนั้นบางครั้งเค้าบอก โอ้โห อาจารย์ทำไมถึงแบบ เอ็กซเรย์ได้ ถามว่าจากอะไร ดิฉันมีตาทิพย์หรอ ความจริงแล้วดิฉันจับจากคลื่นความถี่ของร่างกายแต่ละคนนะค่ะ ความละเอียดของคลื่นความถี่ เพราะคนมีสุขภาพดีหรือไม่ดีเนี้ย คลื่นความถี่จะสามารถส่งถ่ายออกมาได้ ฉะนั้นบางคนเราเข้าใกล้แล้วรู้สึกว่าอบอุ่นน่ะ รู้สึกว่าดีเพราะเค้ามีคลื่นความถี่แห่งความเมตตา หรือมีพลังงานแห่งความเมตตา แต่บางคนเข้าใกล้แล้วรู้สึกร้อนมาก เป็นเพราะอะไรค่ะ เพราะเค้ามีพลังงาน มีพลังงานที่ไม่ดี มีพลังงานแห่งความเห็นแก่ตัว พลังงานของความเอาเปรียบ ซึ่งตรงนี้มันสามารถส่งถ่ายออกมาได้ ฉะนั้นเราอยากจะเป็นอย่างไร เราต้องทำอย่างนั้น แล้วศูนย์กลางของการส่งพลังงานก็คืออยู่ที่จิตของเรานะค่ะ จิตของเราจจิต หรือความคิด เราอยากเป็นคนดี เราต้องโปรแกรมตัวเองทุกวัน ดิฉันก่อนนอนจะโปรแกรมตัวเองเลยว่าพรุ่งนี้เราจะตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น เราจะตื่นขึ้นมาอย่างมีพลัง เพื่อทำประโยชน์ให้กับมนุษยชาติ ขอบคุณค่ะ
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    </td></tr></tbody></table>
     
  18. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post906287" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 08-01-2008, 05:39 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #78 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_906287", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2005
    สถานที่: เมื่อคิดถึงผมผมก็คิดถึงคุณ
    อายุ: 23
    ข้อความ: 1,882
    พลังการให้คะแนน: 1993 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_906287" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->(ช่วงสาม)
    ขออนุญาตนิดนึงตรงนี้นะค่ะ จากประสบการณ์ตรงของตัวเองเลยเนี้ยนะค่ะ เพราะได้มีโอกาส คือมีคนพูดถึงเขากะลาเยอะ พูดถึง UFO เยอะ ดิฉันเองเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ ดังนั้นต้องไปพิสูจน์นะค่ะ ก็นำคณะลูกศิษย์ไปประมาณ 7-8 คน นะค่ะก็ขึ้นไปที่เขากะลาวันนึงเพื่ออยากจะสัมผัส วันนั้นเรารู้สึกจะไปดูฝนดาวตกกันด้วย แล้วก็ไปปฎิบัติธรรมกันด้วย แต่ตอนประมาณตอนตี 2 ได้เนี้ย ช่วงที่ว่าคนเริ่มง่วง เริ่มหลับไปบ้าง มีคณะอยู่ 5-6 คน นั่งปฎิบัติกันอยู่ พบว่ามันมีลูกไฟ วิ่งอยู่ไกลมากเลยนะค่ะ วิ่งกันเป็นลูก วิ่งวนกันอยู่ไกลกันมาก ก็เอ๊ะ แปลกมาก เป็นลูกไฟ ถ้าพูดถึงยานขนาดลูกแตงโมนะค่ะ เสร็จแล้วดิฉันก็เลยตั้งจิตว่า ถ้าหากว่า ณ ที่นี้มีพลังงานหรือมี UFO จริงๆจงมาปรากฎให้เห็นหน่อยได้มั๊ย ขณะนั้นนั่งอยู่กับลูกศิษย์แล้วเค้าก็ชงน้ำขิงมาให้ทานกันอยู่ 3 คน ลูกศิษย์อีกคนเนี้ยเดินไป ขณะช่วงที่ตั้งจิตอธิฐานเนี้ยรู้สึกว่าทางหางตาเนี้ยเหมือนมีแสงบางอย่าง แว๊บผ่านไปนะค่ะ แว๊บผ่านไป สัญชาติญาณของเราก็เหมือนเอามือขึ้นมาปิดนะค่ะ แว๊บไป เสร็จแล้วปรากฎว่าลูกศิษย์หน้าไหม้ ตรงนี้ไหม้ แต่ดิฉะนั้นเนี้ย สามนิ้วเนี้ยไหม้ นะค่ะ งง มากเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นนะค่ะ ก็เลยนั่งสมาธิ รหัสที่แปลเค้าบอกว่า ที่เค้าไม่สามารถมาปรากฎกายให้มนุษย์เห็นเนื่องจากมนุษย์เป็นกายสังขารที่ ประกอบด้วยธาตุ 4 ขันธุ์ 5 นี้แหละ ฉะนั้นจึงไม่สามารถต้านคลื่นรังสีของเค้าได้ เพราะเค้าเข้าใกล้รัศมีเนี้ย เราจะเกิดการไหม้เป็นจุนนะค่ะ มันจะเกิดการเบิร์นอย่างรวดเร็วมากเลย ฉะนั้นมนุษย์จะต้องสร้างตัวเองให้สามารถป้องกันคลื่นพลังงานรังสีจากเค้าได้ และเมื่อนั้นละค่ะ เค้าก็จะมาปรากฎตัวให้เห็นได้ อันนี้เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะว่ามันช่วงแว๊บเดียวนะค่ะ ดิฉันเนี้ย นิ้วมือไหม้ทั้ง 3 นิ้วเลย แต่ลูกศิษย์ตรงนี้เลยค่ะ หัวคิ้วเนี้ย ซึ่งก็มาปรากฎแบบเร็วมากเลย เหมือนกับเป็นแสงแว๊บนึง ซึ่งคิดว่าไม่ได้ใกล้เพราะเราไม่ร้อน แต่ทำไมมันเกิดอาการเบิร์นที่นิ้วได้ทันทีเลยนะค่ะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลก ที่นี่เนี้ยคำพูดของเขาเนี้ยมันทำให้ดิฉันเริ่มคิด คิดถึงเรื่องคลื่นสั่นสะเทือนเรื่องพลังงาน เรื่อง energy ต่างๆเนี้ยละค่ะ ก็คิดว่า เออมันมีความเป็นไปได้ ถ้าเราสามารถปรับคลื่นความถี่ของเราเนี้ย ให้รัศมีกายหรือออร่าของเราเนี้ย กว้างขึ้น เราอาจจะลดพลังงานคลื่นรังสีจากเค้าที่มากระทบนะค่ะ อันนี้คือสิ่งแรก สิ่งที่สองเท่าที่สัญญาณจับได้เนี้ย จริงๆเนี้ยมนุษย์ต่างดาวมาด้วยลักษณะคลื่น คลื่นความถี่บางอย่างซึ่งคลื่นเนี้ยเดินทางได้เร็วมากเลยนะค่ะ ดิฉันเชื่อว่าหน้าจะเดินทางได้พอๆกับความไวของแสงเลยนะค่ะ เพราะไม่อย่างนั้นเค้าคงไม่มาปรากฎได้อย่างรวดเร็วได้อย่างงั้น ขณะเดียวกันเค้าบอกว่าจริงๆแล้วเนี้ยมนุษย์บนโลกเนี้ยมาจากต่างดาวเยอะมาก มีหลายสายพันธุ์ที่เป็นมนุษย์ต่างดาว เค้าบอกให้สังเกตที่ดวงตานะค่ะ ตั้งแต่วันนั้นดิฉันก็เริ่มจ้องตาชาวบ้านเค้าไปเรื่อยเลยนะค่ะ เจอใครก็จ้องตาว่าเออนี้เป็นมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่าเผื่อจะมีสายพันธุ์เดียว กันบ้าง เพราะตัวเองก็มีความเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์บนโลกนี้หรอกค่ะ เพราะเดินทางมาจากที่ไกลมาก จากดินแดนอันหนาวเย็นและสงบ เวลานั่งสมาธินี้เราจะรู้สึกเลยนะค่ะ เพราะตัวเองจะมีความรู้สึกว่าตัวเองเย็นเฉียบเลย เอ่อ ที่นี้มนุษย์ต่างดาวที่มาเนี้ยเค้าส่งมานะค่ะเพื่อให้มาจุติ จุติเพื่ออะไรค่ะ เพื่อช่วยประคับประคองโลกเพราะในอดีตกาลอาจจะนับหมื่นๆล้านปีพวกเค้าเหล่า นั้นก็มีสภาพคล้ายๆกับเรา ณ วันนี้ คือเกิดการพัฒนาการด้านเทคโนโลยี ใช้อะไรจนพลังงาน จนกระทั่งวันนึงอยู่ไม่ได้ ก็เกิดการทำลายล้างของตัวเอง แล้วเค้าไม่อยากให้เหมือนย้อนรอยซ้ำ เค้าก็เดินทางมาอันไกลแสนไกล เพื่อจะช่วยเพื่อที่จะส่งสัญญาณเตือนภัยในรูปของคลื่นพลังงานนะค่ะ ส่วนหนึ่งที่มีการพบจานบินในรูปแบบต่างๆเนี้ย ตรงนี้ต้องขอตัดด้วยนะค่ะ จริงๆแล้วเนี้ยเมื่อสมัยหนึ่งมันมีเครื่องบินจรากรรมจากประเทศมหาอำนาจต่างๆ เนี้ยเข้ามาสอดแทรกด้วย ซึ่งบางครั้งเนี้ยเครื่องบินนี้จะมีความเร็วมากเลย ซึ่งบางครั้งนี้เราจับได้ ถ่ายรูปได้ลักษณะแปลกๆแต่จริงๆก็เป็นเครื่องบิน เอ่อสัญญาณจรากรรมด้วยแต่เมื่อสักประมาณปีที่แล้วดิฉันไปที่แก่งกระจาน แล้วก็พบ คือช่วงนั้นเราจะไปทำพิธีบางอย่าง เพื่อที่จะตรึงพลังงานนะค่ะ แล้วก็พบว่าขณะที่เรากำลังเตรียมที่จะเอ่อ ทำมิติ คือดิฉันเนี้ยเวลาจะทำอะไรให้ลูกศิษย์ดู ก็อยากให้เห็นเลย ก็คืออย่างเช่นว่า เราทำพระจันทร์ให้เบี้ยว ให้เป็นแคนตาลูป ให้เป็นพระจันทร์สองดวง ให้เป็นเมล็ดถั่ว หรือทำเป็นรูปต่างๆ คือเล่นให้ดูเดี๋ยวนั้นเลย เพื่อให้เค้าได้เห็นด้วยตาเนื้อนะค่ะ ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องมโนมยิทธิ หรือเป็นอะไรเนี้ย ทุกคนก็จะไปดูกันเป็นเรื่องปกติ ขณะที่เรากำลังเล่นกันอยู่นั้นเรารู้สึกว่ามันมีใครจ้องมองเรา จ้องมองเรา ดิฉันก็เอาจิตตั้งปั๊บก็รู้เลยว่ามีคนแอบมอง ก็มองดูบนท้องฟ้า คือจะบอกให้ลูกศิษย์เข้ามาถ่ายวิดีโอแต่ไอเจ้านี้มันรับไม่ได้เลย จูนไม่ติดก็เลยบอกว่า เร็ว นี้มีจานบินอยู่ตรงนั้น ปรากฎว่าพอดิฉันบอกครั้งที่สองปั้บเนี้ย แสงสีแดงที่เราเห็นบนทองฟ้าเริ่มถอยหลัง คือ ปกติเนี้ยเครื่องบินจะต้องบินไปหน้าแหละค่ะแต่เริ่มถอยหลังนะค่ะ ถอยหลังๆๆ แต่ที่แปลกก็คือ ไม่ว่าคลื่นหลอดไฟต่างๆเนี้ย เป็นเคลื่นพลังงานความถี่หมดเลย มันจะเกิดคลื่นความถี่ที่เรารับรู้ได้ ฉะนั้นดิฉันเชื่อว่าจริงๆพลังงานต่างเนี้ยมาเป็นรูปของคลื่นความถี่ซะเป็น ส่วนมาก เหมือนกับเช่นคลื่นความถี่ที่ดิฉันส่งไป หลายๆท่านนี้รับได้นะค่ะ ก็คืออาจจะเป็นอีกในมิติหนึ่ง หรือในสัมผัสหนึ่ง ซึ่งการที่เราไม่ปรุงแต่งเลยเนี้ยก็จะทำให้เรา บางทีก็จะไม่เห็นเป็นรูปร่าง แต่บางทีเราก็ imagine ปรุงแต่งไปมากมาย แต่อันนี้จากประสบการณ์ตรง เชื่อค่ะว่ามนุษย์ต่างดาวนะมีจริงๆนะค่ะ แต่จะมาในรูปแบบไหนเท่าที่ประสบการณ์ตัวเองตรงนี้ เพราะว่าเหตุการณ์มันก็ได้ผ่านมาประมาณ 6-7 ปีแล้วนะค่ะที่เราไปสัมผัสมาก็ยอมรับและตั้งใจว่าจะขึ้นไปเขากะลาอีกครั้ง หนึ่งเพื่ออยากจะดูอะไรบางอย่าง แล้วก็อยากจะปรับคลื่นอะไรบางอย่างด้วย ฉะนั้นถ้าใครสนใจติดตามได้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    </td></tr></tbody></table>
     
  19. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post906289" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 08-01-2008, 05:40 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #79 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_906289", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2005
    สถานที่: เมื่อคิดถึงผมผมก็คิดถึงคุณ
    อายุ: 23
    ข้อความ: 1,882
    พลังการให้คะแนน: 1993 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_906289" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->(ช่วงสี่)
    ค่ะ ถ้าถามถึงเรื่องนิวเคลียร์ในวันนี้ในฐานะที่เป็นผู้ที่ศึกษาและก็ดูงาน เพื่อใช้พลังงานทดแทนพลังงานนิวเคลียร์เนี้ยนะค่ะ ขอตอบได้เลยว่า จริงๆแล้วเนี้ยทั้งอิรักเอง ทั้งอเมริกาเองเนี้ย แล้วก็โซเวียตเองก็มีนิวเคลียร์ แล้วก็อยากทดลองใช้ด้วย การอยากทดลองของเค้า เพื่ออยากจะดูสมรรถนะ การที่เค้าทำสงครามกันบ่อยๆเนี้ย ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เพราะอยากทดสอบสมรรถนะอาวุธของเค้า ว่ามันใช้ได้ ขนาดไหน แต่ไม่รู้ว่าจะทดสอบตรงไหนอ่ะ จะเอาเวทีตรงไหน ฉะนั้นจะต้องหาเรื่อง หาชนวนสงครามให้เกิดขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ประลอง และทดสอบขีปนาวุธ แต่การที่จะใช้นิวเคลียร์มันไม่ใช่เรื่องง่าย มหันภาพของนิวเคลียร์อย่างที่บอก โดยเฉพาะบรรยากาศที่แปรปรวนมันจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาเป็นแนวกว้าง นะค่ะ แต่ดิฉันบอกได้เลยว่าภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแน่นอน ขอกล้ายืนยันเลยนะค่ะ โดยเฉพาะเตือนภัยกันมาบ่อยแล้วก็ลูกศิษย์ลูกหาเนี้ย เตรียมตัวกันมาตั้งรับกันมาตลอดเลย โดยเฉพาะหลังวันที่ 22 ธันวา นะค่ะ ปี 50 เนี้ย เป็นช่วงรอยต่อการเปลี่ยนแปลงนะค่ะ อย่างตามหลักถ้าของคนจีนเค้าบอกว่าเป็นยุคตะวันออกเฟื้องฟูหรือยุคตะวันตก เฟื้องฟู ศาสตร์นี้เค้ามีอยู่ของจีนเค้า เพราะ ณ วันนี้เนี้ยเค้าเริ่มปรับฮวงจุ้ยเค้า แต่ถ้ามาคิดตามหลักวิทยาศาสตร์นะค่ะ หลักดาราศาสาตร์ หลักกลศาสตร์ ก็คือ การขยับตัวของแกนโลกนั้นเอง ซึ่งมันก็เลยมีผล เค้าบอกว่าเมื่อ 500 ปีก่อนนู้นเนี้ยนะค่ะ ตะวันออกหรือจีนเนี้ยจะเฟื้องฟู และเมื่อ 500 ปีที่ผ่านมาก็เป็นยุคตะวันตกเฟื้องฟู จะเป็นยุโรปก็ดี จะเป็นอังกฤษ แล้วก็อเมริกา ณ วันนี้เนี้ยนับย้อนกลับไปก็คือ นับจากปี 51 เนี้ยนะค่ะ จะเริ่มการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงนี้จะชัดมากเลยก็คือสิ้นปี 2552 แล้วก็เข้า 2553 ดิฉันเคยพูดกับผู้หลักผู้ใหญ่นะค่ะในรัฐบาล ในหน่วยงานต่างๆบอกว่า ถ้าเราไม่ปรับนโยบาย ไม่ปรับเปลี่ยนแล้วก็การพัฒนา ไม่ว่าเยาวชนของเราหรืออะไรต่างๆ เราจะหล้าหลังเวียดนามนะค่ะ วันนี้เราก็เริ่มนับหนึ่งถอยหลังแล้วนะค่ะ เพราะเค้าพยายามพัฒนาไปข้างหน้า แต่เราไม่รู้ทำอะไรกัน ดิฉันว่าจะเขียนหนังสือออกมาเล่มหนึ่งนะค่ะว่า หยุดกัดกัน จริงๆนะค่ะ หยุดกัดกัน หยุดกอบโกย นะค่ะ ตั้งใจว่าจะเขียนเนี้ยละค่ะ แล้วก็หยุดก่อกวน เพราะตอนนี้เราจะมีสามก๊ก เหมือนเมืองจีนเลย ก็คือ พวกนึงก็จะก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย ไอพวกนึงก็กัดกันไม่เลิกเลย แล้วไอพวกนีงก็เอาแต่กอบโกย แล้วแผ่นดินบ้านเราจะเป็นอย่างไรต่อไป ฉะนั้นภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแน่ แต่ถ้าพวกเรารวมกันเป็นหนึ่งได้ ดิฉันเชื่อว่า คลื่นจิตคลื่นพลังงานที่ดีและบริสุทธิ์ที่ต้องการพิทักษ์ดินแดน ดิฉันเคยพูดกับผู้หลักผู้ใหญ่ไว้นะค่ะว่าเมื่อภาคใต้ตอนที่ลงไปเป็นที่ ปรึกษาก็บอกว่า ถ้าวันนี้เนี้ยเราไม่สามารถปฎิบัติการเชิงรุงได้ เก็บเสื้อ เก็บผ้า เก็บหมอน เก็บผ้าห่มกลับมาให้หมด เพราะดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เนี้ยจะไม่มีชุมชนไทย-พุทธ เหลืออยู่เลยถ้าเราไม่ปรองดอง ถ้าไม่สามัคคี ไม่สมานฉันท์ แล้วก็รอให้ปู่ ย่า ตา ยาย มาว่า นี้คือลูกหลานจัญไร ที่ไม่สามารถรักษา ผืนแผ่นดินที่ปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษสละเลือดสละเนื้อนะค่ะรวบรวมเป็นราชอาณาจักรให้พวกเราอยู่มาได้จน ถึงทุกวันนี้ ใครไปต่างประเทศจะรู้ว่า ไม่มีที่ไหนจะมีความสุขสบายเท่ากับประเทศไทยจะกินเวลาไหนได้ 24 ช.ม.ค่ะ อยู่เมืองนอกนะค่ะ ต่อให้คุณมีเงินเค้าบอก close คุณก็จะไปทะลวงร้านเค้าไม่ได้นะค่ะ ฉะนั้นนะที่เนี้ย แล้วเรามีผลหมากรากไม้ มีความอุดมสมบูรณ์ แล้วเราไม่คิดที่จะปกปักรักษาดินแดนผืนนี้ไว้ให้ลูกหลานต่อไปหรอค่ะ อันนี้ฝากไว้ด้วยนะค่ะ ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแน่ แต่ดิฉันเชื่อว่าด้วยพลังจิตของพวกเราทุกคน และสิ่งที่ดิฉันทำมาตลอดเวลาตลอด 18 ปีนี้แหละ ที่จะขับเคลื่อนให้ภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นน้อยลง แล้ววันนึงดิฉันจะมาพูดเรื่องนี้ว่าเราทำกันได้อย่างไรค่ะ ขอบคุณค่ะ

    </td></tr></tbody></table>
     
  20. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post906292" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 08-01-2008, 05:40 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #80 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_906292", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2005
    สถานที่: เมื่อคิดถึงผมผมก็คิดถึงคุณ
    อายุ: 23
    ข้อความ: 1,882
    พลังการให้คะแนน: 1993 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_906292" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->(ช่วงห้า)
    เมื่อกี้นะค่ะเวลา 15 นาฬิกา 21 นาที ที่ผ่านมา มีการเคลื่อนตัวของแผ่นดิน คือตัวดิฉันเนี้ย ไม่ว่านั่งที่ไหน นอนที่ไหนเนี้ยก็จะรับสัญญาณตรงนี้อยู่ตลอดเวลา แต่บางครั้งการสั่นสะเทือนเนี้ย พูดง่ายๆว่าจุดศูนย์กลางไม่ได้อยู่ตรงใกล้เรา แต่เราก็จะสามารถรับรู้ได้ เพราะบางครั้งมันก็แค่ 3.2 3.8 ริกเตอร์ ซึ่งตัววัดก็จะวัดไม่ได้ และก็ความลึกนะค่ะ ทีนี้ถ้าถามว่าวันที่ 23 เนี้ยจะมีเหตุการณ์ที่เกิดคลื่นสึนามิมั๊ยหรือว่าเกิดแผ่นดินไหวมั๊ย บอกได้เลยค่ะว่าตอนนี้ลูกศิษย์ที่อินโดนีเซียที่เค้าไปอยู่ เค้าบอกว่าอาจารย์รู้มั๊ยตอนนี้ที่อินโดนีเซียเนี้ย เค้าถามมา เค้าก็ไปเปิดเว็บไซต์แล้วก็ไปเปิดของ google เค้าก็ไปบอกกับเพื่อนที่ทำงานที่ทำงานอยู่ด้วยกัน เค้าก็บอกเนี้ย ดร.กัญจีรา เคยอยู่กับเค้าแล้วอาจารย์ก็เคยพูดถึงเรื่องภัยพิบัติพูดถึงเรื่องการ เปลี่ยนแปลงโลก และก็เรื่องพลังงานต่างๆเนี้ย คนที่นั้นเค้าก็สนใจ เค้าก็บอกว่าเชิญ ดร. ไปได้มั๊ยนะค่ะ เค้าบอกว่าอยากจะถามดร. มากเลยว่าอินโดนีเซียมันจะจมหายไปใต้น้ำมั๊ยนะค่ะ นี้คือสิ่งที่ดิฉัน เอ่อ กลุ่มชาวชวากลัวกันมาก เพราะตอนนี้เนี้ย อินโดนีเซียเกิดการสั่นสะเทือนเฉลี่ยแล้ววันนึงสามครั้งนะค่ะ ตลอดเวลาเลยเพียงแต่น้อยหรือมาก บางครั้งแค่ 3 กว่า 4 กว่านะค่ะ ก็วัดระดับไม่ได้ นอกจาก 5 กว่าขึ้นมานะค่ะ มีตั้งแต่นอกชายฝั่งนะค่ะ แล้วก็เข้าสู่ศูนย์กลาง ตอนนี้นะค่ะดิฉันยังไม่กล้าตอบคำถามตรงนี้เพราะเนื่องจากว่า ไม่มีสัญญาณ แล้วก็ช่วงหลังนี้ดิฉันยังไม่อยากตรวจสอบอะไร แต่ว่าจะถามจากตรงนี้เลย ขออนุญาตสักนิดนึงนะค่ะ ประมาณวันที่ 23 นะค่ะ ประมาณตี 2 ถึง ตี 4 นะค่ะ จะมีการสั่นไหวของแผ่นดินทางด้านตอนใต้ของสุมาตรานะค่ะ แต่ไม่รุนแรงนะค่ะ แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นรุนแรงเนี้ยจะเกิดช่วงปลายเดือนมกราต่อกุมภา นะค่ะ ซึ่งจะเกิดที่จุดเดิมนะบริเวณ น่าจะเป็นจุดที่อาเจะห์ ก็คือ อินโดนีเซียทางด้านตอนเหนือ นะค่ะ แต่แผ่นดินไหวครั้งต่อไปที่จะรุนแรงมากในอินโดนี้เซียเนี้ยมันเกิดจากการ เคลื่อนตัวของลาวานะค่ะ ในภูเขาไฟใต้น้ำ ในหมู่เกาะชวา ซึ่งตรงนี้จะส่งผลให้ เกาะหลายๆเกาะ จมหายลงไปใต้น้ำ เพราะน้ำทะเลจะเดือด เหมือนกับหม้อเดือด อันนี้สิ่งที่เห็น เอ่อ เค้าบอกว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เนี้ยนะค่ะจะเกิดการระเบิดของเครื่อง บินนานาชาตินะค่ะ ที่เห็นจากตอนนี้ๆ จากคลื่นความถี่ แต่เวลานี้ดิฉันจับไม่ได้เพราะเนื่องจากว่า เอ่อ ความละเอียดของคลื่นความถี่ตรงนี้ไม่ละเอียดพอ เนื่องจากตอนนี้คลื่นความถี่ของแต่ละคนเนี้ย มันมีความอยากรู้อยากเห็น คลื่นออกมาพรึ่บๆๆ มันเลยกลายเป็นตัวสัญญาณกวนคลื่นมากเลยนะค่ะ เพราะตอนนี้แต่ละคนคิดไปต่างๆนาๆ คลื่นที่ออกมาตอนนี้ถ้าเอาเครื่องมาสแกนนะค่ะ จะเห็นเลย โอ้โห ตีกันยุ่งเหยิงมาก บางคนก็ว่าเป็นไปได้นะ บางคนก็ว่าเออ อะไรยังเงี้ย ซึ่งแต่ละคนตอนนี้มีความคิด ทีจริงถ้าคำถามเกิดก่อนตอนที่เรานั่งสมาธิตอนนั้นทุกคนเงียบสงบมากเลยนะค่ะ คือการรับสัญญาณเนี้ยมันก็เหมือนกับว่าคือ เราไม่โกหกกันนะ เหมือนกับเรารับสัญญาณคลื่นวิทยุละค่ะ ถ้าเราปรับคลื่นแล้วมันมีคลื่นแทรกมา มันไม่ตรง channel มามันก็จะกั๊กๆๆ คือเหมือน เคยฟังสถานีวิทยุประเทศไทยมั๊ยค่ะ 50 ปีมาแล้วมันก็ยังไม่ชัดเหมือนเดิมนะ ก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร ซึ่งตรงนี้ก็เลยไม่กล้าฟันธงนะค่ะ แต่บอกได้เลยว่าเกิดแต่ไม่รุนแรงเพราะตอนนี้อินโดเนี้ยมันไหวเกือบทุกวัน วันนึง 3 เวลาหลังอาหารเลย ขอบคุณค่ะ

    </td></tr></tbody></table>
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...