ข้อความจากต่างมิติ - คำแนะนำสำหรับช่วงเวลาที่มีการเกิดพายุสุริยะหนักๆแบบนี้

อ่านแล้วคิดนะคะ โดยเฉพาะคนที่ชอบเม้นท์กระทู้ของคนอื่น

คนเราถ้าใจไม่กว้างพอแล้วมาเม้นท์เชิงเหน็บแนมในกระทู้แบบนี้ก็สมควรโดนลงหวายบ้างแบบที่ Lady of Light ว่า

โลกไซเบอร์ไม่มีอะไรนอกจากตัวหนังสือที่จะบ่งบอกส่วนหนึ่งของระดับจิตใจเราให้คนเขาชื่นชมหรือดูถูกหรอกค่ะ

ก่อนจะพิมพ์เม้นท์ออกมาก็กลั่นกรองสักนิดนะคะว่า สิ่งที่นั้นมันมีประโยชน์ต่อคนอื่นไหม มันมีสาระไหม มันสร้างสรรค์ไหม เพราะคนที่เขามาอ่านส่วนมากสนใจศึกษาเรื่องพวกนี้นะคะ ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะมาพูดล้อเล่นหรือเป็นเรื่องงมงาย เขาเลิกสงสัยกันไปนานแล้วค่ะ

อ่านดูก็รู้แล้วว่าคิดยังไงแบบที่พี่ชยุตว่า คนที่มาเม้นท์ไม่ดี พอโดนพี่ๆเขาจี้จุดก็โวยวายหาว่าโดนสวดทั้งๆที่เป็นน้องใหม่ หาว่าพี่เขางอนบ้าง นิสัยไม่ดีบ้าง โห ยิ่งพูดออกมายิ่งแสดงถึงความด้อยของตัวเองนะคะ ด้อยอะไรคงไม่ต้องอธิบายนะคะ แนะนำให้หยุดพูดแล้วไปหาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมตั้งแต่แรกจะดีกว่าค่ะ เพราะดูจากการพูดแล้วเหมือนว่าจะขาดความเข้าใจพื้นฐานอยู่เยอะเลย

ใครผ่านมาอ่านก็เก็บไว้เป็นข้อคิดนะคะ โดยเฉพาะคนที่เห็นต่างแล้วชอบออกความเห็นเชิงลบ แทนที่จะเอาเหตผลมาพูดกันดีๆให้เกิดแง่คิดหรือมุมมองใหม่ๆ หรือผ่านไปเสีย

คนเราไม่มีใครเพอร์เฟ็ค แต่ก็ควรให้เครดิตคนที่เขาพยายามแบ่งปันความรู้ แม้ความรู้นั้นจะไม่สอดคล้องกับสิ่งที่คุณเคยรู้มาก็ตาม แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณรู้มาทั้งชีวิตมันถูกต้องที่สุดแล้ว องค์ความรู้ที่เราเรียนมามันยังไม่ถึงเศษธุลีขององค์ความรู้ที่มีอยู่ในจักรวาลทั้งหมดเลย

และคนที่ไม่รู้ก็ชอบจะถามผู้รู้ ให้พิสูจน์เอาหลักฐานมายืนยันๆๆ ถามหน่อยเถิดว่าคุณรักพ่อแม่คุณไหม ถ้ารักเราก็ขอหลักฐานยืนยันหน่อยได้ไหม เกจิอาจารย์ที่ท่านถอดจิตไปนรกสวรรค์ถามว่าเขามีหลักฐานอะไรติดไม้ติดมือมาให้ดูได้ไหม บางทีการถามหาหลักฐานในบางเรื่องของคนถามก็บ่งบอกถึงระดับสติปัญญาและเจตนารมณ์ได้ ยกตัวอย่างแบบนี้พอจะเข้าใจขึ้นไหม

ขอฝากไว้ว่า การติติงหรือโต้แย้ง ควรจะเป็นไปในเชิงบวก ไม่ใช่ติหรือแย้งเพื่อให้คนเขาเจ็บใจเล่น เพราะมันจะทำลายพลังสร้างสรรค์ของคนอื่นคะ หัดทำใจกว้างๆแล้วมองโลกในแง่ดีกันเถิดพวกนักคอมเม้นท์ทั้งหลาย ถ้าคุณไม่ได้ให้ความรู้อะไรกับใครเขาเลย ก็ขอให้เม้นท์อย่างสร้างสรรค์กันนะคะ

ปล. ส่วนตัวไม่ชอบเม้นท์นะคะ นานๆจะเม้นท์ทีเลยยาวหน่อยแล้วกัน เราชอบและศึกษาทางนี้มานานแล้วตั้งแต่เด็ก พอมาอ่านงานแปลพี่ชยุตและคนอื่นๆก็เลยได้ความรู้ละเอียดๆเพิ่มเติมและประหยัดเวลาด้วยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นักแปลทุกท่านนะคะ

 

thaxxthaxxthaxx

 

.......แอบพิมพ์ผิดเพียบเลย คอมนี้ไม่มีแป้นอักษรไทย


.....เรียง ร้อย ได้ สะสวย ดี ครับ !!!

 

พูดจาแบบนี้ อยากรู้จังว่าหัวใจทำด้วยอะไร? 555..ครอบคลุมทุกพื้นที่ครับ โมทนาๆ..

 

ว่าแต่ มีกระทู้ บอกวิธีรับพลังจากลมสุริยะด้วยหรอครับ ผมหาไม่เจอครับ เดี๋ยวลองอีกที

 

แอบอา่นมานานมาให้กําลังใจผู้แปลทุกคนค่ะ

 

เดี๋ยวอีกสองข้อความที่ว่านั้น จะโพสต์ต่อในกระทู้นี้แหละครับ
อดใจรอก่อนนะครับ เพราะว่าทางทีมงานของเรากำลังแปลอยู่ครับ

และขอขอบคุณทุกๆท่านที่ให้กำลังใจด้วยนะครับ


...................................................................

 

เพิ่งจะเข้ามาอ่านกระทู้นี้ ก็เลยเพิ่งรู้ว่ามีการพาดพิงเฉียวฟง

ที่จริงไม่ได้สนใจกระทู้นี้เลย เพราะรู้สึกว่้าไม่มีอะไรใหม่อาศัยแค่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ปัจบันก็เพียงพอแล้วสำหรับการรับมือพายุสุริยะ ร้อนก็ดื่มน้ำ อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ ก็เท่านั้น ไม่ต้องน้ำมนต์ น้ำศักสิทอะไรหรอก น้ำสะอาดๆดื่มบ้าง อาบบ้างก็เหลือจะพอ ความรู้แค่นี้คนทั่วโลกที่เขาไม่ได้รับรู้เรื่องข้อความจากต่างภพภูมิ เขาก็รอด ไม่ตายแล้ว
แต่ก็นะก็สนุกดี

อีกอย่างหนึ่งพายุสุริยะจะเกิดหนักหรือไม่ไม่ใช่ปัญหาเพราะโลกมีสนามแม่เหล็กโลกเป็นเกราะป้องกันอยู่แล้ว
ปัญหาจึงอยู่ที่สนามแม่เหล็กโลกอ่อน เปรียนขั่วอะไรก็ว่าไปนั้น
ถ้าเป็นเฉียวฟง จะสนใจกระทู้แนวๆว่า....

ข้อความจากต่างภพภูมิ - คำแนะนำสำหรับช่วงเวลาที่สนามแม่เหล็กโลกอ่อนแรง

ไม่ได้ว่าอะไรใครนะค่ะ อย่านอยนะจ๊ะ

 

[[***22/12/2012***]] =
มนุษย์ตายหมด ??? หรือ
มนุษย์เปลี่ยนเป็นมิติ5 ??? หรือ
มนุษย์ยังเหมือนเดิม ???

ยิ่งอ่านยิ่งแปล...ความรู้แสงสว่างมาก น่าจะมีความรัก และ เปิดใจกว้างกันนะเราว่า
แต่นี้...
แตะต้องไม่ได้เชียวหรือ...
โต้แย้งไม่ได้เชียวหรือ...
ความคิดต่างไม่ได้เชียวหรือ...
(พวกแสงสว่างขี้น้อยใจจริงๆ...)

เผื่อทีพระเจ้าและจักรวาลส่งพวกเรา ที่มีความคิดแตกต่าง
มาสะกิดใจและสอน พวกเดินทางสู่มิติ 5 ก็ได้ว่า...
ให้มีความรัก ความอททน ต่อทุกคนเท่าเทียมกันก็ได้นะ ไม่ใช่มีความรักแก่คนเห็นด้วย หรือ
กับคน ชอบเขียน ขอบคุณ อนุโมทนา สาธุ เท่านั้น
(ครุที่ดีที่สุด สอนให้ได้เลื่อนขั้นจิตใจ คือ คนคิดต่างจากเราก็เป็นได้นะ)
ไม่ใช่กำจัดพวกมืดไปให้หมด ไม่โหดร้าย หรือ ใจแคบไปหน่อยหรือ
(เราว่าพระเจ้านะไม่ได้ว่าใคร...)

เราว่าข้อเขียนและพลังงานสุดยอดไปเลย...ยอดเยี่ยม
แต่ คนแปล... พลังงานยังไม่ถึงและเทียบเท่ากับข้อความที่แปลมา
นั้นแหละคือปํญหาใหญ่ และ ชัดเจน ของนักแปลทั้งหลาย !!!

พูดง่ายๆคือคนแปลยังปฏิบัติไม่ถึง และไม่มีประสบการโดยตรง
ส่วนใหญ่มาจากการอ่านหลายแหล่งข้อมูลและต่างๆกัน
มาหลายปี และข้อมูลตรงกัน เลยสร้างความเชื่อ
(ลึกๆแล้วเราก็เชื่อและเข้าใจ พวกควอนตั้มฟิสิกส์อยู่นะ)

นักแปลที่ดีควรวางตัวเป็นกลางนะเราว่า ไม่ใช่ข้อเขียนของนักแปลโดยตรง
บางที มีคนมาวิจาร
นักแปลลืมตัวคิดว่าเป็นข้อความของตัวเองเลยเกิด จี้ดๆๆๆๆขึ้นมาในหัวใจ
เลยโต้แย้งจัดหนัก ด้วยวิชาการและข้อเขียนที่สะสมกันมาอันยาวนาน

แต่เราก็ขอขอบใจที่แปลมาให้อ่านกัน
เรายอมรับที่แปลได้เก่ง อ่านสนุก และมีน้ำใจมาแบ่งปัน

เราว่าข้อเขียนที่แปลมา น่าเชื่อถือ พอสมควร
เพียงแต่ว่าคนแปล และ ผู้ประชาสัมพัน แบ่งปันเรื่องนี้
พลังงานยังไม่เข้าถึงเนื้อหาหลักที่เขียนแปลมา

พวกแสงสว่างควรทำตัว ให้เหมือนชื่อ แสงสว่าง
พวกแสงสว่างต้องมีความสงบและรักๆๆๆไม่ใช่หรือ ใจอย่าเดือดร้อนมากนะ
อย่าลืมล่ะ พวกคูณคือแสง และ สว่าง
ควบคุมอารมแสงสว่างให้ดีๆๆหน่อยสิ

อย่างอน และชอบตีความหมายผิด อีกล่ะ เราก็ว่าไปตามเนื้อผ้านะ...

 

ข้อความที่จะโพสต์ต่อ จะเป็นตอน Partaking from the Solar Winds

ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีปฏิบัติในการรับมือกับพายุสุริยะ
โดยการใช้ วิธีการจดจ่อ หรือการตั้งจิต คล้ายๆการทำสมาธิ แต่ไม่เน้นหนักมาก
และทำได้ตลอดเวลา ทุกสถานที่และสถานการณ์
วิธีการนั้นไม่ยากแต่ต้องอาศัยความตั้งใจจริง
เหมือนกับเวลาที่เราทำอะไรแล้วใส่ใจกับมัน
มีสมาธิกับสิ่งนั้น มันก็จะส่งผลสำเร็จให้

หากไม่มีอะไรติดขัด(งานไม่เข้า)
คงโพสต์ให้อ่านได้ในวันนี้ค่ะ ต้องขออภัยที่ทิ้งช่วงนาน

ส่วนอีกตอนหนึ่งเกี่ยวข้องกับการทำน้ำดื่ม ก็อาศัยการตั้งจิตจดจ่อเช่นกัน
อย่างที่เราก็เคยทราบกันมาแล้วว่า น้ำนั้นก็มีจิตสำนึก และสามารรับและถ่ายทอดพลังงานได้

ส่วนในเรื่องพลังงานของดวงอาทิตย์เองก็มีประโยชน์มหาศาล
หาอ่าน การทำน้ำพลังแสงอาทิตย์ ได้จากกระทู้นี้ได้ด้วยค่ะ
http://palungjit.org/threads/sungazing-เพื่อความสมดุลแห่ง-กาย-ใจ-และจิตวิญญาณ.293844/



เพราะฉะนั้น พายุสุริยะจึงไม่น่ากลัวอย่างที่คิด หากเรารู้จักวิธีการที่จะรับมือ
สำหรับผู้ที่สนใจ ก็รออ่านกันได้เลยนะคะ
อ้อ...คนโพสต์ ลองแล้ว จัดว่าเป็นอีกวิธีที่เลือกมาใช้แล้วให้ผลดีทีเดียวค่ะ

การประมวลความรู้ทั้งหลาย และเลือกความรู้มาใช้ให้เหมาะสม
ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และอาจยังช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาทุกท่าน ที่ยังประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นนะคะ....สาธุ

 

ตอนนี้เพื่อนเราทำงานช่อง 3 กับคุณสรยุทธ เริ่มมาอ่านกันแล้ว แต่ยังไม่เชือถือ 100 เปอร์เซ็นต์
เพราะคนแปล ยังไม่สามารถ ตอบคำถามชัดเจน
และไม่กล้ารับคำเชิญ มัวแต่ตีความหมายไปทางลบ
และไม่มีพลังงานสูงเท่ากับข้อเขียน

ตอนนี้ได้เริ่มตามหาต้นฉบับตัวจริงเป็นอังกิด หากมีข้อมูลแน่น...อาจทำเป็นข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง3
เพราะไม่มีนักวิชาการ หรือ ผู้รู้จริงมาเปิดเผยต่อสาธารณะชนเลย
มีแต่ข่าววงใน บินว่อน ในเน็ต เท่านั้น
และเฉพาะพวกโชคดีมีบุญ นักแสงสว่างเท่านั้น ที่ได้รู้เรื่องนี้

ใครมีความรู้ และเชื่อว่า...โลก และ มนุษย์ จะเปลี่ยนเป็นมิติ 5 จริง
ช่วยติดต่อกลับมาด้วยนะครับ...???
เมื่อผ่านสัมภาษ เทสต์หน้ากล้อง และหากข้อมูลน่าเชื่อถือและมีประโยชน์แก่คนหมู่มาก
ก็สามารถทำเป็น ข่าวเด่นเย็นนี้ หรือ
รายกาย ตามล่าหาความจริง ช่องอื่นก็เป็นได้

พวก แสงสว่าง ทั้งหลาย อย่าเก่งแต่โต้ตอบ และเก็บตัวหลังหน้าคอม อยู่เลย
ออกมาเผยแพร่กันทางทีวีดีกว่า
หากรักมนุษย์จริงๆ อย่าหลบอยู่อีกเลย

มีผู้คนมากมายเปิดใจอยากรู้อยากฟังกัน
ตอนนี้ โลกมันปั่นป่วนเหลือเกิน

อ่านแล้ว อย่าตีความหมายผิดไปอีกล่ะ

 

เห็นด้วยกับคุณ MR_Buddhoอยู่ ๒ เรื่อง คือ เรื่องนี้ควรออกสื่อให้ประชาชนได้รับรู้ และ อีกเรื่องคือ ที่คุณMR_Buddho บอกว่าคนแปล ยังไม่สามารถ ตอบคำถามได้ชัดเจนเหมือนต้นฉบับ...

ดังนั้น หากคุณต้องการทำให้ประชาชนได้เรียนรู้ศึกษาเรื่องนี้โดยถูกต้องชัดเจน ก็ควรเชิญต้นฉบับมานำเสนอเลย เพราะหากเชิญผู้แปลไปตอบ เดี๋ยว คุณ MR_Buddho ก็ จะอกหักอีก และก็บ่นอีกว่า ข้าพเจ้าว่าแล้ว ว่าเขาไม่สามารถตอบได้ชัดเจนได้ ...นี่ก็จะทำให้เสียเวลา prime time ของทั้งคนออกสื่อและคนดูไปเปล่า ๆ...

ความปรารถนาดีต่อสื่อและผู้ชมของคุณMR_Buddhoจะสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดีหาก ได้มีโอกาสเชิญ ต้นฉบับ มาออกรายการเลย มันอาจจะตอบโจทย์ที่คุณสงสัยได้หมดเลยนะ ..และจะเป็นรายการยอดเยี่ยมแห่งปีเลยทีเดียว...สำหรับเรา...รายการนี้พลาดไม่ได้อย่างแน่นอน... และเราจะนับวันรอคอยความปรารถนาดีของคุณในเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว...(ขอให้ลองพิจารณาดูนะ เพื่อมวลชน U are a hero...)

ขอขอบคุณล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ด้วย (f)

 

ที่สำคัญลืมนำเสนอไป คือ ผู้ที่บอกได้ว่า คนอื่นรู้น้อยเกินไป นี่ แสดงว่าเขาต้องรู้มากกว่านะ ไม่งั้นเขาจะรู้ได้ไงว่าคนนั้นรู้ไม่จริง หรือ รู้น้อยกว่า (นี่เป็นความจริงที่ จริง ๆ เลยนะ ไม่เชื่อลองไปศึกษาจิตวิทยามนุษย์ดูได้)

ดังนั้น หากคุณรู้ได้ว่า คนแปล แปลไม่ได้ความ แสดงว่าคุณต้องแปลได้ความกว่าและรู้จริงมากกว่าคนแปลอย่างแน่นอน

แล้วเมื่อเป็นเช่น ใยต้องไปเชิญต้นฉบับให้เสียเงินและเวลาเล่า.... คุณนั่นแหละเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะไปออกรายการ เพื่อให้มวลชนมาให้ความสนใจในเรื่องนี้ และที่สำคัญประหยัดไปเยอะเลย...

พระพุทธเจ้าทรงเทศน์ได้ถูกกาลและเวลา เพราะท่านมีความรู้เหนือกว่าผู้ฟังธรรม และจัดให้ได้ว่า จะเทศน์ระดับไหน หากท่านรู้น้อยกว่า ท่านจะบอกได้ไงว่าคนฟังเอาไหน ไม่เอาไหน ...

คุณเป็นคนหนึ่งที่รู้ว่าคนแปลไม่เอาไหน ดังนั้น คุณนี่แหละคือผู้ที่รู้มากกว่าคนแปล...

และเพื่อประโยชน์ต่อมวลชนดังที่คุณปรารถนาดีและตั้งใจไว้ดีแล้ว อย่าลืมแปลมาให้อ่านกันบ้างนะจ๊ะ...

 

เห็นด้วยกับคุณ "อจิตตะ" ครับ เป็นเรื่องที่ดีมากๆครับถ้าเชิญเจ้าของข้อมูลมา
เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและน่ายินดีมาก คนแรกที่ผมอยากให้เชิญมามากที่สุดคือผู้สื่อสาร
กับ "ครายออน" ข้อมูลออกมากาศนี้จะเป็นประโยชน์กับคนส่วนมากเพราะ
ในเว็บพลังจิตก็ยังเป็นคนส่วนน้อยที่ไ้ด้รับข้อมูลเหล่านี้ ถ้าได้ออกอากาศ
คิดดูสิ น่าตื่นเต้นแค่ใหนที่ คนทั้งประเทศจะได้รับรู้เรื่องนี้ มันถึงเวลาแล้วที่
ทุกคนในประเทศนี้จะได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ

 

เดี๋ยวขออนุญาตโพสต์เนื้อหาต่อเลยนะครับ
เดี๋ยวเรื่องโต้เถียงกันค่อยเอาไว้ทีหลังครับ

เพราะว่าอันที่จริงแล้ว ผมไม่อยากโต้เถียงกับใครมากกว่า
เลยไม่ได้ใส่ใจที่จะตอบคำถามเหล่านั้นสักเท่าไหร่หนะครับ

เพราะว่าตราบใดที่ "ยังไม่ได้อ่านอะไรเลย" แล้วจะมานั่งรอเอาแต่คำตอบ
ก็นั่งรอต่อไปเถอะนะครับ..

ผมเคยพูดบ่อยๆว่า มีครูบาอาจารย์ที่ไหน หรือมีศาสดาองค์ไหนสอนไว้หรือ
ว่าความสำเร็จ มันได้มาเพราะความขี้เกียจหนะ

และถ้าท่านดูให้ดีๆนะ คนที่มาใหม่ เขาไม่ได้อยากจะรู้อะไรหรอกครับ
แค่เขาอยากจะดังเท่านั้นเอง..เพราะงั้น ก็ปล่อยให้เขาดังไปเถอะครับ

..........................................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก The Hathors
เรื่อง: เวชศาสตร์แห่งแสงสว่าง (Medicines of Light)

ผู้รับสาส์น: นาย Tom Kenyon
วันที่: 18 มีนาคม 2012

ที่มา:
The Hathors - Medicine of Light

ตอนที่ 1:


เพราะว่ามีการเกิดแผ่นดินไหวในนิวซีแลนด์ แล้วตามมาด้วยแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น
มันจึงเป็นการชัดเจนว่าตอนนี้พวกคุณได้เข้ามาอยู่ในระยะแห่งความสับสนอลหม่าน
ที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นอีกระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น พวกเราจึงอยากจะเสนอแนะวิธีการ
ในการปกป้องตัวเองและบำบัดรักษาตัวเองจากพิษภัยของกัมมันตรภาพรังสี
รวมถึงจากการเจ็บไข้ได้ป่วยทางกายภาพอื่นๆด้วย ให้แก่พวกคุณ

พวกเราเรียกวิธีการนี้ว่า “เวชศาสตร์แห่งแสงสว่าง” (Medicines of Light)

วิธีการนี้มันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในญี่ปุ่นในตอนนี้เป็นอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆของโลกเกิดขึ้นอีกในอนาคต
พวกคุณที่อยู่ในพื้นที่อื่นๆทั่วโลก ก็อาจจะต้องได้เผชิญกับปัญหาเดียวกันนี้ด้วยในไม่ช้านี้

วิธีการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้พวกคุณสามารถปกป้องตัวเอง และเยียวยารักษาตัวเอง
จากการได้รับรังสีจากสารกัมมันตรภาพรังสีเท่านั้น แต่มันยังจะช่วยให้พวกคุณสามารถปกป้องตัวเอง
และเยียวยารักษาตัวเอง จากการได้รับสารพิษนิวโรท็อกซิน (neurotoxins)
และจากแบคทีเรียและไวรัสที่กลายพันธุ์ได้อีกด้วย ซึ่งจากมุมมองของพวกเราแล้ว
ในเร็วๆนี้ พวกคุณสามารถคาดหวังที่จะได้เห็นการเพิ่มขึ้นของสิ่งเหล่านี้ได้เลย

วิธีการนี้ จะมีการเชื่อมต่อกับ “จิตวิญญาณเบื้องบน” (Celestial Soul) ของตัวพวกคุณเอง
หรือที่เรียกว่า “บา” (BA) ด้วย (หรือที่เรียกว่า “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” หรือ Higher Self
– คำอธิบายเพิ่มเติมจากนาย Tom Kenyon) ซึ่งการเชื่อมต่อนี้ จะเป็นการเชื่อมต่อกับ
อาณาจักรแห่งแสงสว่าง ที่เป็นส่วนหนึ่งของ “ความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง”

ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในเอกภพของพวกคุณนี้ อาจจะเรียกได้ว่าพวกมันทั้งหมดก็คือ
“การแสดงออกมาด้านพลังงานของแสงสว่าง หรือ การแสดงออกมาด้านคุณสมบัติของแสงสว่าง”
รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งนั่นเอง ซึ่งแม้แต่สสารที่มีความหนาแน่นทึบตันมากที่สุดของพวกคุณ
แก่นแท้ของมันก็ยังเป็นแสงสว่างเลย

วิธีการนี้พวกคุณจะต้องเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณที่อยู่เบื้องบนของตัวเอง
โดยการส่งความปราถนาและความมุ่งหวังของพวกคุณขึ้นไปบอกพวกเขา
ว่าอยากจะให้พวกเขาส่งพลังงานลงมาให้พวกคุณ เพื่อให้พลังงานนี้
มาปกปักรักษาพวกคุณ หรือเพื่อให้มาช่วยบำบัดรักษาพวกคุณ

พวกคุณจะต้องส่งความปราถนานี้ไปถึงจิตวิญญาณที่อยู่เบื้องบนของพวกคุณเอง
ด้วยระดับความสั่นสะเทือนของอารมณ์ความรู้สึกแห่งความซาบซึ้งใจ
หรือความรู้สึกขอบคุณ เพราะว่าระดับความสั่นสะเทือนนี้ คือระดับความสั่นสะเทือนที่สูงมากพอ
ที่จะไปกระตุ้นตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณได้

เมื่อพวกคุณส่งความปราถนาพร้อมกับความรู้สึกซาบซึ้งใจหรือความรู้สึกขอบคุณ ขึ้นไปถึง “บา” ของตัวเองแล้ว
ให้พวกคุณเปลี่ยนการจดจ่อมาอยู่ที่จักระหัวใจของตัวเองแทน เพื่อคอยรับเอาพลังงานแห่งการปกป้อง
หรือ พลังงานแห่งการบำบัดรักษาที่จะไหลเข้ามาสู่จักระหัวใจของพวกคุณ
ซึ่งพวกคุณอาจจะรับรู้ถึงการมาของพลังงานนี้ได้ ในรูปของแสงสว่าง หรือในรูปของรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ
หรืออาจจะรับรู้ถึงการไหลลงมาของพลังงานโดยตรงเลยก็ได้ หรือพวกคุณอาจจะรับรู้ถึงพลังงานนี้ได้
ในรูปแบบของกระแสความคิด หรือความรู้สึกเฉยๆก็ได้

(ปล.จักระหัวใจ คือ จักระที่ 4 หรือคือบริเวณตรงกลางทรวงอก ตำแหน่งที่ตรงกับหัวใจจริงๆของเรา
ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านใน หรือด้านหลังในแนวกระดูกสันหลังก็ตาม แต่บางตำราก็ว่า
อยู่ตรงตำแหน่งหัวใจจริงๆเลยก็มีนะครับ แต่สำหรับผม ผมเลือกเอาจุดตรงกลางทรวงอกด้านหน้าครับ – ผู้แปล)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต – จักระหัวใจ หรือ Heart Chakra)

เมื่อจักระหัวใจของพวกคุณได้รับพลังงานนั้นเข้ามาแล้ว มันก็พร้อมแล้วที่จะส่งออกไป
ซึ่งเมื่อมาถึงตรงนี้ พวกคุณจะต้องมีน้ำสะอาดเตรียมเอาไว้ด้วย เพราะว่าน้ำ
คือสิ่งที่จะสามารถเก็บรักษาข้อมูลข่าวสารชนิดนี้ไว้ได้อย่างดีเยี่ยมเลย

ให้ประคองภาชนะบรรจุน้ำเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วให้กำหนดจิตส่งกระแสพลังงานนี้
ออกไปจากจักระหัวใจของพวกคุณ ผ่านไปตามแขนทั้งสองข้าง แล้วลงไปยังมือทั้งสองข้างของพวกคุณ
แล้วผ่านออกไปทางจักระที่อยู่ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง แล้วแทรกซึมเข้าไปในภาชนะใส่น้ำและเข้าไปในน้ำตามลำดับ

พวกเราขอแนะนำให้พวกคุณ ขยายกำลังของพลังงานนี้ให้มากขึ้นไปอีก
โดยการทำซ้ำกระบวนการนี้อีก 2 ครั้ง รวมทั้งหมดเป็น 3 ครั้ง
จากนั้นก็ให้ดื่มน้ำนี้เข้าไป น้ำนี้จะแทรกซึมเข้าไปในธาตุน้ำที่อยู่ในร่างกายของพวกคุณ
แล้วคุณสมบัติในการบำบัดรักษาและปกป้องคุ้มครองของมัน
ก็จะแทรกซึมเข้าไปในเซลทุกๆเซลในที่สุด

วิธีการนี้คือการทำให้แสงสว่างมีคุณสมบัติอะไรบางอย่างตามที่เราต้องการ
(ด้วยกระแสจิตหรือด้วยความคิดของเรา – ผู้แปล) แล้วจากนั้นก็ดึงมันลงมาสู่จักระที่ 7 ของเรา
ผ่านลงมาตามท่อทางเดินกลางของร่างกายของเรา (แนวกระดูกสันหลัง? – ผู้แปล)
แล้วเข้ามาสู่หัวใจของเรา จากนั้นจึงค่อยถูกส่งต่อไปยังธาตุน้ำ จิตสำนึกของน้ำ
จะรับเอาพลังงานนี้ไว้ และเมื่อพวกคุณดื่มน้ำนี้เข้าไป ร่างกายของพวกคุณก็จะได้รับพลังงานนี้ด้วย

……………………………..

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก The Hathors
เรื่อง: เวชศาสตร์แห่งแสงสว่าง (Medicines of Light)

ผู้รับสาส์น: นาย Tom Kenyon
วันที่: 18 มีนาคม 2012

ที่มา:
The Hathors - Medicine of Light

ตอนที่ 2: จบครับ

ถ้าพวกคุณพบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่โดนรังสีจากสารกัมมตรภาพรังสีอยู่
พวกคุณก็ควรจะต้องใช้วิธีการที่กล่าวไปแล้วนี้ด้วย โดยการขอพลังงานจาก “บา” ของตัวเอง
เพื่อดึงลงมาช่วยปกป้องและเยียวยารักษาตัวพวกคุณเอง จากพิษของรังสีที่อาจจะเป็นไปได้

แต่ถ้าหากพวกคุณมีวิธีอื่นๆในการป้องกันตัวเองจากรังสีด้วย
แน่นอนว่า พวกคุณก็จะต้องใช้วิธีการเหล่านั้นร่วมด้วยเช่นเดียวกัน

แต่ถึงแม้ว่าพวกคุณจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรเลย
เว้นแต่จิตสำนึกของตัวเองเท่านั้นก็ตาม พวกคุณก็สามารถที่จะปกป้องและเยียวยารักษาตัวพวกคุณเองได้ด้วยวิธีการนี้

ถ้าพวกคุณได้รับสารพิษนิวโรท็อกซินมา พวกคุณก็สามารถใช้วิธีการเดียวกันนี้ได้ด้วย
ถ้าพวกคุณกำลังอยู่ในท่ามกลางโรคระบาด ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสบางชนิดแล้วหละก็
พวกเราก็ขอแนะนำให้พวกคุณใช้วิธีเดียวกันนี้ด้วย

ในระหว่างที่พวกคุณกำลังรุกคืบเข้าไปใกล้จุดสุงสุดของช่วงเวลาแห่งความสับสนอลหม่าน (Chaotic Node)
ที่สลับซับซ้อนและเข้มข้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆอยู่นี้ เชื้อแบคทีเรียและไวรัสทั้งหลาย
ก็จะมีการกลายพันธุ์เร็วขึ้นเรื่อยๆด้วย และวิธีการดังกล่าวนี้ ก็จะสามารถช่วยให้พวกคุณปกป้องตัวเอง
และบำบัดรักษาตัวเอง จากเชื้อโรคที่กลายพันธุ์เหล่านี้ได้ด้วย

มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า วิธีการนี้ก็คือ พวกคุณกำลังสร้างเกราะป้องกันตัวเองขึ้นมา
และกำลังบำบัดรักษาตัวเองอยู่ ด้วยพลังอำนาจที่มีอยู่แล้วของจิตสำนึกของตัวเอง
เพราะว่าพวกคุณสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับอาณาจักรแห่งแสงสว่างของตัวเองได้ทุกๆคนอยู่แล้ว
พวกคุณมีสิทธิและอำนาจสูงสุดที่จะใช้ประโยชน์จากอาณาจักรแห่งแสงสว่างของตัวเองได้
เพื่อตัวพวกคุณเอง และเพื่อคนที่พวกคุณรัก

ถ้าพวกคุณพบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แห่งความลำบาก ที่กล่าวไปแล้วนี้ อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่
พวกเราขอแนะนำว่า ให้พวกคุณดื่ม Medicine of Light อันนี้ ซึ่งก็คือน้ำที่พวกคุณประจุพลังเข้าไปนั่นเอง
ให้ดื่มหลายๆครั้งต่อวัน ตามคำแนะนำของสัญชาตญาณและการหยั่งรู้ของตัวพวกคุณเอง


ในทางกายภาพแล้ว การเกิดแผ่นดินไหวแบบถี่ๆในประเทศญี่ปุ่น และเป็นผลให้เกิดสึนามิขึ้นนั้น
เป็นสิ่งที่ยากจะรับมืออย่างมาก แต่พวกเราอยากจะขอเปลี่ยนประเด็นความสนใจของพวกเรา เกี่ยวกับภัยพิบัติเหล่านี้
จากผลกระทบด้านกายภาพของพวกมัน มาสู่ผลกระทบด้านจิตใจ, ด้านอารมณ์ความรู้สึก และด้านจิตวิญญาณแทน

เพราะว่าความจริงก็คือ ตอนนี้พวกคุณกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่มีความสับสนอลหม่านสูงสุดอยู่ (Chaotic Node)
และอยู่ในช่วงที่กำลังมีพลังงานจากอวกาศชั้นลึกๆและพลังงานจากเปลวสุริยะ
ส่งผลกระทบต่อพลังงานของร่างกายของพวกคุณอยู่ ซึ่งพวกคุณ ในฐานะ “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก”
คือผู้ที่กำลังได้รับผลกระทบมากกว่า

ซึ่งตรงนี้หมายความว่า การที่พวกคุณได้รู้เห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันกำลังตกอยู่ในความทุกข์ยากนั้น
พวกคุณก็หัวใจแตกสลายไปด้วย เพราะว่าพวกคุณรู้อยู่แล้วว่า ตัวคุณเองก็มีโอกาสที่จะตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นได้ง่ายๆเหมือนกัน
ซึ่งความรู้สึกนี้ สามารถที่จะทำให้หัวใจของพวกคุณเปิดออกมาได้ และเพราะด้วยอาศัยหัวใจนี้เอง..
หัวใจของพวกคุณทุกๆคน จิตสำนึกในระดับที่สูงกว่าจึงจะสามารถเกิดขึ้นได้ และเพราะฉะนั้นแล้ว
แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น ถ้ามองในหลายๆแง่มุมแล้ว มันก็คือแผ่นดินไหวในหัวใจของมนุษยชาติทั้งมวลนั่นเอง

สิ่งที่พวกคุณจะต้องเจอในวันข้างหน้านั้น มันไม่ใช่อะไรที่ง่ายๆเลย
เพราะว่าพวกเรารู้ว่า การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ว่าผลพวงอย่างหนึ่งของเหตุการณ์เหล่านี้ ก็คือ..พวกคุณจะถูกเขย่าลึกลงไปจนถึงระดับรากเหง้า
(ของจิตใจของพวกคุณ – ผู้แปล) และภาวะการถูกสะกดจิตหมู่ของพวกคุณ ก็จะหยุดลงชั่วคราว
และเพราะว่าสภาพความหายนะที่เกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง และเหมือนฝันแบบนี้
จึงทำให้พวกคุณหลายคนเริ่มมองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า

“อารยธรรมของพวกคุณกำลังตั้งอยู่บนพื้นดินที่เปราะบาง”

ซึ่งพวกเราหมายถึง ทั้งความหมายโดยตรงและความหมายโดยเปรียบเทียบ

และเพราะฉะนั้นแล้ว พวกเราจึงอยากจะแนะนำว่า ในช่วงเวลาแห่ง Chaotic node แบบนี้
ให้พวกคุณเรียนรู้และฝึกฝนความสามารถในการทำ Medicine of Light นี้เอาไว้ให้ชำนาญ
เพื่อตัวพวกคุณเอง เพื่อที่ว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกคุณจะได้นำเอาพลังอำนาจในการปกป้องและบำบัดรักษาตัวเองนี้
มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างทันท่วงที มันเป็นพลังอำนาจที่พวกคุณทุกๆคนมีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ

และพวกเราก็อยากจะแนะนำอีกว่า การที่พวกคุณจะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้นั้น
ไม่ใช่เฉพาะด้วยการอาศัย “จิต” (mind) เท่านั้น แต่จะต้องอาศัย “ใจ” (heart) ด้วย
และจงยินยอมให้หัวใจของพวกคุณมีบทบาทด้วย เพราะว่ามันจะต้องอาศัยหัวใจของพวกคุณเท่านั้น
พวกคุณจึงจะเลื่อนระดับขึ้นไปสู่เกลียวแห่งวิวัฒนาการขั้นสูงกว่าและยิ่งใหญ่กว่าของตัวเองได้


The Hathors
March 16, 2011

.....................................

 

ปล.คำอธิบายเพิ่มเติมจากนาย Tom Kenyon:


“บา” (BA) คือตัวตนที่สูงส่งกว่าของเรา และเป็นจิตวิญญาณที่อยู่ในมิติที่อยู่นอกเหนือช่องว่างและกาลเวลา
แต่พวกเราก็สามารถเชื่อมต่อไปถึง “บา” ได้ โดยกำหนดจิตไปที่ตำแหน่งเหนือศรีษะของพวกเราเองขึ้นไป
ประมาณหนึ่งช่วงแขน ซึ่งถ้าเรายกแขนทั้งสองข้างขึ้น แล้วประกบมือทั้งสองข้างไว้เหนือศรีษะ
ตรงตำแหน่งที่ปลายนิ้วของเราอยู่ ก็น่าจะใกล้เคียงกับจุดที่จะใช้ติดต่อกับ “บา” นั่นเอง..

(ตามความเข้าใจของผม ถ้านำเอาข้อมูลนี้มาเปรียบเทียบกับเรื่อง “กายทั้ง 7”
จากกระทู้ Almine หละก็

"almine-ผู้เป็นอมตะ-และเป็น-ascended-master-และ-คู่มือการเลื่อนระดับขึ้น-จากเธอ"

http://palungjit.org/threads/almine...คู่มือการเลื่อนระดับขึ้น-จากเธอ.315634/page-9

“บา” ที่ว่านี้ น่าจะอยู่ในส่วนของ Spirit Body ของเราหนะครับ – ผู้แปล)


(ภาพประกอบจากเวปไซต์ Ascended Masters: Ascension Manual)

นาย Tom Kenyon ยังอธิบายเพิ่มอีกว่า น้ำดื่ม Medicine of Light ที่ว่านี้
จากการสื่อสารถามไปใหม่อีกครั้งของเขา เขาบอกว่า the Hathor บอกว่า
สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดอื่นๆได้ทุกโรค รวมถึงโรคมะเร็งด้วย

และถ้าเราจะทำน้ำ Medicine of Light นี้ เราก็ควรจะเริ่มกำหนดจิตไปที่
ตำแหน่งเหนือศรีษะของเราขึ้นไปราวๆ 1 ช่วงแขน แล้วอธิษฐานถึงคุณสมบัติของพลังงาน
ที่อยากจะให้น้ำนี้มีอยู่ เช่น เพื่อให้น้ำนี้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกๆชนิด เป็นต้น

จากนั้นก็ให้เราส่งความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกขอบคุณ ออกจากจักระหัวใจของเรา
ซึ่งก็คือจุดกึ่งกลางหน้าอก ระดับเดียวกับหัวใจจริงๆ ขึ้นไปยังจุดเหนือศรีษะของเรา 1 ช่วงแขนดังกล่าวนั้น
แล้วจากนั้น ก็กลับมากำหนดจิตไว้ที่จักระที่ 4 เหมือนเดิม เพื่อรอรับพลังงาน
แล้วเมื่อพลังงานถูกส่งลงมาแล้ว ก็ค่อยกำหนดจิตของเรา ส่งไปตามแขน และมือทั้งสองข้าง
เพื่อถ่ายทอดไปยังน้ำต่อไป ให้ทำตามวีการนี้รวมทั้งหมด 3 ครั้ง เพื่อให้น้ำมีพลังงานมากพอ

แต่อย่างไรก็ตาม นาย Tom Kenyon อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า เขาได้ถาม the Hathor แล้วว่า
ถ้าเราจะทำน้ำ Medicine of Light นี้ให้แก่คนที่เรารักดื่มบ้างได้ไหม เขาตอบว่าได้
แต่น่าจะทำให้เฉพาะคนที่ยังทำเองไม่ได้ เช่น เด็กเล็ก หรือ สัตว์เลี้ยงเท่านั้น

the Hathor ไม่สนับสนุนให้ทำให้กับคนอื่นๆ ที่สามารถทำได้เองแล้ว
เพราะว่านั่นจะเป็นการไปสนับสนุนให้พวกเขาไม่เห็นคุณค่าของพลังอำนาจที่ตนเองมีอยู่
เป็นการสนับสนุนให้พวกเขาอ่อนแอ เพราะว่า เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมาจริงๆแล้ว
พวกเขาจะต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ อะไรประมาณนั้นครับ

.........................................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก Hathor
เรื่อง: การรับพลังจากพายุสุริยะ
(Partaking From the Solar Winds)

วันที่รับสาส์น: 29 มกราคม 2011
ผู้รับสาส์น: นาย Tom Kenyon

ที่มา:
The Hathors: Partaking From the Solar Winds - Tom kenyon

ตอนที่ 1:


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

หมายเหตุ:

ข้อความนี้เกี่ยวข้องกับกายทิพย์ที่เรียกว่า “กา” (KA body - เป็นศัพท์ทางด้านรสายนศาสตร์ของชาวอียิปต์โบราณ)
และจะอธิบายว่าคุณจะสามารถทำให้กายแห่งพลังงานที่พิเศษนี้ ไปดึงดูดเอาพลังงานแห่งการเลื่อนระดับขึ้น
จากดวงอาทิตย์ที่กำลังมีปฏิกิริยารุนแรงขึ้นเรื่อยๆอยู่นี้ เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร

และสำหรับผู้ที่ยังใหม่ต่อคำว่า “กา” อยู่ กายทิพย์ที่ชื่อกานี้เป็นกายที่สองที่มองไม่เห็นของคุณ
ที่มีรูปร่างและขนาดเท่ากับกายเนื้อของคุณทุกประการ มันเป็นกายแห่งพลังงานที่ทั้งห่อหุ้มและแทรกซึมอยู่ในกายเนื้อ

กายๆนี้บางคนก็เรียกว่า “สำเนาทิพย์” หรือ “แฝดทางจิตวิญญาณ” (etheric double or spiritual twin) ของเรา

กายทิพย์ที่ชื่อว่า “กา” นี้ จะเหมือนกับสิ่งที่เรียกว่า “กายชี่” (Chi body) ของบางวัฒนธรรม (เต๋า)
และจะเหมือนกับ “ปราณธาตุ” (pranic body) หรือ “กายทิพย์” (etheric body) ของพวกโยคีทั้งหลาย
ซึ่งโดยธรรมชาติของมันแล้ว กายแห่งกานี้ จะดึงดูดพลังงานที่มีประโยชน์อย่างมากเข้ามาสู่ตัวมันเอง
และจากนั้นก็ดึงดูดเข้ามาสู่กายเนื้อด้วย ซึ่งพลังงานที่ว่านี้จะไปเร่งวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของเราให้เร็วขึ้นได้

...........................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก Hathor
เรื่อง: การรับพลังจากพายุสุริยะ
(Partaking From the Solar Winds)

วันที่รับสาส์น: 29 มกราคม 2011
ผู้รับสาส์น: นาย Tom Kenyon

ที่มา:
The Hathors: Partaking From the Solar Winds - Tom kenyon

ตอนที่ 2:



ข้อความ

พวกคุณกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความผันผวนมากขึ้น
ดวงอาทิตย์ของพวกคุณ ดวงดาวในระบบสุริยะของพวกคุณ
กำลังมีพลังงานศักย์ (energetic potential)ในตัวเพิ่มขึ้น
และกำลังจะเข้าสู่ช่วงที่มีความผันผวนมากขึ้น

เปลวสุริยะและพายุแม่เหล็ก ปรากฏการณ์ต่างๆเหล่านี้จะสร้างปัญหาที่แท้จริง
ให้กับระบบการสื่อสารและสภาพภูมิอากาศของพวกคุณ
และมันก็มีศักยภาพทางวิวัฒนาการที่มากมายซ่อนอยู่
ภายใต้ปรากฏการณ์สุริยะนี้อีกด้วยที่พวกเราอยากจะอธิบายให้ฟัง

ดวงอาทิตย์ของพวกคุณมีกายทิพย์เช่นเดียวกับพวกคุณถ้าพวกคุณจำได้
นั่นก็คือ KA สุริยะ กายทิพย์ของดวงอาทิตย์นี้มีวงรัศมีที่แผ่กว้างออกจากตัวมันเองเป็นล้านๆไมล์
โลกของพวกคุณอยู่ดีมีสุขอยู่ได้ภายใต้สนามออร่าแห่งกายทิพย์ของดวงอาทิตย์
และ เมื่อเปลวสุริยะและพายุสุริยะขับอนุภาคที่มีประจุเหล่านี้
พาดผ่านเข้ามาในละแวกที่ใกล้พอจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของพวกคุณได้
พวกมันก็จะส่งผลต่อระบบกายทิพย์ของพวกคุณด้วยเช่นกัน

อนุภาคที่มีประจุอันมากมายเหล่านี้
แสดงท่าที ที่ดูเหมือนจะเป็นปรปักษ์ต่อมิติทางกายภาพของพวกคุณ
แต่อันที่จริงแล้วมันเป็นเครื่องบำรุงอย่างหนึ่งสำหรับ KA
ที่เป็นดั่งกายทิพย์ของพวกคุณเองเลยทีเดียว

สภาวะทางจิตและสภาพอารมณ์
/การสั่นสะเทือนของพวกคุณ
จะเป็นตัวกำหนดว่า
อนุภาคสุริยะเหล่านี้จะเป็นแหล่งพลังงาน
ที่มาช่วยบำรุงและเสริมส่งพัฒนาการ
หรือเป็นแหล่งของพลังงานรบกวน
และบั่นทอนพัฒนาการของพวกคุณลง