ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ถึงกับไข้ขึ้นเลยหรอครับ แสดงว่าต้องอันตรายมาก เป็นของพวกฝ่ายมืดทำใช่ไหมครับ

 

เสียงบำบัดจิตใจและสมอง

 

ไม่น่าจะใช่นะครับ เป็นลักษณะดนตรีทำสมาธิ ผมก็ใช้ดนตรีเหล่านี้ทำสมาธิเตรียมตัวสอบ ในบางคลิปก็อาจมีคำเตือนว่า อาจเกิดอาการได้ในช่วงแรกๆของการฟัง เช่น ปวดหัว คลื่นใส้ มึนงง ไม่เป็นอันตรายหรอกครับ นอกจากบางคลื่นอาจทำให้ง่วงนอน จึงไม่ควรขับรถหรือควบคุมเครื่องจักร ซึ่งอาการเหล่านี้ผมก็ไม่เป็น แต่เป็นไข้ไปเลย เป็นเองหายเอง ไม่กินยาด้วย

 

ผมก็ได้ยินนะ เหมือนเสียงคลื่นสัญญาณแหลมเล็กตลอดเวลา แล้วก็ไม่ใช่ว่าได้ยินจากหูนะ เพราะขณะฟังดนตรี ไม่ว่าจะใช้หูฟัง หรือฟังจากลำโพงดังขนาดใหน เสียงอื่นก็ไม่ได้กลบเสียงคลื่นที่ว่านี้ไปเลย มันเหมือนอยู่คนละบรรทัดอ่ะครับ แค่ว่าเราจะเพ่งความสนใจกับมันหรือเปล่า แล้วก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไร มีแต่ว่าหากเราจะจดจ่อกับมันจริงๆ จะรู้สึกสงบขึ้นนิดๆด้วย

 

ข้อความสื่อสารจาก Montague Keen - October 20, 2013
ผู้สื่อสาร : Veronica



สิ่งที่เราคิด คือสิ่งที่เรากำลังสร้าง
สิ่งที่เรารู้สึก คือสิ่งที่เรากำลังดึงดูด
สิ่งที่เราจินตนาการ คือสิ่งที่เราจะเป็น....

ไตร่ตรองคำพูดที่ชาญฉลาดเหล่านี้ เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเข้าใจ
คุณกำลังสร้างอนาคตของคุณ ไม่ต้องตื่นตระหนกกับร่างกายที่เปลี่ยนแปลงที่คุณกำลังประสบ
ร่างกายของคุณกำลังมีการเตรียมตัวที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งแสงสว่าง ที่คุณจะเป็นเช่นเดียวกับผีเสื้อ
คุณจะโผล่พ้นออกมาจากดักแด้ ตื่นขึ้นกลายเป็นใครคนหนึ่งที่ที่คุณเคยเป็น อย่าตื่นตกใจ
เมื่อคุณพบว่ามีความร้อนสูง หรือเย็นจัด วิงเวียน การเปลี่ยนแปลงในวิธีการจัดการกับชีวิต
การพักผ่อนนอนหลับ , นิสัยการกิน ฯลฯ

ให้มองดูการเปลี่ยนแปลงทีละก้าวที่จะบรรลุเป้าหมาย
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตกใจ หรือขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ใดๆ
มันเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ โปรดต้อนรับมัน...

ทุกอย่างที่เกิดขึ้น กำลังเป็นไปตามอัตราความเร็วที่คุณจะยอมรับได้
ทุกๆท่านทั้งหมดจะบรรลุเป้าหมายตามเวลา โซ่ตรวนที่ผูกคุณไว้กำลังถอยห่างออกไป
คุณจะกลายเป็นอิสระจากข้อจำกัด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ว่านี้แหละคือเส้นทางที่แท้จริงของคุณ

การเปิดโปงจะถูกขยายออกไปในระดับของเงื่อนงำ เหล่าบุคคลที่อยู่ด้านบนของปิรามิดรู้ดีว่า
พวกเขาไม่สามารถยึดมั่นอยู่ได้นานอีกต่อไปแล้ว
เราสัญญาได้ว่าโครงสร้างอันทุจริตจะแตกสลายและร่วงหล่นลงไปในที่สุด
คนดีจะก้าวออกมาข้างหน้า และพวกเขากำลังเตรียมหาหนทางเพื่อให้คนอีก 99% เข้ามาควบคุมแทน

บุคคลดังกล่าวกำลังก้าวมาอยู่ในตำแหน่งแล้วทั่วทุกมุมโลกของคุณ
พวกเขาพร้อมและสามารถควบคุมสายบังเหียน และเพื่อให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่บนแกนหลักที่สำคัญได้
แม้แต่พวกคุณที่เคยชินในการทำตามคำสั่ง และปฏิบัติตามกฎที่ผ่านมา
แต่นี้เป็นโอกาสของคุณ ที่จะทำให้โลกเป็นโลกสำหรับมนุษยชาติทั้งหมดมากยิ่งขึ้น
อย่าปล่อยสิ่งเย้ายวนใจ มีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจที่รีบร้อนของคุณ
โปรดสงบสติอารมณ์ และพิจารณาแผนการอย่างรอบคอบ
ที่คุณกำลังหวังที่จะใส่ลงไปในการทำงานที่จะเป็นข้อได้เปรียบของมนุษยชาติทั้งหมด

คุณต้องให้แน่ใจว่า จะไม่มีอีกแล้วที่จะเป็นไปได้สำหรับชนกลุ่มน้อย ในการปล้นและควบคุมโลกของคุณ
คุณได้รอคอยมาเป็นเวลานานแล้วสำหรับเวลาในขณะนี้
สำหรับมนุษยชาติที่จะเป็นอิสระ และการเข่นฆ่าทั้งหลายที่จะหยุดกระทำตลอดไป

มันเป็นสิ่งสำคัญ ในการให้ความรู้แก่เด็กๆและลบความไม่รู้ทั้งหมดลงไป
การฝึกฝนปฏิบัติที่มีผลบังคับใช้ เปิดหัวใจอันอ่อนเยาว์เท่าที่จะเป็นไปได้ทั้งหมด
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของคุณนั้น
คือการสอนโดยใช้ใจที่เป็นอิสระของพวกเขาในการสำรวจโดยปราศจากข้อจำกัดใดๆ
ทุกชนิดของความอยุติธรรมต้องถูกลบออกไปและทิ้งมันไว้ในอดีต มันอาจจะใช้เวลา
แต่ผมมั่นใจว่าคนของโลกจะได้เรียนรู้ที่จะเฉลิมฉลองความแตกต่างของพวกเขา
และแบ่งปันความรู้ของพวกเขา เมื่อความรู้โบราณเก่าแก่จากทั่วโลกของคุณจะถูกนำมาแขร์ร่วมกัน
ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ยิ่งใหญ่ในโลกของคุณ และจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน

มีหลายสิ่งที่คุณจะมองไปข้างหน้า คิดถึงความน่าตื่นเต้นที่มันจะเป็น
เพื่อให้สามารถมีอิสระในการสำรวจได้ถึงส่วนต่างๆของโลก โดยไม่มีสิ่งใดกีดขวางของแหล่งข้อมูลใดๆกฎหมายทั้งหมด
ที่ให้บริการทำให้ทุกชีวิตบนโลกมีการต่อสู้ จะถูกลบออกไป

"พลังงานฟรี" จะเป็นอันดับ 1 ที่มีความสำคัญ
ที่เราได้ให้คำแนะนำหลายๆการวิจัยและการค้นพบเหล่านี้
เพื่อให้พวกเขามีความพร้อมที่จะดำเนินการที่จำเป็นเมื่อถึงเวลาที่ถูกต้อง
เกษตรอินทรีย์ บวกกับ Hydroponics จะต้องวิจัยและเตรียมพร้อม สำหรับการดำเนินการ
ที่ดินที่ใช้สำหรับการปลูกพืชที่เสื่อมโทรม การดัดแปลงพันธุกรรมที่ปนเปื้อน
ที่มันจะต้องใช้เวลานับ 100 ปี ที่จะกู้คืน ก่อนที่จะมีความปลอดภัยในการเพาะปลูกอีกครั้ง
เราจะแนะนำคุณในทุกขั้นตอน ตลอดทาง ทุกอย่างที่ทำ จะต้องเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของมนุษยชาติทั้งหมด

ห้องปฏิบัติการที่เรากำลังวางแผน จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของศูนย์กลางหลัก
ที่จะอยู่ในทุกประเทศของโลก เหล่านี้จะช่วยในการขจัดอาการการเจ็บป่วยทั้งหลายที่ทำให้เกิดความกังวล
ซึ่งเกือบจะทั้งหมดที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อทำให้คุณตกอยู่ในความกลัวและตกอยู่ภายใต้การควบคุม
การบรรเทาเยียวยาด้วยวิธีแบบโบราณ ขณะนี้กำลังนำมาวิจัย เหล่านี้มีความปลอดภัยสูงและมีผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์
สิ่งที่สำคัญก็คือเหล่านี้ล้วนเป็นธรรมชาติทั้งหมด ดังนั้นมันจึงไม่สามารถเป็นอันตรายใดๆได้
พวกเขาล้วนให้แต่ประโยชน์ ตัวของ เวโรนิกา เองก็ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการรักษาด้วยตัวยาดังกล่าว
ซึ่งเธอได้รับมอบให้จากเพื่อนนักวิจัย , DM ซึ่งฉันรู้สึกขอบคุณอย่างมาก ผลงานของเขาเป็นเพียงการเริ่มต้น

เมื่อมีผู้คนมารวมตัวกันทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ พลังของผู้คนนั้นสามารถทำให้บรรลุผลได้อย่างมาก
จงใช้ความกล้าหาญดังเช่น สิ่งทีผู้คนใน ไอร์แลนด์ กำลังทำ * ) พวกเขาจะแสดงให้เห็นหนทางข้างหน้า
การทุจริต ที่ถูกนำมาใช้เพื่อกักขังผู้คนที่ต้องถูกท้าทาย คุณเพียงแต่ทำให้มันเป็นจริงในขณะว่า
นี่จะสามารถท้าทายอำนาจผ่านให้ศาลพิจารณาพิพากษาทางกฎหมาย ธนาคาร ซึ่งเป็นสถาบันที่มีการทุจริต
มันถูกออกแบบมาให้เป็นเช่นนี้ มันได้รับความสำเร็จอย่างมากในการควบคุมโลกของคุณ

การควบคุมของพวกเขา จะต้องยุติลง และด้วยความช่วยเหลือของคุณ มันจะเป็นเช่นนั้น
คุณจะต้องแสดงถึงกระบวนการเหล่านั้น มันสามารถทำได้ถูกต้องตามกฎหมาย และเปิดเผย
นี่เป็นวิธีการไปสู่ข้างหน้า นี่คือวิธีที่คุณใช้ในการควบคุมชีวิตของคุณ ลบการควบคุมทั้งหมด
จากวาติกันและธนาคาร ผู้คนจะได้พบกับเสียงของพวกเขา และตอนนี้พวกเขากำลังฟังอยู่

ฉันต้องการ จะขยายคำขอบคุณ ต่อทุกคนที่ส่งความปรารถนาดี และคำแนะนำแก่ภรรยาของผม
ในช่วงเวลาที่ตึงเครียด ขอบคุณทุกท่าน สำหรับความปรารถนาดีของคุณ

ที่รักของฉัน พวกเราที่เป็นจิตวิญญาณ กำลังรับชมสิ่งที่จะถูกเปิดเผย
มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นจริงๆ เราเดินเคียงข้างอยู่กับคุณเสมอ......

มอนตี้ ที่รักของคุณ
Mead : ผู้แปล

Montague Keen - October 20, 2013

 

ใช่เลย เป็นหนักๆ แบบนี้ช่วงเดือน ก.ย. นอนไม่หลับ เครียด ป่วย ซึมเศร้า วิตก มีครบ
แต่พอมีอาการเหล่านี้รุมเล้า ปรากฏว่าทำให้เราตัดสินใจเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง
เพราะรู้แล้วว่าอาการที่เป็นคือผลของการเลือกในอดีตที่ทำให้เราไม่มีความสุข
และตอนนี้เราได้ตัดสินใจเปลี่ยนหลายๆเรื่องมาก มีโอกาสดีๆเข้ามาไม่น่าเชื่อ
ลองทำหลายๆอย่างๆที่ข้อความต่างมิติบอก เช่น ทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น ลองปลูกผัก ทำสวน
ตื่นเช้าขึ้นรอดูแสงแรกของวัน ลาออกจากงานเก่าเปลี่ยนไปหางานที่เรารัก ออกกำลังกาย ทั้งหมดนี่ทำในเดือน ต.ค. ไม่น่าเชื่อ

ช่วงที่เคยรู้สึกซึมเศร้าลึกๆมากๆ หาสาเหตุไม่ได้เป็นแบบคุณชยุตต์เลย
เค้ามาเป็นระลอกๆ ถ้าหนักๆเหมือนคลื่นกระซัดกระแทกหินตั้งตัวไม่ทัน
เคยนั่งๆอยู่น้ำตาไหลเสียใจ(เรื่องอะไรก้อไม่รู้) ก็สังเกตอาการสักพักก้อหายไป
บางทีเป็นอาการซึมๆไม่ทราบสาเหตุ ก็จะแก้ด้วยการนั่งสมาธิตอนเช้ากับคริสตัล
Smokey Quartz, Herkimer, Rainbow Quartz,Lemurian Seed Crystal
จินตนาการใช้แสงชำระพลังงานลบออกไป แล้วแผ่เมตตาให้ตนเองและสรรพสัตว์ มอบความรักให้กับโลกนี้ ^^

 

บางครั้ง..ก็มีบางท่านที่ปราถนาดีกับผมจริงๆ
ที่ส่งพระธรรมคำสั่งสอนบางบท
ที่ปรากฎอยู่ในตำราทางศาสนาบางเล่ม
ซึ่งท่าน "เชื่อว่า" "ทั้งหมด" เป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาให้ผมลองศึกษาดู..

ผมก็ต้องขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่าน
ด้วยความจริงใจด้วยนะครับ..

แต่ผมก็ไม่รู้จะบอกท่านว่าอย่างไรดี..
เพราะว่าความรู้สึกนี้..มันยากที่จะอธิบาย..

เอาเป็นว่า..

ข้าพเจ้ารู้สึก "มีอิสระ"
และ เพลิดเพลิน "มากกว่า"
เมื่อได้อยู่ท่ามกลาง "ป่าใหญ่ทั้งป่า"
ของ "สัจธรรมแห่งจักรวาล"

ก็แล้วกันนะครับ..

ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยศึกษาหรอกนะครับ
เพราะว่าผมทำบุญตักบาตรมาตั้งแต่เด็กแล้ว
เพราะว่าบ้านอยู่เยื้องๆวัด

และผมก็บวชเณรภาคฤดูร้อนครั้งแรกตอนอายุ 12 ปี
แล้วก็มาบวชเณรภาคฤดูร้อนอีกครั้งหนึ่งตอนอายุ 17 ปี
แล้วคะแนนวิชาพระพุทธศาสนาผมก็ได้ที่ 1 ของห้องมาโดยตลอด

แล้วพอตอนอายุ 28 ปี ผมก็เริ่มบวชพระครั้งแรก
ระยะเวลาสั้นๆเพียง 1 เดือน ในสายธรรมยุต ฉันมื้อเดียว
และนับตั้งแต่นั้นมา ผมก็เริ่มสนใจปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังมาโดยตลอด
ถือศีล 5 ศีล 8 เป็นว่าเล่น แทบทุกพรรษา ตลอดพรรษา ก็ว่าได้
และมีหลายช่วงที่ผมเข้าพรรษาอยู่นั้น ผมจะนั่งสมาธิหนักมาก
ทั้งเช้า กลางวัน และตอนเย็น และนั่งครั้งละ 1-2 ชั่วโมงขึ้นไปด้วย
บางทีก็ 3 ชั่วโมง โดยไม่เปลี่ยนท่าเลย

และช่วงนั้นอีกเช่นเดียวกัน ที่ผมตะลุยอ่านหนังสือธรรมะแทบทุกแนว
จนผมรู้สึกว่า ในร้านหนังสือที่ผมชอบไปหาซื้อหนังสืออยู่บ่อยๆนั้น
ไม่มีหนังสือธรรมะแนวที่ผมยังไม่ได้อ่านเหลืออยู่อีกแล้ว
และในชั้นหนังสือที่ห้องพักของผม ก็เลยมีหนังสือธรรมะ
อยู่ราวๆ 100 กว่าเล่ม ก็ว่าได้

และในช่วงนั้นเป็นต้นมา ผมก็ตระเวณไปปฏิบัติธรรม
ที่โน่นที่นี่บ่อยๆด้วยนะครับ อย่างเช่น วัดอัมพวัน
ของหลวงพ่อจรัญนี่ ช่วงนั้นก็ไปทุกปีๆละหลายครั้งด้วย
รวมๆแล้วน่าจะ 13 ครั้งแล้วนะครับ

แต่บางทีก็ไปที่อื่นบ้าง เช่น ไปนอนในถ้ำคนเดียวบ้าง
ที่วัดถ้ำดาวเขาแก้ว จ.สระบุรี เพื่อปฏิบัติธรรม ก็มี

อายุ 33 ปี ผมก็บวชพระระยะเวลาสั้นๆ 1 เดือน อีกครั้งหนึ่ง
ที่วัดท่าเสด็จ จ.กาญจนบุรี วัดนี้สายวิปัสนาครับ
ก็ได้ออกเดินธุดงค์ตั้งแต่เพิ่งบวชได้ 5 วันเลยหละครับ
หลวงพ่อท่านเมตตาให้ไปธุดงค์กับพระเก่าๆได้
ก็เลยพอจะมีประสบการณ์นอนกลางดินกินกลางทรายมาบ้าง

เกี่ยวกับวิธีการฝึกสมาธิแบบต่างๆนี่ ผมก็เคยศึกษามาหลายวิธีครับ
ทั้งแบบธรรมกายของหลวงพ่อสด และ แบบวัดพระธรรมกาย
ทั้งแบบวิปัสนาของหลวงพ่อจรัญ, หลวงพ่อวัดท่าเสด็จ,วัดถ้ำดาวเขาแก้ว
ทั้งแบบมโนมยิทธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
ทั้งแบบวัดป่าของสายพระอาจารย์มั่น ที่ผมไปบวชมาด้วย

พระไตรปิฎกผมก็เคยอ่านครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อ่านทุกเล่มก็ตาม
แต่ก็พอจะรู้คร่าวๆอยู่บ้าง ว่ามันมีเรื่องอะไรๆ สไตล์ไหน อยู่บ้าง

ธรรมะในอินเตอร์เน็ต ผมก็ตะลุยอ่านมาเยอะเหมือนกันครับ
เช่น ในเวปไซต์ของท่านพุทธทาสภิกขุนี่ ผมก็แอบพิมพ์ออกมาอ่าน
นับได้เกือบ 500 หน้ากระดาษ A4 อยุ่เหมือนกันครับ
และหนังสือของท่านพุทธทาส ผมก็อ่านมาเยอะครับ

แต่หลังๆนี่ รวมถึงตอนนี้ด้วย สถานที่ปฎิบัติธรรม
ที่ผมไปบ่อยที่สุด ก็จะเป็นสายของท่านโกเอ็นก้าครับ
ซึ่งท่านสอนได้จะแจ้ง มีเหตุมีผล เป็นวิทยาศาสตร์
และไม่เอาพิธีกรรมใดๆเลยทั้งสิ้น
เจาะลงไปยังแก่นอย่างเดียวเท่านั้น
ซึ่งถูกกับจริตของผม ณ.ตอนนี้มาก ผมเลยชอบไปหนะครับ
ไปทุกๆปี ปีละ 12 วันครับ เป็นวิปัสนาครับสายนี้

ดังนั้น ผมเลยอยากจะบอก อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วนั่นแหละครับว่า
ผมรู้สึกเป็นอิสระมากกว่า ที่ได้เดินอยู่ในป่าใหญ่แบบนี้
เพราะว่าในป่าใหญ่แบบนี้ จะมี "ใบไม้" อยู่มากกว่าหนะครับ

และผมก็ชอบที่จะอยู่นอกกรอบของพิธีกรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้นมากกว่าครับ
เพราะผมจะเอาแต่แก่น เอาแต่หลักการณ์ เอาแต่ concept เท่านั้นครับ





(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

.......................................

 

ขอแก้ไขข้อความข้างบนนี้นิดหน่อยนะครับ
เพราะว่าคำบางคำ อาจจะทำให้บางท่านเข้าใจผิดได้
เลยต้องขยายความมากซักหน่อย

.....................................

 

ผมก็เป็นเหมือนกันครับ เริ่มจากสนใจธรรมมะแต่ไม่มากเท่าคุณชยุต ห่างไกลมาก แต่พอศึกษาไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มสนใจแต่แก่นแล้วครับ เลยกลายเป็นคนห่างบุญ ห่างวัด ไปแล้วครับ ความรู้สึกคงใกล้เคียงกัน เลยเข้าใจครับ

 

ถ้าเป็นไปได้ขอให้เขียนเป็นภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจหน่อยก็ดีครับ เรียบเรียงใหม่เลย ไม่ต้องแปลตรงตัว ผมอยากศึกษานะ แต่อ่านหลายจุดแล้วงง ๆ

 

ผมก็ขออภัยก่อนนะครับที่เข้ามาอธิบาย แทนที่จะเป็นเจ้าของกระทู้ครับ แต่ว่าอยากให้คุณดูรายชื่อของผู้เข้ามาอ่านและติดตามกระทู้นี้นะครับ ส่วนใหญ่ทุกคนก็พอจะเข้าใจในเนื่อหานะครับ ภาษาไทยครับ ผู้แปลใช้ความพยายามอย่างมากแปลและพิมพ์มาให้เราได้รับรู้กันครับ บางส่วนถ้าคุณงง หรือไม่เข้าใจก็ปล่อยผ่านไปได้ครับ เพราะเนื่อหาเยอาะ ถึงแม้ว่าจะเข้าใจก็ไม่สามารถจำได้หมดหรอกครับ แต่ถ้าคุณแนะนำให้เรียบเรียงใหม่ ผมว่าคุณต้องดูปริมาณของข้อความที่ผู้แปลทำงานเพื่อส่วนรวมก่อนนะครับว่ามันมากขนาดไหน คงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะเรียบเรียงใหม่เพื่อให้คุณเข้าใจเพิ่มอีกคนเดียว ที่ผมเข้ามาอธิบายเพราะว่าอยากให้คุณเข้าใจผู้แปลทุกท่านนะครับว่าข้อความแต่ละชุดที่แปลมันยาวมาก และยังต้องพิมพ์ลงในกระทู้ให้อีก ถือว่า พวกเราคนอ่านไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้วนะครับ ที่มีคนยอมทำเพื่อส่วนรวมนะครับ ก็อยากให้เข้าใจประมาณนี้ครับเลยเข้ามาอธิบายแทน ในมุมมองของผู้อ่านคนนึงครับ และก็ขอโทษด้วยนะครับถ้าประโยคใดทำให้คุณรู้สึกไม่ดี

 

ขอขอบคุณคุณ elmaun ที่ช่วยตอบแทนนะครับ
มันเป็นประมาณนั้นจริงๆนั่นแหละครับ

และถ้าผมจะขอตอบสั้นๆตรงนี้ก็จะประมาณว่า
พวกเราทำสุดความสามารถแล้วหละครับ

และอีกประเด็นหนึ่งที่จะต้องไม่ลืมก็คือ
ตัวผู้อ่านเองด้วย ถ้ายังไม่คุ้นเคยข้อความประเภทนี้
ที่พูดถึงเรื่องใหม่ๆเหล่านี้ มาก่อนเลย ก็ยากที่จะเข้าใจครับ
ดังนั้น ต้องอ่านเยอะๆ แล้วประเด็นที่สงสัยอยู่
มันก็อาจจะไปปรากฎคำตอบอยู่ในเนื้อหาส่วนอื่นๆก็ได้นะครับ

และผมรับรองได้เลยว่า ข้อความจากต่างมิติที่เป็นของจริงทั้งหมด
ไม่ว่าจะมาจากรูปธรรมชีวิตไหนก็ตาม และสื่อสารผ่านใครมาก็ตาม
จะมีเนื้อหาสอดคล้องไปทำนองเดียวกันทั้งหมด แทบทุกประเด็นครับ

ลองเปิดใจศึกษาดูนะครับ
............................................

 

THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 201
October 20-27 2013
วันที่โพสท์ Tue 22/10/2013
ผู้แปล: อจิตตะ

เมื่อคุณมองไปที่กระจก คุณคงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวคุณกำลังเกิดขึ้น
สีหน้าคุณเริ่มแสดงออกถึงความสดใส
และกับบางสิ่งบางอย่างที่อธิบายได้ยากรอบๆตัวคุณ
ซึ่งคุณสามารถรับรู้ได้
นี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับทุกครั้งที่ความสำเร็จ
ในการจัดการกับความเชื่อและกับข้อมูลเก่า ๆ ด้วย"การปล่อยมันไป"ซะ
จึงทำให้แสงสว่างสามารถดูดซึมเข้าสู่ระบบปฏิบัติการของมนุษย์ได้
ซึ่งคุณๆหลายคนก็ได้มีสนามพลังแห่งแสงสว่างนี้รอบๆตัวคุณในทุกที่ที่คุณไป
ถึงแม้มันจะไม่ค่อยรู้สึกสักเท่าไหร่
แต่ก็ขออวยพรให้กับผู้ที่มีสนามพลังนี้แล้วได้ปฏิบัติเพื่อความก้าวหน้าต่อไป

เราก็รู้ว่ามันไม่ง่ายหรอกที่จะต้องเผชิญหน้ากับตัวเองกับกระบวนการเหล่านี้
ในการยอมรับและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณในขณะนี้
แต่ยังไงก็ขอชมเชยในความกล้าหาญและความตั้งใจจริง
ที่คุณแต่ละคนได้แสดงออกมาในสไตล์ของความเชื่อแบบเก่า ๆในส่วนลึกของคุณ
สิ่งสำคัญที่จดจำคือ “คุณคือแสงสว่างที่มาทำหน้าที่ที่คุณเป็นอยู่ “
และคุณคุณต่างก็เป็นด่านหน้าของทางเดินสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
บางครั้งคุณต้องทนเหงา เดียวดายกับการทำหน้าที่นี้
ซึ่งก็รู้อยู่ว่า มันได้ส่งผลให้กับกลุ่มคนที่มีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันของคุณ
ที่เป็นจิตวิญญาณที่มีพันธสัญญาร่วมกันที่จะมาเล่นบทบาทในการกระตุ้น
เพื่อช่วยจุดชนวนให้ผู้คนอีกหลาย ๆ ระดับได้มีการปลดปล่อย
และพิจารณาใคร่ครวญในขณะที่ยังอยู่ในกระบวนการเลื่อนระดับนี้...

บทบาทเหล่านี้ได้มีการตกลงร่วมกันมาก่อนแล้วว่า
จะนำ”การปลดปล่อย”มาแทนที่
พื้นที่ที่พวกเขาได้ยึดมั่นไว้คืนจากก้นบึ้งของความทรงจำ
ยังมีอะไรอีกมากมายที่บุคคลเหล่านี้ต้องเรียนรู้และก้าวต่อไป
ความสบายอกสบายใจจะเกิดขึ้นกับคุณ ก็ด้วยการรู้จักถ่อมเนื้อถ่อมตัว
ในขณะที่คุณเป็นครู และ เป็นนักเรียนในบางครั้ง
ซึ่งตลอดกระบวนการนี้ บางครั้งคุณก็เป็นครูบางครั้งคุณก็เป็นนักเรียน
การเกิดขึ้นของระดับการเรียนรู้ที่สูงขึ้นและความเข้าใจ
จะส่งผลให้เกิดการขยายตัวในเรื่อง “ความเข้าใจ”
“ความเห็นอกเห็นใจ” และ “รับรู้ถึงความรู้สึกของคนอื่นได้ “

มนุษย์ได้รับการประทับตราจากโลกทัศน์เก่าแล้วทุกคน
และทุกคนบนโลกก็กำลังดิ้นรนที่จะออกจากข้อจำกัดเหล่านี้
เพื่อการขยายตัวสู่ความเป็น”ปัจเจก”
ซึ่งก็แล้วแต่เงื่อนไขที่มาที่ไปของแต่ละคน
และการขยายตัวของความเป็นปัจจเจกนี้
ก็สามารถไปแทนที่ในจิตสำนึกทั้งมวลของมนุษย์ได้ด้วย
ซึ่งตอนนี้อิทธิพลของด้านดีได้แทรกซึมสู่ระบบ the crystalline grid
และได้ล้อมรอบโลกคุณแล้ว
the crystalline grid system คือโครงข่ายของการสื่อสาร
ที่ขณะนี้มีอิทธิพลต่อระบบความคิดของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้
และพลังและอิทธิพลของthe crystalline grid system ก็กำลังเติบโตและขยายตัว...
ซึ่งทุกคนสามารถปรับจูนให้เข้ากับโครงข่ายนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวเองได้

ระบบสื่อสารเหล่านี้ บัดนี้ได้พร้อมให้ทุกคนบนดาวเคราะห์ดวงนี้ได้ใช้งานแล้วตลอดเวลา
ในขณะที่คุณฝึกที่จะนำแสงสว่างส่องสู่ใจคุณเองทุกวัน
เพื่อเป็นการยกระดับการสั่นสะเทือนและระดับคลื่นความถี่ของตัวคุณเอง
การขยับตัวของ “ปัจเจก” ได้ส่งผลกระทบต่อระบบโครงข่ายทั้งหมด
เพื่อช่วยหาเส้นทางเชื่อมโยงสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้กับเพื่อนมนุษย์ของคุณเพิ่ม
และเป็นการขยายพลังและขีดความสามารถของ crystalline grid system. บนโลกใบนี้ด้วย
เส้นทางของแสงสว่างและพลังงานยังสามารถขยายและพัฒนาได้อีก
ด้วยกำลังขยายของพลังจากความคิดในด้านดีและกุศลจิตที่เต็มไปด้วยความตั้งมั่น
ทั้งการสวดมนต์ ตั้งอธิฐานจิตของทุกคนบนโลกนี้...

It behoove each person to make sure
that their contribution to the new grid system
is one that is life enhancing for all.


Until next week…
I AM Hilarion
©2013 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included. WELCOME! - The Rainbow Scribe Thank you for including the above website link when posting this message. HILARION 2013 - The Rainbow Scribe <

 

ขอบคุณด้วยใจจริง ขอบคุณมากครับ (LOVE)

 

THE CONNECTED UNIVERSE :-( น่าสนใจครับ )-:​

​

​

นี่เป็นตัวอย่างภาพยนตร์สารคดีที่จะเกิดขึ้นอีกเรื่อง เพื่อที่จะอธิบายถึงทฤษฎีทางฟิสิกส์ใหม่ๆ
การเชื่อมโยงถึงกันของทุกสรรพสิ่งในระดับกายภาพและพลังงาน ทฤษฏีเกี่ยวกับ"แรงโน้มถ่วงเชิงควอนตัม
และ กระบวนการสร้างมวลโฮโลแกรม" Quantum Gravity and the Holographic Mass"

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=bn35qoCjLYA]THE CONNECTED UNIVERSE - YouTube[/ame]​

จากเวปไซท์นี้ครับ The Resonance Project Foundation - Home​

 

ผมจะติดตามครับ ยังไงรบกวนแปลเป็นภาษาไทยให้ด้วยนะ ผมแปลไม่เป็นครับ ขอบคุณครับที่แบ่งปัน

 

วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงได้รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน
ทั้งๆที่เมื่อเช้านี้นอนทำสมาธิได้ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว
คือนอนทำสมาธิแบบไม่หลับเลย ได้นานหนึ่งชั่วโมงกับอีกราวๆ 25 นาที

และก็..ได้ประสบการณ์ที่ลึกล้ำมากกว่าปกติด้วยนะครับ
คือสัมผัสถึงความเชื่อมโยงระหว่างกายเนื้อของตัวเอง
กับ "แหล่งกำเนิดพลังงานของตัวเอง" ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
รู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของแสงสว่าง
ที่มีความรู้สึกนึกคิด และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

ในอ้อมกอดนั้น มันไม่มีเลยความกลัว ความกังวล และความรู้สึกด้านลบต่างๆ
แถมมันยังนึกอะไรออกมากมายในขณะที่เวลาปกติเราจะนึกไม่ออกด้วย
เช่น เราจะมองเห็นเรื่องที่กำลังทำให้เราวิตกกังวล และเป็นทุกข์อยู่นี้
ว่าเป็นมายาการ หรือเป็นสิ่งสมมุติ ที่ทั้งเขาและเรา ต่างเสแสร้งแสดงกันขึ้นมา
เพื่อเป็นบททดสอบให้กับตัวเราเอง อะไรแบบนั้นหนะครับ

แต่ว่า..พอลุกขึ้นมาจากสมาธิเสร็จเท่านั้นแหละ เพียงไม่นาน
ความรู้สึกนึกคิดแบบมิติที่ 3 ของร่างกายเนื้อที่มี ego ครองอยู่นี้
มันก็กลับไปวิตกกังวล และเหนื่อยล้าอย่างที่บอกไปแล้ว อีกตามเคยครับ


และพักนี้ ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ พลังกุณฑลิณีจะพุ่งขึ้นมามากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเสียววูบวาบไปหมดทั้งตัวเลยหละครับ โดยเฉพาะบริเวณกลางศรีษะ
เหมือนว่า "ตาที่สาม" ใกล้จะเปิดแล้ว..ซึ่งหลายคนก็กำลังอยู่ในเฟสเดียวกับผมอยู่
เพราะว่า มีบางคนเล่าให้ผมฟังทำนองว่า ตาที่สามกำลังจะเปิดแล้วเหมือนกันครับ

เพราะว่า ช่วงนี้ หลายคนอาจจะมีอะไรบันดาลใจ ให้นึกถึง "รูปดวงตา"
หรือให้ฝันถึง "ดวงตา" หรืออะไรที่เกี่ยวกับ "ตา" แบบนั้นหนะครับ


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ประกอบกับข้อความจากต่างมิติ..อีกแล้ว..บังเอิญไปหรือเปล่าเนี่ย
ก็พูดไปในทำนองนี้อีกเช่นเดียวกันครับ..เช่น ข้อความล่าสุดที่ส่งถึง
นาย Shedan Nidle เป็นต้น..

Sheldan Nidle - October 22, 2013

สรุปใจความสำคัญบางส่วน ก็จะได้ความว่า ตอนนี้ ร่างกายส่วนบนของมนุษย์โลก
กำลังได้รับการปรับแต่งอยู่ ซึ่งรวมถึงจักระที่ 7,6,5 ดังนั้น หลายคนจึงอาจจะ
กำลังประสบกับอาการแห่งการปรับแต่งเหล่านี้อยู่ เช่น เวียนศรีษะ หลงลืมมากขึ้น
หรือแม้แต่มีปัญหาด้านการพูดชั่วคราว สายตาพร่ามัว ปวดศรีษะ อะไรแบบนั้นเป็นต้น

แต่อาการเหล่านี้ก็เป็นเพียงอาการชั่วคราวเท่านั้น แล้วจากนั้น ส่วนบนของร่างกายเรา
ก็จะถูก upgrade และส่วนต่อไป ก็จะถูกปรับแต่งตามไปด้วย เป็นขั้นตอนต่อไป
ซึ่งเขาบอกว่า ส่วนต่อไป คือ บริเวณที่ได้รับผลกระทบจากพลังงานที่ถูกส่งมาถึงเรา
ทาง silver cord ของพวกเรามากที่สุด แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงส่วนไหนหนะนะครับ

และดังนั้น เพราะการปรับแต่งที่ว่านี้ หลายคนก็จะมีความฝันที่ชัดเจนมากขึ้น
และมีระดับความสั่นสะเทือนของกายเนื้อสูงขึ้น และทำให้มีความคาดหวัง
ในระดับที่สูงขึ้นด้วย

ส่วนข้อความจากเหล่าคุรุผู้รู้แจ้งที่อยู่ในข้อความเดียวกันนี้
ก็มีส่วนที่น่าสนใจ และน่าปวดใจ อยู่ก็ตรงที่ว่า

"มันเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะต้องปลดปล่อย
สิ่งที่พันธนาการพวกคุณเอาไว้กับโลกใบนี้อยู่ให้หลุดออกไป

จงมองกลับเข้าไปข้างใน แล้วยินยอมให้ความกลัวทั้งหลายสงบลง
แล้วหายไปจากใจของพวกคุณ ดังนั้น สิ่งที่จะคงเหลืออยู่
ก็จะมีแต่ความเชื่อมต่อของพวกคุณที่มีโดยตรงต่อ I am Present
ของตัวของพวกคุณเอง

จงเรียนรู้ที่จะสนทนากับตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเอง
ซึ่งก็คือผู้ที่พวกคุณเป็นจริงๆ ซึ่งมันก็คือความกล้าหาญ,
ความมีสติปัญญา, และความสามารถในการดำรงชีวิตอยู่ภายในสัจธรรม
ที่สรวงสวรรค์ได้มอบไว้ให้กับพวกเรา

จงเรียนรู้ที่จะนำเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้มา มาใช้ประโยชน์

จงเป็นคนที่สามารถจดจ่ออยู่ภายในภูมิปัญญาอันนี้ได้
และจงเนรมิตรสิ่งที่พวกคุณต้องการจริงๆออกมาให้ได้

ซึ่งเมื่อพวกคุณทำเช่นนี้แล้ว ก็เท่ากับว่า
พวกคุณกำลังยกระดับความสั่นสะเทือนของชีวิตของตัวเองขึ้นมาอยู่
และก็กำลังเป็นผู้ที่พวกคุณเป็นจริงๆอยู่"

แต่ที่ผมบอกว่ามันน่า "ปวดใจ" ก็เพราะว่า พักนี้ ในหัวผมจะถูกย้ำเตือน
ถึงข้อความทำนองนี้อยู่บ่อยมากๆ ไปไหนก็เจอ อ่านอะไรก็จะบังเอิญไปเจอ
ฝันก็ฝันถึงแต่อะไรทำนองนี้หนะครับ มิหนำซ้ำ ข้อความที่กำลังแปลค้างอยู่นี่
ก็ตอกย้ำอยู่แต่กับข้อความประโยคนี้ทั้งนั้นเลย

เพราะว่า..ผมยังทำไม่ได้ ผมอ่านแล้วผมก็เข้าใจอยู่หรอก
แต่ว่า ไอ้ครั้นจะให้ทำให้ได้หนะ มันก็..ยังไงดีหละ
คือมันยังมืดแปดด้านอยู่เลย

โดยเฉพาะที่บอกว่า ให้ปล่อยความกลัวทิ้งไป
ให้จดจ่ออยู่แต่กับสิ่งที่เราต้องการจริงๆ
อย่าไปคิดวิตกกังวลถึงเรื่องที่เราไม่อยากจะให้เกิดขึ้น..นี่
ผมเป็นประจำเลย คือมันจะผุดขึ้นมาเอง วิตกขึ้นมาเอง อะไรแบบนั้น


จนในฝันเมื่อสองคืนก่อน เลยมีข้อความส่งมาบอกเป็นนัยๆ เพื่อมาย้ำเตือนอีกที
ผมฝันเห็นพระเอกในหนังการ์ตูน แต่ภาพที่เห็นเป็นตัวคนจริงๆ จำนวนหลายคน
เช่น พระเอกเรื่อง "หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ" และเรื่อง "Dragon Ball" เป็นต้น



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ในฝันนั้น ทุกคนรูปร่างสูงใหญ่ ล่ำสัน และแข็งแกร่งมากๆ ครับ
ซึ่งถ้าใครเคยดู หรือเคยอ่านการ์ตูนที่ผมกล่าวถึงมาบ้างแล้ว ก็คงจะพอรู้นะครับว่า
โอ้โห..อย่าให้พากษ์เลย เพราะว่าแต่ละคนนั้น เก่งกาจเหลือเชื่อ
มีพลังมากมายมหาศาล เหลือเชื่อ ผิดมนุษย์มนาอย่างมากเลยทีเดียว

และนั่นแหละ พระเอกเหล่านี้แหละ ก็คือตัวผมเอง และพวกเราหลายๆคนหละ

แต่ที่เห็นในฝันก็คือ พระเอกพวกนี้ เดินมาพร้อมอาวุธครบมือ มาถึงตึกหลังหนึ่ง
ซึ่งในฝันนั้น ตึกหลังนี้ คือบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง ของเจ้าพ่อรายใหญ่คนหนึ่ง
ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของเหล่าฮีโร่เหล่านี้

ที่น่าแปลกก็คือ ในความรู้สึกในฝันนั้น พระเอกเหล่านี้ มาจากมิติอื่น
ซึ่งในมิติที่พวกเขาเคยอยู่นั้น มันก็มีเจ้าตึกเดียวกันนี้อยู่เหมือนกัน
รูปร่างตึกก็เหมือนกัน เป็นของเจ้าพ่อคนเดียวกันด้วย เพียงแต่ว่า
รายละเอียดของตึกมันเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง คือ ในมิติที่พวกเขาเคยอยู่นั้น
ตึกหลังนี้เป็นสีขาว ส่วนในมิติที่ผมเห็นในฝันนี้ ตึกเป็นสีดำ
และตรงประตูทางเข้าทุกบาน จะมีหุ่นยนตร์สีดำ ติดอาุวุธ รักษาการอยู่อย่างหนาแน่น

และในมิติที่พวกเขาเคยอยู่นั้น พวกเขาแต่ละคน ก็เคยไปถล่มตึกหลังนี้มาแล้ว
จนราบเป็นหน้ากอง จนไม่มีชิ้นดี และอย่างง่ายดายด้วย

แต่ในฝันนั้น พอพวกเขาเดินมาถึงตึกที่อยู่ในมิตินี้แล้ว
พอมียามรักษาการเพียงแค่คนเดียว เอาปืนมาจี้พวกเขาซึ่งมากันนับสิบคน
ให้วางอาวุธลงเสีย แล้วเข้าไปในกรงขังซึ่งอยู่ในตึกอันนั้นเสีย
พวกเขากลับยอมวางอาวุธเสียโดยดี แล้วก็ยอมเดินเข้าไปในกรงขังอย่างว่าง่าย
มิหนำซ้ำ ภายในกรงขังนั้น ดูเหมือนจะเป็นกรงขังขนาดใหญ่
ที่มีการบังคับให้ทำงานหนักแบบงานกรรมกรอยู่ด้วย
พวกเขาก็ถูกบังคับให้ทำงานเหล่านั้นอย่างไม่ขัดขืน

จนทำให้ผมงงว่า ทำไมพวกเขาถึงไม่ลึกขึ้นมาต่อสู้นะ
เพราะว่าเพียงแค่พวกเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละ ใครก็ได้
ก็สามารถถล่มตึกทั้งตึก และฆ่าเจ้าพวกโจรกระจอกพวกนี้
ได้ด้วยมือเปล่าเพียงข้างเดียวเสียด้วยซ้ำไป
นี่จะนับประสาอะไรกับฮีโร่นับสิบแบบนี้

ก็..นี่แหละครับ..ข้อมูลในฝันก้บอกเป็นนัยอยู่แล้ว
เหมือนอย่างที่ข้อความจากต่างมิติพูดเอาไว้เสมอเลยหละครับ
ว่า ตัวตนที่แท้จริงของพวกเราหนะ คือ จิตวิญญาณ ที่มีพลังอำนาจไร้ขีดจำกัด
เพียงแต่ว่าพวกเราได้หลงลืมตัวตนที่แท้จริง
ของพวกเราไปจนหมดสิ้นแล้ว เท่านั้นเอง
จึงทำให้พวกเรามองเห็นปัญหาอุปสรรค เล็กๆน้อยๆ
ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราอยู่นี้
เป็นเรื่องใหญ่ไปได้...

เฮ้อ..แล้วทำไงหละเนี่ย..ถึงจะจำได้ซะที?
.......................................................

 

อนุโมทนาสาธุ...คุณชยุตเคยศึกษาธรรมในแนวทาง..หลวงพ่อพุทธ ฐานิโยมัย..ท่านอธิบายสภาวะธรรมได้แจ่มแจ้งจริงๆ...

 

ก็...ไม่ต้อง "พยายาม" สิคะ

คุณชยุต
เป็น คุณชยุต
ก็ดี...ที่สุดอยู่แล้ว...


อะไรที่เป็นอยู่...ก็ดีอยู่แล้ว
จะจำได้ จำไม่ได้....แล้วงัย...

ฉัน...เป็น...ฉัน...
ดีที่สุดแล้ว...

เนอะ!!!!

 

ช่วงนี้หลับสนิท ฝันได้แจ่มใช่ดีมาก อิอิ แต่พอตื่นขึ้นมาได้สักพักมันจะรู้สึกว่าร่างกายออ่นเพลีย เหนื่อยๆ แล้ว เวลาพิมพ์อะไรลงในคีบอร์ด ตามที่เราอยากพิมพ์แต่นิ้วมันพิมพ์ผิดเยอะมาก จนน่าแปลกใจ 5555