ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

เอประโยคนี้ ก็มีคนส่งมาให้เหมือนกันค่ะ เมื่อวันก่อนนี้เอง
ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเริ่มต้นสร้างสรรค์ประโยคที่สำคัญขนาดนี้ขึ้นมานะคะ
เปี่ยมไปด้วยความหมายจริงๆค่ะ ขอชมด้วยใจ อิอิอิ

 

ผมขออนุญาติเล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังหน่อยน่ะครับ
คือเมื่อวานผมไปเก็บข้อมูลวิจัยที่จังหวัดสตูลมาครับพอไปเก็บข้อก็โดนชาวบ้านที่นั่นเค้าด่าและก็ดูถูกเหยียดหยามไม่ให้ความร่วมมือครับที่น่าแปลกคือผมเฉยๆไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์นั้นเลยผมทำตัวสบายกับเหตุการณ์นั้นครับถ้าเป็นก่อนหน้านั้นผมคงสงสัยว่าทำไมไม่ให้ความร่วมมือทำไมต้องด่าผมด้วยดูถูกอีกต่างหากแต่ตอนนี้ผมสบายมากเพราะอะไรน่ะเหรอครับเพราะข้อความของท่านมหาเทพเมตาตรอนได้สอนเกี่ยวกับเรื่องการวางอุเบกขาและความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติสิ่งที่ท่านสื่อสอนมานั้นล้วนใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งสิ้นครับลองไปปรับใช้กันดูน่ะครับแค่เราลอยตัวเหนือสถานการณ์นั้นโดยไม่ต้องเข้าไปมีอารมณ์ร่วมเป็นผู้สังเกตุการณ์ที่วางเฉยเท่านี้เราก็ผ่านไปได้แล้วครับ ผมทำอย่างนี้จนเพื่อนผมเองเข้ามาถามว่าทำไมใจเย็นจัง ใจเย็นมากเลย ^_^

 

มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วกับพวกเราจริงๆค่ะ เซนจู
ประมาณสิบวันก่อนมั๊งที่บ้านเกิดเรื่อง
ค่อนข้างใหญ่เชียว
แต่โอ๋กลับใจเย็นมาก จนแม่รู้สึกว่าเราเป็นที่พึ่งให้ท่านได้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน โอ๋จะเหมือนลูกแหง่ค่ะ อะไรก็ให้แม่ออกหน้าตลอด
แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้สิคะ รู้สึกเราเข้มแข็งมากกว่าแต่ก่อนซะอีก
ไม่กลัวอะไร มองทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ ต้องผ่านไปก็แค่นั้น
อิอิอิ (เซนจูไม่ได้เปลี่ยนคนเดียวหรอกค่ะ)

 

เห็นน้องๆเรียกร้องจะฟังเรื่องความรักกัน
ก็เลยว่าจะขอเล่าอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ฟังซะหน่อยดีกว่า
ในขณะที่รอคุณโซ่ และคุณเดรดแปลข้อความต่างมิติอยู่

พอดีว่าช่วงนี้ก็หน้าหนาวแล้วเน๊าะ..ซึ่งเป็นฤดูที่ผมไม่ค่อยชอบนัก
เพราะว่าจะอกหักช่วงหน้าหนาวประจำเลย..ฮือฮือ..

ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนผมหรือเปล่านะครับ
คือผมจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่ออากาศหนาวที่รุนแรงมาก
ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ จนงงตัวเองอยุ่เหมือนกันครับ

ทางด้านร่างกาย ก็..ถ้าเบาะๆก็จะอ่อนเพลียไปหมดเลย
จากนั้นถ้าหนาวนานๆต่อไปอีก ก็จะมีอาการป่วยแบบแพ้อากาศ
ขี้มูกขี้ตากรังไปหมด ผิวแตก หน้าลอก ปวดเกร็งในช่องท้อง
กินข้าวไม่ค่อยได้ ระบบหัวใจ ระบบทางเดินอาหารปั่นป่วนไปหมด
และถ้าหนาวนานๆ ก็จะป่วยนอนซมไปเลยหละครับ

ส่วนเรื่องทางจิตใจก็จะรู้สึกโหวงเหวงกับสายลมหนาว
ที่มันพัดพาเอาใบไม้แห้งๆปลิวไปต่อหน้าเรา
มันทำให้รู้สึกเหงาและเยือกเย็นจับขั้วหัวใจดีจริงๆ
แล้วในช่วงเวลาแบบนี้ มันก็จะรู้สึกโหยหาความอบอุ่นมากกว่าปกติ
จนช่วงเป็นวัยรุ่น จะอยู่คนเดียวในช่วงหน้าหนาวไม่ค่อยได้
ต้องออกไปหาเพื่อน ออกไปเที่ยว หรือไปไหนก็ได้ที่ไม่ต้องอยู่คนเดียว

และเพราะว่าอารมณ์-ความรู้สึกในช่วงหน้าหนาวนี้มันปั่นป่วนรุนแรง
จึงทำให้อารมณ์ศิลปินเจิดจ้ามากกว่าปกติด้วย ดังนั้น บางช่วง ในช่่วงวัยรุ่น
ผมก็จะนั่งแต่งกลอนพรรณาพรั่งพรุความรู้สึกต่างๆออกมาได้เป็นเล่มๆเลยทีเดียว

และเพราะว่าอารมณ์แบบนี้เอง ที่ทำให้ช่วงนั้น ผมเปราะบางต่อความรักมากๆ
ก็เลยรักใครรักง่ายมาก รักแบบโรแมนติก อารมณ์มันจะสุนทรีย์ ละเมียดละมัย
ครุกลุ่นไปด้วยกลิ่นไอแห่งความห่วงหาอาทร และสิเหน่หาอย่างมากมายล้นเหลือ

แต่ก็อีกนั่นแหละ..เพราะว่าอารมณ์มันมากล้นเกินไป
มันก็เลยเปราะบางแตกหักง่ายด้วย มันจึงผิดหวังและอกหักได้ง่ายๆตามไปด้วย
เพราะฉะนั้นแล้ว ผมจึงเป็นคนที่มีประสบการณ์เรื่องอกหักค่อนข้างมากคนหนึ่งเลยทีเดียว

เฮ้อ..นี่หน้าหนาวก็หวนกลับมาอีกแล้ว..แม้ว่าปีนี้ ที่นี่ จะไม่หนาวเท่าเมืองไทยก็ตาม
แต่ก็พอทำให้ความรู้สึกเดิมๆกลับมาเยือนใหม่อีกครั้งหนึ่งได้บ้างเหมือนกัน
แต่ว่า..ก็แค่ 1/10 ของสมัยก่อนหนะนะครับ เพราะตอนนี้ก็เข้าใจชีวิตมากขึ้นแล้วด้วย

ตอนนี้ผมมองชีวิตว่ามันเหมือนเป็นละคร หรือ โรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัยมากกว่า
ที่ไม่มีอะไรจะต้องไปยึดติดมากนัก ที่จะมีก็แต่ทำให้มันมีคุณค่ามากที่สุด
กอบโกยเอาแสงสว่างกลับไปให้ได้มากที่สุด โดยผ่านทางประสบการณ์ชีวิตนี่แหละ
โดยอาศัย ความรัก การให้อภัย การเอื้ออาทรต่อผู้อื่น ความเมตตา-กรุณา
การเสียสละ ความอดทน ความกล้าหาญ และ ฯลฯ ทั้งหลาย

........................................................

 

มาอ่านข้อความของแต่ละท่านในกระทู้นี้ทีไร บอกตรงๆค่ะว่า อมยิ้มตลอด ชื่นใจ มีความสุขค่ะ

;aa31

เดี๋ยวขอโพสต์ข้อความที่แปลมาต่อเลยนะคะ *-*

 

เห็นป่ะหล่ะ ประสบการณ์พี่ๆเรา ธรรมดาซะที่ไหน
ว่าแต่พี่น่าจะเอ็นเข้าเรียนด้านศิลปมากกว่านะเนี่ย
น้องว่าเพื่อนน้องเป็นศิลปินสุดๆ เจอพี่ไปก็หนาวเหมียนกัลล์ อิอิอิ

 

ข้อความการสื่อสารจาก SaLuSa
เมื่อ 12 ธันวาคม 2554
โดย Mike Quinsey

ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/mike12-12-11.html



ตอนที่ 1


การรอคอยนั้นยาวนาน และเป็นการบ่งบอกถึงระดับความศรัทธากับ
ความสามารถของพวกคุณในการจดจ่ออยู่กับทุกสิ่งที่เป็นแสงสว่าง
เพราะสิ่งที่ทำให้จิตใจวอกแวกนั้นมีอยู่มากมาย
รวมไปถึงแหล่งต้นตอที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้นโดยตั้งใจที่จะทำให้ผู้คนเกิดความงุนงงสับสนได้ก็มีอยู่มากมายเช่นกัน
ถึงกระนั้น พวกคุณก็มีสติปัญญามากขึ้นเรื่อยๆ
และสามารถวินิจฉัยแยกแยะสิ่งที่เป็นแสงสว่างจริงๆได้

มีการแปลความหมายของเหตุการณ์ทั้งหลาย ซึ่งถูกจัดเรียงให้เกิดต่อเนื่องกัน
เพื่อผลักดันพวกคุณสู่การเลื่อนระดับขึ้น(Ascension)ไปต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ใดก็ตาม
แต่สิ่งสำคัญก็คือ พวกคุณมองเห็นถึงการเลื่อนระดับอันเป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
รวมถึงการที่พวกคุณมองเห็นว่าวิธีการใดก็แล้วแต่ที่ทำให้พวกคุณไปถึงเป้าหมายอันนั้น
ไม่ใช่ประเด็นที่พวกคุณควรจะนำมาโต้เถียงวิวาทระหว่างกันไปมา

การเปิดรับสิ่งที่แตกต่างออกไปในอันที่พวกคุณไม่เคยรับมาก่อนนั้น เป็นผลดีกับตัวคุณอย่างแน่นอน
เพราะแผนงานและจังหวะที่เหมาะสมต่างๆถูกปรับเปลี่ยนได้ตลอดไม่ว่าจะเป็นตอนไหน
พวกคุณรู้ถึงเรื่องนี้ดีมากอยู่แล้ว แต่ก็ขอให้เข้าใจเถิดว่า
บางครั้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆก็จำเป็นต้องเกิดขึ้นมา
เพื่อปรับการกระทำทั้งหลายของพวกคุณให้เป็นไปอย่างสอดคล้องและมีประสิทธิภาพดีที่สุด

ขณะที่ฝ่ายมืดทั้งหลายกำลังถูกบีบให้ล่าถอย
พวกเขาก็ได้ทิ้งร่องรอยของเหตุการณ์ในการพยายามต่อสู้ที่ล้มเหลวของพวกเขาไว้อย่างหนึ่ง
เพื่อก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้น
พวกเราได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่เพื่อป้องกันการพยายามต่อสู้ทุกอย่างของพวกเขา
และตอนนี้พวกเราก็ได้รับอำนาจสิทธิแห่งพระเจ้าในการใช้กรรมวิธีต่างๆที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อทำการปกป้อง
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ตาม
พวกเราก็ดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้คนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย



ดังที่พวกคุณอาจนึกภาพขึ้นได้ว่า หลังจากพวกคุณเข้าปี 2012 ไปแล้ว
ก็จะมีการคาดเดาไปต่างๆนานา และบางครั้งก็เป็นความคิดเห็นที่เป็นผลเสียต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนั้น

การบอกไว้ล่วงหน้าของชาวมายัน(the Mayan prophesies)
จะถูกใช้ไปตามแต่ความเชื่อทั้งหลายของผู้ที่ครุ่นคิดอยู่ในเรื่องนี้
และอย่างที่คุณรู้นั่นแหล่ะว่า
หลายๆคนจะแปลความหมายช่วงเวลาแห่งการสิ้นสุด(the end time)ว่าเป็นจุดจบของโลก

สิ่งสุดท้ายที่พวกเราต้องการจะเห็นก็คือ ความคิดที่สามารถทำให้เกิดความกลัวขึ้นในพวกคุณได้
แต่มันก็เหมาะกับบางกรณีที่มาจากเพราะพวกเขาเชื่อสนิทใจไปแล้วว่า
ในจุดจบนั้นเป็นการลงทัณฑ์จากพระผู้เป็นเจ้าต่อความชั่วร้ายทั้งหลายบนดาวโลก
ถึงกระนั้น พวกเราก็ต้องการที่จะย้ำว่า
จะไม่มีการทำลายล้างครั้งใหญ่และไม่มีการสูญเสียชีวิตอย่างมากมายมหาศาลหรอก
นั่นไม่ได้เป็นแผนที่วางไว้เลย

และเนื่องจากพระเจ้าคือความรักอันบริสุทธิ์สมบูรณ์(God is All Love)
มันจึงชัดเจนว่าพระเจ้าจะไม่หมดรักแบบพระเจ้าไปหรอกไม่ว่าสถานการณ์แวดล้อมจะเป็นไปเช่นไรก็ตาม

พวกคุณทั้งหมดล้วนคือประกายความเป็นพระเจ้า(Godsparks)
และไม่ว่าจะอย่างไร พวกคุณก็จะยังคงเป็นนิรันดร(immortal)อยู่ตลอด



.............

 

ข้อความการสื่อสารจาก SaLuSa
เมื่อ 12 ธันวาคม 2554
โดย Mike Quinsey

ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/mike12-12-11.html



ตอนที่ 2


ช่วงเวลาแห่งการสิ้นสุดจะนำมาซึ่ง “การจัดประเภท(sorting out)”
เพราะวิญญาณทั้งหลายจะถูกนำตรงเข้าสู่เส้นทางซึ่งกำลังจะทำให้พวกเขาเดินหน้าวิวัฒน์ต่อไปได้เรื่อยๆ
ตามระดับการสั่นสะเทือนที่พวกเขาเป็นอยู่แล้ว
มันจะไร้ซึ่งจุดประสงค์หรือไร้ประโยชน์ หากว่าวิญญาณทั้งหลายถูกจัดไปอยู่ในมิติหนึ่ง
ซึ่งเข้ากันไม่ได้กับระดับจิตสำนึกของพวกเขา

ดังนั้น จงอย่าเป็นห่วงวิญญาณอื่นๆไปเลย และจงจำไว้ในใจว่า
ในที่สุดแล้ว ทุกวิญญาณจะค้นพบเส้นทางที่ไม่ยอมเป็นไปตามเจตจำนงอิสระของพวกเขา(not compromise their freewill)
เพราะพวกคุณรู้อยู่ก่อนหน้ามาถือกำเนิดเป็นมนุษย์แล้วว่า
ผลลัพธ์จะเป็นสิ่งใดและรู้อยู่แล้วว่าพวกคุณกำลังมุ่งไปหาอะไร
ดังนั้น ไม่มีวิญญาณใดผิดหวังหรอก

พวกเรารับทราบได้ว่า หลายๆคนอยากที่จะมีพันธะและความสัมพันธ์ต่างๆกับดาวโลกต่อไป
และแม้ว่าสายใยเชื่อมต่อแห่งความรักจะยังคงอยู่
แต่การปล่อยไปสู่ความแตกต่างก็ต้องเกิดขึ้น
อันเป็นการมอบอิสรภาพแบบองค์รวมของการเลือกให้กับแต่ละวิญญาณ

มนุษย์นั้นเน้นเรื่องสัญญาผูกมัดระหว่างกันแบบคู่ครองเข้มข้นมากเกินไป
จนมันถูกแปลความหมายไปในแบบที่ว่า
สิ่งมีชีวิตสักตนปรารถนาจะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือเข้าครอบครองสิ่งมีชีวิตอีกตนหนึ่งไปเสีย




ผู้คนถูกนำมาพบเจอกัน ก็เพื่อให้ความสัมพันธ์แบบต่างๆของพวกเขา
ก่อให้เกิดประสบการณ์ทั้งหลายซึ่งจะให้ประโยชน์แก่พวกเขาทุกคน
และจากชาติภพหนึ่งไปอีกชาติภพหนึ่ง พวกเขาก็จะต้องเปลี่ยนแปลงไปอยู่แล้ว

ดังนั้น ที่รักทั้งหลาย
จงพยายามสำนึกขอบคุณแก่ทุกวิญญาณผู้ท่องผ่านไปในความเป็นทวิภาวะร่วมกันกับคุณเถิด
และจงรู้ไว้ว่า คุณได้เรียนรู้ทุกอย่างจากประสบการณ์ทั้งหลายของคุณเอง
และจงจำไว้ด้วยว่า ในบางช่วงคุณก็จะสวมบทบาททั้งหมดเป็นฝ่ายมืดคนหนึ่ง

ซึ่งโดยรวมทั้งหมดแล้ว ไม่มีใครเลยที่จะพบว่าตัวพวกเขาศักดิ์สิทธิ์เหนือไปกว่าใครอื่น
อันเป็นเหตุให้พวกคุณอาจได้รับฟังมาว่า เมื่อใดที่คุณตัดสินพิพากษาวิญญาณอีกตนหนึ่ง
เมื่อนั้นคุณก็กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย(เสี่ยงต่อการตกหลุมพรางหรือติดกับดัก.../LadyOfLight)
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกวิญญาณก็จะพบแสงสว่างกับความรักของพวกเขาเอง
และจะพบว่าไม่มีหนี้กรรมใดติดตามข้ามมาให้ชดใช้จากชาติภพอื่นๆ

ในช่วงระยะใดระยะหนึ่งนั้น
แม้แต่ความทรงจำที่ไม่เป็นประโยชน์อีกแล้วต่อเป้าประสงค์ใดๆก็ตามที่เป็นประโยชน์อยู่
พวกมันทั้งหลายก็จะถูกลบออกไป

จงระลึกไว้ว่า พวกคุณต้องการได้รับประสบการณ์กับความเป็นทวิภาวะ
และใช้ตัวเองต่อสู้กับความสั่นสะเทือนแบบต่ำกว่าทั้งหลายแหล่
ซึ่งพวกคุณได้มองเห็นอยู่แล้วก่อนลงไปในนั้น

ช่วงเวลาในการต่อสู้นี้ของพวกคุณเสร็จสมบูรณ์ลงไปแล้ว
ไม่มีความจำเป็นจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในประสบการณ์พวกนั้นให้มากไปกว่านี้อีก
เพราะพวกคุณจะพิสูจน์ไปแล้วถึงความสามารถในการผ่านพ้นพวกมันไปได้นั่นเอง



............

 

เพลงโปรดของผมเลยนะครับเนี่ย 55+.. วันนี้รู้สึกไม่ค่อยจะดีเหตุเพราะเมื่อคืน ผมโดนผีหลอกครับ55+ผมไม่เข้าใจครับ ว่าผมกำลังเจอกับอะไรอยู่? แต่ผมไม่กลัว เพราะผมมีพลังรักเยอะครับ อิอิ..(ที่จริงไม่ใช่ผีหรอกครับ เป็นโทรฯยามวิกาล ประมาณเกือบๆตี1มีเสียงเรียกเข้ามา ผมกดรับสาย ไม่มีเสียงพูดครับ ไม่มีเบอร์โชว์ด้วยครับ ผมบอกฮัลโหลๆๆเขาไม่พูด แต่รับรู้เฉยๆ ผมสงสัยมาก เลยไม่วางสาย เขาก็ไม่วาง แต่ไม่พูด ผมก็ถือสายรอให้เขาส่งเสียง ซักครู่นึง เขาก็พุดว่า"หวัดดีชาวโลก (น้ำเสียงยานๆครับ) หวัดดีชาวโลก คุณคือไอ้นอกโลกใช่มั้ย? ผมตกใจมาก เพราะเป็นเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต555+ผมถามว่าคุณเป็นใคร? เขาไม่ตอบ พูดซ้ำำประโยคเดิมอีกครั้ง"หวัดดีชาวโลก คุณคือไอ้นอกโลกใช่มั้ย?แล้วเขาก็วางสายไปดื้อๆ.. ผมงงกับเรื่องนี้ทั้งวันแล้วล่ะครับ ใครพอจะตอบผมได้มั้ยฮะ?

อ่านที่พี่ชยุตบรรยายแล้ว ต้องขอหลบก่อนนะครับ55+ ศิลปินก็ศิลปินเถอะ ตกขอบไปเหมือนกันนะเนี่ย..
(อ่านแล้วต้องอมยิ้มฮะ)

 

โอ๋ โอ๋ โอ๋ อย่ากลัวเลยน้า จะบอกรัยหั้ย ถ้าคุณมีโอ๋เป็นเพื่อนก็ไม่ต้องกลัวรัยแล้ว มีคนบอกว่าโอ๋เหมือนนางมารร้ายค่ะ น่ากลัวว่าสิ่งใดๆ อิอิอิ

 

ข้อความการสื่อสารจาก SaLuSa
เมื่อ 12 ธันวาคม 2554
โดย Mike Quinsey

ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/mike12-12-11.html



ตอนที่ 3


บ้านที่แท้จริงของพวกคุณอยู่ในมิติที่สูงกว่าทั้งหลาย
ซึ่งอยู่กันอย่างสอดประสานกลมกลืนกันไปอย่างสมบูรณ์ทั่วถึงกันทั้งหมด
และนำพาชีวิตที่เบิกบานกับชีวิตอันสุขสมบูรณ์ตามที่ใจปรารถนามาให้

มายาการของมิติที่ต่ำกว่าทั้งหลายคือการสรรค์สร้างของพวกคุณเอง
และการใช้มายาการเพื่อวัตถุประสงค์จำเพาะอย่างหนึ่งจะหมดไป
โดยมายาการจะถูกทำให้ซึมหายกลับเข้าไปในความไม่ปรากฏออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม(the unmanifest)อีกครั้ง

การเลื่อนระดับขึ้นนั้นเป็นกระบวนการหนึ่งของการปรับสัดส่วนความสัมพันธ์โดยรวมให้เหมาะสมในระดับจักรวาล
และมันจะอุบัติขึ้นในลักษณะที่เป็นเหตุการณ์เดียวของทั้งองค์รวม
ซึ่งหากปราศจากการเลื่อนระดับขึ้นของดาวโลกแล้ว
กระบวนการก็จะไม่สมบูรณ์ และมันก็บอกกับคุณว่า
ในขณะนี้นั้นอารยธรรมของพวกคุณมีความสำคัญมากแค่ไหน
ตอนนี้พวกคุณเห็นหรือยังว่าเหตุใดพวกคุณจึงได้รับความช่วยเหลืออย่างมากมายเหลือเกิน
และเหตุใดพวกคุณจึงถูกเลือกให้อยู่บนดาวโลกในตอนนี้

พวกคุณคือวิญญาณที่ได้รับเลือก อันเป็นผู้ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าทำได้สำเร็จ
และทั้งๆที่มันยากยิ่งที่จะยอมรับ แต่บรรดาฝ่ายมืดทั้งหลาย
ก็เป็นผู้ที่ได้รับเลือกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้เช่นกัน



ตามสภาพความเป็นจริงของพวกคุณ พวกคุณกำลังดำรงมายาการไว้ใช้ดำรงชีวิต
แต่ประสบการณ์ทั้งหลายนั้นได้มาจริงอย่างสมบูรณ์แบบ
และเมื่อม่านเลื่อนลงมาจนปิดเวที
พวกคุณก็จะยอมรับความจริงทั้งหมดว่าทุกคนต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงต่อกันและกัน
แล้วก็เดินหน้าฉากต่อไป

ดังนั้น การเปิดเผยการมีอยู่ของชาวต่างดาว(Disclosure)
จึงยังคงเป็นส่วนจำเป็นที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของวิธีการซึ่งทำให้พวกเรามาทำงานรวมเป็นหน่วยเดียวกัน
รวมทั้งทำให้มายาการแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจนในแบบที่ทำให้พวกคุณสามารถเข้าใจได้

มันจะทำให้คุณเห็นว่า พวกคุณเปราะบางต่อพลังงานแบบต่ำกว่าทั้งหลายมากเพียงใด
พวกคุณถูกบรรดาฝ่ายมืดขโมยอิสรภาพไปต่อหน้าต่อตาได้เช่นไร
และพวกเขาทำสำเร็จไปได้อย่างไร

การเผยให้เห็นถึงเรื่องเหล่านี้จะเป็นสิ่งจำเป็นต่อการปลดปล่อยพวกคุณ
จากพลังงานแบบต่ำกว่าพวกนั้นได้ในครั้งนี้และทุกครั้งตลอดไป



..........

 

ข้อความการสื่อสารจาก SaLuSa
เมื่อ 12 ธันวาคม 2554
โดย Mike Quinsey

ที่มา : http://www.galacticchannelings.com/english/mike12-12-11.html



ตอนที่ 4 จบ


พวกคุณจำนวนมากกำลังดำรงชีวิตอยู่บนการสั่นสะเทือนแบบสูงกว่าอยู่แล้ว
และสามารถเดินอย่างปลอดภัยผ่านทุ่งกับดักของความเป็นทวิภาวะได้โดยไม่ได้รับความเสียหาย

พวกคุณได้ทำลายสิ่งที่สร้างใช้มาทั้งหลายที่คุณสะสมไว้ผ่านชาติภพมากมาย
ซึ่งมันไม่เป็นประโยชน์ต่อวัตถุประสงค์ใดๆก็ตามสำหรับตัวพวกคุณเองลงแล้ว

แน่นอนว่าความตั้งใจจริงเพื่อไปสู่ความสำเร็จ(Willpower)
คือสิ่งจำเป็นต่อการก้าวขึ้นไปในการสั่นสะเทือนแบบใหม่อย่างที่พวกเราบอกให้พวกคุณทราบอยู่บ่อยๆนั่นแหล่ะ
และทันทีที่เจตนามั่นอย่างนั้นถูกสำแดงออกมา
คุณก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างล้นหลาม

ส่วนหนึ่งในพันธกิจของพวกเราคือ
การคุ้มครองป้องกันวิญญาณทั้งหลายให้ยกระดับด้วยการเลื่อนระดับขึ้นได้โดยเป็นจำนวนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

การไม่ปิดบังความจริงในเรื่องของประสบการณ์ทั้งหลายของพวกคุณนั้น
คือส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาในเรื่องการสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับตัวตนที่จริงแท้ของตัวคุณเอง

จงอ่อนน้อมถ่อมตน
และจงยอมรับเถิดว่านั่นคือบทบาทของสติปัญญาที่คุณอาจมีอยู่
โดยคุณก็เบาปัญญาเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆทุกคนไม่ต่างกัน

บรรดาฝ่ายมืดนั้นไหวพริบดี
รวมถึงคดเคี้ยวเลี้ยวลดและอดทนเป็นที่สุดในการเข้าควบคุมพวกคุณและสภาวะโลกของพวกคุณ
ถึงกระนั้นก็ตาม พวกเขาก็มองข้ามพลังในการจูงใจของพวกเรา
กับมองข้ามอิทธิพลของเหล่าคุรุผู้ลงมาเยือนดาวโลก
แล้วเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งแสงสว่างที่ทำให้พวกคุณตื่นลืมตาขึ้นเหล่านั้นไว้ไป




ฉันคือซาลูซ่าจากซิริอุส และพันธกิจในส่วนของสหพันธ์กาแล็กซีก็เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว
แต่ความช่วยเหลือของพวกเราที่มีต่อพวกคุณไม่มีวันหมดสิ้น
เรารักพวกคุณและมีความชื่นชมอย่างมากต่อรูปแบบที่พวกคุณตื่นลุกขึ้นมาอีกครั้ง



Thank you SaLuSa,
Mike Quinsey.
Website: Tree of the Golden Light

 

ขอบคุณนะคะ คุณโซ่ที่รัก อิอิอิ(รักไปทั่วอีกแระ)
เดี๋ยวจะกลับไปตั้งใจอ่านที่บ้านค่ะ
ตอนนี้ได้แต่แว๊บอ่านนิดๆหน่อยๆ
รักค่ะ จุ๊บๆๆ

 

แล้วคุณมี ตาทิพย์ หูทิพย์ป่าวครับ?55+ หรือไม่ก็ฌาณ ญาณ อะไรก็ได้ มีป่ะล่ะ?555+
หรือว่ามีแต่พลังรักที่เหลือเฟือ อิอิ..

 

ขอบคุณ คุณโซ่ ด้วยนะครับ สำหรับบทความชุดใหม่ ผมขอตั้งสตินิดดนึง เดี๋ยวกลับมาอ่านใหม่(อีกรอบ)

 

มัยอ่ะ ล้อปมด้อยเค้าหรอ ก็เค้าไม่มีเซนส์รัยหนิ แงๆๆ

 

ข้อความนี้มีสาระมากเลย
อุปสรรคทั้งหลายจะผ่านพ้นไปด้วยความรักที่รู้จักยืดหยุ่นระหว่างกันเสมอ
นี่ขนาดขี้เกียจแปลนะเนี่ย ขอบคุณจ๊ะน้องโซ่ อิอิ

 

55555+ แป่วววว...แหม ลุง เอ้ย...พี่มี๊ดก็
เอาความขี้เกียจของน้องมาขายเลยนะ...5555+black_pig

ปล.ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านแทนทีมแปลด้วยเช่นกันค่ะ *-*

 

แวะมาเสิร์ฟน้ำให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ

^___^

 

เอามาฝาก ^__^