ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สาวท้องฮีโร่ตื้นตัน "ราชินี"ชื่นชม กำหนดคลอดวันนี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นางธิติมา สาวฮีโร่ในวันที่รับรางวัล</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>"นางธิติมา" สาวท้องแก่ใจเด็ด ตื้นตัน "ราชินี"ทรงชื่นชมทำความดีช่วยจับโจร ระบุขอทำความดีตลอดชีวิต พร้อมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี เผยดีใจปลุกสังคมให้ทำความดี กำหนดคลอดเช้านี้ 9 นาฬิกา

วันนี้(12 ส.ค.) นางธิติมา ยุราวรรณ สาวท้องแก่ที่ช่วยจับโจรขโมยรถ เปิดเผยว่า รู้สึกตื้นตันใจ ปลื้มปิติ ตลอดเวลาที่นั่งฟังพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงชื่นชมตนเองกรณีช่วยจับคนร้ายขโมยรถยนต์ โดยได้ร้องไห้ตลอดที่ได้ฟัง พระราชดำรัส ไม่คิดว่าเรื่องเล็ก ๆ ของตนเองจะทราบถึงพระเนตรพระกรรณ ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

นางธิติมา ระบุว่า ชีวิตหลังจากนี้ จะขอทำดีความดีตลอดชีวิต พร้อมกับสั่งสอนบุตรทั้ง 2 คน ให้เป็นคนดี มีคุณภาพในสังคม และจะถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเอง ให้กับสังคมได้รับทราบด้วย ส่วนตัวแล้วรู้สึกดีใจ ที่ได้ปลุกกระแสให้สังคมไทย ได้ลุกขึ้นมาทำดี เพราะช่วงหลังห่างหายไปบ้าง และอยากให้ทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแลประเทศชาติ ให้บ้านเมืองเราน่าอยู่

อย่างไรก็ตาม หญิงสาวใจเด็ด ยังบอกไม่ได้ว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่อันตรายมากกว่าการจับโจร ในครั้งนี้แล้ว ตนจะเข้าไปช่วยอีกหรือไม่ แต่สิ่งที่ตนทำๆไปโดยอัตโนมัติ จนลืมไปว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ สำหรับวันนี้ มีกำหนดผ่าคลอดในเวลา 09.00 น. ที่ ร.พ.

Manager Online - ��Ƿ�ͧ�������鹵ѹ �ҪԹժ�蹪� ��˹���ʹ�ѹ���



หนึ่งคุณแม่ผู้ทำความดีช่วยเหลือสังคม

ขออนุโมทนา สาธุการ ครับ






</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกแม่




..ถือเป็นเรื่องที่อยากบันทึกมากที่สุดในชีวิต อีกเรื่องหนึ่ง เป็นความรู้สึกจากใจ ที่อยากถ่ายทอดและเก็บไว้ให้แม่...ที่อยู่บนสวรรค์ รับรู้ ว่ารักแม่เสมอ และถ้านั่นจะเป็นสิ่งที่ลูกคนนี้สื่อไปได้ไกลถึง

มีเพื่อนคนหนึ่ง เคยหล่นประโยคปลอบใจ เวลาท้อแท้และคิดถึงแม่ ชวนน้ำตาซึม ว่า...."กอดแม่ซะ ตอนที่ท่านยังอยู่ " ฟังดูอาจเชยและไม่คมคาย แต่ความหมาย ยิ่งใหญ่ชวนขนลุกนัก ...คุณดูแล เอาใจใส่ท่าน รักท่านได้ดีแล้วหรือไม่ และทำไมไม่ทำให้ดี เมื่อตอนที่มี โอกาสทำ

ไม่ใช่แค่มานั่งทำดีในทุกๆวันที่12 สิงหา เฉพาะวาระ "วันแม่แห่งชาติ" แล้วที่เหลือ อีก364 วันล่ะ ปล่อยท่านอยู่โดยขาดการเอาใส่ใจที่ดี ให้อยู่กับจิ้งจก-ตุ๊กแก ไปตามประสา งั้นหรือ ไม่ดีแน่ครับ

เริ่มกอดท่านวันนี้ แล้วกระซิบเบาๆบอกท่านว่า....."ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกแม่ " ความสุขง่ายๆที่ไม่ต้องลงทุนอะไร แต่ให้ผลคุ้มค่าที่สุด ผลแห่งความอบอุ่นใจ ถ่ายทอดจากแม่สู่เรา ทำเลยครับ เชื่อผม ไม่ต้องอายที่จะแสดงออกว่ารัก กับคนที่อยู่ข้างเราตลอดมา ตั้งแต่เล็กจนตายจากกัน ...



หันซ้ายแลขวา เวลาไม่มีใคร ...ก็ยังมีแม่ เสมอ







แม่ของแผ่นดิน คุโณปการ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ยิ่งใหญ่ ล้นเหลือ ยาวนาน และทรงคุณค่าอเนกอนันต์ แค่ไหน มิสามารถพรรณาได้กระจ่างแจ้งไปกว่าตาสองตาที่มีวาสนาได้เห็น ได้ชื่นชม และได้สัมผัสกับพระราชกรณียกิจ นานัปการที่พระองค์ท่านทรงงานไว้ เพื่อลูกของพระองค์ และเนื่องในวโรกาส วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2553 ที่เวียนมาถึงนี้

ข้าพุทธเจ้า Blogger koko ขอร่วมถวายพระพร ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ขอพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน ตลอดกาล ตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ



สำหรับแม่ผู้ให้กำเนิดของหลายๆท่าน..ที่อยู่บนสวรรค์ วันแม่นี้ น่าจะเป็นอีกวัน ที่ท่านรู้สึกและรับรู้ได้ถึงความรักจากลูกๆ ที่ถูกส่งตรงถึงท่าน ได้มากที่สุด อีกวันหนึ่ง

..และสำหรับ ลูกคนนี้ของแม่ อยากบอกแม่ว่า ภูมิใจที่สุด ที่ได้เกิดเป็นลูกของแม่ครับ สิ่งที่แม่อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี วันนี้สำฤทธิ์ผลแล้ว และอย่างน้อยมีค่าทางใจเหลือเกิน กับการเป็นผู้ให้ สุขใจเหมือนคำแม่สอนจริงๆ ..เข้าใจแล้วครับแม่



แม่ยังสอนอีกว่า...การเป็นคนดี ต้องมีมาจากข้างในตัวเอง..แต่กับการเป็นคนเก่ง สามารถเรียนรู้ทันกันได้เสมอ "ลูกจงเลือกเป็นคนดี ก่อนที่จะเก่ง..ดีกว่าเลือกเป็นคนเก่ง ที่กำลังจะดี"







และความดีที่ลูกได้ทำงานเพื่อส่วนรวมมา หากแม้นมีมากพอ และก่อให้เกิดเป็นผลแห่งกรรมดี ขออุทิศให้สถิตย์สถาพร และเสริมส่งให้แม่ ผู้เป็นที่รักยิ่งของลูก ประสบแต่ความสุขความเจริญ ในสวรรค์ชั้นฟ้า ตลอดไป........
รักแม่ครับ



ขอขอบคุณ kokoseven blog

 

จากลูกถึงแม่

"ลูกรักแม่" แน่แท้ มิแปรผัน
กี่คืนวัน ผันผ่านไป ใช่เมินเฉย
แม่จ๋า แม่ แม่รู้ไหม ลูกไม่เคย
ลืมแม่เลย แม้น้อยนิด ไม่คิดทำ

เพราะรักที่ แม่มอบให้ นั้นใหญ่ยิ่ง
ไม่เคยทิ้ง ยามลูกคว้าง ย่างถลำ
เปี่ยมเมตตา การุณ คอยหนุนนำ
แม่คือสาย น้ำาเย็นฉ่ำ ฉ่ำใจกาย

พระคุณแม่ แผ่อยู่ใน หัวใจลูก
รักแม่ผูก ลูกแน่นหนา กว่าสิ่งไหน
รักแม่เทียบ เปรียบเสมือน เป็นเงื่อนตาย
ถึงห่างหาย แค่กายห่าง ใช่ห่างใจ

ขอขอบคุณ กลอนวันแม่ : จาก thaipoem.com โดย คุณGemini58


แหล่งที่มา กลอนวันแม่ กลอนวันแม่แห่งชาติ กลอนวันแม่ซึ้งๆ กลอนวันแม่ภาษาอังกฤษ

 

มีคนเล่าให้ฟังว่า... สมัยก่อน...คุณพงษ์เทพ

กระโดนชำนาญ...ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต..
แกอยู่ในป่า...กับเพื่อน 5 - 6
คน...ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกัน...ล่าสัตว์ป่า...มาทำอาหาร...

วันหนึ่ง...เป็นเวรของคุณพงษ์เทพ
แกก็คว้าปืนยาว...สะพายบ่า...เดินเข้าป่าไป...
อาหารโปรดของคุณพงษ์เทพ...คือแกงเนื้อลิง...

พอเดินเข้าป่าไปได้สักพัก.

เห็นลิงตัวหนึ่ง...นั่งอยู่บนต้นไม้...หันหลังให้..
แกก็รีบยกปืนประทับบ่า...ยิงเปรี้ยง...ไปที่ตัวลิง..
เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น...ปกติ...ลิงพอถูกยิง..จะหล่นตุ๊บ...จากต้นไม้ทันที...

แต่ลิงตัวนี้...นั่งจับกิ่งไม้เฉย...ไม่หล่นลงมา...จะว่ายิงไม่ถูก...ก็ไม่น่าเป็นไปได้...
เพราะคุณพงษ์เทพ...แกยิงปืนแม่น...ระยะแค่นี้
เป้าใหญ่ขนาดนี้...ไม่พลาดแน่นอน...
ในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น...ลิงตัวที่ถูกยิง...ร้อง
โหยหวน...เสียงดังมาก... ฝูงลิงที่แยกย้ายกันออกหากินอยู่บริเวณใกล้ ๆ...
วิ่งแห่กันเข้ามาหาลิงตัวที่ถูกยิง... แล้วร้องโหยหวน...เหมือนกันหมด...

แกตกใจ...ยืนตกตะลึง...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...

สักครู่...ลิงตัวที่ถูกยิง... โยนวัตถุเล็ก
ๆ...สีดำ ๆ..ชิ้นหนึ่ง...ให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด...
แล้วก็หล่นตุ๊บ...ลงมาจากต้นไม้...คุณพงษ์เทพ...รีบวิ่งไปดู...
ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง...
ทะลุหน้าอก...เลือดแดงฉาน..เต็มตัว...
คุณพงษ์เทพเห็นแล้ว...ต้องเบือนหน้าหนี...
ลิงที่ตกลงมา...เป็นลิงแม่ลูกอ่อน...ขณะที่ถูกยิง...เธอกำลังให้นม ลูก...

ลูกตัวน้อย...กำลังดูดนมอย่างมีความสุข...ทันทีที่ถูกยิง..
ถ้าเป็นลิงตัวอื่น...
จะหล่นตุ๊บ...ลงจากต้นไม้..

แม่ลิงตัวนี้...ยังหล่นไม่ได้...ยังตายไม่ได้..

เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำ...คือ...รักษาชีวิตลูกน้อย...ให้พ้นอันตราย...
เธอกัดฟัน...โหนกิ่งไม้ไว้...แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ...มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทาง
ด้วยความตกใจ...พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมีเหลือทั้งหมด...
ตะโกนสุดเสียง...ร้องเรียก...ฝูงลิงเข้ามาใกล้ๆ..
แล้วก็ฝากฝัง...ให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ

หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้ว...มองดูลูก...ถูกพาไปจนลับสายตาแล้ว..
แน่ใจว่า...ลูกปลอดภัยแล้ว...จึงหลับตา...แล้วหล่นลงมา...ตาย..

คุณพงษ์เทพ...ก้มมองหน้าลิง..แล้วร้องไห้...เพราะที่เบ้าตาลิง...มีหยดน้ำตาใส ๆ.
กำลังไหลริน...คุณพงษ์เทพ..รีบเดินกลับที่พัก...เอาปืนไปเผาทิ้ง...
ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลย...ตลอดชีวิต..


ขอขอบคุณ คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก (เรื่องจริง)

 

และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่..ของแม่ลิง...ที่มีต่อลูกน้อย...
เป็นแรงบันดาลใจ.
ให้พงษ์เทพ...แต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง...
ชื่อว่า... ' ลิงทะโมน... '
เพื่อยกย่อง...เชิดชู...คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก
*****************

แม่นะหรือ... คือผู้สร้าง ทุกสิ่ง อันยิ่งใหญ่
คือผู้รัก ลูกตน กว่าใครใคร
คือผู้คอย ห่วงใย ทุกเวลา

คือคนร้อน เมื่อลูกรุ่มกลุ้มเรื่องทุกข์
คือคนสุข เมื่อลูกนั้น มีหรรษา
คือคนปลอบ เมื่อลูกเหงา เศร้าอุรา
คือคนคอย ให้เมตตา ลูกทุกคราว

เป็นสายฝน คอยช่วยให้ ลูกสดชื่น
เป็นผ้าผืนคอยห่มให้ เพื่อคลายหนาว
เป็นกระโถน คอยรับทุกข์ ทุกเรื่องราว
เป็นบันได ไต่ดาว ลูกก้าวไป

เป็นคุณครู ผู้สอนสั่งทุกอย่างหนอ
เป็นคุณหมอ คอยรักษา จะหาไหน
เป็นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ได้ดั่งใจ
จะหาใครได้เท่าแม่เหมือนไม่มี

สาธยาย อย่างไร คงไม่หมด
พระคุณแม่ ยากแทนทด เหมือนปลดหนี้
สิ่งล้ำค่าใดใด ในปฐพี
จะเทียมเท่า คุณแม่นี้ ไม่มีเอย.


ขอขอบคุณ คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก (เรื่องจริง)

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม

ขอเดชะ

ทางสายธาตุ

 

ขอให้บ้านเมืองของประเทศไทย แผ่นฟ้าและผืนดินของประเทศไทยมีแต่สิ่งอันเป็นมงคลประดับไว้ให้ลูกหลานได้กราบไหว้สักการะ

หากยังคงมีสิ่งใดที่มิเป็นมงคลต่อคนไทยทั้งประเทศประดับอยู่แล้วไซร้

ขอพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ

บันดาลปัดเป่าสิ่งนั้นให้มลายสูญสิ้นออกไปโดยพลัน

คงไว้แต่ส่ิ่งมงคลประดับน่านฟ้าไทยตลอดกาลฯ

ขอพระบารมีบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าทรงบันดาลความมงคลให้เกิดแก่สยามประเทศด้วยเทอญ

ข้าพระพุทธเจ้าข้าแผ่นดินขอพึ่งพระบารมี


ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม

ขอเดชะ

ทางสายธาตุ

 

วันแม่ปีนี้...คุณอยู่ที่ไหนกัน??" <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>"วันแม่ปีนี้...คุณอยู่ที่ไหนกัน??"



วันแม่ปีนี้ถ้าคุณ...
อยู่บ้านตัวเอง... ก็อย่าลืมไหว้แม่ตัวเองนะ ถ้าไม่ไหว้ก็เข้าไปกอดแม่บ้าง ถ้าแสดงออกไม่เป็น ก็ไม่ต้องทำไรเลย ไม่ต้องมีพวงมาลัยหรือของขวัญอะไรหรอก แค่มีคุณอยู่ที่บ้าน แม่คุณก็มีความสุขมากแล้ว

วันแม่ปีนี้ถ้าคุณ...
อยู่บ้านแฟน... ก็อย่าลืมไหว้แม่แฟน แล้วรีบกลับไปไหว้แม่ของคุณด้วย ขนาดแม่แฟนคุณยังทำได้ แล้วแม่ของคุณเองล่ะ จะทำไม่ได้เชียวหรอ ถ้าแสดงออกไม่เป็น ก็อย่างที่บอกไปตอนแรก ขอแค่ให้คุณรีบกลับบ้านไปหาแม่ แค่มีคุณอยู่ที่บ้าน แม่คุณก็มีความสุขมากแล้ว

วันแม่ปีนี้ถ้าคุณ...
อยู่บ้านเพื่อน... ก็อย่าลืมไหว้แม่เพื่อนของคุณ แล้วรีบกลับไปไหว้แม่ของคุณด้วย ลองคิดดูสิ บางทีเพื่อนของคุณอาจจะอยากที่จะอยู่กับแม่ของเค้าแบบภายในครอบครัว ไม่มีคนอื่น หรือ เพื่อนรักอย่างคุณอยู่ด้วยก็ได้ แม่ของคุณก็คงเหมือนกัน แต่ถ้าเพื่อนคุณมาอยู่ที่บ้านคุณ แล้วมันไม่กลับไปหาแม่มัน ก็ปล่อยมันเหอะ ขอแค่ให้คุณรีบกลับบ้านไปหาแม่ ขอแค่คุณอยู่ที่บ้านคุณเอง แม่คุณก็มีความสุขมากแล้ว

วันแม่ปีนี้ถ้าคุณ...
อยู่สถานที่เที่ยว... อาจจะเป็นต่างจังหวัด คุณน่าจะพาแม่คุณไปด้วยนะ เพราะอย่างน้อย ๆ คนที่ทำงานแล้วคงหาวันหยุดได้ยาก อย่างน้อยนี่คือวันหยุดที่เราควรให้ความสำคัญ เพราะมันไม่ใช่แค่วันหยุดประจำสัปดาห์ แต่มันคือวันแม่แห่งชาติ เชียวนะ อย่าลืมที่จะพาแม่ของคุณไปด้วยนะ

วันแม่ปีนี้ถ้าคุณ...
อยู่บ้านคนเดียว... โดยที่ไม่มีแม่แล้ว ก็ขอให้คิดว่า แม่ยังอยู่ใกล้ ๆ คุณเสมอ แม่ยังอยู่ในใจของคุณ แต่สำหรับบางคนที่ยังมีแม่อยู่ แต่ไม่สามารถกลับไปอยู่ใกล้ ๆ ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม คุณยังมีโทรศัพท์นะ โทร.หาท่านหน่อยก็ดีนะ ว่ามั้ย หรือ จะส่งเป็นจดหมาย เป็นโปสการ์ด หรือ เป็นอะไรก็ได้ตามแต่คุณจะคิดและสร้างสรรค์ แม่คุณคงดีใจไม่น้อยเลยล่ะ


**แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็อย่าลืม พ่อด้วยล่ะ เดี๋ยวท่านจะน้อยใจ แล้วสำหรับบางคนที่มีแม่มากกว่าหนึ่ง ก็อย่าลืมทุกแม่ของคุณเลยนะ เพราะอย่างน้อย ๆ เค้าก็มีสรรพนามคำนำหน้าว่า แม่ เหมือนกัน**

สุขสันต์วันแม่ทุกคนนะคะ ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :พิกกี้โกะ ( สมาชิกไอดีที่ 10809) โพสเมื่อ [ วันพฤหัสบดี ที่ 12 สิงหาคม 2553 เวลา 10:37 น.]
</TD></TR></TBODY></TABLE>


ขอขอบคุณ "วันแม่ปีนี้...คุณอยู่ที่ไหนกัน??" : อาหารสมอง

 

ขอร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของอาจารย์ตาที่สามค่ะ

ทางสายธาตุเองเคยไปขอคำปรึกษาจากอาจารย์ที่บูทมาครั้งหนึ่งค่ะ ราวกลางปี2552ค่ะ

ท่านได้อนุเคราะห์ให้คำปรึกษาแก่ทางสายธาตุเป็นอย่างดียิ่ง ทางสายธาตุเคยไปถามคำถามหนึ่งเกี่ยวกับพระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชบางประเด็นที่ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์กับท่านอาจารย์ค่ะ และได้คำตอบในทิศทางเดียวกัน ครั้งนั้นทางสายธาตุได้อ่านเจอข้อมูลหนึ่งอันเกี่ยวกับพระแสงขรรค์ชัยศรีที่พบที่กรุวัดราชบูรณะ อาจารย์เคยกล่าวไว้น่าสนมาก ขอบคุณคุณตัวกลมๆด้วยค่ะที่นำไปโพสไว้ที่พันทิป

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#224422><TBODY><TR><TD>

• <!--WapAllow9=Yes--><!--pda content="begin"-->ความคิดเห็นที่ 9
  
  <!--MsgIDBody=9-->กรุวัด ราชบูรณะ
  
  ถ้าสมาชิกที่ติดตามมาตลอด จะพบว่า มีอยู่กระทู้หนึ่งที่พยายาม โปสขึ้นมาสองสามครั้ง ว่าตาที่สามมั่วแหลก
  โกหกชาวบ้าน คนที่มาอ่านทีหลังคงจะตามเรื่องไม่ทัน ผม จึงอยากจะเล่าย้อนหลังกลับไปใหม่ เป็นการย้อยรอย
  
  วันแรกที่รูปพระมาลา หรือพระศิราภรณ์ปรากฏ ตามข่าวหนังสือพิมพ์ ผมกำหนดจิตขอทราบว่า เป็นของผู้ใด
  ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาในจิต และบอกว่า เป็นของเขา และเขาคือ ศรีสรรเพชญที่สอง ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน จึงโทร
  ไปถามเพื่อนที่เก่งทางประวัติศาสตร์ เขาค้นให้ ตอบมาว่า ศรีสรรเพชญ คือ พระนามเต็มของ สมเด็จพระนเรศวร
  มหาราช ผู้ที่ชนชาวไทยรู้จักพระองค์ดี เพราะเป็นพระมหากษัตริย์ ที่กู้ชาติจากพม่าเป็นครั้งแรก
  
  อีกสองวันต่อมา ผมจึงไปที่วัดราชบูรณะ พบทีมถ่ายทำข่าวไอทีวี ที่มีคุณทองเจือ ทองเผ่า เป็นผู้ดำเนินการ เราพบกัน
  แต่ไม่ได้เสวนากันแต่อย่างใด ณ ที่นั้น สมาชิกที่ไปด้วยกันมีสามคน ล้วนแล้วแต่มีตาทิพย์ มองทะลุดินได้ เราพบ
  หีบสมบัติที่ฝังอยู่ใต้ดิน
  
  ต่อมา เราจึงไปที่ พิพิธภัณฑ์ เจ้าสามพระยา ซึ่งเก็บของที่ตกค้างอยู่ในกรุเอามาเก็บไว้ จุดเด่นอยู่ที่ดาบแสงศัตราวุธ
  ซึ่งเป็นดาบอาญาสิทธิ์ ของพระเจ้าแผ่นดิน ผมได้อัญเชิญองค์สมเด็จพระนเรศวรเจ้ามาอีกครั้ง พระองค์ได้เสด็จมา
  และรับสั่งว่า เครื่องราชูปโภค และราชกกุภัณฑ์ ที่ปรากฏเป็นของพระองค์ พระองค์ได้มาเข้าฝันองค์ขาวให้เอามา
  ถวายวัด เพื่อพระองค์จะได้ละวางทั้งศักดิ์และสิทธิ์ ที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินคืนไป พระองค์จะได้ลอยตัว ปฏิบัติธรรมในจิต
  เพื่อแก้บาปที่พระองค์เป็นต้นเหตุ แห่งการฆ่าฟันคนมากมายในการกู้ชาติ และเป็นบาป
  
  การจะลอยตัว คือต้องเอาศักดิ์และสิทธิมาถวายวัด พระองค์ยังทรงขอให้ แจ้งแก่ทุกคนว่า ในงานพิธีกรรมที่เกี่ยวกับ
  การทหาร เชิญวิญญาณพระองค์มาเป็นหลักชัย ขอให้ยกเลิก พระองค์จะไม่เสด็จมาอีกต่อไป
  
  เรื่องทั้งหมด ขัดแย้ง กับ การอธิบายของ นักประวัติศาสตร์ไทย ที่ใช้หลักทางการสร้างเป็นหลัก และถ้าคิดเป็นตรรก
  หรือ โลจิกเป็นฐาน จะเห็นความแตกต่างดังนี้
  
  ๑. ถ้า เจ้าสามพระยา สร้างพระปรางค์ให้แก่ เจ้าอ้ายพระยา กับเจ้าสองพระยา ที่มาฆ่าฟันกันเอง ในการแย่งราชสมบัติ
  และตายทั้งคู่ สิ่งที่เก็บน่าจะเป็นธุลีเถ้า และทั้งคู่ที่ตายก็ไม่ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน แล้วจะเอาเครื่องราชกกุภัณฑฎ์
  ที่ไหนมาใส่ในพระปรางค์ที่ว่า
  
  ๒ ถ้าสมเด็จเจ้าสามพระยาเป็นกษัตริย์ เป็นไปได้หรือ ที่พระองค์จะเอาเครื่องราชกกุภัณฑ์ของตนเอง มาใส่ไว้ใน
  พระปรางค์ เพราะเท่ากับว่า พระองค์สละราชสมบัติ
  
  ดังนั้นสิ่งของที่ใส่ไว้ในพระปรางค์จึงไม่ควรจะเป็น เรื่องที่เกี่ยวข้องกับ เจ้าอ้ายพระยา/เจ้ายี่พระยา และเจ้าสามพระยา
  ส่วน การก่อสร้าง พระปรางค์ ก็คงจะเป็นไปตามประวัติศาสตร์
  
  จึงขอเล่ามาให้ฟัง เป็นสังเขป ว่าในเรื่องห้อง หรือ ถ้าไม่ชอบ แบบนี้ คราวหลัง จะได้ไม่เล่าให้ฟัง รู้ไว้คนเดียวดีกว่า
  จะได้ไม่มีใครมา ทำบาป ว่า เรา
  
  จากคุณ : ตาที่สาม - [ 4 เม.ย. 48 13:06:14 ] <!--MsgFile=9-->
  
  จากคุณ : <!--MsgFrom=9-->ตัวกลมๆ - [ <!--MsgTime=9-->2 มิ.ย. 48 11:03:55 <!--MsgIP=9-->]

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ทราบข่าวจากกระทู้ห้องวิทยาศาสตร์ที่คุณสันโดษได้ไปโพสบอกถึงข่าวอันน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งนี้


ทางสายธาตุกราบขออโหสิกรรมในทุกๆสิ่งทุกอย่างที่อาจจะเคยล่วงเกินอาจารย์ไปไม่ว่าจะโดยเจตนาก็ดี หรือไม่เจตนาก็ดี จะโดยทางวจีกรรมหรือมโนกรรมก็ดี ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกันมา ณ ที่นี้ค่ะอาจารย์

ขอให้ดวงวิญญานของอาจารย์จงไปสู่สุขคติค่ะ

ทางสายธาตุเคยนำข้อมูลนี้ของอาจารย์อาชวินมาแสดงในกระทู้นี้ จึงต้องนำข่าวอันน่าสลดใจนี้แจ้งไว้ในกระทู้นี้เพื่อแจ้งแก่ผู้อ่านทุกท่านด้วยค่ะ

ทางสายธาตุขอร่วมแสดงความเสียใจและอาลัยต่อการจากไปอย่างกระทันหันของอาจารย์อาชวินค่ะ

<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอร่วมไว้อาลัยและอโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น

 

ทางสายธาตุเคยไปถามคำถามหนึ่งเกี่ยวกับพระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชบางประเด็นที่ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์กับท่านอาจารย์ค่ะ

คำถามที่ไปถามอ.ตาที่สามคือ สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชใช่ไหมคะ และสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงมีพระพี่นางหนึ่งพระองค์ด้วยใช่ไหมคะ

อ.ตาที่สามตอบมาหลังจากกำหนดจิตเล็กน้อยว่า ใช่ พระเจ้าปราสาททองเป็นโอรสของพระนเรศวร แต่มีพี่สาวสองคน พี่สาวแม่เดียวกันหนึ่งคน ส่วนพี่สาวอีกคนหนึ่งเป็นพี่สาวต่างแม่ (อ.ตาที่สาม ตอบมาทั้งใช้ราชาศัพท์และคำสามัญ ทางสายธาตุพยายามถ่ายทอดคำพูดท่านอาจารย์มาให้อ่านค่ะ)

ผู้ที่ฟังอยู่ด้วยกันคือ หลานสาวของทางสายธาตุที่ไปเป็นเพื่อน อีกคนที่ไปบูทในวันนั้น(หน้าฝนปีที่แล้ว)เป็นนักขายประกันชีวิตไทยประกันชีวิตที่รับดูฮวงจุ้ยด้วย ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้จำได้แต่คุณสมบัติ

เรื่องนี้ไม่เคยเล่าเพราะเป็นหลักฐานนอกประวัติศาสตร์ที่ไม่อยากนำบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะถ้าคนจะปรามาสขอให้ปรามาสต่อทางสายธาตุเพียงคนเดียวจะดีกว่า แต่เมื่อท่าน อ.ตาที่สามได้จากไปอย่างกระทันหันเช่นนี้ จึงขอยกมาเพื่อได้ร่วมระลึกถึงอ.ตาที่สามในมุมมองของทางสายธาตุที่เคยสัมผัสค่ะ ...


สำหรับกรณีที่มีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับพระอาจารย์หลวงพ่อสิงห์ทน นราสโภโดยกล่าวหาว่าพระท่านชอบทำนายทายทักบุคคลต่างๆว่าเป็นองค์นั้นองค์นี้มาเกิด ทางสายธาตุขอใช้เวทีนี้ยืนยันคำพูดเดิมค่ะว่า หลวงพ่อสิงห์ทนไม่ได้เคยทำนายทายทักใครทั้งสิ้นค่ะ ประเดี๋ยวหากมีคนเข้ามาอ่านแล้วจะเอาเรื่องของอ.ตาที่สามกับเรื่องหลวงพ่อสิงห์ทนโยงกันเข้าไปอีก เพราะรับรู้มาจากการได้สัมผัสด้วยตัวเองว่า บางกลุ่มหรือบางคนนั้นไม่ค่อยใฝ่หาข้อมูลสนับสนุนให้ชัดเจนเสียก่อนที่จะปักใจเชื่อในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่กลับไปปักใจเชื่อในสัมผัสของตนเองว่าถูกต้อง 100% แทน ซึ่งหลายคนนั้นก็เป็นที่น่าเสียดายในความรู้ความสามารถที่อุตสาหะร่ำเรียนมาทั้งทางโลกและทางธรรมมากมาย

เขียนด้วยสีม่วงคือโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านค่ะ

 

พระอวโลกิเตศวร ภาคพันเนตรพันกร

ภาพทังกะพระอวโลกิเตศวรภาคพันเนตร พันกร​

นอกจากนั้น อ.ตาที่สามได้บอกแก่ทางสายธาตุว่า พระโพธิสัตว์ที่ดูแลคุ้มครองสังขารของทางสายธาตุคือ "เจ้าแม่กวนอิมพันมือ" อ.ตาที่สามเรียก"พระแม่กวนอิมพันเนตรพันกร" แบบที่คนทั่วไปเรียกกันคือ "เจ้าแม่กวนอิมพันมือ" หมายถึง "พระอวโลกิเตศวรภาคพันเนตรพันกร" องค์เดียวกันค่ะ ทางสายธาตุจะขานพระนามว่า พระแม่กวนอิม มากกว่า เจ้าแม่กวนอิม ​

ขอนำเสียงสวด โอมมณีปัทเมหุม การออกเสียงคล้ายการสรรเสริญพระเจ้าในโบสถ์คริสต์ เป็นเสียงแบบ vocal music เพื่อแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ อ.ตาที่สาม มา ณ โอกาสนี้ค่ะ​

http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=56132

ขอปิดเพลงนี้ค่ะ เพราะอยากฟังเพลงพระราชนิพนธ์ ค่ำแล้ว ​

 

ขอร่วมไว้อาลัยในการจากไปของอาจารย์ ตาที่สาม ค่ะ

 

ระยะนี้อ็อฟไม่ได้มาโพสต์นะครับ (แต่ติดตามอ่านบทความที่พี่ๆเขียนไว้ครับ) เนื่องจากจิตอ็อฟนิ่งสงบ เลยไม่รู้ว่าจะโพสต์เนื้อหาอะไรให้พี่ๆได้อ่านครับ

 

พระราชธิดาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์ที่ทรงพระนามว่า พระองค์นันทวดี จากคำบอกเล่าของพระอาจารย์พระมหาฤทธิชัย กัลยาโณ ขอเรียบเรียงก่อนนะคะเพราะฟังมาหนเดียวยังไม่เคยเขียนถึงเลยค่ะ มีหนังสือเล่มหนึ่งเขียนถึงพระองค์หญิงนันทวดี เหมือนกันแต่ว่าต่างกันในรายละเอียด เพราะในหนังสือกล่าวถึงการอัญเชิญดวงพระวิญญาณมาเพื่อขอถามพระองค์ท่าน

แต่ของพระมหาฤทธิชัย กัลยาโณเป็นลักษณะการจำได้หมายรู้ ไม่ใช่การติดต่อกับดวงวิญญาน ไม่ทราบว่าควรจะเล่าหรือไม่ค่ะ ไม่มีในพงศาวดาร ไม่มีบันทึกจดหมายเหตุ แต่จากสัญญาของพระอาจารย์พระมหาฯท่านเองค่ะ

รอฟังเสียงตอบรับ และรอพระมหาฤทธิชัยอ่านซึ่งท่านอาจจะห้ามเล่าก็ได้ ขอติดต่อท่านก่อนนะคะและขอรอเสียงตอบรับจากท่่านผู้อ่าน ({)(})

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=FIxeR4GlHr8&feature=related"]YouTube - เพลงพระราชนิพนธ์ Lullaby[/ame]

Lullaby

How time flies! Time to sleep,
My Darling close your eyes.
Lie down, lie.

Listen, Darling, to my lullaby.
Evening's nigh,
Soon the moon will sail across the sky.
Time goes by,
Tiny stars will glimmer up on high
Bless your heart end your play.
Bless your soul end your day.
Go to sleep. Care's away.
By your side I will stay.

Dear don't cry.
I'll be by you till the dawn is nigh.
Try, now try.
Go to sleep, Dear, with my lullaby,
Bless your heart end your play.
Bless your soul end your day.
Go to sleep. Care's away.
By your side I will stay.

Dear don't cry.
I'll be by you till the dawn is nigh.
Try, now try.
Go to sleep, Dear, with my lullaby,
Lullaby, Precious One,
Day is done!
​

ค่ำแล้ว
เพลงพระราชนิพนธ์ ค่ำแล้ว ฟังเสียง หรือ Lullaby เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 24 ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2498 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษร่วมกับท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา และท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอุ้มสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีไว้ในอ้อมพระกรข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งทรงอิเลคโทนเพลงพระราชนิพนธ์ Lullaby แล้วสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์น้อยก็หลับไป

เนื้อเพลง

วันคล้อยมา
นอนเสียนอน
ฟังเสียงเพลง
จันทร์ฉายมา
โชคนำหนุนบุญส่งมา
ประนมกรขอพรชัย
ดลบันดาล
อยู่ด้วยกัน
สุดรักเอย

ค่ำแล้วแก้วตาสุริยาเรืองรอง
จงอย่าอาวรณ์นอนเถิดนะดวงตา
แว่วดังวังเวงเสียงครวญเครงนภา
พร่างพรายดาราดูงามฟ้าเพลินใจ
งามนักหนาพักตร์อำไพ
รัตนตรัยปวงเทวัญ

แด่ความชื่นบานแสนสำราญนิรันดร์
เป็นมิ่งเป็นขวัญอย่าห่างร้างแรมไกล
ตื่นได้เชยชมดวงใจ

เกร็ดประวัติ

เป็นเพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อมีพระราชธิดาแล้ว เพลงนี้มีผู้เข้าใจว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แต่มีผู้นำรับสั่งของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีมาเล่าว่า

“สมเด็จพระเทพฯ รับสั่งว่าที่จริงแล้วไม่ได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงนี้เพื่อสมเด็จพระเทพฯ แต่ว่าเมื่อสมเด็จพระเทพฯ ทรงฟังเพลงนี้ทีไรทรงหลับทุกครั้ง ตอนนั้นท่านเพิ่งประสูติ ใครๆก็เลยคิดว่าเป็นเพลงสมเด็จพระเทพฯ”

เพลงพระราชนิพนธ์ค่ำแล้วเป็นเพลงจังหวะวอลทซ์ที่มีลักษณะเพลงกล่อมนอน (lullaby) อันเป็นแขนงหนึ่งของเพลงบัลลาด เพลงกล่อมนอนแบบนี้นิยมประพันธ์กันมานานแล้วในดนตรีคลาสสิกตะวันตก เพลงพระราชนิพนธ์นี้มีทำนองหวานและเยือกเย็น โน้ตเรียงขึ้นลงเป็นชุดๆ แม้ว่าการไล่เสียงขึ้นลงจะฟังดูง่าย แต่ในทางปฏิบัติแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะมีตอนต้นของทุกท่อนที่ต้องลากเสียงจนเต็มห้องและติดกันถึง 4 ห้อง ผู้ร้องต้องมีลมหายใจที่ยาวและนิ่ง ซึ่งต้องฝึกฝนมากและมีประสบการณ์สูง ในท่อนแยกมีเสียงไล่กันเพียงเสียงเดียวก็จริง แต่ส่วนใหญ่เป็นครึ่งเสียง ในท่อนนี้ผู้ร้องต้องแม่นเสียง มิฉะนั้นจะร้องเพี้ยนได้ง่าย

พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริทรงนิพนธ์เนื้อร้องภาษาอังกฤษร่วมกับท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา เนื้อร้องทั้งเที่ยวแรกและเที่ยวกลับ นอกจากกล่อมให้หลับแล้วยังสัญญาว่าเมื่อรุ่งอรุณจะได้ “rise and play” และยังขอพรให้ “guardian angel” เฝ้าดูแลระหว่างหลับด้วย ส่วนเนื้อร้องภาษาไทย ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา เป็นผู้ประพันธ์

รวบรวมและเรียบเรียงจากหนังสือ "งานช่างของในหลวง" โดยมหาวิทยาลัยศิลปากรและ "ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์" โดยโรงเรียนจิตรลดา<!-- End main-->



ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อและแม่ วันนี้เป็นวันหลังวันแม่แห่งชาติหนึ่งวัน ถือว่ายังอยู่ในบรรยากาศวันแม่นะคะ จึงขออัญเชิญมาเพื่อให้ลูกๆได้ระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านทั้ง 2 ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด


ในอีกนัยหนึ่ง ชีวิตของคนเราก็เปรียบเหมือนการขึ้นและการตกของพระอาทิตย์ เมื่อแรกเกิดก็เหมือนพระอาทิตย์แย้มแสงแรก ดำรงชีวิตไปก็คืออยู่ระหว่างวัน จนถึงพระอาทิตย์ตกกืคือเข้าสู่วัยชรา และค่ำคืนก็มาเยือนเปรียบเสมือนการละจากสังขารร่างนี้ไป การขึ้นและการตกของพระอาทิตย์ก็ไม่ต่างกับชีวิตของคนเราทุกผู้ทุกนาม ประโยคหลังนี้เพื่อระลึกถึงผู้วายชนม์ผู้จากไปที่ทางสายธาตุระลึกนึกถึงทุกคนค่ะ

 

ให้อภัย (อาจารย์วศิน อินทสระ)<!-- google_ad_section_end -->



มนุษย์ที่มีใจสูงย่อมรู้จักให้อภัย
ไม่เอาเรื่องกับสิ่งเล็กน้อย

****************************

อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
ทางที่ถูกควรทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก
ถ้าเป็นเรื่องเล็กอยู่แล้วก็ไม่ควรเอาเรื่องเสียเลย
ปล่อยไปเสีย ทำไม่รู้ไม่เห็นเสียบ้าง
ไม่บอดทำเป็นเหมือนบอด
ไม่ใบ้ทำเหมือนใบ้
ไม่หนวกทำเหมือนหนวกเสียบ้าง
จิตใจของเราจะสบายขึ้น

******************************************

มีเรื่องแปลกประหลาดอยู่อย่างหนึ่งในหมู่มนุษย์
คือ คนส่วนมากเผชิญกับเหตุการณ์ใหญ่ๆ อย่างกล้าหาญได้
แต่กลับขาดความอดทนต่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ......


คัดลอกจากคุณ wellrider http://palungjit.org/threads/ให้อภัย-อาจารย์วศิน-อินทสระ.252588/ ขอขอบคุณครับ


ขออนุญาตคั่นจังหวะคุณทางสายธาตุ ครับ ด้วยเห็นว่าเป็นคติเตือนใจที่ดี
เนื่องในโอกาสวันแม่อันเป็นมหามงคลยิ่งนี้

 

วัดพนัญเชิง(วัดเจ้าพระนางเชิง)

เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังหาหลักฐานไม่ครบ เพราะเอกสารของนายจ๊าค เดอคู้ท(ฌาคส์ เดอร์ครู้ทร์ หรือ Jaques De Coutre) ราคาแพงและต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ จะลองหาตามห้องสมุดมหาวิทยาลัยดูค่ะ

​

เรื่องพระใหญ่ เรื่องชื่อวัดเจ้าพระนางเชิง เรื่องสร้างไว้ในชุมชนชาวจีน ฟังดูมีความเชื่อมโยงกันอยู่ เพราะเจ้าพระนางทรงมีพระกริยาทำเชิง หรืออาจจะแปลว่าทรงไม่แสดงกริยาใดๆให้ใครอ่านพระทัยได้จึงทรงทำเชิงอันเป็นที่มาของชื่อวัด จะเป็นตามตำนานพระนางสร้อยดอกหมาก หรือจะเป็นแบบอื่น ก็ยังมีเค้าเงื่อนอยู่

พระพุทธรูปพระไตรรัตนนายกหรือซำปอกง ข้าพเจ้าคิดว่าไม่น่าที่จะสร้างให้กับเจิ้งเหอ เพราะเจิ้งเหอเป็นมุสลิม ถ้าต้องการสร้างให้เจิ้งเหอควรจะสร้างสุเหร่าหรือมัสยิดมากกว่า เหมือนกับที่ท่านเฉก อาหมัดที่เป็นมุสลิม ก็สร้างสิ่งก่อสร้างแนวมุสลิม สร้างกุโบฝังศพท่านเฉกอาหมัด (ปัจจุบันอยู่ในเขตรั้วของมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา) ดังนั้นการสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงสร้างไว้กลางแจ้งตามเอกสารของนายจ๊าค ถ้าจะทรงสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงใคร คนๆนั้นน่าจะเป็นผู้ที่น่าระลึกถึงและน่าจะเป็นคนพุทธ หรือแม้แต่อาจจะเป็นชาวจีน ที่เคยช่่วยชาติช่วยแผ่นดิน ในความคิดเห็นส่วนตัวที่ยังหาหลักฐานไม่ได้ คิดว่าถ้าพระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปที่สมเด็จพระนเรศวรเจ้าท่านทรงสร้างไว้จริงๆ อาจทรงสร้างไว้เพื่อระลึกถึงท่านผู้เฒ่าผู้หนึ่งค่ะ

สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างพระพุทธไตรรัตนนายก (จำลอง) ประดิษฐานไว้ที่วัดนครหลวง อยุธยาอีกแห่งหนึ่งด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็ดูจะเป็นร่องรอยบางอย่างที่เกี่ยวโยงกันอยู่ค่ะ

ที่ทางสายธาตุจะหาหลักฐานคือต้องการจะทราบว่า พระพุทธไตรรัตนนายกองค์นี้ สมเด็จพระนเรศวรทรงสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ ใช่หรือไม่เท่านั้นค่ะ

ป.ล. ขอตัวไปห้องสมุด มสธ. ก่อนนะคะ อาจจะโชคดีเจอเอกสารนี้ค่ะ

 

ไม่มีเอกสารของ Jacque de coutre ที่ห้องสมุด มสธ เลยค่ะมีแต่ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนผ่านระบบบรรณาการ ของ ดร.สืบแสง พรหมบุญ ก็ถ่ายเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องการค้าและพระราชสาส์นที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทางถวายไปยังจักรพรรดิเสินจงที่จะไปปราบโจรสลัดญี่ปุ่น "ฮิเดโยชิ" และบางอย่างที่ผู้เขียนบอกว่า

 

จากหนังสือความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างจีนกับไทย ค.ศ. 1282-1853 (Sino-Siamese tributary relation) เขียนโดย ดร. สืบแสง พรหมบุญ ... หน้า 131...

ทางสายธาตุได้ถ่ายเอกสารหนังสือเล่มนี้มาเพียงบางส่วนเท่านั้นค่ะ เพราะหนังสือเล่มนี้ห้ามยืมออกจากห้องสมุดและได้เคยสอบถามไปยังสำนักพิมพ์ ทางสำนักพิมพ์แจ้งว่าจะยังไม่มีการพิมพ์ออกจำหน่ายค่ะ จึงต้องหาอ่านตามห้องสมุดมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังพอหาอ่านได้ค่ะ....