ของดีหลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร..

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย thaiput, 29 กันยายน 2008.

  1. IEC

    IEC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,155
    สวัสดีครับ ได้รับของเรียบร้อยแล้วนะครับ ขอบคุณมากครับ ....

    ปล. แหวนตะกร้อของหลวงพ่อขวัญวงเล็กที่ส่งมา 2 วงนั้น ไม่ทราบว่าสร้างปีอะไรครับ เพราะเห็นมีวงนึงเขียนปี พ.ศ. ที่สร้างด้านในของแหวนแต่มองไม่ชัด ส่วนอีกวงไม่ได้มีเขียนไว้ (สงสัยเป็นคนละรุ่นกัน)
     
  2. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    ไปอ่านเจอมาเกี่ยวกับ พระกริ่งของ หลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ ครับ

    Credit : เวปพุทธวงศ์
    http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-080727234029364

    <TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระกริ่ง"ไล่ฝน ห้ามพายุ ตัดรุ้งขาด" หลวงพ่อขวัญนี้ หลวงพ่อเสกโดยพื้นฐานเดิมนาน" 1 ไตรมาส" และไม่มีการตอกโค้ดใดๆทั้งสิ้น แต่พระกริ่งเนื้อทองผสมบางส่วนตกค้างอยู่บริเวณโต๊ะหมู่ในห้องจำวัดของหลวงพ่อขวัญอยู่นานกว่า 9 ปี แม้คณะกรรมการจะเข้าๆออกๆ นำพระชุดนี้เข้า นำพระชุดนี้ออกสักเท่าไร ก็หาได้เห็นพระกริ่งชุดนี้ไม่เหมือนหลวงพ่อท่านบังตาไว้ จนกระทั่งสจ.สุวิทย์ ชอบใช้ อ.บางมูลนาก พิจิตร หรือ"เสี่ยเอ๋"ของหลวงพ่อไปพบเข้าก่อนหลวงพ่อมรณภาพไม่นานอย่างน่าอัศจรรย์(มีราว 200 องค์) เลยนำเรื่องมาเล่าให้"พุทธวงศ์"ฟัง เลยเสนอไอเดียไปว่า น่าที่จะตอกโค้ดให้เป็นเอกลักษณ์ ว่าพระกริ่งชุดนี้ อยู่กับหลวงพ่อนานถึง 9 ปี ซึ่งนานกว่าเขาเพื่อน และยังจะทำให้เกิดคุณค่าแยกเก๊แยกแท้ในภายหน้าได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งพอดี "พุทธวงศ์"มีโค้ดเลข 9 อยู่แล้ว เลยให้ไปตอกและเมื่อตอกโค้ดพระกริ่ง 9 ปีนี้เสร็จ ก็ได้มีการทำลายโค้ดทิ้งในทันที อันเป็นการตัดปัญหาและแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยประการทั้งปวง
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    พระกริ่ง"ไล่ฝน"ที่หลวงพ่อขวัญท่านสร้างไว้ด้วยเหตุที่ท่านได้ตำราการสร้าง"พระกริ่งปวเรศ"มาด้วยบุญบารมี ซึ่งท่านได้ถวายพระนามไว้อย่างเป็นทางการว่า "พระกริ่งเพ็ชรหลีก" เนื้อเงิน พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กที่หาดูหาชมได้ยากยิ่ง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    "ใบแทรก" พระกริ่งที่หลวงพ่อขวัญเขียนด้วยองค์เอง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    ป้าสมใจ บัวมั่น สท.บางมูลนาก,คหบดีแห่งพิจิตร ศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อขวัญได้เล่าให้"พุทธวงศ์"ฟังถึงประสพการณ์แห่งพระกริ่งหลวงพ่อขวัญที่เคยเกิดขึ้นมาด้วยตัวเองว่า
    "หลวงพ่อขวัญท่านเคยบอกป้าไว้ว่า พระกริ่งของข้านี่น่ะ ตัดรุ้งขาดน๊ะ แถมหลวงพ่อขวัญท่านยังเย้าป้าอีกด้วยว่า แต่อย่าไปลองล่ะ..!!!![​IMG][​IMG] ซึ่งป้าก็ได้แต่ยิ้มไม่ว่าอะไร เพราะรู้ใจหลวงพ่อดีอยู่....
    จนกระทั่งวันหนึ่ง ป้าไปที่สวนที่โคราช พอดีมีรุ้งขึ้น หลานป้าคนหนึ่งเตือนถึงคำพูดหลวงพ่อขวัญที่พูดว่าพระกริ่งท่านตัดรุ้งได้ ป้าก็เลยเอาพระกริ่งมาแล้วอธิษฐานว่า
    "หลวงพ่อพระกริ่ง ตัดรุ้งให้ดูทีเถอะนะ หลวงพ่อพระกริ่ง!!!!"
    พอป้าว่าเสร็จ ก็ลองเอาพระกริ่งตัดรุ้งดูฉับๆๆ ปรากฏว่า รุ้งนั้นขาดเป็นท่อนๆๆๆเลย...!!!!!"
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    และ
    "อีกครั้ง ที่สวนของป้าที่โคราช วันหนึ่งมีพายุฝนพัดมาอย่างแรง ลมนี้แรงมากๆ ฝนก็ตกกระหน่ำอย่างไม่มียั้ง จนพัดข้าวของกระจุยกระจายเตลิดเปิดเปิงไปหมด ยิ่งนานทั้งลมและฝนก็พัดหนักขึ้นทุกทีๆจนป้ากลัวบ้านป้าจะพัง เลยเอาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญนี่แหละมาไหว้วอนอธิษฐานกว่า
    "โอ๊ย...หลวงพ่อพระกริ่งช่วยด้วยๆ ลมฝนพายุแรงเหลือเกินแล้ว หลวงพ่อพระกริ่งช่วยลูกด้วยๆๆ..."
    น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง เพราะไม่ช้าไม่นาน พายุฝนที่กระหน่ำอย่างแทบลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ก็ซาลงอย่างกระทันหัน ทำให้ป้ารอดมาได้ถึงทุกวันนี้นี่แหละ พระกริ่งหลวงพ่อขวัญนี่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ..!!!!!!"
     
  6. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    ครั้นว่าแล้ว ป้าสมใจ บัวมั่นก็หยิบ"พระกริ่งเนื้อเงิน" องค์สุดท้ายที่ป้าสมใจมีอยู่มาให้ทันที เล่นเอาตัวชาด้วยความดีใจอย่างสุดๆจนแทบลงไปดิ้นพราดๆไปเลย..!!!
    ก็"องค์"ที่นำมาโพสต์ให้ชมนี่แหละขอรับ
    และก็พระกริ่งองค์เดียวกันนี่แหละ ที่"พุทธวงศ์"กับ"สจ.สุวิทย์ ชอบใช้" หรือที่หลวงพ่อขวัญเรียกหาว่า"เสี่ยเอ๋"ได้นำไปทดลอง"ตัดรุ้ง"ที่สุสานไตรลักษณ์แม่วาง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ในวันต่อมาจนขาดกระจุยกระจายเป็นสิบๆครั้ง เหมือนกับเป็น"ของเล่น"หรือ"หนังอินเดีย"ก็ไม่ปาน...!!!!
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    การทดลอง"ตัดรุ้ง"ครั้งนี้ ได้กระทำต่อหน้า"พ่อขาวแม่ขาว"จำนวนมากที่ไปถือศีลที่สุสานไตรลักษณ์แม่วางกับท่านพระครูขันตยาภรณ์ ทำเอาบางท่านถึงต้องกรีดร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจจนถึงที่สุด กับปรากฏการณ์เหนือฟ้าที่เห็นกันจะๆคาตาๆต่อหน้าอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยในชั่วชีวิตนี้
    ตั้งแต่เกิดมา "พุทธวงศ์"เคยได้ยินได้อ่านเรื่อง
    "พระกริ่งตัดรุ้งขาด"จนชินตาชินหู
    แต่เพิ่งจะได้มาประจักษ์กับสายตาตัวเอง ก็กับ
    "พระกริ่งหลวงพ่อขวัญ"ที่ทดลองตัดรุ้งด้วยมือตนเอง ก็คราวนี้นี่แลฯ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    นี้จึงเป็นการพิสูจน์คำพูดของหลวงพ่อขวัญที่ว่า "พระกริ่งข้า ตัดรุ้งขาดน๊ะ..!!!!" ว่าเป็น"เรื่องจริง"อย่างสิ้นสงสัยทุกประการ.... <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    พระเถระผู้ใหญ่พูดถึงหลวงปู่ขวัญ

    คำพูดที่ฮือฮามากในช่วงนั้น(20 กว่าปีมาแล้ว) คือคำพูดของหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่คนพิจิตรมักจะพูดถึงคือ มีคนพิจิตรไปกราบหลวงพ่อเกษมแล้วหลวงพ่อเกษมพูดว่า "มาทำไมถึงที่นี่ ที่พิจิตรก็มีหลวงพ่อขวัญ" ประโยคนี้แม้แต่ "คุณฉวีวรรณ ขจรประศาสน์" ภริยาท่านพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ ยังเคยพูดกับผมในช่วงนั้นเลย ซึ่งช่วงนั้นเสธฯหนั่นกำลังเป็น ม.ท.1 ด้วย คุณฉวีวรรณเล่าให้ผมฟังว่า "ป้าได้ไปกราบหลวงพ่อขวัญมาแล้ว ไปเช่าแหวนท่านมาด้วย หลวงพ่อเกษมยังบอกให้ไปกราบหลวงพ่อขวัญเลย" (ผมเพิ่มเติมว่าหลวงพ่อขวัญท่านเคยไปเรียนวิชาทำน้ำมันสมุนไพรคุณพระรักษาที่ จ.ลำปาง ครับ)

    ครั้งหนึ่งมีพิธีปลุกเสกพระหลวงพ่อเงิน ที่วัดบางคลาน ผมมีโอกาสได้รับ-ส่งหลวงพ่ออุตตมะจากสนามบินพิษณุโลกและวัดบางคลาน(ทำให้มีบุญได้พาหลวงพ่อมาพักผ่อนที่บ้านหลังเสร็จพิธีด้วย) ในครั้งนั้นผมจึงถวายแหวนหลวงพ่อขวัญเป็นที่ระลึกกับหลวงพ่ออุตตมะด้วย หลังจากนั้นผมได้ไปกราบหลวงพ่ออุตตมะที่พุทธมนฑลสาย 2 หลวงพ่อหยิบแหวนหลวงพ่อขวัญแล้วพูดกับผมว่า "ของดีนะ" แล้วท่านก็เอาแหวนของหลวงพ่อขวัญมอบให้กับลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดกับท่าน โดยใส่แหวนให้ที่นิ้วด้วยมือของหลวงพ่อเอง แต่ปรากฏว่าแหวนหลวมไป หลวงพ่อท่านก็หาด้ายมาพันที่ท้องวงแหวนให้ เมื่อหลวงพ่อพันด้ายเสร็จก็เอาแหวนมาใส่ให้ด้วยมือของท่านเองอีก คราวนี้ใส่ได้พอดี หลวงพ่ออุตตมะท่านยิ้มแล้วบอกว่า "ของดีนะใส่ติดตัวไว้นะ"
    แค่นี้ก็คงพอแล้วนะครับ แต่เท่าที่ทราบก็ยังมีครูบาอาจารย์อีกหลายองค์ที่พูดถึงหลวงปู่ขวัญอีกเช่น หลวงปู่ครูบาหล้าตาทิพย์, หลวงพ่อแพ, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ(หลวงพ่อท่านมอบข้าวตอกพระร่วงให้หลวงพ่อขวัญด้วย) แต่บังเอิญผมไม่มีข้อมูลอ้างอิงครับ ท่านที่มีข้อมูลตรงนี้กรุณาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ


    หลวงปู่ขวัญเล่าเรื่องพระกริ่ง

    หลวงปู่เล่าว่า "ฉันได้ตำราสร้างพระกริ่งปวเรศมา พระกริ่งนี้ตัดรุ้งขาดได้ ฉันจะสร้างพระกริ่ง" ผมได้ยินตอนนั้นหูผึ่งเลยติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดตลอด จนใกล้วันออกพรรษาหลวงปู่พูดกับผมว่า "ฝนมันตกแล้วแต่ยังไม่เห็นมีรุ้งสักที" ผมได้ฟังแล้วยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลวงปู่เมตตาพูดแบบนี้ให้ฟัง ผมรู้ว่าคืออะไร และไม่กล้าที่จะถามอะไรท่านต่อไป
    เรื่องพระกริ่งนี้ป้าเป้าซึ่งเป็นหลานหลวงปู่และเป็นคนจำหน่ายวัตถุมงคลให้กับวัดบอกว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะว่าหลวงปู่ท่านกำหนดราคาพระกริ่งเองว่าให้จำหน่ายองค์ละ 1,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แพงมากสำหรับหลวงปู่ เพราะขนาดพระที่จำหน่ายอยู่ราคาแค่ 50 บาท หลวงปู่ยังบ่นว่า "ทำไมไปเอาเขาแพงจัง"

    นายกชวนและรัฐมนตรีไปกราบหลวงปู่

    ช่วงนั้นเป็นรัฐบาลชวน2 ขณะนั้นผมเป็นเทศมนตรีเมืองบางมูลนาก วันหนึ่งเสธฯหนั่นซึ่งขณะนั้นเป็น ม.ท.1 บอกกับผมว่า "ลุงจะไปกราบหลวงพ่อขวัญ นายกชวนจะมาพิจิตร เลยให้ไปเจอกันที่วัดหลวงพ่อขวัญ" วันนั้นมีรัฐมนตรีหลายท่านไปที่วัดหลวงพ่อขวัญ ทางวัดก็ได้เตรียมวัตถุมงคลสำหรับมอบเป็นที่ระลึกกับผู้ใหญ่ในวันนั้น เช่น พระบูชาของหลวงปู่ขวัญ และ พระรูปหล่อของหลวงปู่ ฯลฯ สำหรับหลวงปู่ขวัญนั้น ท่านก็ได้เตรียมของเป็นที่ระลึกสำหรับผู้ใหญ่ที่จะมากราบท่านเหมือนกัน ท่านนำพระกริ่งติดตัวท่านไว้จำนวน 3 องค์ เมื่อคณะนายกชวนมาถึงก็ได้เข้าไปกราบหลวงปู่ หลวงปู่ได้มอบพระกริ่งให้กับ 3 คนแรกที่ไปกราบท่าน คือ 1. นายกชวน 2. เสธฯหนั่น 3. รัฐมนตรีกระทรวงไหนผมจำไม่ได้แล้ว สำหรับรัฐมนตรีคนที่ 4 ที่เข้าไปกราบหลวงปู่ก็ขอพระกริ่งกับหลวงปู่ด้วยเพราะเห็นท่านที่ 1-3 ได้ ปรากฏว่าหลวงปู่ท่านเตรียมของท่านมาแค่นั้น ท่านจึงยิ้มเฉยๆ ไม่ได้สั่งอะไร จึงเป็นอันว่า "อด" แล้วก็ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนหรือผู้ใหญ่ท่านไหนได้อีก (แต่ได้ของที่ทางวัดเตรียมมาแทน ไม่ได้จากที่หลวงปู่เตรียมมาเพราะท่านไม่สั่งให้เอามาเพิ่มแค่ไหนแค่นั้น)

    เล่าโดย คุณสุวิทย์ ชอบใช้ สจ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
     
  9. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    “พระกริ่งหลวงพ่อขวัญห้ามฝน,ตัดรุ้งขาด..!!!!”
    หากจะกล่าวถึง”สุดยอดพระเครื่อง”ที่สร้างให้”ดีจริง”ได้ยากยิ่ง อันเป็นที่นิยมศรัทธาเลื่อมใสด้วยพุทธคุณอันสูงเด่นในทุกๆด้านมาแต่โบราณกาล ก็คงต้องจัดให้”พระกริ่ง”เป็นหนึ่งในทำเนียบแห่งเกียรติยศอย่างไม่ต้องสงสัย
    เพราะนอกจาก”ลำดับ”และ”ขั้นตอน”ในการสถาปนานั้น มีความประณีตละเอียดอ่อนและซับซ้อนพิศดารยุ่งยากแก่การทำเป็นยิ่งนักแล้ว องค์ของพระคณาจารย์ผู้สถาปนาก็จักต้องเป็นพระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์และอภิญญาจิตฤทธิอำนาจอย่างแรงกล้า ตลอดจนท่วมท้นด้วยบุญญาธิการที่ได้เคยสร้างสมมาแต่ปางก่อนเป็นอเนกอนันต์อีกด้วย จึงจักสร้างพระกริ่งให้ทรงคุณอันอุดมได้
    โดยเฉพาะ”พระกริ่ง”ที่ได้สร้างอย่างถูกต้องตามพิธีกรรมและได้รับการอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยอิทธิจิตที่ทรงตบะเดชะอันแรงกล้า จนทรงมหิทธิฤทธานุภาพถึงขีดสูงสุด ถึงสามารถ
    ”ตัดรุ้งขาด” ได้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสและแสวงหาแก่มหาชนทั้งหลายเป็นที่สุดด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    ที่ขึ้นชื่อลือชามากที่สุดเรื่อง”พระกริ่งตัดรุ้งขาด” จนอาจที่จะนับเป็น”จักรพรรดิพระกริ่งแห่งสยามประเทศ” ขนานแท้และดั้งเดิมจริงๆนั้น ก็คงไม่มีใดเกิน”พระกริ่งปวเรศ” ของสมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อร้อยกว่าปีก่อนเป็นแน่นอน
    ด้วยจำนวนการสร้างที่มีเพียงหลักสิบปลายๆ และทั้งหมดล้วนตกอยู่ในความครอบครองของพระราชวงศ์ชั้นสูงเกือบทั้งสิ้น “พระกริ่งปวเรศ” จึงเปรียบเสมือน”ดาวประดับฟ้า” ที่อยู่สูงลิบ จนสุดวิสัยที่ดวงใจแห่งศรัทธาใดๆจักสามารถไขว่คว้ามาครอบครองเป็นมงคลสูงสุดแก่ชีวิตจิตใจแห่งใครๆทั่วไปได้
    เรียกว่า ต่อให้มีเงินสักสิบล้าน ร้อยล้าน แต่หากหาวาสนาเกี่ยวเนื่องมาแต่ปุเรชาติที่เคยสั่งสมไว้อย่างหนักหนาสาหัสมิได้แล้ว ก็อย่าได้ฝันกลางวันแสกๆไปเลยว่า จักมีวาสนาได้พระกริ่งปวเรศแท้ๆมาครอบครองเป็นอันเด็ดขาดเลยทีเดียว...!!!
    แต่ช่างน่าแปลกประหลาดและพิลึกกึกกือเป็นที่ยิ่ง ที่ทั้งๆพระกริ่งปวเรศ ซึ่งเป็นเสมือน”พระในตำนาน”ที่อยู่สูงสุดเอื้อมเห็นปานนี้ แต่ปัจจุบัน เห็นมี”ผู้หญ่าย”หรือ”อาเสี่ย”(ที่ไม่ได้สืบตระกูลมาจากเชื้อเจ้าวงศ์กษัตริย์ที่ต้นตระกูลได้รับประทานพระกริ่งจากพระหัตถ์สมเด็จฯปวเรศมาโดยตรง)หลายต่อหลายท่าน กลับมี”พระกริ่งปวเรศ”ห้อยคอกันให้ขวักไขว่จนแทบจะชนกันตาย...!!??!!


    แต่ที่แน่ๆ หากใครต้องการจะเห็นพระกริ่งปวเรศของแท้แบบ”ชัวร์ๆ”เต็มร้อยเปอร์เซนต์แล้วไซร้ ก็ขอได้หาโอกาสไปชม”ของจริง”ที่พิพิธภัณฑ์ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานครให้ได้เทอญ

    และในชั้นต่อมา ซึ่งเป็นพระกริ่งที่มีอายุกลางเก่ากลางใหม่ ซึ่งเป็นที่นิยมฮือฮากันนักหนาว่า”ตัดรุ้งขาด”ได้อีกรุ่น นั่นก็คือ”พระกริ่งชินบัญชร”ของท่านพระครูภาวนาภิรัต หรือหลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่ จ.ระยอง นั่นเอง
    จะเป็นด้วยอานุภาพแห่งพระคาถา”ชินบัญชร”ก็ดี หรือด้วย”อำนาจิต”ฤทธิ์อภิญญาอันแก่กล้าอย่างยิ่งของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ก็ดาม เมื่อผนวกเข้าเป็นหนึ่งในรูปแห่งพระกริ่งแล้ว ก็ทรงอานุภาพถึงขั้น”ตัดรุ้งขาด” เป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งหลายทั่วไป จนเป็นที่ฮือฮาลือลั่น และเสาะแสวงหาของวงการทุกมุมเมืองในอัตราค่าแลกเปลี่ยนที่สูงลิบลิ่วถึงหลักหมื่นหลักแสน ก็เคยมีปรากฏมาแล้ว
    และเช่นเคย บรรดาเราๆท่านๆ ซึ่งมีเบี้ยน้อยหอยน้อย ก็คงได้แต่บำเพ็ญตัวเป็น”ไก่มองเครื่องบิน” พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่หมดปัญญาเช่าหา”พระกริ่งชินบัญชรตัดรุ้งขาด” ราคาเป็นแสนๆของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่มาคล้องคอบูชาเหมือนกับเขาได้อีกแล้ว....
    นับเป็น”เรื่องจริง”ที่”น่าเศร้า”อะไรเช่นนี้......
    “คนจนมีสิทธิมั๊ยคร้าบๆๆๆ.........”หลายๆคนอาจจะร้องอุทธรณ์แบบนี้อยู่ในใจ
    เพราะในโอกาสบัดเดี๋ยวนี้ ผมได้”พบ”และ”พิสูจน์”พระกริ่งรุ่นหนึ่ง ซึ่งมีราคาเช่าหายังไม่แพงมากนัก (หลักพันกลางๆ) ชนิดที่”ผู้มีอันจะ(ต้องคิดก่อน)กิน”ทั้งหลาย สามารถกระเบียดกระเสียรบูชามาได้โดยไม่กระทบกระเทือนฐานการเงินมากจนเกินไป ที่สามารถ”ตัดรุ้งขาด”แบบชัวร์ๆ...!!!!
    มิหนำซ้ำ ยังทรงคุณพิเศษถึงขั้นสามารถอธิษฐาน”ห้ามฝน”ได้อีกต่างหากด้วย..!!!!!!!!
    มิผิดแล้ว “พระกริ่งห้ามฝน”ที่”ตัดรุ้งขาด”ได้กระจุยอย่างไม่ต้องลังเลสงสัยนั้น ก็คือ”พระกริ่งถือดอกบัว”ของหลวงพ่อขวัญ ปวโร แห่งวัดเทพสิทธิการาม จ.พิจิตรองค์นี้นี่แล.....
     
  10. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    “ลองตัดรุ้งเองกับมือ...”
    สำหรับปฐมเหตุแห่งการมีวาสนาได้ค้นพบ”พระกริ่งตัดรุ้งขาด”อีกรุ่นหนึ่งในยุคนี้ ก็เกิดจากการที่เพื่อนสนิทของผู้เขียนท่านหนึ่ง คือคุณสุวิทย์ ชอบใช้ ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาจังหวัดพิจิตร พรรคมหาชน ได้เคยกล่าวถึงความเก่งกล้าสามารถของหลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดพิจิตร บ้านเกิดของคุณสุวิทย์เองให้ได้ยินเข้าหูมาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่จุฬาด้วยกันนานกว่า 20 ปีโน่นแล้ว...
    แต่ตอนนั้น ผู้เขียนก็ยังไม่รู้”ความนัย”ที่แท้ ว่าการที่หลวงพ่อขวัญท่าน”เก่ง”นั้น ท่าน”เก่ง”อย่างใด
    ประกอบกับในช่วงนั้น (2528-2535) ยังมี”พระดี พระเก่ง”ที่มี”การันตี”รับรองคุณภาพอันสูงสุดอยู่เป็นอันมากกว่ามากให้ตามไล่กราบกันไม่หวาดไหว ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย,หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง ,หลวงปู่ครูบาเจ้าชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน,หลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก วัดดอนยายหอม นครปฐม,หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ฯลฯ
    แต่ละองค์ล้วนยิ่งได้รับตรา”ISO 12000”การันตี รับรองจนเกินล้นเกินพอในความ”ดี”และ”เก่ง”อย่างฉกาจฉกรรจ์เลื่องโลกด้วยกันทั้งสิ้น
    ส่วน”ข้อมูล”ในส่วนของหลวงพ่อขวัญช่วงนั้น แม้จะมีจริง แต่ก็ยังไม่มีใครนำมา”ขยาย”ให้”ปรากฏชัด” ผู้เขียนเองก็เลยออกจะยัง”เฉยชา” ไม่ได้บังเกิดความศรัทธาอะไร
    ก็อย่าว่าอะไรเลย แม้รูปถ่ายหรือหน้าตาของหลวงพ่อขวัญในตอนนั้นเองแท้ๆ ผมก็ยังไม่เคยเห็นแม้สักครั้ง
    เลยไม่รู้ว่า จะเอา”เหตุ”ตรงไหนมาศรัทธาให้เต็มใจได้
    ต่อเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อคราวไปกราบหลวงพ่อแดง วัดห้วยฉลองราษฏร์บำรุง ที่จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นครั้งแรก ขากลับ ผ่านจังหวัดพิจิตร นายดาบสถาพร เจริญสุข ลูกศิษย์เอกของหลวงพ่อแดง ก็ได้พาแวะไปกราบหลวงพ่อขวัญ ที่วัดบ้านไร่ เป็นครั้งแรกเช่นกัน
    ยังจำได้ไม่เคยลืมเลือนว่า ครั้งแรกที่ได้กราบหลวงพ่อขวัญนั้น สังเกตดูหน้าตาท่าทางตลอดจนราศีของท่านแล้ว ก็อดให้นึกชื่นชมมิได้ว่า หลวงพ่อขวัญท่านช่าง”งามสง่า น่าเลื่อมใส “และ”สงบนิ่ง ไม่แวกแวก” ดีแท้ๆ
    ก็อย่างที่ได้เล่าไว้ตั้งแต่ต้น นั่นก็คือ หลวงพ่อขวัญ แม้ตาท่านจะลืมอยู่ แต่ก็แลดู”ว่างเปล่า”(จากอารมณ์และกิเลสทั้งปวง)อย่างสิ้นเชิง
    และไม่มีการที่จะ”เหลือบแล”มามองหรือทักทายอะไรแม้แต่เพียงน้อยเดียวใดๆทั้งสิ้น เหมือนหนึ่งจะสอนโดย”ไร้คำพูด”ว่า
    “อย่ามาจ้องดูหลวงพ่อเลย ดูตัวเองดีกว่านะโยม...”
    แต่ด้วยวิสัยของปุถุชนที่ยังอุดมสมบูรณ์ด้วยกิเลส,ตัณหาและราคะเต็มอัตราศึกอยู่อย่างบริบูรณ์ ผู้เขียนก็อดที่จะ”เลยเถิด”ส่งจิตออกนอกพลางแอบคิดอยู่ในใจ ไปเสียมิได้ว่า
    “เอ..ท่าทางแบบนี้ คงไม่ใช่พระธรรมดาแน่ๆ...อยากรู้จังเลยว่า หลวงพ่อขวัญองค์นี้ เป็นพระระดับไหนนะ..???”
    อยากรู้จังเลยนะนี่....
    และในไม่ช้าไม่นาน หลังจากที่เช่า”แหวนพิรอด”อันโด่งดัง และได้กราบลาหลวงพ่อขวัญออกจากวัด เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพได้เพียงไม่กี่อึดใจ คุณสุวิทย์ก็กริ๊งกร๊างมาเลยทีเดียว
    “นี่เนาว์มากราบหลวงพ่อขวัญหรือครับ..??”เสียงคุณสุวิทย์ท่าทางตื่นเต้นดีใจมาก เมื่อรู้ว่าคณะผมไปกราบหลวงพ่อขวัญที่คุณสุวิทย์นับถือเป็นอย่างยิ่ง
    “ถูกแล้วครับ..”ผมตอบรับ
    “แล้วเนาว์ได้เช่าพระกริ่งถือดอกบัวของหลวงพ่อขวัญไว้หรือเปล่า นั่นน่ะ สุดยอดของหลวงพ่อขวัญเลยนะ..”
    “เปล่าครับ..”ผมปฏิเสธ”ผมเห็นพระกริ่งที่ว่าเหมือนกัน ยังคิดเลยว่า พระกริ่งของหลวงพ่อขวัญนี่แปลกดี แทนที่จะถือวัชระหรือหม้อน้ำมนต์ แต่นี่กลับ ถือดอกบัวยังกับพระบัวเข็มแทน แต่ผมยังไม่รู้อะไรเป็นอะไร เลยได้แต่เช่าแหวนพิรอดมาเพียง 2 วงเท่านั้น”
    “ปัดโธ๊...”คุณสุวิทย์อุทาน “พระกริ่งหลวงพ่อขวัญนั้นน่ะ ท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่าที่ท่านทำพรกริ่งรุ่นนี้ เพราะท่านได้ตำราการสร้างพระกริ่งปวเรศมา ซึ่งพระกริ่งของหลวงพ่อขวัญนี้ มีคนลองเอามาตัดรุ้งขาดแถมยังห้ามฝนได้ด้วยนะคร้าบ...”
    “อ๊าวว...!!!” ผมอุทานเสียงหลงบ้าง ก่อนครางว่า ” แล้วทำไมเมื่อตะกี้ตอนที่อยู่ที่วัดไม่โทรมา แต่พอออกจากวัดแล้วเพิ่งจะมาโทรเล่า.???”
    “จะไปรู้เร๊อะครับ...”
    “กรรม”ของ”เวร”แท้ๆ......
    ทั้งๆที่”สุดยอดของดี”มาจ่ออยู่ต่อหน้าแท้ๆ กลับ”มองข้าม”ไปเสียไกลลิบได้เห็นปานนี้
    “ไม่เป็นไร...”ผู้เขียนนึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างอาฆาตวาสนาตัวเองตัวเอง “ถ้าเรายังพอมีบุญมีวาสนาอยู่บ้าง ก็คงจะได้มากราบมาเช่าพระกริ่งห้ามฝนตัดรุ้งขาดของหลวงพ่อขวัญหรอกน่า...”
    และต่อมาจากนั้นอีกไม่นาน เมื่อตอนที่ผู้เขียนเดินทางขึ้นไปยังจังหวัดพิจิตรอีกครั้ง เพื่อติดรถคุณสุวิทย์ เพื่อไปทำบุญวันเกิดของตัวเองที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18-20 สิงหาคมที่ผ่านมา คราวนี้คุณสุวิทย์ก็ได้แนะนำให้รู้จักกับได้พบกับคุณป้าสมใจ บัวมั่น ผู้มีบารมีกว้างขวางในแถบนั้น ซึ่งดำรงตำแหน่งสำคัญของอำเภอบางมูลนาก 2-3 ตำแหน่งด้วยกัน คือเป็น”สมาชิกสภาเทศบาลบางมูลนาก” และ”ประธานลูกเสือชาวบ้านอำเภอบางมูลนาก” จ.พิจิตร
    และคุณป้าสมใจนี้ ก็มีความเคารพนับถือและใกล้ชิดกับทางวัดบ้านไร่และหลวงพ่อขวัญมานานหลายสิบปีแล้ว จึงเคยได้”สุดยอดของดี”จากมือของหลวงพ่อขวัญมาไม่น้อย
    โดยที่ไม่ทันได้กล่าวว่าว่ากระไร คุณป้าสมใจผู้ใจดี ก็งัดเอา”พระกริ่งถือดอกบัว” เนื้อเงินบริสุทธิ์ของหลวงพ่อขวัญ ปวโร ที่เป็นสมบัติส่วนตัวองค์สุดท้าย(ที่วัดหมดไปนานแล้ว)มาให้หนึ่งองค์อย่างคาดคิดไม่ถึง..!!!
    เล่นเอาผู้เขียนแทบจะ”กระโดด”พลาง”ชักแหง็กๆๆๆ....”ด้วยความตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุดไปเลยทีเดียว
    ยิ่งไปกว่านี้ ผมก็แทบจะถึงแก่การ”ช็อคซีนีม่า”ไปอีกรอบ เมื่อป้าสมใจได้เล่าออกมาด้วยว่า
    “พระกริ่งหลวงพ่อขวัญนี่นะ ป้าลองเอามาตัดรุ้งมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วล่ะ ลองมากับมือป้าเองเลยนะ..!!???!!”
    “ฮ้า...????”ผู้เขียนแทบตะลึง
     
  11. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    “เหตุเกิดที่เขาใหญ่”

    “ตอนนั้น ป้ากำลังซ่อมบ้านพักที่ไร่ 100 ไร่ที่เขาใหญ่อยู่...”คุณป้าสมใจเล่าต่อ “พื้นบ้านนี่ต้องทำใหม่หมด ป้าเลยต้องขนโต๊ะตั่งตลอดจนที่หลับที่นอนออกมากองไว้ที่นอกชาน เพื่อเตรียมซ่อมพื้น...
    ระหว่างนั้นเอง ก็เกิดมีพายุใหญ่ที่ไหนก็ไม่รู้พัดมาอย่างแรง ลมนี้แรงมากถึงขนาดพัดเอาต้นสนนั้นเอนลู่จนยอดสนแทบจะจรดกับพื้นดิน แรงขนาดนั้น บ้านคนที่อยู่ใกล้ๆถึงกับพัง หลังคานี้เปิดไปเลย...!!!
    ส่วนที่บ้านป้านั้น พายุมันก็หอบที่หลับที่นอนจากนอกชานกระจายไปหมด ป้าก็วิ่งหลบพายุกันชุลมุน ทั้งลมทั้งฝนตอนนั้นแรงมากๆ จนป้ากลัว ป้าก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า เรานี้ก็มีพระกริ่งของหลวงพ่อขวัญ ที่ท่านเคยสั่งไว้ว่า หลวงพ่อพระกริ่งนี้ห้ามฝนได้นี่ หลวงพ่อขวัญท่านเคยให้ป้ามากับมือองค์หนึ่ง เลี่ยมให้เสร็จเลย ป้าก็เลยหยิบพระกริ่งนั้นออกมาอารราธนาทันทีเลยว่า
    “หลวงพ่อ...ไม่ไหวแล้ว ทั้งลมทั้งฝนแรงขนาดนี้ ไม่ไหวแล้ว....หลวงพ่อพระกริ่งช่วยด้วย หลวงพ่อขวัญช่วยลูกช้างด้วยนะ.......ฯลฯ”
    ว่าแล้ว ป้าสมใจก็เอาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญนั้น วางลงบนโต๊ะภายในบ้านที่กำลังถูกพายุฝนมหากาฬกระหน่ำจนเจียนจะพังมิพังแหล่ในทันใด
    น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ภายหลังจากที่เอาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญมาอาราธนา ทั้งลมทั้งฝนก็ค่อยๆเบาบางลงๆไปเรื่อยๆ จนสงบราบคาบในที่สุด ...!!!!! นับเป็นมหาปาฏิหาริย์ที่น่าตื่นตะลึงอย่างยิ่งที่หากใครมิได้เจอะเจอกับตัวเองแล้ว ก็ยากที่จะเชื่อแก่ใจตนเองได้เป็นแน่เลยทีเดียว....
     
  12. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    “พระกริ่ง...จะตัดรุ้งดูหน่อยนะ..!!??!!”
    และยิ่งไปกว่านี้ ป้าสมใจยังได้เล่าเรื่องความหลัง ตอนที่หลวงพ่อขวัญได้ให้พระกริ่งของท่านแก่ป้าสมใจเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
    “ตอนที่หลวงพ่อให้พระกริ่งป้ามานั้น ตอนนั้นหลวงพ่อท่านยังแข็งแรงอยู่ ท่านยังพูดท้ากับป้าเลยทีเดียวว่า
    “พระกริ่งของข้านี่น่ะ ใช้ได้ทุกอย่างเลยนะ..!!!!.”
    และ
    ”พระกริ่งของข้านี้ ฟาดรุ้งบนฟ้าไปเถอะ ขาดกระจุย...!!!!!”
    แต่....พร้อมกันนั้น หลวงพ่อขวัญก็ยังได้สั่งสำทับปิดท้ายอีกหน่อยหนึ่งด้วยว่า
    “อย่าเอาไปลองนะ...!!??!!”
    ต่อมา...เมื่อป้าสมใจได้เดินทางไปยัง”รีสอร์ทส่วนตัว”ที่เขาใหญ่อีกครั้ง วันหนึ่ง บนฟากฟ้ากว้างเหนือไร่ 100 ไร่ของป้าสมใจก็บังเกิดมี”รุ้งอ้วน”ลำใหญ่ ปรากฏขึ้นมาอย่างสวยสดงดงามเป็นอย่างยิ่งอยู่ไม่ห่างไกล ซึ่งทั้งป้าสมใจและคนรอบตัวต่างก็ได้ชื่นชมปรากฏการ์แห่งธรรมชาติอัน”วิจิตรตระการตาดุจราชรถทรง”นี้ด้วยความรื่นรมย์แห่งใจไปตามๆกัน
    แต่...ทันใดนั้นเองอย่างไม่มีปี่มีกลอง น้องสาวของป้าสมใจ บัวมั่นก็รำพึงออกมาอย่างที่ใครๆก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่า
    “เอ...ได้ยินว่า พระกริ่งนี้ตัดรุ้งได้จริงหรือคะ..???”
    “จริงซิ...”ป้าสมใจตอบ “หลวงพ่อขวัญท่านว่า พระกริ่งของท่านตัดรุ้งได้จริงๆ จะทำให้ดูนะ...!!!!”
    ว่าแล้ว ป้าสมใจก็หยิบพระกริ่งหลวงพ่อขวัญออกมาจากคอ แล้วอาราธนา”โดยซื่อ”ด้วยภาษาพื้นบ้านอย่างน่ารักๆมากๆ ชนิดที่ไม่ต้องว่าคาถาอาราธนาหรือยกครูใดๆว่า
    “พระกริ่ง....จะตัดรุ้งดูหน่อยน๊ะ...!!!???!!!”
    ว่าเสร็จ ป้าสมใจก็เอาพระกริ่งออกฟาดรุ้งในทันที....
    “ชับๆๆๆๆ...”!!!!!????!!!!
    ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์....เพราะในบัดดลนั้นเอง สายรุ้ง 7 สี ลำใหญ่ที่กำลังทอดตัวโค้งอยู่บนฟ้ากว้าง ก็ถึงแก่กาล”ขาด”เป็น”ท่อนๆๆๆ” ต่อทุกสายตาของทุกคน สร้างความตื่นตะลึงให้บังเกิดอย่างเหลือที่จะกล่าวได้
    “เมื่อบอกหลวงพ่อพระกริ่งเสร็จแล้ว..”ป้าสมใจว่า “ป้าก็เอาพระกริ่งนี่มาฟาดรุ้งฉับๆๆ รุ้งก็ขาดเป็นท่อนๆ เห็นกันทุกๆคน ท้ายสุด รุ้งนั้นก็หายไปหมดทั้งเส้นเลยแหละ...!!!!!”
    อุแม่เจ้า...นี่”หลวงพ่อพระกริ่ง”ของหลวงพ่อขวัญศักดิ์สิทธิ์ถึงขนาด”ลบรุ้ง”ทิ้งทั้งยวงได้ถึงปานนี้ทีเดียวฤา...????
    และนอกจากนี้ ผู้เขียนก็ยังได้เรียนถามป้าสมใจสืบต่อไปอีกหน่อยด้วยว่า
    “ป้าลองตัดรุ้งครั้งเดียวเหรอครับ..??”
    “ป้าลองครั้งเดียวแหละจ้ะ...”
    “อ้าว”ผมอุทาน”ทำไมละป้า..???”
    “ก็ป้ากลัวบาปน่ะสิ...”
    “บาปไงป้า...”ผมงงอย่างสนิท
    “ก็รุ้งมันกินน้ำอยู่ดีๆ แล้วเอาพระกริ่งไปไล่เขาไม่ให้กินน้ำ ป้ากลัวจะเป็นบาป เลยไม่เอาพระกริ่งไปตัดรุ้งอีกเลยนะจ้ะ..!!!!????”
    ช่าง”ใสซื่อ”อย่าง”บริสุทธิ์”และ”น่ารัก”อย่างมากๆถึงมากที่สุดอะไรเช่นนี้หนอ..????
    และนี่...ถ้าเรื่องดังกล่าวออกมาจากปากของคนทั่วๆไปใดๆแล้ว คนที่เชื่อยากมากๆถึงมากที่สุดอย่างผู้เขียน ย่อมไม่อาจที่จะลงใจเชื่อได้เป็นอันเด็ดขาดเป็นแน่แท้เลยทีเดียว
    แต่นี่ เป็นเรื่องที่ออกมาจากปากของ”ผู้กว้างขวาง”อาวุโสผู้มีอันจะกินแห่งอ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ที่เป็นถึง”สมาชิกสภาเทศบาล”และ”ประธานลูกเสือชาวบ้าน”ซึ่งเป็นที่ยกย่องและนับหน้าถือตาของคนทั่วไปอีกต่างหาก
    “เครดิต”หนักแน่นปานภูผาถึงขนาดนี้ “ไม่เชื่อไม่ได้”จริงๆแล้วนะขอรับกระผม...!!!!


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    “สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น”
    แต่แม้จะมีคำโบราณที่ว่า “สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น”หรือ”สิบตาเห็น ไม่เท่ามือคลำ”ก็ตาม แต่อย่างไรเสีย ผู้เขียนก็ยังไม่กล้าที่จะเอาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญมาลอง”ตัดรุ้ง”เองอยู่ดี แม้จะได้ยินได้ฟัง”ประจักษ์พยาน”ที่มี”เครดิต”และ”เดบิต”ที่เชื่อถือได้อย่างยิ่งเยี่ยง”ป้าสมใจ”ได้เล่าเรื่องอันเหนือโลกให้ฟังอย่างเต็มๆเห็นปานนั้นแล้วก็ตาม.....
    เหตุหนึ่ง นอกจากจะ”กลัวบาป” เพราะเกรงว่าจะเป็นการ”ปรามาส”หรือ”ลบหลู่”พระรัตนตรัย ด้วยเหตุที่เป็นประหนึ่งว่า “ไม่เชื่อ”หรือ”ไม่เคารพ”กันเป็นปฐมเหตุแล้ว ก็ยังเป็นเพราะ”กลัวใจ”ตัวเองว่า จะ”เสียศรัทธา” หากลองเอาพระกริ่งมาตัดรุ้งแล้ว รุ้งเกิด”ไม่ขาด”ขึ้นมาอย่างที่”เขาว่า”อีกด้วยนั่นแล.....
    มิสู้”หลอกตัวเอง”ไปวันๆดีกว่าว่า “ของดีไม่ต้องลองก็ย่อมดีอยู่วันยังค่ำ”เป็นไหนๆ......
    แต่...ก็เหมือนกับ”ฟ้าลิขิต”ที่จะมีเหตุ”บังคับ”ให้ผู้เขียนได้นำเอาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญมาตัดรุ้งด้วยมือของผู้เขียนเอง(จนได้) เมื่อผู้เขียนได้เดินทางขึ้นไปทำบุญวันเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา กับคณะของคุณสุวิทย์ ชอบใช้ สมาชิกสภาจังหวัดพิจิตร เพื่อนสนิทที่เรียนจุฬาฯมาด้วยกัน โดยการนำของท่านผู้การเกรียงศักดิ์ เหมินทร์ อดีตท่านผู้อำนวยการรพช จ.พิจิตร ซึ่งเป็นศิษย์กรรมฐานในท่านพระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ) วัดเทพศิรินทราวาส กทม. (ท่านผู้การฯเป็นพระ 1 ใน 3 รูปของพระนวกะปีพ.ศ. 2510 ที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯเจาะจงเรียกไปอบรมธรรมเป็นกรณีพิเศษภายหลังการทำวัตรสวดมนต์เสร็จในแต่ละวัน)
    ระหว่างทาง คณะแสวงบุญได้แวะกราบพระอริยเจ้าองค์สำคัญแห่ง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ นั่นก็คือท่านพระครูขันตยาภรณ์ หรือที่หลายๆคนเรียกหาท่านว่า “พระครูขันต์”นั่นเอง
    ก็ท่าน”พระครูขันต์”หรือ”พระครูขันตยาภรณ์”องค์นี้นี่แหละ คือ “พระอริยเจ้า”องค์สำคัญที่สุดอีกองค์หนึ่งแห่งเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ที่มีประวัติความเป็นมาที่ละม้ายคล้ายคลึงกับหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก แห่งสำนักสุสานไตรลักษณ์ (ชื่อสำนักเหมือนกันเลย) แห่ง จ.ลำปางเป็นอย่างยิ่ง
    เพราะต่างองค์ล้วนแต่”หนียศศักดิ์”และ”แสวงหานิพพาน เหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน
    ต่างกันตรงที่ หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก ท่านไม่ยอมรับตำแหน่ง”เจ้าอาวาส” แต่แรกเริ่ม
    แต่ท่านพระครูขันตยาภรณ์ ท่านเป็นถึง”เจ้าอาวาส”วัดศรีเกิด (วัดพระเจ้าแข้งคม) และ”เจ้าคณะ”วัดหลวงกลางเมืองเชียงใหม่ซึ่งเพียบพร้อมด้วยยศศักดิ์และลาภสักการะ แต่ก็ยังสามารถ”ตัดใจ”ลาออกจาก”ฐานันดรดวงดอกฟ้า”หมดทุกตำแหน่ง แล้วออกไปจำพรรษาเพียงลำพังอยู่ที่ป่าช้าสุสานไตรลักษณ์ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ได้อย่างไม่อาลัยไยดีเห็นปานนี้ฯ
    เป็นที่เชื่อมั่นกันในหมู่”นักปฏิบัติ”และ”ผู้ทรงญาณ”ทั้งหลายว่า อันท่านพระครูขันตยาภรณ์ สำนักสุสานไตรลักษณ์แม่วาง องค์นี้ ท่านได้บรรลุถึง”พระอรหัต”เป็น”พระอรหันตขีณาสพเจ้า”ผู้บริสุทธิ์สุดส่วนอีกองค์หนึ่งในยุคปัจจุบันนี้อย่างแน่แท้แล้ว
    หมายเหตุ, แต่เป็นที่น่าเสียดายและเสียใจอย่างยิ่ง ที่ท่านพระครูขันตยาภรณ์ พระอริยเจ้าผู้ทรงอริยคุณอันประเสริฐสุดองค์นี้ ได้”นิพพาน”จากทุกคนไปแล้วเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้มีการ”ถวายเพลิง”ภายใน”7”วันอย่างสมถะและเรียบง่ายยอย่างที่สุดตามคำสั่งของท่าน ซึ่งนับเป็นการสูญเสีย”พระดี”ของแผ่นดินไทยอย่างไม่มีวันหวนกลับไปอีกองค์หนึ่งในปีนี้
    และภายหลังจากที่ผู้เขียนและคณะได้กราบนมัสการท่านพระครูขันตยาภรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เวลานั้น ท้องฟ้าเหนือสุสานไตรลักษณ์แม่วาง เพิ่งสร่างเม็ดฝนลงไปหมาดๆ ท้องฟ้าทางทิศตะวันออกก็พลันปรากฏ”สายรุ้ง”สายหนึ่งทาทาบขึ้นมายังขอบฟ้าเบื้องบนอย่างงดงามยิ่ง
    ทันใดนั้นเอง ท่านผู้การเกรียงศักดิ์ เหมินทร์ ศิษย์กรรมฐานของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาอย่างไม่คาดคิดว่า
    “เนาว์ ลองเอาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญมาตัดรุ้งดูสิครับ...!!?!”
    เมื่อได้ฟัง ผู้เขียนก็แทบสะดุ้ง ก่อนที่จะยิ้มแห้งๆอย่างไม่ค่อยมั่นใจตัวเองว่า
    “แหะๆ... ไม่เป็นไรมั๊งครับ คุณอา...”
    “ไม่เป็นไรหรอกน่า”คุณอาเกรียงศักดิ์ว่า “ลองดู.... จะได้เกิดความมั่นใจยิ่งๆขึ้นไป ของแบบนี้หากได้รู้ได้เห็นด้วยตัวของตัวเอง จะเกิดความแน่ใจดียิ่งกว่าฟังคนอื่นเขาเล่าว่าเป็นไหนๆหรอกนะครับ...”
    “จะดีหรือครับ....???”
    “ดีสิ...ลองตัดรุ้งดูเลย....”
    ด้วยความที่ไม่อาจจะขัดต่อความปรารถนาดีของท่านผู้การเกรียงศักดิ์ได้ ผู้เขียนก็ล้วงเอาพระกริ่งถือดอกบัว ของหลวงพ่อขวัญ วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร ออกมาจากกล่อง ก่อนที่จะกลั้นใจ”ตัดรุ้ง”ที่ทอดตัวอยู่เหนือฟ้านครเชียงใหม่อย่าง”เงอะๆงะๆ”แลดู ”เฉิ่มเบ๊อะๆ”เหมือนอย่างคนที่”ขาดความมั่นใจในตนเอง”อย่างไรชอบกลในทันใด
    ฉับบบบบ....!!!!!
    ผลหรือครับ...???
    รุ้ง”ไม่ขาด”สิครับ..!!???!!
    “ฮือๆ...แงๆ....ทำไมรุ้งไม่ขาดน๊ะ..????”ผู้เขียนหน้าเหี่ยว ก่อนนึกบ่นพึมพัมในใจอย่างน้อยใจยาในวาสนาของตัวเองเสียเต็มประดา
    แต่..ท่านผู้การเกรียงศักดิ์ ซึ่งยืนดูอยู่ใกล้ ก็เอ็ดกลับมาว่า
    “ทำเงอะๆงะๆอย่างไม่มั่นใจอย่างนั้น แล้วจะตัดรุ้งขาดได้อย่างไร...??”
    ว่าแล้ว ท่านผู้การฯก็ยังสอนสั่งผู้เขียนอีกชุดใหญ่ด้วยว่า
    “ของแบบนี้ เราต้องมีความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่ใช่ทำเงอะงะๆ....เอาใหม่ๆ....เนาว์ต้องตั้งสมาธิดีๆ ให้มีความมั่นใจในตัวเอง ให้เกิดเป็นพลังใจของเราที่มั่นคงให้ได้เสียก่อน จึงจะสามารถ LINK สื่อกับพลังพุทธคุณในพระกริ่ง(เหมือนอย่างที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯท่านสอนไว้ว่า”ใจผู้บูชาต้องเป็นหนึ่งเดียวกับพระ”จึงจะบังเกิดผลแห่งความศักดิ์สิทธิ์) แล้วเอาพระกริ่งฟาดรุ้งอย่างแรงๆไปเลย...”
    “ครับ...คุณอา..”ผู้เขียนตอบรับ ก่อนที่จะ”ปลุกใจ”ตัวเองให้เข้มแข็ง เหมือนหนึ่งเตรียมออกรณรงค์สงคราม จนมีความมั่นใจในตนถึงขีดแล้ว ผู้เขียนก็อาราธนาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญออกฟาดรุ้งอีกครั้งหนึ่งในทันใด...
    “ชั๊วะ..ววววว......!!!!!!!!!!!!!!”
    แน่นอนที่สุด อย่างไม่ต้องสงสัยว่า ในคราวนี้ “รุ้ง”ก็”ขาดกระจุย” อย่างไม่มีเม้มในทันใด..!!!!!!
    “เนาว์ นรญาณ”คนนี้ แทบถึงแก่การ”ช็อค”ไปเลยทีเดียว...!!!!!!!!!!!
    ด้วยความไม่แน่ใจ และไม่อยากจะคิดไปเองคนเดียว เมื่อผู้เขียนเห็นรุ้งขาดสะบั้นกันจะๆต่อหน้าต่อตา ในชั้นแรก ผู้เขียนก็คิดไปว่า ตาของเราคงจะ”ฝาด” หรือมี”ขี้ตา”มาบังนัยน์ตาไปหรอกกระมัง ผู้เขียนก็เลยลองทำ”ตาเหล่” พลางกลอกลูกตาไปมาอยู่เป็นหลายครั้ง ด้วยหมายว่า หากว่าภาพรุ้งขาดนั้นเกิดจากการที่เราตาฝาดหรือมีขี้ตามาบังจอภาพ ภาพรุ้งขาดนั้นก็คงหายไป เหลือแต่รุ้งที่สมบูรณ์เต็มสายเหมือนเดิมเป็นแน่
    แต่”ซอรี่”ขอประทานโทษ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รุ้งที่”ขาดวิ่น”ก็ยังคง”แหว่งเว้า”อยู่อย่างนั้นอยู่นั่นเอง (ประมาณ 5-10 วินาที ก่อนที่จะรวมตัวเข้าต่อสนิทเป็นสายเดียวเหมือนเดิม )
    โอ..มายบุดดาห์.......
    “พระกริ่งหลวงพ่อขวัญ”ตัดรุ้งขาดได้จริงๆ..!!!!
    “ขาดคามือ”เราจริงๆด้วย.....!!!!
    พุทโธ..ธัมโม..สังโฆ.......

    ตัดเลยตัดเลย ชับๆๆ...”
    ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่มา เคยแต่ได้ยินเขาเล่าลือกันมานานนักหนาว่า พระกริ่งที่สร้างถูกต้องตามตำรา และมีความศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นสุดยอดจริงๆเท่านั้น จึงจะตัดสายรุ้งให้ขาดได้
    เท่าที่เคยรู้มา พระกริ่งที่ทรงพุทธานุภาพสูงสุดจนถึงขั้นตัดรุ้งขาด ก็มีแต่พระกริ่งจีนนอก,พระกริ่งปวเรศ สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร และพระกริ่งชินบัญชร ของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เท่านั้น
    ทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นยอดพระกริ่งที่หาได้ยากยิ่ง และมีราคาเช่าหาแพงหูดับทั้งสิ้น
    นั่นก็คือต้องใช้เงินสดๆหลักแสนถึงหลักล้านแลกมา จึงจะได้ครอบครองทั้งสิ้น
    พ้นวิสัยที่ผู้มีเบี้ยนิดๆมีหอยหน่อยๆอย่างตัวของข้าพเจ้า จักไขว่คว้าหามาบูชาสักการะและลองตัดรุ้งอย่างที่เขาว่าโดยง่ายได้
    คำเล่าลือถึง”พระกริ่งตัดรุ้งขาด”จึงเป็นเสมือนหนึ่ง FAIRY TALES หรือ”เทพนิยาย” ที่ชวนใฝ่ฝันละเมอหาอันสุดแสนที่จะอยู่ห่างไกลสุดปลายฟ้า แต่ยากนักยากหนาจะหามาสร้างฝันให้เป็นจริงขึ้นมาได้จริงๆแล้ว....
    ก็ใครเลยจะคิดมาก่อนเลยล่ะว่า จะมีวันนี้ วันที่ได้มีโอกาสครอบครองพระกริ่งอีกสำนักหนึ่งที่ทรงไว้ซึ่งพุทธานุภาพอันสูงสุด ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระกริ่งยอดนิยมดังกล่าวข้างต้น และจะมีโอกาสได้มาลองใช้พระกริ่งมา”ตัดรุ้ง”ให้เห็นกันจะๆด้วยตัวเองเห็นปานนี้ได้....
    ได้โปรดเถอะ.. หากนี่เป็นเพียง”ความฝัน” ก็ขออย่าต้องตื่นจากความฝันอันเหลือเชื่อดังว่านี้ขึ้นมาตอนนี้เลย.....
    ขอร้องเถิดนะ.........
    แต่....ความจริงก็ยังคงยืนยันความเป็นจริงด้วยตัวเองอยู่วันยังค่ำอยู่นั่นเอง
    “รุ้งขาด”กลางหาว ด้วยอานุภาพของพระกริ่งถือดอกบัว หลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ จ.พิจิตร ก็ล้วนเป็นที่ประจักษ์กันจะๆต่อหน้าผู้คนนับสิบ อันประกอบด้วย ท่านผู้การเกรียงศักดิ์ เหมินทร์ ศิษย์เจ้าคุณนรรัตน์ฯ และท่านยังเป็นหลานพระยาทางจังหวัดสกลนครในสมัยก่อน ซึ่งตระกูลท่านมีความใกล้ชิดกับพระกรรมฐาน ตั้งแต่ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตลงมาเป็นอย่างยิ่ง,คุณศรีวรรณี ชอบใช้ แห่งบริษัทอารีรัก เจ้าของท่าข้าวใหญ่ลำดับต้นๆแห่งจังหวัดพิจิตร,คุณสุวิทย์ ชอบใช้ สมาชิกสภาจังหวัดพิจิตร,คุณกัญญา วงศ์สระหลวงฯ นี้คือ
    ”สัจจะ”ที่ไม่อาจจะปฏิเสธว่า บรรดาผู้มีเกียรติและทรงคุณธรรมประจำใจเหล่านี้ จะ”ตาฝาด”พร้อมๆกับผู้เขียนในคราวเดียวกันนี้ได้
    และเมื่อการ”ลองของ”ครั้งแรก สามารถ”ตัดรุ้ง”ให้ขาดได้ดังนี้ ผมก็บังเกิดความมั่นใจและแน่ใจในพระกริ่งหลวงพ่อขวัญยิ่งๆขึ้นไปอีกจนสุดที่จะบรรยาย ก่อนที่จะอาราธนาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญออกตัดรุ้งซ้ำๆอีกหลายครั้ง เพื่อตอกย้ำความมั่นใจของตัวเอง สลับกับคุณสุวิทย์ ชอบใช้และคนอื่นๆ ซึ่งผลก็ปรากฏให้เป็นที่น่าปีติโสมนัสอย่างล้นพ้นว่า สายรุ้งนั้น ก็ขาด”กระจายกระจุยกระเจิง”เป็นท่อนๆๆทุกๆคราไป..........!!!!!!!!!!
    ชับๆๆๆๆๆๆๆๆ...............!!!!!!!!!!!!!
    และในขณะที่ผู้เขียนและเพื่อนๆกำลังเอาพระกริ่งหลวงพ่อขวัญมา”ตัดรุ้งเล่น”อย่างเพลิดเพลินเจริญใจราวกับเป็น”ของเล่น”หรือ”หนังอินเดีย”อยู่นั่นเอง ทุกๆคนในคณะ พร้อมด้วยคณะอุบาสกอุบาสิกาที่นุ่งขาวห่มขาว ซึ่งอยู่ปรนนิบัติวัตถากท่านพระครูขันตยาภรณ์เกือบสิบชีวิตที่ออกมาดูการ”ลองของ” ครั้งประวัติศาสตร์ดังกล่าว ต่างก็ล้วนเห็น”รุ้งขาด”พร้อมๆกันทุกๆคน โดยหนึ่งในคณะ”แม่ขาว” แห่งสำนักสุสานไตรลักษณ์แม่วางผู้มีร่างกายอัน”บึกบึนสูงใหญ่”นางหนึ่ง ถึงกับ”เก็บอาการ”ตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ เอามือตบอกผาง ก่อนที่จะส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดดังลั่นไปทั่วบริเวณว่า
    “ว๊ายยย...ตายแล้ว....รุ้งขาดจริงๆด้วย....ว๊ายๆๆๆ.....เกิดมาก็เพิ่งเคยพบเคยเห็น....มาเร้ว...มาเร็วๆ....มาดูกัน....ว๊ายๆๆ...รุ้งขาดอีกแล้ว.....โอ๊ย..ชั้นละตื่นเต้นไปหมดแล้วนะเธอ....ว๊ายๆๆ.ฯลฯ..ฯลฯ..ฯลฯ..”
    และแม้จะเห็นพระกริ่งตัดสายรุ้งขาดอยู่ต่อหน้าต่อตาแบบ”ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”เห็นปานนี้ แต่ผู้เขียนก็อดที่จะระแวงไปเสียมิได้ว่า สิ่งที่เห็นนั้นเป็นเพราะตาเรา”ฝาด”ไปหรืออย่างไร เลยต้องทำตา”เหล่ไปเหล่มา”ซ้ำๆอีกหลายรอบ ด้วยหมายที่จะให้สายตาที่อาจมีสิ่งรบกวนหรือผิดปกติไปกลับคืนสู่สภาพเดิม
    แต่....ทุกคราที่จรดพระกริ่งขึ้นสู่ฟ้า รุ้งก็ขาดเป็น”ท่อนๆๆๆ”เหมือนเช่นเคย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆอยู่นั่นแล้ว
    โอยยยย........
    เหลือเชื่อที่สุด......
    เหลือเชื่อจริงๆ.........
    ฝ่ายส่วนผู้การเกรียงศักดิ์ เหมินทร์ เมื่อเห็นผู้เขียนมีความมั่นใจในการ”ตัดรุ้ง”ด้วยตัวเองพอที่แล้ว ก็ได้แต่อมยิ้มชอบใจ ก่อนที่จะเฉลย”ความนัย”ออกมาในภายหลังกับคนอื่นๆในคณะว่า
    “ในตอนแรกนั้น..อาเห็นว่าเนาว์เขาไม่มีความมั่นใจในตัวเองสักเท่าไร ใจที่ไม่มีความมั่นใจอย่างนี้ ตัดรุ้งไม่ขาดหรอก (ความจริงตอนที่ผู้เขียนลองตัดรุ้งครั้งแรก รุ้งก็เลือนแบบจางๆ ยังไม่ขาดสะบั้นสิ้นเชิงเสียเลยทีเดียว เพราะใจของผู้เขียนยังขาดความมั่นคงและเป็นหนึ่งกับพระนั่นเอง) อาเลยต้องช่วยผ่อนแรงด้วยการอธิษฐานพระขอให้สำแดงฤทธิ์ให้ประจักษ์ก่อน ต่อเมื่อเห็นเนาว์เขามีความมั่นใจมากเต็มที่แล้ว อาก็ปล่อยให้เขาเอาพระกริ่งตัดรุ้งด้วยตัวเองไปตามสบายนะ....!!!??!!!”
    สาธุ.........
    สบายใจและสมใจจริงๆแล้วนะเรา
    ถึงไม่มี”เงินแสนเงินล้าน”ไปเช่าพระกริ่งจีนนอก,พระกริ่งปวเรศหรือพระชินบัญชรอะไรๆ ที่ว่า”ตัดรุ้งได้”ก็คงมิใช่ปัญหาคาใจที่ต้องน้อยอกน้อยใจอันใดอีกแล้ว.......
    เพราะพระกริ่งถือดอกบัว ของท่านพระครูพิมลธรรมานุสิษฐ์ (หลวงพ่อขวัญ ปวโร) พระอริยเจ้าองค์ประเสริฐสุดแห่งวัดบ้านไร่ อ.สามง่าม จ.พิจิตร องค์นี้ ก็”ฟาดรุ้งขาด”ได้เฉกเช่นเดียวกัน....

    หมายเหตุ ,1. "ท่านผู้การเกรียงศักดิ์ เหมินทร์"(ขวา) ศิษย์เจ้าคุณนรรัตน์ฯ ผู้อยู่ในเหตุการณ์พระกริ่งหลวงพ่อขวัญตัดรุ้งขาด
    2. พอดีเจอเอกสารที่เคยตีพิมพ์ในศักดิ์สิทธิ์เมื่อหลายปีก่อน มีเนื้อหาละเอียดและได้อารมณ์ในเหตุการณ์สดๆร้อนๆดี เลยนำมาโพสต์ให้ชม เพื่อให้ได้อรรถรสอย่างเต็มที่อีกครั้งครับผม...
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. จรัสกุล

    จรัสกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,547
    ค่าพลัง:
    +2,127
    ครับ
    อนุโมทนาครับ
    ขอบคุณครับ
     
  15. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอแจ้งการโอนเงินบูชาแหวนพิรอดครับ
    ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

    ISS. BANK SCB
    DATE 05/10/08
    TIME 07:12
    LOCAT. 3326
    SEQ. 7170
    TRANSFER
    FROM A/C SCB 2256432
    TO A/C BBLA 2635202134
    AMOUNT 200.00
    ขอบคุณมากครับ
    จ.อ.วราพงษ์ อ่อนตา
     
  16. ศราวุธ

    ศราวุธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +567
    ศราวุธ แจ้งโอนเงินครับ

    โอนเงินแล้วครับ 1,050 บาท วันที่ 5 ต.ค. 51 เวลา 10.19 น. ทาง ATM.
    ที่อยู่ตาม PM.
     
  17. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    จัดส่งให้แล้วครับ..

    [​IMG]

    *-* เรียน คุณ มะขามป้อม จ.ลำปาง. วันนี้กระผมได้ทำการจัดส่งแหวนตระกร้อ (พิรอดกลับร้ายกลายเป็นดี) หลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ พิจิตร จำนวน 1 วง (ไซด์มาตรฐาน 1.9 ซม.) พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (เลขพัสดุ EF 5307 4475 7 TH) *-* thaiput007@hotmail.com โทร.084-6245007
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2008
  18. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    จัดส่งให้แล้วครับ..

    [​IMG]

    *-* เรียนคุณ ชูพล ศิวะสัตยานนท์ จ.สระบุรี วันนี้กระผมได้ทำการจัดส่งแหวนตระกร้อ (พิรอดกลับร้ายกลายเป็นดี) หลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ พิจิตร จำนวน 2 วง (ไซด์มาตรฐาน 1.9 ซม.และไซด์ 1.6 ซม.) พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (เลขพัสดุ EF 5307 4478 8 TH) *-* thaiput007@hotmail.com โทร.084-6245007
     
  19. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    จัดส่งให้แล้วครับ..

    [​IMG]

    *-* เรียน คุณ สัญชาติ เชียงการ จ.นครพนม วันนี้กระผมได้ทำการจัดส่งแหวนตระกร้อ (พิรอดกลับร้ายกลายเป็นดี) หลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ พิจิตร จำนวน 1 วง (ไซด์มาตรฐาน 1.9 ซม.) พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (เลขพัสดุ EF 5307 4474 3 TH) *-* thaiput007@hotmail.com โทร.084-6245007
     
  20. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    จัดส่งให้แล้วครับ..

    [​IMG]

    *-* เรียน คุณ จอ.วราพงษ์ อ่อนตา จ.สมุทรปราการ วันนี้กระผมได้ทำการจัดส่งแหวนตระกร้อ (พิรอดกลับร้ายกลายเป็นดี) หลวงพ่อขวัญ ปวโร วัดบ้านไร่ พิจิตร จำนวน 1 วง (ไซด์มาตรฐาน 1.9 ซม.) พร้อมของที่ระลึกไปให้เป็นพัสดุแบบอีเอ็มเอสเรียบร้อยแล้วครับ (เลขพัสดุ EF 5307 4479 1 TH) *-* thaiput007@hotmail.com โทร.084-6245007
     

แชร์หน้านี้

Loading...