ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย พชร (พสภัธ), 15 ธันวาคม 2005.

  1. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    สวัสดีทุกๆคน
    วันนี้ประชุมตั้งแต่8am-4pm พึ่งกลับเข้ามาเหนื่อยยยยยยยยย มีผู้โอนมา1000-200บาท ขอโมทนาสาธุๆๆ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอแจ้งอีกครั้งนะครับ เรื่องการทำบุญกับวัดบ่อเงินบ่อทอง หากท่านใดทำบุญ 1,000.-บาท จะมอบพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าให้ 1 องค์ (มีการลงรัก 3 แบบ คือ 1.รักสมุหรือรักพม่า สีน้ำเงิน 2.ชาดหรือรักจีน สีแดง 3.รักไทย สีดำ) โดยแจ้งความประสงค์ที่คุณนักเดินทางครับ
    [​IMG]



    หรือ
    เป็นพระพิมพ์อุ้มบาตรเล็กรวม5พระธรรมทูต ยังเหลืออีก 4 องค์ครับ โดยแจ้งความประสงค์กับผมนะครับ

    [​IMG]

    ให้แจ้งด้วยว่าต้องการพระพิมพ์ สีอะไร (ยกเว้นสีชมพูนะครับ เนื่องจากไม่มีพระครับ)

    โดยแจ้งความประสงค์ว่า
    ขอบริจาคเงินทำบุญกับสำนักสงฆ์ บ่อเงินบ่อทอง จำนวนเงิน 1,000.-บาท โดยขอรับพระพิมพ์อุ้มบาตรเล็ก รวม 5 พระธรรมทูต (ที่หลวงปู่ทั้ง 5 องค์เสก)

    สามารถบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีต่อไปนี้
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
    ชื่อบัญชี นางสาวฐิติวรรณ คุณานพรัตน์ (สังฆทานบิณฑบาท-ข้าวสาร-อาหารแห้ง)
    สาขา บางนา
    เลขที่บัญชี 015-4 32192-6
    ประเภทบัญชี ออมทรัพย์


    ให้แจ้งทั้งสองกระทู้นะครับ
    1.กระทู้ขอความเมตตาช่วยต่ออายุพระเณร (ที่อยู่ผู้รับพระให้แจ้งกับคุณนักเดินทาง ทางข้อความส่วนตัวก็ได้นะครัย) สำหรับขอรับพระสมเด็จเจ้ากรมคุณท่า

    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร<O:p</O:p
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=21733<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอมอบพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าคะแนนร้อยแก่ผู้ร่วมทำบุญ สนส บ่อเงินบ่อทอง<O:p</O:p
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=27127<O:p</O:p

    และ
    2.กระทู้พระวังหน้านะครับ ส่วนที่อยู่ให้แจ้งผ่านข้อความส่วนตัวมาให้ผมก็ได้ ถ้าไม่ต้องการแจ้งลงที่กระทู้ครับ สำหรับขอรับพระอุ้มบาตรเล็ก รวม 5 พระธรรมทูต
    เฉพาะพระอุ้มบาตรเล็กรวม5พระธรรมทูต ถ้าหลังจากสิ้นเดือนมีนาคม 2549 แล้วยังไม่มีผู้ที่ทำบุญแล้วมีความประสงค์จะรับพระอุ้มบาตรเล็กรวม 5 พระธรรมทูต ผมขออนุญาตหยุดมอบพระพิมพ์อุ้มบาตรเล็กรวม5 พระธรรมทูตให้ผู้ทำบุญครับ
    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....<O:p</O:p
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=22445<O:p</O:p


    ขออนุโมทนาในกุศลทุกท่านที่ได้ทำบุญกับวัดบ่อเงินบ่อทอง ครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำบทสวดอิติปิโส มาฝากกันครับ

    พระอิติปิโสรัตนมาลา<O:p</O:p

    นโม ๓ จบ<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    (อิ) อิฎโฐ สัพพัญญุตะญาณังอิจฉันโต อาสะวักขะยัง
    <O:p</O:p
    อิฎฐัง ธัมมัง อนุปปัตโตอิทธิมันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ติ) ติณโณ โญ วัฎฎะทุกขัมหาติณณัง โลกานะมุตตะโม<O:p</O:p
    ติสโส ภูมี อะติกกันโตติณณัง โอฆัง นะมามิหัง
    (ปิ) ปิโย เทวะมะนุสสานังปิโย พรหมา นะมุตตะโม<O:p</O:p
    ปิโย นาคะสุปัณณานังปิณินทริยัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โส) โสกา วิระตะจิตโต โยโสภะมาโน สะเทวะเก<O:p</O:p
    โสกัปปัตเต ปะโมเทนโตโสตะวัณณัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ภะ) ภัชชิตา เยนะ สัทธัมมาภัคคะปาเปนะ ตาทินา<O:p</O:p
    ภะเย สัตเต ปะหาเสนโตภะยะสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (คะ) คะมิโต เยนะ สัทธัมโมคะมาปิโต สะเทวะกัง<O:p</O:p
    คัจฉะมาโน สิวัง รัมมังคัมยะธัมมัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วา) วานา นิกขะมิ โย ตัณหาวาจัง ภาสะติ อุตตะมัง<O:p</O:p
    วานะ นิพพาปะนัตถายะวายะมันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    (อะ) อะนัสสาสะกะสัตตานังอัสสาสัง เทติ โยชิโน<O:p</O:p
    อะนันตะคุณะสัมปันโนอันตะคามิง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ระ) ระโต นิพพานะสัมปัตเตระโต โส สัตตะโมจะเน<O:p</O:p
    รัมมาเปตีธะ สัตเตโยระณะจาคัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (หัง) หัญญะเต ปาปะเก ธัมเมหังสาเปติ ปะรัง ชะนัง<O:p</O:p
    หังสมานัง มาหาวีรังหันตะปาปัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สัม) สังขะตาสังขะเต ธัมเมสัมมาเทเสสิ ปาณินัง<O:p</O:p
    สังสารัง สังวิฆาเฏติสะสัมพุทธัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (มา) มาตะวา ปาลิโต สัตเตมานะถัทเธ ปะมัททิโน<O:p</O:p
    มานิโต เทวะสังเฆหิมานะฆาฏัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สัม) สัญจะยัง ปาริมิง สัมมาสัญจิตวา สุขะมัตตะโน<O:p</O:p
    สังขารานัง ชะยัง กัตวาสันตะคามิง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (พุท)พุชฌิตวา จะตุสัจจานิพุชฌาเปติ มะหาชะนัง<O:p</O:p
    พุชฌาเปนตัง สิวัง มัคคังพุทธะเสฏฐัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โธ) โธติ ราเคจะ โทเสจะโธติ โมเหจะ ปาณินัง<O:p</O:p
    โธตาสะวัง มะหาวีรังโธตะกะเลสัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วิช) วิวิจเจวะ อะสัทธัมมาวิจิตวา ธัมมะ เทสะนัง<O:p</O:p
    วิเวเก ฐิตะจิตโต โยวิทิตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ชา) ชาติธัมโม ชะราธัมโมชาติอันโต ปะกาสิโต<O:p</O:p
    ชาติเสฏเฐนะ พุทเธนะชาติโมกขัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (จะ) จะยะเต ปุญญะสัมภาเรจะเยติ สุขะ สัมปะหัง<O:p</O:p
    จะชันตัง ปาปะ กัมมานิจะชาเปนตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ระ) ระมิตัง เยนะ นิพพานังรักขิตัง โลกะสัมปะทัง<O:p</O:p
    ระชะ โทสาทิ กะเลเสหิระหิตัง ตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ณะ)นามิโตเยวะ พรหเมหินระเทเวหิ สัพพะทา<O:p</O:p
    นะทันโต สีหะนาทัง โยนะทันตัง ตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สัม) สังขาเร ติวิธโลเกสัญชานาติ อะนิจ จะโต<O:p</O:p
    สัมนิพพานะ สัมปัตโตสัมปัสสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ปัน)ปันนะกะเต โพธิสัมภาเรปะสัฏโฐ โสสะเทวะเก<O:p</O:p
    ปัญญายะ อะสะโมโหติปะสันนัง ตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โน) โน เทติ นิระยัง คันตุงโน จะปาปัง อะการะยิง<O:p</O:p
    โน สะโมอัตถิ ปัญญายะโนนะ ธัมมัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สุ) สุนทะโร วะระรูเปนะสุสสะโร ธัมมะ ภาเนสะ<O:p</O:p
    สุทุททะสัง ทิสาเปติสุคะตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (คะ) คัจฉันโตโลกิยัง ธัมมังคัจฉันโต อะมะตัง ปะทัง<O:p</O:p
    คะโต โต สัตตะ โมเจตุงคะตัญ ญาณัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    (โต) โตเสนโต วะระธัมเมนะโตสัฎฐาเน สิเว วะเร<O:p</O:p
    โตสัง อะกาสิ ชันตูนังโตละจิตตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โล) โลเภ ชะหะติ สัมพุทโธโลกะเสฏโฐ คุณากะโร<O:p</O:p
    โลเภ สัตเต ชะหาเปติโลภะสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (กะ) กันโต โย สัพพะสัตตานังกัตวา ทุกขังขะยัง ชิโน<O:p</O:p
    กะเถนโต มะธุรัง ธัมมังกะถา สัณหัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วิ) วินะยัง โย ปะกาเสติวิทธังเสตวา ตะโยภะเว<O:p</O:p
    วิเส สัญญาณะสัมปัญโนวิปปะสันนัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ทู) ทูเส สัตเต ปะหาเสนโตทูรัฏฐานัง ปะกาสะติ<O:p</O:p
    ทูรัง นิพพานะมาคัมมะทูสะหานัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (อะ) อันตัง ชาติชาราทีนังอะกาสิ ทีปะ ทุตตะโม<O:p</O:p
    อะเน กุสสาหะจิตเตนะอัสสาเสนตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (นุต) นุเทติ ราคะจิตตานินุหาเปติ ปะรัง ชะนัง<O:p</O:p
    นุนะอัตถัง มะนุสสานังนุสาสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ตะ) ตะโนติ กุสะลัง ธัมมังตะโนติ ธัมมะเทสะนัง<O:p</O:p
    ตัณหายะ วิจะรันตานังตัณหาฆาตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    (โร) โรเสนเต เนวะโกเปติโรเสเหวะ นะกุชฌะติ<O:p</O:p
    โรคานัง ราคะอาทีนังโรคะสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ปุ) ปุณันตัง อัตตะโน ปาปังปูเรนตัง ทะสะ ปาระมิง<O:p</O:p
    ปุญญะวันตัสสะ ราชัสสะปุตตะภูตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ริ) ริปุราคาทิภูตังวะริทธิยา ปะฏิหัญญะติ<O:p</O:p
    ริตตัง กัมมังนะ กาเรตาริยะวังสัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สะ) สัมปันโน วะระสีเลนะสะมาธิปะ วะโรชิโน<O:p</O:p
    สะยัมภูญญาณะสัมปันโนสัณหะวาจัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ทัม)ทันโต โย สะกะจิตตานิทะมิตวาปิ สะเทวะกัง<O:p</O:p
    ทะทันโต อะมะตัง เขมังทันตินทริยัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (มะ) มะหุสสาเหนะ สัมพุทโธมะหันตัง ญาณะมาคะมิ<O:p</O:p
    มหิตัง นะระเทเวหิมะโนสุทธัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สา) สารัง เทตีธะ สัตตานังสาเรติ อะมะตังปะทัง<O:p</O:p
    สาระถิวิยะ สาเรติสาระธัมมัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ระ) รัมมะตาริยะ สัทธัมเมรัมมาเปติ สะสา วะกัง<O:p</O:p
    รัมเมฐาเน วะสาเปนตังระณะหันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ถิ) ถิโต โย วะระนิพพาเนถิเร ฐาเน สะสาวะโก<O:p</O:p
    ถิรัง ฐานัง ปะกาเสติถิตะธัมมัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สัต) สัทธัมมัง เทสะยิตวานะสันตัง นิพพานะ ปาปะกัง<O:p</O:p
    สะมาหิตัง สะสาวะกังสันตะจิตตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ถา) ถามัง นิพพานะ สังขาตังถาเมนาธิ คะโตมุนิ<O:p</O:p
    ถาเนสัคคะสิวะ รัมเมถาเปนตัง ตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (เท) เทนโต โย สัคคะนิพพานังเทวะ มะนุสสะ ปาณินัง<O:p</O:p
    เทนตัง ธัมมะวะรัง ทานังเทวะ เสฏฐัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วะ) วันตะราคัง วันตะโทสังวันตะโมหัง อะนาสะวัง<O:p</O:p
    วันทิตัง เทวะพรหเมหิวะรัง พุทธัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (มะ) มะนะตา วิริเยนาปิมะหันตัง ปาระมิงอะกา<O:p</O:p
    มะนุสสะเทวะพรหเมหิมหิตัง ตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (นุส)นุนะธัมมัง ปะกาเสนโตนุทะนัตถายะ ปาปะกัง<O:p</O:p
    นุนะทุกขาธิปันนานังนุทาปิตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สา) สาวะกานัง นุสาเสติสาระธัมเมจะปาณินัง<O:p</O:p
    สาระธัมมัง มะนุสสานังสาลิตัง ตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (นัง) นันทันโต วะระสัทธัมเมนันทาเปติ มะหามุนิ<O:p</O:p
    นันทะภูเตหิ เทเวหินันทะนียัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (พุท)พุชฌิตาริยะสัจจานิพุชฌาเปติ สะเทวะกัง<O:p</O:p
    พุทธะญาเณหิ สัมปันนังพุทธัง สัมมา นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โธ) โธวิตัพพัง มะหาวีโรโธวันโต มะละมัตตะโน<O:p</O:p
    โธวิตตา ปาณินัง ปาปังโธตะกเลสัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ภะ) ภะยะมาปันนะสัตตานังภะยัง หาเปตินายะโต<O:p</O:p
    ภะเว สัพเพ อะติกกันโตภะยะสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (คะ) คะธิโต เยนะ สัทธัมโมคะตัญญา เณนะปาณินัง<O:p</O:p
    คัณหะนียัง วะระธัมมังคัณหาเปนตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วา) วาปิตัง ปะวะรัง ธัมมังวานะโมกขายะ ภิกขูนัง<O:p</O:p
    วาสิตัง ปะวะเร ธัมเมวานะมานัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ติ) ติณโณ โส สัพพะปาเปหิติณโณ สัคคา ปะติฏฐิโต<O:p</O:p
    ติเร นิพพานะ สังขาเตติกขะญาณัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    จบห้อง พระพุทธคุณ ๕๖ คาถา<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    (สวาก)สวากตันตัง สิวัง รัมมังสวากหะเนยยัง ธัมมะ เทสันตัง<O:p</O:p
    สวากหะเนยยัง ปุญญักเขตตังสวากสะภัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ขา) ขาเทนโต โส สัพพะปัชชังขายิตัง มะธุรัง ธัมมัง<O:p</O:p
    ขายันตัง ติวิธัง โลกังขายิตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โต) โตเสนโต สัพพะสัตตานังโตเสหิ ธัมมะเทสะนัง<O:p</O:p
    โตมะหิ จิตตัง สะมิชณันตังโตเสนตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ภะ) ภัคคะราโค ภัคคะโทโสภัคคะโมโห อนุตตะโร<O:p</O:p
    ภัคคะกิเลเส สัตตานังภะคะวันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (คะ) คัจฉันโต รัมมะเกสิเวคะหะะจิตโต สะเทวะเก<O:p</O:p
    คัจฉันเต พรหมะ จะติเยคัจฉันตัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วะ) วันตะราคัง วันตะโทสังวันตะโมหัง ปุญญะ ปาปัง อนุตตะรัง<O:p</O:p
    วันตะพาละมิจฉาทีนังวันตันตัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ตา) ตาเรสิ สัพพะสัตตาตาเรติ โอระมีติรัง<O:p</O:p
    ตาเรนตัง โมกขะ สังสารังตาเรนตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ธัม) ธะระมาเนปิ สัมพุทเธธัมเมเทสัง นิรันตะรัง<O:p</O:p
    ธะเรยยะ อะมะระถานังธะเรนตันตัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โม) โมหัญเญ ทะมันโต สัตเตโมหะตีเต อะการะยิ<O:p</O:p
    โมหะชาเต ธัมมะจาริโมหะตีตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สัน)สัพพะสัตตะตะโมนุโทสัพพโสกาวินาสะโก<O:p</O:p
    สัพพะสัตตะจิตตะโกสัพพะสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ทิฏ)ทิฏเฐ ธัมเม อะนุปปัตเตทิฏฐิกังขา ราคะลุตเต<O:p</O:p
    ทิฏฐิทะวาสัฏฐี ฉันทันเตทิฏฐิธัมเม ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ฐิ) ฐิตีสีละสะมาจาเรฐิติ เตระสะธุตังเค<O:p</O:p
    ฐิติธัมเม ปะฏิปัตติฐิตังปะทัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โก) โกกานัง ราคะปิฬิโตโกธัมโม ปาฏิหัญญะติ<O:p</O:p
    โกกานัง ปูชิโต โลเกโกกานะ ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (อะ) อัคโคเสฏโฐ วะโรธัมโมอัคคะปัญโญปิ พุชฌะติ<O:p</O:p
    อัคคะธัมมัง สุนิปุณังอัคคันตัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (กา) กาเรนโต โส สิเวรัชเชกาเรยยะ ธัมมะจาริเย<O:p</O:p
    กาตัพเพ สุลิกขากาเมกาเรนตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ลิ) ลิโต โย สัพพะทุกเขสุลิกขิโตปิฏะ กัตตะเย<O:p</O:p
    ลิมปิเตปิ สุวัณเณจะลิขันเต ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โก) โก ปุคคะโล สะทิโสมังโก ธัมมัง อะภิปูชะยิ<O:p</O:p
    โกวิทู ธัมมะสาระทังโกสาลาตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (เอ) เอสะติ พุทธธะวะจะนังเอสะติ ธัมมะมุตตะมัง<O:p</O:p
    เอสะติ สัตตะโมกขัญจะเอสาสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (หิ) หิเน ถาเน นัชฌายันเตหิเน เปติ สุคะติง<O:p</O:p
    หิเน โมหะสะเม ชาเลหิตันตัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ปัส)ปักกะโต โพธิสัมภาเรปะเสฏโฐ โสสะเทวะเส<O:p</O:p
    ปัญญายะ อะสะโม โหติปะสันตานัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สิ) สีเลนะ สุคะติง ยันติสีเลนะ โภคะสัมปะทา<O:p</O:p
    สีเลนะ นิพพุติงยันติสีละธะนัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โก) โก โย อัคคะสุปุญโญ ปุพเพโกฑะชะเห อะธิ คัจฉิ<O:p</O:p
    โกธัมมัญจะ วิชานาติโกวันตัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โอ) โอนะโต สัพพะกิเลสังโอนะโต สัพพะ มะมะลัง<O:p</O:p
    โอนะโต ทิฏฐิชาลัญจะโอนะโตตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ปะ) ปัญญา ปาเสฏโฐ โลกัสมิงปัญญาอัปปะฏิ ปุคคะโล<O:p</O:p
    ปัญญายะ อะสะโม โหติปะสันโนตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (นะ) นะรานะระ หิตังเทวังนะระเทเวหิ ปูชิตัง<O:p</O:p
    นะรานัง กัมมะปักเขหินะมิตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ยิ) ยิชชะโต สัพพะสัตตานังยิชชะตัง เทวะ พรหเมหิ<O:p</O:p
    ยิชชะสะติ จะ ปาณินังยิชชะตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โก) โกธัง ชะหะติ ปาปะกังโกธัง โกธะนัง นาสสะติ<O:p</O:p
    โกธัง ชะเหวิ ปัชชะติโกธะ นุทธัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ปัจ) ปัจจาภิระตา ปะชาปัชชะหิตา ปาปะกาโย<O:p</O:p
    ปัปโปติ โชติวิปุโลปะโชตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (จัต) จะริตวา พรหมะจะริยังจัชชันตัง สุวิหัญญะติ<O:p</O:p
    จัชชันตัง สัพพะทาเนนะจัชชะตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ตัง) ตังโนติ กุสะลังธัมมังตังโนติ สัพพะวิริยัง<O:p</O:p
    ตังโนติ สีละสะมาธิงตังตะวายัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (เว) เวรานิปิ นะ พันธันติเวรัง เตสูปะสัมมะติ<O:p</O:p
    เวรัง เวเรนะ เวรานิเวระสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ทิ) ทีฆายุโก พะหูปุญโญทีฆาระโต มะหาสาโล<O:p</O:p
    ทีฆังเตเชนะ ปุญเญนะทีฆะรัตตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ตัพ) ตะโต ทุกขา ปะมุญจะโสตะโตโมเจติ ปาณิโน<O:p</O:p
    ตะโน ราคาทิ กิเลเสตะโตโมกขัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โพ) โพนโต เทวะสังฆาโย โกโพธิเสฏ เฐจะ ปะกะโต<O:p</O:p
    โพธินา ปะริปุณโณโสโพธิสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วิญ)วิระติ สัพพะทุกขัสมาวิริยะนาปี ทุลละภา<O:p</O:p
    วิริยะ ทุกขสัมปันนาวิริยันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ญู) ญูตัญญาเญหิ สัมปันนังญูตะโยคะสะมัปปิตัง<O:p</O:p
    ญูตัญญาณะทัสสะนัญจะญูตะโยคัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (หิ) หิสันตัง สัพพะโทสานิหิสันตา สัพพะภยาติ<O:p</O:p
    หิสะโมหา สัตตาคะตาหิสะสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    จบห้องพระธรรมคุณ ๓๘ คาถา

    (สุ) สุทธิสีเลหิ สัมปันโนสุฏฐะปัตโตจะโย สังโฆ<O:p</O:p
    สุนทะโร สาสะนะธะโรสุนทะรัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ปะ) ปฎิสัมภิทา จะตัสโสปะเสฏโฐ โสอนุตตะโร<O:p</O:p
    ปัญญา อนุตตะโร โลเกปะสัฏฐัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ฏิ) ฏิตถิปะราชิโต สัตถาฏิตถาฏิยา ทัสสะนะเม<O:p</O:p
    ฏิตถิ พุทธะวิเสนะฏิตถันตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ปัน)ปะเสฏโฐ ธัมมะคัมภีโรปัญญะวันโต อะลังกะโต<O:p</O:p
    ปะเสนโต อัตถะธัมมัญจะปะสัฏฐัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โน) โนเจติ กุสะลัง กัมมังโนจะปาปัง อาการะยิ<O:p</O:p
    โนนะตัง พุชฌะ ธัมมัญจะโนทิสันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (ภะ) ภัคคะราโค ภัคคะโทโสภัคคะโมโหจะ ปาณินัง<O:p</O:p
    ภัคคะกิเสสะสัตตานังภัคคะตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (คะ) คัจฉันโต โลกิยัง ธัมมังคัจฉันโต โลกุตตะ รัมปี<O:p</O:p
    คัจฉะเทวะ กิเลเสหิคะมิตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วะ) วัณเณติ กุสะลัง ธัมมังวัณเณติสีละสัมปันนัง<O:p</O:p
    วัณเณติกขะติ รักขิตังวัณเณนะตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โต) โตเสนโต เทวะมะนุสโสธัมมะยะลิ โตเสติ<O:p</O:p
    ทุฏฐะ จิตตานิโตเสนตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สา) สาสะนัง สุปะฏิจฉันนังสาสะยันตังลิวัง รัมมัง<O:p</O:p
    สาสะนัง อะนุสาเสนยังสาสะยันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (วะ) วันตะราคัง วันตะโทสังวันตะโมหัง ทิฏฐิ ฉันทัง<O:p</O:p
    วันตานัง สัพพะปาณินังวันตะกิเลสัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (กะ) กะโรนโต สีละสะมาธิงกะโรนโต สาระมัตตะโน<O:p</O:p
    กะโรนโต กัมมัฏฐานานิกะโรนโต ตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    (สัง) สังสาเร สังสะรันโต โสสังสาระโต วิมุญจิโส<O:p</O:p
    สังสาระ ทุกขโมเจสิสังเสฏฐัง ปะ นะมามิหัง<O:p</O:p
    (โฆ) โฆรัง ทุกขะยัง กัตวาโฆสาเปติ สุรังนะรัง<O:p</O:p
    โฆสะยิตวา ติปิฏะกังโฆระตันตัง นะมามิหัง<O:p</O:p
    จบห้องพระสังฆคุณ ๑๔ คาถา<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    สะตะอัฏฐะธัมมะคาถา รัตตะนัตตะยะคุณาสะมัตตา เอเตนะ ชะยะเตเชนะ โสตถิเม ชะยะมังคะลัง ฯ<O:p</O:p
    ปุตโต ตะยาหัง มะหาราชัง ตะวัง มังโปสะชานาที อัญโญ กิญจิ เทโว โทเสติ สะมัง ปัชชะ ฯ<O:p</O:p
    อิติปาระมิตา ติงสา อิติ สัพพัญญุมาคะตา อิติ โพธิมะ นุปปัตโต อิติ ปิโสจะเต นะโม ฯ<O:p</O:p
    ภะคะวา ภะคะวา นามะ ภะโค กิเลสะ พาหะโน ภะโคสังสาระจักกานัง ภะคะวา นามะ เตนะโม ฯ<O:p</O:p
    รวม ๓ ห้อง ๑๐๘ คาถา อิติปิโสระตะนะมาลา นิฏฐิตัง<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ***พระพุทธภาษิตธะชัคคะสูตรแสดงไว้ดังนี้ ภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าความกลัวหรือความหวาดเสียว หรือขนพองสยองเกล้า เกิดขึ้นแก่ท่านทั้งหลาย ผู้ไปสู่ที่ว่างเปล่า อันเป็นที่เงียบสงัดอันจะพึงกลัว เป็นตันว่า ไปสู่ป่าก็ดี สู่โคนต้นไม้ก็ดี สู่เรือนเปลี่ยวก็ดี สมัยนั้นท่านทั้งหลายพึงระลึกถึงเราผู้ตถาคตอย่างนี้ว่า <O:p</O:p
    ***
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มูลค่าของชีวิต<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    "อย่าหนีนะ ไอ้เด็กขี้ขโมย" <O:p</O:p
    เสียงผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งตะโกนลั่น พร้อมกับมีเด็กคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งผ่านฉันกับแม่ที่กำลังซื้อเนื้อหมูในตลาดไปอย่างรวด เร็ว ทั้งแม่และฉันหันไปดูทันเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นแค่แวบเดียว แม่ถามฉันว่า <O:p</O:p
    "อ้าว นั่นป้าร้านขายของไม่ใช่เหรอ" <O:p</O:p
    "ใช่จ้ะแม่ แกวิ่งไล่ใครกันละ" <O:p</O:p
    ป้าคนนั้นชื่อว่า 'ป้าหนอม' เป็นแม่ค้าขายของชำสารพัดอย่างในตัวตลาดในอำเภอที่ฉันอยู่ มีฐานะจัดว่าดีกว่าแม่ค้าคนอื่นๆ ในละแวกเดียว กัน และเป็นที่รู้จักกันว่าแกเป็นคนที่ขี้เหนียวอย่างร้ายกาจ แถมปากจัดที่สุดในตลาดอีกด้วย ใครต่อราคาของมากเกินไป หรือถามราคาแล้ว ไม่ซื้อ ป้าแกจะโวยวายชนิดต้องรีบเผ่นออกจากร้านแทบไม่ทันทีเดียว<O:p</O:p
    เสียงเอะอะดังมากขึ้น ฉันหันไปมองป้าหนอมจับข้อมือเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 12-13 ขวบ ไล่เลี่ยกับฉันซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่ และป้า แกกำลังจะลงไม้ลงมือ แม่จึงเดินเข้าไปถาม<O:p</O:p
    "พี่หนอม มีไรหรอคะ" <O:p</O:p
    "ก็ไอ้เด็กเวรนี่นะสิ มันมา ทำทีขอซื้อยาแก้ปวดกับยาธาตุ พอฉันหยิบส่งให้ มันก็วิ่งหนีมาเลย เงินก็ไม่จ่าย" <O:p</O:p
    พูดจบป้าหนอมก็ตบหัวเด็กคนนั้นอย่างแรงหนึ่งที และคงจะมีตามมาอีกหลายทีแน่ถ้าแม่ฉันไม่ห้ามไว้ <O:p</O:p
    "ตายแล้วพี่หนอม อย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะ แล้วนี่จะทำไงต่อ" <O:p</O:p
    แม่รีบตัดบทเพราะเห็นว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ <O:p</O:p
    "เรียกตำรวจมาเอามันไปเข้าคุกนะสิ เสียนิสัย พ่อแม่ไม่สั่งสอน ยังเด็กตัวแค่นี้ก็ริจะเป็นขโมยซะแล้ว ต่อไปก็คงต้องปล้นเขากินหละ"<O:p</O:p
    ฉันสะกิดแม่ทันทีพร้อมกับมองพลางส่ายหัวน้อยๆ ทำนองว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า แม่มองฉันแล้วมองเด็กคนนั้น ซึ่งท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ แม่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปพูดกับป้าหนอมว่า<O:p</O:p
    "อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลยนะพี่หนอม เด็กมันคงอยากซื้อยาแต่ไม่มีเงินนะ เอาเป็นว่าฉันจ่ายให้ละกันนะ กี่บาทกันละ" <O:p</O:p
    ในที่สุดเรื่องก็จบลง โดยการที่แม่ยอมจ่ายเงินค่ายาแก้ปวดกับยาธาตุ แล้วแม่ก็จูงเด็กคนนั้นออกมาจากตลาด แต่ป้าหนอมยังไม่วายเตือนแม่<O:p</O:p
    "ใจดีกับเด็กขี้โขมยแบบนี้ ระวังจะเสียใจทีหลังนะเธอ" <O:p</O:p
    แม่ไม่ได้ตอบอะไร แต่พอเดินห่าง จากร้านพอสมควรแล้วก็ถามว่า <O:p</O:p
    "ทำไมหนูขโมยของป้าเขาละ" <O:p</O:p
    เด็กคนนั้นเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองแม่ แล้วตอบสะอึกสะอื้นว่า <O:p</O:p
    "แม่ผมปวดท้องมากเลยครับ แล้วแม่ก็ไม่มีเงินไปหาหมอ ผมก็เลยต้อง..." <O:p</O:p
    แม่มองหน้าเด็กคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยื่นผลไม้ที่ซื้อมาให้เด็กคนนั้นถุงหนึ่ง แล้วบอกว่า <O:p</O:p
    "ทีหลังอย่าโขมยของใครนะ ถ้าไม่มีเงินมาขอเงินน้าไปซื้อก็ได้นะ น้าชื่อสมพรเปิดร้านเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆ นี่เอง ถามคนแถวนี้ก็ได้ รู้จักน้าแทบ ทุกคนเลยแหละ เอ้า...เอา ส้มไป ฝากคุณแม่ซิ คนป่วยนะต้องกินผลไม้มากๆ จะได้หายไวๆ รู้มั้ย"<O:p</O:p
    แม่เสริมพร้อมกับยิ้ม เด็กคนนั้นอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรับส้มพร้อมกับพูดขอบคุณแม่แล้วเดินจากไป <O:p</O:p
    หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้าน ฉันก็ถามแม่ทันที <O:p</O:p
    "ทำไมแม่ต้องช่วยเด็กคนนันด้วยละ รู้จักกันหรอจ้ะ" <O:p</O:p
    แม่ยิ้ม แล้วตอบฉันว่า <O:p</O:p
    "ไม่รู้จักหรอก แต่แม่เห็นเด็กคนนั้นรับจ้างหาบขนมขายอยู่แถวบ้านเราน่ะลูก แต่แกคงจำแม่ไม่ได้หรอก แม่ซื้อขนมแกอยู่ไม่กี่ครั้งเอง"<O:p</O:p
    "แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือเขาถ้าเขาเป็นขโมยนี่แม่" <O:p</O:p
    ฉันถามต่อ แม่มองหน้าฉันแล้วพูดว่า <O:p</O:p
    "แม่เชื่อว่าเด็กที่เคยหาเงินด้วยตัวเองมาก่อนตั้งแต่อายุเท่าๆ กับลูก จะต้องเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ รู้คุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ว่า กว่าจะได้มามันเหนื่อยยากขนาดไหน และคนที่มีความรับผิดชอบนะ จะไม่มีทางขโมยของใครนอกจากจะจำเป็นจริงๆ เมื่อเขาไม่มีทางอื่นให้ เลือกแล้วเท่านั้น"<O:p</O:p
    ฉันฟังแล้วก็ถามแม่ต่อว่า <O:p</O:p
    "แล้วต่อไปถ้าเขามาขอเงินแม่ไปซื้อยาอีก แม่จะให้เขารึเปล่า" <O:p</O:p
    "ให้สิลูกถ้ามันไม่มากไม่มายอะไร" <O:p</O:p
    "แล้วแม่ไม่เสียดายเงินหรอ บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านป้าหนอมเขานะแม่" <O:p</O:p
    "ถึงแม่จะไม่มีเงินทองมากนัก แต่การที่ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากน่ะ มันทำให้แม่มีความสุข แล้วยังได้บุญอีกด้วยนะ แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว ไม่อยากได้อะไรตอบแทนหรอก"<O:p</O:p
    แล้วแม่ก็พูดต่ออีกว่า <O:p</O:p
    "จำไว้นะลูก คนเรานะ ต้องรู้จักให้อภัยและให้โอกาสคนอื่นแก้ตัวเสมอ อย่างเด็กคนนั้น..แม่มั่นใจว่าแกทำไปเพราะรักคุณแม่ของแกจริงๆ แม่ ถึงช่วยแกเอาไว้" <O:p</O:p
    แล้วแม่ก็พูดต่อว่า <O:p</O:p
    "ลูกอาจจะบอกว่าขโมยเป็นสิ่งที่ผิด ใช่...แม่ไม่เถียง แต่บางครั้งคนเราก็ต้องมองด้านอื่นๆ บ้าง อย่าคิดแต่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง ตอนนี้ลูก อาจจะยังฟังไม่เข้าใจ แต่แม่เชื่อว่าสักวันลูกจะเข้าใจเองแหละ" <O:p</O:p
    หลังจากนั้น ฉันกับแม่ก็หันไปคุยเรื่องอื่นๆ กันต่อ ฉันเองไม่เคยคิดเรื่องนี้อีกเลย จนเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึง เรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตาว่าคำพูดของแม่ในครั้งนี้ถูกต้องที่สุดจริงๆ<O:p</O:p
    หลังจากนั้นฉันเรียนจบระดับปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด แล้วฉันก็ได้งานทำในโรงงานแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดนั้นเอง เงินเดือนก็พอประมาณ สามารถเลี้ยงดูแม่ได้โดยไม่ขัดสนนัก ฉันก็เลยขอร้องให้แม่หยุดรับจ้างเย็บผ้า เพราะอยากให้แม่พักผ่อนบ้างหลัง จากทำงานหนักมาเกือบ 20 ปีเพื่อส่งฉันเรียน แม่ยอมปิดร้าน แต่ก็ยังรับงานเล็กๆ น้อยๆ ของเพื่อนบ้านมาทำบ้างโดยไม่คิดเงิน แม่ บอกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยจะรู้สึกเบื่อ ฉันก็เลยต้องยอมตามใจแม่<O:p</O:p
    ฉันทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี แม่ก็เริ่มรู้สึกไม่สบาย เริ่มจากปวดหัวบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆ ไม่กี่วันก็หาย หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนานขึ้นเรื่อยๆ ฉันบอกให้แม่ไปหาหมอ แล้วฉันก็พาแม่ไปหาหมอในเมือง หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่ทำงานหนักมากเกินไป หมอให้ยามาชุดหนึ่ง พร้อมกำชับให้พักผ่อนมากๆ จะได้หายเร็วๆ<O:p</O:p
    หลังจากกินยาตามที่หมอสั่ง อาการปวดหัวของแม่ก็หายไป ฉันเริ่มสบายใจขึ้น แต่หลังจากไปหาหมอได้ประมาณหนึ่งเดือน แม่ก็เริ่มกลับ มาปวดหัวอีก คราวนี้เป็นหนักมากกว่าครั้งที่แล้ว ยาที่เคยกินแล้วได้ผลมาก่อนก็ไม่ได้ผลเลย ฉันกังวลใจมาก พอถามหมอ หมอก็บอกว่าต้อง ไปตรวจที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่าโรงพยาบาลต่างจังหวัด<O:p</O:p
    หลังจากนั้นฉันรีบพาแม่ไปกรุงเทพฯ ทันที ไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากหมอตรวจแล้วบอกว่ามีเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัด โดยด่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจไปทับเส้นประสาททำให้เป็นอัมพาตได้ หรือถ้าผ่าตัดไม่ทันก็อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ฉันตกใจมากขอให้ หมอผ่าตัดให้ทันที แต่หมอบอกว่าโรงพยาบาลที่มีหมอผ่าตัดสมองที่มีความพร้อมที่จะผ่าตัดเนื้องอกในสมองเป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ซึ่งมี ชื่อเสียงมากกว่า ดังนั้นหมอจึงต้องส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ตกลง<O:p</O:p
    หลังจากถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว แม่ก็ถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันที ขณะที่ฉันรออย่างกังวลใจอยู่ด้านนอก ทั้งเรื่องอาการป่วย ของแม่ และจากคำพูดของหมอที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนส่งตัวแม่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ หมอบอกให้ทำใจไว้บ้าง เพราะการผ่าตัดสมองเป็นการผ่า ตัดที่เสี่ยงมาก โอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตมีมาก แม้การผ่าตัดจะประสบความสำเร็จก็ตาม อีกเรื่องก็คือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสมองค่อนข้างสูง เป็นหลักแสนบาท เมื่อรวมกับค่ายา ระหว่างพักฟื้น คิดแล้วน่าจะต้องใช้เงินราวๆ ห้าแสนบาท<O:p</O:p
    ฉันได้ยินแล้วแทบลมจับ ฉันจะไปหาเงินห้าแสนบาทมาจากไหน ลำพังเงินเก็บของฉันกับแม่ยังมีไม่ถึงห้าหมื่นบาทเลย แต่ยังไงฉันก็ต้อง รักษาแม่ให้หาย ส่วนเรื่องเงินไว้คิดทีหลัง<O:p</O:p
    หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นลง เป็นโชคดีของแม่ที่การผ่าตัดประสบผลสำเร็จ และไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ทางโรง พยาบาลบอกให้พักฟื้น ประมาณหนึ่งเดือนก็สามารถไปพักฟื้นที่บ้านได้ ทางโรงพยาบาลแจ้งรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้ฉัน ปรากฎว่าเป็นเงินจำนวนไม่ถึง หนึ่งพันบาท เป็นค่าติดต่อประสานงานเท่านั้น<O:p</O:p
    ฉันแปลกใจมาก จึงสอบถามกับนางพยาบาล นางพยาบาลบอกว่าคุณหมอที่เป็นคนผ่าตัด และเป็นเจ้าของไข้บอกไม่ให้คิดเงินกับฉันและแม่ โดยที่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ทราบสาเหตุ ฉันจึงขอพบคุณหมอคนนั้นเพื่อขอบคุณ นางพยาบาลบอกว่าหลังจากเสร็จคุณหมอก็ถูกส่งตัวไป ต่างประเทศทันทีเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดสมองที่อเมริกา แต่คุณหมอได้ฝากจดหมายไว้ให้ฉันกับแม่ โดยกำชับกับทางโรง พยาบาลให้ฝากให้ฉันพร้อมกับใบเสร็จค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของทางโรงพยาบาลในวันที่แม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้<O:p></O:p>
    เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับแม่ก็เปิดอ่านจดหมายของคุณหมอคนนั้น เมื่ออ่านจบทั้งฉันและแม่ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกัน เนื้อความในจดหมายมี ดังนี้<O:p</O:p

    'ข้าพเจ้านายแพทย์เดชา ทองวิจิตร แพทย์ผู้ผ่าตัด นางสมพร ภู่จันทร์ ขอสรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมดดังนี้ <O:p</O:p
    ค่าผ่าตัด 0 บาท
    ค่ายาทั้งหมด 0 บาท
    ค่าใช้จ่ายอื่นที่เหลือ 0 บาท
    รวมเป็นเงินทั้งหมด 0 บาท <O:p</O:p

    ป.ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้ว เมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยยาแก้ปวด ยาธาตุ ส้มหนึ่งถุง <O:p</O:p
    ขอให้สุขภาพแข็งแรงไปอีกนานๆ นะครับคุณน้า <O:p</O:p
    นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร'

    ****************************************************

    ขอแถมรูปวัดเจดีย์ชัยมงคล จังหวัดร้อยเอ็ดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.7 KB
      เปิดดู:
      30
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.8 KB
      เปิดดู:
      24
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.7 KB
      เปิดดู:
      24
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      176.7 KB
      เปิดดู:
      30
    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.5 KB
      เปิดดู:
      32
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      168 KB
      เปิดดู:
      21
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.5 KB
      เปิดดู:
      27
    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.3 KB
      เปิดดู:
      23
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      135.4 KB
      เปิดดู:
      27
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88 KB
      เปิดดู:
      29
  5. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    เมื่อคืนตอนเทื่ยงคืนกว่าๆ ออกมาสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้องนอน ต้องกลัวสุดขืดเพราะเห็น"พระจันทร์เลือด"ที่เป็นราหูอมจันทร์ นะขนาดนั้นกลัวมากๆ บอกตรงๆว่าพงะเลย กลัวมากๆ คือปกติตอนเทื่ยงคืนพระจันทร์จะดวงเล็กๆอยู่บนหัวเราแต่เมื่อคืนเป็นดวงจันท์สีเลือดดวงใหญ่ๆเหมือนพระจันทร์ตกน้ำ หน้ากลัวสุดๆ เมื่อเห็นแบบนั้นกลัวเลยวิ่งไปห้องรับแขกพี่ๆน้องดูหนังกันอยู่ เลยบอกเค้าว่าจะต้องมีเหตุใหญ่ๆทำลายจิตใจผู้คน...ทุกคนฟังก็เชื่อแต่ไม่กล้าไปดูพระจันทร์

    พอตื่นก็ได้ข่าวพระพรหมถูกทำราย.....พระพรหมเอรวัณก็คือดวงพระวิณญานของ"องค์สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว"หลืออีกพระนามคือ"ท่านเกศโร" ผู้อัญเชิญในสมัยนั้นก็คือพล.ร.ตหลวงสุวิชานแพทย์ ท่านติดต่อกับดวงพระวิญญานซึ้งตอนนั้นอยู่ในตำเหน่งท่าวมหาพรหม เพื่อมาคุ้มครองบ้านเมืองโดยเฉราะเกี่ยวกับชาวต่างชาติโดยมีพล.ต.อเผ่า ศรียานนท์เป็นผู้ติดต่อขอความช่วยเหลือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2006
  6. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ต่อ........
    เมื่อสร้างศาลท่านท้าวมหาพรหมเสร็จแล้วจึงได้ประกอบพิธีอัญเชิญขึ้นประทับ โดยท่านอาจารย์ พล.ร.ต หลวงสุวิชานแพทย์ ร.น ได้มอบหมายให้ คุณประยูร เป็นผู้อัญเชิญด้วยติดต่อทางจิตผ่านท่านอ.จคุณหลวงแพทย์ฯซึ่งเป็นผู้แนะทั้งสิ้น......
     
  7. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    เพิ่งอ่านข่าวเสร็จ ตกใจมากๆเหมือนกัน วันนี้แอนหยุดไม่ได้ไปทำงาน ตอนแรกกะจะไปไหว้พระพรหมเอราวัณ แถวๆนั้น แล้วก็เปลี่ยนใจชวนคุณยายไปอยุธยาแทน กลับมาถึงเห็นข่าวแล้วอึ้งเลย
     
  8. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ต่อ........
    เมื่อสร้างศาลท่านท้าวมหาพรหมเสร็จแล้วจึงได้ประกอบพิธีอัญเชิญขึ้นประทับ โดยท่านอาจารย์ พล.ร.ต หลวงสุวิชานแพทย์ ร.น ได้มอบหมายให้ คุณประยูร เป็นผู้อัญเชิญด้วยติดต่อทางจิตผ่านท่านอ.จคุณหลวงแพทย์ฯซึ่งเป็นผู้แนะทั้งสิ้น......
     
  9. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    พระพรหมพังก็สร้างใหม่ได้ ไม่จำเป็นต้องฆ่าเค้าจนตาย บาปกรรมจริง ๆ ยิ่งตอนหลังรู้ว่าเค้าสติไม่ดียิ่งน่าสงสาร ดูรูปที่พ่อคนตายมายืนยันศพที่โรงพักด้วยน้ำตานองหน้าผมก็พลอยน้ำตาซึมไปด้วย คนเราทำไมมันโหดร้ายกันขนาดนี้ เค้าไม่ใช่โจรฆ่าคนซักกะหน่อย

    พระพรหมในอดีตท่านบำเพ็ญพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อย่างยิ่งยวดจนได้เป็นท้าวมหาพรหม แต่คนที่เคารพบูชาท่านกับไม่ตามรอยท่านเลย คำว่าเมตตาไม่มีอยู่ในจิตใจเอาซะเลยน่าสลดสังเวชจริง ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2006
  10. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    ขอแอบต่อเล่าเรื่องที่ไปวันนี้นิดนึงนะคะ อิอิ อยากเล่าอ่ะ
    วันนี้ไปไหว้พระที่อยุธยากับคุณยาย แต่ไม่ได้ไปวัดใหญ่ๆดังๆทั้งหลายหรอกนะคะ ไปไหว้"หลวงพ่อโต"ที่"วัดช้างใหญ่"ค่ะ สงสัยกันใช่มั้ยคะว่าวัดช้างใหญ่อยู่ที่ไหนเป็นยังไง วัดช้างใหญ่ตั้งอยู่ที่ ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยาค่ะ เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านคุณยายแอน คือคุณยายของแอนเป็นคนอยุธยาค่ะ(แต่ตอนนี้มาอยู่กทม.แล้ว) จะบอกว่าเป็นวัดประจำของหมู่บ้านก็ว่าได้ แอนก็ไปที่วัดนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะค่ะ องค์หลวงพ่อโตก็เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาค่ะ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก (ไว้จะเอารูปมาให้ดูกันนะคะ) กราบพระเสร็จแล้วก็ไปคุยกับพระครู สอบถามเรื่องที่จะมีการทอดผ้าป่าหาทุนมาพัฒนาปรับปรุงทัศนียภาพรอบพระอุโบสถหลังเก่า(ส่วนตัวอุโบสถทำอะไรไม่ได้เพราะขึ้นทะเบียนกรมศิลป์ไปแล้ว) ปิดทององค์หลวงพ่อโต ฯลฯ เอาไว้แอนมาบอกบุญพวกพี่ๆอีกทีนะคะ
     
  11. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    วัดช้างใหญ่<O:p</O:p
    ตามตำนานท้องถิ่นกล่าวไว้ว่า เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับชาวมอญ ที่มีความสามารถพิเศษในการเลี้ยงช้าง ฝึกถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในสมัยกรุงศรีอยุธยา ช้างที่สำคัญคือ เจ้าพระยาไชยานุภาพระวางสูงสุดที่เจ้าพระยาปราบหงสาวดี เป็นช้างพระที่นั่งของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเจ้าพระยาปราบไตรจักร เป็นช้างพระที่นั่งของสมเด็จพระเอกาทศรถ หัวหน้าชาวมอญได้รับแต่งตั้งเป็นจาตุรงคบาท ควบคุมช้างศึก ต่อมาได้เป็นทหารเอกแม่ทัพหน้าชนะศึกหลายครั้งคือ ”พระราชมนู” ตำแหน่งสูงสุดที่เจ้าพระยาอัครมหาเสนาธิบดีสมุหกลาโหม เพิ่อเป็นอนุสรณ์ของชาวมอญ และความสามารถของพระยาช้าง เมื่อร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดไว้ในพระพุทธศาสนา จึงได้ให้นามว่า ”วัดช้างใหญ่”<O:p</O:p


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2006
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    พระพรหมถูกทำลาย เหมือนเป็นการประกาศหลักของไตรลักษณ์ ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงไว้ สรรพสิ่งล้วนมีการเกิดขึ้น มีการดำรงอยู่ และย่อมเสื่อมสลายไปในที่สุด สังคมปัจจุบัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่นคนเคยเห็นกันอยู่ หลัดๆ มีอันต้องล้มหายตายจาก ไปอย่างน่าใจหาย ทั้งๆที่เขาก็ทำคุณงามความดีไว้มาก พระพรหม อยู่มาตั้ง 50 ปี ทำไมต้องถูกทุบทำลาย ถามพระ ท่านก็ว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง เกิดขึ้น ดำรงอยู่ แล้วก็แตกสลาย มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
     
  14. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ก็เข้าใจครับ ว่าไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน แต่ที่รับไม่ได้ก็คือ ทำไมต้องรุนแรงถึงขนาดนั้น เอาซะจนตาย ชีวิตคนมีค่าแค่นี้หรือ
     
  15. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    คนเราสมัยนี้ทำอะไรมักจะขาดสติ ขาดการยับยั้งชั่งคิด ไม่ได้คิดไตร่ตรองก่อนว่าสิ่งที่ต้องทำนั้น จำเป็นไหม ทำไปแล้วได้ผลเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้ได้ ชีวิตจึงเดินไปในทางผิด ประกอบกับการไม่ได้สั่งสมปัญญาบารมี มาแต่ก่อน จึงประมาทในการดำเนินชีวิต ความวุ่นวายจึงเกิด พระท่านจึงว่า ผลทุกอย่างเกิดจากเหตุ เหตุให้กระทำกรรมนั้น ก็เนื่องมาจากมีกรรมร่วมกันมา ช่วยกันแผ่เมตตาให้กับเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย กันนะครับ ให้เขาเหล่านั้นมีความคิดที่จะสร้างสมกรรมดี ทำปัญญาให้เกิดกับตน เป็นหนทางพ้นทุกข์ต่อไปในกาลข้างหน้านะครับ
     
  16. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    อ่านแล้วเห็นดี นำมาเผยแพร่ครับ

    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed,Tahoma]คุณค่าของความมีเหตุผล ความมีเหตุผล ทำให้บุคคลมี บุคลิกภาพภายในที่ดีเด่น ซึ่งเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งประการหนึ่ง เพราะผู้มีเหตุผล ย่อมเข้าใจอะไรได้ง่าย รู้จักคิด มีความยับยั้งชั่งใจ ไม่เอาแต่อารมณ์ มีการไตร่ตรองก่อนทำด้วยปัญญา ไม่ว่าการพูด การคิด ผู้มีเหตุผลดี สามารถปกครองตนและสังคมได้ดี ทำให้เป็นคนที่พร้อมเสมอในความรับผิดชอบตนและสังคม

    เมื่อสังคมดีบุคคลก็พลอย ได้รับความสุขสบายไปด้วย หากสังคมวุ่นวาย ยุ่งเหยิงด้อยพัฒนา ก็จะพลอยลำบากกันไปทั่ว

    <DD><DD>ดังนั้น การที่จะทำให้ส่วนรวมดีได้ ก็ต้องพัฒนาบุคคลให้เป็นคนมีเหตุผลก่อน

    ในหลักพระพุทธศาสนาได้แสดง ถึงหลักธรรมเพื่อให้ตนเอง เป็นผู้มีเหตุผลทั้งสิ้น ถ้าจะนำมากล่าวแล้วก็มีหลักใหญ่ๆ ๓ ประการคือ

    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed,Tahoma]<CENTER>๑. โยนิโสมนสิการ
    ๒. สติสัมปชัญญะ
    ๓. สัปปุริสธรรม </CENTER>

    โยนิโสมนสิการ ได้แก่ การเห็นโดยแยบคาย เห็นโดยถูกตรง และถูกต้องอันจะเป็นการนำออกจากโมหะ อวิชชา จนสามารถถึงซึ่งความพ้นทุกข์ในที่สุดได้

    สติสัมปชัญญะ สติคือความระลึกได้ ความรู้สึกตัวในการงานนั่นเอง เช่นนึกได้ว่ามีนัดพรุ่งนี้ นึกได้ว่าต้องทานยาหลังอาหารเป็นต้น ในที่นี้หมายถึง อาการที่ไม่เผลอไผล ไม่หลงลืม
    สัมปชัญญะ คือ ความรู้ตัว หมายถึงอาการที่จิตรู้สึกตัวอยู่เสมอว่ากำลังทำ กำลังพูดอะไรอยู่ และแยกแยะถูกผิด เป็นประโยชน์หรือไม่ เป็นความดีความถูกต้องหรือไม่

    <DD><DD>สติสัมปชัญญะ เป็นธรรมะคู่กัน เรียกว่า...โลกปาลธรรม ( ธรรมคุ้มครองโลก ) หรือพหุปการธรรม ( ธรรมที่มีอุปการ ) เป็นธรรมที่ควบคุมพฤติกรรม ให้ชีวิตบุคคลให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องไม่ผิดพลาด ควบคุมอารมณ์มิให้วู่วามได้ บุคคลใดขาดสติสัมปชัญญะแล้วย่อมขาดเหตุผล ทำอะไรตามใจชอบ ตกเป็นทาสอารมณ์ ท่านกล่าวว่าเสมือนเรือที่ขาดหางเสือ แม้แล่นไปได้ก็ยังอันตรายอยู่ ไม่น่าไว้วางใจและไม่อาจถึงจุดหมายที่ประสงค์ได้
    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed,Tahoma][B]สัปปุริสธรรม[/B] หมายถึงธรรมของสัตบุรุษ หรือคุณสมบัติของคนดีนั่นเอง มีทั้งหมด ๗ ประการ แต่ข้อที่จะเสริมสร้างให้ เป็นบุคคลมีบุคคลิกภาพในที่ดีมีเหตุผลนั้น ได้แก่สัปปุริสธรรมข้อที่ ๑ และ ๒ ได้แก่

    [SIZE=4][COLOR=#669900][B]๑.ธัมมัญญุตา[/B] หมายถึง ความเป็นผู้รู้จักเหตุ แห่งความสุข สิ่งนั้นเป็นเหตุแห่งความทุกข์

    [SIZE=4][COLOR=#3300ff][B]๒. อัตถัญญุตา[/B] หมายถึง ความเป็นผู้รู้จักผล เช่นรู้ว่าความสุขเป็นผลแห่งเหตุใด ความทุกข์เป็นผลแห่งเหตุใดเป็นต้น

    [SIZE=4][COLOR=#993366]ซึ่งธรรมะ ๒ ข้อนี้จัดเป็น [B]กฏแห่งเหตุผล เป็นหลักที่ทำให้บุคคลมีเหตุผล[/B] ไม่เป็นคนหูเบารอบคอบ ไม่วู่วาม เป็นคนมีจิตใจเยือกเย็นกว้างขวาง ลดความเป็นบุคคลที่มากด้วยทิฐิได้ดี.

    [SIZE=4][COLOR=#996633]ทั้งหมดนี้คือหลักของความเจริญชั้นสูงของชีวิต และเป็นสภาพธรรมที่นำชีวิตของบุคคลออกจากความเห็นผิด คิดผิด และทำผิดได้เป็นอย่างดี และถ้าใครก็ตาม สามารถสร้างธรรมะเหล่านี้มีให้มีในตนแล้ว [B]ท่านนั้นจะเป็นผู้เจริญแน่[/B]

    [SIZE=4][COLOR=#ff6633]สมดังพระภาษิตที่ว่า... [SIZE=4][COLOR=#006633]ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม.

    <CENTER>[SIZE=4][COLOR=#9966ff]ด้วยความหวังดีค่ะ
    บุษกร เมธางกูร.</CENTER>[/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE]
    [/FONT]</DD>
    [/FONT]</DD>
    [/FONT]
     
  17. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    สวัสดีทุกๆคน วันนี้มีโอนมาอีก 200-200-500-300 สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอนนี้กำลังรวบรวมภาพหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ที่ได้ถ่ายเอาไว้เก่าๆมาให้ดูกันเพื่อเขียนเรื่อง"ความเมตตาที่หลวงพ่อมีต่อข้าพเจ้า"ให้ได้อ่านกัน พอดีได้แรงบันดานใจจากน้องMBNYและอยากที่จะตอบแทนทุกๆท่านที่ได้เมตตาช่วยเหลือวัดบ่อเงินบ่อทอง ทุกวันนี้เสียใจมากๆที่ตอนหลวงพ่อยังอยู่ไม่ยอมเขียน"ลูกศิษบันทึก"เล่ม1-2-3 เพราะตอนนั้นยังวัยรุ่นมากๆทั้งๆที่ ท่านDr.ปริญญา และ ท่านผู้ใหญ่หลายๆท่านอุส่าเขี้ยวเข็น และที่เสียใจสุดๆคือตอนก่อนที่หลวงพ่อจะตาย ผู้ใหญ่ทุกๆคนขอให้บวชให้หลวงพ่อแต่โตไม่ยอมเพราะกลัวหัวโล้น5555555ตอนนั้นยังhotอยู่ แต่ก็ได้แค่บวชกรรมบด10ศีล8ให้ท่านตอนนั้นท่านDr.ลุงยกสรง และผู้ดูแลหลวงพ่อลูกๆหลานๆบวชกันหมดทั้งหยิงทั้งชาย ไม่นานหลวงพ่อก็เสีย...ถ้าครั้งนี้ไม่ยอมเขียนอีกก็จะรู้สึกว่าตัวเองเลวเกินไปที่ได้เกิดเป็นลูกท่าน......
     
  18. koisung

    koisung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +3,469
    เห็นด้วยกับคุณนักเดินทางค่ะ ... ถามว่าเข้าใจเจ้าหน้าที่ที่ไปทำร้ายมั๊ย ก็เข้าใจนะว่าแรงศรัทธา+ความโกรธ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก้อยว่า "เกินไป" จริงๆอ่ะ แค่จับเค้าส่งตำรวจก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทำเค้าถึงตาย..ไหนจะพ่อเค้าอีก ดูข่าวนี้ทีไร ก็จะมีความรู้สึกหลายๆอย่างปนๆกันบอกไม่ถูกเหมือนกัน เฮ้ออ



     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณโต มีคำถามถามมานะครับ อย่าลืมตอบที่นี่ด้วย ผู้ที่เข้ามาอ่านจะได้ทราบกัน

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=alt1 width="100%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD> </TD><TD width="100%">กองทัพพลังจิต > ทั่วไป > ข่าวดัง </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] ถามคุณ Toe ที่ว่าพระพรหมเอราวัณคือสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=tborder id=post216487 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date -->[​IMG] วันนี้, 06:11 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ง้วนดิน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_216487", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    [​IMG]
    [​IMG] อัลบั้มรูปส่วนตัว
    วันที่สมัคร: Feb 2006
    ข้อความ: 57 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา: 45
    ได้รับอนุโมทนา 27 ครั้ง ใน 9 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 10[​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_216487><!-- icon and title -->[​IMG] ถามคุณ Toe ที่ว่าพระพรหมเอราวัณคือสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ที่คุณ Toe บอกไว้ในกระทู้
    "หนุ่มโรคประสาททุบพระพรหมเสียหายทั้งองค์
    ชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ดับอนาถ"
    ที่ว่า
    พระพรหมเอราวัณก็คือ
    ดวงพระวิญญาณของ"องค์สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว"
    หรืออีกพระนามคือ"ท่านเกศโร"

    ช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยนะ
    ว่าเป็นอย่างไร
    และมีที่มาจากไหน

    คือว่า สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ
    เป็นพระมหากษัตริย์อีกพระองค์หนึ่ง
    ที่ง้วนดินชอบและก้อบูชาหนะ
    แต่เรื่องราวของพระองค์ท่านมีไม่ค่อยมากนัก

    ขอบคุณจ้า
    จาคอยอ่านนะ

    [b-wai] [b-wai] [b-wai]

    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2>[​IMG] [​IMG] [​IMG] </TD><TD class=alt1 align=right><!-- controls --><!-- Start Post Thank You Hack -->[​IMG] <!-- End Post Thank You Hack -->[​IMG] [​IMG] <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 216487 popup menu --><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ง้วนดิน</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ดูรายละเอียดของ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ ง้วนดิน</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ ง้วนดิน</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>เพิ่ม ง้วนดิน ในรายชื่อคู่หูของคุณ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / post 216487 popup menu -->

    <!-- / close content container --><!-- / post #216487 --><!-- Start Post Thank You Hack --><!-- End Post Thank You Hack -->
    <!-- start content table --><!-- open content container -->
    <!-- / start content table --><!-- controls below postbits --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=smallfont>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    55555555555555เวนกรรมตู555555555555555พิมไทยก็ไม่ค่อยเข็งแรง เรื่องราวของท่านที่เป็นท่าน"เกศโร"มีเป็นkgๆๆๆๆๆหิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...