การเตรียมตัวและการประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เป็นอุปกรณ์ยังชีพ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 1 เมษายน 2011.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    วิธีการก่อกองไฟ การเลือกกิ่งไม้ที่จะนำมาใช้

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=bBFeWUcWfKE&feature=related"]YouTube - Never Fail Camp Fire Building[/ame]
     
  2. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,633
    วิธีทำเตาน้ำมันดีเซล/คบเพลิง ถ้ามีน้ำมันดีเซลเหลือ กรณีไม่มีรถจะใช้แล้ว
    อุปกรณ์
    1.กระป๋องน้ำอัดลม/กระป๋องนม/กระป๋องที่เป็นโลหะ ขนาดไม่โตมากพอทำเตาสนามได้
    2.คีมตัดลวด /กรรไกรที่ใช้ตัดแผ่นสีงกะสี/มีดเดินป่า ถ้าไม่มีอุปกรณ์เปิดกระป๋อง เอาไปฝน/ถูก กับหิน/คอนกรีตที่สากๆ ถูกไปมาๆ จนฝากระป๋องขาดออกจากตัวระป๋อง
    3.ทรายละเอียด
    4.น้ำมันดีเซลอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามผสมน้ำมันชนิดอื่น

    วิธีทำ
    1.เปิดฝากระป๋องแล้ว ถ้าทำเตาสนาม วางกระป๋องบนพื้นที่มั่นคง/บังคับไม่กระป๋องล้มได้ง่าย เช่น ในหลุม/ในกองหิน ถ้าทำเป็นคบเพลิง ผูกกับไม้ /ใส่ในกระบอกไม้ไผ่ ปักดิน เป็นคบเพลิง
    1.เอาทรายละเอียดใส่ประมาณ 8/10 กระป๋อง
    2.เอาน้ำมันดีเซลใส่ในกระป๋องประมาณ 9/10 กระป๋อง
    3.ใช้กระดาษ/เศษกิ่งไม้เป็นตัวล่อ โดยจุดไฟที่กระดาษ/กิ่งไม้ แล้วค่อยเอาไปจุดน้ำมันในกระป๋อง แต่ต้องระวังไฟค่อนข้างพุ่งแรงหน่อย และร้อน
     
  3. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Lp6YfW42Z4o&feature=player_embedded]YouTube - แพ็คของเผื่ออพยพกรณีภัยพิบัติ[/ame]
     
  4. a-pin-ya

    a-pin-ya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +672
    อาจจะไม่ทันได้อพยพ .. มันคงจะมาแบบ สึนามิ ที่ญี่ปุ่น หรือไม่ก็ ไต้ฝุ่นนากีส
    ภัยจะมา ทางน้ำ
     
  5. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ปัญหาอย่างหนึ่งคือเราติดตากับภาพยนต์เรื่อง 2012 เกินไป
    จนบางท่านกล่าวว่า ถ้าเกิดภัยพิบัติแบบสึนามิที่ญี่ปุ่นคงไม่มีใครรอดหรอก
    ไม่รู้จะเตรียมไปทำไม ยังไงก็ตายอยู่ดี

    อยากให้ลองดูคลิปนี้จนจบนะครับ...


    คลิปสึนามิที่ญี่ปุ่น 11 มีนาคม 2554

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=8vZR0Rq1Rfw&feature=player_embedded"]YouTube - 南三陸町志津川高校から見た津波の様子[/ame]

    คนกลุ่มหนึ่งเขารีบขึ้นที่สูงทันทีที่มีแผ่นดินไหว
    ช่วงท้าย ๆ ของคลิป เราจะได้เห็นคนวิ่งหนีคลื่นสึนามิแล้วรอดชีวิตปลอดภัยด้วย
    คนบางกลุ่มก็วิ่งออกมาตัวเปล่า คนบางกลุ่มก็มีถุงสัมภาระออกมาด้วย

    คนสองกลุ่มนี้รอดตายเหมือนกันก็จริง
    แต่หลังจากนั้นท่านคิดว่าคนกลุ่มไหนจะลำบากกว่ากัน

    สมมติว่าหน่วยช่วยเหลือภัยพิบัติมาช้า เหมือนหน่วยราชการประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศ
    กลุ่มคนที่รอดตายจากสึนามิ แต่หนีออกมาตัวเปล่าอาจจะอดตายหรือหนาวตายก็ได้

    (เรียกว่าตายน้ำตื้นได้มั้ยเนี่ย)

    จากในคลิปนี้จะเห็นว่าถ้าเรามีความตื่นรู้ เราก็อาจปลอดภัย
    ลองดูดี ๆ นะครับ มีของหลาย ๆ อย่างที่ลอยไปกับน้ำ

    ลองจินตนาการดูนะครับ ในกรณีที่หนีไม่ทันจริง ๆ แต่เรามีเสื้อชูชีพที่มีคุณภาพดีและมีสติ
    ตื่นรู้แต่ไม่ตื่นตระหนก
    เกาะสิ่งที่ลอยไปกับน้ำ ค่อย ๆ พยุงตัวไป
    มีสัมภาระติดตัวแต่ไม่มากเกินไปจนทำให้ขาดความคล่องตัว บางทีเราก็อาจจะรอด

    ดำเนินรอยตามพระมหาชนกตอนที่เรือล่มในมหาสมุทรดีกว่าครับ

     
  6. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    วิธีการปลูกต้นไม้โดยไม่ต้องรดน้ำบ่อย ๆ

    อุปกรณ์
    1. กระถาง หรือกระบะสำหรับปลูกต้นไม้
    2. ต้นไม้ หรือเมล็ดพันธ์
    3. ดิน
    4. เศษผ้าฉีกตามแนวยาว
    5. น้ำ

    ข้อดีของปลูกต้นไม้แบบนี้คือ
    1. สามารถไปธุระ เช่น ไปต่างจังหวัดนาน ๆ ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าต้นไม้จะตาย
    2. ประหยัดน้ำ สามารถนำไปใช้ในการปลูกพืชในฤดูแล้งหรือในยุคที่น้ำหายาก เพราะการรดน้ำต้นไม้แบบปกตินั้นพืชไม่สามารถดูดน้ำทั้งหมดไว้ได้ทัน จะเกิดการสูญเสียน้ำส่วนหนึ่งไปจากการระเหยไปในอากาศ

    แบบที่ 1

    <center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    หลักการคล้ายกับที่เราทำตะเกียงน่ะครับ
    เราใช้เศษผ้ายาว ๆ เป็นเหมือนไส้ตะเกียงให้น้ำค่อย ๆ ซึมขึ้นมา

    การประยุกต์ใช้ หากเราต้องการปลูกพืชจำนวนมาก
    เราอาจเปลี่ยนจากขวดพลาสติกมาเป็นกระถางหรือกระบะใหญ่ ๆ โดยเจาะพื้นให้เป็นรู แล้วใช้เศษผ้ายาว ๆ หลาย ๆ เส้น
    จากที่ท่านผู้รู้เคยทดลองพบว่าส่วนใหญ่ใช้งานได้ดี แต่ก็มีพืชบางชนิดไม่ชอบวิธีให้น้ำแบบนี้ทำให้ไม่เจริญงอกงามเท่าที่ควร
    วิธีแก้อาจใช้การรดน้ำแบบปกติร่วมด้วย



    [​IMG]





    แบบที่ 2

    [​IMG]

    ไม่ได้ใช้เศษผ้าทำไส้ แต่ใช้วิธีจุ่มน้ำ โดยทำเป็นกระถางสองชั้ืน
    ชั้นในเป็นดินเผาใส่ดินปลูกต้นไม้ (กระถางดินอุดรูก้นกระถางด้วย)
    กระถางชั้นที่สองเป็นโถแก้วใส่น้ำหล่อเลี้ยงไว้ น้ำจะค่อย ๆ ซึมเข้าชั้นใน ทุก ๆ วัน ไม่ต้องรดน้ำ
    เลี้ยง ปลาตัวเล็ก (หางนกยูง) ไว้ในน้ำสักสองสามตัว ไว้กินลูกน้ำที่ยุงมาไข่ แถมดูสวยงาม
    ระหว่างกระถางดินและโถแก้วอย่าชิดกันมาก ให้ห่างกัน 1 -2 นิ้ว
    เพื่อให้ปลาว่ายวนเล่นรอบ ๆ สบายใจ (ในภาพอาจจะมองไม่เห็นระยะ่ห่าง)

    การประยุกต์ใช้ หากเราต้องการปลูกพืชจำนวนมาก
    เราอาจเปลี่ยนมาใช้กระบะซ้อนกัน 2 ชั้นแทนก็ได้


    อ้างอิงข้อมูลบางส่วนและรูปภาพจาก
    http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2011/01/J10139367/J10139367.html




    แบบที่ 3

    ใช้ระบบน้ำหยด ทำระบบแบบง่ายๆ กว่านี้ก็ได้
    ตักน้ำใส่ภาชนะใหญ่วางในที่สูง ใช้ท่อหรือสายยาง เจาะรูให้น้ำค่อยหยดซึมทีละน้อย ๆ

    [​IMG]





    หน้าแล้ง อากาศร้อน แดดแรง ก็ช่วยทำร่มเงาให้ต้นไม้หน่อย
    เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำจากดินและต้นไม้


    เราสามารถประยุกต์ใช้อย่างอื่นตามแต่จะหาได้
    อาจใช้กิ่งไม้ปักเป็นสามเส้ารอบ ๆ ต้นไม้ มัดด้านบนด้วยเชือก
    แล้วหาวัสดุมาคลุมคล้าย ๆ กระโจม ใช้พวกเศษหญ้าเศษฟางคลุมก็ได้

    ตามภาพนี้ประยุกต์ใช้สุ่มไก่กับกระสอบ

    [​IMG]


    ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2011
  7. Tamma01

    Tamma01 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +1
    คุณ karan20 เป็นใคร มาจากไหนครับ

    ทำไมรู้เรื่อง การเตรียมตัวมากจังเลยครับ

    มีประสบการณ์ผจญภัย อะไรบ้าง แนะนำเป็นวิทยาทาน หน่อยครับ
     
  8. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ผมเป็นคนปกติครับ เป็นมนุษย์เงินเดือน
    ศึกษาจากผู้รู้ในเว็บนี้และเว็บอื่น ๆ แล้วเอามาแบ่งปันกันน่ะครับ
    ไม่มีประสพการณ์อะไรเป็นพิเศษ
     
  9. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    การทำอุปกรณ์ชูชีพ (และสาิธิตวิธีการกู้ชีพแบบต่าง ๆ)

    อุปกรณ์
    1. แกลลอน หรือขวดพลาสติกขนาดใหญ่
    2. เชือก

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=_YIsczdU5vI"]YouTube - วิธีทำอุปกรณ์ชูชีพ[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2011
  10. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    การทำรองเท้ากันน้ำ (ใช้แทนรองเท้าบู๊ทในกรณีฉุกเฉิน)

    อุปกรณ์
    1. รองเท้าผ้าใบ
    2. ถุงเท้า
    3. ถุงดำ
    4. หนังยาง หรืิอเชือก

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=xWMBGJ-dSiU&feature=related]YouTube - วิธีทำรองเท้ากันน้ำ[/ame]
     
  11. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    การทำน้ำเกลือแร่

    อุปกรณ์
    1. น้ำต้มสุก
    2. ขวดเปล่า
    3. น้ำตาล
    4. เกลือ
    5. แก้วน้ำ
    6. ช้อน

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=CVhkYd-BDTE&feature=mfu_in_order&list=UL]YouTube - วิธีทำน้ำเกลือแร่[/ame]
     
  12. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    การทำมีดจากหิน

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=u8m7VcvJ9EM]YouTube - Making a Stone Knife[/ame]
     
  13. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    การหุงข้าวแบบโบราณ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=yckvwFIu1HQ"]YouTube - การหุงข้าวแบบโบราณ[/ame]

    การหุงข้าวด้วยหม้อสนาม

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=XAi58LZX_ms&feature=related"]YouTube - การหุงข้าวโดยหม้อสนาม ข้าวครึ่งหม้อ น้ำเต็ม พอต้มไปน้ำแห้งแล้วเอามาอังไฟ[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Eft4-y1EmUI&feature=iv&annotation_id=annotation_311796"]YouTube - How to cook rice with a Military alcohol stove[/ame]
     
  14. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ยอดเยี่ยมครับคุณ karan 20 ได้ความรู้มากมายจริงๆครับ ขอชื่นชมจากใจจริงครับ ติดตามทุกกระทู้ที่คุณเขียนและอธิบาย

    ขอเป็นกำลังใจให้ทำความดีเช่นนี้ตลอดไปนะครับ
     
  15. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้และทุกท่าน





    ตู้เย็นคนยาก ประหยัดด้วยหลักฟิสิกส์<!-- google_ad_section_end -->

    [​IMG]

    Mohammed Bah Abba คุณครูสอนวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งในไนจีเรีย แอฟริกาได้รับรางวัลนวัตกรรมโลว์เทค จากโรเล็กซ์ จากผลงาน pot-in-pot ในที่นี้ขอเรียกว่าตู้เย็นคนยาก สาเหตุมาจากการที่นักเรียนขาดเรียนบ่อยๆ เพื่อไปช่วยพ่อแม่ขายผลิตผลจากพืชในตลาดให้ทัน ก่อนที่ผลไม้สุกที่ตัดแล้ว จะเน่าเสียตามสภาพภูมิอากาศร้อน
    ตู้เย็นของคุณครูทำจากตุ่มดินเผาสองใบ ใบใหญ่ใส่ทรายรองก้น วางตุ่มใบเล็กลงไปในใบใหญ่ ใส่ทรายในช่องว่างระหว่างตุ่มสองใบ จากนั้นเทน้ำลงไปในทรายให้ทรายชุ่มน้ำ แล้วนำผ้าชุบน้ำมาปิดฝาตุ่ม ก็จะได้ตู้เย็นคนยาก สามารถเก็บผักผลไม้ได้นานกว่าเดิม ด้วยการเก็บลงไปในตุ่มใบเล็ก ซึ่งสามารถเก็บได้นานกว่า 4 สัปดาห์

    จากการที่ทรายทำหน้าที่เก็บความเย็นให้ตุ่มใบเล็ก และเก็บน้ำให้ตุ่มใบใหญ่ เมื่อน้ำระเหยออกจากผิวของตุ่มใบใหญ่ จะนำพาความร้อนออกไป และทำให้อุณหภูมิของตุ่มใบเล็กเย็นระดับน้องๆ ตู้เย็นเลยทีเดียว ใช้หลักฟิสิกส์เรื่องความร้อนแฝงของการเปลี่ยนเฟสจากของเหลวเป็นไอ ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม


    [​IMG]


    Pot-in-pot cooler


    <SCRIPT type=text/javascript src="http://images1.wikia.nocookie.net/__cb27571/common/extensions/FBConnect/fbsdk_core.js?27654"></SCRIPT>
    I have been interested in solar cooking for a long time, but recently heard about a low-tech method for preserving food.
    The ”pot-in-pot” cooler, based on by ancient techniques for cooling through evaporation, was designed by Mohammed Bah Abba who won the Rolex prize and who has been promoting this process though-out Nigeria.

    I decided to make a “pot-in-pot” cooler and here are photos of it. The basic unit has two large unglazed pottery pots which I commissioned to be made without bottom holes by Panama Pottery in Sacramento. One pot fits inside the other with a layer of sand in between the pots.
    [​IMG]
    I am using my watering pot here to wet the sand layer, which I do every morning. Inside the inner pot, there is a watermelon, a cabbage, a bag of carrots and two apples.
    [​IMG]
    I have a folded towel on top of the pots and produce and I am wetting the towel to provide additional evaporation through the cloth top. I moisten the cloth twice a day.
    Folsom, California, is typically hot in the summer, but this is an exceptionally hot day at 109 degrees in the shade. It is an excellent opportunity to test this cooler.
    [​IMG]
    Here the temperature inside the pot is 74 degrees. It is 35 degrees cooler inside the pot than outside. I have now had these fruits and vegetables in the device for a week and they are perfectly fresh. The daytime outside temperature has varied this week from the high of 109 degrees to 90 degrees and the temperature inside the pot has varied from 75 degrees to 62 degrees.
    [​IMG]
    If you would like to learn more about this device, go to http://rolexawards.com/en/the-laureates/mohammedbahabba-the-project.jsp
    Carol Veder
    Sharon Cousins discovered that it is important to weight the inner pot when initially moistening the sand or it will try to float and the sand will slip and pile up underneath. This is a very effective way of keeping vegetables fresh. Sharon bought large plant pots on sale and used pieces of plastic jug glued on with Shoe Goo to seal the drain holes.


    Pot-in-pot cooler - Solar Cooking<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


    ที่มา : เรื่อง ตู้เย็นคนยาก โดย ดร. พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ หนังสือ วิทยาศาสตร์
    ตู้เย็นคนยาก ประหยัดด้วยหลักฟิสิกส์
     
  16. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    การชาร์จไฟโทรศัพท์มือถือในชุมชน


    จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นส่งผลให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ถูกตัด และดับเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ส่งผลให้การติดต่อสื่อสารขอรับความช่วยเหลือจากผู้ประสบภัยธรรมชาติ สู่บุคคล/องค์กรต่างๆ เป็นไปได้อย่างลำบาก สวทช. โดยเนคเทค ขอนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างง่าย โดยการนำแบตเตอรี่ ๑๒ โวลท์จากรถยนต์มาประยุกต์ใช้สร้างเป็นเครื่องชาร์จไฟโทรศัพท์ใช้กันเอง


    การสร้างเครื่องชาร์จไฟโทรศัพท์จากแบตเตอรี่รถยนต์ทำได้โดย
    1. เตรียมอุปกรณ์
      1. แบตเตอรี่ 12 โวลท์ จากรถยนต์
      [​IMG]
      2. อินเวอร์เตอร์แปลงแรงดันจาก 12 โวลท์ดีซี เป็น 220 โวลท์เอซี ขนาดของอินเวอร์เตอร์ในท้องตลาดมีตั้งแต่ขนาด 80 วัตต์ จนถึง 1000 วัตต์ ส่วนสายไฟสำหรับต่อกับแบตเตอรี่มักจะให้มากับอินเวอร์เตอร์ รูปด้านล่างเป็นขนาด 1000 วัตต์ครับ
      [​IMG]
    3.สายปลักต่อพ่วงเพื่อให้สามารถเสียบเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือได้หลายๆ เครื่องพร้อมๆ กัน (สายต่อพ่วงที่ไม่มีคุณภาพ คือเสียบปลักแล้วไม่แน่นหลวม ติดๆ ดับๆ อาจทำให้ทั้งเครื่องชาร์จและอินเวอร์เตอร์เสียหายได้)
    [​IMG]

    2.การต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
    1. ต่อสายแบตเตอรี่สีแดงเข้าที่ขั้วบวก (+) และสายสีดาเข้าที่ขั้วลบ (-) ของทั้งฝั่งอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ดังรูป ตรวจสอบขั้วและสีสายให้ดี ถ้าต่อผิดหรือสลับขั้วอาจทำให้อินเวอร์เตอร์เสียหายถาวรได้ ควรต่อให้แน่น เพราะขณะอินเวอร์เตอร์จ่ายกระแสจะมีกระแสผ่านขั้วต่อต่างๆ สูง ถ้าต่อไม่แน่นจะทำให้ขั้วต่อร้อนจัด และทำความเสียหายได้
      [​IMG]
    2. เมื่อต่อสายเสร็จแล้วตรวจสอบการทำงานของอินเวอร์เตอร์ โดยการเปิดสวิชท์ที่อินเวอร์เตอร์ อินเวอร์เตอร์ส่วนใหญ่จะมีไฟบอกสถานะการทางาน ไฟจะติดสว่าง
      [​IMG]
    3. เสียบสายปลักต่อพ่วงแล้วต่อเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือตามต้องการตามรูปด้านล่างนี้ครับ
      [​IMG]
    4. แบตเตอรี่ขนาด 12 โวลท์ 60 แอมแปร์-ชั่วโมงจะสามารถประจุแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือได้ประมาณ 100 เครื่อง อย่างต่อเนื่อง (ไม่ใช่เอาร้อยเครื่องมาเสียบพร้อมกันนะครับ) ถ้าคำนวณประสิทธิภาพพลังงานจะพบว่าต่ำมาก แต่ในยามคับขันถือว่ายอมรับได้ครับ
    5. อีกประการหนึ่งถ้าไม่มีการประจุแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือ ไม่ควรเสียบเครื่องชาร์จทิ้งไว้ในขณะที่อินเวอร์เตอร์เปิดอยู่ เพราะถึงแม้จะไม่มีการชาร์จโทรศัพท์ แต่เครื่องชาร์จก็กินพลังงานจากแบตเตอรี่ผ่านอินเวอร์เตอร์อยู่ดี
    6. ขณะปลัก 220 โวลท์ของอินเวอร์เตอร์ไม่มีอะไรเสียบอยู่ควรปิดอินเวอร์เตอร์ เพราะแม้อินเวอร์เตอร์ไม่จ่ายพลังงานแต่ตัวมันเองก็ใช้พลังงานส่วนหนึ่งจากแบตเตอรี่ ถ้าเปิดทิ้งไว้แบตเตอรี่จะหมดไปโดยเปล่าประโยชน์
    [​IMG]

    การชาร์จไฟโทรศัพท์มือถือในชุมชน

    kapook.com<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  17. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ขอโมทนากับทุกท่านที่ร่วมแบ่งปันความรู้
    ขอบพระคุณที่ท่านให้กำลังใจ

    ดัดแปลงซาเล้งเป็นรถกู้ภัย
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=obTPNo3va9U]YouTube - ซาเล้งกู้ภัย ใจเกินร้อย[/ame]
     
  18. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เครื่องมือจับงู

    งูพิษเข้าบ้าน ไม่ตีแต่จับเป็น ๆ ไปปล่อย

    ผู้รักษาสิกขาบทที่ ๑ เว้นจากการฆ่าสัตว์ ย่อมได้รับอานิสงส์ ๗ ประการ ได้แก่.-

    1.มี ร่างกายสมส่วน ไม่พิการ 2.เป็นคนแกล้วกล้าว่องไว มีกำลังมาก
    3.ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ไม่เศร้าหมอง 4.เป็นคนอ่อนโยน มีวาจาไพเราะ เป็นเสน่ห์แก่คนทั้งหลาย
    5.ศัตรูทำร้ายไม่ได้ ไม่ถูกฆ่าตาย 6.มีโรคภัยเบียดเบียนน้อย 7.ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน

    อุปกรณ์
    1. ท่อ PVC / ท่อนไม้ยาว / หรืออื่นๆ ที่ดัดแปลงแทนได้
    2. เชือก หรือลวด

    วิธีการง่ายๆสำหรับงูตัวเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 2 กก. คือใช้ท่อ PVC หรือท่อประปาขนาดมาตรฐานตามบ้านนี่เอง
    ความยาวซักเมตรเศษๆ เชือกไนลอน หรือจะใช้เชือกกล้วยก็ได้แต่งูมันไม่กลัวหรอก ร้อยเชือกผ่านท่อให้เป็นห่วงตามรูป

    [​IMG]





    ถ้างูตัวโตอาจจะเปลี่ยนมาใช้กระบอกไม้ไผ่หรือแท่งอะไรแข็งๆ ตามแต่จะหาได้
    ผูกเชือกตรงปลายไม่ให้เลื่อนได้
    แล้วสอดปลายเชือกข้างหนึ่งร้อยกลับมาเป็นห่วงและมีปลายเชือกไว้ดึงรูด

    [​IMG]


    เท่านี้เราก็ได้เครื่องมือจับงูอย่างง่ายๆแล้ว เอาบ่วงเชือกคล้องคอแล้วรูดปื๊ด
    อย่าดึงแรง เอาแค่พออยู่ งูมันจะม้วนตัวขึ้นมา
    รัดไม้ที่เราถือ อย่าตกใจโยนไม้ทิ้ง หางงูมันไม่กัด

    [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]หรืออาจจะคล้องบ่วงมีถึงเกือบบริเวณกลางตัวงูก็ได้
    ซึ่งจะรบกวนตัวงูน้อยกว่าเพราะงูไม่สะดุ้งกลัวเหมือนถูกรัดคอ
    [/FONT]

    จากนั้นใช้ถุงปุ๋ยหรือกระสอบเปิดปากตั้งให้สูงหน่อยรอไว้ มีผู้ช่วยด้วยยิ่งดี
    หย่อนงูลงไปแล้วปล่อยเชือกที่รัดงู งูจะคลายตัวจากไม้ลงไปเอง
    รวบปากถุงแล้วส่งสวนสัตว์หรือแจ้งหน่วยงานที่แจ้งได้
    แล้วก็ส่งงูไปในที่ๆสมควรอยู่

    ถ้างูตัวใหญ่เกินกว่าไม้จับงูจะเอาอยู่ หรือเป็นงูเห่างูจงอางอะไรล่ะก็ อย่าเสี่ยงเลย
    เรียก 191 เถอะ




    [​IMG]

    เหมาะกับการจับงูตัวเล็ก ๆ ถ้าตัวใหญ่ระวังเทปกาวหลุด


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="66%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]ถ้าเป็นงูเห่าพ่นพิษ (Spitting Cobra) คืองูเห่าชนิดที่นอกจากจะปล่อยน้ำพิษ ผ่านทางเขี้ยวพิษเข้าสู่แผลรอยเขี้ยวของเหยื่อที่กัดแล้ว ยังสามารถอ้าปากพ่น (ฉีด) พิษออกจากเขี้ยว พุ่งเข้าสู่เป้าหรือศัตรูได้ พ่นฉีดออกไปได้ไกลประมาณ 150 เซนติเมตร (การปล่อยน้ำพิษของงู ก็เพื่อฆ่าเหยื่อและมีผลในการช่วยย่อยเหยื่ออาหารด้วย แต่งูเห่าชนิดพ่นพิษได้ จะพ่นพิษเพื่อการต่อสู้ศัตรู) งูเห่าประเภทนี้จะมีขนาดเล็กกว่างูเห่าไทย มีหลายชนิด ตัวเล็กเรียวและมักปราดเปรียว ซึ่งจริงอยู่สามารถจับได้ด้วยคน ๆ เดียวและใช้ไม้คล้องหรือคีบงูได้ แต่งูมักจะเหลี่ยวมาอ้าปากพ่นพิษใส่มีอันตรายมากกว่าการจับงูเห่าชนิดที่ไม่พ่นพิษ ผู้ที่จับงูเห่าจึงควรที่จะรู้จักชนิดของงูให้ดี แม่นการสังเกตลักษณะเฉพาะของชนิดงู มิฉะนั้นถ้าหากถูกงูพ่นพิษเข้าตา ก็จะปวดแสบปวดร้อนมาก หากพิษเข้าตาในปริมาณมากอาจถึงทำห้าบอดได้ ดังนั้นผู้ที่เข้าจับหรือกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน จะต้องสวมหมวกซึ่งมีกระบังพลาสติกใสบังหน้า หรืออย่างน้อยก็ควรใส่แว่นตาที่กรอบกระจกใหญ่
    [/FONT]

    </td> <td width="4%">
    </td> <td width="30%">

    </td> </tr> <tr> <td width="66%">
    </td> <td width="4%">
    </td> <td width="30%">
    </td> </tr> <tr> <td width="66%">[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif] ลูกงูเห่าตัวเล็ก ๆ อีกประเภทหนึ่ง ที่มักเกิดอันตรายแก่ผู้จับ โดยที่เข้าใจผิดคิดว่ายังไม่มีพิษบ้าง พิษยังอ่อนไม่เป็นอันตรายมากนักบ้างประกอบกับตัวเล็ก เวลาชูคอแผ่แม่เบี้ย ดูท่าผงาดแต่น่าเอ็นดู จึงทำให้ผู้จับประมาทตายใจ ที่จริงงูเห่าตัวเล็ก ๆ ก็มีพิษ จริงอยู่ยังตัวเล็กมีต่อมน้ำพิษเล็กมีปริมาณน้ำพิษน้อย เขี้ยวพิษยังเล็กมากอาจเจาะเข้าสู่แผลไม่ลึก แต่ก็ไม่น่าประมาทเพราะน้ำพิษงูเห่าเพียง 1-2 หยดก็เป็นอันตรายแก่ผู้ถูกกัดได้ นอกจากนั้นถึงจะเป็นลูกงูเห่าแต่ก็มีนิสัยดุ ว่องไว แว้งกัดเก่ง ดังนั้น
    หากจะต้องจับก็ไม่ควรใช้จับตรงด้วยมือเปล่า ควรใช้ไม้คล้อง (ที่มีขนาดเล็ก) หรือใช้ขอเกี่ยวยกขึ้นจะดีกว่า
    [/FONT]</td> <td width="4%">
    </td></tr></tbody></table>
    ข้อมูลจาก
    http://www.pantown.com/board.php?id=18827&area=3&name=board4&topic=20&action=view
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2011
  19. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ถุงกันน้ำแบบฉุกเฉิน

    อุปกรณ์
    1. ถุงพลาสติก
    2. ขวดพลาสติก เช่น ขวดใส่น้ำดื่ม
    3. มีดหรือกรรไกร

    ไม่อธิบายอะไรแล้ว ดูรูปเลยแล้วกัน....

    [​IMG]
     
  20. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เครื่องมือให้น้ำแบบประหยัด

    อุปกรณ์
    1. ขวดพลาสติกใส่น้ำดื่ม
    2. ไม้ยาว
    3. เทปกาว
    4. สำลี

    [​IMG]


    วิธีทำ

    [​IMG]
    1.เจาะขวดพลาสติกด้านข้างโดยใช้สว่านเจาะ
    [​IMG]
    2.เอาสำลีมาปั่นให้เป็นเกลียวแล้วสอดเข้าไปในรูที่เจาะไว้
    [​IMG]
    3.มัดขวดพลาสติกติดกับไม้ที่เตรียมเอาไว้
    [​IMG]

    การใช้งาน
    1.ปักหลักไม้ลงไปในดิน
    2.เติมน้ำในขวดพลาสติก
    3.ปรับสำลีให้แน่นมากหรือน้อยเพื่อปรับความเร็วหยดน้ำ

    ข้อเสนอแนะ
    1.เหมาะกับต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่เพิ่งย้ายมาปลูก
    2.ดัดแปลงขนาดของภาชนะได้ตามความเหมาะสม
     

แชร์หน้านี้

Loading...