การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

ความรักเป็นดุจดั่งก้อนอิฐ อันเป็นหน่วยพื้นฐาน เมื่อท่านมีความรัก อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้

แสงสว่างคือข้อมูล ส่วนความรักคือการสรรค์สร้าง

ทั้งนี้จำต้องอาศัยพวกคิดนอกรอบ เช่นเราครอบครัวแห่งแสงสว่าง ที่จะเข้ามาในที่ๆมืดมิดมานานนมและเปลี่ยนแปลงมัน

มัน เป็นแผนใหญ่ ที่พวกท่านต่างกระโจนเข้าใส่ พวกท่านเชื่อว่าจะทำได้ ท่านได้รับข้อมูลก่อนจุติมาแล้วว่าจะมีความช่วยเหลือรออยู่เป็นระยะๆ มีพลังงานชีวิตต่างๆรออยู่เป้นระยะๆ ที่จะกดสวิตซ์เตือน และจุดประกายให้กับท่าน แต่มิใชดำเนินการแทน เราเป็นสวิตซ์ตัวหนึ่ง เมื่อได้ยินชื่อกลุ่มดาวลูกไก่ ท่านจะเกิดการระลึกได้หมายรู้ เพราะเราช่วยนำความรู้ความทรงจำของท่านกลับคืนมา เราเองที่มาพูดคุยกับท่านก็จะได้บันทึกภาคสนามที่น่าสนใจกลับไปเช่นกัน

เมื่อ เราเริ่มงานในปี ๒๕๓๑ มีพวกเราเพียง ๕๐-๗๕ พลังงาน/ร่าง ที่มาปฏิบัติภารกิจนี้ ปัจจุบันมีจำนวนกว่า ๑๐๐ จากหลายกลุ่ม เราจึงเรียกตัวเองว่าชาวกลุ่มดาวลูกไก่+ มีกลุ่มพลังงานที่ไม่เชื่อว่าเราจะทำได้ในสิ่งที่เราต้องการจะทำกับท่านทั้ง หลาย พวกเขาเชื่อว่าเราเสี่ยงมากเกินไป แต่พวกเขาก็นั่งไม่ติดแล้วรอดูฉากต่อไป

เรามาเพื่อช่วยเหลือ ช่วยสอน และช่วยวิวัฒนาการ ในขณะที่เราและท่านผ่านขบวนการนี้ไปด้วยกัน เรามอบสิ่งที่เรารู้มาให้แก่ท่านเพื่อให้ท่านเข้าสู่สภาวะการระลึกรู้ที่สูง ขึ้น ไม่ได้บอกกับท่านว่ามีรูปแบบนี้แบบเดียวเท่านั้นที่ถูกต้อง การสอนนี้ออกแบบมาเพื่อการเข้าสู่แผนที่สูงกว่าปัจจุบัน

เรื่องราว ที่เราจะบอกแก่ท่านจะพาท่านไปสู่สภาวะระลึกรู้(conciousness) ที่สูงขึ้น เราต้องการเอาวิถีการคิดมาให้ท่านพิจารณา เราต้องการสนับสนุนให้ท่านไม่ยึดติดในแนวคิดใดแนวคิดหนึ่ง ให้ลองเปิดรับสิ่งที่ท่านลังเล หรือหวาดกลัว เพื่อตระหนักว่าเมื่อท่านเผชิญหน้ากับด้านมืดหรือเงาของตัวท่านเอง ทุกท่านที่ลองแนวคิดนี้จะได้รับโอกาสในการปลดปล่อยเป็นอิสระ

ความคิดคือผู้สร้าง

พลัง ของความคิดจะนำท่านไปสู่ที่นั้นๆ ท่านเองเป็นผู้เลือกที่จะมาที่นี่ ท่านได้รับภารกิจให้นำความทรงจำไปข้างหน้าและนำค่าของความดำรงอยู่ของมวล มนุษย์ไปยังตำแหน่งแนวหน้าของการสรรค์สร้าง (creation) ท่านเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง ท่านถูกฝึกมาเพื่อภารกิจนี้ตลอดชีวิตของท่าน

 

ท่าน ไม่ได้มาอย่างไม่มีการเตรียมตัว คำตอบทุกอย่างอยู่ในตัวท่านแล้ว (จริงเหรอ ทำไมหาไม่เจอเลย ผู้แปล) ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะได้รับข้อมูลใหม่ๆ ขณะนี้เป้นเวลาในช่วงชีวิตคุณที่จะระลึกรู้ถึงสิ่งที่คุณได้ผ่านมาแล้ว เราแค่ช่วยให้คุณระลึกรู้ได้ นี่คือส่วนที่เราเข้ามาเกี่ยวข้อง

มนุษยชาติ เป็นการทดลอง มนุษยชาติถูกออกแบบอย่างปราณีตและมีทุกอย่างที่เคยใช้ในการสรรค์สร้างทั้ง หมด พระผู้สร้างได้ลองสรรค์สร้างหลายสิ่งหลายอย่างมาเป็นเวลานานในจักรวาลนี้ เพื่อ ความพึงพอใจในตน (self gratification) การศึกษาค้นหาตนเอง (self exploration) และการแสดงออกในตัวตน (self expression)

พระผู้สร้าง (prime creator) ให้พลังงานและแก่น (essence) ของท่านให้กับส่วนขยาย (extension) ของท่าน และได้มอบของขวัญอันประเสริฐให้กับส่วนขยาย พลางตรัสว่า

"เจ้าทั้งหลายจงไปสร้างประสพการณ์หลากหลาย และนำมันกลับมาสู่ข้า"


นี่ เป็นภารกิจง่ายๆ ส่วนขยายของพระผู้สร้างถูกเรียกว่า พระเจ้าผู้สร้าง (creator gods) จึงออกไปและเริ่มทดลองสิ่งต่างๆ โดยใช้พลังงานของพระผู้สร้าง พระเจ้าผู้สร้างต่างเริ่มสร้างการจัดระบบตามลำดับชั้น (hierachy) ซึ่งแต่ละหน่วยก็สร้างการจัดระบบตามลำดับชั้นต่อๆ ลงไปอีก ต่างมีหน้าที่ช่วยในการพัฒนาจักรวาล

ต่อมาในระบบกาแลกซี่หนึ่งได้มี การวางแผนร่วมกันเพื่อออกแบบดาวเคราะห์โลกให้เป็นศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างกาแลกซี่ มันเป็นแผนที่สุดยอดมาก ดาวเคราะห์โลกเป็นสถานที่อันสุดสวยงาม ตั้งอยู่ใกล้ชายกาแลกซี่ สามารถเดินทางมาได้จากหลายกาแลกซี่ และอยู่ใกล้ประตูทางด่วนพลังงาน (energy portal) ซึ่งทำให้พลังงานต่างๆ สามารถเดินทางผ่านอวกาศมาเข้าสู่ประตูนี้ได้ง่าย

 

ขอคั่นจังหวะ ลองเปรียบเทียบเนื้อความกับข้อความเบื้องล่างนี้ ที่สื่อกับดร.เทพนม ได้มาจากในเย็ตค่ะ ข้อมูลมาจากชาวดาวอังคาร

การติดต่อสื่อสารทางโทรจิตของ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน กับมนุษย์ต่างดาว Jul 13, '09 6:03 AM
for everyone

การติดต่อสื่อสารทางโทรจิตของ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน กับมนุษย์ต่างดาว
(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

1.ถาม - ทำไมท่านจึงมาติดต่อกับผม เพราะบังเอิญหรือเพราะอะไร?

ตอบ - การมาติดต่อกับท่าน ไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ พวกเราติดต่อกับสายพันธุ์เดียวกันเท่านั้นหรือจะเรียกตามภาษามนุษย์ว่า มีกรรมพัวพันกันก็ได้ มนุษย์ต่างดาวจะมาที่โลกนี้ใน 3 รูปแบบ คือ

1) มาในรูปมนุษย์ต่างดาว อย่างพวกเราขณะนี้

2) มาในแบบถูกส่งมาจุติให้เป็นมนุษย์ ท่านได้ถูกส่งลงมายังโลกนี้ห้าพันกว่าปีแล้ว มีหน้าที่ประสานงานระหว่างมนุษย์กับต่างดาว

3) วิญญาณของมนุษย์ต่างดาวเข้าสิงอยู่ในตัวมนุษย์

2.ถาม - วิญญาณหรือจิต มีจริงหรือไม่?

ตอบ - วิญญาณ หรือจิต หรือพลังงานชีวิต มีจริง ในสิ่งที่มีชีวิตทั่วจักรวาล พลังชีวิตนี้ ไม่มีใครทำลายได้ เมื่อมนุษย์ตาย ร่ายกายเน่าเปื่อยไป แต่วิญญาณยังคงอยู่ และจะต้องไปจุติตามการกระทำ หรือกรรมที่ตนทำไว้ อาจไปเกิดเป็นสัตว์ก็ได้ พวกที่เกิดเป็นมนุษย์อีก มักเกิดใกล้สถานที่ที่กำเนิดในชาติก่อน มีจำนวนน้อยที่ไปเกิดข้ามทวีป และมีจำนวนน้อยมากอย่างยิ่ง ที่ไปเกิดในอีกดาวหนึ่ง

3.ถาม - ท่านนับถือศาสนาอะไร? มีศาสนาแบบมนุษย์ไหม?

ตอบ - พวกเรา นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเหมือนกัน มีองค์เดียวที่สูงสุด และทุกชีวิตมาจากหนึ่งเดียวนี้ ตามความจริงซึ่งท่านจะได้เรียนรู้และทราบในศตวรรษใหม่ที่จะมาถึง ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ มีพระผู้สร้าง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอยู่ 1 องค์ ที่สร้างทุกอย่างในจักรวาลขึ้นมาแต่เริ่มแรก แต่การบริหารจัดการกับสิ่งมีชีวิตต่างๆนั้น มีคณะกรรมการจัดการระหว่างดวงดาว ซึ่งบรรดาศาสดาต่างๆของโลกมนุษย์ก็เป็นกรรมการอยู่ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนทำดี ไม่ควรมาเปรียบเทียบกันว่าศาสนาของฉันดีกว่าศาสนาของเธอ เพราะศาสดาทุกท่าน ก็มาจากที่เดียวกันหมด และถูกส่งลงมาช่วยพัฒนาจิตใจมนุษย์เป็นระยะๆไป

4.ถาม - ท่านอายุเท่าใด? และพวกท่านมีตายบ้างไหม?

ตอบ(ท่าน พาราซิทัล) - เราอายุหลายพันปี ตั้งแต่เราเกิดมาจนถึงปัจจุบัน เคยเห็นพวกเราตายแค่ 3 คน ตายจากอุบัติเหตุยานอวกาศตก ทางด้านโรคต่างๆ เราสามารถพิชิตได้หมดแล้ว ขอให้ถามท่านเอ็ดดี้ ผู้ตรวจจักรวาลบ้าง

ท่านเอ็ดดี้ - ท่านพาราซิทัลพูดถูกต้องแล้ว พวกเราอายุยืนมาก......

5.ถาม - ขอให้ท่านให้ความกระจ่าง เกี่ยวกับมนุษย์คู่แรกบนโลกนี้ว่า มาจากไหนกันแน่? มาจากลิงใช่หรือไม่?

ตอบ - มนุษย์ไม่ได้พัฒนามาจากลิงอย่างที่เข้าใจกัน ตามความเป็นจริง มนุษย์เพศชายคนแรกที่พวกท่านเรียกว่า"อาดัม"นั้น ถูกสร้างขึ้น มาที่ดาวนพเคราะห์ดวงหนึ่งนอกระบบสุริยะของท่าน พระผู้สร้างได้ให้พวกเรา นำมนุษย์ผู้นั้นมาไว้ยังโลกนี้ และต่อมาได้สร้างมนุษย์เพศหญิง ที่พวกท่านเรียกว่า "อีฟ" ขึ้นมาอีกคนหนึ่ง และให้นำมาอยู่ด้วยกัน จนสืบเชื้อสายมีลูกหลานกันมากมายไปทั่วโลก พวกเราเปรียบเสมือนบรรพบุรุษของพวกท่านเหมือนกัน มีหน้าที่คอยดูแลช่วยเหลือพวกท่านอยู่เสมอมา ในระยะ 200 กว่าปีที่ผ่านมา มนุษย์เจริญทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมามาก แต่ทางด้านศีลธรรม และจริยธรรม กลับพัฒนาได้น้อยมาก เมื่อมนุษย์ค้นพบพลังงานใหม่ เช่นพลังปรมาณู ก็นำไปใช้สร้างอาวุธทำลายล้างกัน แทนที่จะนำไปใช้ในด้านพัฒนาสุขภาพและสันติภาพ......

6.ถาม - ถ้าพระผู้สร้างมีจริง และเป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิตขึ้นมาจริงอย่างที่ท่านบอก สิ่งนี้ขัดแย้งกับกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาหรือไม่?

ตอบ - พระผู้สร้าง ได้สร้างทุกอย่างในจักรวาลขึ้นมา แต่ท่านได้ให้อิสระเสรีภาพกับมนุษย์ทุกคน ที่จะทำดี หรือทำชั่วก็ได้ หากทำดี ก็ได้รับผบตอบแทนที่ดี ทำชั่ว ก็ได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดี นับว่ายุติธรรมที่สุดแล้วไม่ใช่หรือ? ฉะนั้น ไม่ขัดแย้งกับกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาเลย และนี่คือ ความจริงของกฎจักรวาล

7.ถาม - สิ่งมีชีวิตในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ แบ่งเป็นระดับอย่างไรบ้าง? และพวกท่าน(มนุษย์ต่างดาว)เป็นผี หรือเทวดา หรืออะไรกันแน่?

ตอบ - พลังงานชีวิต หรือจิตวิญญาณในจักรวาลนี้ แบ่งเป็นระดับต่างๆมากมาย จะเรียกว่า "ภพภูมิ" หรือ"มิติ"ก็ได้ มนุษย์อยู่ในมิติที่ 3 มีความกว้าง ยาว ลึก แต่ไม่สามารถควบคุม"เวลา"ได้ พวกเราอยู่ในมิติสูงกว่าพวกท่านหลายมิติ เราอยู่สูงกว่ามิติ"ผี" แต่เราก็ยังไม่ใช่พวกเทพ หรือพรหม อย่างที่พวกท่านเชื่อว่ามี เราเป็น"มนุษย์"อีกชนิดหนึ่ง ที่อยู่ยังดาวดวงอื่น มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์ และศีลธรรมสูงกว่าพวกท่านมาก ความโกรธ โลภ หลง ในพวกเรา แทบไม่มีเหลืออยู่เลย เรามีจิตวิญญาณที่เป็นอมตะแบบพวกท่าน แต่เราก็มี"ร่าง" ที่ไม่คล้ายกับพวกท่านนัก และมี"ยานบิน" ที่ทำให้เราเดินทางไปยังดาวต่างๆได้อย่างรวดเร็วกว่าแสง พวกเราเป็นสมาชิกของสมาคมระหว่างดวงดาว ซึ่งมนุษย์ยังไม่ได้เป็น แต่คาดว่า มนุษย์คงสามารถพัฒนาตัวเองให้เข้าเป็นสมาชิกได้ในศตวรรษที่ 21 นี้ หากมนุษย์สามารถลดกิเลส โกรธ โลภ หลง ลงได้ เทวดาและพรหมนั้นมีจริง เราสามารถติดต่อได้ทางจิต แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน พวกเขามักเรียกพวกเราว่า"มนุษย์พิเศษ" ส่วนผีนั้น ไม่มีร่างถาวร มีแต่จิต และส่วนมาก ไม่สามารถออกไปจากโลกนี้ได้เกิน 50 กม. เพราะมีสิ่งที่บังคับควบคุมไว้ แต่"มนุษย์ต่างดาว"ไม่มีข้อจำกัดนี้......

8.ถาม - มนุษย์ต่างดาว จะมายังโลกนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากใครก่อนหรือเปล่า?

ตอบ - มนุษย์พิเศษจากดาวอื่นๆ จะมายังโลกนี้ ต้องขออนุญาตจากสมาคมระหว่างดวงดาวก่อนเสมอ หรือถูกส่งให้มาช่วยเหลือในบางเรื่อง แต่เมื่อมาถึงโลกนี้ ก็ยังต้องรายงานกับ"ผู้ตรวจโลก" ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่ มนุษย์ต่างดาวที่แอบมาก็มีเหมือนกัน คือ มาโดยไม่ขออนุญาตก่อน ส่วนมากพวกนี้เป็นพวก"ไม่ดี" ซึ่งมีอยู่เหมือนกัน แต่เป็นจำนวนน้อย ปีที่แล้ว มีพวกกลุ่มไม่ดี ได้แอบเข้ามาในโลกของท่าน ด้วยยานอวกาศลำใหญ่ขณะมิติเปิด ขณะนี้สำหรับประเทศไทย กลุ่มไม่ดีลอยอยู่ในบริเวณเขาผีปันน้ำ ในภาคเหนือของประเทศท่าน หากพบยานบินสีดำ อย่าไปยุ่งเกี่ยวด้วย อันตรายมาก......

9.ถาม - มนุษย์ต่างดาวเช่นพวกท่าน หน้าตาคล้ายพวกเราไหม? หายใจด้วยออกซิเจนหรือไม่? กินอาหารและขับถ่ายอย่างไร?

ตอบ - ผู้ที่มาจากดาวดวงอื่น ที่มีหน้าตาคล้ายมนุษย์มากที่สุด คือ พวกที่มาจากกลุ่มดาวลูกไก่ และดาวพระศุกร์ เราจากดาวอังคาร(ท่านพาราซิทัล) หน้าตาไม่เหมือนพวกท่าน ตาจะใหญ่ดำ คางแหลม แบบในรูปที่ท่านวาดไว้ สูงกว่ามนุษย์ มือมี 3 นิ้ว และไม่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง แต่รู้ว่าใครเป็นเพศชาย เพศหญิง มนุษย์ต่างดาวเพศชาย มักตัวโตกว่าผู้หญิง เราไม่หายใจด้วยออกซิเจน แต่หายใจด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว เรามีปากเล็กๆ จมูกเล็กๆ ไม่กินอาหารเหมือนพวกท่าน เรากินพลังงานชนิดหนึ่ง กินหนึ่งครั้งอยู่ได้หลายเดือน เราไม่มีกระเพาะอาหาร ลำไส้ ทวารหนัก ฉะนั้นพวกเราไม่ต้องขับถ่ายทั้งหนักและเบาระหว่างเดินทางในอวกาศ ความแตกต่างเหล่านี้ เป็นของธรรมดา "ท่านเอ็ดดี้" ก็หน้าตาเป็นสี่เหลี่ยม ตากลมใหญ่ แปลกไปจากเราอีก แต่เขาใจดีมากนะ หน้าตาแตกต่างกัน ไม่ได้หมายความว่าคุยกันไม่ได้.....

10.ถาม - ผมอยากถามว่า มาตรฐานของดาวอังคาร ดูเพศชายว่าหล่อ หรือเพศหญิงว่าสวย เหมือนมนุษย์ดูหน้าตาและรูปร่างหรือเปล่า?

ตอบ - ไม่ใช่เลย ความหล่อและความสวย ไม่มีความสำคัญในโลกของเราเลย เราดูความ"งาม"ของเพศตรงข้าม คือ

1) ดูว่ารัศมีออร่า ที่ออกมารอบตัวและศีรษะของเขา เป็นสีที่บริสุทธิ์ เช่น สีขาวมากน้อยแค่ไหน?

2) ดูที่ความคิดอ่านของเขา เวลาเขาคิด ก็ออกมาเป็นคลื่นไฟฟ้า ให้พิจารณาได้แล้วว่า คิดดี คิดบริสุทธิ์หรือไม่? ถ้าคิดดี คิดถูกต้อง วาจาและการกระทำที่ตามมาก็จะดีตาม พวกเราถือสัจจะสำคัญกว่าชีวิต ไม่มีการพูดปดกันหน้าตาเฉย อย่างในโลกมนุษย์เลย เพราะหากพูดปด อีกฝ่ายก็ทราบทันที และตัวเองก็ไม่กล้าทำเช่นนั้นเลย.......

11.ถาม - พวกมนุษย์สงสัยว่า ถ้าท่านไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านมีลูกกันได้อย่างไร? แต่งงานกันหรือไม่?

ตอบ - พวกเราเคยมีอวัยวะสืบพันธุ์ ตั้งนมนานมาแล้ว แต่หลังจากมีการพัฒนาทางด้านโคลนนิ่งมากเข้า เพศหญิงไม่ต้องอุ้มท้อง 9 เดือน แบบผู้หญิงของท่าน เพราะไม่ยุติธรรมต่อเพศหญิง เมื่อพัฒนาโน่นนี่กันมากขึ้น อวัยวะเพศก็หย่อนความสำคัญลงไป ไม่ค่อยได้ใช้กันบ่อย ขณะนี้ถ้าเราชอบพอกัน อยากไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เราก็มีพิธีแต่งงานง่ายๆ มีคล้ายพระ ทำพิธีให้ และไปอยู่ด้วยกัน มีบ้านที่รัฐบาลสร้างไว้ให้แล้ว เมื่ออยากมีลูกกัน ทั้ง 2 คนก็ยืนจ้องตากัน เอา 2 มือแตะกัน "ปิ๊ง"เดียว ลูกตัวเล็กๆก็ลอยลงมาในแคปซูลน้อยๆ และก็เลี้ยงให้โตขึ้นมา ต้องไปเข้าโรงเรียนด้วย คล้ายของมนุษย์ ทุกครอบครัวถูกกำหนดว่า มีลูกได้ไม่เกิน 2 คน หากมีเกิน 2 คน จะถูกลงโทษ คือ ตายไปแล้ว ไม่ได้เกิดอีกเลย ซึ่งทุกคนกลัวมาก บางดาวแค่จ้องตากัน ก็มีลูกได้แล้ว แปลกไหม? ต่อไปโลกของท่าน อาจเป็นแบบของเราก็ได้........

12.ถาม - โลกดาวอังคารของท่าน ทำไมสหรัฐอเมริกา ส่งจรวดไปแล้ว ไม่เจอผู้คนเลย และท่านมีระบบการปกครองอย่างไร?

ตอบ - โลก ของเรา เคยมีบรรยากาศ มีน้ำ เช่นโลกของท่าน แต่พวกเรากันเอง ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมจนหมดสิ้น และทำสงครามกันด้วย คนต้องหนีลงไปอยู่ใต้ดินสำหรับผู้ที่รอดตาย เราอยู่ลึกลงไปหลายกิโลเมตร เรายังใช้ระบบบการปกครอง ที่มีหัวหน้า คล้ายพระเจ้าแผ่นดิน ทุกคนก่อนเกิด ถูกกำหนดไว้แล้วว่า ต้องเกิดมาเป็นเพศอะไร? และโตขึ้นทำอาชีพอะไร? เช่น เราถูกกำหนดให้เกิดเป็นทหาร จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ โลกของท่านดีกว่า ที่เกิดแล้วเลือกเรียนอะไรก็ได้ตามใจชอบ จะเป็นคนดีหรือคนชั่ว ก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง โลกของเราต้องเป็นคนดีเท่านั้น เป็นคนเลวไม่ได้ คนเลวจะถูกกำจัดออกไปทันที และไม่ได้เกิดอีกเลย......

13.ถาม - โลกของท่านมีนรกและสวรรค์ไหม? และการกลับชาติมาเกิดมีจริงหรือไม่?

ตอบ - ใน ระบบสุริยะของพวกเรา ในทางช้างเผือก มนุษย์เป็นดาวนพเคราะห์ดวงเดียว ที่มีทั้งนรกและสวรรค์ ดาวนพเคราะห์อื่นๆไม่มี เพราะเขาทำดีกันหมด ไม่มีคนทำชั่ว ที่ต้องถูกไปลงโทษในนรก แต่โลกของท่าน ก็มีดี ที่ตายไปแล้วได้เกิดอีก ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่าน ถ้าท่านทำดี ชาติต่อไป ก็ดีขึ้นกว่าเดิมม หากทำชั่ว ก็ตกนรก หรือเกิดเป็นสัตว์ หรือมนุษย์ที่แย่กว่าเดิม การกลับชาติมาเกิด มีจริง ส่วนมากจะเวียนว่ายตายเกิดในโลกของตัวเอง บางคนอาจจะเกิดข้ามดาว แต่มีน้อยมาก ที่จะทำได้เช่นนั้น ต้องพิเศษจริงๆ.....

14.ถาม - ผมมีรูปถ่าย จากแฟ้มลับของเคจีบี ที่เพิ่งเปิดเผย อ้างว่าเป็นภาพจานบินตกในรัสเซีย ราว 40 ปีมาแล้ว และมีมนุษย์ตัวเล็กๆสีเขียวตายอยู่ในนั้น และเขานำมาผ่าศพดู ท่านดูแล้วคิดว่าภาพเหล่านี้เป็นของจริงหรือภาพหลอกลวง?

ตอบ - จานบินตกทั่วโลก มาแยะแล้ว ในรัสเซีย ในจีนก็ตกหลายครั้ง ในประเทศไทยของท่าน ก็ตกที่ อ.สันกำแพง จ.เชีงใหม่ ในปี ค.ศ.1958 ท่านเอ็ดดี้รู้ดี เพราะรอดมาได้ รูปที่รัสเซียเปิดเผยนั้น เป็นรูปจริง มนุษย์ต่างดาวตัวเล็กๆเขียวๆ มี 4 นิ้ว ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขามาจากดาวดวงอื่น จะให้รูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ คงเป็นไปไม่ได้ น่าสงสารเขานะ.....

15.ถาม - เพื่อนของ ผม ถ่ายภาพมนุษย์มีแสงออกมาจากตัว ที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เมื่อเดือนมีนาคม 2542 เวลากลางคืน ท่านบอกได้ไหมว่า เขาเป็นชาวบ้านหรือมนุษย์ต่างดาว หากเป็นมนุษย์ต่างดาว เขามาทำไมในป่าทึบ?

ตอบ - ผู้ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มีแสงออกมาจากตัว ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่มิติเปิด คล้ายสามเหลี่ยมเบอมิวดา และบรรดายานอวกาศต่างๆ สามารถผ่านเข้า-ออกได้ง่าย นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ที่มีแร่ธาตุหายาก ที่ใช้ในการเดินทางในอวกาศ เราเคยบอกท่านแล้ว เกี่ยวกับแร่ธาตุชนิดนี้ ว่าคล้ายแร่ธาตุที่ท่านเรียกว่า"เหล็กไหล"ไงล่ะ เราจะไม่บอกว่า เขามาจากที่ไหน บอกแต่เพียงว่า เขาไม่ใช่มนุษย์และไม่ใช่ผี!!!......

16.ถาม - เมื่อ 6 สิงหาคม 2542 ผมได้รับเชิญจากองค์การนาซ่าและInternational Space University ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมาจัดประชุมอยู่เงียบๆอยู่ที่มหาวิทยาลัยสุรนารี ให้ไปพูดถึงเรื่อง"การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยูเอฟโอ และผู้ขับขี่ยานบินในประเทศไทย พ.ศ.2540-2542" และได้รับคำชมเชยจากฝรั่งนักวิชาการ 300 กว่าคนว่า ทำวิจัยได้ดีมาก ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องที่นาซ่าคิดจะไปยึดดาวอังคารทำเหมืองแร่ และส่งคนไปอยู่ 50,000 คน ใน 20 ปีข้างหน้านี้ และทำไมจานบินของท่านมาแล้ว ไม่ยอมบินลงมาต่ำตามที่ขอร้องให้ฝรั่งเห็นทั่วกัน?

ตอบ - เราไปฟังอยู่ตลอด เวลา และไม่พอใจอย่างมาก ที่เขาคิดจะไปยึดดินแดนที่มีเจ้าของแล้ว เช่นที่เคยทำมาในโลกนี้ในอดีต ขอบอกสั้นๆว่า หากรบกัน ก็ไม่มีทางสู้พวกเราได้ ยานอวกาศของเรา ได้บินไปให้ท่านและบางคนเห็นแล้ว เราไม่บินลงต่ำ เพราะคิดว่าจะไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกที่คิดจะไปยึดดาวของเรา.....

17.ถาม - เมื่อ 19 มีนาคม 2539 มีผู้ถ่ายภาพประหลาดได้ ที่พระเมรุพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี แสงนั้นเป็นแสงอะไร?

ตอบ - ขอตอบสั้นๆว่า กลุ่มเทพชั้นสูงมาแสดงคารวะต่อพระบรมศพ ไม่ใช่จานบินมาอย่างที่เข้าใจกัน.....

สรุป ว่า ตั้งแต่ต้นปี จนถึงเดือนกันยายน 2542 ขณะเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ผู้เขียนได้ติดต่อกับท่านพาราซิทัล และท่านเอ็ดดี้เป็นประจำ เดือนละ 1-2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ซึ่งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2542 ยูเอฟโอ ได้มาปรากฏให้เห็น เวลา 20.15 น.ที่เหนือบ้านผู้เขียนใน กทม. มีผู้พบเห็น และถ่ายภาพได้จำนวนมาก ซึ่งจากการสื่อด้วยโทรจิต พวกเขาบอกว่า บินผ่านทางจึงแวะลงมาเยี่ยมเยียน สิ่งที่นำมาเล่าให้ฟัง เป็นสิ่งที่ได้รับสื่อทางจิต จากผู้ที่อ้างว่าเขามากับยานบิน และยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ที่ผู้เขียนได้จดบันทึกไว้

อย่างที่บอก กับท่านผู้อ่านไว้แล้วว่า สิ่งที่เล่ามาให้ฟัง ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน เหมือนกับการถ่ายภาพยานบินได้ ก็ได้แต่บันทึกไว้ และรอเปรียบเทียบกับความจริงต่างๆ ที่จะค่อยเผยออกมาทีละน้อยๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ "ความจริงเท่านั้น ที่จะช่วยให้มนุษย์เราหลุดพ้นจากความโง่เขลาทั้งปวง"

Credit: Mr.Terran ( http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8073652/X8073652.html )

 

พระ เจ้าผู้สร้าง (creator god) บางท่านเป็นนักพันธุศาสตร์ชั้นเทพ (master geneticist) ท่านเหล่านั้นได้ออกแบบสิ่งมีชีวิตหลายชนิด บ้างในรูปแบบของมนุษย์ บ้างในรูปแบบของสัตว์ต่างๆ โดยการเล่นกับสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) หลากชนิดที่อารยธรรมโบราณมีไว้ให้ทำให้สภาวะที่ดาวเคราะห์โลกจะเป็นศูนย์ กลางข้อมูลใกล้ความจริงขึ้นมา เป็นศูนย์กลางแสงสว่าง เป็นห้องสมุดมีชีวิตนั่นเอง (ข้อมูลเก็บในดีเอ็นเอสมัยนั้นที่มีเส้นใยแสง รับข้อมูลแสงได้จากอวกาศ ผู้แปล)

พระผู้วางแผน (original planner)ให้กับดาวเคราะห์โลกเป็นสมาชิกครอบครัวแสงสว่าง ทำงานให้กับแนวคิดเรื่องแสงสว่าง แสงสว่างคือข้อมูล ครอบครัวแสงสว่างสร้างศูนย์กลางข้อมูลตามแนวความคิดที่ได้วางไว้ ท่านออกแบบสถานที่ซึ่งกาแลกซี่ต่างๆจะช่วยให้ข้อมูล และเราทั้งหลายจะสามารถมีส่วนร่วมและแชร์ความรู้ต่างๆ มากมาย โลกจะเป็ห้องสมุดที่กว้างใหญ่ไพศาล เป็นสถานที่อันงดงามไม่มีใดปานเปรียบ เป็นแหล่งทดลองวิธีเก็บข้อมูลโดยใช้การพัฒนาต่อเนื่องทางพันธุกรรมและคลื่น ความถี่ (frequency)

​

โปรเจค ห้องสมุดมีชีวิตบนโลกนี้ท้ายสุดก็มีการต่อสู้แย่งชิงเกิดขึ้น มันดูน่าครอบครองมากพอทำให้บางกลุ่มต้องการเป็นเจ้าของ ในช่วงต้นของประวัติศาสตร์โลกมีสงครามอวกาศหลายหนเพื่อยึดครองเป็นเจ้าของ ดาวเคราะห์นี้ เกิดการต่อสู้กันและโลกจึงถูกแบ่งเป็นสองฝ่าย พระเจ้าผู้สร้างบางท่านที่มีอำนาจทำอะไรก็ได้เพราะโลกเป็นแดนเสรีจึงเข้ามา และยึดครองโลก เมื่อเกิดการต่อสู้ในอวกาศกลุ่มที่ชนะได้อำนาจในการยึดครองโลก
​

 

​

กลุ่ม ผู้ยึดครองไม่ต้องการให้มนุษย์ผู้อยู่อาศัยบนโลกรู้ว่าได้เกิดอะไรขึ้น เผ่าพันธุ์ที่ไม่มีข้อมูลจะถูกควบคุมได้ง่ายกว่า แสงสว่างคือข้อมูล ในขณะที่ความมืดมิดคือความไม่รู้ (รึจะหมายถึงวิชชา อวิชชา ผู้แปล) กลุ่มเหล่านี้จึงขับไล่แสงสว่างออกไป (โดยการสร้างมลพิษขึ้นในบรรยากาศโลกแสงจากจักรวาลจึงส่องเข้ามาไม่ได้ ผู้แปล มาจากวิดีโอถัดไป) โลกจึงกลายเป็นดินแดนในอาณัติปกครองของท่านเหล่านั้น ผู้ที่ได้เข้ามาบนโลกเมื่อ ๓๐๐,๐๐๐ ปีก่อน และเป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิ้ล โดยชาวบาบิโลเนี่ยน และชาวสุมาเรี่ยน และอักขระอื่นๆ ทั่วโลก (ด้วยความยกย่อง แปลว่าเราหลงไปสวามิภักดิ์ฝ่ายอธรรมที่แปลงมาโดยไม่รู้ตัวหรือ ผู้แปล) ท่านเหล่านี้เปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอของมนุษย์ทำให้มนุษย์ส่งคลื่นในความถี่ช่วง หนึ่งๆที่เป็นพลังให้แก่ท่านเหล่านั้น และทำให้ท่านเหล่านั้นดำรงอำนาจอยู่ได้ (หรือที่หลอกให้อีฟกินแอปเปิ้ล ผู้แปล)

มนุษย์ดั้งเดิมมีความล้ำเลิศ มีดีเอ็นเอสิบสองสายที่ได้รับการถ่ายทอดจากอารยธรรมจักรวาลหลายเผ่าพันธุ์ เมื่อนายใหม่ (เจ้าของจากการยึดครอง) มาถึงท่านเหล่านั้นได้ทำการทดลองในห้องปฏิบัติการและสร้างมนุษย์ที่มีความ แตกต่าง เหลือดีเอ็นเอเพียงสองเส้นพอให้สามารถใช้ชีวิตรอดเท่านั้น ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดและรหัสให้ข้อมูล (วิชชา) อื่นๆถูกจับแยกและถอดถอนจากสายใยพันธุกรรมจนสิ้น (เหมือนถอดปลั๊ก) แต่ทิ้งไว้ในเซลล์มนุษย์ดุจเดิม

ภายในเซลล์มนุษย์มีเส้นใยห่อหุ้ม ด้วยแสงสว่าง เส้นใยพลังงานที่บรรจุข้อมูล เมื่อใยละเอียดเหลี้ทำงานร่วมกันจะเหมือนเส้นใยไฟเบอร์ออปติก จะรวมเป็นสารพันธุกรรมดีเอ็นเอของมนุษย์ที่สมบูรณ์ (เหมือนเส้นใยหางเปียในอวตารกระมัง มันสื่อข้อมูลกับต้นไม้แห่งจักรวาลจำได้ไหม ผู้แปล) มนุษย์ปัจจุบันจึงเหลือดีเอ็นเอทำงานได้แค่สองสาย ล็อกมนุษย์ไว้ในความถี่ที่เจ้านายควบคุมได้

เราชาวดาวลูกไก่ ได้ย้อนเวลากลับมาบนเส้นทางของเรา

 

ครอบเซอร์เคิล Alton Barnes ประเทศอังกฤษ ๑๙๙๖ โชว์จักระทั้งสิบสองและการกระตุ้นดีเอ็นเอ

การวิวัฒนาการของจักรวาลเป็นจุดที่แผนเริ่มจะเบ่งบาน สิ่งที่จะเกิดกับโลกจะส่งผลกับโลกธาตุมากมาย ดีเอ็นเอของท่านจะวิวัฒนาการจากสองสายเป็นสิบสองเส้นเกลียว สิบสองเส้นเกลียวนี้โยงใยถึงศูนย์กลางพลังงาน ๑๒ จุดที่เรียกว่า “จักระ” ทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกร่างกายท่าน กระบวนการนี้เป็นการกระโดดก้าวข้ามวิวัฒนาการสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมันจะเกิดขึ้นบนเส้นทางอันย่นย่อภายในเวลายี่สิบปีนี้ *(หรือที่พี่สุดใจเคยบอกว่าย่นจำนวนภพชาติตามที่ต่างดาวบอกมา ผู้แปล)

มีบางท่านที่ได้รับการจัดเรียงดีเอ็นเอเป็นสิบสองเส้นเกลียวแล้ว (น้าเหมาใช่เปล่า ต้องจับเจาะเลือดดูมั้งคะ ผู้แปล) ดีเอ็นเอสิบสองสายเส้นเกลียว (สิบสองเส้นบางดุจแพรวไหมพันเกลียวเดียวกัน ผู้แปล) ดีเอ็นเอเกลัยวที่มีสิบสองเส้นพาดพันนี้มีปกิกิริยาต่อกันและกันทั้งภายใน และภายนอกร่างกาย การเชื่อมกันของสิบสองเส้นหมายความว่าแหล่งพลังงานหรือศูนย์กลางข้อมูลสิบ สองแห่งสามารถเริ่มทำงานและส่งรับข้อมูลระหว่างกันได้ เมื่อดีเอ็นเอมนุษย์รวมสายเกลียวเข้าทั้งหมดอีกครั้งและเปิดศูนย์ข้อมูลดัง กล่าวจะเกิดเป็นพลังงอย่างมหาศาล บุคคลใดๆ ที่มารวมกันและร่วมกันตั้งความปรารถนาจะกลายเป็นเสมือนจานรับโทรจิตจาก พลังงานที่มาจากทั่วห้วงจักรวาล** สิ่งนี้จะเปลี่ยนโฉมหน้าของจักรวาลที่เรารู้จัก

จักระของเราปรับเข้ากับกริดของโลก
​

*ไม่ทราบว่ายูทูปนี้สร้างจากข้อมูลปีไหน ชาวดาวลูกไก่ติดต่อ บิล เมเย่อร์มาตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ แล้ว
** เหมือนอภิจิตหมู่ใช่หรือไม่ เช่นของดร. สถิตย์ธรรม หรือที่นั่งสมาธิให้ในหลวง หรือสมาธิกริดปิรามิดที่คุณจินตวดีแนะนำ

​

​

 

คั่นบทเรียนด้วยบทความเรื่องการยกระดับค่ะ ระบบจัดให้

การยกระดับสู่มิติที่สูงกว่า กำลังเกิดขึ้นจริงหรือ

จากข้อเขียนของ Sandy Stevenson

ภาวะ ดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นจริงๆ ดาวเคราะห์โลกได้วิวัฒนาการไปถึงจุดที่เธอพร้อมที่จะคลื่อนสู่มิติที่มีความ สั่นสะเทือนด้วยความถี่ที่สูงกว่า (ใกล้ช่องว่างกลางกาแล็กซี่ ผู้แปล) จัดเป็นขั้นตอนการวิวัฒนาการปรกติของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในจักรวาล ขบวนการเรียก การยกระดับ (ascension) ทุกคนและทุกสรรพสิ่งจะถูกยกระดับเมื่อพลังงานของพวกเขาเข้าสู่ความถี่เฉพาะ หนึ่งๆ ของแสง

บนโลกมีสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะลื่นไหลไปกับคำสั่งศักดิ์สิทธิ์ (Divine Order) และมีแถบการสั่นสะเทือนคล้ายคลึงกับของโลกและยกระดับไปพร้อมกัน ตัวอย่างได้แก่สัตว์และพืชที่ตอบสนองต่อกาลเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล

ทุก คนบนโลกกำลังตัดสินใจว่าจะปรับตัวให้เข้ากับคำสั่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อยกระดับ สู่มิติที่ ๕ หรือเขาจะอยู่เรียนรู้ ณ มิติที่สามต่อไป การเรียนรู้ในมิติที่ ๓ คือการหาประสพการณ์ในสถานการณืหลากหลายที่จะช่วยสอนให้เรามีปัญญาและความรัก อันยิ่งใหญ่

ผุ้ที่เรียนรู้ในมิติที่ ๓ นี้ เช่นมนุษย์และสัตว์บางชนิด ต่างอยู่ที่ตำแหน่งการสั่นสะเทือนที่ต่างกัน ขึ้นกับว่ากำลังอยู่ในบทเรียนใด การมีชีวิตเชิงบวกให้การสั่นสะเทือนในระดับสูง ความรู้สึกเชิงลบ เช่นความกลัวสร้างการสั่นสะเทือนในระดับต่ำกว่า

ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องทำอะไร!!

คุณ ไม่ต้องรู้ว่าคุณกำลังทำอะไร นั่นไม่ได้อยู่ในพันธสัญญา อัตตาหรือความคิด (การปรุงแต่ง) เป็นตัวที่ต้องการรู้รายละเอียดและความสำคัญ จิตวิญญาณจะมีความเชื่อมั่นในระบบ ทำในสิ่งทีใช่โดยไม่ลังเลด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจากภายใน และก้าวต่อไปสู่เบื้องหน้าตื่นเต้นโดยไม่รีรอ

​

 

ฉันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแสงสว่างหรือไม่

ถ้าคุณต้องการช่วยเหลือ แม้จะไม่รู้ว่าต้องช่วยอะไร คำตอบคือ ..ใช่แล้ว...คุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแสงสว่าง...

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าฉันกำลังช่วยเหลืออยู่

ถ้า คุณทำในสิ่งที่รู้ว่าถูกต้อง ไม่ว่ามันคืออะไรก็ตาม คุณกำลังช่วยเหลืออยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการกระทำเกิดการสั่นสะเทือนทางจิตวิญญาณต่อเนื่องกับ ผู้อื่นแปลว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่ได้รับมอบหมายมา ความสนใจ ความตื่นเต้น การสั่นสะเทือนทางจิตวิญญาณ และความรู้สึกที่ว่าใช่ที่มาจากภายในจะชี้เส้นทางที่ถูกต้องให้คุณนาทีต่อ นาที ให้มั่นใจในความรู้สึกภายในของคุณ

ฉันต้องรู้รายละเอียดทั้งหมดเพื่อวางแผนงานไหม

เมื่อ เราฟังจิตของเรา เราไม่ต้องการรายละเอียดมากมายที่ใช้กันอยู่ปรกติในโลกสามมิติ ถ้าเราวางแผนจากสิ่งที่เกิดรู้ในใจ ทุกอย่างที่ต้องการใช้จะมาอยู่ในที่ๆ เราต้องการ ความรู้สึกว่าใช่อยู่เหนือทุกอย่าง รวมถึงคำกล่าวของคนในอำนาจและผู้ที่แนะนำเรื่องการยกระดับให้กับเราด้วย

ฉันต้องไปฟังสัมมนา หรือหาบทความอ่านไหม

ถ้า การฟังสัมมนา อ่านหนังสือ หรือช่องทางรับข้อมูลอื่นๆทำให้คุณตื่นเต้น ทำไปเลย ถ้าไม่เอ็นจอยก็ไม่ต้องทำ วิถีการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการรับรู้ของบุคคลอื่นอาจไม่ใช่วิถีของคุณก็ได้ ถ้าคุณตื่นเต้นบันดาลใจนั่นคือหนทางของคุณ

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าอัตตาตัวตนครอบงำฉันอยู่

ถ้า คุณมองไปรอบๆ เพื่อหาว่ามีใครสังเกตเห็นคุณไหม นั่นแปลว่าอัตตาตัวตนยังครอบงำคุณอยู่ ถามตัวเองสิว่า ถ้าฉันไม่ได้บอกใครเลยว่าฉันทำอะไรอยู่ และไม่มีใครรู้ด้วย ฉันยังจะทำอยูอีกไหม ถามเอง ตอบเอง รู้เองค่ะ

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าฉันกำลังเผชิญกับพลังงานด้านลบ

เธอ มีของขวัญที่ติดตัวมา คือความสามารถในการสัมผัสได้ว่าสถานการณ์หรือคนบางคนมีทีท่าที่ไม่ปรกติ ไม่เวิร์คสำหรับคุณ สังเกตความรู้สึกเริ่มแรกและจงเชื่อมั่นในความรู้สึกนั้น ไม่ว่าคนอื่นในโลก (อาจรวมถึงคนในครอบครัวคุณ ผู้แปล) จะคิดอย่างไรกับคนผู้นั้นซึ่งทุกคนนับถือ มีชื่อเสียง ความรู้ที่เป็นที่ยอมรับ ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด (ดูจีที ๒๐๐ เป็นต้น ผู้แปล) ถ้าไม่เชื่อตนเองอาจเสียใจได้ภายหลัง (แต่กว่าจะเริ่มได้ควรพยายามเสพย์ความถี่ดีๆ และลดการเสพย์ความถี่ต่ำๆ เสาอากาศสะอาดขึ้นรับความถี่ต่างๆ ได้ชัดเจนค่ะ ผู้แปล)

ฉันจะสัมผัสความจริงได้อย่างไร

จิต คุณจะบอกคุณเองทุกครั้งไป สิ่งที่คุณต้องทำคือเชื่อความรู้จากภายใน (intuition) นั้นเมื่อมันสื่อกับคุณ ถ้าอ่านหรือได้ฟังอะไรแล้วมันรู้สึกว่า “ไม่ใช่” โยนความรู้สึกนั้นทิ้งเสีย อย่ายอมรับอะไรที่ข้างในบอกว่าไม่ใช่​

 

ความจริงจิตวิญญาณของคุณ รู้อยู่แล้วว่า การมาเกิดช่วงนี้
โลกจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และคุณตั้งใจมายุคนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอฺิญ
จิตวิญญาณรู้แต่จิตปัจจุบันถูกปิดมิติไว้ จึงจำไม่ได้แต่คุณก็เริ่มรู้แล้ว
สังเกตุได้จากการได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้เป็นต้น หรือแหล่งอื่นๆ
ที่คุณจะระลึกได้ด้วยตัวคุณเอง...

 

25 ก.พ. 10, 09:15 PM
sutatip_b:เชิญอ่าน 17 - 18 มี.ค.53 ปฎิบัติการหยุดวันสิ้นโลก 2012 ห้องตารางกิจกรรม
สันโดษ: คืนนี้ ระบบส่งคนมาน้อย ไม่เป็นไร เราเน้น คุณภาพ เเละ ประสบการณ์ค่ะ
LLมวดำ: มีวิธีหยุดวันสิ้นโลกด้วยเหรอครับ คุณ sutatip_b
sutatip_b: กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตั้งชื่อให้เร้าใจค่ะ เดี๋ยวอธิบาย
LLมวดำ: ครับ
sutatip_b: ฝรั่งจากหลายประเทศกล่าวว่า ให้เราทำจิตให้ผ่องใส เต็มไปด้วยความรัก เข้าใจว่าเรามาเกิดทำไม เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์
sutatip_b: ใครยังจมกับสิ่งลบ อารมณ์ลบ จะเลื่อนการสั่นสะเทือนของจิตวิญญาณไปกับตำแหน่งพลังงานละเอียดที่สุริยะ จักรวาลจะเคลื่อนเข้าสู่ใน ๒๐๑๒ ไม่ได้
sutatip_b: ตำแหน่งช่องว่างกลางทางช้างเผือก เหมือนช่องปากจระเข้ ไม่มีดวงดาว ที่มายากล่าวไว้
sutatip_b: ถ้าเลื่อนความถี่ขึ้นไม่ได้ ถ้าเกิดต้องตายก็ต้องไปเริ่มกันใหม่ในที่ๆมีพลังงานอย่างหยาบๆ ที่ดาวอื่น คงคล้ายๆ เดรัจฉานภูมิ
sutatip_b: ไม่ใช่เดรัจฉานบนโลกด้วย เพราบนโลกตามตำแหน่งในทางช้างเผือกจะเขาจะเป็นคลื่นความถี่สูง สะอาก สดใส
sutatip_b: ถ้าปล่อยวาง มีรักและเมตตา อารมณ์ดี เห็นทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
sutatip_b: ถ้ารอดก็ช่วยสร้างโลกใหม่ที่สวยงาม คนจะรอดต้องมีความถี่นี้เท่านั้น
sutatip_b: ถ้าไม่รอด ก็ไปที่ๆมีความถี่สูง ดาวไหนไม่รู้ สุกใส สดใส ไม่มีกายเนื้อถ่วง born free
sutatip_b: คนที่ปรับคลื่นแล้วก็ไม่แคร์มากว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม ถึงมีก็ไม่กลัว คลื่นพลังงานเป็นบวกตลอด ได้เป็นที่พึ่งของคนที่ขาดสติยามเกิดภัยด้วย
sutatip_b: ฟังแล้วเข้าใจไหมเอ่ย
LLมวดำ: อ่านอยู่ครับ
sutatip_b: พี่ก็เพิ่งเข้าใจเมื่อวานนี้ (ข้อมูลครบ)
sutatip_b: ถ้าเข้าใจอย่างนี้ เกิดภัยก็เป็นไปตามนั้น ไม่เกิดก็เป็นไปตามนั้น
sutatip_b: แต่ถ้าย้ายไปอยู่ในชนบทไปทำไร่ก็จะดี เพราะถ้าไฟดับสามปีจากพายุสุริยะนี่ถอนเงินไม่ได้ซักบาท
sutatip_b: แล้วจะเอามาม่าที่ไหนกิน ต้องซื้อด้วยเงินนิ
สันโดษ: คนที่เข้ามาเป็นสมาิชิกนี้ทุกคน คือ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัยพิบัติอยู่เเล้วค่ะ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องเป็นกังวลอะไร ระบบจะจัดสรรงานให้เราเอง
สันโดษ: พวกเรา เเค่ ทำงานของเรา โดยไม่ต้องคิดอะไร ทำเท่าที่เราสามารถทำได้ นั้นคือ ระบบจากจิตวิญญาณของเราเอง
LLมวดำ: ระบบที่ว่านี่คือ ใครครับ คุณสันโดษ
สันโดษ: ถ้าไม่ใช่คนระบบจะไม่ได้เข้ามาที่เว็บนี้เเน่นอน
สันโดษ: มันเป็นกลุ่มของเเสงสว่างค่ะ ความบริสุทธิ์เเห่งจิตวิญญาณ
สันโดษ: จริงๆ พวกเรา เป็น เพียงเเค่ จิตวิญญาณที่มีร่างกายเป็นมนุษย์
สันโดษ: ถ้าคุณคิดว่า เป็น มนุษย์ เพราะ คุณ คิดว่า เป็น คุณก็คือ มนุษย์ค่ะ
sutatip_b: ระบบ คือระบบจักรวาล ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตจากหลายดวงดาว เหมือนยูเอ็น
sutatip_b: งานนี้โลกเจอหนัก ยังไงสุริยะจักรวาลก็ต้องเข้าปากจระเข้ แต่คนเป็นลบเยอะโลกหนัก ถูกทำลายเยอะด้วย เลยต้องเขย่าขนานใหญ่
sutatip_b: จิตวิญญาณจากโลกอื่นต้องมาช่วย ช่วยเตรียม ช่วยเตือน ช่วยคลีนอัพ แบบที่ช่วยกันในเฮติไง
สันโดษ: สมาชิกในเว็บนี้ ศึกษาข้อมูลหลายๆศาสตร์เเละสามารถตีโจทย์ได้เเตกว่า เเท้จริงเรา คือ ใคร พวกเราจึงรวมตัวกันนั้นเองค่ะ
สันโดษ: ถ้าคุณ คิดว่า คุณ ยังมีตัวตน เพราะ คุณยังพอใจ ในสภาวะที่คุณเป็นอยู่ ก็ ถือว่า ถูกต้องเช่นเดียวกัน
สันโดษ: คุณต้องพอใจกับสภาวะความคิด ร่างกาย เเละ จิตวิญญาณ ณ ปัจจุบัน คุณถึงจะมีความสุขที่เเท้จริง ไม่ใช่เพราะมีคนบอกว่าคุณ คือ ใคร
สันโดษ: อย่าเป็นคนอื่น จงเป็นตนเอง
​

 

รูปวาดจาก Akiane เด็กจากดวงดาว...
ชื่อภาพ แรงบันดาลใจ

LLมวดำ: ผมกำลังหาวิธีหยุด ความคิดของผมอะครับ จะทำได้ยังไง เพราะผมเป็นพวกคิดฟุ้งซ่าน ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี
สันโดษ: งั้นคุณ ก็ทำผิด เพราะความคิด มีไว้รู้ ไม่ได้มีเพื่อห้าม เราต้องรู้ว่าเรากำลังคิดอะไร ถึงจะถูกค่ะ
LLมวดำ: ผมอยากหยุดความคิดที่ไม่ดีตางหาก
สันโดษ: ความคิดที่ฟุ้งซ่านก็เป็นช่วงนึงของการฝึก เพราะฉะนั้น ไม่ต้องเป็นกังวล เเละ อยากเป็นเหมือนใคร
LLมวดำ: แล้วจะฝึกได้ยังไงครับ
สันโดษ: ไม่ดี ก็ คือ ส่วนนึงของเรา ถ้าคุณ คิดว่า ไม่ดี คือ สิ่งที่คุณต้องทำลายเเละกำจัดทิ้ง คุณก็เข้าใจผิดมาก
สันโดษ: คุณต้องเข้าใจความคิดตัวคุณเองค่ะ
sutatip_b: มันฟุ้งซ่าน ก็ดูมันไป ม่ายงั้นก็หาอะไรทำ พอยุ่งๆ มันก็ฟุ้งไม่ออก
LLมวดำ: ยุ่งๆก็ก็ยังฟุ้งอยู่ครับ
สันโดษ: ยุคใหม่คือยุคเเห่งความรักเเละความสามัคคี เราต้องรู้จักรักเเม้เเต่ศัตรูเเละสิ่งที่ไม่ดี
สันโดษ: คนไม่ดี คิดไม่ดี ซาตาน ก็น่าสงสารนะคะ พวกเรากับเขาก็มาจากสิ่งเดียวกันนั้นละคะ เราต้องเปิดใจ
สันโดษ: เหมือนผีเปรต สัมพเวสี คนที่อยู่ในนรกเพราะทำชั่วส่งผลให้ทั้งจักรวาลค่ะ เพราะความทุกข์ของทั้งจักรวาล
sutatip_b: ไม่ต้องหยุดความคิดไม่ดี แต่ไปอยู่ในที่ๆมีความรัก ความปรารถนาดีเยอะๆ หาอะไรสนุกๆ ทำ เอาความคิดดีๆ ท่วมความคิดไม่ดี เหมือนทำให้หยดหมึกดำเจือจางด้วยน้ำสะอาดจ้ะ
สันโดษ: เพราะฉะนั้นเรามีหน้าที่ ต้องยอมรับจิตวิญญาณของเราให้ได้ดีที่สุด เป็นเพื่อนกับความเลวด้วยนะคะ อย่าทิ้งพวกเขา น่าสงสารมากค่ะ
สันโดษ: ถ้าเราเป็นซาตาน หรือ เราทุกข์ทรมานอยู่ หากมีใครยื่นมือมาช่วย ในซากปรักหักพัง หรือ ให้อาหารเรา มันก็คงดีไม่น้อยใช่ไหมค่ะ
สันโดษ: จิตไม่ต้องหาที่ฝึกค่ะ ของจริง อยู่ที่ตัวเราเอง เด็กเยอะเเยะที่เขาเกิดมาก็เป็นเอง
sutatip_b: เลิกดูหนังน้ำเน่า เลิกดูหนังคนกระชวกไส้กัน เพราะการเสพสิ่งเหล่านั้นนำกระแสลบเข้าตัว เราไม่รู้หรอกจนกว่าเราจะลองหลบออกมา หรือลองเสพให้น้อยลง
สันโดษ: ทุกคนคือจิ๊กซอว์ของเรา เราทำหน้าที่ในการเข้าใจความคิด ความต้องการเพียงเท่านั้น ถ้าจะได้เจอคนช่วยเพราะถึงเวลา ตามกำหนดการณ์เท่านั้นเองค่ะ​

 

ภาพนี้ชื่อ "กลับบ้าน" จิตรกรอายุ ๑๒ ปี

​

sutatip_b: ตอนนี้ความไม่ดีมันกลายเป็นนอร์ม คือคนไม่ดีเป็นปรกติ คนอยากดีต้องแยกไป เดี่ยวจะกลายเป็นแอปเปิ้ลเน่า ย้ายไปอยู่ตระกร้าใหม่
LLมวดำ: แล้วพี่ๆ เคยไปเขากะลาไหมครับ
สันโดษ: พี่ไม่เคยไปเขากะลาค่ะ พี่ไม่ใช่คนของเขากะลาค่ะ พี่มาเพราะมันมาของมันเอง เเละไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรต่อไปในอนาคต เพราะเรามีเเต่ปัจจุบัน
sutatip_b: ไปแล้วจ้า แต่ไม่คลิ๊กอะไร แหล่งข้อมูลของแต่ละคนอยู่ต่างที่ ตามหน้าที่ๆเขาว่าอาสามาทำ
sutatip_b: บางคนรับพลังงานได้ เขาได้รับตัวกระตุ้น แต่รุ่นปัจจุบันไม่ต้องใช้วิธีนี้ รุ่นที่พบกันตั้งแต่ สค ๕๒ ก็ที่คุณมานั่งฟังนี้แหละมารับข้อมูลโดยตรงโดยไม่ต้องรับที่เขากะลา
สันโดษ: ใช่ค่ะ พวกเรามารวมกัน เพราะอะไรไม่รู้ รู้เเค่ว่า มันมาอยู่ตรงนี้เเล้วเพียงเท่านั้นค่ะ ต่างคนมีเส้นทางการเดินทางต่างกัน เเต่จบลงที่เดียวกันเเน่นอน คือความบริสุทธิ์เเห่งจิตวิญญาณที่ไม่มีสิ่งใดปรุ่งเเต่ง เหมือนเเสงสว่างนั่นเอง
สันโดษ: พูดง่ายๆก็ คือ ช่วงนี้มาอยู่ตรงนี้ ชั่วคราวเท่านั้น
สันโดษ: พวกเรา ไม่มีอนาคต ไม่มีเเบบเเผน ไม่มีฝัน เเต่ความคิดเราอยากทำอะไรตอนนี้ พวกเรารู้ตัวเเละมีสติดีค่ะ เพราะเราอยู่กับปัจจุบัน
สันโดษ: ประสบการณ์เเต่ละคนเยอะมาก เเต่กว่าจะยอมรับตัวเองเเบบทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เเต่พอเข้าใจเเล้ว ทุกอย่างมันก็ไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรอีกเเล้ว

 

​

เรียนรู้ไปพร้อมกัน
สาส์นจากครายออน ผู้รับใช้ของระบบแม่เหล็ก

เรา ได้มาคุยกันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ (วิหารแห่งปัญญา มหาวิทยาลัยเดลฟี แม็คเคยสวิลล์ มลรัฐจอร์เจีย) วิหารนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติต่อความยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ สถานที่นี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นเกียรติแก่ความรู้จากจิตใน (intuition) ที่อยู่ภายในทุกท่าน เป็นสถานที่ที่อุทิศให้กับความรักที่มีต่อพระผู้สร้าง ต่อความรักของมนุษยชาติ และคำสอนจากใจเรื่องสันติบนโลกมนุษย์ วิหารนี้อุทิศให้กับความสงบภายใน ดังนั้นขอให้ผู้ที่ได้ยินหรือได้อ่านข้อความนี้จดจำว่าณ วิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เองเป็นที่ๆ เราเริ่มต้นกันในวันนี้...

เมื่อ ท่านได้มาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ ท่านจะตระหนักถึงพลังงานที่ส่งผ่านออกมาแม้แต่จากเก้าอี้ที่ท่านนั่งอยู่ จากกำแพง พื้นวิหาร แม้แต่ก้อนศิลาตรงหน้าท่าน (พูดกับร่างผ่าน) และพลังงานเหล่านั้นแสดงพลังและความพร้อมเพรียงในบทเพลงเดียวกัน พวกเขารู้ว่าท่านคือใคร โอว มันยากที่ท่านจะเข้าใจ

บางท่านจะรู้สี กท่วมท้นด้วยหมู่พลังงานที่เข้ามาครอบคลุมอยู่ในสถานที่นี้ โดยยังไม่ทราบถึงหมู่พลังงานอื่นที่อยู่ที่นี่เสมอมา วัตถุธาตุที่ก่อเกิดเป็นสถานที่นี้รู้ว่าท่านเป็นใคร บ้างมีอายุอันยาวนาน คัดสรรมาจากป่าที่เก่าแก่กว่าท่าน..แต่เขารู้จักท่าน... เธอเห็นไหม เธอเป็นส่วนหนึ่งของพระผู้สร้าง ของอาณาจักรพลังงาน พลังสรรสร้างดาวเคราะห์โลก เขาเห็นท่านต่างจากที่ท่านเห็นตัวท่านเอง เขาไม่เห็นตัวตนที่ท่านเห็นในกระจกเงา เขาเห็นกายในงามดุจเทพที่ยาตราเข้ามาในห้องนี้ พวกเขาสงสัยว่าเทวสภาประชุมลับอันใดที่พาท่านผู้มีบุญญาธิการอย่างท่านยาตรา มาได้ถึงที่นี่ พวกเขาขับร้องบทเพลงทิพย์ให้แก่ท่านซึ่งท่านมิอาจได้ยินได้ แต่เราได้ยินบทเพลงนั้น อา เราได้ยินเสมอ เธอไม่รู้เลยว่าแท้จริงเธอเป็นใคร..

​

 

ด้วยรัก จากจักรวาล ผ่านน้องแอน จากเขากะลา ถ่ายตอนราวทุ่มครึ่งค่ะ
​

 

มัน ได้ถูกออกแบบมาเช่นนี้ มนุษย์เอย...เพื่อให้เธอมีอิสระที่จะได้มาซึ่งคำตอบ งานของเธอผู้ที่นั่งอยู่ต่อหน้าเรา (หรือผู้อ่าน) ในขณะนี้ คือให้ถามตัวเองว่าเธอสามารถปลุกจิตวิญญาณของเธอจากการหลับไหล ให้ถึงจุดที่เธอสามารถทำลายกำแพงที่อยู่ระหว่างเธอกับพระผู้สร้างได้ นี่คือสภาวะคู่ (duality) เป็นตัวแทนจิตอิสระของมนุษยชาติ พร้อมท่จะทลายกำแพงที่มองไม่เห็นนี้บนทางเดินของการเปิดรับรู้ทางจิตวิญญาณ เมื่อกำแพงนี้ถูกทำลายลงความลับของชีวิตและคำตอบที่ว่าทำไมเธอต้องมาที่นี่ จะได้รับการเฉลย และนั่น ...เธอที่รัก... คือสิ่งที่เราจะสนทนากันในค่ำคืนนี้...

เรามาสร้างความกระจ่างกัน สักนิด ก่อนอื่น เราคือครายออน เรารู้ว่าเราอยู่ที่ไหน เรารู้ว่าอะไรปรากฏออกมาในสถานที่นี้และตระหนักในความมหัศจรรย์ของสิ่งที่ ได้เห็น ดูความบริสุทธิ์ภายใต้การชี้นำจากท่านผู้สร้างสถานที่นี้ และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณที่นี้สิ หลายชีวิตได้รับการช่วยเหลือ ณ ที่แห่งนี้ เรากำลังจะบอกท่านว่ามันคืออะไร

​

เรากำลังสนทนาต่อหน้าจิต วิญญาณอันเก่าแก่ ในห้องนี้ (และในหมู่ผู้อ่าน) ไม่มีพวกที่ลงมาเกิดครั้งแรก ทุกท่านได้เคยมาทีนี่แล้ว (ในโลกนี้) พวกท่านมีม้วนกระดาษประจำตัว (เรียก Akashic record คล้ายแฟ้มประวัติคนไข้ เก็บอยู่ในหอศักดิ์สิทธิ์ใกล้พระผู้สร้าง ผู้แปล) ที่เยิ่นยาว ในห้องนี้มีชาวลีมูเรี่ยน มีผู้ที่มาจากศาสนาศักดิ์สิทธิ์ เราเห็นชามานในห้องนี้ด้วย ในห้องนี้มีผู้เยียวยาที่ล้ำลึก มีผู้ที่ได้เยียวยาตนเองมาแล้ว และมีผู้ที่ประสงค์จะทำเช่นนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายรับรู้ว่าท่านมาที่วิหารแห่งนี้ (และมาอ่านบทความนี้) ด้วยใจสมัคร ไม่ว่าท่านจะมาจากความเชื่อใดท่านสามารถจะเดินออกไปจากห้องนี้ (หรือจากกระทู้นี้) ด้วยสภาวะที่แตกต่างจากเมื่อท่านก้าวเข้ามา พวกท่านได้สร้างภาวะนี้ขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกันในเวลาเดียวกันโดยตัวท่านเอง เราจึงมา ณ ที่นี่ เราจึงขอแจ้งแก่ท่านว่า ขอให้ท่านได้คำตอบในสิ่งที่ท่านเดินทางมาค้นหา คำถามที่อยู่ที่ริมฝีปากของท่านจะได้รับคำตอบ ล้วนเป็นคำถามส่วนตัวที่ล้วนมีความเฉพาะสำหรับท่านและหนทางเดินของท่าน ขณะนี้เป็นเวลาที่ท่านจะได้คำตอบ มันเป็นเวลาที่ดีจริงๆ สำหรับการเยียวยาจิตวิญญาณ ไม่มีเวลาใดที่ดีกว่าเวลานี้ ท่านมาได้ถูกที่แล้ว

 

มี ชนมากมายบนโลกที่กำลังพลิกตัวตื่น ขอให้ทุกท่านทราบตรงกัน ถึงท่านจะเป็นจิตวิญญาณที่เก่าแก่ แต่บางท่านในห้องนี้ก็เพิ่งค้นพบการตื่นเข้าสู่พลังงานที่สูงกว่าเดิม (grander God อาจหมายถึง prime Creator หรือพระผู้สร้าง) หลายท่านจะสัมผัสได้จริงๆ เขารู้ว่าพวกเขาได้เคยเป็นจิตวิญญาณ แต่มาที่นี่ในชีวิตใหม่ไม่เคยได้ยินอะไรดังที่เราสนทนากันในวันนี้ เรามีภาพรวม และเรารู้ว่าท่านเป็นใคร ทุกครั้งที่ท่านมาสู่โลกท่านจะได้ศึกษาว่าสิ่งลึกลับต่างๆ เป็นหนทางของท่านใช่หรือไม่ หลายท่านดูจะเกิดมาเพื่อพิจารณาสิ่งที่อธิบายไม่ได้ ตั้งแต่เยาว์วัยท่านปฏิเสธสิ่งที่ท่านได้รับที่ครอบครัวยึดถือทางจิตวิญญาณ หรือปฏิเสธวิถีของความเป็นไปของสิ่งต่างๆ (พวกความคิดกบถ ผู้เขียน) และท่านก็แสวงหาหนทางของตนเอง บ้างก็แสวงหาจนถึงกับสูญเสียความรักของครอบครัวไป

ท่านเห็นไหม เรารู้ว่าใครอยู่ในห้องนี้ และใครได้อ่านบทความนี้ ไม่คิดหรือว่าเราได้เดินทางกับท่านแล้วในอดีต ท่านไม่คิดหรือว่ามีเทวดาอยู่ใกล้ท่านเมื่อเกิดความวุ่นวายและสับสนต่างๆ ท่านไม่คิดหรือว่ามีใครเห็นน้ำตาของท่าน ท่านไม่คิดหรือว่าเราอยู่ตรงนั้นเมื่อครั้งท่านร้องขอความช่วยเหลือ โอ..เราอยู่ตรงนั้น เรารู้ว่าวันนี้ใครมาที่นี่ (หรือมาอ่าน)

มนุษย์ โลกตื่นขึ้นต่างเวลากันและในวิถีที่ต่างกัน จิตวิญญาณโบราณบนดาวเคราะห์ดวงนี้เริ่มตื่นเป้นจำนวนมากในระยะนี้เนื่องจาก การขยับตัวเข้าสู่สภาวะพลังงานละเอียดที่เราได้อธิบายผ่านคุณลี (เจ้าของร่าง) มากว่าสองศวรรษแล้ว แต่หลายคนในจำนวนนั้นไม่ทราบว่าควรหันไปหาใครหรือต้องทำอะไร เขาเหล่านั้นตื่นเต้นและถามอย่างกระหายใคร่รู้ว่า ข้อมูล (หรือวิชชา)เบื่องต้นอยู่ที่ไหน ความรู้อยู่ที่ไหน ผมจะไปเร็วกว่านี้ได้อย่างไร ดิฉันควรไปตั้งต้นที่ไหน

เราได้ให้ ข้อมูลกับลีมาเป็นเวลา ๑๘ ปีแล้ว ในวิถีเหมือนที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าคุณนี้ ลีจะนั่งต่อหน้ากลุ่มคนและเอื้อนเอ่ยวาจาที่เป็นข้อความสื่อสารของเรา แปลเสร็จเป็นภาษาของลีเพื่อที่เขาจะได้สบายขึ้นและท่านทั้งหลายจะได้รับทราบ ได้ นี่คือคำของเรา ครายออน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้ครอบคลุมเนื่อหามากมาย มีทั้งเนื้อหาช้อมูลแก่นและข้อมูลจบการศึกษามากมายปะปนกันไป ตามสภาวะของกลุ่มชนที่มาพบลีในโอกาสนั้นๆ แต่สำหรับท่านที่เพิ่งตื่นในการขยับตัวของโลกครั้งนี้ไม่มีคำนำ ไม่ต้องพึ่งบทที่ ๑ ที่ไหน ไม่มีวิชาที่ควรศึกษาก่อน ..... การถ่ายทอดในคืนนี้คือข้อมูลแก่น (core information) บทที่ ๑ พาผู้อ่านไปยังจุดตั้งต้นของพลังงานใหม่และสิ่งต่างๆ ที่มาถึงในเวลาเดียวกัน นี่คือจุดเริ่มต้น วาระนี้คือจุดที่มนุษยชาติจะมาค้นพบสมมติฐาน บางท่านก็ต้องการความรู้นี้เพื่อการทบทวน และในคืนนี้ท่านจะได้ความรู้ใหม่ที่ท่านไม่เคยได้พบมาก่อน
​

 

​

การ ผ่านร่างมาในวันนี้จึงเป็นแก่นของข้อมูล บทที่ ๑ ที่พาผู้อ่านไปสู่จุดเริ่มต้นของพลังงานใหม่และทุกสิ่งที่ไปด้วยกัน นี่คือจุดเริ่มต้น นี่คือที่ๆ มนุษยชาติจะมาพบหลักฐาน นี่คือสิ่งที่บางท่านต้องการเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำเพราะจะมีการเสนอข้อมูล บางส่วนที่ท่านไม่ทราบมาก่อนในคืนนี้

การรู้เท่าทันจิตวิญญาณของตนเอง

ความจริง พื้นฐานแห่งความเชื่อและการกระทำ

ก่อน ที่เราจะให้ความรู้อะไรต้องเริ่มถามกันก่อนว่า "อะไรคือความจริง" ในความเป็นจริงของท่านซึ่อยู่ในภาวะสามมิติ ท่านจะมีกำแพงความคิดซึ่งต้องเป็นไปเช่นนี้ๆทั้งในคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เมื่อท่านเริ่มสลายกำแพงลงและเข้าสู่ระบบของภาวะระหว่างมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจิตวิญญาณ กฏต่างๆทั้งหมดของความเป็นจริงจะเปลี่ยนไป ดังนั้นสิ่งที่เราจะบอกท่านอาจขัดกับความรู้สึกของบางท่าน เพราะท่านจะเริ่มตัดสินข้อความในสามมิติแทนการตัดสินโดยหลากมิติ เป็นเพราะความคิดของท่านทำงานเช่นนั้นมาโดยตลอด

ความจริงเป็นสิ่ง สัมพัทธ์กับเส้นทางของท่าน และมีความจริงมากกว่าหนึ่ง หลายคนคงจะตะโกนว่า "ครายออน เราไม่ชอบข้อความอย่างนี้เลย ความจริงต้องมีหนึ่งเดียวสิ เพราะความจริงจะเป็นหนทางให้มนุษยชาติผู้แสวงหาได้พบพระผู้เป็นเจ้า (God) ดังนั้นมันจะต้องมีความจริงเพียงหนึ่งเดียว และมีพระผู้เป็นเจ้าเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น " คำถามคือ พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวแปลว่ามีความจริงเพียงหนึ่งหรือ หรือว่าใครๆ ก็สามารถเห็นถนนหลายสายที่พาไปที่พระผู้สร้างองค์เดียวกันได้ เมื่อท่านได้ก้าวล่วงความตายไปสู่อีกด้านหนึ่งอย่าตกใจที่ท่านจะพบคนอื่นๆ ที่ไม่ได้นับถือศาสนาเดียวกับท่าน ตามจริงแล้วมีความจริงอยู่มากมาย ด้วยเจตนารมย์ที่งดงามความจริงเหล่านั้นล้วนพาทุกคนไปสู่พระผู้สร้างและครอบครัวของพระองค์

 

สำหรับ ท่านที่ต้องการความจริงเพียงหนึ่งเท่านั้น เราจะมอบความจริงนั้นให้แก่ท่าน เป็นความจริงที่เป็นสากล เป็นแก่นความจริง ความจริงที่ว่าในศูนย์กลางของทุกอะตอมในห้วงจักรวาลของท่าน ท่านจะพบความรักของพระผู้สร้างอย่างมีความหมายเฉพาะเป็นส่วนตัว (personal way) นี้คือพลังงานแกน นี้คือสัจธรรมความจริง เมื่อได้ยินดังนี้ ท่านอาจกล่าวว่า "แหม ฟังแล้วไพเราะดูดีหรอก" เราจะบอกว่า "โอ้ เราไม่ได้พูดเรื่องดูไพเราะดี เราพูดเรื่องฟิสิกส์นะ ที่ใจกลางทุกอะตอมมีพลังงานที่ทำให้ทุกอย่างทำงาน และเมื่อท่านปลดพลังงานจากพระผู้สร้างออกไปทุกอย่างจะพังทลาย" ท่านจะบอกว่ามันมีช่องว่างระหว่างอีเล็คตรอนและนิวเคลียสที่รักษาให้ ทุกอย่างเคลื่อนที่และอยู่ห่างกันต่างหาก ตามจริงมันมีอะไรอยู่ในนั้นมากกว่าที่คุณจะสามารถวัดได้ มากกว่าที่คุณจะรับรู้ได้ มันเป็นฟิสิกส์เบื้องต้น และมันคือความรักของพระผู้สร้าง นี้คือแก่นความจริง นักวิทยาศาสตร์เกือบจะเข้าถึงความจริงอันนี้แล้ว พวกเขาจะเรียกมันโดยชื่ออื่น แต่จะมีการตระหนักรู้ว่ามีพลังงานอันชาญฉลาดขับเคลื่อนสรรพสิ่งอยู่ตลอด

นิยาม ของความจริง คือภาวะที่หัวใจของมนุษย์เป็นหนึ่งกับพระผู้สร้างและสรรสร้างการค้นพบ ( It is when a Human Being marries his heart to the passion of God and creates discovery.) มันเป็นการยอมรับการแสวงหาส่วนบุคคลโดยไม่ต้องเรียนรู้จากที่อื่นอีก (It is an acknowledgment of a personal search, if you wish, without knowing anything more.) มันเป็นการเลือกโดยเสรีที่ยินยอมแสวงหาพระผู้สร้างจากภายใน (It is a willingness, with free choice, to find out about God inside.) นั่นคือความจริง

ดังนั้นเมื่อเธอเคยแต่ได้รับฟังว่าความจริงหลายรูป แบบจากมนุษย์มากมาย แต่มนุษย์ไม่ชอบสิ่งที่ได้ยินนี้หรอก (เพราะเธอไม่เข้าใจและมองไม่ออก ผู้แปล) เธอจะกล่าวว่า "มันต้องมีความจริงแท้ มีคำสอนที่ถูกต้องเป็นจริงเพียงประการเดียว" เราก็จะกล่าวว่า "เธอยังคงเป็นมนุษย์ในสามมิติอยู่นั่นเอง เธอได้เอาภาวะเส้นตรง (linearity) ไปผูกไว้กับพระผู้สร้างแล้วก็ทำให้พระผู้สร้างของเธออยู่ในสภาวะสามมิติ ซึ่งเข้ากันได้กับประสพการณ์ในโลกมนุษย์ของเธอ เธอไม่เห็นหรือว่าเกิดการจำกัดขอบเขตเกิดขึ้น จึงเหมือนกับตัวการ์ตูนจากหนังสือการ์ตูนสองมิติกระโดดออกมาพบมนุษย์โลก ตัวการ์ตูนตกใจมากที่ได้เห็นมนุษย์ในสามมิติเป็นครั้งแรก เขากรีดร้องด้วยความหงุดหงิดและสับสน เขาไม่สามารถเผชิญกับภาวะสามมิติของมนุษย์และไม่เข้าใจมันด้วย เพราะมันเกินกว่าที่ความเข้าใจของเขามีพื้นฐานอยู่ ดังนั้นตัวการ์ตูนจึงกระโดดกลับไปในหนังสือและวาดมนุษย์แบบตัวแบนๆ เธอเลยกลายเป็นภาพเรนเดอร์สองมิติเนื่องจากผู้สังเกตการณ์มีวุฒิภาวะสมอง จำกัดเพียงแค่นั้นเอง"

​

 

ในตัวเธอแต่ละคนเธอจะพบ "ครอบครัว"อยู่ภายใน ครอบครัวเป็นคณะโดยสัญชาติญานที่รวมเป็นพระผู้สร้าง ในแก่นของครอบครัวก็คือระบบเดียวกันกับระบบงานระหว่างมิติ (interdimensional workings) และมาจากความรักของพระผู้สร้าง และความเห็นอกเห็นใจของสิ่งที่เราเรียกกันว่าวิญญาณ (Spirit) ทั้งหลาย ดังนั้นความจริงของเธอก็คือสิ่งที่เธอกำลังกระทำเมื่อเธอตามความปรารถนาของ เธอเพื่อสร้างความกระจ่างให้กับชีวิต สิ่งทีมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจและจะไม่เข้าใจก็คือ ระบบนี้เองเป็นตัวเชื่อมระหว่างความจริงหลายอย่างที่เธอได้รู้มา ยากที่จะอธิบายในสามมิตินะ ที่ใดที่หนึ่งในระหว่างท่ามกลางความจริงหลายความจริงในเส้นทางแห่งการแสวงหา ของเธอคือตัวเชื่อมระหว่างความรู้ (knowledge) และซิงโครนิซิตี้ "ความบังเอิญที่มีความหมาย" (ซึ่งแปลว่าการเกิดโดยบังเอิญของเหตุการณ์สองเหตุการณ์หรือมากกว่าที่เชื่อม โยงหรือคล้ายคลึงกันในเวลาขณะเดียวกัoทำให้เกิดมีความหมายขึ้น) ทั้งหมดทำงานด้วยกันภายในศักยภาพของระบบเพื่อทำให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น ในสามมิติ มีอะไรมากกว่าที่เราเห็นกันอยู่

​

Synchronicities are people, places or events that your soul attracts into your life to help you evolve to higher consciousness or to place emphasis on something going on in your life. The more 'consciously aware' you become of how your soul manifests, the higher your frequency becomes and the faster you manifest positively. Each day your life encounters meaningful coincidences, synchronicities, that you have attracted, on other words created in the grid of your experiences in the physical. Souls create synchronicities, played out in the physical. It is why you are here. It is how our reality works.​

 

;43 มาให้กำลังใจคุณชยุต ค่ะ

แอบอ่านมานาน แต่ไม่ค่อยแสดงความเห็น


ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าตนเองมีการพัฒนาเติบโต

ทางจิตวิญญาณได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระทู้นี้

ด้วยจิงๆ บางช่วงบางตอนของชีวิต เจอบท

ทดสอบ ก็มักหาคำตอบได้จากกระทู้นี้



กระทู้นี้เป็นกระทู้สุดยอด ฮอตฮิตแห่งปีเลยจิงๆ

ขอปรบมือ ให้ค่ะ

;ปรบมือ