การเตรียมการรับมือภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ดาบจันทรา, 30 ธันวาคม 2008.

  1. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    ทำไมผู้เขียนถึงกล่าวเสมอว่า คนเราประกอบอาชีพ
    เพียงอาชีพเดียว ให้เป็นอาชีพหลักที่เรามีความรู้
    ความสามารถ ความถนัด ความเชี่ยวชาญเฉพาะตน
    ก็สามารถทำมาหากินได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องไป
    ปลูกผัก ทำนา หรือเลี้ยงสัตว์ก็ได้ ถ้าคุณเล่าเรียน
    มาทางไหน พื้นฐานคุณมีอย่างไร ก็สามารถก่อให้
    เกิดเป็นรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
    ดังบทกลอนส่วนหนึ่งของพระยาศรีสุนทรโวหาร
    (น้อย อาจารยางกูร) ที่ว่า

    อย่าเกียจคร้านการเรียนเร่งอุตส่าห์
    มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน
    จะตกถิ่นฐานใดคงไม่แคลน
    ถึงคับแค้นก็พอยังประทังตน
    อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว
    แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดคงเกิดผล
    อาจจะชักเชิดชูฟูสกนธ์
    ถึงคนจนพงศ์ไพร่คงได้ดี
     
  2. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    เอาละค่ะ ดังที่กล่าวมาตั้งแต่ต้น วิธีการทำเส้นก๋วยเตี๋ยว
    เพียงอย่างเดียวแต่สามารถแตกยอด กลายเป็นการทำมา
    หากินให้กับตนเองได้และแตกยอดกลายเป็นอาชีพของ
    ครอบครัวอื่น ๆ ไปได้อีก

    ครอบครัวที่ 1 ผลิตก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่, เส้นเล็ก และ
    ไปซื้อปลายข้าวสารจากครอบครัวที่ 2 ที่ทำนาปลูกข้าว
    หรือไม่ก็ครอบครัวที่ 1 นั่นแหละค่ะ ทำนาปลูกข้าวไว้กิน
    ไว้ขาย ขายทั้งข้าว และก็ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวไปด้วย
    ช่วยกันเองในครัวเรือน เห็นหรือยังค่ะ แค่ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว
    และสามารถแตกยอดออกไปยังครอบครัวอื่น ๆ ได้อย่างไร
     
  3. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    เอาละค่ะ จะอธิบายแบบง่าย ๆ คือ ต่างคนต่างทำมาหากิน
    แล้วกันนะค่ะ

    ครอบครัวที่ 1 - ทำนาปลูกข้าว ขายข้าวให้กับคนในชุมชน
    ครอบครัวที่ 2 - ทำเส้นก๋วยเตี๋ยว คือเส้นใหญ่ เส้นเล็ก
    ครอบครัวที่ 3 - ทำเส้นหมี่ ขนมจีน
    ครอบครัวที่ 4 - ทำเส้นบะหมี่-แผ่นเกี๊ยว
    ครอบครัวที่ 5 - ขายก๋วยเตี๋ยว-อาหารตามสั่ง
     
  4. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    ดังนั้น ครอบครัวที่ 2-3-4-5 ต่างก็ไปซื้อข้าวจาก
    ครอบครัว
    ที่ 1 ซึ่งครอบครัวที่ 1 ปลูกข้าวแบบ
    เศรษฐกิจพอเพียง
    ใช้ปุ๋ยธรรมชาติหรือปุ๋ยชีวภาพ
    ต้นทุนของปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงไม่มี
    แรงงานก็ใช้
    คนในครอบครัว
    ดังนั้นต้นทุนต่ำ สามารถขายข้าว
    ได้ต่ำกว่าราคาตลาดนิดหน่อย ก็ไม่ขาดทุน

    ผลิตออกมาแล้ว ก็มีตลาดรับซื้อคือทุกคนในชุมชน
    ต่างมาซื้อข้าวที่ตนเอง
    ไว้กินในครอบครัว และนำไป
    ประกอบอาชีพ ไม่จำเป็นต้องให้รัฐบาลรับประกัน
    ราคาข้าว ตนเองก็สามารถขายข้าวได้สบาย ๆ
    ถ้าขยันหน่อย ก็ขยับขยายเป็น
    ธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น
    แทนที่จะทำเป็น
    SME เล็ก ๆ เอาไว้ค่อยขยายความ
    ในตอนต่อไป
    สำหรับตอนนี้ เราทำกันแบบพอเพียงกันก่อนนะค่ะ
     
  5. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    เมื่อครอบครัวที่ 2 ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว ก็ไปซื้อข้าวสาร
    มา
    โม่แล้ว ทำแบบง่าย ๆ แบบชาวบ้านนี่แหละค่ะ
    ใช้โม่หิน
    และกระด้งตากแผ่นก๋วยเตี๋ยว ทำไมผู้เขียน
    ถึงแนะวิธีนี้
    มีประโยชน์อย่างไร

    1. ไม่ต้องลงทุนมาก เพราะถ้าเริ่มแรก เราไปลงทุน
    ซื้อเครื่องมือ เครื่องจักร
    จำเป็นต้องใช้เงินทุนสูง
    แต่ถ้าเราใช้ของที่มีอยู่ในครัวของเรา ก็แทบไม่ต้อง
    ซื้อหา
    ไว้ธุรกิจเติบโต ค่อยขยับขยายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 ธันวาคม 2011
  6. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    2. เป็นการแสดงถึงวิถีของชาวบ้านแบบ
    เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเอื้อต่อการ


    - สร้างความรู้ให้แก่เด็กและบุคคลทั่วไป เท่ากับเรา
    เป็นครูของชุมชน
    ในการสร้างเด็กให้เรียนรู้กับของจริง
    โดยไม่จำเป็นต้องจ้างวิทยากรจากที่ใดเลย


    - เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงความรู้ให้กับคนในประเทศ
    และชาวต่างชาติ ที่จะได้มา
    พบเห็นวิถีการดำเนินชีวิต
    แบบพอเพียง อยู่อย่างธรรมชาติ โดยไม่เบียดเบียน

    และทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เพิ่มรายได้ของ
    การท่องเที่ยวให้กับชุมชนนั้น ๆ และของประเทศชาติอีกด้วย
     
  7. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    3. สร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัว ในเมื่อครอบครัว
    มีอาชีพเป็นของตนเองแล้ว
    ทุกคนในครอบครัว
    ต่างลงมือช่วยกันทำมาหากิน ก็ไม่จำเป็นต้องไป
    แสวงหา
    งานต่างถิ่น พ่อแม่พี่น้องลูกเต้าอยู่กัน
    พร้อมหน้าพร้อมตา มีเวลาดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
    ลดปัญหาเด็กถูกทอดทิ้งให้อยู่กับคนแก่ หรือ
    เด็กใจแตก
    ที่พ่อแม่เอาแต่ทำงาน ไม่มีเวลาดูแลอบรมลูก
     
  8. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    เมื่อครอบครัวที่ 2 ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว ก็นำส่งไปขาย
    ให้กับครอบครัวที่ 5
    ซึ่งขายก๋วยเตี๋ยว เส้นก๋วยเตี๋ยว
    ที่ผลิตได้ ถ้ามากเกินไป ก็ตากแห้งหรือ
    จะอบแห้ง
    ซึ่งจะเก็บไว้ได้นาน สามารถส่งขายไปที่ต่าง ๆ ได้อีก


    การผลิตเส้นใหญ่ จำเป็นต้องใช้น้ำมัน (ทานได้)
    มาทา กันเส้นติดกัน
    ดังนั้นก็จะมีครอบครัวที่ 6
    ที่ผลิตน้ำมันออกมาขาย อาจะเป็นน้ำมันหมู,

    ไก่, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันถั่ว, ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งก่อ
    ให้เกิดรายได้และ
    อาชีพให้กับครอบครัวที่ 6 ขึ้นมา
     
  9. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    ครอบครัวที่ 3 ผลิตเส้นหมี่, เส้นขนมจีน วัตถุดิบ
    และวัสดุในการผลิต
    ใช้แบบเดียวกัน แทนที่จะทำ
    เส้นหมี่ขายอย่างเดียว เราก็ทำการเจาะรู
    ให้มี
    ขนาดใหญ่ ไว้ทำเส้นขนมจีน ขายได้อีก ผลผลิต
    อย่างเดียวกัน
    แต่แตก line ได้ถึง 2 อย่าง
    ถ้าผลิตออกมามาก ก็ตากแห้ง อบแห้ง
    ส่งขาย
    ตามที่ต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกัน
     
  10. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    ครอบครัวที่ 4 ผลิตเส้นบะหมี่ แผ่นเกี๊ยว ซึ่งวัตถุดิบ
    ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ
    ไข่ ผู้เขียนแนะนำว่าให้
    ใช้ไข่เป็ดจะดีกว่าไข่ไก่นะค่ะ แต่ถ้าไม่มี
    ใช้ไข่ไก่ก็ได้
    ทีนี้เราก็ต้องไปซื้อไข่จากครอบครัวที่ 7 ซึ่งเลี้ยงไก่
    หรือเลี้ยงเป็ด
    ขาย ซึ่งก็ทำให้ืครอบครัวที่ 7 มีรายได้
    มีอาชีพเพิ่มขึ้นอีกครอบครัวหนึ่ง

    และถ้าทำเป็นหมี่หยก เกี๊ยวหยก ซึ่งมีส่วนผสม คือ
    ผักคะน้า
    ก็ต้องไปซื้อกับครอบครัวที่ 8 ซึ่งปลูกผัก
    คะน้าไว้ขายด้วย กินด้วย
    ทีนี้ครอบครัวที่ 8 ก็มีรายได้
    มีอาชีพเพิ่มขึ้นอีกครอบครัว
    หนึ่งเช่นกัน
     
  11. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    ยกตัวอย่างแค่เส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียว แต่สามารถ
    แตก
    line ในการทำอาชีพได้ถึง 8 อย่างแล้วตอนนี้
    แต่วัตถุดิบในการทำก๋วยเตี๋ยว
    ไม่ใช่มีเพียงแค่นี้ เช่น

    ถั่วงอก - ครอบครัวที่ 9 เอาไปผลิต โดยไปซื้อกับ
    ครอบครัวที่ 10

    ปลูกถั่วเขียว – ครอบครัวที่ 10
    น้ำปลา - ครอบครัวที่ 11
    เลี้ยงปลา - ครอบครัวที่ 12
    ฯลฯ อีกมากมาย
     
  12. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    นึกภาพออกหรือยังค่ะ ว่าอาชีพของคน ๆ เดียว
    สามารถสร้าง
    รายได้ให้กับครอบครัวแต่ละครอบครัว
    ในชุมชนได้อย่างไร แต่นั่นหมายถึง
    ครอบครัวนั้น ๆ
    ต้องมีความตั้งใจในการทำงานและประกอบอาชีพด้วย
    ความรู้ทุกอย่าง สามารถเรียนรู้และฝึกฝนกันได้
    พรสรรค์อย่างเดียวไม่พอ
    จะต้องมีพรแสวงด้วย
    การเรียนรู้ ลองผิดลองถูก จะทำให้คุณ เกิดความ
    ชำนาญ จนในที่สุดก็ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในอาชีพนั้น ๆ
    สาขานั้น ๆ ได้เลยค่ะ
    ทีนี้คุณจะเข้าใจได้เลยว่า
    1 ตำบล 108 อาชีพเกิดขึ้นได้อย่างไร
     
  13. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    ชอบมากเลย เป็นแฟนคลับเข้ามาตามอ่านเรื่อยๆ ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
     
  14. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    เมื่อแต่ละคน แต่ละครอบครัว ประกอบอาชีพในแบบ
    ที่ตนเองเลือกแล้วว่า
    อาชีพที่ตนทำ สามารถสอดคล้อง
    และประสานกับความต้องการของคนในชุมชน

    จึงตัดปัญหาได้เลยว่า ผลิตออกมาแล้ว จะขายใคร
    เพราะอย่างน้อย ๆ คุณก็ขาย
    ให้แก่คนในชุมชน
    ของคุณเอง ซึ่งเป็นผลดีด้วยซ้ำ เพราะคนในชุมชน
    จะได้ช่วยกัน
    ติชมสินค้าที่ผลิตขึ้นมาแล้วนั้น มีคุณภาพ
    เป็นอย่างไรบ้าง ต้องปรับปรุงหรือ
    เพิ่มเติมตรงไหน
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ไม่เคยขายของ อาย
    ไม่กล้าขาย
    ก็สามารถขายของที่ตนเองทำได้
    โดยไม่กระดากอาย
     
  15. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    เพราะคนที่ซื้อ ก็คือ พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาพรรคพวก
    เพื่อนฝูงของคุณนั่นเอง เริ่มจากบทเรียนขั้นนี้แล้ว
    คุณก็จะกล้าขายของมากขึ้น กล้าเปิดตลาดมากขึ้น
    โดยเฉพาะถ้าสินค้าที่คุณผลิตมีคุณภาพดี
    ราคาที่
    เหมาะสมแล้วละก็ ผู้ซื้อจะวิ่งเข้าหาคุณเองด้วยซ้ำ
    เรียกได้ว่า
    ทำอยู่กับบ้านเฉย ๆ การขายหรือการตลาด
    มีคนมารับไปจัดการเองทั้งสิ้น
     
  16. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    เหตุผลในการให้ประกอบอาชีพเพียงอาชีพเดียว

    1) อาชีพเดียว เพียงพอแล้วกับการทำกินแบบพอเพียง
    ดังตัวอย่างข้างต้นที่กล่าวมา การทำหลาย ๆ อาชีพ
    ในครอบครัวเดียว ที่กำลังเริ่มต้นประกอบ
    กิจการนั้น
    จะทำให้ต้องลงทุนสูง ซึ่งไม่ใช่หลักการทำมาหากินแบบพอเพียง


    2) ป้องกันปัญหาการชิงดีชิงเด่นกันของคนในชุมชน
    ดังจะเห็นได้จากความล้มเหลว
    ในการตั้งกลุ่มผลิต
    สินค้าของชุมชนบางชุมชน
    เพราะคนเรา เมื่อรวมกลุ่ม
    กันมาก ๆ
    ถ้าประสานสอดคล้อง มีความสามัคคีกัน
    ในกลุ่ม ร่วมมือร่วมใจในการผลิต
    สินค้าออกมา ก็จะ
    ทำให้ประสบผลสำเร็จได้
     
  17. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    แต่โดยพื้นฐานของคนเรานั้น ความอิจฉาริษยา
    เป็นกิเลสที่ฝังตัวอยู่ คนนั้นขยันทำงาน มาทำงาน
    ทุกวัน
    แต่อีกคนทำบ้าง อู้บ้าง แต่เมื่อผลผลิตออกมา
    ขายได้แล้ว ผลตอบแทน
    เอามาแบ่งเท่า ๆ กัน
    ทำให้คนที่ทำงานมากกว่า มีความรู้สึกว่าไม่ได้รับ
    ความเป็นธรรม เกิดการเบื่อหน่าย และในที่สุดก็ออกไป
    เมื่อไม่มีคนทำงาน
    กลุ่มนั้น ๆ ก็ต้องล้มเลิกไป
    แต่ถ้าผู้นำกลุ่มมีความยุติธรรม บริหารจัดการ
    คนและ
    การทำงานที่ดี ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป และทำงาน
    ต่อไปได้อย่างราบรื่น
     
  18. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    3) พื้นฐานของแต่ละคนไม่เท่ากัน พื้นฐานในที่นี้
    หมายถึง
    รายได้ ครอบครัวแต่ละครอบครัว
    มีความต้องการรายได้ไม่เท่ากัน
    ดังนั้น ถ้าแต่ละ
    ครอบครัว ประกอบอาชีพของตน ก็จะทำให้
    การทำงาน
    สอดคล้องกับรายได้ และครอบคลุม
    ไปยังค่าใช้จ่ายที่ตนเองต้องรับผิดชอบ


    เช่น ครอบครัว ก. อยู่กันเพียงสองคนสามี-ภรรยา
    ไม่มีลูก
    ความรับผิดชอบในเรื่องของค่าใช้จ่าย
    ก็ไม่สูงมากนัก อย่างน้อย ๆ
    มีพอจ่าย ค่าน้ำ
    ค่าไฟ ค่ากับข้าว และมีเงินบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ
    ก็
    พอเลี้ยงตนเองได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ธันวาคม 2011
  19. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    แต่ในทางกลับกัน ครอบครัว ข. มีกันอยู่ 5 คน คือ
    พ่อ-แม่-ลูก2 คน กำลังอยู่ในวัยเรียนทั้งคู่
    – ตา-ยาย
    ซึ่งครอบครัวนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ-
    ค่ากับข้าวของ 5 ชีวิต – ค่าการศึกษาเล่าเรียนของ
    บุตร – ค่ารักษา
    พยาบาลคนชราในบ้าน เป็นต้น
    ซึ่งแน่นอนจะต้องหารายได้เข้ามามากกว่า

    ครอบครัว ก. หลายเท่านัก ดังนั้น เมื่อต่างฝ่าย
    ต่างผลิตสินค้าออกมา
    ครอบครัว ก. มีแค่ 2 คน
    ก็ผลิตออกมาขาย มีรายได้เดือนละ
    10,000 บาท
    ก็เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว แถมมีเงินเหลืออีกด้วยซ้ำ
     
  20. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    ส่วนครอบครัว ข. มีทั้งหมด 5 คน แรงงานคนใน
    ครอบครัวมีมาก
    และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายมาก
    ก็อาจจะต้องผลิตสินค้าให้มีมากกว่าครอบครัว ก.
    สมมุตว่าให้มี
    รายได้ได้เดือนละ 20,000 บาท ซึ่ง
    ไม่มีปัญหา ถ้าทุกคนในครอบครัว ร่วมมือร่วมใจกัน
    ทำงาน คนไหนทำอะไรได้ ก็ทำงานไป ตามศักยภาพ
    ของตน ทำให้ลดช่องว่างในเรื่องของรายได้และ
    ความเลื่อมล้ำทางสังคมของแต่ละครอบครัวได้
    เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ดีกันว่า ครอบครัวของแต่ละคน
    มีความจำเป็นมากน้อยอย่างใด ซึ่งอาจจะทำให้เกิด
    การพึ่งพาอาศัยและความเห็นอกเห็นใจระหว่างกัน
    เมื่อทุกคนคิดบวก ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะหมดไป

     

แชร์หน้านี้

Loading...