การมีองค์...ดี..หรือ...ไม่ดีอย่างไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย tona2511, 1 พฤษภาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30
    ก็พูดถูกไง ถ้าขันธ์ 5 อยู่กับตัว ทุกสิ่งย่อมเกิดดับ ๆ แต่ถ้าไปอยู่ในรูปขันธ์(สอ่งของ)แล้วจะเกิดดับได้ไง สิ่งของที่นำมาประกอบนั้นจะบอกว่าไม่พังเสียก็ไม่ใช่ แต่เค้าทำใหม่ทุกปีมันจะทันพังได้ไงเล่าจ๊ะ
    แล้วขันธ์เป็นสิ่งของ มีตา หู จมูก ปาก กายรู้สึกหรือ มีสมองคิดเป็นหรือจ๊ะ
    ดังนั้นที่ว่า "ขันธ์อยู่เฉย ๆ ไม่พูด ไม่ฟัง ไม่คิด ก็ย่อมรักษาศีลบริสุทธิ์ได้" ก็น่าจะถูกต้องแล้วนี่ มันไม่มีสัมผัสทั้งหลายจะไม่อยู่เฉย ๆ ได้ไงจ๊ะ (หรือคิดว่าของมันเดินได้เอง โอวอันนั้นน่ากลัวมิใช่น้อย)
    เรื่องการ กราบไหว้ตนเอง ผมว่าต้องเป็นเรื่องดีแน่นอน ถ้าไม่มีขันธ์แล้วจะกราบไหว้ตัวเองยังไงจ๊ะ ฝึกโยคะจนหมุนตัวมากราบได้เหรอจ๊ะ
    การที่คุณอ้างว่าพระพุทธองค์ทรงสั่งสอนดังกล่าวนั้นอาจถูก(ก็ผมไม่เคยฟังจากปากท่านก็เลยไม่รู้ว่าที่คุณสมอ้างนั้นถูกอ๊ะป่าว) แต่ที่ยกมาอ้างนั้นผิดจ๊ะ
    เวลาจะอ้างอิงข้อความของคนอื่นมาตอบน่ะ กรุณาอ่านให้ละเอียดถี่ถ้วน ใช้พิจารณามหาพิจารณาแล้วก็จะเข้าใจนะจ๊ะ ไม่งั้นเถียงอาจจะตกคูได้จ๊ะ
     
  2. PaiSol

    PaiSol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +48
    จัยเย็นท่านเอ๋ย ท่านก็รู้จริงนี่ อย่าไปบอกเขามาก เดี๋ยวเขาไม่หาคำตอบเอง เดี๋ยวจะหมดคำถามกันพอดี แต่ชอบจัยเรื่อง ขันธ์ จริง ขันพัง เพิ่งรู้เหมือนกัน ที่เขาให้เปลี่ยนทุกปีเพราะมันจะพังนี้เอง 555+
    เอาเป็นว่า ผมให้กำลังจัยต่อสู้กับพวกที่มีอวิชาละกัน 55+
     
  3. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    ขันธ์ที่จะรับนั้นต้องเป็นขันธ์ 5 เท่านั้นเปรียบเสมือนตัวของเราที่ไม่สามารถกราบไหว้ตัวเองได้น่ะ ขันธ์ 5 ก็คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    1 การได้กราบไหว้ขันธ์ของตนก็ย่อมดี
    2 ขันธ์นั้นจะรักษาศีลบริสุทธิ์ให้กับเราได้ เพราะลำพังตัวเราเองย่อมรักษาศีลบริสุทธิ์ไว้ไม่ได้ แต่ขันธ์อยู่เฉย ๆ ไม่พูด ไม่ฟัง ไม่คิด ก็ย่อมรักษาศีลบริสุทธิ์ได้จ้า
    การรับขันธ์มาถ้าไม่รู้ว่าคืออะไรก็ไม่ต้องรับนะจ๊ะ เพราะไม่มีประโยชน์ ขันธ์ไม่ใช่ที่อยู่ของเทพ เพราะที่เล็กขนาดนั้นเทพจะมาอยู่ทำอะไร ช่ายมะ.. นอนอยู่วิมานดีก่า ใหญ่กว่าสบายกว่าตั้งเยอะนะจ๊ะ
    สำหรับพระรัตนตรัยนั้นไม่ใช่ขันธ์นะจ๊ะ
    พระรัตนตรัย ประกอบไปด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้นนะจ๊ะ เข้าใจให้ถูก ๆ กันหน่อย
    พระพุทธเจ้าไม่ได้สั่งสอนให้นับถือในตัวตนของพระองค์นะ ทรงสอนให้นับถือและปฎิบัติตามคำสั่งสอน ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับพิจารณาของแต่ละคนนะจ๊ะ ว่าคิดได้ถึงแค่ไหน
    และท่านไม่ทรงสอนให้เชื่อ ถ้าไม่ได้พิสูจน์ด้วยจ้า ฉะนั้นคนที่ชอบพูดว่านั่นไม่จริง นี่ไม่จริง อันที่จริงก็แค่มีความยึดมั่นถือมั่นนั่นเอง..
    ถ้าไม่เคยเจอกับตัวแล้ว ทำไมต้องคิดว่าคนอื่นไม่มีทางจะเจอได้ล่ะจ๊ะ
    พระพุทธเจ้าท่านเข้าสู่ปรินิพพานแล้ว ท่านที่ว่าเคยเจอแล้วหรือยังจ๊ะ ถึงได้กล้าพูดว่าสิ่งนั้นเป็นจริง.. สิ่งนั้นไม่จริง ไม่ใช่อาจจะเกิดจากการบำเพ็ญไม่พอก็ได้นะจ๊ะ
    ทำไมไม่พิจารณาว่าเรายังบำเพ็ญไม่พอ บุญไม่ถึงบ้างล่ะ จะบำเพ็ญต่อไปล่ะ
    พอพูดอย่างนี้ก็มีคนนั่งไม่ติดหลายคนทีเดียวเชียว นั่นแหละ ยังบำเพ็ญไม่พอนะจ๊ะ จิตยังรับความจริงไม่ได้ก็ต้องว่ากลับทันทีเลยนะจ๊ะ 555 ตามจิตเข้านะจ๊ะ

    ที่พูดมานี่เราก็ยังบำเพ็ญไม่พอนะจ๊ะ... 555<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โอม คเนศายะ นะมะ นะโมพุทธายะ<!-- google_ad_section_end -->
    ก็พูดถูกไง ถ้าขันธ์ 5 อยู่กับตัว ทุกสิ่งย่อมเกิดดับ ๆ แต่ถ้าไปอยู่ในรูปขันธ์(สอ่งของ)แล้วจะเกิดดับได้ไง สิ่งของที่นำมาประกอบนั้นจะบอกว่าไม่พังเสียก็ไม่ใช่ แต่เค้าทำใหม่ทุกปีมันจะทันพังได้ไงเล่าจ๊ะ
    แล้วขันธ์เป็นสิ่งของ มีตา หู จมูก ปาก กายรู้สึกหรือ มีสมองคิดเป็นหรือจ๊ะ
    ดังนั้นที่ว่า "ขันธ์อยู่เฉย ๆ ไม่พูด ไม่ฟัง ไม่คิด ก็ย่อมรักษาศีลบริสุทธิ์ได้" ก็น่าจะถูกต้องแล้วนี่ มันไม่มีสัมผัสทั้งหลายจะไม่อยู่เฉย ๆ ได้ไงจ๊ะ (หรือคิดว่าของมันเดินได้เอง โอวอันนั้นน่ากลัวมิใช่น้อย)
    เรื่องการ กราบไหว้ตนเอง ผมว่าต้องเป็นเรื่องดีแน่นอน ถ้าไม่มีขันธ์แล้วจะกราบไหว้ตัวเองยังไงจ๊ะ ฝึกโยคะจนหมุนตัวมากราบได้เหรอจ๊ะ
    การที่คุณอ้างว่าพระพุทธองค์ทรงสั่งสอนดังกล่าวนั้นอาจถูก(ก็ผมไม่เคยฟังจากปากท่านก็เลยไม่รู้ว่าที่คุณสมอ้างนั้นถูกอ๊ะป่าว) แต่ที่ยกมาอ้างนั้นผิดจ๊ะ
    เวลาจะอ้างอิงข้อความของคนอื่นมาตอบน่ะ กรุณาอ่านให้ละเอียดถี่ถ้วน ใช้พิจารณามหาพิจารณาแล้วก็จะเข้าใจนะจ๊ะ ไม่งั้นเถียงอาจจะตกคูได้จ๊ะ<!-- google_ad_section_end --> __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โอม คเนศายะ นะมะ นะโมพุทธายะ<!-- google_ad_section_end -->


    ผมก็ว่าใช้พิจารณามหาพิจารณาแล้วนะ หรือยังไม่ฉลาดพอหนอเรา อย่าว่าผมเลยนะ

    เอาละ ลองพิจารณาดู ดังต่อไปนี้

    ตอนแรกบอกว่า "ขันธ์ที่จะรับนั้นต้องเป็นขันธ์ 5 เท่านั้นเปรียบเสมือนตัวของเราที่ไม่สามารถกราบไหว้ตัวเองได้น่ะ ขันธ์ 5 ก็คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ"

    ตอนหลังบอกว่า"พูดถูกไง ถ้าขันธ์ 5 อยู่กับตัว ทุกสิ่งย่อมเกิดดับ ๆ แต่ถ้าไปอยู่ในรูปขันธ์(สอ่งของ)แล้วจะเกิดดับได้ไง สิ่งของที่นำมาประกอบนั้นจะบอกว่าไม่พังเสียก็ไม่ใช่ แต่เค้าทำใหม่ทุกปีมันจะทันพังได้ไงเล่าจ๊ะ แล้วขันธ์เป็นสิ่งของ มีตา หู จมูก ปาก กายรู้สึกหรือ มีสมองคิดเป็นหรือจ๊ะ"

    ขันธ์ของคุณ ganesh ตอนแรก กับ ตอนหลัง ไม่เหมือนกันเสียแล้ว ทำไม่ถึงเป็นอย่างนี้?
    ขันธ์ตอนแรกของคุณ ก็ตรงกับเราชาวพุทธ แต่เจ้าขันธ์ตอนหลังของคุณ เราชาวพุทธเรียกว่า สฬายตนะ หรือ เครื่องรับ ครับ ทั้งหมดมี ตา หู จมูก ลิ้น(ไม่ใช่ปากนะ) กาย ใจ(มิใช่สมอง) โดยตาใช้รับรูป หูใช้รับเสียง อย่างนี้เป็นต้นครับ ผมว่าแล้วตะงิด ๆ ยังงัยชอบกล

    ที่กล่าวว่า "มีสมองคิดเป็นหรือจ๊ะ ดังนั้นที่ว่า "ขันธ์อยู่เฉย ๆ ไม่พูด ไม่ฟัง ไม่คิด ก็ย่อมรักษาศีลบริสุทธิ์ได้" ก็น่าจะถูกต้องแล้วนี่ มันไม่มีสัมผัสทั้งหลายจะไม่อยู่เฉย ๆ ได้ไงจ๊ะ"

    มิน่าละก็ขันธ์ของคุณเป็นอวัยวะที่เรียกว่า ตา หู จมูก ปาก กาย นี้เองมันถึงได้แต่อยู่เฉย ๆ เมื่อมันได้แต่อยู่เฉย ๆ คุณก็เลยว่ามันไม่ทำผิดศีล แล้วย่อมรักษาศีลบริสุทธิ์ แล้วอย่างนี้คุณมิต้องไปไหว้ ต้นไม้ ก้อนหิน บ้าน ดอกหรือ พวกนี้มันก็อยู่เฉย ๆ เหมือนกันนะ

    ที่กล่าวว่า "การที่คุณอ้างว่าพระพุทธองค์ทรงสั่งสอนดังกล่าวนั้นอาจถูก(ก็ผมไม่เคยฟังจากปากท่านก็เลยไม่รู้ว่าที่คุณสมอ้างนั้นถูกอ๊ะป่าว) แต่ที่ยกมาอ้างนั้นผิดจ๊ะ เวลาจะอ้างอิงข้อความของคนอื่นมาตอบน่ะ กรุณาอ่านให้ละเอียดถี่ถ้วน ใช้พิจารณามหาพิจารณาแล้วก็จะเข้าใจนะจ๊ะ ไม่งั้นเถียงอาจจะตกคูได้จ๊ะ<!-- google_ad_section_end --> "

    ไม่ใช่ว่า อาจ นะ ถูก เลยแหละคุณเอ้ย
    แต่ที่ว่า แต่ที่ยกมาอ้างนั้นผิดจ๊ะ ผิดไปจากพระพุทธ์องค์ทรงสั่งสอน / หรือ ผิด ที่ไม่ตรงกับความคิดของคุณ ? ระวัง ตกคลอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2009
  4. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    ตัวเองเขียนว่าบําเพ็ญแล้วเจอเทพ555
    พูดกับกระจกเงาหรือเปล่า คนแน่จริงไม่ได้ตกคูเลย
    เขานัดเจอขอลองของคุณแล้ว..อ่านให้ชัดๆสิ
     
  5. PaiSol

    PaiSol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +48
    ขอตลกด้วยได้ไหม 55555+ งุงิ อิอิ ฮาฮา
     
  6. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    การบําเพ็ญก็แค่หวังให้ ดับสงบแล้วเย็น
    นั่งสมาธิไม่ได้ฌานถือว่ายังไม่ได้สมาธิ
    ได้อะไรมาถึงเวลาตัวรู้ก็จะผุดเกิดขึ้นเอง
    ความรู้บางอย่างครูบาอาจารย์ที่ละสังขารทิ้งไว้อยู่ในอากาศในรูปของคลื่นความถี่
    จะจูนกระแสเอามาเรียนรู้ เอามาได้ไม่ได้มันอยู่ที่คน..
    ของอย่างนี้ไม่มีใครอยากบอกด้วยนะ
    บอกคนอื่น1ครั้งเสื่อมถอยหลังหลายวัน ของๆใครก็ของๆมัน
    ตำราปฏิบัติก็ก๊อปขี้ปากกันมาพูดมาเขียน เผลอคนเขียน ยังเข้าแค่ฌานไม่ได้
    มานั่งวิปัสนึก..นึกๆๆปรุงแต่งๆๆๆหลอกจิตๆๆ เจอนิมิตก็คิดว่า..กรูสำเร็จแล้ว
     
  7. n00m

    n00m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ระวัง จิตปรุงแต่ง ครับ อย่าประมาท อย่าหลงไปกับมัน

    ใช้สติ พิจารณา ให้มาก สิ่งที่เจอ สิ่งที่เห็น บางครั้งก็ไม่จริง
     
  8. Nuch2519

    Nuch2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    ก่อนวันไหว้ครูช่วงเดือนที่ผ่านมา ได้มีโอกาศไปหาหลวงพ่อที่เปิดองค์ให้ หลวงพ่อบอกว่าวันไหว้ครูให้มารับขันธ์กัน เราไม่เข้าใจว่าขันธ์คืออะไร หลวงพ่อก็เลยบอกว่า การรับขันธ์คือการรับศีลห้ามาปฏิบัติ ถ้าปฏิบัติได้จะดีกับตัวเราเอง แต่ถ้ารับแล้วรักษาศีลห้าไม่ได้ก็จะไม่ดีกับตัวเราเอง พี่ที่ไปด้วยก็เลยบอกว่ายังไม่รับดีกว่าเพราะว่าไม่แน่ใจตัวเองว่าจะรักษาได้ดีแค่ไหน หลวงพ่อก็เลยว่าถ้าคิดว่าเรายังทำไม่ได้ก็อย่าพึ่งรับ สรุปแล้วขันธ์คืออะไรกันแน่ ยังไม่ค่อยเข้าใจเลย
     
  9. Nuch2519

    Nuch2519 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    การมีองค์ดีหรือไม่ดีอย่างไร
    เป็นเรื่องที่ยากที่จะบอกว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร เพราะดีหรือไม่ดีรับรู้ได้เฉพาะตน ดีสำหรับเราอาจจะไม่ดีสำหรับคนอื่น ดีสำหรับคนอื่นอาจจะไม่ดีสำหรับเราก็ได้ อยู่ที่จุดมุ่งหมายของเราคืออะไร ถ้ามีแล้วสามารถตอบสนองจุดมุ่งหมายของเราได้มากกว่าการไม่มี ก็น่าจะดีกว่า แต่ถ้าไม่ใช่....ก็จะดีไปได้อย่างไร
    สำหรับเรา ณ ตอนนี้เราว่าเป็นปรกติแบบไม่มีองค์ดีกว่า เคยได้ยินใหมคะ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ตอนนี้เราเป็นอย่างนั้นอยู่ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นเพราะเรายังมีข้อกังขาในเรื่องการมีองค์อยู่ แล้วจะมาต่อว่ากังขาเรื่องอะไรบ้าง
     
  10. สมรปราง

    สมรปราง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +263
    สำหรับเราว่าดีออกเหมือนมี Team งานให้คำปรึกษาส่วนตัวแบบไม่ใช่มนุษย์นอกจากจะมีหลวงพ่อ + ท่านแม่ชี + พ่อ +แม่ซึ่งถือเป็นพระอรหันต์ประจำบ้านช่วยคอยประสิทธิ์ประสาทวิชาทุกสาย ทุกแขนงจะไม่ดีได้อย่างไร?
    แนวทางคำสั่งสอนที่แตกต่างกันไป ทำให้โลกทรรศ์เรากว้างไกล ทุกคน ทุกองค์ไม่บังคับ จะเชื่อก็ดีไม่เชื่อก็ดี? ไม่เห็นมีใครกล้าบังคับเพราะมันเป็นบาป ศรัทธาต้องเกิดจากความสมัครใจ

    จากที่คุณนุช2519 เราก็เห็นด้วยนะเพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะบอกแล้วแต่ความเห็นแต่ละบุคคลหรือความผูกพันกันตั้งแต่ภพชาติกับเทพหรือองค์นั้นซับซ้อนและเป็นเรื่องยากจะอธิบาย

    สำหรับเราไม่ต้องรับขันธ์เพราะสามารถจะตกลงกันรับในนิมิตพอเป็นพิธี เพราะ
    เราไม่ต้องลำบากสร้างรูปธรรมเพราะเราใช้นามธรรม อจินไตย เป็นพื้นฐาน
    การกราบพระพุทธรูป เทวรูป กราบพระอาจารย์ กราบแม่ชี บายศรีสักกะอัน ยังไม่เคยถวายเพราะพวกท่านไม่สนใจ เรามีศรัทธา พลังนั้นแผ่ออกมาให้ผู้รับไม่ว่าจะเป็นคน เป็นเทพ หรืออะไรก็ตามที่เป็นผู้มีปัญญาก็สามารถจะรับรู้ได้ เราก็จะสามารถเชื่อม ผ่าน....เข้าไปได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2009
  11. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30
    อืมม ผมจะบอกครั้งสุดท้ายนะจ๊ะ ผมบอกว่าให้คุณอ่านทั้งหมดแล้วจึงพิจารณา ไม่ใช่ยกมาเป็นบรรทัด บรรทัด แล้วพิจารณาแต่ละบรรทัดจ๊ะ
    นี่ขนาดพิจารณามหาพิจารณาแล้วนะจ๊ะ
    แบบว่าอธิบายให้คนไม่เข้าใจฟังเนี่ยมันก็ยากอย่างนี้ล่ะจ๊ะ
    ผมบอกว่าเค้านำขันธ์ทั้งหมดไปใส่ในสิ่งของ แล้วสิ่งของก็เคลื่อนไหวไม่ได้ แล้วก็ไม่มีสัมผัสทั้งห้า จึงไม่ผิดศีล (กรุณาอ่านบรรทัดนี้แล้วคุณจะเข้าใจว่าผมพูดอะไร)
    ไม่ต้องเถียงแล้วล่ะ เพราะถ้าตอบมาอีกก็แปลว่าอ่านแล้วเข้าใจความหมายที่ผมตอบผิดอีกแล้วจ๊ะ
    เบื่อจะตอบซ้ำจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2009
  12. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30
    เถียงไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาหรอกครับ กับคนแบบคุณน่ะ
    ถ้ายึดมั่นถือมันก็ทำต่อไปไม่มีใครว่า
    อยากอวดรู้ก็ทำไปครับ คนที่นี่ก็รู้อยู่แล้วว่าใครรู้จริง ไม่จริง
    แต่สงสารคนที่ไม่มีความรู้ต้องมาเชื่อคนที่ไม่รู้จริงเนี่ยแหละ
     
  13. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    ท่านเทพตะบะแตกอีกแล้ว ผมไม่ได้อวดรู้นะครับ
    ผมชอบขุดพวกเทพจอมปลอมหรือมุสาเทพต่างหากละ
    แล้วที่ว่าคนที่นี่รู้อยู่แล้วว่าใครรู้จริง ไม่จริง
    ท่านเทพมาเฟียจะหาแนวร่วมมาเบ่งมาข่มหรือครับ
    น่าสงสารคนที่นี่ที่ถูกพวกมือถือสากปากถือศีลมาหลอกลวงจะดีกว่า
    มีอยู่ตัวหนึ่งนะใช้จิตเทพดูหมอหาสตางค์ ชอบทำบุญและนิยมเรี่ยราย
    ชาวนํ้าซื้อเครื่องทำนํ้าเย็นถวายวัด
    เพราะบิดาเขามีร้านขายเครื่องทำนํ้าเย็น มีองค์ๆเดียวกับคุณด้วย
    ผมเองก็มีองคชายที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาไม่ต้องไปรับก็ได้มาฟรีๆ
    เย็น
     
  14. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    คนที่อ่านเคยลองสังเกตูไหมครับ ว่าพวกชอบมาอวดอ้าง
    ที่อวดดีแต่ไม่มีดีจะอวดประเภทกรูมีเทพมีองค์ นี่เขาขาดอะไรบางส่วน
    ในชีวิตหรือครอบครัวตั้งแต่เด็กหรือเปล่า จึงทำตัวเป็นพวกผู้วิเศษหรือพวกX-MAN
    เพื่อนผมคนหนึ่งสมัยหนุ่มๆเป็นหมอใหญ่ที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด
    ได้รับเชิญไปงานของพวกม้าทรงพวกมีร่างทั้งหลาย ไปถึงงานปรากฎว่า
    พวกม้าทรงพวกเทพทั้งหลายเป็นคนไข้โรคจิตของหมอทั้งนั้น
    ฝากคนหลงประเดนอย่าเบี่ยงประเดน..
    ช่วยอ่านหัวข้อกระทู้นี่ชัดๆช้าว่าเขาคุยเรื่องอะไรผมเขียนเรื่องขันผีหรือขัน
    ผมไม่ได้เขียนคำว่าขันธ์สักคำ
     
  15. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ไม่ดีด้วยเหตุผลทุกประการ หากมุ่งนิพพาน อยู่ห่างๆไว้
     
  16. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30

    ผมเองก็มีองคชายที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาไม่ต้องไปรับก็ได้มาฟรีๆ
    เย็น


    ใครเหรอครับที่ทำแบบนั้น..
    ก็เห็นอวดอยู่ได้ว่าทำนู่นทำนี่ เอาประสพการณ์ตนเองมาตัดสินคนอื่นตลอดเวลา
    ยิ่งใหญ่นักหรือไงคุณน่ะ
    คนที่มันชอบพูดแบบคุณน่ะผมว่ามีปมด้อยมากกว่าคนที่อวดว่าตัวเองมีของดีเสียอีกครับ
    แต่ว่าผมก็ไม่ได้อวดว่าผมมีใครเสียหน่อย พูดสักคำเหรอ ว่ามีเทพองค์ไหน อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย
    แล้วพวกหมอก็ตัดสินคนที่เป็นคนมีองค์เป็นคนไข้โรคจิตทั้งนั้นแหละ เค้าว่าถ้าได้ยินเสียงหรืออะไรพวกเนี้ยก็จิตหลอน
    คุณเนี่ยหาเรื่องตลอดเวลา ผมไม่ได้เบี่ยงประเด็น ไปอ่านอันแรกที่เค้าถามเค้าก็ถามเรื่องขันธ์ว่าจะรับดีไหม ผมก็ตอบอธิบายเรื่องขันธ์
    ไม่ได้บอกว่าให้รับ กลับไปอ่านให้เข้าใจ ดีแต่จับผิดแหละ

    อ้อ อีกอย่าง ถ้าตอบกระทู้แล้วแปลว่าตบะแตก งั้นคนมีองค์คงต้องเลิกเล่นเวปบอร์ดแล้วล่ะ แล้วคุณล่ะทำไมยังเสนอหน้าอยู่ ไม่กลัวตบะแตกเหรอ หรือว่าไม่มี
     
  17. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    เอาตอแหลอีกแล้วก็ใครเขียนว่ามีเทพมากระซิบข้างจ๊ะ5555
    ผมเอาเรื่องหมอโรคจิตกับคนไข้ที่เป็นโรคจิตมาเล่ามันอวดตรงไหนละ555
    เทพอ่านภาษาไทยไม่ออกแล้ว ..
    ตัดสินประสบการณ์คุณนะ5555
    ลองไหมละอยากเจอเทพของคุณจังเลย
     
  18. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    เทพลงมาบอก..สุนัขเขียนละ
     
  19. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    เทพลองบอกดูสิพรุ่งนี้หวยออกอะไร
    ช้างๆๆๆๆๆน้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า
     
  20. ganesh

    ganesh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +30
    ตรงไหนครับที่พูดว่าท่านกระซิบ ช่วยมาร์คสีแดงให้เห็นหน่อยสิครับ

    ที่ถามว่า "ผมเอาเรื่องหมอโรคจิตกับคนไข้ที่เป็นโรคจิตมาเล่ามันอวดตรงไหนละ555"
    ตรงที่อวด ก็ตรงที่มาร์คสีแดงไว้ไงครับ มองไม่เห็นเหรอ หรือว่าตาบอดสี
    แล้วที่ว่า"เทพลงมาบอกสุนัขเขียน" เอาอะไรมาพูดครับ สุนัขที่ไหนจะเขียนได้ ถ้าสุนัขผมเขียนได้ผมจะได้ห้ามไม่ให้มันเถียงกับสุนัขตัวอื่นครับ 555
    แต่สงสัยบ้านคุณสุนัขจะเขียนได้นะครับ พอดีเทพของผมท่านไม่ได้สื่อกับหมา น่าจะเป็นทางคุณนะครับที่เทพสื่อกับหมา เพราะว่าผมก็บอกแล้วว่าหมาที่บ้านผมพิมพ์ดีดไม่เป็น เล่นคอมก็ไม่เป็นน่ะครับ พอดีเห็นคุณว่าเทพลงมาบอกสุนัขพิมพ์ ผมก็เลยว่าน่าจะเป็นสุนัขบ้านคุณน่ะแหละที่ตอบผม 555 ขอโทษนะครับไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องคุยกระทู้กับหมา..

    ตั้งแต่ที่ผมมาเขียนผมไม่เคยบอกเลยซักครั้งว่าเทพบอกให้เขียน มีตรงไหนหรือครับที่ผมบอกว่าอย่างนั้น
    อ่านภาษาไทยแค่นี้ก็คงเข้าใจนะครับ

    หวยพรุ่งนี้ออกอะไร คำถามสิ้นคิดมาก ๆ ครับ
    ถ้าต้องให้สงสัยจะไม่ใช่เทพละมั้งครับ เห็นแต่พวกเจ้าพ่อเจ้าแม่น่ะแหละที่ให้หวย

    ร้องเพลงช้างทำไมครับ สติแตกกลับไปมีอายุสมองเท่าเด็กอนุบาลแล้วเหรอครับ ถึงได้แย่งเพลงเด็ก ๆ ร้อง หรือร้องกล่อมลูกครับ แต่ผมว่าคงไม่ใช่อ่ะครับ ถ้ามีลูกน่าสงสารลูกแย่เลย 555

    ที่ถามว่าจะลองไหม ๆ ทำไมผมต้องลองล่ะครับ ได้รับประโยชน์อะไรในชีวิตผมเหรอครับ
    ขอยกคำพระพุทธเจ้ามาพูดนะครับ ท่านว่า คนเราสอนด้วยปัญญา ถ้าอิทธิฤทธิ์ ไว้สอนเปรต
    ฉะนั้นถ้าอะไร ๆ ก็อยากให้แสดง อิทธิฤทธิ์ ก็แปลว่าคุณเป็น...
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...