การพิจารณา กิเลส ในใจของตน แบบ ธรรมยุติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ลุงมหา๑, 15 กันยายน 2013.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขออภัย เรามุ่งสร้างพระใหญ่ ไม่มีเวลาให้ท่าน ขอให้ช่วยตัวเองด้วย

    ขออนุญาตครับ

    ครูบาอาจารย์ของท่าน มีวัดสาขาตั้ง ๕๐๐ วัด
    ท่านก็น่าจะหาครูบาอาจารย์ถามเองได้ ไม่เห็นจำเป็นอะไรต้องมาถามที่ผม
    เห็นท่านเขียนมา ก็ขอให้ท่านพิจารณา ข้อเขียนของท่านเอง
    เผื่อจะฟลุ๊ก มีคำตอบผุดขึ้นมาเองบ้าง

    หรือจะไปพิจารณา ข้อเขียนของท่าน อุรุเวลา ดูบ้างก็ได้
    แนวเดียวกับท่าน พอจะไปกันได้

    แต่ท่านผู้นั้น โดนแบน ไปแล้ว

    พิจารณาตนเองนะครับ ผมอุตสาห์รวบรวมเอา พระธรรมคำสอน ขององค์หลวงตา มาให้ดูตั้งแต่ต้นๆ

    พิจารณาเอาเอง หรือเห็นว่าไม่จำเป็นก็เรื่องของท่าน

    แต่ถ้าท่านจะออกข้อเขียนแนวเดียวกับท่าน อุรุเวลา ก็แล้วแต่ตัวท่าน

    ถ้าหวังจะให้ผมตอบอะไรมากไปกว่านี้ ผมก็คงตอบให้ไม่ได้

    เพราะที่เขียนไปยังไม่เข้าใจ แล้วผมจะไปเสียเวลากับท่านทำไม

    อยากจะเขียนอะไร ก็รีบเขียนๆไปนะครับ เพราะผมก็คาดว่า ท่านจะเป็นเช่นเดียวกับท่าน อุรุเวลา

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ กับญาติธรรม ผู้มีจิตเป็นบุญ เป็นกุศลทุกๆท่าน

    ลุงมหา



     
  2. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขอขอบคุณ ญาติธรรม ผู้มีบุญวาสนาบารมี และ เป็นสัมมาทิฐิ

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ที่ท่านสามารถ มองเห็น สัมผัส กับความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง

    เรื่อง การสงเคราะห์ได้เทียบเท่าพระพุทธเจ้านั้น เป็นคำสอนขององค์หลวงปู่โลกเทพอุดร เอง

    ขอยกมาให้ดูอีกทีก็ได้


    "พระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว หรือเกือบจะเต็มแล้ว
    มีกำลังในการสงเคราะห์มนุษย์เทียบเท่าพระพุทธเจ้า"


    อันนี้ผู้เข้ารับการอบรมสั่งสอนจากท่านที่ป่าเมืองกาญบอกเล่าเอง

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา

     
  3. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    อวิชชาบังจิต มิจฉาทิฏฐิบังใจ


    ..... คนเรานี่หนอ ท่านหลวงปู่พระอุตระมหาเถระคงไม่สอนอย่างนั้นหรอกมั้ง ท่านก็เคยปรารถนาพุทธภูมิมาเหมือนกัน แต่ท่านหลวงปู่ลาพุทธภูมิช่วยสมเด็จองค์พระปัจจุบัน เพื่อรักษาพระศาสนาให้ยืนยาวครบถ้วนห้าพันพระวัสสากาล

    ... คิดสักหน่อยนะ พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็มหรือไม่เต็มก็ตามทีท่านก็ไม่อาจเอื้อมเทียบพระบารมีด้วยสมเด็จพระสรรเพชญพุทธเจ้า ท่านจะสำรวมระวังมากเพราะการทำอย่างนั้นเป็นการปรารมาสพระรัตนตรัย ตกนรกง่ายๆ แถมตกนรกนานด้วย ถ้าได้บรรลุพระโพธิญาณก็จะมีเดียรถีย์รบกวนพระศาสนา

    ... นี่แหละที่ท่านโบราณาจารย์ท่านกล่าวว่า " มิจฉาทิฏฐิ " มีความเห็นผิดจากคลองธรรมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก็ตามใจท่านก็แล้วกันนะ อยากเชื่ออย่างไรก็ตามชอบใจ เอาเต็มที่เลยครับพี่มหา ขอให้โชคดีครับ ฯ.

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2013
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    กิเลสบังตา อวิชชาบังใจ
    มีกิเลส มีอวิชชา ย่อมไม่เห็นโลกตามจริง ย่อมจะบิดเบือนสิ่งที่เห็นไปตามการปรุงแต่งของตน
     
  5. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ... เอ ท่านมหาไปไหนน้อ หายหน้าหายตาไม่มาโพสต์ตอบหลายวัน คิดถึงนะตะเอง
     
  6. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ธรรมปฏิบัติอันเรียบง่าย โดยหลวงพ่อพุธ ฐานิโย


    ขออนุญาตครับ

    วันนี้ขอนำธรรมปฏิบัติจากครูบาอาจารย์มาฝากครับ

    วิธีทำสมาธิแบบหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ครบทั้ง 142 กัณฑ์เทศณ์


    ขอโมทนาบุญ ร่วมกับ เว็บ ฟังธรรม.คอม

    http://www.fungdham.com/sound/put.html

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2013
  7. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    วิธีทำสมาธิแบบหลวงปู่มั่น เล่าโดย พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด


    ขออนุญาตครับ

    วันนี้ขอนำธรรมปฏิบัติจากครูบาอาจารย์มาฝากครับ

    วิธีทำสมาธิแบบหลวงปู่มั่น เล่าโดย พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด

    ครบทั้ง 5 ไฟล์

    จัดทำโดย ชมรมกัลยาณธรรม ให้เสียงโดย พันโทธนกร เฟื้องฟุ้ง
    (ขอขอบคุณ CD จากคุณ Ebi สมาชิกเว็บลานธรรม)

    ขอโมทนาบุญ ร่วมกับ เว็บ ฟังธรรม.คอม


    http://www.fungdham.com/book/mun-samathi.html

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    มาตรฐานการปฏิบัติแบบธรรมยุติ โดยหลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน


    ขออนุญาตครับ

    ขอเชิญพบกับมาตรฐานการปฏิบัติแบบธรรมยุติ
    แสดงธรรมโดยองค์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน


    "การปฏิบัติเริ่มต้นจนถึงพระนิพพาน"​


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=tbdpB_IGfIg]การปฎิบัติเริ่มต้นจนถึงเข้าพระนิพพาน หลวงตามหาบัว - YouTube[/ame]

    ท่านนักปฏิบัติทุกๆท่าน สามารถพิจารณาเปรียนเทียบกับ

    การปฏิบัติของตน
    การปฏิบัติกับหมู่คณะของตน

    สำหรับผมนั้น ผมดูแค่ว่า

    ท่าน คิด ภาษาธรรม
    ท่าน พูด ภาษาธรรม
    ท่าน เขียน ภาษาธรรม

    แล้วผมจะพิจารณาว่า ท่านมี ใจ เป็น ธรรม อยู่เท่าไร?

    เมื่อท่านมี ใจ เป็นธรรมได้มากน้อยเท่าไร ผมก็รู้ ภูมิรู้ ภูมิธรรมของท่านได้แล้ว

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  9. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ... พระธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่มีแยกนิกาย ท่านอย่าเอามหานิกายหรือธรรมยุติมากล่าวให้เป็นที่ไขว้เขวแก่พุทธศาสนิกชนเลย ทุกไม่ว่ามหานิกายหรือธรรมยุติก็ถือศีล ๒๒๗ เหมือนกัน เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส ทำตามพระธรรมวินัยย่อมไปสู่สุคติ ทำผิดพระวินัยก็ไปนรกเหมือนกัน

    ... มันเป็นเรื่องปัจเจกบุคคลซะมากกว่า ว่าจะปฏิบัติในปริยัติ ปฏิบัติ และได้ปฏิเวธมากน้อยเพียงใด
     
  10. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    มาร พญามาร มันก็ยังหลอกชาวพุทธอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัย ทุกระดับชั้น


    ขออนุญาตครับ

    ขอนำคำตอบที่เคยตอบไปในกระทู้อื่นมาให้พิจารณาครับ


    ขออนุญาตครับ

    คนที่เกิดมาในยุคนี้ ที่มีอายุเกิน 56 ปี คือเกิดก่อนปี พ.ศ.2500
    ต่างก็เคยรับฟัง ต่างก็เคยได้ยินเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับ

    "พระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล"

    แม้ในยุคนั้นก็ยังพากันร่ำลือว่าคือ "พระศรีอริยะเมตไตย์"

    แต่จริงๆแล้ว ผู้คนในยุคนั้นต่างท้อแท้ในการเข้าถึงพระธรรม
    จนพากันอธิฐานว่า "เกิดชาติหน้า ขอไปเกิดในยุคองค์พระศรีอริยะเมตไตย์"

    จนองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และครูบาอาจารย์สายพระป่า ต้องออกมาเตือนสติว่า

    "พระศรีอริยะเมตไตย์อะไร ยุคนี้เป็นยุคของ พระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน"
    "และพระธรรมก็ยังคงมีอยู่ พระอริยะสงฆ์สาวกก็ยังคงมีอยู่ ผู้เอาจริงเอาจัง ผู้ปฏิบัติอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ยังสามารถเข้าถึงพระธรรมได้"

    เรื่องราวเกี่ยวกับ "พระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล" ที่พากันเข้าใจว่าคือ "พระศรีอริยะเมตไตย์" จึงค่อยๆซาลงไปๆ

    แต่ในใจลึกๆของคนที่เคยเกิดในสมัยนั้น ยังจำได้ไม่ลืมเลือนก็คือว่า

    "เมื่อพระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุทธกาลถือกำเนิดขึ้น"

    "ท่านจะนำพาศรัทธามหาชน ให้กลับมา มีความเข้าใจในพระพุทธศาสนา อย่างลึกซึ้ง"

    "ท่านจะนำพาศรัทธามหาชน ให้กลับมา มีความเลื่อมใส ศรัทธา ในพระพุทธศาสนา อย่างยิ่ง เฉกเช่นในสมัยที่พระพุทธองค์ได้ทรงมีพระชนอยู่"

    "ท่านจะนำพาความอุดมสมบูรณ์ ให้กลับมา ให้บ้านเมือง มีความมั่งคั่ง มีความอุดมสมบูรณ์ อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน"


    เพียงแต่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดในกลุ่มชาวพุทธ กลับโหดร้าย ต่อชาวพุทธ มากยิ่งขึ้น

    เพราะชาวพุทธส่วนใหญ่ ลืมคำทำนาย ลืมคำร่ำลือ เกี่ยวกับ "พระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล" แทบจะหมดสิ้น

    นอกจากนั้น ก่อนการจุติของพระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล ไปจวบจน ท่านเจริญเติบโต จนท่านทราบว่า

    ท่านเป็นใคร?

    ท่านจุติลงมายังเมืองมนุษย์ ด้วยภาระกิจอันใด?

    ยังเกิดเรื่องราวมากหลายในหมู่ชาวพุทธ เช่น

    การเกิดเรื่องราวพระเถระผู้เก่งกาจ หลายๆองค์ ที่ผู้คนร่ำลือ ที่ผู้คนเชื่อถือ ที่ผู้คนศรัทธา
    แต่แล้วท่านเหล่านั้น ก็ ศีลขาด ถึงกับเสพเมถุนเสียเอง ด้วยความเมามัน เฉกเช่นสามัญชนคนทั่วๆไป

    แม้แต่พระเถระผู้ใหญ่ผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ผู้เป็นผู้นำของครูบาอาจารย์ผู้เก่งกาจกลุ่มใหญ่
    ผู้ที่เป็นที่พึ่ง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของมหาชนทั้งหลาย
    ผู้คนต่างก็ร่ำลือ ผู้คนต่างก็ยกย่องสรรเสริญ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

    ท่านก็ไม่อาจ ใช้ญานบารมีอันสูงส่งของท่าน ส่องไปถึง อนาคตของโลก อนาคตของชาวพุทธว่าเป็นอย่างไร?

    แม้ครูบาอาจารย์ผู้เก่งกาจที่สุดในยุคปัจจุบัน ก็ยังไม่มีท่านผู้ใด ก็ไม่อาจ
    ใช้ญานบารมีอันสูงส่งของท่าน ส่องไปถึง อนาคตของโลก อนาคตของชาวพุทธว่าเป็นอย่างไร?

    เพราะจริงๆแล้ว เหมือนอย่างที่ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ ท่านได้บอกแล้วบอกอีกว่า

    "โลกจะเป็นอย่างไร ถ้าพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ) สร้างไม่เสร็จภายในปี พ.ศ.๒๕๖๑"

    เมื่อวันเพ็ญเดือน๑๒ (17 พ.ย. 56)ที่ผ่านมา ท่านก็บอกอย่างกล้าหาญชาญชัยอีกครั้งว่า

    "ถ้าพระใหญ่สร้างไม่เสร็จ ภายในปี ๒๕๖๑ โลกธาตุ ทั้ง ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ จะปั่นป่วน"
    "จะเกิดคลื่นทะเลสูงถึง ๑๐๐ เมตร"


    ก็คิดดูเอาเองว่า โลกจะเป็นอย่างไร

    ท่านผู้ใดที่คิดว่าจะหวังพึ่ง ครูบาอาจารย์ท่านใดๆ ก็ขอบอกอีกครั้งว่า พึ่งไม่ได้

    เพราะเหตุการณ์ "สึนามิ" ที่ภาคใต้
    เพราะเหตุการณ์ "น้ำท่วมใหญ่ปี ๒๕๕๔"

    ก็เป็นตัวอย่างให้ดูแล้ว

    กาลกลับเป็นว่า แม้ครูบาอาจารย์ท่านต่างๆ แม้พระเจ้าพระสงฆ์กลุ่มต่างๆ
    ท่านจะนำ ท่านจะพา ชาวพุทธกลุ่มต่างๆ ไปในความเชื่อเดิมๆ คือ การมี

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ
    หลุดพ้น

    ก็ตาม ท่านเหล่านั้น ยังไม่มีปัญญา ยังไม่มีญานบารมี
    ที่จะรู้ ที่จะเห็น อนาคตกาล ที่จะเกิดหลังปี ๒๕๖๑

    ครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้น ตลอดจนชาวพุทธกลุ่มใหญ่ที่สุด ยังคงยึด ยังคงมุ่งไปสู่

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ-หลุดพ้น

    อยู่เช่นเดิม

    ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่า ท่านเหล่านั้น มีบุญบารมี มีญานบารมี
    ที่จะรู้ ที่จะเห็น ที่จะทำได้ แต่เพียงเท่านี้

    แม้ว่า ครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้น ตลอดจนชาวพุทธกลุ่มต่างๆ
    จะมองไม่เห็น จะไม่พากันยอมรับเรื่อง

    "พระโพธิ์สัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล"
    "การสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ"

    ด้วยบุญบารมีของชาวพุทธทั้งหลายที่ได้สั่งสมอบรมมาเอนกอนันต์ชาติ
    ด้วยบุญบารมีของพระบรมศาสดาพระองค์ปัจจุบัน
    ด้วยการสนับสนุนของชาวเทวะโลก
    ด้วยการสนับสนุนของชาวพรหมโลก

    ทุกอย่างก็จะค่อยๆคลี่คายออกไปได้เอง
    แม้จะดูว่า ญาติธรรมพระใหญ่ ดูว่าจะมีจำนวนน้อย
    แม้จะดูว่า ญาติธรรมพระใหญ่ ดูว่าจะเล็กกระจ้อยร่อย

    ขอรับรองว่า กองทัพญาติธรรมเพียงเล็กน้อยนี้
    จะเก่งกล้าสามารถ สู้ต่อไป จวบจนถึงวันที่
    ชาวพุทธส่วนใหญ่ มีดวงตาเห็นธรรมว่า

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ-หลุดพ้น แม้สำคัญสูงสุดเพียงใด

    แต่ถ้าโลกธาตุปั่นป่วน จนเกิดคลื่นลมในทะเลทำให้เกิดคลื่นน้ำสูงถึง ๑๐๐ เมตร พัดถาโถมเข้าหาฝั่งเมื่อไร

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ-หลุดพ้น แม้สำคัญสูงสุดนั้น

    ก็ไม่อาจจะช่วยใดๆได้ เหมือนที่ไม่เคยช่วยใดๆได้ตอนเกิด

    เหตุการณ์ "สึนามิ" ที่ภาคใต้
    เหตุการณ์ "น้ำท่วมใหญ่ปี ๒๕๕๔"

    พวกเราชาวพุทธ เหลือเพียงที่พึ่งสุดท้าย คือ

    "พระมหาพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์" เท่านั้น


    ด้วยการรวบรวมพลังชาวพุทธ

    ให้มาร่วมสร้างกุศลผลบุญ ด้วยการร่วมสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)
    เราต้องมีญาติธรรมชาวพุทธมากพอจึงจะสร้างได้สำเร็จ
    เราต้องมีญาติธรรมชาวพุทธมากพอจึงจะสร้างกุศลผลบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร อุทิศให้ ดวงวิญญานเร่ร่อนทั้งหลาย
    เพื่อว่า เขาเหล่านั้น จะได้ไม่มาทวงถามเอา เวรเอากรรม ที่เราได้ทำเอาไว้แล้วในช่วงเวลานี้

    เราต้องมีญาติธรรมชาวพุทธมากพอจึงจะสร้างกุศลผลบุญอุทิศให้เจ้าเหล่าทวยเทพ เหล่าเทวดา ทั้งหลาย
    เพื่อท่านเหล่านั้น จะได้ช่วยเหลือ จะได้สนับสนุนเรา ให้สำเร็จได้โดยง่าย

    ท่านที่กลัวว่า เราจะ เหนื่อย
    ท่านที่กลัวว่า เราจะ ท้อ
    ท่านที่กลัวว่า เราจะ ถอย
    ท่านที่กลัวว่า เราจะ ยกเลิก

    ขอให้เลิกห่วงเราได้แล้ว

    ถ้าท่านมีบุญบารมีมากพอ ก็ขอให้มาร่วมกับเราแต่เนิ่นๆ เพื่อสะสมกุศลผลบุญของท่านเอง

    ส่วนท่านที่มาช้า ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกุศลผลบุญของเขาเอง

    ส่วนท่านที่หัวเราะเยาะเย้ย เขาก็จะได้รับผลจากการกระทำของเขาเอง

    เราเป็นแค่เพียงแค่ทัพหน้า ถ้าทัพใหญ่ไม่มา(ชาวพุทธส่วนใหญ่) ก็เป็นเรื่องที่ต้องรับผลของมันร่วมกัน

    มีสติ มีปัญญาเท่าไร ก็พากัน พิจารณากันเอาเอง

    หรือคิดว่า

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ-หลุดพ้น

    จะช่วยท่านให้พ้นภัยได้ หรือถ้าจะช่วยได้ ก็ช่วยได้เพียงแต่ตัวเองเท่านั้น ช่วยคนอื่นไม่ได้

    ภัยพิบัติ เกิดขึ้น มากขึ้น ถี่ขึ้น มากมายทั่วโลก มีข่าวให้เห็นกันทุกวัน

    บางท่าน บางกลุ่ม บางพวก ถึงกับไม่เข้าใจว่า

    ที่ตนมุ่งสู่

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ-หลุดพ้น

    นั้น เป็นกุศลผลบุญพาไป หรือเป็นพญามารเดินนำหน้าไป

    เพียงเพื่อนำท่านให้ห่างไกล การสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)เท่านั้น

    เห็นบางท่านคุยโวถึงบุญบารมี ถึงกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ของตน
    แต่กลับมองได้แค่ว่า การสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)
    เป็นเพียงแค่ "ทาน" เท่านั้น

    ไม่ว่าท่านจะทำคุณงามความดีอะไร ไม่ว่าท่านจะทำมันมากมายแค่ไหน
    ก็จงพากันภูมิใจ อิ่มในกุศลผลบุญของท่านเถอะครับ

    เพราะมาร เพราะพญามาร มันคงดีใจแล้ว มันคงพอใจแล้ว
    ที่มันหลอกท่านให้หนีห่าง การสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)

    เพราะมาร เพราะพญามาร มันรู้ดีว่า
    มีแต่การสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)เท่านั้น
    จึงเป็นการรวบรวม จึงจะเป็นการสร้างกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่
    เพื่ออัญเชิญพระพุทธองค์ เพื่ออัญเชิญพระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์

    มาสู้ มาป้องกัน มาแก้ไข มหาภัยพิบัติของพญามารได้

    เห็นหรือยัง เข้าใจหรือยัง แม้แต่การ ปฏิบัติแบบอย่างชาวพุทธที่ดีที่สุด ด้วยการมุ่งสู่

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ-หลุดพ้น
    อันดูว่าจะเป็นธรรมแท้อันบริสุทธิ์

    กลับถูกหลอกให้เป็นเครื่องมือของพญามารไปได้

    เพราะโลกยุคหลังกึ่งพุทธกาลนี้ พญามารมีเป้าหมายหลักคือ

    "ถล่มโลกให้ย่อยยับด้วย ภัยพิบัติ ด้วยมหาภัยพิบัติ"

    เพราะไม่ใช่แต่เฉพาะในพุทธกาลปัจจุบันนี้เท่านั้น

    ในทุกๆพุทธกาล แม้ในอดีต แม้ในอนาคต ก็ล้วนเป็นเช่นเดียวกัน


    เมื่อถึงเวลาอันควร ชาวพุทธกลุ่มใหญ่ที่สุด ที่จะเป็นทัพใหญ่
    ในการร่วมสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ) ก็จะหลั่งใหลมืดฟ้ามัวดิน มาร่วมสร้างเอง


    และเมื่อนั้น แม่ทัพใหญ่ ตัวจริง เสียงจริง ก็จะปรากฏออกมาเอง

    หลายๆท่านที่ห่วงทัพหน้าอย่างพวกผม ขอให้เลิกห่วงได้

    เมื่อพวกผมมีบุญบารมีที่จะเป็นทัพหน้า พวกผมย่อมจะมีบุญบารมีครบถ้วนที่จะทำงานของตนเองให้ลุล่วงได้

    ช๊อกไหมครับ งุนงงสงสัยไหมครับ ว่า

    เป็นชาวพุทธอยู่ดีๆ บำเพ็ญ

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ-หลุดพ้น อยู่ดีๆ

    ใฉนจึงกลายเป็นเครื่องมือของพญามารไปได้
    ใฉนจึงหลีกลี้หนีห่าง การสร้างกุศลผลบุญที่จะสู้ภัยพิบัติ ที่จะต่อต้านพญามารไปได้

    แล้วจะเอา สติ-ปัญญา แล้วจะเอา ญาน-ปัญญา ที่ไหนมา พินิจพิจารณากันล่ะทีนี้

    ไม่เชื่อก็ลอง พินิจพิจารณากันดู

    เพราะญาติธรรมพระใหญ่ของเรา ที่เราสู้กันอยู่นี่ พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้

    ที่เขามี ที่เขามาร่วมสู้ก็เพราะว่า


    "เขามีศรัทธาอันกล้าหาญ"
    "เขามีศรัทธาอันประมาณไม่ได้"
    "เขารู้ว่า เขาต้องสู้ เพราะถ้าเขาไม่สู้ แล้วยังจะมีใครมาสู้ให้เขาได้อีก"


    สรุปว่า

    แม้การบำเพ็ญซึ่ง

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา
    วิมุติ-หลุดพ้น อยู่ดีๆ

    ก็กลายเป็นเครื่องมือของพญามารไปเสียได้

    เพราะเป้าหมายของพญามารในยุคหลังกึ่งพุทธการ
    มันได้พุ่งเป้าไปที่

    "การถล่มโลกให้ย่อยยับอัปรา ด้วยมหาภัยพิบัติ" แล้ว

    เมื่อท่านไม่มาต่อต่านภัยพิบัติ เมื่อท่านไม่มาต่อต้านพญามาร
    ใยมิใช่ ท่านก็ถูกมารหลอก ท่านก็ถูกมารจูงจมูกไปแล้ว

    ต้องเป็นผู้มีบุญ-บารมี ระดับไหน จึงจะตามทัน จึงจะรู้เป้าหมายของพญามารได้
    ต้องเป็นผู้มีบุญ-บารมี ระดับไหน จึงจะตามทัน จึงจะรู้ถึงวิธี ที่จะป้องกัน มหาภัยพิบัติของพญามารได้


    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับชาวพุทธผู้มีปัญญาอันชาญฉลาดทุกๆท่าน

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2013
  11. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ลุงมหา๑..หยุดเถอะครับ
    เป็นใหญ่เฉพาะตน กรรมต้องยอมรับ..ใช่กระเสือกกระสนเพื่อคนอื่น ยกเว้นวิบากก็ชดใช้กันไป เป็นใหญ่เฉพาะตนคืออัตตาหิอัตตโนนาโถ..หากพระใหญ่ที่จะสร้างท่านดีจริงก็แจกฟรีไปเลยซิครับ- เหล็กไหลด้วย สาธุ:cool:
     
  12. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    มันยังคอยเดินตามตูดเขาต้อยๆ เรื่อยไปนั่นแหละ

    แต่ก็เอาเถอะ ท่านสับสน อย่าไปคิดมาก
    ในแวดวงของผู้สอนกรรมฐาน เขาก็มีประโยคพูดกันอยู่ "วัวของใคร เข้าคอกคนนั้น"

    เรื่องใครอยากตามใคร ก็เป็นไปตามกรรมที่เขาทำร่วมกันมา

    แต่เรื่องที่ไม่ควรผิดพลาด ผิดเพี้ยน คือ เรื่องที่เห็นว่าโลกมนุษย์นี้ มันดี มันน่าอยู่ น่ารักษาสภาพ อันนี้เป็นทิฎฐิที่ผิด เป็นการพยายามไปบังคับเปลี่ยนธาตุ 4 ขันธ์ 5 ให้เป็นไปตามใจตนเอง

    ทำเหมือนกับปฏิบัติธรรมแล้วไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ว่า โลกสวรรค์ โลกพรหม เป็นยังไง ยังอยากจะเกาะอยู่กับโลกมนุษย์ เหมือนหนอนเกาะอยู่กับสิ่งปฏิกูล
     
  13. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    กรรมอะไรทำให้หลงผิด เป็นบุคคล เป็นหมู่คณะ

    ขออนุญาตครับ

    มีท่านสมาชิกในเว็บนี้บางท่าน ถามผมว่า

    มีกลุ่มผู้หลงผิดที่เดินตามครูบาอาจารย์ท่านต่างๆมากมาย

    ท่านถามผมว่า
    "กรรมอะไร ทำให้เป็นเช่นนั้น?"

    ผมก็ตอบท่านว่า "เพราะท่านเหล่านั้น เคยมีกรรมผูกพัน ในการนำพาผู้อื่นให้หลงผิดมาก่อน"

    เมื่อกรรมให้ผล เมื่อเกิดมาในชาตินี้ จึงได้ทำให้ตน หลงผิดเดินตามเขาไป

    ท่านก็ถามผมถึงว่า ชาวพุทธกลุ่มต่างๆนั้น

    ผิดตรงไหน ผิดอย่างไร
    ด้วยเหตุอะไร ด้วยผลอะไร

    โดยผมพิจารณาที่ ความสอดคล้องต้องกัน ถึงธรรม ถึงที่ไป ถึงที่มา
    โดยใช้หลัก ความสอกคล้องต้องกัน ความไม่ขัดแย้งกันเอง

    ท่านก็ถามผมตรงๆว่า
    "ลุงมหารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?"

    ผมก็ตอบว่า "ผมก็ไม่รู้ เพราะธรรมมันอยู่ในจิต ถึงเวลาจะใช้ มันก็รู้ของมันออกมาเอง"

    ขนาดพระเจ้า พระสงฆ์ กลุ่มใหญ่ ที่ท่านมุ่งสู่

    "ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ-หลุดพ้น"
    แม้ว่าท่านจะรู้ธรรม เห็นธรรม บรรลุธรรม ที่ว่ากันว่า
    "เสร็จกิจในพระพุทธศาสนา กิจที่เหนือจากนี้ไม่มี"


    ผมก็ยังบอกได้ว่า ท่านยังมองไปไม่ถึงว่า ยังมีกิจที่อยู่เหนือ วิมุติ หลุดพ้น อยู่อีก

    เพราะเมื่อท่านผ่านวิมุติ-หลุดพ้น เป็นพระอรหันต์
    อย่างมากสุด ท่านก็สามารถอบรมสั่งสอนศิษย์รุ่นหลังๆ ให้บรรลุเป็น อรหันต์ เช่นเดียวกับท่าน

    ท่านก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่า

    พญามาร ได้เปลี่ยนเป้าหมายแล้วจาก


    "การควบคุม ให้มนุษย์แต่ละคนทำผิดคิดชั่ว" แต่เดิม ได้เปลี่ยนมาเป็น

    "โน้มนำ อกุศลกรรม ผลบาป ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่เหล่ามนุษย์ได้เคยทำมาในอดีตชาติ จวบจนปัจจุบัน"

    "มารวมกันเป็น อกุศลผลบาปขนาดใหญ่ แล้วจึงดลบันดาลให้เกิดภัยพิบัติ ให้เกิดมหาภัยพิบัติขนาดใหญ่"

    "ในระดับที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อทำให้มนุษย์ย่อยยับดับสูญ ให้มากที่สุดในคราวเดียว"


    เมื่อผมมีสติปัญญา เข้าใจในเรื่องใหญ่ขนาดนี้
    แล้วเรื่องกลุ่มชาวพุทธ กลุ่มต่างๆ
    แล้วเรื่องชาวพุทธ แต่ละคนแต่ละท่าน ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่

    เพียงแต่ว่า เรื่องอะไรที่ผมจะมาเสียเวลามาแยกแยะ เรื่องอะไรผมจะมาเสียเวลามาชี้แจง

    เพราะถ้าท่านเหล่านั้น มีบุญบารมีมากพอ เหตุไฉน จึงได้เข้าไปรวมกลุ่มกันอยู่อย่างนั้น

    และแม้เมื่อเข้าไปแล้ว เหตุไฉน ไม่ใช้สติปัญญาของตน พิจารณากันเอาเอง

    เพราะแค่พิจารณาเหมือนผมว่า

    "ธรรมใดๆ ต้องสอดคล้องต้องกัน"
    "ธรรมใดๆ ต้องไปในทิศทางเดียวกัน"

    เห็นเรื่องราวที่ครูบาอาจารย์ ท่านนำพาไถ่ชีวิต "แม่โคขาว" ก็อดที่จะชื่นชมกับท่านไม่ได้

    แล้วที่พวกผมกำลังสร้าง พระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ) กันอยู่นี่
    เพื่อจะได้อัญเชิญพระพุทธองค์
    เพื่อจะได้อัญเชิญพระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์
    มาเพื่อป้องกัน เพื่อแก้ไข ภัยพิบัติ
    มาเพื่อป้องกัน เพื่อแก้ไข มหาภัยพิบัติ

    ใยไม่เปรียบได้กับการไถ่ ทั้งชีวิต ทั้งทรัพย์สิน ของมนุษย์และสัตว์ จำนวนมากมายมหาศาล

    แล้วยังจะมีกุศลผลบุญอันใด ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ได้

    แล้วยังจะมีผู้มีบุญบารมีใดๆ เข้าใจได้

    ผมก็บอกได้แค่ว่า ขอให้ท่าน พินิจ พิจารณากันเอาเอง

    เพราะคนที่เข้าแค่มีศรัทธาอันแรงกล้า
    เพราะคนที่เขาแค่มีความกล้าอันประมาณไม่ได้
    เขาก็รู้ เขาก็เข้าใจ แล้ว

    หรือต้องรอไปเรื่อยๆๆๆ

    เขาจะไม่สร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ) เสร็จก่อนหรือ

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  14. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    การพิจารณา ภูมิรู้ ภูมิธรรม บุญ วาสนา บารมี


    ขออนุญาตครับ

    ผมขึ้นอีสานคราวนี้ ผมได้พบ ผมได้เจอ ศิษย์สายเทพ สายพรหม คู่สามี-ภรรยา เพิ่มอีกหนึ่งคู่

    ทั้งๆที่ทั้งสองท่าน ต่างก็สามารถสื่อเบื้องบนได้อย่างง่ายดายและชัดเจน
    แต่ผมก็ยัง มีสติปัญญามากพอที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลทั้งสองท่านได้อยู่ดี
    เอาไว้ให้งานสำเร็จก่อนผมอาจจะอยากเล่าให้ฟังบ้างก็ได้

    การพิจารณา ภูมิรู้ ภูมิธรรม บุญ วาสนา บารมี

    ผมมีหลักการพิจารณาได้ง่ายๆแค่ว่า คนที่ผมพบเจอนั้น เขาอยู่ขั้นไหนกัน?

    ๑.คนที่รู้แต่ทำไม่ได้
    ๒.คนที่รู้และทำได้
    ๓.คนที่ไม่รู้แต่ทำได้
    ๔.คนที่ไม่รู้และทำไม่ได้


    มันมีแค่นี้จริงๆ ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าท่านจะอยู่ระดับไหน
    ผมก็ยังเป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษา ของท่านได้ อยู่เสมอ
    เพราะแม้แต่ตัวผมเอง ผมก็ไม่รู้ว่าผมรู้แค่ไหน
    แต่ไม่ว่าผมจะพิจารณาอะไร คำตอบที่ถูกต้องเหมาะสมมันจะโผล่ออกมาเอง

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา
     
  15. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    "ข้าเจอคนเก่งมา แต่ข้าเก่งกว่าพวกมัน แต่ข้าไม่เล่าให้พวกเอ็งฟังหรอก"
    "ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าเก่งขนาดไหน แต่เอ็งจะอยู่ระดับไหน ข้าก็สอนเอ็งได้หมด"

    เป็นคำพูดของคนที่จิตยังสับสนอยู่มาก
     
  16. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    คำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ถูกต้อง ครบถ้วน ดีแล้ว

    ขออนุญาตครับ

    คำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ถูกต้อง ครบถ้วน ดีแล้ว

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2013
  17. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    หลักสูตรการปฏิบัติที่ชัดเจนของฝ่ายธรรมยุติ

    ขออนุญาตครับ

    เห็นชาวพุทธแบ่งออกเป็นหลายๆสาย แบ่งออกเป็นหลายๆกลุ่ม
    ผมก็แสนเสียดายแทนท่านที่เข้าทางผิด ท่านที่เดินสายผิด
    ตัวผมเองนั้น พิจารณาถึงขั้นที่ว่า

    ครูบาอาจารย์ท่านใดก็ตาม ต่อให้เป็นลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่มั่น เองก็ตาม
    ถ้าเดินออกนอกทาง และ ฝั่งวัดป่าบ้านตาด ไม่ยอมรับ ไม่เสวนาด้วย
    ผมก็หลีกลี้หนีห่าง

    ครูบาอาจารย์ท่านใดก็ตามต่อให้สำเร็จธรรมชั้นสูงสุดแล้วก็ตาม
    ถ้าเคยต่อต้าน เคยตำหนิติเตียน องค์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน
    ในเรื่องผ้าป่าช่วยชาติ
    ผมก็หลีกลี้หนีห่าง

    ครูบาอาจารย์ท่านใดก็ตามต่อให้สำเร็จธรรมชั้นสูงสุดแล้วก็ตาม
    ถ้าการปฏิบัติในสำนักของท่าน เป็นการ บีบบังคับ ให้ปฏิบัติแบบโน้น แบบนี้
    ให้ปฏิบัติวิธีการโน้น วิธีการนี้ ให้ใช้คำภาวนาอันโน้น อันนี้
    ผมก็หลีกลี้หนีห่าง

    ยิ่งอย่าได้มา อวดอ้างว่า ปฏิบัติ สายโน้น สายนี้ เกิดฤทธิ์เกิดเดชได้เลย

    ลุงมหาจึงอยากจะขอเตือนญาติธรรมชาวพุทธอีกว่า
    ถ้าครูบาอาจารย์สายใด ไม่มีรูปแบบ ไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน
    ขออย่าได้เฉียดเข้าไปใกล้ ให้เสียเวลา

    เพราะมนุษย์สมัยนี้มีอายุขัยน้อยมากๆ
    ไม่สามารถ เสียเวลาใดๆอีกได้
    ยิ่งท่านที่จะมาเริ่มปฏิบัติ ตอนอายุมากๆด้วยแล้ว ยิ่งต้องพิจารณาให้มากขึ้นไปอีก

    ท่านต้องเลือกเดินทางให้ถูก ท่านต้องเลือกเดินสายให้ถูก

    ต่อให้ชาตินี้ไม่สำเร็จมรรคผลอันใด ก็ยังมีชาติหน้าให้สู้ต่อไปได้

    =====================================
    จึงขอนำข้อความที่ผมเคยเขียนไปแล้วในเว็บนี้ เมื่อเร็วๆนี้ ยกมาทั้งดุ้น มาให้ดูอีกที
    =====================================


    ขออนุญาตครับ

    ถึงแม้ว่าลุงมหาเป็นศิษย์สายเทพสายพรหม(เสด็จพ่อ ร.๕ ตำหนักบางพลี)
    แต่ก็ได้รับพรจากองค์หลวงปู่ใหญ่ก่อนการเริ่มปฏิบัติธรรม
    เมื่อปฏิบัติไปได้แค่ ๘-๙ ปีแรก ก็ได้รับการตรวจจิต จากครูบาอาจารย์พระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายธรรมยุติ
    เมื่อตรวจให้แล้ว ท่านก็รับรองว่าปฏิบัติมาได้อย่างถูกต้อง
    ครูบาอาจารย์ท่านยังบอกอีกว่า ถ้าปฏิบัติต่อไปอย่างสม่ำเสมอ ชาตินี้ก็มีสิทธิ์สำเร็จ(ขั้นอรหันต์)
    ท่านยังเมตตาแนะนำไม่ให้ลุงมหาย้ายงานไปอยู่ทั้งบริษัทโรงกลั่นน้ำมัน และ บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่
    แม้จะทำงานอยู่ที่เดิม งานก็ยังหนักอยู่ดี
    จนต้องลดการปฏิบัติลงไป เอาแค่ประคองๆไปก็พอแล้ว

    เห็นศิษย์สายฝั่งของท่าน พูดถึงธรรมแบบปริยัติกันมาก
    ลุงมหาก็ไม่เข้าใจ เพราะตนเองปฏิบัติแบบธรรมยุติคือ


    "รู้อะไรมาเรียนอะไรลืมให้หมด อยากรู้อะไรให้ปฏิบัติเอา"

    ลุงมหาก็เลยไม่รู้ว่าฝั่งทางโน้นพากันปฏิบัติอย่างไร

    จะให้ดีทำไมไม่พากันสรุปหลักสูตรของครูบาอาจารย์ของท่าน
    บอกวิธีปฏิบัติ บอกขั้นตอนให้ชัดเจน

    เพราะฝ่ายธรรมยุตินั้น องค์หลวงตาท่านก็สรุปให้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า


    "วิธีปฏิบัติตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงพระนิพพาน"เป็นอย่างไรบ้าง

    "การปฏิบัติเริ่มต้นจนถึงพระนิพพาน"​


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=tbdpB_IGfIg]การปฎิบัติเริ่มต้นจนถึงเข้าพระนิพพาน หลวงตามหาบัว - YouTube[/ame]

    ยิ่งองค์หลวงตาท่านบอกเล่าว่า


    "ถ้าผู้ปฏิบัติมาบอกว่าละสังโยชน์ ๑๐ อย่างนั้น อย่างนี้ แสดงว่าผู้นั้นไม่เคยปฏิบัติเลย"
    "เพราะความรู้ที่เกิดขึ้นในจิตนั้น แค่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงไม่มีคำว่าสังโยชน์ ๑๐ เกิดขึ้นในจิต"


    ยิ่งท่านที่หยิบยกเอาคำสอนของมหาเปริญ ๙ ขึ้นมาอ้างยิ่งดูแย่ใหญ่
    เพราะองค์หลวงตามหาบัวท่านสอนว่า


    "พวกมหาเปริยญนั้น เรียนมาสูงเท่าไร ก็เป็๋นแค่สัญญาความจำ"
    "จึงรู้ว่ามีความรู้เป็๋นศูนย์ เพราะว่าความรู้นั้น ไม่ได้รู้มาจากการปฏิบัติ"
    "ทำไมเราจะไม่รู้ ตัวเราเอง ก็ได้เคยเรียนมาจนได้เป็นมหานี่น่ะ"
    "ต้องขอขมาต่อพระไตรปิฎก ด้วยไม่ได้ดูถูกดูแคลนพระธรรมแต่อย่างใด"


    เห็นฝ่ายโน้นพูดถึงการปฏิบัติ ยังกับว่า พระนิพพานนั้น ง่ายเหมือน เก็บผลส้มเอาจากต้น อย่างนั้นเหละ

    สรุป
    พอจะบอกเล่า วิธีปฏิบัติ ลำดับ ขั้นตอน ออกมาได้บ้างไหม
    เหมือนที่องค์หลวงตาท่านได้เมตตาสรุปให้ว่า


    "วิธีปฏิบัติตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงพระนิพพาน"

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  18. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ไม่แนะนำใครให้สะสมอาวุธ ที่ไม่ใช่ทางธรรม
     
  19. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ในห้องนี้ เห็นคนที่พยายามแบ่งแยกชาวพุทธ แบ่งแยกสายการปฏิบัติอย่างชัดเจน ก็มีลุงมหาคนเดียวนี่แหละ คนอื่นเห็นเขาก็ผสมกันได้ตามความรู้ ตามภูมิธรรม
     
  20. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    เขียนให้คนมีสติปัญญา่อ่าน

    ขออนุญาตครับ

    ข้อธรรมของผมนั้น เขียนให้คนมีสติ คนมีปัญญาอ่าน

    ท่านที่ยังไม่เข้าใจสมควร ไปปฏิบัติก่อน

    ถ้าคิดว่าข้อแเขียนของท่านพอจะมีประโยขน์อยู่บ้าง

    ค่อยเข้ามาเขียน เข้ามาถาม

    เพราะบางท่านที่เข้ามาอ่านนั้น กระทั่งคำตอบที่มีอยู่แล้วนั้น

    ยังมองไม่เห็น แล้วจะเข้าใจได้อย่างไร?

    ขอโมทนา ขออนุโมทนา

    ลุงมหา
     

แชร์หน้านี้

Loading...