การปฎิบัติจิต ตั้งอารมณ์ใจ --เมื่อมีแต่ข่าวภัยพิบัติ--

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 11 พฤศจิกายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Putra-Jit

    Putra-Jit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +7
    อนุโมทนาสำหรับคำแนะที่เป็นประโยชน์คะ สถานการณ์เช่นนี้ต้องอาศัยสติและปัญญารวมถึงความสามัคคีของคนไทยทุกคนคะ ถึงจะผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้

    ยังหวังอยู่ว่าถ้าคิดดีและทำดี พลังงานที่ดีจะสามารถปรับเปลี่ยนเหตุการณ์ได้
     
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    .........ความจริงแล้ว ความตาย มีได้ทุกลมหายใจเข้า-ออก............
     
  3. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนาด้วยค่ะ ถือว่าเป็นกระทู้ที่ดีกระทู้หนึ่งในห้องภัยพิบัติ
     
  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ทำวสี หรือ ความชำนาญในการเข้าสมาธิ ให้มากๆ ไม่ว่า เข้าโดยสมถะ หรือ เข้าโดยวิปัสสนาอารมณ์ โดยมีสภาวะจิตที่เหนือกาย เหนือเวทนา เป็นเป้าหมาย



    เพราะ ถ้าแผ่นดินสะเทือนมากๆ ต้องสามารถเหนือเวทนาให้ได้ ไม่งั้นจะทรมานหรือมีอาการทางร่างกายมาก


    -----------------------

    รู้วิธี รับ และ ถ่ายพลังงานคลื่นแสง หรือคลื่นพลังงานต่างๆที่เป็นส่วนเกิน ออกจากร่างกายได้ทัน ที่จะไม่เป็นอันตราย

    ---------------------


    รู้วิธีทำให้ร่างกายอบอุ่น หรือปรับเปลี่ยนร่างกายให้ทนกับอุณหภูมิสุดขั้วได้ ไม่ว่าร้อน หรือเย็น

    -----------------------


    ทั้งหมดนี้ ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะที่ฝึกมาดี ก็นำมาใช้ไม่ทัน

    แม้ในชีวิตประจำวัน ที่ยังไม่มีภัยร้ายแรงทางธรรมชาติ
     
  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    การพิจารณาความตาย การมีสติรู้เท่าทันความตาย เป็นอุบายที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญ ไว้มากยิ่งนัก หากผู้ฝึก ผู้ป่วยได้ฝึกปฏิบัติทดลองตายก่อนตายจริง จะเป็นการช่วยให้ผู้นั้นไม่กลัวตาย กล้าเผชิญหน้ากับความตายที่มาถึงได้อย่างกล้าหาญ


    -------------------------------------------------------------------------------


    อุบายวิธีนี้เป็นการทดลองฝึก “ตาย” ก่อนตายจริง ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย เนื่องจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของผู้ฝึก คือการตายหลอกที่จะให้ความรู้สึกเหมือนกับการตายจริง

    ---------------------------------------------------





    ..1 . คลายอารมณ์ปล่อยความรู้สึกนึกและคิดที่เป็นอนาคต อดีต ปัจจุบัน รวมทั้งความดี ความชั่ว ฯลฯ ให้ออกไปพร้อมกับลมหายใจออก จนเป็นความว่าง สักระยะหนึ่ง

    ..2 ลำดับต่อมา นึกมาที่ฐานอารมณ์ในโพรงจมูก จะอยู่ประมาณกึ่งกลางในโพรงจมูก หรืออยู่ระหว่างหรือจุดที่ผู้ฝึกเคยรู้สึกคัดจมูกในเวลาที่เป็นหวัด

    3 . วางหรือจี้ความรู้สึก ลงที่ฐานอารมณ์ซึ่งหาไว้ได้แล้ว กำหนดจี้ลงไปที่ฐานเดียว ไม่เคลื่อนความรู้สึก แส่ส่ายออกไปที่อื่นๆ พร้อมทั้งกำหนดว่า ตาย ตาย ตาย ๆๆๆๆ ฯลฯ




    และสร้างความรู้สึกว่าพร้อมแล้วที่ตาย ไม่เสียหายชีวิตเพราะทุกคนหนี “ความตาย” ไม่พ้น

    4 .หลังจากกำหนด ตาย ตาย ตาย ไปสักระยะหนึ่ง จะรู้สึกว่าลมหายใจเข้า-ออก ได้ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จนรู้
    สึกอึดอัด หูอื้อ จมูกจะห่อ ตาถูกบีบเหมือนจะถลนออกมา รู้สึกชา และเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ผู้ฝึกจะรู้สึกกลัวตาย ครองสติให้มั่นคง และยอมตาย ลมหายใจจะค่อยๆ อ่อนลงๆ ความดำมืดจะแผ่คลุมไปทั่วไป จนผู้ฝึกหมดความรู้สึกไปในที่สุด เหมือนกับการตายจริง

    5 . บางท่านที่มีความเจ็บปวดมากเพราะโรคร้ายกำลังลุกลาม ให้ผู้ฝึกให้จุดเจ็บปวดเหล่านั้น เป็นฐานกำหนดมรณานุสสติ แทนฐานอารมณ์ โดยการจี้ความรู้สึก ลงไปที่ความเจ็บปวดนั้นๆ และกำหนด ตาย ตาย ตาย ความรู้สึก ตั้งมั่นอยู่ที่ฐานเดียว ไม่หนีไปที่อื่นๆ ความเจ็บปวดทรมานจะเพิ่มมากขึ้นๆ จนรู้สึกหูอื้อ ตาลาย หายใจอึดอัด ฯลฯ ความดำมืดแผ่ซ่านเข้าไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย ให้ยอมตาย อย่าแอบสืบลมหายใจเข้า จนกระทั่งความรู้สึกจะดับวูบไป

    6 ผู้ผ่านการดับของเวทนา ซึ่งไม่ใช่การตายที่เกิดเพราะหมดลมหายใจ คือไม่มีก๊าซออกซิเจนไหลเข้าสู่ร่างกายอีกต่อไป และหัวใจหยุดทำงาน การดับในครั้งแรกๆ ผู้ฝึกจะรู้สึกว่าทรมานมากและแต่ละบุคคลให้เวลาของการดับมากน้อยแตกต่างหัน เมื่อผู้ฝึก ผู้ป่วย เริ่มรู้สึกตัว ฟื้นคืนกลับมา จะรู้สึกเย็น โล่ง สบาย แสงสว่างปรากฏอยู่ทั่วร่างกาย และในขณะนั้น ผู้ฝึก ผู้ป่วยจะยังคงไม่มีลมหายใจ เข้า-ออก เช่นเดียวกับก่อนจะเกิดการดับแต่ไม่ตายหลับมีแต่ความสดชื่น ความเจ็บปวดทรมานหมดสิ้นไป


    คุณประโยชน์

    มีโอกาสได้สัมผัส และเห็นขั้นตอนของการดับซึ่งเหมือนกับการตายได้อย่างละเอียดชัดเจน ในชีวิตประจำวันร่างกายของทุกคนจะมีการเกิดและดับอยู่ ทุกๆ ขณะ ที่เกิดขึ้นเร็วมาก จนจิตมนุษย์ทั่วๆ ไปตามไม่ทัน ถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วยได้รู้ซึ้งถึงความไม่เที่ยงของร่างกาย ไม่ยึดติดในขันธ์ 5 ได้แก่ รูป คือร่างกาย, เวทนาคือความรู้สึกทุกข์ สุข เฉย, สัญญาคือความจำได้ และวิญญาณคือ ตัวรู้ สภาพรู้ เกิดการปล่อยวาง ผู้นั้นมีโอกาสที่จะเข้าถึงธรรมได้

    ผู้ที่มีความเจ็บปวดมาก หรือเป็นโรคที่รักษาให้หายได้ยาก ถ้าสามารถกำหนด ตาย ตาย ตาย ให้ผ่านจุดดับไปได้ โรคภัยหลายโรคจะหายได้ด้วยเช่นกัน

    ถ้าสามารถผ่านจุดดับไปได้ จะไม่กลัว “ความตาย” เพราะสามารถเอาชนะความตายมาได้

    ด้วยการทดลองตายก่อนตายจริง และเมื่อถึงคราวสิ้นอายุขัย ผู้นั้นจะสามารถเผชิญกับความตายอย่างกล้าหาญและมีสติ จะไม่มีพญามัจจุราชหรือยมทูตมาปรากฏให้เห็น




    ความเจ็บ ความปวด หรือภาวะที่รู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่เข้า เป็นการลวงหลอกของขันธ์ 5 ชักจูง ดึงจิตของผู้ฝึกให้ไขว้เขวไม่ตั้งมั่น เช่น จะถูกดึง ชักนำให้เลิกฝึกบ้าง ให้แอบสืบลมหายใจสักนิดเดียว ผู้ฝึกต้องตั้งสติให้มั่นคง สร้างความรู้สึกที่ถูกต้องก่อนว่า ขณะนี้ตนเองยังมีลมหายใจเข้า-ออกเป็นปกติ ไม่ได้เอามืออุดจมูก บีบจมูก หรือใช้วัสดุใดๆ มาปิดจมูกไม่ให้ก๊าซออกซิเจนไหลเข้าสู่ร่างกาย

    สิ่งที่ผู้ฝึกได้กระทำคือ เพียงแต่จี้ความรู้สึก ลงที่ฐานอารมณ์ ซึ่งเป็นทางผ่านของลมหายใจเข้าและหายใจออกเท่านั้น เมื่อจิตอยู่ในอารมณ์สมาธิ คือ ตั้งมั่น ตั้งใจทำ จะส่งผลให้ลมหายใจเข้า-ออกตามปกติ ค่อยๆ ช้าๆ ลงจนสัมผัสไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ไม่มีลมหายใจเข้า-ออกอีกเลย สิ่งที่หมดไปหรือหยุดไปหรือดับไป คือความรู้สึก ทุกข์ สุข เฉย ที่อาศัยการเกิดขึ้นหรือปรุงแต่งจากการมีลมหายใจเข้า-ออกต่างหาก


    อุปสรรค

    1. ความกลัวตาย ที่จะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดเวลา

    2. ถ้ากดหรือจี้ความรู้สึก (จิต) ลงไปที่ฐานอารมณ์ เป็นจังหวะๆๆ จะเป็นการส่งความรู้สึก (จิต) เข้าไปชนที่ฐาน ไม่ใช่การจี้หรือการนิ่งที่ฐาน ซึ่งเป็นการส่งความรู้สึก (จิต) ไปชนที่ฐานเป็นจังหวะๆๆ นั้น จะทำให้เกิดพลังงาน คือแสงสว่างปรากฏขึ้นในโพรงจมูก หรือที่ฐานอารมณ์ หรือกล่าวได้ว่า ผู้ฝึกทำผิดวิธีนี้ จะไม่เห็นการดับ <!-- google_ad_section_end -->
     
  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    อุปกรณ์พื้นฐานในการอยู่รอด ก็เตรียมไว้ ตามที่คนทั่วๆไปรู้ และทราบ เช่น
    เรือ อาหารสำรอง ยา ฯลฯ แต่ใครจะทราบว่า

    *******หาก....หลายอย่างอาจเกิดฉับพลัน ในตอนที่เราไม่อยู่บ้าน อยุ่ที่ทำงาน

    ก็มีแต่ ตัวเรา ซึ่งมีการฝึกฝนตนไว้ดีเท่านั้น เป็นที่พึ่ง

    ดังนั้น .......ฝึกสติสัมปชัญญะให้ดี*********<!-- google_ad_section_end -->



    -------------------------------------------------


    อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ - ตน(ที่ฝึกมาดีแล้ว) เป็นที่พึ่งของตน<!-- / message --><!-- edit note -->
     
  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ดังนั้น .......ฝึกสติสัมปชัญญะให้ดี*********<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ...พระพุทธเจ้า..พระอานนท์ และ มรณานุสสติ.

    พระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถามพระอานนท์ว่า




    อานนท์เธอระลึกถึงความตายวันละกี่ครั้งกี่หน

    ท่านอานนท์ก็ทูลตอบว่า “วันละพันหน”

    พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสตอบว่า “อานนท์ยังประมาทอยู่”





    เราตถาคตระลึกถึงความตาย “ทุกลมหายใจ”

    ที่นี้เมื่อเรามาพิเคราะห์หรือพิจารณาความเป็นจริงตามพระดำรัสนี้ โดยธรรมชาติของผู้เป็นพุทธะหรือองค์พระพุทธเจ้า ย่อมมีพระสติสัมปชัญญะรู้พร้อมทั่วอยู่ทุกขณะจิต

    ดังนั้นคำที่ว่าระลึกถึงลมหายใจอยู่ทุกขณะจิต ก็หมายความว่าพระองค์รู้ระลึกถึงลมหายใจเข้าหายใจออกอยู่เป็นปกตินั่นเอง

    ที่นี่วันหนึ่ง ๆ คนเราหายใจวันละกี่ครั้งกี่คน เมื่อเรามีสติกำหนดรู้ลมหายใจของเราเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ก็ได้ชื่อว่าเราได้ระลึกถึงความตายอยู่ตลอดเวลา

    ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า เราระลึกถึงลมหายใจอยู่ทุกขณะจิต ทุกขณะที่มีลมหายใจ
     
  9. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=STMULDbKpkA&feature=player_detailpage]มรณานุสสติ (10/18) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ - YouTube[/ame]
     
  10. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    <EMBED height=360 type=application/x-shockwave-flash width=480 src=http://www.youtube.com/v/meZNbsLXkhc?version=3&hl=th_TH&rel=0 allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">
    ----------------------------------------------
     
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    <EMBED height=360 type=application/x-shockwave-flash width=480 src=http://www.youtube.com/v/0EGr4biS8Ms?version=3&autoplay=1&hl=th_TH&rel=0 allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always">

    ************************************************
     
  12. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ภัทเทกรัตตคาถา
    (หันทะ มะยัง ภัทเทกะรัตตะคาถาโย ภะณามะ เส)
    เชิญเถิด เราทั้งหลาย จงกล่าวคาถาแสดงผู้มีราตรีเดียวเจริญเถิด
    อะตีตัง นาน๎วาคะเมยยะ นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง
    บุคคลไม่ควรตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย, และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
    ยะทะตีตัมปะหีนันตัง อัปปัตตัญจะ อะนาคะตัง
    สิ่งเป็นอดีตก็ละไปแล้ว, สิ่งเป็นอนาคตก็ยังไม่มา



    ปัจจุปปันนัญจะ โย ธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ,
    อะสังหิรัง อะสังกุปปัง ตัง วิทธา มะนุพ๎รูหะเย
    ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าที่นั้นๆ อย่างแจ่มแจ้ง,
    ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน, เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้
    อัชเชวะ กิจจะมาตัปปัง โก ชัญญา มะระณัง สุเว
    ความเพียรเป็นกิจที่ต้องทำวันนี้, ใครจะรู้ความตายแม้พรุ่งนี้


    นะ หิ โน สังคะรันเตนะ มะหาเสเนนะ มัจจุนา
    เพราะการผัดเพี้ยนต่อมัจจุราชซึ่งมีเสนามากย่อมไม่มีสำหรับเรา



    เอวัง วิหาริมาตาปิง อะโหรัตตะมะตันทิตัง,
    ตัง เว ภัทเทกะรัตโตติ สันโต อาจิกขะเต มุนิ
    มุนีผู้สงบย่อมกล่าวเรียกผู้มีความเพียรอยู่เช่นนั้น,
    ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันกลางคืนว่า, "ผู้เป็นอยู่แม้เพียงราตรีเดียว ก็น่าชม"
     
  13. Supboon

    Supboon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +1
    คนเราเกิดมา เมื่อถึงคราวตายอยู่ตรงไหนก็ตาย ตอนเกิดมาเราก็เอาความตายติดตัวมาด้วย ความตายอยู่ใกล้ตัวเรานิดเดียว หนีอะไรหนีได้ แต่หนีเวรกรรมและความตายหนียังงัยก็หนีไม่พ้น...
     
  14. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ธรรมดา ......



    ธรรมดาของภัยทั้งหลาย ที่ต้องเกิดตามเหตุ

    ธรรมดาของคนและสัตว์ทั้งหลายที่รักตัว กลัวตาย จึงต้องดิ้นรน


    ธรรมดาของพระอริยะทั้งหลายที่่ยอมรับกฏแห่งกรรม






    .และ..............ธรรมดาของโพธิสัตว์หรือผู้มีจิตโพธิสัตว์ ที่มีลมหายใจเพื่อตนและชีวิตอื่นพร้อมเพียงกัน คิดค้นสรรพวิชา เพื่อปลดปล่อยสรรพชีวิต จากกองทุกข์
    ทั้งทุกข์ภัยหยาบๆ และ ทุกข์ละเอียดที่สุดคือ การเกิดแก่เจ็บตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ธันวาคม 2011
  15. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ............ไม่มีที่ใดในโลก


    ที่หลบพ้นภัยจาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปได้............





    ประคองสังขารพอประมาณ เพื่ออาศัย ไปสู่ความพ้นจาก


    เกิด แก่ เจ็บ ตาย<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ฝึกเผชิญความตาย



    การมีสติรู้เท่าทันความตาย เป็นอุบายที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญ ไว้มากยิ่งนัก หากผู้ฝึก ผู้ป่วยได้ฝึกปฏิบัติ
    ทดลองตายก่อนตายจริง จะเป็นการช่วยให้ผู้นั้นไม่กลัวตาย กล้าเผชิญหน้ากับความตายที่มาถึงได้อย่างกล้าหาญ


    -------------------------------------------------------------------------------


    อุบายวิธีนี้เป็นการทดลองฝึก “ตาย” ก่อนตายจริง ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย เนื่องจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของผู้ฝึก คือการตายหลอกที่จะให้ความรู้สึกเหมือนกับการตายจริง

    ---------------------------------------------------





    ..1 . คลายอารมณ์ปล่อยความรู้สึกนึกและคิดที่เป็นอนาคต อดีต ปัจจุบัน รวมทั้งความดี ความชั่ว ฯลฯ ให้ออกไปพร้อมกับลมหายใจออก จนเป็นความว่าง สักระยะหนึ่ง

    ..2 ลำดับต่อมา นึกมาที่ฐานอารมณ์ในโพรงจมูก จะอยู่ประมาณกึ่งกลางในโพรงจมูก หรืออยู่ระหว่างหรือจุดที่ผู้ฝึกเคยรู้สึกคัดจมูกในเวลาที่เป็นหวัด

    3 . วางหรือจี้ความรู้สึก ลงที่ฐานอารมณ์ซึ่งหาไว้ได้แล้ว กำหนดจี้ลงไปที่ฐานเดียว ไม่เคลื่อนความรู้สึก แส่ส่ายออกไปที่อื่นๆ พร้อมทั้งกำหนดว่า ตาย ตาย ตาย ๆๆๆๆ ฯลฯ




    และสร้างความรู้สึกว่าพร้อมแล้วที่ตาย ไม่เสียหายชีวิตเพราะทุกคนหนี “ความตาย” ไม่พ้น

    4 .หลังจากกำหนด ตาย ตาย ตาย ไปสักระยะหนึ่ง จะรู้สึกว่าลมหายใจเข้า-ออก ได้ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จนรู้
    สึกอึดอัด หูอื้อ จมูกจะห่อ ตาถูกบีบเหมือนจะถลนออกมา รู้สึกชา และเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ผู้ฝึกจะรู้สึกกลัวตาย ครองสติให้มั่นคง และยอมตาย ลมหายใจจะค่อยๆ อ่อนลงๆ ความดำมืดจะแผ่คลุมไปทั่วไป จนผู้ฝึกหมดความรู้สึกไปในที่สุด เหมือนกับการตายจริง

    5 . บางท่านที่มีความเจ็บปวดมากเพราะโรคร้ายกำลังลุกลาม ให้ผู้ฝึกให้จุดเจ็บปวดเหล่านั้น เป็นฐานกำหนดมรณานุสสติ แทนฐานอารมณ์ โดยการจี้ความรู้สึก ลงไปที่ความเจ็บปวดนั้นๆ และกำหนด ตาย ตาย ตาย ความรู้สึก ตั้งมั่นอยู่ที่ฐานเดียว ไม่หนีไปที่อื่นๆ ความเจ็บปวดทรมานจะเพิ่มมากขึ้นๆ จนรู้สึกหูอื้อ ตาลาย หายใจอึดอัด ฯลฯ ความดำมืดแผ่ซ่านเข้าไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย ให้ยอมตาย อย่าแอบสืบลมหายใจเข้า จนกระทั่งความรู้สึกจะดับวูบไป

    6 ผู้ผ่านการดับของเวทนา ซึ่งไม่ใช่การตายที่เกิดเพราะหมดลมหายใจ คือไม่มีก๊าซออกซิเจนไหลเข้าสู่ร่างกายอีกต่อไป และหัวใจหยุดทำงาน การดับในครั้งแรกๆ ผู้ฝึกจะรู้สึกว่าทรมานมากและแต่ละบุคคลให้เวลาของการดับมากน้อยแตกต่างหัน เมื่อผู้ฝึก ผู้ป่วย เริ่มรู้สึกตัว ฟื้นคืนกลับมา จะรู้สึกเย็น โล่ง สบาย แสงสว่างปรากฏอยู่ทั่วร่างกาย และในขณะนั้น ผู้ฝึก ผู้ป่วยจะยังคงไม่มีลมหายใจ เข้า-ออก เช่นเดียวกับก่อนจะเกิดการดับแต่ไม่ตายหลับมีแต่ความสดชื่น ความเจ็บปวดทรมานหมดสิ้นไป


    คุณประโยชน์

    มีโอกาสได้สัมผัส และเห็นขั้นตอนของการดับซึ่งเหมือนกับการตายได้อย่างละเอียดชัดเจน ในชีวิตประจำวันร่างกายของทุกคนจะมีการเกิดและดับอยู่ ทุกๆ ขณะ ที่เกิดขึ้นเร็วมาก จนจิตมนุษย์ทั่วๆ ไปตามไม่ทัน ถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วยได้รู้ซึ้งถึงความไม่เที่ยงของร่างกาย ไม่ยึดติดในขันธ์ 5 ได้แก่ รูป คือร่างกาย, เวทนาคือความรู้สึกทุกข์ สุข เฉย, สัญญาคือความจำได้ และวิญญาณคือ ตัวรู้ สภาพรู้ เกิดการปล่อยวาง ผู้นั้นมีโอกาสที่จะเข้าถึงธรรมได้

    ผู้ที่มีความเจ็บปวดมาก หรือเป็นโรคที่รักษาให้หายได้ยาก ถ้าสามารถกำหนด ตาย ตาย ตาย ให้ผ่านจุดดับไปได้ โรคภัยหลายโรคจะหายได้ด้วยเช่นกัน

    ถ้าสามารถผ่านจุดดับไปได้ จะไม่กลัว “ความตาย” เพราะสามารถเอาชนะความตายมาได้

    ด้วยการทดลองตายก่อนตายจริง และเมื่อถึงคราวสิ้นอายุขัย ผู้นั้นจะสามารถเผชิญกับความตายอย่างกล้าหาญและมีสติ จะไม่มีพญามัจจุราชหรือยมทูตมาปรากฏให้เห็น




    ความเจ็บ ความปวด หรือภาวะที่รู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่เข้า เป็นการลวงหลอกของขันธ์ 5 ชักจูง ดึงจิตของผู้ฝึกให้ไขว้เขวไม่ตั้งมั่น เช่น จะถูกดึง ชักนำให้เลิกฝึกบ้าง ให้แอบสืบลมหายใจสักนิดเดียว ผู้ฝึกต้องตั้งสติให้มั่นคง สร้างความรู้สึกที่ถูกต้องก่อนว่า ขณะนี้ตนเองยังมีลมหายใจเข้า-ออกเป็นปกติ ไม่ได้เอามืออุดจมูก บีบจมูก หรือใช้วัสดุใดๆ มาปิดจมูกไม่ให้ก๊าซออกซิเจนไหลเข้าสู่ร่างกาย

    สิ่งที่ผู้ฝึกได้กระทำคือ เพียงแต่จี้ความรู้สึก ลงที่ฐานอารมณ์ ซึ่งเป็นทางผ่านของลมหายใจเข้าและหายใจออกเท่านั้น เมื่อจิตอยู่ในอารมณ์สมาธิ คือ ตั้งมั่น ตั้งใจทำ จะส่งผลให้ลมหายใจเข้า-ออกตามปกติ ค่อยๆ ช้าๆ ลงจนสัมผัสไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ไม่มีลมหายใจเข้า-ออกอีกเลย สิ่งที่หมดไปหรือหยุดไปหรือดับไป คือความรู้สึก ทุกข์ สุข เฉย ที่อาศัยการเกิดขึ้นหรือปรุงแต่งจากการมีลมหายใจเข้า-ออกต่างหาก


    อุปสรรค

    1. ความกลัวตาย ที่จะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดเวลา

    2. ถ้ากดหรือจี้ความรู้สึก (จิต) ลงไปที่ฐานอารมณ์ เป็นจังหวะๆๆ จะเป็นการส่งความรู้สึก (จิต) เข้าไปชนที่ฐาน ไม่ใช่การจี้หรือการนิ่งที่ฐาน ซึ่งเป็นการส่งความรู้สึก (จิต) ไปชนที่ฐานเป็นจังหวะๆๆ นั้น จะทำให้เกิดพลังงาน คือแสงสว่างปรากฏขึ้นในโพรงจมูก หรือที่ฐานอารมณ์ หรือกล่าวได้ว่า ผู้ฝึกทำผิดวิธีนี้ จะไม่เห็นการดับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  17. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    [​IMG]

    อนุโมทนาบุญทุกประการครับ
     
  18. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    ........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 ธันวาคม 2011
  19. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,466
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +70,068
    .....สถานที่ปลอดภัยที่สุด ย่อมคือที่ที่ภัยในวัฏฏะสงสารไปไม่ถึง คือ พระนิพพาน



    ..แต่ในวัฏฏะสงสารนี้ ที่จะปลอดภัย คือ ..ภายใต้การคุ้มครองของ

    กุศลธรรมที่บ่มเพาะ บำเพ็ญมาดี


    อดีตปล่อยวางไป เร่งสร้างกรรมดี


    แม้กายสังขารมีวิบากอกุศลต้องชดใช้ .แต่ใจได้ไปดี และปลอดจากภัย
    ของอบายภูมิ...........




    ........ขอให้ทุกชีวิต มีสุข พ้นทุกข์เทอญ................



    [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->__________________
     
  20. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,170
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...