กสิณอะไรฝึกง่ายสุดหนอ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย lovepyou, 8 กรกฎาคม 2014.

  1. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๑๐.๔๐

    แก๊งค์....หมดยกสุดท้าย ทั้งสองฝ่ายเชิญเข้ามุมได้

    และบัดนี้ ผลรวมคะแนนออกมาแล้วครับ คะแนนเป็นเอกฉันท์ครับ ว่า
    ท่านนพเป็นฝ่ายชนะท่านเอกวีร์ ขาดลอย ลอยไปโน้นนนเลย ไกลมาก ๕๕๕

    ธรรมชาติคือความหลากหลาย มากมาย และตอนนี้ยังไม่เที่ยง หึหึหึ
    ถึงท่านนพจะลงเดินเล่นข้างทาง แต่ก็ไปไม่ห่างจากวิถี

    แต่ท่านเอก นี่ไม่ไหว ปากจัดเกิน โรคจิตด้วยอ่ะ ๕๕๕ ไม่ขออภัย
    และไม่รู้จะบ้านิพพานไปไหน เด็กเค้ายังเรียนไม่จบม.ปลายเลย
    ดันบอกแต่ว่า ต้องเป็นด็อกเตอร์ดิ ถึงจะดี จะเก่ง จะเจ๋ง จะบ้ารึ หึหึหึ

    ไม่รู้รึไง ว่าเรื่องราวมีหนึ่งมีสอง มันต้องเป็นไปตามขั้นตอน และประสบการณ์
    บางคนบางครั้ง มันก็ต้องทำกิจที่ค้างคากันมาแต่ชาติปางก่อนโน้นนน ให้เสร็จก่อน
    ถึงจะไปต่อตามเส้นทางได้ บ้างก็ต้องสะสมสกิล บ้างก็ขาดเทคนิค
    ขาดความมั่นใจก็มี ขาดผู้ชี้ทาง แสงสว่างอาจไม่พอ หรือยังรอเพื่อนๆ

    ก็ว่ากันไปน่ะนะ เนอะ ว่าแต่ท่านเอกเรียนธรรมะจากวัดไหนวะเนี่ย น่าอายจัง ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ


    กระต่ายป่า ซ่าไม่เลิก / ระฆัง ดังหง่างหง่าง

    .
     
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    สองปีผ่านไปไวเหมือนโกหก(deejai)

    จัดนัดล้างตา

    แก๊ง ยกที่ 1 เริ่ม
     
  3. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เที่ยง และ .... มาดูกันต่อ


    วกไปเรื่อง หนัง ที่ คุงโนะบะกัม ไปก๊อปมา .... อันนี้ ก็ดี

    หนังเนี่ยะ เขาสร้างโดยคน อินเดีย คนที่เป็น เจ้าของภาษา ....ดังนั้น การอ่านความจาก
    พระไตรปิฏก มันมีแววว่า อ่าน และ แปลได้ ไม่ข้ามบรรทัด วรรคตอน ได้...น่าจะถูก
    ต้องกว่า คนไทย

    เรื่องของ อาจารย์สัญชัย ปริพาชก ใน เวอร์ชั่นหนังเรื่องนี้ ท่านปรวณาตนมี
    ไตรสรณะครบองค์ เป็นที่พึ่ง [ ในแง่ ของอรรถกถา หากมาเจอ บทการกล่าว
    การมีสรณะเป็นที่พึ่ง อรรถกถาจารย์จะระบุด้วยว่า สำเร็จเป็นอริยเจ้าอย่างใดอย่างหนึ่ง ]

    ต่างจาก เวอร์ชั่นภาษาไทย ที่ระบุว่า " อกแตกตาย " ซึ่งมันน่าแปลกไม่น้อย
    เพราะ อาจารย์สัญชัย อนุญาติให้ศิษย์มาหมดสำนักแต่แรก บทภาษาไทยที่
    ตรงกันคือ พระพุทธองค์ตรัสชมว่า " ประเสริฐ เป็นผู้มีใจกว้าง " แต่เวอรชั่นภาษาไทย
    กลับไประบุตอนท้าย " ใจคับแคบอกแตกตาย กระอักเป็นเลือด "

    มาเรื่อง การโผเข้ากอดของ พระนางพิมพา ....เวอร์ชั่นหนัง ไม่มี มีแต่ พระมหาปชาบดี
    ที่โผเข้ากอดพระพุทธองค์

    ก็ว่ากันไป ตามหนัง ...



    กลับมาที่ โนะบะกัม ที่ไปหยิบ การถือทิฏฐิของสัญชัยมา ....ก็ไม่รู้ว่า หยิบมาทำไม

    อย่าลืมหน่าคร้าบ .....ผมหนะ สอนถอดจิตได้ สอนจากประสบการณ์ ไม่ใช่สอนไม่ได้
    การเพ่งน้ำ เพ่งธาตุ เพ่งมหาภูตรูป ผมก็สอนได้ .........หากคุง โนะบะกัม ไม่เมา ก็คง
    จำได้บ้างว่าผมสอน เพราะ สอนทีไร คุงโนะบะกัม มั่วตั้วเข้ามากดอนุโมทนา ตลอด!!!

    คือ ถ้าผมสอนกสิณผิด สอนอารมณ์ปูไปเรื่องถอดจิต ไปนรก สวรรคิ์ ถอดจิตไปฝึก
    กับครูในป่า ไปหาที่วัดผิด ก็คงไม่ กดอนุโมทนา มาเรื่อยๆ !!!!


    เว้นแต่ มั่วตั้วจริงๆ คือ เห็นอะไร เข้าทางทิฏฐิตน ก็ กดอนุโมทนาสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่ได้ดู
    หรือ จดจำว่า นั่นใครกล่าวเอาไว้ !!!

    *************************************************


    มาเรื่อง แผ่เมตตา .....

    เรื่อง แผ่เมตตา เกี่ยวอะไรกับเรื่อง การเรียนเรื่องฤทธิ์

    คนที่เล่นฤทธิ์หากไม่เมาธรรม มีศีล มีธรรม มีเมตตา ตามความเป็นจริง เขามีแต่
    จะเกิด กังขาวิตรณวิสุทธิในการพิจารณาบุคคลที่ไม่มีอินทรีย์

    เพราะคนในโลก ร้อยละร้อย จะไม่มีอินทรีย์ทางการชอบฤทธิ์ ดังนั้น หากจิตใจ
    มีเมตตาตามความเป็นจริงแล้ว จะทราบชัดอยู่ภายในว่า เวลาคนไม่มีอินทรีย์มาเสวนา
    ด้วย เราจะต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ตัดประโยชน์เขาเด็ดขาด
    [ แต่ถ้า อินทรีย์มีพอกัน เขาจะฟัดกัน ถึงพริกถึงขิง ]

    ทุกคนจะต้อง ซึ้งใจ กับ บทห้ามแสดงฤทธิ์ ....ที่พระพุทธองค์ทรงวินิจฉัย ....
    หลักในการวินิจฉัยนั้น เปี่ยมเมตตาแท้จริง พระพุทธองค์ระบุเลย การสร้างศรัทธา
    หรือ การอ้างการมีศรัทธา โดยเอาเรื่อง ฤทธิ์บังหน้า เป็นเรื่อง ขอคนจิตใจคับแคบ
    หาความเตตาในจิตไม่เจอ

    การอ้างการมีศรัทธา โดยเอาเรื่อง ฤทธิ์บังหน้า เป็นเรื่อง ขอคนจิตใจคับแคบ
    หาความเตตาในจิตไม่เจอ

    การอ้างการมีศรัทธา โดยเอาเรื่อง ฤทธิ์บังหน้า เป็นเรื่อง ขอคนจิตใจคับแคบ
    หาความเตตาในจิตไม่เจอ



    ถ้ามีเมตตาจริงแล้ว จะต้อง สร้างศรัทธาโดยไม่อาศัยฤทธิ์ให้เป็น ให้จงได้ ไม่งั้นก็อย่าอยู่
    ในพระพุทธศาสนานี้เด็ดขาด ถึงอยู่ ก็ไม่ชื่อว่าเป็น ผู้ตรัสรู้ รู้ธรรมในพุทธศาสนาแม้แต่หางอึ่ง !!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2015
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เรื่อง อิทธิฤทธิ บุญฤทธิ กับ กรรม(ไม่ใช่เรื่อง เลื่อนลอย นะฮับ หมายถึง การภาวนา นี่แหละ)
    มาฟังคำ พระ กันดีกว่า




    **** สังเกตุ นะฮับ พระท่านบอกว่า " คำตอบมันอยู่ในตัว "

    หากใช้ ปฏิภาณสักนิด ก็จะพบว่า ไอ้ที่ไปนั่ง กลัวเขามาทำร้าย กลัวพลังแทรก
    อย่างโน้น อย่างนี้ แล้วอ้างว่า จิตตนมีฌาณ มีฤทธิ์

    พระท่านบอกเลย จี้เลยว่า คำตอบมันอยู่ในตัว หมายถึง อยู่ใน คำถาม ที่ถามมา

    ใครมีปฏิภาณ ช่วยอบกหน่อยว่า ไอ้ที่อ้างว่ามีฌาณ มีฤทธิ์ แท้จริงแล้ว จิตใจกำลัง "......"
    เป็นจริงตามที่พระท่าน แนะว่า คำตอบมันอยู่ในตัวหรือเปล่า จะอ้างว่ามี สมาธิเหรอ !!!เว้ยเฮ้ย

    ทีนี้ ไม่ว่าพระ หรือ ใครก็ตาม หากเห็นตัวปัญหาแล้ว ท่านก็ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า


    ดังนั้น ไม่ว่าพระ หรือ ใคร ครูบาอาจารย์ที่ไหน ไม่มีหรอก ไปสอนให้ ติดอยู่
    ในเรื่อง แก้แห เขามีแต่ มุ่งสุญญตา โลกุตระ ไปเลย ใช่หรือไม่ใช่ !!!?


    มีหรือครับ ชี้ปัญหา ชี้ทุกข์ เจอแล้ว เอ้า เองกลับไป เล่นฤทธิ์เข้าหาอาจารย์ทางซ้าย
    ทางขวาห่างกี่เซนติเมตร ต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2015
  5. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    นิมิตของการเพ่งลูกแก้ว จะปรากฎในลักษณะใดคะ ขณะเพ่ง ?? ตอนนี้เวลานั่งมองลูกแก้วที่อยู่ในมือ ก่อนฝึกสมาธิจะมองจนลูกแก้วหายไปจากมือ (รึมีอยู่ โพสไหนหาไม่เจอค่ะ)
     
  6. DEEJAI243

    DEEJAI243 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2015
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +1,445
    เราเข้าใจและตระหนักอย่างเต็มเปี่ยมค่ะ
    ว่าฤทธิ์ไม่ใช่หนทางที่จะพ้นจากสังสารวัฏ
    หรือทางดับทุกข์ แต่การเข้าใจในฤทธิ์อย่างถูกต้อง
    ไม่ใช้มันในทางที่ผิด ไม่ใช้เป็นเครื่องก่อเกิดอัตตา
    หรือโมหะให้ตนเองอยู่ในวังวนของการสร้างการยึดติด
    และการสร้างอกุศลกรรมต่อตนเองและคนอื่น
    ก็ไม่ได้หมายความว่าการรู้และการมีฤทธิ์
    จะทำให้ท่านผู้นั้นเดินห่างออกจากวิถีพุทธะ
     
  7. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    วิธีการที่จะสังเกตตนเองง่าย ๆ พอมีอยู่

    คือดูที่อุปาทาน (ความยึดมั่นถือมั่น) ว่า
    มันเพิ่มขึ้น หรือลดลงกว่าแต่ก่อน หรือ
    เมื่อก่อนไม่เคยมี แล้วมามีความปรารถนา
    อันไม่ใช่หนทางที่จะพ้นจากสังสารวัฏ
    เพิ่มขึ้นหรือไม่ก็ได้

    อันนี้ไม่ได้คิดจะตำหนิกรรมใครทั้งนั้น
    แต่จะเล่าถึงอันตรายบางประการให้ได้รับรู้
    เป็นการเตือนภัยกันก็แล้วกันครับ

    ครูบาอาจารย์ท่านว่า เข้าใจผิด สอนผิด
    สอนให้เขาหลงทาง มีอุปาทานเพิ่มขึ้น เหล่านี้
    ตัวเราเองก็ไม่พ้นจะต้องรับวิบากกรรมเช่นนั้นด้วย

    หรือ ความพอใจเป็นเหตุก่ออัตตา
    ปฏิบัติศึกษาไปทำไมอัตตาไม่ลดเสียที
    ได้อย่างหนึ่งก็ไปเสียอีกอย่างหนึ่ง
    ลดละกิเลสได้ สงบง่าย แต่ตัวที่พุ่งเพิ่ม
    คือมานะทิฏฐิ การไม่ยอมใคร ลงไม่เป็น

    อัตตานี้ จะบอกว่ามันลึกลับซับซ้อนก็ได้
    อัตตาเหมือนคนที่ถูกกิเลสกดหัวไว้นานแสนนาน
    ทุกข์ทรมานแสนสาหัส พอสบช่องเอาชนะกิเลสได้
    ความเย่อหยิ่งทะนงตน ความเก่งกาจมันจะมาแทนทันที
    นี้เป็นธรรมชาติอันหนึ่งของความมีอัตตา เป็นพฤติกรรมอำพราง
    ที่จะต้องสังเกตให้เห็นโดยความเป็นทุกข์ที่แท้จริง

    นัยว่า การปฏิบัติถ้าไม่เข้าใจ
    ไม่มีผู้รู้ถูกเห็นถูกตรงชี้ทางให้ก่อน
    นอกจาก อัตตาความเป็นตัวเป็นตน
    จะไม่ลดแล้ว ยังเพิ่มเข้าไปอีก ๆ เรื่อย ๆ

    การเสริมความพอใจไม่ว่าด้านใดก็ตาม
    ก็คือการให้อาหารความมีอัตตาทั้งสิ้น
    ในที่นี้แม้จะไม่ได้กล่าวถึงด้านความไม่พอใจ
    ก็ให้คำนึงถึงในทำนองเดียวกัน
    ดังคนละด้านของเหรียญกันเท่านั้นเอง
    คือมีความพอใจอยู่ที่ใด
    ความไม่พอใจก็มีอยู่ด้วยกันที่นั่นเอง

    ดังนั้นการที่จะกล่าวว่า
    "ไม่ใช้มันในทางที่ผิด ไม่ใช้เป็นเครื่องก่อเกิดอัตตา"
    ก็เป็นเรื่องที่ยากเหลือเกินทีเดียว
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เอาสั้นๆตาม นัยยะข้างล่างนี้นะครับ...
    ให้ท่าน พิจารณา ทีละบรรทัด ว่าท่านเข้าถึงได้แล้วหรือยัง
    โดยที่ไม่ต้องไปบอกใคร ให้ดูที่ใจของท่านเอง...


    นัยยะแรก เกี่ยวกับการปฏิบัติของท่านให้ท่านดูว่า
    ไม่ว่าท่านจะปฏิบัติรูปแบบใดๆก็ตาม..
    ตัวจิตของท่านเข้าถึงได้ตามนัยยะข้างล่างนี้ไหม


    '' ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นธรรม....
    วิบากกรรมชักนำพาให้เกิด......
    ไม่อยากเกิดต้องรู้กรรมนำวิถี.....
    รู้ละ รู้ปล่อย รู้วาง รู้ว่าง ทุกนาที.''
    ชีวิตนี้มีแต่สุขทุกข์ไม่มี.....


    นัยยะต่อมาเกี่ยวกับพฤติกรรมทางจิตของท่าน
    ที่จะส่งผล ต่อความคิด การกระทำ
    การแสดงออกของท่าน ที่มาจากภายใน
    ไปสู่ภายนอก.ไม่ว่าทางกาย วาจา ใจ...


    ''การคิดดี พูดดี ทำดี เป็นทุนของผู้มีบุญ....
    ที่ช่วยหนุนขึ้นสู่ที่สูงวันข้างหน้า....
    ผู้มีปัญญาย่อมสะสมบุญ....
    เพื่อเป็นทุนให้ขึ้นสู่ที่สูงวันข้างหน้า..."


    "พิจารณาดูที่จิตตัวเองครับ โดยไม่ต้องไปดูคนอื่นๆเค้า..
    รู้ที่ใจตัวเอง เข้าใจที่ตัวเอง เข้าถึงที่ตัวเอง ปฏิบัติได้ที่ใจตัวเอง
    ปล่อยได้ ละได้ วางได้ ว่างได้ ที่ใจตัวเอง.ให้มันได้ก่อน
    มันถึงจะรู้ และเข้าใจคนอื่นๆได้เช่นกันครับ..''

    ปล.อ้างอิงคำสอนจาก ห่มเหลืองมีชื่อท่านหนึ่ง
    ที่สอนสมาธิและดูเรื่องสัมผัส นิมิตและภพภูมิให้ข้าพเจ้าครับ
     
  9. DEEJAI243

    DEEJAI243 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2015
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +1,445
    การเตือนสติให้ผู้ปฏิบัติในแนวคิดของคุณ Tboon
    มุ่งให้ผู้ปฏิบัติเฝ้าระวังอย่างมีสติเพื่อ
    ไม่ให้หลงกลของการมีฤทธิ์
    และคิดว่าตนมีความเก่งกาจกว่าผู้อื่น

    ก็คงจะคล้ายกับการเล่นกับไฟ
    ความร้อนของไฟอาจจะเผาผลาญตัวเราได้
    หากไม่ระวังและประมาท
     
  10. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ไม่รู้นะ และ ไม่เกี่ยวอะไร กับ พระ ที่ถูกเรียกจิ๊กๆว่า " ห่มเหลือง "

    '' ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นธรรม....
    วิบากกรรมชักนำพาให้เกิด......
    ไม่อยากเกิดต้องรู้กรรมนำวิถี.....
    รู้ละ รู้ปล่อย รู้วาง รู้ว่าง ทุกนาที.''

    โศลกเนี่ยะ ถ้าจะให้วิจารณ์ ก็วิจารได้สองจุด

    จุดแรก คือ เงื่อนเวลา มีคำว่า " นาที "
    ถ้ามีคำว่า นาที มีเวลา ไม่ใช่ " อกาลิโก " ก็มีความ
    เป็นไปได้ว่า ว่างเปล่าจากมรรคผล และ อริยสัจจ ไม่ใช่ ธรรมะ ไม่เคยสัมผัส

    ถ้าจะให้ วิจารณว่า เป็นคำว่า นาที ตามอำนาจของ ฉันทะลักษณ์ กาพย์กลอน
    นี่ก็เห็น หรือ ชี้ชัดได้ว่า ยังตกเป็นทาสของ สังขาร โดย อำนาจแห่งฉันทะลักษณ์
    บังคับให้ กระทืบธรรม ไม่เอาธรรมเป็นใหญ่ ปราศจาก อิสระจากขันธ์5 อย่างสิ้นเชิง
     
  11. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    คำว่านาทีคือภาษาสมมุติให้กับบุคคลทั่วไปรู้ว่ามันละเอียดแค่ไหน แต่ถ้าผู้เข้าถึงซึ่งธรรมย่อมรู้ว่า นาทีเป็นภาษาสมมุติ จริงๆมันละเอียดยิ่งกว่าจะจับนับได้ (คุณเอกวีร์ก็รู้) แต่ยังอุตส่าห์มองข้ามเพื่อหาเรื่องวิพากษ์วิจารย์ตามความพอใจอะนะ ToT
     
  12. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    คำว่า มีบุญ บุญในพุทธศาสนา หมายถึง บารมี

    ไม่ใช่ บุญ ที่เอาเข้าตัว หรือ ธรรมลามก

    บารมีนั้น เขาจะไม่สนใจ ความสูง ความต่ำ ความสั้น
    ความยาว เบื้องหน้า เบื้องหลัง ซึ่งเป็นเรื่องของ ตัณหากัดกบาล
    ทั้งนั้น กระทำบารมีแล้ว ทะลึ่งไปนั่งตรึกเรื่อง คิว ...ส้นตี แล้วหละ

    ถ้าใส่ใจ ความสูงความต่ำ ฯลฯ ความแตกต่าง เพียงนิดเดียว เขา
    ไม่เรียกว่า มีบารมี มีบุญ เป็นเพียงเพียง อาการ มารยา สาไถย
    หรือ ไถจิตล้วนๆ

    การวางจิต ทำโน้น ทำนี้ เพื่อ ทวงเอาผล ในเบื้องหน้า เขาเรียก
    คนจานลาย ด้วยซ้ำ

    การลงมือกระทำลงไป โดยศรัทธาเต็มเปี่ยมว่า ย่อมรู้ชัดการมีผล ไม่ใช่ไม่มีผล
    แต่ผลจะเกิดเมื่อไหร่ ไม่มีการคำนึงถึง ไม่มีพะวัก พะวง วางแผน คาดการณ์
    หรือ คิด ด้น เด้า เดา เอา นี่ถึงจะเป็น บุญบารมี ของคนรู้จักการภาวนา
    ตามความเป็นจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2015
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ถ้าใช้ ประกบ กับ กิจอื่น ก็จะอนุโลม

    แต่ถ้า ใช้กับคำว่า " รู้ " ซึ่งเป็น กิจในอริยสัจจ ไม่มี
    หรอกฮับ เรื่องเงื่อนเวลา ที่จะ กลายเป็น ทิฏฐิ เข้า
    มาทับ แสดงอาการของ คนที่ หลงคิด ไม่มี สมาธิ

    ซึ่ง....

    กิจการรู้ ที่ปราศจากเงื่อนเวลา ก็บอกไปแล้ว คนบางคนในที่นี้ ยังอาจจะต้อง
    อาศัยอีก สองแสนมหากัปป กว่าจะรู้ได้ว่า เขา รู้ กันยังไง คนที่คอยแกว่ง
    กล้วยติดกันหลายๆใบ คงไม่ต้องพูดถึง !!!


    สังเกตสิ ตอนนี้ คนบางคนที่อ้างว่า พูดจากประสบการณ์ มันบ้อท่า

    มันมีแต่ จะหยิบจับธรรมก๊อปปี้ ลอกคนอื่นมา คัดง้างเท่านั้น ทำไม่ได้มาก
    ไปกว่านั้น จนปัญญา !!! ขอใช้ หลุมพลาง ที่ง่ายๆ เรื่องการคาบเกี่ยว
    ครูบาอาจารย์ เพื่อหวังผล ในเรื่อง การก่อม๊อบ ใช้ จิตวิทยาแบบเด็กเล่นขายของ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2015
  14. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    การที บุรุษ คนหนึ่ง ไม่สามารถ ก้าวขึ้นมาข้างหน้า เพื่อ พิสูจน์ธรรม

    แต่ จำยอมให้ กระโปรงของพวกมากกล้วย แกว่งข้างหน้า แล้ว คอยสนับสนุน
    ให้บุก คอยอนุโมทนาให้กำลังใจ เพื่อให้รุกรบ อันนี้ เขาเรียกว่า .......................
     
  15. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ไม่เห็นด้วยนะคะ กับประโยคนี้ การมองผู้อื่นเพียงฉายฉวย แล้วกล่าววาจาด้วยถนัดธรรม ถ้ากล่าวด้วยจิตดี มีเมตตากับความปราถนาดีอยากให้คนได้เข้าใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น นั่นย่อมมีคนโมทนาสาธุมากมาย แต่ถ้ากล่าวด้วยทิฐิมองคนอื่นว่าไม่ดี ก็ควรจะย้อนดูตัวด้วยว่าเหตุใดมิตรจึงมีเพียงหยิบมือ เรื่องเพศ เรื่อง รู้ ก็เป็นภาษาสมมุติเหมือนกัน คนมีคุณธรรมสูงจะไม่มองที่จุดนี้หรอกค่ะ
    ถึงจะบอกว่าเป็นเอกลักษณ์สำนวนคุณเอกวีร์ แต่การพูดจาภาษาธรรมมะ หากแม้แสดงความจริงใจ แม้ภาษาจะไม่เสนาะ ก็ยังถือเป็นผู้ควรเคารพ ไม่ใช่ไม่พอใจสิ่งใด ก็สักแต่เขียนส่ง เหยียบย่ำผู้อื่นว่าต่ำกว่าตน นี้ไม่ใช่วิสัยของผู้ทรงธรรมที่ควรเคารพ
    จะมากกว่าสองแสนอสงไข ก็ไม่ใช่กิจว่าผู้ใดจะมาวิพากวิจารย์ได้นะคะ

    ขออโหสิด้วยหากการแสดงความคิดเห็นนี้ทำให้คุณเอกวีร์ไม่พอใจ จุดประสงค์เพื่อให้กระทู้สงบ แล้วทำไมผู้มากด้วยถ้วยวจีทางธรรมและความสามารถจึงมองไม่ออก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 กรกฎาคม 2015
  16. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แมวหน้าดำเปรตคาบคัมภีร์
    กำพืดโรคจิต ชอบมโนว่าคนอื่นเลวร้าย
    อ่อนโน่น อ่อนนี่แล้วสำรากไม่หยุด ไม่ยับยั้งอารมย์
    พุดทะไม้ตีพริก
    คางคกขึ้นวอ
     
  17. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ช้าก่อน

    ท่านมีแม่ที่เคารพไหม ท่านมีศรีภรรยาที่รู้จักหน้าที่ตนเป็นอย่างดีไหม

    ถ้าท่าน มีแม่ที่เคารพ อีกทั้งศรีภรรยา ท่าน จะให้ ผู้หญิงที่ท่านรัก และ เคารพ
    ออก รบ ออกหน้าแทนท่าน หรือไม่?

    ดังนั้น การที่ นักรบ สัตบุรุษ จะ ส่งข้อความท้าทาย กึ่งตักเตือนกัน
    ถึงหน้าที่ของ บุรุษ ให้ปราม และ ชี้แจง และอัญเชิญ ผู้หญิงที่เราเคารพ
    และ รักสุดหัวใจ ให้ไปอยู่ข้างหลัง มันเป็นกิจที่เราควรกระทำต่อกัน มิใช่หรือ?


    และ จงทราบด้วยว่า

    คุงโนะบะกัม เขา ยกบริบทโศลกธรรม ของ ครูอาจารย์ มาเป็น ธงชัยนำหน้า
    ด้วยข้อความที่ว่า ละ วาง ....ทุกนาที อะไรนั่น

    คนที่ เข้าใจ และ เคารพ คำครู จะต้องทำอย่างไร

    จะแสดงอาการไม่ละ ไม่วาง ไม่สามารถเป็น พยาน ในคำของครู ที่ยกมา
    ด้วยการ แอบบบบบ แอบบบบบบ กดอนุโมทนา ส่งเสริมให้ ผู้หญิง
    ออกมา กระทืบคำสอนของครู ที่ยกมากระนั้นหรือ !?
     
  18. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ครับ แต่ก็อย่าได้เผลอเข้าใจไปว่า
    ให้ใช้ฤทธิ์อย่างระมัดระวังนะครับ

    การใช้ฤทธิ์มันจำเป็นหรือไม่หนอ
    ถ้าเป็นด้วยอำนาจแห่งบุญฤทธิ์ขอยกไว้
    อันเนื่องจากอำนาจแห่งบุญฤทธิ์ที่แท้จริงนั้น
    มิได้เกิดจากความจงใจกระทำให้เกิดขึ้นเลย

    การยังประโยชน์เฉพาะบุคคล ถ้าเข้าใจ
    แท้จริงแล้วเงียบกริ๊บ หรือเนียนมาก น้อยคนที่จะทราบ
    แต่กลับยังประโยชน์เฉพาะอย่างมหาศาลได้โดยตรง
    ถ้าว่ากันโจ่งแจ้ง มันจะกลายเป็นเรื่อง
    ของการชักนำให้เมาโลกเมาสังขารไปเสียง่าย ๆ
    เป็นการทำอันตรายต่อส่วนรวมมากว่าจะเป็นประโยชน์
    เพราะอุปาทานที่เขาและเธอยังไม่ทันจะมีกัน
    ก็อาจจะมีเพิ่มขึ้นมา มันจะเป็นบาปเป็นกรรมไปเสียเปล่า ๆ

    ยิ่งมองโดยเอาพระธรรมเป็นใหญ่แล้ว
    เอาพระธรรมคือเอาคำสอน
    อันเป็นเหตุแห่งความหลุดพ้นเป็นใหญ่แล้ว
    เรื่องอะไรที่พาติดกับดักโลก ติดกับดักสังสารวัฏ
    ติดตาข่ายแห่งมาร จึงจำต้องกวาดทิ้งให้เรียบ
    ทั้งเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและเพื่อรักษาพระธรรมเอาไว้

    เราเตือนสติกันด้วยการเอาพระธรรมเป็นใหญ่
    นั้นจึงถูกต้องแล้ว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
    ซึ่งผู้มีธรรมเป็นธง เคารพในพระธรรมย่อมเห็นชอบตรงกันด้วยดี

    อีกอย่างหนึ่ง อย่าไปปรามาสตนเองเลย ว่าบุญน้อย
    ด้อยวาสนา คงไม่อาจเห็นถ้วนทั่วในธรรมได้ในชาตินี้
    ความเห็นเช่นนี้แหละ ที่เป็นตัวขวางกั้น ไม่เป็นความเห็นอันชอบ
    เป็นความเห็นที่หลงผิด ปิดมรรคปิดผลตนเสียเอง อยู่ร่ำไป
    ควรเข้าใจเสียใหม่ อย่าประมาท จริง ๆ ฟังธรรมดี ๆ
    ทำความเห็นให้ถูกตรงอยู่เสมอ ๆ
    แล้ววิธีการไม่ต้องห่วงเลย มันไปได้เอง การปฏิบัตินี้น่ะ
    จะเป็นการปฏิบัติโดยชอบไปเองโดยปริยายครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2015
  19. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อย่ามาแถ ปลิ้นไปได้เรื่อยๆ

    กัดเขียนให้กระชับ และได้ใจความ
    เป็นไหม เขียนยาวๆ เนื้อหาไม่มีอะไร
    มีแต่ค่อนแคะน่ารำคาญมาก....
    มีวงเล็บ มีจุดๆ มีตัวจางตัวซีด
    มีเลศนัยมากมาย ศาสนาอะไร
    เขาเผยแพร่กันแบบนั้น....
     
  20. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    สงสัยจริงว่าเอดกะวีรป็นชายประเภท2 หรือเปล่า!??
    กิริยาอาการส่อไปทางนั้นจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...