กระสือที่อ่างทอง

แม่ผมเคยเล่าให้ฟัง ว่าสมัยที่แม่เด็กๆ
แถวบ้านนอกมักจะเจอผีกระสือบ่อย ผีกระสือที่แม่เคยเห็น
ไม่ได้มีหัวกับไส้แบบในทีวี เป็นแค่ดวงไฟสว่างๆ
ดวงโตๆประมาณหม้อหุงข้าว ถ้าเพ่งมองดีๆ จะเห็นเงา
เป็นรูปหน้าคนที่เป็นกระสืออยู่ในดวงไฟนั้น
แล้วคุณพ่อของแม่ผม(คุณตาของผมนั่นเอง)ก็ชอบชวนชาวบ้าน
เอาสุ่มไก่มาไล่จับกระสือ (แม่บอกว่ากระสือกลัวสุ่มไก่
เพราะกระสือถ้าโดนสุ่มครอบไว้ จะไปไหนไม่ได้)
แต่จากนั้นเค้าจะจัดการยังไงต่อ แม่บอกว่าจำไม่ได้แล้ว
เพราะตอนนั้นแม่ยังเด็กมาก

 

เคยได้ยินช่างก่อสร้างบ้าน บอกว่าตอนกลางคืนเห็น ไฟเขียวไฟแดงลอยอยู่เหมือนกันค่ะ

 

ผมดูแล้ว รู้สึกว่า จะรวมหัวกัน นะ .................. เพราะดูจากที่ผู้ชายถือไฟฉาย พูด เหมือนพูดไม่เต็ม ปาก และการแต่งตัว แบบนั้น จะไปหานกหาหนูยังงัยล่ะ

 

กระสือมีจริง ปู่ย่าตายายและคุณแม่ สมัยก่อนทำนาอยู่ตามทุ่งค่ะ คุณแม่บอกว่า คนสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ในชนบท เช่น ในจังหวัดสุรินทร์ แม่ น้าๆ และคนในหมู่บ้านเจอกระสือและพวกผีโพง กันบ่อย ป้าเคยเจอเปรตตามทุ่งนาค่ะ แต่ยายบอกว่า กระสือไม่ใช่ผีวิญญาณจากคนตายค่ะ กระสือ กระหัง ปอบ ผีโพง เป็นพวกเล่นของค่ะ เป็นอวิชชาทางไสยศาสตร์ สมัยก่อนมีมาก สมัี้ยนี้หายากมากแล้วค่ะ เพราะไม่มีคนที่จะสืบทายาทรับช่วงต่อค่ะ ทุกวันนี้ ก็มีแต่ไหว้ผีู่ปู่ผีย่า หรือ ผีฟ้ากันมากกว่า จนกลายเป็นประเพณีท้องถิ่นไปแล้ว

 

ส่วนตัว เคยเห็นแบบว่าไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้เห็น อะไร แปลกๆ แบบนี้มาก่อน เรื่องนี้เกิดนานแล้วค่ะ ประมาณ 10 กว่าปี ตั้งแต่ยังไม่มีมือถือใช้ เป็นสาวแรกรุ่น บ้านอยู่ที่อุดร (ตัวเมือง)
มีเพื่อนๆพี่ๆ พากันนัดกันจะไป ตั้งแค้มป์ ที่ต่างอำเภอ (อ.เพ็ญ) ที่ ที่ ไป เป็น สวนในป่า ที่ไกลจากหมู่บ้านออกไป มีสวนมะม่วงเป็นไร่ๆ มีเล้าไก่ และมีกระท่อมเล็กๆ สำหรับพัก (เป็นสวนของญาติพี่ๆที่ไปด้วยกัน) ตกค่ำ ก็พากันก่อกองไฟ ย่างเนื้อ และพากันดื่ม อย่างสนุกสนาน ดีดกีต้าร์ ร้องเพลง ตกดึก ซักประมาณ ตี2-3 อากาศเริ่มเย็นมากขึ้น คนที่นอนมองดูบนฟ้า ก็ร้องขึ้นว่า เฮ้ย ดวงไฟอะไรเป็น สี สี กระพริบ ได้ด้วย พวกเราทั้งหมดเลยหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่แล้วพากันเพ่งไปที่ดวงไฟ ดวงนั้น มันลอยอยู่ไกลพอสมควร และก็ลอยใกล้ เข้ามา ใกล้เข้ามา ทางพวกเรา พร้อมกับกระพริบ กระพริบ เป็นแสงสีเขียว แดง พากันตื่นเต้นมาก แต่ไม่กลัว (เพราะอยู่กันเป็น 10 )ซักพักดวงไฟหายไป เราก็พากัน คุยกัน ว่าใช่อย่างที่ พวกเราคิดกันรึเปล่้า ทันใดนั้นเอง เสียงไก่ในเล้าเหมือนกับแตกตื่นอะไรซักอย่าง ร้องกันทั้งเล้า เพราะมันห่างที่เราตั้งแค้มป์ ไม่กี่ก้าว (ตอนนี้เริ่มหาผู้กล้า ที่จะเข้าไปดู) สรุป ไม่มีใครไป แต่จับกลุ่มกันไปพร้อมกับถือไม้ยาวๆ เพื่อที่จะไปเคาะเล้าให้อะไรก็ตามที่มารบกวนไก่ในเล้า ให้ออกไป (รู้สึก ว่าช่วงเวลา ตี3ถึง 6โมง เช้าเนี้ย เป็นช่วงที่ยาวนานที่สุด พอเช้าเริ่มเห็นแสงสว่างพวกเราก็ เริ่มออกสำรวจพื้นที่ เพราะตอนมาถึงนั้น ก็เย็นๆจะค่ำและ แล้วสิ่งที่พวกเราเห็นนั้น มันไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นอย่างนั้นได้ พวกเราต่างร้องออกมาพร้อมๆ กัน มันเป็นไก่ ตัวเล็ก บ้าง ขนาดกลางๆ บ้าง พาดอยู่ตาม ต้นมะม่วง เป็นเกือบ 10 ตัว และที่ทำให้ร้องกันได้ขนาดนั้น ก็ เพราะว่า ทุกตัว ถูกคว้านข้างในออกหมดทุกตัว เหมือนกับว่าโดนฉีกพุงแล้วเอาในข้างไปหมด เหลือแต่ซากตัวไก่ ห้อยตามต้นมะม่วง จากนั้นพวกเราก็ รีบพากันออกจากสวนป่าแห่งนั้นทันที บรืออออ จดจำจนวันตายเลย อย่าคิดว่าสิ่งพวกนี้ไม่มีจริง เรายังไม่รู้อะไรอีกเยอะ

 

เมื่อคืนผมฝันเห็นกระสือผู้ชายตั้งแต่คอลงไปเป็นไส้ตับปอดหัวใจเหมือนภาพกระสือตามตำรา กระสือหันมายิ้มให้ผมอีก

 

เฮ้อ! นึกว่ามีสาระ หลงผิดแล้วเรา

 

ผมอยากรู้ว่าจะมีจริงไหม

 

รอความจริงต่อไปครับ


- -+ เห็นแต่คนแก่สมัยก่อนเล่าให้ฟัง มีจริง

 

ได้มีการพิสูจน์แล้วจากรายการ บันทึกลึกลับ
แต่ก็ไม่ชัดเจน ไม่เห็นจะๆ
อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณ ของใครของมัน นะครับ

 

ผมว่าเรื่องนี้ไม่น่าสนใจ เพราะมันไม่ได้ทำให้เราบรรลุธรรม หรือหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้แต่อย่างใด จะมีจริง หรือไม่มีจริง ก็ปล่อยให้มันเป็นไปของมันอยู่อย่างนั้นดีแล้วละ