mead

แฮะๆ อันนี้เป็นลิงค์คำนำที่เขียนโดยผู้แปล http://board.agalico.com/showthread.php?t=4226

อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ มันจะไม่มีในนั้นที่ส่งไป

อันก่อนยาวไปแล้วเลยขึ้นอันใหม่ล่ะกัน

"เพราะวิญญาณหลังจากตายไป อารมณ์ก่อนตายเป็นยังไงหลังตายดวงจิตก็จะมีอารมณ์แบบนั้น
ส่งผลถึงนรก-สวรรค์ ภพภูมิที่จะไปเกิดด้วย(เคยอ่านมา)"

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1080895

เคยได้ยินมาอย่างที่คนนี้เค้าว่ามาเหมือนกัน แต่ใครเป็นคนว่า และเห็นจากไหนอันนี้ก็จำไม่ได้แล้ว ถ้าคุณ Mead หรือใครคุ้นๆ หรือเคยอ่าน ช่วยนำมาแบ่งปันก็ดี

อันนี้อีกอันครับ http://www.thaidoweb.com/freeboard/show.php?Category=anothai&forum=1&No=57&picfolder=eG5Te0841&PHPSESSID=7bdde376d58d9acc47e07d50a4ed97b3&PHPSESSID=7bdde376d58d9acc47e07d50a4ed97b3

สรณะ แล้วกรรมก็จะพาเราไปในที่ที่สมควรไป
ถ้าเราพกเอาอารมณ์โกรธไปด้วยมันก็จะติดตัวเราไปด้วย พกเอาอารมณ์เกลียดไปด้วย มันก็จะฝังจิตฝังใจเราไปตลอด

เคยคิตบ้างไหมว่าทำไมบางคนจึงรักจึงชอบอะไรไม่เหมือนกัน ก็เพราะแต่ละคนมีสภาวะจิตไม่ว่าก่อนตายหลังตายที่แตกต่างกันนั่นเอง
หากผู้ใดเป็นสุขก่อนตายนึกถึงคุณความดีที่ทำมากรรมนั้น ก็จะนำพาเราไปสู่สิ่งที่เราปราถนาอีกครั้ง


จ๊ากกกกก ทำหลังบ้านคุณ Mead รกไปหมดเลยยยยย

คุณ Mead...
เข้าใจว่าอาจจะคิดสงสัยที่ว่า สวรรค์ นรก เป็นสิ่งที่สร้างมากันเองหรือ จริงๆ แล้วมันไม่มีตัวตนใช่มั๊ย

สำหรับความเข้าใจของผมก็คือว่า "มี" นะครับ ความเชื่อของเราที่ปลูกฝังกันมา เป็นตัวสร้างสถานที่นั้นขึ้นมา จิตวิญญาณที่มีความเชื่อเหมือนกัน ก็จะไปรวมอยู่ด้วยกัน "ความเชื่อสร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา" สิ่งนี้นอกจากจะหมายถึงสิ่งแวดล้อมในกายภาพแล้ว ยังรวมถึงสิ่งแวดล้อมในทางจิตอีกด้วย

เรื่องนี้จะเห็นได้ในหนังสือของฝรั่งที่สะกดจิตย้อนอดีตอีกด้วย ส่วนมากแล้วคนไข้จะบรรยายถึงวิญญาณที่เห็นในความตายไม่เหมือนกัน บางคนก็เห็นเป็นเทพเจ้าของอียิปต์ ฯลฯ แต่ว่าประสบการณ์ที่เจอจะคล้ายๆ กัน คนเขียนก็สรุปว่า เป็นที่ความเชื่อของคนไข้ด้วยว่าจะทำให้เห็นภาพแบบไหน

คุณ Mead อาจจะยังไม่ได้อ่านคำนำของหนังสือ อานุภาพรัก ที่เขียนโดยคนแปลที่เป็นนักสะกดจิตเหมือนกัน ประโยคที่ยกมานี้ดูจะย้ำว่า สิ่งที่เห็นในภาวะหลังความตาย ความเชื่อจะเป็นตัวสร้างขึ้นมา (เอ ส่งไปให้คุณ Mead อ่านด้วยหรือเปล่าหว่า)

ตั้งแต่ตอนเด็กๆ มาแล้ว ดิฉันเคยสงสัยมาตลอดว่า ทำไมสวรรค์ที่คนไทยตายไปเห็นแล้วกลับมาบอกก็เป็นลักษณะหนึ่ง สวรรค์ที่คนจีนตายไปเห็น แล้วกลับมาบอกก็เป็นอีกลักษณะหนึ่ง แล้วสวรรค์ของฝรั่งก็เป็นรูปลักษณ์อีกแบบหนึ่ง ดิฉันก็เลยสงสัยว่า แล้วตกลงจริงๆ สวรรค์จะเป็นลักษณะใดกันแน่

ต่อมา เมื่อทำวิจัยถอยจิตบำบัดให้คนหลายๆ ชาติ หลายๆ ความเชื่อ ก็พบว่ารายละเอียดบางส่วนของประสบการณ์จะเป็นภาพสะท้อนของ "คติหรือความเชื่อ" ที่ถูกปลูกฝังมาในแต่ละราย ดังเช่น ภาพของสวรรค์ การแต่งตัว หรือลักษณะของสถาปัตยกรรมต่างๆ บุคคลที่ไปพบ ตลอดจนกิจกรรมที่ไปทำ หรือไปเห็น เป็นต้น มักมีส่วนได้รับอิทธิพลสะท้อนจากสิ่งที่เจ้าตัวเคยเชื่อ หรือจากสิ่งที่ถึงจะไม่ได้เชื่อแต่ก็เคยได้ยิน ได้เห็นมาบ้างจนอยู่ในความทรงจำ"

แล้วในสภาพที่เป็นจิตแล้ว ถ้าจิตคนละดวงที่มีความเชื่อไม่เหมือนกันมาเจอกันละจะเห็นเป็นยังไง คำตอบของผม(ตามความเชื่อ ณ ตอนนี้)ก็คือจิตแต่ละดวงจะเห็นจิตอีกดวงตามความเชื่อของจิตนั้นครับ จิตที่เชื่อว่าเทวดาแต่งตัวแบบไทย ก็จะเห็นอีกดวงแต่งชุดไทย เหมือนอย่างที่พี่นักเขียนบอกว่าเห็นจิตวิญญาณที่มาหาเป็น อ. คนนั้นคนนี้

ถ้าอย่างนั้น หลังตายแล้วจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ขึ้นอยู่กับจิตก่อนตายเหรอ

ที่คุณเดรดเขียนว่า

"จากภาวะนี้ จะมีช่วงหนึ่ง ถ้าพิจารณา จาก ช่องว่าง กาลเวลา ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการระลึกถึง เหมือนกับว่า ก่อนตายรู้สึกนึกคิด อย่างใดก็จะเกิดอารมณ์ และจินตนาการนั้นๆ เช่น ถ้าระลึกถึงสิ่งที่ไม่ดี ที่รู้สึกผิด จิตก็จะสร้างภาพของบรรยากาศ ทุกข์ทรมานขึ้นมา เปรียบเหมือนนรก แต่ถ้า ระลึกได้ถึงความดีงาม จิตก็จะจินตนาการถึง ความสุขสงบ เปรียบได้กับ สภาวะสวรรค์

ถ้าเช่นนั้น กรณีที่ ทางพุทธสอนให้คิดดีๆ ระลึกถึงแต่เรื่องดีๆ ก่อนตาย ก็อาจมีความหมายไปในแนวนี้ ได้มั๊ยค่ะ"

คิดว่าเป็นอย่างนั้นจริงครับ ก่อนที่จะตาย ถ้าเราคิดแต่สิ่งดีๆ จิตเราก็จะไปสวรรค์ ถ้าเราระลึกถึงสิ่งไม่ดีที่เราทำหรือบาปเราก็จะลงนรก เคยเห็นมีคนบอกในเวปนี้เหมือนกันครับ กระทู้ในห้องไหนก็จำไม่ได้นานแล้ว

ในขณะตายไป วิญญาณที่ออกจะจับเอาอารมณ์สุดท้ายเป็นที่ตั้งครับ ว่าจะไปไหน ถ้านึกถึงกรรมดี จิตก็จะผ่องใส ก็จะไปสวรรค์ จิตหมองก็ไปนรก

อ้าว ไม่ได้เป็นที่กรรมเหรอ?

ก็กรรมนั่นแหล่ะครับที่ทำให้สภาพก่อนตายคนเราจะเห็นกรรมอะไรที่เราทำไว้

คำสอนในศาสนาพุทธเขียนไว้ว่า

"ถ้ากรรมนิมิตเป็นฝ่ายกุศล เช่นเห็นโบสถ์วิหาร เห็นพระ ภิกษุที่เคยบวชให้ตนเองหรือบวชลูก บวชหลานเป็นต้น มรณาสันนวิถีก็หน่วงเอาอารมณ์นั้นมาให้เห็นเป็นนิมิตเครื่องหมาย ..นำไปสู่สุคติ

ถ้ากรรมนิมิตเป็นฝ่ายอกุศล เช่นเห็นแหอวน เห็นหอก เห็นอุปกรณ์เครื่องประหัตประหารสัตว์ที่ตน เคยกระทำไว้เป็นต้น มรณาสันนวิถีก็หน่วงเอาอารมณ์นั้นมาให้เห็นเป็นนิมิตเครื่องหมาย ..นำไปสู่ทุคติ"

http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=11155&page=1

และ

"รวมความว่าในวาระสุดท้ายของชีวิต จิตของเราระลึกถึงกรรม กรรมนิมิตหรือคตินิมิตประเภทใด เราจะไปเกิดในภพภูมิอันสอดคล้องกับกรรม กรรมนิมิตหรือคตินิมิตประเภทนั้น ดังนั้นบางคนวางแผนลักไก่คือชั่วชีวิตเขาทำบาปมากกว่าบุญ เขาจึงกะจะนึกถึงกรรมดีนิดหน่อยนั้นก่อนตาย ถ้านึกถึงพระด้วยตนเองไม่ได้ ก็สั่งลูกช่วยเตือนความจำ คนเรามักจะเตือนคนใกล้ดับจิตให้นึกถึงพระเอาไว้แต่ใครทำบาปไว้มากคงไม่อาจหลอกตัวเองก่อนตายได้ ดังมีเรื่องเล่าว่า เสี่ยคนหนึ่งเป็นพ่อค้าขายข้าวเปลือก ชอบโกงชาวบ้านด้วยวิธีตวงข้าวเปลือกไม่เต็มถัง พอเสี่ยคนนี้ใกล้ตาย
ลูกสาวก็กระซิบให้เตี่ยนึกถึงพระด้วยการบริกรรมว่า สัมมา อะระหังๆ แต่เตี่ยบริกรรมตามว่า สัมมา กี่ถังๆ"

http://ecurriculum.mv.ac.th/dhamma/dhammathai/webboard/Wc7c0f260e1b14.htm

และ

"หลักการมีอยู่ว่า คนที่กำลังจะตาย หากมีอารมรณ์จิตผ่องใส ตายไปแล้วก็จะไปอยู่สุขคติภูมิ แต่หากมีอารมณ์วิตก เศร้าหมอง เป็นทุกข์ ก็จะไปสู่ทุกข์คติภูมิ หรือ อบายภูมิตามหลักความเชื่อ ตายแล้วไปเกิดที่ใหม่ บางคนเถียงว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง คนที่ทำไม่ดี ทำอกุศลมามากๆ แล้วมาทำอารมรณ์ดีๆก่อนตาย ก็ได้ไปสวรรค์ซิ คำตอบคือเป็นไปไม่ได้ นั่นคือคนที่ทำไม่ดีมาทุกวันจนเป็นนิสัย และจะมาเปลี่ยนตอนก่อนตายที่อยู่ในขณะวิกฤติได้อย่างไร"

ดังนั้นผมจึงไม่เห็นว่า หลังตายเราจะไปอยู่ที่ไหนก็อยู่ที่จิตเราระลึกขึ้นมา จะขัดกับคำสอนของพุทธศาสนาตรงไหน แต่ว่ากลไกที่จะทำให้จิตเราระลึกนั่นแหล่ะ กลไกของกรรมจะมาทำงานตรงส่วนนี้

ไม่รู้ว่าที่เขียนมานี่จะพอตอบข้อสงสัยอะไรได้บ้างหรือเปล่า

อ่า ดูท่าจะเครีดยๆ กันหน่อยนะเนี่ยหลังบ้าน สงสัยเพราะคำถามอันหลังๆ ที่กระทู้และคำถามที่ไปถามพี่นักเขียนหน้าบ้านแน่เลย [IMG]

ขอตอบรูปของคุณเซลล์น๊าาา

ภาพแรกก็เหมือนกับว่าเราโฟกัสไปที่บุคลิคภาพเดียว แต่ภาพที่สองคือภาพของจิตวิญญาณรวมทั้งหมดไงครับ

อย่างที่พี่นักเขียนเขียนบอกว่า จิตวิญญาณรวมก็มีทั้งที่ กำลังพัฒนา และพัฒนาแล้วอยู่

ส่วนเรื่องสวรรค์นั้น ถ้าความเชื่อมีส่วนในการสร้างสิ่งแวดล้อมของสวรรค์ ก็จะทำให้ตอบได้ว่า ทำไมเทวดาฝรั่งกะเทวดาไทยไม่เหมือนกัน

ถ้าอ่านหนังสือที่ผมส่งไปให้ถึงตอนคณะบุรุษก็น่าจะเห็นอะไรนะครับ(แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเทวดานะ)

อูย...งานตรึมเลย ทำม่ายทัน ทำม่ายทัน ดึกแหงเรยคุณ mead

คุณเซลล์ โพสรูปแบบ เล่นมุมกล้องซะด้วย มุมมอง..ที่แตกต่าง คิดอะไรอีกละซิ..อิอิ

[IMG]
สารจากอาจารย์อนาลัย เปลี่ยนมุมมองเรื่องกฎแห่งกรรมได้มากเลยครับ
ท่านอธิบายถึงสิ่งเดียวกันนี้ ในมุมมองที่เต็มไปด้วยความรักแห่งจักรวาล
คำว่ารับโทษ หรือใช้กรรม เป็นกฎเกณฑ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อควบคุม อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด และจินตนาการของมนุษย์ด้วยกันเอง

สิ่งเหล่านี้ไม่มีจริงในทัศนะของจักรวาล

มีแต่คำว่าเรียนรู้ เพื่อเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ ตามสัจจะที่เราให้ไว้กับตัวเราเอง (จิตวิญญาณรวม หรือ จิตจักรวาล)

เพราะเหตุนี้ เราจึงผิดสัจจะที่เราให้ไว้กับตัวเราเองไม่ได้

คำพูดผมอาจจะดู extreme ไปนิดนึง ในการให้ปฎิวัติความคิด ความเชื่อของเราเอง บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่ามีงูรัดคอเราอยู่ เราจะตระหนักรู้ได้ก่อต่อเมื่อเราเห็นงูที่รัดคอเราไว้อยู่จริงๆ และวางมันลง

รูปข้างบนนี้ในความคิดผม สะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่าง ระหว่างมุมมองของมนุษย์ กับมุมมองของจักรวาล อิอิ

คุณ mead เห็นอะไรในภาพบ้างครับ (||)

เรื่องความเชื่อเนี่ย คุยกันลำบาก ถ้าต่างยึดถือ กันเหนียวแน่น อันตรายเหมือนกันค่ะ ในการแสดงความคิดเห็น ถ้าตีความกันผิดนิดเดียว เป็นเรื่องเลย อันตรายมากๆ(เห็นหลายกระทู้แระ)

ตอนนี้ขอเปิดรับข้อมูลไปเรื่อยๆก่อน ...อันใหม่ อันเก่า เริ่มจะตีกันยุ่งแร้วค่ะ แบ่บ รักพี่ เสียดายน้องอ่ะ ถ้าจะ deleat ไปเรยก็แหม.. ฝากไว้ที่ reclycle bin ก่อนได้มั๊ยค่ะ เผื่อ กู้กลับมาใช้อีก...อิอิ;)

เข้าใจคุณ zip นะครับ ที่ไปถามพี่นักเขียนหลังห้อง
เพราะเรื่องที่กระทบเหล่านี้ ต้องพูดคุยกันหลังห้องน่าจะเวิร์คครับ หน้าห้องคงต้องใช้คำกลางๆ อิอิ

จะหายคันก็คราวนี้หละครับ คุณ mead
หากช่วยกันแสดงความคิดเห็น จะเจอจุดคันได้เร็วขึ้นครับ
แต่บางครั้งเพื่อนๆอาจจะยังไม่ค่อยกล้าแสดงความเห็นเท่าไหร่ เพราะเกรงว่าสิ่งนั้นอาจจะไปกระทบกระเทือนต่อความเชื่อของศาสนา และความเชื่อในสังคมครับ อิอิ

น่านซิค่ะ...ตอนนี้ข้อมูล หลั่งไหลมาเรื่อยๆ ไม่มีหยุด คำถาม-คำตอบ พรั่งพรู เนื้อที่จัดเก็บเริ่มเต็ม ส่งสัย ต้องเข้าโปรแกรม disk defragmenter จัดเรียงไฟล์ เพื่อหาที่ว่างในสมองหน่อยแล้วค่ะ...กระจายเกิน

ชอบคำพูดของคุณ mead ที่ว่า ต้องเรียบเรียงข้อมูลใส่แฟ้ม
คำนี้แสดงให้เห็นถึงความเปิดกว้างมากๆครับ เพราะถ้าเราคิดว่าแฟ้มเราเต็มแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องนำข้อมูลในแฟ้มมาเรียบเรียงใหม่
คำถาม คำตอบ ในห้องวิทย์ ทำให้ผมต้องมาเขย่าแฟ้มอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยเหนื่อยที่จะเขย่าเลยครับ อิอิ

[IMG]
สวัสดีครับ

คุณ mead ครับ ไม่กล้าฟันธง เดี๋ยวหน้าแตก อิอิ
มันเหมือนกับตอนนึงที่ฝันถึงตัวเลข และยามตื่นเราเข้าไปสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่เป็นเรื่องเดียวกับในฝัน ก็เลยถึงบางอ้อประมาณนี้ครับ
หากตัดคำว่ากาลเวลาทิ้งไป ข้อมูลความฝัน กับข้อมูลความทรงจำที่เราระลึกได้นั้น ไม่มีความแตกต่างกันเลย
ผมเลยคิดว่า หากมนุษย์จะเลือกเส้นทางเดินให้กับตนเอง ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ย่อมเป็นไปได้เสมอ

สวัสดีครับ

เรื่องรูปนั้นแต่ก่อนก็เคยเจอครับ แต่ไม่บ่อยและก็ไม่หนักขนาดนี้แค่ขึ้นเตือนเฉยๆ ตอนนั้นก็งงว่าทำได้ยังไง ตอนนี้เข้าใจแล้วครับ

งานวันนี้ สงสัยเครียดนิดๆ เพราะว่าต้องเสร็จวันนี้ -*-

สวัสดีค่ะ คุณมีด ขอบคุณค่ะ เช้านี้เข้ามา หนังสือเรียกเข้าประชุมก็วางไว้ที่โต๊ะแล้ว... งานมาไม่ขาดเลย สงสัยกลัวเราจะว่างเนอะคุณมีด
ขอให้คุณมีดมีความสุขตลอดวันเช่นกันค่ะ ...(smile)

[IMG]Hi...
[IMG][IMG]

อิอิ...ตัวไรไม่รู้ ดูออกมั๊ย

หวัดดีครับคุณ mead วันนี้ไปธุระเพิ่งกลับมา
ยังไม่ได้วาดรูปอะไรเลยครับ อิอิ
เมื่อคืนฝันแปลกๆหลายเรื่อง ตื่นขึ้นมาสมองบวมเลย ต้องมานั่งตีความฝันแต่ละตอนอยู่

Bye Bye...