My Way...เส้นทางความสุข ของ อี๊ด วงฟลาย

My Way...เส้นทางความสุข ของ อี๊ด วงฟลาย


​

อี๊ด วงฟลาย ผู้ชายมาดร็อก ผู้มีโลโก้ประจำตัวเป็นแว่นกันแดดสีดำ กับลีลายกไม้ยกมือขณะร้องเพลงคนนี้ หายหน้าหายตาไปนานพอสมควร แต่เมื่อเขากลับมาปรากฏตัวผ่านสื่ออีกครั้ง กลับทำให้เรารู้สึกแปลกตาและแปลกใจ เพราะไม่เพียงเห็นเขาในมาดพิธีกรเป็นครั้งแรกเท่านั้น แต่รายการที่เขาพาผู้ชมไปท่องเที่ยว พร้อมดูงานในโครงการพระราชดำริของพระบาท-สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังเผยให้เห็นความเป็นตัวตนของเขาในอีกแง่มุมหนึ่งด้วย


"ผมเป็นอาสาให้กับทางมูลนิธิพระดาบส ไปร่วมงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ อย่างเช่น ทาง กปร. (สำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) ทำให้ได้ไปเจอโครงการพระราชดำริ การที่เราได้ไปเห็นตรงนั้น ได้เห็นป่าที่ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงกลับมาปลูกป่าได้ใหม่ เห็นดินที่เสื่อมโทรมแบบที่ไม่สามารถปลูกอะไรได้แล้วเอากลับมาทำนาข้าวได้ใหม่ หรือบางที่ผมเห็นกับตาเลยว่าน้ำไหลผ่านมาหน้าบ้านชาวบ้านหลังจากที่แห้งแล้งมานาน ทำให้ผมคิดอยากให้คนอื่นมีโอกาสได้เห็นด้วยเลยมีความคิดว่าอยากทำรายการเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างน้อยก็เป็นการตอบแทนพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงทำเพื่อประชาชนมานานกว่า 60 ปีแล้ว"
"...ปกติวิถีชีวิตผมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนะ คือผมชอบเที่ยว ชอบพาครอบครัวไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ชอบเดินทาง ชอบขับรถ ก็เลยอยากทำ อีกอย่างคือเป็นสิ่งที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ด้วย ผมคิดว่าประโยชน์ที่แท้จริง ที่เราเข้ามาอยู่ในวงการนี้ ได้เป็นที่รู้จักในสังคมคือสิ่งที่ได้ทำในวันนี้แหละ ที่เราได้เผยแพร่สิ่งดี ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้กับเรา ผมคิดว่าผมได้ใช้ประโยชน์ในตัวเองก็ตอนนี้แหละ ที่ผ่านมาเข้าใจได้ว่าเป็นอาชีพที่เรารัก แล้วก็ต้องต่อด้วยธุรกิจเข้าไปช่วยกัน เพื่อที่จะให้เกิดรายได้ ที่จะดูแลครอบครัว ดูแลตัวเอง แต่ส่วนที่ทำในวันนี้จะแยกออกมา งานดนตรีก็ยังทำอยู่แต่ไม่ได้ทำหัวปักหัวปำอย่างเมื่อก่อน เอาแค่พอประมาณ ตามที่เป็นไปได้"
อย่างที่เขาบอกเล่าไว้ตั้งแต่ต้นว่ารายการนี้มีที่มาจากการมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสกับโครงการดี ๆ ในพระราชดำริ ถึงอย่างนั้นยังเทียบไม่ได้กับเมื่อได้ลงมือทำรายการอย่างจริงจัง เพราะการเดินทาง ในแต่ละเทป แต่ละทริปยิ่งเพิ่มมุมมอง และเปิดความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มากขึ้นไปกว่าเดิมหลายเท่าตัว
"สิ่งที่มองเห็นชัด ๆ เลยคือสายตาที่พระองค์ท่านทรงมองเห็นอนาคต ความเป็นอยู่ของคนไทยจริง ๆ ความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน การเอาทรัพยากรที่มีอยู่ในบ้านเรามาใช้ให้เกิดประโยชน์ มีทรัพยากรดี ๆ ที่เรายังไม่ได้นำมาใช้อีกเยอะ ซึ่งหลายคนมองไม่เห็น แล้วกำลังพยายามเอาของจากที่อื่นเข้ามาด้วยซ้ำ แต่พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นว่าสิ่งไหนทำให้คนไทยอยู่อย่างยั่งยืน และอยู่อย่างมีความสุขจริง ๆ นี่คือแนวคิดเกี่ยวกับทฤษฎีความพอเพียง และแนวคิดที่ว่าคนไทยเราจริง ๆ คือเกษตรกร
ดร.สุเมธเคยพูด ผมมีโอกาสได้ฟัง ว่าเราคือควายนะ เราต้องรู้ว่าเราคือใครก่อน ถึงจะรู้ว่าจะทำอะไร จะเริ่มจากอะไร ถ้าเราไม่รู้ว่าเราคือใคร เราก็จะสะเปะสะปะไปเรื่อย เราอยากเป็นนิกกับเขา อยากเป็นเสือกับเขา ทั้ง ๆ ที่เราเป็นควาย ควายกับเสือคิดต่างกันอยู่แล้ว ควาย ไม่ได้หมายถึงโง่ แต่หมายถึงเกษตรกรรม มีสินอยู่ในผืนดินนี้เยอะมาก ขนาดที่เราสามารถทำประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ไม่ต้องมีทุกข์ ไม่ต้องขึ้นลงกับภาวะเศรษฐกิจ มีกินมีใช้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาอะไรจากคนอื่น นี่คือสิ่งที่ผมเห็นจากการไปสัมผัส แล้วได้รู้จริง ๆ เกี่ยวกับคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง..."
ระหว่างที่พูดคุยกันสังเกตได้ชัดเจนว่าคุณอี๊ดมีความประทับใจ และรู้สึกเข้าถึงในสิ่งที่ได้มีโอกาสไปสัมผัสอย่างที่สุด ซึ่งเขาก็ยอมรับว่ามีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกไปทำรายการ ทั้งยังรู้สึกว่ามีความกระจ่าง สว่างในการใช้ชีวิตของตนเองมากกว่าที่เคยเป็น
"ผมมีความสุข ซึ่งความสุขที่ยั่งยืนมองเห็นได้นะ แต่แนวคิดเหล่านี้ค่อนข้างจะอยู่ในวงแคบ เหมือนเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่ผมคิดว่าเรื่องเศรษฐกิจยังไงก็ต้องมีวันล่มสลายแน่ ๆ เมื่อไหร่เศรษฐกิจล่มสลาย ความเป็นอยู่ที่แท้จริงของมนุษย์จะกลับมา แนวคิดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงคิดไว้ให้พวกเราคือความเป็นอยู่ที่แท้จริง ของมนุษย์ สำหรับตัวผมเองวิธีคิดเปลี่ยนไปไม่มากเพราะวิถีชีวิตของผมสบาย ๆ อยู่แล้ว และเป็นวิถีชีวิตที่ไม่ฟุ่มเฟือยตั้งแต่ต้น แต่ว่าผมสว่างขึ้น เราเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น..."
ถามเขาว่าชีวิตตอนเป็นนักร้องที่ทุกคนรู้จักกับชีวิตในวันนี้ต่างกันหรือไม่
"ไม่ต่าง คิดว่าตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ผมเหมือนเดิมนะ เพราะไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรให้มากกว่าเดิม หรือต่างออกไป วันก่อนมีคนดูรายการผมแล้วบอกว่า ได้เห็นวิธีพูด เห็นอะไรก็รู้สึกว่าเปลี่ยน แต่ผมเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เมื่อก่อนคนเข้าใจก็แค่ภาพเฉย ๆ ไม่ใช่ตัวตน เป็นเรื่องมายา ต้องแยกให้ออกว่าเป็นการแสดงที่ออกมากับรูปแบบของงาน เป็นโลกที่ผมทำให้ทุกคนรู้จักตั้งแต่แรก ด้วยแนวเพลงที่ไม่ใช่เพื่อชีวิต แต่จะเป็นแนวของยุคสมัย ภาพที่ออกมาเลยเป็นอย่างนั้นซึ่งเป็นบทบาทที่สนุกไปอีกแบบหนึ่ง แต่ถ้าทำเพื่อประโยชน์สังคมจริง ๆ เป็นเรื่องราวจริง ๆ ความจริงในตัวเราจะออกมา"

​

เครดิต... http://www.kwanruen.com

 

สาธุ สาธุ สาธุ นักร้องนักแสดงคนอื่นควรทำตามเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่สังคมและเด็กต่อไป

 

โมทนาสาธุครับ
เรียนเชิญสร้างสมเด็จองค์ปฐมพร้อมพระเจดีย์จุฬามณี(พร้อมรับวัตถุมงคลเสาร์ ๕)
http://palungjit.org/threads/เ�...��.153668/<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->