Joy maker

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย january2555, 5 พฤศจิกายน 2013.

  1. january2555

    january2555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +80
    .» เปิดตัว..."เครื่องสังเคราะห์ความสุข" (Joy Maker)
    “บางทีความสุขอาจไม่ใช่สิ่งที่เราต้องตามหา
    ทว่ามันคือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่เรายังมองไม่เห็น”
    ทุกวันนี้ ที่เรายัง “ไม่มี” ความสุข เพราะเรายัง “ไม่เข้าใจ” ความสุข
    ในสมองของมนุษย์ทุกคนมีสารสื่อประสาท (neurotransmitter)
    อยู่ 4 ชนิด ที่เมื่อหลั่งออกมาแล้วจะทำให้เรารู้สึกมี "ความสุข" คือ...
    1. โดพามีน (dopamine)
    2. เซโรโทนิน (serotonin)
    3. ออกซิโทซิน (oxytocin)
    4. เอ็นดอร์ฟิน(endorphine)
    สารแห่งความสุขทั้งสี่ตัวนี้จะทำงานร่วมกันเสมอ
    โดยการทำงานของสารแต่ละตัวจะสามารถอธิบายโดยย่อ ได้ดังนี้…

    1. โดพามีน (สารสำเร็จ)
    จะพรั่งพรูออกมามากเมื่อเราได้รับในสิ่งที่ต้องการ และเมื่อความอยากได้รับการตอบสนอง เช่น อยากกินชีสเค้กแล้วได้กิน อยากได้หอมแก้มคน ๆ หนึ่งแล้วได้หอม อยากแข่งขันได้ที่หนึ่งแล้วทำได้สำเร็จ ฯลฯ
    --
    2. เซโรโทนิน (สารสงบ)
    จะพรั่งพรูออกมามากเมื่อเรากำลังรู้สึกสงบ สบาย และผ่อนคลาย
    เช่น เมื่อเรากำลังนั่งสมาธิ เมื่อเรากำลังนอนฟังเพลงที่ชอบ
    เมื่อเรากำลังเอนกายบนโซฟาที่นุ่มสบาย ฯลฯ
    --
    3. ออกซิโทซิน (สารสัมพันธ์)
    จะพรั่งพรูออกมาเมื่อเรากำลังมีความรัก เมื่อได้ยินเสียงคนรัก ได้อยู่ใกล้คนรัก หรือได้สัมผัสคนรัก และจะหลั่งออกมามากเป็นพิเศษในแม่ที่เพิ่งคลอดบุตร ออกซิโทซินจะหลั่งออกมาทั้งในความรักแบบหนุ่มสาว แบบครอบครัว และแบบเพื่อนที่มีความผูกพันกันมาก
    โดยสารออกซิโทซินจะทำให้เรารู้สึกสบายใจ ปลอดภัย และอบอุ่น
    --
    4. เอ็นดอร์ฟิน (สารสำราญ)
    จะพรั่งพรูออกมาทุกครั้งที่เรากำลังรู้สึกมีความสุข
    ดังนั้นสารเอ็นดอร์ฟินจึงหลั่งออกมาพร้อม ๆ กับโดพามีน เซโรโทนิน
    และออกซิโทซิน นอกจากนั้น เอ็นดอร์ฟินจะหลั่งออกมามากเป็นพิเศษตอนที่เราออกกำลังกาย หัวเราะ หรือยิ้มและทำหน้าที่เป็นยาแก้ปวดจากธรรมชาติ (natural pain-killer/morphine from nature)
    ดังนั้น เวลาเรากำลังมีความสุข เราจึงรู้สึกเจ็บปวดน้อยลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ บาดแผล ความเมื่อยล้า และความทรงจำที่ไม่ดี
    ...สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะทำอันตรายอะไรเราไม่ได้เลยในขณะที่เรากำลังมีความสุข
    ::::::::::::::::::


    การท่องจำความเหมือนหรือความแตกต่างของสารแห่งความสุขทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือการตระหนักรู้ว่าสารทั้งสี่ตัวนี้ ไม่ได้มีอยู่ในสิ่งของใด ๆ ทั้งสิ้น แต่มันมีอยู่อย่างเต็มล้นในสมองของเราเอง…
    -ในแบงค์พันไม่มีสาร dopamine
    -เก้าอี้ที่นุ่มที่สุดในโลกไม่ได้ฉาบทาไปด้วยสาร serotonin
    -เสียงของคนที่เรารักไม่ได้บรรจุเอาไว้ซึ่งสาร oxytocin
    -และไม่มีอาหารชนิดใดในโลกนี้ที่ใส่สาร endorphine
    …ความสุขทั้งหมด สมองของเราเป็นตัวสังเคราะห์ขึ้นมาเอง…
    ทุกสิ่งที่อยู่ภายนอกตัวเรา ทำหน้าที่เพียง “กระตุ้น” สารความสุขในตัวเราให้หลั่งออกมา แต่สรรพสิ่งในตัวของมันเองไม่ได้มีสารแห่งความสุขใด ๆ สลักฝังมากับมัน
    -แบงค์พันเป็นเพียงเศษกระดาษน่ารำคาญ สำหรับเศรษฐีพันล้านที่ไม่เห็นคุณค่าของเงิน

    -เก้าอี้ที่นุ่มที่สุดในโลกคือความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน สำหรับคนที่เป็นริดสีดวงทวารเม็ดเบ้อเริ่ม

    -เสียงของคนรักคือความโศกเศร้าอันแสนสาหัส ถ้าเจ้าของเสียงได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว

    -และอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกก็คือยาพิษที่น่าสะพรึงกลัว ถ้าผู้กินเกิดแพ้มัน
    ::::::::::::::::::
    สรรพสิ่ง ≠ ความสุข
    สรรพสิ่ง + การปรุงแต่ง = ความสุข
    สิ่งต่าง ๆ ไร้ความหมายและไร้ความสุขในตัวของมันเอง
    แต่ใจเราสังเคราะห์ความสุขขึ้นมาจาก...
    ค่านิยม การตีความ ประสบการณ์
    ความรู้สึก (เวทนา) ความทรงจำ (สัญญา) และการปรุงแต่ง (สังขาร)
    ตั้งแต่เล็กจนโต เราปล่อยให้จิตใต้สำนึกทำหน้าที่สังเคราะห์ความสุขจากสิ่งต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ และผลของมันก็มักไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการ
    การที่มนุษย์พยายามแสวงหาความสุขจากสิ่งที่ไม่มีความสุขอยู่ในตัวของมันนี่เอง ที่ทำให้มีผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนที่แม้จะดัง รวย สวย และเก่ง แต่ก็อาจมีความทุกข์มากกว่าขอทานที่นอนห่มผ้าเช็ดตัวขาด ๆ อยู่ใต้สะพานลอย
    -ถ้าความดังให้ความสุข...คงไม่มีดาราหน้าบึ้ง
    -ถ้าความรวยให้ความสุข...คงไม่มีเศรษฐีร้องไห้
    -ถ้าความสวยให้ความสุข...คงไม่มีคนหน้าตาดีฆ่าตัวตาย
    -ถ้าเนื้อคู่ให้ความสุข...คงไม่มีคนทุกข์หลังแต่งงาน
    ::::::::::::::::::
    มนุษย์ฝากสิ่งอื่นให้ช่วยสังเคราะห์ความสุขให้ ตั้งแต่...สิ่งของ เงินทอง ความโด่งดัง คำชื่นชม สภาพอากาศ การจราจร ตำแหน่ง หน้าที่ ล็อตเตอรี่ แฟน พ่อ แม่ ลูก หัวหน้า ลูกน้อง พรรคการเมือง
    นักการเมือง หนัง ละคร เฟซบุ๊ค เกมในเฟซบุ๊ค ฯลฯ

    แต่เมื่อเรารู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่อาจสังเคราะห์ความสุขได้อย่างที่ใจเราต้องการ (อีกต่อไป) เราจึงเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เบื่อ เครียด โกรธ เซ็ง เศร้า และหลายครั้งเราก็จะโทษโลก โทษสังคม โทษคนอื่น โทษตัวเอง โทษโชคชะตา

    หรือโทษกรรมที่ทำให้เราต้องเป็นทุกข์
    ตามกฎไตรลักษณ์ซึ่งเป็นกฎเหล็กของจักรวาล

    ...ไม่มีสิ่งใดเที่ยง (อนิจจัง)

    ...ไม่มีสิ่งใดทน (ทุกขัง)

    ...และไม่มีสิ่งใดแท้ (อนัตตา)

    ดังนั้น เมื่อเราฝากความหวังให้สิ่งที่ไม่เที่ยง ไม่แท้ และไม่ทนมาสังเคราะห์ความสุขให้
    เราก็ย่อมต้องผิดหวังและรู้สึกทุกข์ใจเป็นธรรมดา
    เราทำตัวประหนึ่งเศรษฐีหมื่นล้านที่ปฏิญาณตนว่าจะไม่มีความสุขจนกว่าจะแทงหวยถูก
    ซึ่งก็หมายความว่า เรามีความสุขพร้อมอยู่แล้วในตัวอย่างมากมายมหาศาล
    เพราะตัวของเราคือแหล่งผลิตความสุขแหล่งเดียวในจักรวาล
    แต่เรากลับตั้งเงื่อนไขในการมีความสุขขึ้นมาเอง
    โดยเอามันไปฝากไว้กับสิ่งของ (และผู้คน) ที่ไม่มีความแน่นอน…
    ::::::::::::::::::

    ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร…
    หมายความว่าเราควรจะหยุดการตามล่าฝันและสรรหาทุกอย่าง แล้วนั่งนิ่ง ๆ
    เพื่อสังเคราะห์ความสุขด้วยตัวเองไปจนเหี่ยวแห้งตายใช่ไหม…
    เปล่าเลย แต่มันหมายความว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เป็นใคร หรือทำอะไรอยู่
    จริง ๆ แล้วในตัวพวกเราทุกคน “มีความสุข” ซุกซ่อนอยู่ตลอดเวลา
    แต่อยู่ที่ว่าเราจะ “รู้วิธี” สังเคราะห์มันขึ้นมาเองได้หรือเปล่า
    ซึ่งวิธีแรกในการสังเคราะห์ความสุข คือการเริ่ม “ขอบคุณในสิ่งที่มี”
    และ “ยินดีในสิ่งที่ได้” ไม่ใช่เอาแต่ “ทุรนทุรายไปกับสิ่งที่ขาด”
    เพราะการลองมองสองข้างทางเพื่อเก็บเกี่ยวความสุข ก็ไม่ได้แปลว่า
    เราจะต้องหยุดเดินเสียหน่อย จริงไหม??…
    แต่ถ้าถามว่าในโลกนี้จะมีใครสอนวิชา “สังเคราะห์ความสุข” อย่างจริงจังให้กับเราได้บ้าง
    เพราะมันช่างเป็นศาสตร์ที่น่าศึกษาเสียเหลือเกิน ก็เห็นจะมีอยู่ปรมาจารย์อยู่องค์หนึ่ง
    ท่านทรงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม…
    “พระพุทธเจ้า”
    และถ้าเราอยากพบกับท่าน ก็ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงอินเดียหรือเสียตังค์ซื้อเครื่องย้อนเวลานะ
    เพราะปรมาจารย์ท่านนี้เคยตรัสสอนลูกศิษย์เอาไว้ประโยคหนึ่งว่า…

    โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ

    “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา…”

    ::::::::::::::::::
    เสริมนิดนึง ไม่ทราบแหล่งที่มา แต่อนุโมทนาไว้ล่วงหน้าหากผู้เขียนมาพบเข้า ...สาธุ
     
  2. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    วิธีบรรเทาทุกข์นั้นพอมีอยู่แต่จะให้หมดสิ้นไปนั้นอย่าหมาย เพราะหากสุขแท้หาได้จากธาตุขันธ์แล้วไซร้พระศาสดาคงไม่เข้าสู่พระนิพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...