ไขปริศนาบั้งไฟพญานาคจากภาพถ่าย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Siani_3D, 22 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ภาพบั้งไฟ พญานาค ริมโขง อุบลราชธานี : พิสูจน์กันด้วยตา บั้งไฟพญานาค คืออะไร

    เก็บมาเล่าโดย ยรรยง สินธุ์งาม

    ผมมีแผนที่เส้นทาง สำหรับผู้สนใจ อย่าลืมแวะนมัสการ พิสูจน์ รอยเท้ายักษ์ ที่วัดบ้านท่าล้ง (ดูรายละเอียดในงานเขียนเรื่อง พบฺ Big foot ในไทย รอยใหญ่ กว่าในยุโรป 3 เท่า) ไปแต่เนิ่นๆครับ จับจองที่ตั้งแต่ตอนกลางวัน เตรียมกล้อง เตรียมร่ม อุปกรณ์กันฝน จะได้ไม่พลาด โอกาสดีๆ 1 ปี จะเวียนมา
    หนหนึ่ง




    [​IMG]
    แผนที่เส้นทางท่องเที่ยว อุบลราชธานี ไปดูบั้งไฟพญานาค บ.กุ่ม บ.ตามุย บ.ท่าล้ง

    [​IMG]

    แผนที่เส้นทางจุดชมบั้งไฟพญานาค หมู่บ้านริมโขง บ้านกุ่ม บ้านตามุย บ้านท่าล้ง


    ไปถ่ายภาพเหล่านี้ ในวันออกพรรษา ปี 2551 จาก ริมแม่น้ำโขง บ้านท่าล้ง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในคืนเดือนมืด ผู้คนต่างรอชม ปรากฎการณ์ ลูกไฟธรรมชาติ ที่พุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง ผู้คน เกือบ 5 หมื่น คน ต่างหาจับจองที่นั่งชม ตามจุดที่ทางจังหวัด หรือ อบต. หรือชุมชน ได้จัดเตรียมไว้ ซึ่งเป็นปีที่ 3 ที่ จังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ เชิญชวน พี่น้องมาเที่ยวชม ผมก็ออกเดินทาง ไปพร้อมกับคนรู้ใจ และ พี่ชาย ที่รักใคร่ชอบพอกัน


    พี่หนูเตียน ป้องพิมพ์ ท่านเป็นเจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติผาแต้ม นิสัยดีมาก แม่บ้านท่านก็อัธยาศัยไมตรี เยี่ยม ว่ากันว่า เป็นครอบครัวที่น่ารัก และอบอุ่น ท่านนำทางผมแกะรอยเท้ายักษ์ แกะรอยดึกดำบรรพ์ (วันไหนเหมาะๆ จะเล่าให้ฟัง พร้อมภาพ ประกอบ ในสไตล์ การผจญภัยของ คนค้นผี ครับ) ตามป่า เขา ซึ่งยังไม่เปิดเผย เพราะไม่มีใครรู้จัก เคยเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
    จึงรู้จักพื้นที่แถบนั้น เป็นอย่างดี
    ผมไปวันนั้นก็ไม่ได้นัดแนะ อะไรทั้งสิ้น โผล่ไปเลย ถึงที่โน่นเกือบ 6 โมงเย็น พี่หนูเตียน เพิ่งออกเวรมา ยังไม่ได้อาบน้ำ อาบท่า ผมไล่ต้อน ขึ้นรถเพื่อให้ท่านนำทาง ให้กับคณะ

    บรรยากาศ ริมน้ำโขง ขณะนั้น มืดสนิท ผู้คนเฝ้ารอคอย ดูแสงลูกไฟจาก กลางแม่น้ำโขง อย่างตื่นเต้น มีเพียงเสียงคุยกันเบาๆ ของคนนับร้อย ที่เฝ้าดูอยู่บริเวณ ศาลาริมโขง บ้านท่าล้ง ทันทีที่ มีลูกไฟพุ่งขึ้นจากน้ำ ก็จะมีเสียง ผู้คนเฮ ดังเป็นระยะ ๆ

    [​IMG]

    1. ภาพลูกไฟ สีส้มแดง ที่พุ่งขึ้นจากกลางแม่น้ำโขง ไม่มีประกายไฟ ไม่มีควัน ไม่มีหาง ทิศทางการพุ่ง ทุกลูกจะพุ่งจากกลางแม่น้ำโขง และพุ่งเอียงเข้าหาฝั่งไทย (ซึ่งต่างจากที่หนองคายจะพุ่งจากบริเวณริมน้ำ เข้าไปกลางลำน้ำ) ทุกลูกไม่มีการโค้งลง เมื่อได้ความสูงระดับหนึ่ง ก็จะดับ หายวับ ไม่มีสะเก็ด ไม่มีประกาย นี่เป็นลักษณะของ บั้งไฟพญานาค ที่บ้านตามุย บ้านกุ่ม บ้านท่าล้ง อ.โขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี และมีเฉพาะดวงไฟสีส้มแดง เท่านั้น ที่ คนมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สำหรับผม ยังมีมากกว่านั้น เพราะผมมี ตาอิเล็กทรอนิกส์ กล้องถ่ายวิญญาณ ของผมไงละครับ บั้งไฟพญานาค ก็เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่ในธรรมชาติ เพียงแต่ มนุษย์ยังก้าวข้ามขอบเขตความรู้นั้นมายังไม่ถึง ครับ และต่อไปนี้ เป็นภาพที่คนอื่น มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น



    [​IMG]


    [​IMG]
    ภาพขยายจากภาพบน
    2.ภาพบั้งไฟพญานาค ดวงสีขาว พุ่งขึ้น จากพื้นดิน ริมฝั่งโขง ให้สังเกตบริเวณช่วงหาง จะเห็นดวงกลม3-4 ดวง ในดวงกลมจางๆ แต่ละดวง เห็น ตาดำ ตาขาว ชัดเจน



    [​IMG]
    3.ภาพบั้งไฟพญานาค ดวงสีขาว ดวงนี้พุ่งจากกลางแม่น้ำโขง ให้สังเกตช่วงปลายหาง จะพบข้อสังเกตเหมือนภาพที่ 2 และในภาพนี้ มีดวงวิญญาณกลม สีเขียว หลายสิบดวง สังเกตดูจะเห็นดวงตาเป็นคู่ๆ นี่แหละภูติแม่น้ำโขง ของจริง

    [​IMG]
    เป็นภาพเดียวกันกับภาพที่ 3 เมื่อปรับแสง จะเห็นกลุ่มวิญญาณ ที่มีตา มีปาก ดังที่ปรากฎในภาพ

    [​IMG]
    ภาพเดียวกันกับภาพที่ 3 วงกลมขาว แสดง วิญญาณที่ปรากฏชัด ซึ่งในภาพมีเยอะกว่าที่วงกลมเอาไว้ ครับ



    [​IMG]
    4.บั้งไฟพญานาค ดวงสีขาว ดวงนี้ก็พุ่งจากกลางแม่น้ำโขง ให้สังเกตดูช่วงหาง

    [​IMG]
    ภาพเดียวกันกับภาพ 4 เมื่อปรับแสง ให้พอเหมาะ จะปรากฎมีรูปหน้า อ้าปากอยู่ช่วงหาง ของดวงไฟ ดังแสดงด้วยเส้นปะสีขาว ในภาพข้างล่าง

    [​IMG]
    ภาพเดียวกันกับภาพ 4 เส้นปะสีขาว แสดงรูปใบหน้า ดังที่กล่าวไว้ในภาพข้างบน




    [​IMG]
    5.ภาพนี้เป็นดวงวิญญาณภูติแม่น้ำโขง อีกดวง สีเขียวทึบ สังเกตพบ คล้ายมีดวงตา 4 ดวง ถ่ายจากกลางแม่น้ำโขง
    [​IMG]
    ภาพเดียวกับภาพที่ 5 ปรับแสงให้เหมาะสม เพื่อให้เห็นโครงสร้างอื่นๆ ได้ชัดเจนขึ้น

    [​IMG]
    จุดปะสีขาว แสดงตำแหน่งของ ดวงตา ทั้ง 4 ดวง



    [​IMG]
    6.บั้งไฟพญานาคดวงนี้ มีรัศมีสีเขียว ถ่ายได้จากกลางแม่น้ำโขง เช่นกัน (มีข้อมูลใหม่ เกี่ยวกับลูกไฟสีเขียว ในหน้าที่ 4 ครับ)




    [​IMG]
    บรรยากาศริมฝั่งโขง ศาลาท่าน้ำ บ้านท่าล้ง



    [​IMG]
    ภาพดวงไฟ(ดวงวิญญาณ)ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า


    [​IMG]
    ขณะถ่ายภาพบรรยากาศมืดสนิท ริมฝั่งโขง แต่กล้องก็จับภาพพลังงานวิญญาณได้

    [​IMG] [​IMG]
    2 ภาพนี้ เป็นพลังงานลักษณะคล้ายจานบิน ที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำโขง ขณะเกิดบั้งไฟพญานาค มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จับภาพได้ด้วยกล้อง จากการสุ่มถ่าย ท่ามกลางความมืด ( มีวิเคราะห์เพิ่มเติม ในหน้าที่ 4 ครับ )


    [​IMG]
    4 ทุ่ม รถติดยาวเป็นกิโล กลางป่า มีทั้งผู้เพิ่งเดินทางมา และผู้ที่กำลังจะเดินทางกลับ


    [​IMG]
    ห้า หกทุ่ม บั้งไฟที่โขงเจียม ก็ยังปรากฏให้ได้ชมกัน จึงทำให้นักท่องเที่ยว เดินทางกันมาตลอด
    แม้อยู่กลางป่า แต่ก็มีความอบอุ่นและปลอดภัยเต็มร้อย

    บั้งไฟพญานาค คืออะไร

    ในข้อสรุปของผม บั้งไฟพญานาค คือ ดวงวิญญาณ ครับ มีหลายสี สีที่ตาเรามองเห็น คือ สีส้มแดง ถ้าเป็นบั้งไฟพญานาค ที่หนองคาย จะเป็น สีแดงอมชมพู สีแต่ละสีมีความหมายครับ
    รอให้ผมเรียบเรียงข้อมูล อีกซักหน่อย จะมาเล่าสู่กันฟัง กับการถกเถียงกับพญานาค ที่ผ่านร่างทรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2011
  2. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    เล่าต่อโดย ยรรยง สินธุ์งาม


    วิเคราะห์บั้งไฟพญานาค 2



    ผมมีข้อมูลที่จะนำมาเล่าต่อ อันที่จริงอยากจะกล่าวถึง ความรู้ใน 2 ทฤษฎี ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง คือ 1. ทฤษฎีที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ และ 2.ทฤษฎีทางฟิสิกส์ ซึ่งตัวผมเองไม่ได้ละเลยศาสตร์ที่เกี่ยวกับทฤษฎีดังกล่าว เพียงแต่ มีแนวคิดว่า "เมื่อไหร่ที่ เราให้สิ่งที่มีอยู่เดิม มาครอบงำเรามากเกินไป ก็จะทำให้ ไม่ได้พบกับสิ่งใหม่" ผมจึงวางทฤษฎีทั้งหลายไว้ข้างๆ แล้ว หยิบจับ สิ่งที่เราศึกษา มาพิจารณา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายคน กล่าว ว่า "บ้า" หลายคนกล่าวว่า
    "คลั่งไคล้" หลายคนกล่าวว่า "งมงาย" แต่ทุกคน ล้วนแล้วแต่ต้องตาย ล้วนแล้วแต่กลัวตาย ล้วนแล้วแต่กลัวผี จนบางครั้งผมอยากย้อนถามว่า " การที่คุณวิพากษ์ผู้อื่น ที่เขาแสวงหาความรู้ อย่างมุ่งมั่น แล้วตัวคุณเอง เคยคิดจะหาคำตอบ ในเรื่องใดๆ อย่างจริงจังหรือไม่ " ก็เป็นเพียงความคิดนะ ไม่ได้ถามหรอก เพราะเสียเวลา ถ้ามัวไปโต้เถียงเพื่อให้เขายอมรับ ก็ไม่ใช่ว่าเราจะรู้คำตอบที่เราอยากรู้ การที่เขาจะยอมรับ หรือไม่ยอมรับ มันก็เป็นเรื่องของเขา โลกวิญญาณ ก็ยังคงเป็นโลกวิญญาณ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามความเชื่อของใคร ผมคนล่าผี ก็ออกตระเวณไพร ค้นหาความรู้ต่อไป เท่าที่มีลมหายใจ ดำรงอยู่ในร่างมนุษย์ โดยแท้ที่จริงแล้ว ตัวผมรู้ซึ้ง ในเรื่องเหล่านี้ เป็นอย่างดี แต่ที่ ออกล่าวิญญาณ ก็เพื่อหาหลักฐาน เท่าที่จะทำได้ เพื่อบอกเล่าพอเป็นตำนาน ให้กับผู้ที่มาเกิดเป็นคน ร่วมชาติกัน และผู้ที่จะมาอีกในอนาคต ให้ได้เห็น เป็นเครื่องเตือนสติ ว่า ได้เกิดมาเป็น คน แล้ว อย่าให้เสียชาติเกิด อย่าให้ พลังงาน(บุญกุศล)มันถดถอย เพราะเมื่อตายแล้วอาจจะต้องไปอยู่ในภพภูมิที่ลำบาก หรือที่เรียกว่า ทุกขติยภูมิ ซึ่งได้แก่ สัตว์เดรรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์ตามขุมนรกทั้งหลาย
    เกริ่นนำในหน้านี้ ค่อนข้างจะหนักหน่อย เริ่มเลยดีกว่าครับ ขอยกเอาภาพ ที่ 3 จากหน้าที่แล้ว มาเป็นตัวตั้ง ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายจากแม่น้ำโขง เมื่อปี 51 เอามาเปรียบเทียบกับลักษณะ ของวิญญาณ ที่ถ่ายได้ในที่อื่นๆ
    (ในปีนี้ 4 ตุลาคม 2552 ผมก็จะไปเลาะริมโขงอีก เพื่อเก็บข้อมูล มาเปรียบเทียบกัน มีอะไรดีๆ จะมาเล่าให้ท่านฟัง ท่านทั้งหลายมีอะไรดีๆ ก็ส่งผ่านเมล์ มาให้ดูด้วยนะครับ เพราะ จะได้ร่วมบันทึกโลกไปด้วยกัน อาจจะใช้ชื่อกลุ่มว่า คนล่าผี นามเรียกขานผม ด๊อกเตอร์โกสท์ ท่านก็ ตั้งชื่อไปตามชอบ ตามความเหมาะสม ผมว่าก็ดีอยู่นะ อย่าให้แต่เผ่าพันธุ์ฝรั่งเป็นผู้สร้างองค์ความรู้แต่ฝ่ายเดียว เผ่าพันธุ์เอเชีย พันธุ์ไทย ก็น่าจะทำได้เช่นเดียวกัน ไม่แน่น๊า คุณๆท่านๆ หลายคนมีจิตละเอียดกว่าผม หลายคนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับโลกวิญญาณมากกว่าผม หลายๆคนมีบารมียิ่งไปกว่าผม ท่านก็จะได้ ภาพ ได้ข้อมูลเชิงประจักษ์ ที่เป็นประโยชน์ ต่อมวลมนุษยชาติ ยิ่งกว่า การค้นพบระเบิดปรมาณูของ อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ซะอีก )

    [​IMG]

    เป็นภาพที่ 3 จากหน้าที่แล้ว ที่ถ่ายได้จากแม่น้ำโขง ครับ เอาภาพนี้เป็นตัวตั้ง เพื่อเปรียบเทียบกับภาพอื่น



    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    ภาพ 1, 2, และ 3 เป็นภาพดวงไฟที่ถ่ายได้จากแม่น้ำมูล มีลักษณะไม่แตกต่างจาก ที่ถ่ายได้ ณ แม่น้ำโขง


    [​IMG]

    ภาพนี้ถ่ายที่ชายทะเล ครับ วิญญาณเยอะมาก ก็รู้สึกกลัวๆ เหมือนกัน บางครั้ง ถูกถาม(วิญญาณ ถาม) "คุณจะกลัวเราทำไม" ก็ตอบแบบเขินๆ " น่านนะสิ " แล้วก็ กดชัตเตอร์ ต่อไป

    [​IMG]

    ภาพนี้ถ่ายที่ วัดผาสุการาม อำเภอวารินชำราบ
    เราก็ดูไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะเห็นว่า ดวงไฟจากแม่น้ำโขง ก็มีลักษณะคล้าย กับ ดวงวิญญาณ จากหลายๆที่
    ในข้อสรุปของผม จึง บันทึกไว้ว่า บั้งไฟพญานาค คือ ดวงวิญญาณ

    จากข้อสรุปข้างต้น จึงสามารถตอบคำถามได้ว่า เพราะอะไร ในการพิสูจน์ ของนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสำนัก ในเรื่อง บั้งไฟพญานาค จึงไม่ก้าวหน้า และยังคงใช้ ทฤษฎีกลุ่มแก๊ส ทฤษฎีแรงกดดัน แรงดึงดูด ระหว่างดวงดาว มาอธิบายปรากฎการณ์ ดังกล่าว ซึ่งผู้คนได้ยินได้ฟังก็ นิ่งเงียบ เพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปถกเถียง เพราะเขาเหล่านั้นก็ไม่มีความรู้ ในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งไม่ได้คิดว่าจะค้นหาความจริงในเรื่องดังกล่าว ในส่วนของตัวผม บังเอิญได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ จึงมีความคาบเกี่ยวกับเรื่องลึกลับดังกล่าว แม้ว่าเครื่องมือในการพิสูจน์ จะมีเพียงกล้องถ่ายภาพ ไม่ได้มีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ มากมาย มาประกอบในการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความน่าเชื่อถือย่อมมีน้อย แต่ถึงกระนั้น ผมก็ไม่ได้จำนนอยู่กับ ทฤษฎีหรือจำนวนของเครื่องมือ ผมได้อุทิศตนเอง ใช้จิต ที่เป็นกลาง ทางความเชื่อ ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ใจ ความมุ่งมั่น ความอดทน จนสามารถเปิดประตูมิติของโลกวิญญาณ บันทึกภาพ ผ่านกล้องดิจิตอล ธรรมดา ที่ผนึกรวมกับจิตใจที่มุ่งมั่น จนกลายเป็น กล้องถ่ายวิญญาณ และบันทึกภาพต่างๆ มานำเสนอต่อท่าน และเผยแพร่สู่ระบบสากล ซึ่งการลงข้อ สรุป อาจจะขัดใจ กับผู้ที่มีความเห็นไม่สอดคล้องกัน แต่โดยสภาพทางวิชาการ ถ้าเราไม่ได้ศึกษาเรื่องใดอย่างจริงจัง เราก็ควรฟังผู้ที่เขาได้ลงมือทำ เพราะเรื่องนี้ยังใหม่ และลึกลับ สำหรับ โลกมนุษย์ ทั้งที่เป็น ของธรรมชาติ มีมาอยู่แล้ว แต่มนุษยชาติ ไม่ได้สนใจ ในศาสตร์นี้อย่างจริงจัง

    สีของบั้งไฟพญานาค เป็นตัว บอกว่า วิญญาญดังกล่าว จะไปเกิดในภพใด อันนี้เป็นเรื่องเล่านะ ผมยังไม่มีภาพถ่าย หรือ ข้อมูลอื่นใดมายืนยัน เพราะ 1) จากการที่ผม ได้พูดคุย กับพญานาค ที่ผ่านร่างทรง 2) จากการที่ได้คุยกะวิญญาณ เทวดา ที่ผ่านร่างทรง (ให้สังเกตว่า ผมจะไม่ยืนยัน โดย อ้างว่า เกิดจากการสัมผัส ทางจิต จาก ญาณทัศนะของตนเอง แม้ว่า หลายอย่างหลายเรื่อง ที่ตนรู้ ก็ไม่อ้าง เพราะต้องการพิสูจน์ โดยหลักทางวิทยาศาสตร์ อะไรที่มีอยู่จริง ก็จะเป็นอยู่อย่างนั้น เพียงยังรอการค้นพบด้วยวิธีการที่เหมาะสม) จากการพูดคุยใน 2 สถานการณ์ พบสิ่งที่ตรงกันคือ วิญญาณ 2 องค์ กล่าว ว่า บั้งไฟพญานาค คือ วิญญาณ ซึ่งผมได้รูปถ่าย เหล่านี้ ก่อนที่จะได้ไปสนทนากับวิญญาณทั้ง 2 และ สิ่งที่เป็นข้อมูลใหม่ พญานาค กล่าวว่า เขาทำงานร่วมกันกับ ยมโลก เป็นผู้ส่งวิญญาณ ผู้พ้นจากขุมนรก เพื่อไปสู่ภพใหม่ ข้อความตอนนี้ บังเอิญ ไปสอดคล้องกับ ความเชื่อของยุโรป เกี่ยวกับโลกวิญญาณ อย่างที่ หนังฮอลลีวู๊ด เรื่อง ไพรเวทออฟแคริบเบียล หนังโจรสลัด ที่มีตอนหนึ่ง ได้กล่าวถึง บรรดาฝูงวิญญาณ นั่งเรือ ถือตะเกียงลอยไปตามมหาสมุทรเพื่อเข้าสู่โลกวิญญาณ ถ้าเป็นจริงตามนั้น แสดงว่า ฝรั่ง เขาก็ศึกษาเรื่องนี้ มาไม่น้อยเหมือนกันจนนำมาเป็นเรื่องเล่า บอกลูกบอกหลาน ในเรื่องของ สีบั้งไฟ ผมจะขอเล่า เท่าที่จำได้ ถ้าคลาดเคลื่อนก็ต้องกราบขออภัย และ เมื่อมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่า ผมก็จะมา up date ให้ได้รับทราบ เป็นอย่างนี้เรื่อยไป ครับ สีส้ม คือ วิญญาณที่จะไปเกิดเป็น คน
    สีแดง คือวิญญาณ ที่จะไปเกิดเป็น สัตว์
    สีชมพู คือวิญญาณ ที่มีความกล้ำกึ่งกัน ระหว่าง สัตว์กับคน ไปเกิดเป็นคนก็ได้ หรือ เกิดเป็นสัตว์ก็ได้
    สีขาว คือ วิญญาณ ที่จะไปจุติ(เกิด) ในภพสวรรค์

    จากข้อสังเกตได้บนโลก เห็นได้ด้วยตามนุษย์ คือ ดวงบั้งไฟ สี แดง สีส้ม สีแดงอมชมพู ซึ่งตามที่พบอยู่ หนองคาย และที่ อุบล ในส่วน ของบั้งไฟ ดวงสีขาว ก็อย่างที่ผมเอามานำเรียนเสนอไว้ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และมีอีกหลายสี ที่ผมไม่รู้ความหมาย เช่น สีเขียว สีฟ้า สีม่วง สีเหลือง สีทอง สีดำ สีเทา เอาไว้ได้ไปสนทนากับผู้รอบรู้ของโลกวิญญาณ อีกครั้ง จะมาเล่าสู่กันฟัง นะครับ
     
  3. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ใบหน้าคน กลางลูกไฟ พญานาค

    วิเคราะห์โดย ยรรยง สินธุ์งาม


    เช้านี้ขณะที่พายุ กฤษณา กำลังเข้าสู่แผ่นดินไทย ด้านจังหวัดอุบลราชธานี ฝนตกตั้งแต่คืนวันที่ 29 ก.ย. 52 จน

    ขณะนี้ 12.53 น. ของวันที่ 30 ก.ย. 52 วันที่หลายคนต้องใจหาย หลายคนต้องโล่งใจ ที่จะได้วางภาระ งาน ที่ตรากตรำในระบบมา

    หลายสิบปี หลายคนเสียดาย หวงแหน ตำแหน่ง หน้าที่การงาน หวงอำนาจ ที่เคยมี นี่พูดถึงผู้ที่ จะเกษียณอายุราชการ นะ ก็แค่

    หน้าที่ ตามอาชีพ ของการเป็น พลเมือง ของประเทศนี้ ของสังคมนี้ แต่หน้าที่ของความเป็น มนุษย์ ยังมีต่อไปอีก จนกว่าจะหมดลม

    หายใจ " นักวิชาการ ไม่เคยเกษียณอายุราชการ " เป็นคำพูดของ ท่าน รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ

    "การเรียนรู้ ไม่มีวันจบ" ดังภาษาทางวิชาการกล่าวว่า "การศึกษาตลอดชีวิต" ถ้าอยากรู้เรื่องอะไร ก็ใส่ใจเข้าไป ดังหลักการทำงาน

    ให้เป็นเลิศ ตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้า ที่ชื่อว่า "หลักอิทธิบาท 4" กิจการใดๆ จะสำเร็จ และ มีความเป็นเลิศได้ เมื่อใช้หลักการนี้ ซึ่ง

    มี 1.ฉันทะ คือ ความพึงพอใจ ในกิจการที่จะกระทำ 2.วิริยะ คือ มีความพากเพียร ทำในกิจการนั้นๆ อย่างไม่ย่อท้อ 3.จิตตะ คือ ความ

    ใส่ใจในกิจการที่กระทำ ระลึกถึงเห็นความสำคัญ ให้ความสำคัญ ไม่ปล่อยปะละเลย 4.วิมังสา คือ หมั่นตริตรอง ใคร่ครวญ ด้วยสติ

    ปัญญา ศึกษาหากลยุทธ ปรับปรุงนโยบาย วิจัยตลาด ปรับปรุงคุณภาพ สร้างระบบตรวจสอบคุณภาพ ปรับปรุงระบบต่างๆ ฯลฯ เหล่า

    นี้ ก็จะทำให้กิจการนั้นๆ เจริญงอกงาม วันนี้ขึ้นต้น ด้วย การละการวาง จากภาระหน้าที่ ทางสังคม ครับ

    ฝนตกไปไหนไม่สะดวก ประจวบกับใกล้ออกพรรษา เพื่อนๆโทรชวน ไปดูบั้งไฟพญานาค บางคนก็อยากให้ไป

    เก็บภาพพิธีบรวงสรวง ที่ริมแม่น้ำโขง หน้าที่ว่าการอำเภอโขงเจียม ในช่วงเช้าของวันที่ 4 ตุลา 52 ผมก็ยังไม่ได้รับปากเป็นมั่นเป็น

    เหมาะ เพราะการเป็นนักวิจัย เราต้องไปแบบเงียบๆ อย่าให้เขารู้ตัว ไปในลักษณะของนักท่องเที่ยว ธรรมดาๆ คนหนึ่ง จะได้ข้อมูล

    เชิงลึกที่ตรงกับสภาพจริง มีความสมบูรณ์ของข้อมูล ที่เป็นกลาง นั่นคือ สิ่งที่ นักวิจัย เชิงคุณภาพ อย่างผมต้องการ และก็เป็น

    ลักษณะหนึ่งของผู้วิจัย ที่ ครูของผมหลายท่าน อาทิ ผศ.ดร.เสนอ ภิรมจิตรผ่อง รศ.ดร.ชวนชัย เชื้อสาธุชน ดร.กุหลาบ ปุริสาร

    และ ผศ.ดร.จิณณวัตร ปะโคทัง ได้สั่งสอน บอกกล่าว และฝึกฝน ให้เข้าใจถึงธรรมชาติที่แท้จริงของนักวิจัย ผมหยิบภาพ

    ดวงไฟสีส้ม บั้งไฟพญานาค ที่ถ่ายภาพไว้ได้ เมื่อปี 51 ณ ริมโขง บ้านท่าล้ง นำมาพิจารณา เข้าโปรแกรม ปรับสี ลดแสง ของ

    ภาพ ซึ่งก็ลองทำหลายรอบแล้วล่ะ ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไร แปลกใหม่ แต่วันนี้ ครับท่าน ผมได้ข้อมูลใหม่ ที่นำมาให้ท่านทั้งหลาย ที่มีใจ

    เชื่อมโยง หรืออาจจะเรียกว่า ทำบุญร่วมกันมาตั้งแต่ ปางก่อน จะปางไหน ก็ช่าง ที่ทำให้ท่านคลิ๊กเข้ามาชม V blog นี้

    เป็นภาพ ดวงไฟ พญานาคสีส้ม ภาพเดียวกันกับหน้าแรก ครับ

    [​IMG]
    ภาพดวงไฟ ที่ยังไม่ได้ ปรับ ลดแสงเงา

    [​IMG]
    เมื่อปรับลดแสง เงา ให้เหมาะสม ปรากฎ มีภาพส่วนของใบหน้า คล้ายผู้หญิง เห็นดวงตาข้างขวา ชัดกว่าข้างซ้าย เห็นจมูก เห็นริม

    ฝีปาก ริมฝีปากบนเล็กกว่าริมฝีปากล่าง

    [​IMG]
    ภาพนี้ ลดค่าของแสงลงไปอีก เพื่อเปรียบเทียบกัน ปรากฎให้เห็น ความนูนของโหนกแก้ม รูปคาง รูปจมูก สันจมูก ชัดยิ่งขึ้น

    เป็นเรื่องแปลกไหม ที่ผมได้เคยเล่าเรื่อง สีของบั้งไฟพญานาค ที่เทวดาทั้ง 2 ท่าน ได้ตอบคำถาม เอาไว้ (รายละเอียดอยู่ในหน้าที่

    2 เรื่อง การวิเคราะห์บั้งไฟพญานาค ) ที่ท่านบอกว่า สีของดวงไฟเป็นตัวบอก ภพภูมิของวิญญาณ ที่จะไปเกิด ดวงไฟสีส้ม คือ ผู้ที่

    จะไปเกิดเป็น คน
    และ จากข้อมูลที่มีอยู่นี้ ก็ได้ ยืนยัน คำพูด ถ้อยแถลง ของ เทวดาทั้ง 2 ท่าน ว่า เป็นจริง ในเบื้องต้น

    ซึ่ง จากภาพข้อมูลดังกล่าว ก็ยังไม่ใช่ข้อยุติ ของการศึกษา ผมเองก็จะยังดำเนิน การต่อไปอีก จนกว่า ข้อมูลที่ได้ จะมี

    ความอิ่มตัว ก็จะมาเล่าแถลง แจงทุกด้าน ให้ท่านผู้สนใจ ได้รับทราบ ครับผม แต่ท่านว่า แปลกไหม ภาพดังกล่าว อยู่กับผมมาแรมปี

    ลองทำหลายต่อหลายครั้ง ก็ไม่อะไรแปลกใหม่ พอ มาถึงวันนี้ ผมกลับได้ ข้อมูล ที่ซ่อนอยู่ในลูกไฟ พญานาค ที่ผมถ่ายภาพได้ มากับ

    มือ ซึ่ง อีก 4 วัน นับจากนี้ ก็จะถึง วันออกพรรษา ถึงคราที่ เหล่า วิญญาณส่วนหนึ่ง จะพ้นผ่านวาระ จากทุกขเวทนา ใน นรกภูมิ

    สู่ภพภูมิใหม่ ขอแสดงความยินดี กับท่านเหล่านั้นด้วย

    ผมจะไปบันทึกภาพ เพื่อร่วมเป็นเกียรติ กับวาระสำคัญ แห่งชีวิต ของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยความเคารพครับ และยังคงหวัง

    ลึกๆ ว่า จะได้ข้อมูล ที่แจ่มชัด ขจัดข้อกังขา เพื่อนำไปสู่ การพัฒนาภูมิปัญญา ของสรรพสัตว์ ในปัจจุบัน และอนาคต
     
  4. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ดวงไฟสีเขียวเปิดเผยตัวตน ยลโฉมผู้มากับจานบิน

    วิเคราะห์โดย ยรรยง สินธุ์งาม


    วันนี้วันที่ 3 ตุลาคม 2552 พรุ่งนี้ ออกพรรษา 4 ตุลาคม ผมรีบวิเคราะห์ข้อมูลค้างปี ที่มีอยู่เพื่อนำเสนอ ท่านผู้อ่าน เพราะตั้งใจว่าจะเดินทางไปโขงเจียม ในคืนนี้ ขณะที่พิมพ์ข้อความ เป็นเวลา 18.35 น. ครับ
    ไม่ให้เสียเวลา เริ่มที่ หัวเรื่องที่ ว่า ดวงไฟสีเขียวเปิดเผยตัวตน เป็นภาพดวงไฟสีเขียวที่ ถ่ายภาพได้ ในปี 51 ที่นำเสนอไว้ในหน้าที่ 1 ภาพที่ 6

    [​IMG]
    บั้งไฟพญานาค สีเขียว ที่ยังไม่ได้ปรับลดแสง

    [​IMG]
    เมื่อปรับลดแสงให้พอเหมาะ ปรากฎใบหน้า และดวงตา 2 ดวง

    [​IMG]
    ปรับลดแสงเพิ่มขึ้น ทำให้เห็นเงาข้างแก้ม และส่วนที่ยื่นออกมาข้างหน้า

    [​IMG]
    ผมลงความเห็นว่า นี่เป็นส่วนหนึ่ง ของใบหน้าหมู ครับ ดังที่เขียนเส้นสีขาว ไว้เพื่อให้ท่านเปรียบเทียบได้ชัดเจนขึ้น กับภาพข้างบน

    จากข้อมูลที่มีอยู่บ่งชี้ว่า ดวงวิญญาณ สีเขียว หรือ บั้งไฟพญานาค สีเขียว คือ วิญญาณผู้ที่จะไปเกิดเป็นสัตว์ เดรฉาน 4 เท้า อย่างที่ปรากฎตามภาพ ดวงนี้ ไปเกิดเป็น หมูครับ บางคนอาจจะมองเป็น หน้าวัว หน้าม้า รึอะไรซักอย่าง แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่หน้า คน นั่นก็หมายความว่า พญานาค และ เทวดา 2 องค์ นั้นกล่าวไว้ได้ตรง กับข้อมูล ที่ผมได้มา ก็เป็นที่น่าแปลก อีกนะแหละ ที่ผมเพิ่ง วิเคราะห์รูปลักษณ์ได้ ก่อนหน้าวันออกพรรษา วัน สองวัน ต้องกล่าวว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะที่ผ่านมาเกือบทั้งปี ผมคลุกอยู่กับภาพพวกนี้ แทบทุกวัน แต่กลับวิเคราะห์ไม่ได้
    มีภาพดวงวิญญาณ คล้าย ยูเอฟโอ ดังที่เสนอไว้ใน หน้าที่หนึ่ง ซึ่งผมขอนำผลการวิเคราะห์ มาให้ท่านได้รับชม ดังนี้


    [​IMG]
    จากการวิเคราะห์นะครับ ภาพนี้ เมื่อปรับลดแสง จะปรากฎ แถบสีดำบน ลูกไฟวงกลม และลักษณะของ ดวงไฟจะแตกต่างจาก ภาพวิญญาณ

    [​IMG]
    เมื่อปรับลดแสงลงไปอีก จะเริ่มปรากฎ รูปลักษณ์ ในวงกลม ทำให้ต้อง ปรับลดแสง ต่อไปอีก จนกระทั่ง



    [​IMG]
    ปรากฎใบหน้า คล้ายผู้ชาย มีหน้ารูปไข่ ดวงตา 2 ดวง จมูกยาวตรง เป็นสัน เห็นได้ชัดเจน มีริมฝีปากเล็ก
    ภาพขยายได้ไม่ชัด เพราะความละเอียดของเครื่องมือ ที่ผมมี แค่ 8 ล้าน พิกเซล
    ภาพบนปรับด้วยโทนสีฟ้า เทียบกับ ภาพล่าง ที่ปรับเป็นโทนสีแดง รูปหน้าตาก็ยังคงเดิม
    [​IMG]

    นี่คงเป็นหน้าตาของมนุษย์จากจักรวาลอื่น ครับ ดูภาพข้างล่าง บริเวณที่ลูกศรสีแดงชี้

    [​IMG]

    จะมีลักษณะของความทึบแสง มากกว่า ที่จะเป็นพลังงานวิญญาณ ภาพนี้ ณ เวลานี้ ผมมีความสามารถ แค่เห็นหน้าตาของผู้มากับยาน ลำนี้ แต่ยังไม่มีความสามารถที่จะเห็นรูปลักษณ์ของ ยาน ของผู้มาจากจักรวาลอื่น นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ มีหลายเผ่าพันธุ์ รูปลักษณ์แตกต่างกันไป ก็คงคล้ายกับโลกเรา ต่างทวีปกัน ก็ยังต่างกัน สูง ต่ำ ดำ ขาว ต้องบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ มากที่การศึกษาเรื่อง วิญญาณ กับไปคาบเกี่ยว เรื่องของ มนุษย์จากดาวอื่น

    หลายอย่างที่อยากจะพูดให้ฟัง แต่ยังขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ พุดให้ฟังก็จะคล้ายเป็นนิทาน เผลอๆจะกลายเป็นเรื่องโม้ ไปซะอีก ก็จะว่าเท่าที่มีหลักฐาน ซึ่งภาพถ่าย วิญญาณ และ มนุษย์ต่างดาว ที่ผมมีก็เยอะเหมือนกัน แต่ก็จะค่อยๆ นำมาเล่าให้ฟัง อาจารย์ของผมท่านหนึ่งนะ ท่าน ดร.สุวิมล โพธิ์กลิ่น จากภาคบริหาร ม.ราชภัฎอุบล เคยถามผมเกี่ยวกับภาพถ่ายวิญญาณ ที่ผมถ่ายได้ ท่านเองอยากดูมาก แต่ความกลัวมีมากกว่า จึงยังไม่กล้าที่จะให้ท่านดู เพราะท่านถามว่า น่ากลัวมั๊ย ผมตอบ ไม่ครับ เป็น รูปลักษณ์ของพลังงาน วิญญาณ ไม่ใช่ รูปลักษณ์ร่างกายละเอียด อย่างที่ภาพยนตร์ สยองขวัญทั้งหลายนำเสนอเกี่ยวกับ ผี หรือ วิญญาณ ก็อย่างที่ท่านได้รับรู้ จากเรื่องราวที่ผมนำเสนอมา ไม่ได้น่าเกลียด น่ากลัว แต่อย่างใด


    ข้อมูลจาก: วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com)
    เขียนโดย : ยรรยง สินธุ์งาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2011
  5. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    เก็บมาเล่าโดย ยรรยง สินธุ์งาม


    กลับมาเล่าต่ออีกครั้งแล้วครับ การเดินทางไปพิสูจน์ครั้งนี้ จุดที่ผมไปเฝ้าดู คือ ศาลาริมน้ำ บ้านท่าล้ง ปีนี้น้ำโขงขึ้นสูงมาก ไม่มีชายหาดให้ไปยืนถ่ายภาพได้เลย คนไปเฝ้าดูเยอะ แต่เหมือนจะโชคไม่ดี ปีนี้ บั้งไฟขึ้นน้อยมาก
    ไม่ถึง 10 ลูก จุดที่ผมอยู่เห็น 3 ลูก และถ่ายภาพไม่ทัน ปีนี้ ลูกไฟพุ่งขึ้นจากกลางแม่น้ำโขง ทิศไม่ได้เอนเข้าหาฝั่งไทย อย่างปีที่แล้ว แต่จะพุ่งไปในทิศที่ขนานกับสายน้ำ ตามแนวการไหลของลำน้ำ ลักษณะดวงไฟสีส้มแดง

    แม้จะไม่ได้ภาพบั้งไฟพระยานาค แต่ก็มีข้อมูลใหม่ ที่น่าสนใจมานำเสนอ อยู่นะครับ ขณะนี้กำลังวิเคราะห์ภาพอยู่ครับ มีภาพวิญญาณลักษณะใหม่ๆ และ ภาพของผู้ที่มาจากดาวดวงอื่น ด้วยครับ






    กลับมาแล้วครับ หลังจากเงียบหายไปนาน วันนี้(22 ก.พ. 2553)ได้ฤกษ์ นำภาพ พญานาค ในลักษณะของกายทิพย์
    มานำเสนอ ครับ ถ่ายได้เมื่อ 17 ก.พ. 2553 ก่อนเดินทางไปเก็บข้อมูล พญานาคที่สะพานมิตรภาพมุกดาหาร

    เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ถ่ายขึ้นไปบนท้องฟ้า ของเมืองอุบล ได้ภาพออกมา ดังที่ท่านเห็น

    [​IMG]
    ภาพวิญญาณ ที่มีลักษณะคล้ายงู (มุมบนซ้ายของภาพ) น่าจะเป็นภาพ กายทิพย์ของ พญานาค
    ที่มาปรากฎกายให้เห็น


    [​IMG] [​IMG]
    ภาพนี้ ขยายภาพกายทิพย์ ของพญานาค ซึ่งจะเห็น ภาพนี้ เมื่อนำมาวิเคราะห์ซ้ำและเขียน
    ส่วนที่เป็นวิญญาน แสดง สีขาวสว่างชัดเจน ลายเส้น ตามรูปลักษณ์ที่ปรากฎ พบว่า
    อยู่ส่วนหัว มีพญานาคถึง 3 ตัว ตัวหมายเลข 3 จะพบ
    วิญญาณอยู่ช่วงลำตัว (ส่องแสงสีขาว)


    ข้อมูลจาก: วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com)
    เขียนโดย : ยรรยง สินธุ์งาม<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    วิญญาณแห่งมหาสมุทร รอยเชื่อมระหว่างมิติวิญญาณ

    กันยายน 2551 ได้ล่องทะเลในอ่าวไทย เพื่อปฏิบัติการล่าผี จะเล่าเหตุการณ์ที่อยู่ บนฝั่งให้ท่านได้รับฟัง ขณะอยู่

    บนห้องพัก ริมชายฝั่ง เวลาประมาณ เกือบ 6 ทุ่ม รู้สึกเหนื่อย ตั้งใจว่า จะนอนพักก่อน จะได้ตื่นๆเช้าๆ ไปสูดโอโซนที่

    ริมทะเล ขณะที่ล้มตัวลงนอน ก็ปรากฏ ร่างผู้ชาย ยืนบนพื้นห้องด้านปลายเตียง อายุ ประมาณ 30 เศษ รูปร่างสมส่วน

    ผมสั้น หน้าแหลมนิดๆ ผมสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ แต่มีผ้าคล้องคอสีขาว พาดไหล่ กางเกงแพรขายาวสีขาว ผ้าที่สวมใส่

    ดูเหมือนเบา และมีเส้นใยที่ละเอียดมาก ไม่สวมรองเท้า ผิวสีน้ำตาล ตาไม่กระพริบ ดวงตาสีดำ แววตาแจ่มใส

    ที่สำคัญ เขาไม่มีลมหายใจ เพราะสังเกตว่า หน้าท้องเขาไม่กระเพื่อม เขายิ้ม ไม่ได้ใช้ปากพูด แต่มีเสียงดังออกมาว่า

    "มาถึงแล้ว จะไม่ลงไปถ่ายภาพ เหรอ" ผมก็ไม่พูด แต่ตอบ ในใจ ไปว่า "จะไปตอนเช้าตรู่" "เหตุการณ์จะผ่านไป

    ตามเวลา " เขาตอบผม ซึ่งทำให้เข้าใจได้ทันทีว่า ขณะนี้ กำลังมี กิจกรรมอะไรซักอย่าง ที่ริมชายหาด ถ้าไม่ไปเวลา

    นี้ ก็จะพลาดโอกาส แล้วชายผู้นั้นก็หายไป ผมรีบลุกขึ้น พร้อมกับ กล่าวคำขอบคุณ เทวดาประจำภูมิ ที่ท่านมา

    บอก จัดแจง กล้องถ่ายวิญญาณ พร้อมอุปกรณ์จดบันทึก ลงจากห้องพัก ตรงดิ่งไปที่ ชายหาด เวลาก็ปาเข้าไป

    เกือบตีหนึ่ง ลมทะเล พัดกระหน่ำ เสียงคลื่น ดังเป็นห้วงๆ การบันทึกภาพเริ่มขึ้น (ครั้งนั้นถ่ายเกือบ 100 ภาพ)

    ก็นำมาเล่าสู่กันฟังเป็นบางส่วน ครับ

    [​IMG]
    เป็นภาพดวงวิญญาณ นับหมื่น นับแสน กำลังเดินทางไปในทิศทางเดียวกัน บางดวงก็มีหางยาว บางดวงก็แสดงหน้า

    ตา มีหลายสีสัน ตามความแตกต่างของระดับพลังงาน

    [​IMG]
    เป็นภาพที่ถ่ายด้านข้างของวิญญาณ จึงเห็นเป็นหางยาว ถ้าเปลี่ยนมุมในการถ่ายจะเห็นในอีกลักษณะหนึ่ง

    [​IMG]
    เมื่อเราไปถ่ายภาพด้านหน้า หรือด้านตรงหน้า กับทิศการเคลื่อนที่ ของเหล่า วิญญาณ เราจะได้ภาพ ดวงวิญญาณ

    ที่เป็นดวงกลม ดังที่ปรากฎ ตามภาพ

    [​IMG]
    ในภาพจะแสดงการเคลื่อนที่ของวิญญาญ ที่มีทิศสวนทางกับทิศทางของลมบก ซึ่งดูจากคลื่นที่พุ่งเข้าหาฝั่ง สังเกต

    จากการลู่ลมของใบสน ซึ่งภาพที่เกิดขึ้น อธิบาย ข้อโต้แย้งที่หลายคน เข้าใจคาดเคลื่อนว่า ภาพที่ถ่ายได้ เกิดจากฝุ่น

    ละออง หรือความชื้นที่มีในอากาศขณะนั้น เพราะถ้าเป็นฝุ่นจริงดังข้อสันนิษฐาน ก็จะต้องถูกพัดไปในทิศทางเดียวกับ

    กระแสลม แต่นี่ เป็น ผี เป็นสิ่งมีชีวิต อยู่ในมิติและพลังงานระดับวิญญาณ ซึ่งการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และ

    เป็นกลาง ในทางวิชาการ ยังมีน้อย ผมเองก็ค่อยๆทำ ค่อยๆแกะ ค่อยๆคลำ ไป ปีนี้ก็เข้าปี ที่ 25 แล้ว ก็เพิ่งจะมีช่อง

    ทางการเผยแพร่ เพื่อให้เกิดการวิพากษ์ ได้อย่างหลากหลาย จะทำเวอร์ชั่น ภาษาอังกฤษ เข้าไปด้วย จะได้ร่วมศึกษา

    กันทั่วโลก ตำนานที่เล่าขานเรื่อง วิญญาณเดินทางข้ามท้องทะเล เพื่อไปยังโลกวิญญาณ ของชาวตะวันตก อย่างใน

    หนังของฮอลลีวู๊ด เรื่อง ไพรเวต ออฟ เดอะคาริเบี่ยน เรื่องราว การผจญภัยของโจรสลัดที่น่าตื่นเต้น ซึ่งก็อาจจะมี

    บางส่วนเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะภาพ ฝูงชน ชาวผี ที่เดินทาง นับหมื่น นับแสน ตามที่ปรากฎในภาพ เป็นหลักฐาน

    เบื้องต้น ซึ่งจะนำไปสู่เรื่องราวการค้นหา อีกไม่รู้จบ

    [​IMG]
    ในภาพจะเห็น หัวหน้าฝูงชาววิญญาญ น่าจะเรียกว่า แม่ทัพ ดวงสีเหลืองทอง คงเป็นหนึ่งในแม่ทัพ ที่นำไพร่พล

    เดินทางในครั้งนี้

    [​IMG]
    เป็นภาพขยาย ของวิญญาณ 2 ดวง ที่หันหน้ามาส่งยิ้ม ขณะที่ต้องเดินทางไปกับขณะอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะดวง

    ข้างล่างจะเห็น 2 ตา ชัดเจน มีปากแหลมเหมือนนก ยิ้ม มาทางผู้ถ่ายภาพ

    ข้อมูลจาก: วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com)
    เขียนโดย : ยรรยง สินธุ์งาม<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2011
  7. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ผู้มากับสายลม ภูติ ? หรือ พระพายเทวัญ ?

    เคยได้ฟังเรื่องเล่าจากหลายที่ เกี่ยวกับ สายลม มักจะมีการอ้างถึง ผู้ที่มองไม่เห็นตัว อย่างใน ตำนานเทพพระเจ้า ของบ้านเรา ก็บอกว่า พระพาย เป็นเทวดาแห่งสายลม ในตำนานรามเกียรติ์ ก็กล่าวถึง พระพาย ผู้เป็นบิดา ของหนุมาน

    ที่ญี่ปุ่นมีตำนาน เกี่ยวกับ ลมพายุ ที่เกิดจากปิศาจ ถ้าใช้หอกสายฟ้าแทงเข้าที่ดวงตาพายุ ลมก็จะสงบ และ ภูติลมชื่อ คาไมทาจิ ซึ่งเป็นปิศาจที่ก่อให้เกิดลมหมุน

    [​IMG]
    ภาพวาด คาไมทาจิ ขอบคุณ คุณchichin115 club.myfri3nd.com

    ผมเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ สายลม มาร่วมสามปี พบว่า ทุกครั้งที่มีสายลม จะปรากฎภาพวิญญาณ เคลื่อนที่ และ สายลมที่ปั่นป่วน ภาพวิญญาณ ก็มีทิศทางการเคลื่อนที่ ที่ไร้ระเบียบเช่นกัน

    ดังที่ผมเคยกล่าวเอาไว้ ในช่วงหน้าต้นๆ ว่า ..บางครั้ง ตำนานก็เป็นเรื่องจริง...

    ผมกำลังจะบอกว่า เรื่องเล่า ของ คนยุคก่อนที่แต่งเป็นนิทาน เล่าสู่กันฟัง เกี่ยวกับ ผู้มากับสายลม เป็นเรื่องจริง !!

    ในข้อสรุปที่ผมพบ บอกได้เลยว่า วิญญาณ เป็นต้นเหตุของการเกิด กระแสลม ไม่ว่าจะเป็น ลมฝน ลมหนาว ลมกรรโชก ลมหมุน ซึ่งอาจจะรวมไปถึง ลมพายุ ขนาดต่างๆ ที่มีอยู่บนโลกใบนี้

    ในตำนานสามก๊ก เคยกล่าวถึง ขงเบ้ง เรียกลมเรียกฝน หรือ หยั่งรู้ฟ้าดิน รู้ว่า ลมจะมา รู้ว่าฝนจะตก ถ้าตามการวิเคราะห์ของกระผม ขงเบ้ง จะต้องสื่อกับวิญญาณ เทวดาแห่งลม ซึ่งเราเรียกว่า พระพาย และ เทวดาแห่งฝน หรือ พระพิรุณ ได้ อย่างแน่นอน รวมไปถึงต้องมีสัมพันธ์อันดี ต่อ วิญญาณเทพดังกล่าว เทวดาทั้งสองจึงได้สั่งให้เคลื่อนกองทัพ บริวาร มาสร้างลมและฝน ได้ตามเวลาที่กำหนด

    และเมื่อไหร่ที่ทุกท่าน กำลังอยู่ในสถานการณ์ ลมฟ้าอากาศ ปั่นป่วน น่าสะพรึงกลัว ให้ท่านกล่าวคำทักทาย " สวัสดีเทวดา " ท่านจะได้รับความคุ้มครองจากผู้ที่มากับสายลม ทักทายให้บ่อย ทุกครั้งที่สัมผัส อย่าไปตื่นตระหนก อย่าขาดสติ อย่าเอ่ยปากสบถ หรือ ด่าทอ โดยเด็ดขาด เพราะนั่นคือ กองทัพวิญญาณ กำลังเคลื่อนที่

    มีเหตุการณ์ เกิดขึ้น ณ ที่ผมทำงาน ....

    ผมมีห้องทำงานอยู่อาคาร หอศิลป์ ชื่อ หอศิลป์มหาเวทย์ อยู่ติดกับอาคารอุตสาหกรรม มีถนน ตัดผ่านหน้าอาคาร ทางด้านทิศเหนือ เป็นสนามฟุตบอล ติดกับสนามฟุตบอลเป็นป่าช้า
    วันนั้นประมาณ บ่าย 2 โมง มีกลุ่มนักเรียน เตะฟุตบอลที่สนาม จู่ๆ ก็เกิดลมหมุนขึ้นที่สนามฟุตบอล แถวนั้นจะเรียก ว่า ลมหัวกุด

    เริ่มจากลูกเล็กๆ เด็กนักเรียน ต่างสนุก วิ่งเข้าไปตัด จุดศูนย์กลางของการหมุน เพื่อให้ลมสลายตัว แต่เหตุการณ์ กลับไม่เป็นเช่นนั้น ลมกลับหมุนแรงขึ้น สูงขึ้น กว้างขึ้น และเริ่มเคลื่อนตัว จากสนามฟุตบอล มุ่งสู่อาคารอุตสาหกรรม ทั้งฝุ่น ทั้งใบไม้ ทำให้กลุ่มนักเรียน ต่างวิ่งหนีกันอุตลุต จากกลางสนาม มาจนถึงหน้าอาคารอุตสาหกรรม ระยะทางเกือบ 100 เมตร

    จุดศูนย์กลางมายืนอยู่หน้าอาคารอุตสาหกรรม พัดหมุน ฝุ่น ใบไม้ เศษกระดาษ ไม้อัด สมุดหนังสือ อุปกรณ์ต่างๆ ในอาคารและกำลังมุ่งหน้า เข้าสู่ หอศิลป์ ซึ่งผมกำลัง จัดรูปเล่มเอกสาร วางกระดาษ เอ 4 เรียงเต็มพื้นห้อง

    ผมได้ยินเสียง นักการภารโรง ที่กำลังนั่งเชื่อมเหล็ก อยู่อาคารอุตสาหกรรม ร้องบอกสายลมว่า " เอ๊า ! ลองดู ว่าจะเก่งจริงไหม ? " ในความหมายของแก ก็คือ อยากจะรู้ว่า ลมหัวกุด ดังกล่าวจะกล้าผ่านหน้าหอศิลป์ ในขณะที่ผมกำลังทำงานอยู่ ข้างในหรือไม่

    น่าประหลาดเมื่อลมเคลื่อนผ่านอาคารอุตสาหกรรม ก็สลายตัวทันที เมื่อเข้าสู่เขตสวนหย่อม ของหอศิลป์ ก็เลยกลายเป็นเรื่องเล่า ปากต่อปาก กันไป ที่โรงเรียน ว่า ลมหัวกุด ไม่กล้าผ่านหน้าหอศิลป์มหาเวทย์

    ผมจดจำเหตุการณ์ในวันนั้น แล้วก็พยายาม เก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อหาคำตอบ จนเข้าสู่ การใช้กล้องถ่ายวิญญาณ พิสูจน์ ผู้ที่มากับ สายลม ได้สำเร็จ แต่ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบที่สมบูรณ์ คงต้องใช้เวลาเก็บเกี่ยวข้อมูล ต่อไปอีก ดูภาพประกอบจากที่ผมบันทึกได้ กันเลยครับ

    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]
    สามภาพนี้ ถ่ายเมื่อต้นเดือนธันวาคม ปี 53 ช่วงที่ลมหนาวพัดเข้ามา จะเห็นภาพกลุ่มวิญญาณ กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว มีหาง ยาวบ้าง สั้นบ้าง อยู่ใกล้ก็ดวงใหญ่ อยู่ไกล ขนาดก็ลดลง ขณะนั้นลักษณะเป็นลมกรรโชก ไม่มีทิศทางที่แน่นอน ได้ยินเสียงหน้าต่าง ประตูอาคารเรียน ดังปึงปัง ผมก็รีบคว้ากล้องถ่ายภาพในทันที

    [​IMG] [​IMG]
    สองภาพนี้ ถ่ายที่อำเภอวารินชำราบ ลักษณะลมในขณะนั้น ปั่นป่วน ต้นไม้โยกเอนไปมา เวลาประมาณ 1 ทุ่ม เมื่อ 16 ธันวาคม ปีเดียวกัน ก็ปรากฏเป็นภาพวิญญาณ เคลื่อนที่ อย่างเร็ว จนมีหาง

    [​IMG]
    ภาพนี้ถ่ายที่บริเวณย่านศูนย์การค้า ในตัวเมืองอุบล ลมพัดอยู่ระดับยอดไม้

    [​IMG]
    ภาพนี้ต้องถือว่า โชคดีมากๆ ที่กดชัตเตอร์ได้ทัน ก่อนที่ กองทัพพระพาย จะเคลื่อนที่ผ่านไป ลักษณะลมในขณะนั้น เป็นลมกรรโชก อยู่ระดับพื้นผิวโลก ภาพนี้ สายลมกำลังหมุนวนโค้ง ผ่านหน้าอยู่ระดับศีรษะของผม ถ่ายหลายสิบภาพ ที่ได้ชัดๆ และ มีกลุ่มวิญญาณเป็นจำนวนมาก ก็คือภาพนี้ล่ะครับ ทำให้อยากเล่าเรื่อง ผู้มากับสายลม ขึ้นมาในทันที

    [​IMG]
    ภาพนี้ถ่ายช่วงฤดูฝน ในบริเวณอำเภอเมืองอุบล เป็น ภูติสายลม ก่อนที่จะมีฝน

    มีภาพถ่ายตามชายทะเล ในแฟ้มภาพ ก็จะปรากฏวิญญาณ เป็นจำนวนมากเช่นกัน

    [​IMG]
    ลูกศรสีฟ้าเส้นใหญ่ 3 เส้น แสดงทิศทางลม ที่พุ่งเข้าสู่ชายฝั่ง สังเกตจากคลื่น และ ใบสน ที่ลู่ไปกับสายลม
    ลูกศรสีขาวเส้นเล็ก แทนทิศทางการเคลื่อนที่ของวิญญาณ น่าแปลกที่ ทิศทางการเคลื่อนที่ของวิญญาณ กับทิศทางลม สวนทางกัน

    [​IMG]
    เส้นใหญ่สีฟ้า 3 เส้น ยังคงใช้แสดงทิศทางของลม และ เส้นเล็กสีขาว แสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของวิญญาณ ซึ่งในภาพ ทิศทางลม และการเคลื่อนที่ของวิญญาณ มีทิศเดียวกัน คือ พุ่งเข้าหาชายฝั่ง

    [​IMG]

    [​IMG]
    สองภาพนี้ เป็นภาพเดียวกัน ภาพด้านล่าง ลงเส้น ให้เห็นตำแหน่งดวงตา และ ปาก วิญญาณดวงล่างมีปากแหลม คล้ายปากนก หันหน้ามายิ้ม ในขณะเคลื่อนตัวไปที่อื่น อย่างรวดเร็ว เส้นสีเขียวแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ ของดวง
    วิญญาณ


    ข้อมูลจาก: วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com)
    เขียนโดย : ยรรยง สินธุ์งาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2011
  8. ampaporn

    ampaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ข้อมูลดีมากคะ บังเอิญไม่เคยไปดูบั้งไฟพญานาดจึงไม่สามารถบอกได้
    แต่จากภาพกลุ่มดวงไฟต่างๆที่มีหางคือเปตรเพาะเคยสัมผัสเมื่อไปปฏิบัติธรรมเพาะพวกเขามาขอส่วนบุญ

    ส่วนมากจะเห็นเป็นรูปร่างของวิญญานมากกว่า เช่นวิญญานของคนไข้ที่ออกมาจากร่างแล้วโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่าตายแล้วงี้... เห็นจนชินแล้วคะ เพราะคนกะผีต่างกันแค่ คนเรายังมีรูปขันณ็อยู่ วิญญาณไม่มี

    ส่วนพญานาคเคยเห็นแต่กายทิพย็ของท่าน



    www.siriwichajofunds.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2011
  9. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    นับถือในความพยายามหาข้อมูลครับ

    วิเคราะให้เส็ดเลย สุดยอดเลยครับ
     
  10. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    ขอบคุณกับข้อมูลเรื่องพลังงานหลากหลายที่คุณSiani_3D ไปเสาะแสวงหามาถือว่าเยี่ยมยอดค่ะ เรื่องพลังงานต่างมิติ เคยประสบกับตัวเองมาแล้วลักษณะ เรืองแสงเหมือนที่คุณถ่ายมา แต่ของเราเป็นรูปร่างของคนเลย เชื่อค่ะ!!! รออ่านรอบต่อไปค่ะ
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  11. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    ขอบคุณกับข้อมูลเรื่องพลังงานหลากหลายที่คุณSiani_3D ไปเสาะแสวงหามาถือว่าเยี่ยมยอดค่ะ:cool: เรื่องพลังงานต่างมิติ เคยประสบกับตัวเองมาแล้วลักษณะ เรืองแสงเหมือนที่คุณถ่ายมา แต่ของเราเป็นรูปร่างของคนเลย เชื่อค่ะ!!! รออ่านรอบต่อไปค่ะ
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  12. สามเณร เดช

    สามเณร เดช สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +9
    ยากรู้ว่าจะมาตอนที่มีลมพายุพัดแรงและต้องเป็นบริเวณแม่น้ำ หรือเปล่า แล้วถ้าเอามือถือถ่ายจะถ่ายติดหรือไม่:cool:
     
  13. Lastquarter

    Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    ผมว่ากล้องคุณฝุ่นเกาะเยอะไปนะ
     
  14. ending

    ending เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +114
    ที่จริงแ้ล้วมีภาพ เป็นหงอน เกล็ดสีเขียวเลยครับ เขาถ่ายรูปได้ เราก็ได้ดู ช่วงที่ว่าปลาแปลกๆขึ้นมาเยอะๆ่อ่ะ คงเป็นแค่บริวารมั้ง
     
  15. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    ยอดมากครับ เที่ยวหน้าจะไปดูบั้งไฟ pM มาผมจะไปเป็นคณะกับคณะลูกศิษนะครับ
     
  16. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    คือ ดวงแก้ว(ทิพย์) ที่พญานาค พ่นขึ้นไปถวายเป็นพุทธบูชา หลังจากที่ ถือศีลมาตลอดพรรษา(3เดือน)
     
  17. Film jaa

    Film jaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +236
    สวัสดีค่าพี่Siani ฟิมส่งให้แล้วนะคะ ส่งทางพีเอ็มไม่รู้โหลดตรงไหนงั้นมาโพสตามพี่ว่านะคะ พี่คิดว่าละอองหรือวิญญาณช่วยดูทีนะคะ ขอบคุณค่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00087.JPG
      DSC00087.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      211
  18. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    น่าจะเป็นละอองน้ำครับ....เพราะว่าภาพหลังจุดโฟกัสมันดูเลือนๆครับ
    เกิดจากการรีบร้อนถ่าย
    เหมือนกับรูปนี้ครับ...

    ...แล้วแต่วิจารณญาณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01853.JPG
      DSC01853.JPG
      ขนาดไฟล์:
      617.6 KB
      เปิดดู:
      161
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2011
  19. Film jaa

    Film jaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +236

    อ่อค่าก็ว่าอย่างนั้นเช่นกันนะคะ มันดูเหมือนละอองมากกว่า ขอบคุณนะคะที่ช่วยดู :D อนุโมทนาค่า :cool:
     
  20. เบสท์คับผม

    เบสท์คับผม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +4
    น่าฉงนครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...